00:00:00 → 00:00:03 ไหน มีใครเคยได้ยินการรักษาโรคต่าง ๆ
00:00:03 → 00:00:05 ที่เป็นความเชื่อแบบผิด ๆ น่าสยดสยอง
00:00:05 → 00:00:07 แล้วไม่น่ารักษาโรคอะไรต่าง ๆ ได้เลยไหมคะ
00:00:08 → 00:00:09 วันนี้วิวจะบอกว่า
00:00:09 → 00:00:12 วิวไปเจอการรักษาแบบนึงมาที่น่าสนใจมาก ๆ
00:00:12 → 00:00:14 แล้วก็จะเอามาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ
00:00:14 → 00:00:16 สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ
00:00:16 → 00:00:18 อย่างที่เกริ่นไปเมื่อกี้เลยนะคะ
00:00:18 → 00:00:20 ต้องบอกว่าในโลกเราเนี่ย
00:00:20 → 00:00:23 แน่นอนว่าเรื่องอาการเจ็บป่วยเป็นเรื่องปกติใช่ไหมคะ
00:00:23 → 00:00:27 และเราทุกคนก็ต้องเจ็บป่วย เช่นเดียวกับคนในสมัยโบราณค่ะ
00:00:27 → 00:00:29 และแน่นอนค่ะ เมื่อมีการเจ็บป่วย
00:00:29 → 00:00:31 ก็จะต้องมีการรักษา ถูกต้องไหม
00:00:31 → 00:00:33 แต่ในสมัยโบราณค่ะ
00:00:33 → 00:00:35 ด้วยความที่เทคโนโลยีทางการแพทย์อะไรต่าง ๆ เนี่ย
00:00:35 → 00:00:38 ยังไม่ได้พัฒนาแบบในปัจจุบันนะคะ
00:00:38 → 00:00:41 ดังนั้นในสมัยโบราณ เขาก็จะต้องมีการ
00:00:41 → 00:00:44 รักษาการเจ็บป่วยตามความเชื่อของเขาเนี่ย
00:00:44 → 00:00:46 มากมายหลากหลายวิธีเลยค่ะ
00:00:46 → 00:00:48 ซึ่งบางวิธีเนี่ยก็เป็นวิธีที่ดี
00:00:48 → 00:00:51 เป็นวิธีที่แบบโห นี่มันนวัตกรรมของคนโบราณ
00:00:51 → 00:00:52 ใช้ยาสมุนไพรอะไรต่าง ๆ
00:00:53 → 00:00:56 และบางวิธีเนี่ยนะคะ ก็เป็นวิธีที่เราในฐานะคนปัจจุบัน
00:00:57 → 00:01:00 ที่มีความรู้ด้านการแพทย์ค่อนข้างจะดีกว่าสมัยนู้นเนี่ยนะ
00:01:00 → 00:01:02 ฟังแล้วก็จะรู้สึกว่า
00:01:02 → 00:01:05 ฮะ เอาจริงเหรอ นี่เราจะรักษากันแบบนี้จริง ๆ เหรอนะคะ
00:01:05 → 00:01:08 ซึ่งต้องบอกว่าพวกวิธีการรักษาพวกนี้
00:01:08 → 00:01:10 มีหลายต่อหลายวิธีเลยทีเดียวค่ะ
00:01:10 → 00:01:13 ตอนแรกเนี่ยนะคะ หลังจากที่วิวไปเจอข้อมูลมา
00:01:13 → 00:01:15 วิวก็ตั้งใจจะทำคลิปวิดีโอนี้เป็นแบบ
00:01:15 → 00:01:18 10 วิธีการรักษาสุดสยองในสมัยโบราณค่ะ
00:01:18 → 00:01:20 แต่ว่าข้อมูลมันเยอะเกินไปทุกคน
00:01:20 → 00:01:23 แล้ววิวก็รู้สึกว่า เฮ้ย แต่ละวิธีมันพีกมากเลยอะ
00:01:23 → 00:01:24 จนฉันไม่อยากตัดอะไรทิ้งเลยนะคะ
00:01:24 → 00:01:27 ดังนั้นค่ะ วิวก็เลยขออนุญาตเปิดซีรีส์ใหม่
00:01:27 → 00:01:30 อีกแล้วจ้าทุกคน แล้วก็ดองแน่ ๆ นะคะ
00:01:30 → 00:01:33 เป็นวิธีการรักษาสุดสยองของคนสมัยโบราณค่ะ
00:01:33 → 00:01:36 ซึ่งวันนี้วิวมากับวิธีแรกเลยนะคะ และบอกเลยว่า
00:01:36 → 00:01:38 วิธีแรกวิธีนี้เป็นวิธีที่
00:01:38 → 00:01:40 โด่งดังไปทั่วโลกเลยทีเดียวค่ะ
00:01:41 → 00:01:42 และหลายคนยังไม่เชื่อเลยว่า
00:01:43 → 00:01:46 เฮ้ย มันมีวิธีการรักษาแบบนี้อยู่จริง ๆ ในสมัยโบราณนะคะ
00:01:46 → 00:01:49 เอาล่ะ ถ้าพร้อมจะฟังวิธีการรักษาสุดสยอง
00:01:49 → 00:01:52 ที่ทั้งสนุกแล้วก็ได้สาระกันแล้วก็
00:01:52 → 00:01:53 ไปฟังกันเลยค่ะ
00:01:57 → 00:02:01 วิธีการรักษาแบบแรกที่วิวจะนำมาฝากทุกคนในวันนี้นะคะ
00:02:01 → 00:02:02 บอกเลยค่ะว่า
00:02:02 → 00:02:05 เป็นวิธีการรักษาที่โด่งดังไปทั่วโลกนะคะ
00:02:05 → 00:02:08 เราส่วนมากในฐานะคนไทยที่น่าจะเคยเสพพวก
00:02:08 → 00:02:10 หนังจีนกำลังภายในมาบ้างเนี่ย
00:02:10 → 00:02:12 น่าจะคุ้นเคยกับวิธีการรักษาแบบนี้ค่ะ
00:02:12 → 00:02:15 เคยเห็นไหม เวลาที่ตัวเอกของเราเนี่ย
00:02:15 → 00:02:19 เจ็บป่วยอะไรต่าง ๆ หรือว่าไปกินยาพิษอะไรต่าง ๆ มา
00:02:19 → 00:02:23 แล้วมีคนเนี่ยจะต้องมาขับพิษให้หรือว่ามารักษาการเจ็บป่วยให้
00:02:23 → 00:02:26 เราจะเห็นในพวกหนังจีนกำลังภายในใช่ไหม
00:02:26 → 00:02:28 ที่เขาจะต้องมีการฝังเข็ม จึ๊ก ๆ ๆ ๆ ๆ
00:02:28 → 00:02:30 หรือว่าการขับกำลังภายใน
00:02:31 → 00:02:33 แล้วก็ตบไปที่หลังของตัวเอก
00:02:33 → 00:02:37 แล้วเราคุ้นกันไหมคะว่าเวลาที่พวกของเสียภายในร่างกายเนี่ย
00:02:37 → 00:02:40 จะออกมาจากตัวคนเนี่ย มันจะออกมาในรูปแบบไหน
00:02:40 → 00:02:42 สิ่งที่มันจะออกมานั่นก็คือ
00:02:42 → 00:02:43 ใช่เลยค่ะ เลือดค่ะ
00:02:43 → 00:02:46 คือถ้าเราคุ้นกับหนังจีนกำลังภายใน เราจะเห็นว่า
00:02:46 → 00:02:49 เขาจะกระอักเลือดออกมานะคะ แบบ เอื้อะ ออกมานะคะ
00:02:49 → 00:02:52 ซึ่งในหลายตัวละครเนี่ยก็จะมีการพูดว่า
00:02:52 → 00:02:55 อ่ะ เลือดเสียออกไปแล้ว นี่แหละเดี๋ยวแป๊บเดียวก็จะหายแล้ว
00:02:55 → 00:02:57 หลังจากที่กระอักเลือดนะคะ
00:02:57 → 00:02:58 ซึ่งหลายคนก็มองว่า
00:02:58 → 00:03:02 อ๋อ นี่มันจะต้องเป็นความเชื่อในหนังจีนกำลังภายในแน่ ๆ เลย
00:03:02 → 00:03:05 แต่จริง ๆ แล้วนะคะ ต้องบอกว่าการขับเลือดเสียออกเนี่ย
00:03:05 → 00:03:07 เป็นหนึ่งวิธีการรักษาที่เก่าแก่เกือบที่สุด
00:03:07 → 00:03:09 ของมนุษยชาติเลยทีเดียวนะคะ
00:03:09 → 00:03:12 เพราะว่าการขับเลือดเสียเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ
00:03:12 → 00:03:15 อาการป่วย หรือว่าอะไรต่าง ๆ เนี่ยนะคะ
00:03:15 → 00:03:18 เป็นการรักษาที่มีอายุยาวนานมามาก ๆ แล้วค่ะ
00:03:18 → 00:03:20 เขาว่ากันว่านะคะ วิธีการรักษานี้
00:03:20 → 00:03:24 น่าจะมีขึ้นมาตั้งแต่สมัยเมโสโปเตเมียค่ะ
00:03:24 → 00:03:26 จำได้ใช่ไหมคะ อารยธรรมเมโสโปเตเมีย
00:03:26 → 00:03:28 อารยธรรมแรกของมนุษย์
00:03:28 → 00:03:29 เขาบอกว่ามีมาตั้งแต่สมัยของ
00:03:30 → 00:03:31 ชาวสุเมเรียนค่ะ
00:03:31 → 00:03:34 ที่เป็นคนคิดค้นอักษรลิ่มคูนิฟอร์ม อักษรแรกของโลกอ่ะนะ
00:03:34 → 00:03:37 เขาบอกว่าการรักษาด้วยการขับเลือดเนี่ยนะคะ
00:03:37 → 00:03:39 น่าจะมีมาตั้งแต่สมัยสุเมเรียนค่ะ
00:03:39 → 00:03:43 แล้วก็สืบต่อมาจนกระทั่งถึงสมัยอียิปต์โบราณนะคะ
00:03:43 → 00:03:44 อย่างไรก็ตามค่ะ
00:03:44 → 00:03:48 การรักษาด้วยวิธีนี้มันมาเฟื่องฟูสุดขีดนะคะ
00:03:48 → 00:03:50 ในช่วงยุคสมัยของกรีกโบราณค่ะ
00:03:50 → 00:03:53 ซึ่งวิธีการขับเลือดเสียออกจากร่างเนี่ยนะคะ
00:03:53 → 00:03:57 มันก็มาโด่งดังเพราะทฤษฎีของหมอชาวกรีกโบราณคนนึงค่ะ
00:03:57 → 00:03:59 คนคนนี้นะคะชื่อว่า Hippocrates ค่ะ
00:03:59 → 00:04:01 ซึ่งคุณ Hippocrates คนนี้เนี่ยนะคะ
00:04:01 → 00:04:03 ต้องบอกว่าเป็นแพทย์ที่มีชื่อเสียงมาก ๆ เลยทีเดียวค่ะ
00:04:03 → 00:04:07 เพราะว่าเขาเนี่ยถือว่าเป็นบิดาแห่งการแพทย์ การรักษา
00:04:07 → 00:04:10 การยา อะไรอย่างนี้เลยทีเดียวนะคะ
00:04:10 → 00:04:12 แล้วถามว่าทฤษฎีของเขาพูดถึงอะไร
00:04:12 → 00:04:14 ทฤษฎีของเขาเนี่ยนะคะ พูดว่า
00:04:14 → 00:04:16 ร่างกายของมนุษย์เนี่ยประกอบไปด้วย
00:04:16 → 00:04:18 4 ธาตุด้วยกันค่ะ ได้แก่
00:04:18 → 00:04:20 ดิน น้ำ ลม ไฟ
00:04:21 → 00:04:23 โอ้โห ฟังดูแบบจีนมากเลยทุกคน
00:04:23 → 00:04:26 ฟังดูแบบ โอ้โห นี่คือ ทำไมมันหนังจีนขนาดนี้
00:04:26 → 00:04:28 แต่จริง ๆ นี่คือทฤษฎีของกรีกโบราณนะคะ
00:04:29 → 00:04:31 ซึ่งเขาบอกว่าดิน น้ำ ลม ไฟเนี่ย
00:04:31 → 00:04:33 มันถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของ
00:04:33 → 00:04:35 ของเหลวในร่างกายมนุษย์ค่ะ
00:04:35 → 00:04:38 โดยเขาบอกว่าร่างกายของมนุษย์เนี่ยนะ
00:04:38 → 00:04:40 แบ่งของเหลวออกเป็นทั้งหมด 4 ประเภทด้วยกันนะคะ
00:04:40 → 00:04:42 ตามดิน น้ำ ลม ไฟนี่เลย แต่ว่า
00:04:42 → 00:04:45 วิวขออนุญาตไม่เรียงนะ เพราะไม่แน่ใจว่าอะไรคืออะไรนะคะ
00:04:46 → 00:04:48 คือของเหลว 4 ชนิดที่อยู่ในร่างกายมนุษย์
00:04:48 → 00:04:50 ตามความเชื่อของกรีกโบราณเนี่ย ก็ได้แก่
00:04:51 → 00:04:53 หนึ่ง เลือดค่ะ แน่นอนอันนี้เราชัดเจน
00:04:53 → 00:04:54 เพราะเรารู้ว่ามันมีจริงใช่ไหม
00:04:55 → 00:04:57 สองนะคะ ก็คือเสมหะค่ะ ก็คนสมัยก่อนอ่ะนะ
00:04:57 → 00:04:59 เขาผ่าตัดอะไรไม่ได้
00:04:59 → 00:05:02 เขาก็คงดูจากอะไรที่เราคายออกมานี่แหละค่ะ
00:05:02 → 00:05:04 และอีก 2 อย่างที่เหลืออยู่นะคะก็คือ
00:05:04 → 00:05:07 น้ำเหลืองสีเหลือง แล้วก็น้ำเหลืองสีดำนั่นเองค่ะ
00:05:07 → 00:05:09 ซึ่งอันนี้สันนิษฐานเองส่วนตัวนะ
00:05:09 → 00:05:11 จากการที่อ่านทฤษฎีต่อไปเรื่อย ๆ และ
00:05:11 → 00:05:12 ดูวิธีการรักษา
00:05:12 → 00:05:15 เดาว่าน้ำเหลืองสีเหลืองก็คือ ปัสสาวะ
00:05:15 → 00:05:17 และน้ำเหลืองสีดำก็คือ อุจจาระ นั่นเองค่ะ
00:05:17 → 00:05:19 ดังนั้นนะคะ คุณ Hippocrates เนี่ย
00:05:19 → 00:05:22 เขาก็มีความเชื่อว่าของเหลวทั้งสี่ที่อยู่ในร่างกาย
00:05:22 → 00:05:24 ธาตุทั้งสี่ที่อยู่ในร่างกายเนี่ย
00:05:24 → 00:05:27 จะต้องรักษาให้มันสมดุลเพื่อสุขภาพที่ดี
00:05:27 → 00:05:30 ถ้าสมมติว่ามีอันไหนมากไป อันไหนน้อยไปเนี่ย
00:05:30 → 00:05:32 ก็จะทำให้สมดุลของร่างกายเนี่ย
00:05:32 → 00:05:36 พังนะคะ แล้วก็ทำให้สุขภาพไม่ดีเท่าที่ควรค่ะ
00:05:36 → 00:05:38 ดังนั้นวิธีการรักษาของร่างกายเนี่ย
00:05:38 → 00:05:42 ก็เลยต้องมีการปรับให้ของเหลวในร่างกายมันสมดุลกันนะคะ
00:05:42 → 00:05:44 ไม่ว่าจะเป็นการเจาะเลือดออก
00:05:44 → 00:05:47 เขาไม่ได้ใช้วิธีกระอักเลือดแบบหนังจีนโบราณนะ
00:05:47 → 00:05:49 เขาใช้วิธีการเจาะเลือดออก
00:05:49 → 00:05:51 ถ้าสมมติว่าเลือดมากไปก็ต้องเจาะเลือดออก
00:05:51 → 00:05:54 ถ้าสมมติว่าน้ำเหลืองสีเหลืองมากไปก็ต้องขับปัสสาวะ
00:05:54 → 00:05:57 ถ้าสมมติว่าน้ำเหลืองสีดำมากไปก็จะต้องกินยาถ่าย
00:05:57 → 00:06:01 หรือว่าถ้าเสมหะมากไปก็จะต้องขากออกมา อะไรแบบนี้นะคะ
00:06:01 → 00:06:04 ทีนี้ชาวกรีกโบราณก็ยึดทฤษฎีนี้มาเรื่อย ๆ ค่ะ
00:06:05 → 00:06:07 จนกระทั่งมาถึงยุคของแพทย์อีกคนนึงนะคะ
00:06:07 → 00:06:09 ชื่อว่าคุณ Galen of Pergamon ค่ะ
00:06:09 → 00:06:11 คนคนนี้เขาก็เป็นแพทย์ชาวกรีกเหมือนกันนะคะ
00:06:11 → 00:06:15 เขาก็มาตอกย้ำทฤษฎีของคุณ Hippocrates อีกรอบนึงนะคะ
00:06:15 → 00:06:19 โดยการบอกว่าเออใช่ การรักษาสมดุลเนี่ยมันสำคัญจริง ๆ นะ
00:06:19 → 00:06:23 แต่ในบรรดาของเหลวทั้งสี่ที่อยู่ในร่างกายของเราเนี่ย
00:06:23 → 00:06:24 ของเหลวที่สำคัญที่สุดก็คือ
00:06:25 → 00:06:26 เลือดนั่นเอง
00:06:26 → 00:06:29 ดังนั้นเนี่ยนะ เราปล่อยให้เรามีเลือดมากเกินไปไม่ได้
00:06:29 → 00:06:30 มันจะไม่สมดุล
00:06:30 → 00:06:32 ซึ่งจากทฤษฎีของคุณ Galen เนี่ยนะคะ
00:06:32 → 00:06:35 ก็เลยทำให้หมอสมัยกรีกโบราณ โรมันโบราณเนี่ย
00:06:35 → 00:06:38 เอะอะวินิจฉัยอะไรเนี่ยนะคะ ไม่ว่าจะป่วยเป็นอะไรก็ตาม
00:06:38 → 00:06:40 ก็จะวินิจฉัยว่า อ๋อ เนี่ย
00:06:40 → 00:06:44 คุณเนี่ยมีปัญหา คือคุณมีเลือดเสียอยู่ในร่างกายมากเกินไป
00:06:44 → 00:06:46 จะต้องเอาเลือดออกจากตัวนะ
00:06:46 → 00:06:47 ซึ่งวิธีเอาเลือดออกจากตัวนะคะ
00:06:47 → 00:06:50 ก็มีตั้งแต่วิธีการกรีดเลือดออกนะคะ
00:06:50 → 00:06:53 กรีดออกแล้วก็เอาถ้วยมารอง หรืออะไรต่าง ๆ มารอง
00:06:53 → 00:06:56 แล้วก็วัดว่า เออ ตอนนี้เอาเลือดออกไปกี่ถ้วยแล้ว
00:06:56 → 00:06:58 โอเค ร่างกายน่าจะได้สมดุลแล้ว
00:06:58 → 00:07:00 ไปจนถึงวิธีที่แบบ
00:07:00 → 00:07:04 อื้อหือ ดิบกว่านั้นอีก ก็คือการเอาปลิงเนี่ยนะคะ
00:07:04 → 00:07:06 ตัวปลิงหรือว่าตัวสัตว์ต่าง ๆ ที่มันดูดเลือดได้เนี่ย
00:07:07 → 00:07:09 มาดูดออกจากผิวหนังโดยตรงเลยค่ะ
00:07:09 → 00:07:12 ก็เรียกได้ว่าเป็นวิธีลัดละกันในสมัยที่มันยังไม่ได้มีเข็มฉีดยา
00:07:12 → 00:07:15 หรือว่าเข็มเก็บตัวอย่างเลือดอะไรต่าง ๆ นะคะ
00:07:15 → 00:07:18 ซึ่งโดยมากนะคะ วิธีการเอาเลือดเสียออกเนี่ย
00:07:18 → 00:07:19 เขาก็มักจะทำที่
00:07:19 → 00:07:21 เส้นเลือดดำที่อยู่บริเวณข้อศอกนั่นเองค่ะ
00:07:21 → 00:07:24 เพราะว่าถือว่าเป็นเส้นเลือดที่ค่อนข้างจะใหญ่นะคะ
00:07:24 → 00:07:26 และแน่นอนค่ะว่าวิธีการรักษาแบบนี้
00:07:26 → 00:07:29 ในปัจจุบัน เราน่าจะรู้กันแล้วแหละว่ามันไม่ได้ผลจริงนะคะ
00:07:30 → 00:07:32 ดังนั้นเนี่ย มันก็เลยมีคนที่เสียชีวิต
00:07:32 → 00:07:35 เพราะว่าเสียเลือดมากเนี่ย ค่อนข้างมากค่ะ
00:07:35 → 00:07:36 แต่อย่างไรก็ตามนะคะ
00:07:36 → 00:07:37 แม้ว่าจะมีคนเสียชีวิต
00:07:37 → 00:07:41 แต่ทฤษฎีนี้ก็ยังอยู่ในความเชื่อต่อไปเรื่อย ๆ
00:07:41 → 00:07:43 และมันก็แพร่กระจายไปทั่วเลยค่ะ
00:07:43 → 00:07:44 คือในช่วงนั้นเนี่ย
00:07:44 → 00:07:47 จำกันได้ใช่ไหมคะที่วิวเคยเล่าประวัติศาสตร์โลกกันไป
00:07:47 → 00:07:50 ช่วงนั้นกรีก-โรมันติดต่อกับชาตินึงค่ะ
00:07:50 → 00:07:51 นั่นก็คือ เปอร์เซีย นั่นเอง
00:07:52 → 00:07:53 ดังนั้นนะคะ ความเชื่อนี้
00:07:53 → 00:07:56 มันก็แพร่ไปทั่วดินแดนอาหรับค่ะ
00:07:56 → 00:07:58 แพร่จากอาหรับก็แพร่เข้าไปในเอเชียนะคะ
00:07:58 → 00:08:02 แล้วก็ไปทั่วเอเชียเลย จนไปถึงจีนไปถึงอะไร
00:08:02 → 00:08:03 ก็อย่างที่วิวเล่าไปนั่นแหละค่ะ
00:08:03 → 00:08:05 ว่าเห็นไหม หนังจีนก็ยังเชื่อกันอยู่เลยว่า
00:08:05 → 00:08:07 เราจะขับเลือดเสียออกจากร่างเจ้า
00:08:07 → 00:08:09 อะไรอย่างนี้ใช่ไหมคะ
00:08:09 → 00:08:11 ส่วนในยุโรปเองเนี่ยนะคะ
00:08:11 → 00:08:13 ความเชื่อนี้ก็แพร่เข้าไปในยุโรปค่ะ
00:08:13 → 00:08:16 แล้วก็แผ่กระจายไปทั่วยุโรปเลยทีเดียวนะคะ
00:08:16 → 00:08:18 เท่านั้นยังไม่พอค่ะ มันยังส่งต่อมา
00:08:18 → 00:08:21 รุ่นต่อรุ่นต่อรุ่นนะคะ จากสมัยกรีกโรมันโบราณเนี่ย
00:08:21 → 00:08:25 ก็ส่งต่อมาจนกระทั่งถึงยุคกลางของยุโรปเลยทีเดียวนะคะ
00:08:25 → 00:08:27 ต้องบอกว่าแพทย์สมัยยุคกลางของยุโรปเนี่ย
00:08:27 → 00:08:30 แทบจะวินิจฉัยโรคทุกโรคนะคะ บอกว่า
00:08:30 → 00:08:33 อ๋อ เกิดจากเลือดเสียหมดเลย ไม่ว่าจะแค่เจ็บคอ
00:08:33 → 00:08:36 อ่ะ เจ็บคอเหรอ ไปเจาะเลือด เอาเลือดเสียออกจากตัว
00:08:36 → 00:08:40 ไปจนถึงโรคยาก ๆ แบบกาฬโรค แบบ Black Death นะคะ
00:08:40 → 00:08:42 ก็แบบ อ๋อ ๆ เป็น Black Death เหรอ
00:08:42 → 00:08:44 ไป ๆ ๆ เจาะเลือด เอาเลือดออกจากตัว
00:08:44 → 00:08:47 เรียกได้ว่ารักษาครอบจักรวาลอ่ะค่ะ
00:08:47 → 00:08:50 แล้วถามว่าวิธีการรักษาแบบนี้มันฮิตขนาดไหน
00:08:50 → 00:08:52 เขาบอกว่ามันฮิตถึงขนาดที่
00:08:52 → 00:08:54 ในสมัยยุคกลางของยุโรปเนี่ยนะคะ
00:08:54 → 00:08:56 มันมีช่างตัดผมใช่ไหมคะ
00:08:56 → 00:08:59 ที่เขาจะบริการตัดผมผู้ชาย โกนหนวดผู้ชายอะไรต่าง ๆ
00:09:00 → 00:09:02 เขาเนี่ยถึงขั้นมีแพ็กเกจเลยนะคะว่า
00:09:02 → 00:09:05 โอเค ตัดผม โกนหนวด แล้วก็แถมบริการเจาะเลือดด้วย
00:09:05 → 00:09:07 ประมาณว่าสวยหล่อแล้วก็
00:09:07 → 00:09:09 สุขภาพดีไปด้วยกันเลยด้วยการเจาะเลือดนะคะ
00:09:09 → 00:09:11 ก็ไม่รู้ว่ามีใครที่เสียชีวิตจากการ
00:09:12 → 00:09:14 ไปเจอช่างตัดผมกี่คนน่ะนะ ในสมัยยุคกลาง
00:09:14 → 00:09:17 เพราะว่าเสียเลือดจากการเจาะเลือดนั่นเองนะคะ
00:09:17 → 00:09:19 และนี่นะคะก็คือที่มาของ
00:09:19 → 00:09:23 ไฟหมุน ๆ หน้าร้านตัดผมที่มีสีแดงกับสีขาวนั่นเองค่ะ
00:09:23 → 00:09:24 ก็เนื่องจากว่ายุคกลางเนี่ย
00:09:24 → 00:09:28 ช่างตัดผมแล้วก็คลินิกศัลยกรรมนะคะ ถือเป็นที่เดียวกันค่ะ
00:09:28 → 00:09:30 เรียกว่า Barber & Surgeons นะคะ
00:09:31 → 00:09:33 นอกจากตัดผมแล้ว ช่างตัดผมก็จะมีหน้าที่
00:09:33 → 00:09:37 เช่น ดึงฟันออกจากปาก จัดกระดูกให้เข้าที่เข้าทาง
00:09:37 → 00:09:39 หรือว่ารักษาบาดแผลต่าง ๆ
00:09:39 → 00:09:42 รวมทั้งกรีดเลือดรักษานี่ด้วยล่ะค่ะ
00:09:42 → 00:09:44 ส่วนไฟหมุน ๆ หน้าร้านเนี่ยก็
00:09:44 → 00:09:46 มีสีขาวนะคะ หมายถึงผ้าพันแผล
00:09:46 → 00:09:50 แล้วก็สีแดงหมายถึงเลือดค่ะ ไว้เป็นสัญลักษณ์ว่า
00:09:50 → 00:09:52 อ้ะ ร้านทำผมอยู่ตรงนี้นะจ๊ะ
00:09:52 → 00:09:54 และถึงแม้ช่างตัดผมในอังกฤษนะคะ
00:09:54 → 00:09:56 จะโดนห้ามไม่ให้แย่งงานหมอเนี่ย
00:09:56 → 00:09:59 มาตั้งแต่ช่วงคริสต์ศักราชที่ 1500
00:09:59 → 00:10:03 แต่สัญลักษณ์ร้านทำผมก็ยังใช้แบบนั้นกันมาเรื่อย ๆ
00:10:03 → 00:10:05 จนถึงปัจจุบันนี่เองค่ะ
00:10:05 → 00:10:07 และทั้งหมดนี้ก็คือ
00:10:07 → 00:10:08 การนอกเรื่องอีกแล้วค่ะทุกคน
00:10:08 → 00:10:11 ดังนั้นกลับเข้าเรื่องของเรากันต่อดีกว่าค่ะ
00:10:11 → 00:10:13 ฟังดูแบบนี้หลายคนก็เข้าใจว่า
00:10:13 → 00:10:16 โอ้โห นี่มันช่างเป็นวิธีการรักษาที่แบบโบราณจริง ๆ เลย
00:10:16 → 00:10:19 พ้นจากสมัยยุคกลางแล้ว คนน่าจะเลิกรักษากันแบบนี้แล้วแหละ
00:10:19 → 00:10:20 ใช่ไหม
00:10:20 → 00:10:21 จริง ๆ แล้วไม่ใช่นะคะ
00:10:21 → 00:10:23 เพราะว่าการรักษาแบบนี้เนี่ยนะคะ
00:10:23 → 00:10:25 มันก็ส่งต่อจากยุคกลางของยุโรปค่ะ
00:10:26 → 00:10:27 ต่อมาในยุคเรเนซองส์
00:10:27 → 00:10:30 จนกระทั่งส่งต่อกันมาเรื่อย ๆ
00:10:30 → 00:10:33 จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 เลยทีเดียวนะคะ
00:10:33 → 00:10:35 ก็เรียกได้ว่านี่ศตวรรษที่ 21 ใช่ไหม
00:10:35 → 00:10:36 19 20 21
00:10:36 → 00:10:39 ก็เพิ่งจะไม่เกิน 300 ปีนี้เองนะคะ
00:10:39 → 00:10:43 อย่างคนนึงค่ะที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ว่าโดนรักษาด้วยวิธีนี้นะคะ
00:10:43 → 00:10:45 ก็คือ George Washington นั่นเอง
00:10:45 → 00:10:48 ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกานะคะ
00:10:48 → 00:10:50 ก็ต้องบอกว่าในช่วงท้ายของชีวิตเขาเนี่ยนะคะ
00:10:50 → 00:10:51 เขาป่วยค่ะ
00:10:52 → 00:10:54 ถามว่าป่วยเป็นอะไร ร้ายแรงขนาดไหน
00:10:54 → 00:10:55 ก็ไม่ได้ร้ายแรงเลยค่ะ
00:10:55 → 00:10:57 เพราะว่าเขาเป็นแค่ไข้เท่านั้นเองค่ะ
00:10:57 → 00:10:59 แล้วก็มีปัญหาด้านทางเดินหายใจเล็กน้อยนะคะ
00:11:00 → 00:11:02 ซึ่งปรากฏว่าเขาป่วยเป็นแบบนี้ปุ๊บ
00:11:02 → 00:11:05 โอโห คนสำคัญของอเมริกาป่วยขนาดนี้นะคะ
00:11:05 → 00:11:07 แพทย์ก็ต้องรุมกันเข้าไปรักษาค่ะ
00:11:07 → 00:11:10 แพทย์ที่ทำหน้าที่รักษา George Washington เนี่ยนะคะ
00:11:10 → 00:11:12 ก็มีถึง 3 คนด้วยกันค่ะ
00:11:12 → 00:11:14 และแพทย์ทั้ง 3 คนก็ตกลงร่วมกันว่า
00:11:14 → 00:11:17 เอาล่ะ เราจะปล่อยให้ George Washington ป่วยไม่ได้
00:11:17 → 00:11:18 เราจะต้องรีบรักษาโดยด่วน
00:11:19 → 00:11:23 ซึ่งวิธีรักษาที่ดีที่สุดที่เราค้นพบกันมาแล้วนับพันปีก็คือ
00:11:23 → 00:11:25 การเจาะเลือดรักษานั่นเองนะคะ
00:11:25 → 00:11:26 ดังนั้นค่ะ
00:11:26 → 00:11:29 แพทย์ทั้ง 3 คนก็รุมกันเจาะเลือด George Washington เลยค่ะ
00:11:29 → 00:11:33 ประมาณว่า กรีดเลย กรีดเลย เอาถ้วยมารองอะไรต่าง ๆ
00:11:33 → 00:11:35 ประมาณว่ารีบเอาเลือดเสียออกจากตัว
00:11:35 → 00:11:38 George Washington จะได้เลิกเป็นไข้ซะทีนะคะ
00:11:38 → 00:11:40 ซึ่งการรักษานี้ได้ผลไหมคะ
00:11:40 → 00:11:42 ก็บอกเลยว่าได้ผลมาก ๆ ค่ะ
00:11:42 → 00:11:44 เพราะว่าภายใน 1 คืนเนี่ยนะคะ
00:11:44 → 00:11:45 George Washington ก็หายเลยค่ะ
00:11:45 → 00:11:47 ถามว่าหายจากการเป็นไข้หรือว่า
00:11:47 → 00:11:49 หายจากการเป็นโรคทางเดินหายใจรึเปล่า
00:11:49 → 00:11:51 ก็ต้องบอกว่า ไม่ใช่ค่ะ
00:11:51 → 00:11:53 คือหายจากโลกนี้ไปเลยค่ะ คือตายนะคะ
00:11:54 → 00:11:56 เขาสันนิษฐานกันในสมัยปัจจุบันว่า
00:11:56 → 00:11:58 George Washington น่าจะเสียชีวิตจาก
00:11:58 → 00:12:01 การเสียเลือดมากเกินไป แล้วก็เกิดการอักเสบของแผลที่
00:12:01 → 00:12:03 ทำการเจาะเลือดนี่ล่ะค่ะ
00:12:03 → 00:12:05 และจากการเสียชีวิตของ George Washington
00:12:05 → 00:12:07 เพราะการรักษารูปแบบนี้นะคะ
00:12:07 → 00:12:09 ก็เล่นเอาคนในวงการแพทย์สมัยนั้นเนี่ย
00:12:09 → 00:12:11 ถกเถียงกันใหญ่โตเลยค่ะประมาณว่า
00:12:12 → 00:12:15 เอ๊ะแก วิธีการรักษาแบบนี้มันได้ผลจริง ๆ รึเปล่าอ่ะ
00:12:15 → 00:12:17 คือแบบ George Washington ตายไปแล้วจ้า
00:12:17 → 00:12:19 แล้วมันก็ไม่ได้ป่วยอะไรหนักขนาดนั้นเลยนะ
00:12:19 → 00:12:21 ยังไม่รอดเลย
00:12:21 → 00:12:22 มันได้ผลจริง ๆ รึเปล่านะคะ
00:12:22 → 00:12:24 ก็มีการถกเถียงกันเป็นวงกว้างค่ะ
00:12:24 → 00:12:25 แต่อย่างไรก็ตามนะคะ
00:12:25 → 00:12:28 ในที่สุด โชคดีจริง ๆ เลยในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 เนี่ย
00:12:28 → 00:12:30 แพทย์ก็สามารถตกลงกันได้ว่า
00:12:30 → 00:12:34 เอ้อ แก มันไม่ได้มีประโยชน์ขนาดนั้นนะ การเจาะเลือดอ่ะ
00:12:34 → 00:12:36 คือมันเป็นผลร้ายมากกว่าผลดี
00:12:36 → 00:12:38 คือเจาะไปก็เสียเลือดตายกันไปเท่าไหร่แล้ว
00:12:39 → 00:12:41 ดังนั้นเราเลิกเจาะเลือดเพื่อรักษากันเถอะ
00:12:42 → 00:12:45 คือการเจาะเลือดเสียออกไม่น่าจะมีประโยชน์ขนาดนั้นนะคะ
00:12:45 → 00:12:47 ก็ถือว่าเป็นความโชคดีของเราในปัจจุบันนะคะ
00:12:47 → 00:12:49 ที่การแพทย์ก้าวหน้าพัฒนาแล้ว
00:12:49 → 00:12:52 แล้วก็สามารถเรียนรู้กันได้แล้วว่า
00:12:52 → 00:12:54 การเจาะเลือดที่เสียในร่างกายออกเนี่ย
00:12:54 → 00:12:56 ไม่ได้เป็นประโยชน์แต่อย่างใดค่ะ
00:12:56 → 00:12:58 อย่างไรก็ตามนะคะ
00:12:58 → 00:12:59 ถ้าสมมติว่าใครที่เล่นไลน์
00:12:59 → 00:13:01 แล้วมีกรุ๊ปไลน์ที่ชอบแชร์ข่าวลือกันต่าง ๆ
00:13:01 → 00:13:04 ก็จะเห็นว่าในไลน์ก็ยังมีการแชร์ความเชื่อผิด ๆ
00:13:04 → 00:13:07 เกี่ยวกับเรื่องการเอาเลือดเสียออกจากตัวนี้อยู่นะคะ
00:13:07 → 00:13:09 อย่างเช่นที่แชร์กันบ่อย ๆ อ่ะ ที่บอกว่า
00:13:09 → 00:13:11 มีใครเป็นเส้นเลือดในสมองแตกไหม
00:13:11 → 00:13:13 ถ้าเส้นเลือดสมองแตกนะ ไม่ต้องไปหาหมอ
00:13:13 → 00:13:15 แค่เอาเข็มเนี่ยเจาะปลายนิ้วนะ
00:13:15 → 00:13:17 แล้วเลือดมันก็จะไหลออกมา
00:13:17 → 00:13:18 เลือดที่ไหลออกมาเนี่ย
00:13:18 → 00:13:20 มันก็จะเป็นเลือดที่แตกมาจากเส้นเลือดในสมองแหละ
00:13:20 → 00:13:22 มันก็จะไหลจากหัวนะ
00:13:22 → 00:13:24 ลงมาที่ตัว แล้วก็ออกไปที่แขน แล้วก็ออกไปที่ปลายนิ้ว
00:13:25 → 00:13:28 แล้วก็จะหายจากการเส้นเลือดสมองแตกซะอย่างนั้นเลยนะคะ
00:13:28 → 00:13:30 ขอบอกว่านี่เป็นความเชื่อที่ผิดนะคะทุกคน
00:13:30 → 00:13:31 อย่าแชร์นะคะ
00:13:31 → 00:13:34 และอย่าทำตามนะคะ ถ้าเส้นเลือดสมองแตก ไปหาหมอค่ะ
00:13:34 → 00:13:35 ผ่าตัดนะคะ
00:13:35 → 00:13:38 อย่างไรก็ตามค่ะ นี่คือเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับ
00:13:38 → 00:13:41 การรักษาด้วยวิธีการเอาเลือดเสียออกจากตัวนะคะ
00:13:41 → 00:13:43 ที่วิวหามาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ
00:13:43 → 00:13:46 วันนี้ก็ ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้นะคะอย่าลืม
00:13:46 → 00:13:47 กดไลก์เป็นกำลังใจให้วิว
00:13:47 → 00:13:49 แล้วก็กดแชร์เพื่อชวนเพื่อน ๆ มาดูด้วยกันค่ะ
00:13:49 → 00:13:52 ถ้าใครชอบซีรีส์นี้ อยากฟังเรื่องราวการรักษาอื่น ๆ
00:13:52 → 00:13:54 ที่แปลก ๆ แบบนี้อีกนะคะ
00:13:54 → 00:13:56 ก็คอมเมนต์มาด้านล่างได้ค่ะ
00:13:56 → 00:13:58 สำหรับวันนี้ลาไปก่อนแล้วกันนะคะทุกคน
00:13:58 → 00:13:59 บ๊ายบาย
00:13:59 → 00:14:00 สวัสดีค่ะ
00:14:00 → 00:14:02 บอกเลยนะคะว่าที่วิวไปอ่านมาเนี่ย
00:14:02 → 00:14:05 ยังมีวิธีการรักษาอะไรแปลก ๆ อีกมากมายนะคะ
00:14:05 → 00:14:07 เอาเป็นว่าน่าตกใจกว่าการเจาะเลือดอีกอ่ะทุกคน
00:14:07 → 00:14:09 มันจะมีแบบการผ่าตัด
00:14:09 → 00:14:12 การเอาตัวนั้นมาให้เลีย เอาตัวนี้มาดูดร่าง
00:14:12 → 00:14:15 อะไรแบบ เรียกได้ว่าสยองมาก ๆ ค่ะ
00:14:15 → 00:14:17 แต่ว่าถ้าใครชอบแบบนี้ก็คอมเมนต์มานะคะ
00:14:17 → 00:14:20 รับรองว่าเดี๋ยวมาต่อแน่นอนค่ะ
00:14:20 → 00:14:22 แต่ว่าถ้ารู้สึกว่าอันไหนมีคนสนใจมาก
00:14:22 → 00:14:24 ก็อาจจะเป็นกำลังใจที่ดีที่จะทำให้
00:14:24 → 00:14:26 ออกตอนใหม่ได้เร็วขึ้นค่ะ
00:14:26 → 00:14:27 วันนี้ลาไปก่อนละกันนะคะทุกคน
00:14:27 → 00:14:28 บ๊ายบาย
00:14:28 → 00:14:29 สวัสดีค่ะ