00:00:00 → 00:00:02 [เพลง]
00:00:02 → 00:00:06 หมอคุยข่าวสนับสนุนโดยออเต้นวัตกรรมเพื่อ
00:00:06 → 00:00:09 ความกระจ่างใสที่ได้รับการวิจัยและพัฒนา
00:00:09 → 00:00:11 ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะจาก
00:00:11 → 00:00:13 ประเทศ
00:00:13 → 00:00:27 [เพลง]
00:00:27 → 00:00:31 เกาหลีข่าวร้อนๆมาค่ะกับช่วงหมอคุยข่าว
00:00:31 → 00:00:34 ของเรานะคะและช่วงนี้สนับสนุนโดยอีเต้
00:00:34 → 00:00:37 นวัตกรรมเพื่อความกระจ่างใสจากประเทศ
00:00:37 → 00:00:39 เกาหลีตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติแล้วก็
00:00:39 → 00:00:43 ออมาจากเก้าหด้วยนะคะมาค่ะที่ว่าวันนี้มี
00:00:43 → 00:00:45 ข่าวร้อนๆคุยกับคุณหมอเพราะว่ามันเป็น
00:00:45 → 00:00:49 กระแสไวรอลในโซเชียลที่มีข่าวว่าถ้าเรา
00:00:49 → 00:00:52 สัมผัสโดนสารกันบูดที่มันเคลื่อบมาบนปลา
00:00:52 → 00:00:56 ทูนึ่งอืจะทำให้เราเป็นมะเร็งผิวหนังอู้
00:00:56 → 00:00:58 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมก็ออกมาบอกเลยว่าอัน
00:00:58 → 00:01:02 นี้เป็นข่าวเท็จข้อมูลเท็จนะจ๊ะอย่าไปหลง
00:01:02 → 00:01:04 เชื่อนะคะก็คือปลาทูนึ่งส่วนใหญ่เก็ใส่
00:01:04 → 00:01:07 สารกันบูดนะคะคุณหมอเพื่อสนอมอาหารงั้น
00:01:07 → 00:01:09 วันนี้เรามาคุยเรื่องสารกันบูดกันดีกว่า
00:01:09 → 00:01:13 ค่ะว่าสารกันบูดมันคืออะไรคคุณหมอคะก็สาร
00:01:13 → 00:01:16 กันบูดก็เป็นสารเคมีที่เราใส่เข้าไปใน
00:01:16 → 00:01:19 อาหารค่ะเพื่อที่จะคงคุณภาพของอาหารเอา
00:01:19 → 00:01:21 ไว้ไม่ให้มันเน่าเสียหรือว่าเกิดการ
00:01:21 → 00:01:25 เปลี่ยนแปลงของกลิ่นของสีของรถก็ยืดอายุ
00:01:25 → 00:01:28 ยืดอายุของอาหารโดยการออกฤทธิ์ไปทำลายพวก
00:01:28 → 00:01:31 การเจริญเติบโตของพวกเชืจุลินทรีย์ต่างๆ
00:01:31 → 00:01:33 ที่อาจจะส่งผลทำให้เกิดอาหารมันเสียมัน
00:01:33 → 00:01:37 เน่าอ่ะแล้วมันมีโทษยังไงนั่นสิค่ะสารการ
00:01:37 → 00:01:39 บูดที่นิยมใช้มันมีหลายชนิดมากเลยคุณแงน
00:01:39 → 00:01:41 จะมีตั้งแต่เกลือของกรดอ่อนซึ่งจริงๆแล้ว
00:01:41 → 00:01:44 ตัวนี้ต้องถือว่าเป็นตัวที่มีความนิยมใช้
00:01:44 → 00:01:47 มากเพราะว่ามันพิน้อยประสิทธิภาพเยอะแล้ว
00:01:47 → 00:01:49 ก็ละลายในน้ำได้เพราะฉะนั้นเนี่ยกลุ่มเ
00:01:49 → 00:01:52 เขาก็จะใส่อยู่ในอาหารพวกเบเกอรี่ทั้ง
00:01:52 → 00:01:56 หลายนะคะหรือว่าอยู่ในพวกอ่าน้ำอัดลมน้ำ
00:01:56 → 00:01:59 หวานอย่างเงี้ยเป็นต้นอีกกลุ่มนึงก็คือ
00:01:59 → 00:02:02 กลุ่มซัฟหรือว่าซัลเฟอร์ไดออกไซด์ซึ่ง
00:02:02 → 00:02:05 กลุ่มเนี้ยมันใส่อยู่ในพวกน้ำตาลทรายพวก
00:02:05 → 00:02:09 วุ้นเส้นพวกเส้นหมี่เส้นก๋วยเตี๋ยวพวก
00:02:09 → 00:02:12 ผลไม้แช่อิ่มอะไรประมาณเคะต้องบอกว่าตัว
00:02:12 → 00:02:16 นี้เนี่ยจริงๆถ้าเราได้รับเข้าไปในปริมาณ
00:02:17 → 00:02:20 ที่ไม่สูงมากร่างกายขจัดออกได้ไม่เป็นไร
00:02:20 → 00:02:22 ไม่อันตรายอ่าใช่แต่ถ้าสมมุติเรารับเข้า
00:02:22 → 00:02:26 ไปในปริมาณที่สูงมากๆก็อาจจะทำให้เกิดมี
00:02:26 → 00:02:28 ปัญหาเรื่องของการลดการใช้โปรตีนหรือว่า
00:02:28 → 00:02:32 ไขมันในร่างกายแล้วก็ที่สำคัญไปทำลายสาร
00:02:32 → 00:02:34 อาหารที่มีประโยชน์อย่างเช่นกลุ่มวิตามิน
00:02:34 → 00:02:38 บอืเนี่ยนะคะอีกกลุ่มหนึที่พูดถึงบ่อยใน
00:02:38 → 00:02:41 รายการเราก็คือกลุ่มพวกสารไนเตรตไนไตรต์
00:02:41 → 00:02:45 อ่าก็คือใช่ที่เรารู้จักกันในชื่อของดิน
00:02:45 → 00:02:47 ประสิวซึ่งอันนี้เนี่ยก็จะอยู่ในพวก
00:02:47 → 00:02:49 ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อสัตว์แปรรูปทั้ง
00:02:49 → 00:02:54 หลายอย่างเช่นพวกไส้กรอกอ่าแฮมหมูยอหมูยอ
00:02:54 → 00:02:58 อ่ากุนเชียงเบคอนอ่าซึ่งถ้าสมมุติเราได้
00:02:58 → 00:03:01 รับสารในกลุ่มพวกในเตเข้าไปในจำนวนที่มาก
00:03:01 → 00:03:04 เกินกว่าปกติโดยเฉพาะยิ่งในเด็กๆเนี่ยอาจ
00:03:04 → 00:03:07 จะเกิดปัญหาจากสารการบู่ที่เข้าไปในร่าง
00:03:07 → 00:03:10 กายมากเกินไปได้อีกกลุ่มนึงคือกลุ่มพวก
00:03:10 → 00:03:13 พาราเบนอือ่าพาราเบนที่เราเห็นว่ามันอยู่
00:03:13 → 00:03:16 ในกลุ่มพวกเครื่องสำอางอ่าใช่แต่ว่าจริงๆ
00:03:16 → 00:03:19 แล้วเนี่ยเขาใช้พาเบนในการถนอมอาหารด้วย
00:03:19 → 00:03:21 ก็คือประสิทธิภาพมันเมันยับยั้งพวกเชื้อ
00:03:21 → 00:03:26 รายีสหรือว่ากลุ่มพวกแบคทีเรียพาเบนเอง
00:03:26 → 00:03:27 เนี่ยนิยมใช้กับกลุ่มของอาหารที่เป็น
00:03:28 → 00:03:31 อาหารพวกเครื่องดื่มเช่นน้ำละไม้ขนมหวาน
00:03:31 → 00:03:35 พวกสารปรุงแต่งนะกลิ่นรสทั้งหลายแหล่งั้น
00:03:35 → 00:03:38 จะเห็นว่าตัวสารกันบุดเองเนี่ยมันค่อน
00:03:38 → 00:03:42 ข้างหลากหลายมากๆถ้าอ่าสารตัวไหนนะที่ได้
00:03:42 → 00:03:47 รับอนุญาตให้ใส่ในอาหารใช้ในปริมาณที่
00:03:47 → 00:03:52 กำหนดเหมาะสมอือมันโอเคอือแต่ถ้าสมมุติ
00:03:52 → 00:03:56 ว่ามันใส่มากเกินไปเนี่ยนะคะผู้บริโภคได้
00:03:56 → 00:03:59 รับอันตราจากสารกันบูดได้ค่ะก็จะส่งผลทำ
00:03:59 → 00:04:02 ให้เกิดอาการผิดปกติของร่างกายต่างๆได้
00:04:02 → 00:04:04 ซึ่งถ้าเราทานหรือบริโภคอาหารที่มีสารการ
00:04:04 → 00:04:07 บูดมากเกินไปหรือยาวนานเกินไปเนี่ยมัน
00:04:07 → 00:04:10 เกิดอาการอะไรบ้างคะคือต้องบอกว่าคนไข้
00:04:10 → 00:04:13 อาจจะมาด้วยขึ้นไส้อาเจียนหรือมีอาการ
00:04:13 → 00:04:16 ราคายเคืองในระบบทางเดือนอาหารนะอาจะมี
00:04:16 → 00:04:19 คล้ายๆกับอาการอาหารเป็นพิษนะคะอย่างเช่น
00:04:19 → 00:04:21 อาจจะมีท้องเสียหรือบางทีเนี่ยเป็นมากๆก็
00:04:21 → 00:04:24 อาจจะทำให้เกิดปัญหาเรื่องของตับของไตได้
00:04:24 → 00:04:26 พวกนี้บางทีมันเป็นอาการเรื้อรังเก็อาจจะ
00:04:26 → 00:04:29 ส่งผลทำให้เป็นสาเหตุของการเกิดพวกกลุ่ม
00:04:29 → 00:04:32 ของเนื้องอกหรือมะเร็งได้งั้นเถึงบอกว่า
00:04:32 → 00:04:36 เราควรที่จะหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่
00:04:36 → 00:04:40 เป็นอาหารปปลรูปค่ะก็คือเต้องใส่สารกัน
00:04:40 → 00:04:43 บูดนะคะควรจะรับประทานอาหารที่เป็นอาหาร
00:04:43 → 00:04:46 สดๆใหม่ๆนะที่เราคุยตลอดว่าควรจะเป็นเร
00:04:46 → 00:04:49 Food อหรือสมมุติว่าโอเคเราจำเป็นจะต้อง
00:04:49 → 00:04:51 กินสารอาหารการบูด 1 แล้วอย่ากินบ่อยค่ะ
00:04:51 → 00:04:54 อันที่ 2 ถ้าเราจะกินเนี่ยเราก็จะต้องดู
00:04:54 → 00:04:57 ที่รายละเอียดต่างๆของมันอย่างเช่นประเภท
00:04:57 → 00:05:00 ไหนสถานที่ผลิตวันผลิตวันันหมดอายุอ่าเลข
00:05:00 → 00:05:04 อยบนบนผลิตภัณฑ์อาหารนั้นๆหรืออาจจะไป
00:05:04 → 00:05:06 เลือกสารอาหารที่เป็นกลุ่มที่มีออร์แกนิค
00:05:06 → 00:05:09 ปอดสารกันบูดค่ะนะนอกจากนี้แล้วเนี่ยการ
00:05:09 → 00:05:13 ที่เราบริโภคอาหารเดิมซ้ำๆบางทีกินซ้ำๆก
00:05:13 → 00:05:16 รักสาคิตัวเดิมเข้าไปในปริมาณมามๆใช่ก็จะ
00:05:17 → 00:05:20 กลายเป็นว่าเรารับสารพิษเข้าไปนะร่างกาย
00:05:20 → 00:05:22 ไม่ขับออกค่ะอีกวิธีนึงที่อาจจะช่วยได้
00:05:22 → 00:05:24 บ้างก็คือเวลาสมมุติเราจะต้องรับประทาน
00:05:24 → 00:05:28 อาหารแปรรูกอาจจะเอาไปต้มผ่านน้ำเดือดมัน
00:05:28 → 00:05:31 ก็จะช่วยในการลดปริมาณสารการบูแต่ว่า
00:05:31 → 00:05:34 อย่างที่หมอบอกว่าทางที่ดีที่สุดก็คือรับ
00:05:34 → 00:05:37 ประทานอาหารปลายรูปให้น้อยที่สุดอ่ะขอให้
00:05:37 → 00:05:39 แข็งแรงแข็งแรงนะ
00:05:40 → 00:05:44 [เพลง]
00:05:44 → 00:05:47 คะ