00:00:00 → 00:00:02 เอาล่ะค่ะกลับเข้าสู่รายการของเราวันนี้
00:00:02 → 00:00:04 อย่างที่บอกว่าเราจะพูดคุยกันเรื่องของ
00:00:04 → 00:00:08 กระเพาะอาหารวันนี้มาในประเด็นมะเร็ง
00:00:08 → 00:00:11 กระเพาะอาหารเดี๋วันนี้จะชวนคุณผู้ชมทุก
00:00:11 → 00:00:13 ท่านมาเช็คสัญญาณเตือนกันหน่อยนะคะว่า
00:00:13 → 00:00:17 สัญญาณเตือนของโรคนี้มีอะไรบ้างนะคะแล้ว
00:00:17 → 00:00:21 ก็ที่สำคัญเป็นแล้วรักษาหายมยมีแนวทางใน
00:00:21 → 00:00:24 การรักษามีแนวทางในการดูแลอย่างไรบ้างวัน
00:00:24 → 00:00:26 นี้เราได้เรียนเชิญอาจารย์หมอ 1 ท่านนะคะ
00:00:26 → 00:00:28 ที่จะมาพูดคุยในรายการแล้วก็มาให้ความรู้
00:00:28 → 00:00:31 กับเราค่ะต้อนรับท่านผู้ช่วยศาสตราจารย์
00:00:31 → 00:00:33 นายแพทย์ม่อมหลวงพันพัฒ์จักรพันธ์ท่าน
00:00:33 → 00:00:36 เป็นอาจารย์หน่วยศาลยศาสตร์ทางเดินอาหาร
00:00:36 → 00:00:39 ส่วนต้นภาควิชาศารยศาสตร์คณะแพทยศาสตร์
00:00:39 → 00:00:41 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จะได้ให้เกียรติพูด
00:00:41 → 00:00:43 คุยกับเราในวันนี้สวัสดีค่ะอาจารย์หมอคะ
00:00:43 → 00:00:44 >> สวัสดีครับ
00:00:45 → 00:00:47 >> ต้อนรับอาจารย์เข้าสู่รายการด้วยนะคะ
00:00:47 → 00:00:50 เมื่อสักครู่มีโอกาสได้พูดคุยกับอาจารย์
00:00:50 → 00:00:52 หลายปีแล้วนะคะอาจารย์ที่เราไม่ได้เจอกัน
00:00:52 → 00:00:52 นะ
00:00:52 → 00:00:54 >> ใช่คราวที่แล้วผมมาคุยให้ฟังเรื่องไส้
00:00:54 → 00:00:56 เลื่อนครับไส้เลื่อนก็ก็น่าจะหลายปี
00:00:56 → 00:00:57 เหมือนกัน
00:00:57 → 00:00:59 >> อค่ะอาจารย์ไม่ได้เจอกับคุณผู้ชมหลายปี
00:00:59 → 00:01:01 แล้วนะคะวันนี้กลับมาพร้อมกับประเด็นรู้
00:01:01 → 00:01:05 ทันพฤติกรรมเสี่ยงมะเร็งกระเพาะอาหารก่อน
00:01:05 → 00:01:07 ที่เราจะไปลงลึกถึงรายละเอียดค่ะอาจารย์
00:01:07 → 00:01:11 สอบถามก่อนเลยว่าอย่างโรงพยาบาลเราเนี่ย
00:01:11 → 00:01:13 ค่ะพบผู้ป่วยบ่อยมั้คะอาจารย์
00:01:13 → 00:01:15 >> เรียนเรียนว่าโรงพยาบาลมหาราชนะครับเป็น
00:01:15 → 00:01:19 ศูนย์เ่อการแพทย์ติยภูมิรับริเฟอร์นะฮะก็
00:01:19 → 00:01:21 คืออาจจะมีคนไข้ที่ลักษณะซับซ้อนเนี่ย
00:01:21 → 00:01:24 เยอะนะฮะแต่เรียนว่าโดยจริงๆแล้วประเทศ
00:01:24 → 00:01:26 ไทยเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงของมะเร็ง
00:01:26 → 00:01:28 กระพาะอาหารไม่ได้สูงขนาดนั้นนะครับผม
00:01:28 → 00:01:31 อยู่ที่ประมาณตัวเลขของเราก็อยู่ที่
00:01:31 → 00:01:33 ประมาณ 8-12
00:01:33 → 00:01:36 คนนะฮะต่อแสนคนต่อ 1 ปีนะฮะเทียบกับ
00:01:36 → 00:01:38 ประเทศที่เป็นเยอะๆเนี่ยเป็นเยอะๆนี่คือ
00:01:38 → 00:01:40 อย่างประเทศอย่างผมยกตัวอย่างประเทศจีน
00:01:40 → 00:01:42 เกาหลีญี่ปุ่นเนี่ยเขาจะมีตั้งแต่ประมาณ
00:01:42 → 00:01:45 80- 100 คนเลยมากกว่าเรา 10 เท่า
00:01:45 → 00:01:45 >> ค่ะ
00:01:45 → 00:01:47 >> นะฮะดังนั้นประเทศเราก็ถือว่าไม่ได้ไม่
00:01:47 → 00:01:49 ได้มีความเสี่ยงเยอะขนาดนั้นก็ถือว่าสัด
00:01:49 → 00:01:50 สวนน้อยอยู่
00:01:50 → 00:01:52 >> ใช่ครับแต่ว่าถ้าในประเทศมหาราชโรงพบาล
00:01:52 → 00:01:54 มหาราชสดองก็อาจจะเยอะนิดนึงครับผม
00:01:54 → 00:01:59 >> อออย่างเ้ามีเมีเพดานให้ประมาณ 8-12 คน
00:02:00 → 00:02:02 ส่วนดอกเรานี่ก็เลยเต็มแม็กเลยครับโดย
00:02:02 → 00:02:04 เฉพาะจริงๆเชียงใหม่มีอุบัติการที่ค่อน
00:02:04 → 00:02:06 ข้างสูงนะฮะอยู่ที่ประมาณชักประมาณ 12
00:02:06 → 00:02:08 นี่คือที่เชียงใหม่
00:02:08 → 00:02:09 >> นะครับที่บางประเทศส่วนใหญ่ก็คือประมาณ
00:02:09 → 00:02:11 เฉลี่ยถึง 8-10 ท่านครับผม
00:02:11 → 00:02:14 >> ค่ะส่วนใหญ่คนไข้ที่มานี่อยู่ในระยะไหนคะ
00:02:14 → 00:02:15 อาจารย์
00:02:15 → 00:02:17 >> เอิ่มเดี๋ยวผมขออนุญาตโชว์โชว์สไลด์ตรง
00:02:17 → 00:02:19 นี้นิดนึงนะฮะนะฮะ
00:02:19 → 00:02:22 >> กจริงๆเรียนว่าคนไข้คนไข้ที่มาเนี่ยมักจะ
00:02:22 → 00:02:25 เป็นเยอะนะฮะของประเทศประเทศไทยนะครับผม
00:02:25 → 00:02:28 จะสังเกตนะฮะคนไข้คนไข้มาเนี่ยในในฟิล์ม
00:02:28 → 00:02:30 อันนี้ก็จะเห็นว่ามีการอุดกั้นของกระเพาะ
00:02:30 → 00:02:32 อาหารเกิดขึ้นละคนไข้มีมะเร็งมันใหญ่จนไป
00:02:32 → 00:02:34 อุดทางเดินอาหารไปเลยอ
00:02:34 → 00:02:37 >> นะครับผมแล้วก็มาส่องกล้องดูอาจจะเห็น
00:02:37 → 00:02:40 อาหารค้างมะเร็งลักษณะขนาดใหญ่
00:02:40 → 00:02:42 >> อะไรอย่างเงี้ยนะฮะนะฮะผ่าตัดออกมาก็อาจ
00:02:42 → 00:02:43 จะเห็นลักษณะอย่างเงี้ยนะฮะต้องเอา
00:02:43 → 00:02:44 กระเพาะออกทั้งหมดเลยโอห
00:02:44 → 00:02:47 >> นะฮะนะฮะจะเรียนว่าโอ้โหมะเร็งก็ก้อนใหญ่
00:02:47 → 00:02:50 มากซึ่งซึเรียนว่าอันเนี้ยประเทศไทยก็ยัง
00:02:50 → 00:02:52 อยู่ในจุดที่ถึงแม้ว่าคนไข้มีไม่เยอะแต่
00:02:52 → 00:02:55 ว่าเรียนว่าคนไข้เนี่ยมาเนี่ยก็คือระยะ
00:02:55 → 00:02:57 ค่อนข้างที่จะเยอะละ
00:02:57 → 00:02:57 >> นะครับผม
00:02:57 → 00:03:02 >> อืโอ้โหเนี่ยนะคะวันนี้อาจารย์ก็มีมีภาพ
00:03:02 → 00:03:04 มาให้ดูประกอบด้วยว่าหน้าตามันจะเป็นแบบ
00:03:04 → 00:03:08 ไหนนะคะอาจารย์อ่ะพูดถึงมะเร็งกระเพาะ
00:03:08 → 00:03:11 อาหารจริงๆแล้วมันคืออะไรคะอาจารย์อยากจะ
00:03:11 → 00:03:13 ให้อาจารย์อธิบายให้ความรู้กับคุณผู้ชม
00:03:13 → 00:03:15 ที่ดูรายการวันนี้สักนิดนิดนึงค่ะ
00:03:15 → 00:03:17 >> ครับผมก็คือมะเร็งกาวอาหารนะฮะก็คือเป็น
00:03:17 → 00:03:20 ตัวของเซลล์ผิดปกติที่เกิดขึ้นนะฮะที่ตรง
00:03:20 → 00:03:23 เยื่อบุนะครับเยื่อบุป้ออาหารโดยมีการ
00:03:23 → 00:03:25 เปลี่ยนแปลงเซลล์เปลี่ยนแปลงจนกลายเป็น
00:03:25 → 00:03:28 มะเร็งนะครับแล้วเขาก็กินเริ่มกินลึกเข้า
00:03:28 → 00:03:31 มาในชั้นของกล้ามเนื้อชั้นอทะลุออกไปแทบ
00:03:31 → 00:03:33 จะถ้าเกิดเป็นมากจริงๆก็คือทะลุออกไปด้าน
00:03:33 → 00:03:35 นอกของกระเพาะอาหารได้เลย
00:03:35 → 00:03:38 >> นะครับเเกิดด้านในเกิดจากด้านในนะครับอ
00:03:38 → 00:03:39 ตัวนี้เป็นเป็นเ้าเรียกว่าเป็นมะเร็ง
00:03:40 → 00:03:41 กระเพาะอาหารจริงๆแล้วเรียนว่าตัวของชิ้น
00:03:41 → 00:03:44 เนื้อผิดปกติอย่างอื่นในกระพาะอาหารก็มี
00:03:44 → 00:03:46 นะครับมะเร็งชนิดอื่นก็มีแต่ว่าถ้าเราพูด
00:03:46 → 00:03:49 ถึงมะเร็งกระเพาะอาหารหมายรวมเนี่ยก็มัก
00:03:49 → 00:03:51 จะหมายถึงมะเร็งเยื่อบุกระเพาะอาหารครับ
00:03:51 → 00:03:52 ผม
00:03:52 → 00:03:56 >> เยื่อบุหารเป็นหลักค่ะมีทั้งหมด 4 ระยะ
00:03:56 → 00:03:58 ใช่มั้ใช่มั้คะอาจารย์นะคะ
00:03:58 → 00:04:00 >> ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เราเจอนี่อยู่ในช่วง
00:04:00 → 00:04:04 วัยไหนคะอาจารย์เอ่อเรียนๆว่าจริงๆมัน
00:04:04 → 00:04:07 กลไกการเกิดโรคมันมีมันมีหลายแบบนะครับ
00:04:07 → 00:04:09 ดังนั้นถ้ากลไกการเกิดโรคที่เกิดจาก
00:04:09 → 00:04:12 เรื่องของเรื่องของกระเพาะอักเสบหรือังคน
00:04:12 → 00:04:15 ไข้ก็จะอายุเยอะหน่อยนะฮะเฉลี่ยอยู่ที่
00:04:15 → 00:04:17 ประมาณ 55-65 ปีอ
00:04:17 → 00:04:20 >> นะฮะนะฮะแต่ว่าเรียนว่ามีสาเหตุสำคัญอีก
00:04:20 → 00:04:22 อันนึงเลยที่สามารถทำให้เกิดในคนอายุน้อย
00:04:22 → 00:04:26 ได้ก็คือการติดเชื้อแบคทีเรียตัวนึงนะฮะ
00:04:26 → 00:04:26 อื
00:04:26 → 00:04:28 >> คือเป็นแบคทีเรียตัวสำคัญมากในมะเร็ง
00:04:28 → 00:04:31 กระเพาะอาหารก็คือตัวเิ p
00:04:31 → 00:04:31 >> ค่ะ
00:04:31 → 00:04:34 >> นะครับผมซึ่งซึตัวเนี้ยตัวเนี้ยมันมี
00:04:34 → 00:04:37 โอกาสที่จะทำให้เกิดการเป็นมะเร็งในคนไข้
00:04:37 → 00:04:41 ที่อายุน้อยได้บางท่านอายุ 30 ไม่ถึง 40
00:04:41 → 00:04:43 ปีก็ก็เริ่มเป็นได้แล้วครับดังนั้นคือ
00:04:44 → 00:04:45 โล่งเนี่ยเป็นได้แบบ
00:04:45 → 00:04:46 >> หลายวัยทุกวัย
00:04:47 → 00:04:47 >> อื
00:04:47 → 00:04:49 >> นะครับนะครับเป็นได้หลายกลุ่มซึ่งซึจริงๆ
00:04:49 → 00:04:53 เรียนว่าเรียนว่าเวลาคนไข้มาเนี่ยอ่าระยะ
00:04:53 → 00:04:57 ก็มักจะสูงกว่าคนไข้ที่ที่ที่เป็นอายุสูง
00:04:57 → 00:05:00 วัยนี่เป็นใช่เป็นเยอะแล้วเพราะว่าอายุ
00:05:00 → 00:05:01 น้อยบางทีเรามาเรียนว่าเราไม่ได้คิดว่า
00:05:01 → 00:05:02 ตัวเองจะเป็นมะเร็ง
00:05:02 → 00:05:03 >> อื
00:05:03 → 00:05:06 >> นะฮะนะฮะแต่ว่าโดยรวมแล้วคนไข้ที่มาด้วย
00:05:06 → 00:05:09 เรื่องนี้มาตรวจที่โรงพยาบาลมหาราชเนี่ย
00:05:09 → 00:05:11 นะครับเป็นระยะค่อนข้างสูง
00:05:11 → 00:05:12 >> อื
00:05:12 → 00:05:15 >> นะครับ 70% เป็นระยะที่ 3 กับ 4 รวมกัน
00:05:15 → 00:05:16 >> โอ้โห
00:05:16 → 00:05:18 >> ใช่ครับคนไข้เป็นระยะที่ 1 ที่ 2 นี่
00:05:18 → 00:05:21 เพียงแค่ประมาณ 20-25% เท่านั้นเอง
00:05:21 → 00:05:24 >> อืเขาถึงบอกว่าเป็นภัยเงียบที่บางที
00:05:24 → 00:05:27 >> ใช่เราอาจจะไม่รู้ตัวใช่มั้คะอาจารย์อื
00:05:27 → 00:05:29 แล้วอย่างเจ้าเชื้อแบคทีเรียที่อาจารย์
00:05:29 → 00:05:32 บอกเมื่อสักครู่นี้มันเจอได้ในไหนคะ
00:05:32 → 00:05:34 อาจารย์หรือว่ามันมีปัจจัยเสี่ยงไหนบ้าง
00:05:34 → 00:05:36 ที่จะทำให้เชื้อนี่มันพัฒนาไป
00:05:36 → 00:05:38 >> จริงๆจริงๆเรียนว่าแบคทีเรียตัวนี้นะครับ
00:05:38 → 00:05:40 ในประเทศกลุ่มกลุ่มเขาเรียกว่าอีสเตn
00:05:40 → 00:05:43 เอเชียนหรือว่าจีนเกาหลีญี่ปุ่นอะไรอย่าง
00:05:43 → 00:05:47 เงี้ยนะฮะเค้าอ่ะมีอุบัติการที่สูงมากใน
00:05:47 → 00:05:49 การติดบางประเทศติด 80-90% เลย
00:05:49 → 00:05:50 >> โอห
00:05:50 → 00:05:52 >> ประเทศไทยยังต่ำตัวเลขต่ำกว่านั้นนะคะ
00:05:52 → 00:05:57 อยู่ที่ประมาณซัก 40-50% ต่ำอ
00:05:57 → 00:06:02 เจอในบ้างในครับหรือว่าในตัวของที่เรา
00:06:02 → 00:06:04 ปรุงไม่สุกนะครับปรุงไม่สุกหรือว่าอยู่ใน
00:06:04 → 00:06:06 ภาชนะที่มีการปนเปื้อน
00:06:06 → 00:06:08 >> นะครับเพราะว่าจริงๆเรียนว่าโรคมะเร็ง
00:06:08 → 00:06:12 กระเพาะอาหารสำคัญกับภาวะเศรษฐะที่ต่ำนะ
00:06:12 → 00:06:14 ฮะแต่ที่ยิ่งว่าโอ๊ยเราแบบคนที่แบบไม่
00:06:14 → 00:06:16 ค่อยมีกินหรือว่าอะไรอย่างเงี้ยนะฮะก็มี
00:06:16 → 00:06:19 โอกาสที่เป็นมาลงกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น
00:06:19 → 00:06:21 เพิ่มขึ้นด้วยนะครับก็นั้นเจอได้ในสิ่ง
00:06:21 → 00:06:24 พวกที่เราเอาเข้าปากเนี่ยแหละครับผมค่ะ
00:06:24 → 00:06:27 อ่าพออาจารย์พูดถึงเรื่องของอาหารถามไป
00:06:27 → 00:06:29 อีกค่ะอาจารย์แล้วอาหารประเภทไหนคะที่
00:06:29 → 00:06:30 เสี่ยง
00:06:30 → 00:06:32 >> โอเคเดี๋ผมขออนุญาตโชว์โชว์สไลด์อีกต่อไป
00:06:32 → 00:06:35 นิดนึงอันอันนี้อาการเดี๋ยวผมจะย้อนกลับ
00:06:35 → 00:06:37 มานะฮะผมผมขอขอไปที่ปัจจัยเสี่ยงก่อน
00:06:37 → 00:06:40 ปัจจัยเสี่ยงเนี่ยครับมีมีหลายอย่างมากนะ
00:06:40 → 00:06:42 ครับก็คือตั้งแต่ที่เราควบคุมไม่ได้นะ
00:06:42 → 00:06:45 ครับอย่างเช่นความผิดปกติทางพันธุกรรม
00:06:45 → 00:06:47 >> เรื่องของคนที่เอ้ยการที่มีเรามีญาติพ่อ
00:06:47 → 00:06:49 แม่พี่น้องเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารก็เราก็
00:06:49 → 00:06:51 มีโอกาสเป็นมะเร็งกระพาะอาหารเพิ่มขึ้น
00:06:51 → 00:06:53 ได้นะคะการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผมได้
00:06:53 → 00:06:55 กล่าวไปแล้วนะครับกับเรื่องอาหารซึ่งเป็น
00:06:55 → 00:06:57 ตัวสำคัญมากเลยครับเพราะว่าเรียนว่ามัน
00:06:57 → 00:06:59 เป็นลักษณะว่ามันจะส่งเสริมกันอย่างเช่น
00:06:59 → 00:07:00 ติดเชื้อแบคทีเรียอย่างเดียวไม่เท่าไหร่
00:07:00 → 00:07:00 นะครับอ
00:07:01 → 00:07:03 >> แต่ถ้าเราไปทานอาหารที่มันทำให้เสี่ยงมาก
00:07:03 → 00:07:05 ขึ้นเนี่ยก็ยิ่งทำให้เรามีโอกาสจะเป็น
00:07:05 → 00:07:07 มะเร็งกพาอาหารมากขึ้นในสไลด์ผมจะโชว์ไว้
00:07:07 → 00:07:10 นะครับอาหารที่เค็มนะเค็มจัดอาหารเค็มจาก
00:07:10 → 00:07:12 คนที่ชอบกินแบบเค็มๆนะ
00:07:12 → 00:07:13 >> เค็มจัด
00:07:13 → 00:07:17 >> ดองเค็มนะครับอาหารเค็มอาหารพวกลมควันใส่
00:07:17 → 00:07:20 ดินประสิวไนโตรซามีนเนื้อสัตว์แปรรูปอะไร
00:07:20 → 00:07:23 ที่มีการเรื่องของการถอมของอาหารทั้งหลาย
00:07:23 → 00:07:24 >> นะครับ
00:07:24 → 00:07:28 >> ไส้ก่งไส้กรอกอะไรที่ใส่พวกนี้เยอะๆ
00:07:28 → 00:07:30 >> ใช่คล้ายๆมันก็เราก็ไม่ได้บอกว่าเอ้ยแหนม
00:07:30 → 00:07:33 ทุกอันไม่สะอาดนะฮะแต่ก็เรียนว่าถ้าเกิด
00:07:33 → 00:07:36 บางทีการกำวิธีการผลิตที่ไม่ดีหรือว่าเรา
00:07:36 → 00:07:37 ใส่สารพวกนี้มากเกินไป
00:07:37 → 00:07:38 >> ค่ะ
00:07:38 → 00:07:40 >> นะฮะก็มีโอกาสทำให้เป็นได้สำคัญอีกอันก็
00:07:40 → 00:07:42 คือที่คนไทยชอบมากคือปิ้งย่าง
00:07:42 → 00:07:43 >> อโอ้โห
00:07:43 → 00:07:44 >> คนไทยชอบกินปิ้งย่าง
00:07:44 → 00:07:45 >> หมูกระทะเงี้ย
00:07:45 → 00:07:47 >> หมูกระทะหมู่กระทะปิ้งย่างก็คือก็คือเป็น
00:07:47 → 00:07:49 ตัวที่ทำให้เสี่ยงมากเหมือนกันถ้าเป็น
00:07:49 → 00:07:51 ฝรั่งก็เป็นพวกบาร์บีคิวนะฮะประเทศไทยก็
00:07:51 → 00:07:53 จะเป็นปิงอย่างแต่อย่างไรก็ตามถ้าเราทาน
00:07:53 → 00:07:55 ผักผลไม้ก็ช่วยได้นะครับ
00:07:55 → 00:07:58 >> ผักผลไม้วิตามินซีพวกเนี้ยป้องช่วยลดลนะ
00:07:59 → 00:08:00 ครับลดได้
00:08:00 → 00:08:02 >> นะครับปัจจัยเสกอื่นๆนะครับที่เกี่ยวข้อง
00:08:02 → 00:08:05 กับที่เราแบบป้องกันได้นะครับที่แบบอย่าง
00:08:05 → 00:08:06 เช่นการสูบบุหรี่การสูบบุหรี่นี่ทำให้
00:08:07 → 00:08:08 เป็นมะเร็งกระเพาะเพิ่มขึ้นนะครับ
00:08:08 → 00:08:11 >> นอกจากมะเร็งปอดที่เราทราบแล้วมะเร็งปอด
00:08:11 → 00:08:14 มะเร็งในหูคอจมูกมะเร็งหลอดอาหารมะเร็ง
00:08:14 → 00:08:16 กระเพาะก็เป็นนะครับอ
00:08:16 → 00:08:19 >> การดื่มใช่ครับการดื่มสุราก็เกี่ยวนะฮะ
00:08:19 → 00:08:20 ดื่มสุราโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าดื่มหนัก
00:08:20 → 00:08:23 ดื่มเกินวันละ 4 แก้วอันนี้ก็ถือว่าหนัก
00:08:23 → 00:08:25 มากนะฮะก็ถือว่าทำให้เพิ่มปัจจัยเสี่ยง
00:08:25 → 00:08:28 เหมือนกันนะครับหรือว่าบางท่านเป็นอันนี้
00:08:28 → 00:08:30 จริงๆเรียนว่าปัจจัยเสี่ยงเรื่องกดไหล
00:08:30 → 00:08:32 ย้อนนี่เป็นในฝรั่งมากกว่าถ้าเป็นฝรั่ง
00:08:33 → 00:08:35 หรือว่าแบบมีกดไหลย้อนเรื้อรังก็ทำให้
00:08:35 → 00:08:36 เกิดมะเร็งไดโซนนี้ได้
00:08:36 → 00:08:38 >> ออเหรอคะ
00:08:38 → 00:08:40 >> ใช่ครับแต่ว่าประเทศไทยก็คือเรื่องกดไหล
00:08:40 → 00:08:43 ย้อนนี่อาจจะไม่ได้เป็นปัญหาที่รุนแรงมาก
00:08:43 → 00:08:44 เมื่อเทียบกับเรื่องของการรับประทานอาหาร
00:08:44 → 00:08:45 ครับผม
00:08:45 → 00:08:48 >> อืคนไทยนี่ส่วนใหญ่ปัญหามาจากการทานอาหาร
00:08:48 → 00:08:48 นะคะอาจารย์
00:08:48 → 00:08:51 >> ใช่ๆครับแต่ว่าแต่ว่าคือคือมันอร่อยเนาะ
00:08:51 → 00:08:52 ก็ชอบกิน
00:08:52 → 00:08:54 >> อย่างปิ้งย่างเนี่ยค่ะอาจารย์บางทีมัน
00:08:54 → 00:08:55 ห้ามใจไม่ได้นะคะ
00:08:55 → 00:08:57 >> ห้ามใจไม่ได้
00:08:57 → 00:08:59 >> ก็ต้องกินนะคะแต่พอกินแล้วก็ต้องรู้ด้วย
00:08:59 → 00:09:00 ว่ามันเสีย
00:09:00 → 00:09:02 >> ใช่เราก็รู้ว่ามันมีความเสี่ยงนะครับผมก็
00:09:02 → 00:09:03 อาจจะไม่บ่อยเกินไป
00:09:03 → 00:09:05 >> ค่ะแต่ก็อย่างที่อาจารย์บอกว่าการทานผัก
00:09:05 → 00:09:07 ผลไม้บางทีก็ช่วยได้
00:09:07 → 00:09:09 >> ใช่ช่วยได้ช่วยได้ก็กินปิ้งย่างแล้วก็
00:09:09 → 00:09:10 เสริมผักผลไม้
00:09:10 → 00:09:12 >> ก็กินผักเยอะๆนะคะอาจารย์
00:09:12 → 00:09:15 >> ก็จะลดความเสี่ยงได้นะคะทีนี้ย้อนไป
00:09:15 → 00:09:17 เรื่องของอาการค่ะอาจารย์มะเร็งกระเพาะ
00:09:17 → 00:09:20 อาหารพอเป็นแล้วอาการมันจะเป็นยังไงบ้าง
00:09:20 → 00:09:23 บ้างคะวันนี้จะได้ชวนทุกท่านได้มาเช็ค
00:09:23 → 00:09:26 สัญญาณเตือนไปพร้อมๆกันชวนมาดูอาการของ
00:09:26 → 00:09:28 ตัวเองว่าเอ๊ะอาการเราเป็นแบบนี้มันมัน
00:09:28 → 00:09:30 ควรไปหาหมอหรือยังเงี้ยค่ะอาจารย์ครับผม
00:09:30 → 00:09:32 ขออนุญาตโชว์สไลด์นิดนึงนะฮะมีมีผมทำไว้
00:09:33 → 00:09:35 ให้ดูตรงนี้จริงๆเรียนว่ามะเร็งมะเร็ง
00:09:35 → 00:09:38 กระเพาะอาหารอาการเ้าเค่อนข้างกว้างมาก
00:09:38 → 00:09:40 แล้วก็ใกล้เคียงกับเรื่องโรคกระเพาะอฮะ
00:09:40 → 00:09:42 สังเกตที่ผมปวดท้องลิ้นปี่เรือรังเนี่ยก็
00:09:42 → 00:09:45 เป็นอาการของโรคกระเพาะอาหารเหมือนกัน
00:09:45 → 00:09:45 >> อื
00:09:45 → 00:09:49 >> นะฮะแต่ว่าคือถ้าอย่างอื่นเนี่ยอาจจะค่อน
00:09:49 → 00:09:51 ข้างจะเจาะจงเข้าไปมากขึ้นอย่างเช่นคำ
00:09:51 → 00:09:53 ก้อนได้คำก้อนได้นี่แย่แล้วนะฮะต้องมีมา
00:09:53 → 00:09:55 ตรวจน้ำหนักลดผิดปกติ
00:09:55 → 00:09:57 >> คือเราไม่ได้พยายามจะลดนะเลดเอง
00:09:57 → 00:09:59 >> เออไม่ใช่เรื่องดีนะคะ
00:09:59 → 00:10:01 >> ไม่ใช่เรื่องดีนะฮะแต่ว่าตอนแรกๆก็รู้สึก
00:10:01 → 00:10:03 เอ้ยอาจจะดีแต่ว่าถ้าเราไม่ได้ตั้งใจรถ
00:10:03 → 00:10:05 เนี่ยเเราต้องระวังอะไรเอผิดปกติกับร่าง
00:10:05 → 00:10:07 กายเราหรือเปล่านะครับผม
00:10:07 → 00:10:10 >> การอิ่มเร็วปกติเราทานได้ปเต็มถ้วยตอนนี้
00:10:10 → 00:10:10 ทาน
00:10:10 → 00:10:12 >> ก็น่าจะดีนะคะอาจารย์อิ่มเร็วคือ
00:10:12 → 00:10:14 >> แต่ว่ารู้สึกว่าทานแล้วมันแน่นไวขึ้นต้อง
00:10:14 → 00:10:17 หยุดทานอันนี้คือเป็นไม่ดีนะฮะไม่ถ้ามาพบ
00:10:17 → 00:10:20 แพทย์แพทย์จะทานนะครับว่าพอเป็นตัวสำคัญ
00:10:20 → 00:10:22 เลยนะครับอาจารย์อาเจียนเหลือหลังบางท่าน
00:10:22 → 00:10:25 โหอาเจียนทุกวันเลยนะครับตอนเย็นอาเจียน
00:10:25 → 00:10:27 ทุกวันนี้ก็ไม่ดีเหมือนกันนะครับหรือว่า
00:10:27 → 00:10:30 บางท่านเนี่ยมีเลือดออกนะฮะถ่ายเป็นเลือด
00:10:30 → 00:10:33 อาเจียนเป็นเลือดพวกนี้นอกจากเป็นอาการ
00:10:33 → 00:10:35 ของลำไส้ใหญ่ได้แล้วกระเพาะอาหารก็เป็น
00:10:35 → 00:10:37 อันนึงที่ทำให้เกิดปัญหาตรงนี้ได้
00:10:37 → 00:10:37 >> อื
00:10:37 → 00:10:40 >> นะครับผมแล้วก็อันสุดท้ายอันสุดท้ายนี่
00:10:40 → 00:10:45 คือเรียนว่าถ้ารักษาแล้วลองรักษาแบบเป็น
00:10:45 → 00:10:46 แผนในกระเพาะก่อน
00:10:46 → 00:10:48 >> จริงๆเรียนๆว่าเป็นเรื่องปกตินะฮะที่บอก
00:10:48 → 00:10:50 ว่าเราไปพบแพทย์อาการเหมือนเรื่องของ
00:10:50 → 00:10:53 แพหารลองให้ยาก่อนนี่คือเป็นไปได้แต่ว่า
00:10:53 → 00:10:56 คือเรียนว่าการวินิจฉัยที่จำเพาะเนี่ยยัง
00:10:56 → 00:10:59 ไม่ได้กระทำแล้วมันเหมือนเราทดสอบนะฮะก็
00:10:59 → 00:11:01 คือว่าถ้าเราให้ยาคนไข้หายขาดเลยว่าโอเค
00:11:02 → 00:11:04 ละน่าจะเป็นแพรหรือว่าเป็นโรคที่แบบถ่าย
00:11:04 → 00:11:05 ได้ด้วยยา
00:11:05 → 00:11:07 >> แต่เรียนว่าพอกินยาเสร็จ
00:11:07 → 00:11:10 >> ดีขึ้นนิดหน่อยไม่ดีขึ้นหรือว่ามันหยุดยา
00:11:10 → 00:11:12 ก็เป็นซ้ำลักษณะอย่างเงี้ยนะฮะก็คือถือ
00:11:12 → 00:11:15 ว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงอีกอันนึงซึ่งทุกอัน
00:11:15 → 00:11:18 เนี่ยนะฮะในกรณีที่ที่มาพบแพทย์แพทย์ก็
00:11:18 → 00:11:21 คือจะพยายามถามครับว่าเอ้ยคนไข้ท่านมี
00:11:21 → 00:11:24 อาการเหล่านี้หรือเปล่าซึ่งเรียนว่าถ้ามี
00:11:24 → 00:11:27 เนี่ยจำเป็นที่จะต้องรับการตรวจเพิ่มเติม
00:11:27 → 00:11:27 >> อื
00:11:27 → 00:11:28 >> เพิ่มเติมนะครับอ
00:11:29 → 00:11:31 >> ค่ะอันนี้ก็คือเราต้องส่องกล้องเข้าไป
00:11:31 → 00:11:32 มั้ยคะอาจารย์
00:11:33 → 00:11:35 >> ใช่ครับใช่ครับเรียนว่าเรียนว่าการการ
00:11:36 → 00:11:39 ส่องกล้องผมขออนุญาตมุมสไลด์นิดนึงนะฮะ
00:11:39 → 00:11:42 การส่องกล้องเนี่ยครับปัจจุบันเรื่องของ
00:11:42 → 00:11:44 เทคโนโลยีในการส่องกล้องเห็นภาพในทางเดิน
00:11:44 → 00:11:46 อาหารเนี่ยมันพัฒนาไปมากเราจะเห็นว่าลูก
00:11:46 → 00:11:47 มันขยายมาก
00:11:47 → 00:11:50 >> เห็นได้ชัดมากแล้วเก็คือมีการใช้ลักษณะ
00:11:50 → 00:11:54 แสงที่จำเพาะสีพิเศษเข้าไปนะฮะมะเร็ง
00:11:54 → 00:11:58 สามารถพบได้ตั้งแต่ระยะต้นหรือเราแค่มี
00:11:58 → 00:12:00 เซลล์ผิดปกติเรียนว่ามีเซลล์ผิดปกติเกิด
00:12:00 → 00:12:03 ขึ้นในผิวหนังของกับผิวของเพาะอาหารผิว
00:12:03 → 00:12:06 เยื่อบุนะฮะเราก็สามารถพบได้
00:12:06 → 00:12:07 >> ค่ะ
00:12:07 → 00:12:10 >> แล้วก็สามารถที่จะเรียนว่าพอมันเพราะ
00:12:10 → 00:12:12 เมื่อกี้ผมเรียนไปก่อนหน้านี้นะฮะว่าการ
00:12:12 → 00:12:14 อักเสบรังเป็นต้นเหตุใช่มั้ฮะ
00:12:14 → 00:12:15 >> ค่ะ
00:12:15 → 00:12:17 >> เราสามารถคาดเดาได้ว่าเขาจะเกิดขึ้น
00:12:17 → 00:12:20 >> อืแล้วคนไข้กลุ่มนี้ก็จะได้เล่าเข้าสู่
00:12:20 → 00:12:23 กระบวนการที่เขาเรียกว่าการตรวจติดตามนะ
00:12:23 → 00:12:26 ฮะลดโอกาสความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง
00:12:26 → 00:12:29 กระเพาะอาหารได้รับยาที่ทำให้เรื่องเซลล์
00:12:29 → 00:12:30 มีปัญหาดีขึ้นแล้วก็
00:12:31 → 00:12:34 >> ในกรณีที่เป็นก็คือเป็นเจอตั้งแต่เนิ่นๆ
00:12:34 → 00:12:36 นะครับลดอัตราการตายได้นะครับดังนั้นคือ
00:12:36 → 00:12:40 เราเรียนว่าถ้ามาพบแพทย์แล้วแพทย์แนะนำคน
00:12:40 → 00:12:42 ไปไข้ไป 2 กล้องถือว่าเรียนว่าจำเป็นนะคะ
00:12:42 → 00:12:44 เรียนว่าจำเป็นอาจจะต้องรับประกันตรวจ
00:12:44 → 00:12:44 ครับผม
00:12:44 → 00:12:48 >> อ่าเนี่ยนะคะก็ดูภาพแบบว่าเห็นชัดมากนะคะ
00:12:48 → 00:12:51 อาจารย์เดี๋ยวนี้ขยายแบบโอ้โหขยายเห็น
00:12:51 → 00:12:55 เซลล์ใช่ค่ะโอ้เนี่ยนะคะก็เป็นอีกหนึ่ง
00:12:55 → 00:12:59 เทคโนโลยีนะคะที่เอามาช่วยในการตรวจใน
00:12:59 → 00:13:01 เรื่องของมะเร็งกระเพาะอาหารให้มันมีความ
00:13:02 → 00:13:04 แม่นยำมากยิ่งขึ้นอย่างที่อาจารย์บอกว่า
00:13:04 → 00:13:07 ระยะแรกระยะ 2 เนี่ยบางทีมันไม่ค่อยมี
00:13:07 → 00:13:10 อาการเยอะนะคะอาจารย์แล้วก็อาการมันอาจจะ
00:13:10 → 00:13:12 ไปใกล้เคียงกับโรคกระเพาะอาหารบ้างกดไหล
00:13:12 → 00:13:13 ย้อนบ้าง
00:13:13 → 00:13:14 >> ใช่ครับ
00:13:14 → 00:13:17 >> คนไข้บางคนเกิดคำถามว่าถ้าเกิดว่าเรามี
00:13:17 → 00:13:20 อาการแล้วเรากินยากระเพาะอาหารเนี่ยค่ะ
00:13:20 → 00:13:23 หรือยาลดกรดลงไปแล้วอาการมันดีขึ้นหรือ
00:13:23 → 00:13:26 มันหายไปเลยแต่พอมาตรวจอีกทีเจออยู่ใน
00:13:26 → 00:13:28 ระยะท้ายๆอะไรเงี้ยค่ะอาจารย์
00:13:28 → 00:13:32 >> เอ่อเรียนๆว่าเรียนว่าในถ้าเป็นถ้าเป็น
00:13:32 → 00:13:33 มะเร็งนะฮะ
00:13:33 → 00:13:34 >> ค่ะ
00:13:34 → 00:13:37 >> อาการเขามักจะไม่หายไป 100% แต่แต่มีนะฮะ
00:13:37 → 00:13:40 เรียนว่าทานยาลดกดแล้วมะเร็งก็ดีขึ้นดี
00:13:40 → 00:13:43 ขึ้นดีขึ้นได้แต่ว่าเขาจะไม่หายขาดครับ
00:13:43 → 00:13:48 >> เขาจะไม่หายขาดคือถ้าถ้าคนไข้เนี่ยหยุดยา
00:13:48 → 00:13:52 แล้วอาการยังคงอยู่ถือว่าเป็นตัวตัวเค้า
00:13:52 → 00:13:53 เรียกว่าเป็นยังไงครับเป็นตัวบ่งชี้แล้ว
00:13:54 → 00:13:55 ใช่มั้คะชี้ที่สำคัญเลยครับเพราะเรียนว่า
00:13:55 → 00:13:58 ที่ต้องเข้ากับมาตรวจนะครับมาพบแพทย์ไม่
00:13:59 → 00:14:01 ใช่ว่าโอ๊กินยาแล้วดีขึ้นหยุดยาแล้วไม่ดี
00:14:01 → 00:14:02 อ้าเดี๋ยวคราวหน้าไม่ต้องมาเจอหมอละไป
00:14:02 → 00:14:05 ซื้อยากินเองคือกินไปเรื่อยๆแล้วก็ก็คงจะ
00:14:05 → 00:14:08 ดีขึ้นคือไม่เป็นความเข้าใจที่ไม่ถูก
00:14:08 → 00:14:10 >> นะฮะสำคัญมากครับตรงนี้เพราะว่าเรียนว่า
00:14:10 → 00:14:12 เวลามาพบแพทย์อ่ะ
00:14:12 → 00:14:15 >> เราเรามักจะให้ความสำคัญที่ว่าที่ว่าอยาก
00:14:15 → 00:14:19 จะให้คนเข้าใจในเรื่องของเรื่องของข้อมูล
00:14:19 → 00:14:21 เกี่ยวกับโลกเหมือนแพทย์อ่ะนะฮะถ้าเข้าใจ
00:14:21 → 00:14:24 จะได้เข้าใจว่าเอ่อจุดประสงค์จุดมุ่งหมาย
00:14:24 → 00:14:26 ในการทำแต่ละอย่างเนี่ยนะครับให้คนไข้
00:14:27 → 00:14:29 เนี่ยเอ่อมันมีจุดมุ่งหมายนะครับมีจุด
00:14:29 → 00:14:31 มุ่งหมายเพราะถ้าเกิดคนไข้กับหมอแบบเป็น
00:14:31 → 00:14:33 ทีมเดียวกันแล้วมีความเข้าใจในจุดมุ่ง
00:14:33 → 00:14:35 หมายเดียวกันการรักษาอะไรมันก็ประสบความ
00:14:35 → 00:14:35 สำเร็จ
00:14:36 → 00:14:37 >> เราก็ไปด้วยกันได้
00:14:37 → 00:14:40 >> ใช่ครับบางทีบางทีบางทีอ่าแต่ว่าบางบางที
00:14:40 → 00:14:43 บางท่านเนี่ยรู้สึกว่าโอ๊ยยาถ้ายาละดีสุด
00:14:43 → 00:14:45 ท้ายเป็นคำตอบสุดท้ายแล้วคือบางทีไม่ใช่
00:14:45 → 00:14:47 อื
00:14:47 → 00:14:50 >> เราก็ต้องดูอาการของตัวเองด้วย
00:14:50 → 00:14:51 >> ใช่
00:14:51 → 00:14:54 >> คุณหมอมันน่าจะเคยมีคนไข้หรอคะที่แบบว่า
00:14:54 → 00:14:57 พอหมอเสนอแนวทางในการรักษาไปแล้วแบบว่า
00:14:57 → 00:15:00 เราไม่เอาได้มั้ยอะไรได้มั้ยเกิดคำถามใช่
00:15:00 → 00:15:00 มั้ยคะ
00:15:00 → 00:15:03 >> มีๆมีเสมอครับเพราะจริงๆเรียนว่านะฮะ
00:15:03 → 00:15:06 เรื่องของการตัดสินใจที่ว่าจะทำหรือว่า
00:15:06 → 00:15:08 ไม่ทำอะไรเลย
00:15:08 → 00:15:09 >> บางคนไข้บางคนกลัว
00:15:09 → 00:15:12 >> โหยต้องไปทำอย่างงู้นอย่างงี้แบบไม่ทำได้
00:15:12 → 00:15:12 ม
00:15:12 → 00:15:14 >> ออย่าง 2 กล้องเงี้ยค่ะคนไข้บางคนก็กลัว
00:15:14 → 00:15:16 มีความกลัวนะครับซึ่งึเรียนว่ามันก็มี
00:15:16 → 00:15:18 ความไม่สุขสบายเกิดขึ้นระหว่างการตรวจ
00:15:18 → 00:15:20 นั่นแหละนะครับเราพยายามจะโอ๊ให้ยงให้ยา
00:15:20 → 00:15:22 ของไข้สุขสบายที่สุดแต่แน่นอนว่ามันมัน
00:15:22 → 00:15:24 ไม่ได้เหมือนกับนั่งอยู่เฉยๆ
00:15:24 → 00:15:24 >> ออ
00:15:24 → 00:15:27 >> นะครับดังนั้นคือว่าคือหน้าที่ของแพทย์ก็
00:15:27 → 00:15:29 คือเราต้องพยายามเรียนให้ถึงเพราะว่าเรา
00:15:29 → 00:15:31 ไม่ไม่สามารถไปบังคับคนไข้ได้นะฮะเพราะ
00:15:31 → 00:15:34 ว่าทุกๆท่านเนี่ยมีความคล้ายๆว่าเรียนว่า
00:15:34 → 00:15:36 มีออโนomyก็คือว่าเลือกตัวของท่านน่ะคือ
00:15:36 → 00:15:38 ท่านมีสิทธิ์มากที่สุดในการตัดสินใจกระทำ
00:15:38 → 00:15:42 อะไรก็ตามนะครับหน้าที่ของแพทย์คือต้อง
00:15:42 → 00:15:44 แบบmakeชว่าคนไข้เนี่ยได้ทราบข้อมูลแบบ
00:15:44 → 00:15:46 แพทย์หรือยังนะฮะเข้าใจโลกเป็นลักษณะ
00:15:46 → 00:15:49 เดียวกันหรือยังแล้วก็ตัดสินใจได้อย่างมี
00:15:49 → 00:15:49 เหตุผล
00:15:49 → 00:15:50 >> ค่ะ
00:15:50 → 00:15:53 >> นะฮะถ้าเข้าใจถ่องแท้แล้วก็คือแบบคิดสลตะ
00:15:53 → 00:15:55 แล้วก็คือแต่แบบเอ้ยยังไม่อยากทำน่ะก็ไม่
00:15:55 → 00:15:57 ไม่เป็นไรนะฮะไม่เป็นไร
00:15:57 → 00:15:58 >> ก็แล้วแต่คนไข้ใช่มั้คะ
00:15:58 → 00:16:01 >> ใช่ครับใช่ครับแต่ว่าคือสำคัญคือว่าแพทย์
00:16:01 → 00:16:03 น่ะเขาพยายามอยู่แล้วว่าเอ้ยอันเนี้ยหมอ
00:16:03 → 00:16:06 อยากจะให้ทำจริงๆเพราะอะไรนะฮะก็เพราะ
00:16:06 → 00:16:08 ท่านมีอาการ 1 2 3 4 อย่างเงี้ยมีความ
00:16:08 → 00:16:11 เสี่ยงเพิ่มขึ้นเยอะนะอะไรอย่างเงี้ยโดย
00:16:11 → 00:16:13 โดยส่วนใหญ่คนไข้เข้าใจนะครับเพราะว่าคน
00:16:13 → 00:16:16 ไข้ให้เราแบบว่าคุยกันแบบรู้เรื่องนะฮะมี
00:16:16 → 00:16:18 ความเข้าใจกันนะฮะค่ะ
00:16:18 → 00:16:22 >> การทานอาหารค้างคืนค่ะอาจารย์อันนี้อีก 1
00:16:22 → 00:16:24 คำถามทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร
00:16:24 → 00:16:25 ได้มั้ยคะ
00:16:25 → 00:16:28 >> จริงๆจริงๆเรียนว่าโดยตรงเนี่ยไม่มีนะ
00:16:28 → 00:16:31 ครับไม่ไม่ทราบโดยตรงนะครับว่าแต่ว่าแน่
00:16:31 → 00:16:33 นอนอะไรที่ไม่ได้ปรุงสุกใหม่นะครับการปน
00:16:33 → 00:16:35 เปื้อนมันก็ย่อมจะมีมากกว่า
00:16:35 → 00:16:35 >> อ
00:16:35 → 00:16:37 >> นะครับย่อมจะมีมากกว่าบางอย่างที่มันเก็บ
00:16:37 → 00:16:40 ไว้ได้นานแล้วไม่เสียนะครับเขามักจะใส่
00:16:40 → 00:16:43 พวกอะไรที่มี preservation เข้ามานะครับ
00:16:43 → 00:16:45 ผมหรือว่าเป็นการถนอมอาหารบางอย่างซึ่ง
00:16:45 → 00:16:48 เรียนว่าดีสู้อาหารสดไม่ได้นะครับแต่ว่า
00:16:48 → 00:16:50 เทียบกันแล้วบางทีการที่จะบอกว่าอันนี้
00:16:50 → 00:16:53 เป็นอันนี้ไม่เป็นเนี่ยในทางการแพทย์มัน
00:16:53 → 00:16:56 ต้องอาศัยกลไกมากมายเหลือเกินครับในการ
00:16:56 → 00:16:58 วิจัยเก็บข้อมูลกว่าที่เราจะบอกเอาอะไรมา
00:16:58 → 00:17:00 บอกท่านในแต่ละอย่างเนี่ยครับว่าอันนี้
00:17:00 → 00:17:02 แบบห้ามทำหรือว่ามันมีความเสี่ยงเพิ่ม
00:17:02 → 00:17:04 ขึ้นใช้เวลาในการเก็บนานมากซึ่งบางที
00:17:04 → 00:17:06 เรียนว่าอาหารค้างคืนเนี่ยไม่ได้มี
00:17:06 → 00:17:09 มาเกอร์ที่ชัดเจนว่าจะจะไว้ศึกษายังไงนะ
00:17:09 → 00:17:11 ครับแต่ยังไงก็ตามคือเหมาะถ้าเป็นแพทย์นะ
00:17:11 → 00:17:14 ครับความเห็นเนี่ยก็คือแนะนำว่าทานอาหาร
00:17:14 → 00:17:16 ที่ปรุงสุกใหม่นะครับไม่ใส่สารถอมอาหารก็
00:17:16 → 00:17:17 จะดีที่สุดครับ
00:17:17 → 00:17:21 >> อก็คือแนะนำให้กินอาหารปรุงสูตสุกใหม่
00:17:21 → 00:17:25 เน้นผักผลไม้นะคะอาจารย์กินปิ้งด่าน
00:17:25 → 00:17:28 >> เออไม่ติดหมูกระทะเอ่อกินหมูกระทะเกือบ
00:17:28 → 00:17:30 ทุกมื้อเงี้ก็ไม่ไหวนะคะอาจารย์ไม่ได้
00:17:30 → 00:17:31 ครับ
00:17:31 → 00:17:33 >> ก็อาจจะไปเพิ่มความเสี่ยงตรงจุดนั้นนะคะ
00:17:34 → 00:17:37 อ่ะวันนี้เราอ่าออกอากาศ 2 ช่องทางด้วย
00:17:37 → 00:17:39 กันนะคะทาง YouTube สนอก Channel นะคะ
00:17:39 → 00:17:41 แล้วก็ทางหน้าเพจคณะแพทย์วิทยาศาสตร์
00:17:41 → 00:17:44 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก็มีคุณผู้ชมหลาย
00:17:44 → 00:17:46 ท่านติดตามรับชมมานะคะอาจารย์อย่างคุณ
00:17:46 → 00:17:51 วาสนาบอกว่ามาแชร์กันนะคะว่าอ่าคุณวาสนา
00:17:51 → 00:17:53 เนี่ยเป็นโรคท้องอืดเป็นประจำค่ะอาจารย์
00:17:53 → 00:17:57 คะคุณหมอสั่งให้ส่องกล้องดูแต่ว่าอยู่
00:17:57 → 00:18:01 บ้านคนเดียวก็กลัวค่ะมีความกลัวก็เลยยัง
00:18:01 → 00:18:05 ไม่ได้ส่องกินยาบรรเทาอาการแก้อืดท้องยา
00:18:05 → 00:18:09 เคลือบกระเพาะอ่าที่พบอาการบ่อยๆทุกวัน
00:18:09 → 00:18:12 นี้ก็คือท้องอืดบ่อยถ้าได้ยาลดกดมาเคี้ยว
00:18:12 → 00:18:16 หลังอาหารอาการก็จะดีขึ้นอันนี้ควรมาตรวจ
00:18:16 → 00:18:17 คะอาจารย์คะ
00:18:17 → 00:18:19 >> คือหมอแนะนำไปแล้ว
00:18:19 → 00:18:20 >> ใช่ครับแต่ว่าแต่ว่าเรียนจริงๆอันนี้คือ
00:18:20 → 00:18:24 เป็นบริบทที่ที่เราเราเจอเจอได้เยอะมากใน
00:18:24 → 00:18:26 ประเทศไทยเพราะว่าเรียนว่าแบบบางท่านก็
00:18:26 → 00:18:27 คือแบบ
00:18:27 → 00:18:29 >> ไม่มีความสะดวกสบายที่จะมาตรวจนะครับ
00:18:29 → 00:18:32 เพราะเรียนมาตรวจก็ต้องเสียมีคนมาส่งเสีย
00:18:32 → 00:18:34 เวลาบางท่านอยู่คนเดียวไม่มีคนดูแลอะไร
00:18:34 → 00:18:37 อย่างเงี้ยคล้ายๆอย่างงั้นนะครับมีหมอ
00:18:37 → 00:18:40 เข้าใจเลยว่าแต่ว่าคือถามว่าถ้าเรียนตาม
00:18:40 → 00:18:41 ลักษณะทางคลินิกเนี่ย
00:18:41 → 00:18:41 >> ค่ะ
00:18:41 → 00:18:43 >> ท่านเนี้ยควรตรวจ
00:18:43 → 00:18:44 >> คุณวาสนาควรไปตรวจ
00:18:44 → 00:18:46 >> ใช่เพราะว่าดูถ้าเกิดเท่าที่ฟังอาการนี่
00:18:46 → 00:18:49 คือคุณวาสนาน่าจะเป็นมานานพอสมควรละแล้ว
00:18:49 → 00:18:52 ยังจำเป็นต้องรับประทานยาต่อเนื่องค่ะ
00:18:52 → 00:18:54 >> นะครับแน่นอนว่าจริงๆเรียนว่านะฮะ
00:18:54 → 00:18:56 >> สาเหตุมะเร็งเนี่ยมันเป็นส่วนน้อยนะครับ
00:18:56 → 00:18:58 ส่วนใหญ่คือไม่ใช่
00:18:58 → 00:18:58 >> อื
00:18:58 → 00:19:01 >> แต่ว่ายังก็ยังจำเป็นอยู่ดีที่จะต้องตรวจ
00:19:01 → 00:19:03 เขาให้เารู้ก่อนว่าเขาไม่ใช่เพราะเรียน
00:19:03 → 00:19:05 ว่าถ้าถ้าเาไม่ใช่มะเร็งมันไม่มีไม่เชิง
00:19:05 → 00:19:09 จะมีมีคล้ายๆกรอบเวลาในการรักษาที่ที่ชัด
00:19:09 → 00:19:12 เจนนะฮะใช่มั้ฮะโอ๊ยรักษาปี 2 ปีก็ได้แต่
00:19:12 → 00:19:14 ว่าถ้าเป็นมะเร็งเนี่ยบางทีเราไปทิ้งเวลา
00:19:14 → 00:19:16 เขาไว้นานระยะโลกเขาเปลี่ยนอ
00:19:16 → 00:19:18 >> นะครับเาเปลี่ยนผลลัพธการรักษาก็เปลี่ยน
00:19:18 → 00:19:19 ไปหมดเลย
00:19:19 → 00:19:19 >> ค่ะ
00:19:19 → 00:19:21 >> นะครับเดี๋เดี๋เดี๋ยวเราจะพูดถึงการรักษา
00:19:21 → 00:19:23 ใช่ครับแต่ว่าคือมันเปลี่ยนผลลัพธการ
00:19:23 → 00:19:25 รักษาวิธีการรักษาเปลี่ยนไปหมดเลยนะครับ
00:19:25 → 00:19:28 ดังนั้นคือแนะนำนะครับถ้าเป็นไปได้วาสนา
00:19:28 → 00:19:29 ควรมาตรวจครับ
00:19:29 → 00:19:32 >> อาจารย์หมอก็แนะนำว่าควรจะมาตรวจเพราะว่า
00:19:32 → 00:19:35 อย่างอาการอย่างที่บอกว่าเป็นมานานแล้วพอ
00:19:35 → 00:19:38 กินยาอาการก็ดีขึ้นแสดงว่าพอไม่กินยา
00:19:38 → 00:19:41 อาการก็กำเริ่มจำเป็นต้องกินยาใช่ครับใช่
00:19:41 → 00:19:42 ครับเหมือนที่ผมเรียนไปเมื่อกี้
00:19:42 → 00:19:45 >> ก็เข้าใจว่าบางทีคุณวาสนาอาจจะมีอาการ
00:19:45 → 00:19:48 กังวลใจกลัวเพราะไม่เคยตรวจไม่เคยส่อง
00:19:48 → 00:19:51 กล้องอืแต่ก็อย่างที่อาจารย์แนะนำว่า
00:19:51 → 00:19:55 >> เราต้องตรวจก่อนถ้าเป็นก็จะได้รักษาแต่
00:19:55 → 00:19:57 ถ้าไม่เป็นก็จะได้รู้ว่าอแล้วอการารที่
00:19:57 → 00:19:59 เราเป็นอยู่มันเป็นอะไรกันแน่เลยแล้วจริง
00:20:00 → 00:20:03 ๆเรียนว่ากระบวนการตรวจในในปัจจุบันนะ
00:20:03 → 00:20:06 ครับเรามีเรียนว่ามีทางแบบว่าอายุรแพทย์
00:20:06 → 00:20:09 วิสัญญีแพทย์ทั้งหลายเนี่ยคอยดูแลระหว่าง
00:20:09 → 00:20:10 ตัว
00:20:10 → 00:20:10 >> ค่ะ
00:20:10 → 00:20:13 >> นะฮะซึ่งซึคนไข้จะได้รับความสุขสบายมาก
00:20:13 → 00:20:15 กว่าในอดีตน่ะนะครับในในอดีตบางทีโอ๊ย
00:20:15 → 00:20:18 ตรวจแบบว่าใช้ยาช้าแล้วก็ตรวจเลยอะไร
00:20:18 → 00:20:19 อย่างี้
00:20:19 → 00:20:22 >> ใช่ครับแต่ว่าแต่ว่าปัจจุบันนี้คือมียาทำ
00:20:22 → 00:20:25 ฉีดหลายตัวนะฮะทำให้คนไข้รู้สึกสุขสบายนะ
00:20:25 → 00:20:28 ฮะรู้สึกว่าไม่ไม่ได้กังวลรู้สึกไม่เจ็บ
00:20:28 → 00:20:31 >> นะครับแล้วก็จำเหตุการณ์ช่วงนั้นอาจจะไม่
00:20:31 → 00:20:31 ค่อยได้
00:20:32 → 00:20:34 >> นะครับก็ถือว่าไม่ไม่เป็นบาดแผลทางจิตใจ
00:20:34 → 00:20:36 แล้วกันนะครับแล้วก็ได้รับข้อมูลแล้วก็
00:20:36 → 00:20:37 ปลอดภัยด้วย
00:20:37 → 00:20:40 >> นะครับจริงๆเรียนว่าอยากจะให้แบบว่าใน
00:20:40 → 00:20:42 กรณีที่แพทย์แนะนำว่าควรทำแล้วอยากจะให้
00:20:42 → 00:20:43 เข้ามาตรวจกันใน
00:20:43 → 00:20:46 >> ก็ต้องมาทำนะคะอืเพื่อความปลอดภัยของตัว
00:20:46 → 00:20:50 ท่านเองนะคะอีก 1 ท่านละกันค่ะคุณจินตนา
00:20:50 → 00:20:53 นะคะคุณจินตนาก็มาแชร์ข้อมูลกันนะคะบอก
00:20:53 → 00:20:56 ว่าตัวเองเป็นลำไส้อักเสบเนื่องจากภูมิ
00:20:56 → 00:20:57 คุ้มกัน
00:20:57 → 00:20:57 >> โอ
00:20:57 → 00:20:58 >> อื
00:20:58 → 00:21:01 >> แล้วก็เคยเข้าไปส่องกล้องเข้าอุโมงค์ 2
00:21:02 → 00:21:04 ครั้งแล้วค่ะแต่ว่าไม่พบอะไร
00:21:04 → 00:21:06 >> เป็นเพียงแค่ลำไส้อักเสบเท่านั้นอ่าอัน
00:21:06 → 00:21:10 นี้คือส่องแล้วก็จะได้โล่งใจนะคะอาจารย์
00:21:10 → 00:21:13 >> เอ่อเท่าที่ฟังอันนี้น่าจะเป็นคนละโลกกับ
00:21:13 → 00:21:16 ที่ผมนำเสนอในวันนี้นะฮะอันนี้อันนี้อาจ
00:21:16 → 00:21:19 จะเป็นโรคเหมือนที่เรียนว่าเกิดจากภูมิ
00:21:19 → 00:21:21 กันใช่ครับมีมีหลายโรคครับอย่างผมยกตัว
00:21:21 → 00:21:22 อย่างอย่างเช่นโรค
00:21:22 → 00:21:27 >> โรคโครนโรนติหรือว่าโรค alative เรื่องลำ
00:21:27 → 00:21:29 อักเสบพวกนี้เป็นในฝรั่งเยอะ
00:21:29 → 00:21:31 >> อย่างแค่พวกนี้มีความใกล้เคียงกับโรคพุ่ม
00:21:31 → 00:21:32 พวงมันเป็นจากภูมิกัน
00:21:32 → 00:21:33 >> อ
00:21:33 → 00:21:35 >> นะฮะแต่ว่าคือจริงๆเรียนว่ากว่าที่เราจะ
00:21:35 → 00:21:37 ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคตัวเนี้ยมัน
00:21:37 → 00:21:39 ต้องตรวจหลายอย่างมาก
00:21:39 → 00:21:39 >> ค่ะ
00:21:39 → 00:21:41 >> นะฮะดังนั้นคือคนไข้มักจะได้รับผ่านการ
00:21:41 → 00:21:44 ส่องกล้องมาละซึ่งคล้ายๆกันนะฮะแนวการ
00:21:44 → 00:21:46 ปฏิบัติของแพทย์คือในกรณีที่เราก็ค้นหา
00:21:46 → 00:21:48 ว่าโรคเขาเป็นมะเร็งก่อนหรือเปล่านะครับ
00:21:48 → 00:21:52 ถ้าไม่เป็นจากอะไรนะฮะเป็นจากโรคที่เรา
00:21:52 → 00:21:54 สามารถแก้ไขได้มยอะไรอย่างเงี้ยนะฮะมียา
00:21:54 → 00:21:56 อะไรมนะครับดังนั้นคือถ้าได้รับการตรวจ
00:21:57 → 00:21:59 รักษาสักระยะนึงถึงแม้ว่าจะไม่ใช่มะเร็ง
00:21:59 → 00:22:01 เราก็พยายามจะค้นหาอยู่ดีครับว่าเราจะ
00:22:01 → 00:22:04 สามารถทำให้คนไข้ดีขึ้นได้ยังไงครับผม
00:22:04 → 00:22:07 >> ค่ะคุณสมรนะคะบอกสอบถามถามอาจารย์หมอ
00:22:07 → 00:22:10 เพิ่มเติมค่ะว่าการส่องกล้องในผู้สูงอายุ
00:22:10 → 00:22:12 มีความเสี่ยงมั้คะ
00:22:12 → 00:22:15 >> เอ่อจริงๆเรียนว่าเรื่องของการตรวจเนี่ย
00:22:15 → 00:22:17 นะครับหรือว่าการทำหการทุกอย่างนะครับวัย
00:22:17 → 00:22:20 ที่สูงขึ้นเนี่ยก็ทำให้คนไข้เสี่ยงขึ้น
00:22:21 → 00:22:23 >> นะครับเพราะว่าแนเหมือนแน่นอนผมผมยกตัว
00:22:23 → 00:22:25 อย่างอย่างเช่นคนอายุ 90 กว่า 95 อยู่
00:22:25 → 00:22:28 บ้านเฉยๆก็ยังน่ากังวลเลยครับเรียนมา
00:22:28 → 00:22:29 เพราะอายุเยอะมาก
00:22:29 → 00:22:32 >> ใช่ใช่ครับแต่ว่าเรียนว่าการส่องกล้องนะ
00:22:32 → 00:22:35 ฮะถ้าตามระดับของหการถือว่าเป็นหการที่
00:22:35 → 00:22:36 เบาเบาที่สุด
00:22:36 → 00:22:38 >> อือืเบาที่สุดความเสี่ยงต่ำที่สุดครับ
00:22:38 → 00:22:41 ความเสี่ยงต่ำที่สุดก็คือแทบจะทำแบบไป
00:22:41 → 00:22:44 กลับได้ลักษณะพวกเนะครับดังนั้นคือว่าถือ
00:22:44 → 00:22:46 ว่ามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นครับแต่ว่าอยาก
00:22:46 → 00:22:49 ให้ในกรณีที่มีข้อบ่งชี้แล้วเราไม่ได้ใช้
00:22:49 → 00:22:52 ข้อจำกัดตรงนี้เป็นการตรวจบอกว่าเราจะไม่
00:22:52 → 00:22:53 ตรวจแล้วไม่ตรวจ
00:22:53 → 00:22:53 >> ค่ะ
00:22:53 → 00:22:55 >> นะครับผมว่าสามารถก็ทำได้ครับผม
00:22:55 → 00:23:00 >> อือ่ะโอตอนนี้คำถามในในเพจคณะแพทย์เยอะพอ
00:23:00 → 00:23:03 สมควรค่ะอาจารย์อีก 1 คำถามแล้วกันนะคะ
00:23:03 → 00:23:06 ก่อนที่เราจะพูดคุยกันต่อคุณทาทยบอกว่า
00:23:06 → 00:23:09 ถ้าเคยเป็นโรคกระเพาะเลือดออกในกระเพาะลำ
00:23:09 → 00:23:13 ไส้แปรปรวนรักษาหายแล้วแต่ยังต้องคอยดูแล
00:23:13 → 00:23:15 ไม่ให้มีอาการเยอะหรือว่าพอเป็นโรคอื่น
00:23:15 → 00:23:18 ทานยาเยอะก็ต้องกลับไปรักษาเรื่องของ
00:23:18 → 00:23:20 กระเพาะอาหารอีกนะคะอาจารย์จะมีโอกาสเป็น
00:23:20 → 00:23:23 มะเร็งกระเพาะอาหารมั้ยคะ
00:23:23 → 00:23:26 >> เอ่อผมผมขอใส่แบ่งอันนี้เป็นเป็นหลายๆ
00:23:26 → 00:23:27 กรณีแล้วกันนะ
00:23:27 → 00:23:30 >> คือเท่าที่ฟังเนี่ยนะฮะ
00:23:30 → 00:23:33 >> ท่านเนี้ยมีโอกาสเกิดแผลในกพหารได้ง่าย
00:23:33 → 00:23:36 >> นะฮะแบบมีมีเมีความเสี่ยงนะครับแผนแล้วก็
00:23:37 → 00:23:39 ง่ายๆซึ่งเหมือนร่างกายเรามันเหมือนแบบ
00:23:39 → 00:23:42 ว่าเหมือนวงดนตรีอ่ะนะฮะถ้ามันมีอะไรที่
00:23:42 → 00:23:44 มันผิดพลาดไปชิ้นนึงชิ้นอื่นมันมักจะผิด
00:23:44 → 00:23:46 พลาดอันนี้คล้ายๆกันถ้าเกิดแสดงว่าถ้าคุณ
00:23:46 → 00:23:48 ป่วยด้วยโรคอื่นอย่างสมมุติว่าเป็นโรคหัว
00:23:48 → 00:23:51 ใจต้องทานยาละลายลิ้นเลือดสมมุตินะครับ
00:23:51 → 00:23:53 หรือว่าการพวกเลือดแข็งตัวกระเพาะมักจะมี
00:23:54 → 00:23:54 อาการ
00:23:54 → 00:23:55 >> อื
00:23:55 → 00:23:59 >> หรือว่าเป็นโรคเข่านะฮะข้อเข่าเจ็บทานยา
00:23:59 → 00:24:01 เ่อเรื่องปัญหาแก้ปัญหาเรื่องเข่าบางทีทำ
00:24:01 → 00:24:03 ให้กระเพาะมีอาการอันนี้จริง
00:24:03 → 00:24:03 >> อื
00:24:03 → 00:24:06 >> นะฮะอันนี้จริงๆแต่ถามว่าตรงจุดนี้เกี่ยว
00:24:06 → 00:24:08 มีปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งโดย
00:24:08 → 00:24:12 ตรงมั้อาจจะไม่มีนะฮะยกเว้นยกเว้น
00:24:12 → 00:24:16 >> ว่าในกรณีไอ้ปัจจัยที่ทำให้คนไข้เป็นซ้ำ
00:24:16 → 00:24:18 เป็นซากเนี่ยมันเกี่ยวข้องกับแบคทีเรีย
00:24:18 → 00:24:19 >> อื
00:24:19 → 00:24:22 >> นะครับเหมือนที่โรงเรียนhโรลีหรือว่าคน
00:24:22 → 00:24:25 ไข้มีมีปัญหาที่เรียกว่ากระเพาะเสื่อม
00:24:25 → 00:24:27 เนื้อรังอยู่ด้วยทำให้กระเพาะไม่แข็งแรง
00:24:27 → 00:24:28 เรื่องของ
00:24:28 → 00:24:30 >> เรื่องของแพลนกเป็นได้เป็นไปได้ง่ายอย่าง
00:24:30 → 00:24:33 เงี้นะฮะตรงจุดนี้น่าจะต้องมาหาสาเหตุตรง
00:24:33 → 00:24:36 นี้ครับว่ามีหรือเปล่าหรือว่าถ้าถ้ามีตรง
00:24:36 → 00:24:38 เแหละครับที่จะเป็นตัวนำไปสู่การเป็น
00:24:38 → 00:24:41 มะเร็งนะครับเรื่องของการเรื่องของปัญหา
00:24:41 → 00:24:43 ที่ว่าเอ้ยเลือดออกซ้ำเรื้อรังหลายครั้ง
00:24:43 → 00:24:46 มันขึ้นอยู่กับต้นเหตุนะครับว่าเป็นอะไร
00:24:46 → 00:24:48 ไม่ใช่ทุกเคสที่จะเป็นมีปัจจัยเสี่ยงที่
00:24:48 → 00:24:49 จะเป็นมะเร็งมากขึ้นครับ
00:24:49 → 00:24:54 >> ค่ะอ่ะนี่นะคะก็คุณหมอก็ตอบคำถามเรียบ
00:24:54 → 00:24:57 ร้อยนะคะก็มีอีกหลายคำถามเดี๋เราทยอยตอบ
00:24:57 → 00:25:00 กันแล้วกันนะคะอาจารย์คะค่ะทีนี้พูดถึง
00:25:00 → 00:25:02 มะเร็งกระเพาะอาหารเมื่อสักครู่ที่เราบอก
00:25:02 → 00:25:04 ไปว่ามี 4 ระยะ
00:25:04 → 00:25:07 อาจารย์พอจะลงรายละเอียดอย่างนี้ได้คะว่า
00:25:07 → 00:25:11 แต่ระยะแต่ละระยะ 1 2 3 4 อาการมัน
00:25:11 → 00:25:13 เป็นยังไงบ้างแตกต่างกันมากน้อยขนาดไหน
00:25:13 → 00:25:15 >> ครับผมผมขอคุยให้ฟังเรื่องอาการนิดนึง
00:25:15 → 00:25:19 ก่อนนะฮะถ้าเป็นมะเร็งเนี่ยระยะเริ่มต้น
00:25:19 → 00:25:22 เนี่ยนะฮะอาการเขามักจะอยู่ที่เฉพาะที่
00:25:22 → 00:25:22 ครับ
00:25:22 → 00:25:24 >> เฉพาะที่ก็คืออยู่ที่เฉพาะกระเพาะอาหาร
00:25:24 → 00:25:26 เท่านั้นนะฮะดังนั้นคือมันมักจะเกี่ยว
00:25:26 → 00:25:31 ข้องกับการกินนะฮะอย่างเช่นว่ากินเข้าไป
00:25:31 → 00:25:35 อิ่มไวหรือว่าอ่อนกินปวดหลังกินก็ปวดท้อง
00:25:35 → 00:25:37 อะไรอย่างเงี้ยกินอาหารแล้วปวดท้องคล้ายๆ
00:25:37 → 00:25:39 ลักษณะอย่างงั้นบางทีอาการใกล้กับโรค
00:25:39 → 00:25:41 กระเพาะอาหารเลยนะฮะเหมือนที่ผมเรียนก็
00:25:41 → 00:25:43 คือว่าอาการมันใกล้เคียงกับพ่ออาหารมาก
00:25:43 → 00:25:45 แต่ในกรณีที่คนไข้เป็นมากขึ้นมากขึ้นตัว
00:25:45 → 00:25:47 ของมะเร็งมันกระจายออกจากกระเพาะอาหาร
00:25:47 → 00:25:50 อย่างเช่นบางท่านเนี่ยมาด้วยท้องมารน้ำนะ
00:25:50 → 00:25:52 ครับมีน้ำในช่องท้องเยอะมากเลยมะเร็ง
00:25:52 → 00:25:53 กระจายในช่องท้องเต็มไปหมด
00:25:53 → 00:25:55 >> หรือว่ามาด้วย
00:25:55 → 00:25:58 >> ไอผิดปกติไอเรื้อรังนะครับมะเร็งกระจายไป
00:25:58 → 00:26:00 ที่ปอดหรือว่ามีต่อมน้ำเหลืองโตที่บริเวณ
00:26:00 → 00:26:01 คอ
00:26:01 → 00:26:04 >> หรือว่าอาจจะมาด้วยปัญหาหาว่ามีการอ่อน
00:26:04 → 00:26:07 แรงแขนขามะเร็งกระจายสมองนี้ก็เป็นไปได้
00:26:07 → 00:26:08 นะฮะเป็นไปได้
00:26:08 → 00:26:11 >> นะฮะซึ่งซึมีตรงจุดระหว่างการนี้ก็มีหลาย
00:26:12 → 00:26:14 อันอย่างเช่นว่ามะเร็งเริ่มเป็นเยอะ
00:26:14 → 00:26:16 >> บางทีคนไข้น้ำหนักลดเยอะมาก
00:26:16 → 00:26:18 >> ลดเยอะมากถ่ายเป็นเลือดก็มีถ่ายสีดำอะไร
00:26:18 → 00:26:21 อย่างงี้ก็มีนะครับดังนั้นในกรณีที่มัน
00:26:21 → 00:26:23 เป็นน้อยๆอาการมักจะใกล้เคียงกับเรื่อง
00:26:23 → 00:26:25 ของกระเพาะอาหารปกติธรรมดาถ้าเริ่มเป็น
00:26:25 → 00:26:28 มากขึ้นคนไข้ก็จะเริ่มมีความไม่สุขสบาย
00:26:28 → 00:26:30 จากเรื่องของมะเร็งที่มันเป็นเยอะนะครับ
00:26:30 → 00:26:32 และถ้าเป็นเยอะที่สุดก็คงจะมีเรื่องของ
00:26:32 → 00:26:35 อาการของการกระจายของโลกเกิดขึ้นครับผม
00:26:35 → 00:26:39 อือนะคะเพราะฉะนั้นก็ถ้าเกิดว่ามีอาการ
00:26:39 → 00:26:43 ผิดปกติแล้วไปหาหมอหมอแนะนำว่าเราควรจะ
00:26:43 → 00:26:46 ได้รับการตรวจด้วยการส่องกล้องก็ควรเข้า
00:26:46 → 00:26:47 รับการตรวจ
00:26:47 → 00:26:51 >> นะคะเออเพราะถ้าเกิดว่าเราเจออ่าเนื้อ
00:26:51 → 00:26:54 ร้ายแล้วมันเป็นระยะท้ายๆเนี่ยมันจะไม่
00:26:54 → 00:26:56 ทันนะคะอาจารย์มะเร็งกระเพาะอาหารรักษา
00:26:56 → 00:26:58 หายมั้คะอาจารย์คะ
00:26:58 → 00:27:01 >> ใช่เอ่อเรียนๆว่าหายนะครับแต่ว่ามันขึ้น
00:27:01 → 00:27:03 กับระยะยะของโลก
00:27:03 → 00:27:06 >> เป็นหลักจริงๆมะเร็งแทบแทบทุกอย่างนะครับ
00:27:06 → 00:27:09 ลักษณะคล้ายกันก็คือว่าถ้าเป็นน้อยๆอ่ะ
00:27:09 → 00:27:10 โอกาสหายเยอะมาก
00:27:10 → 00:27:14 >> รักษาทันใช่อาหารหายแบบ 90% 100%
00:27:14 → 00:27:16 >> นะครับแต่ถ้ามันเป็นระยะสูงมากๆจริงๆ
00:27:17 → 00:27:20 อย่างระยะที่ 4 นะโอกาสหายก็น้อยลงเรื่อย
00:27:20 → 00:27:23 ๆบางโลกเหมือนซื้อหวยอครับก็คือบางทีโอ
00:27:23 → 00:27:27 ยากมากที่จะถูกเออโอาจารย์เปรียบเทียบให้
00:27:27 → 00:27:28 เห็นภาพเลยนะคะ
00:27:28 → 00:27:31 >> ใช่ครับก็คือดังนั้นคือว่าในกรณีคือระยะ
00:27:31 → 00:27:34 ของโลกเนี่ยเป็นตัวบอกที่สำคัญมากๆว่า
00:27:34 → 00:27:36 ท่านนี้จะหายหรือเปล่านะครับแล้ววิธีการ
00:27:36 → 00:27:37 รักษาก็แตกต่างกันด้วยครับ
00:27:37 → 00:27:38 >> ค่ะครับผม
00:27:38 → 00:27:41 >> อ่าเราพูดถึงวิธีการรักษากันเลยกันค่ะ
00:27:41 → 00:27:44 อาจารย์คะว่าถ้าเกิดว่าอ่ามีคนไข้ที่เป็น
00:27:44 → 00:27:47 มะเร็งกระเพาะอาหารเอาตั้งแต่ระยะที่ 1
00:27:47 → 00:27:49 ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ไปเลยนะคะอาจารย์
00:27:49 → 00:27:50 >> ครับ
00:27:50 → 00:27:52 >> แนวทางในการรักษาเป็นยังไงบ้างต่างกัน
00:27:53 → 00:27:53 มั้ยคะ
00:27:53 → 00:27:57 >> ครับแนวทางในการรักษาก็คือเรียนว่าก็คือ
00:27:57 → 00:27:59 เราต้องพยายามกำจัดให้มะเร็งมันหมดไปจาก
00:27:59 → 00:28:02 ร่างกายนะครับในกรณีที่มันเป็นระยะที่ 1
00:28:02 → 00:28:05 เนี่ยนะฮะมะเร็งเนี่ยอยู่เฉพาะที่แบบ
00:28:05 → 00:28:08 เยื่อบุกระเพาะอาหารเลยนะฮะเยื่อบุนๆเลย
00:28:08 → 00:28:10 นะครับยังไม่กระจายไปถึงไหนโอกาสไปต่อม
00:28:10 → 00:28:12 เหลืองบางบางทีน้อยมากนะครับ
00:28:12 → 00:28:12 >> อื
00:28:13 → 00:28:15 >> เราบางทีบางบางทีจังหวะที่อาจารย์เเข้าไป
00:28:15 → 00:28:17 ส่องกล้องอาจารย์หมอไปส่องกล้องเข้าไปดู
00:28:17 → 00:28:19 หมอเข้าไปส่องกล้องดูเนี่ยเห็นเซลล์ที่
00:28:19 → 00:28:24 มันปกติชัดเจนทำการตัดนะครับทำการตัดออก
00:28:24 → 00:28:24 ไป
00:28:24 → 00:28:25 >> ค่ะ
00:28:25 → 00:28:26 >> นี่คือหายเลยนะครับ
00:28:26 → 00:28:27 >> หายเลยเหรอคะอาจารย์
00:28:27 → 00:28:29 >> หายเลยหายเลยนะฮะก็คือหายเลยก็คือการ
00:28:29 → 00:28:32 รักษาด้วยการ 2 กล้องผ่านการสงข้องทางปาก
00:28:32 → 00:28:32 เท่านั้น
00:28:32 → 00:28:35 >> คือก็ไม่ต้องไปทำคีโมหรืออะไรไม่ต้องทำ
00:28:35 → 00:28:38 คีโมอะไรเลยนะครับไม่ต้องทำอะไรเลยแต่แปล
00:28:38 → 00:28:38 ว่า
00:28:38 → 00:28:40 >> ยิ่งเป็นน้อยยิ่งรักษาง่าย
00:28:40 → 00:28:41 >> อันนี้คือระยะต้นๆ
00:28:41 → 00:28:44 >> นี่คือระยะที่ 1 นะฮะระยะที่ 1 ก็คือว่า
00:28:44 → 00:28:46 หายเลยนะครับไม่ต้องไปผ่าตัดใหญ่ด้วยนะฮะ
00:28:46 → 00:28:49 จริงๆเรียนว่าแล้วก็โอกาสหายก็คือไกล 100%
00:28:49 → 00:28:49 มาก
00:28:49 → 00:28:50 >> อื
00:28:50 → 00:28:52 >> แต่ถ้าเป็นเยอะขึ้นนะฮะเยอะขึ้นอย่างเช่น
00:28:52 → 00:28:54 ว่าเอ้ยเริ่มมันเริ่มก้อนมันเริ่มใหญ่ละ
00:28:54 → 00:28:56 มีการกระจายไปต่อมน้ำเหลืองอะไรอย่าง
00:28:56 → 00:29:00 เงี้ยนะฮะจำเป็นต้องตัดกระพ่อออกบางส่วน
00:29:00 → 00:29:02 บางครั้งอาจจะต้องให้คีโมก่อน
00:29:02 → 00:29:03 >> อื
00:29:03 → 00:29:06 >> หรือว่าต้องให้คีโมหลังคีโมเข้ามามีส่วน
00:29:06 → 00:29:09 เยอะละนะฮะเพราะว่ามันเเริ่มออกไปข้างนอก
00:29:09 → 00:29:11 ละคีโมก็มีส่วนนะครับบางท่านเป็นเยอะมาก
00:29:11 → 00:29:14 บางทีผ่าเริ่มผ่าเลยไม่ได้ก็ต้องให้คีโม
00:29:14 → 00:29:14 ก่อนก็มี
00:29:14 → 00:29:15 >> อือฮึ
00:29:15 → 00:29:17 >> นะฮะพอมันเป็นเยอะขึ้นเรื่อยๆเราก็ต้อง
00:29:17 → 00:29:19 เอากระเพาะออกนะครับบางบางท่านเป็นเยอะ
00:29:20 → 00:29:23 มากกระเพาะต้องเอาออกทั้งหมดออกทั้งหมด
00:29:23 → 00:29:25 เลยบางทีต้องเอาอวัยวะใกล้เคียงออกด้วย
00:29:25 → 00:29:28 เอามาม้าออกตับส่วนใกล้ๆอะไรลักษณะอย่าง
00:29:28 → 00:29:30 งี้ตับอ่อนอะไรอย่างเงี้นะครับเพราะเ
00:29:30 → 00:29:32 เริ่มออกไปมากขึ้นนะครับพวกนี้ก็คือมักจะ
00:29:32 → 00:29:35 ต้องได้คีโมด้วยแหละบางครั้งก็คือเราอาจ
00:29:35 → 00:29:37 จะไม่สามารถผ่าตัดผ่านกล้องได้เพราะเรียน
00:29:37 → 00:29:39 ว่าปัจจุบันมะเร็งกระเพาะอาหารส่วนใหญ่นะ
00:29:39 → 00:29:40 ฮะผ่าตัดผ่านกล้องได้
00:29:40 → 00:29:40 >> อื
00:29:41 → 00:29:43 >> นะครับผมแต่แต่ในกรณีที่แบบอุ๊ยเป็นเยอะ
00:29:43 → 00:29:45 มากจริงๆบางทีผาผ่านกล้องไม่ได้นะครับ
00:29:45 → 00:29:47 จำเป็นต้องผ่าแบบผ่าใหญ่ผ่าเปิด
00:29:47 → 00:29:49 >> ก็อาการฟื้นตัวก็ช้ากว่า
00:29:49 → 00:29:50 >> ค่ะ
00:29:50 → 00:29:53 >> สุดท้ายในกรณีที่ถ้ากระจายแล้วอ่ะนะฮะการ
00:29:53 → 00:29:56 กระจายแล้วคือการผ่าตัดมักจะเป็นตัวเสริม
00:29:56 → 00:29:59 นะฮะการรักษาหลักก็คือเป็นการให้คีโมโม
00:29:59 → 00:30:02 บางครั้งก็มีการให้ยาที่เราก็จะมีนะฮะมี
00:30:02 → 00:30:06 ยาต้านตัวลับยาอิมมูโนคือเรื่องของผลลัพธ
00:30:06 → 00:30:09 รักษาก็ถือว่าถือว่าแบบใกล้เคียงอาย
00:30:09 → 00:30:11 >> เดี๋ยวนี้เ้ามียามุ่งเป้างี้มั้คะอาจารย์
00:30:11 → 00:30:13 >> ใช่แล้วครับยายาต้านตัวรับยาหรือว่ายา
00:30:13 → 00:30:15 มุ่งเป้านี่แหละครับคือเราก็จะตรวจอ่ะนะ
00:30:15 → 00:30:18 ฮะว่าตรวจว่าเอ๊ะเอาเซลล์ของท่านไปตรวจ
00:30:18 → 00:30:21 ว่ามันมีมีปัญหาอะไรบ้างแล้วก็มีสามารถ
00:30:21 → 00:30:23 เข้ากับยาตัวไหนได้บ้างอาจารย์ทาง
00:30:23 → 00:30:25 อยุรกรรมมะเร็งของเราหรือว่าเป็นศัลยกรรม
00:30:25 → 00:30:28 มะเร็งของเราก็จะสามารถ
00:30:28 → 00:30:29 >> ให้ยาที่มันจำพอที่สุด
00:30:29 → 00:30:31 >> มันก็สื่อถ้าทำให้ดีขึ้นที่สุดนะฮะแต่
00:30:31 → 00:30:34 เรียนว่าสู้มาระยะแรกไม่ได้
00:30:34 → 00:30:34 >> ค่ะ
00:30:34 → 00:30:36 >> นะฮะนะฮะยิ่งดังนั้นคือยิ่งเป็นเยอะก็คือ
00:30:36 → 00:30:39 ยิ่งรักษายากขึ้นครับแต่แน่นอนว่าการ
00:30:39 → 00:30:42 รักษาของอย่างที่สวนดอกของเราเนี่ยก็มี
00:30:42 → 00:30:45 การให้ยาลักษณะที่ค่อนข้างที่จะจะใหม่ที่
00:30:45 → 00:30:48 สุดนะครับแล้วก็ทำให้อัตราการตอบสนองนี่
00:30:48 → 00:30:51 สูงที่สุดเรียนว่าในในอดีตคือว่าถ้าแบบ
00:30:51 → 00:30:53 ว่าเป็นเยอะขนาดนี้ก็คือไม่ไหวแต่
00:30:53 → 00:30:56 ปัจจุบันก็คือบางท่านอยู่ได้นานมากถึงแม้
00:30:56 → 00:30:59 ว่าเป็นระยะกระจายละถึงระยะที่ 3 ท่านก็
00:30:59 → 00:30:59 หาย
00:31:00 → 00:31:01 >> เป็นไปได้ครับ
00:31:01 → 00:31:04 >> อคะเดี๋ยวนี้ก็มีนวัตกรรมมีเทคโนโลยีมี
00:31:04 → 00:31:07 ความก้าวหน้าทางการแพทย์ต่างๆเข้ามาช่วย
00:31:07 → 00:31:10 แต่ว่าสิ่งแรกที่สำคัญเลยก็คือต้องไปตรวจ
00:31:10 → 00:31:11 ก่อนนะคะ
00:31:11 → 00:31:13 >> สำคัญที่สุดก็คือว่าเราต้องเข้าสู่กระบวน
00:31:13 → 00:31:16 การรักษาก่อนนะครับเพราะเหมือนผมเรียนตอน
00:31:16 → 00:31:19 แรกบางทีคนไทยแบบอดทนน่ะนะครับว่ากินอัน
00:31:19 → 00:31:22 นี้ไม่ไหวอ่ะเราเปลี่ยนมากินอ่อนใช่ครับ
00:31:22 → 00:31:25 กินอ่อนๆก่อนว่ากินยาก่อนอะไรอย่างเงี้ย
00:31:25 → 00:31:28 กินยานู่นยานี่ยาตัวนั้นคนนั้นว่าอื
00:31:28 → 00:31:30 >> ตอนนี้ยังไม่ว่างไปตรวจพอสุดท้ายก็คือ
00:31:30 → 00:31:31 เป็นเยอะ
00:31:31 → 00:31:33 >> เป็นเยอะถ้าเข้าสู่กระบวนการหลักการรักษา
00:31:33 → 00:31:35 แล้วตรวจพบนี่ก็คือ
00:31:35 → 00:31:37 >> สำหรับแพทย์นี่ก็คือจะค่อนข้างง่ายขึ้น
00:31:37 → 00:31:38 ตรงไปตรงมามากขึ้น
00:31:38 → 00:31:41 >> ค่ะอ่าถ้าเกิดว่าเป็นระยะที่ 1 ระยะที่ 2
00:31:41 → 00:31:43 อาจจะตัดกระเพาะอาหารไปบางส่วนมีมั้คะ
00:31:43 → 00:31:46 อาจารย์หมอคะที่ต้องตัดกระเพาะอาหารทั้ง
00:31:46 → 00:31:48 หมดเลยเงี้ยค่ะ
00:31:48 → 00:31:50 >> มีครับแต่จริงๆการตัดกระเพาะลักษณะนี้ไม่
00:31:50 → 00:31:52 เหมือนไม่เหมือนปัจจุบันที่กำลังกำลังฮิต
00:31:52 → 00:31:55 กันนะฮะก็คือปัจจุบันรถอ้วนรถ
00:31:55 → 00:31:58 >> อ้วนลดน้ำหนักเงี้ยใช่ครับถ้าทุกท่านอาจ
00:31:58 → 00:32:00 จะเคยได้ยินได้ฟังแล้วว่าดูในสื่อสื่อ
00:32:00 → 00:32:01 โซเชียล
00:32:01 → 00:32:02 >> ดูในรายการเรานี่แหละค่ะอาจารย์
00:32:02 → 00:32:05 >> อ้าเหรอครับใช่ครับก็คือก็คือก็คือที่ที่
00:32:05 → 00:32:08 มหาราชนี่ก็ก็ทำเยอะเหมือนกันนะครับการ
00:32:08 → 00:32:11 ผ่าตัดลดความอ้วนด้วยเทคนิค Sleep ค่ะอื
00:32:11 → 00:32:14 >> อันนั้นคือเขาจะเอาส่วนของกระเพาะอาหาร
00:32:14 → 00:32:16 ออกไปเยอะเหมือนกัน
00:32:16 → 00:32:18 >> ทำให้กินได้น้อย
00:32:18 → 00:32:21 >> นะฮะแต่ว่าของกระเพาะอาหารเนี่ยจุดที่จะ
00:32:21 → 00:32:23 มีความแตกต่างกันมากก็คือว่าเรามักจะ
00:32:23 → 00:32:27 จำเป็นต้องเอาต่อมน้ำเหลืองนะฮะที่เขา้า
00:32:27 → 00:32:29 มีน่าเดาว่าคาดว่าจะมีมะเร็งกระจายไป
00:32:29 → 00:32:30 เนี่ยออกด้วย
00:32:30 → 00:32:31 >> อ
00:32:31 → 00:32:35 >> นะฮะและก็คือเรื่องของการตัดกระเพาะเนี่ย
00:32:35 → 00:32:37 เทคนิคก็จะมีความแตกต่างกันนะคะเทคนิค
00:32:37 → 00:32:40 สลีฟมักจะไม่ค่อยได้ใช้ในกรณีนี้เรามักจะ
00:32:40 → 00:32:43 ตัดกระเพาะส่วนปลายหรือว่าส่วนต้นหรือว่า
00:32:43 → 00:32:44 ตัดออกทั้งหมดเลย
00:32:44 → 00:32:44 >> ค่ะ
00:32:44 → 00:32:46 >> นะครับเทคนิคสลีฟคือตัดตัดๆให้มันเป็นท่อ
00:32:46 → 00:32:48 แบนๆใช่มั้ครับท่อท่ออะไรใช้แต่นี้อันนี้
00:32:49 → 00:32:52 คือคือคนคนละแบบกันเทคนิคก็คือคนละอย่าง
00:32:52 → 00:32:55 แต่ว่ามีมีครับก็คือว่าคนไข้มีโอกาสที่จะ
00:32:55 → 00:32:56 เสียกระเพาะไปทั้งหมดเลย
00:32:56 → 00:32:57 >> อื
00:32:57 → 00:32:59 >> การรับประทานอาหารก็จะแย่ลง
00:32:59 → 00:33:01 >> ค่ะพอเราไม่มีกระเพาะเราทำยังไงคะอาจารย์
00:33:01 → 00:33:02 คะ
00:33:02 → 00:33:05 >> เอ่ออยู่ยังอยู่ได้นะครับแต่ว่าเรียนว่า
00:33:05 → 00:33:08 ทานลดลงแน่นอนนะฮะทานได้ลดลงแน่นอนเราจะ
00:33:08 → 00:33:10 ส่วนใหญ่เราเอาลำไส้เล็กนะฮะลำไส้เล็ก
00:33:10 → 00:33:13 ส่วนเจจจูนั่ำนะฮะส่วนกลางเนี่ยเอาขึ้นมา
00:33:13 → 00:33:16 ทำเป็นลักษณะคล้ายๆเป็นกระเพาะเทียมไว้
00:33:16 → 00:33:18 ใกล้ๆตรงจุดนั้นคนไข้มักจะช่วงแรกๆมักจะ
00:33:18 → 00:33:20 ทานได้ประมาณ 5 คำ 10 คำอะไรอย่างเงี้ย
00:33:21 → 00:33:23 แต่ว่าสักระยะนึงกระเพาะเขาก็จะขยายตัว
00:33:23 → 00:33:25 ขึ้นนะฮะก็จะทานได้ดีขึ้น
00:33:25 → 00:33:28 >> อือก็จะทานได้อาจ 10 20 ค่ำหรือว่าถึง 1
00:33:28 → 00:33:30 ถ้วยใช้เวลานิดนึง
00:33:30 → 00:33:33 >> นะฮะคนไข้ความอยากอาหารก็จะลดลงครับคล้าย
00:33:33 → 00:33:36 ๆผาอ้วนนั่นแหละครับเพราะว่าเรื่องของเขา
00:33:36 → 00:33:38 เรียกว่าฮอร์โมนที่มาจากทางเดินอาหารตัว
00:33:38 → 00:33:42 หนึ่งชื่อกีลินเขาจะลดลงหายไปบางทีความ
00:33:42 → 00:33:43 อยากอาหารหายไปเลย
00:33:43 → 00:33:46 >> ไม่อยากทานอะไรนะฮะมีอย่างอื่นที่กระทบ
00:33:46 → 00:33:50 ได้อีกอย่างเช่นการดูดซึมวิตามิน B12 นะ
00:33:50 → 00:33:53 ฮะเรียนว่ากระเพาะอาหารเนี่ยมีการสร้าง
00:33:53 → 00:33:57 โปรตีนตัวสำคัญนะครับชื่อใช่
00:33:57 → 00:34:00 FOR นี่เป็นตัวที่จะเจะเหมือนเป็นแบบลด
00:34:00 → 00:34:03 ขนส่งอ่ะครับนำวิตามิน B12 ไปดูดซึมที่ลำ
00:34:03 → 00:34:06 ไส้เหล็กแต่ว่าคือคือถ้าขาดตัวจุดนี้แล้ว
00:34:06 → 00:34:07 นี่คือแบบ
00:34:07 → 00:34:10 >> เอ่อดูดซึมไม่ได้บางทีเนี่ยอาจจะต้องคือ
00:34:10 → 00:34:12 มีความจำเป็นต้องฉีดวิตามินตัวนี้ด้วย
00:34:12 → 00:34:12 >> อือ
00:34:13 → 00:34:16 >> นะฮะก็ก็แต่จริงๆคล้ายๆว่าเทียบกันมัน
00:34:16 → 00:34:18 เหมือนต้องแลกมาการรักษาผาตัดกระเพาะบาง
00:34:18 → 00:34:21 ทีเพราะว่ามันก็สูญเสียอะไรอวยสำคัญของ
00:34:21 → 00:34:22 เราไป
00:34:22 → 00:34:24 >> นะครับแต่ว่าซึ่งมีฟังก์ชันเยอะมากเลย
00:34:24 → 00:34:27 เพราะแต่ว่าก็คือว่าเขาแบบเป็นเนื้อราย
00:34:27 → 00:34:29 แล้วถ้าเราไม่ตัดก็คือโอกาสการรอดชีวิตก็
00:34:29 → 00:34:34 จะน้อยนะฮะดังนั้นก็คือมีอะไรที่ต้องอาจ
00:34:34 → 00:34:36 จะต้องสูญเสียไปแล้วก็แบบชีวิตอาจจะไม่
00:34:36 → 00:34:38 เหมือนเดิมนะฮะแต่ว่าแต่ว่าของแบบ
00:34:38 → 00:34:40 คอนเฟิร์มอยู่ได้นะฮะคนไข้ตังกระพาะไป
00:34:40 → 00:34:41 เยอะอยู่ได้นะครับ
00:34:41 → 00:34:46 >> อืนะคะก็เป็นแนวทางในการรักษาแต่อย่าให้
00:34:46 → 00:34:50 ไปถึงตรงนั้นนะคะอาจารย์บางคนนะคะมี FC
00:34:50 → 00:34:51 อาจารย์บอกว่า
00:34:51 → 00:34:54 >> แค่เห็นหน้าอาจารย์ก็หายไปแล้วครึ่งนึง
00:34:54 → 00:34:59 โอ้โหเออแต่ถ้ามาเข้าสู่กระบวนการรักษาก็
00:34:59 → 00:35:01 จะดีขึ้นแต่ดีที่สุดคือไม่อยากมาเจอ
00:35:01 → 00:35:03 อาจารย์เไม่อยากเป็น
00:35:03 → 00:35:05 >> ดีๆครับเจอเจอกันข้างนอกไม่เป็นไรครับเจอ
00:35:05 → 00:35:06 ที่โรงพยาบาลอย่าอย่า
00:35:06 → 00:35:08 >> แต่อย่าแต่อย่ามาเจอที่โรงพยาบาลนะคะ
00:35:08 → 00:35:12 อาจารย์อืนะคะอ่ะใน YouTube ของเราสนาะ
00:35:12 → 00:35:14 Channel ค่ะมีคุณผู้ชมถามเข้ามาคุณธนดล
00:35:14 → 00:35:17 นะคะถามอาจารย์หมอว่าหากมีปัญหาเกี่ยวกับ
00:35:17 → 00:35:21 กรดไหลย้อนในกระเพาะอาหารอ่ากรดในกระเพาะ
00:35:21 → 00:35:23 อาหารเยอะอันนี้มีความเสี่ยงมั้คะกับการ
00:35:23 → 00:35:25 เป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร
00:35:25 → 00:35:26 >> เอ่อ
00:35:26 → 00:35:29 กรดๆไหลย้อนเนี่ยนะครับจจริงๆเรียนว่า
00:35:29 → 00:35:32 อาการก็คือกรดอ่ะมันไหลขึ้นไปในหลอดอาหาร
00:35:32 → 00:35:35 นะฮะมันทำให้เพิ่มความเสี่ยงการเป็น
00:35:35 → 00:35:37 มะเร็งมเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง
00:35:37 → 00:35:40 ส่วนปลายของหลอดอาหารมากกว่า
00:35:40 → 00:35:40 >> อื
00:35:40 → 00:35:43 >> นะครับเพราะว่าในกรณีกรดมันขึ้นไปนานๆ
00:35:43 → 00:35:46 เนี่ยนะครับผมเขาจะทำให้ปลายหลอดอาหารมี
00:35:46 → 00:35:49 การอักเสบบางทีมีเซลล์เปลี่ยนแปลงได้นะ
00:35:49 → 00:35:51 ครับอย่างท่านบางท่านเป็นมาหลายปีเนี่ยนะ
00:35:51 → 00:35:53 ครับไปส่องกล้องดูโหมีเซลล์เปลี่ยนแปลง
00:35:53 → 00:35:56 อันนี้ 2 กล้องก็ทราบนะฮะเห็นเซลล์มีการ
00:35:56 → 00:35:57 เปลี่ยนแปลงพอเซลล์เปลี่ยนแปลงเซลล์ตรง
00:35:57 → 00:35:59 นี้แหละครับจะเปลี่ยนแปลงกลายเป็นมะเร็ง
00:35:59 → 00:36:02 ในในที่สุดนะครับมีโอกาสเลยนะครับดังนั้น
00:36:02 → 00:36:06 คือการที่มีกฎไหลย้อนนานๆไม่ดีอ
00:36:06 → 00:36:09 >> ไม่ดีครับไม่ดีต้องมาตรวจครับอาจจะต้อง
00:36:09 → 00:36:11 รับประทานยาหรือว่าจริงๆเรียนว่าก็มีการ
00:36:11 → 00:36:14 ผ่าตัดที่จำเพาะนะครับกับภาวะกดระยอนด้วย
00:36:14 → 00:36:16 >> นะครับในคนไข้ที่เป็นชาวต่างประเทศเนี่ย
00:36:17 → 00:36:21 คือนิยมมากก็คือการทำหูรูดเทียมนะครับของ
00:36:21 → 00:36:23 หลอดอาหารส่วนปลาย
00:36:23 → 00:36:26 >> มีๆมีชาวต่างชาติจะนิยมนะฮะถ้าเป็นคนไทย
00:36:26 → 00:36:29 ส่วนใหญ่ก็ถ้าทานยาดีขึ้นก็ไม่ต้องทำ
00:36:29 → 00:36:29 >> ค่ะ
00:36:29 → 00:36:30 >> นะครับผม
00:36:30 → 00:36:35 >> อ่าคุณธนดลนะคะก็ลองไปหาคุณหมอดูก่อนนะคะ
00:36:35 → 00:36:37 ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของกรดใน
00:36:38 → 00:36:41 กระเพาะอาหารเยอะนะคะก็ก็ลองไปตรวจกันอีก
00:36:41 → 00:36:46 ทีนึงนะคะท้องเสียบ่อยค่ะอาจารย์คะแล้วก็
00:36:46 → 00:36:50 บางครั้งมีเลือดปนออกมาด้วยแล้วก็มีอาการ
00:36:50 → 00:36:51 อ่อนแรง
00:36:51 → 00:36:54 อันนี้เข้าขายมั้คะอาจารย์ท้องๆจริงๆ
00:36:54 → 00:36:55 >> อ่อนเพลียเงี้ยค่ะ
00:36:56 → 00:36:59 >> เข้าข่ายฮะซึ่งเรียนว่าท้องเสียบ่อยเนี่ย
00:36:59 → 00:37:02 ถ้าเกี่ยวกับการขับถ่ายนะฮะก็คือจะเข้า
00:37:02 → 00:37:03 กับมีโอกาส
00:37:03 → 00:37:05 >> เสี่ยงกับมะเร็งลำไส้มากกว่า
00:37:05 → 00:37:06 >> ค่ะ
00:37:06 → 00:37:11 >> การถ่ายผิดปกติไปจากเดิมนะฮะไม่ว่าจะ
00:37:11 → 00:37:13 >> ถ่ายมากถ่ายน้อย
00:37:13 → 00:37:13 >> ค่ะ
00:37:13 → 00:37:16 >> ก็ถือว่าเป็นตัวที่เสี่ยงทั้งนั้นนะครับ
00:37:16 → 00:37:18 อย่างปกติบางท่านก็ถ่ายถ่ายทุกวันนะวันละ
00:37:18 → 00:37:20 ครั้งมา 10 ปีแล้ว
00:37:20 → 00:37:21 >> ช่วงนี้
00:37:21 → 00:37:23 3 วันถ่ายทีแต่ว่าถ้าถ่ายเสร็จก็ถ่าย
00:37:23 → 00:37:24 เหลวเยอะเลย
00:37:24 → 00:37:26 >> เอาอันนี้อันนี้น่าน่ากังวล
00:37:26 → 00:37:29 >> ใช่ครับการมีเลือดปนก็เหมือนกันนะครับถ้า
00:37:29 → 00:37:31 ยิ่งถ้ามันมีเลือดมีลิ่มเลือดด้วยอย่าง
00:37:31 → 00:37:33 เงี้ยนะครับก็มีโอกาสที่จะเกิดจากมะเร็ง
00:37:33 → 00:37:36 ก็ได้เกิดจากแผลในทางเดินอาหารจากลำไซส์
00:37:36 → 00:37:36 ใหญ่ก็ได้
00:37:36 → 00:37:37 >> อ
00:37:37 → 00:37:38 >> นะครับดังนั้นคือเท่าที่ฟังอาการเนี่ย
00:37:39 → 00:37:43 อาการอ่อนเพลียน่าจะเป็นผลผลลัพธ์จาก
00:37:43 → 00:37:46 ผลท้องเสียด้วยว่าการที่เราเลือดออกบ่อย
00:37:46 → 00:37:48 แล้วก็มีพภาวะซีดด้วยนะครับดังนั้นคือตรง
00:37:48 → 00:37:51 เนี้ยน่าจะเรียนว่าต้องต้องมาตรวจนะครับ
00:37:51 → 00:37:52 รีบมาตรวจนะครับแต่อาจจะไม่ตรงกับมะเร็ง
00:37:52 → 00:37:54 กระเพาะซะทีเดียวครับอาจจะเบ่งลำไซส์ใหญ่
00:37:54 → 00:37:54 ครับ
00:37:55 → 00:37:58 >> อืก็ควรจะไปตรวจดูก่อนนะคะว่าเราเป็นอะไร
00:37:58 → 00:38:01 นะคะอ่ะอาจารย์พูดถึงวิธีการรักษาไปแล้ว
00:38:01 → 00:38:04 ว่าเรามีวิธีการรักษาด้วยวิธีใดบ้างนะคะ
00:38:04 → 00:38:08 แต่ละระยะนะคะทีนี้ถ้าเราไม่อยากเป็นเลย
00:38:08 → 00:38:11 อาจารย์คะเราต้องกลับไปย้อนไปที่ความ
00:38:11 → 00:38:13 เสี่ยงที่อาจารย์บอกเมื่อสักครู่นี้
00:38:13 → 00:38:13 >> ใช่ครับ
00:38:14 → 00:38:16 >> เราจะลดความเสี่ยงหรือเราจะป้องกันได้ยัง
00:38:16 → 00:38:19 ไงบ้างคะสำหรับมะเร็งกระเพาะอาหาร
00:38:19 → 00:38:20 >> เอิ่ม
00:38:20 → 00:38:21 เดี๋ยวผมขออนุญาตโชว์สไลด์อันนี้มันมันก็
00:38:21 → 00:38:25 คือจริงๆเรียนว่าเรียนว่าเรียนว่ามันก็
00:38:25 → 00:38:28 คือการตรงข้ามอ่ะครับเป็น co part ของ
00:38:28 → 00:38:29 ตรงข้ามกับเมื่อกี้
00:38:29 → 00:38:31 >> ใช่ตรงข้ามกับเมื่อกี้นะฮะการเมื่อกี้อัน
00:38:31 → 00:38:32 ที่ 1 ก็คือว่า
00:38:32 → 00:38:34 >> ถ้าถ้าเราไปตรวจเราก็ต้องรักษาแบคทีเรีย
00:38:34 → 00:38:36 ตัวนี้ว่าเป็นหรือเปล่านะครับแบคทีเรีย
00:38:36 → 00:38:39 เฮิโคบคเตอร์อาหารก็โฟกัสทานผักผลไม้ค่ะ
00:38:39 → 00:38:40 วิตามินซี
00:38:40 → 00:38:41 >> อื
00:38:41 → 00:38:43 >> เลิกบุหรี่ถ้าเป็นไปได้เพราะจริงๆเรียน
00:38:43 → 00:38:46 ว่าเรียนว่าไม่มีแทบแทบไม่มีข้อดีนะฮะ
00:38:46 → 00:38:48 บุหรี่ก็คือทำให้ป่วยนะฮะ
00:38:48 → 00:38:52 >> สืบดื่มสุราก็คือลดลงนะฮะแต่พอดีถ้าว่า
00:38:52 → 00:38:55 ควบคุมไม่ได้ก็เลิกเลยก็ดี
00:38:55 → 00:38:57 ถ้าเลิกถ้าเลิกไม่ได้ก็พยายามพยายามอย่า
00:38:57 → 00:38:58 ให้เยอะเกินไป
00:38:58 → 00:39:00 >> นะครับแล้วก็อาหารที่ที่มีความเสี่ยงกับ
00:39:00 → 00:39:02 มะเร็งกระเพาะอาหารอย่างเช่นผมเรียนอาหาร
00:39:02 → 00:39:04 ที่แบบแปรรูปมากๆ
00:39:04 → 00:39:06 >> นะครับเค็มมากๆ
00:39:06 → 00:39:09 >> ดองเค็มทั้งหลายกิมจิอะไรคล้ายๆโคตร
00:39:09 → 00:39:11 เกาหลีเป็นเยอะมากเลยนะก็ใส่อย่างเงี้ยนะ
00:39:11 → 00:39:13 ฮะก็คืออาหารที่แบบปิ้งย่างอะไรอย่าง
00:39:13 → 00:39:14 เงี้ยนะฮะก็คือ
00:39:14 → 00:39:18 >> พยายามอย่าอย่ามากเกินไปนะครับผมแล้วก็
00:39:18 → 00:39:21 แล้วก็คือยังไงก็ตามคือว่าถ้าค้นพบแล้ว
00:39:21 → 00:39:24 ว่ามีมีการอักเสบเรื้อรังเกิดขึ้นเคยเข้า
00:39:24 → 00:39:27 กระบวนการหลักการรักษานะตรงตรงจุดเนี้ย
00:39:27 → 00:39:29 การที่มาพบแพทย์อย่างต่อเนื่องนี่ก็จะ
00:39:29 → 00:39:32 ช่วยได้นะครับทำให้ท่านน่ะไม่ไม่กลายเป็น
00:39:32 → 00:39:33 มะเร็งกระเพาะอาหารในที่สุด
00:39:33 → 00:39:36 >> นะครับดังนั้นคือจริงๆเรียนว่า
00:39:36 → 00:39:40 >> การถ้าเกิดเราทราบข้อมูลแล้วพูดง่ายครับ
00:39:40 → 00:39:41 บางทีทำยาก
00:39:41 → 00:39:43 >> ทำยากนะคะนะครับแต่ว่าข้อมูลอยากจะเรียน
00:39:43 → 00:39:45 ให้ทุกท่านทราบไว้ก่อนว่าตอนปัจจุบันก็
00:39:45 → 00:39:47 เป็นข้อมีข้อมูลประมาณนี้นะครับ
00:39:47 → 00:39:49 >> อย่างน้อยๆได้รู้ข้อมูลก็จะได้เอาไป
00:39:49 → 00:39:51 วิเคราะห์กับสภาพร่างกายตัวเองนะคะ
00:39:51 → 00:39:54 อาจารย์ว่าเอ๊ะเราเป็นอยู่นี่มันใช่หรือ
00:39:54 → 00:39:57 ยังเอ๊ะหรืออาจจะยังไม่ใช่เงี้ยนะคะ
00:39:57 → 00:40:00 >> เออแล้วอย่างการตรวจสุขภาพประจำปีที่เรา
00:40:00 → 00:40:02 ตรวจกันทุกปีเงี้ล่ะคะอาจารย์อันนี้มี
00:40:02 → 00:40:04 โอกาสเจอได้มั้คะ
00:40:04 → 00:40:06 >> เอคือจริงๆเรียนว่ามะเร็งกระเพาะเนี่ยนะ
00:40:06 → 00:40:09 ฮะเป็นลักษณะเป็นมะเร็งที่เป็นไม่เยอะใน
00:40:09 → 00:40:12 ประเทศไทยถามว่าเรามีมีลักษณะการตรวจที่
00:40:12 → 00:40:15 เป็นสeningโปรแกรมสำหรับเขาโดยตรงมไม่มี
00:40:15 → 00:40:17 นะครับยังไม่มียังรู้สึกว่ายังไม่แบบไม่
00:40:17 → 00:40:20 คุ้มคุมค่าอะไรอย่างเงี้ยนะครับผมการตรวจ
00:40:20 → 00:40:23 ประจำปีโดยส่วนใหญ่เราก็จะตรวจเลือดกัน
00:40:23 → 00:40:23 >> นะครับ
00:40:24 → 00:40:26 >> ยังยังไม่มีการตรวจที่จำเพาะนะครับกับ
00:40:26 → 00:40:28 มะเร็งกระเพาะอาหารสิ่งที่อาจจะพบได้
00:40:28 → 00:40:29 อย่างเช่นอย่างเช่นอ่าคนไข้อาจจะซีดผิด
00:40:29 → 00:40:32 ปกติสมมุตินะฮะมีความเรื่องซีดซึ่งในในคน
00:40:33 → 00:40:35 ไข้ผู้ใหญ่ในกรณีที่ที่ไม่มีประวัติเสีย
00:40:35 → 00:40:38 เลือดที่ไหนชัดเจนในทางเดินอาหารมักจะ
00:40:38 → 00:40:40 เป็นผู้ร้ายนะครับคนไข้มักจะเสียเลือดทาง
00:40:40 → 00:40:42 เดินอาหารนี่แหละซึ่งเราอาจจะนำไปสู่การ
00:40:42 → 00:40:45 ตรวจที่มากขึ้นแต่เรียนว่าการตรวจโดยตรง
00:40:45 → 00:40:48 นี่ยังยังไม่มีนะครับเทียบกับประเทศที่เา
00:40:48 → 00:40:49 เป็นเยอะๆ
00:40:49 → 00:40:51 >> เป็นเยอะๆอย่างเช่นเกาหลีญี่ปุ่นจีนหรือ
00:40:51 → 00:40:55 ว่าอะไรเนี่ยนะฮะหรือว่าคนไข้ที่มาจากโซน
00:40:55 → 00:40:58 วันนั้นน่ะถ้าอายุเกิน 45-50 ปีเขามักจะ
00:40:58 → 00:41:00 แนะนำให้มีการส่องกล้องทางเดินอาหารส่วน
00:41:00 → 00:41:02 ต้นด้วยนะฮะเรียนว่าการส่องกล้องทางเดิน
00:41:02 → 00:41:05 อาหารส่วนปลายนี่ถือว่าจำเป็นนะฮะในกรณี
00:41:05 → 00:41:08 ที่อายุเกิน 45 ปีจำเป็นต้องทำสักครั้ง
00:41:08 → 00:41:11 นึงอ่ะ 5 ปี 10 ปีนะครับแต่ทางส่วนต้นนี่
00:41:11 → 00:41:13 คือบางทีเราจะแถมเข้าไป
00:41:13 → 00:41:15 >> ก็ได้นะครับเพราะจริงๆเรียนว่าใช้เวลาใน
00:41:15 → 00:41:16 การตรวจ
00:41:16 → 00:41:19 >> น้อยกว่านะนะครับเราถ้าเกิดว่าไม่เคยตรวจ
00:41:19 → 00:41:21 ทางเดินอาหารส่วนปลายเรามักจะแนะนำพ่วง
00:41:21 → 00:41:22 กันอ
00:41:22 → 00:41:24 >> นะฮะเรียนว่าการตรวจด้วยการส่องกล้องทาง
00:41:24 → 00:41:27 เดินอาหารส่วนปลายนะครับเป็นการตรวจที่ดี
00:41:27 → 00:41:30 กว่าดีกว่าการตรวจด้วยค่า CEA อย่างเดียว
00:41:30 → 00:41:31 >> อื
00:41:31 → 00:41:33 >> ค่า CEA ก็คือเรียนว่ามันจะขึ้นก็คือ
00:41:33 → 00:41:35 มะเร็งต้องเป็นเยอะแล้วนะครับซึ่งซึเป็น
00:41:35 → 00:41:38 ไม่ใช่หัวใจของการตรวจปเพื่อป้องกันนะ
00:41:38 → 00:41:40 ครับตรวจเพื่อป้องกันเราต้องการดูว่ามัน
00:41:40 → 00:41:42 มีเซลล์ผิดปกติอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า
00:41:42 → 00:41:45 >> มีชิ้นเนื้อโพลิหรือเปล่าตรงเสำคัญมากนะ
00:41:45 → 00:41:47 ครับดังนั้นคือการตรวจตรวจด้วยการส่อง
00:41:47 → 00:41:49 กล้องพ่วงเข้าไปกับการตรวจสนนิไม่ไม่
00:41:49 → 00:41:52 จำเป็นต้องทำทุกปีนะครับ 5 ปีหรือ 10 ปี
00:41:52 → 00:41:54 ครั้งนึงเนี่ยถือว่าถือว่าอาจจะช่วยลดใน
00:41:54 → 00:41:55 กรณีนี้
00:41:55 → 00:41:55 >> อื
00:41:55 → 00:41:58 >> นะครับผมในประเทศบางประเทศเนี่ยนะฮะเามี
00:41:58 → 00:42:01 นวัตกรรมตรวจเลือดตรวจเลือดอย่างเช่นตรวจ
00:42:01 → 00:42:04 หาฮอร์โมนบางตัวมาเกอร์บางตัวอย่างเช่น
00:42:04 → 00:42:05 เปปซิโนเจน
00:42:05 → 00:42:06 >> ค่ะอาจารย์
00:42:06 → 00:42:08 >> อันนี้บอกภาวะกระเพาะเสื่อมได้แต่ประเทศ
00:42:08 → 00:42:10 ไทยยังไม่มีการตรวจแพร่หลายนะครับใช้อัน
00:42:10 → 00:42:12 นี้ตรงนี้ใช้เยอะในพวกประเทศอย่างเช่น
00:42:12 → 00:42:13 ญี่ปุ่น
00:42:13 → 00:42:13 >> อื
00:42:13 → 00:42:15 >> อะไรอย่างเงี้ยนะครับเมีเยอะนะครับแต่
00:42:15 → 00:42:17 ประเทศไทยผมที่ผมแนะนำได้ก็คือว่า 1 ก็
00:42:18 → 00:42:20 คือการตรวจการคุยประวัติกับแพทย์ที่ทำการ
00:42:20 → 00:42:22 ซักประวัติในการตรวจร่างกายประจำปีว่า
00:42:22 → 00:42:24 เอ๊ะจะมีการผิดปกติยังไงหรือเปล่านะครับ
00:42:24 → 00:42:26 การโฟกัสดูว่าความเข้มของเม็ดเลือดเรา
00:42:26 → 00:42:27 เป็นยังไง
00:42:27 → 00:42:30 >> นะครับผมแล้วก็ดูการเช็คว่าคนไข้เคยเช็ค
00:42:30 → 00:42:32 มะเร็งลำไส้ใหญ่หรือยังบางครั้งเราอาจจะ
00:42:32 → 00:42:35 พ่วงเรื่องของการตรวจ 2 กล้องส่วนปลาย
00:42:35 → 00:42:36 แล้วก็ 2 กล้องเดือดอาหารส่วนต้นเข้าไป
00:42:37 → 00:42:37 ด้วยครับ
00:42:37 → 00:42:39 >> ค่ะคืออย่างการซักประวัติพูดคุยกับ
00:42:39 → 00:42:41 อาจารย์หมอเนี่ยบางทีคนไข้ก็ต้องพูดความ
00:42:41 → 00:42:42 จริงนะคะอาจารย์คะ
00:42:42 → 00:42:45 >> อุปชัยบางทีบางเจอหมอแบบว่าชอบโอ๊ยเฮ้ย
00:42:45 → 00:42:48 อันนี้ไม่มีไม่มีไม่มีอย่างเงี้ยฮะแต่ว่า
00:42:48 → 00:42:51 อาจจะจริงๆเรียนว่าแพทย์คือไม่ได้คืออยาก
00:42:51 → 00:42:52 จะช่วยท่านแบบมันเหมือนทีมเดียวกันเราไม่
00:42:52 → 00:42:55 ได้แบบจะไปมองตัดสินว่าท่านเป็นยังไงนะฮะ
00:42:55 → 00:42:58 นะฮะก็ดังนั้นคือคุยกันแบบแชร์ข้อมูลกัน
00:42:58 → 00:43:00 >> ก็ต้องให้ข้อมูลที่เป็นจริงนะคะที่เกิด
00:43:00 → 00:43:03 ขึ้นกับเราจริงๆการมาตรวจด้วยการส่อง
00:43:03 → 00:43:04 กล้องจำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลมั้ยคะ
00:43:04 → 00:43:06 อาจารย์คะ
00:43:06 → 00:43:10 >> ปัจจุบัน 90% ไม่ต้องนอนนะครับคือคือผมผม
00:43:10 → 00:43:12 เอาละ 10% ไว้อย่างบางท่านมีปัจจัยเสียง
00:43:12 → 00:43:14 เยอะมากอย่างเช่นโหหัวใจล้มเหลวอะไรที่
00:43:14 → 00:43:18 รุนแรงมาก
00:43:18 → 00:43:20 [เพลง]
00:43:20 → 00:43:24 แต่ว่าการตรวจกล้องเป็นการตรวจไปกลับครับ
00:43:24 → 00:43:24 ผม
00:43:24 → 00:43:26 >> ก็กลับบ้านได้เลยครับหลังจากคล้ายๆคนไข้
00:43:27 → 00:43:28 ตื่นดีก็กลับได้นะครับผม
00:43:28 → 00:43:31 >> อนะคะก็ไม่ยุ่งยากไม่ต้องมานอนโรงพยาบาล
00:43:31 → 00:43:32 แล้วก็
00:43:32 → 00:43:35 >> ไม่เจ็บตัวด้วยนะคะเออนะคะอย่างที่
00:43:35 → 00:43:37 อาจารย์บอกคุณ
00:43:37 → 00:43:40 >> คุณผู้ชมถามกันเข้ามานะคะใช้ชื่อเฟซว่า
00:43:40 → 00:43:42 ครอบครัวอบอุ่นนะคะขออนุญาตสอบถามอาจารย์
00:43:42 → 00:43:45 หมอค่ะท้องโตมากแต่ว่าไม่ได้มีอาการใดๆ
00:43:46 → 00:43:47 อันนี้เสี่ยงมั้ยคะอาจารย์คะ
00:43:47 → 00:43:52 >> เอิท้องท้องโตนี่มันอาจจะต้องแบ่งหลาย
00:43:52 → 00:43:54 อย่างนะฮะอย่างอ้วนก็ได้ครับ
00:43:54 → 00:43:55 >> เรียนๆ
00:43:55 → 00:43:56 >> คือโตแบบไหน
00:43:56 → 00:43:58 >> ใช่ครับมันมีมันมีอะไรอยู่ในท้องได้หลาย
00:43:58 → 00:44:00 อย่างนะครับมีเป็นก้อนก็ได้
00:44:00 → 00:44:00 >> ค่ะ
00:44:00 → 00:44:03 >> ท้องโตมากแต่คือผมเรียนอย่างงี้ถ้าท้องโต
00:44:03 → 00:44:04 ผิดปกติอ่ะ
00:44:04 → 00:44:04 >> อื
00:44:04 → 00:44:07 >> บางครั้งอาการยังไม่ต้องมีก็ได้ครับ
00:44:07 → 00:44:08 >> เพราะเพราะ
00:44:09 → 00:44:12 >> ไอ้ตัวพัเค้าเรียกว่าอะไรครับพยาธิสภาพ
00:44:12 → 00:44:16 บางอย่างเค้าโตมากโดยที่เราไม่มีอาการได้
00:44:16 → 00:44:20 อย่างเช่นมะเร็งกระเพาะอาหารแบบอื่นนะ
00:44:20 → 00:44:22 ครับแบบไม่ใช่เยบุอย่างเช่นมะเร็งกระเพาะ
00:44:22 → 00:44:25 อาหารแบบจี๊สนะครับหรือว่าเนื้องอกในช่อง
00:44:25 → 00:44:28 ท้องที่เขาไม่ได้กินไปทางอาหารโดยตรงบาง
00:44:28 → 00:44:30 ทีเขากินพื้นที่ในท้องไปได้เยอะมากเลย
00:44:30 → 00:44:32 กว่าที่คนไข้จะเริ่มมีอาการ
00:44:32 → 00:44:34 >> นะครับดังนั้นดังนั้นคือในกรณีที่มันมี
00:44:34 → 00:44:36 ความผิดปกติเกิดคือเราเห็นแล้วโอ๊ยมันไม่
00:44:36 → 00:44:39 เหมือนเดิมมันมีท้องโตบางจุดอะไรอย่างี้
00:44:39 → 00:44:42 นะครับถึงแม้ว่ายังกินข้าวได้ถ่ายได้อะไร
00:44:42 → 00:44:45 แนะนำมาตรวจครับเพราะว่ามีโอกาสที่จะเกิด
00:44:45 → 00:44:47 หลักเหมือนที่ผมเรียนนะครับว่าอาจจะเป็น
00:44:47 → 00:44:49 เนื้องอกชนิดที่มันไม่ค่อยปกติก็ได้
00:44:49 → 00:44:52 >> นะครับมาตรวจก่อนนะครับแพทย์คำดูตรวจ
00:44:52 → 00:44:55 อัตตราซาวเพิ่มเติมหรือว่าตรวจสแกนเพิ่ม
00:44:55 → 00:44:57 เติมก็จะทราบได้ครับว่าท่านน่ะมีปัญหาผิด
00:44:57 → 00:44:58 ปกติจริงหรือเปล่า
00:44:58 → 00:45:01 >> ค่ะก็ต้องสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้น
00:45:01 → 00:45:04 กับร่างกายอย่างท้องโตเนี่ยบางทีมันอยู่
00:45:04 → 00:45:06 ดีๆมันก็โตมาเลยจนสังเกตได้เงี้ยนะคะ
00:45:06 → 00:45:09 อาจารย์อันนั้นก็คือความผิดปกติแล้วก็ควร
00:45:09 → 00:45:12 จะมาตรวจนะคะแต่ว่าถ้าเกิดว่าน้ำหนักขึ้น
00:45:12 → 00:45:15 หรือช่วงนั้นเราเป็นอ่าช่วงที่เจริญอาหาร
00:45:15 → 00:45:16 อันนั้นเป็นอีกเรื่องนะคะอาจารย์
00:45:16 → 00:45:18 >> ใช่ครับถ้าอ้วนเป็นก็ก็อีกเรื่องครับ
00:45:18 → 00:45:21 >> ค่ะอ่านี่นะคะก็อาจารย์ก็ตอบคำถามเรียบ
00:45:21 → 00:45:23 ร้อยคุณเสาวลักษณ์บอกว่าอาจารย์ให้คำแนะ
00:45:23 → 00:45:27 นำดีมากค่ะเคยรักษาให้กับคุณพ่อด้วยเออมี
00:45:27 → 00:45:30 คนไข้อาจารย์ชมรายการหลายท่านเหมือนกันนะ
00:45:30 → 00:45:33 คะวันนี้ก็บอกว่าได้ความรู้มากๆเลยรวมไป
00:45:33 → 00:45:35 ถึงพิธีกรก็ได้ความรู้เหมือนกันนะคะวัน
00:45:35 → 00:45:39 นี้ก็รับบทเป็นชาวบ้านนะคะอาจารย์ถาม
00:45:39 → 00:45:42 เผื่อคุณผู้ชมหลายๆท่านนะคะที่ยังไม่ดู
00:45:42 → 00:45:44 ว่ามะเร็งกระเพาะอาหารนี่มันเป็นยังไงนะ
00:45:44 → 00:45:47 คะแล้วก็มันมันแบบว่ามันมีวิธีการรักษา
00:45:47 → 00:45:49 ยังไงพูดถึงแนวทางการรักษานิดนึงค่ะ
00:45:50 → 00:45:52 อาจารย์อย่างในโรงพยาบาลมหาราชของเรานี่
00:45:52 → 00:45:55 ถือว่าครอบคลุมมั้คะอย่างผู้ป่วยที่เป็น
00:45:55 → 00:45:57 สิทธิ์บัตรทองสิทธิ์ประกันสังคมเงี้ยค่ะ
00:45:57 → 00:46:00 >> ครอบครอบคลุมครับเรารักษาทุกสิทธิ์อ่ะนะ
00:46:00 → 00:46:04 ฮะตั้งแต่ตั้งแต่บัตรทองนะฮะบัตรทองแล้ว
00:46:04 → 00:46:05 ก็
00:46:05 → 00:46:07 >> ประกันสังคมนะครับประกันสังคมของที่
00:46:07 → 00:46:09 มหาราชก็มีนะฮะก็ได้รับการรักษาที่ดีที่
00:46:09 → 00:46:11 สุดเหมือนกันแล้วก็สิทธิ์เบิกตรงข้า
00:46:11 → 00:46:14 ราชการก็ได้นะครับหรือว่าเป็นสิทธิ์อื่น
00:46:14 → 00:46:18 นะฮะทปท.ประกันชีวิตหรือว่าเป็นเงินสด
00:46:18 → 00:46:20 หรือว่าต่างคล้ายๆว่าเป็นชาวต่างประเทศ
00:46:20 → 00:46:22 แล้วก็รักษาหมดทุกสิทธิ์นะฮะทุกสิทธิ์
00:46:22 → 00:46:24 ซึ่งเรียนว่า
00:46:24 → 00:46:28 >> แน่นอนมันมีความแตกต่างกับสิ่งใในยาบาง
00:46:28 → 00:46:31 ตัวสมมุติคือแพทย์คือคือแต่แพทย์เนี่ยนะ
00:46:31 → 00:46:33 ฮะก็คือจะพยายามให้สิ่งที่ดีที่สุดกับคน
00:46:33 → 00:46:36 ไข้นะครับในงบประมาณที่ที่เหมาะสมแต่คือ
00:46:36 → 00:46:39 เราเราไม่ได้ปิดบังนะอย่างเช่นท่านนึง
00:46:39 → 00:46:42 สมมุติว่าผมเรียนตรงยกตัวอย่างตรงๆอย่าง
00:46:42 → 00:46:43 บัตรบัตรทอง
00:46:43 → 00:46:43 >> ค่ะ
00:46:43 → 00:46:46 >> ยาบางตัวได้สู้สู้สู้สิทธิ์อย่างเช่นของ
00:46:46 → 00:46:48 เบิกตงข้าราชการไม่ได้
00:46:48 → 00:46:48 >> อื
00:46:48 → 00:46:51 >> นะฮะเรียนมีจริงๆแต่ว่าเราเราก็จะบอกนะฮะ
00:46:51 → 00:46:54 เรียนว่าเรียนท่านที่แบบว่าจำเป็นต้องใช้
00:46:54 → 00:46:58 ยาว่ายาตัวเนี้ยมันมีข้อดีอย่างี้
00:46:58 → 00:46:58 >> อ่า
00:46:58 → 00:46:59 >> มีข้อไม่ดีอย่างงี้
00:46:59 → 00:47:00 >> ค่ะ
00:47:00 → 00:47:01 >> เสียค่าใช้จ่ายเท่านี้
00:47:02 → 00:47:02 >> อ่า
00:47:02 → 00:47:06 >> ทางรัฐหลวงให้เท่าไหร่นะฮะคนไข้ต้องเสริม
00:47:06 → 00:47:06 เท่าไหร่
00:47:06 → 00:47:07 >> อื
00:47:07 → 00:47:08 >> แล้วมันจะคุ้มค่ามั้ย
00:47:08 → 00:47:09 >> อ
00:47:09 → 00:47:11 >> นะฮะแล้วก็จะได้ทราบด้วยว่าไอ้เศรษฐะของ
00:47:11 → 00:47:13 ไข้แต่ละท่านเป็นยังไงผมผมเรียนว่าบางที
00:47:13 → 00:47:15 เนี่ยยาบางตัวแพงมากเลยค่ะอาจารย์
00:47:15 → 00:47:17 >> คนไข้อยู่ด้วยได้ต่างกัน 1 เดือน 6 เดือน
00:47:17 → 00:47:19 กับ 7 เดือน
00:47:19 → 00:47:19 >> อื
00:47:19 → 00:47:22 >> แต่ว่าแต่ว่าในในทางงานวิจัยทางลักษณะทาง
00:47:22 → 00:47:25 คลินิกเนี่ยถือว่ามีความชัดเจนนะครับว่า
00:47:25 → 00:47:27 มีความแตกต่างกันดีกว่า 1 เดือน
00:47:27 → 00:47:27 >> ค่ะ
00:47:27 → 00:47:30 >> แต่เรียนว่าบางทีเสียเงินหลายๆ
00:47:30 → 00:47:31 >> เสียเงินเยอะเออ
00:47:32 → 00:47:34 >> ถ้าถ้าเรียนว่าสำหรับตัวสมตัวผมเองผมรู้
00:47:34 → 00:47:37 สึกไม่คุ้มแต่แต่สมมุติว่าบางท่านสมมุติ
00:47:37 → 00:47:38 ว่าอย่างอย่างพิธีกร
00:47:38 → 00:47:38 >> ค่ะ
00:47:38 → 00:47:40 >> โอรวยมากมีเงิน
00:47:40 → 00:47:40 >> โอ
00:47:40 → 00:47:42 >> ใช่ๆคล้ายๆอย่างงั้นนะครับเความคุ้มค่า
00:47:42 → 00:47:43 ของแต่ละท่านไม่เท่ากัน
00:47:43 → 00:47:45 >> ก็ไม่เหมือนกันนะใช่ครับดังนั้นแต่ว่าคือ
00:47:45 → 00:47:48 แพทย์อ่ะพยายามจะแจ้งว่าเอ๊ะมันมีอะไรได้
00:47:48 → 00:47:51 บ้างอย่างท่านมันจูจะเหมาะสมอย่างบางท่าน
00:47:51 → 00:47:54 ก็คือว่าอุ้ยมันดูว่าหมอมาว่าไม่คุ้มค่า
00:47:54 → 00:47:56 เพราะอะไรอะไรอย่าเงี้ยคือเราก็จะเรียน
00:47:56 → 00:47:58 แจ้งนะครับแต่เพราะว่าเราไปตัดสินใจแทน
00:47:59 → 00:48:00 ผู้ป่วยไม่ได้เราไม่ทราบว่าแต่ละท่าน
00:48:00 → 00:48:03 เนี่ยเศรษฐะเป็นยังไงความจำเป็นอะไรเป็น
00:48:03 → 00:48:06 ยังไงแล้วก็คล้ายๆว่ามีเป้าหมายในชีวิตก็
00:48:06 → 00:48:08 ไม่ต่างก็ก็ต่างกันนะครับก็ต่างกันอัน
00:48:08 → 00:48:11 นั้นคือเราก็จะบอกนั้นคือการรักษาคือจะใน
00:48:11 → 00:48:13 กรณีส่วนโดยส่วนใหญ่ผมผมอันนี้เป็นเป็น
00:48:13 → 00:48:16 ส่วนน้อยส่วนใหญ่คือได้การรักษาเหมือนกัน
00:48:16 → 00:48:16 >> ค่ะ
00:48:16 → 00:48:19 >> เหมือนกันคือทางแบบว่ารัฐบาลแล้วก็มีการ
00:48:19 → 00:48:22 ซัพพอร์ตแล้วก็มีการให้งบประมาณอยู่ทำให้
00:48:22 → 00:48:23 เราได้ให้การรักษาที่ดีที่สุด
00:48:23 → 00:48:24 >> ก็ถือว่าครอบคลุมนะคะอาจารย์
00:48:24 → 00:48:26 >> ใช่ครับถ้าอะไรจำเป็นต้องใช้แพทย์จะบอก
00:48:26 → 00:48:27 ครับ
00:48:27 → 00:48:30 >> อเพราะฉะนั้นเวลามาตรวจแล้วคุณหมอกำลัง
00:48:30 → 00:48:32 วิเคราะห์ประเมินอยู่ว่าเราจะต้องใช้ยา
00:48:32 → 00:48:34 ตัวไหนอาจจะต้องให้เวลาสักนิดนึงนะคะ
00:48:34 → 00:48:37 >> ใช่ครับใช่ครับก็ก็จริงๆบางทีมีความยุ่ง
00:48:38 → 00:48:40 ย่างในในกระบวนการจริงๆครับบางทีเราเรา
00:48:40 → 00:48:43 ไม่สามารถตัดสินใจเองได้ด้วยในบางครั้ง
00:48:43 → 00:48:46 >> เราต้องส่งข้อมูลทุกอย่างเนี่ยไปให้ส่วน
00:48:46 → 00:48:49 กลางนะฮะแพทย์ส่วนกลางของทางรัฐบาลเนี่ย
00:48:49 → 00:48:52 เขาตัดสินใจว่าอย่างท่านเนี่ยคุ้มค่ามั้ย
00:48:52 → 00:48:52 >> อ่า
00:48:52 → 00:48:55 >> นะฮะถ้าถ้าแต่ว่าส่วนใหญ่เขามักจะเห็นตรง
00:48:55 → 00:48:56 กันนะฮะอย่างอาจารย์ที่นี่รู้สึกเห็นว่า
00:48:56 → 00:49:00 มันต้องใช้ล่ะทางนู้นก็มักจะไปด้วยกันแต่
00:49:00 → 00:49:03 บางทีตรงจุดเนี้ยมันมันมีมันมีเวลานิดนึง
00:49:03 → 00:49:05 นะฮะก็อยากแพทย์พยายามจะเรียนอยู่แล้ว
00:49:05 → 00:49:07 ครับว่าว่าต้องใช้เวลาบ้าง
00:49:07 → 00:49:10 >> อค่ะแต่เชื่อเถอะนะคะว่าทุกแนวทางที่คุณ
00:49:10 → 00:49:12 หมอมอบให้ก็คือเป็นแนวทางที่ดีที่สุด
00:49:12 → 00:49:15 >> ใช่สำหรับผู้ป่วยแต่ละรายก็อย่างที่บอก
00:49:15 → 00:49:18 ว่าแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันนะคะอืบางคนอ้วน
00:49:18 → 00:49:20 บางคนผอมคือความเสี่ยงแต่ละคนก็ไม่เหมือน
00:49:20 → 00:49:23 กันเพราะฉะนั้นแนวทางการรักษาก็อาจจะมี
00:49:23 → 00:49:25 แตกต่างกันบ้างนะคะอาจารย์คะอ่ะมาถึงช่วง
00:49:25 → 00:49:27 ท้ายรายการแล้วค่ะอาจารย์คะวันนี้เราได้
00:49:27 → 00:49:30 ความรู้เยอะมากๆเกี่ยวกับเรื่องของมะเร็ง
00:49:30 → 00:49:32 กระเพาะอาหารท้ายสุดอยากจะให้อาจารย์ฝาก
00:49:32 → 00:49:34 ถึงคุณผู้ชมสักนิดนึงค่ะวันนี้เกี่ยวกับ
00:49:34 → 00:49:37 เรื่องของพฤติกรรมเสี่ยงมะเร็งกระเพาะ
00:49:37 → 00:49:39 อาหารค่ะอาจารย์คะ
00:49:39 → 00:49:41 >> ครับผมก็อยากจะไป take home message นะ
00:49:41 → 00:49:44 ฮะก็คือสิ่งที่มาทั้งหมดเลยนะฮะที่ที่ได้
00:49:44 → 00:49:48 ที่ได้คุยกันมาตั้งแต่ต้นรายการนะครับว่า
00:49:48 → 00:49:51 1 ก็คือพยายามลดปัจจัยเสี่ยงที่ควบคุม
00:49:51 → 00:49:54 ได้ในชีวิตเรานะครับการรับประทานอาหารนะ
00:49:54 → 00:49:56 ครับเรื่อง Healthy Eating Healthy
00:49:56 → 00:49:59 Life นะครับเรื่องของการแบบว่าไม่บริโภค
00:49:59 → 00:50:01 สุราบุหรี่อะไรมากเกินไปนะครับทานสิ่งที่
00:50:01 → 00:50:04 มีประโยชน์นะครับผมไม่ทานพวกอาหารที่แบบ
00:50:04 → 00:50:07 ใส่สารถอมอาหารมากเกินไปอะไรอย่างี้นะ
00:50:07 → 00:50:09 ครับอันนี้ก็คือเป็นการลดนะครับเป็นการลด
00:50:09 → 00:50:12 ปัจจัยเสียงอย่างที่ 2 ก็คือว่าในกรณีนี้
00:50:12 → 00:50:14 ที่พยายามสังเกตตัวเองว่ามีความเปลี่ยน
00:50:14 → 00:50:16 แปลงอะไรเกิดขึ้นของร่างกายหรือเปล่านะ
00:50:16 → 00:50:17 ครับโดยเฉพาะสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการรับ
00:50:17 → 00:50:20 ประทานอาหารนะครับอย่าปล่อยให้คุณรู้สึก
00:50:20 → 00:50:22 ว่าเอ้ยมันเจ็บความเจ็บป่วยบางอย่างเนี่ย
00:50:22 → 00:50:25 มันอยู่กับเรานานเกินไปนะครับพยายามเข้า
00:50:25 → 00:50:28 สู่ระบบนะครับมาพบแพทย์ปรึกษากันว่าเอ๊ะ
00:50:28 → 00:50:31 ตรงนี้มันมีโอกาสที่จะรักษาได้มยมีโอกาส
00:50:31 → 00:50:34 ที่จะเกิดจากต้นเหตุเป็นอะไรบ้างนะครับ
00:50:34 → 00:50:37 ซึ่งมาพอมาพบแพทย์เสร็จแพทย์ก็จะสามารถ
00:50:37 → 00:50:39 แบบได้รับข้อมูลจากท่านแล้วก็สามารถ
00:50:39 → 00:50:41 ประมวลผลแล้วก็แนะนำได้ว่าเอ๊ะเราจะต้อง
00:50:41 → 00:50:43 จำเป็นต้องไปตรวจอะไรต่อไปซึ่งตรงจุด
00:50:43 → 00:50:46 เนี้ยนะครับก็จะทำให้ในกรณีกรณีที่เราโชค
00:50:46 → 00:50:49 ร้ายจริงๆป่วยจริงๆนะครับก็จะทำให้คนไข้
00:50:49 → 00:50:52 เข้าสู่ระบบการรักษาได้เร็วแล้วก็ได้ผล
00:50:52 → 00:50:55 ลัพธ์ที่ดีขึ้นนะครับผมอยากจะฝากเท่านี้
00:50:55 → 00:50:56 ครับผมขอบคุณครับ
00:50:56 → 00:50:59 >> ค่ะอ่ะในส่วนของผู้ป่วยที่มีอาการนะคะก็
00:50:59 → 00:51:02 รีบเข้าสู่กระบวนการรักษาให้เร็วนะคะก็จะ
00:51:02 → 00:51:05 ได้ตรวจจะได้รู้ว่าเราเป็นโรคอะไรกันแน่
00:51:05 → 00:51:09 ส่วนคนที่ยังไม่มีอ่าอาการยังไม่มีความ
00:51:09 → 00:51:12 เสี่ยงใดๆนะคะก็ดูแลรักษาสุขภาพให้ดีให้
00:51:12 → 00:51:15 แข็งแรงนะคะก็จะได้ไม่เป็นโรคภัยต่างๆ
00:51:15 → 00:51:18 ด้วยนะคะวันนี้ได้รับความรู้เยอะมากๆนะคะ
00:51:18 → 00:51:19 ต้องขอบพระคุณอาจารย์นะคะผู้ช่วย
00:51:19 → 00:51:21 ศาสตราจารย์นายแพทย์หม่อมหลวงพันพัฒ์
00:51:21 → 00:51:24 จักรพันธ์อาจารย์หน่วยศารยศาสตร์ทางเดิน
00:51:24 → 00:51:26 อาหารส่วนต้นภาควิชาศารยศาสตร์คณะ
00:51:26 → 00:51:29 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ได้มา
00:51:29 → 00:51:30 ให้ความรู้กับเราในวันนี้ขอบพระคุณ
00:51:30 → 00:51:33 อาจารย์มากๆนะคะ
00:51:33 → 00:51:35 แน่นอนค่ะรายการของเรานะคะท่านไหนที่รับ
00:51:35 → 00:51:38 ชมวันนี้ไม่ทันนะคะสดๆก็สามารถรับชมย้อน
00:51:38 → 00:51:40 หลังได้ผ่านทาง YouTube นะคะส่วนดอก
00:51:40 → 00:51:42 Channel รวมไปถึงเพจสุขภาพดีกับหมอสนอก
00:51:42 → 00:51:45 เพจคณะแพทย์นะคะและรายการของเราจะไปออก
00:51:45 → 00:51:49 อากาศอีกรอบนึงนะคะใน NBT นอช่อง 11 นะคะ
00:51:49 → 00:51:53 รวมไปถึงรับฟังเสียงได้นะคะทาง FM 100
00:51:53 → 00:51:56 นะคะสวท.เชียงใหม่สวท.ฝางสวท.พะเยานะคะ
00:51:56 → 00:51:58 แล้วก็อีกหลากหลายช่องทางของคณะ
00:51:58 → 00:52:01 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก็ติดตาม
00:52:01 → 00:52:03 รับชมข่าวสารดีๆแบบนี้ได้เช่นเคยนะคะวัน
00:52:03 → 00:52:05 นี้หมดเวลาลงแล้วนะคะดิฉันพร้อมกับ
00:52:05 → 00:52:07 อาจารย์หมอแล้วก็ทีมงานต้องลาทุกท่านไป
00:52:08 → 00:52:12 ก่อนขอบพระคุณและสวัสดีค่ะ
00:52:12 → 00:52:23 [เพลง]