00:00:00 → 00:00:05 The bests ThaiPBS คาสวีเวิลด์มายสบอย
00:00:05 → 00:00:08 คนส่วนใหญ่เนี่ยก็จะคิดว่าเอ๋การดื่ม
00:00:08 → 00:00:10 แอลกอฮอล์เนี่ยหรือการดื่มเหล้านี่แหละ
00:00:10 → 00:00:14 เหล้าเบียร์ไวน์พวกเนี้ยมันจะมีผลอะไรกับ
00:00:14 → 00:00:17 สุขภาพร่างกายโดยทั่วไปแล้วไหมคือคน
00:00:17 → 00:00:20 เสน่ห์ก็จะคิดถึงตับใช่ไหมอ่ากลัวตับแข็ง
00:00:20 → 00:00:23 น่ากลัวตับมีปัญหาถ้านะแล้วก็อาจจะเกี่ยว
00:00:23 → 00:00:26 ข้องกับการสมองใช่มั้ยฮะแต่คนน่ะส่วนใหญ่
00:00:26 → 00:00:29 ไม่ได้คิดถึงว่า a มันมีปัญหากับกระดูก
00:00:29 → 00:00:32 หรือเปล่าไม่น่าซึ่งน่าใช้จริงแล้วเนี่ย
00:00:32 → 00:00:36 มันมีปัญหาโดยรวมกับกระดูกได้
00:00:36 → 00:00:40 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัพเดททุกโรคไทยฟังราย
00:00:40 → 00:00:46 การโรงหมอกับอิฉันสุรีย์พรวงศ์สถิตพรค่ะ
00:00:46 → 00:00:49 สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังค่ะขอต้อนรับเข้าสู่
00:00:49 → 00:00:52 รายการโรงหมอทาง Thai PBS ถอดค่าวันนี้
00:00:52 → 00:00:55 พบกันเช่นเคยนะที่ตามสาระดีๆกันได้วันนี้
00:00:55 → 00:00:58 เราจะคุยกันเรื่องของ alcohol ไม่ดีกับ
00:00:58 → 00:01:00 กระดูก
00:01:00 → 00:01:02 เอาไปเหอะเหอะ alcohol ไปเกี่ยวเรื่อง
00:01:02 → 00:01:03 อะไรกับกระดูกนะเดี๋ยวนี้คุยกับด็อกเตอร์
00:01:03 → 00:01:06 นายแพทย์จตุพลคงถาวรสกุลแพทย์ผู้เชี่ยว
00:01:06 → 00:01:09 ฉัน 09 เนื้อกระดูกและข้อจากเพจเอิ่มอ๋อ
00:01:09 → 00:01:13 มีค่าสวัสดีครับเหมาะมีเดี๋ยวแอลกอฮอล์
00:01:13 → 00:01:17 กับกระดูกได้ไหมคนส่วนใหญ่ก็จะคิดว่าเอ๋
00:01:17 → 00:01:19 การดื่มแอลกอฮอล์เนี่ยหรือการดื่มเหล้า
00:01:19 → 00:01:22 นี่แหละเหล้าเบียร์ไวน์พวกเนี้ยมันจะมีผล
00:01:22 → 00:01:26 อะไรกับสุขภาพร่างกายโดยทั่วไปเราไหมคือ
00:01:26 → 00:01:29 คนเสน่ห์ก็จะคิดถึงตับใช่ไหมอ่ากลัวตับ
00:01:29 → 00:01:32 แข็งน่ากลัวตับมีปัญหาถ้านะแล้วก็อาจจะ
00:01:32 → 00:01:35 เกี่ยวข้องกับการสมองใช่มะคือถ้าไม่ดื่ม
00:01:35 → 00:01:39 แล้วคือสมมติเราดื่มในระยะเวลานานๆแล้ว
00:01:39 → 00:01:42 ไม่ดื่มแล้วปุ๊บเนี่ยก็จะเกิดสภาวะที่เขา
00:01:42 → 00:01:44 เรียกว่า of War with draw ก็คือขาด
00:01:44 → 00:01:48 alcohol แล้วก็ทำให้เกิดอาการทางสมองแต่
00:01:48 → 00:01:51 คนน่ะส่วนใหญ่ไม่ได้คิดถึงว่า a มันมี
00:01:51 → 00:01:54 ปัญหากับกระดูกหรือเปล่าไม่หน้า 1 หน้า
00:01:54 → 00:01:57 ใช้จริงแล้วเนี่ยมันมีปัญหาโดยรวมกับ
00:01:57 → 00:02:01 กระดูกได้นะครับเอ่อเริ่มต้นก่อนที่เราจะ
00:02:01 → 00:02:03 พูดถึงเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์และอยากจะ
00:02:03 → 00:02:06 ให้แบ่งประเภทการดื่มอัลกอฮอล์นึกว่า
00:02:07 → 00:02:10 เดือนมาก็แค่ไหนถึงเรียกว่าน้อยถึงเรียก
00:02:10 → 00:02:15 ว่าเยอะอ่าคือปกติพอละคนเราดื่มเคยได้ยิน
00:02:15 → 00:02:18 ไหมบอกเนี่ยวันนั้นไปเจอคนรู้จักเขาบอก
00:02:18 → 00:02:22 ว่าไม่เป็นไรหรอกหมอหมีดื่มไวน์แก้วเดียว
00:02:22 → 00:02:25 ไม่เป็นไรหรอกดื่มแล้วชัดเดียวห่าจะไม่
00:02:25 → 00:02:27 เป็นไรหรอกกินเบียร์แก้วเดียวไม่เป็นไรดี
00:02:27 → 00:02:30 ต่อสุขภาพคำว่าไม่เป็นไรของเขาอ้าเขาอ่ะ
00:02:30 → 00:02:33 เขาจะบอกว่าไม่เป็นไรแล้วก็พูดว่าดีต่อ
00:02:33 → 00:02:36 สุขภาพที่เคยได้ยินไหมใช่ๆอ้ะจะมาดื่ม
00:02:36 → 00:02:41 ไวน์ 1 แก้วดีต่อสมดีกับสุขภาพอ่ะคือเรา
00:02:41 → 00:02:44 ก็แม่แล้วแค่ไหนถึงจะเรียกว่าดื่มน้อย
00:02:44 → 00:02:46 ดื่มเยอะใช่ไหมเพราะว่าบางคนก็บอกสองแก้ว
00:02:46 → 00:02:50 เนี่ยมึงก็บอก 3 แก้ว 4 แก้ว 5 แก้วคำว่า
00:02:50 → 00:02:52 น้อยของแต่ละคนไม่เท่ากันมันจับต้องไม่
00:02:52 → 00:02:56 ได้ดอกไหมไม่งั้นเราเลยมีการแบ่งแยก
00:02:56 → 00:03:00 ประเภทของคำว่าดื่มน้อย
00:03:00 → 00:03:04 หมู่บ้านกลางดื่มมากดื่มโคตรมากอ่ะนะก็
00:03:04 → 00:03:07 คือจริงเป็นภาษาอังกฤษขึ้นไล้ไล้ก็คือตัว
00:03:07 → 00:03:11 เบาๆเบาๆอ่ะแล้วก็มาเรทก็คือต่างๆนะเอ่อ
00:03:11 → 00:03:16 แล้วก็ก็เฮวี่ก็คือไม่หนัก Extreme ลี่
00:03:16 → 00:03:19 Heavy ก็คือโคตรหนักอาจเป็นภาษาไทยที่
00:03:19 → 00:03:23 นี่เอ่อแค่ไหนถึงเรียกว่าน้อยปกติแล้ว
00:03:23 → 00:03:26 เนี่ยเราจะเล่นเป็นลิงค์ Link 1 นี้มัน
00:03:26 → 00:03:31 ตราปริมาณ 1 drink เนี่ยที่ปกติแล้วนะ
00:03:31 → 00:03:34 เราจะแค่ไฟล์เราจะกำหนดก็คือประมาณ 10
00:03:34 → 00:03:38 กรัมของแอลกอฮอล์นะ 1 Link เนี่ยคือ 10
00:03:38 → 00:03:39 กรัมของแอลกอฮอล์
00:03:39 → 00:03:45 ถ้าดื่มน้อยเนี่ยมันอยู่ที่ 1.2 ลิงค์ถ้า
00:03:45 → 00:03:49 ดื่มปั่นกลางเนี่ยอยู่ที่ 2.2 ลิงค์ถ้า
00:03:49 → 00:03:53 ดื่มมากเนี่ยอยู่ที่ 3.4 ลิงค์ถ้าลืมโคตร
00:03:53 → 00:03:55 มากนะอยู่ที่ 5.4 Link เพิ่มขึ้นไม่น่า
00:03:55 → 00:04:00 คุณไปเอาง่ายๆเลยหนึ่งก็คือน้อยๆลิงนะที่
00:04:00 → 00:04:05 สองก็คือปานกลาง 3 กว่าๆหรือเกิน 3 แก้ว
00:04:05 → 00:04:09 อ่ะจะเกิน 3 ก็จะได้ 3 ครึ่ง 3 กว่าๆเข้า
00:04:09 → 00:04:13 ไปเนี่ยก็คือเป็นมากไปแล้ว R ที่นี่คำว่า
00:04:13 → 00:04:16 drink เนี่ยเราก็เคยได้ยินแต่แบบเอ้ยตอน
00:04:16 → 00:04:20 เราไปสถานบันเทิงใช่มั้ยไปเราไปบาร์เธอก็
00:04:20 → 00:04:23 เนี่ยสั่ง 1 drink ตอนแรกแล้วพี่มันใช่
00:04:23 → 00:04:25 มั้ยนะมันถึง 10 กรัมไหมว่าเราก็มานั่ง
00:04:25 → 00:04:28 เทียบบัญญัตยางให้ไหมว่าเล่าแต่ละชนิดมัน
00:04:28 → 00:04:30 ก็ไม่เท่ากันเพราะว่าขนาดนั้นเลยหรออ่า
00:04:30 → 00:04:34 มันก็ได้มีบริมาณที่ทางในประเทศเราเนี่ย
00:04:34 → 00:04:37 เขากำหนดว่ามีการเปรียบเทียบให้เราเรียบ
00:04:37 → 00:04:40 ร้อยละโดยที่เราต้องคำนวณอีกค่ะปกติแล้ว
00:04:40 → 00:04:43 เนี่ยเล่าถ้ามันที่ทั่วๆไปที่เราดื่ม
00:04:43 → 00:04:46 เนี่ยมันคือ 40% ใช่มั้ยฮะ alcohol
00:04:46 → 00:04:48 เปอร์เซ็นต์ใช่ไหมอ่ะถ้า 40 นี้กับ
00:04:48 → 00:04:49 เปอร์เซ็นต์เนี่ย
00:04:49 → 00:04:54 30 กรัมหรือ 30 บริกรรมพูดผิด 30
00:04:54 → 00:04:58 บริกรรมก็คือประมาณ 30 ซีซีนี่แหละหนึ่ง
00:04:58 → 00:05:02 เป็ดอ่ะให้ได้ปริมาณของแอลกอฮอล์ 10 กรัม
00:05:02 → 00:05:05 อันนี้หมายถึงว่ามันต้องเพียวๆไม่มีอะไร
00:05:05 → 00:05:09 ผสม 1 เป๊กเดียวเพียวอ่าเล่า 40
00:05:09 → 00:05:12 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์เนี่ย1เป๊ก 34 เนี่ย
00:05:12 → 00:05:16 ก็จะได้ 10 กรัมของแอลกอฮอล์ซึ่งก็เท่า
00:05:16 → 00:05:21 กับ 1 Link พอดีอานี้ถ้า Y น่ะ Y เนี่ย
00:05:21 → 00:05:25 ปกติแล้วเนี่ย 100 ซีซีก็คือ 1 แก้วนะถ้า
00:05:25 → 00:05:30 จะได้ปริมาณแอลกอฮอล์ 3 กรัมซึ่งเท่ากับ
00:05:30 → 00:05:34 ว่าเราต้องกินเกินสามแก้ว 5 ก็คือคือ 1
00:05:34 → 00:05:35 Link
00:05:35 → 00:05:39 อ่าในขณะที่เบียร์เนี่ย 1 กระป๋องนะ 1
00:05:39 → 00:05:42 กระป๋องก็หมายความว่าประมาณ 250 บาท 4
00:05:42 → 00:05:46 ค่ะก็จะได้ 1 drink เหมือนกันอ่าอันนี้
00:05:46 → 00:05:49 ก็ให้จำเป็นหลักการว่าสมมุติวันนี้เราจะ
00:05:49 → 00:05:53 กินแค่ดื่มแอลกอฮอล์แค่น้อยหรือ Like
00:05:53 → 00:05:56 drink เนี่ยที่คนเขาบอกว่าดื่มน้อยแล้ว
00:05:56 → 00:05:59 ดีเนี่ยถ้าได้ฟังกันนะว่ามันดื่มแล้วน้อย
00:05:59 → 00:06:02 แล้วดียังไงลดลงมากแล้วไม่ดียังไงอ่ะอาจ
00:06:02 → 00:06:05 จะให้เรารู้ก่อนว่าของอย่างใช่แค่ไหนถึง
00:06:05 → 00:06:07 เรียกว่าดึงเนี่ยก่อน
00:06:07 → 00:06:11 งั้นอย่างตัวผมเองเนี่ยนะก่อนหน้านี้ที่
00:06:11 → 00:06:13 ผมจะหาเรื่องนี้นะผมก็ไม่เคยรู้หรอกผมรู้
00:06:13 → 00:06:16 แต่ว่าดื่มให้มันไม่เมาก็แปลว่าน้อย 5 คน
00:06:16 → 00:06:19 แสดงที่อย่างนี้เอาแต่ว่าความเมาแต่ละคน
00:06:19 → 00:06:22 มันก็ไม่เท่ากันอีกอ่ะเอาแล้วบางคนคอแข็ง
00:06:22 → 00:06:26 บางคนคออ่อนมาคนแพ้กอฮอลใช่ไหมบางคนจิบ
00:06:26 → 00:06:29 สองจิบเมาแล้วใช่หาหรือพื้นและขึ้นและอัน
00:06:29 → 00:06:32 นี้ก็ภยันหลังจากนั้นมาเนี่ยที่ผมหาข้อ
00:06:32 → 00:06:36 มูลนี่นะผมก็จะรู้ว่าถ้าเราจะกินที่มัน
00:06:36 → 00:06:38 เป็นค็อกเทลเนี่ยค็อกเทลเนี่ยปกติเนี่ย
00:06:38 → 00:06:41 อย่างน้อยก็หนึ่งไปอีกล่ะหาเธอไหมฮะซึ่ง
00:06:41 → 00:06:44 ถ้า1เป๊กเนี่ยก็
00:06:44 → 00:06:46 ขอ 1 แก้วพอดีไม่งั้นเราไม่ควรจะสำหรับผม
00:06:47 → 00:06:49 แล้วผมต้องการกินไรเลยเนี่ยหน้าหรือกิน
00:06:49 → 00:06:52 ได้น้อยเนี่ยก็คือค็อกเทล 1 แก้วนั้นเอง
00:06:52 → 00:06:56 อ๋ออ๋อเหรอไงอ้ะเค้าเคมีผสมมันมีอะไรมัน
00:06:56 → 00:06:58 เนี่ยอื่นด้วยแต่ว่าส่วนใหญ่ก็คือน่าจะ
00:06:58 → 00:07:02 ไม่เกินอ่ะทีนี้เรารู้แหละว่าแค่ไหนถึง
00:07:02 → 00:07:05 น้อยแค่ไหนถึงมากที่นี่มันมีงานวิจัยมาก
00:07:05 → 00:07:08 มายออกมานะฮะเกี่ยวกับเรื่องของการจะดื่ม
00:07:08 → 00:07:14 alcohol ซึ่งมันยังตีกันอยู่มันยังสับสน
00:07:14 → 00:07:18 ยังสรุปไม่ได้ค่าเพราะว่าบางรายงานวิจัย
00:07:18 → 00:07:21 เนี่ยหมอหลายท่านทำวิจัยมาก็บอกว่าแม่การ
00:07:21 → 00:07:24 ดื่มอัลกอฮอล์ในๆนะทำให้ภาวะกระดูกพรุน
00:07:24 → 00:07:26 เนี่ยลดลง
00:07:26 → 00:07:31 555 ซื้อนี้ก็เป็นไรที่มันขัดต่อความรู้
00:07:31 → 00:07:33 สึกแพทย์ที่เราให้ความรู้คนไข้เพราะว่า
00:07:33 → 00:07:36 สมมติเราเป็นหมออายุรกรรมหน่อยนะเรา
00:07:36 → 00:07:39 กระโดดว่าอย่าไปกินเหล้าเยอะนะกินเหล้า
00:07:39 → 00:07:42 เยอะเนี่ยเป็นโรคตาป.ล.หรือปรับแข็ง
00:07:42 → 00:07:45 เดี๋ยวเนี่ยติดเหล้ายิ่งกินเยอะยิ่งไม่ดี
00:07:45 → 00:07:50 แต่ปรากฏว่าเอามีหมอบางท่านบอกว่าอ่ะยิน
00:07:50 → 00:07:54 เลยกินน้อยๆแปลว่าอะไรถ้าคนได้ข้อมูลจาก
00:07:54 → 00:07:59 แพทย์ที่ทำวิจัยว่ามันได้ผลดีเนี่ยอ้ะ
00:07:59 → 00:08:02 เค้าดื่มทุกวันเลยได้ไหมคะจะได้ไม่ว่าง
00:08:02 → 00:08:05 เหมือนเรามีความรู้สึกว่าการที่เราบริโภค
00:08:05 → 00:08:10 ผักผลไม้ทำให้สุขภาพดีถ้าเนื้อมันก็มาจาก
00:08:10 → 00:08:12 งานวิจัยว่าอ๋อผักด้วยนะมันมีวิตามินนั่น
00:08:12 → 00:08:15 วิตามินนี่พอเรากินเสร็จปุ๊บมันจะทำให้
00:08:15 → 00:08:18 สุขภาพเราดีอันนี้ก็มีงานวิจัยจะมาบอกว่า
00:08:18 → 00:08:24 พอกินเหล้าปุ๊บปรากฏว่าทำให้กระดูกไม่บาง
00:08:24 → 00:08:28 ตั้งนานแล้วก็ดูไม่พรุนหรือบุญช้าลงอัน
00:08:28 → 00:08:32 นี้เล่าหรือนมอ่าใช่มั้ยฮะคือคนก็จะงง
00:08:32 → 00:08:35 เว้ยเออหรือว่าจะได้ไม่ต้องลือดื่มและนม
00:08:35 → 00:08:38 ต่อไปนี้ผมนั่งเล่าไปเลยเออเออนั่นอะแต่
00:08:38 → 00:08:41 มันก็มีงานวิจัยอีกหลายๆงานวิจัยที่ขัด
00:08:41 → 00:08:45 แย้งอ่ะมันมีงานวิจัยหนึ่งนะที่บอกว่าการ
00:08:45 → 00:08:49 ดื่มไรลิงเนี่ยนะจะทำให้เกิดโอกาสการเป็น
00:08:49 → 00:08:52 กระดูกพรุนเนี่ย 1.3 เท่าของคนที่ไม่ดื่ม
00:08:52 → 00:08:56 Like ลิงค์นะคือดื่มน้อยแล้วอ้ะก็ยังมี
00:08:56 → 00:09:00 เปอร์เซ็นมีจำนวนเข้า 1.3 เท่าของคนที่
00:09:00 → 00:09:02 ไม่ดื่มที่เป็นกระดูกพรุนนั่นหมายความว่า
00:09:02 → 00:09:06 ต่อให้คุณจะกินอะไรลิงค์อ่ะนะก็ยังมี
00:09:06 → 00:09:09 ปัญหาให้พูนอยู่ดีในขณะที่โมเดล drink ก็
00:09:09 → 00:09:12 คือปานกลางต่อให้เรากิน 2 Link ต่อวัน
00:09:12 → 00:09:15 ปรากฏว่าก็มี
00:09:15 → 00:09:19 มีปริมาณประมาณ 1.3 เท่าถ้าที่เป็นกระดูก
00:09:19 → 00:09:22 พรุนอีกเหมือนกันจะเห็นว่าโมเลทอะไรดี
00:09:22 → 00:09:25 เนี่ยคือในความรู้สึกผมนะผมก็ไม่รู้ว่าจะ
00:09:25 → 00:09:27 แบ่งทำไมหนึ่งถึงสองแก้วแล้วมันไม่ห่าง
00:09:27 → 00:09:29 กันเท่าไหร่เพราะมันเหมือนกันใช่รีสอร์
00:09:29 → 00:09:32 มันเหมือนกันแล้วเพราะเวลาเค้าเขียนในงาน
00:09:32 → 00:09:35 วิจัยนะก็จะสรุปว่าไลค์จูมาเลทลิงค์
00:09:35 → 00:09:38 สามารถทำให้กระดูกพรุนหรือกระดูกบางเกิด
00:09:38 → 00:09:42 อุบัติการณ์ได้ลดลงอ่าในบางงานวิจัยแต่ใน
00:09:42 → 00:09:44 บางงานวิจัยก็บอกว่ามันก็ยังมากกว่า
00:09:44 → 00:09:48 ประมาณ 1.3 เท่าอ่ะเออก็คือประมาณ 30%
00:09:48 → 00:09:52 มากกว่านี้ในขณะที่พอบริโภคเป็นแบบ Heavy
00:09:52 → 00:09:58 หรือ 3 ถึง 5 แก้วขึ้นไปกลุ่มนี้เราพบว่า
00:09:58 → 00:10:03 มีโอกาสเกิดกระดูกพรุนเนี่ย 1.6 เท่าซึ่ง
00:10:03 → 00:10:06 มันกระโดดขึ้นไปสูงขึ้นเกือบ 2 เท่านี้
00:10:06 → 00:10:11 ซึ่งแปลว่าไม่ดีละห้าแม่นจากข้อสรุปของ
00:10:11 → 00:10:14 งานวิจัยที่ยังไม่ได้ข้อสรุปเนี่ยจากข้อ
00:10:14 → 00:10:17 สรุปของงานวิจัยหรือไม่ก็สรุปนะเนี่ยนะฮะ
00:10:17 → 00:10:22 พบว่าการดื่มมากกว่าสามแก้วยังไงก็ไม่ดี
00:10:22 → 00:10:27 อ่ะแต่ 1 แก้วเนี่ยนะครับหรือ1เป๊กเนี่ย
00:10:27 → 00:10:32 ก็ยังถือว่าพอได้แต่ต้องบอกอย่างนี้ไอ้
00:10:32 → 00:10:35 งานวิจัยที่เราทำกันมานะคะมันเป็นไปไม่
00:10:35 → 00:10:39 ได้ที่เราจะแบ่งคนไข้เป็น 2 กลุ่มนะหรือ
00:10:39 → 00:10:41 แบ่งประชากรเป็นสองกลุ่มอะกลุ่มนึงให้มัน
00:10:41 → 00:10:44 ดูเดียวเองกินแอกอฮอล์ทุกวันเลยอ่ะอีก
00:10:44 → 00:10:47 กลุ่มนึงเนี่ยให้ไม่ต้องกินกห.มันผิด
00:10:47 → 00:10:52 จริยธรรมแพทย์คนจะทำวิจัยไม่ได้คนจะยอม
00:10:52 → 00:10:54 ให้เขาไปแบบเสี่ยงเหรอมันทำวิจัยแบบนี้
00:10:55 → 00:10:57 ไม่ได้มันถือว่าเป็นการผิดจริยธรรมตรง
00:10:57 → 00:11:00 มั้ยฮะหาแว่นมันผิดจะได้ทำงานวิจัยมันทำ
00:11:00 → 00:11:02 ไม่ได้ว่างั้นงานวิจัยที่ออกมาทั้งหมด
00:11:02 → 00:11:06 เนี่ยมันคืองานวิจัยที่
00:11:06 → 00:11:11 จะเก็บคนไข้หมดแล้วเก็บประชากรหมดละเอาคน
00:11:11 → 00:11:15 ที่เป็นกับไม่เป็นกระดูกพรุนแล้วย้อนกลับ
00:11:15 → 00:11:18 ไปดูว่าคนกลุ่มนี้กินเหล้าหรือเปล่าอ่า
00:11:18 → 00:11:21 ซึ่งจริงๆมันมีปัจจัยเป็นร้อยบาทใจนะที่
00:11:21 → 00:11:23 ทำให้เกิดกระดูกพรุนได้ไหมแต่เราไป
00:11:23 → 00:11:26 วิเคราะห์ที่ปัจจัยเดียวว่าจะเครื่องดื่ม
00:11:26 → 00:11:29 อัลกอฮอล์ว่าเกี่ยวไหมอ่ะซึ่งอันนี้เลยทำ
00:11:29 → 00:11:33 ให้ผลงานวิจัยเนี่ยมันเป็นอะไรที่สับสนดู
00:11:33 → 00:11:35 แล้วไม่น่าเชื่อถือเลยอ่าแต่มันมีทิดสะดี
00:11:35 → 00:11:39 อย่างเงี้ยในกลุ่มคนที่เขาบอกว่าการดื่ม
00:11:39 → 00:11:43 แอลกอฮอล์ในปริมาณที่น้อยนะแล้วมันได้ผล
00:11:43 → 00:11:47 ดีเนี่ยกับกระดูกคือลดโอกาสเกิดกระดูก
00:11:47 → 00:11:50 พรุนจริงมีโรคนึงนะที่สัมพันธ์กับการดื่ม
00:11:50 → 00:11:53 อังกอร์คือหัวสะโพกตายหรือสุโขสะโพกขาด
00:11:53 → 00:11:55 เลือดซึ่งจริงแล้วหลักการเนี่ยมันหลักการ
00:11:55 → 00:11:59 ใกล้ๆกันก็คือเพราะเวลาเราดื่มแอลกอฮอล์
00:11:59 → 00:12:03 เข้าไปนะมันจะมีผลอะไรบ้างอยู่ 3 อย่างนะ
00:12:03 → 00:12:09 ฮะหนึ่งก็คือผลแต่ว่าเรื่องแน่ๆนะผล
00:12:09 → 00:12:11 เกี่ยวกับเรื่องของการล้มเดือนแล้วก็ห่อ
00:12:11 → 00:12:14 ใบเนี่ยมันทำให้เราสูญเสียการทรงตัวทำให้
00:12:14 → 00:12:17 ลงไงล้ม R2 การดื่มแล้วก็เข้าไปจะทำให้
00:12:17 → 00:12:20 การดูดซึมแคลเซียมกับวิตามินเนี่ยมันแย่
00:12:20 → 00:12:24 ลงท่านั้นแน่ต่อให้เราจะกินกับแกล้มน้อย
00:12:24 → 00:12:27 หรือมากหรืออะไรก็ได้มันจะทำให้การดูดซึม
00:12:27 → 00:12:31 อาหารในลดลงที่เราสังเกตุนะฮะคนที่ก็กิน
00:12:31 → 00:12:35 เหล้าอ่ะไม่ค่อยจะอ้วนมากๆกินแล้วมากๆนะ
00:12:35 → 00:12:38 ยิ่งเยอะยิ่งหอมอ่ะแจกสุขภาพไม่ดีนะไม่
00:12:38 → 00:12:41 ใช่ว่าไม่ใช่ที่ไปปูเดี๋ยวคราวนี้ลดความ
00:12:41 → 00:12:44 อ้วนด้วยการกินเหล้านะไม่ได้น่ะเฮ้ยบอกก็
00:12:44 → 00:12:47 เพราะว่าการดื่มเหล้าในปริมาณที่ระดับปาน
00:12:47 → 00:12:50 กลางหรือแบบที่มากเนี่ยมันจะทำให้เราไม่
00:12:50 → 00:12:55 อยากอาหารแต่ว่ามันก็ตัวแอลกอฮอล์เนี่ยนะ
00:12:55 → 00:12:57 มันก็จะทำให้เราอ้วนได้นั้นจริงแล้วเนี่ย
00:12:57 → 00:13:01 ใช่คนบวมเลยน่ะอ้ะมันไม่โอนได้แว่นมันเรา
00:13:01 → 00:13:04 เก็บไว้หน้านี่ไม่ใช่ดีนะไม่มีไม่มีคำว่า
00:13:04 → 00:13:08 ดีนะฮะนายิ่งช่วงนี้เข้าพี่ด้วยนะถ้าเรา
00:13:08 → 00:13:11 ก็ต้องควรจะเล่างดเหล้าในถูกต้องแล้วอ้ำ
00:13:11 → 00:13:15 เดือนหน้าปัจจัยที่ 3 นอกจากการดูดซึมที่
00:13:15 → 00:13:18 มันแย่ลงน้องกับโอกาสการลงที่มันสูงขึ้น
00:13:18 → 00:13:20 แล้วเนี่ยอีกอันนึงคือปัจจัยเรื่องของ
00:13:20 → 00:13:24 Hormone Hormone ในร่างกายเรานะฮะมันจะ
00:13:24 → 00:13:28 มีความสัมพันธ์กับแอลกอฮอล์นะฮะโดยการที่
00:13:28 → 00:13:30 เมื่อเราดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มาก
00:13:30 → 00:13:34 เนี่ยค่ะปรากฏว่ามันจะไปทำให้ฮอร์โมนเพศ
00:13:34 → 00:13:39 ของชายและหญิงเนี่ยมันลดลงนะครับข้อมูล
00:13:39 → 00:13:42 ที่ชื่อว่าทโธสโลนของผู้ชายและฮอร์โมนที่
00:13:42 → 00:13:45 ชื่อว่าเอ๊ะโสดจริงของผู้หญิงอ้อยขนาดไม่
00:13:45 → 00:13:48 ค่อยไม่ได้ดื่มเหล้ายังถดถอยเลยใช่ไหมอ่ะ
00:13:48 → 00:13:51 ถ้าเพราะว่าฮอร์โมนพรุ่งนี้เนี่ยคือถ้า
00:13:51 → 00:13:53 เกิดมันอยู่ในสภาวะเครียดของร่างกายบางที
00:13:53 → 00:13:57 มันก็ออกมาน้อยลงได้นะครับหน้าหรือร่าง
00:13:57 → 00:14:00 กายเราที่มันป่วยเนี่ยพวกเนี้ยก็ทำให้
00:14:00 → 00:14:03 ฮอร์โมนที่มันลดลงได้ซึ่งฮอร์โมน 2 ตัว
00:14:03 → 00:14:06 นี้มันมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับหลอด
00:14:06 → 00:14:08 เลือดผมวิ่งเข้าไปอยู่ในกระดูก
00:14:08 → 00:14:13 นะฮะมันวิ่งเข้าไปในกระดูกได้น้อยลงแน่
00:14:13 → 00:14:17 นอนล่ะกระบวนการของการเสริมแคลเซียมใน
00:14:17 → 00:14:21 กระดูกมันก็ลดลงด้วยท่าพระจันทร์จึงทำให้
00:14:21 → 00:14:24 3 ปัจจัยนี้เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคนที่
00:14:24 → 00:14:27 การดื่มเหล้ามากๆเนี่ยจะทำให้เกิดกระดูก
00:14:28 → 00:14:31 พรุนหรือกระดูกบางได้รวมถึงหัวสะโพกตาย
00:14:31 → 00:14:35 ได้คือกำลังนึกภาพตามว่ามันทำให้เกิด
00:14:35 → 00:14:38 กระดูกพรุนแบบนี้เนี่ยแต่อย่างบางคนที่
00:14:38 → 00:14:42 ดื่มมาเป็นระยะเวลานานๆแบบติดเลยอ่ะต้อง
00:14:42 → 00:14:46 ดื่มทุกวัน 1 คืนอีกเล่าใช่ๆอุ้ยก็ดูปกติ
00:14:46 → 00:14:49 ดีนะมันหรือเป็นเพราะว่ามันอยู่ข้างใน
00:14:49 → 00:14:53 แล้วมันไม่ออกอาการคนกลุ่มนี้เนี่ยเราไม่
00:14:53 → 00:14:56 เห็นหรอกฮะเพราะว่าเราอยู่ข้างนอกบ้านเรา
00:14:56 → 00:15:00 อยู่นอกบ้านเขาห่าคือเมื่อไหร่ก็ตามที่
00:15:00 → 00:15:02 เขาล้มแล้วกระดูกเขาหักเนี่ยแล้วเข้าไป
00:15:02 → 00:15:05 ตรวจมวลกระดูกปรากฏว่าจะดูมันบางนะคะก็
00:15:05 → 00:15:07 เป็นนึกถึงเราก็จะรู้ว่าแต่พอนี่ไงมัน
00:15:07 → 00:15:12 สัมพันธ์กันแต่เนื่องจากคนกลุ่มนี้คือผู้
00:15:12 → 00:15:16 จริงนะฮะคนที่ดื่มแล้วมากๆเนี่ยก็ส่วนนึง
00:15:16 → 00:15:20 เนี่ยความรักตัวเองมันอาจจะน้อยโอกาสที่
00:15:20 → 00:15:23 จะไปตรวจสุขภาพเนี่ยมันก็ยากเลยไม่ค่อย
00:15:23 → 00:15:26 รู้ต้องบอกอย่างนี้ก่อนเพราะว่าคือผมเจอ
00:15:26 → 00:15:29 หลายคนนะฮะอย่างพวกที่สะการสงกรานต์บ้าน
00:15:29 → 00:15:32 เรานะเทศกาลปีใหม่รื่นเริงบันเทิงเดิน
00:15:32 → 00:15:37 ทั้งวันทั้งคืนจนใบแล้วไม่กินข้าวด้วยนะ
00:15:37 → 00:15:41 จนน้ำตาลในเลือดมันตกหมดละเอาจนเฉพาะไป
00:15:41 → 00:15:43 นอนโรงพยาบาลให้โค้ชเนี่ยกว่าจะฟื้นได้
00:15:43 → 00:15:47 นี่คือคือผมได้คิดว่าจริงๆแล้วเนี่ยคน
00:15:47 → 00:15:50 กลุ่มนี้เขามีภาวะพรุ่งนี้แหละแต่ว่าเขา
00:15:50 → 00:15:53 ไม่รู้ค่าแล้วคนที่รู้เราต้องเป็นหมอกับ
00:15:53 → 00:15:56 ผมนี่แหละครับพวกเราซักประวัติทางบนไข้ไป
00:15:56 → 00:15:59 ก็จะพบว่านี่ไงคนนี้เขากินเหล้าค่อนข้าง
00:15:59 → 00:16:02 เรียบแบบ Heavy มากกินระดับเยอะมากค่ะนะ
00:16:02 → 00:16:07 ที่นี่เราย้อนกลับมานะว่าเอสดีแล้วไอ้ทิด
00:16:07 → 00:16:11 สะดีที่ว่าดื่มน้อยแล้วดีนี่มายังไงอะที่
00:16:11 → 00:16:14 ว่าดื่มแก้วเดียวยังไงเพราะว่าคนส่วนใหญ่
00:16:14 → 00:16:16 แล้วรู้แล้วโอ๊ยอย่าไปดื่มเหล้าเยอะ
00:16:16 → 00:16:19 เดี๋ยวมันมีปัญหากับการขับรถอะไรพรุ่งนี้
00:16:19 → 00:16:22 ใช่ไหมคะๆใช่แต่ว่ามันมีปัญหากับสุขภาพ
00:16:22 → 00:16:26 ตัวเราแบบนี้ก็คือการดูดซึมไม่ดีคอโมลดลง
00:16:26 → 00:16:29 นะแล้วก็สุดท้ายคือโอกาสที่จะคุณจะล้ม
00:16:29 → 00:16:32 แล้วก็ดูมันหักว่าสูงกระดูกได้บางอยู่
00:16:32 → 00:16:34 แล้วเพราะว่าขาดแคลเซียมบวกค่าคอมโอน
00:16:34 → 00:16:37 เสร็จปุ๊บไปล้มง่ายอีกก็หักแน่นอนเขานี้
00:16:37 → 00:16:40 โอกาสที่เกิดกระดูกสะโพกหักของคนพวกเนี่ย
00:16:40 → 00:16:43 สูงกว่าคนปกติมา 2-3 เท่าเลยบางงานวิจัย
00:16:43 → 00:16:46 มากกว่านั้นนะไม่งั้นเราเลยต้องย้อนกลับ
00:16:46 → 00:16:50 มันฟังว่า a ไร่การดื่มเหล้าน้อยๆเนี่ย
00:16:50 → 00:16:54 มันดีได้ยังไงล่ะใช่เพราะมันเป็นประโยคคำ
00:16:54 → 00:16:57 พูดที่เราได้ยินมาแต่ไม่รู้แหล่งที่มาที่
00:16:57 → 00:17:00 เราเลยนะต้นคนที่หมดสังเกตใช่คนส่วนใหญ่
00:17:00 → 00:17:02 ที่พูดบอกเนี่ยดื่มไวน์แก้วนึงทำให้หลอด
00:17:02 → 00:17:05 เลือดกระตุ้นดีนะทำให้โรคหัวใจโอกาสเป็น
00:17:05 → 00:17:08 น้อยลงคือพวกแน่จริงว่ามันเป็นงานวิจัย
00:17:08 → 00:17:11 ที่มันไม่ได้เป็นงานวิจัยแบบเขาเรียกว่า
00:17:11 → 00:17:14 การทดลองที่แท้จริงการทำการทดลองมาต้อง
00:17:14 → 00:17:17 เอาคนกลุ่มนึงมากินอีกคนนึงไม่กินแล้วก็
00:17:17 → 00:17:19 แบ่งกันเลยแล้วก็เป็นรอดูอาการไปว่าใน
00:17:19 → 00:17:21 อนาคตเนี่ยเป็นอย่างนั้นหรือเปล่าอาจจะมี
00:17:22 → 00:17:24 ปัญหาหรือเปล่านะหรือไม่ก็กินเสร็จปุ๊ป
00:17:24 → 00:17:27 เทปเลยถึงเราทำไม่ได้แกล้งมันผิด
00:17:27 → 00:17:29 จรรยาบรรณก็ถูกต้องแล้วอยู่ห้องย้อนกลับ
00:17:29 → 00:17:33 ไปยุคนาซีนั่นอาจจะทำได้หน้า 5 ทดลองคน
00:17:33 → 00:17:35 มันหมูมันมาเนี่ยอ่ะน่าจะทำได้แต่ตอนนี้
00:17:35 → 00:17:38 มันทำไม่ได้แล้วถ้าเขาก็เลยพูดถึงทฤษฎี
00:17:38 → 00:17:42 หนึ่งขึ้นมานะฮะเราต้องเข้าใจคำว่ากระดูก
00:17:42 → 00:17:44 คนเราเนี่ยนะมันมีการปรับเปลี่ยนรูปร่าง
00:17:44 → 00:17:47 ตลอดเวลาภาษาอังกฤษเรียกว่ารีโมทลิงค์
00:17:47 → 00:17:50 ข้างในเราเหรอใช่ในกระดูกที่เป็นแท่งๆ
00:17:50 → 00:17:53 เนี่ยคือคนทั่วไปนั้นจะมองกระดูกเหมือน
00:17:53 → 00:17:57 เป็นของแข็งถ้าเหมือนเป็นอิฐเป็นดินเป็น
00:17:57 → 00:18:00 เสามันไม่น่ามีอะไรเนี่ยมันไม่น่าจะใช่
00:18:00 → 00:18:03 มันน่าจะเป็นเสาเป็นแท่งนี้ขึ้นมาครับรูป
00:18:03 → 00:18:06 รักนี้นะอย่าลืมว่าเสาเนี่ยมันจะมีสุดมี
00:18:06 → 00:18:09 เกาะไม่ใช่ครับเพราะมันรับน้ำหนักมากๆมัน
00:18:09 → 00:18:12 ยังมีผู้ชนะตามกาลเวลากระดูกคนเราเนี่ย
00:18:12 → 00:18:14 มันก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกันมาดูคนเรามัน
00:18:14 → 00:18:18 เป็นของจริงๆแล้วเนี่ยนะมันแข็งแต่มันไม่
00:18:18 → 00:18:21 ได้แข็งกันนั้นมีความอ่อนอยู่ข้างในนะ
00:18:21 → 00:18:25 อ่อนในแข็งนอกนี่คือกระดูกที่นี่กระดูก
00:18:26 → 00:18:30 ที่มันได้รับแรงในบางจุดที่มันสูงเนี่ย
00:18:30 → 00:18:33 ธรรมชาติเนี่ยมันดีมากนะมันบอกว่าเพราะ
00:18:33 → 00:18:37 ว่าราอายกตัวอย่างเช่นนะเราต้องไปยุคเวท
00:18:37 → 00:18:40 หรือเราต้องไปยุบของทำงานแบกหามทุกวัน
00:18:40 → 00:18:43 เนี่ยน่ะธรรมชาติเขาบอกว่าเอ๊ยกระดูกคุณ
00:18:43 → 00:18:46 ตำแหน่งนี้นะมันรับโหลดเลยมารับแรงเยอะ
00:18:46 → 00:18:49 เพราะฉะนั้นอ่ะเดี๋ยวเราจะเอากระดูกจาก
00:18:49 → 00:18:52 ส่วนทั้งหมดในร่างกายเที่ยวกินข้าวมา
00:18:52 → 00:18:55 เนี่ยนะถ้าเอาไปโบกตรงนั้นเพื่อให้มัน
00:18:55 → 00:18:58 เพิ่มความแข็งแรงเกิดขึ้นเฮ้ยอ้ะมัน
00:18:58 → 00:19:00 กระดูกในจุดนั้นจะมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น
00:19:00 → 00:19:04 เพื่อรองรับการใช้งานฮะอ้าไม่ได้มีกฎที่
00:19:04 → 00:19:06 ก็เลยว่าวูปหล่อที่ไหนมีแรงกด
00:19:06 → 00:19:09 อยู่ที่นั่นมีกระดูกเพิ่มที่ไหนมีแรงดึง
00:19:09 → 00:19:12 ที่นั่นกระดูกลดลงอ้าวแล้วอย่างบางคน
00:19:12 → 00:19:14 กระดูกงอกอย่างแบบมาตรงหน้าพงษ์นภาเนี่ย
00:19:14 → 00:19:16 ที่เค้าอันนั้นไม่เกี่ยวอันนั้นมันเป็น
00:19:16 → 00:19:20 สภาวะรูปบางอย่างที่เกิดการเปลี่ยนแปลง
00:19:20 → 00:19:24 ของเซลล์ธรรมชาติซึ่งเซลล์ธรรมชาติไม่ควร
00:19:24 → 00:19:27 จะเป็นไขมันมันควรจะเป็นของพืชแต่มันแปลง
00:19:27 → 00:19:30 ร่างกายเป็นแถวเสี้ยมสามัญก็เลยกลายเป็น
00:19:30 → 00:19:33 กระดูกที่มันงอกขึ้นมาในคนละแบบแต่ว่าคน
00:19:33 → 00:19:36 ที่ที่แบบทำงานหนักๆอ่ะที่บอกว่าแคลเซียม
00:19:36 → 00:19:39 อันจะมาโบกตัวเองในจุดที่แบกรับน้ำหนัก
00:19:39 → 00:19:41 เยอะเงี้ยเออนึกภาพตามออกอย่างนี้มันคือ
00:19:41 → 00:19:44 ยกของหนักๆแล้วเขาแข็งแรงมากนะใช่อันนี้
00:19:44 → 00:19:48 มันคือกลไกตามธรรมชาติซึ่งกระดูกที่เรา
00:19:48 → 00:19:51 เห็นว่ามันเป็นแท่งธรรมดาเนี่ยจริงๆมันมี
00:19:51 → 00:19:54 การทำงานอยู่ข้างในมันเหมือนเป็นโรงงาน
00:19:54 → 00:19:56 อยู่ข้างในว่าเฮ้ยเดี๋ยวตำแหน่งนี้จะต้อง
00:19:56 → 00:19:59 แข็งขึ้นนะเดี๋ยวตำแหน่งนี้จะต้องอ่อนลง
00:19:59 → 00:20:02 นะเพราะว่าคือมันจะเป็นการเขาเรียกว่า
00:20:02 → 00:20:05 กระจายแคลเซียมให้ไปโบกอยู่ในจุดที่เหมาะ
00:20:05 → 00:20:06 สม
00:20:06 → 00:20:10 ถ้าน้องไปหาเพราะว่าถ้าสมมติเอาเช่นนะ
00:20:10 → 00:20:13 กลุ่มคนที่ก็เล่นเวทเทรนนิ่งเล่นเวทเนี่ย
00:20:13 → 00:20:16 ยังไงน้ำหนักมันเยอะแต่แม่ก็นั้นกระดูก
00:20:16 → 00:20:19 บางจุดมันน้ำแข็งแต่ในขณะที่คนที่เล่นบาท
00:20:19 → 00:20:23 Training คือมีการดึงหน้ามีการดึงพวก
00:20:23 → 00:20:26 เนี้ยหรือพวกมีการใช้โยคะฟลายอย่างนี้
00:20:26 → 00:20:30 อยู่บนท้องฟ้าเยอะๆพวกนี้กลุ่มเนี้ยมันมี
00:20:30 → 00:20:33 แรง discussions Force มีแรงดึงไม่มีแรง
00:20:33 → 00:20:36 ดึงเนี่ยโอกาสที่กระดูกจะหักส่วนใหญ่จาก
00:20:36 → 00:20:38 การดึงมันน้อยมากยิ่งมันไม่มีเลยดีกว่า
00:20:38 → 00:20:41 ถ้าเราจะดึงแขนคนยังไงให้กระดูกมันหัก
00:20:41 → 00:20:45 แล้วจะดึงขาคนอย่างให้ดูมันหาไม่มีมันมี
00:20:45 → 00:20:47 แต่แรงกระแทกแรงอาจถูกมะเพราะฉะนั้นแรง
00:20:47 → 00:20:50 ดึงเมื่อเกิดขึ้นเมื่อไหร่กระดูกตรง
00:20:50 → 00:20:52 บริเวณนั้นจะอ่อนจะบางลงทันที
00:20:52 → 00:20:55 มีถึงเป็นเหตุให้พอเวลาหมอนกระดูกส่วน
00:20:55 → 00:20:59 ใหญ่ที่ขอให้คนไข้ออกกำลังกายบอกกระดูก
00:20:59 → 00:21:01 บางทำไงดีให้เล่นเวท
00:21:02 → 00:21:04 ถ้ามึงเอามันน่ากลัวอย่างที่ว่าไปเล่นเวท
00:21:04 → 00:21:07 แล้วเดี๋ยวดำคนทั่วไปก็งงเออๆเดี๋ยวมัน
00:21:07 → 00:21:11 เฮ้ยยิ่งแย่กว่าเดิมเปล่าคุณครับฮัลโหลผม
00:21:11 → 00:21:14 เนี่ยกระดูกบางอยู่แล้วนะให้ไปเล่นแม่
00:21:14 → 00:21:18 ครับคุณห้องงไหมเนี่ยอยากให้เล่นเวทเนี่ย
00:21:18 → 00:21:21 มันก็ยุบอะดิเอามันไปค่ายเราให้เล่นเวทใน
00:21:21 → 00:21:24 ปริมาณที่ไม่ได้หนักจนเกินไปไม่ได้ไปถึง
00:21:24 → 00:21:26 ขนาดยกน้ำหนักอะไรกันค่ะไม่ได้เป็นนัก
00:21:26 → 00:21:29 กีฬาทีมชาตินะอ้าแล้วก็ให้ยกเพื่อที่มัน
00:21:29 → 00:21:32 มีแรงกดลงมาเพราะไม่มีแรงกดปุ๊บมันจะทำ
00:21:32 → 00:21:36 ให้กระดูกเนี่ยมันเกิด RE moaning หรือ
00:21:36 → 00:21:38 กระดูกเกิดการกระจายของแคลเซียมไปในจุด
00:21:38 → 00:21:41 ที่เหมาะสมเมื่อมันกระจายไปในจุดที่เหมาะ
00:21:41 → 00:21:45 สมปุ๊บเนี่ยมันจึงทำให้เราลองรับแรงได้ดี
00:21:46 → 00:21:50 ที่นี้มันจะมีความสัมพันธ์กับกระดูกของคน
00:21:50 → 00:21:53 ที่ดื่มเหล้าน้อยยังไงอ้าเราย้อนกลับเข้า
00:21:53 → 00:21:57 มาคืออย่างนี้เขามีงานวิจัยและก็อธิบาย
00:21:57 → 00:21:59 เรื่องเนี้ยไว้เป็นอย่างดีเลยเกี่ยวกับ
00:21:59 → 00:22:03 เรื่องของการดื่มเหล้าน้อยว่ามันจะทำให้
00:22:03 → 00:22:08 เธอ No Rate หรือภาษาไทยแปลว่าการดูดซึม
00:22:08 → 00:22:11 ของแคลเซียมกับออกจากกระดูกเนี่ยลดลงก็
00:22:11 → 00:22:16 เรียกว่าเกิดการลดบนรีโมทลิงค์คือกระดูก
00:22:16 → 00:22:20 ของคนอื่นเด็กๆเนี่ยการมีรีโมทลิงค์หรือ
00:22:20 → 00:22:25 การปรับการกระจายแคลเซียมเนี่ยดียังไงใน
00:22:25 → 00:22:30 คนกระดูกอ่าปกตินะที่เป็นใบเด็กๆเนี่ยนะ
00:22:30 → 00:22:33 หรือจนถึงวัยพวกกลุ่มพวกเราได้ยังไม่ได้
00:22:33 → 00:22:36 แกะมากนะถ้าอ่าซึ่งยังมีฮอร์โมนตามปกติ
00:22:36 → 00:22:40 อยู่กลุ่มนี้จะทำให้เราสามารถใช้ชีวิต
00:22:40 → 00:22:43 ประจำวันได้อย่างดีขึ้นจากการเกิดการ
00:22:43 → 00:22:46 กระจายอย่างที่ผมได้พูดไปแล้วแต่ในคนสูง
00:22:46 → 00:22:49 อายุเนี่ยปัญหาคือ RE ลิงค์นี้มันเพี้ยน
00:22:49 → 00:22:54 เพราะอะไรมันมีการสลายออกมามากกว่าการ
00:22:54 → 00:22:56 สร้างอ่า
00:22:56 → 00:22:59 ใช่ไหมคะก็ไม่มีการสลายของกระดูกออกมา
00:22:59 → 00:23:02 เป็นแคลเซียมมากกว่าการสร้างก็ขอให้ดูกัน
00:23:02 → 00:23:04 บางลงไปตะจึงได้เกิดโรคกระดูกพรุนหรือ
00:23:04 → 00:23:08 กระดูกบางนี่ไงไปหาบวกกับการดื่มหญ้าถูก
00:23:08 → 00:23:11 ต้องยิ่งมาบวกกับการดื่มเหล้ามากๆมันยิ่ง
00:23:11 → 00:23:14 หนักไปใหญ่เลยคันนี้เพราะฉะนั้นเขาถึงบอก
00:23:14 → 00:23:18 ว่าการดื่มเหล้าน้อยๆมันจะเป็นรถกระบวน
00:23:19 → 00:23:23 การสลายของกระดูกออกมานะคือหรือรถรีโมท
00:23:23 → 00:23:26 ลิงค์นั่นเองจึงทำให้เป็นทฤษฎีที่บอกว่า
00:23:26 → 00:23:29 นี่แหละเกิดคุณดื่มแอลกอฮอล์ในๆเนี่ยนะ
00:23:29 → 00:23:34 ถ้าจะทำให้คุณหน่ะกระดูกบางน้อยลงกระดูก
00:23:34 → 00:23:38 บางช้าลงอ่ะแต่ทฤษฎีนี้มันก็เป็นทฤษฎีที่
00:23:38 → 00:23:42 ยังไม่ได้รับการยืนยันและพิสูจน์อย่างชัด
00:23:42 → 00:23:44 เจนเพราะอะไรเพราะมันยังมีบางกลุ่มที่เอา
00:23:44 → 00:23:46 ไปทำงานวิจัยและปรากฏว่า
00:23:46 → 00:23:50 1.3 เท่าเนี่ยที่ผมพูดว่ามันมีโอกาสที่
00:23:50 → 00:23:53 จะเกิดกระดูกพรุนหรือกระดูกบางนะเพิ่ม
00:23:53 → 00:23:56 ขึ้นนั่นหมายความว่าทฤษฎีนี้อาจจะไม่จริง
00:23:56 → 00:23:59 มันก็ยืนยันไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ถูกต้อง
00:23:59 → 00:24:04 แต่ว่าถามว่าอ่ะหมอคุณหมอทำไมเคยได้ยินมา
00:24:04 → 00:24:07 ว่าในการดื่มเหล้าในปริมาณที่น้อยเนี่ยนะ
00:24:07 → 00:24:10 มันไม่กระดูกบางช้าลงก็อันนี้แหละจะเป็น
00:24:10 → 00:24:13 เหตุผลที่ดีที่สุดที่จะอธิบายได้คือหอก็
00:24:13 → 00:24:15 กระบวนการดูดซึมแคลเซียมในร่างกายคุณน่ะ
00:24:15 → 00:24:18 มันลดลงเพราะว่าปัจจัยของพอมันเป็นมีผล
00:24:18 → 00:24:21 นั่นน่ะแต่เนี้ยทั้งนี้ทั้งนั้นนะฮะวัน
00:24:21 → 00:24:24 นี้เราที่เราพูดเนี่ยมันจะสนับสนุนการ
00:24:24 → 00:24:27 ดื่มแอลกอออล์แต่ว่าเราจะมาอธิบายให้คน
00:24:27 → 00:24:31 ที่ชอบพูดว่าลืมแล้วก็เหาะน้อยแล้วดี
00:24:31 → 00:24:35 เนี่ยอ่ะเปลี่ยนความคิดซะใหม่นะฮะถ้าดื่ม
00:24:35 → 00:24:39 สังสรรค์เล็กน้อยคุณก็อาจจะคิดมองโลกใน
00:24:39 → 00:24:42 แง่บวกว่านี่ไงการดื่มแอลกอฮอล์หน้ารถหมด
00:24:42 → 00:24:44 Bowling Bowling ทำให้กระดูกมันบางช้า
00:24:44 → 00:24:48 ลงมีเรียกคิดรวมมองโลกบวกนะเพื่อนเรารู้
00:24:48 → 00:24:51 สึกว่ามันไม่ทำลายสุขภาพแต่ในอีกมุมนึง
00:24:51 → 00:24:54 เนี่ยถ้าคนที่ไม่ดื่มหรือไม่ได้อยู่แล้ว
00:24:54 → 00:24:58 ดีอยู่แล้วเพราะว่านี่ไงถ้าคุณดื่มนะคุณ
00:24:58 → 00:25:00 มีโอกาสที่จะกระดูกจะมีปัญหา 1.3 เท่า
00:25:00 → 00:25:04 นั้นแหละก็คือดื่มหรือจำเป็นต้องนึงจริงๆ
00:25:04 → 00:25:09 คุณก็บอกเพื่อนๆคนเลยพวกประเภทชอบชนมอญ
00:25:09 → 00:25:12 แต่พวกเนี้ยคุณก็บอกพวกเขาว่าเฮ้ยไม่ได้
00:25:12 → 00:25:15 บ่มีบอกว่าถ้าจะดื่มให้ดื่มไรตัวเองเท่า
00:25:15 → 00:25:19 นั้นแค่ 1 drink หรือ 1 แก้วหรือไม่เกิน
00:25:19 → 00:25:22 2 แก้วเพราะถ้าเกิดดื่มเพื่อน 2 แก้วหมอ
00:25:22 → 00:25:25 มีเขาจะว่าเอาแล้วก็ผู้หน้านะฮะไม่งั้น
00:25:25 → 00:25:27 อันนี้เนี่ยวันนี้เราก็อธิบายให้ฟัง
00:25:27 → 00:25:30 เกี่ยวข้องกับการดื่มนะคืนนี้มันได้อยู่
00:25:30 → 00:25:33 กับผมเองมากนะเพราะว่าในทุกครั้งที่วัน
00:25:33 → 00:25:36 นี้ผมไปดื่มข้างนอกสังสรรค์หรือไม่มีอะไร
00:25:36 → 00:25:39 ทำไปนั่งอยู่แบบ Sky Bar นั่งไม่มีอะไร
00:25:39 → 00:25:42 ทำอ่ะไรก็บ้าแล้วก็เฮ้ยไม่ได้ว่าห้ามเกิน
00:25:42 → 00:25:45 10 กรัมเพราะฉะนั้นตัวเราเองก็จะสามารถ
00:25:45 → 00:25:49 ควบคุมตัวเองว่าห้ามดื่มเกิน 1 ยิงได้นะ
00:25:49 → 00:25:51 ครับวันนี้ก็ฝากไว้แต่เพียงเท่านี้ขอให้
00:25:51 → 00:25:53 ทุกคนมีความสุขและสุขภาพแข็งแรงครับพอดี
00:25:54 → 00:25:57 ครับคุณอาหมอมีฮะสรุปได้ดีมากเลยนะคะอ่ะ
00:25:57 → 00:25:59 แต่เป็นไงก็ต้องระวังด้วยในการดื่ม
00:25:59 → 00:26:01 เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะว่าบางคนอาจจะ
00:26:01 → 00:26:04 ไม่ได้ทนทานเรามาดูนิดนึงก็ไปแล้วนะคะมัน
00:26:04 → 00:26:06 อาจจะมีผลอย่างอื่นด้วยนะวันนี้ขอบคุณคุณ
00:26:06 → 00:26:08 มาฟังที่ติดตามรับฟังกันแล้วพบกันใหม่
00:26:08 → 00:26:10 ครั้งหน้านะคะสวัสดีค่ะ
00:26:10 → 00:26:15 SS ThaiPBS คาสฟ้าหนึ่งในโรคผิวหนังที่
00:26:15 → 00:26:17 รักษาไม่หายทำได้เพียงแค่จางจากปัญหา
00:26:17 → 00:26:19 สินค้าหลอกให้ข้อมูลหลวงว่ารักษาหายขาด
00:26:19 → 00:26:22 ถ้าดีสรวลัยรักชาติสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่ง
00:26:22 → 00:26:25 ประเทศไทยมาบอกให้รู้ครับ
00:26:25 → 00:26:29 5 ก็ก็เหมือนโลกอยู่ต่างอันนึงนะคะที่
00:26:29 → 00:26:32 เกิดจากความผิดปกติของเม็ดสีนะมันสร้าง
00:26:32 → 00:26:36 เม็ดสีเข้มขึ้นมานะคะแล้วก็ปัจจุบันเนี่ย
00:26:36 → 00:26:39 มันก็มีงานวิจัยออกมาเรื่อยๆว่ามันไม่ใช่
00:26:39 → 00:26:41 แค่เรื่องของเม็ดสีแล้วนะมันเป็นเรื่อง
00:26:41 → 00:26:44 ของสารเคมีในผิวที่มันทำให้เกิดการอักเสบ
00:26:44 → 00:26:47 หรือว่าเป็นเรื่องของหลอดเลือดก็มีนะคะ
00:26:47 → 00:26:50 เค้าจะเห็นว่าลักษณะของฝ้าเนี่ยมันจะ
00:26:50 → 00:26:54 เหมือนตาข่ายสีน้ำตาลน้ำตาลค่ะอยู่บนใบ
00:26:54 → 00:26:57 หน้าใช่ไหมคะสิ่งที่อยากบอกคือบางทีเนี่ย
00:26:57 → 00:27:01 คนจะเข้าใจผิดระหว่างฝ้ากับพวกกระหายบาง
00:27:01 → 00:27:03 ทีเราต้องแยกกันเอ่อออกคนไข้จะชอบมาเนี่ย
00:27:03 → 00:27:06 หนูเป็นฝ้าหนูเป็นฝ้าแต่แบบอุ้ยหนูจริงๆ
00:27:06 → 00:27:08 เป็นแค่กระนะคลิกที่เราต้องแยกมันออกจาก
00:27:08 → 00:27:11 การเพราะว่าการรักษาในมันต่างกันค่อนข้าง
00:27:11 → 00:27:15 มาก 5 วินิจฉัยผิดรักษาผิดในบางทีแบบมัน
00:27:15 → 00:27:18 แย่กว่าเดิมไม่อยากจะบอกให้เสียกำลังใจนะ
00:27:18 → 00:27:22 แต่ฝ้าเนี่ยเป็นแล้วแบบมันไม่หายอ่ะการ
00:27:22 → 00:27:25 รักษาที่จะดีที่สุดคือพยายามทำให้สีมัน
00:27:25 → 00:27:29 จางแล้วก็จางนานที่สุดค่ะแต่บางคนอาจจะหา
00:27:29 → 00:27:33 อยู่นี่มันหายเองโปรหมดประจำเดือนแล้วหาย
00:27:33 → 00:27:36 เลยเนี้ยหรือบางคนเป็นฝ้าตอนทองอันนี้
00:27:36 → 00:27:39 อะไรที่นิดนึงเป็นฟ้าตอนท้องฟ้าดำขึ้นแต่
00:27:39 → 00:27:43 พอคลอดเสร็จฮอร์โมนอะไรมันลงเรียบร้อยละ
00:27:43 → 00:27:47 ก็ไฟฟ้าหายเลยเนี้ยค่ะครีมทาฝ้าเนี่ยถ้า
00:27:47 → 00:27:51 ถ้าพวกมีอยก็ยังรู้สึกว่าลงใจว่าแบบมัน
00:27:51 → 00:27:54 ยังพออับเชื่อถือได้ใช่ไหมคะแต่ว่าถ้า
00:27:54 → 00:27:56 ครีมที่แลปเมื่อก่อนนี้เขาบอกว่าซื้อตาม
00:27:56 → 00:27:59 ตลาดนัดหรือว่าไม่มีอยกวนเองหลังบ้านเลย
00:27:59 → 00:28:02 เนี่ยพวกนี้ต้องระวังเลยนะคะหมอเขาว่า
00:28:02 → 00:28:05 อยากจะทำครีมที่เหมือนทาแล้วมัน 7 วัน
00:28:05 → 00:28:09 เห็นผลจริงๆอะไรแบบนี้ขาวไวกว่านั้นเขาจะ
00:28:09 → 00:28:13 ใส่สารที่มันค่อนข้างอันตรายเนี่ยค่ะยก
00:28:13 → 00:28:16 ตัวอย่างเช่นใส่สารปรอทอย่างเงี้ยคือทา
00:28:16 → 00:28:18 แล้วมันขาวจริงนะแต่ว่ามันขาวเป็นเหมือน
00:28:18 → 00:28:21 แบบเม็ดสีตายนั้นอ่ะขาวแบบซีดเป็นเหมือน
00:28:21 → 00:28:23 ดาบขาวไปเลยอย่างนี้มันก็ไม่สวยอยู่ดี
00:28:23 → 00:28:25 หรือใส่สารพวก
00:28:25 → 00:28:29 ไฮโดรควิโนนหรือว่ากดวิตามินเอหรือว่า
00:28:29 → 00:28:32 สเตียรอยด์ที่มันเข้มข้นนะคะถ้าช่วงล่าง
00:28:32 → 00:28:35 มันจะขาวจริงแต่พอทาไปนานๆเนี่ยมันจะทำ
00:28:35 → 00:28:38 ให้อย่างเสตียรอยด์จะทำให้ผิวบางแล้วก็
00:28:38 → 00:28:40 เส้นเลือดขึ้นนะคะอันนี้หรือให้ดอกพี่
00:28:40 → 00:28:45 นนท์เนี่ยพอทาไปนานๆนะคะมันจะมีสารไปจับ
00:28:45 → 00:28:48 กับตัวในโครงสร้างผิวของเราและกลายเป็น
00:28:48 → 00:28:51 เม็ดสีดำขึ้นมาฆ่าซึ่ง ms สีดำเนี่ยมันจะ
00:28:51 → 00:28:54 เกาะอยู่ถาวรก็คือทาไปช่วงแรกข่าวดีนะแต่
00:28:54 → 00:28:58 สักพักหน้าดำขึ้นดำขึ้นเราก็แบบดำแบบเป็น
00:28:58 → 00:29:01 จุดดำๆเข้มเป็นพืชเลยแล้วก็รักษาไม่หาย
00:29:01 → 00:29:05 อุ้ยหมีอย่าที่เคลมว่าแบบฝ้าหายชั่วหมาย
00:29:05 → 00:29:08 จริงแล้วแบบบางทีใน 7 วันอะไรนี้ด้วย
00:29:08 → 00:29:11 เนี่ยอันยิงขอพูดได้เลยว่ามันไม่จริงนะคะ
00:29:11 → 00:29:14 เพราะว่าการรักษาฝ้าเนี่ยทายาในยังต้อง
00:29:14 → 00:29:18 ใช้เวลาอย่างน้อยเลยนะคะคือ 1 เดือนเราจะ
00:29:18 → 00:29:22 ดูด้วยว่ายาทามันได้ผลกับคนเป็นฝ้าคนนี้
00:29:22 → 00:29:24 ไหมบางทีเราต้องดูถึง 6 เดือนเลยค่ะค่ะ
00:29:24 → 00:29:28 ถ้าทาไปแล้วแบบ 6 เดือน 3 เดือน 6 เดือน
00:29:28 → 00:29:31 นี้ไม่จางเราอาจจะต้องเริ่มพิจารณาว่าเออ
00:29:31 → 00:29:34 เราจะเอาเครื่องมืออย่างอื่นมาช่วยในการ
00:29:34 → 00:29:37 รักษาหรือเปล่า
00:29:37 → 00:29:42 wes ไทยพีบีเอสคาร์ส
00:29:42 → 00:29:45 ที่ตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน
00:29:45 → 00:29:49 ของไทยที่บช.ปสคาสเปอร์ติฟาย soundcloud
00:29:49 → 00:29:53 Google bot Class Apple คาสระ YouTube
00:29:53 → 00:29:56 Channel Thai PBS อดคาซท์ไทยพีบีเอส
00:29:56 → 00:29:59 คอร์ทขาด you the world's เกียร์
00:29:59 → 00:30:00 เทอร์โบอีก
00:30:00 → 00:30:01 [เพลง]
00:30:02 → 00:30:05 ม.ค