00:00:00 → 00:00:02 ครับเกี่ยวกับเรื่องกลิ่นนะครับจริงๆจริง
00:00:02 → 00:00:06 ๆอาการทั่วๆไปนะครับอ่าอาการต่างๆที่พบ
00:00:06 → 00:00:09 บ่อยบ่อยๆในเวลาคุณผู้หญิงมาปรึกษาหมอ
00:00:09 → 00:00:12 สูตินารีเวชเนี่ยนะครับค่ะก็จริงๆอาการ
00:00:12 → 00:00:14 หลักๆก็มีอยู่ไม่มากนะครับที่เจอบ่อยๆก็
00:00:14 → 00:00:18 อ่ามีตกขาวบ้างนะครับมีอ่าประจำเดือนผิด
00:00:18 → 00:00:21 ปกตินะครับหรือว่ามีอาการปวดท้องน้อยอะไร
00:00:21 → 00:00:26 เงี้ยนะครับมีอาการคันนะครับหรือว่าบางคน
00:00:26 → 00:00:28 ก็จะมีอ่าถ้าเกี่ยวข้องกับเพศสำคัก็จะมี
00:00:29 → 00:00:31 อาการเจ็บอาการปวดนะครับแล้วอาการนึงที่
00:00:32 → 00:00:35 ที่คนไข้มาพบหมอบ่อยๆนะครับก็เรื่องของ
00:00:35 → 00:00:37 กลิ่นนี่แหละครับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
00:00:37 → 00:00:40 นี่แหละครับคราวนี้คราวนี้หลายๆคนก็อาจจะ
00:00:40 → 00:00:44 สงสงสัยครับว่าเอ๊ะแล้วอวัยวะเอ่อจุดซ่อน
00:00:44 → 00:00:45 เว้นของคุณผู้หญิงนะครับอวัยวะสืบพันธ์
00:00:46 → 00:00:49 เนี่ยมันมีเรื่องของกลิ่นเอ่อที่เป็นคือ
00:00:49 → 00:00:51 ยังไงเราถึงจะเรียกว่ามันเป็นปัญหานะครับ
00:00:51 → 00:00:54 หรือว่ากลิ่นเมันควรจะมีหรือไม่มีนะครับ
00:00:54 → 00:00:56 จริงๆแล้วเนี่ยนะครับต้องต้องเรียนว่า
00:00:56 → 00:00:59 ทั่วๆร่างกายของเราจริงๆไม่ใช่ร่างกายคุณ
00:00:59 → 00:01:01 ู้หญิงหรอกคุณใช่ก็เหมือนกันทุกทุกทั่ว
00:01:01 → 00:01:03 ร่างกายเราเนี่ยมันก็ที่ผิวหนังก็จะมี
00:01:03 → 00:01:06 ต่อมเหงื่อนะครับต่อมเหงื่อจริงๆเป็นช่อง
00:01:06 → 00:01:08 สำหรับการเหมือนกับเป็นหนทางสำหรับการ
00:01:08 → 00:01:11 ระบายความร้อนน่ะเวลาอุร่างกายต้องการจะ
00:01:11 → 00:01:13 รักษาอุณหภูมิบางทีแบบร่างอุณหภูมิภายใน
00:01:13 → 00:01:16 ร่างกายมันร้อนมากๆเลยนะครับมันก็จะมีการ
00:01:16 → 00:01:18 ขับเหงื่อแล้วก็มันก็จะเหงื่อที่ออกมามัน
00:01:18 → 00:01:21 ก็เป็นการลดอุณหภูมิไปได้ในตัวครับซึ่ง
00:01:21 → 00:01:25 แน่นอนเอ่อถ้าหากเราเรามีเหนื่อเยอะอย่าง
00:01:25 → 00:01:27 ยกตัวอย่างในประเทศเราก็เขตร้อนน่ะนะครับ
00:01:28 → 00:01:30 หรืออย่างเมื่อสักครู่คุณเจสมมุติถ้าเดิน
00:01:30 → 00:01:34 ทางไปโห 50 องศเนี่ยในช่วงที่สาอุอยู่ใน
00:01:34 → 00:01:36 หน้าร้อนเนี่ยนะครับก็ก็ต้องมีเหงื่อเยอะ
00:01:36 → 00:01:38 แน่ๆเพราะว่าร่างกายต้องระบายความร้อนนะ
00:01:38 → 00:01:41 ครับคราวนี้ในบริเวณของจุดซ่อนเด้นของเรา
00:01:41 → 00:01:43 เี่นะครับมันจะพิเศษกว่าผิวหนังบริเวณ
00:01:43 → 00:01:45 อื่นๆเพราะว่านอกจากมีต่อมเหงื่อแล้ว
00:01:45 → 00:01:49 เนี่ยเอ่อในในโครงสร้างของอวัยวะสืบ
00:01:49 → 00:01:51 พันธุ์ของคุผู้หญิงเนี่ยนะครับอวัยวเพศ
00:01:51 → 00:01:55 เนี่ยมันก็จะมีเอ่อกลไกที่เอ่อธรรมชาติ
00:01:55 → 00:01:57 เนี่ยจะต้องจะต้องให้ความชุ่มชื้นให้กัน
00:01:57 → 00:02:00 หล่อลื่นอ่าอย่างงี้เราคิดง่ายๆนะครับ
00:02:00 → 00:02:02 อวัยวะเพศของคณผู้หญิงเนี่ยนะครับอย่าง
00:02:02 → 00:02:05 ช่องคลอดเนี่ยมันจะเป็นส่วนที่อ่าถ้าพูด
00:02:05 → 00:02:07 ถึงเวลามีเพศสัมพัธเนี่ยมันก็จะมีการ
00:02:07 → 00:02:10 สัมผัสเสียดสีของของอเเพศคุณผู้ชายนะครับ
00:02:10 → 00:02:12 ที่ล่วงล้ำเข้าไปในช่องคลอดนะครับแล้วก็
00:02:12 → 00:02:15 เอ่อเในระหว่างสัมผัสเสียดสีขณะมีเพศ
00:02:15 → 00:02:18 สัมพันธเนี่ยนะครับถ้าเกิดสภาพช่องคลอด
00:02:18 → 00:02:20 เนี่ยมันแห้งเกินไปนะครับมันก็จะมีลักษณะ
00:02:20 → 00:02:23 ของการเหมือนกับเราเอาไปถูอะไรที่มันแห้ง
00:02:23 → 00:02:26 ๆอ่ะกับผิหนังเรามันก็จะมีโอกาสแตกนะครับ
00:02:26 → 00:02:29 มีโอกาสเกิดเกิดรอยฉีกขาดเกิดเป็นแผลเกิด
00:02:29 → 00:02:32 การอักเสบได้เพราะฉะนั้นในส่วนของช่อง
00:02:32 → 00:02:35 คลอดหรืออเพศของคุณผู้หญิงเนี่ยธรรมชาติ
00:02:35 → 00:02:38 ก็จะมีการผลิตป่อมเหมือนกับป่อมที่มันให้
00:02:38 → 00:02:42 ความชุ่มชื้นในบริเวณเนี้ยมากกว่าบริเวณ
00:02:42 → 00:02:45 อื่นๆอืนะครับการที่ช่องคลอดเนี่ยมีมี
00:02:45 → 00:02:48 ความชุ่มชื้นเนี่ยมันก็จะลดแรงเสียดทานง
00:02:48 → 00:02:50 ขณะมีเพพสัมพันธ์เนี่ยมันก็จะแบบเกิดการ
00:02:50 → 00:02:53 บาดเจ็บหรือเกิดเป็นแผลอะไรได้น้อยลงค่ะ
00:02:53 → 00:02:55 นะครับยิ่งไปกว่านั้นผู้หญิงเราเนี่ยนะ
00:02:55 → 00:02:57 ครับในช่วงวัยเจริญพันธุ์เนี่ยมันก็จะมี
00:02:57 → 00:03:01 เรื่องของการเปลี่ยนแปลงเ่าระดับฮอร์โมน
00:03:01 → 00:03:03 นะครับโดยเอ่อผู้หญิงเราก็จะรอบประจำ
00:03:03 → 00:03:06 เดือนของเราเนี่ยนะครับมันจะเ่อโดยเฉลี่ย
00:03:06 → 00:03:08 เนี่ก็จะมี 28 วันเนี่ยนะครับมันก็จะ
00:03:08 → 00:03:10 เริ่มจากต้นของรอบเนี่ยก็จะเป็นช่วงที่
00:03:10 → 00:03:12 ไข่เจริญเติบโตจนกระทั่งไปถึงกลางๆรอบ
00:03:12 → 00:03:15 เช่นประมาณวันที่ 14 เนี่ยไข่ก็จะสุกแล้ว
00:03:15 → 00:03:17 ก็ตุกมาแล้วก็หลังจากนั้นเนี่ยนะครับมัน
00:03:17 → 00:03:20 ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพในโพรงมรูป
00:03:20 → 00:03:21 เพื่อสมมุติเกิดไข่ที่ตกนั้นเกิดไป
00:03:21 → 00:03:24 ปฏิสนธิแล้วก็กลายเป็นตัวอ่อนก็จะได้มา
00:03:24 → 00:03:26 ฝังตัวแล้วก็เกิดเป็นการตั้งครรภ์นะครับ
00:03:26 → 00:03:30 การเปลี่ยนแปลงต่างๆของสของสภาวะของเอ่อ
00:03:30 → 00:03:33 รอบประจำเดือนเนี้ยนะครับร่างกายของมผู้
00:03:33 → 00:03:35 หญิงเนี่ยก็จะมีการสร้างสารคัดหลังที่
00:03:35 → 00:03:38 เปลี่ยนแปลงไปอย่างเช่นอย่างเช่นเราจะมี
00:03:38 → 00:03:42 ลักษณะของมีมูกเหนียวๆนะครับออกมามากนะ
00:03:42 → 00:03:44 ครับใน 2 ช่วงก็คือช่วงก่อนและหลังมี
00:03:44 → 00:03:47 ประจำเดือนนะครับกับอีกอันนึงก็คือช่วง
00:03:47 → 00:03:50 ตรงกลางก็คือช่วงของไข่ตกนะครับทั้งนี้
00:03:50 → 00:03:53 เ่อกระบวนการในการสร้างมูกเนี่ยยก็เพื่อ
00:03:53 → 00:03:55 ประโยชน์ในการเจริญพันธุ์อย่างสมมุติว่า
00:03:55 → 00:03:58 ถ้าเป็นช่วงที่ก่อนหรือหลังประจำเดือนมา
00:03:58 → 00:04:00 เนี่ยนะครับมันเป็นเพราะมันมีการเอ่อ
00:04:00 → 00:04:02 เปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนทั้งเอสโตรเจน
00:04:02 → 00:04:04 และโปรเจสเตอโรนส่วนตรงถ้าเกิดมูกที่ออก
00:04:05 → 00:04:07 มาตรงกลางรอบเดือนเนี่ยมันจะเป็นมูกที่
00:04:07 → 00:04:10 ออกในช่วงไข่ตกซึ่งมูกเนี้ยนะครับจะเป็น
00:04:10 → 00:04:13 ส่วนที่เหมือนกับสามารถทำให้เวลามีเพศสภา
00:04:13 → 00:04:16 แลอสุจิมันจะละลายผ่านมูกแล้วก็สามารถ
00:04:16 → 00:04:18 ผ่านเข้าไปในมดลูกแล้วก็ผ่านไปตามท่อน้ำ
00:04:18 → 00:04:21 ไข่แล้วก็ไปเจอกับเอ่อปฏิสนธิกับไข่ได้
00:04:21 → 00:04:25 ง่ายขึ้นนะครับเพราะฉะนั้นถ้าเราพูดถึง
00:04:25 → 00:04:28 เรื่องของเอ่ออวัยวะสึพันธุ์คุณผู้หญิง
00:04:28 → 00:04:29 เนี่ยมันมีโอกาสที่มีการเปลี่ยนเปลี่ยน
00:04:29 → 00:04:32 แปลงและมีความอับชื้นนะครับอยู่ตลอดเวลา
00:04:32 → 00:04:34 ยิ่งไปกว่านั้นเนี่ยนะครับ
00:04:34 → 00:04:38 เอ่อเราเคยพูดถึงเรื่องของเอ่อแบคทีเรีย
00:04:39 → 00:04:41 ประจำประจำถิ่นนะครับในช่องคอดอยู่แล้ว
00:04:41 → 00:04:43 คือช่องคอดเราเนี่ยเาจะมีแบคทีเรียประจำ
00:04:43 → 00:04:46 ถิ่นซึ่งเอ่อเจ้าแบคทีเรียพวกเนี้ยจะช่วย
00:04:46 → 00:04:49 รักษาสมดุลนะครับรักษาสภาวะของช่องคลอด
00:04:49 → 00:04:51 เนี่ยให้มีความเป็นกรดอ่อนๆซึ่งสภาวะที่
00:04:51 → 00:04:53 เป็นกรดอ่อนๆเนี่ยมันจะเป็นเหมือนกับตัว
00:04:53 → 00:04:56 ป้องกันไม่ให้พวกเชื้อโรคที่แปลกปลอมที่
00:04:56 → 00:04:59 ไม่ใช่เป็นเชื้อประจำถิ่นเแปลกปลอมจากภาย
00:04:59 → 00:05:01 นอกเช่นอาจจะมาจากการมีเพศสัมพันธ์อาจจะ
00:05:01 → 00:05:03 มาจากวัสดุแปลกปลอมอะไรหรือการอักเสบต่าง
00:05:03 → 00:05:06 ๆเนี่ยมันจะเล็ดรอดเข้าสู่ร่างกายแล้วไป
00:05:06 → 00:05:09 ทำอันตรายร่างกายคุณผู้หญิงได้ยากขึ้นอัน
00:05:09 → 00:05:12 นี้ก็ด้วยความสมดุลของแบคทีเรียประจำถิ่น
00:05:12 → 00:05:15 ในช่องคลอดนั่นเองนะครับค่ะเพราะฉะนั้น
00:05:15 → 00:05:18 เมื่อเรารวมๆกันทั้งหมดนะครับทั้งจาก
00:05:18 → 00:05:20 สรีระของบริเวณช่องคลอดบริเวณอววสืบ
00:05:20 → 00:05:23 พันธุ์ที่มันมีการสร้างเมือกนะครับการ
00:05:23 → 00:05:25 สร้างเมือกโดยเฉาะยิ่งมีเมือกมีสารคัด
00:05:25 → 00:05:27 หลั่งเปลี่ยนแปลงตามฮอร์โมนแล้วก็เอ่อยัง
00:05:27 → 00:05:30 มีแบคทีเรียที่อยู่ประจำถิ่นเนี่ยนะครับ
00:05:30 → 00:05:34 เอ่อการทำงานร่วมกันของแบคทีเรียกับการ
00:05:34 → 00:05:36 ที่มีความอับชื้นในบริเวณอ่าช่องคลอด
00:05:36 → 00:05:38 เนี่ยมันก็จะย่อมทำให้คุณผู้หญิงแต่ละ
00:05:38 → 00:05:40 ท่านเนี่ยนะครับในส่วนของอรยเพศเนี่ยไม่
00:05:40 → 00:05:44 มากและน้อยมันก็จะมีกลิ่นตามมาค่ะนะครับ
00:05:44 → 00:05:45 เหมือนเค้าเรียกว่าเหมือนเหมือนเป็นกลิ่น
00:05:45 → 00:05:48 ประจำตัวของเราอ่ะก็เหมือนกับแต่ละคนก็ก็
00:05:48 → 00:05:51 จะมีกลิ่นเหงื่อของตัวเราเองนะครับซึ่ง
00:05:51 → 00:05:53 ถ้ามันเป็นกลิ่นประจำตัวเนี่ยลักษณะกลิ่น
00:05:53 → 00:05:56 นั้นมันก็จะมันก็จะไม่มันจะไม่ให้ความผิด
00:05:56 → 00:05:59 ปกติที่เป็นกลิ่นเหม็นรุนแรงอะไรนะครับ
00:05:59 → 00:06:01 คือถ้าเป็นกลิ่นที่เหมือนรุนแรงผิดปกติ
00:06:01 → 00:06:03 เนี่ยมันมักจะมีสาเหตุซึ่งเดี๋ยวเราจะ
00:06:03 → 00:06:05 เล่าให้ฟังต่อไปนะครับมันก็จะเป็นสาเหตุ
00:06:05 → 00:06:07 ที่มันผิดปกติจากธรรมชาตินั่นแหละเพราะ
00:06:07 → 00:06:10 ฉะนั้นผู้หญิงเรามีกลิ่นในบริเวณจุดซ่อน
00:06:10 → 00:06:12 เล้นเนี่ยไม่ใช่เรื่องแปลกนะครับค่ะเป็น
00:06:12 → 00:06:15 เรื่องที่มันเป็นตามธรรมชาติด้วยสรีระ
00:06:15 → 00:06:17 อย่างที่เราบอกมาแล้วนะครับค่ะเ่อเพียง
00:06:17 → 00:06:20 แต่ว่าเ่อถ้าเราจะพูดถึงกลิ่นนะครับซึ่ง
00:06:20 → 00:06:22 มันจะมีความผิดปกติหรือไม่เนี่ยนะครับเรา
00:06:22 → 00:06:25 ก็ต้องมาดูกมือว่าสาเหตุใดบ้างที่ทำให้
00:06:25 → 00:06:28 เอ่ออรยสืบพันธุ์ของคุณผู้หญิงเนี่ยมี
00:06:28 → 00:06:32 เอ่อมีโอกาสที่จะเกิดกลิ่นที่ผิดปกติได้
00:06:32 → 00:06:34 นะครับซึ่งถ้าเราแบ่งเป็นประเภทเนี่ยก็
00:06:34 → 00:06:38 อาจจะแยกได้ประมาณเป็น 5-6 สาเหตุนะครับอ
00:06:38 → 00:06:41 สเอที่ 1 นะครับอันนี้อยู่กับการปฏิบัติ
00:06:41 → 00:06:44 ตัวของเราเองนั่นแหละนะครับก็คือการดูแล
00:06:44 → 00:06:49 ในเรื่องของเอ่ออ่ะการการใส่กางเกงในนะ
00:06:49 → 00:06:52 ครับชุดชั้นในหรือว่าการแต่งกายของเรา
00:06:52 → 00:06:54 เนี่ยนะครับว่าเอ่อแต่งกายเนี่ยเป็น
00:06:54 → 00:06:57 กางเกงที่มันมีการรัดแน่นเกินไปมยนะครับ
00:06:57 → 00:07:00 หรือว่าถ้าเทียบกับเอ่อใส่กับโปงสบายๆมัน
00:07:00 → 00:07:03 ก็ระบายอากาศได้ดีกว่าเพราะฉะนั้นการแต่ง
00:07:03 → 00:07:06 ตัวนะครับนะทั้งจะเป็นเอ่อกางเกงชั้นใน
00:07:06 → 00:07:08 หรือว่าจะเป็นเ่อไม่ว่าจะเป็นกางเกงหรือ
00:07:08 → 00:07:11 กระโปรงที่อยู่ชั้นนอกเนี่ยนะครับค่ะเอ่อ
00:07:11 → 00:07:13 ต้องต้องดูแลให้บริเวณเนี้ยโดยทั่วไป
00:07:13 → 00:07:16 เนี่ยเป็นลักษณะที่มีการระบายอากาศได้ดีอ
00:07:16 → 00:07:19 นะครับเพราะฉะนั้นถ้าเกิดเราดูแลไม่ดีนะ
00:07:19 → 00:07:21 ครับเช่นใส่กางเกงในที่มันรัดแน่นเกินไป
00:07:21 → 00:07:24 ใส่ข้างนอกใส่กางเกงยีนนะครับไม่มีช่อง
00:07:24 → 00:07:26 ว่างให้เกิดการระบายอากาศเนี่ยแน่นอนมัน
00:07:26 → 00:07:29 ก็จะมีการสะสมของไอ้เจ้าสารคัดหลั่งต่าง
00:07:29 → 00:07:31 ตงๆที่มีอยู่แล้วทำให้เกิดเป็นความชื้น
00:07:31 → 00:07:34 ที่ซ่อนอยู่ภายในนะครับเื่อความชื้นที่
00:07:34 → 00:07:36 ซ่อนอยู่เนี่ยนะครับมันจะมีโอกาสทำให้
00:07:36 → 00:07:38 เกิดการระคายเคืองจากความชื้นนั้นเหมือน
00:07:38 → 00:07:40 กับมันเป็นเหงื่อแฉะๆอยู่บริเวณนั้นน่ะ
00:07:40 → 00:07:43 อับชื้นอยู่เป็นเวลานานเนี่ยผนังเยื่อบุ
00:07:43 → 00:07:45 ของช่องคลอดหรือเอว่าะสืบพันธุ์ภายนอก
00:07:45 → 00:07:49 เนี่ยนะครับบริเวณแคมนอกแคมในพวกเมันก็จะ
00:07:49 → 00:07:51 เกิดการอักเสบและเป็นแผลได้ง่ายนะครับ
00:07:51 → 00:07:53 ซึ่งเมื่อเกิดเป็นแผลเนี่ยมันก็จะเป็น
00:07:53 → 00:07:56 ช่องทางให้แบคทีเรียหรือเชื้อโรคอื่นๆ
00:07:56 → 00:07:58 เนี่ยมันเข้ามาเหมือนกับเข้าสู่ร่างกาย
00:07:58 → 00:08:00 ทางบาดแผลนั้นก็ทำให้เกิดการอักเสบติด
00:08:01 → 00:08:03 เชื้อซึ่งตรงเนี้ยเอ่อการติดเชื้อจากพวก
00:08:03 → 00:08:06 แบคทีเรียที่แปลกปลอมเนี่ยมันจะทำให้เอ่อ
00:08:06 → 00:08:09 มันไปรบกวนสมดุลของแบคทีเรียประจำถิ่น
00:08:09 → 00:08:11 แล้วก็ทำให้เกิดลักษณะของการที่มีกลิ่น
00:08:11 → 00:08:13 เหม็นในจุดซ่อนเล้นตามมาได้นะครับเพราะ
00:08:13 → 00:08:16 ฉะนั้นสอันที่ 1 เนี่ยจริงๆก็อยู่กับความ
00:08:16 → 00:08:18 ประพฤติหรือการแต่งตัวหรือการดำเนินชีวิต
00:08:18 → 00:08:23 ประจำวันของเราเองอนะครับอันนี้อันนี้ก็
00:08:23 → 00:08:27 อ่อเดี๋ยวเราจะไปพูดถึงวิธีการแก้ไขกันใน
00:08:27 → 00:08:30 ช่วงท้ายแล้วะกันนะครับค่ะค่ะอ่าสาเหตุ
00:08:30 → 00:08:32 ประการที่ 2 นะครับประการที่ 2 ก็คือจริง
00:08:32 → 00:08:34 ๆมันคล้ายๆกับการดูแลตัวเองในกลุ่มแรกแต่
00:08:34 → 00:08:36 ว่าอันนี้จะเป็นลักษณะของการดูแลทำความ
00:08:36 → 00:08:39 สะอาดในจุดวามสำเร็ดอย่างไม่ถูกต้องนะ
00:08:39 → 00:08:43 ครับไม่ถูกต้องก็มีทั้ง 1 น้อยไปกับอัน
00:08:43 → 00:08:46 ที่ 2 มากเกินไปนะครับน้อยไปนี่คือยังไง
00:08:46 → 00:08:49 นะครับเราคุณผู้หญิงทุกท่านทราบอยู่แล้ว
00:08:49 → 00:08:52 ว่าในช่วงในแต่ละเดือนน่ะมันจะมีช่วงที่
00:08:52 → 00:08:54 เรามีประจำเดือนนะครับประจำเดือนเนี่ยก็
00:08:54 → 00:08:57 เป็นเลือดที่มันไหลออกมาอย่างที่เราทราบ
00:08:57 → 00:08:59 กันก็อาจจะมีอยู่ประมาณซักมีประจำเดือน
00:08:59 → 00:09:01 เนี่ยมีได้ตั้งแต่ 1-7 วันน่ะนะครับแล้ว
00:09:01 → 00:09:04 ก็เ่อรอบประจำเดือนก็มักจะมาทุกๆ 28 วัน
00:09:04 → 00:09:06 อาจจะบวกลบได้ 7 วันนะครับแต่การที่มี
00:09:07 → 00:09:08 ช่วงที่มีเลือดประจำเดือนออกมาเนี่ยนะ
00:09:08 → 00:09:11 ครับแน่นอนนอกจากมันสร้างความเปรอะเปื้อน
00:09:11 → 00:09:14 ให้เราแล้วเนี่ยเลือดจริงๆเนี่ยนะครับมัน
00:09:14 → 00:09:17 เป็นสารประกอบที่จริงๆมันเป็นอเป็นเหมือน
00:09:17 → 00:09:19 กับเป็นแหล่งอาหารที่ดีที่ทำให้พวกพวก
00:09:19 → 00:09:22 จุลินทรีย์ต่างๆเจริญเติบโตได้นะครับ
00:09:22 → 00:09:23 อย่างเช่นพวกแบคทีเรียต่างๆเนี่ยนะครับ
00:09:24 → 00:09:25 เพราะฉะนั้นในช่วงที่เรามีประจำเดือน
00:09:25 → 00:09:28 เนี่ยนะครับนะเราจำเป็นต้องดูแลรักษาความ
00:09:28 → 00:09:31 สะอาดจุดซ่อนเล้นตรงยเพศเนี่ยให้ดีเพราะ
00:09:31 → 00:09:33 ว่าเ่อนอกเหนือจากที่หมอบอกแล้วว่าช่วง
00:09:33 → 00:09:35 ใกล้ประจำเดือนมาและก่อนและหลังประจำ
00:09:35 → 00:09:38 เดือนหมดเนี่ยเ่อช่องคอจะมีการผลิตตกขาว
00:09:38 → 00:09:41 ซึ่งมันทำให้อาบชื้นอยู่แล้วแต่พอร่วม
00:09:41 → 00:09:44 ด้วยเลือดลงมาเนี่ยนะครับมากองอยู่ร่วม
00:09:44 → 00:09:46 กันเนี่ยนะครับนอกจากความอับชื้นจากสาร
00:09:46 → 00:09:49 คัดหลั่งจากตกขาวปกติแล้วเนี่ยเอ่อตัว
00:09:49 → 00:09:51 เลือดเองเนี่ยนะครับอย่างที่บอกแล้วเป็น
00:09:51 → 00:09:53 อาหารของแบคทีเรียมันก็มีโอกาสทำให้เกิด
00:09:53 → 00:09:56 การเจริญเติบโตของแบคทีเรียติดเชื้อได้
00:09:56 → 00:09:57 ยิ่งไปกว่านั้นในส่วนของเลือดเองมันก็จะ
00:09:58 → 00:10:00 มีกลิ่นคาวเลือดนะนะครับนะคือถ้ามันกรอง
00:10:00 → 00:10:02 อยู่เนี่ยมันก็จะเพิ่มความอาบชื้นเพิ่ม
00:10:02 → 00:10:05 ความหมักหมมให้มากขึ้นแล้วก็สามารถทำให้
00:10:05 → 00:10:08 เอ่อเกิดเกิดกลิ่นที่ไม่พประสงค์ได้มากนะ
00:10:08 → 00:10:12 ครับเพราะฉะนั้นเอ่อถ้าเราดูแลรักษาความ
00:10:12 → 00:10:15 สะอาดได้ถูกต้องเนี่ยนะครับก็คือต้องอ่า
00:10:15 → 00:10:17 ถ้าสมมุติเราช่วงมีประจำเดือนเนี่ยเราก็
00:10:17 → 00:10:20 ต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆนะครับนะไม่
00:10:20 → 00:10:23 ปล่อยให้มันอาบชื้นอยู่นานเกินไปนะครับ
00:10:23 → 00:10:25 ใส่เสื้อผ้าที่ระบายได้ดีแล้วก็หรือถ้า
00:10:25 → 00:10:27 เป็นช่วงที่มีประจำเดือนมาเยอะก็อาจจะ
00:10:27 → 00:10:29 ต้องใส่ผ้าในแบบที่ซึมซับได้ดีดีนะครับ
00:10:30 → 00:10:33 ค่ะใส่กางเกงที่เป็นผ้าฝ้ายค่าคอตตอนที่
00:10:33 → 00:10:36 มันระบายอากาศได้ดีแล้วก็เอ่อเครื่องแต่ง
00:10:36 → 00:10:38 กายภายนอกเนี่ยมันก็ควรจะเป็นแบบเอ่อส่วน
00:10:39 → 00:10:41 ที่ไม่รัดแน่นน่ะนะครับเป็นกระโปรงเป็น
00:10:41 → 00:10:43 อะไรที่มันระบายอากาศได้ดีด้วยนะครับแล้ว
00:10:43 → 00:10:46 ก็ในขณะที่เ่อการทำความสะอาดเนี่ยนะครับ
00:10:47 → 00:10:50 เวลาเรามีเอ่อช่วงประจำเดือนเนี่ยนอกจาก
00:10:50 → 00:10:53 เปลี่ยนแผ่นผ้าอนามัยให้ถูกต้องนะครับนะ
00:10:54 → 00:10:56 เ่าถ้าถ้าจะเป็นไปได้ก็อาจจะประมาณสักทุก
00:10:56 → 00:10:59 ๆ 3-4 ชั่วมงนะครับเอ่อระหว่างที่เปลี่ยน
00:10:59 → 00:11:02 เนี่ยก็ต้องมีการล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง
00:11:02 → 00:11:04 ทั้งก่อนและหลังเปลี่ยนเพราะว่าถ้าเราไม่
00:11:04 → 00:11:06 ล้างมือให้สะอาดเนี่ยมือที่สกปรกของเรา
00:11:06 → 00:11:08 เนี่ยไปจับผ้าอนามัยเปลี่ยนใส่ใหม่มันก็
00:11:08 → 00:11:11 เหมือนเรานำเอาเชื้อโรคเนี่ยให้เข้าไปติด
00:11:11 → 00:11:13 นะคือในบริเวณที่อับชื้นซึ่งเราบอกแล้วพอ
00:11:13 → 00:11:15 ประจำเดือนไหลออกมามันก็เป็นอาหารทำให้
00:11:15 → 00:11:18 แบคทีเรียมันก็เจริญเติบโตได้มากขึ้นด้วย
00:11:18 → 00:11:20 นะครับและการทำความสะอาดเนี่ยนอกเหนือจาก
00:11:20 → 00:11:22 เรื่องของช่วงที่มีประจำเดือนแล้วเนี่ย
00:11:22 → 00:11:25 ช่วงที่เราต้องเข้าไปทำกิจธุระครับมีการ
00:11:25 → 00:11:27 ทำปัสสาวะอุจจาระอะไรต่างๆพวกเนี้ยก็ต้อง
00:11:27 → 00:11:29 มีการทำความสะอาดที่ถูกต้องด้วยด้วยนะ
00:11:29 → 00:11:31 ครับถ้าจะให้ดีเนี่ยก็ควรจะเป็นลักษณะการ
00:11:31 → 00:11:34 ทาสรที่มีการฉีดน้ำให้มันไหลผ่านโดยไหล
00:11:34 → 00:11:36 ผ่านจากทด้านหน้าไปด้านหลังนะครับและหลัง
00:11:36 → 00:11:38 จากนั้นแล้วเนี่ยก็ควรจะมีการเช็ดนะครับ
00:11:38 → 00:11:41 ด้วยกระดาษช้ำระอะไรต่างๆก็แล้วแต่โดย
00:11:41 → 00:11:43 เช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลังเพราะว่าเ่อใน
00:11:43 → 00:11:46 ส่วนของอวสื่อพันธุ์เนี่ยด้านหน้าสุดเรา
00:11:46 → 00:11:48 จะเป็นเอ่อท่อปัสสาวะตรรงกลางจะเป็นช่อง
00:11:48 → 00:11:51 คลอดแล้วไปทางด้านหลังถึงจะเป็นทวารหนัก
00:11:51 → 00:11:52 เพราะฉะนั้นการเช็ดกับด้านหน้าไปหลัง
00:11:52 → 00:11:55 เนี่ยเราก็จะไม่นำเอาเชื้อโรคสิ่งสกปรก
00:11:55 → 00:11:57 จากทวารหนักซึ่งมันจะเป็นพวกอุจาระปน
00:11:57 → 00:11:59 เปื้อนอะไรพวกเนี้ยให้มันไหลย้อนเข้าเข้า
00:11:59 → 00:12:02 มาทางช่องเาะหรือทางทางท่อปัสสาวะได้นะ
00:12:02 → 00:12:05 ครับและที่สำคัญก็คือเอ่อเวลาล้างความ
00:12:05 → 00:12:07 สะอาดเนี่ยไม่ควรจะสวนล้างเข้าไปในช่อง
00:12:07 → 00:12:10 คลอดนะครับบางคนเนี่ยเอ่อเอ่อการดูแลัก
00:12:10 → 00:12:12 สังสอาดเนี่ยอาจจะเป็นคนที่กังวลหรือว่า
00:12:12 → 00:12:17 เอ่อแบบทำมากเกินไปอ่ะนะฮะก็สวนล้างลึก
00:12:17 → 00:12:19 เข้าไปในช่องคลอดด้วยนะครับหวังจะให้มัน
00:12:19 → 00:12:21 แบบสะอาดเข้าไปถึงข้างในนะฮะเราต้องเข้า
00:12:21 → 00:12:23 ใจด้วยว่าเราฉีดล้างเข้าไปเนี่ยยังไงมัน
00:12:23 → 00:12:26 ก็ได้ถึงช่องคลอดส่วนล่างอ่ะนะครับอเอ่อ
00:12:26 → 00:12:28 ยังไงก็ตามสมมติถ้าเราบอกว่าเราจะล้างให้
00:12:28 → 00:12:30 ประจำเดือนมันสะอาดเลยเดี๋ยวยังไงก็ตามพอ
00:12:30 → 00:12:31 หลังจากเราล้างเสร็จเนี่ยมันก็ต้องมี
00:12:31 → 00:12:34 ประจำเดือนชุดใหม่ที่ไหลจากในโพงมลูกออก
00:12:34 → 00:12:35 มาปนเปื้อนอยู่ดีเพราะฉะนั้นไม่มีทางที่
00:12:35 → 00:12:38 เราจะล้างจนมันแบบเข้าไปในช่องคลอดแล้ว
00:12:38 → 00:12:40 ให้มันแบบโหยสะอาดเอี่ยมออกเป็นไปไม่ได้
00:12:40 → 00:12:43 นะครับมันมันมันเป็นการผิดธรรมชาติเพราะ
00:12:43 → 00:12:45 ฉะนั้นจึงไม่แนะนำให้ฉีดล้างเข้าไปข้างใน
00:12:45 → 00:12:48 เพราะว่าบางครั้งเนี่ยการฉีดเล้างด้วยน้ำ
00:12:48 → 00:12:51 ที่บางทีแบบกระแสน้ำที่มันแรงเกินไปนะ
00:12:51 → 00:12:53 ครับหรือว่าอุปกรณ์ที่ฉีดแล้วมันเป็นแบบ
00:12:53 → 00:12:56 อาจจะไปครูดทำให้เกิดแผลในบริเวณช่องคลอด
00:12:56 → 00:12:58 เนี่ยอันนี้จะเกิดผลเสียทำให้เกิดการอัก
00:12:58 → 00:13:01 เสบติดเชื้อได้ง่ายขึ้นอนะครับยิ่งไปกว่า
00:13:01 → 00:13:03 นั้นเนี่ยนะครับเวลาร้าสาดเนี่ยหลายๆท่าน
00:13:03 → 00:13:08 ก็เอ่ออาจจะใช้พวกวัสดุที่มีกลิ่นหอมอ่ะ
00:13:08 → 00:13:10 นะครับที่เดี๋ยวนี้เจะเราก็จะเห็นเโฆษณา
00:13:10 → 00:13:14 อยู่ทั่วๆไปนะครับตามเอ่อเ่อตามเ่อร้าน
00:13:14 → 00:13:17 ขายของออนไลน์หรือว่าเอ่อตามนิติยสารที่
00:13:17 → 00:13:20 ผู้หญิงชอบอ่านกันเนี่ยนะครับบอกว่าทำให้
00:13:20 → 00:13:22 จุดซ่อนเล็กมีกลิ่นสะอาดอะไรพวกเนี้ยถ้า
00:13:22 → 00:13:24 เราใช้พวกน้ำยาพวกเนี้ยส่วนล้างเโอเค
00:13:24 → 00:13:28 กลิ่นมันอาจจะมาจากไอ้เอ่อความเ่อระเหย
00:13:28 → 00:13:32 หอมที่เผสมมาในน้ำยานั้นแต่ว่าเอ่อลักษณะ
00:13:32 → 00:13:35 ของน้ำยาพวกเนี้ยมันจะไปเปลี่ยนแปลงสภาวะ
00:13:35 → 00:13:38 ความเป็นกรดที่เป็นสมดุลของของช่องคลอดนะ
00:13:38 → 00:13:39 ฮะที่เราบอกว่ามันต้องเป็นกรดอ่อนๆเนี่ย
00:13:39 → 00:13:42 สภาวะนมันก็จะเสียไปด้วยไอ้น้ำยาส่วนล้าง
00:13:42 → 00:13:44 พวกนี้เพราะฉะนั้นสิ่งที่ตามมาก็คือพอ
00:13:44 → 00:13:47 เสียสมดุลเนี่ยนะครับแบคทีเรียที่อยู่
00:13:47 → 00:13:50 ประจำถิ่นเนี่ยมันอาจจะตายไปแล้วก็จะเกิด
00:13:50 → 00:13:52 ช่องว่างทำให้แบคทีเรียแปลกปอภายนอกเนี่ย
00:13:52 → 00:13:54 เข้ามาเจริญเติบโตแล้วก็แบคทีเรียประจำ
00:13:54 → 00:13:55 ถิ่นเนี่ยเไม่ทำอันตรายเราแต่ว่า
00:13:55 → 00:13:57 แบคทีเรียที่แปลกปอมเข้ามาเนี่ยก็จะทำให้
00:13:58 → 00:14:00 เกิดการอักเสบติดเชืแล้วลุกลมาได้นะครับ
00:14:00 → 00:14:03 เพราะฉะนั้นเอ่อสาเหตุในกลุ่มที่ 2 ก็จะ
00:14:03 → 00:14:05 เป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขอนามัยในเรื่องของ
00:14:05 → 00:14:08 การดูแลทำความสะอาดครับว่าไม่มากไม่น้อย
00:14:08 → 00:14:10 เกินไปแล้วก็ทำอย่างเหมาะสมนะครับล้างให้
00:14:10 → 00:14:13 ถูกต้องล้างจากหน้าไปหลังนะครับไม่ใช้น้ำ
00:14:13 → 00:14:15 ยาอะไรที่ผิดปกติถ้าเรารู้สึกว่ามันใช้
00:14:16 → 00:14:18 น้ำป่าแล้วมันยังเหนอะเหนอะหนเกินไปเนี่ย
00:14:18 → 00:14:20 นะครับรู้สึกมันไม่สะอาดเนี่ยเราก็ใช้
00:14:20 → 00:14:23 สบู่อ่อนๆสบู่ที่สบู่อ่อนๆที่เราอาบน้ำ
00:14:23 → 00:14:26 ธรรมดาเนี่ยแหละครับนะล้างภายนอกไม่ไม่
00:14:26 → 00:14:28 ได้สวนล้างเข้าไปข้างในนะครับแล้วก็หลัก
00:14:28 → 00:14:30 สำคัญที่สเมื่อล้างเสร็จเนี่ยจะต้องมีการ
00:14:30 → 00:14:33 เช็ดให้แห้งเสมอนะครับเช็ดให้แห้งเสมอ
00:14:33 → 00:14:35 ก่อนที่เราจะเปลี่ยนผ้านังในแผ่นใหม่หรือ
00:14:35 → 00:14:38 ว่าเปลี่ยนกางเกงในเอ่อตัวใหม่นะครับ
00:14:38 → 00:14:40 เพราะฉะนั้นสุขอนามัยเนี่ยก็เป็นสาเหตุ
00:14:40 → 00:14:42 อันที่ 2 ที่ทำให้ถ้าเราดูแลไม่ถูกต้อง
00:14:42 → 00:14:44 เนี่ยมันก็จะมีกลิ่นผิดปกติออกมาได้นะ
00:14:44 → 00:14:47 ครับสาเหตอันที่ 3 เนี่ยนะครับเอ่ออาจจะ
00:14:47 → 00:14:50 มาจากลักษณะของการผิดปกติจากการติดเชื้อ
00:14:50 → 00:14:53 ครับการติดเชื้อเนี่ยตัวที่ทำให้มีการมี
00:14:53 → 00:14:55 กลิ่นนะครับสมมติถ้าเราเทียบการติดเชื้อ
00:14:55 → 00:14:57 ในช่องคลอดเราก็มจะเจอเชื้อราหรือว่า
00:14:57 → 00:15:00 แบคทีเรียนะครับตัวที่ทำให้มีกลิ่นเนี่ย
00:15:00 → 00:15:02 มักจะเป็นตัวแบคทีเรียนะครับส่วนถ้าเรา
00:15:02 → 00:15:04 ติดเชื้อราเนี่ยมันจะเป็นลักษณะของอาการ
00:15:04 → 00:15:08 คันมากกว่านะครับคราวนี้การที่มีกลิ่นจาก
00:15:08 → 00:15:10 แบคทีเรียเนี่ยนะครับนะมันจะเกิดจากการ
00:15:10 → 00:15:14 ที่มีความเปลี่ยนแปลงที่ทำให้แบคทีเรีย
00:15:14 → 00:15:16 ประจำถิ่นเนี่ยมันมันแบไม่สามารถดำรง
00:15:16 → 00:15:19 ชีวิตอยู่ได้เช่นเ่อความเป็นกรดมันเสียไป
00:15:19 → 00:15:21 กลายเป็นด่างมากขึ้นอะไรต่างๆเนี่ยนะครับ
00:15:21 → 00:15:23 ถึงอาจจะเกิดจากการดูแลที่ไม่เหมาะสมของ
00:15:23 → 00:15:26 เราเองก็ได้อย่างที่บอก่ะใช้น้ำยาสวนล้าง
00:15:26 → 00:15:28 อะไรอย่างนั้นนนะครับหรือว่ามีลักษณะของ
00:15:28 → 00:15:31 การติดเชื้อจากการที่มีแผลมีการอักเสบใดๆ
00:15:31 → 00:15:33 ก็ตามนะครับแบคทีเรียพวกเนี้ก็ทำให้เกิด
00:15:33 → 00:15:37 มีกลิ่นซึ่งมาพร้อมกับตกขาวนะครับลักษณะ
00:15:37 → 00:15:39 ที่เราจะเจอบ่อยๆก็เป็นตกขาวที่มีลักษณะ
00:15:39 → 00:15:41 เป็นสีเหลืองนะครับบางครั้งก็จะมีเลือดปน
00:15:41 → 00:15:43 แล้วก็มักจะมีกลิ่นกลิ่นเหม็นที่ค่อนข้าง
00:15:44 → 00:15:47 รุนแรงนะครับซึ่งตรงเนี้ยก็จะเป็นสาเหตุ
00:15:47 → 00:15:49 ประการที่ 3 สำหรับทำให้จุดซ่อนเล้นเนี่ย
00:15:49 → 00:15:53 มีกลิ่นที่ผิดปกติได้ค่ะนะครับสาเหตุ
00:15:53 → 00:15:54 ประการที่ 4 นะครับเมื่อกี้เราพูดถึง
00:15:54 → 00:15:57 แบคทีเรียไปแล้วนะครับแต่ว่าถ้าจะให้ลึก
00:15:57 → 00:16:00 ไปกว่านั้นเนี่ยนะครับเมื่ออวัยเพศของผู้
00:16:00 → 00:16:02 หญิงเนี่ยเป็นอวัยวะที่มันเกี่ยวข้องกับ
00:16:02 → 00:16:05 การมีเพศสัมพันธ์เพราะฉะนั้นถ้าหากมีการ
00:16:05 → 00:16:07 มีเพศสัมพันธ์นั้นไม่ได้เป็นการเพศ
00:16:07 → 00:16:09 สัมพันธ์อย่างปลอดภัยนะครับเช่นปลอดภัย
00:16:09 → 00:16:12 ที่เราเคยย้ำกันเสมอว่าเอ่อมีมี
00:16:12 → 00:16:14 เพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่ใช่สามีเรานะครับ
00:16:14 → 00:16:17 นะซึ่งคือถ้าเป็นสามีภรรยามันอยู่ด้วยกัน
00:16:17 → 00:16:19 2 คนแล้วอันนั้นก็โอเคอนะมันก็แบบเราบาง
00:16:19 → 00:16:22 ทีเราก็ไม่ได้ต้องมานั่งคุมกำเนิดไม่ต้อง
00:16:22 → 00:16:24 อะไรเพราะเราก็พร้อมจะมีบุตรได้แล้วอะไร
00:16:24 → 00:16:26 เงี้ยเราก็บางทีเราก็ไม่ได้ใส่ิอนัยแต่
00:16:26 → 00:16:29 ว่าถ้าเป็นคนแปลกหน้าซึ่งยังไม่ได้จไม่
00:16:29 → 00:16:32 สามีเราอ่ะเป็นแค่แฟนหรือว่าเป็นแค่คบๆ
00:16:32 → 00:16:34 กันดูใจกันอะไรอย่าเงี้ยนะฮะถ้าเป็นภัณฑ์
00:16:34 → 00:16:37 แล้วเราไม่ใส่สีงานอมัยป้องกันเนี่ยซึ่ง
00:16:37 → 00:16:39 ที่จะตามมาก็คือความเสี่ยงในเรื่องของโรค
00:16:39 → 00:16:42 ติดต่อทางเพศสัมพันธ์นะครับซึ่งอาจจะเป็น
00:16:42 → 00:16:46 ไปด้วยตั้งแต่เอ่อหนองในแท้หนองในเทียมนะ
00:16:46 → 00:16:48 ครับฟิหรือว่าอันที่เรากลัวมากที่สุดก็
00:16:48 → 00:16:51 คือ HIV นะครับค่ะการติดต่อโรคติดต่อเพศ
00:16:51 → 00:16:54 สัมพันธเนี่ยมันจะมีลักษณะของอสมมุติถ้า
00:16:54 → 00:16:56 เป็นหนองในนะครับนะมันจะมีลักษณะตกขาวที่
00:16:56 → 00:16:59 มีสีเหลืองนะครับเหมือนกับหนองนะครับมี
00:16:59 → 00:17:02 อาการเจ็บปวดในท้องน้อยแล้วก็จะมีกลิ่น
00:17:02 → 00:17:05 เหม็นที่รุนแรงมากนะครับนะซึ่งพวกเนี้ย
00:17:05 → 00:17:07 อาจจะมีลักษณะของการอักเสบที่รุ่นติด
00:17:07 → 00:17:10 เชื้อที่รุนแรงจนกระทั่งทำให้มีเลือดออก
00:17:10 → 00:17:12 นะครับทั้งขณะเลือดออกตอนนี้เพศสัมพันธ์
00:17:12 → 00:17:15 หรือว่าเลือดออกมาในขณะที่ปกติด้วยก็ได้
00:17:15 → 00:17:18 นะครับแล้วก็อ่าลักษณะอาการแบบนี้นะครับ
00:17:18 → 00:17:21 ถ้าไม่ได้รักษาเนี่ยไอ้ตัวเพศสัมพันธ์
00:17:21 → 00:17:23 เนี่ยมันก็จะสามารถแพร่เชื้อต่อไปให้คน
00:17:23 → 00:17:27 ต่อไปได้ด้วยนะครับเพราะฉะนั้นสาเหตไอ้
00:17:27 → 00:17:29 กลุ่มที่ 4 ของการมีกลิ่นพวกเนี่ยมันก็มา
00:17:29 → 00:17:30 จากการติดเชื้อในกลุ่มของโรคติดทาง
00:17:31 → 00:17:33 เพศสัมพันธ์จากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่รู้
00:17:33 → 00:17:36 จักไม่ไม่ป้องกันหรือไม่ไม่ปลอดภัยนะครับ
00:17:36 → 00:17:39 ค่ะสำหรับกลุ่มที่ 5 นะครับนะอันนี้เป็น
00:17:39 → 00:17:41 เรื่องการเปลี่ยนแปลงทางสรีระร่างกายคุณ
00:17:41 → 00:17:44 ผู้หญิงเองในเรื่องของฮอร์โมนนะครับที่
00:17:44 → 00:17:48 ไม่สมดุลซึ่งตรงเนี้ยเรามักจะเกิดในช่วง
00:17:48 → 00:17:50 ที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงจากอย่างอ่าที่
00:17:50 → 00:17:52 เปลี่ยนแปลงมากที่สุดก็ในช่วงที่เราตั้ง
00:17:52 → 00:17:54 ครรภ์ช่วงคผู้หญิงตั้งครรเนี่ยจะมีการ
00:17:54 → 00:17:56 เพิ่มขึ้นของระดับฮอร์โมนนะครับซึ่งทำให้
00:17:56 → 00:17:59 มันมีสารคัดหลั่งมีเมือกต่างๆมากมากขึ้น
00:17:59 → 00:18:00 แล้วก็มีการเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดสภาวะของ
00:18:00 → 00:18:03 กลิ่นที่จุดซ่อนเร้นมากขึ้นนะครับรวมไป
00:18:03 → 00:18:06 ถึงในช่วงของวัยที่อ่าจะหมดประจำเดือนนะ
00:18:06 → 00:18:09 ครับอช่วงนั้นเนี่ยจะเป็นช่วงที่กลับกัน
00:18:09 → 00:18:10 ก็คือระดับฮอร์โมนแทนที่มันจะเพิ่มเหมือน
00:18:11 → 00:18:13 ตอนตั้งคันเนี่ยมันจะกลายเป็นฮอร์โมนลดลง
00:18:13 → 00:18:16 พอมันลดลงเนี่ยมันก็เสียสมดุลเพราะว่าพอ
00:18:16 → 00:18:18 ลดลงเนี่ยการการสร้างสารคัดหลั่งในบริเวณ
00:18:18 → 00:18:21 ช่องคลอดเนี่ยมันก็จะเอ่อทำได้น้อยลงช่อง
00:18:21 → 00:18:24 คอดจะแห้งขึ้นพอแห้งขึ้นเนี่ยเ่าเยื่อบุ
00:18:24 → 00:18:26 ของชั้นของผิวช่องคลอดเนี่ยมันจะเกิดฉีด
00:18:26 → 00:18:29 ขาดหรือว่าหลุดร่อนออกมานะครับมันก็ทำให้
00:18:29 → 00:18:31 เกิดการระคายเคืองแล้วก็บางครั้งก็ทำให้
00:18:31 → 00:18:33 มีกลิ่นที่จุดซ่อนเด้นได้เหมือนกันเพราะ
00:18:33 → 00:18:35 ฉะนั้นสาเหตุประการที่ 5 ก็มันจะเกิดจาก
00:18:35 → 00:18:37 เรื่องการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่ไม่
00:18:37 → 00:18:40 สมดุลนะครับในช่วงเวลาต่างๆของคผู้หญิงนะ
00:18:40 → 00:18:44 ครับค่ะและเอ่อสาเหตุในกลุ่มที่ 6 นะครับ
00:18:44 → 00:18:47 ซึ่งซึ่งเราเจอก็คือจะเป็นเรื่องของการ
00:18:47 → 00:18:51 การทานอาหารอืบางประเภทนะครับที่มีลักษณะ
00:18:51 → 00:18:54 ที่มีกลิ่นแรงเนี่ยพวกเนะครับเราพบว่าทำ
00:18:54 → 00:18:57 ให้เอ่อบริเวณของช่องคลอดเนี่ยมีการขับ
00:18:57 → 00:19:01 เ่อพวกเมือกพวกสารหล่อลื่นที่มันมีกลิ่น
00:19:01 → 00:19:04 ติดออกมาด้วยนะครับค่ะพตรงนี้ก็ทำให้
00:19:04 → 00:19:06 บริเวณนี้มันอับชื้นอยู่แล้วก็พอมีกลิ่น
00:19:06 → 00:19:09 ออกมาเก็จะยิ่งทำให้มีกลิ่นที่รุนแรงขึ้น
00:19:09 → 00:19:12 นะครับซึ่งพวกเนี้ยเอ่อของที่เรารับ
00:19:12 → 00:19:15 ประทานแล้วมันทำให้มีพวกกลิ่นเนี่ยนะครับ
00:19:15 → 00:19:17 ก็มีการศึกษากันอยู่เหมือนกันนะครับว่า
00:19:17 → 00:19:21 เอ่อเอ่ออาหารประเภทใดบ้างซึ่งพวกนี้ก็จะ
00:19:21 → 00:19:24 ได้แก่อาหารพวกที่มีเอ่อกระเทียมหัวหอม
00:19:24 → 00:19:27 เครื่องเทศนะครับเครื่องแกงบางอย่างนะ
00:19:27 → 00:19:29 ครับพวกนี้จะมีกิ่นกลิ่นฉุนพวกนี้ก็อาจจะ
00:19:29 → 00:19:32 แบบทำให้เกิดเอ่อถ้าเรารับประทานมากเกิน
00:19:32 → 00:19:35 ไปเนี่ยกลิ่นมันจะกระจายไปตามรูขุมขนตาม
00:19:35 → 00:19:37 สารคัดหลั่งนะครับซึ่งไม่ได้มีกลิ่นแค่
00:19:37 → 00:19:40 เฉพาะจุดซ่อนเล้นแต่บางทีก็มีกลิ่นหลายๆ
00:19:40 → 00:19:42 คนพอกินพวกของหมักดองเนี่ยมันมีกลิ่นไป
00:19:42 → 00:19:44 ตามตามเหงื่อตามผิวหนังอะไรก็จะมีกลิ่นไป
00:19:44 → 00:19:47 ด้วยนะครับตรงนี้ก็เป็นสาเหตุอันนึง
00:19:47 → 00:19:52 เหมือนกันนะครับเอ่อหรือว่าในคนที่เอ่อมี
00:19:52 → 00:19:55 การรับประทานอาหารที่หวานๆมากๆเนี่ยนะ
00:19:55 → 00:19:58 ครับอาหารหวานๆซึ่งทำให้เรากลายเป็นแบบ
00:19:58 → 00:20:00 เหมือนกับสมดุลของน้ำตาลมันเสียไปก็คือ
00:20:00 → 00:20:03 เสียบยการเป็นเบาหวานเนี่ยนะครับนะสภาวะ
00:20:03 → 00:20:06 ของน้ำตาลที่สูงเนี่ยมันจะไปเปลี่ยนแปลง
00:20:06 → 00:20:08 แล้วก็ไปทำลายแบคทีเรียเ่อประจำถิ่นที่
00:20:08 → 00:20:11 อยู่ในช่องคลอดนะครับเมื่อเป็นอย่างนี้
00:20:11 → 00:20:12 แบคทีเรียพวกนี้มันตายไปก็จะเกิด
00:20:12 → 00:20:15 แบคทีเรียแปลกปลอมเข้ามาทำให้เกิดเอ่อการ
00:20:15 → 00:20:17 หมักหมมแล้วก็สร้างกลิ่นที่ไม่พึงประสงค
00:20:17 → 00:20:21 ตามมานะครับที่สำคัญก็คือถ้าเรามีลักษณะ
00:20:21 → 00:20:23 ของอาหารหวานมากๆจนกระทั่งเสี่ยนการเป็น
00:20:23 → 00:20:25 เบาหวานเนี่ยมันยังไปเพิ่มการติดเชื้อ
00:20:25 → 00:20:28 อื่นๆด้วยเช่นพวกเชื้อราที่จุดซ่อนเล้น
00:20:28 → 00:20:31 เนี่ยก็จะขึ้นมาได้ง่ายขึ้นด้วยนะครับ
00:20:31 → 00:20:35 อาหารอื่นๆนะครับเช่นพวกอาหารหมักๆดองๆ
00:20:35 → 00:20:40 อย่างพวกเ่อปลาเค็มปลาดองเ่อปลาร้าอะไร
00:20:40 → 00:20:42 เงี้ยปูดองอะไรพวกเนะครับพวกนี้จะกระตุ้น
00:20:42 → 00:20:46 ให้เกิดเอ่อตกขาวแล้วก็มีกลิ่นเอ่อในจุด
00:20:46 → 00:20:48 ส้นเลนได้มากกว่าปกตินะครับ
00:20:48 → 00:20:53 เอ่อสเอ่ออาหารอีกชนิดนึงนะครับก็คือ
00:20:53 → 00:20:56 กลุ่มที่เป็นอาหารทะเลนะครับอาหารทะเล
00:20:56 → 00:20:59 เนี่ยเราพบว่าหลายๆคนก็จะมีปฏิกิริยากับ
00:20:59 → 00:21:03 เอ่อเอ่อสารหล่อลื่นในในช่องคลอดนะครับทำ
00:21:03 → 00:21:05 ให้กระตุ้นให้เกิดตกขาวที่ผิดปกติซึ่ง
00:21:05 → 00:21:07 ไอ้้ตกขาวที่ผิดปกติเนี่ยทำให้เกิดการ
00:21:07 → 00:21:10 ระคายเคืองของเยื่อบุผนังช่องคลอดแล้วก็
00:21:10 → 00:21:13 ตามมาด้วยเกลิ่นที่จุดซ้อนเล่นได้ด้วยนะ
00:21:13 → 00:21:16 ครับนอกจากนี้นะครับการทานอาหารที่มีความ
00:21:16 → 00:21:18 เป็นกรดเป็นด่างสูงอย่างที่เราบอกแล้วใน
00:21:18 → 00:21:21 ช่องคลอดเนี่ยมันจะต้องมีสมดุลของของ
00:21:21 → 00:21:23 แบคทีเรียในช่องคลอดที่รักษาสภาวะในช่อง
00:21:23 → 00:21:26 คลอดให้มันเป็นกรดอ่อนๆนะครับถ้าเราทาน
00:21:26 → 00:21:28 อาหารที่มีความเป็นกรดเป็นด่างที่สูงเกิน
00:21:28 → 00:21:32 ไปเช่นพวกเนื้อแดงนะครับหน่อไม้ฝรั่ง
00:21:32 → 00:21:35 บล็อกโคลี่นะครับแอลกอฮอล์อะไรพวกเนี้ยก็
00:21:35 → 00:21:38 จะเสี่ยงอ่าทำให้เกิดความเสียสมดุลของ
00:21:38 → 00:21:40 แบคทีเรียประจำถิ่นแล้วก็ทำให้เกิดกลิ่น
00:21:40 → 00:21:44 ที่จุดซ่อนเล้นตามมาได้นะครับส่วนอันนี้
00:21:44 → 00:21:47 เป็นสาเหตุกลุ่มที่ 6 ะนะครับแล้วก็เหลือ
00:21:47 → 00:21:49 ที่เหลือจากนี้ก็จะเป็นพวกสาเหตุทั่วๆไป
00:21:49 → 00:21:53 อื่นๆเล็กๆน้อยๆนะครับเช่นเอ่อภาวะเช่น
00:21:53 → 00:21:57 อ่าเป็นคนบางคนมีเหงื่อออกมากคือถึงจะดู
00:21:57 → 00:21:59 แลสุขัอย่างต่างแต่ว่าบางคนนะครับเป็นคน
00:21:59 → 00:22:02 ที่เหงื่อเยอะจริงๆนะฮะบางทีเหงื่อตามมือ
00:22:02 → 00:22:04 ตามอะไรก็ออกเยอะด้วยซึ่งบางทีเหงื่อออก
00:22:04 → 00:22:07 เยอะผิดปกติเนี่ยมันต้องสงสัยดว่ามันมี
00:22:07 → 00:22:09 โรคอื่นอยู่ได้เปล่าเช่นลักษณะของคนที่
00:22:09 → 00:22:12 เป็นแบบไทรรอยด์อย่างเงี้ยไทรรอยด์เอ่อ
00:22:12 → 00:22:14 ฮอร์โมนไทรอยด์เกินหรือว่าไทรอยด์เป็นผิด
00:22:14 → 00:22:17 อาจจะมีเหงื่อออกเยอะได้นะครับมีเหงื่อ
00:22:17 → 00:22:19 ออกมากมันก็มีสารคัดหลังในช่องคลอดเยอะเพ
00:22:19 → 00:22:22 ก็มีความอาบชื้นตรงนี้ตามมาได้นะครับหรือ
00:22:22 → 00:22:25 ว่าในคนที่ที่เรากลัวกว่านั้นก็คือบางที
00:22:25 → 00:22:29 มีโรคผิดปกติบางอย่างที่ซ่อนอยู่เช่นเอ่อ
00:22:29 → 00:22:32 อยกงยกตัวอย่างง่ายๆอย่างมะเร็งปากมดลูก
00:22:32 → 00:22:34 อาการนึงของมะเร็งปากมดลูกนะครับคือ
00:22:35 → 00:22:37 ลักษณะของการมีเมือกหรือสารคัดหลังที่มี
00:22:37 → 00:22:40 กลิ่นเหม็นผิดปกติอย่างรุนแรงนะครับค่ะ
00:22:40 → 00:22:41 อันเนี้ยเพราะฉะนั้นกลิ่นเหม็นบางทีเราจะ
00:22:42 → 00:22:44 ไปชะล่าใจบางทีมันอาจจะไม่ใช่แค่เรื่อง
00:22:44 → 00:22:46 อับชื้นเรื่องอาหารการกินหรือเรื่องการ
00:22:46 → 00:22:48 เปลี่ยนแปลงฮอร์โมนก็ได้แต่ว่ามันอาจจะ
00:22:48 → 00:22:51 พูดถึงเรื่องของการที่เอ๊ะเรามีมะเร็งปาก
00:22:51 → 00:22:53 มะลูกหรือมะเร็งในช่องคอดอยู่หรือเปล่าทำ
00:22:53 → 00:22:55 ให้เกิดกลิ่นพวกนี้ได้นะครับหรือว่าอีก
00:22:55 → 00:22:58 ลักษณะนึงก็คือบางทีโครงสร้างร่างกายของ
00:22:58 → 00:23:01 คุณผู้หญิงเอ่อปกติช่องคลอดเนี่ยมันจะวาง
00:23:01 → 00:23:04 ตัวอยู่ตรงกลางนะครับด้านหน้าด้านหน้ามัน
00:23:04 → 00:23:06 จะเป็นอ่าทางเดินของท่อปัสสาวะส่วนด้าน
00:23:06 → 00:23:08 หลังที่ติดกับช่องค้อจะเป็นทวารหนักนะ
00:23:08 → 00:23:11 ครับบางครั้งเนี่ยนะครับมันมีความผิดปกติ
00:23:11 → 00:23:13 ในเรื่องของโครงสร้างของช่องค้อกับทวาร
00:23:13 → 00:23:17 หนักเกิดมีรอยรั่วนะครับเกิดรอยรั่วทำให้
00:23:17 → 00:23:19 มีช่องเปิดระหว่างช่องคอกับทวาหนักพวกนี้
00:23:19 → 00:23:22 เราเรียกว่าฟินะครับจริงๆมันมันก็จริงๆ
00:23:22 → 00:23:24 โอกาสเกิดเองก็ยากมันจะมันมักจะเกิดจาก
00:23:24 → 00:23:27 การที่มีการบาดเจ็บชอกช้ำในบริเวณนี้ยก
00:23:27 → 00:23:30 ตัวอย่างเช่นสมมุติว่าเ่อมีเพศสัมพันธ์
00:23:30 → 00:23:32 น่ะแล้วมันรุนแรงเกินไปแล้วเกิดการฉีดขาด
00:23:32 → 00:23:34 บริเวณด้านหลังช่องคอดบางทีมันทะลุเข้าไป
00:23:34 → 00:23:37 ในถวรหนักได้หรือว่าบางทีหลังจากการคลอด
00:23:37 → 00:23:40 บุดแล้วคลอดบุดทางช่องคลอดนะแล้วมันคลอด
00:23:40 → 00:23:43 ยากนะฮะคลอดยากเกิดแผลฝีเย็บเนี่ยบางที
00:23:43 → 00:23:45 มันลึกแล้วก็ทะลุเข้าไปในทวารหนักก็อาจจะ
00:23:45 → 00:23:49 ทำให้มีการปนเปื้อนของสิ่งสกปรกคืออุจาระ
00:23:49 → 00:23:51 ในทวารหนักเนี่ยเข้ามาที่ช่องคลอดตรงนี้
00:23:51 → 00:23:54 จะเป็นตัวทำให้เกิดกลิ่นได้เหมือนกันนะ
00:23:54 → 00:23:58 ครับอีกอีกอย่างนึงที่อาจจะทำให้มีความ
00:23:58 → 00:24:01 เ่าเกิดกลิ่นได้อันนี้ก็จะเป็นจากภาวะที่
00:24:01 → 00:24:03 บางครั้งเรามีโรคมีโรคอะไรบางอย่างแล้ว
00:24:03 → 00:24:07 เราต้องทานยาปฏิชีวนะรักษานะครับเวลาทา
00:24:07 → 00:24:10 สมมติอสมมติว่าเจ็บคอคออักเสบปอดอักเสบลำ
00:24:10 → 00:24:12 ไส้อักเสบอะไรต่างๆพออักเสบเนี่ยอักเสบ
00:24:12 → 00:24:15 จากการติดเชื้อนะครับเอ่อตัวที่ยังไปฆ่า
00:24:15 → 00:24:18 เชื้อก็คือแอนติไบโอติกหรือยาปฏิชีวนะ
00:24:18 → 00:24:20 คราวนี้เวลาเราทานยาปฏิชีวนะเพื่อรักษา
00:24:20 → 00:24:22 การติดเชื้อของเราไม่ว่าจะเป็นเ่อติด
00:24:22 → 00:24:25 เชื้อในลำคอหรือว่าติดเชื้อในลำไส้อะไร
00:24:25 → 00:24:28 ต่างๆเหล่าเนี้ยเอไอ้ยาชนะที่เข้าไปเนี่ย
00:24:28 → 00:24:31 เขาจะไม่ได้ฆ่าเชื้อแตกเฉพาะในลำคอหรือใน
00:24:31 → 00:24:33 ลำไส้แต่เขาก็ไปทั่วร่างกายเราไงเพราะ
00:24:33 → 00:24:36 ฉะนั้นหลายๆครั้งเขาก็จะมาฆ่าเชื้อ
00:24:36 → 00:24:38 แบคทีเรียที่ดีๆในช่องคลอดของเราไปด้วยนะ
00:24:38 → 00:24:42 ฮะพอแบคทีเรียที่ดีเ่าถูกทำลายไปแล้ว
00:24:42 → 00:24:44 เนี่ยมันก็จะเกิดช่องว่างให้แบคทีเรีย
00:24:44 → 00:24:46 แปลกปลอมเข้ามาเจริญเติบโตแล้วก็ทำให้
00:24:46 → 00:24:48 เกิดการอักเสบติดเชืนแล้วก็มีกลิ่นตามมา
00:24:48 → 00:24:51 ได้นะครับจะเห็นได้ว่าคนไ้หลายๆท่านน่ะ
00:24:51 → 00:24:53 ถ้าเมื่อไหร่มีการทานยาปฏิชีวนะนะสมดุลใน
00:24:53 → 00:24:55 ช่องคลอดเสียไปเนี่ยบางทีมักจะเกิดมี
00:24:55 → 00:24:58 เชื้อราในช่องคอดตามหลังมาอยู่บ่อยๆนะ
00:24:58 → 00:25:01 ครับค่ะเพราะฉะนั้นถ้าเราฟังดูทั้งหมด
00:25:01 → 00:25:03 เนี่ยนะครับสาเหตุของการเกิดกลิ่นเนี่ยนะ
00:25:03 → 00:25:05 ครับจริงๆหลายๆอย่างก็เป็นสิ่งที่เราป้อง
00:25:05 → 00:25:08 กันได้อย่างเช่นการดูแลสุขภาวะของตัวเอง
00:25:08 → 00:25:11 การดูแลเรื่องเอ่อเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัว
00:25:11 → 00:25:13 การทำความสะอาดอะไรต่างๆเหล่านี้นะครับ
00:25:13 → 00:25:16 ตรงเนี้ยถ้าเราดูแดได้ดีเนี่ยนะครับโอกาส
00:25:16 → 00:25:19 ที่จะเกิดกลิ่นเนี้ยมันก็จะน้อยลงนะครับ
00:25:19 → 00:25:23 คราวนี้ถามว่าหัวข้อของเราวันเนะครับว่า
00:25:23 → 00:25:26 แล้วเรื่องของกลิ่นที่เอเอ่ออวสื่อพันธุ์
00:25:26 → 00:25:29 เนี่ยนะครับที่อเเพศเนี่ยมันมีผลต่อคู่
00:25:29 → 00:25:32 รักเราอย่างไรอืนะครับ
00:25:32 → 00:25:35 เอ่อการปลุกเร้าหรือการตุ้นกระตุ้นอารมณ์
00:25:36 → 00:25:38 ทางเทศเนี่ยนะครับนะมันมันมาจากสัมผัส
00:25:38 → 00:25:41 ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของมนุษย์เราออทั้ง 5
00:25:41 → 00:25:45 นะครับเพราทั้งทั้งรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส
00:25:45 → 00:25:47 อย่างเงี้ยนะครับนะรูปเรามองเห็นปึ๊บมอง
00:25:47 → 00:25:51 เห็นร่างกายสวดทรงอแบบมันกระตุ้นปลุกล
00:25:51 → 00:25:55 ทั้งเพศนะครับนะสรถนี่ก็แบบบางทีจะไป
00:25:55 → 00:25:59 สัมผัสนะครับแล้วก็กลิ่นเห็นมั้ตัวอันนี้
00:25:59 → 00:26:02 เป็นตัวสำคัญเลยนะครับพอมีกลิ่นอ่าพูด
00:26:02 → 00:26:05 ง่ายๆจะมีเพศสัมพันธ์กันแน่นอนครับท้าย
00:26:05 → 00:26:08 ที่สุดมันก็ต้องในที่สุดก็ต้องมีการล่วง
00:26:08 → 00:26:10 ล้ำของไเพศผู้ชายเข้าไปในช่องค้อของคนผู้
00:26:10 → 00:26:13 หญิงค่ะซึ่งก็แปลว่าเราก็ต้องถอดเสื้อผ้า
00:26:13 → 00:26:15 กันแหละถอดกางเกงกันแหละแล้วก็มีเน
00:26:15 → 00:26:18 สัมพันธ์ใช่มั้ยครับบางทีเนี่ยเอ่อบางค
00:26:18 → 00:26:20 บางคนมีกลิ่นแล้วมันซ่อนอยู่จากการที่เรา
00:26:20 → 00:26:23 ก็คุณผู้หญิงก็แล้วก็แต่งตัวแล้วก็ฉีดน้ำ
00:26:23 → 00:26:25 หอมอะไรเี้พยายามกบกลิ่นเข้าไปใช่มั้บาง
00:26:25 → 00:26:29 ทีไม่รู้พอกำลังจะถึงเเเขียมเพศสัมพันธ์
00:26:29 → 00:26:32 ปึ๊บปรากฏถอดทุกอย่างออกมาไม่มีอะไรปก
00:26:32 → 00:26:35 ป้องแล้วนี่นะครับกลิ่นมันโชยออกมาเนี่ย
00:26:35 → 00:26:38 อืมันต้องเรียนตามตรงว่ามันทำให้คู่รัก
00:26:38 → 00:26:41 ของของเราเนี่ยหมดอารมณ์ทางเพศได้ง่ายๆ
00:26:41 → 00:26:44 เหมือนกันก็มีผลเลยถูกมั้ยคะมีผลโดยโดย
00:26:44 → 00:26:47 มากเลยครับโดยตรงเลยครับเพราะว่าโค่ะ
00:26:47 → 00:26:49 อย่างอย่างเราสังเกตนะครับว่าคือเอ่อที่
00:26:49 → 00:26:54 เราชอบพูดกันว่าแหมบางทีไปอ่าบางทีคู่รัก
00:26:54 → 00:26:55 คู่สามีภรรยาเอ๊ะไปเที่ยวต่างประเทศกัน
00:26:56 → 00:26:59 อะไรเงี้ยค่ะเช่นไปซาอุเงี้ยนะฮะอาจจะไป
00:26:59 → 00:27:02 สร้างบรรยากาศแล้วก็ไปแบบไปเหมือนกับเอ๊ะ
00:27:02 → 00:27:04 จะไปมีเจ้าตัวน้อยอะไรอย่างี้มั้ยเพราะ
00:27:04 → 00:27:07 งั้นบรรยากาศเี่มันสำคัญเหมือนกันนะฮะ
00:27:07 → 00:27:09 บรรยากาศมันก็ไม่ใช่ว่ารวมว่าเปลี่ยนแปลง
00:27:09 → 00:27:11 สถานที่หรืออะไรอย่างเดียวแต่ว่ามัน
00:27:11 → 00:27:14 เรื่องเรื่องของความสะดวกสบายในขณะมี
00:27:14 → 00:27:18 เพศสัมพันธ์นะครับไม่ร้อนเกินไปเปิดแอร์
00:27:18 → 00:27:21 อยู่ในห้องที่มิดชิดทำให้เรารู้สึกว่ามัน
00:27:21 → 00:27:23 ปลอดภัยไม่มีใครมาแอบดูอะไรเงี้ยนะครับอ
00:27:23 → 00:27:27 ไม่สบายใจผ่อนคลายแล้วก็เออการกระทินผิว
00:27:27 → 00:27:29 การอาบน้ำทำความสะอาดตัวเองทำให้มีกลิ่น
00:27:29 → 00:27:32 หอมพวกเนี้ยอันเนี้ยมันมีผลต่อการถกะ
00:27:32 → 00:27:34 อารม์ทางเพศแน่ๆไม่ใช่ทำงานกลับมามัน
00:27:34 → 00:27:37 เหนื่อยๆเหงื่อยเยอะๆเลยเงี้ยนะฮะมาถึงก็
00:27:37 → 00:27:40 ลุยเลยอย่าเงี้ยมันก็มันก็แย่เหมือนกันนะ
00:27:40 → 00:27:42 ฮะกลิ่นพวกนี้ออกมาไม่ทำความสะอาดเนี่ย
00:27:42 → 00:27:44 มันก็แย่เหมือนกันอนะครับพานหมดอารมณ์เอา
00:27:44 → 00:27:47 ง่ายๆนะครับงั้นถามว่ากลิ่นมีผลต่อคู่รัก
00:27:47 → 00:27:50 ยังไงพอเราได้กลิ่นที่มีพึงประสงค์แล้ว
00:27:50 → 00:27:52 เนี่ยนะครับนอกจากหมดอารมณ์ทางเพศแล้ว
00:27:52 → 00:27:55 เนี่ยบางทีมันพาคิดต่อครับอย่างสมมุติว่า
00:27:55 → 00:27:57 เรามีกลิ่นคุณผู้หญิงมีกลิ่นเหม็นรุนแรง
00:27:57 → 00:28:00 ออกมามีตกขาเป็นหนองอะไรเงี้ยเออมันมันก็
00:28:00 → 00:28:03 ไม่มีคนผู้ชายท่านไหนที่แบบคิดว่าอืเราจะ
00:28:03 → 00:28:05 มีเพสันกับผู้หญิงคนนี้หรอกมันก็กลัว
00:28:05 → 00:28:07 เหมือนกันนะติดโร่งปิดโรคอะไรรือเปล่าน้า
00:28:07 → 00:28:11 อะไรเงี้ยนะครับเพราะฉะนั้นก็ก็เรื่องของ
00:28:11 → 00:28:14 กลิ่นเนี่ยเราจะว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆก็
00:28:14 → 00:28:17 คือแบบเ้ามีกลิ่นแล้วก็อ้าฉีดน้ำหอมอะไร
00:28:17 → 00:28:19 แบบเป็นตรงกันข้ามมั้ยคะเป็นกลิ่นหอมหรือ
00:28:19 → 00:28:22 มีรสชาติหวานอะไรอย่างเงี้ยค่ะที่เขาพูด
00:28:22 → 00:28:25 ถึงกันมันมันเคยมีเคสแบบนี้บ้างมั้ยคะ
00:28:25 → 00:28:28 ครับคืออย่างงี้ครับเอ่อสำอย่างที่
00:28:28 → 00:28:32 ยกตัวอย่างนะเ่าเป็นคำบอกเล่าในอดีตนะ
00:28:32 → 00:28:36 ครับอย่างเช่นอ่าภาวโยนีหอมอะไรตามตาม
00:28:36 → 00:28:39 ความเชื่อสมัยท้าวศรีสุดาจันทร์อะไรเงี้ย
00:28:39 → 00:28:41 ครับที่ที่ตอนแรกคุณตั๊กยกมาเนี่ยนะครับ
00:28:41 → 00:28:44 นะที่ผมก็ตั้งแต่เด็กรู้สึกว่าเอ๊ทำไมคุณ
00:28:44 → 00:28:48 พ่อคุณแม่สังเกตว่าเอ๊ทำไมมีพวกผึ้งมีพวก
00:28:48 → 00:28:51 แมลงมาตอมอรเพศเนี่ยนะครับแล้วก็ถึงขั้น
00:28:51 → 00:28:54 ไปลองไปดมดูว่าลูกีผิดปกติหรือเปล่าเนี่ย
00:28:54 → 00:28:56 แล้วมันก็มีกลิ่นหอมจริงๆเนี่ยนะครับ
00:28:56 → 00:29:00 อันเนี้ยต้องเรียให้ทราบว่า
00:29:00 → 00:29:03 มันมันมันก็เป็นเหมือนกับเป็นเรื่องเล่า
00:29:03 → 00:29:05 อ่ะนะครับอ้อคือคือจริงๆแล้วเนี่ยพิสูจน์
00:29:05 → 00:29:07 ในทางการแพทย์เนี่ยเราก็เราก็ไม่ได้เจอ
00:29:08 → 00:29:10 รายงานทางการแพทย์จากที่ใดในโลกที่พบผู้
00:29:10 → 00:29:13 หญิงที่มีลักษณะเป็นกลิ่นแบบนี้นะครับอ
00:29:13 → 00:29:16 แต่ถามว่าหากเราทานอาหารที่มันไม่มีกลิ่น
00:29:16 → 00:29:18 ฉุนสมมุติเราเทียบกันผู้หญิง 2 คนนะครับ
00:29:18 → 00:29:21 คนนึงทานอาหารหมักๆดองๆมีกลิ่นฉุนนะครับ
00:29:21 → 00:29:23 อย่างที่เราบอกมีอาหารที่มีความเป็นกด
00:29:23 → 00:29:25 เป็นด่าสูงซึ่งพวกเนี้ยเ่อสื่อนำไปถึง
00:29:25 → 00:29:29 กลิ่นได้มีกลิ่นได้ง่ายกับคนนึงที่ทาน
00:29:29 → 00:29:32 อาหารที่มันไม่มีลักษณะอย่างงั้นน่ะไม่
00:29:32 → 00:29:34 ได้เป็นหมักมดองๆเป็นอาหารพื้นๆทั่วๆไป
00:29:34 → 00:29:37 ตามปกติอ่ะค่ะแน่นอนถ้าเทียบกันระหว่าง 2
00:29:37 → 00:29:40 คนเนี่ยคนที่ทานอาหารที่มันจะสืบแบบมี
00:29:40 → 00:29:42 โอกาสจะกระตุ้นให้เกิดกลิ่นเนี่ยคนเหล่า
00:29:42 → 00:29:44 นั้นก็ต้องมีกลิ่นมากกว่าคนที่ที่ไม่ได้
00:29:44 → 00:29:48 ทานหรือทานปกติอนะครับคราวนี้ถ้าเราจะตี
00:29:48 → 00:29:51 ความว่าเวลาเราสังเกตเนี่ยเอ๊ะสมมุติอา
00:29:51 → 00:29:54 ถ้าถ้าเราเชื่อว่าเรื่องเรื่องเล่าเล่า
00:29:54 → 00:29:57 ของทศาจารย์เนี่ยเป็นจริงไงสมมติเงี้นะฮะ
00:29:57 → 00:29:59 มันก็จะต้องแบบว่าว่าเค้าก็อาจจะคุณแม่
00:29:59 → 00:30:01 อาจจะเทียบว่าก็เทียบกับตัวคุณแม่เองซึ่ง
00:30:01 → 00:30:05 คุณแม่อาจะามาหมักๆดองๆกว่ากว่าเด็กใช่
00:30:05 → 00:30:08 มั้แล้วเราก็อาจจะมีกลิ่นมากพอเราไปไปสำ
00:30:08 → 00:30:10 เทียบกับของลูกเอ๊ะลูกยังเป็นเด็กยังไม่
00:30:10 → 00:30:13 ได้ทันไอ้ของพวกนี้หมักๆดองๆยังยังไม่มี
00:30:13 → 00:30:15 แบบตกขาวยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน
00:30:15 → 00:30:17 ยังไม่เข้าสู่วัยสาวยังไม่มีประจำเดือน
00:30:18 → 00:30:20 ค่ะคือมันไม่มีตัวก่อกลิ่นน่ะนะครับมันก็
00:30:20 → 00:30:23 ทำให้เรารู้สึกว่าอ่าอย่างเงี้ยเอ้ยของ
00:30:23 → 00:30:26 ลูกเรามันหอมนะหอมกว่าของเราหอมกว่าของคน
00:30:26 → 00:30:29 อื่นก็เลยเป็นเรื่องร่ำลืมมากกว่านะครับ
00:30:29 → 00:30:32 ส่วนที่ร่ำรือกันต่อเนื่องไปจนกระทั่ง
00:30:32 → 00:30:35 กลายเป็นเมะมีผึ้งมาตอมมีมดมาตอมเอ่อ
00:30:35 → 00:30:37 อันเนี้ยไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะว่าเราลอง
00:30:37 → 00:30:39 คิดดูครับถ้ามีพึ้นมาตอนแล้วมาต่อยเกิด
00:30:39 → 00:30:44 เป็นแผเออใช่ๆตอนแล้วไม่ต่อยได้ไงอมกัด
00:30:44 → 00:30:46 อย่างเงี้ยฮะมันมันจะอยู่ได้ยังไงฮะเพราะ
00:30:47 → 00:30:49 ฉะนั้นมันก็อันเรื่องนี้คงไม่ใช่หรอกแต่
00:30:49 → 00:30:51 ว่าเวลามีการเล่าต่อๆกันมามันก็จะแต่ง
00:30:51 → 00:30:54 เติมเสริมแต่งจนกระทั่งมันผิดียนจากความ
00:30:54 → 00:30:57 เป็นจริงเพราะฉะนั้นมันคงไม่น่าจะเป็นว่า
00:30:57 → 00:30:59 ใครสักคนที่ที่เกิดมาแล้วมีสารคัดหลัง
00:30:59 → 00:31:01 เหมือนกันแต่สารคัดหลังนั้นกลายเป็นกลิ่น
00:31:01 → 00:31:03 หอมเนี่ยอันเนี้ยอันเนี้ยในทางการแพทย์ก็
00:31:03 → 00:31:05 ไม่น่าจะเป็นไปได้ไม่เคยมีรายงานมาก่อน
00:31:05 → 00:31:08 เลยใช่มั้ยคะไม่เคยมีรายงานมาก่อนครับออ
00:31:08 → 00:31:10 ค่ะครับทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศด้วย
00:31:10 → 00:31:14 นะครับอเอ่อจริงๆเนี่ยมีมีงานวิิจัยหลใน
00:31:14 → 00:31:16 หลายๆประเทศที่เขาพยายามทำเหมือนกันว่า
00:31:16 → 00:31:18 เอ๊ะถ้าถ้าสมมุติเรารู้ว่ากลิ่นเี่มัน
00:31:18 → 00:31:21 เกี่ยวกับของที่เรารับประทานงี้ใช่มั้ย
00:31:21 → 00:31:23 มันจะมีอะไรบ้างที่เรารับประทานแล้วมันทำ
00:31:23 → 00:31:26 ให้มีกลิ่นกลิ่นหอมกับหอมอ่ะเออกสเออะไร
00:31:26 → 00:31:31 คะคุณหมอฮะคือจริงๆเนี่ยนะครับเราพบว่า
00:31:31 → 00:31:35 เอ่ออย่างงี้ในสภาวะในช่องคอดของเราเนี่ย
00:31:35 → 00:31:38 นะครับนะเอ่อความสมดุลของแบคทีเรียในในใน
00:31:38 → 00:31:41 ช่องเคราะเนี่ยเอ่อมันมีผลต่อเรื่องของ
00:31:41 → 00:31:45 การเกิดกลิ่นนะครับคราวนี้เราพบว่าใน
00:31:45 → 00:31:47 กลุ่มของคนที่เา้ารับประทานอาหารในกลุ่ม
00:31:47 → 00:31:50 พวกโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยวเนี่ยนะครับซึ่ง
00:31:50 → 00:31:52 พวกเมันจะบรรจุพวกจุรินซีหรือแบคทีเรีย
00:31:53 → 00:31:56 ชนิดที่ดีเนะครับนะนะในในหลายๆรายงานที่เ
00:31:56 → 00:31:58 ทำการทดลองเนี่ยเค้าพบว่าแบคทีเรียที่
00:31:58 → 00:32:01 เหล่าเนี้ยมันจะไปช่วยปรับสมดุลนะครับใน
00:32:01 → 00:32:05 ในเอ่อเรื่องสมดุลกันแบบของแบคแบคทีเรีย
00:32:05 → 00:32:08 ที่อยู่ประจำถิ่นตรงนี้นะครับก็จะทำให้
00:32:08 → 00:32:12 เอ่อตรงเนี้ยมันจะมีลักษณะของช่องคลอดที่
00:32:12 → 00:32:15 มีความสมดุลไปตามธรรมชาติมากขึ้นอือย่าง
00:32:15 → 00:32:17 ที่เราบอกแล้วว่ามันไม่สมดุลเนี่ยมันอาจ
00:32:17 → 00:32:20 ทำให้เกิดกลิ่นได้เพราะฉะนั้นเมื่อเรารับ
00:32:20 → 00:32:22 ประทานพวกเนี้ยครับพวกเอ่อนมเปรี้ยว
00:32:22 → 00:32:24 โยเกิร์ตอะไรพวกนี้ซึ่งมีแบคทีเรียที่ดี
00:32:24 → 00:32:26 เข้าไปแลคโตบาซิลัสอะไรพวกเนะครับที่ดี
00:32:26 → 00:32:29 เข้าไปเนี่ยพวกเนี้ยมันก็จะช่วยทำให้
00:32:29 → 00:32:32 โอกาสที่จะเกิดกลิ่นเยมันน้อยลงออแต่มัน
00:32:32 → 00:32:35 ก็ไม่ได้เปลี่ยนเป็นกลิ่นหอมนะฮะค่ะแต่้า
00:32:35 → 00:32:38 มันกลิ่นประจำตัวของของคคุณผู้หญิงท่าน
00:32:38 → 00:32:40 นั้นใช่พียแต่ว่ามันไม่ได้เป็นกลิ่นที่
00:32:40 → 00:32:44 เหม็นกิเราอ้าค่ะค่ะนะครับเพราะฉะนั้น
00:32:44 → 00:32:46 เมื่อได้พูดมาถึงันนี้จะได้ถือโอกาสทำ
00:32:46 → 00:32:49 ความเข้าใจคุณคุณผู้ฟังก็เลยว่าเอ่อเวลา
00:32:49 → 00:32:51 เราฟังเรื่องเล่าอ่ะนะครับมันก็เป็น
00:32:51 → 00:32:54 เรื่องเล่าในอดีตซึ่งถ้าเราพิสูจน์ทำความ
00:32:54 → 00:32:57 รู้ทางการแพทย์ในปัจจุบันเนี่ยนะครับก็ก็
00:32:57 → 00:33:00 ก็ไม่ไม่มีอะไรที่จะเป็นตัวไปทำให้เอ่อ
00:33:00 → 00:33:04 กลายเป็นกลิ่นหอมอ่ะหอมเหมือนหอมนอกจาก
00:33:04 → 00:33:07 ว่าเอ่อถ้าเป็นตอนที่ท้าวศรีราจันทร์ท่าน
00:33:07 → 00:33:10 โตขึ้นน่ะแล้วท่านก็มีเครื่องประทิมผิว
00:33:10 → 00:33:12 ตามภาษาผู้หญิงนะครับแล้วมันมีกลิ่นหอม
00:33:12 → 00:33:15 พวกะนั้นเราก็อาจจะได้กลิ่นหอมมาจากไอ้
00:33:15 → 00:33:17 เครื่องประทินผิวเหล่านี้อออืแต่ไม่ได้
00:33:17 → 00:33:20 แปลว่าจุดซนนั้นเราเนี่ยผลิตกลิ่นหอมออก
00:33:20 → 00:33:25 มาเองออค่ะออค่ะอ่านะครับเพราะฉะนั้นเอ่อ
00:33:25 → 00:33:27 อย่างที่เราบอกพะเราว่าเอ้ยในหัวข้อของ
00:33:27 → 00:33:29 เราบอกว่ากลิ่นมีผลต่อคู่รักอย่างไรหรือ
00:33:29 → 00:33:31 ไม่เนี่ยแน่นอนครับกลิ่นมันเป็นหนึ่งใน
00:33:31 → 00:33:35 ประสาทสัมผัสทั้ง 5 เพราะฉะนั้นถ้าถ้าจุด
00:33:35 → 00:33:38 สั้นมีกลิ่นหอมมันสดชื่นน่ะมันก็สร้าง
00:33:38 → 00:33:40 บรรยากาศทำให้แบบเออคู่รักของเราเนี่ย
00:33:40 → 00:33:44 อยากจะมีพศสัมพันธ์ออแบบมีมีมีอารมณ์ทาง
00:33:44 → 00:33:46 เพศได้ดีขึ้นนะครับอันนี้ก็อาจจะเป็นส่วน
00:33:46 → 00:33:49 นึงที่ทำให้คุณผู้หญิงเนี่ยไม่ต้องไม่
00:33:49 → 00:33:51 ต้องสมัยท้าวศรีสุดาจันทร์ก็ได้ครับสมัย
00:33:51 → 00:33:53 ปัจจุบันนี้ก็ตามเนี่ยถึงมีเครื่องสำอาง
00:33:53 → 00:33:56 ต่างๆเืนประทินผิวน้ำหอมให้กลิ่นหอมอะไร
00:33:56 → 00:33:59 ต่างๆนะฮเดี๋ยวนี้นี้น้ำหอมเนี่ยนอกจากทำ
00:33:59 → 00:34:01 หน้าที่ในเรื่องของกลิ่นหอมตามปกติที่เรา
00:34:01 → 00:34:04 ทาน้ำหอมแล้วเนี่ย๋นี้ได้ข่าวว่ามีบางน้ำ
00:34:04 → 00:34:07 หอมเป็นมาดงมาดามอะไรงก็แล้วแต่นะที่บอก
00:34:07 → 00:34:11 แหมใส่ใช้น้ำหอมนี่ก่อนไปไปออกเดทไปอะไร
00:34:11 → 00:34:14 เงี้ยก็จะช่วยเพิ่มอะไรเงี้ยนะฮะมันก็มัน
00:34:14 → 00:34:17 ก็ยังมีความพยายามหรือการการช่วยประทิน
00:34:18 → 00:34:21 แบบกับทำให้จุดซ่อนเล้นเนี่ยมีเ่นที่หอม
00:34:21 → 00:34:23 ให้มากที่สุดเพื่อที่ทำให้เวลามีเพศ
00:34:23 → 00:34:25 สัมพันธ์แล้วเนี่ยมันมันปลุก้าอารมณ์ทาง
00:34:25 → 00:34:29 เพศได้ดีนะครับแล้วก็ใจด้วยมั้คุณหมอใช่
00:34:29 → 00:34:31 ใช่มั้ยฮะในทางคนผู้หญิงเองก็รู้สึกว่า
00:34:31 → 00:34:34 อ้าเราจะต้องไปครับเราแบบถึงเวลาจะต้องมี
00:34:34 → 00:34:37 เพศสัมพันธ์ถอดเสื้อผ้าถอดกางเกงออกมา
00:34:37 → 00:34:39 โอ้โหกลิ่นโชยมานี่มันก็ก็ไม่ไหวเหมือน
00:34:39 → 00:34:41 กันค่ะอืนะ
00:34:41 → 00:34:44 ครับแต่ว่าการการใช้น้ำหอมหรือใช้อะไร
00:34:44 → 00:34:46 เหล่านั้นมันควรจะมีข้อควรระวังได้มั้ยคะ
00:34:47 → 00:34:50 คุณหมอมัน sensitive กับอวัยวะเพศมั้คะ
00:34:50 → 00:34:52 ครับการใช้น้ำหอมประทิมผิวหมายถึงว่า
00:34:52 → 00:34:55 ประทิมเฉพาะผิวภายนอกอครับเราจะมีอสมมุติ
00:34:55 → 00:34:58 เราทาแป้งที่มีกลิ่นหอมหรือว่าเราฉีดน้ำ
00:34:58 → 00:35:00 หอมเนี่ยนะครับที่บอกว่าฉีดน้ำหอมก็ให้
00:35:00 → 00:35:03 ฉีดในจุดที่มีชีพจรเนี่ยนะครับเช่นตาม
00:35:03 → 00:35:08 เอ่อกกหูนะหน้าไปหูหรือว่าตามเอ่อข้อมือ
00:35:08 → 00:35:11 ใช่มยครับที่ที่เป็นจุดที่มีชีพจรมันก็จะ
00:35:11 → 00:35:14 ช่วยให้น้ำหอมมันกระจายได้ดีขึ้นแต่ว่า
00:35:14 → 00:35:16 จุดๆ้อเลนเนี่ยไม่ใช่จุดที่เราจะไปฉีดน
00:35:16 → 00:35:19 หอมเข้าไปตรงนั้นนะฮะออต้องอย่าลืมนะครับ
00:35:19 → 00:35:22 คือเราไม่ฉีดเข้าไปข้างในเลยไม่ได้มันไม่
00:35:22 → 00:35:25 จะทำทำอย่างนั้นยิ่งทำให้เกิดอันตรายครับ
00:35:25 → 00:35:29 นะเพราะว่ามันเป็นรอบภายนอกอะไรอย่างงี้ป
00:35:29 → 00:35:32 คะคุณหมอใช่ครับแค่นั้นพอครับคือคือคุณ
00:35:32 → 00:35:35 ผู้หญิงอย่าไปถึงแค่ว่าอเอาล่ะในเมื่อ
00:35:35 → 00:35:38 เพื่อจะทำให้คุณหมอบอกแล้วว่าตรงเนี้ยมัน
00:35:38 → 00:35:41 ช่วยปุกแบทำให้อารมณ์ทางเพศมันดีราบรื่น
00:35:41 → 00:35:43 ใช่มั้ยสร้างบรรยากาศอยากกนไปฉีดมันเข้า
00:35:43 → 00:35:46 ไปข้างในเลยเงี้ยก็ก็ก็คงไม่แนะนำอย่าง
00:35:46 → 00:35:48 งั้นนะฮะอันนี้จะทำให้เราฉีดเข้าไปเนี่ย
00:35:48 → 00:35:51 นะครับสารระเหยพวกเนะครับบางทีมันมีส่วนม
00:35:51 → 00:35:54 ของแอลกอฮอล์อยู่ด้วยอืบางทีมันก็ไปทำให้
00:35:54 → 00:35:56 เกิดการระคายเคืองหรือการแสบในข้างในแล้ว
00:35:56 → 00:35:59 ก็เอ่อบางทีทำให้ไปนั่นแหละครับมันไปฆ่า
00:35:59 → 00:36:01 ไอ้แบคทีเรียประจำถิ่นของเราค่ะยิ่งอยาก
00:36:01 → 00:36:04 จะให้มันกลิ่นดีกลายเป็นทำให้มีกลิ่นเผ็ด
00:36:04 → 00:36:07 ตามมาได้เลยกิอค่ะอุ๊ยว่าด้วยเรื่องกลิ่น
00:36:07 → 00:36:10 คุณผู้ฟังก็ถามเขมาพอดีเลยค่ะคุณหมอคุณ
00:36:10 → 00:36:13 ผู้ฟังถามว่าแล้วแล้วที่เวลาใส่ผ้าอนามัย
00:36:13 → 00:36:15 ที่มันมีกลิ่นหอมกับทิชชู่ที่มีกลิ่นแล้ว
00:36:15 → 00:36:18 เราแบบมาใช้เช็ดใส่ผ้าอนามัยเข้าไปอย่า
00:36:18 → 00:36:22 เงี้ยมันมันอันตรายยคะครับเอ่อจริงๆแล้ว
00:36:22 → 00:36:24 เนี่ยการเสริมกลิ่นเข้าไปก็ก็คงด้วย
00:36:24 → 00:36:27 วัตถุประสงค์เนี่ยแหละครับอุวัสดุต่างๆส
00:36:27 → 00:36:30 คุณผู้หญิงไงก็ถ้าถ้าใส่กลิ่นใส่สีใส่
00:36:30 → 00:36:32 อะไรเข้าไปให้มันดูน่ารักเนี่ยมันก็ดูน่า
00:36:32 → 00:36:35 ใช้มากขึ้นนะครับเพราะฉะนั้นถามว่ากลิ่น
00:36:35 → 00:36:37 พวกเนี้ยจะมีอันตรายมั้ยในเมื่อมันเป็น
00:36:37 → 00:36:39 กลิ่นที่เราใส่ในผ้าอนามัยหรือบางที
00:36:39 → 00:36:41 กางเกงในที่มีกลิ่นอะไรอย่างเงี้นะฮะค่ะ
00:36:41 → 00:36:44 มันสัมผัสอยู่ภายนอกไงมันไม่ได้แบบเรามัน
00:36:44 → 00:36:46 ไม่ได้ยกเว้นถ้ามันเป็นระอมัยแบบสอดนะอัน
00:36:46 → 00:36:48 นั้นไม่ได้นะฮะแต่ถ้าเป็นพระอมัยแผ่นที่
00:36:48 → 00:36:50 อยู่ภายนอกมันก็อยู่ภายนอกของผิวด้านนอก
00:36:51 → 00:36:53 ครับค่ะเพราฉนั้นกรณีอย่างเงี้ยมันก็
00:36:53 → 00:36:55 เหมือนกับเราเหมือนกับเราทาแป้งหรือทา
00:36:55 → 00:36:57 วัสดุหอมไว้ที่ผิวหนังภายนอกอค่ะเพราะ
00:36:57 → 00:36:59 ฉะนั้นถามว่าจะเกิดอันตรายมเนี่ยอันเนี้ย
00:36:59 → 00:37:02 ไม่น่าจะเกิดอันตรายเลยยกเว้นถ้าถ้าคุณ
00:37:02 → 00:37:05 สภาพีท่านนั้นมีอากาศแพ้ไอ้สารหอมระเหย
00:37:05 → 00:37:07 อันนั้นอันนั้นก็อีกเรื่องนึงแต่ว่าเราก็
00:37:07 → 00:37:10 คงคงจะเราจะรู้ได้ว่าเราแพ้หรือไม่เี่ก็
00:37:10 → 00:37:14 เมื่อเมื่อเราได้ทดลองใช้ได้ใช้แล้วมัน
00:37:14 → 00:37:16 เพราะั้นถ้าท่านไหนใช้แล้วก็ไม่เห็นจะมี
00:37:16 → 00:37:18 อาการอะไรก็รู้สึกมันหอมสบายใจดีอะไร
00:37:18 → 00:37:21 เงี้ยนะครับก็ไม่มีข้อห้ามแต่ถ้าท่านไหน
00:37:21 → 00:37:23 ใช้แล้วมันแบบมีการระคายเคืองเป็นผืนคัน
00:37:23 → 00:37:26 เป็นอะไรอย่างเงี้ยค่ะหรือว่าหรือว่ากลาย
00:37:26 → 00:37:28 เป็นตกขาวหรือมีกลิ่นเนี่ยแสดงว่าเราน่า
00:37:28 → 00:37:31 จะมีปฏิกิริยาอะไรกับไอ้สารสารหอมระเหย
00:37:31 → 00:37:33 พวกนี้และอ๋อเพราะะนั้นก็จะแนะนำให้หลีก
00:37:33 → 00:37:36 เรี่ยงครับมีอีกคำถามนึงขออนุญาตนะคะคุณ
00:37:36 → 00:37:37 ผู้ฟังถามเข้ามาจะเป็นเรื่องของประจำ
00:37:37 → 00:37:40 เดือนค่ะคุณหมอคุณผู้ฟังถามว่าวันแรกค่ะ
00:37:40 → 00:37:43 ประจำเดือนมาเป็นสีน้ำตาลเลยออกมาก่อนจะ
00:37:43 → 00:37:46 เป็นสีแดงอันเนี้ยถือว่าผิดปกติมั้ยคะ
00:37:46 → 00:37:49 อย่างงี้ครับประจำเดือนเนี่ยนะครับอ่าเว
00:37:49 → 00:37:51 เวลาเราคิดถึงเลือดเนี่ยเรามักจะนึกถึง
00:37:51 → 00:37:54 เลือดแดงสดแบบออันนั้นมันคือเลือดที่ไหล
00:37:54 → 00:37:56 ออกจากเส้นเลือดของเราอย่างสเราเรามีดบาต
00:37:56 → 00:37:59 ใช่มั้ยฮะค่ะมีดบาเนี่ยเลือดออกจากเส้น
00:37:59 → 00:38:01 เลือดตรงๆเนี่ยมันสีแดงอยู่แล้วค่ะนะครับ
00:38:01 → 00:38:04 แต่ว่าประจำเดือนของเราเนี่ยมันไม่ใช่
00:38:04 → 00:38:06 เลือดที่ออกจากเส้นเลือดเราตรงๆนะครับ
00:38:06 → 00:38:09 ประจำเดือนจริงๆเนี่ยก็คือชั้นของเ่อ
00:38:09 → 00:38:11 เยื่อบุโพรงมัดลูกนะครับอย่างผู้หญิงเรา
00:38:11 → 00:38:14 เนี่ยนะครับถ้าจากอเพไนอกเนี่ยนะครับถัด
00:38:14 → 00:38:16 เข้าไปเป็นช่องคลอดใช่มยพอสูดช่องคลอด
00:38:16 → 00:38:19 เนี่ยก็จะเป็นปากมดลูกนะครับแล้วถัดจัปาก
00:38:19 → 00:38:22 มดลูกเข้าไปมันก็จะเป็นช่องโพรงมดลูกอโงม
00:38:22 → 00:38:24 ลูกเนี่ยแะครับที่เป็นที่ที่ธรรมชาติจะ
00:38:24 → 00:38:26 ให้ลูกมาฝังตัวแล้วก็เกิดการตั้งครรภ์
00:38:26 → 00:38:28 เจริญเติบโตเป็นเป็นพารกขึ้นมาเนี่ยนะ
00:38:28 → 00:38:31 ครับค่ะเอ่อถ้าเรานึกถึงโพงมดลูกเป็นห้อง
00:38:31 → 00:38:35 ห้องนึงนะครับเอ่อผนังของโพงมดลูกเรา
00:38:35 → 00:38:37 เรียกว่าเยื่อบุโพงวัดลูกก็เหมือน
00:38:37 → 00:38:40 วอเปเปอร์ของห้องๆนั้นนะครับซึ่งไอ้
00:38:40 → 00:38:43 วอปเปอร์อันนี้นะครับนะมันก็จะประกอบไป
00:38:43 → 00:38:45 ด้วยกลุ่มของเส้นเลือดกลุ่มของชั้นของ
00:38:45 → 00:38:48 เซลล์นะครับที่ธรรมชาติสร้างสะสมเอาไว้
00:38:48 → 00:38:50 เหมือนกับธรรมชาติเนี่ยเขาพยายามส่งอาหาร
00:38:50 → 00:38:53 ผ่านกระแสเลือดเนี่ยมาเลี้ยงไว้ที่ชั้น
00:38:53 → 00:38:56 เยื่อบุชั้นวอปเปอร์อันเนี้ยนะครับเพราะ
00:38:56 → 00:38:58 ฉะนั้นเอ่อการสสสมอาหารพวกนี้เอาไว้เพื่อ
00:38:58 → 00:39:00 ที่ว่าสมมุติเกิดมีตัวอ่อนมาฝังตัวเนี่ย
00:39:00 → 00:39:02 ตัวอ่อนก็จะได้ใช้อาหารในบริเวณเยื่อบู่
00:39:02 → 00:39:04 เนี่ยนะครับเลี้ยงตัวเองให้เจริญเติบโต
00:39:04 → 00:39:07 กลายเป็นทารกขึ้นมานะครับพูดง่ายๆว่าเป็น
00:39:07 → 00:39:09 เป็นเลือดดีๆอ่ะครับที่ใช้เลี้ยงให้โต
00:39:09 → 00:39:12 ขึ้นมาเป็นมนุษย์ได้อนะครับแต่ถ้าเดือน
00:39:12 → 00:39:14 นั้นปรากฏว่าเราไม่ได้มีตัวอ่อนมาฝังตัว
00:39:14 → 00:39:17 นะครับไอ้เจ้าเยื่อบุหรือวอเปเปอร์ที่มัน
00:39:17 → 00:39:21 สะสมเลือดเป็นปริมาณมากๆไว้เนี่ยนะครับพอ
00:39:21 → 00:39:23 ถึงช่วงปลายของรอบเดือนเช่นวันที่ 27 28
00:39:24 → 00:39:26 ของรอบเดือนเนี่ยเยื่อบุนี้เมื่อไม่ได้
00:39:26 → 00:39:28 ใช้ไม่มีลูกมาฝังตัวไม่ได้เกิดการตั้งคัน
00:39:28 → 00:39:30 เนี่ยธรรมชาติก็จะทำให้เยื่อบวเหล่าเยมัน
00:39:30 → 00:39:33 ค่อยๆหลุดลอกออกมานะครับแล้วก็ไหลออกมา
00:39:33 → 00:39:35 เป็นเลือดประจำเดือนค่ะเพราะฉะนั้นเยื่อ
00:39:35 → 00:39:37 บุกที่ไหลไปเป็นเลือดประจำเดือนเนี่ยมัน
00:39:37 → 00:39:40 เป็นชั้นของเซลล์ครับชั้นของเซลล์ที่มี
00:39:40 → 00:39:42 การสะสมเลือดเอาไว้ไม่ใช่เลือดที่ออกสดๆ
00:39:42 → 00:39:45 จากเส้นเลือดเหมือนกับมีดบาตดังนั้นเมื่อ
00:39:45 → 00:39:48 มันเป็นชั้นของเซลล์เนี่ยลักษณะของสีของ
00:39:48 → 00:39:49 ชั้นของเซลล์เนี่ยนะครับมันเป็นกลุ่ม
00:39:49 → 00:39:52 เซลล์มันจะมีลักษณะสีน้ำตาลน้ำตาลอยู่
00:39:52 → 00:39:55 แล้วครับค่ะเพราะฉะนั้นจริงๆเลือกประจำ
00:39:55 → 00:39:56 เดือนที่ออกเป็นสีน้ำตาลไม่ใช่เรื่องที่
00:39:56 → 00:39:59 ผิดปกตินะครับแต่ว่าพอเราออกมาวันแรกชั้น
00:39:59 → 00:40:01 ของเซลล์มันลอกออกมาจนหมดใช่มั้ยครับค่ะ
00:40:01 → 00:40:04 ไอ้ใต้ของเซลล์นั้นเนี่ยมันก็จะมีเส้น
00:40:04 → 00:40:06 เลือดที่ส่งเลือดมาเลี้ยงไครับอืพอถัดจาก
00:40:06 → 00:40:08 ไอ้ชั้นของเซลล์ที่ออกมาเนี่ยไอ้เส้น
00:40:08 → 00:40:10 เลือดที่ส่งเลือดออกมาเนี่ยมันก็จะเป็น
00:40:10 → 00:40:12 เลือดสีสดที่ออกจากเส้นเลือดแล้วไหลออกมา
00:40:12 → 00:40:15 หดเพราะฉะนั้นวันหลังๆอาจจะเห็นแดงสดขึ้น
00:40:15 → 00:40:17 อือ่าเพราะฉะนั้นอันนี้โดอันนี้เป็น
00:40:17 → 00:40:20 เรื่องโดยธรรมชาติครับคุณเอ่อคุณผู้ฟัง
00:40:20 → 00:40:22 ท่านที่ถามมาไม่ต้องตกใจอันนี้ไม่ใช่
00:40:22 → 00:40:24 เรื่องผิดปกติอะไรนะครับอออย่างอย่างที่
00:40:24 → 00:40:26 เราเห็นเป็นสีน้ำตาลน้ำตาลเนี่ยนะครับบาง
00:40:26 → 00:40:29 ครั้งคุณผี่หญิงบางคนที่มีภาวะเลือดประจำ
00:40:29 → 00:40:31 เดือนเนี่ยแทนที่มันจะไหลออกมาทางช่องคอด
00:40:31 → 00:40:33 แล้วออกมาภายนอกให้เราเห็นเนี่ยในบางส่วน
00:40:33 → 00:40:36 มันมีการไหลย้อนเข้าไปผ่านทางปีกมดโลด
00:40:36 → 00:40:39 แล้วก็ไหลไปหยดอยู่ข้างในร่างกายของเรานะ
00:40:39 → 00:40:40 ครับอันเนี้ยครับเมื่อมันไปหยดอยู่เนี่ย
00:40:40 → 00:40:42 ไอ้กลุ่มเซลล์สีน้ำตาลพวกเจะไปเกาะอยู่
00:40:42 → 00:40:45 บริเวณรังไขือบริเวณในเยื่อบุช่องท้องของ
00:40:45 → 00:40:48 เรานะครับกลายเป็นถุงนะครับที่มีเลือดสี
00:40:48 → 00:40:50 น้ำตาลอยู่นะครับสีค้าช็อกโกแลตเราก็
00:40:50 → 00:40:53 เรียกว่าช็อกโกแลตซีสค่ะช็อกโกแลตซีสก็
00:40:53 → 00:40:55 คือเลือดประจำเนืสีน้ำตาลสีมช็อกโกแลต
00:40:55 → 00:40:57 เนี่ยครับที่มันเป็นหลายสะสมอยู่ในร่าง
00:40:57 → 00:40:59 กายเราค่ะเพราะฉะนั้นมันเป็นการยืนยันอีก
00:40:59 → 00:41:02 ชั้นนึงว่าลักษณะของเลือดประจำเที่ออกมา
00:41:02 → 00:41:03 เนี่ยมันเป็นกลุ่มเซลล์ที่สีน้ำตาลอยู่
00:41:03 → 00:41:08 แล้วครับอือืนะครับก็ก็ไม่ต้องไปรู้สึก
00:41:08 → 00:41:10 ว่าปิดสติหรือตกใจอะไรกับมันนะครับมัน
00:41:10 → 00:41:15 เป็นอย่างงี้เองนะครับค่ะอ่ะมากลับมาใน
00:41:15 → 00:41:18 เรื่องกลับมาเรื่องกลิ่นเรานะครับเราเรา
00:41:18 → 00:41:20 เราทราบแล้วล่ะว่าโอเคกลิ่นมีความสำคัญ
00:41:20 → 00:41:23 เกี่ยวกับเรื่องเ่อกับคู่รักของเรากับ
00:41:23 → 00:41:25 เรื่องอารมณ์ทางเพศในเรื่องของความ
00:41:25 → 00:41:28 สัมพันธ์ในครอบครัวนะครับค่ะนะเพราะ
00:41:28 → 00:41:31 ฉะนั้นเมื่อคุณผู้ฟังได้ฟังคุณผู้หญิงได้
00:41:31 → 00:41:33 เข้าใจว่าสาเหตุผิดปกติของการเกิดกลิ่น
00:41:33 → 00:41:36 เนี่ยนะครับเกิดจากอะไรเราก็มีหน้าที่อัน
00:41:36 → 00:41:37 หนึเหมือนกันก็ต้องดูแลตัวเองเนี่ยให้
00:41:37 → 00:41:40 ปราศจากกลิ่นเหล่านี้นะครับวิธีการดูแลนะ
00:41:40 → 00:41:43 ครับหมอก็ขอสรุปให้ฟังนิดนึงแล้วกันนะ
00:41:43 → 00:41:45 ครับก็คือดูแลเนี่ก็คือรักษาความสะอาด
00:41:45 → 00:41:48 ครับทุกครั้งที่เราเข้าห้องน้ำปัสสาวะนะ
00:41:48 → 00:41:50 ครับหรือหรืออุจจาระหรือว่าในช่วงที่มี
00:41:51 → 00:41:52 ประจำเดือนเข้าไปทำความสะอาดเปลี่ยนผ้า
00:41:52 → 00:41:54 นมัยต่างๆอะไรก็ตามเนี่ยจะต้องมีการล้าน
00:41:54 → 00:41:56 ทำความสะอาดให้ดีนะครับการล้านทำความ
00:41:56 → 00:41:59 สะอาดเนี่ยถ้าจะให้แนะนำก็คือใช้ใช้การ
00:41:59 → 00:42:02 ลักษณะล้างแบบล้างที่น้ำที่มันไหลจากด้าน
00:42:02 → 00:42:05 หน้าไปด้านหลังอืนะครับนะอย่าให้เหมือน
00:42:05 → 00:42:07 กับถ้าใช้หัวฉีดล้างก็ฉีดจากทางด้านหน้า
00:42:07 → 00:42:10 ไปด้านหลังนะครับเพื่อลดการปนเปื้อนสิ่ง
00:42:10 → 00:42:12 สกปรกจากทวารหนักที่ไม่ให้ย้อนมาทางด้าน
00:42:12 → 00:42:16 หน้านะครับเสร็จแล้วเอ่อต้องซับบริเวณผิว
00:42:16 → 00:42:19 หนังนี้ให้แห้งสนิทนะครับนะการล้างเนี่ย
00:42:19 → 00:42:22 ไม่ได้จำเป็นต้องใช้พวกน้ำยาหอมระเหยหรือ
00:42:22 → 00:42:25 น้ำยาที่เขาโฆษณากันล้างเข้าไปแล้วก็ที่
00:42:25 → 00:42:27 สำคัญคืออย่าล้างเข้าไปในช่องคลอดนะครับ
00:42:27 → 00:42:29 ถ้าจะมีการล้างจริงเนี่ยเราล้างความสะอาด
00:42:29 → 00:42:31 เพียงภายนอกก็พอหรือว่าถ้ารู้สึกว่าเอ๊ะ
00:42:31 → 00:42:33 เหมือนมันไม่สะอาดถ้าใช้น้ำเป่าก็ใช้พวก
00:42:33 → 00:42:35 สบู่อ่อนๆที่เราทำความสะอาดที่เราอาบน้ำ
00:42:35 → 00:42:39 ปกตินี่แหละเพียงพอแล้วนะครับเพื่อไม่ให้
00:42:39 → 00:42:41 มันไปทำให้เกิดแบบความเสียสมดุลของสภาวะ
00:42:41 → 00:42:44 ความเป็นคนอ่อนๆในช่องคอดนะครับนอกเหนือ
00:42:44 → 00:42:47 จากนี้นะครับการดูแลคือสมมติถ้าเป็นช่วง
00:42:47 → 00:42:49 มี้ามีประจำเดือนน่ะก็เปลี่ยนผ้าอนามัย
00:42:49 → 00:42:51 บ่อยๆนะครับผ้าอนามัยจะเลือกใช้แบบมีกิน
00:42:51 → 00:42:53 ไม่มีกินอะไนั้นก็แล้วแต่อย่างที่เราพูด
00:42:53 → 00:42:55 ไปแล้วนะครับแต่ต้องดูแลว่าไม่ให้มัน
00:42:55 → 00:42:58 เหมือนกับมันเฉะแฉกเกินไปนะครับถ้าบาง
00:42:58 → 00:43:00 ท่านคือเราจะบอกว่าใครควรจะเปลี่ยนที่กี่
00:43:00 → 00:43:03 ชั่วโมงอันนี้พูดยากแต่ว่ามันขึ้นอยู่กับ
00:43:03 → 00:43:05 ว่าปริมาณมันมาเยอะหรือน้อยถ้ามันเยอะจน
00:43:05 → 00:43:07 เรารู้สึกมันแฉะมันอับชื้นก็ก็หมั่น
00:43:07 → 00:43:09 เปลี่ยนนะทุก 3-4 ชั่วโมงก็คือวันนึงสัก
00:43:09 → 00:43:12 2-3 ครั้งในระหว่างวันอันนี้ก็น่าจะโอเค
00:43:12 → 00:43:14 นะครับเอ่อเลือกเครื่องแต่งกายทั้งทั้ง
00:43:14 → 00:43:17 กางเกงชั้นในทั้งกางเกงภายนอกหรือกระโปรง
00:43:17 → 00:43:19 ที่ใส่เนี่ยให้มันหลวมๆแล้วก็ระบายอากาศ
00:43:19 → 00:43:23 ได้ดีนะครับแล้วก็หลีกเลี่ยงหลีกเลี่ยง
00:43:23 → 00:43:26 การไปอยู่ในสภาวะที่เราจะอยู่กลางแดดนานๆ
00:43:26 → 00:43:28 อ่ะซึ่งบอกว่าตรงนี้ผู้หญิงผู้หญิงเราก็
00:43:28 → 00:43:29 ไม่ค่อยอยากอยู่กลางแดดแล้วเดี๋ยวเดี๋ยว
00:43:29 → 00:43:32 ผิวเราไม่สวยอะไเป็นฝ้าเป็นอะไรต่างๆใช่
00:43:32 → 00:43:34 มั้ยครับที่อุตส่าห์ไปเลเซอร์มาอะไรเงี้ย
00:43:34 → 00:43:36 ห้ามโดนแดดอะไเงี้นะฮะค่ะนะครับเพราะ
00:43:36 → 00:43:38 ฉะนั้นก็หลีกเลี่ยงตรงนั้นเพราะว่าเราไป
00:43:38 → 00:43:40 อยู่กลางแดดไปอยู่บริเวณที่มีเหงื่อเยอะ
00:43:40 → 00:43:42 มันอุณหภูมิมันสูงอ่ะมันก็จะมีเหงื่อออก
00:43:42 → 00:43:45 ยิ่งมีเงออกก็มีความอับชื้นนะครับแล้วก็
00:43:45 → 00:43:48 ที่สำคัญเนี่ยนะครับเมื่อจะมีกิจกรรมทาง
00:43:48 → 00:43:50 เพศเนี่ยต้องหมั่นทำความสะอาดให้ดีซึ่ง
00:43:50 → 00:43:52 ที่สำคัญเนี่ยมันต้องทั้งฝ่ายชายฝ่ายหญิง
00:43:52 → 00:43:54 ครับมันต้องมันต้องคุยกันแบบสมมุติสมมติ
00:43:54 → 00:43:57 คุณผู้ชายแฟนเรากลับมาสามีกลับมาจนมา
00:43:57 → 00:43:59 พิมพันธ์เนี่ยไล่ไปอาบน้ำก่อนเลยไม่งั้น
00:43:59 → 00:44:01 เขาจะนำเอาสิ่งสกปรกหนักหมมที่อยู่ทั้ง
00:44:01 → 00:44:05 วันของเาอครับนะเข้ามาในช่องคลอดของเราก็
00:44:05 → 00:44:07 ทำให้เกิดการติดเชื้อหรือว่าถ้าเป็นคนที่
00:44:07 → 00:44:10 ยังไม่ได้อยู่เป็นสามีภรยาเนี่ยดีที่สุด
00:44:10 → 00:44:12 ก็ต้องมีเซ็ก์มีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย
00:44:12 → 00:44:14 ต้องใส่สุยาไมัเพื่อป้องกันไม่ให้มีการ
00:44:14 → 00:44:16 ติดเชื้อเพราะว่าการติดเชื้อเนี่ยไม่ว่า
00:44:16 → 00:44:17 จะเป็นแบคทีเรียหรือโรคต่างๆทาง
00:44:17 → 00:44:19 เพศสัมพันธ์เนี่ยเราก็บอกแล้วว่ามันมี
00:44:19 → 00:44:21 โอกาสที่จะทำให้เกิดกลิ่นไม่คุณประสงค์
00:44:21 → 00:44:26 ได้มากนะครับค่ะแล้วก็ถ้าถ้าจะดูแลให้
00:44:26 → 00:44:28 พิเศษอีกชั้นนึงก็อย่างที่บอกครับพวก
00:44:29 → 00:44:31 อาหารต่างๆที่มันมีกลิ่นน่ะนะของหมักๆดอง
00:44:31 → 00:44:35 ๆนะครับของที่มีเอ่อลักษณะมีเป็นกรด
00:44:35 → 00:44:39 รุนแรงอะไรครับหรือว่าพวกเอ่อเอ่อกระเทีย
00:44:39 → 00:44:41 หมัวหอมเครื่องเทศที่มันมีกลิ่นฉุนพวกเย
00:44:41 → 00:44:43 นะครับซึ่งเรารู้ว่ามันเพิ่มกลิ่นไม่ใช่
00:44:44 → 00:44:46 แค่เฉพาะกลิ่นในฉุด้เลนแต่ว่าตามต่อม
00:44:46 → 00:44:48 เหงื่อต่างๆมันก็จะมีกลิ่นพวกนี้ไปด้วย
00:44:48 → 00:44:50 เหมือนเราเหมือนเราบางทีขอประทานโทษได้
00:44:50 → 00:44:53 ยินได้บางทีได้เดินสวนกับเอ่อคนที่บางที
00:44:53 → 00:44:55 ท่านมาจากทางตะวันออกกลางซึ่งเขก็อาจจะมี
00:44:55 → 00:44:58 การใส่มีบริโภคอาหารมีเครื่องเทศอะไรอย่า
00:44:58 → 00:45:01 เงี้ยเราจะรู้สึกว่ามันมีกลิ่นของเาออกมา
00:45:01 → 00:45:04 หหรือบางทีเยังจะต้องแบบใส่น้ำหอมแบบฉีด
00:45:04 → 00:45:07 น้ำหอมแรงๆอจนบางทีเราได้ฉุนเลยซึ่งฉันใด
00:45:08 → 00:45:10 ก็ฉันนั้นมันก็ไม่มีกลิ่นตรงอายเพศด้วย
00:45:10 → 00:45:12 เหมือนกันเพราะฉะนั้นเราก็ระมัดระวัง
00:45:12 → 00:45:14 เรื่องอาหารการกินอะไรพวกนี้ด้วยนะครับ
00:45:14 → 00:45:17 แล้วก็หมั่นดูแลสุขภาพของตัวเองด้วยครับ
00:45:17 → 00:45:20 อย่างที่เราบอกถ้าเกิดบางทีเราทานหวานๆ
00:45:20 → 00:45:22 เยอะๆแล้วมันในที่สุดเราอาจจะมีเบาหวาน
00:45:22 → 00:45:25 ซ่อนอยู่แล้วเราไม่ได้ตรวจนะครับการตรวจ
00:45:25 → 00:45:27 ติดตามตรวจสุขภาพอย่าไปตรวจประจำปีเนี่ย
00:45:27 → 00:45:30 มันน้ำอาหารไปคุณหมอก็ตรวจน้ำตาลตรวจอะไร
00:45:30 → 00:45:32 ต่างๆก็จะเห็นว่าเรามีความเสี่ยงตรงนี้ม
00:45:32 → 00:45:35 ซึ่งมันไม่ใช่แค่เรื่องกลิ่นละเรามีเบา
00:45:35 → 00:45:37 หวานมีโอกาสที่จะติดเชื้อราาติดแบคทีเรีย
00:45:37 → 00:45:39 ได้มากขึ้นมีกลิ่นได้มากขึ้นเนี่ยแต่ว่า
00:45:39 → 00:45:41 มันทำให้เรารู้ด้วยว่าเรามีโรคร้ายอย่าง
00:45:41 → 00:45:43 เบาหวานอยู่หรือเปล่าจะได้ให้การรักษา
00:45:43 → 00:45:45 แล้วก็ป้องกันไม่ให้มันเป็นแบบเบาหวาน
00:45:45 → 00:45:48 ขั้นรุนแรงเช่นเบาหวานขึ้นตาเบาหวานที่ไต
00:45:48 → 00:45:51 อะไรพวกนี้ตามมานะครับค่ะแล้วก็นอกเหนือ
00:45:51 → 00:45:53 จากนั้นเนี่ยนะครับอันนี้เราพูดย้ำกัน
00:45:53 → 00:45:56 เสมอเลยครับเป็นครั้งที่ 300 แล้วงครับ
00:45:56 → 00:45:59 ว่าคุณผู้หญิงทุกท่านที่อายุเกิน 25 ปี
00:45:59 → 00:46:01 ขึ้นไปนะครับควรจะไปพบคุณหมอสูเพื่อตรวจ
00:46:02 → 00:46:05 ภายในประจำปีทีละครั้งครับ่าอ่าเพราะว่า
00:46:05 → 00:46:07 มันจะได้สังเกตความผิดปกติซึ่งเวลาตรวจ
00:46:07 → 00:46:10 ภายแประจำปีเนี่ยนอกจากเราตรวจแล้วว่ามัน
00:46:10 → 00:46:12 มีเนื้องอกมีซีสอะไรหรือเปล่าเวลาคุณหมอ
00:46:12 → 00:46:15 เคคำดูแล้วเนี่ยนะครับนะเอ่อคุณหมอจะยัง
00:46:15 → 00:46:18 เก็บเซลล์บริเวณปากมะลูไปตรวจซึ่งจะทำให้
00:46:18 → 00:46:20 เราแยกโรกของการมีความเสี่ยงของการเป็น
00:46:20 → 00:46:23 มะเร็งปากมะลูกได้ด้วยเพราะมะเร็งป่ามลูก
00:46:23 → 00:46:25 เนี่ยก็จะมีสาเหตุทำให้เกิดกลิ่นที่เหม็น
00:46:25 → 00:46:27 ที่รุนแรงในช่องคอได้ด้วยเหมือนกันอ๋อนะ
00:46:27 → 00:46:31 ครับค่ะนะแล้วก็ที่สำคัญก็คือเอ่อเวลาไป
00:46:31 → 00:46:33 ตรวจเนี่ยนะครับนอกจากเขาจะรายงานผล
00:46:33 → 00:46:35 เรื่องเซลล์ต่างๆแล้วว่ามีเซลล์มะเร็งม
00:46:35 → 00:46:37 แล้วเนี่ยถ้าหากเรามีการติดเชื้อไม่ว่าจะ
00:46:37 → 00:46:39 เป็นแบคทีเรียหรือเชื้อราต่างๆเนี่ยค่ะ
00:46:39 → 00:46:42 ถ้าเวลาตรวจเ้าเห็นเซลเหล่านี้เก็จะราย
00:46:42 → 00:46:45 งานขผมาด้วยอืทำให้เราสามารถได้รักษาโรค
00:46:45 → 00:46:47 พวกนี้ได้ก่อนที่มันจะมีอาการด้วยซ้ำไป
00:46:47 → 00:46:51 ค่ะนะครับโอ้โหแล้วก็ที่สำคัญหมันสังเกต
00:46:51 → 00:46:53 กลิ่นของตัวเองอ่ะครับไม่ได้แปลว่าเราจะ
00:46:53 → 00:46:55 ไม่มีกลิ่นเลยนะทุกคนก็มีกลิ่นเกลิ่น
00:46:55 → 00:46:58 กลิ่นตัวประจำตัวนะครับแต่ว่าถ้าเรารู้
00:46:58 → 00:47:01 สึกว่าเอ๊ะช่วงนี้มันผิดปกติไปอ่ะมัน
00:47:01 → 00:47:04 เหม็นรุนแรงไปอ่ะนะครับหรือว่าบางทีร่วม
00:47:04 → 00:47:07 กับมีอาการมีตกขาวผิดปกติสีผิดปกติมี
00:47:07 → 00:47:10 ปัสสาวะแสบขัดมีอาการปวดท้องน้อยมีไข้
00:47:10 → 00:47:12 ขึ้นพวกเนี้ยร่วมด้วยเนี่ยอันเนี้ยยิ่ง
00:47:12 → 00:47:15 บ่งงชี้ถึงการที่น่าจะมีการอักเสบติด
00:47:15 → 00:47:18 เชื้อในบริเวณอริยเพทของเราหรือในอุ้ง
00:47:18 → 00:47:20 เชิงกอันนั้นก็จะได้ทำให้เราถ้าเราห
00:47:20 → 00:47:23 สังเกตเรารู้ผิดปกติเราก็รีบไปพบคุณหมอก็
00:47:23 → 00:47:25 จะได้รับการรักษาที่พันท่งทีนะครับค่ะ
00:47:25 → 00:47:29 โอโหคืนนี้ขอบพระคุณคุณหมอต้นมากๆเลยนะคะ
00:47:29 → 00:47:32 ได้ความรู้ตั้งแต่ต้นจนจบจริงๆเกี่ยวกับ
00:47:32 → 00:47:35 กลิ่นนะคะทั้งกลิ่นหอมและกลิ่นที่ไม่พึง
00:47:35 → 00:47:38 ประสงค์นะคะขอบพระคุณคุณหมอมากๆเวลาเดิน
00:47:38 → 00:47:41 เร็วมากเลยค่ะช่วงนี้หมดเวลาในช่วงแรก
00:47:41 → 00:47:44 แล้วครับก็ขออนุญาตทิ้งท้าไว้แค่นี้นะ
00:47:44 → 00:47:47 ครับว่าเรื่องของกลิ่นมีผลต่อคู่รักของ
00:47:47 → 00:47:50 เรายังไงนะครับชื่อชื่อหัวข้อเราก็บอกกัน
00:47:50 → 00:47:52 แล้วว่าผลต่อคู่รักเพราะฉะนั้นจริงๆแล้ว
00:47:52 → 00:47:56 เนี่ยบางทีเราต้องถามคู่รักเราด้วยนะครับ
00:47:56 → 00:47:58 บางทีตัวเราเองอ่ะรู้สึกว่าอุยเรามีกลิ่น
00:47:58 → 00:48:01 เราแบบเจะรังเกียจเรามั้ยแต่ถ้าคุยกัน
00:48:01 → 00:48:03 แล้วเนี่ยเไม่ได้รู้สึกอะไรครับเอก็เราก็
00:48:03 → 00:48:06 ใช้ชีวิตอย่างปกติมีความมั่นใจต่อไปนะ
00:48:06 → 00:48:08 ครับไม่งั้นมันสิ่งที่เราเกิดขึ้นทุกวัน
00:48:08 → 00:48:10 นี้คือคุณผู้หญิงเนี่ยพยายามไปหา
00:48:10 → 00:48:13 ผลิตภัณฑ์ต่างๆจะทำให้มันหอมไม่ใจริงๆมัน
00:48:13 → 00:48:15 ไม่ต้องก็ได้ถ้าถ้าคู่รักของเราเก็ไม่ได้
00:48:15 → 00:48:19 ว่าอะไรเคก็มีความสุขดีอนะครับค่ะนะเพราะ
00:48:19 → 00:48:21 ฉะนั้นในเมื่อกิ่นจะมีผลต่อคู่รักยังไง
00:48:21 → 00:48:24 เนี่ยก็ถามคู่รักเรานะนะครับดีที่สุดครับ
00:48:24 → 00:48:28 ค่ะขอบพระคุณค่ะคุณหมอต้นคขอบคุณค่ะครับ
00:48:28 → 00:48:31 สวัสดีครับสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะนายแพทย์
00:48:31 → 00:48:36 พูลศักดิ์สุชนวณิชสูตินารีแพทย์นะคะ