00:00:00 → 00:00:09 [เพลง]
00:00:09 → 00:00:12 ก็อยากจะมาเล่าให้ฟังว่ามีอาหารอะไรบ้าง
00:00:12 → 00:00:15 ที่ในชีวิตประจำวันของเราเนี่ยถ้าเราทาน
00:00:15 → 00:00:20 ไปแล้วอาจจะมีผลร้ายต่อตับบ้างนะคะการ
00:00:20 → 00:00:23 เรียงลำดับการพูดไม่ได้บ่งบอกถึงการพบ
00:00:23 → 00:00:25 บ่อยหรืออะไรนะคะอันนี้สไลด์ได้ความ
00:00:25 → 00:00:28 อนุเคราะห์มาจากอาจารย์สุพจน์และก็แต่ง
00:00:28 → 00:00:32 เติมเพิ่มมาจากข้อมูลปัจจุบันนะคะอ่าข้อ
00:00:32 → 00:00:34 แรกเลยค่ะ
00:00:34 → 00:00:38 มีใครไม่กินหมูกระทะหรือกินไม่เป็นมั้คะ
00:00:38 → 00:00:40 อุ๊ยไม่มีคนไม่ทอันนี้คือกินหรือไม่กิน
00:00:40 → 00:00:43 ไม่ทานไม่กินดีค่ะเพราะหมอก็ไม่กินเหมือน
00:00:43 → 00:00:45 กัน
00:00:45 → 00:00:49 ไม่ใช่อะไรไม่เคยกินเคยกินแต่หมูปิ้งย่าง
00:00:49 → 00:00:53 ที่หน่วยนะคะข้อเสียของหมูกระทะคืออะไร
00:00:53 → 00:00:56 ต้องบอกว่าอย่างงี้ค่ะหมูมันก็น่ารักดีนะ
00:00:56 → 00:00:59 คะอันนี้ถือว่าเป็นหมูอนามัยไม่ได้เป็น
00:00:59 → 00:01:02 หมูหมูอิมผงอิมมาจากประเทศเพื่อนบ้านใดๆ
00:01:02 → 00:01:05 นะคะแต่หมูกระทะมีความเสี่ยงต่อการเกิด
00:01:06 → 00:01:08 ไวรัสตับอักเสบอีเข้าใจว่าอาจารย์
00:01:08 → 00:01:12 ทวีศักดิ์ชั่วโมงแรกพูดให้ฟังแล้วนะคะว่า
00:01:12 → 00:01:15 ไวรัสตับอักเสบอีก็จะเป็นไวรัสที่ติดเข้า
00:01:15 → 00:01:18 มาเนี่ยแหละทำร้ายตับเรานะคะส่วนใหญ่ก็จะ
00:01:18 → 00:01:22 มีอาการตับอักเสบเฉียบพลันได้สไลด์ด้าน
00:01:23 → 00:01:26 ที่เป็นประเทศไทยเนี่ยเค้าให้ดูว่าการ
00:01:26 → 00:01:30 ตรวจไวรัส e เนี่ยพบที่ไหนบ้างนะคะจะเห็น
00:01:30 → 00:01:35 มีภาคกลางเขียวๆภาคเหนือแล้วก็มีทางอีสาน
00:01:35 → 00:01:38 ภาคที่สีเหลืองอ่อนอ่อนเนี่ยคือภาคใต้
00:01:38 → 00:01:41 เพราะว่าทางภาคใต้เป็นอ่าอิสลามนะคะเขา
00:01:42 → 00:01:44 ไม่ได้ทานหมูดังนั้นอัตราการเกิดไวรัส
00:01:44 → 00:01:48 อีเนี่ยก็จะไม่ได้ชุกชุมนะคะไวรัสอีจะ
00:01:48 → 00:01:51 ทำไมถึงติดจากหมูเพราะว่าอย่างว่าไวรัส
00:01:51 → 00:01:55 ที่ปนเปื้อเนี่ยค่ะอ่ามี 1 อยู่ในหมูหมู
00:01:55 → 00:01:58 ถ่ายอุจจาระออกมาอาจจะปนเปื้อนตามพวกพวก
00:01:58 → 00:02:02 แหล่งน้ำคนก็อาจจะไปทานจากพวกแหล่งน้ำจาก
00:02:02 → 00:02:07 ผักมาก็ได้นะคะหรือเราอาจจะได้ไปทานหมู
00:02:07 → 00:02:11 ที่ไม่สุกที่ว่าเอ่อมีปนเปื้อนไวรัสอีการ
00:02:11 → 00:02:14 กินถ้าท่านอยากจะกินหมูกระทะการกินที่ถูก
00:02:14 → 00:02:19 ต้องก็คือว่าเราจะไม่ใช้อ่าตะเกียบที่
00:02:19 → 00:02:24 จิ้มหมูดิบไปเผาหมูใช่มั้ยคะไปย่างหมู
00:02:24 → 00:02:28 แล้วก็เอามาเข้าปากเราต้องใช้อ่าเอ่อช้อน
00:02:28 → 00:02:31 เอ้ยอะไรคะไอ้ตัวครีบที่เป็นเงินเนี่ย
00:02:31 → 00:02:37 แหละของของส่วนกลางนะคะทำหมูให้สุกแล้ว
00:02:37 → 00:02:40 เราก็ถึงจะเอามาใส่จานเราแล้วเราก็เอา
00:02:40 → 00:02:42 ตะเกียบของเราเนี่ยคีบหมูที่สุกแล้วมากิน
00:02:42 → 00:02:45 ถ้าท่านอยากกินนะคะแต่อย่างไรก็ตามไม่ใช่
00:02:45 → 00:02:49 แค่หมูกระทะหมอเคยเจอคนไข้บางคนก็กินพวก
00:02:49 → 00:02:52 เอ่อเอ่อไส้กรอกอีสานอะไรที่มันมีหมูปน
00:02:52 → 00:02:55 เปื้อนมีโอกาสที่จะติดไวรัสอีได้คราวนี้
00:02:55 → 00:02:59 ไวรัสอีจะเกิดอะไรบ้างเกิดตับอักเสบอาจจะ
00:02:59 → 00:03:03 มีอาการเพลียนะคะตัวตาเหลืองได้บางคนเท่า
00:03:03 → 00:03:07 นั้นที่ติดแล้วไม่หายเป็นเรื้อรังคือ
00:03:07 → 00:03:10 กลุ่มคนที่มีอ่าเอ่อคนไข้ที่เปลี่ยน
00:03:10 → 00:03:13 อวัยวะเช่นเปลี่ยนตับเปลี่ยนไตพวกนั้นเขา
00:03:13 → 00:03:17 อาจจะติดต่อเนื่องติดเรื้อรังนะคะดังนั้น
00:03:17 → 00:03:20 ป้องกันอย่างไรถ้าอยากจะกินหมูกระทะสุกี้
00:03:20 → 00:03:24 อะไรพวกนั้นก็คือขอให้ใช้อ่าตะเกียบคีบ
00:03:24 → 00:03:28 หมูที่สะอาดนะคะแล้วก็ปรุงให้สุกอย่าให้
00:03:28 → 00:03:32 มันแดงนะคะอันนี้ก็เป็นตัวอ่าการดำเนิน
00:03:32 → 00:03:35 โรคของไวรัสอีกก็ส่วนใหญ่นะคะเป็นแล้วหาย
00:03:35 → 00:03:37 จำนวนน้อยเท่านั้นที่เป็นแล้วจะเป็นเรื้อ
00:03:37 → 00:03:42 รังก็คือพวกเปลี่ยนอวัยวะนะคะอ่าอาหาร
00:03:42 → 00:03:47 ขั้นต่อไปไม่กล้าพูดเลยตัวนี้คือหอยนางลม
00:03:47 → 00:03:53 ทานมั้ยคะสดหรือดิบคะเอ้ยสดหรือสุกคะสด
00:03:54 → 00:03:56 มันอร่อยเนาะ
00:03:56 → 00:04:00 มันอร่อยมากนะคะแต่กินแล้วก็เสียวเหมือน
00:04:00 → 00:04:04 กันวันนี้เราไม่ได้พูดแต่ว่าหอยนางลมจะทำ
00:04:04 → 00:04:08 ให้เกิดโรคตับอะไรแต่ปรากฏว่าหอยนางลม
00:04:08 → 00:04:11 เนี่ยทางทางรัฐเอ่อสาธารณสุขนะคะเขาก็จะ
00:04:11 → 00:04:15 ออกแคมเปญมาเตือนตลอดเลยว่ากินหอยนางลม
00:04:15 → 00:04:18 แล้วเกิดอะไรขึ้นมันก็จะมีเชื้อแบคทีเรีย
00:04:18 → 00:04:21 ตัวร้ายเลยนะคะคือกรัรบเชื้อวิบริโอเป็น
00:04:21 → 00:04:25 ตัวที่สำคัญเวลาที่คนไข้เนี่ยทั่วๆไปติด
00:04:25 → 00:04:28 อาจจะแค่ท้องเสียลำไส้อักเสบแต่ถ้าคนที่
00:04:28 → 00:04:32 เป็นโรคตับตับแข็งติดเนี่ยอาจจะเกิดอ่า
00:04:33 → 00:04:35 ติดเชื้อในกระแสเลือดเสียชีวิตได้เลยนะคะ
00:04:35 → 00:04:39 ดังนั้นหอยนางลมดิบเนี่ยเขาก็ฆ่าเลยว่า
00:04:39 → 00:04:43 ห้ามกินดิบให้ปรุงสุกนอกจากติดเชื้อ
00:04:43 → 00:04:46 แบคทีเรียแล้วก็อาจจะมีเชื้อโนโรไวรัสที่
00:04:46 → 00:04:50 ทำให้เราท้องเสีย 20 30 40 ครั้งได้
00:04:50 → 00:04:53 หรืออีกอันที่เราให้ความสนใจคืออาจจะมี
00:04:53 → 00:04:56 ไวรัสคะตับอักเสบ A นะคะที่ระบาดจากหอย
00:04:57 → 00:05:00 นางลมก็มีมาเรื่อยๆประมาณ 5 ปีที่แล้วก็
00:05:00 → 00:05:03 ก็พบว่ามีการระบาดจากหอยนางลมนี่แหละที่
00:05:03 → 00:05:06 ทำให้มีกระจุกการติดเชื้อไวรัส A แถวๆ
00:05:06 → 00:05:09 จังหวัดสมุทรสาครสุพรรณบุรีนี่แหละค่ะ
00:05:09 → 00:05:13 ไวรัสตับอักเสบ A เข้าไปแล้วก็จะติดตับ
00:05:13 → 00:05:17 อักเสบเฉียบพลันนะคะส่วนใหญ่ก็หายเองได้
00:05:17 → 00:05:20 เนาะรักษาตามอาการอันที่อาจจะเป็นอันตราย
00:05:20 → 00:05:24 ก็คือคนไข้ที่ติดช่วงสูงอายุหรือคนไข้ที่
00:05:24 → 00:05:27 เป็นไวรัส B ร่วมด้วยนะคะหรือว่ากลุ่มคน
00:05:27 → 00:05:31 ที่ท้องก็อาจจะเป็นรุนแรงหน่อยนะคะ A มา
00:05:31 → 00:05:35 จากอะไรบ้างนะคะก็คือน้ำอาหารที่ปนเปื้อน
00:05:35 → 00:05:39 มันจะติดทางอ่าเค้าเรียกว่าการกินก็คือ
00:05:39 → 00:05:43 เราต้องมีการปนเปื้อนไวรัสซึ่งก็คือปน
00:05:43 → 00:05:45 เปื้อนอุจจาระนั่นแหละนะคะสุขอนามัยในการ
00:05:45 → 00:05:49 ทำอาหารอาจจะล้างมือไม่สะอาดทำอาหารไม่
00:05:49 → 00:05:52 สุกทำให้เกิดตับอักเสบAเนี่ยระบาดขึ้นมา
00:05:52 → 00:05:55 ได้อันนี้เป็น 2 กลุ่มที่เคยเจอเขาบอกว่า
00:05:56 → 00:06:01 มีเอระบาดจากที่เชียงรายนะคะประมาณปี 2004
00:06:01 → 00:06:05 อันนั้นเพบว่ามันระบาดอยู่ในจากน้ำแข็ง
00:06:05 → 00:06:10 น้ำแข็งควายบินนะคะที่เชียงราย
00:06:10 → 00:06:14 เออตอนนั้นไม่ทันแต่อีกรอบนึงคือที่บึงกา
00:06:14 → 00:06:18 ก็มาจากตัวน้ำแข็งเช่นเดียวกัน 5 ปีที่
00:06:18 → 00:06:21 แล้วก็ไวรัสตับอักเสบ A ก็มาจากพวกหอยหอย
00:06:21 → 00:06:25 ดองหอยนางลมเช่นเดียวกันดังนั้นหอยนางรม
00:06:25 → 00:06:27 ก็เป็นอาหารอีกชนิดนึงนะคะที่คนไข้ที่
00:06:27 → 00:06:30 เป็นโรคตับหรือเอาจริงๆเนี่ยถ้าไม่เป็น
00:06:30 → 00:06:35 โรคตับเองก็ไม่ควรไม่ควรกินดิบควรปรุงสุก
00:06:35 → 00:06:37 พูดไป
00:06:37 → 00:06:40 พูดไปวิทยากรก็ยังกินเนาะแต่ว่าทุกครั้ง
00:06:40 → 00:06:43 ที่กินเราก็รู้สึกว่าผิดนะคะจริงๆคือรู้
00:06:43 → 00:06:46 สึกผิดมากเลยตอนหลังเราก็เลยกินแบบสุกนะ
00:06:46 → 00:06:50 คะก็คือเอาไปเอาไปนึ่งเอาไปใส่ไข่อะไรให้
00:06:50 → 00:06:54 มันสุกนะคะอ่ากลุ่มเสี่ยงมีอะไรบ้างก็คือ
00:06:54 → 00:06:57 คนที่อ่าชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายมันอาจ
00:06:57 → 00:07:01 จะทำให้เกิดการติดแบบบุคคลนะคะมันมีการ
00:07:01 → 00:07:05 อ่าปฏิสัมพันธ์อ่ออาจจะปนเปื้อนอุจจาระนะ
00:07:05 → 00:07:09 คะหรือคนในครอบครัวที่ติดต่อเอ่อมีเชื้อ
00:07:09 → 00:07:12 ไวรัส A แล้วอาจจะติดกันในครอบครัวได้คน
00:07:12 → 00:07:15 ไข้ที่เสี่ยงก็คือโรคตับอักเสบเรื้อรัง
00:07:15 → 00:07:18 อาจจะเสี่ยงในกลุ่มคนไข้ที่อยู่ในกลุ่ม
00:07:18 → 00:07:21 อ่าศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเพราะถ้าเกิดการ
00:07:21 → 00:07:24 ระบาดมันจะติดง่ายขึ้นนะคะดังนั้นก็อีก 1
00:07:24 → 00:07:29 ตัวหอยนางลมดิบไม่ควรกินนะคะ
00:07:29 → 00:07:34 ผักน้ำจะติดโรคอะไรนะคะผักน้ำมีอะไรบ้าง
00:07:34 → 00:07:40 ก็จะมีพวกผักกระเฉดน้ำกระจับผักบุ้งผัก
00:07:40 → 00:07:45 แว่นสายบัวอันนี้ถ้ากินดิบต้องระวังว่าจะ
00:07:45 → 00:07:49 ติดเ้าเรียกว่าพยาธใบไม้ในตับอันนี้ตัวโต
00:07:49 → 00:07:54 นะคะเป็นพยาธใบไม้ขนาดใหญ่เป็นชื่อฟ้าซอ
00:07:54 → 00:07:58 ใจติ้ากับเพปาติพวกนี้ติดมาเนี่ยเขาจะมี
00:07:58 → 00:08:02 ตัวคล้ายๆกับตัวพยาธแดงๆอ่ะค่ะตัวเล็กๆ
00:08:02 → 00:08:06 มันไปติดอยู่ตามยอดผักเหล่านี้บางทีเรา
00:08:06 → 00:08:09 เอามาเอามากินแบบกินสดๆจิ้มน้ำพริกเลยนะ
00:08:09 → 00:08:13 คะเราไม่เห็นเนาะก็อาจจะติดตัวนี้ขึ้นมา
00:08:13 → 00:08:17 ได้แล้วทำให้เกิดอ่าฝีในตับได้เช่นเดียว
00:08:17 → 00:08:20 กันอันนี้ก็ต้องระวังนะคะก็เป็นอะไรที่
00:08:20 → 00:08:23 ถ้าจะต้องกินจริงๆเค้าก็แนะนำอยากให้ต้ม
00:08:23 → 00:08:26 ให้สุกนะคะให้สะอาดแล้วก็ค่อยกินอันนี้ก็
00:08:26 → 00:08:31 เป็นฝีที่เกิดจากพยาธใบไม้ในตับเเรียกว่า
00:08:31 → 00:08:35 ตับพยาธใบไม้ใหญ่นะคะอ่าผักน้ำผักบุ้งผัก
00:08:35 → 00:08:38 กระเฉดอันนี้ถ้ากินต้องระวังอันนี้คือตัว
00:08:38 → 00:08:41 ที่ 3 นะคะ
00:08:41 → 00:08:47 ต่อไปเห็ดนี่เข้าหน้าฝนยังคะ
00:08:47 → 00:08:51 เห็ดอาจารย์เคยบอกว่าถ้าหน้าฝนต้องระวัง
00:08:51 → 00:08:57 จะมีคนไข้เนี่ยเข้าไปเก็บเห็ดในป่าแล้วก็
00:08:57 → 00:09:00 เก็บแล้วมันเป็นเห็ดพิษนะคะแต่เห็ดที่เรา
00:09:00 → 00:09:04 ทานถ้าอยู่ในตลาดหรือซุเปอร์มาร์เก็ตไม่
00:09:04 → 00:09:08 น่าจะใช่เห็ดพิษนะคะเห็ดพิษที่อันตรายก็
00:09:08 → 00:09:10 จะมีสายพันธุ์อะไรบ้างเดี๋หมอจะเอาภาพให้
00:09:10 → 00:09:14 ดูนะคะอันนี้เป็นตัวอย่างที่เราจะไม่
00:09:14 → 00:09:17 เชื่อว่าเห็ดเนี่ยมันทำให้เกิดอันตราย
00:09:17 → 00:09:20 เนาะแต่เห็ดเนี่ยค่ะทำให้คนไข้เนี่ยเสีย
00:09:20 → 00:09:23 ชีวิตเสียชีวิตจากตับวายไตวายปีนึงจำนวน
00:09:23 → 00:09:27 ไม่น้อยนะคะภาคเหนือภาคอีสานจะเจอเยอะนะ
00:09:27 → 00:09:31 คะมีคนไข้ที่เข้าไปเก็บเห็ดในป่าหน้าตา
00:09:31 → 00:09:33 เห็ดพิษกับเห็ดไม่พิษมันค่อนข้างเหมือน
00:09:33 → 00:09:36 กันนะคะละไม้คล้ายกันดังนั้นเนี่ยก็ต้อง
00:09:36 → 00:09:40 มีความระมัดระวังมากนะคะอ่าในการที่จะไป
00:09:40 → 00:09:43 เลือกเก็บเห็ดเห็ดที่เป็นพิษรุนแรงที่สุด
00:09:43 → 00:09:47 ก็คือเห็ดชื่อเห็ดระะโงกพิษนะคะซึ่งมันจะ
00:09:47 → 00:09:51 มีสารพิษชื่ออมนิอมนิตินอันนี้เป็นภาพ
00:09:51 → 00:09:54 เห็ดอันนี้กรมเอ่อกระทรวงสาธารณสุขเค้าก็
00:09:54 → 00:09:57 ให้ให้ภาพมาเหมือนกันนะคะเห็ดพิษที่สำคัญ
00:09:57 → 00:10:02 ในประเทศไทยมีอะไรบ้างมีเห็ดระโกเหลือง
00:10:02 → 00:10:08 ก้านตั่นเห็ดระโกหินเห็ดเกล็ดดาวเห็ด
00:10:08 → 00:10:10 กระโดงตีนตันอะไรพวกนี้แต่เดี๋ยวหมอเอา
00:10:10 → 00:10:15 ภาพให้ดูนะคะก็คิดว่าพี่เพื่อนๆในห้องนี้
00:10:15 → 00:10:18 ไม่น่าจะเข้าไปเก็บเห็ดนะคะแต่ว่าไม่แน่
00:10:18 → 00:10:22 บางคนเนี่ยเอ่อไปเที่ยวแล้วอาจจะมีทริปนะ
00:10:22 → 00:10:25 คะมีทัวร์เข้าไปเก็บเทคกิ้งไปเดินป่าเดิน
00:10:25 → 00:10:29 อะไรอันนี้แนะนำเลยว่าเราไม่ควรเก็บมากิน
00:10:29 → 00:10:33 นะคะเพราะว่าหน้าตามันก็ดูน่ากินนะคะขาวๆ
00:10:33 → 00:10:36 เป็นต้นไม่จะไม่ว่าจะเป็นเห็ดระโกเห็ด
00:10:36 → 00:10:40 ระงากหรือเห็ดไข่ตายซากหน้าตามันเหมือน
00:10:40 → 00:10:42 กันหมดแต่ 3 ตัวเนี้ยเป็นเห็ดพิษทั้งนั้น
00:10:42 → 00:10:47 นะคะเขาบอกว่าหัวก็จะมีหมวกตัวเห็ดก้าน
00:10:47 → 00:10:52 เห็ดก็มีแบบลายมีเปลือกมีเส้นนะคะแต่ว่า
00:10:52 → 00:10:55 เห็ดเหล่าเนี้ยกินไปแล้วในใน 1 วันเลย
00:10:55 → 00:10:58 เนี่ยแหละค่ะก็อาจจะเกิดอาการคลื่นไส้
00:10:58 → 00:11:02 อาเจียนแล้วก็ทำให้เกิดภาวะตับวายไตวาย
00:11:02 → 00:11:06 ได้เนาะมันมีสารพิษที่พบอยู่เอ่อก็คือ
00:11:06 → 00:11:10 อมาท็อกซินกับฟาโลท็อกซินนะคะซึ่งตัว
00:11:10 → 00:11:13 เนี้ยก็จะไปทำให้อวัยวะเราเนี่ยทำงานไม่
00:11:13 → 00:11:18 ได้นะคะเซลล์เราก็มีการอ่าแตกสลายตายเนาะ
00:11:18 → 00:11:21 เห็ดนโงกหินก็เป็นเห็ดที่มีสารพิษรุนแรง
00:11:21 → 00:11:25 นะคะอันนี้เป็นภาพที่เตือนว่าเห็ดพิษมี
00:11:25 → 00:11:29 ลักษณะใกล้เคียงกับเห็ดที่ปกติเลยนะคะคน
00:11:29 → 00:11:33 ที่เกิดไปกินแล้วเกิดอะไรขึ้นบ้างขึ้นไส้
00:11:33 → 00:11:36 อาเจียนถ่ายเหลวอันนี้เป็นช่วงแรกแต่ถ้า
00:11:36 → 00:11:40 เกิดกินไอ้เห็ดระะโงกระะโงกหินระะโงกเอ่อ
00:11:40 → 00:11:44 ขาวอะไรนี่ขึ้นมาจริงๆเนี่ยในช่วง 2 วัน
00:11:44 → 00:11:47 แรกก็จะเกิดอาการตับไตวายได้ถ้าท่านเกิด
00:11:47 → 00:11:51 ว่ามีญาติมีอะไรที่ไปกินเห็ดพิษนี้นะคะ
00:11:51 → 00:11:55 สงสัยให้ทำอย่างไรบ้างเพราะแนะนำว่าให้ไป
00:11:55 → 00:11:58 หาแพทย์นี่แหละแล้วก็เขาจะให้การอ่ารักษา
00:11:58 → 00:12:01 โดยเหมือนพยายามให้คั้นไข่ขาวพยายามให้
00:12:01 → 00:12:05 อาเจียนแล้วก็ให้ยาเพื่อลดสารพิษนะคะแล้ว
00:12:05 → 00:12:08 ก็เขาก็จะปรึกษาเลยว่าสารพิษเอ่อศูนย์พิษ
00:12:08 → 00:12:11 ก็จะมีศูนย์พิษที่รามาแล้วก็จะมีศูนย์พิษ
00:12:11 → 00:12:17 ที่ศรีราชนะคะก็ให้การรักษาค่ะ
00:12:17 → 00:12:20 [เพลง]