อาหารชนิดใดที่ช่วยลดกลิ่นกระเทียมได้ดีที่สุด และเหตุผลคืออะไร

5 อาหารกลิ่นแรง ต้นเหตุกลิ่นปาก กลิ่นติดตัว มีวิธีดับกลิ่นอย่างไร? | คลิป MU [by Mahidol]

จากช่อง : Mahidol Channel มหิดล แชนแนล


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:02 ปัญหาในการกินอาหารที่มีกลิ่นแรง

00:00:0200:00:04 จำพวกสะตอ กระเทียม และกะปิ

00:00:0400:00:08 ตอนกินก็อร่อย แต่เมื่อกินแล้วก็มีกลิ่นติดปาก ติดตัว

00:00:0800:00:10 แปรงฟันหรือบ้วนปากเท่าไรก็ยังไม่หาย

00:00:1000:00:16 [เสียงดนตรี]

00:00:1600:00:19 สาเหตุการเกิดกลิ่นของกระเทียม

00:00:1900:00:21 เมื่อกระเทียมถูกตัดหรือถูกเคี้ยว

00:00:2100:00:23 เอนไซม์ในกระเทียมจะเปลี่ยนเป็นสารอัลลิซิน

00:00:2300:00:26 ซึ่งเป็นสารประกอบกำมะถันหรือสารซัลเฟอร์

00:00:2600:00:29 จึงทำให้มีกลิ่นเฉพาะตัวที่ติดปากและลมหายใจ

00:00:2900:00:32 ซึ่งกลิ่นนี้จะอยู่นานถึง 72 ชั่วโมง หรือ 3 วันเลยค่ะ

00:00:3200:00:36 [เสียงดนตรี]

00:00:3600:00:38 ซึ่งประโยชน์ของกระเทียมนั้นคือ อัลลิซิน

00:00:3800:00:42 จะเป็นสารที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ ในการต้านอนุมูลอิสระ

00:00:4200:00:45 และก็ช่วยในการลดความดันโลหิตของเรา และลดไขมันในเลือดได้

00:00:4500:00:47 ข้อแนะนำในการลดกลิ่นกระเทียม

00:00:4700:00:49 อันดับแรกเลย คือ การดื่มนม

00:00:4900:00:54 โดยเฉพาะนมที่มีไขมันจะสามารถลดกลิ่น ได้ดีกว่านมพร่องมันเนยหรือนมขาดมันเนย

00:00:5400:00:57 เนื่องจากในนมมีองค์ประกอบของน้ำและไขมัน

00:00:5700:01:02 ซึ่งตัวนี้จะช่วยละลายสารประกอบซัลเฟอร์ ที่ละลายทั้งในน้ำและก็ละลายทั้งไขมันได้

00:01:0300:01:05 ทำให้ลดการระเหยของกลิ่นกระเทียมออกมาได้

00:01:0500:01:08 สำหรับตัวช่วยตัวที่สอง สำหรับลดกลิ่นกระเทียมก็คือ

00:01:0900:01:13 น้ำผลไม้หรือผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว อย่างเช่น น้ำมะนาว หรือ น้ำส้ม

00:01:1300:01:15 เพราะในน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว

00:01:1500:01:16 จะมีความเป็นกรด

00:01:1600:01:21 ซึ่งความเป็นกรดจะไปยับยั้งเอนไซม์ ที่เปลี่ยนสารในกระเทียมให้มีกลิ่นออกมาได้

00:01:2100:01:23 [เสียงดนตรี]

00:01:2300:01:25 สะตอเป็นพืชตระกูลถั่วฝัก

00:01:2500:01:29 ซึ่งประโยชน์ของสะตอ ก็จะมีสารพฤกษเคมี ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ

00:01:2900:01:31 และช่วยลดระดับน้ำตาลได้

00:01:3100:01:33 ซึ่งสาเหตุของการเกิดกลิ่นของสะตอ

00:01:3300:01:36 ก็เนื่องจากมีองค์ประกอบ ของสารประกอบซัลเฟอร์

00:01:3600:01:39 ซึ่งตรงนี้ก็จะมีกลิ่นออกมา ทั้งกลิ่นปาก กลิ่นลมหายใจ

00:01:3900:01:41 และเมื่อเรารับประทานเข้าไป

00:01:4100:01:43 ร่างกายก็จะมีการขับออกทางปัสสาวะ

00:01:4300:01:45 ทำให้กลิ่นปัสสาวะของเรา ก็จะมีกลิ่นของสะตอด้วย

00:01:4700:01:50 เราสามารถใช้อาหารด้วยกัน ในการลดกลิ่นสะตอได้

00:01:5000:01:51 คือการรับประทานมะเขือเปราะ

00:01:5100:01:54 ซึ่งในตัวของมะเขือเปราะก็จะมีสารพฤกษเคมี

00:01:5400:01:57 และก็เอนไซม์โพลีฟีนอล ออกซิเดส

00:01:5700:02:01 ซึ่งสององค์ประกอบนี้ จะช่วยในการ ทำปฏิกิริยากับสารประกอบซัลเฟอร์

00:02:0100:02:03 ทำให้ลดกลิ่นของสะตอได้

00:02:0300:02:05 [เสียงดนตรี]

00:02:0500:02:07 สาเหตุการเกิดกลิ่นของหอมหัวใหญ่

00:02:0700:02:09 เนื่องจากหอมหัวใหญ่ เป็นพืชกลุ่มเดียวกับกระเทียม

00:02:1000:02:14 ก็จะมีสารประกอบซัลเฟอร์หรืออัลลิซิน ที่ทำให้เกิดกลิ่นเฉพาะตัวได้

00:02:1500:02:19 ซึ่งหอมหัวใหญ่จะมีองค์ประกอบของ อาหารสำหรับจุลินทรีย์สุขภาพ

00:02:1900:02:20 หรือเรียกว่า พรีไบโอติก

00:02:2000:02:23 ซึ่งก็จะมีประโยชน์ในการ ช่วยในการทำงานของระบบทางเดินอาหาร

00:02:2300:02:25 ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

00:02:2500:02:28 แล้วก็ช่วยฟื้นฟู แล้วก็รักษาเรื่อง ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ด้วย

00:02:2800:02:30 ข้อแนะนำในการลดกลิ่นของหอมหัวใหญ่

00:02:3000:02:32 ถ้าเรารับประทานในรูปแบบของสลัด

00:02:3300:02:35 เราสามารถรับประทานร่วมกับผักกาดหอมดิบ

00:02:3500:02:37 ซึ่งผักกาดหอมดิบ จะมีสารพฤกษเคมี

00:02:3700:02:39 และเอนไซม์โพลีฟีนอล ออกซิเดส

00:02:3900:02:42 ที่จะทำปฏิกิริยากับสารประกอบซัลเฟอร์

00:02:4200:02:44 ทำให้ลดการเกิดกลิ่นของหอมหัวใหญ่ได้

00:02:4400:02:46 [เสียงดนตรี]

00:02:4600:02:48 สาเหตุการเกิดกลิ่นของทุเรียน

00:02:4800:02:51 เนื่องจากทุเรียนมีสารประกอบซัลเฟอร์ ที่ระเหยได้ง่าย

00:02:5100:02:54 ก็จะทำให้มีกลิ่นติดปากและลมหายใจ เมื่อรับประทานไป

00:02:5400:02:57 [เสียงดนตรี]

00:02:5700:03:00 ซึ่งการรับประทานในปริมาณมาก ก็มีโอกาสเสี่ยงทำให้เกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ

00:03:0000:03:02 อย่างเช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด

00:03:0200:03:05 ข้อแนะนำในการลดกลิ่นของทุเรียน

00:03:0500:03:06 ก็ผลไม้ด้วยกันเลยค่ะ

00:03:0600:03:07 ก็คือตัวแอปเปิล

00:03:0700:03:10 เนื่องจากแอปเปิลจะมีตัวของสารพฤกษเคมี

00:03:1000:03:12 และเอนไซม์โพลีฟีนอล ออกซิเดส

00:03:1200:03:15 ในการที่จะทำปฏิกิริยากับตัวซัลเฟอร์

00:03:1500:03:17 ทำให้ลดการเกิดกลิ่นของทุเรียนได้

00:03:1700:03:19 [เสียงดนตรี]

00:03:1900:03:23 อาหารกลิ่นแรงชนิดสุดท้าย ได้แก่ กะปิและปลาร้า

00:03:2300:03:27 อาหารทั้งสองอย่างนี้ จะเป็นอาหาร ที่ผ่านกระบวนการถนอมอาหาร

00:03:2700:03:28 โดยกระบวนการหมัก

00:03:2800:03:30 ทำให้มีกลิ่นเกิดขึ้นมา

00:03:3000:03:31 เมื่อรับประทานเข้าไป

00:03:3100:03:34 นอกจากตัวของกลิ่นแล้ว ก็จะมีตัวของโซเดียม

00:03:3400:03:36 ซึ่งการรับประทานโซเดียมในปริมาณเยอะ

00:03:3600:03:38 ก็ทำให้ไตและหัวใจเราทำงานหนักมากขึ้นค่ะ

00:03:3800:03:41 ข้อแนะนำในการลดกลิ่นกะปิและปลาร้า

00:03:4100:03:44 คือการใช้เปลือกของผลไม้ตระกูลส้มและมะนาว

00:03:4400:03:47 เนื่องจากเปลือกของส้มและมะนาว

00:03:4700:03:50 จะมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งก็จะสามารถช่วยลดกลิ่นได้

00:03:5000:03:51 โดยวิธีการใช้ก็คือ

00:03:5100:03:55 ให้ฝานมะนาวหรือส้มเป็นชิ้นบาง ๆ ติดเปลือก

00:03:5500:03:58 และให้นำมาเคี้ยว หลังรับประทานกะปิหรือปลาร้า

00:03:5800:04:01 หรือถ้าเราจะดับกลิ่นกะปิหรือปลาร้า ที่ติดบริเวณมือของเรา

00:04:0100:04:04 เราสามารถใช้เปลือกของมะนาวหรือเปลือกส้ม

00:04:0400:04:06 ถูบริเวณมือของเรา และล้างด้วยน้ำสะอาด

00:04:0600:04:08 ก็สามารถดับกลิ่นได้แล้วค่ะ

00:04:0800:04:13 [เสียงดนตรี]