00:00:00 → 00:00:03 ต้องขอรบกวนคุณหมอเรื่องของข้อมูลแล้วก็
00:00:03 → 00:00:06 ชุดความรู้รวมทั้งคำถามที่อาจจะมีมาจาก
00:00:06 → 00:00:09 ทางบ้านนะครับถามแล้วก็อยากจะให้คุณหมอ
00:00:09 → 00:00:11 ช่วยไขข้อกระจ่างข้อสงสัยให้กับคุณผู้ฟัง
00:00:11 → 00:00:14 ทางบ้านด้วยนะครับเดี๋ยวจะขอเริ่มที่
00:00:14 → 00:00:17 เมื่อกี้ที่คามเรา 2 คนเกรินไปครับคุณหมอ
00:00:17 → 00:00:21 ครับว่าเอ่อภาวะเรื่องของสภาพอากาศที่มัน
00:00:21 → 00:00:24 หนาวเย็นในช่วงเวลาแบบนี้ในกรุงเทพฯเนี่ย
00:00:24 → 00:00:27 ก็อาจจะสัมผัสกันได้แค่ไม่กี่อึดใจแต่ว่า
00:00:27 → 00:00:30 ในพื้นที่อย่างภาคเหนือภาคอีสานคนที่เขา
00:00:30 → 00:00:33 มีปัญหาเรื่องของสภาพเกี่ยวกับเรื่องเ่อ
00:00:33 → 00:00:35 โรคประจำตัวอย่างโรคหัวใจหรือว่าเกี่ยว
00:00:35 → 00:00:38 กับเรื่องของหลอดเลือดภาวะอากาศหนาวเย็น
00:00:38 → 00:00:41 แบบนี้มันส่งผลต่อภาวะเส้นเลือดภาวะความ
00:00:41 → 00:00:46 ดันโลหิตได้มากน้อยขนาดไหนฮะคุณหมอฮะออก็
00:00:46 → 00:00:50 คืออย่างปกติเนี่ยครับเราจะคือประเทศไทย
00:00:50 → 00:00:53 เราเนี่ยก็คือถือว่าอยู่ในเขตโซนร้อนใช่ม
00:00:53 → 00:00:57 ก็คือแบบว่าจะเป็นแบบอากาศที่ส่วนใหญ่ก็
00:00:57 → 00:01:00 จะอยู่ในช่วงแบบ 20 กว่าๆขึ้นไปจนถึงแบบ
00:01:00 → 00:01:04 30 นก็จะ 30 กว่าเลยใช่มฮะบางทีเกือบ 40
00:01:04 → 00:01:06 เพราะฉะนั้นเราก็คือเราก็จะคุ้นชินกับ
00:01:06 → 00:01:09 เรื่องของอากาศที่ค่อนข้างอบอุ่นไปถึง
00:01:09 → 00:01:13 ร้อนนะครับใช่ทีเนี้ก็จริงๆเราก็พอทราบมา
00:01:13 → 00:01:17 ว่าเวลาที่มีอากาศหนาวเย็นอะไรเงี้ยจริงๆ
00:01:17 → 00:01:18 ก็เป็นเป็นเรื่องที่เราถ้าเกิดเราจะ
00:01:18 → 00:01:20 สังเกตจริงๆเราจะพบว่ามีผู้ป่วยเนี่ย
00:01:21 → 00:01:22 เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นโรค
00:01:22 → 00:01:26 หลอเลือสมองในช่วงที่อากาศดาวเยงครับจริง
00:01:26 → 00:01:28 ใช่มั้ยคะธันวาคมนี้เลยเหรอคะคุณหมอคใช่
00:01:28 → 00:01:31 ครับก็ช่วงเยก็ก็ในช่วงเย็นๆอากาศที่มัน
00:01:31 → 00:01:35 เริ่มเย็นเงี้ยครับค่ะผมก็มีความสังเกต
00:01:35 → 00:01:38 ว่าเอ๊คนไข้ก็ดูแบบเยอะขึ้นเข้ามานอนใน
00:01:38 → 00:01:41 โรงพยาบาลมากขึ้นป่วยหนักๆก็เพิ่มมากขึ้น
00:01:41 → 00:01:44 มากกว่าช่วงที่อ่าช่วงอากาศที่อุ่นๆนะ
00:01:44 → 00:01:47 ครับนะหรือว่าอากาศร้อนก็จะแต่จะเพิ่มมา
00:01:47 → 00:01:50 ไม่มากนะครับก็นิดหน่อยสำหรับประเทศไทย
00:01:50 → 00:01:53 เนาออืมันมันมองได้ในลักษณะของการไหล
00:01:53 → 00:01:56 เวียนโลหิตถ้าเรามองในลักษณะเอ่ออากาศ
00:01:56 → 00:02:02 ปกติอุณหภูมิเอ่อ 20 25 ไปถึง 30 กว่า
00:02:02 → 00:02:04 เนี่ยก็คืออุณหภูมิทำให้เลือดเนี่ยไหล
00:02:04 → 00:02:07 คล่องถ้าเราพูดถึงปกตินะคะแต่พอหน้าหนาว
00:02:07 → 00:02:10 เนี่ยมันหนืดอย่างงี้มั้ยคะคุณหมอคะเลือด
00:02:10 → 00:02:13 คือจริงๆเก็จะต้องบอกว่าพอเวลาที่อากาศ
00:02:13 → 00:02:15 เย็นเนี่ยครับเราก็ร่างกายเราทุกคนเนี่ย
00:02:15 → 00:02:17 ครับก็จะพยายามที่จะเก็บเกี่ยวกับเรื่อง
00:02:17 → 00:02:21 ของความอบอุ่นของร่างกายไว้นะครับดังนั้น
00:02:21 → 00:02:23 ก็จะทำให้หลอดเลือดเนี่ยครับเขาพยายามที่
00:02:23 → 00:02:28 จะหดตัวออนะครับอ่าหดตัวคือปกติเนี่ยถ้า
00:02:28 → 00:02:30 สมมุติเราอากาศอากาศร้อนเราเรามีเหงื่อ
00:02:30 → 00:02:32 อะไรอย่าเงี้ยนะครับก็คือเกิดจากว่าหลอด
00:02:32 → 00:02:35 เลือดเนี่ยขยายตัวเพื่อจะระบายความร้อนข
00:02:35 → 00:02:37 อืนะครับเราก็จะระบายความร้อนเราเพะหลอด
00:02:37 → 00:02:40 เลือดก็จะค่อนข้างที่จะขยายตัวมากมากกว่า
00:02:40 → 00:02:43 ปกตินะเวลาที่อากาศร้อนเช่นเดียวกันพอ
00:02:43 → 00:02:46 อากาศเย็นลงเนี่ยครับปุ๊บร่างกายเราก็ก็
00:02:46 → 00:02:48 คือมีความอัศจรรย์ก็คือพยายามทำยังไงให้
00:02:48 → 00:02:51 เราอยู่ได้ในสิ่งแวดล้อมที่อากาศเย็นก็
00:02:51 → 00:02:54 คือพยายามเก็บความอบอุ่นของร่างกายไว้
00:02:54 → 00:02:56 เพราะฉะนั้นจากที่หลอเลที่จะขยายเนี่ยก็
00:02:56 → 00:03:00 แทนที่จะขยายก็เป็นการหดตัวลงเพื่อที่จะ
00:03:00 → 00:03:03 ให้ให้ความร้อนเนี่ยออกไปจากนอกร่างกาย
00:03:03 → 00:03:06 น้อยลงนะครับเพราะฉะนั้นบางทีเราก็จะเห็น
00:03:06 → 00:03:08 ว่าปลายมือปลายเท้าเราเนี้ยช่วงอากาศเย็น
00:03:08 → 00:03:12 ๆเป็นังไงครับดูแบบอาจจะออกซีๆตใช่ๆใช่
00:03:12 → 00:03:16 ครับใช่มั้ยฮะดูจะเป็นปลมือคิได้เลยนะคะ
00:03:16 → 00:03:21 อืหดตัวครับมันอันในขณะเดียวกันเวลาสับ
00:03:21 → 00:03:25 ซ้อนเราเรามาดูมือเราเอ๊ะมือเราจะแดงๆว่า
00:03:25 → 00:03:28 เราจะการแดงๆอยู่อุ่นๆเงี้ยครับคือร่าง
00:03:28 → 00:03:31 กายเนี่ยทำให้หลอดเลือดแเเนี่ยยขยายตัว
00:03:31 → 00:03:33 เพื่อจะระบายความร้อนออกนะครับแล้วก็ออก
00:03:33 → 00:03:35 มาในรูปของการมีเหงื่อออกมาด้วยก็จะมีการ
00:03:35 → 00:03:38 ุเส่น้ำพอน้ำเป็นเหงื่อเนี่ยระเหยออกไป
00:03:38 → 00:03:42 ปุ๊บก็เขาก็จะเอาความเย็นเนี่ยก็คือเรา
00:03:42 → 00:03:44 เอาความร้อนออกไปเป็นระเหยออกไปเป็น
00:03:44 → 00:03:46 เหงื่อของเราเนี่ยก็จะเกิดความเย็นลงมา
00:03:46 → 00:03:50 ระดับอันนี้ก็เป็นคลไกของร่างกายอืครับผม
00:03:50 → 00:03:53 ทีนี้พอเวลาเอ่อหล่อดเลือดเราหดหดตัวนะ
00:03:53 → 00:03:57 ครับก็ก็เกิดอะไรขึ้นถ้าเกิดคนเป็นคน
00:03:57 → 00:04:00 ธรรมดาก็อาจจะไม่ค่อยมีผลอะไรเ่า
00:04:00 → 00:04:03 คือเป็นเหมือนกับร่างกายเราปรับตัวให้
00:04:03 → 00:04:07 เก็บความอบอุ่นแต่ถ้ามีโรคประจำตัว
00:04:07 → 00:04:11 อันเนี้ยอาจจะต้องอ่าตลหนักนิดนึงว่าถ้า
00:04:11 → 00:04:15 สมมุติเป็นเช่นความดันิสูงอยู่แล้วแล้วก็
00:04:15 → 00:04:18 อาจจะคุมไม่ค่อยดีความดันจะค่อนๆสูงไป
00:04:18 → 00:04:21 หน่อยอะไรเงี้นะครับเวลาที่อากาศเย็น
00:04:21 → 00:04:24 เรื่องของหลอดเลือดที่หดตัวเนี้อาจจะทำ
00:04:24 → 00:04:28 ให้ความดันโลหิตของคนไข้เนี่ยอาจจะเพิ่ม
00:04:28 → 00:04:32 ขึ้นสูงอืไปอีกเพราะฉะนั้นก็อาจจะมีความ
00:04:32 → 00:04:36 เสี่ยงตามมาเช่นเวลาที่เราทราบว่าโรคหลอ
00:04:36 → 00:04:39 และสมองแตกเนี่ยสาเหตุหลักๆเลยก็คือความ
00:04:39 → 00:04:42 ดันโลหิตสูงเพราะฉะนั้นมันอาจจะเป็นที่มา
00:04:42 → 00:04:45 ของการที่เวลาที่อากาศเย็นๆปุ๊บหลอดเลือด
00:04:45 → 00:04:48 ตีบความดันโลหิตขึ้นในกลุ่มคนไข้ที่เป็น
00:04:48 → 00:04:50 อายุอ่าคนไข้ที่มีเรื่องของความดันโลหิต
00:04:50 → 00:04:52 สูงอยู่แล้วเนี่ยก็จะเพิ่มความเสี่ยงเข้า
00:04:52 → 00:04:54 ไปอีกนะครับอันนี้ต้องระมัดระวังนี้นึก
00:04:54 → 00:04:57 เห็นภาพออกสายยางที่สมมุติว่าที่เราบีบ
00:04:57 → 00:05:00 เราเราเหยียบมันน่ะสมมุติว่าเหยียบน้ก็
00:05:00 → 00:05:03 พุ่งขึ้นไปอย่างงั้นเออหลอดเลือดของเรา
00:05:03 → 00:05:07 เมื่อมันหดตัวลงอเรื่องของอากาศนะครับเออ
00:05:07 → 00:05:10 เชิญๆครับคุณหมอครับผมครับขณะเดียวกัน
00:05:10 → 00:05:13 เนี่ยบางก็มีอีกบางทฤษฎีเขาก็พูดว่านอก
00:05:13 → 00:05:16 จากหลอดเลือดตีดลงเนี่ยขดตัวลงแล้วเนี่ย
00:05:16 → 00:05:19 ค่ะบางทีการไหลเวียนเลือดเนี่ยก็จะก็ก็ก็
00:05:19 → 00:05:22 จะช้าลงถูกมั้ยครับเพราะว่าพอท่อของหลอด
00:05:22 → 00:05:25 เลือดเนี่ยเล็กลงนะครับการไหลเนี่ยก็จะ
00:05:25 → 00:05:28 ช้าลงนิดนึงเพราะฉะนั้นอาจจะเกิดเรื่อง
00:05:28 → 00:05:31 ของความหนืดเกิดขึ้นความหนืดโดยเฉพาะถ้า
00:05:32 → 00:05:35 เกิดสมมุติว่าหลอดเลือดปกติเนี่ยมีความ
00:05:35 → 00:05:38 ตีดเช่นอาจจะมีาบหินปูนอยู่แล้วการไหล
00:05:38 → 00:05:42 เวียนก็จะช้าลงใช่มฮะพอช้าลงปุ๊บบางทีจุด
00:05:42 → 00:05:44 ที่หลอดเลือดในสมองเนี่ยมีจุดติดแล้วมัน
00:05:44 → 00:05:48 อาจจะทำให้ตัวของตัวของหลอดเลือดเนี่ยมัน
00:05:48 → 00:05:51 หดตัวมากขึ้นเราก็อาจจะรูเล็กลงรูของหลอด
00:05:51 → 00:05:54 เลือดเล็กลงทำให้เกิดลิ้มเลือดเกิดขึ้น
00:05:54 → 00:05:57 ได้นะครับพอเกิดลิ่มเลือดเกิดขึ้นได้ปุ๊บ
00:05:57 → 00:05:59 เนี่ยก็เลยเป็นที่มาของการอุดปันหลอน
00:05:59 → 00:06:03 เลือดในสมองขึ้นมานะครับออืเรื่องของ
00:06:03 → 00:06:07 อากาศที่คุณหมอว่าครับมันต้องเย็นขนาดไหน
00:06:07 → 00:06:10 ที่มันจะส่งผลกระทบต่อเรื่องของหลอดเลือด
00:06:10 → 00:06:13 ภายในร่างกายของเราครับคุณหมอครับค่ะออ
00:06:13 → 00:06:18 จริงๆเนี่ยก็คือผมก็ลองไปดูเกี่ยวกับ
00:06:18 → 00:06:22 เอ่อการวิจัยอะไรที่ที่พอที่จะหาได้นะ
00:06:22 → 00:06:25 ครับสับเรื่องของความเย็นเกี่ยวกับเรื่อง
00:06:25 → 00:06:29 ของหลอดเลือดสมองเนี่ยก็ก็มีของที่ที่ที่
00:06:29 → 00:06:31 ตีพิมพ์ในต่างประเทศเนี่ยเขาก็มีการราย
00:06:31 → 00:06:35 งานบอกว่าเออถ้าเกิดในกลุ่มที่เราสมมุติ
00:06:35 → 00:06:39 ว่าอยู่ดีๆอากาศลดลงซัก 3 องศถึง 9 องศา
00:06:39 → 00:06:42 เนี่ยเขาก็บอกว่าอาจจะมีก็คือเป็นการ
00:06:42 → 00:06:44 ศึกษากลุ่มเล็กๆนะครับก็บอกว่าอาจจะมี
00:06:44 → 00:06:48 เรื่องของเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดภาวะ
00:06:48 → 00:06:50 หลอดด้วสมองตีบหรือภาวะที่ความดันโลหิต
00:06:50 → 00:06:52 สูงๆแล้วทำให้หลอดด้วสมองแต่งเนี่ยเพิ่ม
00:06:53 → 00:06:56 อีกสักประมาณ 10 กว่าเปอร์เซเป็น 10 ต้นๆ
00:06:56 → 00:07:01 ก็ไม่ได้เยอะมากนะครับนะฮะอืตอดับนะครับ
00:07:01 → 00:07:04 100 คนครับมีคนที่เป็นความเสี่ยงเพิ่ม
00:07:04 → 00:07:06 ขึ้นอีกสัก 10 กว่าคนอย่างเงี้ยประมาณนี้
00:07:06 → 00:07:09 ครับอความดันโลหิตแต่ก็ถือว่าก็มีความ
00:07:09 → 00:07:12 เสี่ยงเพิ่มขึ้นกว่าในในภาวะปกติในภาวะ
00:07:12 → 00:07:15 ปกติแต่ว่าอันเนี้ยเรื่องของห้องแอร์
00:07:15 → 00:07:18 เนี่ยมันไม่ใช่ใช่มั้ยคะคุณหมอคะเข้าไป
00:07:18 → 00:07:20 อยู่ในห้องแจริงเรื่อง้องแอร์เนี่ยเวลา
00:07:20 → 00:07:23 เราปรับเนี่ยเราก็จะแนะนำว่าปรับเท่าไหร่
00:07:23 → 00:07:25 คะ
00:07:25 → 00:07:28 25 เราคงจะไม่ต่ำลงมาเยอะมากแต่ทำให้เรา
00:07:28 → 00:07:30 อยู่สบ
00:07:30 → 00:07:32 ทีนี้จะมีเรื่องของแบบว่าเวลาที่อากาศ
00:07:32 → 00:07:35 เนี่ยลดลงเยอะๆจากปกติก็อันเนี้ยอาจจะ
00:07:35 → 00:07:38 เพิ่มความเสนิดหน่อยทีนี้ก็มีอีกการศึกษา
00:07:38 → 00:07:41 นึงครับเขาก็พูดถึงแบบว่าอุณหภูมิลดลงไป
00:07:42 → 00:07:45 มากกว่าเอคือต่ำกว่า 13 องศเซลเซียนะครับ
00:07:45 → 00:07:48 อันนี้ถือว่าหนาวจริงสมมติว่าอย่างเราไป
00:07:48 → 00:07:51 ต่างประเทศสมมติคนไทยเราไปต่างประเทศเรา
00:07:51 → 00:07:54 ไปเจออากาศเย็นๆครับตอนนี้คนคนนิยมไป
00:07:54 → 00:07:56 ญี่ปุ่นมาเอไปญี่ปุ่นไปเกาหลีกันครับคุณ
00:07:56 → 00:07:58 หมอครับได้ตัวเดียว
00:07:58 → 00:08:02 อุณหภูมิ 10 แล้วใช่มคะอืใช่นะครับเขาก็
00:08:02 → 00:08:05 จะมีการบอกว่าเก็มีการศึกษานะครับว่าถ้า
00:08:05 → 00:08:09 เกิดตัวตัวตัวเลขที่อ่าอุณหภูมิเนี่ยต่ำ
00:08:09 → 00:08:12 กว่า 13 องศาเนี่ยครับก็จะเพิ่มความ
00:08:12 → 00:08:15 เสี่ยงเรื่องของการเกิดเรื่องของเ่อโรค
00:08:15 → 00:08:18 หลอเลือดสมองหรือโรคหลอเลือดสมองแตกก็ได้
00:08:18 → 00:08:20 เพราะว่าความดันมันขึ้นเราพยายามเก็บรง
00:08:20 → 00:08:22 เก็บความอุ่นของร่างกายเพราะฉะนั้นก็จะ
00:08:22 → 00:08:25 เพิ่มเปอร์เซ็นต์ของการเกิดเนี่ยอาจจะถึง
00:08:25 → 00:08:29 20 กว่าเปอรครับโอตนั่นน่ะสิกระทบเรื่อง
00:08:29 → 00:08:31 ของผู้สูงอายุมากๆเลยเพราะว่าผู้สูงอายุ
00:08:31 → 00:08:33 ส่วนมากเนี่ยก็จะมีเรื่องของความดันโลหิต
00:08:33 → 00:08:37 สูงใช่ติดตัวไปครึ่งๆเลยได้ั้ยคะคุณหมอคะ
00:08:37 → 00:08:41 ถ้า 60 ขึ้นแล้วเนี่ยความดันโลหิตจะสูงก็
00:08:41 → 00:08:45 ก็จริงๆแล้วถ้าเกิดเราดูตามโรงพยาบาลที่
00:08:45 → 00:08:48 คนไข้มาเนี่ยผู้สูงอายุเนี่ยจะมีโรคประจำ
00:08:48 → 00:08:51 ตัวหลักๆเลยนะครับอันดับ 1 เนี่ยคือความ
00:08:51 → 00:08:54 ดาผิสูงอืออันดับ 2 ลงมาเนี่ยก็คือเป็นไข
00:08:54 → 00:08:57 มันในเลือดสูงอันดับ 3 จะเป็นเบาหวานนะ
00:08:57 → 00:09:01 ครับประมาณเนี้ย 3 อันอันดับแรกก็คือความ
00:09:01 → 00:09:06 ดันไขมันเบาหวานอันนี้เป็นแรกๆเลยที่ที่
00:09:06 → 00:09:08 ความจริงตัวของ 3 โรคนี้ก็เป็นปัจจัย
00:09:08 → 00:09:11 เสี่ยงของโรคหลอดเลือสมองอยู่แล้วอือหือ
00:09:11 → 00:09:14 แต่ว่าเราก็ต้องป้องกันโดยการรับประทานยา
00:09:14 → 00:09:17 ใช่มั้ยครับใช่ควบคุมน้ำตาลให้ดีในคนไข้
00:09:17 → 00:09:20 เบาหวานควบคุมความดันให้ดีในคนไข้ที่มี
00:09:20 → 00:09:23 ความดันิสูงควบคุมไขมันให้ปกติในกลุ่มคน
00:09:23 → 00:09:25 ไข้นี้ไขมาเพราะฉะนั้นถ้าเกิดเราทานรับ
00:09:25 → 00:09:28 ประทานยาทำร่างกายให้อบอุ่นใส่เสื้อผ้า
00:09:28 → 00:09:31 หนาหน่อยเวลาที่ไปเจออากาศหนาวเหล่าเนี้ย
00:09:31 → 00:09:34 พอป้องกันได้ดื่มน้ำเยอะๆอย่าเงี้ยนะครับ
00:09:34 → 00:09:39 ก็จะช่วยให้เราแบบรดความเสี่ยงลงนะครับ
00:09:39 → 00:09:42 ถ้าเกิดเราเผชิญอาการมันเย็นมากๆจริงๆไม่
00:09:42 → 00:09:44 ค่อยแนะนำในกลุ่มคนไข้ที่มีโรคประจำตัว
00:09:45 → 00:09:48 เยอะๆและอายุมากๆไปอยู่ในที่เย็นๆแต่ถ้า
00:09:48 → 00:09:50 เกิดเป็นคนอ่นสาวอันนั้นเแข็งแรงโรคประจำ
00:09:50 → 00:09:53 ตัวเขาน้อยเพราะฉะนั้นโอกาสเกิดเขาน้อย
00:09:53 → 00:09:56 มากคือก็อย่างงี้ก็แสดงว่าสมมุติถ้าคนที่
00:09:56 → 00:10:00 เขาอยู่บนเขาอยู่บนที่สูงอะไรเงี้ที่ช่วง
00:10:00 → 00:10:03 ปลายปีแบบนี้เนี่ยอากาศมันจะเย็นกว่าพื้น
00:10:03 → 00:10:05 ที่ราบพื้นที่อ่ะอย่างในพื้นที่
00:10:06 → 00:10:09 กรุงเทพมหานครเนี่ยคือแสดงว่าเขาก็มีความ
00:10:09 → 00:10:13 เสี่ยงสูงกว่าคนปกติทั่วไปจะว่าอย่างงั้น
00:10:13 → 00:10:16 ก็ได้ใช่มหเกี่ยวมั้ยฮะพูดอย่างงั้นได้
00:10:16 → 00:10:19 เพราะว่าเวลาปกติเยเวลาเวลาเขาร้อนบางที
00:10:19 → 00:10:21 เขาก็ร้อนเนาะเวลาที่เขาหนาวเจะหนาวมาก
00:10:21 → 00:10:24 กว่าลเพราะว่าเอยู่ที่สูงบางทีอยู่อยู่
00:10:24 → 00:10:27 อุณหภูมิต่ำลงเร็วมากก็เช่นเดียวกันใน
00:10:27 → 00:10:30 กลุ่มคนไขที่ถ้าเกิดว่าเป็นเป็นกลุ่มคน
00:10:30 → 00:10:32 แค่ที่อายุเยอะเนี่ยต้องระมัดระวังพยายาม
00:10:32 → 00:10:35 ทำร่างกายให้คุณมีโอกาสที่จะมีความเสี่ยง
00:10:35 → 00:10:37 เหล่านี้ได้นะครับเพราะฉะนั้นก็ทำร่างกาย
00:10:37 → 00:10:41 ให้อุ่นใส่เสื้อผ้านานาบางคนก็อ่าต้องแบบ
00:10:41 → 00:10:43 ินไฟหรือว่าใช้ฮีสเตอร์อะไรอย่างงี้ใช่
00:10:43 → 00:10:46 มั้ยครับเพื่อช่วยความร้อนดื่มอะไรอุ่นๆ
00:10:46 → 00:10:50 ก็พอที่จะช่วยได้แต่ว่าจริงๆก็อืมพยายาม
00:10:50 → 00:10:53 ที่จะทำอะไรก็ได้ให้ร่างกายเราอบอุ่นแล้ว
00:10:53 → 00:10:56 ก็ปลอดภัยครับเพราะว่ากลุ่มคนไข้ที่อายุ
00:10:56 → 00:10:58 เยอะๆเนี่ยเป็นกลุ่มคนไข้ที่ต้องมีความ
00:10:58 → 00:11:00 เสี่ยงเยอะครับเป็นเเรียกว่าเป็นกลุ่มของ
00:11:00 → 00:11:03 แที่เปาะมามีโรคจำตัวเยอะเนี่ยเราก็ไม่
00:11:03 → 00:11:06 ค่อยแนะนำว่าแบบไปอยู่ในที่หนามเ็นมากอื
00:11:06 → 00:11:09 สามารถใช้นอกจากทำร่างกายให้อบอุ่นแล้ว
00:11:09 → 00:11:11 เนี่ยในที่ศีรษะนี่เกี่ยวมั้ยคะต้องแบบ
00:11:11 → 00:11:16 ว่าสวมหมวกต้องพันเฟอรขนสัตว์อะไรที่ให้
00:11:16 → 00:11:18 อบอุ่นที่ศีษะด้วยมั้ยคะออันนี้ก็เป็น
00:11:18 → 00:11:21 สิ่งที่แนะนำครับเพราะว่าเหลเยทำให้ทำให้
00:11:21 → 00:11:24 มีความแบบเราสูญลดการสูญเสียความรจากร่าง
00:11:24 → 00:11:29 กายไปนะอืเอ่าแล้วผมคิดว่าหลายๆท่านเนี่ย
00:11:29 → 00:11:33 เคงเคยไปสัมผัสอากาศเย็นๆนะอาจจะแบบในภาค
00:11:33 → 00:11:36 เหนือหรือประเทศหรือว่าไปบนดอยดอยค่ะเรา
00:11:36 → 00:11:39 จะรู้สึกว่าแบบบางทีหน้าเราถ้าเกิดเราไม่
00:11:39 → 00:11:42 ใส่หมวกไหมพรมหรือว่าไม่ได้ใส่หมวกอะไร
00:11:42 → 00:11:45 ป้องกันลมหรือแม้แต่หูเราเนี่ยเราจะเย็น
00:11:45 → 00:11:47 แลทรมานมากแต่ว่าถ้าเกิดเราใส่เราจะรู้
00:11:47 → 00:11:50 สึกอบอุ่นเราจะรู้สึกสบายแต่ก็เหมือนกัน
00:11:50 → 00:11:53 ร่างกายเนี่ยพยายามที่จะอยากให้แบบเรา
00:11:53 → 00:11:55 เก็บความอบอุ่นเอาไว้พวกนี้ก็จะทำให้แบบ
00:11:55 → 00:11:58 ลดความเสี่ยงเรื่องต่างๆแล้วก็ยังลดความ
00:11:58 → 00:12:00 เสี่ยงเรื่องของการเกิดโรคทางเดินหายใจ
00:12:00 → 00:12:03 ด้วยนะครับอืเพราะเดี๋ยวก็จะมีหวัดมีอะไร
00:12:03 → 00:12:06 ตามมานะครับคือต้องปกปิดตัวเองให้เต็มที่
00:12:06 → 00:12:10 ว่าอย่างงั้นนะคะใช่ๆอมันมีอีกหนึ่งความ
00:12:10 → 00:12:12 เชื่อคุณหมอครับที่เราก็จะได้ยินกันมา
00:12:12 → 00:12:16 อย่างยาวนานหลายสิบปีจนกระทั่งณปัจจุบัน
00:12:16 → 00:12:19 ก็ยังมีคนพูดอยู่ว่าถ้าเราไปเจออากาศเย็น
00:12:19 → 00:12:22 ๆการทำให้ร่างกายอบอุ่นเนี่ยก็เป็นอีก
00:12:22 → 00:12:24 หนึ่งวิธีการที่พอจะช่วยลดความเสี่ยงต่าง
00:12:24 → 00:12:27 ๆได้หนึ่งในวิธีที่จะช่วยเพิ่มความอบอุ่น
00:12:27 → 00:12:30 ก็คือการหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อ่าเขว่า
00:12:30 → 00:12:34 เขาว่าแก้หนาวมันยังคือคือเค้าเรียกว่า
00:12:34 → 00:12:37 วอลุมดีกรีสูงเออไปช่วยในร่างกายช่วยได้
00:12:37 → 00:12:40 มยคะมันมันมันจะร้อนๆมันจะทำให้ร่างกายอบ
00:12:40 → 00:12:45 อุ่นมันมันคำที่น่ากลัวเชื่อที่อันนี้
00:12:45 → 00:12:49 ต้องแบบว่าเป็นเป็นความเชื่อที่ผิดเลยนะ
00:12:49 → 00:12:52 ครับแล้วก็อันตลายมากๆบางทีเราจะเราจะได้
00:12:52 → 00:12:55 กินข่าวทุกปีเลยนะใช่ครับ
00:12:55 → 00:12:59 เอ่อมีคนอายุเยอะหรือแม้แต่คนแบบบางมีคน
00:12:59 → 00:13:01 ร่างกายแข็งแรงนี่แหละครับคนใทำงานหรือ
00:13:01 → 00:13:04 หนุ่มสาวเนี่ยดื่มแอลกอฮอล์แล้วก็เสีย
00:13:04 → 00:13:06 ชีวิตในช่วงเช้าหลังจากที่แบบไปอยู่ในที่
00:13:06 → 00:13:09 เย็นเย็นมากๆเพราะว่าเวลาเราดื่ม
00:13:09 → 00:13:12 แอลกอฮอล์เนี่ยทำให้ร่างกายเราร้อนใช่
00:13:12 → 00:13:16 มั้ยครับฮะใช่มพอร้องปุ๊บเป็นไงครับล้าง
00:13:16 → 00:13:19 หลอดเลือดเราขยายตัวอืพอหลอดเลือดเราขยาย
00:13:19 → 00:13:23 ตัวปุ๊บเราจะสไปเจออากาศเย็นนะคะเราจะสูด
00:13:23 → 00:13:25 เสียความร้อนร่างกายแต่ความร้อนของเราจะ
00:13:25 → 00:13:27 ลดลงในที่สุดร่างกายของเราพอความร้อนไป
00:13:27 → 00:13:30 ปุ๊บอร่างกายเราจะจะสร้างความร้อนขึ้นไม่
00:13:30 → 00:13:32 ทันนะครับแล้วเราร่างกายเราก็จะเย็นพอ
00:13:32 → 00:13:35 เย็นปุ๊บอันนี้ทำให้แบบเกิดการเลือดไหล
00:13:35 → 00:13:37 เวียนไปสมองไม่ดีเลือดไหลเวียนไปที่หัวใจ
00:13:37 → 00:13:39 ไม่ดีก็คนไข้เสียชีวิตได้อันนี้เราเจอ
00:13:39 → 00:13:42 ข่าวทุกปีทุกปีครับทุกปีเลยอก็ยังมีตอน
00:13:43 → 00:13:45 แรกเราทานแล้วเราจะรู้สึกสบายแต่ทันมากๆ
00:13:45 → 00:13:49 จนเมาหมดสติบางทีก็พอหมดสติปุ๊บร่างกาย
00:13:49 → 00:13:51 ไม่ไม่ไม่ไม่ได้มีใครมาพมพ่ายเราก็ให้
00:13:51 → 00:13:55 เกิดความอบอุ่นในอากาศที่หนาวเย็นมากๆอาจ
00:13:55 → 00:13:58 ทำให้เสียชีวิตได้ครับโอ้โหคือถ้าฟังคุณ
00:13:58 → 00:14:02 หมอบอกมาก็คือมันจะอันตรายตรงที่ว่าถ้า
00:14:02 → 00:14:05 เราดื่มจนเมาหมดสติก็แสดงว่าก็พอที่จะ
00:14:05 → 00:14:09 ดื่มพอประมาณเป็นกระสัยได้ไม่ฮะคุณ
00:14:09 → 00:14:11 หมอยัง
00:14:11 → 00:14:15 มีเปิดช่องไว้เปิดช่องไว้นิดหน่อยสติเรา
00:14:15 → 00:14:18 ยังมีความสามารถในการทำมาร่างกายให้เราอบ
00:14:18 → 00:14:21 อุ่นปองตัวไปอยู่ในห้องที่อบอุ่นหรือว่า
00:14:21 → 00:14:25 ใส่เสืพอันนี้ก็ระมัดระวังก็ก็ก็ก็อาจจะ
00:14:25 → 00:14:28 มีความเสี่ยงน้อยกว่าการดื่มจนเมามาจน
00:14:28 → 00:14:31 หนักแล้วหมดสติไปแต่แอลกอฮอล์เราก็ไม่นนำ
00:14:31 → 00:14:33 อยู่แล้วนะใช่อันอันนี้มีประเด็นนึงที่
00:14:33 → 00:14:35 คุณหมอบอกว่าไปอยู่ในห้องที่อบอุ่นแสดง
00:14:35 → 00:14:40 ว่าถ้าสัมผัสกับลมยะเยือกแล้วก็ไปตรงกัน
00:14:40 → 00:14:43 ข้ามเลยกับภายในเราที่ที่แอลกอฮอล์เยอะ
00:14:43 → 00:14:46 ไม่ได้เลยใช่มั้ยคะอย่างงั้นตรงกันข้าม
00:14:46 → 00:14:49 คอนทัสมากอืเราก็จะสูญเสียความร้อนเยอะ
00:14:49 → 00:14:54 มากแล้วบางทีเอ่อพี่ดื่มแอลกอฮอล์เนี่ยก็
00:14:54 → 00:14:56 จะมีการขับทายปัสสาวะบ่อยเพราะฉะนั้นก็
00:14:56 → 00:15:01 เราก็สูญเสียน้ำอีก่างกายก็จะก็มีปัญหา
00:15:01 → 00:15:03 หลายอย่างครับความดันก็จะตกในที่สุดก็อาจ
00:15:03 → 00:15:07 จะช็อกเสียชีวิตไปโอครับเอ่อคุณหมอครับ
00:15:07 → 00:15:11 เอ่อข้อมูลที่ถูกเผยแพร่กันในโลกโซเชียล
00:15:11 → 00:15:14 อย่างหนึ่งที่เราเกริ่นไว้ก่อนที่จะคุย
00:15:14 → 00:15:18 กับคุณหมอก็คือในช่วงฤดูหนาวเนี่ยเขาบอก
00:15:18 → 00:15:21 ว่ามักจะเป็นคนที่เอ้อมีมีคนที่ป่วยเป็น
00:15:21 → 00:15:24 อัมพฤกษ์ค่อนข้างมากตรงนี้มันมันเกี่ยว
00:15:24 → 00:15:26 ข้องหรือว่ามันมีความสัมพันธ์กับเรื่อง
00:15:26 → 00:15:29 ของอากาศเย็นขนาดไหนหรือว่ามันจะเป็นได้
00:15:29 → 00:15:32 เฉพาะกับกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว
00:15:32 → 00:15:37 ฮะคุณหมอฮะอ๋อก็คืออากาศเย็นเนี่ยอย่าง
00:15:37 → 00:15:40 ที่บอกไปก็คือต้องเย็นเย็นแบบเย็นมากๆเลย
00:15:40 → 00:15:43 ครับก็มีอย่างที่บอกไปมีการศึกษาว่าแบบ
00:15:43 → 00:15:45 เวลาที่เย็นมากๆเนี่ยก็จะเพิ่มความเสี่ยง
00:15:45 → 00:15:48 แต่ว่าความเสี่ยงเหล่าเนี้ยก็จะเพิ่มใน
00:15:48 → 00:15:51 กลุ่มคนที่มีโรคประจำตัวคือหรือกลุ่มคน
00:15:51 → 00:15:53 ที่อายุเยอะๆมีโรคประจำตัวอย่างที่กล่าว
00:15:54 → 00:15:57 ไปว่ามีเบาหวานความดันมันพวกเยนะโดยเฉพาะ
00:15:57 → 00:16:00 ความดันเนี่ยยพวกเนี้ยเวลาเย็นมากๆปุ๊บ
00:16:00 → 00:16:04 กระตุ้นทำให้ความดลหิตสูงก็ทำให้เกิดโรค
00:16:04 → 00:16:07 หลอดเลือสมองได้เพราะฉะนั้นก็กลุ่มคนไข้
00:16:07 → 00:16:12 ที่มีโรคยำตัวแบบหลักๆพวกความดันเบาหวาน
00:16:12 → 00:16:15 พวกเนะครับต้องระมัดระวังแบบพยายามดูแล
00:16:15 → 00:16:19 ให้ดีกินอาหารหรือว่ารับประทานยาปฏิบัติ
00:16:19 → 00:16:22 ตัวให้ให้แบบค่อนข้างแข็งแรงควบคุมระดับ
00:16:23 → 00:16:25 เรื่องของความดันให้ดีน้ำตาลให้ดีไขมัน
00:16:25 → 00:16:29 ให้ปกติก็ก็จะช่วยลดได้แต่ถ้าเกิดเราละ
00:16:29 → 00:16:33 เลยไม่ไปตรวจไม่ไปรับประทานยาตามที่เอ่อ
00:16:33 → 00:16:37 คุณหมอแนะนำก็อาจจะเกิดความเสี่ยงได้พูด
00:16:37 → 00:16:39 ถึงเรื่องของแอลกอฮอล์นี่คือมันไปสร้าง
00:16:39 → 00:16:43 ความร้อนทำให้หลอดเลดขยายตัวแล้วก็เอ่อ
00:16:43 → 00:16:46 ต่อต้านกับใช่ค่ะทีนี้มาถึงอาหารอาหาร
00:16:47 → 00:16:50 เครื่องดื่มเช่นไอศครีมน้ำแข็งเงี้ยค่ะ
00:16:50 → 00:16:53 บางคนกินไอศครีมในหน้าหนาวเนี่ยก็ชอบนะคะ
00:16:53 → 00:16:58 ผู้สงอายุก็ทานได้มผู้ผู้ที่มีโรคประจำ
00:16:58 → 00:17:01 ตัวใช่เไปเที่ยวเก็อยากทานน้ำขงน้ำแข็ง
00:17:02 → 00:17:05 อะไรอย่างเงี้ยอ๋อห้ามมั้ยคะคุณหมอคือ
00:17:05 → 00:17:07 จริงๆเวลาเราทานเราเราคงไม่ได้ทานเยอะมาก
00:17:07 → 00:17:11 มาย่ะครับเราก็ได้ระดับนึงแบบพอหอมปากหอม
00:17:11 → 00:17:14 คอหรือรับประทานแบระดับนึงโดยปกติเราก็จะ
00:17:14 → 00:17:17 ไม่ได้ทานเยอะมากอันนี้ความความเสี่ยง
00:17:17 → 00:17:19 น้อยแทบจะไม่มีผลอะไรเพราะว่าก็ทานปลา
00:17:19 → 00:17:23 เดี๋ยวปลาดาวก็แป๊บเดียวก็พวกนี้ก็ก็
00:17:23 → 00:17:25 อย่างสมมุติท่านไอศครีมก็ละลายเข้าไปใน
00:17:25 → 00:17:29 ป่าเมันก็มันก็ปรับอุณหภูมิเเวลาผ่านเดิน
00:17:29 → 00:17:33 อาหารปุ๊บก็เก็จะปรับละลายไปปรับเข้ากับ
00:17:33 → 00:17:36 อุณหภูมิของร่างกายไปเราก็าจะสูดเสียความ
00:17:36 → 00:17:38 ร้อนนิดหน่อยแต่ว่ามันไม่ได้เยอะมากมาย
00:17:38 → 00:17:42 แล้วก็ส่วนใหญ่เราก็มักจะเอ่อใส่เสื้อผ้า
00:17:42 → 00:17:44 ที่อบอุ่นอยู่แล้วนะครับการรับประทานนนี่
00:17:44 → 00:17:47 ๆดื่มน้ำเย็นอะไรเงี้ยไม่มีปัญหาครับผมก็
00:17:47 → 00:17:50 ยังชอบทานเลยเวลาอากาศเย็นใช่แปลกนะคะ
00:17:50 → 00:17:53 เวลาทานอากาศเย็นแล้วต้องทานไอศกรีมเออ
00:17:53 → 00:17:57 แปลกชอบท้าายยมันเอเออมันเป็นอย่างงี้มัน
00:17:57 → 00:17:59 เป็นเพราะฉะนั้นไม่เป็นไรมันคนละเอ่อ
00:17:59 → 00:18:01 เรื่องของเส้นประสาทเรื่องของหลอดเลือด
00:18:01 → 00:18:04 มันไม่ใช่แอลกอฮอล์แบบนั้นมันก็คือลงไปใน
00:18:04 → 00:18:07 ระบบของหลอดอาหารของเราทานกันพอหอมปากหอม
00:18:07 → 00:18:10 คอใช่ๆๆคุณหมอครับแล้วอย่างช่วงปลายปีแบบ
00:18:10 → 00:18:13 นี้ที่หลายคนก็วางแผนจะเดินทางไปท่อง
00:18:13 → 00:18:16 เที่ยวเ่อเราก็จะเห็นกลุ่มผู้สูงอายุที่
00:18:16 → 00:18:18 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกลุ่มเสี่ยงที่ต้อง
00:18:18 → 00:18:22 เฝ้าเตือนกันควรจะต้องแนะนำยังไงดีครับ
00:18:22 → 00:18:25 ถ้าถ้าหากอยากจะไปสัมผัสกับอากาศเย็นๆโดย
00:18:25 → 00:18:28 เฉพาะเลขตัวเดียวใช่บนยอดดอยอะไรอย่าง
00:18:28 → 00:18:31 เงี้คุณหมฮะมันจะมีความเสี่ยงมากน้อยขนาด
00:18:31 → 00:18:33 ไหนหรือว่าเราพอจะมีวิธีการในการที่จะลด
00:18:33 → 00:18:36 ความเสี่ยงสำหรับคนกลุ่มนี้ที่อยากจะไป
00:18:36 → 00:18:38 เที่ยวไปสัมผัสกับอากาศเย็นๆอากาศหนาวๆฮะ
00:18:39 → 00:18:44 คุณหมอฮะอือันนี้ก็ก็ต้องบอกว่าเราผู้คน
00:18:44 → 00:18:46 ที่อย่างถ้าเกิดเป็นผู้สูงอายุที่อยากจะ
00:18:46 → 00:18:49 ไปท่องเที่ยวอากาศเเงี้ยอยากให้ประเมิน
00:18:49 → 00:18:52 ตัวเองก่อนว่าเราแข็งแรงระดับไหนเรามีโรค
00:18:52 → 00:18:55 ประจำตัวมากน้อยแค่ไหนเราควบคุมดีหรือยัง
00:18:55 → 00:18:59 ครับแล้วเราก็ดูความว่าเราทนความหนาวได้
00:18:59 → 00:19:02 แค่ไหนนะครับคือถ้าเกิดเราไปเที่ยวจนทน
00:19:02 → 00:19:04 แล้วทนความหนาวแล้วจนทรมานงเงี้ยไม่ไม่
00:19:04 → 00:19:07 ไม่ดีะนะครับครับ้าเิดเราไปเที่ยวแล้ว
00:19:07 → 00:19:09 อากาศเย็นๆกำลังสบายๆอันเนี้ยมันทำให้เรา
00:19:10 → 00:19:14 แบบกระชุ่มกระชวยนะฮะแล้วก็ในส่วนของ
00:19:14 → 00:19:16 เรื่องของการเตรียมความพร้อมอย่างอื่น
00:19:16 → 00:19:19 หล่ะก็คือเสื้อผ้านี่เป็นสิ่งสำคัญที่จะ
00:19:19 → 00:19:23 ต้องแบบเตรียมให้อบอุ่นหนาๆอาจจะมีผ้าแัน
00:19:23 → 00:19:26 คอถ้าเกิดหนาวมากเราจะต้องมีถุงมือหรือ
00:19:26 → 00:19:29 ถุงเท้าหรือว่ามีหมวกหรือว่าว่ามีตัวที่
00:19:29 → 00:19:32 ครอบตรงหูให้ความอุดอุ่นอย่างเงี้ยครับ
00:19:32 → 00:19:35 อันนี้ก็จะช่วยช่วยได้นะครับก็ก็จะช่วย
00:19:35 → 00:19:38 แบบว่าลดเรื่องของการสูญเสียความร้อนของ
00:19:38 → 00:19:41 ร่างกายไปดื่มน้ำเยอะๆนะครับแล้วก็รับ
00:19:41 → 00:19:43 ประทานอาหารให้ดีพักผ่อนให้เพียงพอก็
00:19:44 → 00:19:46 เหมือนเราทำตัวปกติเพียงแต่ว่าพอเราเรา
00:19:46 → 00:19:49 เจออาการหนาวเนี่ยเราต้องคิดถึงว่าหลอด
00:19:49 → 00:19:51 เลือดเราเนี่ยมันอาจจะหดตัวไปแล้วก็อาจจะ
00:19:51 → 00:19:55 เพิ่มความึกต่างๆอาจจะเกิดภาวะอื่นที่มี
00:19:55 → 00:19:58 ความเสี่ยงในมากกว่าตอนที่เราอยู่ในสภาวะ
00:19:58 → 00:20:01 สตินะครับเพราะฉะนั้นก็ถ้ามีโรคจำตัวเ
00:20:01 → 00:20:03 เนี่ยยต้องดูแลให้ดีรับประทานยาอย่าลืม
00:20:03 → 00:20:07 รับประทานยาไปเใจให้สม่ำเสมอครับผมสใไป
00:20:07 → 00:20:09 เที่ยวได้มั้ยไปเที่ยวได้แต่เราต้องมี
00:20:09 → 00:20:12 ความไปเที่ยวได้ครับผมระวังผมสนใจตรงที่
00:20:12 → 00:20:14 คุณหมอบอกว่าให้ประเมินตัวเองก่อนไป
00:20:15 → 00:20:18 เที่ยวว่าสามารถทนความหนาวเย็นได้ขนาดไหน
00:20:18 → 00:20:20 เราเรามีวิธีการในการที่จะประเมินตัวเอง
00:20:20 → 00:20:24 ได้มั้ฮะว่าคุณหมอแนะนำวิธีการยังไงเรา
00:20:24 → 00:20:27 เข้าไปในห้องนอนเปิดแอร์ัก 1920 องศอย่าง
00:20:27 → 00:20:29 งี้หรือว่ายังไงดีครับคุณหมอฮะ
00:20:29 → 00:20:33 คือคือคนคนเราเนี่ยคือโดยปกติถ้าเกิดตัว
00:20:33 → 00:20:35 เลขต่ำกว่า 0 เนี่ยยก็ไม่ค่อยสบายแล้วนะ
00:20:35 → 00:20:38 ครับใช่ค่ะตัวเลขต่ำลงไปตัวเดียวเนี่ยคือ
00:20:38 → 00:20:41 ถ้าเกิดเรารู้สึกว่าถ้าเกิดเราขึ้นไปบน
00:20:41 → 00:20:43 ดอยแล้วเรารู้สึกว่าเราต้องหนาวสั่นแล้ว
00:20:44 → 00:20:48 ถึงแม้เราจะใส่เสื้อผ้าไม่ดีแล้วใช่เราจะ
00:20:48 → 00:20:50 ต้องหาที่ที่ทำให้อดอุ่นอย่างเงี้ยเรา
00:20:50 → 00:20:52 เริ่มสูญเสียความร้อนไปแล้วนะครับเพราะ
00:20:52 → 00:20:55 ฉะนั้นก็แบบเราอาจจะดูแว่าเราคือเราอยู่
00:20:55 → 00:20:58 แล้วไม่สบายเริ่มมีหนาวสั่นการหนาวสั่น
00:20:58 → 00:21:01 เนี่ยอเป็นการที่เนว่าตอนนี้ความร้อนเรา
00:21:01 → 00:21:04 สูนเสียไปเยอะนะแล้วเวลาที่เราสั่นเนี่ย
00:21:04 → 00:21:07 มันเป็นกลไกแบบนึ่งที่ร่างกายเนี่ยพยายาม
00:21:07 → 00:21:09 จะสร้างความร้อนขึ้นมาชดชือนะครับอันนี้
00:21:09 → 00:21:11 แสดงว่าเราสูญเสียความร้อนมากเกินไปหรือ
00:21:11 → 00:21:15 บางทีฟันกระทบกันเอ้เคยเป็นใช่มั้ยฮะเคย
00:21:15 → 00:21:17 ค่ะอ่าอันเนี้ยมันเหมือนกับว่าเป็นกลไก
00:21:17 → 00:21:20 ที่ร่างกายเยกระตุ้นให้เกิดการสร้างความ
00:21:20 → 00:21:22 ร้อนเกิดขึ้นแต่เหล่านี้มันเกิดขึ้นได้
00:21:22 → 00:21:25 ได้ไม่เยอะไม่เยอะอ่าไม่ไม่เหมือนกับเรา
00:21:25 → 00:21:27 อยู่ในที่อุ่นๆหรือว่าอยู่กับอีเตอร์หรือ
00:21:27 → 00:21:31 ว่าสูงสุดานานๆนะครับป้องกันการสูญเสีย
00:21:31 → 00:21:33 ความร้อนแบบด้วยวิธีต่างๆเนี่ยอันนี้จะจะ
00:21:33 → 00:21:37 ช่วยมากกว่าอืก็ต้องระมัดระวังประเมินตัว
00:21:37 → 00:21:39 เองให้ดีนะใช่ๆผมว่าทุกคนน่ะประเมินตัว
00:21:39 → 00:21:43 เองได้ว่าทนความหนาวได้แค่ไหนครับผมคุณ
00:21:43 → 00:21:46 หมอครับตอนนี้เราเริ่มมีคำถามจากทางบ้าน
00:21:46 → 00:21:48 เนี่ยถามกันมาละแล้วก็ส่วนใหญ่ก็จะเป็น
00:21:48 → 00:21:53 กลุ่มคนที่มีอาการมีโรคอย่างที่คุณหมอได้
00:21:53 → 00:21:55 กล่าวมาตั้งแต่ช่วงต้นเลยเดี๋ยวเบจะไป
00:21:55 → 00:21:57 เริ่มกันที่ทาง Facebook Live กันก่อนนะ
00:21:57 → 00:22:00 ครับ FM 100.5 นะครับถ้าหากใครมีคำถาม
00:22:00 → 00:22:03 เพิ่มเติมก็สามารถส่งเข้ามาได้อ่าคุณพี่
00:22:03 → 00:22:05 ท่านนี้ถามมาว่าตอนนี้ผมมีโรคความดัน
00:22:05 → 00:22:08 โลหิตสูงบวกกับเส้นเลือดในสมองก็มีปัญหา
00:22:08 → 00:22:12 ด้วยขณะนี้รับประทานยาเป็นประจำความ
00:22:12 → 00:22:15 เสี่ยงของคนที่เป็นกลุ่มโรคเหล่านี้มี
00:22:15 → 00:22:18 อะไรบ้างครับคุณหมอครับในช่วงหน้าหนาวแบบ
00:22:18 → 00:22:22 นี้ก็ได้ฮคุณหมอฮะค่ะก็ถ้าเกิดเรามี
00:22:22 → 00:22:25 เรื่องโรคหลอดเลือสมองอยู่แล้วความดัน
00:22:25 → 00:22:27 อยู่แล้วอันนี้ก็ต้องบอกว่าก็ต้องทายาให้
00:22:27 → 00:22:30 สม่ำเสมอก็ต้องประเมินเกี่ยวกับเรื่องของ
00:22:30 → 00:22:32 ความดันคอยคอยหมั่นวัดอยู่เรื่อยๆนะครับ
00:22:32 → 00:22:36 ก็จริงๆก็ความดันที่เหมาะสมเนี่ยถ้าเกิด
00:22:36 → 00:22:38 เราอาจจะต้องดูถึงอายุบางทีก็อาจจะแบบ
00:22:38 → 00:22:42 อนุรมณ์ได้ถึงแบบ 130 นะครับตัวบนความดัน
00:22:42 → 00:22:46 ตัวบน 130 ให้ดีก็ 120 อาจจะบางครั้งอาจ
00:22:46 → 00:22:48 จะถึงไป 140 แต่ว่าก็อยากให้อยู่ในช่วง
00:22:48 → 00:22:52 ที่ไม่เกินช่วง 130 - 120 เครับนะถ้า
00:22:52 → 00:22:55 เกิดว่าเรายังปับเรื่องของความดันบางที
00:22:55 → 00:22:59 เราอาจจะแบบบางที 150 160 มเงี้ยจให้ไป
00:22:59 → 00:23:01 พบคุณหมอแล้วก็ตับเรื่องของยาความดันนะ
00:23:01 → 00:23:04 ครับคุณหมอคะ 130 120 เนี่ยดูเหมือนปกติ
00:23:04 → 00:23:09 นะคะมันใช่คือต้องอันนี้ถือว่ากินยาแล้ว
00:23:09 → 00:23:12 คามดันให้ได้ประมาณนี้ประต่ำออโอก็คือ
00:23:12 → 00:23:14 ต้องให้อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องระมัดระวังอย่า
00:23:14 → 00:23:17 มากนะควดันเพราะว่าถ้าเกิดมากกว่านี้
00:23:17 → 00:23:20 สมมุติว่าอ่าปรับเป็น 150 เกิดอยู่ดีๆจะ
00:23:20 → 00:23:23 ไปเที่ยวอ๋ออากาศเย็นๆแล้วเป็นไงครับโอโห
00:23:23 → 00:23:26 ใช่ๆปสุ่มเสียงมากเลยนะครับคุณหมอครับ
00:23:26 → 00:23:30 เดี๋ยวปี๊ดเกินอืครับคือทำตัวเองให้ให้
00:23:30 → 00:23:33 ให้ปกติที่สุดอ่ะเนาะอกดเอาไว้อ่ะอเอ่อ
00:23:33 → 00:23:37 อีกหนึคำถามนะครับคุณหมอครับเอ่อถามมาว่า
00:23:37 → 00:23:40 ตอนนี้เนี่ยเ่าท่านนี้อายุ 76 ปีครับมี
00:23:40 → 00:23:44 โรคความดันโลหิตสูงแล้วพอเจออากาศเย็น
00:23:44 → 00:23:47 เย็นมากๆเนี่ยมันจะมีอาการปวดศีรษะแบบปวด
00:23:47 → 00:23:50 จี๊ดขึ้นเลยอาการแบบปวดขึ้นสมองเลยถ้า
00:23:50 → 00:23:53 เกิดอาการแบบนี้คนที่อยู่ในช่วงกลุ่มอายุ
00:23:53 → 00:23:57 แบบนี้มีโรคประจำตัวอย่างโรคความดาโลหิต
00:23:57 → 00:24:00 สูงเราควรที่จะสองใช่ปวดขึ้นสมองแบบปวด
00:24:00 → 00:24:03 จี๊ดเลยฮะควรจะต้องรักษาตัวเองดูแลตัวเอง
00:24:03 → 00:24:07 แบบไหนดีฮะก่อนอื่นเลยถ้าสมมุติเรารู้ว่า
00:24:07 → 00:24:09 เราเป็นแบบนี้ทุกครั้งแล้วเราก็ควรจะต้อง
00:24:09 → 00:24:12 หลีกเลี่ยงนะการหลีกเลี่ยงได้ดีที่สุด
00:24:12 → 00:24:14 ครับนะฮะทีนี้เราต้องเตรียมความพร้อม
00:24:14 → 00:24:17 อย่างที่บอกไปต้องเตรียมความพร้อมอย่าง
00:24:17 → 00:24:20 ตอนเนี้ยเริ่มอากาศเย็นๆหรือว่าเราจะไป
00:24:20 → 00:24:23 เที่ยวพุเที่ยวแบบบนดอยไปดอยทนนหรืออะไร
00:24:23 → 00:24:27 อย่างเงี้ยก็ต้องแบบเอ่อเตรียมป้องกัน
00:24:27 → 00:24:30 เรื่องของความหนาวเย็นใส่หมวกค่ะอ่าคุม
00:24:30 → 00:24:33 หรือว่ามีเอ่อตัวของครอบหูให้ความอบอุ่น
00:24:33 → 00:24:36 ใส่ผ้าพันคออย่างเงี้นะครับครับปจจุบัน
00:24:36 → 00:24:38 เราใส่แมสนิยมใส่แมสความจริงแมสเนี่ยดี
00:24:38 → 00:24:41 มากช่วได้ใช่ช่วยช่วยให้เราอุ่นมากขึ้น
00:24:41 → 00:24:45 บริเวลมปะทะใช่ค่ะนะครับลมหายใจของเรา
00:24:45 → 00:24:47 เนี่ยมันก็มีความอบอุ่นขึ้นมาทำให้แบบเรา
00:24:47 → 00:24:50 แบบสูญเสียความร้อนลดน้อยลงด้วยนะครับอัน
00:24:50 → 00:24:53 นี้ก็เป็นข้อดีนอกจากป้องกันโรคแล้วเนาะ
00:24:53 → 00:24:55 ป้องกันเรื่องของการติดเชื้อโควิดป้องกัน
00:24:55 → 00:24:57 การแพร่กระจายเชื้อแล้วก็ยังให้ความอบ
00:24:57 → 00:24:59 อุ่นกับเราได้ด้วยนะครับเออคุณที่ถามมา
00:24:59 → 00:25:02 ต้องก็อย่างที่บอกไปคือบางทีปวดหัวมากๆ
00:25:02 → 00:25:04 เนี่ยหรือว่าปวดเงี้ยต้องไปดูนะครับว่า
00:25:04 → 00:25:07 เอ๊ะตอนนั้นความดันเราขึ้นหรือเปล่า
00:25:07 → 00:25:10 อืเพราะว่าอาการปวดหัวก็ปวดอย่างงี้
00:25:10 → 00:25:12 เหมือนอาการปวดหัวเนี่ยเกิดจากความดันได้
00:25:12 → 00:25:15 เหมือนกันบางคนปวดไทอยบางคนปวดทั้งศีรษะ
00:25:15 → 00:25:19 เลยเก็ต้องไปดูว่าแต่ทำนั้นน่ะความดันเรา
00:25:19 → 00:25:22 เยอะหรือเปล่าเค้าเรียกแบบจี๊ดเลยค่ะคุณ
00:25:22 → 00:25:25 ผู้ฟังที่บอกเบอกว่าแบบจี๊ดก็ก็ก็แสดงว่า
00:25:25 → 00:25:27 อาจจะหนาวมากก็ก็ต้องระมัดระวังความดัน
00:25:27 → 00:25:31 ตอนนั้นอาจจะจะอาจจะอาจจะเยอะกว่าปกติิ
00:25:31 → 00:25:35 อาจจะพีดๆหนักๆหัวดูไม่สบายดูแบบอาจจะมี
00:25:35 → 00:25:38 ความมึนมึอะไรอย่างเงี้ยก็ก็อาจจะต้องคุณ
00:25:39 → 00:25:41 หมอคมีอีกประเด็นถ้าเราถ้าเราทานน้ำอุ่น
00:25:41 → 00:25:44 เข้าไปช่วยไหลเวียนอะไรสักอย่างนึงได้แมง
00:25:44 → 00:25:48 มั้ยคะได้ดีครับการการทานน้ำอุ่นๆการทำ
00:25:48 → 00:25:52 การรับประทานการดื่มชาอุ่นๆอะไรเงี้ยนะ
00:25:52 → 00:25:55 ครับเวลาที่เราไปแบบในที่ร้อหรือทานกาแฟ
00:25:55 → 00:25:59 อุ่นๆร้อนๆอย่างเงี้ยก็จะช่วยสูลดการสูญ
00:25:59 → 00:26:00 เสียความร้อนได้เพราะว่าเราไปเหมือนไป
00:26:00 → 00:26:03 เพิ่มความร้อนให้กับให้กับร่างกายก็จะ
00:26:03 → 00:26:06 ปกติน้ำไปด้วยน่าจะดีเออใช่ๆเวลาไปเที่ยว
00:26:06 → 00:26:09 เนาะเอ่ออีกหนึ่งคำถามนะครับคุณหมอครับ
00:26:10 → 00:26:15 กลุ่มโรคประจำตัวอย่างเช่นความดันไขมัน
00:26:15 → 00:26:18 เบาหวานกลุ่มโลกเหล่านี้ตัวไหนเนี่ยมี
00:26:19 → 00:26:21 ความอันตรายที่สุดแล้วก็วิธีการดูแลรักษา
00:26:21 → 00:26:24 ตัวเองในกลุ่มเนี้ยอันไหนดูแลตัวเองง่าย
00:26:24 → 00:26:28 ที่สุดครับคุณหมอค่ะอ๋อจริงๆถ้าเกิดพูด
00:26:28 → 00:26:32 ถึงความรุนแรงที่สุดนี่ก็อืมบอกยากนะครับ
00:26:32 → 00:26:35 ปกติก็ตีคู่ขี้กันมาแต่หลังน่าจะเป็นเบา
00:26:36 → 00:26:38 หวานกับความดันนี่แหละครับที่เขาเป็นเป็น
00:26:38 → 00:26:41 เป็นปัจจัยเสี่ยงที่น่ากลัวนะครับเพราะ
00:26:41 → 00:26:46 ว่าอย่างความดันเนี่ยเวลาเกิดเคความดัน
00:26:46 → 00:26:49 สูงมากๆไปเนี่ยก็หลอดเลือกสมองแตกได้หรือ
00:26:49 → 00:26:52 ทำให้แบบเกิดเรื่องของอำพุนวภาได้เลยนะ
00:26:52 → 00:26:54 อันนี้ก็ก็จะน่ากลัวในในส่วนของเขาอยู่
00:26:54 → 00:26:57 แล้วอส่วนเบาหวานเนี่ยเนื่องจากเบาหวาน
00:26:57 → 00:26:59 เนี่ยเป็นโรคที่เป็นโรคที่บอกว่าต้อง
00:26:59 → 00:27:02 เรื้อรังเหมือนกันแล้วก็ทำลายหลอดเลือด
00:27:02 → 00:27:05 ทำลายความยึดยืนของผนังหลอดเลือดนะครับ
00:27:05 → 00:27:11 แล้วก็ลามไปถึงแบบเช่นลงไปไตก็ไเสื่อมคือ
00:27:11 → 00:27:14 น้ำตระดับน้ำตาลเยอะมากๆเนี่ยการทำงานของ
00:27:14 → 00:27:17 อวยวะภายในร่างกายมันจะรวนหมดนะครับมันก็
00:27:17 → 00:27:21 จะเสื่อมหมดทำงานหนักมากไปเบาหวานมากน้ำ
00:27:21 → 00:27:24 ตาลมากไปไปเสื่อมเขทำงานมากเขต้องพยายาม
00:27:24 → 00:27:28 ขับเรื่องของน้ำตาลที่มันมากเกินไปก็เสเซ
00:27:28 → 00:27:31 ก็พวกเซลล์ของไตอะไรต่างๆก็จะสวยเสียการ
00:27:31 → 00:27:35 งานไตก็อาจจะไตวายได้อือหรือเบาหวานขึ้น
00:27:35 → 00:27:39 ตาในความบอกว่าเบาหวานที่ตาก็คือพอน้ำตาล
00:27:39 → 00:27:42 เยอะๆเขาไปทำลายผนังหลอดเลือดต่างๆรวมถึง
00:27:42 → 00:27:45 ที่ตาด้วยก็อาจจะทำให้ตาเนี่ยเรื่องของ
00:27:45 → 00:27:48 การมองเห็นเนี่ยแย่ลงเลือดไปเลี้ยงเรื่อง
00:27:48 → 00:27:53 ของตัวของเอ่อเลนิหรือว่าตัวของอายวะที่
00:27:53 → 00:27:56 เกี่ยวกับันมองเห็นเนี่ยก็จะแย่ลงเลือด
00:27:56 → 00:27:58 ไหลเย็นน้อยลง
00:27:58 → 00:28:01 นะครับเพราะฉะนั้นอันตรายเท่าเทียมกันเลย
00:28:01 → 00:28:04 ก็อันตรายกันหมดแล้วไปทำอย่างบอกว่าอย่าง
00:28:04 → 00:28:07 ที่บอกไปว่าเทำลายหลอดเลือดนหมดทั้งหัวใจ
00:28:08 → 00:28:11 แล้วก็ในสมองด้วยออืก็จะเกิดความปุขะของ
00:28:11 → 00:28:15 หลอดเลือดในสมองแล้วเกิดมีไปเจอความเย็นๆ
00:28:15 → 00:28:19 ปุ๊บหลอดเลือดในสมองเริ่มแบบมีตีดมีกุกขา
00:28:19 → 00:28:23 เกิดเจอเย็นมากๆหลอดเลือดหดเล็กลงเกิด
00:28:23 → 00:28:26 เลือดไหลเวียนไม่ดีเกิดเป็นขาดเลือดอาพึน
00:28:26 → 00:28:30 อาพาได้อีกอือืก็เรียกว่าไม่ว่าจะเป็น
00:28:30 → 00:28:34 อะไรก็แล้วแต่ความดันไขมันเบาหวานอันตราย
00:28:34 → 00:28:37 ทั้งสิ้นอไม่เป็นก็จะดีที่สุดนะครับผมถ้า
00:28:37 → 00:28:40 เป็นก็ต้องโอ้โหมาคอยภวะวงศในการที่จะดู
00:28:40 → 00:28:42 แลตัวเองทานยาให้มันรงเวลเวลาอีกใช่ครับ
00:28:42 → 00:28:46 ผมอีกหนึ่งคำถามคุณหมอครับท่านนี้คุณผู้
00:28:46 → 00:28:48 ฟังท่านนี้เนี่ยเอ่ออาศัยอยู่ที่เกาหลี
00:28:48 → 00:28:51 เฮ้ฟังแฟนรายการิดลบเลยอ่ะเกาหลีญี่ปุ่น
00:28:51 → 00:28:54 ตอนนี้หนาวมากติดลบมา 3 สัปดาห์แล้วครับ
00:28:54 → 00:28:57 วันไหนที่รู้สึกว่าหนาวมากๆเส้นเลือดฝอย
00:28:57 → 00:29:00 ที่โพงมแตกเลือดจะออกเป็นประจำแบบนี้ถือ
00:29:00 → 00:29:03 ว่าเป็นเรื่องปกติมครับหรือว่ามันมันขึ้น
00:29:04 → 00:29:07 อยู่กับสภาวะแต่ความพร้อมของแต่แต่ละ
00:29:07 → 00:29:09 บุคคลฮะคุณหมอฮะหรือว่ามันเกิดขึ้นได้กับ
00:29:09 → 00:29:12 ทุกคนฮะสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนเวลาที่
00:29:12 → 00:29:15 อาการเย็นมากๆเนี่ยความชุ่มชื้นต่างๆคือ
00:29:15 → 00:29:18 อากาศพออากาศเย็นเนี่ยความก็ก็เป็นอากาศ
00:29:18 → 00:29:22 แห้งใช่มความชุมชเนี่ยมันมันจะลดลงในบที่
00:29:22 → 00:29:25 เป็นแบบเ่อเยื่อบุเยื่อบุบริเวณจมูกหรือ
00:29:25 → 00:29:28 ตามผิวหนังของเราเนี่ยมันจะโดนดึงเรื่อง
00:29:28 → 00:29:31 ของความชุมชื้นไปเพราะฉะนั้นก็จะผิวแห้ง
00:29:31 → 00:29:34 นะีปากแล้วจะปากแตกนะครับเช่นเดียวกัน
00:29:34 → 00:29:37 บริเวณแบบในโพงจมูกก็เยื่อบุต่างๆก็จะ
00:29:37 → 00:29:39 แห้งเพราะฉะนั้นบางทีทำให้มีเรื่องของ
00:29:39 → 00:29:42 เลือดกำเดาหลายเลือดออกซิบๆได้อันนี้ก็
00:29:42 → 00:29:45 เป็นเราก็จะต้องระมัดระวังดูแลตัวเองนะ
00:29:45 → 00:29:49 ครับว่าพยายามที่แบบให้เกิดความชุ่มชื้น
00:29:49 → 00:29:52 กับร่างกายการใส่แมนี่ช่วยได้อ๋อสแมสนี่
00:29:52 → 00:29:55 นะมีประโยชน์เออนากจะป้องกัน
00:29:55 → 00:29:59 รเออใช่ครับเอ่ออีก 1 คำถามนะครับอันนี้
00:29:59 → 00:30:02 ผมไม่แน่ใจว่าจะจะเกี่ยวข้องกับสิ่งที่
00:30:02 → 00:30:05 เราได้พูดคุยกันในวันนี้หรือเปล่าคุณผู้
00:30:05 → 00:30:08 ฟังท่านนี้ถามมาว่าตอนนี้เนี่ยมีอาการชา
00:30:08 → 00:30:11 ที่ปลายนิ้วทั้ง 5 นะฮะนานกว่า 7 เดือน
00:30:11 → 00:30:15 แล้วแล้วก็ยังไม่ได้รับประทานยาใดๆขอคำ
00:30:15 → 00:30:18 แนะนำหน่อยครับเพราะว่าตอนนี้อายุ 70 ปี
00:30:18 → 00:30:20 แล้วนิ้วนิ้วนิ้วเท้านิ้วมือนิ้วมือฮะ
00:30:20 → 00:30:23 นิ้วมือปลายนิ้วทั้ง 5 นานกว่า 7 เดือนละ
00:30:23 → 00:30:26 ยังไม่ได้กินยาใดๆเลยโอทำมนานจังคุณหมอพร
00:30:26 → 00:30:28 จะมีคำแนะนำสำหรับคุณผู้ฟังฟังท่านนี้
00:30:28 → 00:30:32 บ้างมั้ยฮะครับผมมันก็ก็ไอ้อาการเรื่อง
00:30:32 → 00:30:35 ของชาเนี่ยจริงๆก็มีได้หลายแบบนะครับอาจ
00:30:35 → 00:30:38 จะมีจากเส้นปประสาทส่วนปลายก็ได้ถ้าเกิด
00:30:38 → 00:30:40 มีโรคร่วมเช่นเป็นเบาหวานอันนี้ก็อาจจะ
00:30:40 → 00:30:43 เกิดจากเบาหวานได้แต่แต่อย่างไรก็ตามนะ
00:30:43 → 00:30:46 ครับก็อยากจะให้มาตรวจนะครับให้ให้ให้มา
00:30:46 → 00:30:49 ตรวจที่โรงพยาบาลตรวจกับคุณหมอให้วินิฉัย
00:30:49 → 00:30:51 ดูก่อนว่าเป็นแบบเอ่อเป็นเส้นประสาทมย
00:30:52 → 00:30:54 หรือเป็นจากกล้ามเนื้ออ่อนแรงแล้วก็ชา
00:30:54 → 00:30:57 หรือว่ามีการกดทับเส้นประสาทส่วนบริเวณ
00:30:57 → 00:30:59 ต้นคออะไรอย่าเงี้ยก็ก็ทำให้เกิดอาการชา
00:30:59 → 00:31:02 แบบนี้ได้คือต้องมาตรวจร่างกายนิดนึงว่า
00:31:02 → 00:31:04 เอ๊ะชาแล้วมีอ่อนแรนด้วยมั้ยและมีโรค
00:31:04 → 00:31:06 ประจำตัวอะไรเป็นเป็นตัวตุนทำให้เกิด
00:31:06 → 00:31:10 อาการแบบนี้หรือเปล่านใช่เพเพราะว่านาน
00:31:10 → 00:31:12 มากนะคะ 7 เดือนานอแล้วอายุเยอะแล้วด้วย
00:31:13 → 00:31:15 เนาะ 70 แล้วนะครับค่ะช่วงท้ายแล้วครับ
00:31:15 → 00:31:17 คุณหมอครับอยากจะให้คุณหมอทิ้งท้านิดนึง
00:31:17 → 00:31:21 เรื่องของกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงเรื่อง
00:31:21 → 00:31:24 ของไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความดันโลหิต
00:31:24 → 00:31:27 เรื่องของโรคหัวใจการใช้ชีวิตหรือว่าการ
00:31:27 → 00:31:30 ไปเที่ยวในช่วงปลายปีที่อาจจะต้องเจอกับ
00:31:30 → 00:31:33 สภาพอากาศที่หนาวเย็นแบบนี้คุณหมอแนะนำ
00:31:33 → 00:31:36 อย่างไรดีมีวิธีการป้องกันดูแลตัวเอง
00:31:36 → 00:31:38 อย่างไรให้สามารถเที่ยวได้อย่างปลอดภัย
00:31:38 → 00:31:42 ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขครับคุณหมอครับ
00:31:42 → 00:31:46 ครับก็คือถ้าถ้าต้องไปเที่ยวในสถานที่ที่
00:31:46 → 00:31:49 ค่อนข้างที่จะเย็นๆมากๆเนี่ยก็คือถ้าเกิด
00:31:49 → 00:31:51 เย็นนิดหน่อยเนี่ยคงไม่ค่อยเป็นปัญหาเย็น
00:31:51 → 00:31:54 แบบสบายสบันถ้าเกิดเย็นจัดๆแล้วก็เย็น
00:31:54 → 00:31:56 แล้วที่แบบว่ารู้สึกจะทรมานแล้วเนี่ยอัน
00:31:56 → 00:31:59 นี้ไม่ดีแล้วเพราะฉะนั้นเราเราต้องมีความ
00:31:59 → 00:32:01 มีการเตรียมพร้อมนะครับมีการประเมินตัว
00:32:01 → 00:32:04 เองว่าอย่างที่บอกไปว่าเอ่อเราเราทนความ
00:32:04 → 00:32:06 หนาวได้แค่ไหนอันที่ 2 ก็คือเราต้อง
00:32:06 → 00:32:09 เตรียมความพร้อมอะไรก็ได้ที่ทำให้ร่างกาย
00:32:09 → 00:32:13 เราอบอุ่นนะครับอ่าเตรียมเสื้อผ้าหนาๆมี
00:32:13 → 00:32:15 อุปกรณ์ช่วยเพิ่มความร้อนเอ่อมีหมวกมี
00:32:15 → 00:32:19 หมวกไม้พรมครับมีอะไรที่เอ่อบริเวณหูหรือ
00:32:19 → 00:32:23 ว่าถุงมือถุงเท้าที่มือต้องให้อุ่นอใช่
00:32:23 → 00:32:26 ให้เราอุ่นนะครับดื่มถ้าเกิดหนาวมากๆ
00:32:26 → 00:32:29 สามารถดื่มเครื่องดื่มร้อนๆออช่วยได้นะ
00:32:29 → 00:32:32 ครับแล้วก็สิ่งสำคัญถ้ามีโรคประจำตัวต้อง
00:32:32 → 00:32:36 พยายามรับประทานยาควบคุมปัจจัยต่างๆให้
00:32:36 → 00:32:39 อยู่ในปกติความดันอย่าให้สูงน้ำตาลให้
00:32:39 → 00:32:42 ปกติถ้าเกิดเป็นเบาหวาดไขมันก็อยให้สูงไป
00:32:42 → 00:32:46 อย่างเงี้นะครับเราก็พยายามช่วยการออก
00:32:46 → 00:32:50 กำลังกายก็จะช่วยแบบอออ่าให้ร่างกายเราอบ
00:32:50 → 00:32:53 อุ่นได้บางทีเราเดินในอาการหนาวๆนะก็จะ
00:32:53 → 00:32:55 ช่วยแบบเพิ่มความอบอุ่นได้หรืออาจจะวิ่ง
00:32:55 → 00:32:58 เหยาะๆอันเนี่ยยก็ได้นะครับแล้วก็ก็
00:32:58 → 00:33:00 พยายามทำรทำอะไรก็ได้ให้ร่างกายเราอบอุ่น
00:33:00 → 00:33:03 นะครับประเมินเรื่องของความหนาวให้ดีนะ
00:33:03 → 00:33:06 ครับให้หนาวมากเลยเที่ยวได้อย่าประมาทใชะ
00:33:06 → 00:33:09 ทำอบอุ่นไว้มากที่สุดแอลกอฮอลมากๆด้วยนะ
00:33:09 → 00:33:12 สำคัญเลยจะเปิดช่องไว้พอครึ้มๆนิดนิดๆ
00:33:12 → 00:33:15 หน่อยๆเออพอเป็นกระสัยนะครับผมค่ำคืนวัน
00:33:15 → 00:33:17 นี้ต้องขอขอบพระคุณหมากๆนะครับที่ไม่ให้
00:33:17 → 00:33:20 ความรู้กับเรารวมทั้งตอบคำถามไขข้อสงสัย
00:33:20 → 00:33:22 ให้กับคุณผู้ฟังทางบ้านของสุขภาพดีสทด้วย
00:33:22 → 00:33:24 นะครับกราบขอบพระคุณคุณหมอมากๆนะครับ
00:33:24 → 00:33:27 ขอบพระคุณครับคุณหมอครับครับขอบคุณครับ
00:33:27 → 00:33:30 สวัสดีนะครับคุณหมอธนบุรวรกิจธำรงชัยนะ
00:33:30 → 00:33:33 ครับนายแพทย์ชำนาญการพิเศษอายุรกรรม
00:33:33 → 00:33:35 ประสาทนะครับเชี่ยวชาญด้านโรคหลอดเลือด
00:33:35 → 00:33:38 สมองแล้วก็การรักษาโรคหลอดเลือดสมองอุด
00:33:38 → 00:33:42 ตันด้วยสายสวนอันหลอดเลือดสมองนะครับจาก
00:33:42 → 00:33:45 สถาบันปราสาทวิทยากรมการแพทย์กระทรวง
00:33:45 → 00:33:48 สาธารณสุขนะครับ