00:00:00 → 00:00:02 ก่อนอื่นถามคุณหมอก่อนเลยครับว่าไอ้ภาวะ
00:00:02 → 00:00:05 ที่เรียกว่าหัวใจโตเนี่ยมันเป็นความหมาย
00:00:05 → 00:00:09 เดียวกับการที่เราหัวใจพองโตหัวใจฟ้องฟูป
00:00:09 → 00:00:14 ครับคุณหมอครับค่ะก็เบื้องต้นนะคะภาว่า
00:00:14 → 00:00:17 หัวใจโตเนี่ยมันยังไม่ใช่โรคนะคะเป็นภาวะ
00:00:17 → 00:00:20 ที่หัวใจของเราเนี่ยมันมีขนาดที่ใหญ่กว่า
00:00:20 → 00:00:23 ปกติค่ะซึ่งขนาดที่ใหญ่ขึ้นเนี่ยอาจจะ
00:00:23 → 00:00:26 เป็นเพราะเอ่อหัวใจเนี่ยมันมีขยายขนาด
00:00:26 → 00:00:29 หรือในบางกรณีเนี่ยก็อาจจะเกิดจากกล้าม
00:00:29 → 00:00:32 เนืหัวใจที่หนาทำให้ดูโดยรวมเนี่ยภาวะ
00:00:32 → 00:00:35 เนี้ยทำให้หัวใจโตมากกว่าปกติซึ่งจริงๆ
00:00:35 → 00:00:38 แล้วเนี่ยเราต้องสืบค้นหาสาเหตุเร่มเพิ่ม
00:00:38 → 00:00:40 เติมค่ะว่าสาเหตุที่ทำให้หัวใจโตเนี่ย
00:00:40 → 00:00:44 ประกอบด้วยเจากภาวะหรือว่าเป็นเหตุจาก
00:00:44 → 00:00:46 ภาวะหัวใจอื่นๆหรือว่ามีโรคอื่นๆที่ทำให้
00:00:46 → 00:00:51 หัวใจโตหรือไม่ค่ะอืเอ่อหัวใจของคนเรา
00:00:51 → 00:00:54 ปกติตามที่เรามักจะได้ยินมักจะได้ยินกัน
00:00:54 → 00:00:56 ตั้งแต่เด็กๆเลยคุณหมอครับไม่รู้ว่าณ
00:00:56 → 00:00:58 ปัจจุบันเนี่ยมันมันยังใช้ได้อยู่หรือ
00:00:58 → 00:01:00 เปล่าก็คือเท่ากับกำปั้นของเราเองเนี่ย
00:01:00 → 00:01:02 คืออันนี้คือขนาดหัวใจของแต่ละบุคคลหรือ
00:01:02 → 00:01:05 เปล่าครับคุณหมอครับจริค่ะจริงๆก็ก็
00:01:05 → 00:01:07 ประมาณนั้นนะคะเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายเอ่อ
00:01:07 → 00:01:10 แล้วก็จะคนที่ตัวเล็กกับคนที่ตัวใหญ่
00:01:10 → 00:01:12 เนี่ยขนาดหัวใจก็จะไม่เท่ากันเนื่องจาก
00:01:12 → 00:01:15 ว่าถ้าคนที่ตัวใหญ่ร่างใหญ่กว่าคนตัวเล็ก
00:01:15 → 00:01:17 เนี่ยหัวใจก็ต้องมีขนาดที่สอดคล้องกับ
00:01:17 → 00:01:21 ขนาดของตัวเพื่อที่จะทำการสูบฉีดโลหิตจะ
00:01:21 → 00:01:24 เลี้ยงร่างกายให้เพียงพอค่ะค่ะก็โดยโดย
00:01:24 → 00:01:26 ทั่วไปก็คืออาจจะเข้าใจก็เข้าใจได้ว่า
00:01:26 → 00:01:29 ประมาณเท่ากับกำปั้นของคนๆนั้นนะคะแต่
00:01:29 → 00:01:32 จริงๆแล้วเนี่ยเนี่ยเราจะเอ่อทางทางแพทย์
00:01:32 → 00:01:35 เนี่ยก็จะต้องมีการเอ่อตรวจเพิ่มเติม
00:01:35 → 00:01:38 เพื่อคอนเฟิร์มนะคะว่าขณะเนี้ยโตกว่าปกติ
00:01:38 → 00:01:42 หรือไม่ค่ะอืเมื่อเราตั้งแต่เด็กมาจน
00:01:42 → 00:01:45 กระทั่งเราโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็เราสูงไว
00:01:45 → 00:01:47 ค่ะคุณหมอหัวใจเราเปลี่ยนแปลงขนาดมั้ยคะ
00:01:47 → 00:01:51 อืเออมันก็โตขึ้นตามตัวแต่ว่ามันก็จะมี
00:01:51 → 00:01:54 ขนาดที่เหมาะสมกับขนาดของร่างกายเมื่อโต
00:01:54 → 00:01:57 เต็มที่แล้วอ่ะนะคะซึ่งเอ่อภาวะหัวใจโต
00:01:57 → 00:02:00 เนี่ยนะคะอย่างที่บอกว่ามันอาจจะเป็น
00:02:00 → 00:02:03 ภาวะที่เกิดจาก 1 ก็คือกล้ามเนื้ออาจจะ
00:02:03 → 00:02:06 หนากว่าปกติเช่นอาจจะเจอในคนที่เอ่อสูบ
00:02:06 → 00:02:10 อายุที่เริ่มมีความดาโลหิตสูงมานานๆนะคะ
00:02:10 → 00:02:13 หรือมีภาวะของลิ้นหัวใจอาจจะมีรั่วหรือ
00:02:13 → 00:02:16 ว่าตินะคะเอ่อส่วนมากเนี่ยถ้าภาวะที่เป็น
00:02:16 → 00:02:18 ลิ้นหัวใจตีบรุนแรงเนี่ยก็จะทำให้กล้าม
00:02:18 → 00:02:20 เนื้อหัวใจหนาขึ้นเพราะว่าหัวใจพยายามที่
00:02:20 → 00:02:23 จะบีบตัวเพื่อสู้กับเอ่อตัวลิ้นที่ตีบ
00:02:23 → 00:02:26 เพื่อที่จะคงการไหลเวียนเลือดให้เป็นปกติ
00:02:26 → 00:02:29 แต่อีกส่วนกลุ่มนึงเนี่ยก็อาจจะหัวใจโต
00:02:29 → 00:02:32 เพราะว่าหัวใจน่ะบีบตัวไม่ดีหัวใจบีบตัว
00:02:32 → 00:02:35 แย่กว่าปกติทำให้เลือดเนี่ยค้างค้างในหัว
00:02:35 → 00:02:38 ใจมากขึ้นก็ทำให้หัวใจขยายขนาดมากขึ้น
00:02:38 → 00:02:41 เหมือนลูกโป่งที่ใส่น้ำค่ะอมันก็จะทำให้
00:02:41 → 00:02:43 หัวใจผ่องโตขึ้นเรื่อยๆซึ่งก็อาจจะเจอได้
00:02:43 → 00:02:46 ในผู้ป่วยที่มีหลายสาเหตุเช่นอาจจะเป็น
00:02:46 → 00:02:50 โรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดอาจ
00:02:50 → 00:02:52 จะเป็นจากโรคหัวใจเต้นปิดจังหวะนะคะหรือ
00:02:52 → 00:02:55 ว่าบางคนอาจจะมีภาวะหัวใจพิการเป็นต้นค่ะ
00:02:55 → 00:02:58 เพราะฉะนั้นคำว่าหัวใจภาวะหัวใจโตนี้ไม่
00:02:58 → 00:03:01 ใช่เรื่องที่ค่อนข้างจะดีเลยเลยหัวใจพอง
00:03:01 → 00:03:04 โตใช่ค่ะเป็นความหมายที่ดีแต่ภาวะที่ไม่
00:03:04 → 00:03:07 ดีเออแต่ภาวะหัวใจโตไม่ดีนะจ๊ะฟังแล้วน่า
00:03:07 → 00:03:11 กลัวมากเลยเออก็คือมันทำให้เราเหมือนว่า
00:03:11 → 00:03:14 หัวใจเราเหมือนเค้าโหลดฟังก์ชันของเค้านะ
00:03:14 → 00:03:17 คะเคทำงานมากเค้าก็เลยโตกล้ามเนื้อเคก็
00:03:17 → 00:03:21 หนาขึ้นอืลิ้นหัวใจไม่ดีอะไรประมาณนี้
00:03:21 → 00:03:24 สังเกตได้มั้ยคะคุณหมอเราจะเมื่อเราอ่า
00:03:24 → 00:03:27 อาจจะปกติอยู่ดีๆแล้วก็เอ๊วันดีคืนดีเรา
00:03:27 → 00:03:30 จะมีความรู้สึกว่าอืมระบบหายใจเราเกี่ยว
00:03:30 → 00:03:34 มยคะมันทำให้เรารู้สึกได้ว่าเออหัวใจเรา
00:03:34 → 00:03:37 ผิดปกติไปอย่างเงี้ค่ะค่ะก็จริงๆเราก็ลอง
00:03:37 → 00:03:41 มาดูนะคะว่าใครบ้างที่มีความเสี่ยงที่หัว
00:03:41 → 00:03:44 ใจโตนะคะเช่นคนบางคนเนี่ยอาจจะมีโรคที่
00:03:44 → 00:03:47 เป็นจักกรพันธ์ในครอบครัวมีภาวะหัวใจโต
00:03:47 → 00:03:49 หรือกล้ามือหัวใจหนาอันนี้ก็อาจจะมี
00:03:49 → 00:03:52 ประวัติกรมพรเอ่อมีญาติพี่น้องสายตรงเรา
00:03:52 → 00:03:54 เนี่ยมีประวัติโรคกล้ามเือหัวใจอันนี้ก็
00:03:54 → 00:03:57 อาจจะต้องไปตรวจเพิ่มเติมส่วนอื่นๆคนที่
00:03:57 → 00:04:00 มีความเสี่ยงเช่นคนที่มีโรคหัวใจหลอด
00:04:00 → 00:04:03 เลือดหัวใจตีดนะคะคนที่มีโรคความดันสูง
00:04:03 → 00:04:06 โรคเบาหวานหรือมีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่ดี
00:04:06 → 00:04:10 เช่นดื่มแอลกอฮอล์การใช้สารเสพติดหรือมี
00:04:10 → 00:04:12 น้ำหนักที่เยอะเกินไปอันนี้ก็จะเป็นผู้
00:04:13 → 00:04:15 ที่มีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดภาวะหัวใจโต
00:04:15 → 00:04:19 ขึ้นมาได้นะคะทีนี้เนี่ยตอนระยะแรกเนี่ย
00:04:19 → 00:04:22 เวลาที่หัวใจโตอาจจะยังไม่มีอาการชัดเจน
00:04:22 → 00:04:25 เ่ออาการเบื้องต้นเนี่ยอาจจะเริ่มต้นจาก
00:04:25 → 00:04:28 แค่รู้สึกว่าทำอะไรในกิจวัตรประจำวัน
00:04:28 → 00:04:31 เหนื่อยง่ายกว่าปกติครับบางครั้งก็อาจจะ
00:04:31 → 00:04:36 รู้สึกอ่อนเคลียรไม่มีแรงใจสั่นจนสุดท้าย
00:04:36 → 00:04:39 ถ้าเริ่มมีอาการหัวใจล้มเหลวตามมาก็อาจจะ
00:04:39 → 00:04:43 มีภาวะหัวใจลำอ่าหายใจลำบากหายใจเร็วหรือ
00:04:43 → 00:04:47 ว่ามีอาการบวมเป็นต้นค่ะเออไอ้คำว่าช่วง
00:04:47 → 00:04:49 แรกมันอาจจะไม่ค่อยมีอาการแต่หมายถึงว่า
00:04:49 → 00:04:53 มันอาจจะเหนื่อยง่ายกว่าปกติเนี่ยมันถ้าๆ
00:04:53 → 00:04:56 ถ้าเทียบกันนะครับกับกับเลเวลความเหนื่อย
00:04:56 → 00:05:00 จากปกติที่เราอเอาล่ะจะเดินสัก 19,000
00:05:00 → 00:05:03 ปั๊บอ่ะเอ่อเหนื่อยสัก 2 ค่ะแต่ถ้ามี
00:05:03 → 00:05:05 เริ่มมีภาวะตรงนี้เนี่ยในระยะแรกเนี่ยมัน
00:05:05 → 00:05:09 จะเพิ่มนเป็นประมาณไหนอ่ะคุณหมอครับสัก 3
00:05:09 → 00:05:12 4 5 6 อะไรประมาณนี้ฮะคือปกติคุณหมอ
00:05:12 → 00:05:15 เขาก็จะมีการซักประวัตินะคะว่าเอ้เหนื่อย
00:05:15 → 00:05:17 เหนื่อยง่ายเนี่ยอันไหนถึงจะเข้าขาย
00:05:17 → 00:05:19 เหนื่อยง่ายกว่ากว่าปกติส่วนใหญ่เนี่ยคุณ
00:05:19 → 00:05:22 หมอก็จะมีการซักถามเช่นเอ่อปกติเคยออก
00:05:22 → 00:05:25 กำลังกายมยเช่นบางคนอาจจะกจ๊อกกิ้งเบาๆ
00:05:25 → 00:05:28 ได้หรือว่าเดินแล้วออกกำลังกายได้ไม่เท่า
00:05:28 → 00:05:31 เดิมอาจจะรู้สึกเหนื่อยง่ายขึ้นเช่นบางคน
00:05:31 → 00:05:34 อาจจะวิ่งได้สักประมาณ 2 กมแล้วสักประมาณ
00:05:34 → 00:05:37 อาจจะมีเหนื่อยง่ายขึ้นเร็วเช่นอาจจะ 500
00:05:37 → 00:05:39 เมถึง 1 กมเนี่ยเริ่มเหนื่อยะจนถึงขั้น
00:05:39 → 00:05:42 ต้องหยุดหรือในบางคนที่อาจจะไม่ได้แีนัก
00:05:42 → 00:05:45 ไม่ได้ออกกำลังกายเราก็อาจจะลองซักถาม
00:05:45 → 00:05:47 อาการเพิ่มเติมเช่นในการเราขึ้นเดินขึ้น
00:05:47 → 00:05:51 เคยขึ้นตึกมตึกสัก 2-3 ชั้นถ้าสามารถเดิน
00:05:51 → 00:05:53 ได้ต่อเนื่องออาจจะเหนื่อยนิดหน่อยแต่ยัง
00:05:53 → 00:05:55 เดินได้ไม่ถึงขั้นต้องหยุด 1 หอบอันนี้
00:05:55 → 00:05:57 โอเคบางทีเราก็อาจจะซักคนไข้ว่าเออขึ้น
00:05:58 → 00:06:00 บันได BTS เนี่ยก็ใช้ได้หรือว่าขึ้นสพ 00
00:06:00 → 00:06:02 อย่าเงี้เป็นต้นค่ะอันนี้ก็เป็นการสกรีน
00:06:02 → 00:06:05 คร่าวๆว่ามีการเหนื่อยง่ายกว่าปกติค่ะอ
00:06:05 → 00:06:09 อ๋ออันนี้คือในระยะแรกที่เราจะต้องหมั่น
00:06:09 → 00:06:12 สังเกตตัวเองว่าว่าว่าเริ่มมีอาการใน
00:06:12 → 00:06:15 ลักษณะแบบนี้แล้วหรือยังช่วงวัยช่วงอายุ
00:06:15 → 00:06:17 มีผลด้วยมั้ยครับคุณหมอครับอถ้ายังในวัย
00:06:17 → 00:06:21 รุ่นใช่ๆมีผลค่ะก็คือสิ่งที่มีผลก็คือ
00:06:21 → 00:06:25 อายุอันที่ 2 ก็คือเอ่อเอ่อการความความ
00:06:25 → 00:06:27 แข็งแรงของร่างกายบางคนอาจจะไม่ได้เคยออก
00:06:28 → 00:06:30 กำลังกายไม่ได้แคทีพออยู่ดีไปออกกำลังก็
00:06:30 → 00:06:32 อาจจะเหนื่อยง่ายแต่อันนั้นอาจจะเป็นปกติ
00:06:32 → 00:06:35 ซึ่งแต่ว่าถ้ามันมีอาการที่เราเทียบเคียง
00:06:35 → 00:06:36 กับคนในวัยเดียวกันแล้วเออมันรู้สึก
00:06:36 → 00:06:38 เหนื่อยง่ายกว่าคนอื่นเนี่ยก็อาจจะต้อง
00:06:38 → 00:06:40 ลองไปปรึกษาแพทย์ดูนะคะว่าอันนี้ถือว่า
00:06:41 → 00:06:44 ผิดปกติหรือไม่ค่ะพูดถึงบันได BTS นี่
00:06:44 → 00:06:46 ครับเอาเรื่องอยู่นะเอาเรื่องอยู่เอา
00:06:46 → 00:06:49 เรื่องอยู่คนเห็นแล้วมองขึ้นไปผมพูดเลย
00:06:49 → 00:06:51 ว่าเอาเรื่องอยู่เหมือนกันขึ้นได้นี่ก็
00:06:51 → 00:06:54 คือใช้ได้เลยใช่มั้ยคะคุณหมออใช่สมัยก่อน
00:06:54 → 00:06:56 เราอาจจะถามคนไว่าสะพานลอยนะแต่นี้เราอาจ
00:06:56 → 00:06:58 จะไม่ได้ต้างสะพานลอยแล้วบางทีเข้าใจที่
00:06:58 → 00:07:01 คุณมบอกว่าไม่เคยขึ้บันไดแต่ขึ้นลิฟต์
00:07:01 → 00:07:03 เงี้บางทีเราก็อาจจะต้องถามว่าไอ้
00:07:03 → 00:07:05 activity ประจำวันนี้คือเขาทำมากน้อยแค่
00:07:05 → 00:07:08 ไหนแล้วก็อาจจะต้องถามเพื่อให้ดูสอดคล้อง
00:07:08 → 00:07:11 กับกิจกรรมที่เขาทำกันปกติอ่ะค่ะอืบันได
00:07:11 → 00:07:15 สะพันลอยบางบางแห่งก็เป็นถนนที่ยาวนะถ
00:07:15 → 00:07:17 สวัดพอได้อยู่แต่ว่าถ้าในกรุงเทพฯส่วน
00:07:17 → 00:07:20 ใหญ่ก็อาจจะเป็น BTS รถไฟฟ้าใต้ดงใต้ดิน
00:07:20 → 00:07:23 อะไรก็ว่ากันไปอ่าในระยะแรกเราพอเห็นภาพ
00:07:23 → 00:07:25 แล้วครับคุณหมอครับระยะถัดไปเนี่ยมันจะ
00:07:25 → 00:07:29 แสดงอาการเพิ่มมากขึ้นขนาดไหนครับคุณหมอ
00:07:29 → 00:07:30 ครับ
00:07:30 → 00:07:32 ก็คือถ้าสมมุติว่ามันเอ่อถึงขั้นทำให้
00:07:32 → 00:07:35 เลือดสูบฉีดไม่ดีนะคะก็อาจจะมีอาการอ่อน
00:07:35 → 00:07:39 เพลียอืหรือมีหวิวคล้ายจะเป็นลมบางคน
00:07:39 → 00:07:43 เนี่ยที่เอ่อหัวใจโตจากภาวะหัวใจเต้นผิด
00:07:43 → 00:07:46 จังหวะก็อาจจะมีอาการที่รู้สึกว่าใจสั่น
00:07:46 → 00:07:49 ครับนะคะค่ะหรือว่าในบางคนที่มีเ่อภาวะ
00:07:49 → 00:07:51 หัวใจร่วมเหลวร่วมด้วยเนี่ยก็อาจจะมี
00:07:51 → 00:07:54 อาการบวมน้ำเช่นบวมที่หน้าแข้งบมที่หลัง
00:07:54 → 00:07:57 เท้าหรือพอเริ่มมีอาการน้ำทุ่มปอดก็จะ
00:07:57 → 00:08:00 อยู่เฉยๆก็เริ่มเหนื่อยละหรือเวลา
00:08:00 → 00:08:04 นรึหายใจอึอัดต้องลุกขึ้นมานั่งซึ่งอาการ
00:08:04 → 00:08:07 แต่ละคนก็จะแตกต่างกันไปอยู่ที่ว่าโรคที่
00:08:07 → 00:08:10 เขาเป็นเป็นโรคลักษณะแบบไหนที่เป็นสาเหตุ
00:08:10 → 00:08:15 ของภาวะหัวใจโตค่ะอการการนอนที่บอกที่บอก
00:08:15 → 00:08:17 ว่าล้มตัวลงนอนเนี่ยปกติคนเรานอนนก็จะ
00:08:17 → 00:08:20 สบายแต่คนที่เป็นหัวใจเี่เขาจะนอนหงาย
00:08:20 → 00:08:23 ลำบากใช่มคะคุณหมอค่ะอันนี้ก็จะเป็น
00:08:23 → 00:08:26 ลักษณะของคนที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวเนื่อง
00:08:26 → 00:08:29 จากว่ามีภาวะน้ำข้างในร่างกายเวลาเรานอน
00:08:29 → 00:08:31 ลงไปเนี่ยเลือดจากส่วนล่างของร่างกาย
00:08:31 → 00:08:34 เนี่ยจะไหลกลับเข้าไปที่หัวใจครับอนะคะใน
00:08:35 → 00:08:38 คนปกติอ่ะถ้าหัวใจทำงานปกติสูบฉีดได้ปกติ
00:08:38 → 00:08:41 เนี่ยก็จะไม่มีปัญหาแต่ถ้าในคนที่มีภาวะ
00:08:41 → 00:08:44 กล้ามเนื้อหัวใจบีตัวไม่ดีมีภาวะหัวใจล้ม
00:08:44 → 00:08:47 เหลวเนี่ยการที่เลือดไหลกลับไปที่หัวใจ
00:08:47 → 00:08:50 หัวใจบิดตัวออกมาไม่ดีนะคะในช่วงนอน
00:08:50 → 00:08:53 เนื่องจากว่าน้ำเนี่ยจะไหลจากที่ต่ำเ่อ
00:08:53 → 00:08:55 ที่ที่สูงงมาที่ต่ำเนาเวลาเรายืนเนี่ยอาจ
00:08:55 → 00:08:57 จะประกองที่เท้าอาจจะขามแต่เวลานอนน้ำมัน
00:08:58 → 00:09:01 จะไหลกลับเข้าร่างกายนะคะถ้าหัวใจบีบตัว
00:09:01 → 00:09:03 ไม่ดีเนี่ยหัวใจไล่เลือดออกไปไม่ได้สูบ
00:09:03 → 00:09:07 ฉีดแย่ลงก็จะไปคั่งที่ตอมันก็เป็นสาเหตุ
00:09:07 → 00:09:09 ที่ทำให้อาการอึดอัดแน่นเวลานอนไปสักพัก
00:09:09 → 00:09:12 นึงแล้วก็จะรู้สึกว่าหายใจไม่ออกแล้วก็
00:09:12 → 00:09:14 ต้องลุกขึ้นมานั่งนะคะอันนี้ก็จะเป็น
00:09:14 → 00:09:17 อาการหนึ่งของหัวใจล่มเหลวค่ะพวกนี้
00:09:17 → 00:09:20 เกี่ยวกับคนที่เคยเห็นนะคะที่เขาคอึดอัดๆ
00:09:20 → 00:09:22 อัดเนี่ยส่วนมากจะเป็นคนที่รูปร่างค่อน
00:09:22 → 00:09:25 ข้างจะใหญ่เพะออึดอัดอย่างงั้นใช่มั้ยคะ
00:09:25 → 00:09:28 คุณหมอรูปร่างอ้วนในคนที่รูปร่างอาจจะ
00:09:28 → 00:09:31 อ้วนหน่อยหรือหือว่าอาจจะพูดง่ายๆถ้าณ
00:09:31 → 00:09:33 ท้องใหญ่เนี่ยบางทีอาจจะไม่ได้เป็นหัวใจ
00:09:33 → 00:09:35 ล้มเหล็บซักทีเดียวเอาจจะมีภาวะที่ตอด
00:09:35 → 00:09:37 ขยายตัวน้อยเนื่องจากอาจจะมีแรงดันในช่อง
00:09:38 → 00:09:41 ท้องขึ้นมาดันหรือในบางคนอาจจะมีภาวะเป็น
00:09:41 → 00:09:44 โรคปอดก็ได้นะคะเช่นบางคนอาจจะมีภาวะเอ่อ
00:09:44 → 00:09:48 เอ่ออุดเ่อหายใจแล้วหยุดในขณะนอนหรือว่า
00:09:48 → 00:09:52 ภาวะที่หยุดหายใจกับภาวะที่เขามีการเ่อ
00:09:52 → 00:09:55 การหายใจที่ผิดปกติคือมันอาจจะไม่ได้
00:09:55 → 00:09:57 จำเป็นที่จะต้องเป็นโรคหัวใจเสมอไปอาจจะ
00:09:57 → 00:10:00 เป็นจากโรคอื่นๆเช่นโรคปอดเป็นต้นด้วยค่ะ
00:10:00 → 00:10:03 อืเพราะฉะนั้นลักษณะของหัวใจภาวะหัวใจโต
00:10:03 → 00:10:06 เนี่ยก็เป็นสิ่งที่เราสังเกตเองได้ได้
00:10:06 → 00:10:10 บ้างบางส่วนแต่ถ้าจะให้ดีเนี่ยถ้าเราไป
00:10:10 → 00:10:13 เซเรย์ที่เขาบอกว่าเซเรย์ปอดปกติแล้วก็จะ
00:10:13 → 00:10:17 ตรวจพบหัวใจโตได้จริงมั้ยคะคุณหมอคค่ะใช่
00:10:17 → 00:10:20 ค่ะก็คือเบื้องต้นนะคะจากอาการหรือว่า
00:10:20 → 00:10:22 ความเสี่ยงว่าเอ้เราอาจจะมีภาวะหัวใจโตก็
00:10:22 → 00:10:25 แนะนำให้ไปพบแพร่นะคะคุณหมอเนี่ยก็จะทำ
00:10:25 → 00:10:27 การซักประวัตินะคะแล้วก็ตรวจร่างกาย
00:10:28 → 00:10:30 เบื้องต้นก่อนนะว่าว่าเอ่อท่านเ่ะมีความ
00:10:30 → 00:10:33 เสี่ยงจะเป็นโรคอะไรที่เป็นสาเหตุที่ทำ
00:10:33 → 00:10:36 ให้หัวใจโตอ่าหลังจากนั้นเนี่ยเอ่อภาวะ
00:10:36 → 00:10:39 การการตรวจเบื้องต้นเนี่ยก็อาการทำ xray
00:10:39 → 00:10:42 เนี่ยก็เป็นการตรวจเบื้องต้นนะคะเพื่อที่
00:10:42 → 00:10:45 จะดูเงานะคะ xray เราจะเห็นเป็นเงาของหัว
00:10:45 → 00:10:49 ใจเทียบกับเงาของปอดก็จะดูว่าสัดสวนเนี่ย
00:10:49 → 00:10:53 มันโตมนะคะจาก x-ray นะคะเอ่อ x-ray
00:10:53 → 00:10:55 สามารถดูอันอื่นๆได้ด้วยนอกจากเงาของหัว
00:10:55 → 00:10:58 ใจก็คือว่าดูว่าตัวปอดเนี่ยมีโรคปอดด้วย
00:10:58 → 00:11:00 มั้ยหรือว่ามีน้ำท่วมปอดร่วมด้วยหรือไม่
00:11:00 → 00:11:04 นะคะเส้นเลือดแดงใหญ่เป็นอย่างไรนะคะอีก
00:11:04 → 00:11:06 อันนึงที่อ่าตรวจเบื้องต้นก็คือการตรวจ
00:11:06 → 00:11:09 คลื่นไฟฟ้าหัวใจหรือว่า ekg อันนี้ก็จะ
00:11:09 → 00:11:12 เป็นการตรวจเพื่อดูว่ามีหัวใจเต้นติด
00:11:12 → 00:11:16 จังหวะมยมีลักษณะที่บ่งบอกว่ามีกล้าม
00:11:16 → 00:11:19 เนื้อหัวใจขาดเลือดมหรือมีลักษณะของสงสัย
00:11:19 → 00:11:22 ว่าหัวใจโตหรือไม่อันนี้เป็นการตรวจ
00:11:22 → 00:11:25 เบื้องต้นอืแต่ท้ายสุดนะคะเพื่อที่จะ
00:11:25 → 00:11:28 คอนเฟิร์มเลยว่าแบบหัวใจเนี่ยโตจริงหรือ
00:11:28 → 00:11:30 ไม่ก็คือการทำอัลตร้าซาวหัวใจหรือว่าการ
00:11:30 → 00:11:35 ทำเอโคคกรรมอันเนี้ยก็จะเป็นคุณหมอก็จะทำ
00:11:35 → 00:11:39 เป็นใช้หัวอัลตร้าซาวด์นะคะเอ่อไปที่เอ่อ
00:11:39 → 00:11:41 แนบที่ผนังหน้าอกแล้วก็คุณหมอก็จะดูว่า
00:11:41 → 00:11:45 หัวใจการบิดตัวดีมยกล้ามเนื้อหนามยลิ้น
00:11:45 → 00:11:47 หัวใจเป็นอย่างไรแล้วสามารถวัดออกมาได้
00:11:47 → 00:11:50 จริงๆจากการทำเอคคแมค่ะอันนี้ก็คือการ
00:11:50 → 00:11:56 ตรวจเบื้องต้นค่ะอคือคคนปกติทั่วไปถ้ายัง
00:11:56 → 00:11:58 ไม่ได้มีอาการเบื้องต้นอย่างที่คุณหมอได้
00:11:58 → 00:12:01 อธิบายมามาเนี่ยการไปตรวจในลักษณะแบบนี้
00:12:01 → 00:12:04 เพื่อที่จะเช็คสภาพของหัวใจเนี่ยเป็น
00:12:04 → 00:12:07 ประจำเนี่ยจำเป็นมากน้อยขนาดไหนครับคุณ
00:12:07 → 00:12:11 หมอครับคือจริงๆแล้วเนี่ยนะคะการเช็คอัพ
00:12:11 → 00:12:14 อ่ะมันเป็นก็เป็นข้อดีนะในการที่เราจะ
00:12:14 → 00:12:19 ระมัดระวังนะคะในการที่จะป้องกันไม่ให้
00:12:19 → 00:12:23 มันมันมีโรคนะคะที่อันตรายหรือว่าเป็นมา
00:12:23 → 00:12:25 เยอะหรือเป็นเป็นรุนแรงแล้วแล้วเพิ่งมา
00:12:25 → 00:12:30 เจอจริงๆแล้วก็แนะนำให้คนไพ่ส่วนใหญ่เรา
00:12:30 → 00:12:32 ก็จะเห็นคนที่เขาเช็คอัพมาก็คืออายุตั้ง
00:12:32 → 00:12:35 แต่ 35 ปีขึ้นไปก็ควรจะมีการตรวจหรืออ่า
00:12:35 → 00:12:38 ถ้าอายุน้อยกว่านั้นก็จะต้องลองไปสังเกต
00:12:38 → 00:12:40 อาการตัวเองว่ามันมีอาการที่สงสัยว่าจะมี
00:12:41 → 00:12:43 หัวใจโตหรือไม่หรือว่าเป็นโรคหัวใจหรือ
00:12:43 → 00:12:46 ไม่นะคะก็ค่อยไปแนะไปปรึกษาคุณหมอแล้วก็
00:12:46 → 00:12:50 ให้คุณหมอแนะนำว่าเอ่อควรจะต้องตรวจเพิ่ม
00:12:50 → 00:12:51 เติมอย่างไรซึ่งซึ่งอันเนี้ยมันเป็นราย
00:12:52 → 00:12:55 ละเอียดในคนไข้ในแต่ละรายก็อาจจะมีดีเทล
00:12:55 → 00:12:57 ที่ค่อนข้างแตกต่างกันนะคะปกติอ่ะครับคุณ
00:12:57 → 00:12:59 หมอเอ่อส่วนใหญ่
00:12:59 → 00:13:02 คนที่มักจะมีภาวะหัวใจโตอย่างที่คุณหมอ
00:13:02 → 00:13:06 ได้อธิบายมาก็คือจะเป็นคนที่เ่อมีภาวะโรค
00:13:06 → 00:13:09 ต่างๆเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในเด็กๆในคนที่
00:13:09 → 00:13:12 อายุน้อยๆเนี่ยคุณหมอเคยเจอบ้างมครับคุณ
00:13:12 → 00:13:16 หมอครับก็เจอบ้างนะคะถ้าเป็นเด็กเลยเนี่ย
00:13:16 → 00:13:18 ส่วนมากจะเป็นเอ่อกลุ่มเอ่อที่เป็นโรคหัว
00:13:18 → 00:13:22 ใจพิการตั้งแต่กำเนินะคะแต่ว่าเด็กกลุ่ม
00:13:22 → 00:13:25 นี้เนี่ยก็จะมีอาการตั้งแต่เล็กๆะเช่นบาง
00:13:25 → 00:13:28 คนก็ชัดเจนรุนแรงเลยก็คือแบบมือเขียวปาก
00:13:28 → 00:13:31 เขียวเขียวเพราะว่าออกซิเจนต่ำหรือเด็ก
00:13:31 → 00:13:34 บางคนก็อาจจะตัวเล็กพัฒนาการช้ากว่าเด็ก
00:13:34 → 00:13:37 รุ่นเดียวกันเป็นต้นซึ่งส่วนใหญ่เนี่ยถ้า
00:13:37 → 00:13:40 เอ่อคุณหมอเด็กเนี่ยก็จะสามารถที่จะให้
00:13:40 → 00:13:43 การวินิจฉัยได้ตั้งแต่เด็กและนะคะซึ่งก็
00:13:43 → 00:13:46 ถ้าเราเ่อรักษานะเป็นโรคที่ไม่ได้ซับซ้อน
00:13:46 → 00:13:49 ยุ่งยากนักรักษาก็ในบางคนก็สามารถที่จะหา
00:13:49 → 00:13:52 เป็นปกติได้แต่มันก็จะมีภาวะหัวใจพิการ
00:13:52 → 00:13:54 บางอย่างที่มันค่อนข้างซับซ้อนอันนั้นก็
00:13:54 → 00:13:57 อาจจะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญนะคะอแล้วก็มี
00:13:57 → 00:13:59 ภาวะอีกอันนึงที่อาจจะเคยได้ยินก็คือในคน
00:13:59 → 00:14:03 ที่แข็งแรงดีเช่นนักกีฬานะคะอ่านักกีฬา
00:14:03 → 00:14:06 นักกีฬาเราก็จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
00:14:06 → 00:14:09 นักกีฬาที่เค้าเรียกว่าออกกำลังกายแบบเ่อ
00:14:09 → 00:14:12 เน้นความทนทาน endurance ก็คือเช่นนัก
00:14:12 → 00:14:15 กีฬาที่วิ่งมาราธอนหรือวิ่งระยะไกลอืครับ
00:14:15 → 00:14:18 นะคะอันเนี้ยก็จะมีภาวะหัวใจโตจากหัวใจ
00:14:18 → 00:14:21 ขยายขนาดอเพื่อที่จะให้เลือดสูบฉีดให้
00:14:21 → 00:14:24 เพียงพอเพราะว่ามันมีการเอ่อเ่อต้องการ
00:14:24 → 00:14:26 การไหลายเวียนของเลือดเนื่องจากเออกกำลัง
00:14:26 → 00:14:29 กายมากนะคะส่วนมากก็จะเป็นนักกีฬากับอีก
00:14:29 → 00:14:31 อันนึงก็คือนักกีฬาที่มีการใช้แรงต้าน
00:14:31 → 00:14:34 เช่น resistance ก็คือเช่นนักกีฬาเช่นอ่ะ
00:14:34 → 00:14:36 ยกตัวอย่างคอกายยกน้ำหนักอันนี้ต้องยกของ
00:14:36 → 00:14:40 หนักๆใช่มั้ยคะหัวใจเนี่ยก็จะหนาตัวขึ้น
00:14:40 → 00:14:44 เพื่อที่จะเอ่อสอดคล้องกับ workload ก็
00:14:44 → 00:14:47 คือการออกกำลังของนักกีฬานั้นๆซึ่งการหัว
00:14:47 → 00:14:49 ใจโตของนักกีฬามี 2 แบบก็คือขยายขนาดกับ
00:14:49 → 00:14:53 กล้ำในหัวใจหนาซึ่งขึ้นกับเอ่อว่านักกีฬา
00:14:53 → 00:14:56 นั้นๆเนี่ยออกกำลังกายลักษณะแบบใดแต่
00:14:56 → 00:14:58 อย่างไรก็แล้วแต่เนี่ยในนักกีฬาที่มีภาวะ
00:14:58 → 00:15:01 หัวใจโตอ่ะส่วนส่วนใหญ่นะคะก็คือไม่ได้
00:15:01 → 00:15:04 เป็นโรคมันเป็นการปรับตัวของร่างกายอ
00:15:04 → 00:15:07 เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการการสูบฉีด
00:15:07 → 00:15:10 โลหิตอถ้านักกีฬานั้นเอ่องดการออกกำลัง
00:15:10 → 00:15:13 กายหรือการเทรนสัก 3 เดือนหัวใจก็จะมา
00:15:13 → 00:15:17 เป็นปกติใช่ค่ะริแต่ก็มีส่วนน้อยๆที่นัก
00:15:17 → 00:15:19 กีฬามีโรคหัวใจด้วยซึ่งอันนี้ต้องใชผู้
00:15:19 → 00:15:21 เชื่อชาในการให้การวินิจฉัยนะคะใช่เพราะ
00:15:21 → 00:15:24 ว่าเราเยี่ยมจริงๆนะอย่างผมเนี่ยมักจะ
00:15:24 → 00:15:29 เห็นนักกีฬาฟุตบอลค่ะเก็ฟิรใช่วูบแล้วก็
00:15:29 → 00:15:32 เสียชีวิตในสนามเนี่ยไม่ใช่ครั้งเดียวนะ
00:15:32 → 00:15:34 หลายครั้งแล้วเหมือนกันใช่อยู่ๆก็คือมัน
00:15:34 → 00:15:37 เป็นโรคหัวใจไงพี่นกคุณบอกครับเอออาจจะ
00:15:37 → 00:15:40 มันจะเป็นโรคที่แบบว่าซ่อนตัวอยู่อาจจะ
00:15:40 → 00:15:44 ไม่ได้อยู่ๆมันก็ฟุบขึ้นมาอย่างงี้เลย
00:15:44 → 00:15:47 โอกาแบบนี้ได้เลยใช่มั้ยฮะใช่คือในในนัก
00:15:47 → 00:15:50 กีฬาที่วูปเนี่ยเขาคก็เคยมีการศึกษาค่ะ
00:15:50 → 00:15:53 ว่าก็ส่วนนึงก็อาจจะมีโรคซ่อนอยู่นะคะ
00:15:53 → 00:15:56 เช่นอาจจะมีภาวะเสี่ยงต่อหัวใจเต้นผิด
00:15:56 → 00:15:59 จังหวะนะคะหรือว่าบางคนเป็นโรคกล้ามเนื
00:15:59 → 00:16:00 หัวใจหนาจริงๆที่ไม่ได้เป็นจากการออก
00:16:01 → 00:16:03 กำลังกายอย่างเดียวก็คือมีโรคที่เเป็นโรค
00:16:03 → 00:16:05 อยู่แล้วแล้วการออกกำลังกายหรือว่าการออก
00:16:05 → 00:16:07 แรงมากกว่าคนอื่นมันเลยเป็นกระตุ้นทำให้
00:16:07 → 00:16:10 ภาวะที่ซ่อนเรนนั้นเนี่ยโผล่ออกมาชัดเจน
00:16:10 → 00:16:13 ขึ้นนะคะแล้วก็นักกีฬาที่เริ่มอายุเยอะ
00:16:13 → 00:16:15 ขึ้นแบบเริ่มสัก 40 50 อันเนี้ยก็จะมี
00:16:15 → 00:16:17 ความเสี่ยงของการเป็นลอลูกหลอดเลื่อนหัว
00:16:17 → 00:16:21 ใจก็เป็นภาวะที่ทำให้วูปหรือว่าหมดสติใน
00:16:21 → 00:16:23 ในขณะที่เอ่อกำลังแข่งขันอยู่เพราะว่า
00:16:23 → 00:16:25 เวลานักกีฬาเแข่งขันเนี่ยมันก็จะมีการ
00:16:25 → 00:16:28 กระตุ้นรนารีนะคะมันจะหลังมันก็ทำให้มัน
00:16:28 → 00:16:30 มีมีการกระตุ้นหัวใจมากขึ้นเพราะฉะนั้น
00:16:30 → 00:16:33 ถ้าเมีโรคเดิมที่มันอาจจะแฝงๆอยู่ซ่อนๆ
00:16:33 → 00:16:35 อยู่มันก็อาจจะชัดเจนหรือแสดงอาการขณะที่
00:16:35 → 00:16:39 ออกกำลังได้ค่ะอืโอ้ฟังดูแล้วเนี่ยหัวใจ
00:16:39 → 00:16:42 นี่ก็เป็นอะไรที่มันก็ปรับให้เข้ากับความ
00:16:42 → 00:16:45 ต้องการของการใช้พลังงานอะไรของร่างกาย
00:16:45 → 00:16:48 ได้มากพอสมควรทีเดียวในคนที่ร่างกายแข็ง
00:16:48 → 00:16:51 แรงมากๆอย่างเช่นนักกีฬาที่คุณหมอบอกเพะ
00:16:51 → 00:16:56 หัวใจที่เขาอื้อหือบีบเค้นเอ่อให้เลือด
00:16:56 → 00:16:59 สูบฉีดได้ดีแล้วก็กลับมาอยู่ในภาวะเมได้
00:16:59 → 00:17:02 อย่างเงี้ยค่ะแล้วคนเราปกติจะทำได้แบบนัก
00:17:02 → 00:17:05 กีฬาได้บ้างมั้ยคะมีวิธีมั้ยคะคุณหมอให้
00:17:05 → 00:17:08 หลบหลับตัวเออหมายถึงการปรับคือจริงๆเอ่อ
00:17:08 → 00:17:10 ร่างกายของคนเรามันจะมีการปรับตัวตลอด
00:17:10 → 00:17:13 เวลาค่ะแม้กระทั่งสมมุติว่าเราความดันเรา
00:17:13 → 00:17:16 เร่มสมมุติว่าเราอยกตัวอย่างในโรคความดัน
00:17:16 → 00:17:19 สูงอเอ่อในภาวะความดันสูงระยะเริ่มต้น
00:17:19 → 00:17:23 เนี่ยไม่แสดงอาการอะไรเลยค่ะอืก็คือจะ
00:17:23 → 00:17:25 ทราบก็ต่อเมื่อเราได้ไปวัดความดันด้วย
00:17:25 → 00:17:28 วิธีที่ถูกต้องแล้วก็คอนเฟิร์มคือความดัน
00:17:28 → 00:17:29 สูง
00:17:29 → 00:17:32 มันเพราะฉะนั้นก็จะเจอในคนบางคนเช่นบอก
00:17:32 → 00:17:34 ว่าไม่เคยเป็นอะไรเลยแต่มาเจออีกทีนึงคือ
00:17:34 → 00:17:37 หัวใจโตและเนื่องจากว่าเอ่อในระยะแรกที่
00:17:37 → 00:17:39 เขาความดันสูงเนี่ยร่างกายก็พยายามปรับ
00:17:39 → 00:17:41 ตัวอย่างความดันสูงมันจะมีแรงต้างจากหัว
00:17:41 → 00:17:44 ใจใช่มั้ยคะความดันถ้าสูงช่วงแรกๆหัวใจก็
00:17:44 → 00:17:46 ยังบีบไหวอยู่พอความดันอาจจะเริ่มสูงเช่น
00:17:47 → 00:17:50 อ่าขึ้นมา 150 หัวใจก็พยายามที่จะบีบสู้
00:17:50 → 00:17:53 กล้ามเนื้อหัวใจมันก็จะหนาสู้เพื่อให้แรง
00:17:53 → 00:17:56 บีบน่ะมาสู้กับความดัน 150 สมมุติว่าอ่ะ
00:17:56 → 00:17:58 ยังไม่มีอาการยังไม่เคยวัดไม่เคยรักษาอ่ะ
00:17:58 → 00:18:01 ความดันมันสเต็ปไปที่ 160 หัวใจมันก็อาจ
00:18:01 → 00:18:04 จะเริ่มสู้ไม่ไหวหรืออาจจะแสดงอาการออกมา
00:18:04 → 00:18:06 เช่นอาจจะเกิดอาการเหนื่อยหรือว่ามีอาการ
00:18:06 → 00:18:09 หัวใจร่มเหลเป็นต้นค่ะเพราะฉะนั้นร่างกาย
00:18:09 → 00:18:11 เนี่ยคนเราก็พยายามจะปรับเพื่อที่จะให้
00:18:11 → 00:18:15 เรายังคงสภาพแล้วก็คงการทำงานที่ปกติได้
00:18:15 → 00:18:18 แต่ว่าพอถึงจุดนึงร่างกายปรับไม่ไหวแล้ว
00:18:18 → 00:18:21 มันก็จะเกิดอาการแสดงออกมาดังกล่าวอ่ะค่ะ
00:18:21 → 00:18:26 ออนัวเคเพยายามแล้วอ่ะเนอะหัวใจอ่ะใช่คอื
00:18:26 → 00:18:30 น่าสงสารมากเออเพราะฉะนั้นเราจะมีลักษณะ
00:18:30 → 00:18:35 การที่เอ่อบำรุงบำรุงเค้าเอ่อช่วยเขาคได้
00:18:35 → 00:18:37 แข็งแรงก็คือเรื่องของการออกกำลังหรือไง
00:18:37 → 00:18:40 คะคุณหมอคะคือเพราะฉะนั้นเนี่ยจริงๆแล้ว
00:18:40 → 00:18:45 เนี่ยนะคะเราก็จะมีการเอ่อดูแลสุขภาพร่าง
00:18:45 → 00:18:48 กายของคนเรานะคะเพื่อจริงๆแล้วดีที่สุดก็
00:18:48 → 00:18:50 คือป้องกันไม่ให้เกิดโรคนะคะแต่คนที่มี
00:18:50 → 00:18:53 โรคแล้วเนี่ยก็ไม่ต้องเป็นห่วงก็คือก็
00:18:53 → 00:18:55 ต้องไปควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมตาม
00:18:55 → 00:18:59 ที่แพทย์แนะนำนะคะเพราะฉะนั้นการป้องกัน
00:18:59 → 00:19:01 ไม่ให้เราจะมีภาวะเสี่ยงหัวใจโตก็คือการ
00:19:01 → 00:19:05 ดูแลสุขภาพร่างกายทั่วไปอย่างที่ทุกท่าน
00:19:05 → 00:19:09 ทราบเช่นอ่าออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนะคะ
00:19:09 → 00:19:13 ก็ถ้าเอ่อก็คือในในการแนะนำนี้ก็คือการ
00:19:13 → 00:19:16 ออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นปานกลางเช่น
00:19:16 → 00:19:19 เราเ่อเริ่มรู้สึกเหนื่อยเหงื่อซึมพูดได้
00:19:19 → 00:19:21 เป็นโยบสั้นๆเนี่ยถ้าให้รวมกันเนี่ยก็คือ
00:19:21 → 00:19:24 ใน 1 สัปดาห์ก็คือไม่ควรต่ำกว่า 150 นาที
00:19:24 → 00:19:27 ต่อสัปดาห์อันนี้จะดีกับหัวใจอืนะคะแล้ว
00:19:27 → 00:19:32 ก็ให้มีการเอ่อพักผ่อนให้เพียงพอนะคะหลีก
00:19:32 → 00:19:36 เลี่ยงปัจจัยเสี่ยงก็คืองดบุหรี่นะคะเอ่อ
00:19:36 → 00:19:39 เครื่องเหลี่มแอลกอฮอล์ไม่ใช้สารเสพติด
00:19:39 → 00:19:43 แล้วก็รับประทานอาหารที่ดีต่อประสุขภาพนะ
00:19:43 → 00:19:46 คะไม่หวานมันเค็มจนเกินไปนะคะแล้วก็ควบ
00:19:46 → 00:19:50 คุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติส่วนในคนที่
00:19:50 → 00:19:52 มีโรคประจำตัวเช่นเป็นเบาหวานเนี่ยก็ต้อง
00:19:52 → 00:19:55 ควบคุมน้ำตาลหรือคนที่มีความดันโลหิตสูง
00:19:55 → 00:19:57 ก็ควบคุมความดันโลหิตให้เหมาะสมอันนี้ก็
00:19:57 → 00:20:00 จะเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่จะป้อง
00:20:00 → 00:20:04 กันไม่ให้เนำไปสู่ภาวะหัวใจโตนะคะอแต่มัน
00:20:04 → 00:20:07 ก็จะมีโรคหัวใจบางอย่างเช่นเอ่อในภาวะคน
00:20:07 → 00:20:10 ที่มีลิ้นหัวใจเสื่อมนะคะเช่นลิ้นหัวใจตี
00:20:10 → 00:20:14 รุนแรงเอ่อพวกนี้เนี่ยก็จะเป็นโรคที่ค่อย
00:20:14 → 00:20:17 ๆเป็นค่อยๆไปจะเป็นในผู้สูงอายุอันนี้เขา
00:20:17 → 00:20:20 อาจจะดูแลสุขภาพดีและแล้วก็เ่อไปพพแพทย์
00:20:20 → 00:20:24 สม่ำเสมอแต่ก็อาจจะเกิดขึ้นได้แต่ว่าคุณ
00:20:24 → 00:20:26 หมอเนี่ยก็จะเป็นคนที่ช่วยที่ให้การ
00:20:26 → 00:20:30 วินิจฉัยนะคะเอ่อเอ่อโรคก่อนที่จะรุนแรง
00:20:30 → 00:20:32 เพื่อที่จะแนะนำวิธีการปฏิบัติตัวที่
00:20:32 → 00:20:35 เหมาะสมนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยโดยเบื้องต้น
00:20:35 → 00:20:37 ก็คือว่าเราควรจะมีการเอ่อเ่อปรับเปลี่ยน
00:20:37 → 00:20:40 พฤติกรรมเพื่อให้ดีกับสุขภาพแล้วก็ในผู้
00:20:40 → 00:20:43 ที่มีโรคประจำตัวก็ควรจะไปตรวจสม่ำเสมอ
00:20:43 → 00:20:46 แล้วก็ทำตามคำแนะนำของแพทย์นะคะเนื่องจาก
00:20:46 → 00:20:48 ว่ารายละเอียดในคนไข้แต่ละคนเนี่ยมันจะ
00:20:48 → 00:20:50 ค่อนข้างจะแตกต่างกันอันนี้คิดว่าน่าจะ
00:20:50 → 00:20:53 เป็นหลักการคร่าวๆก่อนนะคะอืออกกำลังกาย
00:20:53 → 00:20:57 กินอาหารคือเป็นหลักการพื้นฐานของทุกโรก
00:20:57 → 00:21:00 ใช่อะไรที่คุณหมอบอกว่ามันยังเล็ดรอดมา
00:21:00 → 00:21:03 ได้นะใช่ๆแต่คือคืออย่างน้อยเนี่ยมันได้
00:21:03 → 00:21:06 สร้างกำแพงไว้ป้องกันโรคภัยต่างๆคือใช่
00:21:06 → 00:21:08 ให้เขาคแข็งแรงเข้าไว้มันคือมันเป็นฐาน
00:21:08 → 00:21:11 รากสำคัญเหมือนกันนะคุณหมอที่คุณหมอแนะนำ
00:21:11 → 00:21:15 เนี่ยของโลกทุกโรคบนโลกใบนี้เลยนะใช่การ
00:21:15 → 00:21:17 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเนี่ยมันเหมือนเหมือน
00:21:17 → 00:21:20 ง่ายนะคะด้วยหลักการแต่ว่าสิ่งที่ยากคือ
00:21:20 → 00:21:23 ทำยังไงให้มันทำได้จนติดเป็นนิสัยของเรา
00:21:23 → 00:21:26 อันเนี้ยจริงที่หมอจะแนะนำคนไข้โดยเฉพาะ
00:21:26 → 00:21:28 เรื่องการออกกำลังกายเนี่ยคนไข้ก็จะชอบ
00:21:28 → 00:21:32 บอกว่าเอมันไม่มีเวลาน่ะหมอแล้วก็อะไก็าก
00:21:32 → 00:21:34 ว่าแล้ววันนึงเราเล่นมือถือนี้เราใช้เวลา
00:21:34 → 00:21:36 เล่นมือถือนาทีกี่ชั่วโมงคะอะไรอย่าง
00:21:36 → 00:21:39 เงี้ยเราก็อาจจะเอ่อเค้าเรียกสทำไมมีเวลา
00:21:39 → 00:21:43 ได้เนาะใช่ก็คือถ้าเราห่าเราแนะนำคนไข้
00:21:43 → 00:21:45 ให้รู้ถึงความตระหนักถึงความสำคัญเนี่ย
00:21:45 → 00:21:48 เราเก็จะเซตเป็น priority ก็คือเขาก็จะ
00:21:48 → 00:21:51 แบ่งเวลามาออกกำลังกายซึ่งส่วนใหญ่หมอจะ
00:21:51 → 00:21:52 แนะนำว่ามันไม่จำเป็นต้องไปเข้ายิมเป็น
00:21:52 → 00:21:56 ชั่วโมงนะก็คือสามารถที่จะค่อยๆสะสมเช่น
00:21:56 → 00:21:59 วันนี้มี 10 นาที 15 นาทีคุณก็ทำไปก่อน
00:21:59 → 00:22:00 นะคะเพื่อให้มันเหมือนเป็นกิจวัตรประจำ
00:22:00 → 00:22:02 วันเหมือนเราเหมือนกับเราตื่นมาต้องอาบ
00:22:02 → 00:22:05 น้ำรับประทานอาหารเป็นต้นเงี้ยค่ะอันนี้
00:22:05 → 00:22:07 ก็เป็นสิ่งที่จะทำให้มันเป็นสิ่งที่ติด
00:22:07 → 00:22:09 ตัวเราหรือไม่การเลือกรับประทานอาหาร
00:22:09 → 00:22:12 เนี่ยมันก็ต้องยิงยาวก็คือใช้การปรับตัว
00:22:12 → 00:22:16 ใช้ระยะเวลาในการปรับเช่นเดียวกันค่ะเรา
00:22:16 → 00:22:19 สะสมในการออกกำลังกายได้อย่างคุณหมอบอก 10
00:22:19 → 00:22:22 นาที 15 นาทีใชแต่ขอให้ครบ 150 นาทีแล้ว
00:22:22 → 00:22:26 กันใช่มั้ยคะอืใช่ค่ะหรือบางคนบอกว่าเอ๊ย
00:22:26 → 00:22:28 ไม่มีเวลาออกกำลังกายก็จะแนะนำว่าให้ให้
00:22:28 → 00:22:32 Active มากขึ้นระหว่างวเช่นเ่อถ้าจะต้อง
00:22:32 → 00:22:34 ขึ้นลิฟตชั้น 2 ชั้นอ่ะเดินขึ้นบันไดได้
00:22:34 → 00:22:38 มั้ยหรือจอดรถไกลหน่อยจะได้แบบเดินให้มี
00:22:38 → 00:22:41 เวลาให้เราเดินให้ลุกยืนให้เดินมากขึ้น
00:22:41 → 00:22:43 ระหว่างวันหรือบางคนก็เป็นกุสโลบายก็คือ
00:22:43 → 00:22:46 เดิน 19000 เแหละค่ะที่จะเป็นตัวที่บอก
00:22:46 → 00:22:48 ว่าเออเรา Active Lifestyle นะทำให้เรา
00:22:48 → 00:22:51 เอ่อก็มันก็มีการศึกษาว่าในคนที่ Active
00:22:51 → 00:22:55 Lifestyle เงเดินมากขึ้นนะคะยืนมากขึ้น
00:22:55 → 00:22:58 ก็มีผลดีกว่าคนที่นั่งๆนอนๆหรือว่าไม่
00:22:58 → 00:23:01 ค่อยได้ลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวร่างกายค่ะคือ
00:23:01 → 00:23:05 มันกลายเป็นธงของคนในยุคเอ่อในในในคนรุ่น
00:23:05 → 00:23:08 ใหม่แล้วกันอ่ายุคโซเชียลงงเนี่ยคือแบบ
00:23:08 → 00:23:12 อย่างน้อยต้องให้ได้วันละ 10,000 เออ
00:23:12 → 00:23:16 เนี่ยแต่พี่พี่ว่ามันก็ไม่ถึงนะมันมันไม่
00:23:16 → 00:23:18 ใช่เรื่องง่ายเหมือนกันนะ 10,000 ในแต่ละ
00:23:18 → 00:23:21 วันเนี่ยใช่ๆเยอะเยอะเหมือนกันเยอะเหมือน
00:23:21 → 00:23:24 กันครับผมคุณหมอคือถ้าถ้าคนที่มีภาวะหัว
00:23:24 → 00:23:27 ใจโตเมื่อสักครู่เนี่ยคุณหมอได้ได้กล่าว
00:23:27 → 00:23:31 ทิ้งท้ายไว้สั้นๆว่าว่าถ้าไปทำการรักษาไป
00:23:31 → 00:23:35 เจอภาวะนี้ว่ามันมีความเสี่ยงเราสามารถ
00:23:35 → 00:23:39 รักษาให้หายขาดได้มันต้องใช้ระยะเวลามัน
00:23:39 → 00:23:42 ใช้วิธีการในการรักษากันยุ่งยากขนาดไหน
00:23:42 → 00:23:44 มั้ยครับคุณหมอครับกับภาวะหัวใจโตเนี่ยนะ
00:23:44 → 00:23:48 ฮะค่ะก็คือการรักษาหัวใจตัวเบื้องต้นก็
00:23:48 → 00:23:50 คือต้องหาสาเหตุให้ได้ก่อนว่าโรคนั้นเป็น
00:23:50 → 00:23:54 จากอะไรเช่นถ้าเป็นจากโรคอ้วนโรคความแดน
00:23:54 → 00:23:57 โรหิตสูงก็อาจจะต้องไปอโรคอ้วนก็เช่นกับ
00:23:57 → 00:23:59 ไปปรึกษาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเพื่อเ่อทำการ
00:23:59 → 00:24:01 ลดน้ำหนักซึ่งเดี๋ยวเนี้ยมันมีการวิธีการ
00:24:01 → 00:24:04 ลดน้ำหนักหลายแบบนะคะคือถ้าเป็นโรคความ
00:24:04 → 00:24:06 แดันโลหิตสูงก็คุมความดันแต่ถ้าคนไข้เป็น
00:24:07 → 00:24:09 โรคเช่นรอดหลอดเลือดหลอดเลือดหัวใจตีบก็
00:24:09 → 00:24:11 จะต้องไปรักษาทั้งนั้นหลอดเลือดหัวใจตีบ
00:24:11 → 00:24:15 ก็มีทั้งรับประทานยาการส่วนหัวใจการผ่าตั
00:24:15 → 00:24:17 แต่ถ้าเป็นโรคที่เกี่เกี่ยวกับลิ้นหัวใจ
00:24:17 → 00:24:19 ทำงานผิดปกติเช่นรั่วรุ้นแรงหรือตีบ
00:24:19 → 00:24:21 รุนแรงอันนี้ก็อาจจะต้องเป็นการผ่าตั่นนะ
00:24:21 → 00:24:26 คะแล้วก็การรักษานะคะเบื้องต้นนะคะก็คือ
00:24:26 → 00:24:29 บางโรคก็อาจจะเป็นการรักษาด้วยาบางโรคก็
00:24:29 → 00:24:31 อาจจะไม่ต้องรักษาด้วยยาบางโรคอาจจะต้อง
00:24:31 → 00:24:34 ผ่าตัดหรือบางโรคอาจจะต้องสูดหัวใจซึ่ง
00:24:34 → 00:24:38 อันเนี้ยดีเทลอ่ะมันแล้วแต่ว่าไปตรวจว่า
00:24:38 → 00:24:41 สาเหตุของหัวใจโตคืออะไรค่ะมันจะไม่
00:24:41 → 00:24:43 สามารถสรุปได้แบบเป็นสูตร 1 2 3 นะคะ
00:24:43 → 00:24:46 อันนี้ก็จะมีความหลากหลายของโรคค่ะอืก็
00:24:46 → 00:24:50 ต้องไปตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงว่าอือมันมา
00:24:50 → 00:24:54 จากภาวะอะไรสาเหตุอะไรเป็นหลักเนาะอื
00:24:54 → 00:24:57 เมื่อต้องก้าวเข้าสู่การรักษาเนี่ยมันจะ
00:24:57 → 00:25:00 นำไปสู่การผัดแต่ทุกรายหรือไม่คะคุณหมอค
00:25:00 → 00:25:03 หรือว่ากินยาก็หายได้ค่ะอ๋อไม่ไม่เลยค่ะ
00:25:03 → 00:25:06 เออบางบางรายเนี่ยอาจจะรับประทานยานะคะ
00:25:06 → 00:25:09 แล้วก็อาการก็ดีขึ้นนะคะเอไม่จำเป็นที่จะ
00:25:09 → 00:25:12 ต้องไปผ่าตัดทุกรายเพราะว่าโรคบางโรคเป็น
00:25:12 → 00:25:14 โรคที่รักษาด้วยยาโรคบางโรคเป็นโรคที่
00:25:14 → 00:25:18 รักษาด้วยการผ่าตัดเป็นต้นนะคะแล้วก็บาง
00:25:18 → 00:25:21 ภาวะเช่นเอ่อถ้าเขาเป็นจากโรคอ้วนก็อาจจะ
00:25:21 → 00:25:24 ไปรักษาโรคอ้วนภาวะหัวใจโตอาจจะดีขึ้น
00:25:24 → 00:25:27 อย่างเงี้ย่ะค่ะก็คือการบางแผนการรักษา
00:25:27 → 00:25:29 เนี่ยก็จะต้องสอดคล้องกับโรคประจำตัวที่
00:25:29 → 00:25:33 คนไข้เป็นแล้วก็สาเหตุค่ะเพราะฉะนั้น
00:25:33 → 00:25:35 เนี่ยก็คืออ่าไม่ต้องกังวลว่าเอ้ยทุกคนจะ
00:25:35 → 00:25:38 ต้องไปผ่าตัดหรืออะไรนะคะแต่เบื้องต้น
00:25:38 → 00:25:40 เนี่ยก็คือเราดูแลเอ่อพฤติกรรมสุขภาพให้
00:25:40 → 00:25:43 ดีไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรโดยหลักการในการดู
00:25:43 → 00:25:45 แลสุขภาพเนี่ยก็เช่นเดียวกันนะคะแล้วก็
00:25:45 → 00:25:48 เอ่อไปปรึกษาคุณหมอแล้วก็เอ่อรับประทานยา
00:25:48 → 00:25:51 ตามคุณหมอแนะนำเพราะบางโรคเนี่ยก็อาจจะดี
00:25:51 → 00:25:54 ขึ้นนะคะดีขึ้นแล้วก็หัวใจที่โตก็อาจจะ
00:25:54 → 00:25:57 กลับมาเป็นขนาดปกติหรือการทำงานหัวใจก็
00:25:57 → 00:26:00 กลับมาเป็นปกติได้ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะต้อง
00:26:00 → 00:26:03 ไปหัวใจโตแล้ววิตกกังวลอะไรเป็นภาวะหัวใจ
00:26:03 → 00:26:06 โตที่เราก็ปรับน้ำหนักของเราแล้วก็ปรับ
00:26:06 → 00:26:08 การออกกำลังแล้วก็เรื่องของอาหารเนี่ย
00:26:09 → 00:26:13 สำคัญขนาดไหนคะคุณหมอลดอาหารหวานมันอือ
00:26:13 → 00:26:16 ใช่ก็ลดหวานมันเค็มอ่ะค่ะก็จะมีอาหารเ่ะ
00:26:16 → 00:26:19 ตามเอ่อตามสุขภาพของเราเนี่ยก็คือไม่ควร
00:26:19 → 00:26:22 จะรับประทานอาหารที่เค็มเกินไปนะคะหรือ
00:26:22 → 00:26:24 อาหารแปรรูปเพราะว่าอันนี้ก็จะอาจจะเป็น
00:26:24 → 00:26:28 สาเหตุทำให้มีเกลือคั่งน้ำคั่งมีอาการวง
00:26:28 → 00:26:30 น้หรือทำให้ความดันรเหตสูงซึ่งก็นำไปสู่
00:26:30 → 00:26:34 ภาวะหัวใจโตได้นะคะพยายามเลี่ยงอาหารที่
00:26:34 → 00:26:37 ผ่านขบวนการให้น้อยไม่ใช่อาหารแปรรูปนะคะ
00:26:37 → 00:26:40 อันนี้ก็สำคัญส่วนอาหารมันเนี่ยนะคะอาหาร
00:26:40 → 00:26:43 มันหรืออาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูงเช่นไข
00:26:43 → 00:26:47 มันจากสัตว์ของทอดนะคะอันเนี้ยเอ่อไขมัน
00:26:47 → 00:26:50 สูงอ่ะเอ่อไขมันสูงเนี่ยไม่ได้ทำให้หัวใจ
00:26:50 → 00:26:52 โตแต่ไขมันสูงอาจจะไปอุดตันหลอดเลื่อนหัว
00:26:52 → 00:26:55 ใจทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดทำให้หัว
00:26:55 → 00:26:58 ใจทำงานแย่ลงก็นำไปสู่ภาวะหัวใจโตเป็นต้น
00:26:58 → 00:27:01 เงี้ยค่ะอนะคะส่วนเบาหวานเนี่ยในเบาหวาน
00:27:01 → 00:27:05 เนี่ยนะคะเอ่อน้ำตาลเนี่ยนะคะเอ่อเราก็จะ
00:27:05 → 00:27:08 แนะนำให้เอ่อจำกัดการรับประทานน้ำตาลที่
00:27:08 → 00:27:11 เป็นน้ำตาลที่เชิงเดี่ยวก็คือเช่นน้ำหวาน
00:27:11 → 00:27:14 น้ำตาลเลยการปรุงอาหารด้วยน้ำตาลเนื่อง
00:27:14 → 00:27:18 จากว่าเอ่อภาวะที่น้ำตาลสูงทำให้เอ่อใน
00:27:18 → 00:27:20 บางคนมีความเสี่ยงที่เป็นบาหวั่นอยู่แล้ว
00:27:20 → 00:27:22 ทำให้ดื้ออินซูลินเพิ่มขึ้นเอพัฒนาไปสู่
00:27:22 → 00:27:25 ภาวะเบาหวานได้หรือคนที่เป็นเบาหวานก็อาจ
00:27:25 → 00:27:28 จะทำให้คุมได้ยากขึ้นเราก็จะแนะนำทำให้
00:27:28 → 00:27:30 รับประทานอาหารที่เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิง
00:27:30 → 00:27:34 ซ้อนเช่นข้าวกล้องอืนะคะขนมปังไม่ขัดสี
00:27:34 → 00:27:36 อันนี้จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเนี่ยมัน
00:27:37 → 00:27:40 จะค่อยๆปล่อยมาทำให้ร่างกายเนี่ยปรับตัว
00:27:40 → 00:27:43 นะคะในการควบคุมน้ำตาลได้ดีขึ้นอันนี้ก็
00:27:43 → 00:27:45 จะเป็นหลักการดูแลสุขภาพโดยทั่วไปด้วย
00:27:45 → 00:27:48 อาหารนะคะแล้วก็รับประทานอาหารที่มีเ่อ
00:27:48 → 00:27:53 ไฟเบอร์เช่นเอ่อผักนะคะให้มีความหลากหลาย
00:27:53 → 00:27:56 โดยพื้นฐานก็คือการรับประทานอาหาร 5 หมุม
00:27:56 → 00:27:59 อ่ะค่ะที่เอ่อหมุนปเอ่อหมุนเวียนแล้วก็
00:27:59 → 00:28:01 ได้อาหารครบทุกทุกหมูที่ร่างกายต้องการ
00:28:01 → 00:28:04 ค่ะอืมันเกี่ยวพันกันไปหมดเลยเนาเรื่อง
00:28:05 → 00:28:09 ของอาหารเรื่องของพนเออนำไปสู่เรื่องหัว
00:28:09 → 00:28:12 ใจที่ต้องทำงานสัมพันธ์กันมากๆเลยมาถึง
00:28:12 → 00:28:15 เรื่องการออกกำลังกายบางคนเขาก็มีประเด็น
00:28:15 → 00:28:18 ว่าออกกำลังกายหนักเกินไปค่ะคุณหมอเขาก็
00:28:18 → 00:28:22 เสี่ยงต่อการเกิดหัวใจโตจริงจริงเหรอคะอ
00:28:22 → 00:28:25 มันต้องเป็นระดับนักกีฬาเลยนะค่ะอืถ้าถ้า
00:28:25 → 00:28:28 เราออกกำลังกายอย่างที่บอกว่าอ่ะอออก
00:28:28 → 00:28:30 กำลังกายที่มีความเข้มข้นปานกลางซัก
00:28:30 → 00:28:33 ประมาณ 150 นาทีค่ะอันเนี้ยไม่ถือว่าเยอะ
00:28:33 → 00:28:37 เอ่อในบางตำราหรือว่าบางการศึกษาเนี่ยก็
00:28:37 → 00:28:40 คือได้ถึง 300 นาทีต่อสัปดาห์เลยนะคะก็จะ
00:28:40 → 00:28:44 ยิ่งดีก็คือการออกกำลังกายนะคะแล้วก็มี
00:28:44 → 00:28:46 การออกกำลังกายอีกวิธีนึงก็คือ High
00:28:46 → 00:28:48 intensity ก็คือการออกกำลังกายที่เข้ม
00:28:48 → 00:28:52 ข้นมากหน่อยค่ะนะคะเช่นออกกำลังกายจนแบบ
00:28:52 → 00:28:53 รู้สึกเหนื่อยจนแบบโอหพูดเป็นประโยคไม่
00:28:54 → 00:28:57 ได้เลยเป็นคำๆอันเนี้ยเวลาที่เราแนะนำก็
00:28:57 → 00:28:59 จะลดลงเหลือประมาณ 75 นาทีต่อสัปดาห์คือ
00:29:00 → 00:29:02 บางคนไม่มีเวลาเาก็ต้องการแบบเอ่อเหนื่อย
00:29:02 → 00:29:06 ๆสั้นๆนะคะแต่จริงๆการออกกำลังกายในแต่ละ
00:29:06 → 00:29:08 คนเนี่ยถ้าถ้ามีโรคประจำตัวนะคะแนะนำให้
00:29:08 → 00:29:11 สอบถามคุณหมอว่าเออเขาเหมาะกับวิธีไหน
00:29:11 → 00:29:14 เนี่ยบางคนที่มีปัญหาเรื่องข้อต่อก็อาจจะ
00:29:14 → 00:29:16 เป็นเอ่อคาร์ดิโอหรือแอโรบิไม่ได้เพราะ
00:29:16 → 00:29:18 ว่าต้องกระแทกเงี้เป็นต้นนะคะก็อาจจะต้อง
00:29:18 → 00:29:21 ไปปรับนะคะเช่นออกกำลังกายในน้ำอะไรอย่าง
00:29:21 → 00:29:24 เงี้ยค่ะในในน้ำก็คือเช่นเดินในน้ำหรือ
00:29:24 → 00:29:26 ว่ายน้ำอันนี้ก็จะช่วยในคนที่มีปัญหาปวด
00:29:26 → 00:29:30 ข้อปวดเข่าข้อต่อได้ซึ่งซึการออกกำลังกาย
00:29:30 → 00:29:32 ในคนที่มีโรคประจำตัวอาจจะแนะนำให้ปรึกษา
00:29:33 → 00:29:35 คุณหมอนะคะว่าทำได้มากน้อยแค่ไหนที่เหมาะ
00:29:35 → 00:29:39 สมนึกนึกภาพของการออกกำลังกายที่ที่มาก
00:29:39 → 00:29:41 อย่างที่คุณหมอบอกเช่นสมมุติว่าวิ่งที่
00:29:41 → 00:29:44 ลู่แล้วก็จะเร่งสปีดให้เยอะอย่างงั้นลหาย
00:29:44 → 00:29:47 ใจเหนื่อยๆใชมคะแล้วก็สลับกับกับช้าลง
00:29:47 → 00:29:50 อย่างเงี้ยก็สามารถทำได้แต่ว่าไม่ควรที่
00:29:50 → 00:29:53 จะไปเร่งให้มากนานขนาดเกินไปใช่มั้ยคะใช่
00:29:54 → 00:29:55 ๆเเรียกว่าเป็น interval Exercise ค่ะ
00:29:55 → 00:29:58 เราอาจจะเร่งสักพักนึงพอเริ่มรู้สึกอ่ะ
00:29:58 → 00:30:01 ไม่ไหวลแล้วก็ผ่อนแล้วก็ผ่อนให้มันเบา
00:30:01 → 00:30:03 แล้วก็อาจจะเร่งแล้วเเป็น interval อย่าง
00:30:03 → 00:30:06 นี้ก็ได้ค่ะอืสลับไปแต่ไม่ต้องว่าหายใจ
00:30:06 → 00:30:08 ไม่ทันไม่ทันอย่างงั้นบางคนจะจะเเรียกว่า
00:30:08 → 00:30:09 ซาดิ
00:30:09 → 00:30:12 อ่ะเคคิดว่าเคแข็งแรงอาจจะเป็นหนุ่มสาื
00:30:12 → 00:30:15 เกินไปก็ไม่ดีนะคะต้องต้องต้องเ่อเข้า
00:30:15 → 00:30:17 เรียกว่าสังเกตร่างกายเราด้วยว่าไหวแค่
00:30:17 → 00:30:19 ไหนแล้วก็อีกอันนึงคือถ้ามีเวลาอีกก็แนะ
00:30:19 → 00:30:23 นำว่าเป็นพวกการทำ resistance Exercise
00:30:23 → 00:30:25 ก็คือการเช่นอ่ะยกตัวอย่างเช่นการยก
00:30:25 → 00:30:28 ดัมเบลยกเทอืก็จะทำให้เสริมสร้างกล้าม
00:30:28 → 00:30:31 เนื้อนะคะก็จะทำให้การทรงตัวดีขึ้นการเผา
00:30:31 → 00:30:35 ผายดีขึ้นนะคะแล้วก็ทำให้เราอ้วนยากกว่า
00:30:35 → 00:30:38 เดิมนะคะอือนยากถ้าเบื้องต้นก็คืออาจจะ
00:30:38 → 00:30:41 ต้องไปอ่าบางคนอาจจะใช้ตัวแบนดก็คือเป็น
00:30:41 → 00:30:44 ยางครับอยางยืดที่ที่ให้มันมีแรงตั้งหรือ
00:30:44 → 00:30:46 บางคนอาจจะใช้ดัมเบลหรือว่าอาจจะบางคนอาจ
00:30:47 → 00:30:50 จะไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในแง่ของการอ่าการ
00:30:50 → 00:30:54 ออกแบบเ่อการออกกำลังกายให้เหมาะสมค่ะอื
00:30:54 → 00:30:56 เพราะว่ายิ่งอายุเยอะกล้ามเนื้อมันก็ยิ่ง
00:30:56 → 00:31:00 หดหายไปค่ะเพะฉาคต้องเสรมสร้างกล้ามเนื้อ
00:31:00 → 00:31:04 ใชทั้งเทด้วยไนกหายไปหมดหือยังครับอุ้ย
00:31:04 → 00:31:07 กำลังดีค่ะอ๋อโอเคกำลังดีนะฮะแต่ให้หัวใจ
00:31:07 → 00:31:10 ทำงานหนักเี่ไม่ทำนะง่ายๆก็ทำท่าสคอก็ได้
00:31:10 → 00:31:12 ค่ะก็คือท่านั่งเก้าอี้เราเนี่ยก็ก็อัน
00:31:12 → 00:31:14 นี้ก็เป็นการฝึกกล้ามเนื้อมัดใหญ่ก็จะ
00:31:14 → 00:31:16 ช่วยให้การทรงตัวดีขึ้นแล้วก็กล้ามเนื้อ
00:31:16 → 00:31:18 เราก็ไม่ไม่ฝอเรวแล้วก็ต้องทานโปรตีนให้
00:31:18 → 00:31:22 พออนะคะอืโปรตีนค่ะ้อนี่หัวใจเต้นดีมาก
00:31:22 → 00:31:25 เลยนะครับหัวใจเต้นหัวใจเต้นแบบว่าตุบตับ
00:31:25 → 00:31:26 ๆตับมาก
00:31:26 → 00:31:29 เลยนานไม่
00:31:29 → 00:31:33 นานครั้งละเซตละ 10-1 ครั้งไงพี่นกแต่ว่า
00:31:33 → 00:31:35 ทำติดเอ่อแบบ 4 เซต 5 เซตอะไรอย่าเงี้ย
00:31:35 → 00:31:38 กล้านเนื้อยังยังโอคาโอดีมากเลยจะบอกให้
00:31:38 → 00:31:41 ต้นขาดีมากเลยนะฮะคุณหมอมีคุณผู้ฟังสอบ
00:31:41 → 00:31:43 ถามมาเหมือนกันครับเมื่อกี้เอ่อคุณหมอพูด
00:31:43 → 00:31:46 ถึงเรื่องของท่านอนด้วยเอ่ออยากจะถามว่า
00:31:46 → 00:31:50 ไอ้เมื่อมีภาวะหัวใจโตเนี่ยไอ้การนอน
00:31:50 → 00:31:53 ตะแคงเนี่ยจำเป็นมั้ยครับว่าจะต้องตะแคง
00:31:53 → 00:31:56 ซ้ายหรือตะแคงขวาดีฮะคุณหมอเอหัวใจอยู่
00:31:56 → 00:32:00 ตรงไหนคุณหมอจริงๆถ้าปกติแล้วมันไม่ได้
00:32:00 → 00:32:03 ท่าไนข้างไหนก็ได้นะคะเพราะว่าหัวใจอ่ะ
00:32:03 → 00:32:07 มันไม่ไม่มันมันไม่กรีบไปกลิ้งมาเนาะตัว
00:32:07 → 00:32:10 ใ้จะอยู่ตรงกลางหน้าอกเยิงไปทางซ้ายนิด
00:32:10 → 00:32:14 หน่อยแล้วก็จะมีการเอ่อยึดด้วยตัวมันจะ
00:32:14 → 00:32:17 อยู่กลางปอดแล้วก็จะมีเนื้อเยื่อมาหุ้ม
00:32:17 → 00:32:19 ห่อหุ้มอีกทีนึงเพราะฉะนั้นในการเราพลิก
00:32:19 → 00:32:22 ตะแคงมันไม่ได้ส่งผลอไม่นอนทับหัวใจให้
00:32:22 → 00:32:25 มันไปนอนทับหรืออะไรเงี้ยไม่ไม่ใช่แต่ว่า
00:32:25 → 00:32:27 ในคนที่หัวใจร่มเดวที่ได้อธิบายไปเมื่อ
00:32:27 → 00:32:31 ตอนต้นก็คือเอ่อนอนราบไม่ได้เค้าจะต้อง
00:32:31 → 00:32:33 นอนหัวสูงก็คือเช่นอาจจะต้องหนุนหมอน 2-3
00:32:33 → 00:32:35 ใบหรือบางคนต้องนั่งหลับอย่างเงี้ยค่ะอัน
00:32:35 → 00:32:38 เนี้ยผิดปกติแน่นอนอันนั้นมันการไหลเวียน
00:32:38 → 00:32:42 ของเค้าใช่มั้ยคะใช่ค่ะออืเพราะฉะนั้นก็
00:32:42 → 00:32:45 นอนแต่สังเกตดูจะไปขวานี่จะสบายกว่านะคะ
00:32:45 → 00:32:49 คุณมอเราคิดแบบดั้งเดิมจริงๆแล้วแต่ของบอ
00:32:49 → 00:32:52 นี่ชอบซ้ายอ้าเหรอคแล้วแต่ความชินเหรอเออ
00:32:52 → 00:32:54 แล้วแต่แล้วแต่บางคนเนาแล้วแต่บางคนว่า
00:32:54 → 00:32:59 เอ่อถนัดทางไหนนอนตรงไหนสบายมากกว่าใช่
00:32:59 → 00:33:01 ใช่คุณหมอครับช่วงท้ายแล้วครับคุณหมอครับ
00:33:01 → 00:33:04 อยากจะให้เอ่อคุณหมอรบกวนฝากทิ้งท้าย
00:33:04 → 00:33:07 เกี่ยวกับเรื่องของภาวะหัวใจโตให้กับคุณ
00:33:07 → 00:33:10 ผู้ฟังรายการของเรานิดนึงว่าอ่ะเอ่อถ้า
00:33:10 → 00:33:14 ใครมีภาวะนี้แล้วเนี่ยมันก็ไม่ได้เป็น
00:33:14 → 00:33:17 อะไรที่น่ากลัวน่าวิตกกังวลขนาดนั้นรวม
00:33:17 → 00:33:21 ทั้งคนที่อาจจะยังไม่มีภาวะนี้เอ่อควรจะ
00:33:21 → 00:33:23 ต้องหันมาใส่ใจดูแลตัวเองกันยังไงดีครับ
00:33:23 → 00:33:26 คุณหมอครับค่ะค่ะเบื้องต้นก็คืออย่าง
00:33:26 → 00:33:28 อย่างที่เน้นย้ำนะคะว่าเรื่องพฤติกรรม
00:33:28 → 00:33:31 สุขภาพที่ดีนะคะอาหารการกินการออกกำลัง
00:33:31 → 00:33:35 กายพักผ่อนให้เพียงพอนะคะอันเนี้ยเป็นกน
00:33:35 → 00:33:37 เอ่อเป็นคีย์หลักที่สำคัญในการดูแลสุขภาพ
00:33:37 → 00:33:39 เลยนะคะแล้วก็เมื่อไหร่ก็แล้วแต่ที่มัน
00:33:39 → 00:33:41 อาจจะเกิดโรคด้วยอาจจะเป็นความเสื่อมของ
00:33:42 → 00:33:44 ร่างกายหรือโรคบางอย่างที่เราอาจจะหลีก
00:33:44 → 00:33:47 เลี่ยงไม่ได้ก็ถ้าเริ่มมีอาการก็ให้แนะนำ
00:33:47 → 00:33:50 อ่าไปพบคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเพื่อสืบพ้นว่า
00:33:50 → 00:33:53 สาเหตุที่แท้จริงคืออะไรนะคะแล้วก็ไม่
00:33:53 → 00:33:55 ต้องกลัวเนื่องจากว่าเอ่อการรับษาเนี่ย
00:33:56 → 00:33:58 มันค่อนข้างมีความหลากหลายอยู่ที่โรคนะคะ
00:33:58 → 00:34:01 เอ่ออาจจะบางบางกรณีก็อาจจะแค่ปรับเปื่อน
00:34:01 → 00:34:03 พฤติกรรมแล้วก็ดีขึ้นบางกรณีอาจจะรับ
00:34:03 → 00:34:06 ประทานแค่ยาอนะคะแต่ถ้าสมมุติว่าจะต้องนำ
00:34:06 → 00:34:10 ไปสู่เช่นการผ่าตัดเนี่ยก็ส่วนใหญ่คุณหมอ
00:34:10 → 00:34:13 เขาก็จะต้องตรวจอย่างละเอียดที่แน่นอน
00:34:13 → 00:34:15 แล้วว่าอาจจะต้องไปลงเอยด้วยกันเอ่อไปผ่า
00:34:15 → 00:34:18 ตัดหรือว่าการส่วนหัวใจเป็นต้นอย่าเงี้ย
00:34:18 → 00:34:20 ค่ะก็ยังอยากให้ทุกท่านเนี่ยเบื้องต้นคือ
00:34:21 → 00:34:23 ดูแลสุขภาพแล้วก็ถ้ามีอาการที่ผิดปกตินะ
00:34:23 → 00:34:26 ก็ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญนะคะเพื่อที่จะนำ
00:34:26 → 00:34:28 ไปสู่การวางแผนการรักษาที่ถูกถูกต้องและ
00:34:28 → 00:34:32 เหมาะสมค่ะอืสบายๆเนาะอย่างคุณหมอเล่าอ่ะ
00:34:32 → 00:34:34 ไม่ใช่ว่ามีการรักษาที่ผ่าตัดอะไรขนาด
00:34:34 → 00:34:37 นั้นคุณหมอปรับพฤติกรรมหรือว่ามีทานยา
00:34:37 → 00:34:40 หมั่นสังเกตอืสังเกตตัวเองอารของตัวเอง
00:34:40 → 00:34:42 ใช่่ครับวันนี้ต้องขอกราบขอบพระคุณคุณหมอ
00:34:42 → 00:34:44 มากๆเลยนะครับที่มาให้ความรู้กับเราในค่ำ
00:34:44 → 00:34:47 คืนวันนี้ขอบพระคุณคุณหมอมากๆนะครับส
00:34:47 → 00:34:49 สวัสดีครับคุณหมอขอบพระคุณมากๆนะครับคุณ
00:34:49 → 00:34:53 หมอครับค่ะ
00:00:00 → 00:00:02 ก่อนอื่นถามคุณหมอก่อนเลยครับว่าไอ้ภาวะ
00:00:02 → 00:00:05 ที่เรียกว่าหัวใจโตเนี่ยมันเป็นความหมาย
00:00:05 → 00:00:09 เดียวกับการที่เราหัวใจพองโตหัวใจฟ้องฟูป
00:00:09 → 00:00:14 ครับคุณหมอครับค่ะก็เบื้องต้นนะคะภาว่า
00:00:14 → 00:00:17 หัวใจโตเนี่ยมันยังไม่ใช่โรคนะคะเป็นภาวะ
00:00:17 → 00:00:20 ที่หัวใจของเราเนี่ยมันมีขนาดที่ใหญ่กว่า
00:00:20 → 00:00:23 ปกติค่ะซึ่งขนาดที่ใหญ่ขึ้นเนี่ยอาจจะ
00:00:23 → 00:00:26 เป็นเพราะเอ่อหัวใจเนี่ยมันมีขยายขนาด
00:00:26 → 00:00:29 หรือในบางกรณีเนี่ยก็อาจจะเกิดจากกล้าม
00:00:29 → 00:00:32 เนืหัวใจที่หนาทำให้ดูโดยรวมเนี่ยภาวะ
00:00:32 → 00:00:35 เนี้ยทำให้หัวใจโตมากกว่าปกติซึ่งจริงๆ
00:00:35 → 00:00:38 แล้วเนี่ยเราต้องสืบค้นหาสาเหตุเร่มเพิ่ม
00:00:38 → 00:00:40 เติมค่ะว่าสาเหตุที่ทำให้หัวใจโตเนี่ย
00:00:40 → 00:00:44 ประกอบด้วยเจากภาวะหรือว่าเป็นเหตุจาก
00:00:44 → 00:00:46 ภาวะหัวใจอื่นๆหรือว่ามีโรคอื่นๆที่ทำให้
00:00:46 → 00:00:51 หัวใจโตหรือไม่ค่ะอืเอ่อหัวใจของคนเรา
00:00:51 → 00:00:54 ปกติตามที่เรามักจะได้ยินมักจะได้ยินกัน
00:00:54 → 00:00:56 ตั้งแต่เด็กๆเลยคุณหมอครับไม่รู้ว่าณ
00:00:56 → 00:00:58 ปัจจุบันเนี่ยมันมันยังใช้ได้อยู่หรือ
00:00:58 → 00:01:00 เปล่าก็คือเท่ากับกำปั้นของเราเองเนี่ย
00:01:00 → 00:01:02 คืออันนี้คือขนาดหัวใจของแต่ละบุคคลหรือ
00:01:02 → 00:01:05 เปล่าครับคุณหมอครับจริค่ะจริงๆก็ก็
00:01:05 → 00:01:07 ประมาณนั้นนะคะเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายเอ่อ
00:01:07 → 00:01:10 แล้วก็จะคนที่ตัวเล็กกับคนที่ตัวใหญ่
00:01:10 → 00:01:12 เนี่ยขนาดหัวใจก็จะไม่เท่ากันเนื่องจาก
00:01:12 → 00:01:15 ว่าถ้าคนที่ตัวใหญ่ร่างใหญ่กว่าคนตัวเล็ก
00:01:15 → 00:01:17 เนี่ยหัวใจก็ต้องมีขนาดที่สอดคล้องกับ
00:01:17 → 00:01:21 ขนาดของตัวเพื่อที่จะทำการสูบฉีดโลหิตจะ
00:01:21 → 00:01:24 เลี้ยงร่างกายให้เพียงพอค่ะค่ะก็โดยโดย
00:01:24 → 00:01:26 ทั่วไปก็คืออาจจะเข้าใจก็เข้าใจได้ว่า
00:01:26 → 00:01:29 ประมาณเท่ากับกำปั้นของคนๆนั้นนะคะแต่
00:01:29 → 00:01:32 จริงๆแล้วเนี่ยเนี่ยเราจะเอ่อทางทางแพทย์
00:01:32 → 00:01:35 เนี่ยก็จะต้องมีการเอ่อตรวจเพิ่มเติม
00:01:35 → 00:01:38 เพื่อคอนเฟิร์มนะคะว่าขณะเนี้ยโตกว่าปกติ
00:01:38 → 00:01:42 หรือไม่ค่ะอืเมื่อเราตั้งแต่เด็กมาจน
00:01:42 → 00:01:45 กระทั่งเราโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็เราสูงไว
00:01:45 → 00:01:47 ค่ะคุณหมอหัวใจเราเปลี่ยนแปลงขนาดมั้ยคะ
00:01:47 → 00:01:51 อืเออมันก็โตขึ้นตามตัวแต่ว่ามันก็จะมี
00:01:51 → 00:01:54 ขนาดที่เหมาะสมกับขนาดของร่างกายเมื่อโต
00:01:54 → 00:01:57 เต็มที่แล้วอ่ะนะคะซึ่งเอ่อภาวะหัวใจโต
00:01:57 → 00:02:00 เนี่ยนะคะอย่างที่บอกว่ามันอาจจะเป็น
00:02:00 → 00:02:03 ภาวะที่เกิดจาก 1 ก็คือกล้ามเนื้ออาจจะ
00:02:03 → 00:02:06 หนากว่าปกติเช่นอาจจะเจอในคนที่เอ่อสูบ
00:02:06 → 00:02:10 อายุที่เริ่มมีความดาโลหิตสูงมานานๆนะคะ
00:02:10 → 00:02:13 หรือมีภาวะของลิ้นหัวใจอาจจะมีรั่วหรือ
00:02:13 → 00:02:16 ว่าตินะคะเอ่อส่วนมากเนี่ยถ้าภาวะที่เป็น
00:02:16 → 00:02:18 ลิ้นหัวใจตีบรุนแรงเนี่ยก็จะทำให้กล้าม
00:02:18 → 00:02:20 เนื้อหัวใจหนาขึ้นเพราะว่าหัวใจพยายามที่
00:02:20 → 00:02:23 จะบีบตัวเพื่อสู้กับเอ่อตัวลิ้นที่ตีบ
00:02:23 → 00:02:26 เพื่อที่จะคงการไหลเวียนเลือดให้เป็นปกติ
00:02:26 → 00:02:29 แต่อีกส่วนกลุ่มนึงเนี่ยก็อาจจะหัวใจโต
00:02:29 → 00:02:32 เพราะว่าหัวใจน่ะบีบตัวไม่ดีหัวใจบีบตัว
00:02:32 → 00:02:35 แย่กว่าปกติทำให้เลือดเนี่ยค้างค้างในหัว
00:02:35 → 00:02:38 ใจมากขึ้นก็ทำให้หัวใจขยายขนาดมากขึ้น
00:02:38 → 00:02:41 เหมือนลูกโป่งที่ใส่น้ำค่ะอมันก็จะทำให้
00:02:41 → 00:02:43 หัวใจผ่องโตขึ้นเรื่อยๆซึ่งก็อาจจะเจอได้
00:02:43 → 00:02:46 ในผู้ป่วยที่มีหลายสาเหตุเช่นอาจจะเป็น
00:02:46 → 00:02:50 โรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดอาจ
00:02:50 → 00:02:52 จะเป็นจากโรคหัวใจเต้นปิดจังหวะนะคะหรือ
00:02:52 → 00:02:55 ว่าบางคนอาจจะมีภาวะหัวใจพิการเป็นต้นค่ะ
00:02:55 → 00:02:58 เพราะฉะนั้นคำว่าหัวใจภาวะหัวใจโตนี้ไม่
00:02:58 → 00:03:01 ใช่เรื่องที่ค่อนข้างจะดีเลยเลยหัวใจพอง
00:03:01 → 00:03:04 โตใช่ค่ะเป็นความหมายที่ดีแต่ภาวะที่ไม่
00:03:04 → 00:03:07 ดีเออแต่ภาวะหัวใจโตไม่ดีนะจ๊ะฟังแล้วน่า
00:03:07 → 00:03:11 กลัวมากเลยเออก็คือมันทำให้เราเหมือนว่า
00:03:11 → 00:03:14 หัวใจเราเหมือนเค้าโหลดฟังก์ชันของเค้านะ
00:03:14 → 00:03:17 คะเคทำงานมากเค้าก็เลยโตกล้ามเนื้อเคก็
00:03:17 → 00:03:21 หนาขึ้นอืลิ้นหัวใจไม่ดีอะไรประมาณนี้
00:03:21 → 00:03:24 สังเกตได้มั้ยคะคุณหมอเราจะเมื่อเราอ่า
00:03:24 → 00:03:27 อาจจะปกติอยู่ดีๆแล้วก็เอ๊วันดีคืนดีเรา
00:03:27 → 00:03:30 จะมีความรู้สึกว่าอืมระบบหายใจเราเกี่ยว
00:03:30 → 00:03:34 มยคะมันทำให้เรารู้สึกได้ว่าเออหัวใจเรา
00:03:34 → 00:03:37 ผิดปกติไปอย่างเงี้ค่ะค่ะก็จริงๆเราก็ลอง
00:03:37 → 00:03:41 มาดูนะคะว่าใครบ้างที่มีความเสี่ยงที่หัว
00:03:41 → 00:03:44 ใจโตนะคะเช่นคนบางคนเนี่ยอาจจะมีโรคที่
00:03:44 → 00:03:47 เป็นจักกรพันธ์ในครอบครัวมีภาวะหัวใจโต
00:03:47 → 00:03:49 หรือกล้ามือหัวใจหนาอันนี้ก็อาจจะมี
00:03:49 → 00:03:52 ประวัติกรมพรเอ่อมีญาติพี่น้องสายตรงเรา
00:03:52 → 00:03:54 เนี่ยมีประวัติโรคกล้ามเือหัวใจอันนี้ก็
00:03:54 → 00:03:57 อาจจะต้องไปตรวจเพิ่มเติมส่วนอื่นๆคนที่
00:03:57 → 00:04:00 มีความเสี่ยงเช่นคนที่มีโรคหัวใจหลอด
00:04:00 → 00:04:03 เลือดหัวใจตีดนะคะคนที่มีโรคความดันสูง
00:04:03 → 00:04:06 โรคเบาหวานหรือมีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่ดี
00:04:06 → 00:04:10 เช่นดื่มแอลกอฮอล์การใช้สารเสพติดหรือมี
00:04:10 → 00:04:12 น้ำหนักที่เยอะเกินไปอันนี้ก็จะเป็นผู้
00:04:13 → 00:04:15 ที่มีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดภาวะหัวใจโต
00:04:15 → 00:04:19 ขึ้นมาได้นะคะทีนี้เนี่ยตอนระยะแรกเนี่ย
00:04:19 → 00:04:22 เวลาที่หัวใจโตอาจจะยังไม่มีอาการชัดเจน
00:04:22 → 00:04:25 เ่ออาการเบื้องต้นเนี่ยอาจจะเริ่มต้นจาก
00:04:25 → 00:04:28 แค่รู้สึกว่าทำอะไรในกิจวัตรประจำวัน
00:04:28 → 00:04:31 เหนื่อยง่ายกว่าปกติครับบางครั้งก็อาจจะ
00:04:31 → 00:04:36 รู้สึกอ่อนเคลียรไม่มีแรงใจสั่นจนสุดท้าย
00:04:36 → 00:04:39 ถ้าเริ่มมีอาการหัวใจล้มเหลวตามมาก็อาจจะ
00:04:39 → 00:04:43 มีภาวะหัวใจลำอ่าหายใจลำบากหายใจเร็วหรือ
00:04:43 → 00:04:47 ว่ามีอาการบวมเป็นต้นค่ะเออไอ้คำว่าช่วง
00:04:47 → 00:04:49 แรกมันอาจจะไม่ค่อยมีอาการแต่หมายถึงว่า
00:04:49 → 00:04:53 มันอาจจะเหนื่อยง่ายกว่าปกติเนี่ยมันถ้าๆ
00:04:53 → 00:04:56 ถ้าเทียบกันนะครับกับกับเลเวลความเหนื่อย
00:04:56 → 00:05:00 จากปกติที่เราอเอาล่ะจะเดินสัก 19,000
00:05:00 → 00:05:03 ปั๊บอ่ะเอ่อเหนื่อยสัก 2 ค่ะแต่ถ้ามี
00:05:03 → 00:05:05 เริ่มมีภาวะตรงนี้เนี่ยในระยะแรกเนี่ยมัน
00:05:05 → 00:05:09 จะเพิ่มนเป็นประมาณไหนอ่ะคุณหมอครับสัก 3
00:05:09 → 00:05:12 4 5 6 อะไรประมาณนี้ฮะคือปกติคุณหมอ
00:05:12 → 00:05:15 เขาก็จะมีการซักประวัตินะคะว่าเอ้เหนื่อย
00:05:15 → 00:05:17 เหนื่อยง่ายเนี่ยอันไหนถึงจะเข้าขาย
00:05:17 → 00:05:19 เหนื่อยง่ายกว่ากว่าปกติส่วนใหญ่เนี่ยคุณ
00:05:19 → 00:05:22 หมอก็จะมีการซักถามเช่นเอ่อปกติเคยออก
00:05:22 → 00:05:25 กำลังกายมยเช่นบางคนอาจจะกจ๊อกกิ้งเบาๆ
00:05:25 → 00:05:28 ได้หรือว่าเดินแล้วออกกำลังกายได้ไม่เท่า
00:05:28 → 00:05:31 เดิมอาจจะรู้สึกเหนื่อยง่ายขึ้นเช่นบางคน
00:05:31 → 00:05:34 อาจจะวิ่งได้สักประมาณ 2 กมแล้วสักประมาณ
00:05:34 → 00:05:37 อาจจะมีเหนื่อยง่ายขึ้นเร็วเช่นอาจจะ 500
00:05:37 → 00:05:39 เมถึง 1 กมเนี่ยเริ่มเหนื่อยะจนถึงขั้น
00:05:39 → 00:05:42 ต้องหยุดหรือในบางคนที่อาจจะไม่ได้แีนัก
00:05:42 → 00:05:45 ไม่ได้ออกกำลังกายเราก็อาจจะลองซักถาม
00:05:45 → 00:05:47 อาการเพิ่มเติมเช่นในการเราขึ้นเดินขึ้น
00:05:47 → 00:05:51 เคยขึ้นตึกมตึกสัก 2-3 ชั้นถ้าสามารถเดิน
00:05:51 → 00:05:53 ได้ต่อเนื่องออาจจะเหนื่อยนิดหน่อยแต่ยัง
00:05:53 → 00:05:55 เดินได้ไม่ถึงขั้นต้องหยุด 1 หอบอันนี้
00:05:55 → 00:05:57 โอเคบางทีเราก็อาจจะซักคนไข้ว่าเออขึ้น
00:05:58 → 00:06:00 บันได BTS เนี่ยก็ใช้ได้หรือว่าขึ้นสพ 00
00:06:00 → 00:06:02 อย่าเงี้เป็นต้นค่ะอันนี้ก็เป็นการสกรีน
00:06:02 → 00:06:05 คร่าวๆว่ามีการเหนื่อยง่ายกว่าปกติค่ะอ
00:06:05 → 00:06:09 อ๋ออันนี้คือในระยะแรกที่เราจะต้องหมั่น
00:06:09 → 00:06:12 สังเกตตัวเองว่าว่าว่าเริ่มมีอาการใน
00:06:12 → 00:06:15 ลักษณะแบบนี้แล้วหรือยังช่วงวัยช่วงอายุ
00:06:15 → 00:06:17 มีผลด้วยมั้ยครับคุณหมอครับอถ้ายังในวัย
00:06:17 → 00:06:21 รุ่นใช่ๆมีผลค่ะก็คือสิ่งที่มีผลก็คือ
00:06:21 → 00:06:25 อายุอันที่ 2 ก็คือเอ่อเอ่อการความความ
00:06:25 → 00:06:27 แข็งแรงของร่างกายบางคนอาจจะไม่ได้เคยออก
00:06:28 → 00:06:30 กำลังกายไม่ได้แคทีพออยู่ดีไปออกกำลังก็
00:06:30 → 00:06:32 อาจจะเหนื่อยง่ายแต่อันนั้นอาจจะเป็นปกติ
00:06:32 → 00:06:35 ซึ่งแต่ว่าถ้ามันมีอาการที่เราเทียบเคียง
00:06:35 → 00:06:36 กับคนในวัยเดียวกันแล้วเออมันรู้สึก
00:06:36 → 00:06:38 เหนื่อยง่ายกว่าคนอื่นเนี่ยก็อาจจะต้อง
00:06:38 → 00:06:40 ลองไปปรึกษาแพทย์ดูนะคะว่าอันนี้ถือว่า
00:06:41 → 00:06:44 ผิดปกติหรือไม่ค่ะพูดถึงบันได BTS นี่
00:06:44 → 00:06:46 ครับเอาเรื่องอยู่นะเอาเรื่องอยู่เอา
00:06:46 → 00:06:49 เรื่องอยู่คนเห็นแล้วมองขึ้นไปผมพูดเลย
00:06:49 → 00:06:51 ว่าเอาเรื่องอยู่เหมือนกันขึ้นได้นี่ก็
00:06:51 → 00:06:54 คือใช้ได้เลยใช่มั้ยคะคุณหมออใช่สมัยก่อน
00:06:54 → 00:06:56 เราอาจจะถามคนไว่าสะพานลอยนะแต่นี้เราอาจ
00:06:56 → 00:06:58 จะไม่ได้ต้างสะพานลอยแล้วบางทีเข้าใจที่
00:06:58 → 00:07:01 คุณมบอกว่าไม่เคยขึ้บันไดแต่ขึ้นลิฟต์
00:07:01 → 00:07:03 เงี้บางทีเราก็อาจจะต้องถามว่าไอ้
00:07:03 → 00:07:05 activity ประจำวันนี้คือเขาทำมากน้อยแค่
00:07:05 → 00:07:08 ไหนแล้วก็อาจจะต้องถามเพื่อให้ดูสอดคล้อง
00:07:08 → 00:07:11 กับกิจกรรมที่เขาทำกันปกติอ่ะค่ะอืบันได
00:07:11 → 00:07:15 สะพันลอยบางบางแห่งก็เป็นถนนที่ยาวนะถ
00:07:15 → 00:07:17 สวัดพอได้อยู่แต่ว่าถ้าในกรุงเทพฯส่วน
00:07:17 → 00:07:20 ใหญ่ก็อาจจะเป็น BTS รถไฟฟ้าใต้ดงใต้ดิน
00:07:20 → 00:07:23 อะไรก็ว่ากันไปอ่าในระยะแรกเราพอเห็นภาพ
00:07:23 → 00:07:25 แล้วครับคุณหมอครับระยะถัดไปเนี่ยมันจะ
00:07:25 → 00:07:29 แสดงอาการเพิ่มมากขึ้นขนาดไหนครับคุณหมอ
00:07:29 → 00:07:30 ครับ
00:07:30 → 00:07:32 ก็คือถ้าสมมุติว่ามันเอ่อถึงขั้นทำให้
00:07:32 → 00:07:35 เลือดสูบฉีดไม่ดีนะคะก็อาจจะมีอาการอ่อน
00:07:35 → 00:07:39 เพลียอืหรือมีหวิวคล้ายจะเป็นลมบางคน
00:07:39 → 00:07:43 เนี่ยที่เอ่อหัวใจโตจากภาวะหัวใจเต้นผิด
00:07:43 → 00:07:46 จังหวะก็อาจจะมีอาการที่รู้สึกว่าใจสั่น
00:07:46 → 00:07:49 ครับนะคะค่ะหรือว่าในบางคนที่มีเ่อภาวะ
00:07:49 → 00:07:51 หัวใจร่วมเหลวร่วมด้วยเนี่ยก็อาจจะมี
00:07:51 → 00:07:54 อาการบวมน้ำเช่นบวมที่หน้าแข้งบมที่หลัง
00:07:54 → 00:07:57 เท้าหรือพอเริ่มมีอาการน้ำทุ่มปอดก็จะ
00:07:57 → 00:08:00 อยู่เฉยๆก็เริ่มเหนื่อยละหรือเวลา
00:08:00 → 00:08:04 นรึหายใจอึอัดต้องลุกขึ้นมานั่งซึ่งอาการ
00:08:04 → 00:08:07 แต่ละคนก็จะแตกต่างกันไปอยู่ที่ว่าโรคที่
00:08:07 → 00:08:10 เขาเป็นเป็นโรคลักษณะแบบไหนที่เป็นสาเหตุ
00:08:10 → 00:08:15 ของภาวะหัวใจโตค่ะอการการนอนที่บอกที่บอก
00:08:15 → 00:08:17 ว่าล้มตัวลงนอนเนี่ยปกติคนเรานอนนก็จะ
00:08:17 → 00:08:20 สบายแต่คนที่เป็นหัวใจเี่เขาจะนอนหงาย
00:08:20 → 00:08:23 ลำบากใช่มคะคุณหมอค่ะอันนี้ก็จะเป็น
00:08:23 → 00:08:26 ลักษณะของคนที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวเนื่อง
00:08:26 → 00:08:29 จากว่ามีภาวะน้ำข้างในร่างกายเวลาเรานอน
00:08:29 → 00:08:31 ลงไปเนี่ยเลือดจากส่วนล่างของร่างกาย
00:08:31 → 00:08:34 เนี่ยจะไหลกลับเข้าไปที่หัวใจครับอนะคะใน
00:08:35 → 00:08:38 คนปกติอ่ะถ้าหัวใจทำงานปกติสูบฉีดได้ปกติ
00:08:38 → 00:08:41 เนี่ยก็จะไม่มีปัญหาแต่ถ้าในคนที่มีภาวะ
00:08:41 → 00:08:44 กล้ามเนื้อหัวใจบีตัวไม่ดีมีภาวะหัวใจล้ม
00:08:44 → 00:08:47 เหลวเนี่ยการที่เลือดไหลกลับไปที่หัวใจ
00:08:47 → 00:08:50 หัวใจบิดตัวออกมาไม่ดีนะคะในช่วงนอน
00:08:50 → 00:08:53 เนื่องจากว่าน้ำเนี่ยจะไหลจากที่ต่ำเ่อ
00:08:53 → 00:08:55 ที่ที่สูงงมาที่ต่ำเนาเวลาเรายืนเนี่ยอาจ
00:08:55 → 00:08:57 จะประกองที่เท้าอาจจะขามแต่เวลานอนน้ำมัน
00:08:58 → 00:09:01 จะไหลกลับเข้าร่างกายนะคะถ้าหัวใจบีบตัว
00:09:01 → 00:09:03 ไม่ดีเนี่ยหัวใจไล่เลือดออกไปไม่ได้สูบ
00:09:03 → 00:09:07 ฉีดแย่ลงก็จะไปคั่งที่ตอมันก็เป็นสาเหตุ
00:09:07 → 00:09:09 ที่ทำให้อาการอึดอัดแน่นเวลานอนไปสักพัก
00:09:09 → 00:09:12 นึงแล้วก็จะรู้สึกว่าหายใจไม่ออกแล้วก็
00:09:12 → 00:09:14 ต้องลุกขึ้นมานั่งนะคะอันนี้ก็จะเป็น
00:09:14 → 00:09:17 อาการหนึ่งของหัวใจล่มเหลวค่ะพวกนี้
00:09:17 → 00:09:20 เกี่ยวกับคนที่เคยเห็นนะคะที่เขาคอึดอัดๆ
00:09:20 → 00:09:22 อัดเนี่ยส่วนมากจะเป็นคนที่รูปร่างค่อน
00:09:22 → 00:09:25 ข้างจะใหญ่เพะออึดอัดอย่างงั้นใช่มั้ยคะ
00:09:25 → 00:09:28 คุณหมอรูปร่างอ้วนในคนที่รูปร่างอาจจะ
00:09:28 → 00:09:31 อ้วนหน่อยหรือหือว่าอาจจะพูดง่ายๆถ้าณ
00:09:31 → 00:09:33 ท้องใหญ่เนี่ยบางทีอาจจะไม่ได้เป็นหัวใจ
00:09:33 → 00:09:35 ล้มเหล็บซักทีเดียวเอาจจะมีภาวะที่ตอด
00:09:35 → 00:09:37 ขยายตัวน้อยเนื่องจากอาจจะมีแรงดันในช่อง
00:09:38 → 00:09:41 ท้องขึ้นมาดันหรือในบางคนอาจจะมีภาวะเป็น
00:09:41 → 00:09:44 โรคปอดก็ได้นะคะเช่นบางคนอาจจะมีภาวะเอ่อ
00:09:44 → 00:09:48 เอ่ออุดเ่อหายใจแล้วหยุดในขณะนอนหรือว่า
00:09:48 → 00:09:52 ภาวะที่หยุดหายใจกับภาวะที่เขามีการเ่อ
00:09:52 → 00:09:55 การหายใจที่ผิดปกติคือมันอาจจะไม่ได้
00:09:55 → 00:09:57 จำเป็นที่จะต้องเป็นโรคหัวใจเสมอไปอาจจะ
00:09:57 → 00:10:00 เป็นจากโรคอื่นๆเช่นโรคปอดเป็นต้นด้วยค่ะ
00:10:00 → 00:10:03 อืเพราะฉะนั้นลักษณะของหัวใจภาวะหัวใจโต
00:10:03 → 00:10:06 เนี่ยก็เป็นสิ่งที่เราสังเกตเองได้ได้
00:10:06 → 00:10:10 บ้างบางส่วนแต่ถ้าจะให้ดีเนี่ยถ้าเราไป
00:10:10 → 00:10:13 เซเรย์ที่เขาบอกว่าเซเรย์ปอดปกติแล้วก็จะ
00:10:13 → 00:10:17 ตรวจพบหัวใจโตได้จริงมั้ยคะคุณหมอคค่ะใช่
00:10:17 → 00:10:20 ค่ะก็คือเบื้องต้นนะคะจากอาการหรือว่า
00:10:20 → 00:10:22 ความเสี่ยงว่าเอ้เราอาจจะมีภาวะหัวใจโตก็
00:10:22 → 00:10:25 แนะนำให้ไปพบแพร่นะคะคุณหมอเนี่ยก็จะทำ
00:10:25 → 00:10:27 การซักประวัตินะคะแล้วก็ตรวจร่างกาย
00:10:28 → 00:10:30 เบื้องต้นก่อนนะว่าว่าเอ่อท่านเ่ะมีความ
00:10:30 → 00:10:33 เสี่ยงจะเป็นโรคอะไรที่เป็นสาเหตุที่ทำ
00:10:33 → 00:10:36 ให้หัวใจโตอ่าหลังจากนั้นเนี่ยเอ่อภาวะ
00:10:36 → 00:10:39 การการตรวจเบื้องต้นเนี่ยก็อาการทำ xray
00:10:39 → 00:10:42 เนี่ยก็เป็นการตรวจเบื้องต้นนะคะเพื่อที่
00:10:42 → 00:10:45 จะดูเงานะคะ xray เราจะเห็นเป็นเงาของหัว
00:10:45 → 00:10:49 ใจเทียบกับเงาของปอดก็จะดูว่าสัดสวนเนี่ย
00:10:49 → 00:10:53 มันโตมนะคะจาก x-ray นะคะเอ่อ x-ray
00:10:53 → 00:10:55 สามารถดูอันอื่นๆได้ด้วยนอกจากเงาของหัว
00:10:55 → 00:10:58 ใจก็คือว่าดูว่าตัวปอดเนี่ยมีโรคปอดด้วย
00:10:58 → 00:11:00 มั้ยหรือว่ามีน้ำท่วมปอดร่วมด้วยหรือไม่
00:11:00 → 00:11:04 นะคะเส้นเลือดแดงใหญ่เป็นอย่างไรนะคะอีก
00:11:04 → 00:11:06 อันนึงที่อ่าตรวจเบื้องต้นก็คือการตรวจ
00:11:06 → 00:11:09 คลื่นไฟฟ้าหัวใจหรือว่า ekg อันนี้ก็จะ
00:11:09 → 00:11:12 เป็นการตรวจเพื่อดูว่ามีหัวใจเต้นติด
00:11:12 → 00:11:16 จังหวะมยมีลักษณะที่บ่งบอกว่ามีกล้าม
00:11:16 → 00:11:19 เนื้อหัวใจขาดเลือดมหรือมีลักษณะของสงสัย
00:11:19 → 00:11:22 ว่าหัวใจโตหรือไม่อันนี้เป็นการตรวจ
00:11:22 → 00:11:25 เบื้องต้นอืแต่ท้ายสุดนะคะเพื่อที่จะ
00:11:25 → 00:11:28 คอนเฟิร์มเลยว่าแบบหัวใจเนี่ยโตจริงหรือ
00:11:28 → 00:11:30 ไม่ก็คือการทำอัลตร้าซาวหัวใจหรือว่าการ
00:11:30 → 00:11:35 ทำเอโคคกรรมอันเนี้ยก็จะเป็นคุณหมอก็จะทำ
00:11:35 → 00:11:39 เป็นใช้หัวอัลตร้าซาวด์นะคะเอ่อไปที่เอ่อ
00:11:39 → 00:11:41 แนบที่ผนังหน้าอกแล้วก็คุณหมอก็จะดูว่า
00:11:41 → 00:11:45 หัวใจการบิดตัวดีมยกล้ามเนื้อหนามยลิ้น
00:11:45 → 00:11:47 หัวใจเป็นอย่างไรแล้วสามารถวัดออกมาได้
00:11:47 → 00:11:50 จริงๆจากการทำเอคคแมค่ะอันนี้ก็คือการ
00:11:50 → 00:11:56 ตรวจเบื้องต้นค่ะอคือคคนปกติทั่วไปถ้ายัง
00:11:56 → 00:11:58 ไม่ได้มีอาการเบื้องต้นอย่างที่คุณหมอได้
00:11:58 → 00:12:01 อธิบายมามาเนี่ยการไปตรวจในลักษณะแบบนี้
00:12:01 → 00:12:04 เพื่อที่จะเช็คสภาพของหัวใจเนี่ยเป็น
00:12:04 → 00:12:07 ประจำเนี่ยจำเป็นมากน้อยขนาดไหนครับคุณ
00:12:07 → 00:12:11 หมอครับคือจริงๆแล้วเนี่ยนะคะการเช็คอัพ
00:12:11 → 00:12:14 อ่ะมันเป็นก็เป็นข้อดีนะในการที่เราจะ
00:12:14 → 00:12:19 ระมัดระวังนะคะในการที่จะป้องกันไม่ให้
00:12:19 → 00:12:23 มันมันมีโรคนะคะที่อันตรายหรือว่าเป็นมา
00:12:23 → 00:12:25 เยอะหรือเป็นเป็นรุนแรงแล้วแล้วเพิ่งมา
00:12:25 → 00:12:30 เจอจริงๆแล้วก็แนะนำให้คนไพ่ส่วนใหญ่เรา
00:12:30 → 00:12:32 ก็จะเห็นคนที่เขาเช็คอัพมาก็คืออายุตั้ง
00:12:32 → 00:12:35 แต่ 35 ปีขึ้นไปก็ควรจะมีการตรวจหรืออ่า
00:12:35 → 00:12:38 ถ้าอายุน้อยกว่านั้นก็จะต้องลองไปสังเกต
00:12:38 → 00:12:40 อาการตัวเองว่ามันมีอาการที่สงสัยว่าจะมี
00:12:41 → 00:12:43 หัวใจโตหรือไม่หรือว่าเป็นโรคหัวใจหรือ
00:12:43 → 00:12:46 ไม่นะคะก็ค่อยไปแนะไปปรึกษาคุณหมอแล้วก็
00:12:46 → 00:12:50 ให้คุณหมอแนะนำว่าเอ่อควรจะต้องตรวจเพิ่ม
00:12:50 → 00:12:51 เติมอย่างไรซึ่งซึ่งอันเนี้ยมันเป็นราย
00:12:52 → 00:12:55 ละเอียดในคนไข้ในแต่ละรายก็อาจจะมีดีเทล
00:12:55 → 00:12:57 ที่ค่อนข้างแตกต่างกันนะคะปกติอ่ะครับคุณ
00:12:57 → 00:12:59 หมอเอ่อส่วนใหญ่
00:12:59 → 00:13:02 คนที่มักจะมีภาวะหัวใจโตอย่างที่คุณหมอ
00:13:02 → 00:13:06 ได้อธิบายมาก็คือจะเป็นคนที่เ่อมีภาวะโรค
00:13:06 → 00:13:09 ต่างๆเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในเด็กๆในคนที่
00:13:09 → 00:13:12 อายุน้อยๆเนี่ยคุณหมอเคยเจอบ้างมครับคุณ
00:13:12 → 00:13:16 หมอครับก็เจอบ้างนะคะถ้าเป็นเด็กเลยเนี่ย
00:13:16 → 00:13:18 ส่วนมากจะเป็นเอ่อกลุ่มเอ่อที่เป็นโรคหัว
00:13:18 → 00:13:22 ใจพิการตั้งแต่กำเนินะคะแต่ว่าเด็กกลุ่ม
00:13:22 → 00:13:25 นี้เนี่ยก็จะมีอาการตั้งแต่เล็กๆะเช่นบาง
00:13:25 → 00:13:28 คนก็ชัดเจนรุนแรงเลยก็คือแบบมือเขียวปาก
00:13:28 → 00:13:31 เขียวเขียวเพราะว่าออกซิเจนต่ำหรือเด็ก
00:13:31 → 00:13:34 บางคนก็อาจจะตัวเล็กพัฒนาการช้ากว่าเด็ก
00:13:34 → 00:13:37 รุ่นเดียวกันเป็นต้นซึ่งส่วนใหญ่เนี่ยถ้า
00:13:37 → 00:13:40 เอ่อคุณหมอเด็กเนี่ยก็จะสามารถที่จะให้
00:13:40 → 00:13:43 การวินิจฉัยได้ตั้งแต่เด็กและนะคะซึ่งก็
00:13:43 → 00:13:46 ถ้าเราเ่อรักษานะเป็นโรคที่ไม่ได้ซับซ้อน
00:13:46 → 00:13:49 ยุ่งยากนักรักษาก็ในบางคนก็สามารถที่จะหา
00:13:49 → 00:13:52 เป็นปกติได้แต่มันก็จะมีภาวะหัวใจพิการ
00:13:52 → 00:13:54 บางอย่างที่มันค่อนข้างซับซ้อนอันนั้นก็
00:13:54 → 00:13:57 อาจจะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญนะคะอแล้วก็มี
00:13:57 → 00:13:59 ภาวะอีกอันนึงที่อาจจะเคยได้ยินก็คือในคน
00:13:59 → 00:14:03 ที่แข็งแรงดีเช่นนักกีฬานะคะอ่านักกีฬา
00:14:03 → 00:14:06 นักกีฬาเราก็จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
00:14:06 → 00:14:09 นักกีฬาที่เค้าเรียกว่าออกกำลังกายแบบเ่อ
00:14:09 → 00:14:12 เน้นความทนทาน endurance ก็คือเช่นนัก
00:14:12 → 00:14:15 กีฬาที่วิ่งมาราธอนหรือวิ่งระยะไกลอืครับ
00:14:15 → 00:14:18 นะคะอันเนี้ยก็จะมีภาวะหัวใจโตจากหัวใจ
00:14:18 → 00:14:21 ขยายขนาดอเพื่อที่จะให้เลือดสูบฉีดให้
00:14:21 → 00:14:24 เพียงพอเพราะว่ามันมีการเอ่อเ่อต้องการ
00:14:24 → 00:14:26 การไหลายเวียนของเลือดเนื่องจากเออกกำลัง
00:14:26 → 00:14:29 กายมากนะคะส่วนมากก็จะเป็นนักกีฬากับอีก
00:14:29 → 00:14:31 อันนึงก็คือนักกีฬาที่มีการใช้แรงต้าน
00:14:31 → 00:14:34 เช่น resistance ก็คือเช่นนักกีฬาเช่นอ่ะ
00:14:34 → 00:14:36 ยกตัวอย่างคอกายยกน้ำหนักอันนี้ต้องยกของ
00:14:36 → 00:14:40 หนักๆใช่มั้ยคะหัวใจเนี่ยก็จะหนาตัวขึ้น
00:14:40 → 00:14:44 เพื่อที่จะเอ่อสอดคล้องกับ workload ก็
00:14:44 → 00:14:47 คือการออกกำลังของนักกีฬานั้นๆซึ่งการหัว
00:14:47 → 00:14:49 ใจโตของนักกีฬามี 2 แบบก็คือขยายขนาดกับ
00:14:49 → 00:14:53 กล้ำในหัวใจหนาซึ่งขึ้นกับเอ่อว่านักกีฬา
00:14:53 → 00:14:56 นั้นๆเนี่ยออกกำลังกายลักษณะแบบใดแต่
00:14:56 → 00:14:58 อย่างไรก็แล้วแต่เนี่ยในนักกีฬาที่มีภาวะ
00:14:58 → 00:15:01 หัวใจโตอ่ะส่วนส่วนใหญ่นะคะก็คือไม่ได้
00:15:01 → 00:15:04 เป็นโรคมันเป็นการปรับตัวของร่างกายอ
00:15:04 → 00:15:07 เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการการสูบฉีด
00:15:07 → 00:15:10 โลหิตอถ้านักกีฬานั้นเอ่องดการออกกำลัง
00:15:10 → 00:15:13 กายหรือการเทรนสัก 3 เดือนหัวใจก็จะมา
00:15:13 → 00:15:17 เป็นปกติใช่ค่ะริแต่ก็มีส่วนน้อยๆที่นัก
00:15:17 → 00:15:19 กีฬามีโรคหัวใจด้วยซึ่งอันนี้ต้องใชผู้
00:15:19 → 00:15:21 เชื่อชาในการให้การวินิจฉัยนะคะใช่เพราะ
00:15:21 → 00:15:24 ว่าเราเยี่ยมจริงๆนะอย่างผมเนี่ยมักจะ
00:15:24 → 00:15:29 เห็นนักกีฬาฟุตบอลค่ะเก็ฟิรใช่วูบแล้วก็
00:15:29 → 00:15:32 เสียชีวิตในสนามเนี่ยไม่ใช่ครั้งเดียวนะ
00:15:32 → 00:15:34 หลายครั้งแล้วเหมือนกันใช่อยู่ๆก็คือมัน
00:15:34 → 00:15:37 เป็นโรคหัวใจไงพี่นกคุณบอกครับเอออาจจะ
00:15:37 → 00:15:40 มันจะเป็นโรคที่แบบว่าซ่อนตัวอยู่อาจจะ
00:15:40 → 00:15:44 ไม่ได้อยู่ๆมันก็ฟุบขึ้นมาอย่างงี้เลย
00:15:44 → 00:15:47 โอกาแบบนี้ได้เลยใช่มั้ยฮะใช่คือในในนัก
00:15:47 → 00:15:50 กีฬาที่วูปเนี่ยเขาคก็เคยมีการศึกษาค่ะ
00:15:50 → 00:15:53 ว่าก็ส่วนนึงก็อาจจะมีโรคซ่อนอยู่นะคะ
00:15:53 → 00:15:56 เช่นอาจจะมีภาวะเสี่ยงต่อหัวใจเต้นผิด
00:15:56 → 00:15:59 จังหวะนะคะหรือว่าบางคนเป็นโรคกล้ามเนื
00:15:59 → 00:16:00 หัวใจหนาจริงๆที่ไม่ได้เป็นจากการออก
00:16:01 → 00:16:03 กำลังกายอย่างเดียวก็คือมีโรคที่เเป็นโรค
00:16:03 → 00:16:05 อยู่แล้วแล้วการออกกำลังกายหรือว่าการออก
00:16:05 → 00:16:07 แรงมากกว่าคนอื่นมันเลยเป็นกระตุ้นทำให้
00:16:07 → 00:16:10 ภาวะที่ซ่อนเรนนั้นเนี่ยโผล่ออกมาชัดเจน
00:16:10 → 00:16:13 ขึ้นนะคะแล้วก็นักกีฬาที่เริ่มอายุเยอะ
00:16:13 → 00:16:15 ขึ้นแบบเริ่มสัก 40 50 อันเนี้ยก็จะมี
00:16:15 → 00:16:17 ความเสี่ยงของการเป็นลอลูกหลอดเลื่อนหัว
00:16:17 → 00:16:21 ใจก็เป็นภาวะที่ทำให้วูปหรือว่าหมดสติใน
00:16:21 → 00:16:23 ในขณะที่เอ่อกำลังแข่งขันอยู่เพราะว่า
00:16:23 → 00:16:25 เวลานักกีฬาเแข่งขันเนี่ยมันก็จะมีการ
00:16:25 → 00:16:28 กระตุ้นรนารีนะคะมันจะหลังมันก็ทำให้มัน
00:16:28 → 00:16:30 มีมีการกระตุ้นหัวใจมากขึ้นเพราะฉะนั้น
00:16:30 → 00:16:33 ถ้าเมีโรคเดิมที่มันอาจจะแฝงๆอยู่ซ่อนๆ
00:16:33 → 00:16:35 อยู่มันก็อาจจะชัดเจนหรือแสดงอาการขณะที่
00:16:35 → 00:16:39 ออกกำลังได้ค่ะอืโอ้ฟังดูแล้วเนี่ยหัวใจ
00:16:39 → 00:16:42 นี่ก็เป็นอะไรที่มันก็ปรับให้เข้ากับความ
00:16:42 → 00:16:45 ต้องการของการใช้พลังงานอะไรของร่างกาย
00:16:45 → 00:16:48 ได้มากพอสมควรทีเดียวในคนที่ร่างกายแข็ง
00:16:48 → 00:16:51 แรงมากๆอย่างเช่นนักกีฬาที่คุณหมอบอกเพะ
00:16:51 → 00:16:56 หัวใจที่เขาอื้อหือบีบเค้นเอ่อให้เลือด
00:16:56 → 00:16:59 สูบฉีดได้ดีแล้วก็กลับมาอยู่ในภาวะเมได้
00:16:59 → 00:17:02 อย่างเงี้ยค่ะแล้วคนเราปกติจะทำได้แบบนัก
00:17:02 → 00:17:05 กีฬาได้บ้างมั้ยคะมีวิธีมั้ยคะคุณหมอให้
00:17:05 → 00:17:08 หลบหลับตัวเออหมายถึงการปรับคือจริงๆเอ่อ
00:17:08 → 00:17:10 ร่างกายของคนเรามันจะมีการปรับตัวตลอด
00:17:10 → 00:17:13 เวลาค่ะแม้กระทั่งสมมุติว่าเราความดันเรา
00:17:13 → 00:17:16 เร่มสมมุติว่าเราอยกตัวอย่างในโรคความดัน
00:17:16 → 00:17:19 สูงอเอ่อในภาวะความดันสูงระยะเริ่มต้น
00:17:19 → 00:17:23 เนี่ยไม่แสดงอาการอะไรเลยค่ะอืก็คือจะ
00:17:23 → 00:17:25 ทราบก็ต่อเมื่อเราได้ไปวัดความดันด้วย
00:17:25 → 00:17:28 วิธีที่ถูกต้องแล้วก็คอนเฟิร์มคือความดัน
00:17:28 → 00:17:29 สูง
00:17:29 → 00:17:32 มันเพราะฉะนั้นก็จะเจอในคนบางคนเช่นบอก
00:17:32 → 00:17:34 ว่าไม่เคยเป็นอะไรเลยแต่มาเจออีกทีนึงคือ
00:17:34 → 00:17:37 หัวใจโตและเนื่องจากว่าเอ่อในระยะแรกที่
00:17:37 → 00:17:39 เขาความดันสูงเนี่ยร่างกายก็พยายามปรับ
00:17:39 → 00:17:41 ตัวอย่างความดันสูงมันจะมีแรงต้างจากหัว
00:17:41 → 00:17:44 ใจใช่มั้ยคะความดันถ้าสูงช่วงแรกๆหัวใจก็
00:17:44 → 00:17:46 ยังบีบไหวอยู่พอความดันอาจจะเริ่มสูงเช่น
00:17:47 → 00:17:50 อ่าขึ้นมา 150 หัวใจก็พยายามที่จะบีบสู้
00:17:50 → 00:17:53 กล้ามเนื้อหัวใจมันก็จะหนาสู้เพื่อให้แรง
00:17:53 → 00:17:56 บีบน่ะมาสู้กับความดัน 150 สมมุติว่าอ่ะ
00:17:56 → 00:17:58 ยังไม่มีอาการยังไม่เคยวัดไม่เคยรักษาอ่ะ
00:17:58 → 00:18:01 ความดันมันสเต็ปไปที่ 160 หัวใจมันก็อาจ
00:18:01 → 00:18:04 จะเริ่มสู้ไม่ไหวหรืออาจจะแสดงอาการออกมา
00:18:04 → 00:18:06 เช่นอาจจะเกิดอาการเหนื่อยหรือว่ามีอาการ
00:18:06 → 00:18:09 หัวใจร่มเหลเป็นต้นค่ะเพราะฉะนั้นร่างกาย
00:18:09 → 00:18:11 เนี่ยคนเราก็พยายามจะปรับเพื่อที่จะให้
00:18:11 → 00:18:15 เรายังคงสภาพแล้วก็คงการทำงานที่ปกติได้
00:18:15 → 00:18:18 แต่ว่าพอถึงจุดนึงร่างกายปรับไม่ไหวแล้ว
00:18:18 → 00:18:21 มันก็จะเกิดอาการแสดงออกมาดังกล่าวอ่ะค่ะ
00:18:21 → 00:18:26 ออนัวเคเพยายามแล้วอ่ะเนอะหัวใจอ่ะใช่คอื
00:18:26 → 00:18:30 น่าสงสารมากเออเพราะฉะนั้นเราจะมีลักษณะ
00:18:30 → 00:18:35 การที่เอ่อบำรุงบำรุงเค้าเอ่อช่วยเขาคได้
00:18:35 → 00:18:37 แข็งแรงก็คือเรื่องของการออกกำลังหรือไง
00:18:37 → 00:18:40 คะคุณหมอคะคือเพราะฉะนั้นเนี่ยจริงๆแล้ว
00:18:40 → 00:18:45 เนี่ยนะคะเราก็จะมีการเอ่อดูแลสุขภาพร่าง
00:18:45 → 00:18:48 กายของคนเรานะคะเพื่อจริงๆแล้วดีที่สุดก็
00:18:48 → 00:18:50 คือป้องกันไม่ให้เกิดโรคนะคะแต่คนที่มี
00:18:50 → 00:18:53 โรคแล้วเนี่ยก็ไม่ต้องเป็นห่วงก็คือก็
00:18:53 → 00:18:55 ต้องไปควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมตาม
00:18:55 → 00:18:59 ที่แพทย์แนะนำนะคะเพราะฉะนั้นการป้องกัน
00:18:59 → 00:19:01 ไม่ให้เราจะมีภาวะเสี่ยงหัวใจโตก็คือการ
00:19:01 → 00:19:05 ดูแลสุขภาพร่างกายทั่วไปอย่างที่ทุกท่าน
00:19:05 → 00:19:09 ทราบเช่นอ่าออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนะคะ
00:19:09 → 00:19:13 ก็ถ้าเอ่อก็คือในในการแนะนำนี้ก็คือการ
00:19:13 → 00:19:16 ออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นปานกลางเช่น
00:19:16 → 00:19:19 เราเ่อเริ่มรู้สึกเหนื่อยเหงื่อซึมพูดได้
00:19:19 → 00:19:21 เป็นโยบสั้นๆเนี่ยถ้าให้รวมกันเนี่ยก็คือ
00:19:21 → 00:19:24 ใน 1 สัปดาห์ก็คือไม่ควรต่ำกว่า 150 นาที
00:19:24 → 00:19:27 ต่อสัปดาห์อันนี้จะดีกับหัวใจอืนะคะแล้ว
00:19:27 → 00:19:32 ก็ให้มีการเอ่อพักผ่อนให้เพียงพอนะคะหลีก
00:19:32 → 00:19:36 เลี่ยงปัจจัยเสี่ยงก็คืองดบุหรี่นะคะเอ่อ
00:19:36 → 00:19:39 เครื่องเหลี่มแอลกอฮอล์ไม่ใช้สารเสพติด
00:19:39 → 00:19:43 แล้วก็รับประทานอาหารที่ดีต่อประสุขภาพนะ
00:19:43 → 00:19:46 คะไม่หวานมันเค็มจนเกินไปนะคะแล้วก็ควบ
00:19:46 → 00:19:50 คุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติส่วนในคนที่
00:19:50 → 00:19:52 มีโรคประจำตัวเช่นเป็นเบาหวานเนี่ยก็ต้อง
00:19:52 → 00:19:55 ควบคุมน้ำตาลหรือคนที่มีความดันโลหิตสูง
00:19:55 → 00:19:57 ก็ควบคุมความดันโลหิตให้เหมาะสมอันนี้ก็
00:19:57 → 00:20:00 จะเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่จะป้อง
00:20:00 → 00:20:04 กันไม่ให้เนำไปสู่ภาวะหัวใจโตนะคะอแต่มัน
00:20:04 → 00:20:07 ก็จะมีโรคหัวใจบางอย่างเช่นเอ่อในภาวะคน
00:20:07 → 00:20:10 ที่มีลิ้นหัวใจเสื่อมนะคะเช่นลิ้นหัวใจตี
00:20:10 → 00:20:14 รุนแรงเอ่อพวกนี้เนี่ยก็จะเป็นโรคที่ค่อย
00:20:14 → 00:20:17 ๆเป็นค่อยๆไปจะเป็นในผู้สูงอายุอันนี้เขา
00:20:17 → 00:20:20 อาจจะดูแลสุขภาพดีและแล้วก็เ่อไปพพแพทย์
00:20:20 → 00:20:24 สม่ำเสมอแต่ก็อาจจะเกิดขึ้นได้แต่ว่าคุณ
00:20:24 → 00:20:26 หมอเนี่ยก็จะเป็นคนที่ช่วยที่ให้การ
00:20:26 → 00:20:30 วินิจฉัยนะคะเอ่อเอ่อโรคก่อนที่จะรุนแรง
00:20:30 → 00:20:32 เพื่อที่จะแนะนำวิธีการปฏิบัติตัวที่
00:20:32 → 00:20:35 เหมาะสมนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยโดยเบื้องต้น
00:20:35 → 00:20:37 ก็คือว่าเราควรจะมีการเอ่อเ่อปรับเปลี่ยน
00:20:37 → 00:20:40 พฤติกรรมเพื่อให้ดีกับสุขภาพแล้วก็ในผู้
00:20:40 → 00:20:43 ที่มีโรคประจำตัวก็ควรจะไปตรวจสม่ำเสมอ
00:20:43 → 00:20:46 แล้วก็ทำตามคำแนะนำของแพทย์นะคะเนื่องจาก
00:20:46 → 00:20:48 ว่ารายละเอียดในคนไข้แต่ละคนเนี่ยมันจะ
00:20:48 → 00:20:50 ค่อนข้างจะแตกต่างกันอันนี้คิดว่าน่าจะ
00:20:50 → 00:20:53 เป็นหลักการคร่าวๆก่อนนะคะอืออกกำลังกาย
00:20:53 → 00:20:57 กินอาหารคือเป็นหลักการพื้นฐานของทุกโรก
00:20:57 → 00:21:00 ใช่อะไรที่คุณหมอบอกว่ามันยังเล็ดรอดมา
00:21:00 → 00:21:03 ได้นะใช่ๆแต่คือคืออย่างน้อยเนี่ยมันได้
00:21:03 → 00:21:06 สร้างกำแพงไว้ป้องกันโรคภัยต่างๆคือใช่
00:21:06 → 00:21:08 ให้เขาคแข็งแรงเข้าไว้มันคือมันเป็นฐาน
00:21:08 → 00:21:11 รากสำคัญเหมือนกันนะคุณหมอที่คุณหมอแนะนำ
00:21:11 → 00:21:15 เนี่ยของโลกทุกโรคบนโลกใบนี้เลยนะใช่การ
00:21:15 → 00:21:17 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเนี่ยมันเหมือนเหมือน
00:21:17 → 00:21:20 ง่ายนะคะด้วยหลักการแต่ว่าสิ่งที่ยากคือ
00:21:20 → 00:21:23 ทำยังไงให้มันทำได้จนติดเป็นนิสัยของเรา
00:21:23 → 00:21:26 อันเนี้ยจริงที่หมอจะแนะนำคนไข้โดยเฉพาะ
00:21:26 → 00:21:28 เรื่องการออกกำลังกายเนี่ยคนไข้ก็จะชอบ
00:21:28 → 00:21:32 บอกว่าเอมันไม่มีเวลาน่ะหมอแล้วก็อะไก็าก
00:21:32 → 00:21:34 ว่าแล้ววันนึงเราเล่นมือถือนี้เราใช้เวลา
00:21:34 → 00:21:36 เล่นมือถือนาทีกี่ชั่วโมงคะอะไรอย่าง
00:21:36 → 00:21:39 เงี้ยเราก็อาจจะเอ่อเค้าเรียกสทำไมมีเวลา
00:21:39 → 00:21:43 ได้เนาะใช่ก็คือถ้าเราห่าเราแนะนำคนไข้
00:21:43 → 00:21:45 ให้รู้ถึงความตระหนักถึงความสำคัญเนี่ย
00:21:45 → 00:21:48 เราเก็จะเซตเป็น priority ก็คือเขาก็จะ
00:21:48 → 00:21:51 แบ่งเวลามาออกกำลังกายซึ่งส่วนใหญ่หมอจะ
00:21:51 → 00:21:52 แนะนำว่ามันไม่จำเป็นต้องไปเข้ายิมเป็น
00:21:52 → 00:21:56 ชั่วโมงนะก็คือสามารถที่จะค่อยๆสะสมเช่น
00:21:56 → 00:21:59 วันนี้มี 10 นาที 15 นาทีคุณก็ทำไปก่อน
00:21:59 → 00:22:00 นะคะเพื่อให้มันเหมือนเป็นกิจวัตรประจำ
00:22:00 → 00:22:02 วันเหมือนเราเหมือนกับเราตื่นมาต้องอาบ
00:22:02 → 00:22:05 น้ำรับประทานอาหารเป็นต้นเงี้ยค่ะอันนี้
00:22:05 → 00:22:07 ก็เป็นสิ่งที่จะทำให้มันเป็นสิ่งที่ติด
00:22:07 → 00:22:09 ตัวเราหรือไม่การเลือกรับประทานอาหาร
00:22:09 → 00:22:12 เนี่ยมันก็ต้องยิงยาวก็คือใช้การปรับตัว
00:22:12 → 00:22:16 ใช้ระยะเวลาในการปรับเช่นเดียวกันค่ะเรา
00:22:16 → 00:22:19 สะสมในการออกกำลังกายได้อย่างคุณหมอบอก 10
00:22:19 → 00:22:22 นาที 15 นาทีใชแต่ขอให้ครบ 150 นาทีแล้ว
00:22:22 → 00:22:26 กันใช่มั้ยคะอืใช่ค่ะหรือบางคนบอกว่าเอ๊ย
00:22:26 → 00:22:28 ไม่มีเวลาออกกำลังกายก็จะแนะนำว่าให้ให้
00:22:28 → 00:22:32 Active มากขึ้นระหว่างวเช่นเ่อถ้าจะต้อง
00:22:32 → 00:22:34 ขึ้นลิฟตชั้น 2 ชั้นอ่ะเดินขึ้นบันไดได้
00:22:34 → 00:22:38 มั้ยหรือจอดรถไกลหน่อยจะได้แบบเดินให้มี
00:22:38 → 00:22:41 เวลาให้เราเดินให้ลุกยืนให้เดินมากขึ้น
00:22:41 → 00:22:43 ระหว่างวันหรือบางคนก็เป็นกุสโลบายก็คือ
00:22:43 → 00:22:46 เดิน 19000 เแหละค่ะที่จะเป็นตัวที่บอก
00:22:46 → 00:22:48 ว่าเออเรา Active Lifestyle นะทำให้เรา
00:22:48 → 00:22:51 เอ่อก็มันก็มีการศึกษาว่าในคนที่ Active
00:22:51 → 00:22:55 Lifestyle เงเดินมากขึ้นนะคะยืนมากขึ้น
00:22:55 → 00:22:58 ก็มีผลดีกว่าคนที่นั่งๆนอนๆหรือว่าไม่
00:22:58 → 00:23:01 ค่อยได้ลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวร่างกายค่ะคือ
00:23:01 → 00:23:05 มันกลายเป็นธงของคนในยุคเอ่อในในในคนรุ่น
00:23:05 → 00:23:08 ใหม่แล้วกันอ่ายุคโซเชียลงงเนี่ยคือแบบ
00:23:08 → 00:23:12 อย่างน้อยต้องให้ได้วันละ 10,000 เออ
00:23:12 → 00:23:16 เนี่ยแต่พี่พี่ว่ามันก็ไม่ถึงนะมันมันไม่
00:23:16 → 00:23:18 ใช่เรื่องง่ายเหมือนกันนะ 10,000 ในแต่ละ
00:23:18 → 00:23:21 วันเนี่ยใช่ๆเยอะเยอะเหมือนกันเยอะเหมือน
00:23:21 → 00:23:24 กันครับผมคุณหมอคือถ้าถ้าคนที่มีภาวะหัว
00:23:24 → 00:23:27 ใจโตเมื่อสักครู่เนี่ยคุณหมอได้ได้กล่าว
00:23:27 → 00:23:31 ทิ้งท้ายไว้สั้นๆว่าว่าถ้าไปทำการรักษาไป
00:23:31 → 00:23:35 เจอภาวะนี้ว่ามันมีความเสี่ยงเราสามารถ
00:23:35 → 00:23:39 รักษาให้หายขาดได้มันต้องใช้ระยะเวลามัน
00:23:39 → 00:23:42 ใช้วิธีการในการรักษากันยุ่งยากขนาดไหน
00:23:42 → 00:23:44 มั้ยครับคุณหมอครับกับภาวะหัวใจโตเนี่ยนะ
00:23:44 → 00:23:48 ฮะค่ะก็คือการรักษาหัวใจตัวเบื้องต้นก็
00:23:48 → 00:23:50 คือต้องหาสาเหตุให้ได้ก่อนว่าโรคนั้นเป็น
00:23:50 → 00:23:54 จากอะไรเช่นถ้าเป็นจากโรคอ้วนโรคความแดน
00:23:54 → 00:23:57 โรหิตสูงก็อาจจะต้องไปอโรคอ้วนก็เช่นกับ
00:23:57 → 00:23:59 ไปปรึกษาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเพื่อเ่อทำการ
00:23:59 → 00:24:01 ลดน้ำหนักซึ่งเดี๋ยวเนี้ยมันมีการวิธีการ
00:24:01 → 00:24:04 ลดน้ำหนักหลายแบบนะคะคือถ้าเป็นโรคความ
00:24:04 → 00:24:06 แดันโลหิตสูงก็คุมความดันแต่ถ้าคนไข้เป็น
00:24:07 → 00:24:09 โรคเช่นรอดหลอดเลือดหลอดเลือดหัวใจตีบก็
00:24:09 → 00:24:11 จะต้องไปรักษาทั้งนั้นหลอดเลือดหัวใจตีบ
00:24:11 → 00:24:15 ก็มีทั้งรับประทานยาการส่วนหัวใจการผ่าตั
00:24:15 → 00:24:17 แต่ถ้าเป็นโรคที่เกี่เกี่ยวกับลิ้นหัวใจ
00:24:17 → 00:24:19 ทำงานผิดปกติเช่นรั่วรุ้นแรงหรือตีบ
00:24:19 → 00:24:21 รุนแรงอันนี้ก็อาจจะต้องเป็นการผ่าตั่นนะ
00:24:21 → 00:24:26 คะแล้วก็การรักษานะคะเบื้องต้นนะคะก็คือ
00:24:26 → 00:24:29 บางโรคก็อาจจะเป็นการรักษาด้วยาบางโรคก็
00:24:29 → 00:24:31 อาจจะไม่ต้องรักษาด้วยยาบางโรคอาจจะต้อง
00:24:31 → 00:24:34 ผ่าตัดหรือบางโรคอาจจะต้องสูดหัวใจซึ่ง
00:24:34 → 00:24:38 อันเนี้ยดีเทลอ่ะมันแล้วแต่ว่าไปตรวจว่า
00:24:38 → 00:24:41 สาเหตุของหัวใจโตคืออะไรค่ะมันจะไม่
00:24:41 → 00:24:43 สามารถสรุปได้แบบเป็นสูตร 1 2 3 นะคะ
00:24:43 → 00:24:46 อันนี้ก็จะมีความหลากหลายของโรคค่ะอืก็
00:24:46 → 00:24:50 ต้องไปตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงว่าอือมันมา
00:24:50 → 00:24:54 จากภาวะอะไรสาเหตุอะไรเป็นหลักเนาะอื
00:24:54 → 00:24:57 เมื่อต้องก้าวเข้าสู่การรักษาเนี่ยมันจะ
00:24:57 → 00:25:00 นำไปสู่การผัดแต่ทุกรายหรือไม่คะคุณหมอค
00:25:00 → 00:25:03 หรือว่ากินยาก็หายได้ค่ะอ๋อไม่ไม่เลยค่ะ
00:25:03 → 00:25:06 เออบางบางรายเนี่ยอาจจะรับประทานยานะคะ
00:25:06 → 00:25:09 แล้วก็อาการก็ดีขึ้นนะคะเอไม่จำเป็นที่จะ
00:25:09 → 00:25:12 ต้องไปผ่าตัดทุกรายเพราะว่าโรคบางโรคเป็น
00:25:12 → 00:25:14 โรคที่รักษาด้วยยาโรคบางโรคเป็นโรคที่
00:25:14 → 00:25:18 รักษาด้วยการผ่าตัดเป็นต้นนะคะแล้วก็บาง
00:25:18 → 00:25:21 ภาวะเช่นเอ่อถ้าเขาเป็นจากโรคอ้วนก็อาจจะ
00:25:21 → 00:25:24 ไปรักษาโรคอ้วนภาวะหัวใจโตอาจจะดีขึ้น
00:25:24 → 00:25:27 อย่างเงี้ย่ะค่ะก็คือการบางแผนการรักษา
00:25:27 → 00:25:29 เนี่ยก็จะต้องสอดคล้องกับโรคประจำตัวที่
00:25:29 → 00:25:33 คนไข้เป็นแล้วก็สาเหตุค่ะเพราะฉะนั้น
00:25:33 → 00:25:35 เนี่ยก็คืออ่าไม่ต้องกังวลว่าเอ้ยทุกคนจะ
00:25:35 → 00:25:38 ต้องไปผ่าตัดหรืออะไรนะคะแต่เบื้องต้น
00:25:38 → 00:25:40 เนี่ยก็คือเราดูแลเอ่อพฤติกรรมสุขภาพให้
00:25:40 → 00:25:43 ดีไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรโดยหลักการในการดู
00:25:43 → 00:25:45 แลสุขภาพเนี่ยก็เช่นเดียวกันนะคะแล้วก็
00:25:45 → 00:25:48 เอ่อไปปรึกษาคุณหมอแล้วก็เอ่อรับประทานยา
00:25:48 → 00:25:51 ตามคุณหมอแนะนำเพราะบางโรคเนี่ยก็อาจจะดี
00:25:51 → 00:25:54 ขึ้นนะคะดีขึ้นแล้วก็หัวใจที่โตก็อาจจะ
00:25:54 → 00:25:57 กลับมาเป็นขนาดปกติหรือการทำงานหัวใจก็
00:25:57 → 00:26:00 กลับมาเป็นปกติได้ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะต้อง
00:26:00 → 00:26:03 ไปหัวใจโตแล้ววิตกกังวลอะไรเป็นภาวะหัวใจ
00:26:03 → 00:26:06 โตที่เราก็ปรับน้ำหนักของเราแล้วก็ปรับ
00:26:06 → 00:26:08 การออกกำลังแล้วก็เรื่องของอาหารเนี่ย
00:26:09 → 00:26:13 สำคัญขนาดไหนคะคุณหมอลดอาหารหวานมันอือ
00:26:13 → 00:26:16 ใช่ก็ลดหวานมันเค็มอ่ะค่ะก็จะมีอาหารเ่ะ
00:26:16 → 00:26:19 ตามเอ่อตามสุขภาพของเราเนี่ยก็คือไม่ควร
00:26:19 → 00:26:22 จะรับประทานอาหารที่เค็มเกินไปนะคะหรือ
00:26:22 → 00:26:24 อาหารแปรรูปเพราะว่าอันนี้ก็จะอาจจะเป็น
00:26:24 → 00:26:28 สาเหตุทำให้มีเกลือคั่งน้ำคั่งมีอาการวง
00:26:28 → 00:26:30 น้หรือทำให้ความดันรเหตสูงซึ่งก็นำไปสู่
00:26:30 → 00:26:34 ภาวะหัวใจโตได้นะคะพยายามเลี่ยงอาหารที่
00:26:34 → 00:26:37 ผ่านขบวนการให้น้อยไม่ใช่อาหารแปรรูปนะคะ
00:26:37 → 00:26:40 อันนี้ก็สำคัญส่วนอาหารมันเนี่ยนะคะอาหาร
00:26:40 → 00:26:43 มันหรืออาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูงเช่นไข
00:26:43 → 00:26:47 มันจากสัตว์ของทอดนะคะอันเนี้ยเอ่อไขมัน
00:26:47 → 00:26:50 สูงอ่ะเอ่อไขมันสูงเนี่ยไม่ได้ทำให้หัวใจ
00:26:50 → 00:26:52 โตแต่ไขมันสูงอาจจะไปอุดตันหลอดเลื่อนหัว
00:26:52 → 00:26:55 ใจทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดทำให้หัว
00:26:55 → 00:26:58 ใจทำงานแย่ลงก็นำไปสู่ภาวะหัวใจโตเป็นต้น
00:26:58 → 00:27:01 เงี้ยค่ะอนะคะส่วนเบาหวานเนี่ยในเบาหวาน
00:27:01 → 00:27:05 เนี่ยนะคะเอ่อน้ำตาลเนี่ยนะคะเอ่อเราก็จะ
00:27:05 → 00:27:08 แนะนำให้เอ่อจำกัดการรับประทานน้ำตาลที่
00:27:08 → 00:27:11 เป็นน้ำตาลที่เชิงเดี่ยวก็คือเช่นน้ำหวาน
00:27:11 → 00:27:14 น้ำตาลเลยการปรุงอาหารด้วยน้ำตาลเนื่อง
00:27:14 → 00:27:18 จากว่าเอ่อภาวะที่น้ำตาลสูงทำให้เอ่อใน
00:27:18 → 00:27:20 บางคนมีความเสี่ยงที่เป็นบาหวั่นอยู่แล้ว
00:27:20 → 00:27:22 ทำให้ดื้ออินซูลินเพิ่มขึ้นเอพัฒนาไปสู่
00:27:22 → 00:27:25 ภาวะเบาหวานได้หรือคนที่เป็นเบาหวานก็อาจ
00:27:25 → 00:27:28 จะทำให้คุมได้ยากขึ้นเราก็จะแนะนำทำให้
00:27:28 → 00:27:30 รับประทานอาหารที่เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิง
00:27:30 → 00:27:34 ซ้อนเช่นข้าวกล้องอืนะคะขนมปังไม่ขัดสี
00:27:34 → 00:27:36 อันนี้จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเนี่ยมัน
00:27:37 → 00:27:40 จะค่อยๆปล่อยมาทำให้ร่างกายเนี่ยปรับตัว
00:27:40 → 00:27:43 นะคะในการควบคุมน้ำตาลได้ดีขึ้นอันนี้ก็
00:27:43 → 00:27:45 จะเป็นหลักการดูแลสุขภาพโดยทั่วไปด้วย
00:27:45 → 00:27:48 อาหารนะคะแล้วก็รับประทานอาหารที่มีเ่อ
00:27:48 → 00:27:53 ไฟเบอร์เช่นเอ่อผักนะคะให้มีความหลากหลาย
00:27:53 → 00:27:56 โดยพื้นฐานก็คือการรับประทานอาหาร 5 หมุม
00:27:56 → 00:27:59 อ่ะค่ะที่เอ่อหมุนปเอ่อหมุนเวียนแล้วก็
00:27:59 → 00:28:01 ได้อาหารครบทุกทุกหมูที่ร่างกายต้องการ
00:28:01 → 00:28:04 ค่ะอืมันเกี่ยวพันกันไปหมดเลยเนาเรื่อง
00:28:05 → 00:28:09 ของอาหารเรื่องของพนเออนำไปสู่เรื่องหัว
00:28:09 → 00:28:12 ใจที่ต้องทำงานสัมพันธ์กันมากๆเลยมาถึง
00:28:12 → 00:28:15 เรื่องการออกกำลังกายบางคนเขาก็มีประเด็น
00:28:15 → 00:28:18 ว่าออกกำลังกายหนักเกินไปค่ะคุณหมอเขาก็
00:28:18 → 00:28:22 เสี่ยงต่อการเกิดหัวใจโตจริงจริงเหรอคะอ
00:28:22 → 00:28:25 มันต้องเป็นระดับนักกีฬาเลยนะค่ะอืถ้าถ้า
00:28:25 → 00:28:28 เราออกกำลังกายอย่างที่บอกว่าอ่ะอออก
00:28:28 → 00:28:30 กำลังกายที่มีความเข้มข้นปานกลางซัก
00:28:30 → 00:28:33 ประมาณ 150 นาทีค่ะอันเนี้ยไม่ถือว่าเยอะ
00:28:33 → 00:28:37 เอ่อในบางตำราหรือว่าบางการศึกษาเนี่ยก็
00:28:37 → 00:28:40 คือได้ถึง 300 นาทีต่อสัปดาห์เลยนะคะก็จะ
00:28:40 → 00:28:44 ยิ่งดีก็คือการออกกำลังกายนะคะแล้วก็มี
00:28:44 → 00:28:46 การออกกำลังกายอีกวิธีนึงก็คือ High
00:28:46 → 00:28:48 intensity ก็คือการออกกำลังกายที่เข้ม
00:28:48 → 00:28:52 ข้นมากหน่อยค่ะนะคะเช่นออกกำลังกายจนแบบ
00:28:52 → 00:28:53 รู้สึกเหนื่อยจนแบบโอหพูดเป็นประโยคไม่
00:28:54 → 00:28:57 ได้เลยเป็นคำๆอันเนี้ยเวลาที่เราแนะนำก็
00:28:57 → 00:28:59 จะลดลงเหลือประมาณ 75 นาทีต่อสัปดาห์คือ
00:29:00 → 00:29:02 บางคนไม่มีเวลาเาก็ต้องการแบบเอ่อเหนื่อย
00:29:02 → 00:29:06 ๆสั้นๆนะคะแต่จริงๆการออกกำลังกายในแต่ละ
00:29:06 → 00:29:08 คนเนี่ยถ้าถ้ามีโรคประจำตัวนะคะแนะนำให้
00:29:08 → 00:29:11 สอบถามคุณหมอว่าเออเขาเหมาะกับวิธีไหน
00:29:11 → 00:29:14 เนี่ยบางคนที่มีปัญหาเรื่องข้อต่อก็อาจจะ
00:29:14 → 00:29:16 เป็นเอ่อคาร์ดิโอหรือแอโรบิไม่ได้เพราะ
00:29:16 → 00:29:18 ว่าต้องกระแทกเงี้เป็นต้นนะคะก็อาจจะต้อง
00:29:18 → 00:29:21 ไปปรับนะคะเช่นออกกำลังกายในน้ำอะไรอย่าง
00:29:21 → 00:29:24 เงี้ยค่ะในในน้ำก็คือเช่นเดินในน้ำหรือ
00:29:24 → 00:29:26 ว่ายน้ำอันนี้ก็จะช่วยในคนที่มีปัญหาปวด
00:29:26 → 00:29:30 ข้อปวดเข่าข้อต่อได้ซึ่งซึการออกกำลังกาย
00:29:30 → 00:29:32 ในคนที่มีโรคประจำตัวอาจจะแนะนำให้ปรึกษา
00:29:33 → 00:29:35 คุณหมอนะคะว่าทำได้มากน้อยแค่ไหนที่เหมาะ
00:29:35 → 00:29:39 สมนึกนึกภาพของการออกกำลังกายที่ที่มาก
00:29:39 → 00:29:41 อย่างที่คุณหมอบอกเช่นสมมุติว่าวิ่งที่
00:29:41 → 00:29:44 ลู่แล้วก็จะเร่งสปีดให้เยอะอย่างงั้นลหาย
00:29:44 → 00:29:47 ใจเหนื่อยๆใชมคะแล้วก็สลับกับกับช้าลง
00:29:47 → 00:29:50 อย่างเงี้ยก็สามารถทำได้แต่ว่าไม่ควรที่
00:29:50 → 00:29:53 จะไปเร่งให้มากนานขนาดเกินไปใช่มั้ยคะใช่
00:29:54 → 00:29:55 ๆเเรียกว่าเป็น interval Exercise ค่ะ
00:29:55 → 00:29:58 เราอาจจะเร่งสักพักนึงพอเริ่มรู้สึกอ่ะ
00:29:58 → 00:30:01 ไม่ไหวลแล้วก็ผ่อนแล้วก็ผ่อนให้มันเบา
00:30:01 → 00:30:03 แล้วก็อาจจะเร่งแล้วเเป็น interval อย่าง
00:30:03 → 00:30:06 นี้ก็ได้ค่ะอืสลับไปแต่ไม่ต้องว่าหายใจ
00:30:06 → 00:30:08 ไม่ทันไม่ทันอย่างงั้นบางคนจะจะเเรียกว่า
00:30:08 → 00:30:09 ซาดิ
00:30:09 → 00:30:12 อ่ะเคคิดว่าเคแข็งแรงอาจจะเป็นหนุ่มสาื
00:30:12 → 00:30:15 เกินไปก็ไม่ดีนะคะต้องต้องต้องเ่อเข้า
00:30:15 → 00:30:17 เรียกว่าสังเกตร่างกายเราด้วยว่าไหวแค่
00:30:17 → 00:30:19 ไหนแล้วก็อีกอันนึงคือถ้ามีเวลาอีกก็แนะ
00:30:19 → 00:30:23 นำว่าเป็นพวกการทำ resistance Exercise
00:30:23 → 00:30:25 ก็คือการเช่นอ่ะยกตัวอย่างเช่นการยก
00:30:25 → 00:30:28 ดัมเบลยกเทอืก็จะทำให้เสริมสร้างกล้าม
00:30:28 → 00:30:31 เนื้อนะคะก็จะทำให้การทรงตัวดีขึ้นการเผา
00:30:31 → 00:30:35 ผายดีขึ้นนะคะแล้วก็ทำให้เราอ้วนยากกว่า
00:30:35 → 00:30:38 เดิมนะคะอือนยากถ้าเบื้องต้นก็คืออาจจะ
00:30:38 → 00:30:41 ต้องไปอ่าบางคนอาจจะใช้ตัวแบนดก็คือเป็น
00:30:41 → 00:30:44 ยางครับอยางยืดที่ที่ให้มันมีแรงตั้งหรือ
00:30:44 → 00:30:46 บางคนอาจจะใช้ดัมเบลหรือว่าอาจจะบางคนอาจ
00:30:47 → 00:30:50 จะไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในแง่ของการอ่าการ
00:30:50 → 00:30:54 ออกแบบเ่อการออกกำลังกายให้เหมาะสมค่ะอื
00:30:54 → 00:30:56 เพราะว่ายิ่งอายุเยอะกล้ามเนื้อมันก็ยิ่ง
00:30:56 → 00:31:00 หดหายไปค่ะเพะฉาคต้องเสรมสร้างกล้ามเนื้อ
00:31:00 → 00:31:04 ใชทั้งเทด้วยไนกหายไปหมดหือยังครับอุ้ย
00:31:04 → 00:31:07 กำลังดีค่ะอ๋อโอเคกำลังดีนะฮะแต่ให้หัวใจ
00:31:07 → 00:31:10 ทำงานหนักเี่ไม่ทำนะง่ายๆก็ทำท่าสคอก็ได้
00:31:10 → 00:31:12 ค่ะก็คือท่านั่งเก้าอี้เราเนี่ยก็ก็อัน
00:31:12 → 00:31:14 นี้ก็เป็นการฝึกกล้ามเนื้อมัดใหญ่ก็จะ
00:31:14 → 00:31:16 ช่วยให้การทรงตัวดีขึ้นแล้วก็กล้ามเนื้อ
00:31:16 → 00:31:18 เราก็ไม่ไม่ฝอเรวแล้วก็ต้องทานโปรตีนให้
00:31:18 → 00:31:22 พออนะคะอืโปรตีนค่ะ้อนี่หัวใจเต้นดีมาก
00:31:22 → 00:31:25 เลยนะครับหัวใจเต้นหัวใจเต้นแบบว่าตุบตับ
00:31:25 → 00:31:26 ๆตับมาก
00:31:26 → 00:31:29 เลยนานไม่
00:31:29 → 00:31:33 นานครั้งละเซตละ 10-1 ครั้งไงพี่นกแต่ว่า
00:31:33 → 00:31:35 ทำติดเอ่อแบบ 4 เซต 5 เซตอะไรอย่าเงี้ย
00:31:35 → 00:31:38 กล้านเนื้อยังยังโอคาโอดีมากเลยจะบอกให้
00:31:38 → 00:31:41 ต้นขาดีมากเลยนะฮะคุณหมอมีคุณผู้ฟังสอบ
00:31:41 → 00:31:43 ถามมาเหมือนกันครับเมื่อกี้เอ่อคุณหมอพูด
00:31:43 → 00:31:46 ถึงเรื่องของท่านอนด้วยเอ่ออยากจะถามว่า
00:31:46 → 00:31:50 ไอ้เมื่อมีภาวะหัวใจโตเนี่ยไอ้การนอน
00:31:50 → 00:31:53 ตะแคงเนี่ยจำเป็นมั้ยครับว่าจะต้องตะแคง
00:31:53 → 00:31:56 ซ้ายหรือตะแคงขวาดีฮะคุณหมอเอหัวใจอยู่
00:31:56 → 00:32:00 ตรงไหนคุณหมอจริงๆถ้าปกติแล้วมันไม่ได้
00:32:00 → 00:32:03 ท่าไนข้างไหนก็ได้นะคะเพราะว่าหัวใจอ่ะ
00:32:03 → 00:32:07 มันไม่ไม่มันมันไม่กรีบไปกลิ้งมาเนาะตัว
00:32:07 → 00:32:10 ใ้จะอยู่ตรงกลางหน้าอกเยิงไปทางซ้ายนิด
00:32:10 → 00:32:14 หน่อยแล้วก็จะมีการเอ่อยึดด้วยตัวมันจะ
00:32:14 → 00:32:17 อยู่กลางปอดแล้วก็จะมีเนื้อเยื่อมาหุ้ม
00:32:17 → 00:32:19 ห่อหุ้มอีกทีนึงเพราะฉะนั้นในการเราพลิก
00:32:19 → 00:32:22 ตะแคงมันไม่ได้ส่งผลอไม่นอนทับหัวใจให้
00:32:22 → 00:32:25 มันไปนอนทับหรืออะไรเงี้ยไม่ไม่ใช่แต่ว่า
00:32:25 → 00:32:27 ในคนที่หัวใจร่มเดวที่ได้อธิบายไปเมื่อ
00:32:27 → 00:32:31 ตอนต้นก็คือเอ่อนอนราบไม่ได้เค้าจะต้อง
00:32:31 → 00:32:33 นอนหัวสูงก็คือเช่นอาจจะต้องหนุนหมอน 2-3
00:32:33 → 00:32:35 ใบหรือบางคนต้องนั่งหลับอย่างเงี้ยค่ะอัน
00:32:35 → 00:32:38 เนี้ยผิดปกติแน่นอนอันนั้นมันการไหลเวียน
00:32:38 → 00:32:42 ของเค้าใช่มั้ยคะใช่ค่ะออืเพราะฉะนั้นก็
00:32:42 → 00:32:45 นอนแต่สังเกตดูจะไปขวานี่จะสบายกว่านะคะ
00:32:45 → 00:32:49 คุณมอเราคิดแบบดั้งเดิมจริงๆแล้วแต่ของบอ
00:32:49 → 00:32:52 นี่ชอบซ้ายอ้าเหรอคแล้วแต่ความชินเหรอเออ
00:32:52 → 00:32:54 แล้วแต่แล้วแต่บางคนเนาแล้วแต่บางคนว่า
00:32:54 → 00:32:59 เอ่อถนัดทางไหนนอนตรงไหนสบายมากกว่าใช่
00:32:59 → 00:33:01 ใช่คุณหมอครับช่วงท้ายแล้วครับคุณหมอครับ
00:33:01 → 00:33:04 อยากจะให้เอ่อคุณหมอรบกวนฝากทิ้งท้าย
00:33:04 → 00:33:07 เกี่ยวกับเรื่องของภาวะหัวใจโตให้กับคุณ
00:33:07 → 00:33:10 ผู้ฟังรายการของเรานิดนึงว่าอ่ะเอ่อถ้า
00:33:10 → 00:33:14 ใครมีภาวะนี้แล้วเนี่ยมันก็ไม่ได้เป็น
00:33:14 → 00:33:17 อะไรที่น่ากลัวน่าวิตกกังวลขนาดนั้นรวม
00:33:17 → 00:33:21 ทั้งคนที่อาจจะยังไม่มีภาวะนี้เอ่อควรจะ
00:33:21 → 00:33:23 ต้องหันมาใส่ใจดูแลตัวเองกันยังไงดีครับ
00:33:23 → 00:33:26 คุณหมอครับค่ะค่ะเบื้องต้นก็คืออย่าง
00:33:26 → 00:33:28 อย่างที่เน้นย้ำนะคะว่าเรื่องพฤติกรรม
00:33:28 → 00:33:31 สุขภาพที่ดีนะคะอาหารการกินการออกกำลัง
00:33:31 → 00:33:35 กายพักผ่อนให้เพียงพอนะคะอันเนี้ยเป็นกน
00:33:35 → 00:33:37 เอ่อเป็นคีย์หลักที่สำคัญในการดูแลสุขภาพ
00:33:37 → 00:33:39 เลยนะคะแล้วก็เมื่อไหร่ก็แล้วแต่ที่มัน
00:33:39 → 00:33:41 อาจจะเกิดโรคด้วยอาจจะเป็นความเสื่อมของ
00:33:42 → 00:33:44 ร่างกายหรือโรคบางอย่างที่เราอาจจะหลีก
00:33:44 → 00:33:47 เลี่ยงไม่ได้ก็ถ้าเริ่มมีอาการก็ให้แนะนำ
00:33:47 → 00:33:50 อ่าไปพบคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเพื่อสืบพ้นว่า
00:33:50 → 00:33:53 สาเหตุที่แท้จริงคืออะไรนะคะแล้วก็ไม่
00:33:53 → 00:33:55 ต้องกลัวเนื่องจากว่าเอ่อการรับษาเนี่ย
00:33:56 → 00:33:58 มันค่อนข้างมีความหลากหลายอยู่ที่โรคนะคะ
00:33:58 → 00:34:01 เอ่ออาจจะบางบางกรณีก็อาจจะแค่ปรับเปื่อน
00:34:01 → 00:34:03 พฤติกรรมแล้วก็ดีขึ้นบางกรณีอาจจะรับ
00:34:03 → 00:34:06 ประทานแค่ยาอนะคะแต่ถ้าสมมุติว่าจะต้องนำ
00:34:06 → 00:34:10 ไปสู่เช่นการผ่าตัดเนี่ยก็ส่วนใหญ่คุณหมอ
00:34:10 → 00:34:13 เขาก็จะต้องตรวจอย่างละเอียดที่แน่นอน
00:34:13 → 00:34:15 แล้วว่าอาจจะต้องไปลงเอยด้วยกันเอ่อไปผ่า
00:34:15 → 00:34:18 ตัดหรือว่าการส่วนหัวใจเป็นต้นอย่าเงี้ย
00:34:18 → 00:34:20 ค่ะก็ยังอยากให้ทุกท่านเนี่ยเบื้องต้นคือ
00:34:21 → 00:34:23 ดูแลสุขภาพแล้วก็ถ้ามีอาการที่ผิดปกตินะ
00:34:23 → 00:34:26 ก็ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญนะคะเพื่อที่จะนำ
00:34:26 → 00:34:28 ไปสู่การวางแผนการรักษาที่ถูกถูกต้องและ
00:34:28 → 00:34:32 เหมาะสมค่ะอืสบายๆเนาะอย่างคุณหมอเล่าอ่ะ
00:34:32 → 00:34:34 ไม่ใช่ว่ามีการรักษาที่ผ่าตัดอะไรขนาด
00:34:34 → 00:34:37 นั้นคุณหมอปรับพฤติกรรมหรือว่ามีทานยา
00:34:37 → 00:34:40 หมั่นสังเกตอืสังเกตตัวเองอารของตัวเอง
00:34:40 → 00:34:42 ใช่่ครับวันนี้ต้องขอกราบขอบพระคุณคุณหมอ
00:34:42 → 00:34:44 มากๆเลยนะครับที่มาให้ความรู้กับเราในค่ำ
00:34:44 → 00:34:47 คืนวันนี้ขอบพระคุณคุณหมอมากๆนะครับส
00:34:47 → 00:34:49 สวัสดีครับคุณหมอขอบพระคุณมากๆนะครับคุณ
00:34:49 → 00:34:53 หมอครับค่ะ