00:00:00 → 00:00:04 อาการอะไรที่เราถึงจะสามารถระบุและเรียก
00:00:04 → 00:00:06 อาการเหล่านั้นว่ากระเพาะปัสสาวะของเรา
00:00:06 → 00:00:09 เริ่มอักเสบแล้วครับ
00:00:09 → 00:00:12 อธิบายก่อนนะครับว่าคำว่ากระเพาะปัสสาวะ
00:00:12 → 00:00:15 อักเสบเนี่ยมันก็หมายถึงว่าเป็นการอักเสบ
00:00:15 → 00:00:18 ของบริเวณกระเพาะปัสสาวะนะครับซึ่งสาเหตุ
00:00:18 → 00:00:21 เนี่ยอาตมาจากทั้งการติดเชื้อหรือไม่ได้
00:00:21 → 00:00:25 มาจากการติดเชื้อก็ได้นะครับทีนี้ถามว่า
00:00:25 → 00:00:28 การเนี่ยมีได้หลากหลายนะครับแต่โดยส่วน
00:00:28 → 00:00:32 ใหญ่อาการที่คนไข้จะจะมาโรงพยาบาลเลยนะ
00:00:32 → 00:00:35 ครับก็คือจะรู้สึกว่าปัสสาวะบ่อยปัสสาวะ
00:00:35 → 00:00:38 แสบขัดมีอาการปวดหน่วงท้องน้อยหรือว่า
00:00:38 → 00:00:41 ปัสสาวะมีเลือดปนนะครับโดยในบางรายเนี่ย
00:00:41 → 00:00:44 อาจจะมีลักษณะปัสสาวะที่มี 4 คนร่วมกับมี
00:00:44 → 00:00:46 กลิ่นเหมือนกลิ่นฉุนร่วมด้วยนะครับแต่ว่า
00:00:46 → 00:00:49 โดยส่วนใหญ่การติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะ
00:00:49 → 00:00:50 เนี่ย
00:00:50 → 00:00:55 ผู้ป่วยจะไม่มีไข้นะครับนะครับไม่มีไข้
00:00:55 → 00:00:59 ใช่ไหมฮะที่ที่บอกว่าปัสสาวะบ่อยเนี่ย
00:00:59 → 00:01:05 ครับมันมันต้องขนาดไหนถึงจะนิยามได้ได้
00:01:05 → 00:01:08 ถึงพฤติกรรมที่เรียกว่าบ่อยนะคุณหมอ
00:01:08 → 00:01:12 คือถ้าตัวเลขเข้าๆเลยอ่ะคนเราทั่วไปปกติ
00:01:12 → 00:01:17 ก็ปัสสาวะวันนึงประมาณ 6-8 ครั้งต่อวันนะ
00:01:17 → 00:01:19 ครับแต่ว่าในไลน์ที่มีการอักเสบจะรู้สึก
00:01:19 → 00:01:22 ว่าปัสสาวะเยอะมากๆอาจจะทุก 20 นาทีหรือ
00:01:22 → 00:01:25 ทุกๆชั่วโมงเลยครับ
00:01:25 → 00:01:28 พออย่างนี้ค่ะที่อาจารย์บอกว่าทั้ง
00:01:28 → 00:01:31 ปัสสาวะบ่อยปวดหน่วงอย่างนี้ค่ะคือแสดง
00:01:31 → 00:01:34 ว่ามันต้องติดเชื้อนานแค่ไหนนะคะถึงถึงมา
00:01:34 → 00:01:36 แสดงอาการแบบนี้ค่ะหรือว่ามันมีพฤติกรรม
00:01:36 → 00:01:39 อะไรมาก่อนถึงได้แบบเป็นสาเหตุของการ
00:01:39 → 00:01:44 อักเสบหรือติดเชื้อค่ะถ้าพฤติกรรมที่นำมา
00:01:44 → 00:01:47 ก่อนเนี่ยอาจจะมีประวัติเรื่องช่วงนี้
00:01:47 → 00:01:50 ดื่มน้ำน้อยนะครับหรือว่ามีประวัติการ
00:01:50 → 00:01:53 กลั้นปัสสาวะนะครับทีนี้ถ้าถามว่าหลังจาก
00:01:53 → 00:01:57 รับเชิญเข้าไปแล้วคนส่วนใหญ่ก็ภายใน
00:01:57 → 00:02:00 ประมาณ 2-3 วันก็จะเริ่มแสดงอาการการติด
00:02:00 → 00:02:02 เชื้อแล้วครับ
00:02:02 → 00:02:07 ไม่นานเองนะคะใช่ๆครับมันเป็นเชื้อที่มัน
00:02:07 → 00:02:11 ๆมันชื่อว่าอะไรที่มันมันออกฤทธิ์ได้เร็ว
00:02:11 → 00:02:15 ขนาดนี้เลยครับคุณหมอครับ
00:02:15 → 00:02:19 จะเป็นเชื้อแบคทีเรียนะครับเชื้อที่พบได้
00:02:19 → 00:02:22 บ่อยที่สุดก็จะชื่อว่าตัวอีคอไรด์นะครับ
00:02:22 → 00:02:26 ซึ่งไอ้เชื้อตัวนี้เนี่ยตามปกติมันจะอยู่
00:02:26 → 00:02:30 ในลำไส้ของคนเรานี่เองนะครับแล้วก็มันจะ
00:02:30 → 00:02:32 ไปอยู่ที่บริเวณรอบๆทวารหนักแล้วก็บริเวณ
00:02:32 → 00:02:34 ตรงแถวๆฝีเย็บถ้าเป็นผู้หญิงก็อาจจะอยู่
00:02:34 → 00:02:39 แถวๆใกล้ๆตัวท่อปัสสาวะของผู้หญิงด้วยที่
00:02:39 → 00:02:42 นี้เนี่ยในผู้หญิงเนี่ยพ่อปัสสาวะจะสั้น
00:02:42 → 00:02:45 กว่าท่อปัสสาวะในผู้ชายนะครับเพราะฉะนั้น
00:02:45 → 00:02:49 การเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบก็เจอในผู้
00:02:49 → 00:02:52 หญิงมากกว่าผู้ชายครับ
00:02:52 → 00:02:56 อาจารย์คะแล้วพอสมมุติเนี่ยค่ะมีอาการ
00:02:57 → 00:02:59 อย่างที่อาจารย์ว่าและไม่ว่าจะปวดหน่วง
00:02:59 → 00:03:02 ปวดท้องน้อยหรือว่า
00:03:02 → 00:03:05 มีฉี่แบบปัสสาวะปนมาอย่างนี้ค่ะอาจารย์
00:03:05 → 00:03:10 ถ้าไม่หาหมอมันหาเองได้ไหมคะ
00:03:10 → 00:03:12 คือคือถ้าเป็นจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
00:03:12 → 00:03:17 เนี่ยปกติจะไม่ได้หายเองนะครับแล้วถ้าได้
00:03:17 → 00:03:20 รับการรักษาที่ไม่เหมาะสมเนี่ยการติด
00:03:20 → 00:03:23 เชื้อเป็นรูปร่างมากขึ้นได้คือสมมุติเรา
00:03:24 → 00:03:26 ติดเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะปัสสาวะแล้ว
00:03:26 → 00:03:29 เราไม่ได้รับการรักษาจนเชื้อแบคทีเรียมัน
00:03:29 → 00:03:34 ลุกลามขึ้นไปติดเชื้อที่กรวยไตอ่ะครับคน
00:03:34 → 00:03:37 ไข้ก็จะมีอาการของกรวยไตอักเสบอาจจะมีไข้
00:03:37 → 00:03:40 สูงหนาวฟันปวดฟันเอวซึ่งจะเพิ่มความ
00:03:40 → 00:03:43 เสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือดได้แต่
00:03:43 → 00:03:46 ถ้าแต่ถ้ามีอาการที่ไม่ได้เกิดจากการติด
00:03:46 → 00:03:50 เชื้ออย่างเช่นบางคนปัสสาวะบ่อยเราสามารถ
00:03:50 → 00:03:53 แสบขัดแต่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อก็อาจ
00:03:53 → 00:03:58 จะหายได้โดยที่ไม่ได้รับประทานยาปฏิชีวนะ
00:03:58 → 00:03:59 ครับ
00:03:59 → 00:04:04 หายได้เองนี่คืออยู่ดีๆก็ไม่เป็นอะไร
00:04:04 → 00:04:07 ที่ไม่ใช่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียนะ
00:04:07 → 00:04:08 ครับ
00:04:08 → 00:04:14 ใช่ครับอาการแรกเริ่มนะครับของของสิ่งที่
00:04:14 → 00:04:17 เรียกว่ากระเพาะปัสสาวะอักเสบเนี่ยคือนอก
00:04:17 → 00:04:20 จากการปัสสาวะกันบ่อยๆและจาก 6-8 ครั้ง
00:04:21 → 00:04:24 ต่อวันก็โอ้โหมาทุกๆ 20 นาทีอาการอย่าง
00:04:24 → 00:04:27 อื่นที่มันจะมีการบ่งบอกว่าว่าเราเริ่มมี
00:04:27 → 00:04:30 อาการนี้แล้วมันมันมีอะไรเพิ่มเติมอีกไหม
00:04:30 → 00:04:32 ครับที่เราจะสามารถสังเกตกันได้ง่ายๆฮะ
00:04:32 → 00:04:34 คุณหมอฮะ
00:04:34 → 00:04:38 อาจจะมีอาการปวดท้องน้อยตรงกลางร่วมด้วย
00:04:38 → 00:04:42 และในบางรายจะมีบ่นว่ารู้สึกปวดบริเวณ
00:04:42 → 00:04:43 หลังอ่ะนะครับ
00:04:43 → 00:04:46 อาจจะเราไปด้านหลังได้แต่เวลาที่เป็น
00:04:46 → 00:04:49 เนื้อจะมีเลือดปนได้นะครับ
00:04:49 → 00:04:53 ใช่ครับอันนี้คือมันต้องรุนแรงแบบแบบแบบ
00:04:53 → 00:04:57 เพิ่มขึ้นมากๆเลยครับถึงปัสสาวะออกมาแล้ว
00:04:57 → 00:05:03 มีเลือดปนออกมาด้วย
00:05:03 → 00:05:06 นะครับถ้าเกิดมีการอักเสบค่อนข้างเยอะ
00:05:06 → 00:05:10 เวลามีการอักเสบเนี่ยพวกเส้นเลือดก็จะ
00:05:10 → 00:05:15 เหมือนกับเกิดเกิดการขยายขึ้นมาแล้วก็อาจ
00:05:15 → 00:05:18 จะมีเลือดออกมาได้
00:05:18 → 00:05:21 ทีนี้ผู้หญิงอ่ะค่ะมันจะมีทั้งประจำเดือน
00:05:21 → 00:05:25 ใช่ไหมคะแล้วก็แบบนี้วิธีแย่นะคะว่าเลือด
00:05:25 → 00:05:27 ออกเพราะปัสสาวะจากกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
00:05:27 → 00:05:30 หรือแบบประจำเดือนนี้เราแยกได้ไหมคะนอก
00:05:30 → 00:05:32 จากการนับตามปฏิทินหรือถ้าเราบอกคุณหมอ
00:05:32 → 00:05:34 หรือใครสามารถเป็นรู้ได้เลยหรือบางคนแบบ
00:05:34 → 00:05:36 เอาช่วงนี้ฉันมีประจำเดือนพอดีอะไรอย่าง
00:05:36 → 00:05:38 เงี้ยค่ะอาจารย์
00:05:38 → 00:05:41 ปัญหาที่พบได้บ่อยเหมือนกันครับอย่างเช่น
00:05:42 → 00:05:44 ในผู้หญิงที่ช่วงนี้มีประจำเดือนพอดีแล้ว
00:05:44 → 00:05:46 ก็เริ่มมีอาการแบบว่าขาดๆนิดหน่อยแล้วรู้
00:05:46 → 00:05:48 สึกว่าปัสสาวะเป็นเลือดก็จะมาหาหมอด้วย
00:05:48 → 00:05:52 กังวลว่ามีมีการอักเสบหรือเปล่านะครับที
00:05:52 → 00:05:55 นี้ถ้าเป็นสัตว์ประจำเดือนเนี่ยก็ก็จะมี
00:05:55 → 00:05:58 เลือดเอ่อเหมือน
00:05:58 → 00:06:02 ๆออกมาจากช่องคลอดนะครับเหมือนปกติก็
00:06:02 → 00:06:05 อย่างเช่นเลอะเบอร์ตัวผ้าอนามัยอ่ะนะครับ
00:06:05 → 00:06:09 แต่ถ้าปัสสาวะแต่ในบางรายที่เลือดออกอาจ
00:06:09 → 00:06:11 จะเริ่มๆหรือใกล้หมดไงครับเพื่ออัตโนมัติ
00:06:11 → 00:06:15 จะเห็นเลือดปนกับปัสสาวะได้เช่นกันครับก็
00:06:15 → 00:06:18 อาจจะแยกแยกกันค่อนข้างยากก็อาจจะต้องการ
00:06:18 → 00:06:20 ประกอบด้วยครับ
00:06:20 → 00:06:23 แล้วถ้ามันเป็นนะคะมันเป็นแบคทีเรียใช่
00:06:23 → 00:06:25 ไหมคะที่อาจารย์บอกติดเชื้อประจำเดือนมัน
00:06:25 → 00:06:26 ก็เป็นเรื่องของเรามันยิ่งติดเชื้อมัน
00:06:26 → 00:06:30 ยิ่งแรงขึ้นไหมคะถ้าเป็นพร้อมกัน
00:06:30 → 00:06:32 อาจจะไม่ได้เพิ่มเพิ่ม
00:06:32 → 00:06:37 ความรุนแรงมากขึ้นน่ะนะครับแต่แต่ทีนี้
00:06:37 → 00:06:40 เนี่ยในผู้หญิงที่มีประจำเดือนเนี่ยต้อง
00:06:40 → 00:06:43 ดูแลรักษาดูแลรักษาความสะอาดบริเวณ
00:06:43 → 00:06:48 อวัยวะเพศให้เหมาะสมนะครับถ้าเกิดสมมุติ
00:06:48 → 00:06:51 ถ้าอนามัยเปิดประจำเดือนแล้วไม่ได้
00:06:51 → 00:06:54 เปลี่ยนบ่อยหรือว่าให้เกิดการอับชื้น
00:06:54 → 00:06:58 เนี่ยเชื้อแบคทีเรียที่อาจจะอยู่แถวๆ
00:06:58 → 00:07:01 บริเวณทวารอยู่แถวๆบริเวณสีก็จะลุกลาม
00:07:01 → 00:07:03 เข้าไปในกระเพาะปัสสาวะทำให้เกิดการติด
00:07:03 → 00:07:06 เชื้อได้ง่ายขึ้นครับ
00:07:06 → 00:07:11 ก็คือดูแลน้องสาวให้ดีว่างั้น
00:07:11 → 00:07:14 เกี่ยวกับเรื่องของการทำความสะอาด
00:07:14 → 00:07:18 น้องสาวของคุณสุภาพสตรีด้วยนะครับคุณหมอ
00:07:18 → 00:07:19 ครับ
00:07:19 → 00:07:21 เกี่ยวด้วยครับ
00:07:21 → 00:07:23 คือเวลา
00:07:23 → 00:07:28 การรักษาดูแลทำความสะอาดก็แนะนำให้
00:07:28 → 00:07:32 ให้เวลาเช็ดทำความสะอาดนะครับสมมุติทำ
00:07:32 → 00:07:35 ความสะอาดบริเวณช่องคลอดแนะนำให้เช็คจาก
00:07:35 → 00:07:38 ด้านหน้าไปด้านหลังนะครับเนื่องจากอย่าง
00:07:38 → 00:07:40 ที่บอกไปว่าตัวเชื้อแบคทีเรียส่วนใหญ่ที่
00:07:40 → 00:07:43 ทำให้เกิดการติดเชื้อเนี่ยจะอยู่บริเวณ
00:07:43 → 00:07:46 ลำไส้ใกล้ๆทวารค่าใช้จ่ายด้านหลังมาด้าน
00:07:46 → 00:07:48 หน้าก็อาจจะไม่เชื้อมาปนเปื้อนอยู่แถวๆ
00:07:48 → 00:07:52 ตรงท่อปัสสาวะก็ทำให้เกิดการติดเชื้อ
00:07:52 → 00:07:54 [เพลง]
00:07:54 → 00:07:57 หน้าไปหลังไม่ให้หลังขึ้นหน้าคือไม่เช็ด
00:07:57 → 00:08:00 ย้อนขึ้นมาเช็ดอ่าไป
00:08:00 → 00:08:04 อาจารย์คะแล้วถามอีกนิดนึงค่ะว่าสมมุติ
00:08:04 → 00:08:07 ว่าถ้าเราเป็นพอเรามีอาการอย่างมีเลือด
00:08:07 → 00:08:09 ออกที่อาจารย์บอกว่าถ้าเป็นแบคทีเรียก็
00:08:09 → 00:08:12 ต้องมาหาอาจารย์แต่เวลาสมมติเราจะรู้
00:08:12 → 00:08:14 อาจารย์ต้องเอาปัสสาวะไปตรวจใช่ไหมคะถึง
00:08:14 → 00:08:16 จะรู้ว่าติดเชื้อไม่ติดเชื้อและกระบวนการ
00:08:16 → 00:08:19 การรักษาจะนานแค่ไหนและถ้าหายแล้วจะเป็น
00:08:19 → 00:08:21 อีกไม่
00:08:21 → 00:08:24 โดยส่วนใหญ่จะรักษาเนี่ยก็จะให้ยา
00:08:24 → 00:08:28 ปฏิชีวนะนะครับโดยที่ระยะเวลาการให้งาน
00:08:28 → 00:08:32 เนี่ยก็ขึ้นอยู่กับยาโดยทั่วๆไปก็อยู่ที่
00:08:32 → 00:08:36 3-7 วันนะครับโดยส่วนใหญ่ให้ไปแล้วเนี่ย
00:08:36 → 00:08:41 อาการก็จะมีขึ้นภายใน 3 วันนะครับแต่ในคน
00:08:41 → 00:08:43 ที่ได้ยาไปแล้วรู้สึกว่าอาการยังไม่ดี
00:08:43 → 00:08:46 ขึ้นเลยนะครับอันนี้ก็อาจจะต้องกลับไปพบ
00:08:46 → 00:08:49 แพทย์และแพทย์เนี่ยต้องเอาปัสสาวะไปพอ
00:08:49 → 00:08:51 เชื้อเพื่อดูว่าเชื้อแบคทีเรียที่ติด
00:08:51 → 00:08:53 เนี่ยเป็นตัวอื่นหรือเปล่าหรือว่าเป็น
00:08:53 → 00:08:55 เชื้อแบคทีเรียชนิดที่ดื้อยาหรือเปล่านะ
00:08:55 → 00:08:58 ครับก็อาจจะต้องปรับเปลี่ยนยาปฏิชีวนะให้
00:08:58 → 00:09:00 เหมาะสมครับ
00:09:00 → 00:09:04 ก็ก็ต้องแล้วแต่อาการเนาะ
00:09:04 → 00:09:07 แล้วถ้ากลั้นปัสสาวะอีกเป็นอีกไหมคะ
00:09:07 → 00:09:09 อาจารย์เป็นบ่อยได้ไหมคะหรือเป็นหนเดียว
00:09:09 → 00:09:12 แล้วมันก็จะไม่เป็นอีกครับ
00:09:12 → 00:09:16 หมอก็จะแพทย์ก็จะแนะนำเรื่องการปฏิบัติ
00:09:16 → 00:09:19 ตัวกับไปด้วยนะครับเพื่อลดโอกาสที่จะกลับ
00:09:19 → 00:09:22 มาเป็นซ้ำนะครับก็คือแนะนำให้
00:09:22 → 00:09:26 คนไข้เนี่ยดื่มน้ำมากๆนะครับก็คือมากกว่า
00:09:27 → 00:09:30 1 จุด 5 ลิตรต่อวันนะครับแล้วก็งดการ
00:09:30 → 00:09:32 กลั้นปัสสาวะนะครับ
00:09:32 → 00:09:36 แล้วก็พยายามรักษาความสะอาดอย่างที่กล่าว
00:09:36 → 00:09:37 ไปแล้วก็
00:09:37 → 00:09:41 พยายามอย่าให้ท้องผูกเพราะว่าก็อาจจะมีผล
00:09:41 → 00:09:45 ต่อการปัสสาวะได้และอย่างหนึ่งก็คือถ้าใน
00:09:45 → 00:09:48 LINE ที่มีการติดเชื้อหลายๆครั้งที่
00:09:48 → 00:09:52 สำคัญกับการมีเพศสัมพันธ์นะครับ
00:09:52 → 00:09:55 ก็จะแนะนำว่า
00:09:55 → 00:09:59 ต้องทำความสะอาดแล้วก็ปัสสาวะทั้งก่อน
00:09:59 → 00:10:01 แล้วก็หลังมีเพศสัมพันธ์นะครับ
00:10:01 → 00:10:06 แล้วก็หลีกเลี่ยงการใช้ยาในกลุ่มยาเป็น
00:10:06 → 00:10:08 กลุ่มยาฆ่าเชื้อ
00:10:08 → 00:10:12 เปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมบริเวณช่องคลอดทำ
00:10:12 → 00:10:14 ให้ตัวแบคทีเรียดีที่อยู่ในบริเวณช่อง
00:10:14 → 00:10:17 คลอดเนี่ยมันเสียหายไปทำให้เพิ่มโอกาสการ
00:10:17 → 00:10:20 ติดเชื้อได้นะครับแต่ถ้า
00:10:20 → 00:10:23 หากผู้ป่วยไปปฏิบัติตัวอย่างนี้แล้วยัง
00:10:23 → 00:10:25 ต้องการติดเชื้อทุกครั้งหลังจากมี
00:10:25 → 00:10:28 เพศสัมพันธ์ทางแพทย์ก็อาจจะแนะนำให้ทานยา
00:10:28 → 00:10:30 ฆ่าเชื้อ
00:10:30 → 00:10:33 หลังจากมีเพศสัมพันธ์เพื่อป้องกันนะครับ
00:10:33 → 00:10:37 คือในกรณีของการติดเชื้อผ่านทางการมี
00:10:37 → 00:10:39 เพศสัมพันธ์กันเนี่ยอันนี้อันนี้ถามเป็น
00:10:39 → 00:10:43 ความรู้ก็คือแม้ว่าจะใส่ทางเพศชายและฝ่าย
00:10:43 → 00:10:45 ชายจะใส่ถุงยางอนามัยมันก็มีโอกาสที่จะทำ
00:10:45 → 00:10:48 ให้ติดเชื้อได้เหมือนกันเหรอครับคุณหมอ
00:10:48 → 00:10:53 คือถ้าติดเชื้อติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้
00:10:53 → 00:10:55 เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบมันจะไม่เหมือน
00:10:55 → 00:10:58 กับการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์เองเช่นพวก
00:10:58 → 00:11:01 น้องนายหรือว่าเชื้อไวรัสตัวอื่นๆนะครับ
00:11:01 → 00:11:04 การมีเพศสัมพันธ์เพิ่มปัจจัยเสี่ยงโดยกล
00:11:04 → 00:11:07 ไกที่ปกติเนี่ยเชื้อโรคอย่างที่กล่าวไป
00:11:07 → 00:11:10 มันอยู่บริเวณใกล้ตะวันน่ะฝีเย็บทีนี้การ
00:11:10 → 00:11:12 มีเพศสัมพันธ์เนี่ยมันทำให้ตัวเชื้อตรง
00:11:12 → 00:11:16 บริเวณตำแหน่งแถวๆนั้นเนี่ยมันเข้าไปปน
00:11:16 → 00:11:18 เปื้อนหรือว่าอยู่แล้วก็ตัวท่อปัสสาวะของ
00:11:18 → 00:11:21 เพศหญิงซึ่งก็จะทำให้เพิ่มโอกาสการติด
00:11:21 → 00:11:25 เชื้อได้ครับอ๋อแสดงว่าโอกาสในการที่จะทำ
00:11:25 → 00:11:28 ให้เกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบเนี่ยก็
00:11:28 → 00:11:30 คือจะเป็นทางฝ่าย
00:11:30 → 00:11:35 ถึงมากกว่าเพศชายถูกต้องครับใช่ครับถูก
00:11:35 → 00:11:39 ต้องครับเยอะเกินขนาดไหนครับ
00:11:39 → 00:11:43 ถ้าเป็นผู้หญิงก็คือประมาณสัก 70 หรือ 80%
00:11:43 → 00:11:46 หรือยังไงฮะอธิบายก่อนว่าในผู้ชายเนี่ย
00:11:46 → 00:11:49 ส่วนใหญ่จะไม่เจอเลยนะ
00:11:49 → 00:11:55 การติดเชื้อกระเพาะปัสสาวะยกเว้นถ้า
00:11:55 → 00:11:58 ผู้ชายมีอาการกระเพาะปัสสาวะเสร็จแล้วมี
00:11:58 → 00:12:00 กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
00:12:00 → 00:12:03 ถ้าเราพิมพ์ 5 เป้าตรวจเพิ่มเติมดูว่ามี
00:12:03 → 00:12:05 ปัจจัยเสี่ยงอะไรกระตุ้นหรือเปล่าอย่าง
00:12:05 → 00:12:08 เช่นอาจจะต้องส่งอัลตร้าซาวด์ดูว่ามีนิ่ว
00:12:08 → 00:12:10 หรือเปล่าหรือว่ามีท่อปัสสาวะตีบหรือ
00:12:10 → 00:12:35 เปล่า
00:12:35 → 00:12:37 50% พอดีแหละ
00:12:37 → 00:12:41 อาจารย์คะรบกวนถามอันนี้ได้ยินคนอื่นเขา
00:12:41 → 00:12:45 พูดมาว่าการใช้สายชำระเนี่ยก็มีส่วนที่ทำ
00:12:45 → 00:12:47 ให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบเหมือนกัน
00:12:47 → 00:12:49 อาการแบบเราไปเข้าห้องน้ำตามปั๊มข้างนอก
00:12:49 → 00:12:52 หรือเราเข้าไปห้องน้ำตามที่สาธารณะอื่นๆ
00:12:52 → 00:12:55 อย่างนี้ค่ะมีโอกาสถ้าสมมุติว่าเราใช้สาย
00:12:55 → 00:12:58 ชำระในฉีดแบบแรงๆอะไรอย่างนี้ค่ะเหมือน
00:12:58 → 00:13:00 ว่าเราจะหวังให้มันสะอาดแต่มันยิ่งเป็น
00:13:00 → 00:13:06 การทำร้ายน้องอย่างนี้ค่ะใช่หรือเปล่า
00:13:06 → 00:13:10 ไปความสะอาดบริเวณ
00:13:10 → 00:13:13 อวัยวะเพศหรือว่าช่องคลอดหรือกลัวโดนรอบๆ
00:13:13 → 00:13:19 ปัสสาวะรวมมีผลนะครับแต่ถ้าใช้สายฉีดน้ำ
00:13:19 → 00:13:23 ชำระฉีดเข้าไปเนี่ยอาจจะไม่ได้ไม่ได้มี
00:13:23 → 00:13:25 การศึกษาว่ามันมันเพิ่มปัจจัยเสี่ยงอย่าง
00:13:25 → 00:13:28 ชัดเจนนะครับแต่ถ้าพูดถึงว่าตามความเป็น
00:13:28 → 00:13:32 ไปได้เนี่ยถ้าต้องไปนั่งในโถที่มีเชื้อ
00:13:32 → 00:13:35 แบคทีเรียปนเปื้อนหรือว่ามีสิ่งสกปรกเยอะ
00:13:35 → 00:13:37 อยู่โดยที่เราไม่ได้เช็ดให้สะอาดมันต้อง
00:13:37 → 00:13:39 มีเทียบกับเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดติด
00:13:39 → 00:13:41 เชื้อได้ครับ
00:13:41 → 00:13:45 ท่อก็สั้นผู้ชายก็
00:13:45 → 00:13:51 โถฉี่ก็สูงรู้สึกแบบดูแล้วได้เปรียบ
00:13:51 → 00:13:53 ก็คือแสดงว่าลูกนี้เนี่ยก็คือเรียกว่า
00:13:53 → 00:13:58 เกือบจะ 100% เจอในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
00:13:58 → 00:14:55 ใช่ไหมครับคุณหมอ
00:14:55 → 00:14:57 อาจารย์คะแล้วเห็นอาจารย์พูดถึงเรื่องของ
00:14:57 → 00:14:59 การมีเพศสัมพันธ์ที่ว่าต้องปัสสาวะก่อน
00:14:59 → 00:15:01 และหลังอันนี้ก็คือการล้างเชื้อเหมือนกัน
00:15:01 → 00:15:04 ใช่ไหมคะกำจัดมาจากท่อใช่ครับ
00:15:04 → 00:15:07 [เพลง]
00:15:07 → 00:15:11 อยู่บริเวณตัวท่อปัสสาวะแถวๆนั้นก็ช่วย
00:15:11 → 00:15:16 ช่วยเหมือนกับช่วยลดจำนวนเชื้อลงไปได้
00:15:16 → 00:15:18 ก่อนครับ
00:15:18 → 00:15:21 อาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบครับคุณหมอครับ
00:15:21 → 00:15:23 คือถ้าเราปล่อยไว้
00:15:23 → 00:15:27 แล้วก็ถ้าสมมุติการรักษาหายแล้วก็กลับไป
00:15:27 → 00:15:30 มีพฤติกรรมแบบเดิมๆอีกเนี่ยมันจะนำเป็น
00:15:30 → 00:15:33 สู่ภาวะความเสี่ยงที่มันสูงมากกว่าที่มัน
00:15:33 → 00:15:37 เป็นอยู่ได้ยังไงบ้างนะฮะ
00:15:37 → 00:15:40 คือถ้าเกิดคนที่เป็นคารพเพราะปัสสาวะ
00:15:40 → 00:15:42 อักเสบแล้ว
00:15:42 → 00:15:46 รุ่นนอนใจไม่ไม่ได้ไปรักษานะครับการติด
00:15:46 → 00:15:49 เชื้อมันอาจจะลุกลามุนแรงมากขึ้นได้นะ
00:15:49 → 00:15:54 ครับก็คืออาจจะขึ้นไปติดเชื้อที่กรวยไตทำ
00:15:54 → 00:15:58 ให้มีไข้สูงหนาวสั่นแล้วก็มีโอกาสในการ
00:15:58 → 00:16:01 เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดมากขึ้นได้นะ
00:16:01 → 00:16:03 ครับที่นี้
00:16:03 → 00:16:05 ถามว่าถ้าคนที่เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
00:16:05 → 00:16:11 บ่อยๆแล้วไม่ได้ไปหาสาเหตุก็
00:16:11 → 00:16:14 อาจจะรบกวนทาง
00:16:14 → 00:16:16 เรื่องสุขภาพ
00:16:16 → 00:16:19 แล้วก็เรื่องการทำงานนะครับเราจะทำให้ทำ
00:16:19 → 00:16:22 งานไม่มีประสิทธิภาพต้องลุกไปเข้าห้องน้ำ
00:16:22 → 00:16:27 บ่อยๆครับ
00:16:27 → 00:16:31 พอดีเนี่ยค่ะมีคุณผู้ฟังทางบ้านถามมาเลย
00:16:31 → 00:16:34 ค่ะอันนี้เป็นพฤติกรรมของทุกคนที่จะแบบ
00:16:34 → 00:16:36 นั่นเลยค่ะถ้าเรายังมองอยู่หรือขี้เกียจ
00:16:36 → 00:16:39 อ่ะค่ะที่จะลุกมาปัสสาวะตอนกลางคืนไม่มี
00:16:39 → 00:16:44 ผลเสียไหมคะผู้หญิงผู้ชายต่างกันยังไง
00:16:44 → 00:16:49 สมมุติต้องอธิบายเรื่องการปัสสาวะกลางคืน
00:16:49 → 00:16:53 ก่อนนะครับคือคนทั่วๆไปเนี่ยจะลุกขึ้นมา
00:16:53 → 00:16:57 ปัสสาวะไม่เกิน 1 ครั้งต่อคืนอ่ะนะครับที
00:16:57 → 00:16:59 นี้สมมุติถ้ามีปัญหาเรื่องปวดปัสสาวะกลาง
00:16:59 → 00:17:04 คืนต้องขึ้นมาปัสสาวะบ่อยๆปกติทางทาง
00:17:04 → 00:17:07 แพทย์ก็จะแนะนำว่าควรจะไปหาสาเหตุว่าที่
00:17:07 → 00:17:09 ลุกขึ้นมาปัสสาวะกลางดึกบ่อยๆเนี่ยเป็น
00:17:09 → 00:17:10 จักรอะไร
00:17:10 → 00:17:13 ถ้าในผู้ชายก็ต้องถ้าอายุเยอะหน่อยก็ต้อง
00:17:13 → 00:17:15 ไปดูว่ามีปัญหาเรื่องต่อมลูกหมากโตหรือ
00:17:15 → 00:17:18 เปล่าเพราะว่าเราจะทำให้ขึ้นมาปัสสาวะ
00:17:18 → 00:17:19 บ่อยๆ
00:17:19 → 00:17:23 สาเหตุอื่นก็ต้องไปดูว่าอย่างเช่นมีการ
00:17:23 → 00:17:25 นอนกรนไม้หรือว่ามีดื่มน้ำก่อนนอนเยอะ
00:17:25 → 00:17:29 หรือเปล่านะครับนะฮะทุกคนปกติจะลุกขึ้นมา
00:17:29 → 00:17:31 ปัสสาวะไม่เกิน 1 ครั้ง
00:17:31 → 00:17:34 ถามว่ากลางคืนเนี่ยถ้ารู้สึกว่าขี้เกียจ
00:17:34 → 00:17:37 ลุกขึ้นมากลั้นปัสสาวะมันก็อาจจะเพิ่ม
00:17:37 → 00:17:41 ความเสี่ยงในการเกิดการติดเชื้อติดเชื้อ
00:17:41 → 00:17:43 แบคทีเรียในกระเพาะปัสสาวะทำให้เกิด
00:17:43 → 00:17:45 กระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ได้เช่นกันครับ
00:17:45 → 00:17:47 แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องลูกมากปัสสาวะบ่อยๆ
00:17:48 → 00:17:51 ถึงขั้นแบบรู้สึกว่าต้องกลั้นไงครับก็แนะ
00:17:51 → 00:17:53 นำว่าอาจจะต้องไปพบแพทย์เพื่อที่จะหา
00:17:53 → 00:17:57 สาเหตุของการปัสสาวะบ่อยๆนะครับอันนี้คือ
00:17:57 → 00:17:59 รวมทั้งเพศหญิงและเพศชายเลยใช่ไหมครับคุณ
00:17:59 → 00:18:15 หมอครับใช่ครับ
00:18:15 → 00:18:19 สุดท้ายเล่นจริงๆมันก็มันก็มันก็อั้นไว้
00:18:19 → 00:18:21 ไม่ได้มันก็ต้องมาอวดมาต้องเข้าห้องน้ำ
00:18:21 → 00:18:24 กลางดึกอะไรเงี้ยมันก็เลยอาจจะนำมาสู่
00:18:24 → 00:18:26 อาการต่างๆมากมายอะไรอย่างนี้เพิ่มเติม
00:18:26 → 00:18:31 ด้วยครับคุณหมอครับนะครับ
00:18:31 → 00:18:36 มีคำถามอีกคำถามที่ค้างอยู่นะฮะก็คือบอก
00:18:36 → 00:18:40 ว่าสมมุติถ้าเราติดภารกิจอยู่ในพิธีการ
00:18:40 → 00:18:43 ทั้งหลายทั้งแหล่ทั้งเป็นทางการและเป็น
00:18:43 → 00:18:47 ทางการไม่สามารถออกมาปัสสาวะได้จริงๆเรา
00:18:47 → 00:18:50 ควรต้องทำยังไงผู้หญิงผู้ชายมีผลเสียแตก
00:18:50 → 00:18:59 ต่างกันยังไงบ้างไหมฮะ
00:18:59 → 00:19:06 [เพลง]
00:19:06 → 00:19:13 ก็อาจจะต้องขออนุญาตไปปัสสาวะนะครับ
00:19:13 → 00:19:17 ถามว่าในผู้ชายอย่างที่บอกไปนะครับให้
00:19:17 → 00:19:20 โอกาสการเกิดการติดเชื้อก็จะน้อยกว่าผู้
00:19:20 → 00:19:22 หญิงค่อนข้างเยอะนะครับ
00:19:22 → 00:19:25 แต่ไม่ได้ว่าไม่ว่าจะทั้งผู้หญิงผู้ชายก็
00:19:25 → 00:19:28 ไม่แนะนำให้กลั้นน่ะนะครับเพราะว่าจะมี
00:19:28 → 00:19:30 ปัญหาอย่างอื่นตามมาได้ครับ
00:19:30 → 00:19:33 ก็เหมือนตอนที่เราเป็นนักเรียนนะอยู่ใน
00:19:33 → 00:19:36 ห้องเรียนก็คือถ้ารู้สึกว่ามันมันปวด
00:19:36 → 00:19:39 ปัสสาวะจริงๆก็ยกมือขอคุณครูขออาจารย์เลย
00:19:39 → 00:19:41 ขออนุญาตไปปัสสาวะครับผมไม่ไหวแล้วครับ
00:19:41 → 00:19:43 อ่าเดี๋ยวมันจะเล่นตรงนี้ครับมันจะลำบาก
00:19:43 → 00:19:44 ฮะเออ
00:19:44 → 00:19:47 เค้ามีคำแนะนำว่าถ้าสมมุติคุณลองเป็นสัก
00:19:47 → 00:19:50 โหให้คุณซื้อแบบผ้าอ้อมหรือว่ากางเกง
00:19:50 → 00:19:53 อนามัยให้ใส่ไว้เลยมันควรต้องขนาดนั้นไหม
00:19:53 → 00:19:54 คะ
00:19:54 → 00:19:57 จริงๆถ้าเกิดสามารถปัสสาวะ
00:19:57 → 00:20:00 เข้าห้องน้ำปัสสาวะเองได้ก็ไม่ได้จำเป็น
00:20:00 → 00:20:02 ถึงขั้นนั้นนะครับ
00:20:02 → 00:20:07 แต่ในคนผู้ป่วยบางรายเนี่ยอาการอาจจะค่อน
00:20:07 → 00:20:09 ข้างเยอะคือนอกจากเรื่องปัสสาวะบ่อยแล้ว
00:20:09 → 00:20:14 อาจารย์ปัสสาวะเล็ดลาบด้วยคือเวลามีการ
00:20:14 → 00:20:16 อักเสบเยอะก็เพราะมันก็จะบีบตัวเยอะอย่าง
00:20:16 → 00:20:19 นี้ครับในผู้ป่วยบางท่านกระเพาะบิดตัวแรง
00:20:19 → 00:20:23 เกินจนถึงปัสสาวะลดออกมาก่อนถึงห้องน้ำก็
00:20:23 → 00:20:24 มี
00:20:24 → 00:20:27 บางคนที่เป็นก็อาจจะต้องใส่แพมเพิสมาหา
00:20:27 → 00:20:29 หมอ
00:20:29 → 00:20:33 อาจจะต้องถึงขั้นเบอร์นั้นไปเลย
00:20:33 → 00:20:35 ไม่ได้พบบ่อยครับ
00:20:35 → 00:20:39 แนะนำให้ให้สายแพมเพิสหรืออะไรอย่างนี้
00:20:39 → 00:20:42 ครับเพราะว่าถ้าใส่แล้วแล้วดูแลความสะอาด
00:20:42 → 00:20:46 ไม่ดีก็อาจจะเพิ่มเพิ่มโอกาสการติดเชื้อ
00:20:46 → 00:20:50 ซ้ำอีกครับ
00:20:50 → 00:20:53 คนเรามันเป็นซ้ำบ่อยเนี่ยอาจารย์ที่
00:20:53 → 00:20:55 อาจารย์เคยรักษามาเนี่ยค่ะเป็นประมาณจริง
00:20:55 → 00:20:58 ๆ
00:20:58 → 00:21:01 นิยามของคำว่าปัสสาวะบ่อยหรือปัสสาวะ
00:21:01 → 00:21:04 อักเสบแบบเรื้อรังเนี่ยก็คือเกิน 2 ครั้ง
00:21:04 → 00:21:07 ใน 6 เดือนหรือเกิน 3 ครั้งใน 1 ปีนะครับ
00:21:07 → 00:21:10 สมมุติถ้าเกินนี้ต้องไปหาสาเหตุทีนี้ใน
00:21:10 → 00:21:13 ประสบการณ์ของเนื้อที่เจอบ่อยก็อาจจะเป็น
00:21:13 → 00:21:16 ทุกเดือนเลยก็มี
00:21:16 → 00:21:20 เราก็ต้องไปหาสาเหตุครับว่าเขามีอะไรซ่อน
00:21:20 → 00:21:26 อยู่หรือเปล่านะครับอย่างเช่นคนไข้
00:21:26 → 00:21:28 นิ้วมันจะเป็นที่เหมือนกับเป็นสิ่งแปลก
00:21:28 → 00:21:31 ปลอมที่แบคทีเรียมันสามารถเข้าไปซ่อนอยู่
00:21:31 → 00:21:34 ได้การให้ยาฆ่าเชื้อธรรมดาเนี่ยมันไม่
00:21:34 → 00:21:36 สามารถเข้าไปฆ่าเชื้อได้ครับ
00:21:36 → 00:21:41 ก็จำเป็นต้องไปต้องไปรักษาเร็วๆผ่าตัด
00:21:41 → 00:21:44 ส่องกล้องเอาที่ออกให้หมดคนข้างนอกถึงหาย
00:21:44 → 00:21:47 ครับเคสที่คุณหมอเจอหนักสุดก็คือเจอทุก
00:21:47 → 00:21:51 เดือนแล้วก็พอไปตรวจหาสาเหตุต้นตอที่แท้
00:21:51 → 00:22:02 จริงคือเขามีอาการของนิ่วใช่ครับใช่ครับ
00:22:02 → 00:22:06 เพื่อที่จะหาสาเหตุพยายามอย่าไปอย่างเอ่อ
00:22:06 → 00:22:10 ผู้ป่วยบางท่านอาจจะเป็นบ่อยจนรู้ว่าเอ้ย
00:22:10 → 00:22:12 อย่างนี้เราต้องไปหาหมอที่ไรก็ให้แต่ยา
00:22:12 → 00:22:15 ฆ่าเชื้อไงครับก็เลยที่พักที่เหลือก็คือ
00:22:15 → 00:22:19 ไปซื้อยาตามร้านขายยาทานเองก็อาจจะไม่หาย
00:22:19 → 00:22:21 สักทีนึง
00:22:21 → 00:22:25 ประมาณเซียนว่างั้นว่าแบบเอาล่ะเชี่ยวชาญ
00:22:25 → 00:22:27 เรื่องนี้ฉันซื้อยาทานเองเลยดีกว่าแต่ถ้า
00:22:27 → 00:22:28 เกิด
00:22:28 → 00:22:31 อาจารย์ก็เลยแนะนำว่าอยากซื้อยาทานเองให้
00:22:31 → 00:22:34 หาสาเหตุดีที่สุดจะได้แก้ตรงจุดและไม่
00:22:34 → 00:22:39 เป็นซ้ำอีกใช่ไหมคะใช่ครับแต่ว่าถ้าอย่าง
00:22:39 → 00:22:42 หลายคนก็อาจจะมองว่าเออถ้ามันรู้สึกว่า
00:22:42 → 00:22:45 กระเพาะปัสสาวะอักเสบเราก็น่าจะซื้อยาแก้
00:22:45 → 00:22:48 อักเสบมากินเองก็น่าจะพอช่วยได้อันนี้อัน
00:22:48 → 00:22:51 นี้คุณหมอพอจะ
00:22:51 → 00:22:55 แนะนำตัวยาไหมหรือว่าควรจะต้องพบแพทย์
00:22:55 → 00:22:59 อย่างเดียวเลย
00:22:59 → 00:23:02 ยาแก้อักเสบ
00:23:02 → 00:23:05 แต่มันใช่หรือเปล่าหรือว่ามันไม่ใช่อะไร
00:23:05 → 00:23:09 อย่างเงี้ยค่ะปกติแกจะไม่ได้แนะนำให้
00:23:09 → 00:23:12 ผู้ป่วยไปซื้อยาทานเองนะครับเพราะว่า
00:23:12 → 00:23:16 อันดับแรกคืออาการที่ผู้ป่วยเป็นเนี่ยไม่
00:23:16 → 00:23:18 แน่ใจว่าติดเชื้อทางเดินปัสสาวะจริงๆหรือ
00:23:18 → 00:23:23 เปล่านะครับเพราะว่ามีหลายโรคมากที่อาการ
00:23:23 → 00:23:26 อาจจะคล้ายคลึงกันนะครับกับกระเพาะ
00:23:26 → 00:23:28 ปัสสาวะอักเสบอย่างเช่นในผู้หญิงอายุน้อย
00:23:28 → 00:23:30 ๆอาจจะเป็นกลุ่มโรคที่เรียกว่ากระเพาะ
00:23:30 → 00:23:34 ปัสสาวะบิดตัวไวนะครับผู้ป่วยก็จะมีอาการ
00:23:34 → 00:23:37 ปัสสาวะบ่อยเพราะว่าแสบขัดได้บ้าง
00:23:37 → 00:23:42 ได้ยาปฏิชีวนะไปก็อาจจะไม่ได้ดีขึ้นนะ
00:23:42 → 00:23:44 ครับแล้วก็จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิด
00:23:44 → 00:23:46 เชื้อดื้อยามากขึ้นด้วยนะครับหรือว่า
00:23:46 → 00:23:49 อย่างในคนอายุเยอะๆผู้ป่วยที่อายุเยอะๆ
00:23:49 → 00:23:53 แล้วมีอาการปัสสาวะแสบขัดปัสสาวะมีเลือด
00:23:53 → 00:23:55 ปนอย่างนี้ครับจริงๆเขาอาจจะเป็นมะเร็ง
00:23:55 → 00:23:57 กระเพาะปัสสาวะอยู่ก็ได้นะครับไม่ได้เป็น
00:23:57 → 00:24:01 การอักเสบอย่างเดียวปกติพอหมอจะแนะนำให้
00:24:01 → 00:24:06 ไปไปพบแพทย์เพื่อตรวจก่อนนะครับ
00:24:06 → 00:24:10 ก็ต้องไปพบแพทย์ดีกว่าไม่แนะนำให้ซื้อยา
00:24:10 → 00:24:16 ทานเองนะครับผม
00:24:17 → 00:24:20 เคยไปอ่านเจอนะคุณหมอคือมีคุณผู้ฟังทาง
00:24:21 → 00:24:23 บ้านมีเพื่อนผมในโลกออนไลน์นี่แหละฮะเขา
00:24:23 → 00:24:25 ก็แชร์ประสบการณ์กันมาก็คือเขามีอาการ
00:24:25 → 00:24:28 ปัสสาวะเนี่ยออกมาน้อยกันแบบเป็นระยะเวลา
00:24:28 → 00:24:31 เป็นแรมปีแล้วก็พอไปหาหมอส่วนใหญ่หมอก็
00:24:31 → 00:24:35 บอกว่าเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบเออยากิน
00:24:35 → 00:24:38 ก็หายให้ยามันก็บรรเทาแต่ว่าพอไปตรวจ
00:24:38 → 00:24:41 เนี่ยมันยังไม่ยอมหายสักทีปรากฏว่าเออมัน
00:24:41 → 00:24:43 กลายเป็นก้อนเนื้อตัวเบรคกระเพาะปัสสาวะ
00:24:43 → 00:24:46 ซะอย่างนั้น
00:24:46 → 00:24:48 มันก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นแบบนี้ได้
00:24:48 → 00:24:51 เหมือนกันใช่ไหมคุณหมอใช่ครับใช่ครับ
00:24:51 → 00:24:55 เพราะว่าอาการเนี่ยคล้ายคลึงได้ในหลายๆ
00:24:55 → 00:24:57 โรคนะครับที่จะมีอาการคล้ายกระเพาะ
00:24:57 → 00:25:59 ปัสสาวะอักเสบได้ครับ
00:25:59 → 00:26:02 กังวลด้านจิตใจมากกว่านะครับ
00:26:02 → 00:26:06 ตรงนี้ก็จะมีการป้องกันนะครับก็อย่างที่
00:26:06 → 00:26:09 ผมกล่าวไปเมื่อสักครู่นี้ก็คือเรื่องการ
00:26:09 → 00:26:13 ปฏิบัติตัวก็คือทำความสะอาดให้ดีทั้งก่อน
00:26:13 → 00:26:16 แล้วก็หลั่งนะครับปัสสาวะก่อนแล้วก็หลัง
00:26:16 → 00:26:18 มีเพศสัมพันธ์แล้วก็ถ้าเกิดปฏิบัติตัว
00:26:18 → 00:26:22 แล้วยังติดเชื้อบ่อยอยู่ก็ทางแพทย์ก็อาจ
00:26:22 → 00:26:23 จะให้ยาเพื่อป้องกัน
00:26:23 → 00:26:27 หมายถึงว่าเรามีเพศสัมพันธ์เสร็จก็ทานยา 1
00:26:27 → 00:26:30 เม็ดเพื่อป้องกันนะครับก็จะช่วยลดปัญหา
00:26:30 → 00:26:34 ตรงนี้ลงได้ครับอ๋อคือนอกจากเรื่องของ
00:26:34 → 00:26:36 กระเพาะปัสสาวะอักเสบและนี่คือมันก็จะนำ
00:26:36 → 00:26:41 มาซึ่งเรื่องของความกลัวความวิตกกังวลกับ
00:26:41 → 00:26:43 การมีเพศสัมพันธ์มาอีกก็อาจจะมีปัญหา
00:26:43 → 00:26:46 เรื่องของความสัมพันธ์เรื่องของครอบครัว
00:26:46 → 00:26:48 ตามมาอีกโอ้โหเพราะฉะนั้นแล้วเธอก็ต้องทำ
00:26:48 → 00:26:50 ความเข้าใจกันอยู่พอสมควรทีเดียวเหมือน
00:26:50 → 00:26:55 กันนะครับเออนะหนักๆเลยหนักเหมือนกันเลย
00:26:55 → 00:26:58 อีกหนึ่งเรื่องมีคำถามตามมาเหมือนกันถาม
00:26:58 → 00:27:01 ว่าโรคนี้เนี่ยมันจะอันตรายถึงขั้นทำให้
00:27:01 → 00:27:05 เสียชีวิตได้ไหมครับคุณหมอครับ
00:27:05 → 00:27:08 ถ้าถ้าการติดเชื้อรุนแรงแล้วก็ลุกลามอ่ะ
00:27:08 → 00:27:09 นะครับ
00:27:09 → 00:27:14 จนถึงขั้นขึ้นไปที่กรวยไตมีการติดเชื้อใน
00:27:14 → 00:27:18 กระแสเลือดก็จะทำให้เสียชีวิตได้ครับ
00:27:18 → 00:27:21 ก็คือว่าถ้าเกิดเราปล่อยให้ลุกลามบานปลาย
00:27:21 → 00:27:24 เราก็ตุยได้
00:27:24 → 00:27:28 ก็คือแต่ว่าอาจารย์คะ
00:27:28 → 00:27:31 ฉันพยายามทนได้แต่ฉันคิดว่าอาจจะครั้งแรก
00:27:31 → 00:27:33 อาจจะเคยเป็นมาก่อนแล้วแบบไม่ติดเชื้อที่
00:27:33 → 00:27:36 อาจารย์บอกมันก็หายเองแต่ทีนี้ค่ะวิธีที่
00:27:36 → 00:27:38 จะรู้ว่ามันติดเชื้อไม่ติดเชื้อแล้วมัน
00:27:38 → 00:27:41 นานเข้านานวันเข้าจนถึงขั้นติดเชื้อใน
00:27:41 → 00:27:43 กระแสเลือดหรือว่าเป็นถึงกรวยไตนี่คือแปล
00:27:43 → 00:27:46 ว่าคุณต้องบ่มเพาะมาซักมากน้อยแค่ไหนคะ
00:27:46 → 00:27:58 อาจารย์
00:27:58 → 00:28:03 ภูมิคุ้มกันก็ไม่เท่ากันอย่างเช่น
00:28:03 → 00:28:08 เป็นเบาหวานหรือว่าได้ยากดภูมิคุ้มกัน
00:28:08 → 00:28:10 อยู่อาการก็อาจจะค่อนข้างเร็วนะครับหลัง
00:28:10 → 00:28:13 จากที่ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะไปแล้วและ
00:28:13 → 00:28:15 ลุกลามขึ้นไปที่กรวยไตเราทำให้ติดเชื้อใน
00:28:15 → 00:28:22 กระแสเลือดนะครับ
00:28:22 → 00:28:26 คุณหมอครับมีคำถามถามมาเหมือนกันว่าถ้า
00:28:26 → 00:28:29 เราเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบแล้วเนี่ยมัน
00:28:29 → 00:28:34 มีอาหารมีผลละม้ายอะไรที่ต้องห้ามที่ไม่
00:28:34 → 00:28:41 ควรกินที่ควรจะต้องหยุดกินบ้างไหมครับ
00:28:41 → 00:28:46 มีผลไม้หรืออาหารอะไรที่ห้ามเป็นพิเศษ
00:28:46 → 00:28:49 เพียงแต่ว่าเออ
00:28:49 → 00:28:52 อาจจะมีผลไม้หรืออาหารบางอย่างที่อาจจะทำ
00:28:52 → 00:28:56 ให้มีอาการปัสสาวะแสบขัดมากขึ้นได้นะครับ
00:28:56 → 00:29:00 อย่างเช่นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอาหารที่มี
00:29:00 → 00:29:02 รสเปรี้ยว
00:29:02 → 00:29:05 ทำให้มีอาการแสบขัดมากขึ้นได้ครับแต่ว่า
00:29:05 → 00:29:09 จะไม่มีอาหารหรือผลไม้อะไรที่แนะนำว่า
00:29:09 → 00:29:12 ต้องลดเป็นพิเศษครับ