00:00:00 → 00:00:03 ภายนอกเป็นแม่แต่ข้างในเหมือนไม่ใช่แม่
00:00:03 → 00:00:07 เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเราไม่รู้เลยว่าตอนนี้
00:00:07 → 00:00:11 กำลังคุยกอยู่กับใครเขาจะโกรธจะร้องไห้
00:00:11 → 00:00:12 ปุ๊บปั๊บ
00:00:12 → 00:00:17 ไหมเวลาเขากลับมาเป็นแม่ปกติที่เรารู้จัก
00:00:17 → 00:00:22 เขาจะบอกว่าสงสารลูกกลัวทุกคนจะป่วยป่วย
00:00:22 → 00:00:26 เหมือนเขาแต่เขาควบคุมตัวเองไม่
00:00:26 → 00:00:31 ได้เราจะคุยกันปลอบใจกันแต่เรื่องของ
00:00:31 → 00:00:36 เรื่องคือพอตื่นเช้ามาทุกอย่างวนกลับไป
00:00:36 → 00:00:37 เริ่มใหม่
00:00:37 → 00:00:43 แม่อยากรู้จังว่าแม่ยังอยู่ในนั้นไหมอืก็
00:00:43 → 00:00:45 ตามชื่อเรื่องนี่เนาะครับใช่ครับเป็นตีม
00:00:45 → 00:00:49 ในวันนี้ครับก็คือว่าสิ่งที่แม่คนเดิมเคย
00:00:49 → 00:00:53 แสดงออกกับบางทีมีที่เราจะรู้สึกว่าแม่
00:00:53 → 00:00:55 เราไม่เหมือนเดิมนี่นะะครับอาจารย์กรณี
00:00:55 → 00:00:58 แบบนี้แสดงว่าข้างในเนี่ยบางทีถ้าถ้าคน
00:00:58 → 00:01:00 ยังไม่ไปเจอคุณหมอยังไม่รู้เป็นอไซมอร์
00:01:00 → 00:01:03 บางคนก็อาจจะคิดว่าเอ๊ะมีอาการทางเรื่อง
00:01:03 → 00:01:06 จิตใจเป็นใบโพล่าหรือเปล่าอะไรก็มีใช่
00:01:06 → 00:01:08 มั้ยครับอาจารย์มีค่ะนะครับค่ะจริงๆแล้ว
00:01:08 → 00:01:12 เนี่ยเขายังเป็นแม่คนเดิมแะค่ะเพียงแต่
00:01:12 → 00:01:17 ว่าจริงๆอะไรที่เมื่อกี้จารย์บอกสมองส่วน
00:01:17 → 00:01:20 หน้าเนี่ยค่ะมันจะคุมมันจะบอกเราเรื่อง
00:01:20 → 00:01:23 การควรไม่ควรการที่เห็นไฟเหลืองแล้วรีบ
00:01:23 → 00:01:26 เหยียบนะคะไฟเหลืองแค่นี้แล้วรีบเหยียบ
00:01:26 → 00:01:28 วิ่งให้ผ่านหรือไฟเหลืองแค่นี้บอกเฮ้ย
00:01:28 → 00:01:30 ต้องเบรกแล้วอะไรอย่างเงี้ยนะคะคะอันนี้
00:01:30 → 00:01:32 เป็นสมองส่วนหน้าเลยค่ะนะคะซึ่งถ้าหากว่า
00:01:33 → 00:01:36 สมองส่วนเนี้ยมันโดนนะคะซึ่งในอัลไซเมอร์
00:01:36 → 00:01:38 เนี่ยค่ะในอัลไซเมอร์เนี่ยมันจะโดนสมอง
00:01:38 → 00:01:41 ส่วนกลางๆไปทางหลังก่อนแต่ว่าในคนไข้ที่
00:01:41 → 00:01:43 เป็นหลอดเลือดไปเลี้ยงสมองไม่ดีเนี่ยมัน
00:01:43 → 00:01:45 โดนทั้งหัวนะคะน้องและส่วนหน้าเนี่ยจะชัด
00:01:45 → 00:01:48 เพราะฉะนั้นคนไข้พวกเยก็จะเป็นเนี่ยแล้ว
00:01:48 → 00:01:52 ก็จะปรวนง่ายคล้ายๆกับว่าอย่างอย่างเรา
00:01:52 → 00:01:54 เราก็จะเคยเห็นคนบางคนเป็นคนขี้โมโหใช่
00:01:55 → 00:01:57 มั้ยหนูคุณต้องมีเพื่อนร่วมงานน่ะโอ้ย
00:01:57 → 00:01:59 เรื่องนี้อย่าไปพูดนะพูดเดี๋ยวเปี๊แตก
00:01:59 → 00:02:02 ขึ้นมาคนคดีๆยังเป็นน่ะนะคะแต่แม่เนี่ย
00:02:02 → 00:02:05 เวลาที่เค้ารู้นะคะเนาะว่าเคนะไม่ปกติแต่
00:02:06 → 00:02:09 เขาคควบคุมมันไม่ได้เพราะฉะนั้นมันก็จะ
00:02:09 → 00:02:13 ขยับไปขยับมาพอเขารู้ตัวก็เขาก็พูดกันอีก
00:02:13 → 00:02:15 ดีเสียดายอะไรทั้งหลายแหละนะคะแต่คนเนี้ย
00:02:15 → 00:02:18 แม่คนเนี้ยนะคะคนเนี้ยน่าจะได้ยาต้าน
00:02:18 → 00:02:22 เศร้าค่ะถ้าเขาได้ยาต้านเศร้าน้องขาอย่า
00:02:22 → 00:02:25 ไปรังเกียจยาต้านเศร้าจริๆไอ้คำว่าเศร้า
00:02:25 → 00:02:27 ไอ้ต้านเศร้าเนี่อาจารย์ปรึกษาอาจารย์ไม่
00:02:27 → 00:02:30 ชอบเลยอ่ะน่าจะมีคำใหม่นะครับอาจารย์ว่า
00:02:30 → 00:02:33 เรามาขยับคันใหม่กันเถอะครับนะคะอาจารย์
00:02:33 → 00:02:36 เ่อเคนก็จะถามอาจารย์อาจารย์กินยาอะไร
00:02:36 → 00:02:39 อาจารย์ก็บอกกินยายิ้มหวานมันมีด้วยเหรอ
00:02:39 → 00:02:43 คะอาจารย์เออมีแต่จริงๆมันคือยาดั้งเดิม
00:02:43 → 00:02:45 เราเรียกยาต้านเศร้าอีอาจารย์ขาอีฉันไม่
00:02:45 → 00:02:51 ได้เศร้าแต่แม่อ่ะกาดเกรี้ยวมากน้องขาอ
00:02:51 → 00:02:53 ทะเลาะกันได้ทุกอย่างอ่ะแม้แต่กระทั่งลม
00:02:53 → 00:02:55 ่ะค่ะน้องอุ๊ยอาจารย์มันจะนักกันหนาเลยก็
00:02:55 → 00:02:58 นักหนามันพัดซะจนกระทั่งปิวไปหมดเลยอ่า
00:02:58 → 00:03:00 อาจารย์อย่างงี้มันไม่เศร้านะนะเอย่างงี้
00:03:00 → 00:03:04 อารมณ์ใช่มั้ยก็นี่ไงอาจารย์ถึงได้ได้
00:03:04 → 00:03:07 เกียรตมันจังเลยว่าทำไมทำไมไปตั้งชื่อมัน
00:03:07 → 00:03:09 ว่าโลกซึมเศร้าอ่ะยิ่งมีซึมด้วยอ่ะคนไข้
00:03:09 → 00:03:11 ไม่ซึมนะคะน้อง
00:03:11 → 00:03:16 อืแต่คนไข้ก้าวร้าวมากใช่ๆครับเพราะเค้า
00:03:16 → 00:03:20 มันมันมันมีความอะไรที่มันไม่สมหวังมันลม
00:03:20 → 00:03:25 บดจอยมันไม่ได้อ่ะอยู่ข้างในอ่ะน้องครับ
00:03:25 → 00:03:27 พอมันไม่ได้แล้วเนี่ยมันก็จะเป็นอะไรที่
00:03:27 → 00:03:30 แบบมันออกมาด้วยปี๊ดนะคะน้องแต่ถ้าหนูปี๊
00:03:30 → 00:03:32 กันบ่อยๆแล้วมันไม่ได้หรือถูกคนอื่นด่า
00:03:32 → 00:03:34 ขึ้นด่าขึ้นด่าขึ้นในที่สุดมันจะกลายเป็น
00:03:34 → 00:03:37 จ่อยมันจะเป็นซึมทีหลังอือเพราะฉะนั้นน่ะ
00:03:37 → 00:03:39 เวลาที่เราเห็นคนที่เปลี่ยนไปนะคะเห็น
00:03:39 → 00:03:41 อย่างเงี้ยอาจารย์บอกเอายายิ้มหวานไปกิน
00:03:41 → 00:03:44 ถ้าบอกยาตั้เซ้าไปกินอีกแล้วก็ไอ้ยายิ้ม
00:03:44 → 00:03:48 หวานเนี่นะคะช่วยกินให้มันดีๆหน่อยสั่ง
00:03:48 → 00:03:52 เม็ดนึงกินครึ่งเม็ดอืเอาแม่เอากินสัก
00:03:52 → 00:03:55 เม็ดครึ่งเอาเม็ดนึงอาจารย์บอกว่าไม่อยาก
00:03:55 → 00:03:58 กินยาเยอะอาจารย์ก็ไม่อยากให้คุณกินยา
00:03:58 → 00:04:03 เยอะค่ะแต่ยาพวกพเยนะคะเราคุยแล้วแล้วมัน
00:04:03 → 00:04:06 ยังไม่ได้มันคิดไม่ได้เนี่ยเราก็ต้องเอา
00:04:06 → 00:04:08 ยาไปช่วยมันมันช่วยอะไรมันช่วยสร้างสาร
00:04:08 → 00:04:13 สื่อประสาทของความร่าเริงเบิกบานและทนได้
00:04:13 → 00:04:17 อ่ะเออโอเคพอได้อาจารย์ชิวๆอย่างเงี้ยแต่
00:04:17 → 00:04:20 กินยาให้มันถึงที่ที่คุณดีที่สุดน่ะค่ะ
00:04:20 → 00:04:23 แล้วเราจะเอาใส่ไว้พักนึงแล้วเราจะค่อยๆ
00:04:23 → 00:04:27 ถอยลงครับข้อเสียคือกินไปแค่นี้เอ้ยดี
00:04:27 → 00:04:30 แล้วดีแล้วแล้วก็กินอยู่ขยอกแแยกหยุดไป
00:04:30 → 00:04:33 บ้างอะไรไปบ้างมันเลยต้องกินตลอดชีวิตค่ะ
00:04:33 → 00:04:35 น้องอือ๋อจริงๆมันไม่จำเป็นต้องกินตลอด
00:04:35 → 00:04:37 ชีวิตก็ได้ไม่จำเป็นเลยอาจารย์นจะต้อง
00:04:37 → 00:04:41 กราบกันเลยบอกว่าช่วยเี่มวันเมื่อวานออกอ
00:04:42 → 00:04:45 เมวันก่อนออกต๋วยังบอกว่าพ่อช่วยกินเม็ด
00:04:45 → 00:04:48 ครึ่งให้อาจารย์หน่อยอาจารย์พอสั่งเม็ด
00:04:48 → 00:04:50 ครึ่งมาตั้งชาตินึงแล้วอ่ะแล้วก็พ่อก็ยัง
00:04:50 → 00:04:52 กินเม็ดนึงแล้วเพิ่งแอบมาบอกพยาบาล
00:04:52 → 00:04:55 อาจารย์บอกอาจารย์อาจารยเขาบอกว่าเาแค่
00:04:55 → 00:04:57 กินแค่เม็ดเดียวนะจานที่อาจารย์สั่งไปโอ้
00:04:58 → 00:05:00 เราสั่งไปตั้งชาตินึงแล้วนึไม่ดีสักทีนึง
00:05:00 → 00:05:03 อะไรอย่าเงี้ยเคิดว่าเาดีนะคะน้องแต่
00:05:03 → 00:05:06 อาจารย์เชื่อว่าเขดีได้อีกค่ะน้องดูตาก็
00:05:06 → 00:05:10 รู้ค่ะน้องอตาเนี่ยมันปิ๊งขึ้นมาโอ๊ยใช่
00:05:10 → 00:05:11 แล้วเอาอย่างนี้ไปอีก 6 เดือนหรืออีก 9
00:05:11 → 00:05:14 เดือนแล้วเราจะได้หยุดยาได้แต่ถ้าตามัน
00:05:14 → 00:05:16 อย่างเงี้ยไม่ต้องเลยเนาะกินไปทั้งชาติ
00:05:16 → 00:05:19 เลยอืเนาะเพราะฉะนั้นทำให้ดีที่สุดแล้วก็
00:05:19 → 00:05:22 กินให้สั้นแล้วอย่าไปกลัวมันน้องครับนะคะ
00:05:22 → 00:05:24 ถามในมุมผู้ดูแลครับอาจารย์ที่บอกว่าแม่
00:05:24 → 00:05:26 อยากรู้จังว่าแม่ยังอยู่ในนั้นมยเนี่ยคือ
00:05:26 → 00:05:30 ผู้ดูแลเาก็สงสัยเหมือนกันนะว่าอารมณ์ที่
00:05:30 → 00:05:32 ผู้ป่วยแสดงออกมาคุณพ่อคุณแม่แสดงออกมา
00:05:32 → 00:05:35 อย่าเงี้ยเยังรู้มั้ยว่าเราเนี่ยเป็นคนดู
00:05:35 → 00:05:39 แลเรู้ค่ะอในงนี้นะคะเขารู้แต่ว่าจริงๆ
00:05:39 → 00:05:42 เขาคุมมันไม่ได้แล้วก็จริงๆอะไรที่มันออก
00:05:42 → 00:05:45 มาคือมันมันไม่มีเปลือกอ่ะค่ะเหมือนเรา
00:05:45 → 00:05:47 อ่ะเวลาที่เราพูดกับใครเรายังมีเปลือก
00:05:47 → 00:05:51 เนาะบางทีเราโกรธแต่ว่าเราก็ไม่พูดหรือ
00:05:51 → 00:05:55 บางทีเรายังยิ้มซะด้วยซ้ำไปอืยิมไวประมาณ
00:05:55 → 00:05:58 นี้นะคะแต่เขาไม่มีเปลือกค่ะเพราะฉะนั้น
00:05:58 → 00:06:01 มันนั่นไปและมันไม่มีเปลือกและมันปรวน
00:06:01 → 00:06:03 ด้วยค่ะเพราะฉะนั้นเดี๋ยวก็เศร้าเดี๋ยวก็
00:06:03 → 00:06:06 โกรธแล้วเขาคุมมันไม่ได้แล้วเราเป็นลูกทำ
00:06:06 → 00:06:11 ไงนะคะเราก็คอยดูนะคะทั้งหลายแหล่แล้วก็
00:06:11 → 00:06:14 ไม่ว่าเขาจะโกรธหรือเขาจะเศร้าอาจารย์คิด
00:06:14 → 00:06:17 ว่าการสื่อสารนอกจากการพูดแล้วเนี่ยค่ะ
00:06:17 → 00:06:21 การสัมผัสตัวอือย่างดีเนี่ยช่วยนะคะน้อง
00:06:21 → 00:06:25 อาจารย์เคยบอกกับลูกคนไข้บอกว่าหนูกอด
00:06:25 → 00:06:29 เค้าหน่อยสิอืมอาจารย์หนูไม่เคยกอดแม่เลย
00:06:29 → 00:06:31 เขาบอกหนูเป็นคนจีนอาจารย์เราไม่เคยกอด
00:06:31 → 00:06:34 กันเลยะจริงเป่าเวลาที่เขาเจ็บไข้ได้ป่วย
00:06:34 → 00:06:37 อะไรป่วยก็ป่วยเช็ดตัวก็เช็ดตัวไม่เคยกอด
00:06:37 → 00:06:40 กันช่วยไปก่อนหนยเถอะค่ะตอนนี้ทำไม่เป็น
00:06:40 → 00:06:45 ก็มือก่อนเนาะเอามือมาแม่รูปหลังมือเขา
00:06:45 → 00:06:49 แม่เป็นไงและเอาเราสงบแล้วเขาจะสงบค่ะ
00:06:49 → 00:06:52 น้องแล้วมันจะเข้าสู่ปลักของเขาแต่ถ้า
00:06:52 → 00:06:56 สมมุติว่าพอเพอเขาเศร้าหนูเศร้าด้วยพอเขา
00:06:56 → 00:06:59 ทนั่นกันหนูทะเลาะด้วยตาย
00:06:59 → 00:07:03 นะคะหนูต้องนิ่งเลยคนดีคนดูต้องนิ่งเนาะ
00:07:03 → 00:07:05 แล้วก็หลายครั้งคนดูก็ต้องเอายายิ้มหวาน
00:07:05 → 00:07:08 ของอาจารย์ไปกินค่ะอาจารย์บอกแจกมันไปเลย
00:07:08 → 00:07:10 นั่นยาแม่กินยาสมองเสื่อมลูกดูกินยายิ้ม
00:07:10 → 00:07:12 หวานว่าไม่งั้นคุณดูไม่ได้เดี๋ยวดี๋ยวคุณ
00:07:12 → 00:07:15 บ้าไปก่อนอาจารยแต่เวลาเราจะไปกอดทีบาที
00:07:16 → 00:07:18 แล้วเคก็หงุดหงิดเนาะเออเก็แบบรุ่นแรง
00:07:18 → 00:07:21 แล้วก็หงุดหงิดแบบเนมันก็ต้องดูหน่อยสิ
00:07:21 → 00:07:24 อย่าไปก่อนเออมันจะเป็นหัวทิพหัวตำนึกถึง
00:07:24 → 00:07:26 อย่าอย่าไปกอดเนึกว่าคุณกำลังจะเอาบังตอ
00:07:26 → 00:07:29 ไปทิมเคอ่ะนั่นสินะก็ต้องดัวอารมด้วยเออ
00:07:29 → 00:07:34 ต้องดูลมดูทิศทางใช้เสียงดีๆเปิดเพลงดึง
00:07:34 → 00:07:36 อันอื่นค่ะดึงไปเรื่องอื่นผมเคยได้ยินเ
00:07:36 → 00:07:39 บอกว่าบางคนแม่เคยชอบฟังหมอลำพอไปเปิดฟัง
00:07:39 → 00:07:42 หมอเปิดหมอลำกลับไปให้ฟังนิ่งเลยนิ่งเลย
00:07:42 → 00:07:45 นิ่งเลยนิ่งเลยจริงๆค่ะน้องเพลงก็เหมือน
00:07:45 → 00:07:48 กันนะคะเพลงที่เขาเคยชอบเพลงที่เขาร้อง
00:07:48 → 00:07:51 ได้คุณต้องร้องได้ค่ะคนไข้อาจารย์มามาตรง
00:07:51 → 00:07:54 นี้อาจารย์ถามบอกว่าถามผู้ดูแลบอกว่าอ่า
00:07:55 → 00:07:57 เดินได้มยเดินได้ค่ะอาจารย์แต่ยากหน่อยอ
00:07:57 → 00:07:59 นะคะแล้วอาจารย์บอกแม่เดินให้อาจารย์ดู
00:08:00 → 00:08:01 หน่อยไอ้คนนเลี้ยงรูบอกอาจารย์ร้องเพลง
00:08:01 → 00:08:05 มหาจุฬาลงกรณ์ค่ะมันเป็นยังไงวะเพลงอะไร
00:08:05 → 00:08:08 วะมหาจุฬาลงกรณ์อาจารย์ไม่เคยร้องเหรอน้ำ
00:08:08 → 00:08:10 ใจน้องพี่ออ้น้ำใจน้องพี่รู้จักแล้ว
00:08:10 → 00:08:13 อาจารย์ก็หนูก็ไปฟังเหห้องตรวจอาจารย์ก็
00:08:13 → 00:08:16 ขึ้นน้ำใจน้องพี่สีชมพูแกลุกขึ้นเดินแ
00:08:16 → 00:08:19 อยู่เลยอโอเหรอฮะน้องขาหนูต้องหาให้เจอ
00:08:19 → 00:08:22 หนูต้องหาให้ได้ว่าเขาชอบอะไรหนูอย่ามา
00:08:22 → 00:08:24 ถามอาจารย์อาจารย์ใช้ชีวิตอยู่กับเแป๊บ
00:08:24 → 00:08:27 เดียวคุณต้องหาให้เจอสงสัยแกเป็นหลีดเก่า
00:08:27 → 00:08:31 ที่จุฬาอ๋อใช่แกสวยด้วยนะเออเขาถามว่าเรา
00:08:31 → 00:08:34 ควรจะทรีทเขาเป็นคนเดิมมยหรือว่าคิดซะว่า
00:08:34 → 00:08:36 เขาเป็นอีกคนหนึ่งเลยเพราะว่าบางคนเนี่ย
00:08:36 → 00:08:38 เขาจะผมเคยมีน้องคนนึงเขเล่าให้ฟังเ
00:08:38 → 00:08:41 สมมุติว่าเขชอบพูดถึงเรื่องแบบสงครามโลก
00:08:41 → 00:08:43 หรืออะไรอย่างเงี้ยเพราะเขาชอบเรื่องนั้น
00:08:43 → 00:08:46 เเราควรจะทรีทเขาว่าเฮ้ยเราก็เป็นหนึ่งใน
00:08:46 → 00:08:48 ทหารในสงครามโลกเพจะคุยกับเา้าให้รู้
00:08:48 → 00:08:50 เรื่องไปเลยหรือเปล่าหรือเราคุรทำยังไงฮะ
00:08:50 → 00:08:53 ฮเอาจารย์คิดว่าถ้าเป็นเรื่องสงครามโลกนะ
00:08:53 → 00:08:56 คะถึงแม้นว่าตรงนั้นเนี่ยมันไม่ใช่เรื่อง
00:08:56 → 00:08:58 ร่าเริงอือาจารย์ว่ามันเป็นเรื่องที่มี
00:08:58 → 00:09:01 ทั้งเศร้ามีทั้งกลัวเนาะถ้าเป็นเรื่อง
00:09:01 → 00:09:03 สงครามโลกอาจารย์บอกให้คุณพาเขมาบอกแม่
00:09:03 → 00:09:07 อันนั้นมันนานแล้วนะเนี่ยตั้งแต่หนูยัง
00:09:07 → 00:09:09 ไม่นั่นเลยอันนี้มันผ่านไปแล้วแม่เราหลัง
00:09:09 → 00:09:12 สงครามโลกไปละแล้วสงหลังจากนั้นไปเป็น
00:09:12 → 00:09:15 อะไรยังไงนี่สะพานพ้ายอดฟ้าพังตอนนี้มี
00:09:15 → 00:09:18 อันใหม่แล้วแม่อะไรอย่างเงี้ยนะคะอ่าเป็น
00:09:18 → 00:09:22 เรื่องๆแต่ถ้าอะไรที่เขามีความสุขร่าเริง
00:09:22 → 00:09:24 เบิกบานคุณจะไปอยู่ในตรงนั้นกับเขาก็ได้
00:09:24 → 00:09:27 ค่ะอืเพราะฉะนั้นอันเนี้ยอาจารย์ว่าเรา
00:09:27 → 00:09:30 ต้องขยับตามวาระอนะคะหนูอย่าไปบอกว่า
00:09:30 → 00:09:32 อาจารย์ว่าอย่างงี้ให้ทำอย่างงี้มันไม่
00:09:32 → 00:09:35 ใช่นะคะมันไม่ใช่เพราะฉะนั้นคุณต้องดูว่า
00:09:35 → 00:09:38 จะขยับอย่างไงอไม่ใช่ไปฝืนเคทุกเรื่องบาง
00:09:38 → 00:09:39 เรื่องก็ต้องตามเขไปด้วยบ้างเหกันอ่าบาง
00:09:39 → 00:09:42 เรื่องก็ต้องตามเข้าไปค่ะคะบุพการีที่
00:09:42 → 00:09:45 เคารพคู่มือการดูแลพ่อแม่ของคนเจนลูกถ้า
00:09:45 → 00:09:47 ชอบเนื้อหาแบบนี้ก็อย่าลืมกด Subscribe
00:09:47 → 00:09:50 ไว้ด้วยนะครับ