00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับวันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องเอ่อ
00:00:03 → 00:00:07 ภาวะไตวายเฉียบพลันหรือ AKI นะครับคือมัน
00:00:07 → 00:00:10 เป็นภาวะฉุกเฉินนะครับที่ไตหยุดทำงาน
00:00:10 → 00:00:14 กระทันหันเลยใช่ค่ะอาจเกิดกับใครก็ได้แม้
00:00:14 → 00:00:17 แต่คนที่ไม่เคยเป็นโรคไตมาก่อนเลยเอ่อการ
00:00:17 → 00:00:20 รู้เรื่องนี้เลยสำคัญมากๆครับเผื่อช่วยคน
00:00:20 → 00:00:23 ใกล้ตัวเราได้ทันถูกต้องเลยค่ะจุดสำคัญ
00:00:23 → 00:00:26 คือภาวะนี้มันเกิดขึ้นเร็วเร็วมากๆเลยไม่
00:00:26 → 00:00:28 กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วันเองซึ่งต่างจาก
00:00:29 → 00:00:31 ไตวายเรื้อรังอันนั้นจะค่อยๆเป็นค่อยๆไป
00:00:31 → 00:00:34 เป็นเดือนเป็นปีเลยค่ะแล้วก็เอ่อถ้าเป็น
00:00:34 → 00:00:37 แบบเฉียบพลันเนี่ยถ้าเรารักษาทันไตก็มี
00:00:37 → 00:00:40 โอกาสฟื้นกลับมาได้นะคะสุขภาพสนทนาสร้าง
00:00:40 → 00:00:44 สุขภาพดีที่เริ่มต้นจากความเข้าใจและก่อน
00:00:44 → 00:00:47 ที่เราจะไปเจาะลึกเนื้อหากันอย่าลืมกดติด
00:00:47 → 00:00:49 ตามและกดกระดิ่งแจ้งเตือนช่องสุขภาพสนทนา
00:00:49 → 00:00:52 ของเราไว้ด้วยนะคะจะได้ไม่พลาดทุกเรื่อง
00:00:52 → 00:00:55 ราวสุขภาพดีๆที่เรานำมาฝากกันค่ะโหดีเลย
00:00:56 → 00:00:59 ครับที่ว่าเกิดกับใครก็ได้นี่แสดงว่า
00:00:59 → 00:01:01 สาเหตุมันต้องแบบว่าเยอะมากแน่ๆเลยใช่มั้
00:01:01 → 00:01:03 ครับพอจะจัดกลุ่มให้เข้าใจง่ายๆได้มั้
00:01:03 → 00:01:06 ครับว่ามันมาจากไหนได้บ้างได้ค่ะได้ค่ะ
00:01:06 → 00:01:09 เราแบ่งสาเหตุหลักๆได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่นะ
00:01:09 → 00:01:13 คะกลุ่มแรกคือก่อนถึงไตหรือพีโนก็คือมี
00:01:13 → 00:01:16 ปัญหาที่ทำให้เลือดไปเลี้ยงไตไม่พออ๋อ
00:01:16 → 00:01:19 เลือดไปเลี้ยงไม่พอใช่ค่ะที่เจอบ่อยๆก็
00:01:19 → 00:01:22 อย่างเช่นขาดน้ำรุนแรงมากๆจากท้องเสีย
00:01:22 → 00:01:26 หนักๆอาเจียนเยอะๆหรือเสียเลือดไปมากหรือ
00:01:26 → 00:01:29 อาจจะมาจากภาวาช็อกเช่นติดเชื้อเชื้อใน
00:01:29 → 00:01:32 กระแสเลือดรุนแรงหัวใจวายแล้วก็มียาบาง
00:01:32 → 00:01:35 ชนิดด้วยนะคะโดยเฉพาะยาแก้ปวดกลุ่มเซตน่ะ
00:01:36 → 00:01:39 ค่ะอ๋อยาแก้ปวดอักเสบที่เราใช้กันบ่อยๆ
00:01:39 → 00:01:42 นั่นหรอครับใช่ค่ะใช่ค่ะถ้าใช้เยอะไปหรือ
00:01:43 → 00:01:45 นานไปก็มีผลได้เหมือนกันค่ะโหยไม่น่า
00:01:45 → 00:01:48 เชื่อเลยแค่ท้องเสียหรือกินยาแก้ปวดเนี่ย
00:01:48 → 00:01:52 นะก็เป็นสาเหตุได้ใช่ค่ะจริงๆแล้วเรื่อง
00:01:52 → 00:01:55 ดูเหมือนเล็กน้อยแต่ก็ส่งผลได้แล้วกลุ่ม
00:01:55 → 00:01:58 ที่ 2 ล่ะครับเป็นยังไงกลุ่ม 2 นี่คือ
00:01:58 → 00:02:02 ปัญหาหาที่ตัวไตโดยตรงเลยค่ะ inaral อัน
00:02:02 → 00:02:04 นี้คือเนื้อไตมันอักเสบหรือว่าเสียหายไป
00:02:04 → 00:02:08 เลยอาจจะจากสารพิษสารพิษเช่นอะไรครับก็
00:02:08 → 00:02:13 อย่างเช่นยาปฏิชีวนะบางตัวยาเคมีบำบัด
00:02:13 → 00:02:16 หรือเอ่อเห็ดพิษบางชนิดก็ด้วยค่ะหรืออาจ
00:02:16 → 00:02:18 จะเกิดจากโรคบางอย่างเช่นโรคภูมิคุ้มกัน
00:02:18 → 00:02:21 ทำร้ายตัวเองหรือมีการติดเชื้อที่ไตโดย
00:02:21 → 00:02:25 ตรงเลยอือืเข้าใจครับแล้วกลุ่มสุดท้ายล่ะ
00:02:25 → 00:02:29 ครับกลุ่มสุดท้ายคือหลังไตอ่ะค่ะโพสีอัน
00:02:29 → 00:02:32 นี้เกิดจากการอุดกั้นทางเดินปัสสาวะแบบ
00:02:32 → 00:02:35 ว่าปัสสาวะมันออกไม่ได้พอมันค้างอยู่มัน
00:02:35 → 00:02:38 ก็ไหลย้อนกลับไปทำลายไตอ๋อเหมือนท่อตัน
00:02:39 → 00:02:42 ประมาณนั้นเลยค่ะเช่นมีนิ่วก้อนใหญ่ไปอุด
00:02:42 → 00:02:45 ท่อไตโดยเฉพาะถ้าอุด 2 ข้างหรือในคนที่มี
00:02:45 → 00:02:48 ไตข้างเดียวยิ่งอันตรายหรือในผู้ชายก็อาจ
00:02:48 → 00:02:51 จะเกิดจากต่อมลูกหมากโตหรือมีเนื้องอกไป
00:02:51 → 00:02:54 กดท่อปัสสาวะก็ได้ค่ะโหสาเหตุเยอะจริงๆ
00:02:54 → 00:02:57 ครับฟังดูน่ากลัวเหมือนกันแล้วทีนี้เราจะ
00:02:57 → 00:02:59 สังเกตอาการหรือสัญญาณเตือนได้ยังไงบ้าง
00:02:59 → 00:03:02 ครับว่าเอ๊ะนี่อาจจะเป็นไตวายเฉียบพลัน
00:03:02 → 00:03:05 หรือเปล่าสัญญาณที่สำคัญที่สุดเลยนะคะ
00:03:05 → 00:03:07 ต้องสังเกตอันดับแรกเลยคือปริมาณปัสสาวะ
00:03:08 → 00:03:12 ลดลงลดลงแบบชัดเจนเลยใช่ค่ะลดลงมากๆหรือ
00:03:12 → 00:03:15 บางทีคือไม่ปัสสาวะเลยถ้าใน 24 ชมง
00:03:15 → 00:03:18 ปัสสาวะออกน้อยกว่าสัก 400 ซีซหรือประมาณ
00:03:18 → 00:03:21 ไม่ถึง 2 แก้วน้ำดีอันนี้ผิดปกติมากๆแล้ว
00:03:21 → 00:03:25 ค่ะอื้อหือต้องคอยสังเกตเลยนะครับค่ะนอก
00:03:25 → 00:03:28 จากนั้นก็อาจจะมีอาการบวมบวมตามตัวใช่ค่ะ
00:03:28 → 00:03:32 บวมตามตัวแขนขาหรือหน้าบวมก็ได้ค่ะแล้วก็
00:03:32 → 00:03:36 มีอ่อนเพลียมากๆเหนื่อยง่ายหายใจลำบาก
00:03:37 → 00:03:40 คลื่นไส้อาเจียนเบื่ออาหารพวกนี้เป็นผล
00:03:40 → 00:03:44 จากของเสียที่มันคั่งในร่างกายนะค่ะครับ
00:03:44 → 00:03:46 แล้วถ้าอาการมันรุนแรงขึ้นไปอีกเช่นแบบ
00:03:46 → 00:03:50 เริ่มสับสนมึนงงหรือซึมไปเลยหรือชักหมด
00:03:50 → 00:03:54 สติไปเลยหรือมีเจ็บหน้าอกใจสั่นหัวใจเต้น
00:03:54 → 00:03:57 ผิดจังหวะอันนี้คือแย่เราใช่มครับใช่เลย
00:03:57 → 00:03:59 ค่ะอันนั้นคือสัญญาณอันตรายร้ายแรงแล้ว
00:04:00 → 00:04:03 ค่ะอาการทางสมองก็คือของเสียมันคั่งจนไป
00:04:03 → 00:04:06 กระทบระบบประสาทส่วนอาการทางหัวใจก็มาจาก
00:04:06 → 00:04:09 เกลือแรดในเลือดมันผิดปกติไปอันตรายถึง
00:04:09 → 00:04:12 ชีวิตได้เลยนะคะแล้วถ้าเจอคนใกล้ตัวมี
00:04:12 → 00:04:15 อาการแบบนี้เราควรทำยังไงทันทีครับสำคัญ
00:04:15 → 00:04:18 ที่สุดเลยนะคะต้องตั้งสติแล้วรีบพาไปส่ง
00:04:18 → 00:04:21 โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดหรือโท 1669 เลย
00:04:21 → 00:04:25 ค่ะทันทีเลยนะห้ามรอห้ามรักษาเองเด็ดขาด
00:04:25 → 00:04:28 ใช่ค่ะย้ำเลยว่าอย่ารออย่าพยายามทำอะไร
00:04:28 → 00:04:31 เองเพราะทุกนาทีมีค่าจริงๆพอไปถึงโรง
00:04:31 → 00:04:33 พยาบาลก็ต้องให้ข้อมูลคุณหมอให้ละเอียด
00:04:34 → 00:04:36 ที่สุดข้อมูลอะไรบ้างครับที่สำคัญๆคัญ
00:04:36 → 00:04:39 ครับก็อาการเป็นยังไงเริ่มเป็นเมื่อไหร่
00:04:39 → 00:04:42 มีโรคประจำตัวอะไรมยยาสมุนไพรที่กินอยู่
00:04:43 → 00:04:46 มีอะไรบ้างแล้วก็เหตุการณ์นำเช่นท้องเสีย
00:04:46 → 00:04:49 รุนแรงเพิ่งกินยาอะไรไปหรือเปล่าพวกเนี้ย
00:04:49 → 00:04:52 ช่วยหมอวินิจฉัยได้เยอะเลยค่ะครับแล้ว
00:04:52 → 00:04:57 ระหว่างรอพาไปโรงพยาบาลหรือรอรอรถมารับมี
00:04:57 → 00:05:00 อะไรที่ควรทำหรือไม่ควรทำมั้ครับอืมถ้า
00:05:00 → 00:05:04 ผู้ป่วยมีคลื่นไส้อาเจียนหรือดูซึมซึมนะ
00:05:04 → 00:05:07 คะก็ควรงดน้ำงดอาหารไปก่อนอ๋อป้องกัน
00:05:08 → 00:05:10 สำลักเลยครับใช่ค่ะแล้วก็ป้องกันไม่ให้
00:05:10 → 00:05:13 อาการบวมหรือเกลือแร่มันแย่ลงด้วยรอให้
00:05:13 → 00:05:16 คุณหมอประเมินก่อนดีกว่าและที่สำคัญมากๆ
00:05:16 → 00:05:20 มากๆเลยคือห้ามให้ยาเองเด็ดขาดห้ามให้ยา
00:05:20 → 00:05:23 อะไรเลยใช่ค่ะไม่ว่าจะเป็นยาแผนปัจจุบัน
00:05:23 → 00:05:26 สมุนไพรหรือยาบำรุงไตไปอะไรก็ตามห้ามเด็ด
00:05:26 → 00:05:29 ขาดเพราะอาจจะทำให้อาการแย่ลงหรือไปบดบัง
00:05:29 → 00:05:33 อาการจริงๆได้ค่ะอาจให้กำลังใจผู้ป่วย
00:05:33 → 00:05:36 ด้วยนะคะอันนี้ก็ช่วยได้เยอะค่ะครับพอไป
00:05:36 → 00:05:39 ถึงโรงพยาบาลแล้วปกติคุณหมอจะทำอะไรบ้าง
00:05:39 → 00:05:43 ครับวินิจฉัยรักษายังไงครับคุณหมอก็จะซัก
00:05:43 → 00:05:45 ประวัติตรวจร่างกายแล้วก็ต้องตรวจเลือด
00:05:45 → 00:05:50 ค่ะดูค่าการทำงานของไตพวกค่าครีทินีน bu
00:05:50 → 00:05:53 ซึ่งเป็นค่าของเสียในเลือดนะค่ะแล้วก็
00:05:53 → 00:05:56 ตรวจปัสสาวะอาจจะมีอัลต้าซาวด์ช่องท้องดู
00:05:56 → 00:05:59 ไตดูทางเรือนปัสสาวะด้วยแล้วการรักษาล่ะ
00:05:59 → 00:06:03 ครับการรักษาก็จะเน้นแก้ที่สาเหตุเลยค่ะ
00:06:03 → 00:06:06 เช่นถ้าขาดน้ำก็ให้สารน้ำทดแทนถ้าติด
00:06:06 → 00:06:09 เชื้อก็ให้ยาฆ่าเชื้อถ้ามีอะไรอุดกั้นก็
00:06:09 → 00:06:12 ต้องหาทางแก้ไขการอุดกั้นนั้นๆค่ะแล้วถ้า
00:06:12 → 00:06:15 อาการมันหนักมากจริงๆล่ะครับแบบว่าไตไม่
00:06:15 → 00:06:19 ทำงานแล้วจริงๆอ้าในกรณีที่ไตเสียหาย
00:06:19 → 00:06:22 รุนแรงมากๆหรือมีของเสียคั่งเยอะจน
00:06:22 → 00:06:24 อันตรายถึงชีวิตคุณหมออาจจะต้องทำการ
00:06:24 → 00:06:28 บำบัดทดแทนไตฉุกเฉินหมายถึงฟอกเลือดใช่
00:06:28 → 00:06:30 ค่ะอาจจะเป็นการฟอกเลือดด้วยเครื่องไต
00:06:30 → 00:06:33 เทียมหรือล้างไตทางหน้าทองชั่วคราวเพื่อ
00:06:33 → 00:06:36 ช่วยกำจัดของเสียปรับเกลือแร่ประคองให้
00:06:36 → 00:06:39 ร่างกายพ้นอันตรายไปก่อนแล้วก็รอให้ไต
00:06:39 → 00:06:42 ฟื้นตัวค่ะแต่ก็มีโอกาสฟื้นใช่มั้ครับมี
00:06:42 → 00:06:45 ค่ะแต่ถึงแม้ไตจะฟื้นตัวได้ก็ยังมีความ
00:06:45 → 00:06:48 เสี่ยงนะคะที่จะเป็นโรคไตเรื้อรังต่อไปใน
00:06:48 → 00:06:50 อนาคตได้เพราะฉะนั้นก็ยังต้องติดตามการ
00:06:51 → 00:06:53 รักษากับคุณหมออย่างต่อเนื่องค่ะเข้าใจ
00:06:53 → 00:06:55 แล้วครับสรุปสรุปแล้วเนี่ยหัวใจสำคัญเลย
00:06:55 → 00:06:58 ก็คือต้องสังเกตอาการผิดปกติให้เร็วที่
00:06:58 → 00:07:01 สุดโดยเฉพาะเรื่องปัสสาวะที่น้อยลงเนี่ย
00:07:01 → 00:07:04 แล้วก็ตัดสินใจพาไปโรงพยาบาลทันทีอันนี้
00:07:04 → 00:07:07 คือนาทีชีวิตจริงๆที่จะช่วยได้ถูกต้องที่
00:07:07 → 00:07:11 สุดเลยค่ะการตอบสนองที่รวดเร็วสำคัญมาก
00:07:11 → 00:07:13 แล้วก็นอกจากที่เราจะสังเกตคนรอบข้างแล้ว
00:07:13 → 00:07:17 นะคะก็อยากฝากข้อคิดไว้นิดนึงว่าจริงๆ
00:07:17 → 00:07:20 แล้วการดูแลสุขภาพพื้นฐานของเราเองในทุกๆ
00:07:20 → 00:07:22 วันเนี่ยแหละค่ะเช่นอะไรบ้างครับก็เช่น
00:07:22 → 00:07:25 การดื่มน้ำให้เพียงพอไม่กลั้นปัสสาวะบ่อย
00:07:25 → 00:07:29 ๆการใช้ยาต่างๆโดยเฉพาะยาแก้ปวด NS ที่
00:07:29 → 00:07:32 พูดถึงไปคือต้องระมัดระวังปรึกษาแพทย์
00:07:32 → 00:07:35 หรือเภสัชกรก่อนใช้เท่าที่จำเป็นจริงๆ
00:07:35 → 00:07:38 สิ่งเล็กๆน้อยๆพวกนี้แหละค่ะที่จะช่วยลด
00:07:38 → 00:07:40 ปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะนำไปสู่ภาวะไตวาย
00:07:40 → 00:07:42 เฉียบพลันได้ก็เหมือนเป็นการดูแลไตเชิง
00:07:43 → 00:07:46 ป้องกันที่เราทุกคนทำได้ง่ายๆในชีวิต
00:07:46 → 00:07:48 ประจำวันค่ะเป็นข้อคิดที่ดีมากๆเลยครับ
00:07:48 → 00:07:52 ขอบคุณมากครับวันนี้ถ้าชอบเนื้อหาแบบนี้
00:07:52 → 00:07:54 ฝากกดติดตามกดไลก์กดแชร์แชร์ให้คนที่คุณ
00:07:54 → 00:07:57 ห่วงใยและเป็นกำลังใจให้กับช่องสุขภาพ
00:07:57 → 00:08:00 สนทนาได้มีแรงสร้างสรรค์เรื่องราวดีต่อไป
00:08:00 → 00:08:02 นะ