00:00:18 → 00:00:21 [เพลง]
00:00:21 → 00:00:22 แต่ในปัจจุบันนะคะก็จะพบว่าเด็กมีการใช้แท็บเล็ตที่เพิ่มมากขึ้นนะคะไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนแท็บเล็ตหรือว่าจอคอมพิวเตอร์จอโทรทัศน์นะคะสิ่งเหล่านี้ถ้ามีการใช้ปริมาณมากเกินไปก็จะมีผลต่อสุขภาพตาของเด็กได้นะคะก็จะมีหนึ่งคอมพิวเตอร์
00:00:22 → 00:00:23 Vision Syndrome
00:00:23 → 00:00:27 นะคะหรือการที่ว่าตาอ่อนล้าจากการใช้พวกคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนมากเกินไปค่ะอาการหลักๆของกลุ่มนี้นะคะคนไข้ก็จะมีเหมือนอาการตาล้าเมื่อยตาปวดตาตาแห้งนะคะราคาเคืองตาได้ซึ่งการรักษาก็มีง่ายๆเลยค่ะคือการใช้แบบแท็บเล็ตให้น้อยลงนะคะแล้วก็พักสายตาให้มากขึ้นบ่อยขึ้นถี่ขึ้นเพราะว่าเมื่อไหร่ที่เราพักสายตาน้อยลงจ้องแต่จอคอมพิวเตอร์เนี่ยเราก็จะใช้การเพ่งหน้าเกินไป
00:00:27 → 00:00:42 [เพลง]
00:01:05 → 00:01:06 คะแล้วก็เมื่อเราเท่งมากเกินไปอัตราการกับทิปตาของเราเนี่ยก็จะน้อยลงค่ะปกตินะคะคนเราจะกระพริบตา
00:01:06 → 00:01:24 10-15
00:01:24 → 00:01:32 [เพลง]
00:01:32 → 00:01:33 ครั้งต่อนาทีแต่เมื่อเราจ้องแท็บเล็ตนานๆเนี่ยเราก็จะผิดกระพริบตาน้อยลงซึ่งจะทำให้การหล่อเลี้ยงของน้ำตามายังกระจกตาเนี่ยน้อยล้มด้วยค่ะทำให้เรารู้สึกว่าตาแห้งมากขึ้นแล้วก็ตาม้วนมากขึ้นแล้วตาล้ามากขึ้นค่ะการเปลี่ยนแปลงของแค่สายตามีการศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มเนื้อ
00:01:33 → 00:01:35 work activity และกลุ่ม Outdoor
00:01:35 → 00:01:38 activity
00:01:38 → 00:01:39 ถึงการเปลี่ยนแปลงของค่าสายตากลุ่มเนี่ยเวอร์
00:01:39 → 00:01:41 activity
00:01:41 → 00:01:50 [เพลง]
00:01:50 → 00:01:51 ก็คือกลุ่มที่อ่านหนังสือในบ้านตลอดเวลาใช้มือถือใช้สมาร์ทโฟนใช้เทปเล็ตหรือดูจอโทรทัศน์ตลอดเวลาส่วนเด็กที่เป็น
00:01:51 → 00:01:53 Outdoor activity
00:01:53 → 00:02:09 ก็คือเด็กที่ทำกิจกรรมต่างๆเล่นตามประสาเด็กก็คือเล่นกระบะทรายออกหวี
00:02:09 → 00:02:10 ของเล่นสนามเด็กเล่นหรือว่ามีการเล่นโดยกิจกรรมทั่วไปโดยที่ไม่ใช้สายตาในการเพ่งมองมากเกินไปพบว่าเด็กที่ใช้เนี่ย
00:02:10 → 00:02:15 work activity
00:02:15 → 00:02:16 ตลอดเวลาจะมีสายตาสั้นมากกว่าเด็กที่เป็นกลุ่ม
00:02:16 → 00:02:17 Outdoor activity
00:02:17 → 00:02:19 ค่ะผู้ปกครองสามารถสังเกตได้ง่ายว่าเด็กถ้ามีความผิดปกติของค่าสายตาเกิดขึ้นเด็กก็จะมีอาการที่ว่ามองไม่ชัดไม่สามารถบอกได้ว่าเห็นสิ่งอะไรที่อยู่ข้างหน้ามีอาการปวดตาปวดศีรษะได้เนื่องจากเด็กต้องเพ่งมองมากเกินไปหรือเด็กบางคนอาจจะแค่ยี่ตาตลอดเวลาเนื่องจากที่ว่ามองไม่ชัดค่ะถ้าพบสาเหตุเหล่านี้ก็ควรจะมาตรวจนะคะว่าเป็นตาสายตาสั้นจริงหรือสายตาสั้นหลอกตาเขจริงหรือตาเขหลอกซึ่งถ้าพบว่าเป็นตาสายตาความผิดปกติจริงจำเป็นต้องรักษาค่ะโดยการใส่แว่น
00:02:19 → 00:02:31 [เพลง]
00:02:31 → 00:02:56
00:02:56 → 00:03:00 [เพลง]
00:03:00 → 00:03:04 ดีหรือพิจารณารักษาอย่าโดยวิธีอื่นเป็นรายๆไปแต่ถ้าหากเป็นสายตาสั้นหลอกหรือสายตาเขหลอกเนี้ยอาจจะหายได้เองหรืออาจจะใช้ยาหยอดร่วมด้วยแค่นั้นก็อาจจะหายได้ค่ะ
00:03:04 → 00:03:15 [เพลง]
00:03:15 → 00:03:22 แต่ปัจจุบันนี้เทปเล็ตของเรามือถือของเราหรือจะเอาโทรทัศน์ก็เปลี่ยนมาเป็นจอแอลอีดีซึ่งตัวจากแอลอีดีเนี่ยค่ะจะมีแสงสีฟ้าที่เยอะขึ้นเมื่อเราใช้ปริมาณนานขึ้นและมากขึ้นในการศึกษาทดลองจะพบว่ามีผลต่อความเปลี่ยนแปลงของจอประสาทตาได้ซึ่งถ้าเด็กใช้ในปริมาณที่มากและแสงรับแสงสีฟ้ามากเกินไปจะทำให้เด็กน้อยของเรานะคะมีจอประสาทตาเสื่อมก่อนวัยอันควรได้ค่ะอ่ะ
00:03:22 → 00:03:50 [เพลง]
00:03:50 → 00:03:57
00:03:57 → 00:03:58 อีกหนึ่งนะคะควรตรวจตาครั้งแรกตั้งแต่อายุ
00:03:58 → 00:04:16 3 ถึง 5
00:04:16 → 00:04:17 ขวดนะคะเพื่อสกรีนนิ่งว่าบุตรหลานของท่านเนี่ยมีความผิดปกติทางปลาใดๆบ้างเช่นสายตาสร้างสายตายาวหรือสายตาเขหรือเปล่านะคะจันทน์เพื่อจะได้รับการรักษาที่ถูกวิธีและหากถ้าไม่มีความผิดปกติใดๆก็ควรจะตรวจตาทุก
00:04:17 → 00:04:23 1 ปีจนถึงอายุ 18 ปีค่ะ 2
00:04:23 → 00:04:27 จริงๆแนะนำให้ใช้เทปเล็ตหรือ Smart Phone
00:04:27 → 00:04:39 หรือจอโทรทัศน์นะคะในเด็กที่อายุต่ำกว่า 2
00:04:39 → 00:04:40 ขวบเพราะว่าจะทำให้เกิดปัญหาทางด้านสายตาและการพัฒนาทางด้านอารมณ์และจิตใจสมาธิของเด็กได้นะคะถ้านั่งอายุมากกว่า
00:04:40 → 00:04:42
00:04:42 → 00:04:44 ขวบนี้ก็อันยาให้ดูไม่เกิน 1-2
00:04:44 → 00:04:45 ชั่วโมงต่อวันค่ะ
00:04:45 → 00:04:47 [เพลง]
00:04:47 → 00:04:52 ทั้งสามคนจะใช้กฎ 20 20 20
00:04:52 → 00:04:56 นะคะกดนี่ก็คือมอง joined 20
00:04:56 → 00:04:59 นาทีพักเหมาะโดยการมองไกล 20 ฟุตเป็นเวลา
00:04:59 → 00:05:00
00:05:00 → 00:05:07 [เพลง]
00:05:07 → 00:05:10
00:05:10 → 00:05:10 [เพลง]
00:05:10 → 00:05:11 วินาทีค่ะซึ่งกฏยี่สิบยี่สิบยี่สิบเนี่ยจะช่วยลดอาคารตาเมื่อยล้าและอาการตาแห้งได้ค่ะหรือที่เราเรียกว่าลดอาการคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรมนั่นเองค่ะ
00:05:11 → 00:05:12
00:05:12 → 00:05:14 [เพลง]
00:05:14 → 00:05:35 ควรปรับแสงในอา Smartphone
00:05:35 → 00:05:36 และแท็บเล็ตหรือจอธิปัตย์โทรทัศน์เนี้ยให้พอดีไม่แสงจ้าเกินไปหรือน้อยเกินไปเพราะมาแสงจ้าเกินไปและหนักเกินไปจะมีผลทำให้ปวดตาตาร้าได้ค่ะถ้าควรที่จะตั้งขนาดความห่างของจอให้พอดีนะคะโดยที่สมาร์ทโฟนเนี่ยควรห่างประมาณ
00:05:36 → 00:05:38
00:05:38 → 00:05:41 ฟุตคอมพิวเตอร์ก็ควรหาประมาณ 2
00:05:41 → 00:05:43 ฟุตถ้าจอโทรทัศน์ก็ควรมากถามประมาณ 10
00:05:43 → 00:05:49 ฟุตค่ะเพื่อไม่ให้เด็กมองใกล้เกินไปเพราะ
00:05:49 → 00:05:51 ก็ต้องไปเกินไปก็จะมีปัญหาในการเพ่งทำให้สายตาสั้นหลอกหรือเปล่าเคหรอกได้ค่ะ
00:05:51 → 00:05:52
00:05:52 → 00:06:10 [เพลง]
00:06:10 → 00:06:17
00:06:17 → 00:06:25 [เพลง]
00:06:25 → 00:06:26 ควรจะปรับตัวอักษรให้พอดีนะคะโดยเฉพาะในปัจจุบันเด็กต้องมีการเรียนออนไลน์จะต้องมีการมองตัวอักษรต่างๆที่อยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่แล้วซึ่งถ้าเล็กเกินไปเด็กก็จะต้องเพ่งมองปวดตาได้ข้อสุดท้ายนะคะก็คืออุปกรณ์ป้องกันแสงสีฟ้าในปัจจุบันมีอุปกรณ์ป้องกันแสงสีฟ้าเอามาขายในตลาดมากมายนะคะมีทั้งเป็นแผ่นกั้นกรองแสงที่ไว้สัตว์ติดคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะหรือฟิล์มที่ติดหน้าจอสมาร์ทโฟน
00:06:26 → 00:06:26
00:06:26 → 00:06:28 แท็บเล็ตนะคะและที่สำคัญคือพวกแว่นกรองแสงสีฟ้าค่ะแล้วแต่เลือกได้แล้วแต่ถนัดนะคะว่าจะละคนถนัดแบบไหนบางคนไม่ชอบใส่แว่นก็สามารถใช้แผ่นกั้นกรองแสงหรือฟิล์มเหล่านั้นได้ค่ะในปัจจุบันนะคะเด็กๆก็จำเป็นต้องเรียนออนไลน์เนื่อง
00:06:28 → 00:06:39 [เพลง]
00:06:39 → 00:06:54
00:06:54 → 00:06:55 มีคู่วิเคราะห์เราไม่สามารถไปโรงเรียนได้นะคะก็อยากให้ผู้ปกครองช่วยดูแลบุตรหลานของท่านโดยการที่ไม่ให้ดูมากกว่า
00:06:55 → 00:06:57 1-2
00:06:57 → 00:06:59 ชั่วโมงต่อวันและก็จะใช้กฎ 20-20-20
00:06:59 → 00:07:10 อย่างที่หมอแนะนำไปนะคะถ้ามีปัญหาอะไรสามารถมาพบจักษุแพทย์เพื่อปรึกษาได้ตลอดเวลาที่โรงพยาบาลกรุงเทพศิริโรจน์ค่ะ
00:07:10 → 00:07:12 โน้ท