00:00:00 → 00:00:02 และก็หัวเราะคืออะไรหลายคนอาจจะเคยได้ยิน
00:00:02 → 00:00:04 กันมาแล้ววันนี้เดี๋ยวเราจะมาทำความรู้
00:00:04 → 00:00:07 จักกันให้ให้ให้คุ้นชินกันมากขึ้นนะครับ
00:00:07 → 00:00:10 เพราะว่าที่มาที่ไปอย่างไรสังเกตกันหรือ
00:00:10 → 00:00:12 ว่าเอ๊ยมีลูกหลานของเรามีอาการในลักษณะ
00:00:12 → 00:00:15 แบบนี้หรือเปล่าถ้าเป็นแล้วจะรักษาได้ไหม
00:00:15 → 00:00:18 แล้วถ้ารักษามันจะหายขาดหรือไม่อย่างไร
00:00:18 → 00:00:21 ครับวันนี้เราได้รับเกียรติจากนะคะ
00:00:21 → 00:00:25 อาจารย์บ่แพทย์หญิงอาภาศรีลุสวัสดิ์นะคะ
00:00:25 → 00:00:28 นายแพทย์ทรงคุณวุฒิกุมารประสาทวิทยา
00:00:28 → 00:00:32 สถาบันประสาทวิทยากรมการแพทย์จะมาเล่าให้
00:00:32 → 00:00:36 เราฟังถึงเรื่องราวของอาการชักแบบหัวเราะ
00:00:36 → 00:00:39 มาเนื้องอกหัวเราะเธอช่างต่างที่เป็นข่าว
00:00:39 → 00:00:41 แล้วนี้สวัสดีค่ะคุณหมอคะสวัสดีครับคุณ
00:00:41 → 00:00:43 หมอครับ
00:00:43 → 00:00:46 ก็สวัสดีค่ะคุณหมอได้ยินชัดเจนนะครับคุณ
00:00:46 → 00:00:50 หมอครับถ้าได้ยินค่ะหาผมว่าคืนนี้ต้องรบ
00:00:50 → 00:00:52 กวนคุณหมอนะครับขอความรู้จักคุณนอนนะ
00:00:52 → 00:00:55 เพราะว่าเธอเป็นเรื่องใหม่เลยเออเป็น
00:00:55 → 00:00:58 เรื่องใหม่ผมเชื่อว่าถ้าเป็นคนปกติทั่วไป
00:00:58 → 00:01:01 เนี่ยผมยอมรับเหมือนกันผมก็เหมือนพี่นก
00:01:01 → 00:01:03 ค่ะเคยได้ยินเป็นครั้งแรกตอนแรกคิดว่า
00:01:03 → 00:01:05 เป็นเรื่องอำเป็นเรื่องโจ๊กล่ะปรากฏเป็น
00:01:05 → 00:01:07 เรื่องจริงครับคุณหมอครับก็เลยอยากจะถาม
00:01:07 → 00:01:11 คุณหมอว่าเจ้าต่อสิ่งที่ทุกคนเขาเขาเรียก
00:01:11 → 00:01:14 คุณปากกันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าเนื้อ
00:01:14 → 00:01:17 งอกหัวเราะมันเป็นวันคืออะไรครับผมขอ
00:01:17 → 00:01:22 แต่ถ้าทำอะเริ่มต้นก่อนคำว่าเนื้องอกเลย
00:01:22 → 00:01:26 ปกตินะคะถ้าเกิดเราพูดคำว่าเนื้องอกมันจะ
00:01:26 → 00:01:29 ต้องมีบัตรประกอบด้วยเซลล์ที่ผิดปกตินะคะ
00:01:29 → 00:01:32 ครับแล้วก็อยู่ตรงไหนซองอร่างกายมันก็จะ
00:01:32 → 00:01:36 งอกแล้วก็โตขึ้นได้แต่ว่าคำว่าเนื้องอก
00:01:36 → 00:01:40 หัวเราะเลยทีนี้พี่พูดกันเนี่ยเขาอ่าหรือ
00:01:40 → 00:01:42 ถ้าเป็นภาษาอังกฤษแคล้วไฮโปโทนิกทำมาตรง
00:01:42 → 00:01:46 หน้านะคะถ้าซึ่งเป็นตอนเนื้อก็จะเป็นดู
00:01:46 → 00:01:51 จริงๆแล้วมันเป็นเซลล์ปกติแต่ว่ามันมีคัน
00:01:51 → 00:01:54 นี้จำนวนเยอะกว่าปกติเดรนของใครโปรตอนมา
00:01:54 → 00:01:58 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสมองซึ่งตรงนี้แหละ
00:01:58 → 00:02:01 สมองส่วนนี้มันจะอยู่ตรงกลางตรงกลางตรง
00:02:01 → 00:02:05 กลางคือถ้าเราบอกว่าเขาเอาขนมเป็นรูปทรง
00:02:05 → 00:02:08 กลมนะถ้าไปแถวมันจะอยู่ตรงกลางเป็นจุด
00:02:08 → 00:02:12 ศูนย์กลางประมาณนี้ค่ะเอาจริงแล้วตำแหน่ง
00:02:12 → 00:02:16 ของตัวเนื้อที่ผิดปกติอ่าเนื้อที่อยู่ตรง
00:02:16 → 00:02:19 ให้กระทำนะที่ที่อยู่ที่เกิดขึ้นมาเนี่ย
00:02:19 → 00:02:24 มันมีผลไม่เหมือนไข้เนี่ยมีอาการของ
00:02:24 → 00:02:28 อาจารย์ชักที่เขาเรียกว่าชักแบบหัวเราะก็
00:02:28 → 00:02:32 เลยเรียกว่าเป็นเรื่องนอกหัวเราะค่ะ
00:02:32 → 00:02:36 กราบพรุ่งนี้แถวที่ชั่งมามามันต้องชั่งมา
00:02:36 → 00:02:39 ตั้งแต่กำเนิดไปทำสร้างไหมแต่อยู่ในท้อง
00:02:39 → 00:02:43 ตลาดแล้วก็ออกมาก็เป็นแบบนี้ค่ะมีแต่ว่า
00:02:43 → 00:02:47 อาจารย์ที่เปิดขึ้นอยู่กับว่าจะออกมาตอน
00:02:47 → 00:02:52 ไหนอัตรามาตั้งแต่แรกๆหรือว่ามาตอนโตก็
00:02:52 → 00:02:56 ได้ค่ะหมอคุณหมอเขาถ้าไอโปรให้โปธารามัส
00:02:56 → 00:03:00 เนี่ยอ้ะมันมีหน้าที่ทำอะไรกับร่างกายของ
00:03:00 → 00:03:03 เราคุณหมอครับอ่ะ
00:03:03 → 00:03:06 เฮ้อออออถ้าในด้านของระบบประสาทมาให้เปิด
00:03:06 → 00:03:09 พอมาเซียทำหน้าที่หลายอย่างเลยค่ะเป็น
00:03:09 → 00:03:13 ตำแหน่งที่เป็นทางผ่านของเส้นประสาทแบบ
00:03:13 → 00:03:18 ทั้งจากในสมองส่วนอ่ะเขาเรียกว่าสมองส่วน
00:03:18 → 00:03:22 บนอ่ะสมรฉันส่งนะค่ะถ้าเป็นเปิดสมองแล้ว
00:03:22 → 00:03:25 ก็วิ่งผ่านลงมาแล้วก็เป็นตัวที่จะจ้าอาจ
00:03:25 → 00:03:29 จะเป็นตัวส่งสัญญาณประสาทลงไปที่อวัยวะ
00:03:29 → 00:03:35 ต่างรวมทั้งจงเอาอ่ารับสักอ่าสัญญาณ
00:03:35 → 00:03:38 ประสาทนิ่งขึ้นไปข้างบนด้วยก็จะได้ทั้ง
00:03:38 → 00:03:41 รับรู้แล้วก็ทางด้านการเคลื่อนไหวด้วย
00:03:41 → 00:03:44 เช็นเตอร์เลยทำไมมันเป็นส่วนแต่เป็นข้อ
00:03:44 → 00:03:48 แรกเป็น Relay Center ไม่มีอีกอันนึงของ
00:03:48 → 00:03:52 หน้าที่หมอไปชนมาสก็คือถ้ามีหน้าที่ในการ
00:03:52 → 00:03:55 เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนในร่างกายที่ไม่ภาพ
00:03:55 → 00:03:59 ฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ในการกระตุ้นในการอะ
00:03:59 → 00:04:03 ยับยั้งฮอร์โมนต่างๆในร่างกายด้วยค่ะอ่ะ
00:04:03 → 00:04:07 ก็จะมีน้ำยาอย่างโธ่ระมัดดูมันเป็นส่วน
00:04:07 → 00:04:10 ที่สำคัญทำในการยกตัวอย่างโบแกนกลางสมอง
00:04:10 → 00:04:13 เลยคือถ้ามันเยอะเกินไปเนี่ยมันจะส่งผล
00:04:13 → 00:04:17 ให้เรามีอาการในลักษณะแบบนี้เลยล่ะค่ะคุณ
00:04:17 → 00:04:20 หมอทำไมมันไปส่งกับจงหัวรอคะคุณนะครับ
00:04:20 → 00:04:25 อ่าจริงๆแล้วมันก็เป็นอันที่จริงตัวใครก็
00:04:25 → 00:04:27 ทำ Master ที่มันเป็นเลท Center เนอะก็จะ
00:04:27 → 00:04:29 เลยที่จริงแล้วอ่ะอ่ะ
00:04:29 → 00:04:32 เรื่องอะไรนะสัญญาณประสาทเลยเลยกินก็จะมา
00:04:32 → 00:04:36 ทางนี้แล้วมันของอาการนักเนี่ยจริงๆแล้ว
00:04:36 → 00:04:38 ก็ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงออกมาเป็นว่าเป็น
00:04:38 → 00:04:41 อาการหัวรอนะแต่ว่าผมให้กลุ่มเนี้ยมาด้วย
00:04:41 → 00:04:44 อาการปวดล้อแล้วก็เวลาหัวเราะแล้วเป็น
00:04:44 → 00:04:46 อาจารย์ชาร์จเนี่ยเขาก็มีการพิสูจน์แล้ว
00:04:46 → 00:04:49 ว่ามันมาจากตัวใครปรมัตถ์นี่แหละเพราะว่า
00:04:49 → 00:04:53 มีกระแสประสาทออกมาเป็นกระแสไฟฟ้าที่วัด
00:04:53 → 00:04:55 ได้เป็นขึ้นสมองเลยว่าน่าจะตำแหน่งเนี้ย
00:04:55 → 00:05:00 ทำให้คนไข้มีอาการหนักแต่ก็คือ
00:05:00 → 00:05:02 ดีที่สุดแล้วว่าอาจารย์หัวเราะเนี่ยเกิด
00:05:02 → 00:05:05 จากตำแหน่งเนี้ยที่มันผิดปกตินอนพิสูจน์
00:05:05 → 00:05:08 ทางวิทยาศาสตร์ที่มีลักษณะการหัวเราะ
00:05:08 → 00:05:11 เนี่ยหาคุณหมอคะแรกๆอ้ะอย่างเด็กเล็กแค่
00:05:11 → 00:05:14 ไหนอ่ะที่เอ่อคุณพ่อคุณแม่จะสังเกตว่า
00:05:15 → 00:05:18 อุ๊ยการหัวเราะน้ำมันก็จะขำในลักษณะของมี
00:05:18 → 00:05:21 ที่มาที่ไปหน้าใช่มะจ๊ะเอ๋มาอะไรอย่าง
00:05:21 → 00:05:23 เงี้ยแต่ว่าเขาหัวเราะแบบว่าไม่มีเหตุผล
00:05:23 → 00:05:25 นี้เลยเหรอคะคุณหมอคะ
00:05:25 → 00:05:29 ใกล้ค่ะคือพวกนี้เนี่ยบัญชีเขาหัวเราะ
00:05:29 → 00:05:33 ศัพท์เป็นชุดๆเลยก็มีแบบมีบางคนก็หัวรับ
00:05:33 → 00:05:36 เป็นชุดๆระดับครัวเล่าแบบเหมือนกับคำอะไร
00:05:36 → 00:05:39 บางอย่างแต่ว่ามันไม่มีอะไรจะขำก่อนหน้า
00:05:39 → 00:05:42 นี้หรือบางคนในเด็กมันคนอาจจะแค่หนักทริค
00:05:42 → 00:05:46 นิดนึงแล้วก็หายไปดูถ้าเราไม่ได้สังเกต
00:05:46 → 00:05:49 ว่ามันเป็นผิดปกติเมื่อกี้ในช่วงแรกเนี่ย
00:05:49 → 00:05:52 ก็จะไม่ทราบว่าเป็นอาการชาร์จแล้วก็พรุ่ง
00:05:52 → 00:05:55 นี้ส่วนใหญ่ก็จะมาตอนโตหน่อยเพราะว่า
00:05:55 → 00:06:00 เพิ่งมาเห็นว่าอ้ออาการเขาเป็นปกตินา
00:06:00 → 00:06:03 คะแล้วก็ส่วนหนึ่งอาจจะมีอาการชนิดอื่น
00:06:03 → 00:06:07 ร่วมด้วยค่ะก็เลยยิ่งอ่าหรือจะรู้ว่ามัน
00:06:07 → 00:06:09 ก็ชัดขึ้นนะคะ
00:06:09 → 00:06:13 อันนี้คือคือมันจะเกิดขึ้นตั้งแต่เด็ก
00:06:13 → 00:06:16 เด็กเวลาใจครับของเขตต์จากที่หมอเราเมื่อ
00:06:16 → 00:06:19 กี้ฮือก็เป็นทารกที่ไรถึงสารเนี่ยมันไม่
00:06:19 → 00:06:22 มีเหตุผลอะไรก็คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ไม่ได้
00:06:22 → 00:06:25 รู้ว่าเนี่ยเออลูกใช่มั้ยคนหรอคะไม่ได้
00:06:25 → 00:06:28 คือใครเด็กสามารถแบบเบาะแต่เมื่อโตขึ้นมา
00:06:28 → 00:06:30 มันมีอาการชักที่คุณหมอบอก
00:06:30 → 00:06:34 อย่ามันก็จะเห็นชัดขึ้นแล้วก็พอซัก
00:06:34 → 00:06:37 ประวัติกับไปก็เอามีอาการตั้งแต่เล็กๆ
00:06:37 → 00:06:39 เนาะบอกว่าเราไม่ได้สังเกตอะไรประมาณ
00:06:39 → 00:06:44 เนี้ยส่วนใหญ่ที่มานะคะจะมีส่วนนึงที่มี
00:06:44 → 00:06:47 อาจารย์บับมีเฉยมาแบบหัวเราะกับอย่าง
00:06:47 → 00:06:50 เดียวแล้วก็มาหาหมอเนี่ยไม่ค่อยไม่ค่อยพบ
00:06:50 → 00:06:52 บ่อยค่ะ
00:06:52 → 00:06:57 มันจะมีฉากรุ่นด้วยเออเพราะฉะนั้นถ้าจะ
00:06:57 → 00:07:00 เห็นได้เริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้นในต้องเป็น
00:07:00 → 00:07:02 มาตั้งแต่อายุประมาณเท่าไหร่ครับคุณหมอ
00:07:02 → 00:07:03 ครับ
00:07:03 → 00:07:07 มีผู้หญิงเห็นหน้าจ๋าเล็กๆก็ได้ถ้าเราบาป
00:07:07 → 00:07:09 เราสังเกตว่าเด็กพรุ่งนี้ถ้าเขาหัวเราะ
00:07:09 → 00:07:13 แล้วแบบเขาเขามีอาการชักที่ที่สังเกตได้
00:07:13 → 00:07:16 ยังเด็กบางคนเนี่ยถ้าเกิดมาทักแรงกระดูก
00:07:16 → 00:07:19 ตัวแล้วก็เห็นจะทักเลยว่าเขาทักใช่ไหมคะ
00:07:19 → 00:07:22 กับกลุ่มที่บอกว่าเมยลอยแล้วก็มีอาการ
00:07:22 → 00:07:26 หัวเราะไปด้วยเนี่ยก็จะสงสัยว่าเอ๊ะมันมี
00:07:26 → 00:07:29 อะไรแปลกๆเช่นสุดเด็กนั่งเฉยๆเล่นอยู่
00:07:29 → 00:07:32 แล้วก็หัวเราะขึ้นมาแล้วก็นิ่งๆไปเรียกก็
00:07:32 → 00:07:34 ไม่หันเลยเนี้ยแล้วก็ทำให้เราจบสังเกตว่า
00:07:34 → 00:07:39 น่าจะเป็นทักอย่างหนึ่งได้ก็เราก็ต้องไป
00:07:39 → 00:07:41 หาหมอประมาณนี้ค่ะ
00:07:41 → 00:07:47 บวกกว่าพอจะเดินจะไรเดือนก็ได้หาจริงแล้ว
00:07:47 → 00:07:50 หนูทำเป็นก้อนมากๆถ้าถ้าคุณพ่อคุณแม่เห็น
00:07:50 → 00:07:54 ว่าเขาดูแบบมีอาการที่มันไม่ไม่เหมือน
00:07:54 → 00:07:58 เด็กทั่วไปค่ะแบนทักบางทีเราเราเข้าใจว่า
00:07:58 → 00:08:01 ต้องมีเกร็งกระตุกทั้งตัวนะคะถ้าเด็กแม่
00:08:01 → 00:08:04 หยุด activity บางอย่างมา
00:08:04 → 00:08:07 แล้วนิ่งไปอย่างนี้เราก็ต้องสงสัยอะเนี่ย
00:08:07 → 00:08:10 มันก็มีการทางอีกแบบนึงค่ะคิดว่าอย่างผม
00:08:10 → 00:08:13 ยกตัวอย่างกรณีของของข่าวที่มันเกิดขึ้น
00:08:13 → 00:08:16 ไม่ใช่คุยสัปดาห์ที่ผ่านมาเนี่ยคุณแม่ของ
00:08:16 → 00:08:19 น้องอ่ะเขาบอกว่าลักษณะอาการที่น้องเค้า
00:08:19 → 00:08:22 เป็นเนี่ยเป็นครั้งเหนือประมาณ 15 นาที
00:08:22 → 00:08:26 แล้ววันหนึ่งเป็นประมาณสัก 3-4 รอบดีถึง 5
00:08:26 → 00:08:30 รอบมันสามารถหน้านั้นอ่ะเป็นเป็นได้ช่วง
00:08:30 → 00:08:33 เวลาทีขนาดนี้แล้วก็กินระยะเวลาแต่ละ
00:08:33 → 00:08:36 ครั้งนานขนาดนี้เลยเหรอครับคุณหมอครับอ่า
00:08:36 → 00:08:40 แต่พี่จริงๆแล้วก็เป็นกลุ่มที่ทักนานนะคะ
00:08:40 → 00:08:44 โดยทั่วไปเนี่ยเวลาคนทั่วไปเวลาทักเนี่ย
00:08:44 → 00:08:46 ส่วนใหญ่ก็ซักประมาณไม่ค่อยเกิน 5 นาที
00:08:46 → 00:08:50 ให้เขาทักนานถึง 15 นาทีนะก็ถือว่าเป็น
00:08:50 → 00:08:53 กลุ่มที่จะเรียกว่าชักนานต่อเนื่องก็เป็น
00:08:53 → 00:08:58 ชักพักเยอะค่ะพูดธรรมชาติของการชักอ่ะ
00:08:58 → 00:09:02 เวลาขึ้นสมองผิดปกติมันจะออกมาแบบอ่าแล้ว
00:09:02 → 00:09:05 ทำให้เกิดอาจารย์น่ะคือตามสถิติเทพทั่วไป
00:09:05 → 00:09:09 จะไม่ค่อยเกิน 5 นาทีค่ะแต่ถ้าเกิดเกิน 5
00:09:09 → 00:09:12 นาทีก็ต้องก็ต้องคิดถึงภาวะพักต่อเนื่อง
00:09:12 → 00:09:15 รักที่ค่อนข้างยาวก็เป็นไปได้ว่าคนไข้คน
00:09:15 → 00:09:19 นี้มีอาการชักเยอะซึ่งก็ก็ต้องมีการรักษา
00:09:19 → 00:09:24 ที่ที่อาจจะต้องทันอ่าเธอวิธีใช่ไหมครับ
00:09:24 → 00:09:27 คุณหมอฮะคุณหมอคะเมื่อคนเรามีอาการชากะ
00:09:27 → 00:09:30 มันจะเกิดภาวะผลเสียกับร่างกายอย่างไร
00:09:30 → 00:09:32 ครับ
00:09:32 → 00:09:37 เฮ้อออออออะไรก็คือว่าเวลาคนเราจะทักได้
00:09:37 → 00:09:40 แลกคืนจะต้องมีขึ้นสมองที่เหมือนไปฟ้า
00:09:40 → 00:09:42 ช็อตขึ้นมาเลยเสมอ
00:09:42 → 00:09:45 เวลาไฟฟ้าช็อตเนี่ยมันก็จะเกิดเขาว่าของ
00:09:45 → 00:09:47 การ
00:09:47 → 00:09:52 กระตุ้นสารต่างๆในร่างกายข้างมาในสมองก็
00:09:52 → 00:09:56 เกิดกันการ์ตูนของสารบางอย่างซึ่งสาเหล่า
00:09:56 → 00:09:58 เนี้ยมันเป็นสารสื่อประสาทหรือว่าสารที่
00:09:58 → 00:10:03 ทำให้เซลล์มันผิดปกติแล้วนะเกิดว่าเรามี
00:10:03 → 00:10:06 อาการคือเหมือนมันไฟฟ้าช็อตเนี่ยใน
00:10:06 → 00:10:08 ตำแหน่งที่ผิดปกติเนี่ยมันก็ช็อตของมัน
00:10:08 → 00:10:11 แต่ถ้ามันกระจายไปถึงแซวอื่นที่เป็นเกือบ
00:10:11 → 00:10:16 ปกติมันก็ทำให้เสียวที่ปกติเสียไปด้วย
00:10:16 → 00:10:19 ประมาณ 9 ก็จะไม่จริงๆแล้วการที่ยิ่งชัก
00:10:19 → 00:10:23 นะเนี่ยมันก็จะทำให้เซลล์รอบๆเนี่ยมีมีผล
00:10:23 → 00:10:25 ผลกระทบมาขึ้น
00:10:25 → 00:10:29 มาดูเป็นรูปที่น่ากลัวเหมือนกันนะครับ
00:10:29 → 00:10:31 เสื่อมหมายถึงว่านะทุกวัยวะที่เกี่ยวข้อง
00:10:31 → 00:10:34 และเสื่อมกันไปเต็มเลยอ้ะเมื่อเราเกิด
00:10:34 → 00:10:36 อาการจัดแบ่งเตือน
00:10:36 → 00:10:39 อาจทักนานก็ยิ่งจะเป็นเยอะขึ้นค่ะ
00:10:39 → 00:10:43 ลูกเนี่ยถือว่าเป็นเป็นโรคที่อันตรายนะ
00:10:43 → 00:10:46 ครับเพราะว่าถ้าดูจับข่าวที่ถูกนำเสนอมา
00:10:46 → 00:10:49 เนี่ยทางแพทย์หลายอย่างหลายๆหน่วยงานเขา
00:10:49 → 00:10:52 บอกว่าเป็นโรคที่ดูไม่อันตรายสักเท่าไหร่
00:10:52 → 00:10:55 อยากให้คุณหมอให้คุณยังเลยช่วยช่วยช่วย
00:10:55 → 00:10:57 ยืนยันตรงนี้ให้หน่อยครับ
00:10:57 → 00:11:02 แอบดูอาไม่อันตรายเลยในเลน n ในแง่ทักมา
00:11:02 → 00:11:06 บอกว่าตัวเนื้อนะเนื้อสมองตรงเนี้ยถ้าเรา
00:11:06 → 00:11:09 มันปล่อยนะปล่อยทิ้งไว้มันไม่ตรงขึ้นพ่อ
00:11:09 → 00:11:12 ไม่ใช่เนื้องอนมันเกิดมาตั้งแต่เกิดมึง
00:11:12 → 00:11:16 อยู่แค่นี้แหละแต่ผลของมันที่เป็นผลกระทบ
00:11:16 → 00:11:17 เนี่ย
00:11:17 → 00:11:21 ก็คือถ้าสมมุติก็มีทักแบบยาวนานแบบพี่ที่
00:11:21 → 00:11:24 เป็นแล้วเขาก็ถ้าเนี่ยการทักที่แบบเธอ
00:11:24 → 00:11:26 สมองถูกกระตุ้นด้วย
00:11:26 → 00:11:30 ขึ้นไฟฟ้าที่ปกติตลอดเวลาเนี่ยสมองมันก็
00:11:30 → 00:11:34 จะดูแย่ลงพัฒนาการก่อนจะแยกลมได้อันนี้ก็
00:11:34 → 00:11:38 ถือว่าเป็นผลกระทบที่ที่ไม่ไม่น่าจะไม่
00:11:38 → 00:11:41 รุนแรงนะสำหรับเด็กเนาะแล้วก็นอกจากนี้
00:11:41 → 00:11:44 ได้คนไข้กลุ่มนี้บางคนก็อาจจะมีภาวะข้อ
00:11:44 → 00:11:47 มูลที่ผิดปกติด้วยขึ้นเราก็อาจจะต้องมี
00:11:47 → 00:11:50 การตรวจเพิ่มเติมด้วยว่าเขามีข้อมูลบาง
00:11:50 → 00:11:54 อย่างที่ที่ต่ำเกินไปหรือเกินไปหรือเปล่า
00:11:54 → 00:11:57 ถ้าเกิดเป็นกลุ่มที่ดับต่ำเกินไปอาจจะมี
00:11:57 → 00:12:00 มีวัดที่ผิดปกติบางอย่างซึ่งอาจจะเป็นสระ
00:12:00 → 00:12:04 รายได้เพื่อจริงๆอ่าเราเอาเป็นคนไข้แต่ละ
00:12:04 → 00:12:08 คนก็มีความแตกต่างกันนะคะแต่ว่าถ้าในคน
00:12:08 → 00:12:11 ไข้ที่ที่พักนานทักบ่อยยังไงก็ต้องรักษา
00:12:11 → 00:12:14 นะคะถึงแล้วว่าจะบอกว่าเป็นเนื้อที่ไม่
00:12:14 → 00:12:16 อั้นไม่ยังไม่มีอันตรายก็ไม่เป็นเนื้องอก
00:12:16 → 00:12:19 ที่โตขึ้นเลยเนี้ยเราก็เราก็ต้องรักษา
00:12:19 → 00:12:22 เรื่องของโรคโรคที่เกี่ยวค่อยใช่เมื่อกรม
00:12:22 → 00:12:25 ชาร์จหรือว่าโรคครั้งฮอร์โมนที่ผิดปกติ
00:12:25 → 00:12:29 ค่ะถ้าถามคุณหมอครับโอกาสที่จะเจอลักษณะ
00:12:29 → 00:12:32 อาการแบบนี้เนี่ยไม่งั้นเยอะไหมครับเอาไป
00:12:32 → 00:12:35 ฟังความมากกว่าในประเทศไทยก่อนละกันแล้ว
00:12:35 → 00:12:37 ก็เดี๋ยวค่อยๆและอาจจะไปไปในทั่วโลกเลย
00:12:37 → 00:12:39 เนี่ยก็
00:12:39 → 00:12:41 ตัวจริงในประเทศไทยเนี่ยเราไม่มีการศึกษา
00:12:41 → 00:12:45 ว่ามีทั้งหมดเท่าไหร่แล้วครับนี่จริงๆอ๋อ
00:12:45 → 00:12:50 นึกว่าตัวเองทำงานมานานมากแล้วคืออาจเจอ
00:12:50 → 00:12:52 เนี่ยเลย
00:12:52 → 00:12:56 ใช่ครับจริงๆแล้วเจอครับเท่าที่เจอตอนนี้
00:12:56 → 00:12:59 นะจ้าถ้าอยู่ในทางไปก่อนเองเนี่ยก็น่าจะ
00:12:59 → 00:13:01 ประมาณก็ค่า 6 Case 10 10 กว่าปีมานี้
00:13:01 → 00:13:06 แหละมากก็ไม่เยอะค่ะเข้ามาลักษณะอาการ
00:13:06 → 00:13:09 อยู่แค่ไหนอ่ะอยู่ไหนครับช่วงวัยไหนครับ
00:13:09 → 00:13:13 คุณหมอครับอ่ะตัวจริง it ตั้งแต่เล็กจนโต
00:13:13 → 00:13:16 ๆค่ะมี The ที่จะเผยแพร่จริงๆเลยตอนนั้น
00:13:16 → 00:13:20 คือมาตอนอายุ 13 ปีส่งตัวมาเพราะว่าส่ง
00:13:20 → 00:13:24 ใครทักเราก็ฟักตวัดก็ไปประสทบ้านคนไข้มี
00:13:24 → 00:13:25 การใช้ตั้งแต่ 3 เดือน
00:13:25 → 00:13:27 แล้วก็
00:13:27 → 00:13:31 พาเราซักกะบาทแล้วก็เห็นอาจารย์พักเค้า
00:13:31 → 00:13:34 เราก็ว่าเออเนี่ยถ้าหัวเราะแหละคนเราต้อง
00:13:34 → 00:13:36 มีอะไรอย่างนี้ในสมองเลยแน่ก็ทำ MRI ก็
00:13:36 → 00:13:40 เจอเลยว่าเป็นค่ะให้คนไข้คนนั้นก็คือก็
00:13:40 → 00:13:42 เปลี่ยนแปลงตั้งแต่เล็กแต่เขามีอาจารย์
00:13:42 → 00:13:44 เยอะขึ้นเรื่อยๆจนถึงตอนโตแล้วก็ได้รับยา
00:13:44 → 00:13:48 กันชักค่อนข้างเดียวก็คุณคุณชักไม่ได้ค่ะ
00:13:48 → 00:13:53 เก่งๆก็คือมาตอนตอนที่อะไรเยอะๆบางคนก็มา
00:13:53 → 00:13:56 ตอนอายุไม่เยอะก็มีต้องแบบหาจะนัดประมาณ
00:13:56 → 00:13:58 สักสองสามขวบเลยเนี่ยเพื่อนพ่อแม่เจอแล้ว
00:13:59 → 00:14:01 ก็แล้วก็ให้
00:14:01 → 00:14:04 มาหาหมอแล้วก็เหมาะก็ส่งตรวจ MRI แล้วเจอ
00:14:04 → 00:14:07 แล้วอย่างเงี้ยก็มีแล้วคุณหมอจะเข้าสู่
00:14:07 → 00:14:10 กระบวนการรักษาแบบไหนให้ยาเข้าไปเรื่อยๆ
00:14:10 → 00:14:13 นะคะอ่ะเริ่มต้นเนี่ยส่วนใหญ่ถ้าถ้าเข้า
00:14:13 → 00:14:16 ไปร่วมค้าจะนัดค่ะเราจะเริ่มต้นด้วยการ
00:14:16 → 00:14:19 ให้ยาอยู่แล้วอ่ะกันครั้งที่เราให้ก็จะ
00:14:19 → 00:14:22 เป็นกลุ่มที่รักษาด้วยการชักเฉพาะที่
00:14:22 → 00:14:26 สำหรับยากันชักที่ใช้แล้วก็ถ้าเกิดว่าคอน
00:14:26 → 00:14:30 คุมทักไม่ได้เนี่ยถ้าใช้ยาไป 2 ตัวกูชัก
00:14:30 → 00:14:32 ไม่ได้หรือว่าเราตรวจแล้วเจอเองมาอะไร
00:14:32 → 00:14:36 แล้วดับเห็นตัวให้ก็ทำอีกหายประมาณเนี่ย
00:14:36 → 00:14:40 ค่ะเราก็ไม่ใช่นาว่าน่าจะจะต้องคิดถึง
00:14:40 → 00:14:43 เรื่องการถักตัดนะตัวนี้ออก
00:14:43 → 00:14:49 ก็จะมีความสัมพันธ์สแกนว่าอาจารย์พักที่
00:14:49 → 00:14:52 ที่เป็นเจ้าขอรอเนี่ยสัมพันธ์กับ R ตัว
00:14:52 → 00:14:55 ตัวเนื้อเรื่องเนี้ยก็เจนเลยเมื่อปาก
00:14:55 → 00:14:58 เมื่อผ่านดอกค่ะมันจะเป็นยังไงนะเมื่อพระ
00:14:58 → 00:15:03 กลับฮะถ้าผ่าตัดออกได้สำเร็จคนไข้จะหยุด
00:15:03 → 00:15:06 ฉากค่ะแล้วก็หายเลยอ่ะ
00:15:06 → 00:15:10 หมอเขาหักชนะเลยแต่ว่าเนื้อตรงนั้นออกดอก
00:15:10 → 00:15:14 แต่ผมอ่านข้อมูลมาโห้ไอ้การผ่าตัดตรง
00:15:14 → 00:15:17 ไฮโปทาลามัสเนี่ยมันค่อนข้างที่จะมีความ
00:15:17 → 00:15:21 ลึกแล้วก็มีความยากมากมันยากขนาดไหนหู
00:15:21 → 00:15:23 ครับอย่างที่ขึ้นมาบอกกันอยู่ตรงกลางตรง
00:15:23 → 00:15:25 กลางแจ้งกลางเลยนะฮะ
00:15:25 → 00:15:28 โทษมันยากมากทำสมัยก่อนเนี่ยเราไม่ได้มี
00:15:28 → 00:15:32 เครื่องมือแบบทันสมัยมากๆเนี่ยต้องส่งไป
00:15:32 → 00:15:35 หาต่างประเทศในประเทศที่เหมาะเกเรเนี่ย
00:15:35 → 00:15:39 เขามันเป็นศูนย์การรับรับผ่าตัดเลยพ่อหมอ
00:15:39 → 00:15:42 เขาแบบทำเค้กพวกนี้เยอะมากแล้วก็วิธีการ
00:15:42 → 00:15:46 ผ่าตัดมันก็คงแบบนี้ค่อนข้างยากเพราะมัน
00:15:46 → 00:15:49 อาจจะต้องใช้เครื่องมือในการเข้าใจว่านา
00:15:49 → 00:15:52 เกเตอร์มีการวางว่าตำแหน่งให้มันแบบตรง
00:15:52 → 00:15:55 พูดบอกว่าถ้าเราพูดว่าใครโพธารามัดมัน
00:15:55 → 00:15:57 เป็นตำแหน่งตรงกลางสมองแล้วมันเป็นขนาด
00:15:57 → 00:16:00 ที่เล็กมากเลยค่ะตำแหน่งมันรึยังเลยเธอ
00:16:00 → 00:16:03 ไม่เป็นถ้าเราถ้าเราในเด็กก็มันยิ่งเลย
00:16:03 → 00:16:06 เข้าใหญ่เลยไอ้ตรงนี้มันเป็นแล้วนะน้องก็
00:16:06 → 00:16:10 เข้าไปในฟิวผ่าตัดจริงอ่ะมันเหมือนเนื้อ
00:16:10 → 00:16:13 สมองทั่วไปเลยมันแยกยากมากเลยค่ะกินกัน
00:16:13 → 00:16:19 ผัดง่ายๆสำหรับสำหรับสำหรับกรณีแบบนี้นะ
00:16:19 → 00:16:21 คะนั้นจริงๆแล้วมันก็ต้องใช้เครื่องมือ
00:16:21 → 00:16:24 แล้วก็ใช้ฝีมือด้วยในเมืองไทยค่ะมีผ่าตัด
00:16:24 → 00:16:27 และสำเร็จไหมครับลดอาการนี้ได้เลย
00:16:27 → 00:16:31 และก็ได้คนไข้ที่เล่าให้ฟังมีที่เล่าให้
00:16:31 → 00:16:35 ฟังนะคะค่ะก็หลังจากที่เราส่งค่าตัดเนี่ย
00:16:35 → 00:16:37 คนเนี่ยโชคดีมากคือผ่าตัดเสร็จแล้วก็หยุด
00:16:37 → 00:16:38 ทักเลย
00:16:38 → 00:16:42 เลยอายุมากอย่างแล้วปัญญาไปดูวู้ดดี้เช้า
00:16:42 → 00:16:46 นี้เนี่ยถ้าเป็นผิดกับปีแล้วมั้ง
00:16:46 → 00:16:50 ก็อ่าเขาก็เขาก็ก็หายหายจากทักแล้วก็หลัง
00:16:50 → 00:16:53 จากตอนลาภกับหมออยู่ประมาณสักสามปีเนี่ย
00:16:53 → 00:16:57 เขาก็ไม่มาฝรั่งอีกเลยอ่ะเขาก็ไม่มามี
00:16:57 → 00:17:00 อาการเขาก็ไม่มีอาการหลังหลังจากที่เขา
00:17:00 → 00:17:04 ผัดแล้วก็ให้ยาเค้าไปพัทยายายมึงเขาคงที่
00:17:04 → 00:17:06 เหยียบกินยาแล้วไม่ยอมมาหาหอยเธอเลยนะคะ
00:17:06 → 00:17:09 นี่เป็นผลงานยอดเยี่ยมของคุณพ่อคุณแม่ก็
00:17:09 → 00:17:12 คงจะและสถาบันประสาทวิทยาพาตาที่นั่นใช่
00:17:12 → 00:17:13 ไหมคะ
00:17:13 → 00:17:18 อัดที่สถาบันประสาทที่สุดยอดเลยแต่ว่ามี
00:17:18 → 00:17:22 แต่ว่าน้ำเขตได้มุก f มีแค่ส่วนอีกเหมือน
00:17:22 → 00:17:26 กันก็คือมันแคะเนี่ยเราก็เอ่อมันก็ไม่ได้
00:17:26 → 00:17:29 ง่ายอย่างอย่างเทสแอร์มึงแค่ for ผ่าตัด
00:17:29 → 00:17:32 ไปแล้วก็ยังเหลือก็ต้องกลับไปผ่าตัดทำก็
00:17:32 → 00:17:35 มีแต่ว่าอะไรหลายล่าสุดที่เพิ่งหน้า
00:17:35 → 00:17:38 ประมาณสักสองสามปีเนี่ยล่าสุดเลี้ยงก็พา
00:17:38 → 00:17:41 ไปเดทครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 นี้นะคะก็
00:17:41 → 00:17:44 หยุดพักและตอนนี้อยู่ทางและเด็กก็จบดี
00:17:44 → 00:17:48 ขึ้นเยอะแล้วค่ะอ่ะนะครับถือว่าบับแล้ว
00:17:48 → 00:17:50 สะพายสำเร็จในการผ่าตัดเคสนี้ก็ประสบตอน
00:17:50 → 00:17:54 ความสำเร็จเหมือนกันถ้าผมคือเท่าที่ฟังมา
00:17:54 → 00:17:57 เนี่ยสี่ซ่าห้า KC คุณหมอบอกนี่ก็คือก็จะ
00:17:57 → 00:18:00 เจอในช่วงวัยที่อาจจะยังเป็นเป็นเป็นเด็ก
00:18:00 → 00:18:04 เป็นเยาวชนอยู่ก็เลยอยากรู้ว่าในวัยทำงาน
00:18:04 → 00:18:07 หรือว่าผู้สูงวัยเนี่ยโอกาสเจออาการใน
00:18:07 → 00:18:09 ลักษณะแบบนี้มันมีบ้างไหมครับคุณหมอครับ
00:18:09 → 00:18:10 อ่ะ
00:18:10 → 00:18:15 เอ่ออาจารย์ค่าเป็นไฮโปเธอมีขนาดทำมาโตมา
00:18:15 → 00:18:19 แบบเอ่อคือจริงๆขนาดมันเล็กๆขนาดมันเล็ก
00:18:19 → 00:18:23 มากๆแล้วแล้วมันไม่ได้หลับมีอาการเยอะอ่ะ
00:18:23 → 00:18:27 มันก็จะหลงเหลือไปจนโตแล้วเพิ่งไปเจอตอน
00:18:27 → 00:18:30 โตก็ได้นะคะจะไม่เกิดบอกที่บอกว่าไอ้ตัว
00:18:30 → 00:18:33 เนื้อตัวนี้มันเกิดมาให้มันเกิดอ่ะคนนั้น
00:18:33 → 00:18:36 มันก็จะมันก็จะต้องเป็นมาตั้งแต่เกิดมัน
00:18:36 → 00:18:39 จะไปกดอาการตอนไหนแค่นั้นเองค่ะพักขนาด
00:18:39 → 00:18:42 มันเล็กมากแล้วก็การไม่เยอะและบางทีก็อาจ
00:18:42 → 00:18:44 จะไม่ได้ตรวจเกิดแล้วว่าขึ้นอยู่กับ
00:18:44 → 00:18:47 เทคนิคการตรวจด้วยบางครั้งเนี่ยหมอ
00:18:47 → 00:18:51 เอกซเรย์มอสเอกซเรย์ที่ดู MRI ก็ต้องแบบ
00:18:51 → 00:18:54 เนื้อเพลงดูนิดนึงต้มพ่อมึงเป็นตำแหน่ง
00:18:54 → 00:18:57 ที่พอถ้าจะซื้อเราตัดหนาวนี่มันก็ผ่านไป
00:18:57 → 00:19:00 เลยอ้ะมันเล็กมากมันคนเล็กขนาดไหนเค้า
00:19:00 → 00:19:04 หน่ะนะเป็นเส้นเป็นยังไงครับโอเคมันมิน
00:19:04 → 00:19:08 หัวมันเป็นๆก็ถือว่าใหญ่อ้ะเป็นมีจะเป็น
00:19:08 → 00:19:10 จุดเล็กมากเลย
00:19:10 → 00:19:11 [เพลง]
00:19:11 → 00:19:15 สามารถเราเห็นด้วยจังคือเพราะฉะนั้นแล้ว
00:19:15 → 00:19:18 ก็จะได้ตังค์แต่ได้ตายมีแต่ว่าเราตัดเวลา
00:19:18 → 00:19:22 เราตัด MRI แล้วให้เราบอกถ้าข่อยใหม่เขา
00:19:22 → 00:19:25 จะตัดเป็นแบบเป็นเม็ดเล็กๆคะแต่ไงว่ามัน
00:19:25 → 00:19:29 จะตัดเป็นชั้นๆน็อคแล้วแต่หลักฐานและส่วน
00:19:29 → 00:19:32 มันความหนามันแบบความหนามันหนามากเลยมัน
00:19:32 → 00:19:34 ที่มันตัดขาดไปเลยก็มี
00:19:34 → 00:19:38 นอนจะมีช่วงเก็บระหว่างระหว่างฐานนี้ค่ะ
00:19:38 → 00:19:41 ถ้าเนื้อบางทีเนี่ยถ้าเราสงสัยมากๆเราอาจ
00:19:41 → 00:19:44 จะต้องบอกหมออีกเลยว่าเราสงสัยเนี่ยช่วย
00:19:44 → 00:19:47 ตัดตรงนี้บางๆดูละเอียดละเอียดหน่อยเนี่ย
00:19:47 → 00:19:50 ประมาณเนี่ยฮะคือแสดงว่าการที่จะ
00:19:50 → 00:19:51 วิเคราะห์
00:19:51 → 00:19:54 แต่ถ้าเป็นอาการนี้หรือไม่ในคืออาจจะต้อง
00:19:54 → 00:19:57 ใช้วิธีการ MRI อย่างเดียวใช่ไหมผลบอล
00:19:57 → 00:20:00 หรือว่าเราสามารถที่จะเอามาเคราะห์จาก
00:20:00 → 00:20:04 อาการที่คนไข้แจ้งมาลักษณะของสิ่งที่ไม่
00:20:04 → 00:20:07 เกิดขึ้นกับคนไข้เราสามารถระบุได้เลยนะ
00:20:07 → 00:20:09 ครับอ่า
00:20:09 → 00:20:11 ข้อห้ามเด็กด้วยเท่าไหร่ก็จะต้องมาจาก
00:20:11 → 00:20:16 อาจารย์ก่อน 5 การทำให้มาแล้วเรา
00:20:16 → 00:20:21 อาจารย์มาถึงเราสงสัยใช่ไหมเราก็ลล์คนนี้
00:20:21 → 00:20:24 ใช่หัวเราะจากทักหรือเปล่าอะไรเสร็จสงสัย
00:20:24 → 00:20:27 ก็ทำขึ้นสมองดูว่าขณะที่เขาหัวเราะเนี่ย
00:20:27 → 00:20:30 เพื่อสมองก็ผิดปกติเล่นแบบขึ้นลงชัดหรือ
00:20:30 → 00:20:33 เปล่าว่าจะบอกว่าอันนี้เนี่ยใช่ละอันนี้
00:20:33 → 00:20:35 เป็นชักแบบหัวเราะเพราะว่าเป็นอาการชัก
00:20:35 → 00:20:39 และมีขึ้นผิดปกติแล้วก็ต้องคิดว่าอ่อน
00:20:39 → 00:20:43 อาการนี้น่าจะสัมพันธ์กับโรคประมาณว่าตัว
00:20:43 → 00:20:45 นี้น่าจะเป็นตัวที่คิดถึงป๊อบอ่ะอันดับ
00:20:45 → 00:20:50 แรกแล้วก็ไปตรวจ MRI ว่าเจอรึเปล่าแล้วก็
00:20:50 → 00:20:54 ดูไปลานอากาศดึง MRI กูหรอคะเราสามารถแยก
00:20:54 → 00:20:57 อาการชักแบบหัวเราะเนี่ยจากพฤติกรรมผิด
00:20:57 → 00:21:00 ปกติในเด็กที่มีปัญหาพัฒนาการที่รำไรเห็น
00:21:00 → 00:21:03 น่ะมีหลายพื้นระหว่างถามมานะไม่รู้ว่าว่า
00:21:03 → 00:21:06 ก็เห็นอ่ะเคยเห็นบางคนที่มีสมาธิสั้นหรือ
00:21:06 → 00:21:10 ออทิสติกเขาก็จะราะแต่ตัวก็จะก็จะมีตัว
00:21:10 → 00:21:15 เลนส์ไปอิ่มอ้าไม่เห็นน่ะเราจะมันจะยาก
00:21:15 → 00:21:18 อะไรกันดาบ
00:21:18 → 00:21:21 มีผักปกติแน่เด็กที่เป็นออทิสติกน้องเขา
00:21:21 → 00:21:24 จะมีลักษณะหนึ่งคือก็จะทำอะไรซ้ำๆซึ่ง
00:21:24 → 00:21:26 เด่นมึงกล้าจะอยู่เฉยต้องหัวเราะกิ๊กของ
00:21:26 → 00:21:30 เขาเองก็ได้แล้วก็เขาก็จะมีการเคลื่อนไหว
00:21:30 → 00:21:33 อะไรที่ดูแปลกๆซึ่งจริงกลุ่มเราเนี้ยก็ทำ
00:21:33 → 00:21:37 ให้เราสงสัยในบางคนเหมือนกันว่าเอ๊ะ
00:21:37 → 00:21:40 อาจารย์แบบนี้เป็นอาการทักของเขาไหมก็ได้
00:21:40 → 00:21:44 นะคะว่าล้างจานแยกส่วนนึงเนี่ยเราจะเราจะ
00:21:44 → 00:21:48 ใช้ขึ้นสมองในการตรวจคลื่นสมองขณะที่เกิด
00:21:48 → 00:21:51 อาการนั้นเกิดว่าเขาเป็นอาจารย์บ่อยและ
00:21:51 → 00:21:53 การตรวจคลื่นสมองก็ไม่ยากเลยค่ะก็คือเรา
00:21:53 → 00:21:56 ก็สามารถจะสามารถตรวจพบขณะที่มีอาการพ่อ
00:21:56 → 00:22:00 การบ่อยมากตัวสักครึ่งวันก็เจอละกำลังนี้
00:22:00 → 00:22:05 ก็คือเอามาก็ได้มามอเตอร์อีกทีแล้วก็ดูนะ
00:22:05 → 00:22:08 ระวังที่เค้าหัวเราะเนี่ยอาการเขาเป็น
00:22:08 → 00:22:11 อย่างไรแล้วก็ขึ้นสมองก็เป็นยังไงก็อยาก
00:22:11 → 00:22:14 บอกก็มีนิสัยได้แล้วก็ต้องเอามาดูกันมา
00:22:14 → 00:22:18 ศึกษากันนะคะเพราะอาการก็มันไว้ว่าก็มี
00:22:18 → 00:22:21 ส่วนร่วมคล้ายๆคล้ายคลึงกันดีเดียวๆหรือ
00:22:21 → 00:22:24 ฟังถามมาจากว่าเป็นมูลเป็นผู้ป่วยอายุ 61
00:22:24 → 00:22:29 โหแต่ว่าน่าจะมีหลากหลายโลกร่วมนะคุณหมอ
00:22:29 → 00:22:35 อาการทางสมองของคนสูงวัยเนี่ยเอ่อไม่น่า
00:22:35 → 00:22:38 จะเกี่ยวกับเรื่องของถ้าหัวเราะและไหมคะ
00:22:38 → 00:22:41 ไม่ได้เดี๋ยวเอาเอาคำถามตรงนี้
00:22:41 → 00:22:42 คือ
00:22:42 → 00:22:47 มีคุณผู้ฟังถามว่าเรื่องของอาการนี้ฮะเรา
00:22:47 → 00:22:52 ต้องตรวจสุขภาพเด็กเอ่อตั้งแต่ตั้งแต่แต่
00:22:52 → 00:22:55 ตั้งแต่อยู่ในครรภ์เลยไหมครับหรือว่าเรา
00:22:55 → 00:22:58 จะต้องต้องการอะไรยังไงได้บ้างหรือหมอ
00:22:58 → 00:23:01 อาหารการกินอาหารอะไรอ่ะป้องกันไอโอดี
00:23:01 → 00:23:04 เรื่องของพวกวิตามินยกเลยได้นอกและภาค
00:23:04 → 00:23:06 อะไรเนี่ยที่จะป้องกันอาการเหล่านี้ไม่
00:23:06 → 00:23:09 ให้เกิดขึ้นกับเด็กๆได้ไหมครับคุณหมอครับ
00:23:09 → 00:23:12 จะเอาถักผู้หญิงจริงๆแล้วรอบนี้นี้ยังไม่
00:23:12 → 00:23:16 รู้สาเหตุเลยว่าทำไมมันถึงเกิดกับคนคนที่
00:23:16 → 00:23:19 เป็นเนาะไม่ได้มีพูดถึงเรื่องของกรรมจะมา
00:23:19 → 00:23:22 พันธุ์หรือว่าอะไรที่ทำให้เกิดแล้วก็ไม่
00:23:22 → 00:23:26 ได้พูดถึงความสัมพันธ์กับการขาดสารอาหาร
00:23:26 → 00:23:28 อะไรเลยเพื่อให้จริงอาจจะต้องกันไม่ได้
00:23:28 → 00:23:32 แล้วก็การตรวจอะไรในสมองในขณะที่อยู่ใน
00:23:32 → 00:23:37 ท้องน่ะปกติ 5 ตัวเราสาวเด็กเนี้ยถ้าเรา
00:23:37 → 00:23:40 จะดูสมองเด็กไม่ไม่เอาให้เขาในท้องแน่
00:23:40 → 00:23:44 เนี่ยคนอย่างก็ดูได้หลับเขาเรียกเข้าข้าว
00:23:44 → 00:23:47 นะคะเพิ่งจะอยู่ที่บอกอะไรมาอะไรอ่ะมัน
00:23:47 → 00:23:50 เป็นสิ่งที่ละเอียดแล้วถ้าเราจะตรวจนี่
00:23:50 → 00:23:53 มันต้องดับตรวจละเอียดมากเลยอ่ะที่จะจะ
00:23:53 → 00:23:55 พยายามทำแล้วก็ไม่ค่อยได้ทำ MRI เลยคน
00:23:55 → 00:23:59 ท้องก็ไม่จำเป็นใช่เพราะมันเกิดทั้งลำบาก
00:23:59 → 00:24:02 ไงค่ะมันไม่สามารถที่จะลดโอกาสมันเกิด
00:24:02 → 00:24:05 ขึ้นอย่างที่คุณหมอเจอในทำงานมาเป็น 10
00:24:05 → 00:24:08 ปี 20 ปีเพิ่งเจอกับสีชา 5 Case เองใช่
00:24:08 → 00:24:11 ไหมนะคะมันโอ้แม่เจ้า
00:24:11 → 00:24:13 พันธุกรรมพ่อแม่เลยนะคะพ่อแม่ปู่ย่าตายาย
00:24:13 → 00:24:18 พบกันก็ไม่ก็ไม่ก็ไม่ได้บอกว่าคนที่เป็น
00:24:18 → 00:24:21 โรคนี้ในบ้านเราจะต้องเป็นในรุ่นต่อๆไปนะ
00:24:21 → 00:24:23 คะก็ไม่ได้พูดไม่ใช่เราจะเลือกของ
00:24:23 → 00:24:25 พันธุกรรม
00:24:25 → 00:24:27 เรื่องของอาการ
00:24:27 → 00:24:31 ชัดการหัวเราะเนี่ยมารุนแรงจนกระทั่งนำไป
00:24:31 → 00:24:34 สู่การเสียชีวิตได้นะครับนี้เป็นคำถามจาก
00:24:34 → 00:24:36 ทางบ้านถามมา
00:24:36 → 00:24:41 นะคะกลับหัวเราะก็เป็นถ้าเราข้ามเป็น
00:24:41 → 00:24:44 อาการชักธรรมดาแบบที่เราบอกว่าทักไม่เกิน
00:24:44 → 00:24:48 5 นาทีครับก็อาจจะบับไม่ได้มากไม่ได้ไม่
00:24:48 → 00:24:51 ได้มีอะไรมันก็จะหยุดเนาะแต่ถ้าตัวมันทัก
00:24:51 → 00:24:54 ตลอดเวลาน่ะท่านตลอดเวลาแบบต่อเนื่องยาว
00:24:54 → 00:24:59 นานตลอดเวลาเนี่ยมันก็จะมีขนเหมือนกันอาจ
00:24:59 → 00:25:01 จะทำให้คนไข้เนี่ยให้ไปเหนื่อยเหมือนกัน
00:25:01 → 00:25:03 เนาะเวลาหัวเราะ
00:25:03 → 00:25:06 หาซื้อจริงๆอันนี้ก็จะอาจจะต้องถูกเป็น
00:25:06 → 00:25:10 เค้าเนี่ยเป็นทักแบบต่อเนื่องนะคะจริงๆ
00:25:10 → 00:25:13 เราต้องแบบพยายามหยุดทักเขา
00:25:13 → 00:25:16 แต่ก่อนที่พักเค้าจะไม่ไหวอ่ะพูดจริงๆ
00:25:16 → 00:25:20 แล้วเธอทั่วไปเนี่ยมันก็มีคนไข้ที่ทักจอด
00:25:20 → 00:25:24 เวลาเหมือนกันแต่ว่ามาเป็นพัดกระเพาะที่
00:25:24 → 00:25:27 เราก็มักจะไม่ค่อยคุยคือเวลาเราทักต่อ
00:25:27 → 00:25:29 เนื่องแล้วมันจะมี 2 แบบคือแบบที่เป็นชัด
00:25:29 → 00:25:33 เฉพาะที่ที่ที่จะดูแล้วไม่ค่อยหมุนแรงมาก
00:25:33 → 00:25:36 นะถ้าเป็นชักที่แบบรุนแรงและคือชักที่แบบ
00:25:36 → 00:25:39 เกร็งกระตุกตัวตลอดเวลาเนี่ยพวกนี้เรา
00:25:39 → 00:25:42 ต้องใส่ท่อช่วยหายใจแล้วก็เอายาใส่ก็ไป
00:25:42 → 00:25:46 เพศเขาหยุดอ่ะค่ะแต่ว่าถ้าเป็นตวงที่แบบ
00:25:46 → 00:25:49 เป็นเฉพาะที่ซึ่งชักหัวร้อนเป็นคือบัญชั
00:25:49 → 00:25:51 เฉพาะที่อย่างนึงถ้าเขาไม่ Face ดิ้งไป
00:25:51 → 00:25:55 เป็นที่อื่นเนาะพวกนี้เราก็อาจจะให้ยา
00:25:55 → 00:25:58 เพื่อหยุดเป็นพักๆได้ก็ใช้ยาที่ไม่ได้รับ
00:25:58 → 00:26:01 รุ่นแรงขนาดต้องแบบให้เขาโครม่าเพื่อจะ
00:26:01 → 00:26:03 หยุดชักก็ทั้งที
00:26:03 → 00:26:07 จริงแล้วมันก็ยังใช้เองสามารถใช้ยาใช้ยา
00:26:07 → 00:26:11 รักษาได้แล้วก็อาจารย์แอ็คมักจะไม่ค่อย
00:26:11 → 00:26:14 เกิดจากต่อเนื่องรุนแรงขนาดนั้นนะฮะโปมี
00:26:14 → 00:26:18 มีคำถามที่อยากจะถามคุณหมอซึ่งในส่วนคำ
00:26:18 → 00:26:21 ว่าลมชัดเอ่อที่คุณน็อตบอกว่าอาการลมชัก
00:26:21 → 00:26:25 จะหายขาดได้เมื่อผ่าตัดสมองให้ปรมัตถ์ออก
00:26:25 → 00:26:30 อาการลมชักเป็นเป็นเขาได้ว่าสับเซตของ
00:26:30 → 00:26:33 อาชักหัวเราะนี้เหรอคะคุณหมอคะ
00:26:33 → 00:26:34 ที่ 8 ออก
00:26:34 → 00:26:38 ร่มทักนะคะร่วมทักนี่ก็คือการที่มี
00:26:38 → 00:26:41 อาจารย์ชัดนะคะแล้วก็อาจารย์ชักเนี่ยมัน
00:26:41 → 00:26:46 มีหลายชนิดมีหลายรูปแบบอ่ะทักหัวเราะ
00:26:46 → 00:26:49 เนี่ยถือเป็นสับเซตของอาการของอาการชัก
00:26:49 → 00:26:53 ทั้งหมดหลายๆชนิดค่ะค่ะนี้อาการชัดก็จะ
00:26:53 → 00:26:58 แบ่งเป็นนักเฉพาะที่กะชักทั้งตัวรักทั้ง
00:26:58 → 00:27:01 สมองอาจเป็นเงินเฉพาะที่คือชักบางจุดของ
00:27:01 → 00:27:05 สมองซักทั่วสมองก็คือที่ขึ้นสมองมันวิ่ง
00:27:05 → 00:27:08 ไปหมดทั้งหัวประมาณเนี้ยจะนั้นกลุ่มที่
00:27:08 → 00:27:11 เป็นแพ็คเฉพาะที่ก็จะเกิดตรงจุดไหนของ
00:27:11 → 00:27:15 สมองก็ได้แล้วจุดไหนที่เกิดการอาการชัก
00:27:15 → 00:27:18 มันก็จะมีอาการชักตรงจุดนั้นเช่นซื้อว่า
00:27:18 → 00:27:21 เป็นตำแหน่งของการเคลื่อนไหวของใครก็จะมี
00:27:21 → 00:27:24 การกระตุกของแขนหรือเนี่ยนึกนี่หน้าก็จะ
00:27:24 → 00:27:26 มีกระตุกที่น่าประมาณเนี่ย
00:27:26 → 00:27:29 เมื่อกี้เราพูดถึงเรื่องของออทิสติกด้วย
00:27:29 → 00:27:32 ใช่ไหมคะพี่นกคุณหมอครับมีคุณผู้ฟังทาง
00:27:32 → 00:27:35 บ้านฝากถามมีพระอาการออทิสติกทานยาต่อ
00:27:35 → 00:27:38 เนื่องจากคุณหมอเฉพาะทางมันมีโอกาสที่จะ
00:27:38 → 00:27:42 หายขาดนะครับอ่ะ
00:27:42 → 00:27:45 ก็หมายถึงโรคอทิตตาใช่ๆๆหานี้อันนี้กู
00:27:45 → 00:27:49 ฝั่งทางบ้านครบฟอร์ดถามมา
00:27:49 → 00:27:52 ตอนนี้อ่าถ้าพูดถึงเรื่องของอาการจอ
00:27:53 → 00:27:55 ทิสติกน้อยจริงๆแล้วอาทิตย์ติดก็เป็นความ
00:27:55 → 00:27:58 ผิดปกติของสมองชนิดนึงครับจริงๆแล้วมันก็
00:27:59 → 00:28:02 เป็นค่ะมีความผิดปกติที่ที่เหมือนกับว่า
00:28:02 → 00:28:05 เราลดอากาศได้และลดอาการบางอย่างได้แต่
00:28:05 → 00:28:09 ว่าไม่สามารถที่จะบับหายขาด
00:28:09 → 00:28:13 มาดูมันสามารถอาจารย์กัน Control เช่น
00:28:13 → 00:28:16 พฤติกรรมบางอย่างเนาะอาจจะได้การฝึกการ
00:28:16 → 00:28:19 ฝึกบางอย่างทำให้เขาสามารถที่เรียนรู้ได้
00:28:19 → 00:28:22 คิดอิกมันก็จะมีกลุ่มที่หนูเรียกว่า
00:28:22 → 00:28:26 อาทิตย์ติดที่ที่หายฝั่งทันก็คือเด็กที่
00:28:26 → 00:28:29 ตลาดที่ใหญ่กูดีแต่ว่าเขามีปัญหาเรื่อง
00:28:29 → 00:28:34 สังคมเลยพาสายเธอเขาก็อาจจะมีการฝึกตัว
00:28:34 → 00:28:36 เองพิเศษที่เขาอาจจะสามารถอยู่ในอยู่ใน
00:28:36 → 00:28:40 สังคมได้ดีขึ้นหากพวกที่เป็นออฟฟิศติก
00:28:40 → 00:28:44 แล้วก็อ่ามีปัญหาเรื่องสติปัญญาช้าด้วย
00:28:44 → 00:28:47 เนี่ยพรุ่งนี้ก็จะต้องฝึกยากแล้วก็ดูแล
00:28:47 → 00:28:51 ยากยิ่งยากมากขึ้นอ่ะซึ่งพวกนี้ก็แล้วแต่
00:28:51 → 00:28:54 แล้วแต่เค้กนี่ไม่เหมือนกันแต่ละเขตที่
00:28:54 → 00:28:57 เหมือนกันค่ะแล้วก็จะมีกลุ่มนึงที่เรียก
00:28:57 → 00:29:01 ว่าเหมือนเป็นออทิสติกไม่จริงไม่ใช่ของ
00:29:01 → 00:29:05 จริงคำว่าคนไข้อาการไม่ออทิสติกแต่ว่า
00:29:05 → 00:29:08 จริงๆแล้วไม่ใช่ออทิสติกก็คือต้องต้องหา
00:29:08 → 00:29:11 สาเหตุว่าทำไมการเข้าถึงมีอาการแบบนี้
00:29:11 → 00:29:14 พรุ่งนี้ต้องระวังในกลุ่มที่เป็นโรคลมชัก
00:29:14 → 00:29:17 บันทึกแล้วเราไปวินิจฉัยเขาว่าเขาเป็น
00:29:17 → 00:29:18 ออทิสติก
00:29:18 → 00:29:21 พวกนี้รักษาได้พอเรารักษาแล้วแต่ตอน
00:29:21 → 00:29:27 พิจิตรเขาก็จะดีขึ้นน่ะจริงก็คงต้องต้อง
00:29:27 → 00:29:29 ต้องระวังในกลุ่มที่ผามเนี่ย Smooth เรา
00:29:29 → 00:29:33 เราคิดว่าเขาเป็นโรคกรมทักที่ดูอาจารย์
00:29:33 → 00:29:36 น่ะริติกแล้วเราไม่ได้รักษาเขาก็จะมี
00:29:36 → 00:29:38 อาการอย่างนั้นไปเรื่อยๆไม่ได้รักษาครั้ง
00:29:38 → 00:29:41 นี้มีโรคอะไรล่ะหลายอย่างที่เกี่ยวกับ
00:29:41 → 00:29:44 สมองนะคะขอยกเลิกคำถามว่าคำถามซับซ้อนไม่
00:29:44 → 00:29:47 ทราบว่าจะเกี่ยวข้องหรือเปล่าเช่นเส้น
00:29:47 → 00:29:50 เลือดสมัยฟีตัสยังอยู่แสดงว่าเนื้อสมอง
00:29:50 → 00:29:55 บางส่วนยังอยู่ด้วยมั้ยเอ่อเป็นคำถามมา
00:29:55 → 00:29:57 จากผู้สูงอายุที่อยู่ในบ้านนะคะมีอาการ
00:29:57 → 00:30:01 หลากหลายอย่างเหมือนความจำจำไม่ได้คือเขา
00:30:01 → 00:30:04 ได้รับผู้เหมือนกระทบทางสมองกันก็จะมีจำ
00:30:04 → 00:30:08 ตั้งจะล้มตั้งแต่อุบัติเหตุทางรถยนต์แล้ว
00:30:08 → 00:30:11 ก็ถ้านี้ถามว่าธ The Big Brain injury
00:30:11 → 00:30:14 หยุดหยุดไป 3 เดือนแล้วก็ในช่วง 2 3
00:30:14 → 00:30:17 เดือนที่ผ่านมาเริ่มมีอาการวูบเขาก็เลยมี
00:30:17 → 00:30:22 ความกังวลว่าเคย PTT แกงที่สระแก้วก็ไป
00:30:22 → 00:30:24 phetuz เนี่ยมันยัง Active อยู่โดนเนี่ย
00:30:24 → 00:30:27 มันจะมีอาการอะไรที่น่ากังวลนะครับคุณหมอ
00:30:27 → 00:30:28 ครับ
00:30:28 → 00:30:31 พี่หมูไม่คนไทยรู้เท่าไหร่นะคะ
00:30:31 → 00:30:35 มีผลกระทบต่อเนื่องจากการเหรอได้รับ
00:30:35 → 00:30:40 อุบัติเหตุเลยอ่ะอะไรครับผมรู้ว่าแล้วก็ 6
00:30:40 → 00:30:43 ปีที่แล้วเนี่ยก็มีอาการที่แบบว่าเหมือน
00:30:43 → 00:30:46 อะมึงๆงงนึกไม่ตอบแล้วก็อุบัติเหตุทางรถ
00:30:46 → 00:30:49 ยนต์ต่อหน้าจะขับรถได้นะ
00:30:49 → 00:30:52 กด start แดงน่าจะสะโหลว่าฝนเช่า
00:30:52 → 00:30:56 สรุปว่าคนไข้มีอุบัติเหตุก่อนหรือว่ามี
00:30:56 → 00:30:59 อาการอะมึงก่อนอุบัติเหตุก่อนตอน 11 ขวบ
00:30:59 → 00:31:02 เชื่อความรู้ไปทุกความเธอมาตั้งแต่เด็กๆ
00:31:02 → 00:31:08 แกก็โอ๊ยเรียนจบปโทราเลยอ่ะเรียนได้นะคะ
00:31:08 → 00:31:13 ขอให้คุณลุงของคนที่จริงวันหนึ่งมันอยู่
00:31:13 → 00:31:16 ที่แขวน 2 ของเห็นดารา
00:31:16 → 00:31:20 ๆดูเขามีนักหนาเรื่อง
00:31:20 → 00:31:22 31 ขวบ
00:31:22 → 00:31:26 port พอเรียนจบปริญาโทอะไรเขาไม่มีปัญหา
00:31:26 → 00:31:29 อะไรล่ะคะอย่าโทรนะว่าปัญหาว่าตัวมาติก
00:31:29 → 00:31:32 injury ในสมองเขาน่าจะบับไม่ได้มีคนอะไร
00:31:32 → 00:31:35 อ่อการเรียนแสดงว่าเขาใช้ได้เนาะเขาไม่
00:31:35 → 00:31:38 ต้องไปหาจะเพราะอายุเยอะเริ่มอยู่ที่แล้ว
00:31:38 → 00:31:42 เริ่มเมียการเนี่ยอยู่ข้างนักหนาวู่ก็เลย
00:31:42 → 00:31:45 เนี่ยซึ่งมันก็เหมือนจะหยุดหายใจด้วยอะไร
00:31:45 → 00:31:47 เงี้ยเออเป็นแบบนี้อาทิตย์ละครั้งสอง
00:31:47 → 00:31:50 ครั้งไม่ได้เกี่ยวข้องกับทำก็อาจเป็นวัด
00:31:50 → 00:31:53 เดียวกับปกติของเก่าพระนำนานยังไงให้มัน
00:31:53 → 00:31:55 ไม่เข้าคลินิกของที่สถาบันประสาทวิทยา
00:31:55 → 00:31:59 เพื่อให้คุณหมอได้ไปพิจารณาอย่างละเอียด
00:31:59 → 00:32:02 ไม่ทราบว่ากระตุ้นฝั่งท่านี้อ่ะอยู่ที่
00:32:02 → 00:32:06 ไหนนะคะแต่มันภาษานี่เชื่อว่าถ้านะคะท้าย
00:32:06 → 00:32:10 ใช่ๆครับผมลองไปปรึกษาดูนะคะมีอีกหนึ่งคำ
00:32:10 → 00:32:12 ถามว่าคุณหมอครับอ่าน่าจะเป็นช่วงเทศท้าย
00:32:12 → 00:32:15 แล้วคนที่เป็นโรคลมชักธัญญาตัวที่ชื่อว่า
00:32:15 → 00:32:19 ดีแลนด์ทินได้ไหมครับ
00:32:19 → 00:32:22 อันนี้ผมอ่านชื่อยาถึงหรือเปล่าไม่แน่ใจ
00:32:22 → 00:32:25 ได้แลนด์ทินหรือว่าจะเล่นเพลงสะกดยังไง
00:32:25 → 00:32:30 คดี i l a n แล้วก็ t i n a ผมขอ
00:32:30 → 00:32:35 ค่ะจริงๆคนเป็นโรคลงชาร์จก็กินยากันอิฐ
00:32:35 → 00:32:38 แดนจึงถือเป็นยากันชักชนิดนึงแล้วตอนชัก
00:32:38 → 00:32:41 ที่ใช้กันมายาวนานมากแล้วแล้วก็เป็นยา
00:32:41 → 00:32:45 กลุ่มที่ใช้กันบ่อยมากค่ะได้กลุ่มที่เป็น
00:32:45 → 00:32:49 โรคลมชักค่ะจริงๆแล้วก็ขึ้นอยู่กับว่าเขา
00:32:49 → 00:32:53 เขากินยาตัวไหนอยู่แล้วทำไมถึงถึงถึงมาทำ
00:32:53 → 00:32:55 เป็นแบรนด์ติน
00:32:55 → 00:32:58 ค่ะไม่เข้าใช้งานจริงอยู่ก็ใช้ตอนไหน
00:32:58 → 00:33:02 สามารถแจ้งได้เราไม่ไม่ชักค่ะก็ไปต่อไป
00:33:02 → 00:33:04 ได้เรื่อยๆครับเพราะว่าแพร่ใช้ยาตัวอื่น
00:33:04 → 00:33:07 อยู่แล้วก็กลุ่มได้ก็ไม่ต้องมาเปลี่ยน
00:33:07 → 00:33:10 เป็นไดแลนตินน่ะไม่ถึงก็ขึ้นอยู่กับว่า
00:33:10 → 00:33:13 เขาใช้ยาอะไรอยู่ทำเองครับผมแสดงให้เรา
00:33:13 → 00:33:15 เห็นว่าเรื่องของเธอประสาทเรื่องของสมอง
00:33:15 → 00:33:17 เนี่ยมีมีคนเป็นกันเยอะขึ้นมามีเบอร์
00:33:17 → 00:33:20 ฉุกเฉินอะไรไงหรือว่าตีสี่ตัว R ที่ประ
00:33:20 → 00:33:23 สามารถประสานคุยด้วยก็ตั้งราคาได้บ้างไหม
00:33:23 → 00:33:28 ครับอ่ะมีนิสสันพาสารอยู่ไหมคะหาอ่าเบอร์
00:33:28 → 00:33:32 เบอร์โทรศัพท์พัฒนศาสตร์นะคะ 02 ค่ะ
00:33:32 → 00:33:36 306 9899 ค่ะ
00:33:36 → 00:33:42 230 6989 นะไม่สามารถโทรเบอร์กลางนะคะ
00:33:42 → 00:33:44 แล้วเขาก็จะมีให้กดขามในนั้นนะคะว่า
00:33:44 → 00:33:48 ต้องการถามเรื่องอะไรก็มีนี่มีส่วนที่เขา
00:33:48 → 00:33:51 รักรับศึกษาอยู่นะคะถ้าผมโอนนี้ก็ถือว่า
00:33:51 → 00:33:56 เราได้ความรู้เรื่องของอาการที่หลายคนมัก
00:33:56 → 00:33:59 จะเรียกกันติดปากว่าเนื้องอกหัวเราะเออ
00:33:59 → 00:34:02 เราก็ไปอีกหลายเรื่องไปอีกหลายเรื่องแล้ว
00:34:02 → 00:34:06 ก็ได้เห็นว่าเรื่องของปากนะการทาง her ใน
00:34:06 → 00:34:09 ประสาทในสมองหนูไม่มีเรื่องของโรคภัยคลิป
00:34:09 → 00:34:12 เช็คที่มาเดียวกะเจ็บมาเยอะมากจริงๆขึ้น
00:34:12 → 00:34:15 มาแล้วเนี่ยมันมีการผ่าตัดที่ได้ผลแล้วก็
00:34:15 → 00:34:18 ทำให้หายอาการชักหัวเราะไม่ได้เลยนะทอน
00:34:18 → 00:34:21 แต่ไม่เป็นจะดีกว่าชนะค่ะอ่ะน่า
00:34:21 → 00:34:24 จะดีที่สุดนะครับวันนี้ต้องขอขอบพระคุณ
00:34:24 → 00:34:26 คุณหมอมากๆนะครับที่มาให้ความรู้กับเราใน
00:34:26 → 00:34:28 ค่ำคืนวันนี้นะครับขอบพระคุณมากด้วยดี
00:34:28 → 00:34:31 ครับขอบคุณค่ะ
00:34:31 → 00:34:35 ขอบพระคุณครับ