00:00:00 → 00:00:03 และเมื่อกล่าวถึงโรคไตนะคะหลายคนอาจจะรู้
00:00:03 → 00:00:06 สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดาสามัญแต่จริงๆแล้ว
00:00:06 → 00:00:09 ไม่ใช่เลยค่ะโรคไตนะคะเป็นเรื่องที่ทำให้
00:00:09 → 00:00:12 เกิดภาวะโรคเรื้อรังค่ะซึ่งโรคเรื้อรัง
00:00:12 → 00:00:15 ที่ว่านี้นะคะทำให้ผู้ป่วยโรคไตเนี่ยเสีย
00:00:15 → 00:00:18 ค่าใช้จ่ายในการดูแลตัวเองสูงรวมไปถึง
00:00:18 → 00:00:21 หญ้านะคะก็รู้สึกแย่ไปด้วยในวันนี้นะคะ
00:00:21 → 00:00:24 เราจะมาพูดถึงเรื่องของโรคไตกันและที่
00:00:24 → 00:00:27 สำคัญนะคะโรคไตเนี่ยมีความสำคัญอย่างมาก
00:00:27 → 00:00:31 โดยที่ทั่วโลกให้ความสำคัญกับภาวะโรคไตจน
00:00:31 → 00:00:35 ถึงกับมีวันโรคไตนะคะเป็นวันโรคตายก็คือ
00:00:35 → 00:00:39 เป็นวันพฤหัสบดีที่ 2 ของเดือนมีนาคมนะคะ
00:00:39 → 00:00:42 ซึ่งตรงนี้ค่ะจะต้องกับวันที่ 10 มีนาคม
00:00:42 → 00:00:44 ของประเทศไทยเราค่ะ
00:00:44 → 00:00:44 [ปรบมือ]
00:00:44 → 00:00:51 [เพลง]
00:00:51 → 00:00:55 อย่างที่ทราบกันดีนะคะว่าโรคไตนะคะเป็น
00:00:55 → 00:00:59 โรคที่มีผลนะคะต่อชีวิตของคนแต่คำถามคือ
00:00:59 → 00:01:02 ว่าโรคๆเนี่ยมาจากอะไรยังไงนะคะเดี๋ยวเรา
00:01:02 → 00:01:05 จะได้ทราบคำตอบเป็นอย่างแน่นอนแล้วมาถึง
00:01:05 → 00:01:08 ว่าใต้เนี่ยมีความสำคัญอย่างไรนะคะไปเป็น
00:01:08 → 00:01:11 อวัยวะที่ไม่ใช่เพียงแค่การกรองนะคะของ
00:01:11 → 00:01:14 เสียออกจากร่างกายแต่ตายนั้นนะคะยังเป็น
00:01:14 → 00:01:17 อวัยวะในการสังเคราะห์นะคะวิตามินนะคะรวม
00:01:17 → 00:01:20 ไปถึงควบคุมสมดุลเกลือแรกของกรดด่างด้วย
00:01:20 → 00:01:24 ดังนั้นค่ะเมื่อเวลาที่ตายมีปัญหานะคะเรา
00:01:24 → 00:01:27 ก็จะเกิดนะคะภาวะต่างๆที่เห็นได้ชัดเช่น
00:01:27 → 00:01:30 นะคะเป็นเรื่องของนิ่วในไตนะคะหรือว่า
00:01:30 → 00:01:33 เป็นเรื่องของการอักเสบอย่างเรื้อรังนะคะ
00:01:33 → 00:01:35 จนภาวะเป็นไปวายนั่นเองค่ะ
00:01:35 → 00:01:41 [เพลง]
00:01:41 → 00:01:46 ค่ะหลายคนมักจะเข้าใจนะคะว่าการกินเค็มทำ
00:01:46 → 00:01:48 ให้เป็นโรคไตนะคะถามว่าเข้าใจผิดเสียที
00:01:48 → 00:01:51 เดียวไหมก็ไม่ถือว่าผิดทั้งหมดค่ะแต่จริง
00:01:51 → 00:01:54 ๆแล้วค่ะไม่ใช่แค่การกินเค็มเท่านั้นนะคะ
00:01:54 → 00:01:57 ที่ทำให้เป็นโรคตายยังมีการกินรสชาติอื่น
00:01:57 → 00:02:00 ก็ทำให้เป็นโรคไตได้เช่นเดียวกันแต่ก่อน
00:02:00 → 00:02:02 นี้โป้ขาเราต้องมาดูก่อนว่าที่ว่ากินเค็ม
00:02:02 → 00:02:05 แล้วทำไมถึงเป็นโรคไตก็คือมาจากเรื่องของ
00:02:05 → 00:02:08 โซเดียมค่ะโซเดียมนะคะจะเป็นแร่ธาตุที่
00:02:08 → 00:02:11 จำเป็นต่อร่างกายค่ะอย่างไรก็ตามนะคะถ้า
00:02:11 → 00:02:13 เรามีโซเดียมอยู่ในร่างกายที่มากเกินควร
00:02:13 → 00:02:16 เนี่ยจะส่งผลต่อการทำงานของไตค่ะทำให้ไต
00:02:16 → 00:02:19 ทำงานหนักมากเกินควรจนกระทั่งหน่วยไตนะคะ
00:02:19 → 00:02:21 ก็คือหน่วยย่อยๆของไตนั้นนะคะเริ่มมี
00:02:21 → 00:02:24 ปัญหาการกรองของไตเริ่มมีปัญหานะคะอาจจะ
00:02:24 → 00:02:28 มีการรั่วค่ะของโปรตีนนะคะออกมานอกท่อ
00:02:28 → 00:02:32 หน่วยไตก็ได้นะคะและที่สำคัญนะคะในเรื่อง
00:02:32 → 00:02:35 ของโซเดียมที่หมอเดาว่าไปนะคะไม่ได้มี
00:02:35 → 00:02:38 อยู่ในของที่เป็นอาหารรสเค็มเท่านั้นนะคะ
00:02:38 → 00:02:41 แต่ยังอยู่ในอาหารอีกหลายชนิดค่ะไม่ว่าจะ
00:02:41 → 00:02:44 เป็นน้ำจิ้มนะคะน้ำพริกนะคะรวมไปถึงซอส
00:02:44 → 00:02:47 ต่างๆด้วยนะคะที่ไม่ใช่แค่ซอสที่มีรสชาติ
00:02:47 → 00:02:50 เค็มเท่านั้นนะคะซอสมะเขือเทศก็มีโซเดียม
00:02:50 → 00:02:53 เยอะไม่แพ้กันนอกจากนี้ในอาหารแปรรูปค่ะ
00:02:53 → 00:02:57 ก็มีโซเดียมเยอะด้วยนะคะเบคอนไส้กรอกลูก
00:02:57 → 00:03:00 ชิ้นต่างๆอันนี้ก็ต้องระวังค่ะก็ก็จะมี
00:03:00 → 00:03:04 การเก็บข้อมูลนะคะพบว่าค่ะคนไทยค่ะมีการ
00:03:04 → 00:03:08 บริโภคโซเดียมมากเกินควรค่ะโดยคำแนะนำของ
00:03:08 → 00:03:10 องค์การอนามัยโลกนั้นเข้าแนะนำอยู่ที่
00:03:10 → 00:03:14 2000 มิลลิกรัมต่อวันในขณะที่พี่ไทยราคา
00:03:14 → 00:03:17 รับประทานกันถึง 3000 6000 มิลลิกรัมต่อ
00:03:17 → 00:03:21 วันก็สูงถึง 2 เท่าเลยทีเดียวนะคะค่ะโรค
00:03:21 → 00:03:24 ไตนะคะเข้าใจกันผิดมาตลอดว่าจะต้องไม่กิน
00:03:24 → 00:03:27 เค็มแล้วจะไม่เป็นโรคไตไม่ใช่แค่เรื่อง
00:03:27 → 00:03:30 ของความเค็มเท่านั้นค่ะเรื่องของอะไรบ้าง
00:03:30 → 00:03:33 ที่เป็นต้นเห็นนะคะของโรคไตอันดับแรกเลย
00:03:33 → 00:03:35 ค่ะคือเรื่องของพันธุกรรมค่ะซึ่ง
00:03:35 → 00:03:37 พันธุกรรมนี้อาจจะเรียนระยะเพราะว่าเรา
00:03:37 → 00:03:40 เลือกไม่ได้ใช่ไหมคะแต่แน่นอนเขาว่าถ้า
00:03:40 → 00:03:43 คุณพ่อคุณแม่เราเนี่ยเป็นโรคไก่ก็มีโอกาส
00:03:43 → 00:03:46 ที่เราจะเป็นนอกจากนี้นะคะเรื่องของการ
00:03:46 → 00:03:50 กินใช่ค่ะรสเค็มรวมไปถึงรสหวานจัดรส
00:03:50 → 00:03:52 เปรี้ยวรสเผ็ดจัดก็มีผลเช่นเดียวกันการ
00:03:52 → 00:03:56 ดื่มน้ำน้อยรวมไปถึงภาวะเพศต่อร่างกายนะ
00:03:56 → 00:03:59 คะที่เรามักจะสะสมความเครียดกันน้ำหนัก
00:03:59 → 00:04:02 เกินภาวะอ้วนออกกำลังกายตรงนี้ก็มีผลทำ
00:04:02 → 00:04:07 ให้เป็นโรคไตได้ค่ะ
00:04:07 → 00:04:09 [เพลง]
00:04:09 → 00:04:13 ค่ะสำหรับอาการของโรคไตนั้นเป็นอย่างไร
00:04:13 → 00:04:16 บ้างนะคะต้องบอกเลยเขาว่าอาการของโรคไต
00:04:16 → 00:04:19 ที่น่ากลัวคืออาจจะไม่มีอาการอะไรเลยนะคะ
00:04:19 → 00:04:21 นั่งอยู่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำนะคะว่าเราเนี่ย
00:04:21 → 00:04:24 มีโรคไตเกิดขึ้นแล้วนอกจากว่าไปตรวจเลือด
00:04:24 → 00:04:28 นะคะตรวจดูการทำงานของไตถึงจะรู้แต่ใน
00:04:28 → 00:04:31 กรณีที่เริ่มมีอาการของโรคไตนะคะซึ่งก็
00:04:31 → 00:04:34 เหมือนระเบิดเวลาค่ะเมื่อเวลาที่เราเป็น
00:04:34 → 00:04:37 โรคไตขึ้นมาค่ะจะเริ่มมีอาการอ่อนเพลียนะ
00:04:37 → 00:04:40 คะเบื่ออาหารนะครับปวดศีรษะไม่ทราบสาเหตุ
00:04:40 → 00:04:43 ค่ะนอกจะมีแล้วค่ะบางท่านอาจจะเริ่มมี
00:04:43 → 00:04:46 อาการปวดหลังบริเวณบั้นเอวนะคะต้องบอก
00:04:46 → 00:04:48 ก่อนว่าอาการเหล่านี้อาจจะมาพร้อมกันทั้ง
00:04:48 → 00:04:52 หมดหรือมาอย่างละเล็กเรียงละน้อยก็ได้ที่
00:04:52 → 00:04:54 สำคัญค่ะจะต้องไม่ประมาทเมื่อเราส่งสัย
00:04:54 → 00:04:58 ว่าเราเป็นโรคไตผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการ
00:04:58 → 00:05:02 เกิดโรคไตใครกันบ้างเต็มที่มีโอกาสมีความ
00:05:02 → 00:05:04 เสี่ยงในการเกิดโรคไตค่ะก็เล่นแรกนะคะก็
00:05:04 → 00:05:07 คือเป็นผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคไต
00:05:07 → 00:05:10 เรื้อรังค่ะหากในครอบครัวมีประวัติเป็น
00:05:10 → 00:05:13 โรคไตก็จะเพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคไตมาก
00:05:13 → 00:05:16 ขึ้นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปค่ะเมื่อ
00:05:16 → 00:05:19 เข้าสู่วัยผู้สูงอายุการทำงานของร่างกาย
00:05:19 → 00:05:22 จะค่อยๆถอยลงนะคะทำให้มีความเสี่ยงในการ
00:05:22 → 00:05:25 เกิดโรคต่างๆได้ง่ายขึ้นรวมถึงโรคไตโดย
00:05:25 → 00:05:29 เช่นกันผู้ป่วยโรคเบาหวานค่ะการที่ระดับ
00:05:29 → 00:05:32 น้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติจะส่งผลให้ไตทำ
00:05:32 → 00:05:35 งานหนักมากขึ้นจนเกิดการเสื่อมสภาพผู้
00:05:35 → 00:05:37 ป่วยเบาหวานจึงต้องรักษาระดับน้ำตาลใน
00:05:37 → 00:05:40 เลือดให้เป็นปกติผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอด
00:05:40 → 00:05:43 เลือดระบบไหลเวียนเลือดที่ผิดปกติก็เช่น
00:05:43 → 00:05:46 เดียวกันค่ะอาจส่งผลให้ไตทำงานผิดปกติไป
00:05:46 → 00:05:49 ด้วยจนส่งผลให้เกิดเป็นโรคไตได้ในที่สุด
00:05:49 → 00:05:53 ผู้ป่วยโรคเกาต์เพราะเป็นกลุ่มโรคที่ส่ง
00:05:53 → 00:05:56 ผลต่อการทำงานของไตผลึกเรือยูเรตที่เกิด
00:05:56 → 00:05:59 จากกดหยุดนี้นะคะจะไปสะสมที่เนื้อตายทำ
00:05:59 → 00:06:02 ให้มีการทำถ้าผิดปกติได้โดยเฉพาะกดยูริค
00:06:02 → 00:06:06 เองไปตกตะกอนในท่อไตจะทำให้เกิดไปวาย
00:06:06 → 00:06:09 เฉียบพลันได้ผู้ที่มีภาวะอ้วนนะคะคือคน
00:06:09 → 00:06:13 ที่มีค่าดัชนีมวลกายค่ะ BMI ค่ะตั้งแต่ 30
00:06:13 → 00:06:16 ขึ้นไปซึ่งคนกลุ่มนี้นะคะมีปัจจัยเสี่ยง
00:06:16 → 00:06:19 ต่อการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง
00:06:19 → 00:06:21 มากกว่าคนทั่วไปจึงมีความเสี่ยงต่อการ
00:06:21 → 00:06:24 เกิดโรคไตวายเรื้อรังมากขึ้นด้วยเช่นกัน
00:06:24 → 00:06:27 และผู้ที่สูบบุหรี่เนื่องจากการสูบบุหรี่
00:06:27 → 00:06:30 จะทำให้ร่างกายควบคุมความดันโลหิตได้ยาก
00:06:30 → 00:06:33 เสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงและไตเสื่อม
00:06:33 → 00:06:35 ได้เร็วขึ้น
00:06:35 → 00:06:38 ขอบคุณนะคะสำหรับการรับชมรายการที่เอ็น
00:06:38 → 00:06:42 เฮลธค่ะและอย่าลืมค่ะกด Subscribe กดไลค์
00:06:42 → 00:06:46 กดแชร์ในทุกช่องทางออนไลน์ของ TNN ช่อง 16
00:06:46 → 00:06:49 ค่ะเพื่อที่จะไม่พลาดการรับชมรายการสด
00:06:49 → 00:06:55 คลิปวีดีโอที่น่าสนใจของทางเคียร์นะคะอ่ะ