00:00:02 → 00:00:04 5 ขั้นตอน ลดน้ําหนัก สําหรับผู้สูงอายุนะครับ
00:00:04 → 00:00:07 พูดง่าย ๆ เลยนะครับ คลิปนี้ใครอายุเริ่มเลข 3 ขึ้นไปนะครับ
00:00:07 → 00:00:10 จนถึงอายุ 80 ปี ใช้เทคนิคในคลิปนี้ได้นะครับ
00:00:10 → 00:00:14 หรือใครที่มีคุณพ่อคุณแม่นะครับ อายุเริ่มเยอะแล้ว อยากให้ท่านดูแลสุขภาพ
00:00:14 → 00:00:15 แชร์คลิปนี้ให้ท่านดูได้เลย
00:00:15 → 00:00:16 สวัสดีครับผมหมอหนึ่ง healthy hero นะครับ
00:00:16 → 00:00:20 ลดน้ําหนักครั้งสุดท้ายในชีวิต คิดถึงหมอหนึ่ง healthy hero นะครับ
00:00:20 → 00:00:23 อันนี้หลาย ๆ คนถามว่า หมอหนึ่งคะ ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่อายุเยอะแล้ว
00:00:23 → 00:00:26 อยากลดน้ําหนัก หรือบางคนอายุเริ่มเยอะละ
00:00:26 → 00:00:28 ให้ออกกําลังกายหนักหนักทําไม่ไหวแล้ว
00:00:28 → 00:00:31 ก็ไม่รู้จะเริ่มยังไง แต่อยากกลับไปสุขภาพดี
00:00:31 → 00:00:35 เพราะเอาจริง ๆ แล้วเนี่ย ใครที่ทํางานแล้วไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเองนะครับ
00:00:35 → 00:00:38 หมอหนึ่งเข้าใจเลยนะ เพราะแต่ก่อนเนี่ย หมอหนึ่งก็ทํางานแบบนั้นเหมือนกันนะครับ
00:00:38 → 00:00:40 จัดสรรเวลาค่อนข้างยากนะครับ คนที่เป็นหมอ เป็นพยาบาล
00:00:40 → 00:00:43 ก็ไม่น่าจะต่างจากทุกคนที่นั่งฟังหมอหนึ่งอยู่ตอนนี้เท่าไรนะครับ
00:00:43 → 00:00:47 แต่เนื่องจากร่างกายของเรามันคือเครื่องจักรในการหาเงินถูกไหม
00:00:47 → 00:00:52 เพราะฉะนั้นสุดท้ายแล้วเนี่ย พอเราหาเงินได้เยอะ ๆ แต่สุขภาพเราไม่ดี มันไม่มีประโยชน์เลย
00:00:52 → 00:00:54 เพราะฉะนั้นฟังคลิปนี้ให้จบ แล้วลองเอาไปปรับใช้นะครับ
00:00:54 → 00:00:57 นักเรียนในกลุ่มของหมอหนึ่งเกือบ 20000 คน อายุก็ไม่ได้น้อยนะครับ
00:00:57 → 00:01:00 ก็ 30 กว่าอย่างนี้แหละ จนถึง 80 ปีเลย
00:01:00 → 00:01:02 เขาใช้เทคนิคในคลิปนี้ ลดได้เหมือนกันนะครับ
00:01:02 → 00:01:06 คราวนี้มาดูกันนะว่า 5 ขั้นตอนนั้น มีอะไรบ้าง
00:01:06 → 00:01:08 อย่างที่บอกนะครับ อายุเริ่มเยอะแล้ว
00:01:08 → 00:01:10 จะให้มาออกกําลังกายหนัก ๆ ไม่น่าจะไหวนะครับ
00:01:10 → 00:01:13 หรือบางคนน้ําหนักตัวเยอะแล้ว เพราะสะสมไขมันมานาน
00:01:13 → 00:01:15 ออกกําลังกายหนัก ๆ ก็ไม่น่าไหวอีกเหมือนกัน
00:01:15 → 00:01:18 เพราะฉะนั้นจริง ๆ แล้ว เราจะเริ่มปรับจากอาหารก่อน
00:01:18 → 00:01:20 คนเราไม่ได้อ้วนเพราะว่าไม่ได้ออกกําลังกายนะ
00:01:20 → 00:01:23 คุณเคยเห็นไหมบางคนไม่เคยออกกําลังกายเลย แต่ไม่อ้วน
00:01:23 → 00:01:26 เพราะอะไร เพราะว่า อาหารเขาเนี่ย ไม่ได้ทําให้ร่างกายเขาอ้วน
00:01:26 → 00:01:30 แต่บางคนที่เขาออกกำลังกายหนัก แต่ยังอ้วนอยู่อีก
00:01:30 → 00:01:31 เพราะอาหารเขาไม่ถูกต้อง
00:01:31 → 00:01:33 คนเราอ้วนเพราะอาหาร ต้องแก้ที่อาหารก่อน
00:01:33 → 00:01:35 ไม่ใช่ไปหาอาหารเสริมอะไรมาทําให้เราผอมลง
00:01:35 → 00:01:37 เพราะมันไม่ได้แก้ที่สาเหตุเนอะ
00:01:37 → 00:01:39 คราวนี้ก่อนที่คุณจะไปผอมลงได้เนี่ย
00:01:39 → 00:01:42 คุณก็ต้องเข้าใจก่อนว่า ระบบพลังงานในร่างกายของคนเรา
00:01:42 → 00:01:44 มันแบ่งออกเป็น 2 อย่าง
00:01:44 → 00:01:47 อาหารที่กินเข้าไปแล้วให้พลังงานจริง ๆ มันมี 3 อย่าง
00:01:47 → 00:01:49 แต่ระบบพลังงานของคนเรามันใช้หลัก ๆ อยู่แค่ 2 อย่าง
00:01:49 → 00:01:51 อาหารที่กินเข้าไปแล้วให้พลังงานมีอะไรบ้าง
00:01:51 → 00:01:58 1 โปรตีน พวกเนื้อสัตว์ นม ไข่ ถั่ว เต้าหู้ เวย์ เทมเป้ พวกนี้เป็นโปรตีน
00:01:58 → 00:02:02 แล้วก็ คาร์โบไฮเดรต หรือที่หลาย ๆ คนชอบเรียกย่อ ๆ ว่าคาร์บ
00:02:02 → 00:02:06 คาร์โบไฮเดรต ก็ได้แก่ พวกน้ําตาล แป้ง ข้าว เส้น เผือก มัน
00:02:06 → 00:02:10 ผักหัว ข้าวโพด เผือก มัน ฟักทอง ผลไม้ พวกนี้นะครับ เป็นคาร์บ
00:02:10 → 00:02:11 นมก็เป็นคาร์บนะ
00:02:11 → 00:02:16 แล้วก็พวกที่เป็น ไขมัน ก็คือพวกไขมัน น้ํามัน ของมันของทอด ทั้งหลาย
00:02:16 → 00:02:17 พวกนี้เนี่ย เป็นอาหารที่ให้พลังงาน
00:02:17 → 00:02:20 แต่ร่างกายของคนเราเนี่ย จะใช้พลังงานจาก 2 แหล่งหลัก ๆ คือ
00:02:20 → 00:02:24 คาร์โบไฮเดรต ก็คือแป้งและน้ําตาล กับไขมันเป็นหลัก
00:02:24 → 00:02:27 ซึ่งโปรตีนมันเป็นสารอาหารที่พิเศษนิดนึง
00:02:27 → 00:02:29 คือร่างกายต้องการเอาไว้ซ่อมแซมร่างกาย
00:02:29 → 00:02:33 ถ้ามีแป้งหรือน้ําตาลกับไขมัน มันจะใช้พลังงานจากพวกนี้ก่อนนะครับ
00:02:33 → 00:02:36 เพราะฉะนั้นโปรตีนจะไม่ได้ใช้เป็นพลังงานหลัก
00:02:36 → 00:02:37 แต่ใช้ซ่อมแซมร่างกายเป็นหลัก
00:02:37 → 00:02:39 อันนี้ถามว่า แป้ง น้ําตาล กับไขมัน
00:02:39 → 00:02:43 ถ้าร่างกายมีแป้งกับน้ําตาล มันก็จะใช้แป้งกับน้ําตาลก่อนนะครับ
00:02:43 → 00:02:46 เพราะฉะนั้นหลายคนเข้าใจว่ากินของมันของทอดแล้วอ้วนเนี่ย
00:02:46 → 00:02:48 30-40 ปีที่แล้ว เขาเชื่อแบบนั้น
00:02:48 → 00:02:51 เพราะเขาเชื่อในทฤษฎีเกี่ยวกับเรื่องของระบบพลังงานที่เป็นแคลอรี
00:02:51 → 00:02:55 เพราะไขมันเทียบใน 1 กรัม มันให้พลังงาน 9 กิโลแคลอรี่
00:02:55 → 00:02:58 แต่โปรตีนกับคาร์โบไฮเดรตมันให้แค่ 4 กิโลแคลอรี่
00:02:58 → 00:03:00 30-40 ปีที่แล้ว เราเลยเชื่อว่า
00:03:00 → 00:03:03 การที่เราอ้วนมันเกิดจากการกินไขมันเยอะ
00:03:03 → 00:03:04 แต่ในปัจจุบันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว
00:03:04 → 00:03:08 เพราะเรารู้ว่า สารอาหารแต่ละชนิดเนี่ย มันไม่ได้ให้พลังงานอย่างเดียว
00:03:08 → 00:03:10 แต่มันส่งผลกับฮอร์โมนในร่างกายเราด้วย
00:03:10 → 00:03:15 ซึ่งพวกที่เป็นน้ําตาลกับแป้ง เวลากินเข้าไปปั๊บเนี่ย มันจะกระตุ้นฮอร์โมนในร่างกาย
00:03:15 → 00:03:18 ให้ฮอร์โมนในร่างกายของเราพยายามจะต้องเอาน้ําตาลพวกนี้ไปเก็บ
00:03:18 → 00:03:20 คุณลองนึกภาพว่าถ้าคุณกินน้ําตาลเข้าไปเยอะ ๆ
00:03:20 → 00:03:24 เช้าดื่มกาแฟหวาน ๆ ช็อกโกแลตหวาน ๆ มีขนมอีก 1 ชิ้น
00:03:24 → 00:03:26 ไม่กินข้าวนะครับ มื้อเช้ากินแบบนี้เลย
00:03:26 → 00:03:30 เสร็จปั๊บ โห รู้สึกดีมากนะครับ หลังกินเข้าไปครึ่งชั่วโมง เพราะอะไร น้ําตาลในเลือดสูง
00:03:30 → 00:03:32 ปรู๊ดเลย คุณรู้สึกดี โอ้โห สมองมีน้ําตาลใช้
00:03:32 → 00:03:37 แต่ถ้าร่างกายไม่จัดการกับน้ําตาลเหล่านั้น คุณจะเป็นเบาหวานเลยนะ
00:03:37 → 00:03:40 เพราะน้ําตาลในเลือดคุณมันสูงแล้วไง มันสูงกว่าที่ร่างกายต้องการใช้อ่ะ
00:03:40 → 00:03:42 มันก็เลยพยายามเอาน้ําตาลเหล่านั้นไปเก็บ
00:03:42 → 00:03:45 แต่หมอหนึ่งบอกไปแล้วว่าคนที่อ้วนส่วนใหญ่เพราะกินน้ําตาลเยอะ
00:03:45 → 00:03:48 พอมันเก็บไม่พอ ไม่รู้จะเก็บในรูปอะไร มันก็ไปเก็บในรูปของไขมัน
00:03:48 → 00:03:49 ซึ่งมันเก็บได้ไม่จํากัด
00:03:49 → 00:03:52 นี่เลยเป็นเหตุผลว่า ทําไมบางคนน้ําหนักขึ้นถึง 100 กว่ากิโลได้เลย
00:03:52 → 00:03:55 เพราะมันเอาน้ําตาลเหล่านั้นไปเก็บเป็นไขมันได้ไม่จํากัดเลย
00:03:55 → 00:04:00 ดังนั้นถามว่าข้อที่ 1 ถ้าอายุเริ่มเยอะแล้ว ออกกําลังกายหนัก ๆ ไม่ไหว
00:04:00 → 00:04:02 อยากผอม ปรับอาหาร ปรับอะไรดีครับ
00:04:02 → 00:04:04 ไม่รู้จะทําอะไรทําข้อนี้ก่อนเลย
00:04:04 → 00:04:06 ให้คุณพ่อคุณแม่คุณทําแบบนี้ก่อนเลยนะครับ
00:04:06 → 00:04:06 คือ
00:04:06 → 00:04:09 งดเครื่องดื่มและขนมที่มีน้ําตาล
00:04:09 → 00:04:11 เครื่องดื่มที่มีน้ําตาลเช่นอะไรบ้าง
00:04:11 → 00:04:14 โอ้โห น้ําอัดลมเนี่ย ตัวดีเลย ในเด็กที่อ้วน ๆ เนี่ย
00:04:14 → 00:04:15 ให้งดน้ําอัดลมไปก่อนเนอะ
00:04:15 → 00:04:19 นมกล่อง นมกล่องพวกนี้ ก็มีน้ําตาลอยู่ในนั้นเหมือนกัน
00:04:19 → 00:04:20 ถ้าเป็นนมโปรตีนสูงยังพอว่า
00:04:20 → 00:04:23 แต่บางอัน โปรตีนก็น้อย น้ําตาลเยอะอีกต่างหากนะครับ
00:04:23 → 00:04:28 ดูดี ๆ น้ําผลไม้ น้ําผลไม้กล่อง ใยอาหารแทบไม่มีเลย มีแต่น้ําตาลอย่างเดียว
00:04:28 → 00:04:33 แล้วก็พวกชาเย็น นมเย็นทั้งหลาย ให้เปลี่ยนมาเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีน้ําตาลคือ น้ําเปล่า
00:04:33 → 00:04:36 บางคนกินกาแฟ ปรับมาเป็นกาแฟดํา
00:04:36 → 00:04:39 แรก ๆ 3 วันที่หมอหนึ่งกินกาแฟดํา บอกเลยว่ามันขมมากเลย
00:04:39 → 00:04:40 เพราะลิ้นเราไม่ชิน
00:04:40 → 00:04:42 แต่พอกินไปได้สามวันลิ้นเราชิน
00:04:42 → 00:04:46 แล้วทุกวันนี้ หมอหนึ่งกลับไปกินพวกมอคค่า กินไม่ได้แล้วนะ มันหวานเกินไปนะครับ
00:04:46 → 00:04:49 เพราะลิ้นเราเริ่มปรับสภาพได้แล้ว เป็นลิ้นที่สุขภาพดี
00:04:49 → 00:04:52 แล้วคนที่กินชา ก็ปรับมาเป็นพวก ชาที่ไม่มีน้ําตาล
00:04:52 → 00:04:55 ชาถุงที่มันเอาไว้ชงน้ําร้อนอะไรอย่างนี้นะครับ
00:04:55 → 00:04:56 พวกนั้นได้หมดเลย
00:04:56 → 00:04:58 พวกนี้จะไม่มีน้ําตาล จะดี
00:04:58 → 00:04:59 ส่วนขนม ถ้าเป็นไปได้
00:04:59 → 00:05:03 ลองไม่ต้องตัดอย่างอื่นเลยนะ ตัดขนมที่มันมีน้ําตาลสูง ๆ ออกไปก่อน
00:05:03 → 00:05:07 พอทําแบบนี้ได้นะครับ ผมบอกเลย ในช่วงสัปดาห์แรก 7 วันแรก
00:05:07 → 00:05:08 คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงเลย
00:05:08 → 00:05:10 ยังไม่ต้องทําอย่างอื่นเลย ทําแค่นี้ก่อนนะครับ
00:05:10 → 00:05:12 บางคนที่น้ําหนักเกิน 100 กิโล ทําแบบนี้ปั๊บ
00:05:12 → 00:05:15 สัปดาห์แรก ลงได้แล้วสองกิโล ยังไม่ได้ปรับอย่างอื่นเลย
00:05:15 → 00:05:16 ออกกําลังกายก็ยังไม่ได้ออก
00:05:16 → 00:05:17 เพราะคนที่น้ําหนักตัวเยอะ
00:05:17 → 00:05:21 ร่างกายมันพยายามจะเอาไขมันออกอยู่แล้ว แค่คุณทําให้ถูกวิธี
00:05:21 → 00:05:24 เริ่มต้นให้ถูกอย่างเท่านั้นเอง โอเคไหมนะครับ นี่ข้อที่ 1 นะ
00:05:24 → 00:05:27 ข้อที่ 2 อะไรบ้างล่ะ ที่เปลี่ยนเป็นน้ําตาลได้เร็ว ๆ
00:05:27 → 00:05:31 คุณจะต้องลดพวกนั้นลงก่อน ไม่ได้บอกว่างดนะ ให้ลดลงก่อน
00:05:31 → 00:05:32 อะไรบ้าง พวกกลุ่มแป้งนั่นเอง
00:05:32 → 00:05:36 แป้งเนี่ย เวลาคุณกินเข้าไปในร่างกาย
00:05:36 → 00:05:37 มันจะถูกย่อยไปเป็นน้ําตาล
00:05:37 → 00:05:40 เมื่อคุณกินแป้งเข้าไปแล้วถูกย่อยเป็นน้ําตาล
00:05:40 → 00:05:43 แป้งอะไรที่ย่อยเป็นน้ําตาลได้เร็ว จะทําให้น้ําตาลในเลือดคุณสูงเร็ว
00:05:43 → 00:05:44 แล้วคุณก็จะอ้วนง่าย
00:05:44 → 00:05:50 เพราะฉะนั้นแป้งที่มีสีขาว ข้าวขาว ข้าวเหนียว ขนมปังขาวทั้งหลายนะครับ
00:05:50 → 00:05:55 พวกนี้กินเข้าไปเนี่ย น้ําตาลสูงปรี๊ดทันที เพราะมันไม่มีตัวชะลอ
00:05:55 → 00:05:57 คําว่าตัวชะลอคืออะไร
00:05:57 → 00:06:00 ตัวชะลอให้น้ําตาลของคุณถูกดูดซึมช้าลงเนี่ย มันคือ ใยอาหาร
00:06:00 → 00:06:02 เพราะฉะนั้นหลายคนอาจจะเคยได้ยินว่า
00:06:02 → 00:06:05 คนอยากลดน้ําหนักเนี่ย ให้ปรับจากการกินข้าวขาวไปกินข้าวกล้อง
00:06:05 → 00:06:06 ทําไมข้าวกล้องถึงดีกว่า
00:06:06 → 00:06:10 เพราะ 2 อันนี้ ข้าวสองอย่างนี้ ย่อยแล้วเป็นน้ําตาลเหมือนกันนะครับ
00:06:10 → 00:06:13 แต่ข้าวกล้องย่อยเป็นน้ําตาลแล้วดูดซึมได้ช้ากว่า
00:06:13 → 00:06:16 เพราะตรงเปลือก พวกนี้ มันมีใยอาหารอยู่
00:06:16 → 00:06:17 โอเคไหม
00:06:17 → 00:06:20 หรือวิธีแก้ง่าย ๆ บางคนบอกไม่มีข้าวกล้องค่ะ ไม่ชอบกินข้าวกล้อง
00:06:20 → 00:06:22 คุณกินข้าวขาวได้ แต่คุณต้องเพิ่มใยอาหารลงไป
00:06:22 → 00:06:24 ซึ่งมันก็คือพวกผักใบนั่นเอง
00:06:24 → 00:06:27 พวกผักใบเนี่ย จะช่วยให้ชะลอการดูดซึมของน้ําตาลได้
00:06:27 → 00:06:29 ก็จะทําให้คุณเนี่ย ไม่ค่อยอ้วน
00:06:29 → 00:06:32 เมื่อคุณกินข้าว แล้วคุณกินผักร่วมด้วย โอเคไหม
00:06:32 → 00:06:35 อันนี้คือข้อที่ 2 สังเกตนะครับ 2 ข้อ ยังไม่มีออกกําลังกายเลยนะครับ
00:06:35 → 00:06:37 ง่ายไหม ง่าย ไม่ยากหรอกนะครับ
00:06:37 → 00:06:39 ข้อถัดไป ข้อที่ 3
00:06:39 → 00:06:42 บางคนบอกว่า คุณหมอคะ ถ้าลดน้ําตาล ลดเครื่องดื่มที่มีน้ําตาล
00:06:42 → 00:06:46 ลดพวกข้าว พวกแป้งลง แล้วอย่างนี้ มันจะไม่หิวหรอคะ
00:06:46 → 00:06:49 จําหมอหนึ่งไว้เลยนะครับ คุณไม่มีทางกินแป้งจนอิ่มได้
00:06:49 → 00:06:51 สิ่งที่ทําให้คุณกินแล้วอิ่มได้ มีอยู่ 2 อย่าง
00:06:51 → 00:06:53 1 โปรตีน 2 ผัก
00:06:53 → 00:06:55 แต่ผักเราพูดไปแล้ว ในข้อที่ 2 ถูกไหม
00:06:55 → 00:06:57 ข้อที่ 3 คุณต้องกินโปรตีนให้เพียงพอ
00:06:57 → 00:06:58 โปรตีนได้แก่อะไรบ้าง
00:06:58 → 00:07:01 เนื้อสัตว์ เนื้อสัตว์ได้หมดเลยนะครับ
00:07:01 → 00:07:03 บางคนจะกินชาบู ก็กินเลยนะครับ
00:07:03 → 00:07:07 ชาบูก็เป็นเนื้อหมูถูกไหม หรือบางคนก็ชอบกินไก่ ก็ไก่ก็ได้
00:07:07 → 00:07:10 ก็คุณจะสลับกินเนื้อแดงเนื้อขาวไม่ว่ากันนะครับนะ
00:07:10 → 00:07:14 ไก่ ปลา อาหารทะเล ได้หมดเลย อันนี้คือหมวดเนื้อสัตว์
00:07:14 → 00:07:17 นม ไข่ ไข่นี้ก็กินได้นะ อย่าไปกลัวคอเลสเตอรอลสูง
00:07:17 → 00:07:20 สมัยนี้ปัจจุบัน งานวิจัยออกมาเยอะแยะมากว่า
00:07:20 → 00:07:21 ไข่ไม่ได้ทําให้คอเลสเตอรอลสูง
00:07:21 → 00:07:23 เพราะร่างกายของคุณ 70 เปอร์เซ็นต์ สร้างคอเลสเตอรอลเอง
00:07:23 → 00:07:27 แต่คอเลสเตอรอลนั้นจะดีหรือไม่ดี มันอยู่ที่องค์ประกอบอื่น ๆ ในร่างกายของคุณด้วย
00:07:27 → 00:07:29 ว่าหลอดเลือดของคุณมันอักเสบง่ายไหมนะครับ
00:07:29 → 00:07:31 คุณกินน้ําตาลจนทําให้หลอดเลือดคุณอักเสบหรือเปล่า
00:07:31 → 00:07:34 คุณมีอนุมูลอิสระในร่างกายเยอะไหมนะครับ
00:07:34 → 00:07:35 มันมีปัจจัยหลายอย่างมาก
00:07:35 → 00:07:39 ไม่ใช่กินไข่แล้วจะทําให้คอเลสเตอรอลสูงและหลอดเลือดอุดตันนะครับ
00:07:39 → 00:07:41 เดี๋ยวนี้เราไม่ได้เชื่อแบบนั้นแล้วนะครับ
00:07:41 → 00:07:43 แล้วก็มีอะไรอีก พวกโปรตีนที่ได้จากพืช
00:07:43 → 00:07:48 ก็มีพวกเต้าหู้ เทมเป้ พวกธัญพืชทั้งหลายนะครับ ได้หมดเลย
00:07:48 → 00:07:49 พวกนี้มีใยอาหารด้วย
00:07:49 → 00:07:54 ถ้าเทียบกับข้าวขาว หรือพวกขนมปังขาว พวกธัญพืชแบบนี้ก็จะดีกว่า
00:07:54 → 00:07:55 โอเคไหม เป็นโปรตีนที่ดี
00:07:55 → 00:07:57 หรือใครที่น้ําหนักตัวเยอะ อาจจะทานพวกเวย์โปรตีนก็ได้
00:07:57 → 00:08:00 แต่ให้เลือกแบบไม่มีน้ําตาลนะครับ
00:08:00 → 00:08:03 ไม่มีน้ําตาล ไม่มีไขมัน เป็นโปรตีนล้วน ๆ อย่างนั้นก็ได้เหมือนกัน
00:08:03 → 00:08:05 แต่สําหรับใครที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ
00:08:05 → 00:08:08 เช่น เป็นโรคไต การกรองของไตไม่ค่อยดี มีโปรตีนรั่วในปัสสาวะ
00:08:08 → 00:08:10 ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งนะครับ
00:08:10 → 00:08:13 ว่าจะปรับโปรตีนยังไงดีนะครับ
00:08:13 → 00:08:16 เพราะว่าถ้าไตคุณมีปัญหาอยู่เดิมมันจะกรองโปรตีนได้ไม่ดี
00:08:16 → 00:08:18 ต้องปรับปริมาณโปรตีนลดลง
00:08:18 → 00:08:22 แต่คนที่สุขภาพปกติ คุณไม่ต้องกลัวนะครับ ว่ากินโปรตีนแล้วจะไตเสื่อมไหม
00:08:22 → 00:08:23 ไม่เกี่ยวนะครับ
00:08:23 → 00:08:25 กินโปรตีน ไม่ได้ทําให้ไตเสื่อม
00:08:25 → 00:08:28 แต่คนที่ไตเสื่อมอยู่เดิมจากสาเหตุอื่นที่เป็นโรคประจำตัว
00:08:28 → 00:08:30 ต้องระวังการกินโปรตีน โอเคไหม
00:08:30 → 00:08:31 ไม่เหมือนกันนะครับ
00:08:31 → 00:08:33 3 ข้อที่พูดมา ออกกําลังกายหรือยัง
00:08:33 → 00:08:35 ยังเลยนะครับ ข้อที่ 4
00:08:35 → 00:08:38 ถ้าเป็นไปได้ หมอหนึ่งใช้คําว่า ถ้าเป็นไปได้ ให้กินตามนาฬิกาชีวิต
00:08:38 → 00:08:40 คําว่ากินตาม นาฬิกาชีวิต คืออะไร
00:08:40 → 00:08:43 คุณตื่นเช้ามาคุณก็อาจจะกินสัก 8 โมง
00:08:43 → 00:08:44 กินเที่ยง
00:08:44 → 00:08:47 แล้วพอเย็น พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน ก็กินข้าวก่อน
00:08:47 → 00:08:51 หลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว ส่วนใหญ่ร่างกายของคนเราไม่ค่อยได้ใช้พลังงาน
00:08:51 → 00:08:54 พอไม่ได้ใช้พลังงาน คุณกินไปมันก็เอาไปสะสม
00:08:54 → 00:08:57 เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ ให้กินก่อนพระอาทิตย์ตกดิน
00:08:57 → 00:08:59 แล้วหลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว กินแต่น้ําเปล่า
00:08:59 → 00:09:03 แบบนี้ ก็จะทําให้ร่างกายของคุณ มีช่วงเวลาของการหยุดทานที่นาน
00:09:03 → 00:09:06 ลองนึกภาพนะครับ ถ้าคุณกินตอน 5 โมงเย็นเป็นมื้อสุดท้าย
00:09:06 → 00:09:10 แล้วระหว่าง 5 โมงเย็นไปจนถึง 8 โมงเช้าอีกวันหนึ่งคุณไม่ได้กินเลย
00:09:10 → 00:09:11 ร่างกายมันเอาพลังงานที่ไหนมาใช้
00:09:11 → 00:09:14 มันไปเอาพลังงานที่สะสมอยู่อ่ะมาใช้
00:09:14 → 00:09:16 พูดง่าย ๆ คือเอาไขมันสะสมของคุณมาใช้
00:09:16 → 00:09:20 แต่ถามว่าช่วงเวลาของการหยุดทานที่เหมาะสม คือกี่ชั่วโมง
00:09:20 → 00:09:22 ร่างกายถึงจะใช้ไขมันสะสมได้ดีนะครับ
00:09:22 → 00:09:24 ตามงานวิจัยบอกเลยว่า ตั้งแต่ 12 ชั่วโมงเป็นต้นไป
00:09:24 → 00:09:27 ดังนั้นถ้าสมมุติว่า อยากจะเริ่มต้น
00:09:27 → 00:09:29 ถ้าคุณกินมื้อเช้าตอน 8 โมงเช้า
00:09:29 → 00:09:31 คุณก็ควรจะหยุดกินก่อน 2 ทุ่ม
00:09:31 → 00:09:33 เอาแบบง่ายที่สุดเลยนะครับ เพราะอะไร เพราะว่า
00:09:33 → 00:09:37 ตั้งแต่ 2 ทุ่มเป็นต้นไป จนถึง 8 โมงเช้าอีกวันนึง 12 ชั่วโมงนั้น
00:09:37 → 00:09:38 ร่างกายจะได้ใช้ไขมันได้เต็มที่
00:09:38 → 00:09:41 แต่แต่ก่อน บางคนกินตั้งแต่ 8 โมงเช้ายันเที่ยงคืนเลย
00:09:41 → 00:09:45 ช่วงเวลาของการใช้ไขมันมีแค่ตอนนอน 8 ชั่วโมง มันเลยไม่เพียงพอ
00:09:45 → 00:09:47 ซึ่งนี่คือพื้นฐานของการทํา Intermittent Fasting
00:09:47 → 00:09:49 หรือการทํา IF นั่นเอง
00:09:49 → 00:09:51 ไปศึกษาในช่องของหมอหนึ่งต่อได้นะครับว่า
00:09:51 → 00:09:53 การทํา IF คืออะไร
00:09:53 → 00:09:55 หรือใครที่อยู่ในกลุ่มลดน้ําหนัก VIP
00:09:55 → 00:09:58 ไปทบทวนได้ในบทที่ 12 13 14 โอเคไหมนะครับ
00:09:58 → 00:10:00 ส่วนใครที่ทํางานไม่เป็นเวลานะครับ
00:10:00 → 00:10:05 ก็พยายามให้มีช่วงของการหยุดทานในหนึ่งวัน ให้ได้มากกว่า 12 ชั่วโมง
00:10:05 → 00:10:09 โดยที่การกินแต่ละมื้อของแต่ละวันก็อาจจะไม่เหมือนกันก็ได้ ก็ไม่ว่ากันนะครับ
00:10:09 → 00:10:12 แต่อย่างต่ำ ให้มีช่วงเวลาหยุดทาน อย่างน้อย 12 ชั่วโมง
00:10:12 → 00:10:13 จะได้ใช้ไขมันได้ดีนะครับ
00:10:13 → 00:10:16 4 ข้อที่พูดมา ยังไม่ได้ออกกําลังกายเลยนะครับ
00:10:16 → 00:10:18 ข้อที่ 5 เราจะมาเริ่มออกกําลังกายกันนะครับ
00:10:18 → 00:10:21 แต่ ... คุณต้องลบความเชื่อเก่า ๆ ทิ้งไปก่อน
00:10:21 → 00:10:25 บางคนบอกว่า อยากลดน้ําหนักต้องออกกําลังกาย 45 นาทีต่อวัน
00:10:25 → 00:10:27 5 วันต่อสัปดาห์ แค่คิดเป็นไง
00:10:27 → 00:10:30 เหนื่อยแล้ว ขนาดคนที่น้ําหนักไม่เยอะ คิดยังเหนื่อยเลย
00:10:30 → 00:10:34 บางคนที่น้ําหนักตัวเยอะหรืออายุเยอะ จะไม่เหนื่อยได้ยังไง ถูกไหม
00:10:34 → 00:10:36 ถ้ามันเหนื่อยตั้งแต่ในความคิดแล้ว มันไม่ได้ลงมือทําหรอก
00:10:36 → 00:10:38 เพราะฉะนั้นหมอหนึ่งบอกเลยว่า
00:10:38 → 00:10:40 จากประสบการณ์ที่ผมลดน้ําหนักเอง
00:10:40 → 00:10:41 ลดน้ําหนักให้คนในครอบครัว
00:10:41 → 00:10:44 ลดน้ําหนักให้นักเรียนมาเกือบ 20000 คนแล้วเนี่ย
00:10:44 → 00:10:47 คนที่เริ่มต้นลดน้ําหนัก เขาออกกําลังกายแค่ 10-15 นาทีเท่านั้นแหละ
00:10:47 → 00:10:49 เพื่อให้ระบบเผาผลาญมันได้ตื่นตัว
00:10:49 → 00:10:52 แต่คุณจะผอมหรือไม่ผอมมันขึ้นอยู่กับ คุณกินอะไรเข้าไป
00:10:52 → 00:10:55 คุณกินตาม 4 ข้อที่หมอหนึ่งพูดมาก่อนหรือเปล่า
00:10:55 → 00:10:57 แต่ก่อนบางคนออกกําลังกายวันละชั่วโมง 2 ชั่วโมง
00:10:57 → 00:10:59 แทบว่าจะใช้ชีวิตอยู่ในยิมแล้ว แต่ไม่เห็นผอมเลย
00:10:59 → 00:11:02 เพราะ ออกไปเถอะ ใช้แต่น้ําตาลกับแป้ง ไม่ได้ใช้ไขมันเลย
00:11:02 → 00:11:04 แต่ถ้าคุณทํา 4 ข้อที่หมอหนึ่งพูดมา
00:11:04 → 00:11:06 คุณให้คุณพ่อคุณแม่คุณทํา 4 ข้อที่หมอหนึ่งพูดมา
00:11:06 → 00:11:09 แล้วไปออกกําลังกายแค่ 10-15 นาทีนะครับ
00:11:09 → 00:11:11 คุณจะลดน้ําหนักได้ โอเคไหม
00:11:11 → 00:11:14 1 สัปดาห์ 2 สัปดาห์ คุณจะเริ่มเห็นผลนะครับเนอะ
00:11:14 → 00:11:16 ก็อยากให้ทุกคนได้เอาความรู้ตรงนี้ไปดูแลตัวเอง
00:11:16 → 00:11:19 แล้วก็ไปดูแลสุขภาพของคนในครอบครัวนะครับ
00:11:19 → 00:11:21 มีเงินทองมากมาย แต่สุดท้ายถ้าสุขภาพไม่ดี
00:11:21 → 00:11:23 ไม่ได้ใช้มัน จะไม่มีประโยชน์เลยนะครับ
00:11:23 → 00:11:25 หรือใครที่เป็นเสาหลักครอบครัวนะครับ สําคัญมาก ๆ
00:11:25 → 00:11:29 สุขภาพของคุณสําคัญกับคนในครอบครัวของคุณมาก ๆ นะครับ
00:11:29 → 00:11:30 ถ้าชอบคลิปดี ๆ แบบนี้ก็อย่าลืม
00:11:30 → 00:11:32 กดหัวใจ แล้วก็กดติดตามหมอหนึ่งไว้นะครับ
00:11:32 → 00:11:34 หรือใครที่อยากให้หมอหนึ่งช่วยนะครับ
00:11:34 → 00:11:37 อยากรู้ว่าน้ําหนักเท่านี้ ต้องลดน้ําหนักยังไงนะครับ
00:11:37 → 00:11:39 ก็หมอหนึ่งมีกลุ่มเรียน ตอนนี้ยังเปิดกลุ่มเรียนอยู่นะครับ
00:11:39 → 00:11:41 แต่ละบท ก็จะบอกเลยว่า แต่ละวันคุณต้องทําอะไรบ้าง
00:11:41 → 00:11:42 ก็ไปดูรายละเอียดได้ในคอมเมนต์ หรือว่า
00:11:42 → 00:11:46 สามารถดูรายละเอียดได้ในคลิปที่อยู่ท้ายคลิปนี้นะครับ ถ้าใครดูจาก youtube
00:11:46 → 00:11:49 แต่ถ้าใครดูจาก facebook หรือว่า tiktok นะครับ
00:11:49 → 00:11:50 ก็แอด line หมอหนึ่งไว้ก็ได้นะครับ
00:11:50 → 00:12:01 LINE : @healthyhero