00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับผมรอยชุนพงทองวันนี้มีเรื่อง
00:00:03 → 00:00:07 ที่สำคัญมากทุกครั้งที่ผมแนะนำว่าควรจะ
00:00:07 → 00:00:11 กินอะไรไม่กินอะไรเงี้ยจะมีคนที่ตับกะ
00:00:11 → 00:00:15 ป่วยชอบอ้างว่าจะกินอะไรก็ต้องเดินสาย
00:00:15 → 00:00:18 กลางสายกลางสมัยพพุทธเจ้านั้นเขากินวันละ
00:00:18 → 00:00:22 มื้อเขาไม่กินวันเว้นวันแล้วเขาก็ไม่กิน
00:00:22 → 00:00:26 วันละ 3 มื้อต่อมาสายกลางก็คือกินวันละ 3
00:00:26 → 00:00:30 มื้อแบบที่ตำราแพทย์ทั่วไปเขาแนะนำตั้ง
00:00:30 → 00:00:33 แต่ 40 ปีก่อนปัจจุบันคนไทยหลายคนกินวัน
00:00:33 → 00:00:37 ละ 7 มื้อถ้านับว่าน้ำหวาน 1 แก้วหรือลูก
00:00:37 → 00:00:40 อม 1 เม็ดก็ถือว่าเป็น 1 มื้อคนที่กินแค่
00:00:40 → 00:00:44 3 มื้อก็กลายเป็นคนสุดโต่งไปคนที่กิน 7
00:00:44 → 00:00:48 มื้อก็สุดโต่งเช่นกันเพราะฉะนั้นทางสาย
00:00:48 → 00:00:52 กลางของคนบางคนก็คือกินวันละ 5 มื้อสิ่ง
00:00:52 → 00:00:56 เหล่านี้ผมเรียกว่าตรรกะป่วยเพราะว่ามัน
00:00:56 → 00:01:00 ไม่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงกลางมีแต่มองไปที่คน
00:01:00 → 00:01:03 รอบข้างเห็นซ้ายเห็นขวาแล้วก็บอกว่าตัว
00:01:03 → 00:01:06 เองอยู่ตรงกลางและอันที่ 2 ที่อ้างกันมาก
00:01:06 → 00:01:11 ก็คือกินให้ครบ 5 หมู่แล้วสุขภาพจะดีแต่
00:01:11 → 00:01:14 ขอโทษทีเหอะไอ้ตำราอาหารหลัก 5 หมู่เนี่ย
00:01:14 → 00:01:18 มันสมควรฉีกทิ้งไปนานแล้วแต่ไม่เป็นไรผม
00:01:18 → 00:01:21 ขอฉีกทิ้งวันนี้เลยก็ได้แล้วผมจะมาอธิบาย
00:01:21 → 00:01:26 ในคลิปนี้แล้วก็ขอขอบพระคุณผู้ที่ให้การ
00:01:26 → 00:01:30 สนับสนุนสังเกตได้จากในคอมเมนต์ของของ
00:01:30 → 00:01:33 เค้าจะมีสัญลักษณ์เหล่านี้และผมจะเห็น
00:01:33 → 00:01:36 คอมเมนต์ของเค้าก่อนถ้าเกิดเขามีคำถามผม
00:01:36 → 00:01:40 ก็จะตอบคำถามเหล่านี้และคุณสามารถสมัคร
00:01:40 → 00:01:42 เป็นสมาชิกได้โดยการกดปุ่ม
00:01:42 → 00:01:47 จอยย้อนกลับไปตำราสุขศึกษาเริ่มประมาณ 50
00:01:47 → 00:01:51 ปีก่อนแบ่งอาหารของคนไทยเป็น 5 หมู่แล้ว
00:01:51 → 00:01:55 ก็พยายามอธิบายด้วยเหตุผลต่างๆนานาว่าไอ้
00:01:55 → 00:01:58 5 หมู่นั้นมันมีประโยชน์ที่แตกต่างกัน
00:01:58 → 00:02:02 แล้วควรจะกินให้ครบแต่หลายคนไม่รู้ว่า
00:02:02 → 00:02:06 อาหาร 5 หมู่นั้นมันมีเฉพาะตำราสุขศึกษา
00:02:06 → 00:02:11 ของไทยมันไม่ปรากฏในตำราของประเทศอื่นและ
00:02:11 → 00:02:14 ผมขออนุญาตทบทวนไอ้ 5 หมู่ที่เขียนเอาา
00:02:14 → 00:02:18 ไว้ในตำราดังต่อไปนี้สรุปให้สั้นๆกลุ่ม
00:02:18 → 00:02:23 ที่ 1 ก็คือนมไข่เนื้อสัตว์และถั่วเขาบอก
00:02:23 → 00:02:26 ว่าช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตแข็งแรงช่วย
00:02:26 → 00:02:29 ซ่อมแซมส่วนที่สึกหลอตำราเเขียนอย่างนี้
00:02:29 → 00:02:33 นะครับครับหมู่ที่ 2 ข้าวแป้งน้ำตาลช่วย
00:02:33 → 00:02:38 ให้พลังงานแก่ร่างกายหมู่ที่ 3 ผักต่างๆ
00:02:38 → 00:02:42 เพื่อให้การทำงานของร่างกายเป็นปกติหมู่
00:02:42 → 00:02:45 ที่ 4 ผลไม้ต่างๆให้ประโยชน์เหมือนหมู่
00:02:45 → 00:02:50 ที่ 3 เหมือนผักเลยแล้วก็หมู่สุดท้ายที่
00:02:50 → 00:02:53 ดูเหมือนจะให้กินน้อยก็คือน้ำมันและไขมัน
00:02:53 → 00:02:56 ทั้งจากพืชและสัตว์เขาบอกว่านอกจากช่วย
00:02:56 → 00:03:00 ให้พลังงานเหมือนข้าวแป้งและน้ำตาลแล้ว
00:03:00 → 00:03:03 ยังช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายด้วย
00:03:03 → 00:03:06 เก็แสดงว่าไอ้หมู่ที่ 5 มันมีประโยชน์มาก
00:03:07 → 00:03:08 กว่าหมู่ที่ 2 อ่ะ
00:03:08 → 00:03:13 สิเอาล่ะทีนี้มาดูข้อสอบป 4 สมัยที่ผม
00:03:13 → 00:03:18 เป็นเด็กยุค 2520 อาหารหมู่ใดที่ไม่ให้
00:03:18 → 00:03:22 พลังงานแก่ร่างกายเฉลยหมู่ที่ 1 ไงนมไข่
00:03:23 → 00:03:26 เนื้อสัตว์ถั่วและหมู่ที่ 3 ก็คือผักหมู่
00:03:26 → 00:03:30 ที่ 4 ผลไม้พวกนี้ไม่ให้พลังงานแแก่ร่าง
00:03:30 → 00:03:33 กายเพราะอะไรเพราะตำรามันเขียนเอาไว้แบบ
00:03:33 → 00:03:36 นี้มีแค่ 2 หมู่เท่านั้นที่ให้พลังงานแก่
00:03:36 → 00:03:37 ร่าง
00:03:37 → 00:03:42 กายข้อที่ 2 หมู่อาหารใดที่ให้ความอบอุ่น
00:03:42 → 00:03:44 แก่ร่างกายมีหมู่เดียวเท่านั้นถ้าเกิดคุณ
00:03:44 → 00:03:47 หนาวคุณต้องกินไขมันคุณต้องกินน้ำมันคุณ
00:03:47 → 00:03:50 กินถั่วไม่ได้ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นคุณกิน
00:03:50 → 00:03:54 เนื้อสัตว์แบบกองทัพมองโกลไม่ได้ช่วยให้
00:03:54 → 00:03:57 ร่างกายอบอุ่นในทะเลทรายและย้ำอีกครั้ง
00:03:57 → 00:04:01 นึงตำรามันเขียนเอาาไว้แบบนี้
00:04:01 → 00:04:05 ข้อที่ 3 หมู่อาหารใดที่ช่วยให้ร่างกายทำ
00:04:05 → 00:04:07 งานเป็น
00:04:07 → 00:04:12 ปกติเฉลยหมู่ที่ 3 ผักต่างๆและหมู่ที่ 4
00:04:12 → 00:04:13 ผลไม้ต่าง
00:04:13 → 00:04:18 ๆหมายความว่านมไข่เนื้อสัตว์นั้นไม่ได้
00:04:18 → 00:04:21 ช่วยให้ร่างกายของคุณทำงานเป็นปกติเหมือน
00:04:21 → 00:04:23 กับผักและ
00:04:23 → 00:04:27 ผลไม้เอาล่ะครับทีนี้ครูถามนักเรียนมา
00:04:27 → 00:04:31 เยอะะนักเรียนถามกลับบ้างไอ้แตงกวาฟักทอง
00:04:31 → 00:04:35 เมื่อเขือเทศเนี่ยจัดเป็นผักหรือผลไม้ครู
00:04:35 → 00:04:40 ตอบจำไม่ได้ต้องขอเปิดหนังสือดูรูปสัก
00:04:40 → 00:04:43 หน่อยว่ามันเป็นผลไม้หรือมันเป็นผักไอ้
00:04:43 → 00:04:45 สิ่งเหล่าเนี้ยกลายเป็นว่าคุณต้องท่อง
00:04:45 → 00:04:48 ตลอดโดยที่คุณไม่ต้องเข้าใจเลยเรียกว่า
00:04:48 → 00:04:51 เอาตำราเข้าห้องสอบเนี่ยคุณตอบได้หมดทุก
00:04:51 → 00:04:52 คำ
00:04:53 → 00:04:56 ถามและขอย้ำอีกครั้งนึงว่าสิ่งที่คุณ
00:04:56 → 00:05:00 เรียนมาว่าอาหารมันมี 5 หมู่นะนั้น
00:05:00 → 00:05:04 Thailand ลเฉพาะประเทศไทยเท่านั้นที่
00:05:04 → 00:05:07 เรียนแบบนี้ประเทศอื่นเขาไม่เรียนแบบนี้
00:05:07 → 00:05:11 ทั้งๆที่ผักและผลไม้เนี่ยต่างเป็นคาฟ
00:05:11 → 00:05:14 เหมือนกันแต่จัดให้มันอยู่คนละหมวดจะว่า
00:05:14 → 00:05:17 ไปแล้วแป้งน้ำตาลมันก็เป็นคาฟเหมือนกัน
00:05:17 → 00:05:21 แถมยังบอกว่าผักและผลไม้นั้นไม่ให้พลัง
00:05:21 → 00:05:24 งานแก่ร่างกายอย่างงี้ไอ้สัตว์ที่มันกิน
00:05:24 → 00:05:27 ผักกินผลไม้เป็นอาหารมันก็ไม่มีพลังงาน
00:05:27 → 00:05:30 น่ะสิบอกว่ามันช่วยทำให้ร่างกายทำงานเป็น
00:05:30 → 00:05:33 ปกติเพราะว่าเขาโยงผักผลไม้นั้นไปเกี่ยว
00:05:33 → 00:05:37 ข้องกับไวตามินแล้วก็แร่ธาตุต่างๆทั้งๆ
00:05:37 → 00:05:40 ที่มันเป็นหมวดอาหารมันไม่ใช่หมวดสาร
00:05:40 → 00:05:44 อาหารขณะที่ข้าวแป้งน้ำตาลก็ให้พลังงาน
00:05:44 → 00:05:48 เช่นเดียวกับไขมันคือสมัยก่อนเนี่ยด้วย
00:05:48 → 00:05:52 ความรู้ที่ลิมิตมากของการแพทย์เไม่รู้ว่า
00:05:52 → 00:05:55 ไอ้ข้าวแป้งน้ำตาลเนี่ยมันเป็นคนละพลัง
00:05:55 → 00:05:58 งานกับไขมันเลยเหมือนๆกับรถแท็กซี่ใน
00:05:58 → 00:06:01 กรุงเทพฯที่ใช้น้ำมันก็ได้ที่ใช้แก๊สก็
00:06:01 → 00:06:05 ได้แต่ว่ามันไม่เหมือนกันไอ้ไขมันนั้นมัน
00:06:05 → 00:06:08 ให้พลังงานคีโตขณะที่ข้าวแปรงน้ำตาลนั้น
00:06:08 → 00:06:12 มันให้กลูโคสตับเปลี่ยนมันให้เป็นกลูโคส
00:06:12 → 00:06:15 มันให้พลังงานไม่เหมือนกันและผลออกมาก็
00:06:15 → 00:06:18 ไม่เหมือนกันถ้ากลูโคสหมดเมื่อไหร่มันก็
00:06:18 → 00:06:22 ทำให้คุณหิวเมื่อนั้นขณะที่คนที่ใช้พลัง
00:06:22 → 00:06:25 งานแบบคีโตนั้นจะเกิดภาวะที่เรียกว่า Fat
00:06:25 → 00:06:30 adapted ก็คือหิวช้าอิ่มนานพลังงานจาก 2
00:06:30 → 00:06:34 แหล่งนี้ไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิงแล้วก็
00:06:34 → 00:06:37 ที่บอกว่านมไข่เนื้อสัตว์ถั่วไม่ให้พลัง
00:06:37 → 00:06:40 งานแก่ร่างกายเนี่ยไม่รู้เเอาความคิดนี้
00:06:40 → 00:06:44 มาจากไหนบอกว่ามีหน้าที่ช่วยซ่อมแซมส่วน
00:06:44 → 00:06:47 ที่สึกหลอแล้วก็ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบ
00:06:47 → 00:06:51 โตอย่างงี้ไอ้กองทัพเกงกิสคานที่กินแต่
00:06:51 → 00:06:53 เนื้อสัตว์มันก็ไม่มีพลังงานกันทั้งกอง
00:06:53 → 00:06:57 ทัพอ่ะสิและสุดท้ายน้ำมันและไขมันให้ความ
00:06:57 → 00:07:01 อบอุ่นแก่ร่างกายเพราะเเข้าใจว่าไอ้ไขมัน
00:07:01 → 00:07:05 ที่อยู่ในตัวคุณนั้นมันมาจากน้ำมันหรือไข
00:07:05 → 00:07:08 มันที่กินเข้าไปแต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่ไอ้
00:07:08 → 00:07:11 ไขมันที่อยู่ในตัวคุณเนี่ยส่วนมากเลยหรือ
00:07:11 → 00:07:13 จะว่าทั้งหมดเลยก็ได้ของมนุษย์ปัจจุบัน
00:07:14 → 00:07:17 เนี้ยมันมาจากแป้งและน้ำตาลมันไม่ได้มา
00:07:17 → 00:07:20 จากน้ำมันและไขมันที่คุณกินเข้าไปเอาล่ะ
00:07:20 → 00:07:24 หน้าที่ของอาหารหลักคือความเข้าใจเดิมอ่ะ
00:07:24 → 00:07:28 อาหารหลักนั้นมีหน้าที่ที่ทำให้เซลล์ต่าง
00:07:28 → 00:07:32 ๆในร่างกายกายของเราทำงานเป็นปกติถ้ามัน
00:07:32 → 00:07:36 ทำหน้าที่เจริญเติบโตมันก็เจริญเติบโตทำ
00:07:36 → 00:07:39 หน้าที่ให้พลังงานให้ความอบอุ่นแก่ร่าง
00:07:39 → 00:07:43 กายมันก็ทำหน้าที่นั้นให้เซลล์ของมนุษย์
00:07:43 → 00:07:46 ทำงานเป็นปกตินี่คือหน้าที่หลักเป็นหน้า
00:07:46 → 00:07:51 ที่ที่เราเข้าใจมานานะแต่ต่อมาในยุค 90
00:07:51 → 00:07:55 เราพบว่ามันไม่ใช่มีแค่เซลล์ของร่างกาย
00:07:55 → 00:08:00 แต่ว่ามันมีไมโครไบโอมหรือหรือเชื้อ
00:08:00 → 00:08:03 แบคทีเรียไวรัสที่มันอาศัยอยู่ในร่างกาย
00:08:03 → 00:08:07 และมันเอื้อประโยชน์ต่อเราเราจะต้องให้
00:08:07 → 00:08:10 เชื้อเหล่านี้ได้รับประโยชน์ด้วยมันไม่
00:08:10 → 00:08:14 ใช่เซลล์ของร่างกายก็จริงแต่ว่าเราจะต้อง
00:08:14 → 00:08:17 อยู่ร่วมกับกัแบคทีเรียเชื้อจุลินทรีย์
00:08:17 → 00:08:21 อื่นๆหมายความว่าถ้าเกิดมนุษย์ต่างดาวได้
00:08:21 → 00:08:25 เซลล์ของมนุษย์ไปชิ้นเดียวเนี่ยแล้วโคลน
00:08:25 → 00:08:28 มนุษย์ขึ้นมาใหม่เนี่ยไม่สามารถทำได้
00:08:28 → 00:08:31 เพราะว่ามันไม่มีกั bacteria ไม่มี
00:08:31 → 00:08:35 ไมโครไบโอมที่จะช่วยให้มนุษย์คนนั้นอยู่
00:08:35 → 00:08:39 รอดที่ 3 อันนี้คือล่าสุดเลยหมอที่
00:08:39 → 00:08:43 อายุมากหลายคนก็ไม่รู้สารอาหารหลักยัง
00:08:43 → 00:08:46 ช่วยให้ไมโตคอนเดรียทำงานได้อย่างมี
00:08:46 → 00:08:50 ประสิทธิภาพสูงไมโทคอนเดรียเนี่ยมันเป็น
00:08:50 → 00:08:54 คนละ DNA กับมนุษย์เลยนะถ้า sequence DNA
00:08:54 → 00:08:56 ออกมาเนี่ยมันไม่ใช่มนุษย์มันคือ
00:08:56 → 00:09:00 แบคทีเรียชนิดนึงที่เข้ามาอยู่อยู่ใน
00:09:00 → 00:09:03 สัตว์หลายเซลล์ตั้งแต่พันล้านปีที่แล้ว
00:09:03 → 00:09:06 และมนุษย์ก็ดึงมันเป็นส่วนนึงของเซลล์ไป
00:09:07 → 00:09:10 เลยแล้วมันก็ได้รับประโยชน์จากเซลล์ของ
00:09:10 → 00:09:12 มนุษย์แล้วก็แพร่พันธุ์อยู่ในเซลล์นี่
00:09:12 → 00:09:15 แหละมันสื่อสารกับนิวเคลียสตลอดเวลาว่า
00:09:15 → 00:09:18 มันอยากได้อะไรมันไม่อยากได้อะไรไม่ใช่
00:09:18 → 00:09:20 แบคทีเรียที่แยกออกจากเซลล์นะไม่ใช่
00:09:20 → 00:09:24 แบคทีเรียที่ว่าอยู่ในลำไส้นะเวลาถ่ายก็
00:09:24 → 00:09:27 ถ่ายออกมาไม่ใช่นะครับนี่คือมันเข้ามา
00:09:27 → 00:09:30 อยู่ในเซลล์ของมนุษย์เลยจนกระทั่งเป็น
00:09:30 → 00:09:33 เซลล์เดียวกันไปละมันทำหน้าที่เป็น Power
00:09:33 → 00:09:37 Plant หรือให้พลังงานที่เรียกว่า ATP
00:09:37 → 00:09:40 กับเซลล์ให้เซลล์มีการขยับได้และไอ้
00:09:40 → 00:09:44 ไมโตคอนเดรียนี้ประสิทธิภาพของมันจะลดลง
00:09:44 → 00:09:48 ตามอายุของมนุษย์ปัจจุบันก็ค้นพบว่ามีสาร
00:09:48 → 00:09:52 บางอย่างที่ช่วยให้มันมีประสิทธิภาพสูง
00:09:52 → 00:09:56 ขึ้นโดยการไปเพิ่มอาหารของมัน nad Plus
00:09:56 → 00:09:59 และสารที่ว่านั้นที่เขาตื่นเต้นกันมากใน
00:09:59 → 00:10:01 ขณะนี้ก็คือ
00:10:01 → 00:10:05 nmn เดี๋ยวรายละเอียดนั้นสักคลิปนึงผมจะ
00:10:05 → 00:10:08 มาอธิบายเพราะว่าคนอยากจะรู้เหลือเกินว่า
00:10:08 → 00:10:11 มันเป็นไปได้ยังไงไอ้การย้อนไวเนี่ยเคย
00:10:11 → 00:10:16 ได้ยินแต่ศาสตชะลอไวยและ 4 อื่นๆที่เรา
00:10:16 → 00:10:19 ยังไม่รู้เพราะฉะนั้นหน้าที่ของสารอาหาร
00:10:19 → 00:10:23 หลักมันไม่ใช่แค่ช่วยเซลล์ของมนุษย์เท่า
00:10:23 → 00:10:27 นั้นแต่ว่ามันไปช่วยเซลล์ของแบคทีเรีย
00:10:27 → 00:10:29 แล้วก็ไมโตคอนเดรีย
00:10:29 → 00:10:32 แล้วมีคนถามกันมากเรื่องอาหารเสริมย้อน
00:10:32 → 00:10:35 ไวยโค้ชอย Academy คุณก็ได้ลดลงไปอีก 10%
00:10:35 → 00:10:39 และถามกันมากถึงยาย้อนไวผมเองก็กินก็คือ
00:10:39 → 00:10:43 เม็ดฟอร์มิ 500 มิลลิกรัมซื้อได้จากร้าน
00:10:43 → 00:10:47 ขายยาที่เขาขายส่งส่วนไอ้ยาคือไซรัสคุณ
00:10:47 → 00:10:51 อยากได้จริงๆก็ลองหลังไมค์มาถามเอาล่ะที
00:10:51 → 00:10:54 นี้มาดูการแบ่งหมวดหมู่ที่ถูกต้องอาหาร
00:10:54 → 00:10:57 หลักของมนุษย์อ่ะมันมีแค่ 2 หมู่เท่านั้น
00:10:57 → 00:11:01 ก็คือผลิตภัณฑ์จากสัตว์และผลิตภัณฑ์จาก
00:11:01 → 00:11:05 พืชแล้วพอพูดถึงสัตว์เนี่ยทำไมหลายคนเข้า
00:11:05 → 00:11:08 ใจว่าผมกำลังพูดถึงเนื้อสัตว์ผมบอกว่า
00:11:08 → 00:11:11 สัตว์ผมไม่ได้บอกว่าเนื้อสัตว์ไอ้คำว่า
00:11:11 → 00:11:14 สัตว์นั้นผมหมายถึงไขมันจากสัตว์ผมหมาย
00:11:14 → 00:11:18 ถึงไข่เครื่องในที่เสือเวลามันล่ากวาง
00:11:18 → 00:11:20 เนี่ยมันกินเครื่องในก่อนมันไม่ได้กิน
00:11:20 → 00:11:24 เนื้อกวางก่อนนอกจากนี้ก็หมายถึงนมด้วย
00:11:24 → 00:11:27 ถามจริงๆพวกวีแกนเนี่ยเไม่เคยกินนมกัน
00:11:27 → 00:11:29 หรือไงตอนอายุ 1 เดือน 2 2 เดือนเนี่ย
00:11:29 → 00:11:33 แล้วนมมันเป็นอาหารวนซะที่ไหนมีกลุ่มนึง
00:11:33 → 00:11:37 ที่เขากินแต่สัตว์อย่างเดียวเรียกว่าคนอ
00:11:37 → 00:11:40 Diet คนไทยชอบเรียกว่า CD แลกลุ่มที่ 2
00:11:40 → 00:11:45 ผลิตภัณฑ์จากพืชคือกลุ่มที่วีแกนกินเวลา
00:11:45 → 00:11:48 พูดถึงพืชเนี่ยขอร้องทีงได้มยว่าผมไม่ได้
00:11:48 → 00:11:51 หมายถึงผักผลิตภัณฑ์จากพืชมันมีเยอะแยะ
00:11:52 → 00:11:54 มันไม่ใช่ว่ามีแค่ผักถ้าวีแกนกินแต่ผัก
00:11:54 → 00:11:58 เนี่ยแย่เลยนะจะเป็นโรคเอาเวลาผมพูดถึง
00:11:58 → 00:12:01 ผลิตภัณฑ์จากพืชผมหมายถึงถั่วหมายถึง
00:12:01 → 00:12:06 ธัญพืชผักผลไม้แป้งน้ำตาลและอื่นๆที่มา
00:12:06 → 00:12:10 จากพืชเพราะฉะนั้นไอ้เนี่ยมันเป็นเบสิค
00:12:10 → 00:12:13 ที่สุดที่เราแบ่งหมู่อาหารเป็น 2 กลุ่ม
00:12:13 → 00:12:15 กลุ่มที่มาจากพืชกับกลุ่มที่มาจากสัตว์
00:12:16 → 00:12:19 ถ้าคุณกินข้าวก็ขอให้รู้ว่าข้าวมันมาจาก
00:12:19 → 00:12:22 พืชกินครัวซองก็ขอให้รู้ว่ามันมาจากพืช
00:12:22 → 00:12:25 กินโยเกคีเฟอร์ก็ขอให้รู้ว่ามันมาจาก
00:12:25 → 00:12:30 สัตว์และสังเกตคนที่สนใจรักษาสุขภาพไม่
00:12:30 → 00:12:34 ว่าจะเป็นวีแกนหรือ
00:12:34 → 00:12:37 คาร์นิวอร์นิวอเขาไม่ใช่ตะบี้ตะบันกินแต่
00:12:37 → 00:12:40 เนื้อสัตว์เขากินไขมันเขากินไข่เขากิน
00:12:40 → 00:12:44 เครื่องในกินกุ้งหอยปูปลากินนมกิน
00:12:44 → 00:12:47 โยเกิร์ตกินคีเฟอร์ขณะที่คนที่เป็นวีแกนเ
00:12:47 → 00:12:50 ไม่ใช่ตะบี้ตะบันกินแต่ผักเขากินถั่วเกิน
00:12:50 → 00:12:55 ธัญพืชและผลไม้มันก็เลยทำให้เค้ามีสุขภาพ
00:12:55 → 00:12:59 ที่ไม่เลวแบบคนส่วนมาก
00:12:59 → 00:13:03 ก็แบ่งสารอาหารเป็น 4 หมู่สัตว์ก็แบ่ง
00:13:03 → 00:13:06 เป็น 2 ส่วนก็คือโปรตีนกับไขมันพืชก็เช่น
00:13:06 → 00:13:09 กันส่วนที่เป็นโปรตีนกับส่วนที่เป็นไขมัน
00:13:09 → 00:13:13 หรือน้ำมันและในชาตนี้หลายคนก็ทักท้วงว่า
00:13:13 → 00:13:16 เอ้ยผมลืมสารอาหารที่สำคัญที่สุดของ
00:13:16 → 00:13:17 มนุษย์หรือเปล่า
00:13:17 → 00:13:21 คาร์โบไฮเดรตผมไม่ได้ลืมคาร์โบไฮเดรตนั้น
00:13:21 → 00:13:25 เป็นสารอาหารที่ไม่จำเป็นต่อมนุษย์เลยขอ
00:13:25 → 00:13:29 ย้ำนะไม่จำเป็นเลยคุณไม่ต้องกิน
00:13:29 → 00:13:32 คาร์โบไฮเดรตเลยก็ได้ทั้งชีวิตและมันจะดี
00:13:32 → 00:13:35 กว่าด้วยถ้าไม่มีคาร์โบไฮเดรตเข้าสู่ร่าง
00:13:35 → 00:13:39 กายแต่อย่างไรก็ตามสารอาหารบางอย่างมัน
00:13:39 → 00:13:43 พ่วงมากับคาร์โบไฮเดรตแล้วก็พ่วงมากับ
00:13:43 → 00:13:46 ไฟเบอร์หรือที่เรียกว่าเส้นใยและเช่นกัน
00:13:46 → 00:13:50 เส้นใยก็ไม่ใช่สารอาหารหลักคุณไม่จำเป็น
00:13:50 → 00:13:54 ต้องกินไฟเบอร์เลยก็ได้ทั้งคาร์โบไฮเดรต
00:13:54 → 00:13:57 และไฟเบอร์ผมถือว่าเป็นอาหารเสริมไม่ใช่
00:13:57 → 00:14:01 อาหารหลักคุณไม่จำเป็นต้องกินเลยโดยเฉพาะ
00:14:01 → 00:14:04 คาร์โบไฮเดรตถ้าคุณแยกมันออกไปได้นะจะดี
00:14:04 → 00:14:08 กว่ามากคุณจะไม่เป็นโรคสารภัสโลกอย่างที่
00:14:08 → 00:14:12 คนกินคาร์โบไฮเดรตซึ่งผมหมายถึงแป้งน้ำ
00:14:12 → 00:14:16 ตาลโดยเฉพาะที่ผ่านการขัดสีน้ำผลไม้เนี่ย
00:14:16 → 00:14:20 ไอ้พวกนี้คือยาพิษทั้งนั้นกินทางอ้อมได้
00:14:20 → 00:14:25 อย่าไปกินมันโดยตรงกินผ่านผักผลไม้ธัญพืช
00:14:25 → 00:14:28 ทั้งเมล็ดที่ไม่ผ่านการขัดสีอย่างเงี้ย
00:14:28 → 00:14:31 ถือว่าเราลับมันน้อยอย่างเงี้ยพอได้ไม่
00:14:31 → 00:14:35 ใช่ไปขัดสีซะขาวจั๊วะหรือสกัดให้เป็นน้ำ
00:14:35 → 00:14:39 ตาลออกมาสารอาหารหลักมันมีอยู่แค่นี้เอง 4
00:14:39 → 00:14:42 กลุ่ม 4 หมวดแต่ถ้าพูดอย่างนี้เนี่ยชาว
00:14:42 → 00:14:46 บ้านไม่เข้าใจมันจะต้องทำให้เป็นอาหารที่
00:14:46 → 00:14:49 เป็นรูปธรรมจริงๆว่าหน้าตามันเป็นยังไง
00:14:49 → 00:14:53 ไอ้ 4 หมวดนี้ผมแบ่งเป็น 4 หมวดและแนะนำ
00:14:53 → 00:14:56 ให้คุณกินอย่างสมดุลหมายความว่าแต่ละคน
00:14:56 → 00:14:59 อาจจะไม่เหมือนกันนะบางคนอาจจะต้องต้อง
00:14:59 → 00:15:02 เน้นไอ้สิ่งที่อยู่ข้างบนก็คือผลิตภัณฑ์
00:15:02 → 00:15:05 จากสัตว์เพราะว่าเคต้องการลดความอ้วนเ
00:15:05 → 00:15:08 ต้องการขจัดเบาหวานไอ้แผงบนเนี่ยสำคัญ
00:15:08 → 00:15:11 สำหรับเค้าขณะที่คนที่เา้าไม่มีปัญหา
00:15:11 → 00:15:13 เรื่องน้ำหนักเไม่มีปัญหาเรื่องเบาหวาน
00:15:13 → 00:15:17 เขาคก็ต้องเอาแผงข้างล่างมากกว่าแผงข้าง
00:15:17 → 00:15:22 บนนั้นก็ยังเป็นกลุ่มของคนอหรือ cd และ
00:15:22 → 00:15:24 อีกครั้งนึงเวลาผมพูดถึงผลิตภัณฑ์จาก
00:15:24 → 00:15:27 สัตว์เนี่ยยอย่าไปมองว่าเป็นเนื้อสัตว์
00:15:27 → 00:15:31 ให้คุณมองว่าผมหมายถึงไข่เครื่องในสัตว์
00:15:32 → 00:15:35 เล็กๆกุ้งหอยปูปลาและคุณควรจะกินให้หลาก
00:15:36 → 00:15:39 หลายเหมือนในคลิปเลยใช่ครับผมแต่เอาจริงๆ
00:15:39 → 00:15:42 คือดูแบบใสกิ๊งเลยนะครับอาจารย์พูดถึงสาร
00:15:42 → 00:15:46 อาหารที่มีอยู่ในพืชเนี่ยร่างกายเมัน
00:15:46 → 00:15:49 ต้องการสารอาหารหลากหลายแต่ว่ามันต้องการ
00:15:49 → 00:15:52 แค่นิดเดียวเท่านั้นเองมันไม่ได้ต้องการ
00:15:52 → 00:15:55 เยอะสิ่งเหล่านี้ผมเรียกว่า
00:15:55 → 00:15:58 ไครินคุณควรจะกินให้หลากหลายอย่างละนิด
00:15:58 → 00:16:01 อย่างละหน่อยและสารอาหารที่ดีที่ผมแนะนำ
00:16:01 → 00:16:04 ให้คุณกินทุกวันแต่ว่าไม่ต้องเยอะเนี่ยผม
00:16:04 → 00:16:08 ก็บอกสูตรไว้แล้วให้คุณไปทำเองได้เลยแต่
00:16:08 → 00:16:11 ถ้าเกิดขี้เกียจทำก็ซื้อตามสไลด์ที่เห็น
00:16:11 → 00:16:15 ขณะที่อีกด้านนึงผมเรียกว่าไขมันดีจะเป็น
00:16:15 → 00:16:18 น้ำมันหมูน้ำมันมะพร้าวน้ำมันมะกอกยิ่งดี
00:16:18 → 00:16:21 ใหญ่เลย mct Oil หรือ medium chain
00:16:21 → 00:16:25 ไกินก็ดีเช่นกันและฝั่งเนี้ยผมอยากให้คุณ
00:16:26 → 00:16:30 รวมถึงเนยชีสนมเข้าไปไปด้วยโดยเฉพาะนมที่
00:16:30 → 00:16:33 มีครีมเยอะๆโดยเฉพาะที่ผ่านการหมักข้าง
00:16:33 → 00:16:37 ล่างนั้นไอ้ฝั่งซ้ายก็หมายถึงถั่วซึ่ง
00:16:37 → 00:16:42 หมายถึงทั้งนัและบนนัก็คือถั่วเปลือกแข็ง
00:16:42 → 00:16:45 ส่วนบนเนี่ยก็คือถั่วที่มันอยู่ในฝักถั่ว
00:16:45 → 00:16:49 ที่อยู่ในฝักนั้นโดยตำรับอาหารของคนที่มี
00:16:49 → 00:16:53 อายุยืนเนี่ยเขาจะต้องหมักก่อนบางประเทศ
00:16:53 → 00:16:56 นั้นเขาก็หมักน้ำนี่แหละให้จุลินทรีย์มัน
00:16:56 → 00:16:59 เจริญเติบโตแล้วก็รินน้ำทิ้งทำไปทำมา
00:16:59 → 00:17:02 อย่างงี้สัก 3-4 วันแล้วค่อยเอามากิน
00:17:02 → 00:17:07 อินโดนีเซียเค้าก็ไปทำเทมเป้ก็ไม่ใช่เอา
00:17:07 → 00:17:10 ถั่วพวกนี้มาต้มแล้วก็กินโดยไม่ผ่านการ
00:17:10 → 00:17:13 หมักเพราะมันมีสารบางอย่างที่อาจจะเป็น
00:17:13 → 00:17:18 อันตรายต่อมนุษย์และสุดท้ายผักผลไม้
00:17:18 → 00:17:21 ธัญพืชเป็นสิ่งที่คนไทยกินกันเยอะรองไป
00:17:21 → 00:17:25 จากอาหารขยะซึ่งอยู่ขวาสุดข้าวไข่เจียว
00:17:25 → 00:17:29 อย่างเงี้ยน้ำผลไม้อย่างเงี้ยครัวซองขนม
00:17:29 → 00:17:33 หวานไอ้พวกนี้เป็นขยะทั้งนั้นคุณไม่ควร
00:17:33 → 00:17:34 กิน
00:17:34 → 00:17:38 เลยเอาล่ะสรุปอีกครั้งนึงหมู่ที่ 1 ที่ผม
00:17:38 → 00:17:42 แนะนำให้คุณกินก็คือไข่จะไข่ลวกไข่ต้มก็
00:17:42 → 00:17:46 ได้ไข่เป็ดดีสุดแล้วก็เครื่องในผมแนะนำ
00:17:46 → 00:17:50 ให้กินตับไก่เพราะเป็นของดีราคาถูกสัตว์
00:17:50 → 00:17:54 น้ำกุ้งหอยปูปลาหรือสัตว์ขนาดเล็กที่คุณ
00:17:54 → 00:17:57 สามารถกินได้ทั้งตัวและนี่คือรายการอาหาร
00:17:57 → 00:18:00 ที่คนไทยกินน้อยเกินเกินไปเวลาผมพูดถึง
00:18:01 → 00:18:04 สัตว์เนี่ยอีกครั้งนึงคนมักจะนึกถึงเนื้อ
00:18:04 → 00:18:08 สัตว์ไม่รู้เป็นอะไรถ้าคุณเลือกกินแต่
00:18:08 → 00:18:11 เนื้อสัตว์มันก็จะทำให้คุณท้องผูกแต่ถ้า
00:18:11 → 00:18:13 เกิดคุณกินสัตว์ผลิตภัณฑ์จากสัตว์มันไม่
00:18:14 → 00:18:17 ได้ทำให้คุณท้องผูกกลุ่มที่ 2 ก็คือน้ำ
00:18:17 → 00:18:23 มันไขมันอิ่มตัวเนยชีสครีมนมนมหมักผมหมาย
00:18:23 → 00:18:27 ถึงโยเกิร์ตคีเฟอร์ที่คนรัสเซียเรียกว่า
00:18:27 → 00:18:31 คีฟน้ำมันหมูน้ำมันมะกอกน้ำมันมะพร้าวไอ้
00:18:31 → 00:18:34 ตำราเก่าๆเนี่ยจะบอกว่ามันทำให้คุณอ้วน
00:18:34 → 00:18:37 และทำให้เป็นโรคหัวใจคุณควรฉีกตำราพวก
00:18:37 → 00:18:41 นั้นทิ้งไอ้สิ่งที่ทำให้อ้วนก็คือแป้งและ
00:18:41 → 00:18:44 น้ำตาลไอ้สิ่งที่ทำให้คุณเป็นโรคหัวใจก็
00:18:44 → 00:18:48 คือน้ำมันปาล์มน้ำมันถั่วเหลืองน้ำมันลำ
00:18:48 → 00:18:53 ข้าวน้ำมันที่เขาขายถูกๆในห้างสัสินค้า
00:18:53 → 00:18:57 ใส่ขวดใสๆเนี่ยแล้วไม่เป็นไขอ่ะไอ้พวก
00:18:57 → 00:19:01 นั้นแหละคือสิ่งที่ทำให้เกิดโรคหัว
00:19:01 → 00:19:07 ใจกลุ่มที่ 3 นัและบนรวมถึงผักที่ให้
00:19:07 → 00:19:11 โปรตีนสูงอย่างเช่นผักไชยาคำว่าไชยานี้ก็
00:19:11 → 00:19:15 มาจากคำว่าชยาในภาษาเม็กซิกันเพราะว่า
00:19:15 → 00:19:17 เดิมทีเดียวนั้นผักชนิดนี้มันมีถิ่น
00:19:17 → 00:19:20 กำเนิดมาจากเม็กซิโกคนไทยบางคนก็เรียกว่า
00:19:21 → 00:19:24 คน้าเม็กซิโกก็ได้ตัวเดียวกันรวมถึงใบ
00:19:24 → 00:19:27 หม่อนด้วยก็ให้โปรตีนสูงไอ้ตัวเนี้คนไทย
00:19:27 → 00:19:31 กินน้อยเกินไปนะผมอยากให้กินเยอะๆและสุด
00:19:31 → 00:19:37 ท้ายผักหลากสีและขอย้ำนะว่าผักหลากสีไม่
00:19:37 → 00:19:40 ใช่ผักสีเขียวนะถ้าคุณกินผักสีเขียวอย่าง
00:19:40 → 00:19:43 เดียวแล้วคุณไม่กินแคลเซียมไม่กินไวตามิน
00:19:43 → 00:19:47 ซีให้ไปบานมันเนี่ยคุณอาจจะเป็นนิ่วในไต
00:19:47 → 00:19:51 ได้เวลาคุณกินผักพยายามกินให้มันหลากสี
00:19:51 → 00:19:54 โดยเฉพาะสีม่วงเป็นสีที่หากินยากที่สุด
00:19:54 → 00:19:58 และกลุ่มนี้ก็รวมถึงพวกธัญพืชด้วยธัญพืช
00:19:58 → 00:20:01 เนี่ยคุณคุณพยายามกินทั้งเมล็ดอย่าไปเอา
00:20:01 → 00:20:04 แบบขัดสีจนขาวจั๊วะแม้นแต่ข้าวกล้องเนี่ย
00:20:04 → 00:20:07 ผมยังไม่สนับสนุนให้กินเลยถ้าคุณอยากกิน
00:20:07 → 00:20:10 ข้าวอย่างน้อยที่สุดก็คือไรเบอรี่ที่เป็น
00:20:10 → 00:20:14 สีม่วงแล้วกลุ่มนี้ก็รวมถึงผลไม้ด้วยแต่
00:20:14 → 00:20:18 ไม่รวมน้ำผลไม้นะไอ้น้ำผลไม้เนี่ยผม
00:20:18 → 00:20:21 เกลียดมากเกือบทั้งหมดมีโทษมากกว่า
00:20:21 → 00:20:24 ประโยชน์น้ำผลไม้ที่พอจะมีประโยชน์ก็คือ
00:20:24 → 00:20:28 น้ำที่มีกากอยู่ในนั้นเช่นน้ำมะเขือเทศ
00:20:28 → 00:20:32 น้ำแครอทไอ้พวกสกัดกากทิ้งเนี่ยคือไอ้พวก
00:20:32 → 00:20:36 ที่โง่ที่สุดส่วนที่ไม่ใช่กากคือขยะแล้ว
00:20:36 → 00:20:39 ก็แปลกคนไทยชอบกินขยะแล้วก็เอาของดีไป
00:20:39 → 00:20:43 ทิ้งและที่สำคัญก็คือหลายคนไม่รู้ว่า
00:20:43 → 00:20:46 อาหารขยะมันคืออะไรนึกถึงแต่อาหารฝรั่ง
00:20:46 → 00:20:49 ว่ามันเป็นอาหารขยะแต่ว่าอาหารขยะนั้นมัน
00:20:49 → 00:20:54 อยู่ในสังคมไทยมานานก็คือพวกของทอดผัดไฟ
00:20:54 → 00:20:58 แรงแป้งน้ำตาลอะไรที่มีน้ำมันพืชที่ผมบอก
00:20:58 → 00:21:01 น้ำผลไม้แม้นกระทั่งน้ำผึ้งไม่ว่าจะเป็น
00:21:02 → 00:21:05 แมนนูก้าจากนิวซีแลนด์ซึ่งครั้งนึงผมก็
00:21:05 → 00:21:08 เข้าใจว่ามันดีคุณสามารถกินเข้าไปนิด
00:21:08 → 00:21:11 หน่อยวันละ 1 ช้อนชาเนี่ยได้แต่ถ้าเกิด
00:21:11 → 00:21:15 คุณมีปัญหาเรื่องเบาหวานคุณแตะน้ำผึ้งไม่
00:21:15 → 00:21:18 ได้เลยน้ำผึ้งกับน้ำผลไม้ผลมันเหมือนกัน
00:21:19 → 00:21:21 มันทำให้ประสิทธิภาพของอินซูลินคุณต่ำทำ
00:21:22 → 00:21:25 ให้หิวบ่อยและเป็นต้นเหตุของไขมันพอกตับ
00:21:25 → 00:21:28 เพราะว่าตับมันทำงาน 2 รอบ
00:21:28 → 00:21:32 สำหรับคนที่เป็นเบาหวานผมก็บอกว่าสิ่งที่
00:21:32 → 00:21:35 สำคัญที่สุดนั่นคือการอดไม่ใช่การกินคุณ
00:21:35 → 00:21:38 สามารถรักษาเบาหวานได้ด้วยตัวเองโดยที่
00:21:38 → 00:21:41 ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายโดยการลดมื้อให้
00:21:41 → 00:21:44 เหลือ 2 มื้อเท่านั้นเองแล้วก็กินอาหาร
00:21:44 → 00:21:48 ที่เรียกว่าคีโตทำเองก็ได้แต่ถ้าขี้เกียจ
00:21:48 → 00:21:51 ทำเองก็ซื้อจะเป็นของบริษัท Diet Doctor
00:21:51 → 00:21:55 ก็ดีที่ผมมีส่วนในการปรับปรุงรสชาติและ
00:21:55 → 00:21:59 ถ้าใช้โค้ดอย Academy ก็ได้ลด 10%
00:21:59 → 00:22:02 ส่วนน้ำนมถั่วเหลืองนั้นก็มีคนถามกันมาก
00:22:02 → 00:22:05 ไอ้เรื่องเนี้ยหลังจากที่ผมค้นคว้าอยู่
00:22:05 → 00:22:09 นานในเบื้องต้นผมไม่แนะนำให้คุณดื่มน้ำ
00:22:09 → 00:22:12 ถั่วเหลืองแต่แนะนำให้คุณกินเต้าหู้ที่
00:22:12 → 00:22:15 ผ่านการหมักเพราะว่าถั่วมันมีสารพิษอยู่
00:22:15 → 00:22:18 ในนั้นที่เรียกว่า tin ตราบใดที่
00:22:18 → 00:22:21 แบคทีเรียยังไม่เอามันออกหรือสลายมันมัน
00:22:21 → 00:22:25 ก็ยังอยู่ในนั้นแล้วมันแปลกนะคนมันชอบสรร
00:22:25 → 00:22:29 หาสารสกัดจากงาดำอย่างเงี้ยแล้วขอโทษที
00:22:29 → 00:22:32 ทำไมคุณไม่กินงาดำแบบผมผมกินงาดำทุกวัน
00:22:32 → 00:22:35 เลยแล้วผมไม่เคยกินเลยนะไอ้สารสกัดจากงา
00:22:35 → 00:22:38 ดำเนี่ยและที่ถามกันมากก็คือเนื้อสัตว์
00:22:38 → 00:22:42 มันทำให้ท้องผูกผมไม่เคยแนะนำให้คุณกิน
00:22:42 → 00:22:45 เนื้อสัตว์เป็นอาหารหลักแล้วผมก็ต่อต้าน
00:22:45 → 00:22:47 ไอ้พวกที่เอาอกไก่มาปั่นแล้วก็ดื่มเอา
00:22:47 → 00:22:51 ดื่มเอาในแง่สุขภาพผมแนะนำให้คุณกินสัตว์
00:22:51 → 00:22:54 ไม่ใช่เนื้อสัตว์หมายความว่าผลิตภัณฑ์จาก
00:22:54 → 00:22:58 สัตว์หรือสัตว์ทั้งตัวถ้าคุณไม่ต้องกังวล
00:22:58 → 00:23:02 เรื่องกดยูริกคุณก็กินเครื่องในนอกจากนี้
00:23:02 → 00:23:06 ผมก็แนะนำให้กินสัตว์น้ำกุ้งหอยปูปลาน้ำ
00:23:06 → 00:23:10 มันหมูเนยแท้ๆไม่ใช่เนยเทียมนะครับเนย
00:23:10 → 00:23:13 เทียมเนี่ยคือยาพิษห้ามกินเด็ดขาดหลาย
00:23:13 → 00:23:16 ประเทศเขาไม่ให้กินแล้วแล้วก็ผลิตภัณฑ์
00:23:16 → 00:23:20 จากนมหมักทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นชีสโยเกิร์ต
00:23:20 → 00:23:23 คีเฟอร์คุณต้องกินสิ่งเหล่านี้ให้สมดุล
00:23:23 → 00:23:27 ไม่ใช่ตะบี้ตะบันกินแต่เนื้อสัตว์ส่วน
00:23:27 → 00:23:30 ไวตามินรวมที่ผมผมคิดว่าดีแล้วผมกินอยู่
00:23:30 → 00:23:33 เนี่ยก็เป็นของ mway nutz ถ้าคุณหาซื้อ
00:23:33 → 00:23:36 ไม่ได้ก็ซื้อตามลิงก์ที่เห็นในขณะนี้เอา
00:23:37 → 00:23:42 ล่ะครับขอขอบพระคุณที่ติดตามสวัสดีครับ