00:00:00 → 00:00:03 แต่ตอนนี้คุณหมอกำลังทำอะไรอยู่ครับกำลัง
00:00:03 → 00:00:07 ตรวจหูเด็กอยู่นะคะครับคือในเด็กๆ
00:00:07 → 00:00:11 ปัจจุบันเนี้ยเราเพียงจะมีการตรวจคัดกรอง
00:00:11 → 00:00:13 การที่ดินแรกเกิดครับแต่ว่าโดยทั่วไปแล้ว
00:00:13 → 00:00:17 เนี่ยการที่เราทราบไก่อนแล้วก็จะตรวจ
00:00:17 → 00:00:20 เพิ่มเติมแล้วก็รู้ก่อนรักษาเกาะเนี่ยจะ
00:00:20 → 00:00:22 ได้ผลดีมากกว่าแสดงว่าเด็กอ่อนแบบนี้ทุก
00:00:22 → 00:00:25 คนก็ต้องตรวจเป็นขั้นตอนของการตรวจทุกๆ
00:00:25 → 00:00:30 ทุกคนแล้วก็ครับเออในที่ซึ่งทำได้นะคะเรา
00:00:30 → 00:00:32 จะใช้แค่ตรวจคัดกรองการได้ยินทารกแรกเกิด
00:00:32 → 00:00:34 ซึ่งจะทำได้ตั้งแต่เด็กเกิดมาได้วันแรก
00:00:34 → 00:00:38 เลยแต่ว่าในบางแห่งเนี่ยซึ่งไม่สามารถ
00:00:38 → 00:00:41 ตรวจได้ทุกคนเนี้ยเราก็จะตรวจเฉพาะเด็ก
00:00:42 → 00:00:45 กลุ่มเสี่ยงในกลุ่มเสี่ยงก็เช่นที่เด็ก
00:00:45 → 00:00:47 ที่มีภาวะติดเชื้อตั้งแต่อยู่ในครรภ์
00:00:47 → 00:00:50 มารดาหรือว่าเกิดนะมีความเจ็บป่วยฉันอยู่
00:00:50 → 00:00:54 ใน ICU หรือมีความผิดปกติต่างๆเช่นมีรูป
00:00:54 → 00:00:58 ผิดปกติมีติ่งมีรูหน้าหูหรือว่าเกิดมาติด
00:00:58 → 00:01:02 เชื้อแล้วก็ต้องใช้ยาอะไรบ้างนี้นะคะ
00:01:02 → 00:01:05 [เพลง]
00:01:05 → 00:01:08 แต่ในเด็กที่มีปัญหาการได้ยินเนี่ยเกิด
00:01:08 → 00:01:10 จากสาเหตุอะไรได้บ้างนะคะกัมมะพันธุเนี่ย
00:01:10 → 00:01:13 เป็นได้ประมาณครึ่งนึงแต่ว่าเราจะรู้สึก
00:01:13 → 00:01:16 ว่าเอ๊ะทำไมเวลาทรัพย์ประวัติเนี่ยเราไม่
00:01:16 → 00:01:18 พบเลยว่ามีญาติพี่น้องนี่หูตึงพ่อ
00:01:18 → 00:01:21 กัมมะพันธุส่วนหนึ่งส่วนใหญ่เลยเนี่ยเป็น
00:01:21 → 00:01:24 ลักษณะด้อยในงวดเป็นลักษณะได้มันก็จะแฝง
00:01:24 → 00:01:27 มาในพ่อกับแม่พ่อเป็นลักษณะหน่อยมันจะไม่
00:01:27 → 00:01:30 แสดงอาการในพ่อแม่เห็นชัดๆเมื่อมารวมกัน
00:01:30 → 00:01:32 ก็จะมาอ๊อฟที่ลูกแต่ว่าอีกเครื่องนึงที่
00:01:32 → 00:01:34 ไม่ใช่สาเหตุทางกัมมะพันธุเนี้ยคือสาเหตุ
00:01:34 → 00:01:38 จากอย่างอื่นถ้าเธอคิดง่ายๆคือในเด็กคน
00:01:38 → 00:01:40 นึงเนี่ยมันก็มีตั้งแต่ก่อนคลอดขณะคลอด
00:01:40 → 00:01:43 และหลังคลอดถ้าก่อนคลอดก็เช่นตอนอยู่ใน
00:01:43 → 00:01:46 ครรภ์มารดาเนี่ยคุณแม่ที่ดูแลตัวเองไม่ดี
00:01:46 → 00:01:50 เช่นใช้สารเสพติดนะคะหรือว่ากินเหล้าสูบ
00:01:50 → 00:01:53 บุหรี่พรุ่งนี้ลูกจะไม่แข็งแรงสมบูรณ์
00:01:53 → 00:01:56 เท่าที่ควรอาจจะเกิดก่อนกำหนดมีความพิการ
00:01:56 → 00:02:00 ซึ่งพวกนี้ก็จะมีปัญหาตั้งแต่ก่อนคลอดละ
00:02:00 → 00:02:01 หน้าเด็กลงเสียงพรุ่งนี้เนี่ยจะมีโอกาส
00:02:01 → 00:02:06 ที่จะจะมีการดิ้นบอกภาคๆเด็กปกติได้ 10
00:02:06 → 00:02:09 ถึง 20 เท่าและในกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ถ้า
00:02:09 → 00:02:12 เราเจอไก่อนเรารู้ไก่อนช่วยเหลือได้เกาะ
00:02:12 → 00:02:15 เนี้ยเขาจะมีพัฒนาการภาษาได้ดีในใกล้
00:02:15 → 00:02:20 เคียงเด็กปกติถ้าเราช่วยภายใน 6 เดือนแรก
00:02:20 → 00:02:24 [เพลง]
00:02:24 → 00:02:28 แสดงว่าการสูญเสียการได้ยินในเด็กนะครับ
00:02:28 → 00:02:31 มันส่งผลต่อการพัฒนาการของเด็กด้วยนะครับ
00:02:31 → 00:02:35 สำคัญมากนะคะเพราะว่าเด็กปกติเนี่ยพุธขวบ
00:02:35 → 00:02:39 นึงเช่นรักนั้นคือหูดีเขาเก็บข้อมูลเขา
00:02:39 → 00:02:42 ฟังเขาเรียนรู้มาตั้งปีนึงกว่าจะพูดได้
00:02:42 → 00:02:45 แล้วที่สำคัญคือสมองของเด็กมันจะโตเร็ว
00:02:45 → 00:02:48 มากเลยในช่วงปีสองปีแรกครับเพื่อนั้นถ้า
00:02:48 → 00:02:51 เราไม่ได้ใส่ข้อมูลการเรียนรู้ให้ตรงนั้น
00:02:51 → 00:02:54 ก็คือเด็กที่ไม่ได้ยินเขาก็ไม่ได้เรียน
00:02:54 → 00:02:57 รู้เขาขาดตรงนี้ไปเนี่ยเรามารู้ทีหลังรู้
00:02:57 → 00:03:00 ตอนโตและสมองไม่พัฒนาไปตั้งเยอะแล้วต่อไป
00:03:00 → 00:03:04 เรามาเรียนอะไรตอนโตมาก็ก็ช้านะคะไม่เป็น
00:03:04 → 00:03:07 ธรรมชาติเพื่อนั้นปัจจุบันเนี้ยยามรู้ให้
00:03:07 → 00:03:10 เร็วที่สุดจริงๆแล้วเนี่ยพยายามดูให้เร็ว
00:03:10 → 00:03:12 แล้วก็ใส่เครื่องช่วยฟังหรือช่วยเหลือ
00:03:12 → 00:03:15 เด็กให้ได้ภายใน 6 เดือนมีงานวิจัยมากมาย
00:03:15 → 00:03:18 support ว่าเด็กจะสามารถพัฒนาภาษาได้
00:03:18 → 00:03:20 ใกล้เคียงปกติแล้วที่เราจะรู้ได้ไงครับ
00:03:20 → 00:03:23 ว่าเด็กของเรานะครับมีการได้ยินที่ผิด
00:03:23 → 00:03:27 ปกติไปครับคือทางๆๆเลวแบบเอ่อประชาชนทั่ว
00:03:27 → 00:03:30 ไปเนี่ยก็คือสังเกตปฏิกิริยาตอบสนองต่อ
00:03:30 → 00:03:33 เสียงซึ่งนี้ถือว่าเร็วที่สุดแล้วนะคะแต่
00:03:33 → 00:03:35 มันจะมีบางครอบครัวที่
00:03:35 → 00:03:39 สังเกตชนิดหนึ่งก็จะพามาตอนที่เด็ก 2 3
00:03:39 → 00:03:43 ขวบแล้วเลือกว่าทำไมยังไม่พูดซะทีซึ่งอัน
00:03:43 → 00:03:45 นี้จะช้าไปนิดนึงคือมันก็ขึ้นอยู่กับ
00:03:45 → 00:03:49 ทัศนคติของหลายๆบ้างบางบ้านก็คิดว่าไม่
00:03:49 → 00:03:52 เป็นไรรอดูไปเกาะนก็ทำให้เวลามันรุ่งเลย
00:03:52 → 00:03:55 มาเรื่อยๆผลต่อพัฒนาการของเด็กอันนี้เป็น
00:03:55 → 00:03:57 ผลเสียมากเลยแล้วสมมุติถ้าเป็นเด็กอ่ะ
00:03:57 → 00:04:00 เข้ามาหาคุณหมอแล้วนี่นะครับขั้นตอนในการ
00:04:00 → 00:04:03 ตรวจเนี่ยเราจะเริ่มต้นอย่างไรครับแล้วก็
00:04:03 → 00:04:06 ต้องซักประวัติก่อนว่าเออถ้ามีอาจจะ
00:04:06 → 00:04:09 เสี่ยงอะไรไหมเด็กมีไม่สบายมีโรคประจำตัว
00:04:09 → 00:04:11 อะไรหรือเปล่าพอทราบประวัติเสร็จแล้วก็
00:04:11 → 00:04:14 ได้ข้อมูลมาส่วนนึงแล้วเราก็ตรวจร่างกาย
00:04:14 → 00:04:17 ตรวจร่างกายหลักๆก็คือดูหูซึ่งพวกนี้ก็
00:04:17 → 00:04:19 อยู่ในเกณฑ์ที่ว่าจะต้องตรวจละเอียดแล้ว
00:04:19 → 00:04:22 เราก็จะดูแก้วหูนะคะว่าเด็กมีช่องหูมี
00:04:22 → 00:04:25 แก้วหูเลยที่ปกติไหมนี้ถ้าถ้าเป็นเด็กที่
00:04:25 → 00:04:29 อาจจะโตมานิดนึงเนี่ยบางครั้งเขาก็จะมี
00:04:29 → 00:04:32 ปัญหาของหูชั้นกลางคือหูเนี่ยมันมี 3
00:04:32 → 00:04:34 ชั้นนะคะ
00:04:34 → 00:04:38 มีหูชั้นนอกหูชั้นกลางถัดจากหูชั้นกลางไป
00:04:38 → 00:04:40 ก็เป็นห่วงชัดในซึ่งหัวชั้นไหนก็จะมีสอง
00:04:40 → 00:04:44 ส่วนคือส่วนที่เธอควบคุมกันได้ยินนะคะกับ
00:04:44 → 00:04:48 ส่วนที่ดูแลเรื่องการทรงตัวดูโดยรวมเกาะน
00:04:48 → 00:04:51 บางคนง่ายเลยไม่มีหูค่ะก็มีนะคะไม่มีหู
00:04:51 → 00:04:54 ไม่มีช่องหูมันก็เหมือนกับมีอะไรมาอุดเขา
00:04:54 → 00:04:58 ก็ไม่ได้ยินแต่ว่าบางคนเนี้ยอาจจะเกิดมา
00:04:58 → 00:05:01 ปกติดีแล้วแต่เป็นหวัดบ่อยนี้นะคะหรือว่า
00:05:01 → 00:05:06 กินนมก้อนนอนนิ่งไม่ยกหัวสูงค่ะผู้นั้นก็
00:05:06 → 00:05:10 อาจจะมีปัญหาทำให้มีหูชั้นกลางเนี่ยมี
00:05:10 → 00:05:13 อักเสบได้ง่ายน้ำใสๆข้างทางอยู่ในหูชั้น
00:05:13 → 00:05:16 กลางอยู่หลังแก้วหูเด็กไม่เจ็บไม่มีน้ำ
00:05:16 → 00:05:18 หน่วยเพิ่งจะไม่มีใครรู้เลยไม่ได้ยินเออ
00:05:18 → 00:05:20 มันเค้าจะเป็นประมาณหูตึงเล็กน้อยถึงปาน
00:05:20 → 00:05:24 กลางถามคุณพ่อก่อนหูน้ำหนวกกับหูตึงเนี่ย
00:05:25 → 00:05:28 มันต่างกันยังไงครับคุณหมอหูน้ำหนวกตรงไป
00:05:28 → 00:05:31 ตรงมาคือการติดเชื้อที่หูชั้นกลางก็คือ
00:05:31 → 00:05:35 ตรงนี้นะคะมันจะติดเชื้อก่อนส่วนใหญ่แล้ว
00:05:35 → 00:05:38 เนี่ยเกิดจากเป็นหวัดเรื้อรังเป็นหวัด
00:05:38 → 00:05:42 แล้วก็เชื้อโรคเนี่ยจะขึ้นจากเฒ่าหัวเฒ่า
00:05:42 → 00:05:44 หางได้อยู่หลังจมูกนะคะก็ทำให้ตรงนี้
00:05:44 → 00:05:47 อักเสบอักเสบมีหนองเพราะมีน้องน้องเก่ง
00:05:47 → 00:05:51 มากๆเข้าเนี่ยก็จะเป็นเอ่อหูน้ำหนวกแบบ
00:05:51 → 00:05:54 เฉียบพลันนะคะนี้พอน้องปิ๊กมากๆเข้ามันก็
00:05:54 → 00:05:57 ดันแก้วหูทะลุก็จะมีน้ำหนวกไหลคือถ้ามี
00:05:58 → 00:06:00 น้ำนก Like อยู่เรื่อยๆเนี่ยเราหมอรักษา
00:06:00 → 00:06:02 ให้ดีอันนี้ก็จะเป็นหูน้ำหนูเนื้อรังครับ
00:06:02 → 00:06:05 เดี๋ยวนี้คำว่าหูตึงใช่มั้ยฮะแปลตรงๆคือ
00:06:05 → 00:06:09 ได้ยินน้อยลงได้ยินไม่ชัดหูตื่นเกิดจาก
00:06:09 → 00:06:12 สาเหตุอะไรก็ได้อะไรก็ได้อะไรก็ได้จากไม่
00:06:12 → 00:06:15 มีหูก็ได้มั้ยฮะตันไปเนี่ยไม่มีช่องหูก็
00:06:15 → 00:06:19 ได้หรือว่าชื่อของเยอะขี้หูเยอะใช่อ่ะเจอ
00:06:19 → 00:06:21 บ่อยเกิดมันเกิดจากสะสมไปเรื่อยๆเปิด
00:06:21 → 00:06:24 เนี่ยจะเป็นความเข้าใจที่ผิดว่าไม่ยอมแค่
00:06:24 → 00:06:27 หูทำให้ขี้หูเยอะไหมไม่จริงนะคะปกติเอ่อ
00:06:27 → 00:06:31 ร่างกายเรามีกลไกธรรมชาติเทียบขับขี้หู
00:06:31 → 00:06:34 ออกมาอยู่ก็เต็มๆแค่นี้นะครับในไม่ได้
00:06:34 → 00:06:38 เข้าไปข้างในนะครับก็จะมีกลไกธรรมชาติที่
00:06:38 → 00:06:41 จะขับที่หัวมาอยู่กับๆช่องหูและหลุดร่วง
00:06:41 → 00:06:44 ออกมาครับแต่ว่าคนที่ช่างสะอาดนะหรือว่า
00:06:44 → 00:06:49 ดูแลตัวเองมากเกินไปก็จะชอบใช้ไม้พันสำลี
00:06:49 → 00:06:53 ปั่นหรือแคะขี้หูที่อยู่ตรงนี้ที่มันจะ
00:06:53 → 00:06:56 หลุดออกมามันก็จะอัดลึกเข้าไปข้างในเท่า
00:06:56 → 00:06:58 เรื่อยๆมันก็จะเข้าไปอยู่ในที่ซึ่งไม่ควร
00:06:58 → 00:06:59 จะอยู่อัดแน่นเป็น
00:07:00 → 00:07:03 ก็นอนอยู่เนี่ยอ้าเกิดปัญหาแล้วเกิดปัญหา
00:07:03 → 00:07:06 ค่ะแล้วมันไม่ออกเองก็ต้องมาให้หมอดูดออก
00:07:06 → 00:07:09 กูตายแล้วรถแล้วยังควรจะปล่อยให้มันออกมา
00:07:09 → 00:07:11 เองโดยธรรมชาตินี่แหละธรรมชาติดีที่สุด
00:07:11 → 00:07:14 ค่ะคนเราต้องมีขี้หูนิดหน่อยนะคะว่ากัน
00:07:14 → 00:07:16 ไม่ให้แมลงเข้าหูเป็นคนไปทางธรรมชาติ
00:07:16 → 00:07:18 เหมือนคนกันธรรมชาติแล้วที่หูจะช่วย
00:07:18 → 00:07:22 เคลือบให้ความชุ่มชื้นไม่ให้ผิวมันถลอก
00:07:22 → 00:07:25 ง่ายมันเวลาเราดูแค่ไปปั่นบ่อยร่างกายจะ
00:07:25 → 00:07:29 รู้สึกว่าโดนรบกวนก็จะยิ่งสร้างที่หูอะไร
00:07:29 → 00:07:31 มาเคลือบมากขึ้นอันนี้คือเรื่องของหูตึง
00:07:31 → 00:07:34 อย่างขึ้นมาบ่อผ้าใบหูมีส่วนทำให้หูตึงโห
00:07:34 → 00:07:37 ทำให้หูตึงหูมีอะไรครับถัดไปก็จะเป็นหู
00:07:37 → 00:07:40 ชั้นในซึ่งหูชั้นในเนี้ยแย่ที่สุดเพราะ
00:07:40 → 00:07:44 ว่ามันรักษาไม่หายนะคะในเกาหลีซึ่งมันสูญ
00:07:44 → 00:07:47 เสียถาวรยังบริเวณอื่นจะมีแค่ที่หูเอามา
00:07:47 → 00:07:51 ได้หรือว่าผ่าตัดแก้ไขกระดูกหูได้แต่หู
00:07:51 → 00:07:52 ชั้นในนั้นมันเป็นเซลล์ประสาทรับเสียง
00:07:52 → 00:07:55 ซึ่งมันมักจะไม่หายแล้ววิธีในการดูแล
00:07:55 → 00:07:59 รักษาหูของเรานะฮะหูดึงก็ไม่อยากจะเป็นหู
00:07:59 → 00:08:01 น้ำหนวกเราไม่อยากและแน่นอนนะครับเรามี
00:08:01 → 00:08:04 วิธีในการดูแลสุขภาพของเรายังไงครับคุณ
00:08:04 → 00:08:07 หมอเธอพูดตรงไปตรงมานะคะก็คือดูแลรักษา
00:08:07 → 00:08:10 สุขภาพร่างกายให้แข็งแรงเพราะว่าหูน้ำ
00:08:10 → 00:08:13 หนวกเนี่ยก็จะเป็นจากที่เราเป็นหวัดเป็น
00:08:13 → 00:08:15 หวัดบ่อยๆแล้วไม่ได้รักษาครับถ้าเราแข็ง
00:08:15 → 00:08:17 แรงถูกต้านทานดีๆเนี่ยจะไม่ค่อยมีปัญหา
00:08:17 → 00:08:20 นี้นะคะนอกจากนั้นเนี่ยพวกหูชั้นใหม่ที่
00:08:20 → 00:08:24 เราควรจะต้องกันก็คืออันตรายจากเสียงนะ
00:08:24 → 00:08:28 พวกวัยรุ่นเนี่ยชอบใส่หลับๆตื่นๆก็ใส่กัน
00:08:28 → 00:08:30 ทั้งวันครับนั้นก็ไม่เหมาะนะคะเพราะว่า
00:08:30 → 00:08:33 เราควรจะให้ห่วงว่าเราได้ฟังเลยตาม
00:08:33 → 00:08:38 ธรรมชาติบ้างหรือว่ายาบางอย่างอย่าบาง
00:08:38 → 00:08:40 อย่างก็มีอันตรายกับ 6 ได้เหมือนกันครับ
00:08:40 → 00:08:43 ก็มีหลายสาเหตุค่ะและอุบัติเหตุอย่างเช่น
00:08:43 → 00:08:47 การเล่นอะไรที่มันผัดผลมีแนวโน้มที่ศีรษะ
00:08:47 → 00:08:51 จะกระแทกหรือคนรักรถกีฬาบางประเภทดำน้ำ
00:08:51 → 00:08:53 นี้คุณหมอครับผมเคยคิดว่าดำไปใต้ท้องทะเล
00:08:53 → 00:08:56 ลึกๆนะครับยังไม่ได้ปรับความดันเนี่ยอ่ะ
00:08:56 → 00:08:59 แก้วหูสามารถทะลุได้เลยได้ค่ะเออมันก็จะ
00:08:59 → 00:09:02 มีอย่าหาเรื่องถ้าหูตรงเนี้ยที่ปรับความ
00:09:02 → 00:09:05 ดันไม่ได้เมื่อความดันตรงนี้กลับได้ไม่ดี
00:09:05 → 00:09:08 เนี่ยก็จะมีผลกับแก้วหูกระดูกและรวมถึงหู
00:09:08 → 00:09:10 ชั้นในด้วยก็เหมือนกับขึ้นเครื่องบินนะคะ
00:09:10 → 00:09:12 แต่ว่าขึ้นเครื่องบินเนี่ยดีกว่าเพราะว่า
00:09:12 → 00:09:15 เครื่องบินเครื่องบินพาณิชย์นะคะเค้าจะมี
00:09:15 → 00:09:18 กลไกในการปรับความดันได้ดีอยู่แล้วถึงนี้
00:09:18 → 00:09:21 มาพูดถึงการรักษาเขาคุณหมอครับในกรณีถ้า
00:09:21 → 00:09:24 เกิดเป็นแค่ภายนอกวุฒิอื่นแบบนี้เราจะ
00:09:24 → 00:09:26 รักษายังไงครับคุณหมอก่อนที่จะรักษาเนี่ย
00:09:26 → 00:09:31 เราต้องตรวจไก่อนนะคะว่าหูตึงเนี่ยหนูถึง
00:09:31 → 00:09:34 ระดับไหนครับนะคะนี้วิธีการตรวจการได้ยิน
00:09:34 → 00:09:37 เนี้ยก็มีหลายอย่างทั้งแบบที่คนไข้จะต้อง
00:09:37 → 00:09:40 บอกเราได้ยินหรือเปล่าครับนะคะกับอีกวิธี
00:09:40 → 00:09:42 หนึ่งคือคนไข้ไม่ต้องบอกแต่ว่าเครื่อง
00:09:42 → 00:09:45 เนี่ยมันก็จะแสดงผลออกมาเลยซึ่งถ้าเป็น
00:09:45 → 00:09:48 ผู้ใหญ่แล้วก็ตรวจโดยให้คนไข้ฟังเสียงและ
00:09:48 → 00:09:50 คนไข้ก็จะบอกว่าอันตรงนี้เริ่มได้ยินแล้ว
00:09:50 → 00:09:53 หรือยังเราก็จะมาดูว่าที่เขาเริ่มได้ยิน
00:09:53 → 00:09:56 เนี้ยที่ระดับความดังกี่เดซิเบลก็จะ
00:09:56 → 00:09:58 ประเมินออกมาได้ว่าเป็นระดับการได้ยิน
00:09:58 → 00:10:01 เท่าไหร่หูตึงแค่ไหนมีแต่ว่าในเด็กเนี่ย
00:10:01 → 00:10:04 เขาบอกเราไม่ได้นะคะหรือไม่ก็ความเชื่อ
00:10:04 → 00:10:08 ถือได้เนี่ยไม่เยอะเขาเด็กวิ้งอแงก็ได้
00:10:08 → 00:10:10 ยินก็ไม่สนใจอะไรเงี้ยนะคะก็นั้นเราก็จะ
00:10:10 → 00:10:14 ต้องตรวจด้วยทั้ง 2 วิธีคือวิธีที่ดู
00:10:14 → 00:10:17 ปฏิกิริยาต่อเสียงของเด็กกับวิธีซึ่งเด็ก
00:10:17 → 00:10:19 ไม่ต้องร่วมมืออยู่เฉยๆเดี๋ยวเร็วๆข้อมูล
00:10:19 → 00:10:23 มันออกมาเองเป็นวิธีตรวจแบบการใช้คลื่นไฟ
00:10:23 → 00:10:26 ฟ้าเราก็จะมีสายไฟเนี่ยอ่ะติดที่ศีรษะ
00:10:26 → 00:10:29 แล้วก็จะมีเสียงเนี่ยนำเสียงใส่เข้าไปใน
00:10:29 → 00:10:32 หูแล้วว่ากระตุ้นด้วยเสียงแล้วก็จะออกมา
00:10:32 → 00:10:35 ที่จอค่ะแต่ว่าในกรณีซึ่งเรารักษาไม่ได้
00:10:35 → 00:10:39 คิดว่าเอาให้การดิ้นกลับคืนมาไม่ได้ไม่
00:10:39 → 00:10:42 ว่าจะเป็นหูชั้นกลางและหูชั้นในเนี้ยจงไป
00:10:42 → 00:10:45 ตรงมาก็คือเราก็ต้องดูแลคนไข้ที่ปลายเหตุ
00:10:45 → 00:10:49 คือเมื่อได้ยินน้อยก็ต้องช่วยใช้เครื่อง
00:10:49 → 00:10:51 มืออะไรบางอย่างที่ทำให้เขาได้ยินดีขึ้น
00:10:51 → 00:10:54 มาก็คือการใช้เครื่องช่วยฟังค่ะถ้าเป็น
00:10:54 → 00:10:58 อันที่ที่เห็นใช้กันทั่วไปเธอทั่วไปก็คือ
00:10:58 → 00:11:01 แบบชัดหลังหูใช่ไหมคะบลูทูธบริษัทบาท
00:11:01 → 00:11:04 โทรศัพท์ค่ะก็ต้องรอให้เข้ากับส่วนโค้ง
00:11:04 → 00:11:06 ส่วนเว้าของแต่ละคนครับแล้วก็มาต่อกัน
00:11:06 → 00:11:08 เพื่อเป็นการนำเสียงจากเครื่องช่วยฟัง
00:11:08 → 00:11:11 เนี้ยเข้าไปในหูเครื่องช่วยฟังและขยาย
00:11:11 → 00:11:14 เสียงนะคะแล้วก็ส่งเข้ามาอันนี้ก็จะเป็น
00:11:14 → 00:11:18 เครื่องแบบเกี่ยวหลังหูแบบนี้นะคะไม่ใช่
00:11:18 → 00:11:22 ว่าซื้อมาแล้วใส่เลยไม่ได้เพิ่งใช่ฟังจะ
00:11:22 → 00:11:24 ใช้เนี่ยเหมือนก็ตัดเสื้อนะคะขอบคุณนั้น
00:11:24 → 00:11:27 เราต้องมีผลตรวจการได้ยินก่อนว่าเสียง
00:11:27 → 00:11:29 ทุ้มเสียเท่าไหร่เสียงกลางเสียเท่าไหร่
00:11:29 → 00:11:31 เสียงแหลมเสียเท่าไหร่แล้วเรามาตั้ง
00:11:31 → 00:11:35 เครื่องขับตั้งเครื่องแล้วก็ให้คนไข้ใส่
00:11:35 → 00:11:37 แล้วว่าประเมินดูอีกทีนึงว่าใส่ดีไหมแล้ว
00:11:37 → 00:11:41 ค่อยมาปรับละเอียดอีกครั้งหนึ่งนะคะซึ่ง
00:11:41 → 00:11:44 ก็จะมีอันนี้แบบ Touch หลังหูแล้วก็มีตัว
00:11:44 → 00:11:47 เล็กตัวใหญ่ตามลำดับนะคะพอดีมาอย่างนี้
00:11:47 → 00:11:51 คุณหมอครับในกรณีหูดับโคดาบขึ้นคืออะไรฮะ
00:11:51 → 00:11:54 ที่แบบว่าสูญเสียการได้ยินไปชั่วขณะมัน
00:11:54 → 00:11:58 เกิดจากอะไรครับเกิดจากหลายอย่างนะคะวัน
00:11:58 → 00:12:00 ดีก็บอกว่าอยู่ดีตื่นเช้ามาคุยน่าจะได้
00:12:00 → 00:12:03 ยินข้างเดียวนะคะเหลืออยู่นั่งทำอะไรอยู่
00:12:03 → 00:12:05 ดีๆก็มีเสียงอื้ออึงขึ้นมาในหูข้างนึง
00:12:05 → 00:12:09 แล้วก็ไม่ได้ยินไปเลยจะได้นะคะเกิดจาก
00:12:09 → 00:12:11 อะไรครับถ้าเป็นอายุน้อยเนี่ยคาดว่าเกิด
00:12:11 → 00:12:14 จากผู้ติดเชื้อไวรัสหรือว่าถ้าอายุมาก
00:12:14 → 00:12:17 ขึ้นหรือว่ามีโรคประจำตัวเช่นเบาหวานความ
00:12:17 → 00:12:19 ดันพรุ่งนี้ฉันเริ่มจะแข็งนะคะเส้นเลือด
00:12:19 → 00:12:21 ที่ไปเลี้ยงหัวชั้นในมีเส้นเดียวนะคะเส้น
00:12:21 → 00:12:24 เล็กๆเช่นเดียวกันเธอเส้นเลือดอันนี้อุด
00:12:24 → 00:12:27 ตันไปหรือติดไปหูชั้นในขาดเลือดไปเลี้ยง
00:12:27 → 00:12:31 ก็จะเสียการได้ยินไปหรือไม่ก็บางคนที่มี
00:12:31 → 00:12:35 โครงสร้างหูทนายที่อาจจะบอบบางไอจามแรงๆ
00:12:35 → 00:12:38 ซึ่งเดี๋ยวเนี่ยแรงดันค่ะมันก็จะทำให้
00:12:38 → 00:12:41 เยื่อที่หนูฉันหน่อยเนี่ยรั่วก็จะหูดับ
00:12:41 → 00:12:43 เฉียบพลันไปได้ค่ะเรื่องนี้กลับมาในกรณี
00:12:43 → 00:12:45 ของเด็กนะครับที่สูญเสียการได้ยินตั้งแต่
00:12:45 → 00:12:48 กำเนิดเลยถ้าเกิดเขาได้รับการรักษาไปแล้ว
00:12:48 → 00:12:52 เนี่ยเราจะรู้ได้ไงว่าเด็กคนนี้อ่ะการได้
00:12:52 → 00:12:54 ยินกลับมาเป็นปกติแล้วการดิ้นกลับเป็น
00:12:54 → 00:12:58 ปกติไหมไม่ได้ทุกลายนะคะเราแค่สมมติว่า
00:12:58 → 00:13:01 น้ำมีน้ำในของเราฮะโอเคกลับมาเป็นปกติแต่
00:13:01 → 00:13:04 พวกที่หูชั้นในเสริมเนี่ยการดินไม่กลับมา
00:13:04 → 00:13:07 เป็นปกติแต่เราช่วยให้เขาได้ยินใกล้เคียง
00:13:07 → 00:13:10 ปกติก็คือใช้อุปกรณ์ช่วยต่างๆคุณหมอครับ
00:13:10 → 00:13:12 ถ้าเกิดหูตึงเนี่ยเราใช้เครื่องช่วยฟัง
00:13:12 → 00:13:14 แล้วนะครับแต่ตอนนี้พอใช้เครื่องช่วยฟัง
00:13:14 → 00:13:17 แล้วเนี่ยมันยังไม่ได้ยินอีกเราจะต้อง
00:13:17 → 00:13:20 เปลี่ยนไปรักษาแบบไหนครับในกรณีซึ่งมีหู
00:13:20 → 00:13:23 เสื่อมรุนแรงหรือหูหนวกเนี่ยเครื่องช่วย
00:13:23 → 00:13:25 ฟังอาจจะไม่พอเท่านั้นเราก็ต้องอาศัย
00:13:25 → 00:13:29 วิทยาการอย่างอื่นก็คือการผ่าตัดฝัง
00:13:29 → 00:13:32 ประสาทหูเทียมค่ะต้องผ่าตัดฟังเข้าไปค่ะ
00:13:32 → 00:13:35 รูปร่างหน้าตามันเป็นยังไงครับคุณหมอจริง
00:13:35 → 00:13:37 ก็มี
00:13:37 → 00:13:41 ไหลบริษัทนะครับโดยทั่วไปแล้วเนี่ยมันจะ
00:13:41 → 00:13:44 ต้องประกอบด้วย 2 ส่วนนะคะมีส่วนที่อยู่
00:13:44 → 00:13:48 ด้านในคือผ่าตัดเนี่ยะฝั่งเข้าไปอันนี้จะ
00:13:48 → 00:13:52 สอดเข้าไปในก้นหอยของหูชั้นในนะคะแล้วก็
00:13:52 → 00:13:55 ก็ตัวนี้จะอยู่เวลาเราผ่าตัดนี้เราจะพา
00:13:55 → 00:13:59 ด้านนอกนะคะแล้วก็กรองกระดูกเข้าไปเพื่อ
00:13:59 → 00:14:02 จะสอดมีสายเนี้ยเข้าไปในหูชั้นในแล้วก็
00:14:02 → 00:14:05 ตัวนี้เนี่ยจะอยู่นอกกะโหลกจะอยู่ใต้หนัง
00:14:05 → 00:14:07 ศีรษะค่ะเพื่อนพอปิดแพ้เสร็จแล้วเราจะไม่
00:14:07 → 00:14:10 เห็นตัวนี้นะคะวันนี้จะอยู่ข้างในเวลาจะ
00:14:10 → 00:14:13 ใช้เนี่ยเราจะต้องมีตัวนอกเป็นตัวแปลง
00:14:13 → 00:14:16 สัญญาณเสียงให้ไปกระตุ้นตัวนี้อีกครั้ง
00:14:16 → 00:14:19 นึงตัวนั้นนี่เราเรียกว่าปิดโพรเซสเซอร์
00:14:19 → 00:14:22 ครับปิดโพรเซสเซอร์มีหลายรูปร่างนะคะยัง
00:14:22 → 00:14:25 คลาสสิคเลยก็จะเป็นรูปร่างอย่างนี้เกี่ยว
00:14:25 → 00:14:28 ที่หูแล้วก็ตัวนี้ตรงนี้เป็นแม่เหล็กนะคะ
00:14:28 → 00:14:32 ครับแม่เหล็กจะยึดกับตัวนี้ผ่านหนังศีรษะ
00:14:32 → 00:14:35 เพื่อนั้นเวลาเราใช้จริงแล้วก็ใส่อันนี้
00:14:35 → 00:14:37 ได้ที่อยู่ด้านนอกนี้จะอยู่ด้านหน้าเราจะ
00:14:37 → 00:14:40 เห็นแบบนี้นะคะแสดงว่าตัวนี้จะอยู่ด้าน
00:14:40 → 00:14:43 หนังศีรษะแล้วก็อยู่เค้าเรียกว่าปากอยู่
00:14:43 → 00:14:45 ในส่วนของด้านในตลอดเวลาตลอดชีวิตตลอด
00:14:45 → 00:14:48 ชีวิตเลยค่ะส่วนตัวด้านนอกเนี่ยแล้วแต่
00:14:48 → 00:14:52 ว่ามันมีรุ่นใหม่ที่มันแยกแยะเสียงปรับ
00:14:52 → 00:14:54 เสียงเลยได้ดีขึ้นก็จะมาเหมือนกับ
00:14:54 → 00:14:57 คอมพิวเตอร์หามาอัพเกรดกันได้ไม่มีคือใน
00:14:57 → 00:14:59 เรื่องของผู้ที่การในการรักษาอุปกรณ์ใน
00:14:59 → 00:15:03 การชั่วจะให้คนไข้ได้ยินเสียงได้ดีขึ้นนะ
00:15:03 → 00:15:04 ครับแล้วขั้นตอนในการรักษาในแต่ละอย่าง
00:15:05 → 00:15:07 มันมีขั้นตอนยังไงครับคุณหมอครับตั้งแต่
00:15:07 → 00:15:10 เริ่มแรกเนี่ยที่เราดูว่าคนไข้เนี่ยมีการ
00:15:11 → 00:15:13 เรียนผิดปกติเราต้องตรวจการได้ยินอย่าง
00:15:13 → 00:15:15 ที่เรียนไปแล้วนะคะว่ากันได้ยินมีหลายแบบ
00:15:15 → 00:15:18 มีตรวจแบบให้ฟังเสียงฤดูปฏิกิริยาถ้าเป็น
00:15:18 → 00:15:21 เด็กกับตรวจแบบคนไข้ไม่ต้องให้ความร่วม
00:15:21 → 00:15:23 มือพอเราได้ระดับการได้ยินแล้วเนี่ยเราก็
00:15:23 → 00:15:27 พิจารณาดูว่าแต่ละคนเหมาะจะใช้อุปกรณ์
00:15:27 → 00:15:30 ช่วยแบบไหนถ้าเป็นแค่หูตึงปานกลางอะไร
00:15:30 → 00:15:32 อย่างนี้แล้วก็ก็ใช้เครื่องช่วยฟังครับ
00:15:32 → 00:15:35 แต่ว่าถ้าเป็นหูตึงมากหรือรุนแรงเราก็
00:15:35 → 00:15:37 ต้องลองให้ใช้เครื่องช่วยฟังก่อนเพราะว่า
00:15:37 → 00:15:41 หนึ่งค่าใช้จ่ายมันถูกกว่าสองคือเสียงมัน
00:15:41 → 00:15:44 ก็ยังได้ยินผ่านหูชั้นในธรรมชาติของเขานะ
00:15:44 → 00:15:46 คะเสียงก็จะเป็นธรรมชาติกว่าเราไม่ต้อง
00:15:46 → 00:15:50 ผ่าตัดแต่ว่าเมื่อใช้แล้วไม่ได้ผลเราก็
00:15:50 → 00:15:52 ต้องคิดถึงวิธีอื่นก็คือมาคิดถึงภาษาถุง
00:15:52 → 00:15:55 เทียมนี้พอจะผ่าตัดประสาทหูเทียมเนี่ยมัน
00:15:55 → 00:15:57 ต้องเป็นการผ่าตัดเพื่อนั้นสิ่งที่เรา
00:15:57 → 00:16:01 ต้องดูก็คือ 1 คนไข้ก็จะได้หรือเปล่าใช่
00:16:01 → 00:16:04 ไหมคะผ่าตัดได้ไหมมีโรคประจำตัวที่ไม่
00:16:04 → 00:16:07 สามารถลงยาได้หรือเปล่ามันต้องดมยาผ่าตัด
00:16:07 → 00:16:11 แล้วต้องมีแข็งแรงพอสมควรแล้วก็เกาะนั้น
00:16:11 → 00:16:14 เนี่ยนอกจากเราตรวจว่าคนไข้แข็งแรงร่าง
00:16:14 → 00:16:16 กายโดยทั่วไปแข็งแรงแล้วเนี่ยเราต้อง
00:16:16 → 00:16:20 เอ็กซเรย์ดูเพื่อที่จะดูว่าคนไข้มีไอ้หู
00:16:20 → 00:16:24 ชั้นในที่พอที่จะใส่อันนี้เข้าไปได้หู
00:16:24 → 00:16:26 ชั้นในปกติเราเนี่ยที่เรียกว่าขอเคลียร์
00:16:26 → 00:16:30 ก้นหอยนะคะมันจะมีประมาณสองสองวงครึ่ง 2
00:16:30 → 00:16:33 ถึง 2 030 คนร่วมของมันกดเนี่ยครับนี้
00:16:33 → 00:16:37 บางคนเนี้ยมีแค่วงครึ่งก็มีในเด็กบางคน
00:16:37 → 00:16:41 ที่เราผ่าตัดนั้นเราก็จะต้องต้องรู้ก่อน
00:16:41 → 00:16:44 ว่าเราจะสามารถทำได้หรือเปล่าทำได้ยากไหม
00:16:44 → 00:16:48 ครับซึ่งถ้ามีบทที่สั้นลงมันก็จะมีผลเวลา
00:16:48 → 00:16:51 เลือกมีเล็กโจทย์แล้วมันก็จะต้องแบบขนาด
00:16:51 → 00:16:54 มันพร้อมดีกันหรือว่ามันอาจจะใส่ได้ไม่
00:16:54 → 00:16:56 สุดเลยนี้นะคะเพราะว่ามันมันก็จะต้องวงพอ
00:16:56 → 00:16:59 ดีกันด้วยจะมีบางกรณีอีกว่าแค่ทำ S นี้
00:16:59 → 00:17:03 อยู่เต้อนี้ไม่พอเพราะว่าอย่างในกรณีซึ่ง
00:17:03 → 00:17:05 เป็นเด็กๆเนี่ยก็ไม่รู้ว่าเขามีเส้น
00:17:05 → 00:17:08 ประสาทที่ 8 หรือเปล่าวันที่มีไอ้วงนี้ก็
00:17:08 → 00:17:12 จริงที่เห็นจัด CT Scan นะคะแต่ว่าไม่มี
00:17:12 → 00:17:15 เส้นประสาทไปใส่ไปแล้วมันจะนำเสียงยังไง
00:17:15 → 00:17:19 ก็ไม่ได้ด้วยฮะถ้าในเด็กเล็กเลยเนี่ยเรา
00:17:19 → 00:17:22 ควรจะทำเขาเรียกว่าทำภาพถ่ายคลื่นแม่
00:17:22 → 00:17:25 เหล็กไฟฟ้าก็คือ MRI ครับนะคะเพื่อดูเส้น
00:17:25 → 00:17:28 ประสาทเลยขั้นตอนมันเยอะมากกว่าจะมาใช้
00:17:28 → 00:17:31 เครื่องของเราอยู่ที่แบบนี้นะคุณหมอครับ
00:17:31 → 00:17:34 หลังจากที่คนไข้นะครับอ่าผ่าตัดฝังประสาท
00:17:34 → 00:17:37 หูเทียมไปแล้วเนี่ยคนไข้จะได้ยินเลยไหม
00:17:37 → 00:17:40 ครับมันเป็นอุปกรณ์ 2 ชิ้นนะคะเพื่อนะ
00:17:40 → 00:17:43 เนี่ยเขาจะเริ่มได้ยินเมื่อเราใส่สปิท
00:17:43 → 00:17:46 โพรเซสเซอร์แล้วก็เปิดเครื่องโดยทั่วไป
00:17:46 → 00:17:49 แล้วหลังผ่าตัดเนี่ยะก็ประมาณ 1 ถึง 4
00:17:49 → 00:17:52 สัปดาห์ก็จะให้คนไข้มาเปิดเครื่องนะคะ
00:17:52 → 00:17:54 ต้องเปิดเครื่องก็คือเริ่มฟังเสียงครั้ง
00:17:54 → 00:17:58 แรกนิดในแต่ละคนเนี่ยเวลาเปิดเครื่องเรา
00:17:58 → 00:18:01 ต้องค่อยๆเริ่มตัวกระตุ้นๆน้อยๆก่อนเพราะ
00:18:01 → 00:18:05 แต่ละคนมีการตอบสนองตอบเกิดการกระตุ้น
00:18:05 → 00:18:07 เนี่ยไม่เท่ากันเท่านั้นก็เริ่มเปิด
00:18:07 → 00:18:10 เครื่องแล้วก็ดูปฏิกิริยาแต่ถ้าเด็กเนี่ย
00:18:10 → 00:18:14 พอเปิดเครื่องครั้งแรกแล้วดูซิถ้าเปิดรถ
00:18:14 → 00:18:17 วิ่งหรือว่ามีปฏิญาที่ผิดไปนะคะอันนี้
00:18:17 → 00:18:19 เป็นเป็นสัญญาณที่ดีเมื่อเขารู้สึกว่ามัน
00:18:19 → 00:18:21 มีอะไรที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามัน
00:18:21 → 00:18:23 เป็นเสียงแรกในช่วงแรกในชีวิต
00:18:23 → 00:18:30 [เพลง]
00:18:30 → 00:18:34 น้ำมันเดือนนึงหลังจากที่ผ่าตัดเมื่อเปิด
00:18:34 → 00:18:36 ครั้งแรกก็ดูปฏิกิริยาก่อนมันเป็นยังไง
00:18:36 → 00:18:39 แล้วหลังจากนั้นจะต้องมาปรับเสียงทุก
00:18:39 → 00:18:41 เดือนแล้วก็ดูว่าปฏิกิริยาเป็นยังไงเหมาะ
00:18:41 → 00:18:44 สมไหมเปิดแล้วเค้ารู้สึกว่ามันดังเกินไป
00:18:44 → 00:18:47 ทนไม่ได้หรือเปล่าแล้วก็จะเพิ่มให้พอ
00:18:47 → 00:18:51 เหมาะค่ะวันแรกที่ลูกมาเปิดเครื่องนะคะ
00:18:51 → 00:18:55 เขาตกใจร้องไห้อ่ะแล้วก็ดีใจมากเลยต้อง
00:18:55 → 00:18:59 ได้ยินแน่ๆเลยเพราะว่าฝนก็เปิดปุ๊บ is
00:18:59 → 00:19:03 เลยเสือร้องกรี๊ดหมอบอกว่าต้องได้ยินแน่ๆ
00:19:03 → 00:19:08 ค่ะคุณแม่ในหัวก็ดีใจก็ดีใจกันทุกคน
00:19:08 → 00:19:11 มันเป็นการเริ่มต้นที่เราจะใช้หูมาฟัง
00:19:11 → 00:19:14 เสียงเพราะฉะนั้นมันจะต้องขึ้นกับการปรับ
00:19:14 → 00:19:18 เครื่องนะคะการปรับเนี่ยในครั้งแรกทางต่อ
00:19:18 → 00:19:20 ๆไปไม่เท่ากันไม่ใช่ปรับครั้งแรกแล้วจบ
00:19:20 → 00:19:23 เพราะว่าคนที่ไม่เคยได้ยินเลยหรือว่าคน
00:19:23 → 00:19:26 ที่หูตึงมานานๆเนี้ยชีวิตอยู่เงียบๆตลอด
00:19:26 → 00:19:29 เค้าจะทนอะไรที่มันมีเสียงเข้ามาเรื่อยๆ
00:19:29 → 00:19:31 แบบที่เราได้ยินอย่างนี้ไม่ได้นั้นตอนแรก
00:19:31 → 00:19:34 เราจะเปิดน้อยก่อนแล้วเหรอก็ค่อยปรับให้
00:19:34 → 00:19:38 เสียงดังขึ้นดังขึ้นจนพอเหมาะที่เขาจะใช้
00:19:38 → 00:19:42 ฟังแล้วเรียนรู้อะไรต่างๆได้ให้ขณะนี้
00:19:42 → 00:19:43 เดี๋ยวผมให้คุณหมอลองตรวจเช็คสุขภาพ
00:19:43 → 00:19:46 เกี่ยวกับภาษาการได้รับเสียงได้ยินเสียง
00:19:46 → 00:19:48 ผมได้ไหมครับว่าเป็นปกติหรือเปล่าค่ะแต่
00:19:48 → 00:19:50 คุณหมอบอกก่อนหน้านี้เลยใช่ไหมครับก็จะมี
00:19:50 → 00:19:52 อยู่บ้างถือว่าเป็นเรื่องปกติ
00:19:52 → 00:19:59 มาด้วยนะครับห้ามก่อนนะคะอันนี้ค่ะอ่ะ
00:19:59 → 00:20:03 เอะ
00:20:03 → 00:20:06 อะเนื้อค่ะก็เป็นห่วงที่ดีนะคะตัวจริงๆ
00:20:06 → 00:20:09 ช่องหูเนี่ยตรงมากเลยถนนหนึ่งนิดนึงเนี่ย
00:20:09 → 00:20:11 เราเห็นแก้วถุงแล้วนะคะเห็นมั้ยฮะมันตรง
00:20:11 → 00:20:14 ไปว่ามีเงาสะท้อนครับโอยนี่นั้นแค่หูอยู่
00:20:14 → 00:20:18 ในใครมาชนนี่ขึ้นเข้าไปเลยค่ะลูกเลยนะของ
00:20:18 → 00:20:21 ผมนี่ถือว่าปกติสวยมากสวยค่ะแต่กูรูตรงไป
00:20:21 → 00:20:24 หน่อยก็ตรงดีนะคะแต่ว่าได้ยินดีหรือเปล่า
00:20:24 → 00:20:26 มาตอบไม่ได้ต้องตรวจการได้ยินครับผมค่ะ
00:20:26 → 00:20:29 วันนี้ต้องขอขอบคุณคุณหมอนะครับที่มาให้
00:20:29 → 00:20:31 ความรู้เกี่ยวกับเรื่องของโรคการสูญเสีย
00:20:31 → 00:20:34 การได้ยินนะครับขอบคุณมากครับอ่ะ
00:20:34 → 00:20:40 [เพลง]
00:20:40 → 00:20:43 ม.ค