00:00:00 → 00:00:02 ผมเชื่อว่า 1 คนหรือคนใกล้ตัวหรือเคยได้
00:00:02 → 00:00:05 ยินมาแน่นอนว่าเป็นโรคหลอือสมองแล้วไม่
00:00:05 → 00:00:07 เหมือนเดิมทั้ง 2 อย่างไม่ว่าจะตีบหรือ
00:00:08 → 00:00:09 แตกเราเรียกชื่อโรคเดียวกันชื่อโรคเดียว
00:00:10 → 00:00:12 กันใช่แสดงว่าอาการส่งผลออกมามันเหมือน
00:00:12 → 00:00:15 กันเนาคนไข้มาด้วยแขนและขาอ่อนแรงข้าง
00:00:15 → 00:00:18 เดียวปากเบี้ยวพูดไม่ชัดแต่บางคนมันเบียด
00:00:18 → 00:00:20 มากแบบอาะเลือดออกมากจนแบบเบียดเนื้อสมอง
00:00:20 → 00:00:23 เยอะคนไข้มักจะมีอาการซึมหมดสติร่วม
00:00:23 → 00:00:26 [เพลง]
00:00:26 → 00:00:29 ด้วยยินดีต้อนรับเข้าสู่เป็นคับนะครับมา
00:00:29 → 00:00:32 พบกับจและโอมในเมื่อขุณเส้นเลือดในสมอง
00:00:32 → 00:00:37 แตกหรือตีบก็ได้เออฟังแล้วดูน่ากลัวมาก
00:00:37 → 00:00:39 เพราะทั้ง 2 โลกเนี้ยมันใช้ชื่อร่วมกัน
00:00:39 → 00:00:41 คือสกหรือสกเรียกว่าอะไรก็ได้แล้วกันนะ
00:00:41 → 00:00:44 แล้วแต่มันเป็นภาษาอังกฤษเออจะสกสกอ่ะ
00:00:44 → 00:00:47 โอเคเพราะว่าการออกเสียงเนาะแลแตกต่างกัน
00:00:47 → 00:00:49 ได้นิดหน่อยแต่ว่าคนส่วนมากอ่ะรู้จักแหละ
00:00:49 → 00:00:52 ว่าโรคเมันคือโรคที่อันตรายเนาะเขาเรียก
00:00:52 → 00:00:56 ว่าเป็นโรคที่เป็นผลพวงจากโรคประจำตัวที่
00:00:56 → 00:00:59 ไม่ได้รักษาอ่าเออทั้ง 2 อย่างนี้เลยไม่
00:00:59 → 00:01:01 ว่าจะเป็นหรือแตกก็ตามแต่ว่าคนส่วนมากก็
00:01:01 → 00:01:05 จะมีคำศัพท์อื่นๆที่พูดถึงไอ้โรคสตกหรือ
00:01:05 → 00:01:08 สตกเนี่ยเรื่องหลอดเลิศสมองเนี่ยว่าเป็น
00:01:08 → 00:01:12 อัมพฤกษ์อัมพาตอ๋อใช่ป่ะเเคยเคยได้ยินใช่
00:01:12 → 00:01:14 มอันนั้นคือผลของมันใช่มั้ยอ่ารู้ยังว่า
00:01:14 → 00:01:16 คืออะไรแปลว่าอะไรอัมพฤกษ์อัมพาตอ่ะ
00:01:16 → 00:01:20 อัมพฤกษ์อัมพาตเนี่ยได้ได้ยินบ่อยๆเออถาม
00:01:20 → 00:01:23 ว่าแตกต่างยังไงนี้ไม่รู้รเออแต่รู้ว่า
00:01:23 → 00:01:25 เกี่ยวข้องกับการแบบว่าเหมือนขยับไม่ได้
00:01:25 → 00:01:30 อัมพาตครึ่งซีกออัมพาตเอ่อเต็มซีกซ้าย
00:01:30 → 00:01:33 ด้านขเคยได้ยินเ็มซีกมั้ยขยับไม่ได้เลยออ
00:01:33 → 00:01:37 ๆๆเคยได้ยินได้ยิน้างเนโอเคเอาถ้าให้เล่า
00:01:37 → 00:01:40 กันจริงๆคำว่าอัมพฤกษ์กับอัมพาตอ่ะมันคือ
00:01:40 → 00:01:44 สิ่งที่ใกล้เคียงกันมากเหรอเออถ้าภาษา
00:01:44 → 00:01:46 อังกฤษมันจะมีคำเรียกที่ชื่อใกล้กันมาก
00:01:46 → 00:01:48 แล้วกันจำงี้นะอัมพาตคือขยับไม่ได้เลย
00:01:48 → 00:01:50 หรือว่าอ่อนแรงแบบไม่ขยับเลยขยับไม่ได้
00:01:50 → 00:01:52 เลยศูเลยไม่สามารถออกแรงให้แข็งมันขยับ
00:01:52 → 00:01:56 ขึ้นมาได้ะอือัมพฤกษ์คือยังพอออกแรงได้
00:01:56 → 00:02:00 แต่อ่อนแรงอ๋อเแบพอยกพอยกได้แต่แบบก็คือ
00:02:00 → 00:02:03 สู้แรงอะไรใครไม่ได้เลยนะมันจะมีการตรวจ
00:02:03 → 00:02:04 ของหมอเหมือนกันว่าเอ้ยแต่ละเกรดเนี่ย
00:02:04 → 00:02:07 อ่อนแรงมากน้อยแค่ไหนแต่ให้รู้ไว้ว่าเกรด
00:02:07 → 00:02:11 ไหนมันสำคัญน่ะถ้าอ่อนแรงคืออัมพฤกษ์ออ
00:02:11 → 00:02:13 หมดแรงเลยออกแรงไม่ได้ขยับไม่ได้เลยคือ
00:02:13 → 00:02:16 อัมพาตโอเคความแตกต่างมันมีแค่นั้นออแต่
00:02:16 → 00:02:17 ว่าไอ้ตัวหลอดเลือดสมองเนี่ยถามว่าเกี่ยว
00:02:18 → 00:02:20 ข้องกับอัมพฤกษ์อัมพาตมั้ยมันเกี่ยวๆนิด
00:02:20 → 00:02:23 นึงเพราะอาการของหลอดเลือดสมองรู้บ้าง
00:02:23 → 00:02:28 มั้ยรู้เพราะว่าพ่ออ่าเคยเส้นเลือดในสมอง
00:02:28 → 00:02:30 แตกโใช่ๆพี่จันทเคยเล่านายขี้โกงอับนาย
00:02:30 → 00:02:32 ลุกก่อนอ่ะใช่ผมเป็นประสบการณ์คุณถามถาม
00:02:32 → 00:02:35 คนอื่นถามคนดูทุกคนน่ะรู้จักโรคหล่อือ
00:02:35 → 00:02:38 สมองอยู่ละแต่ก็เคยได้ยินว่าเอ้ยตีบเอ้ย
00:02:38 → 00:02:42 แตกเอ้ยเอ้ยๆหลายๆอันนึมันก็ดูแบบมีความ
00:02:42 → 00:02:44 แตกต่างกันแล้วอ้าวมันต่างกันยังไงแล้ว
00:02:44 → 00:02:48 อันตรายมากน้อยยังไงอันเนี้ยผมรู้สึกว่า
00:02:48 → 00:02:51 คนส่วนมากอ่ะยังไม่ค่อยได้พูดถึงซึ่งจริง
00:02:51 → 00:02:54 ๆแล้วอ่ะถามว่ารู้ไว้หน่อยก็ดีแต่ให้รู้
00:02:54 → 00:02:56 ว่าเวลาเป็นหลอเลือดสมองหรือเป็นสตกผม
00:02:56 → 00:02:58 เรียกสตกแล้วนะเป็นสตกขึ้นมาเมื่อไหร่จะ
00:02:58 → 00:03:01 ต้องทำยังไงอันอันเนี้ยควรรู้ผมก็เลยจะ
00:03:01 → 00:03:03 พยายามมาเล่าให้ฟังอย่างนึงที่เอขึ้นมา
00:03:03 → 00:03:06 เลยอ่ะที่โอมบอกว่าทั้ง 2 อย่างไม่ว่าจะ
00:03:06 → 00:03:08 ตีบหรือแตกเราเรียกชื่อโรคเดียวกันชื่อ
00:03:08 → 00:03:11 โรคเดียวกันใช่แสดงว่าอาการที่ส่งผลออกมา
00:03:11 → 00:03:14 มันเหมือนกันเาเวลาหลอดเลือดในสมองตีบเรา
00:03:14 → 00:03:16 เรียกว่า ischemic Stroke ischemic แปล
00:03:16 → 00:03:19 ว่าขาดเลือดส่วนเราือสมองแตกเราเรียกว่า
00:03:19 → 00:03:22 emagic Stroke emagic แปลว่าเลือดออก
00:03:22 → 00:03:24 เออีิ Stroke เพราะฉะนั้น 2 อย่างเนี้ยลง
00:03:24 → 00:03:26 ท้ายด้วยคำว่า Stroke เหมือนกันแต่ว่า
00:03:26 → 00:03:28 ความหมายหรือหรือที่มาของมันแตกต่างกัน
00:03:28 → 00:03:31 อันนึงตีบเลือดไม่เลี้ยงอีกอันนึงแตกก็มี
00:03:32 → 00:03:35 เลือดไหลในสมองอ่าประมาณนี้ทั้ง 2 อันนี้
00:03:35 → 00:03:39 มีเหตุผลในการเกิดที่ไม่เหมือนกันอาการ
00:03:39 → 00:03:40 ก่อนเมื่อกี้ไม่รู้เลยอาการอาการเมื่อกี้
00:03:40 → 00:03:43 พูดถึงอัมพฤกษ์อัมพาตออ่าหลอดเลือดสมอง
00:03:43 → 00:03:45 เนี่ยครับด้วยความที่สมองคนเรามันมี 2
00:03:45 → 00:03:49 ข้างเนาะที่เขาบอกว่าข้างขวาคุมฝั่งซ้าย
00:03:49 → 00:03:52 ข้างซ้ายคุมฝั่งขวาอ่าสมองมี 2 ซีก 2 ซีก
00:03:52 → 00:03:54 ใช่มี 2 ซีกนะแบ่งกันอ่ะควบคุมคนละฝั่ง
00:03:55 → 00:03:58 กันของร่างกายทีเนี้ยเลือดออกในสมองฝั่ง
00:03:58 → 00:04:00 ไหนมันจะไปกระทบอีกฝั่งหรือเกิดสโตรกฝั่ง
00:04:00 → 00:04:02 ไหนแล้วกันขาดเลือดอะไรก็ตามสมมุติเกิด
00:04:02 → 00:04:06 สรกฝั่งขวากับสมองฝั่งขวาร่างกายซีกซ้าย
00:04:06 → 00:04:08 จะมีการอ่อนแรงเพะข้างขวามันเป็นคอนโน
00:04:08 → 00:04:11 ข้างซ้ายเพราะฉะนั้นอาการของสกไม่ว่าจะ
00:04:11 → 00:04:13 เป็นแบบไหนก็ตามนะขาดเลือดหรือเลือดออกก็
00:04:13 → 00:04:17 ตามจะเป็นการอ่อนแรงข้างเดียวมักจะใช่คำ
00:04:17 → 00:04:20 ว่ามักจะอ่าอืเพราะในกรณีที่เป็นแรงๆบาง
00:04:20 → 00:04:22 ทีมันก็ไป 2 ข้างได้ออแต่ส่วนมากที่เห็น
00:04:23 → 00:04:26 บ่อยๆปริมาณเคสจำนวนเยอะที่สุดคือคนไข้มา
00:04:26 → 00:04:29 ด้วยแขนและขาอ่อนแรงข้างเดียวอาจจะแขน
00:04:29 → 00:04:31 น้อยกว่าขาขาน้อยกว่าแหนไม่สนใจแต่ว่ามัน
00:04:31 → 00:04:34 จะมาเป็นข้างนึงอปากเบี้ยวพูดไม่ชัดอือ
00:04:35 → 00:04:37 อ่านี่คือสิ่งที่คนทั่วไปจะเข้าใจเคยเยิน
00:04:37 → 00:04:40 อย่างงี้มั้ยเคยเจอเลยเคยเคยเจออได้เหได้
00:04:40 → 00:04:42 เห็นเหตุการณ์ป่ะตพ่อเห็นเราเป็นคนแรกที่
00:04:42 → 00:04:44 เจอพ่อหลังจากที่เกิดเกิดเหตุนี้อะไร
00:04:44 → 00:04:46 เงี้ยอเรเรื่องซึ่งเรื่องเนี้ยผมไม่รู้นะ
00:04:46 → 00:04:48 ณตอนนั้นเป็นยังไงเดี๋ยวเราลองเล่าให้ฟัง
00:04:48 → 00:04:49 แล้วให้พี่จัดเล่าให้ฟังด้วยว่าตอนนั้น
00:04:49 → 00:04:51 เกิดอะไรขึ้นแล้วทำอะไรบ้างโอเคอันนี้คือ
00:04:52 → 00:04:53 อาการของตัวโรคแล้วกันให้รู้ไว้ก่อนแล้ว
00:04:53 → 00:04:56 ก็มี 2 อย่างที่ผมบอกไปอืไอ้แตกเนี่ยให้
00:04:56 → 00:04:59 เดาง่ายๆคิดว่าเกิดจากอะไรน่าจะเป็นความ
00:04:59 → 00:05:04 ดันมยเออหรือว่าการกระแทกอือๆๆๆๆเออโอเค
00:05:04 → 00:05:06 เลือดออกในสมองมีหลากหลายเช่นกันโอเคมั้ย
00:05:06 → 00:05:09 เลือดออกจากสมองจากการโดนดนฟาดใช่แต่เวลา
00:05:09 → 00:05:12 เลือดออกในสมองจากความดันโลหิตสูงหรือโรค
00:05:12 → 00:05:14 ความดันที่ไม่ได้รักษานะครับไปดูความดัน
00:05:14 → 00:05:16 เรื่องเรื่องเก่าได้ที่เคยทำถ้าไม่ได้
00:05:16 → 00:05:18 รักษาแล้วความดันมันสูงมากจนเกินไปหลอด
00:05:18 → 00:05:20 เลือดในสมองมันมีความเล็กเนาะมันไม่ได้
00:05:20 → 00:05:24 ใหญ่มากแต่พอเวลามีเลือดออกปุ๊บพอแตกโป๊ะ
00:05:24 → 00:05:26 1 คือแถวๆนั้นน่ะเลือดไปเลี้ยงตามท่อ
00:05:26 → 00:05:29 เดิมไม่ได้ 2 คือเลือดที่ออกมันก็เริ่ม
00:05:29 → 00:05:32 เบียดเนื้อสมองรอบๆอโอเคมั้ยนี่คือกลไก
00:05:32 → 00:05:35 ของมันคือมันไม่ได้มีท่อระบายน้ำท่อระบาย
00:05:35 → 00:05:37 เลือดที่ไหนเพราะฉะนั้นเลือดที่มันรั่ว
00:05:37 → 00:05:39 ออกมาจากเส้นเลือดที่แตกมันก็เลยไปคั่ง
00:05:39 → 00:05:43 อยู่รอบๆทำให้เกิดอาการที่เลือดที่นองออก
00:05:43 → 00:05:47 มาเนี่ยมันมันไปบีบอัดใช่อใช่ๆๆซึ่งก็
00:05:47 → 00:05:49 แล้วคนถามว่าอ้าวแล้วเลือดที่เข้าแล้ว
00:05:49 → 00:05:51 ปกติมันไปยังไงปกติมันจะไปผ่านเนื้อสมอง
00:05:51 → 00:05:54 ด้วยหลอดเลือดขนาดเล็กมากๆแล้วก็จะไปเข้า
00:05:54 → 00:05:57 สู่เลือดดำนึกออกมั้ยเลือดแดงเข้าไปสมอง
00:05:57 → 00:06:00 ใช้กลับไปเลือดดำนี่คือกลไกปกติแต่เยกลาย
00:06:00 → 00:06:02 เป็นว่าไอ้ท่อนำเลือดแดงเนี้ยมันมีจุดแตก
00:06:02 → 00:06:05 โป๊ะแล้วตรงปลายๆของตรงนั้นน่ะจากเดิมที่
00:06:05 → 00:06:07 มันเคยวิ่งไปตามทางปกติตอนนี้วิ่งไม่ได้
00:06:07 → 00:06:11 ละแล้วก็มันไปออกข้างๆด้วยเนื้อสมองส่วน
00:06:11 → 00:06:13 นั้นก็จะเสียหายอนี่คือเกิดจากความดันใช่
00:06:13 → 00:06:16 เอ่อเพราะฉะนั้นเลือดออกในสมองสตกที่เป็น
00:06:16 → 00:06:18 เลือดออกหรือเลือดออกในสมองเนี่ยมันจะ
00:06:18 → 00:06:21 เกิดจากความดันโลหิตสูงใช่แต่ในกรณีอื่นๆ
00:06:21 → 00:06:23 นะเช่นแบบเขาบอกว่าโดนกระแทกและเลือดออก
00:06:23 → 00:06:27 มันจะออกคนละแบบกันมันจะออกนอกเนื้อสมองอ
00:06:27 → 00:06:29 เพราะว่าอันเนี้ยความดันมันเกิดจากภายใน
00:06:29 → 00:06:31 นึกออกป่ะอลอดเลือดต่างๆอยู่ในสองเวลาแตก
00:06:31 → 00:06:34 ก็กข้างในเนื้อสองแล้วก็ไปเบียดเนื้อสมอง
00:06:34 → 00:06:36 สนด้านนอกมันจะเป็นแบบเลือดออกจากแบบพวก
00:06:36 → 00:06:39 เอ่อรอยต่อระหว่างสมองกับกะโหลกศีรษะอัน
00:06:39 → 00:06:42 นั้นอีกแบบนึออแต่เรียกว่าเลิศออกในสมอง
00:06:42 → 00:06:44 เหมือนกันแต่ถามว่าเรียกว่าสตกไก็อาการจะ
00:06:44 → 00:06:48 มาคนละแบบไม่เหมือนกันสกคือแคนขาเอาแรง
00:06:48 → 00:06:50 ข้างเดียวนะครับเดี๋ยวจะพูดบ่อยๆหน่อยจะ
00:06:50 → 00:06:53 ได้จำได้เหนะออย่างที่ 2 คือหลอดเลือด
00:06:53 → 00:06:56 สมองตีบหรือ ischemic Stroke อันนี้คือ
00:06:56 → 00:06:58 แปลว่าเอสมองขาดเลือดแล้วกันสมองขาดเลือด
00:06:58 → 00:07:00 บางส่วนซึ่งกแต่อันเนี้ยมันจะเกิดจากการ
00:07:00 → 00:07:03 ตันของหลอดเลือดที่มันไม่ดีตันด้วยไขมัน
00:07:03 → 00:07:07 อ่าใช่อจริงๆก็ตันด้วยได้ทั้งหมดเลยจริงๆ
00:07:07 → 00:07:09 อ่ะการเป็นความดันที่สูงแต่ไม่ค่อยรักษา
00:07:09 → 00:07:11 แต่ความดันสูงไม่มากทำให้หลอดเลือดมีความ
00:07:11 → 00:07:14 เสียหายนิดๆหน่อยๆไปเรื่อยๆได้เนาะแล้วก็
00:07:14 → 00:07:16 เบาหวานที่ไม่รักษาเกิดการอักเสบใน
00:07:16 → 00:07:19 ตำแหน่งต่างๆรวมถึงลอดเลือดไขมันก็พอกๆๆ
00:07:19 → 00:07:21 ถูกต้องเพราะฉะนั้นเบาหวานไขมันความดัน
00:07:21 → 00:07:25 เกี่ยวหมดเรียกว่าทำให้ท่อก็คือหลอดเลือด
00:07:25 → 00:07:28 นี่แหละท่อนำส่งเนี่ยมันเล็กจนกระทั่งที่
00:07:28 → 00:07:30 ว่ามันแทบจะแบบหลักไหลผ่านเลือดไหลผ่าน
00:07:30 → 00:07:32 ไม่ได้และจนกระทั่งเลือดมันข้างมันก็
00:07:33 → 00:07:35 ระเบิดไม่ระเบิดมันไม่ระเบิดมันจะเป็น
00:07:35 → 00:07:38 เหมือนกับอย่างงี้ท่อมันจะเล็กลงท่อมันจะ
00:07:38 → 00:07:40 เริ่มมีความบิดเบี้ยวมีความแข็งมีที่เขา
00:07:40 → 00:07:42 บอกว่าหลอดเลือดมีแคลเซียมมาเกาะมันเกิด
00:07:42 → 00:07:44 จากการอักเสบพวกนี้แหละแล้วพอเลือดมัน
00:07:44 → 00:07:47 เลี้ยงมันมันแบบมันเข้าไปเลี้ยงยากอยู่มา
00:07:47 → 00:07:49 วันใดวันนึงไอ้ตรงที่ไม่เคยเป็นไขมันที่
00:07:49 → 00:07:52 มันเคยเกาะๆเงี้ยมันเกิดลอกหลุดร่อนหรือ
00:07:52 → 00:07:55 ว่าเกิดกลไกการฉีกขาดของหลอเลือดนิดหน่อย
00:07:55 → 00:07:58 แล้วมีพวกเกดเลือดมาซ่อมทำให้รูนั้นตันไป
00:07:58 → 00:08:01 เลยอ๋อกกของมันไม่ว่าจะเป็นฉีกแล้วก็หลุด
00:08:01 → 00:08:04 ไปปุ๊บไปไปตันตรงส่วนปลายหรือฉีกหน่อยนึง
00:08:04 → 00:08:07 ร่างกายซ่อมๆๆตันโะเพราะว่าหลอดเลือดมัน
00:08:07 → 00:08:09 ไม่ดีอยู่แล้วมันมีความโค้งงอมันมีความ
00:08:09 → 00:08:12 ไม่ยืดหยุ่นของมันเนี่ยคือตัวปัญหาอันนี้
00:08:12 → 00:08:15 คือสมองขาดเลือดอ่าโดยประสบการณ์ที่เจอมา
00:08:15 → 00:08:17 ผมจะบอกว่า 2 อย่างเยคิดว่าอย่างไหนแรง
00:08:17 → 00:08:21 กว่าแตกเหรออืต้องบอกว่าทั้ง 2 อย่างบอกต
00:08:21 → 00:08:24 ๆนะแรงหมดอแต่ว่าเวลาสิ่งที่มักจะเจอคน
00:08:24 → 00:08:28 ไข้คือกลุ่มที่แตกเนี่ยเวลามันเริ่มโดนกด
00:08:28 → 00:08:31 มันเริ่มอ่อนแรงสักพักนึงเลือดมันจะออกไป
00:08:31 → 00:08:33 เรื่อยๆสังเกตป่ะมันจะออกไปเรื่อยๆหรือ
00:08:33 → 00:08:36 ว่าออกไปแล้วก็พยายามเบียดๆๆจนถึงจุดนึง
00:08:36 → 00:08:38 มันอาจจะหยุดก็ได้นะแต่บางคนมันเบียดมาก
00:08:38 → 00:08:40 แบบออกเลือดออกมากจนแบบเบียดเนื้อสมอง
00:08:40 → 00:08:43 เยอะคนไข้มักจะมีอาการซึมหมดสติร่วมด้วย
00:08:43 → 00:08:46 อือาจจะมีได้ใช่คำว่าอาจจะมีแต่ว่าแยกไม่
00:08:46 → 00:08:49 ได้นะถึงแม้จะมาเจอหมอก็ตามหมอก็ต้องส่ง
00:08:49 → 00:08:51 ไปทำ xray คอมพิวเตอร์เดี๋ยวพูดต่อไปอัน
00:08:51 → 00:08:53 นี้คือสิ่งที่ต้องรู้มากๆเลยก็คือพอมี
00:08:53 → 00:08:55 อาการแล้วกันอ่ะอาการผมให้จำง่ายๆมันจะมี
00:08:55 → 00:08:58 คำให้ท่องอยู่สมัยก่อนเขาให้จำคำว่า Fast
00:08:58 → 00:09:00 Fast แปลว่าเร็วจำได้ป F as Fast สมัย
00:09:00 → 00:09:04 ก่อนนะใช้คำแค่นี้ Fast คือ f คือเฟให้จำ
00:09:04 → 00:09:08 แล้วนะ f คือเฟคือหน้าเบี้ยวข้างเดียว
00:09:08 → 00:09:11 หน้าเบี้ยวข้างเดียวเออเทสง่ายๆให้ยิ้ม
00:09:11 → 00:09:15 ถ้ายิ้มคนปกติยิ้มแต่ถ้าสมมุติว่ามีหลอด
00:09:15 → 00:09:19 เลือดข้างนึงแย่ทำทำการยิ้มบอกคคยิ้มปกติ
00:09:19 → 00:09:22 นะสิ่งที่ออกมาคืออ๋อจะยิ้มได้ข้างเดียว
00:09:22 → 00:09:24 อีกข้างนึงจะอยู่ที่เดิมก็คือปากเบี้ยว
00:09:24 → 00:09:28 ถัดไป a a a คืออาร์มเบอกยกแขนขึ้นยก
00:09:28 → 00:09:30 แขนขึ้น 2 ข้างยกแขน 2 ข้างยกขึ้นมางี้
00:09:30 → 00:09:32 ได้เค้าบอกยกยกงี้ยกงี้ยกเสร็จปุ๊บอ่ะมัน
00:09:32 → 00:09:35 อาจจะมีข้างนึงที่ยกปุ๊บเอ้อยกไม่ได้ไม่
00:09:35 → 00:09:37 ไหวหรือยกไม่ได้หรไม่ขึ้นเลยถ้าไม่ขึ้น
00:09:37 → 00:09:39 เลยเรียกออัมพาตใช่ป่ะถ้าขึ้นนิดหน่อยแต่
00:09:39 → 00:09:42 บโอ๊ยอ่อนแรงยไม่ไหวเลยไม่มีแรงหรือจะ
00:09:42 → 00:09:45 เดินออกเดินเดินไม่ได้มันคืออ่อนแรงข้าง
00:09:45 → 00:09:48 เดียวออ่าให้จำว่า A คืออาร์มคือแขนนะ
00:09:48 → 00:09:52 ครับ S คือภาษาอังกฤษเขใช้คำว่า Speech
00:09:52 → 00:09:54 คือการพูดอ๋อจากเดิมเคยสวัสดีครับพี่จั่น
00:09:54 → 00:09:58 เป็นไงบ้างพี่จั่นพูดไม่ชัดพูดชลชดเพราะ
00:09:58 → 00:10:03 ว่าให้อ่าระบบประสาทโดนกดลิ้นแข็งลิ้น
00:10:03 → 00:10:05 แข็งเพราะว่าร่างกายคนเราพยายามจะสั่ง
00:10:05 → 00:10:08 ลิ้นเวลาเราจะพูดให้ชัดๆเสียงต่างๆเกิด
00:10:08 → 00:10:11 จากลิ้นอันนี้ก็สั่งอะไลิ้นไม่ไปก็การพูด
00:10:11 → 00:10:14 เสียงก็จะเปลี่ยนออกไปพูดได้ชัดไม่เหมือน
00:10:14 → 00:10:16 เดิมนะครับตัว T สุดท้ายคือถ้าเจอ 3
00:10:16 → 00:10:19 อาการนี้ตัว T คือโทรศัพท์บอกหน่วย
00:10:19 → 00:10:22 ฉุกเฉินเลยทันทีอเพราะว่านี่คือภาวะด่วน
00:10:22 → 00:10:25 มากๆมากๆมาๆมากเพราะอะไรเดี๋ยวเราเดี๋ยว
00:10:26 → 00:10:28 เลต่อโอเคสมัยสมัยก่อนจำ 3 อย่างใช่มั้ย
00:10:28 → 00:10:31 หน้าเบี้ยวแนขาอ่อนแรงข้างนึงพูดไม่ชัด
00:10:31 → 00:10:35 เนาหลังๆมันจะมีเพิ่มเติมอีก 2 กลุ่มนะ
00:10:35 → 00:10:38 ครับเเลยใช้คำว่า B Fast B เติม b เข้า
00:10:38 → 00:10:41 ไปบอกว่ารีบทำให้เร็วรีบทำให้เร็วฟ B คำ
00:10:41 → 00:10:44 ว่าตัว B ตัว b คือ Balance คือเวลาเดิน
00:10:44 → 00:10:48 จากเดิมเคยเดินได้กายว่าเฮ้ยแบบเอียงหมุน
00:10:48 → 00:10:51 ดูผิดปกติแปลกๆเดินแบบเดินเอียงเดินไม่
00:10:51 → 00:10:53 ตรงดูหมุนแปลกๆรักษาสมดุนไม่ได้สงตัวไม่
00:10:53 → 00:10:57 ได้่อยู่เกิดทันทีเลยนะครับกอีกอันนึง e
00:10:57 → 00:11:01 คือออายคือตาอือฮึถ้าการมองเห็นเปลี่ยนไป
00:11:01 → 00:11:04 เช่นอยู่ๆแบบภาพดับไปข้างนึงบางทีคนไข้
00:11:04 → 00:11:06 รู้ไม่รู้ไม่รู้นะจเเคยนั่งเงี้ยมองอย่าง
00:11:06 → 00:11:08 เงี้ยตลอดเวลาเห็นทีวีตรงนี้ทำไมมันมัน
00:11:08 → 00:11:10 เหมือนเหมือนเหมือนหลับตาข้างนึงอืเหมือน
00:11:11 → 00:11:13 ภาพมันหายไปมันอาจจะเกิดสตกหรืออะไรแบบ
00:11:13 → 00:11:15 เนี้ยเกิดที่สมองส่วนการมองเห็นที่อยู่
00:11:15 → 00:11:18 ด้านหลังก็ทำให้การใช้งานอื่นปกติเลยแต่
00:11:18 → 00:11:21 ภาพมันดับก็ได้เหมือนกันโอเคมยเพราะ
00:11:21 → 00:11:24 ฉะนั้นถ้ามีอาการเหล่าเนี้ยทั้งหมด 3 อัน
00:11:24 → 00:11:26 แรกต้องจำได้เพราะอันนี้เจอบ่อยเนาะหน้า
00:11:26 → 00:11:29 เบี้ยวแขนขาอ่อนแรง 1 ข้างพูดไม่ชัดเออ
00:11:29 → 00:11:32 ถามว่าสตกเกิด 2 ข้างได้มั้ยเจอน้อยไม่
00:11:32 → 00:11:35 ค่อยเจอแต่ก็เป็นไปได้เป็นไปได้แต่เจอ
00:11:35 → 00:11:37 น้อยเออถ้าจะเจอจริงๆอาจจะเป็นเลือดออกใน
00:11:37 → 00:11:40 สมองแล้วมันข้ามไปเบียด 2 ฝั่งเลยอาจจะ
00:11:40 → 00:11:42 เจอได้แต่อันนั้นคนไข้มักจะหมดสติเหมือนๆ
00:11:42 → 00:11:44 เหมือนน้าชายผมนั่งกินข้าวอยู่แล้วบอกปวด
00:11:44 → 00:11:47 หัวมากเป็นความดันไม่รักษาสูบบุหรี่ด้วย
00:11:47 → 00:11:51 หนักแล้วก็ตอนนั้นก็คือได้ยินข่าวคือเอ่อ
00:11:51 → 00:11:53 น้องสาวแม่ก็คือคุณน้าคุณน้าอีกคนนึงเข
00:11:53 → 00:11:57 บอกว่าเจอแบนั่งกินข้าวด้วยกันแล้วอยู่ๆ
00:11:57 → 00:12:00 ก็หน้าทิ่มหน้าทิ่มจานข้าวเลยอ่ะแล้วไป
00:12:00 → 00:12:04 โรงพยาบาลแล้วก็เสียชีวิตโหอือๆใช่ๆมีก็
00:12:04 → 00:12:06 คือพูดง่ายๆคือผมมีประวัติครอบครัวนิดนึง
00:12:06 → 00:12:08 เหมือนกันไม่ได้สายตรงมากถ้าสายตรงต้อง
00:12:08 → 00:12:11 เป็นคุณพ่อคุณแม่เป็นออแต่ว่าก็ถือว่ามี
00:12:11 → 00:12:12 ประวัติก็ใกล้เคียงอยู่ว่าอาจจะเป็นความ
00:12:12 → 00:12:15 ดันในอนาคตเพราะฉะนั้นอันนี้คือความสำคัญ
00:12:15 → 00:12:17 ว่าอันนี้คือสิ่งที่ต้องรู้นะเวลาเกิด
00:12:17 → 00:12:21 เหตุปุ๊บให้โทรหาถ้าปัจจุบันสายด่วนก็คือ
00:12:21 → 00:12:24 1669 เนาะเร็วสุด 1669 เออ 1669 โทรปุ๊บ
00:12:24 → 00:12:27 ถามว่าทำไมต้องเร็ว่ะน่าจะเป็นอาการที่
00:12:27 → 00:12:29 ต้องรีบแก้ไขให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะ
00:12:29 → 00:12:33 รักษาสิ่งที่ยังทำงานอยู่ตรงนั้นอๆถูกๆ
00:12:33 → 00:12:36 ถือว่าถูกไปเยอะมากการรักษาที่เร็วส่งผล
00:12:36 → 00:12:40 กระทบต่อยาที่ให้ส่งผลกระทบต่อโอกาสฟื้น
00:12:40 → 00:12:43 ฟูของเนื้อสมองถ้าเป็นกลุ่มที่มันตันการ
00:12:43 → 00:12:45 ให้ยาไปละลายพวกลิ่มเลือดต่างๆที่มันอาจ
00:12:45 → 00:12:48 จะเป็นเหตุที่ตันน่ะอาจจะทำให้สมองส่วน
00:12:48 → 00:12:50 ที่อยู่ส่วนปลายกว่านั้นหรือที่มันขาด
00:12:50 → 00:12:52 เลือดไปอ่ะมันกลับมาใช้ได้แต่มันต้องให้
00:12:52 → 00:12:55 ภัยในระยะเวลาที่ถูกต้องอือเออการรีบ
00:12:55 → 00:12:59 สำคัญมากมีผลต่อการรักษาและอนาคตของคนไคร
00:12:59 → 00:13:02 ยิ่งเร็วก็ยิ่งฟื้นฟูได้อย่างี้ถูกต้อง
00:13:02 → 00:13:04 ใช่ก็คือเหมือนเหมือนพูดง่ายๆคือมนุษย์
00:13:04 → 00:13:07 แขนขาดเลือดขาดเลือดไปสักระยะนึงว่าปล่อย
00:13:07 → 00:13:10 เลือดเข้าแขนได้แขนก็มีโอกาสรอดมากกว่า
00:13:10 → 00:13:12 ถ้าปล่อยไวทิ้งไว้นานๆก็ดำแล้วแขนดำเรียบ
00:13:12 → 00:13:14 ร้อยไม่ได้ใช้ละตัดทิ้งอย่างเดียวประมาณ
00:13:14 → 00:13:17 อย่างนั้นคิดง่ายๆออนะครับแต่ทั้งนี้ทั้ง
00:13:17 → 00:13:20 นั้นการรักษาไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ตามเวลา
00:13:20 → 00:13:23 สำคัญมากจริงๆกับโรคนี้นะมีเวลากำหนดหลอ
00:13:23 → 00:13:25 เลือดหัวใจก็เหมือนกันสมองก็จะมีบอกว่า
00:13:25 → 00:13:27 เอ้ยภายในกี่ชั่วโมง 6 ช่วโมงหรือ 8
00:13:27 → 00:13:29 ชั่วโมหรือเท่าไหร่เงี้ยคุณหมอเขาจะเป็น
00:13:29 → 00:13:33 คนดูการโทรไป 1669 ก่อนโทรไปเสร็จปุ๊บอ่ะ
00:13:33 → 00:13:34 สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับอาการและต้องบอก
00:13:34 → 00:13:37 เขาแน่ๆเลย 1 คือเราอยู่ที่ไหนเนาะเกิด
00:13:37 → 00:13:40 อะไรขึ้นเขาก็จะให้เราเล่าให้ฟังแล้วก็จะ
00:13:40 → 00:13:43 บอกว่าเออเนี่ยคุณพ่อสมมุตินะเหคุณพ่ออ่า
00:13:43 → 00:13:46 อายุเท่าไหร่เป็นใครอาการเป็นไงเกิดอะไร
00:13:46 → 00:13:50 ขึ้นอสิ่งที่เขาจะถามแน่ๆคือเห็นว่าเขา
00:13:50 → 00:13:53 อาการดีสุดครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ออนี่คือ
00:13:53 → 00:13:57 สิ่งสำคัญมากเอ่ออาการเห็นว่าดีที่สุดที่
00:13:57 → 00:13:59 แบบยังเหมือนเดิมปกติอ่ะอืเอ่อตอนนั้นน่ะ
00:13:59 → 00:14:02 กี่โมงเพราะว่าสิ่งที่เราจะใช้ในการดูแล
00:14:02 → 00:14:05 คนไข้คือล่าสุดที่ยังเห็นคนไข้อาการดี
00:14:05 → 00:14:08 อยู่เมื่อไหร่เราจะได้นับเวลาถูกเพราะการ
00:14:08 → 00:14:11 ให้ยาจะจับตัดจากจังหวะที่คนไข้ก็ยังดี
00:14:11 → 00:14:14 อยู่บางทีดูเวลาเลยตอนโทรตอนโทรย้อนหลัง
00:14:14 → 00:14:16 ไปประมาณ 5 นาทีเมื่อกี้พ่อยังดีอยู่เลย
00:14:16 → 00:14:18 ตอนไป 5 นาทีปุ๊บประมาณนี้ครับเพึ่ง 5
00:14:18 → 00:14:22 นาทีที่แล้วเองถ้าเขารีบส่งรถมารับเราไป
00:14:22 → 00:14:25 เสร็จปุ๊บไปถึงโรงพยาบาลเซเรคอมพิวเตอร์
00:14:25 → 00:14:28 สมองแล้วรู้ว่าเป็นตีบหรือแตกขั้นตอนเป็น
00:14:28 → 00:14:29 อย่างงี้เลยนะอืรู้เป็นตีบหรือแตกให้การ
00:14:29 → 00:14:31 รักษาเบื้องต้นก่อนรู้เป็นตีบหรือแตก
00:14:31 → 00:14:34 เสร็จปุ๊บจะให้ยาไม่ให้ยาเลือดออกมากน้อย
00:14:34 → 00:14:36 แค่ไหนต้องทำการระบายเลือดออกมั้หรือยัง
00:14:36 → 00:14:38 ไงทุกอย่างจะต้องเกิดเร็วอย่างน้อยทุกคน
00:14:38 → 00:14:41 ต้องรู้ก่อนว่าอาการแบบเนี้ยไม่ได้ละ
00:14:41 → 00:14:45 ปล่อยเฉยไม่ได้ก็คือใช้หลัก bfast B f
00:14:45 → 00:14:47 ใช่ครับคนหลายๆรอบนะเอาไปนั่งเปิดจำบอก
00:14:47 → 00:14:50 ทุกคนในบ้านเล่าให้ทุกคนฟังเพราะสิ่ง
00:14:50 → 00:14:52 เนี้ยถ้าเกิดขึ้นกับเราแล้วเราทำไม่ทันทำ
00:14:52 → 00:14:56 ไม่เร็วพอมันส่งผลระยะยาวกับคนไขเยว
00:14:56 → 00:14:58 เรื่องนี้จะมาคุยกันในในตอน 2 แล้วกันที
00:14:58 → 00:15:01 นี้นี้การโทรตรงนี้ครับผมจะบอกว่าสมัย
00:15:01 → 00:15:03 ก่อนปัญหาที่คนไม่รู้แล้วผมต้องมาเล่า
00:15:03 → 00:15:06 อย่างเงี้นะึจริงๆทางพวกสสสเขาก็พยายาม
00:15:06 → 00:15:09 ให้คนรู้สิ่งนี้นะว่าโรคพวกเนี้ยเวลาเจอ
00:15:09 → 00:15:13 ปุ๊บอย่ารออือสำคัญคืออย่ารอเออหลายๆเคส
00:15:14 → 00:15:17 เลยนะมาถึงบอกว่าเนี่ยพ่อกลืนน้ำไม่ได้
00:15:17 → 00:15:19 กลืนน้ำไม่ได้คืออะไรวะกลืนน้ำไม่ได้มัน
00:15:19 → 00:15:23 ดูปุ๊บคนไข้ปักเบี้ยวเอ้าคุณคุณพ่อยิงฟัน
00:15:23 → 00:15:27 ให้หน่อยอืนี่ไม่มาละดื่มน้ำให้หน่อยปุบ
00:15:27 → 00:15:28 น้ำไหลออกค้างปากนี้เพราะมันคอนโทรลไม่
00:15:28 → 00:15:32 ได้แล้วก็แบบกี่วันแล้วนะ 2 วันอ้าไม่ทัน
00:15:32 → 00:15:35 แล้วเออเออมันมันผ่านไปแล้วคือพอเป็นหมอ
00:15:35 → 00:15:38 เรารู้นะคือคงไม่ได้โทษคนไข้เพราะสุดท้าย
00:15:38 → 00:15:41 อ่ะถ้าไม่รู้ก็คือไม่รู้แหละเราเข้าใจคือ
00:15:41 → 00:15:44 ในการศึกษาขั้นพื้นฐานต่างๆพวกเนี้ยไม่
00:15:44 → 00:15:47 ได้สอนเราไม่ว่ากันคือถ้ารู้เราจะสามารถ
00:15:47 → 00:15:50 ดูแลคนที่เรารักได้ดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
00:15:50 → 00:15:52 อือเออและสิ่งเนี้ยเห็นป่ะไม่ไม่เสีย
00:15:52 → 00:15:54 ตังค์ไม่ต้องไปลงคอร์สเรียนอะไรคือเรามา
00:15:54 → 00:15:56 นั่งเล่าให้ฟังแล้วเราก็อยากให้รู้และ
00:15:56 → 00:16:00 เข้าใจว่าทำไมต้องเร็วอือเออสิ่งเหล่า
00:16:00 → 00:16:02 เนี้ผมก็บอกคุณพ่อคุณแม่เหมือนกันนะว่า
00:16:02 → 00:16:04 อ่ะ 2 อย่างมันจะมีโโลคหัวใจเดี๋ยวโลกหัว
00:16:04 → 00:16:07 ใจเล่าต่อโลคหัวใจนี่ประสบการณ์ตรงออไม่
00:16:07 → 00:16:09 ได้เป็นเองแต่คุณพ่อเป็นอ๋ออืส่วนเดี๋ยว
00:16:09 → 00:16:11 ของพี่จั่นจะมาเล่าเรื่องอะไรนะเป็นคุณ
00:16:11 → 00:16:14 พ่อถ้าเป็นของคุณพ่อคือคุณพ่ออ่าเส้น
00:16:14 → 00:16:16 เลือดในสมองแตกอือฮึเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังใน
00:16:16 → 00:16:18 ตอนหน้าถ้างั้นผมเล่าในฝั่งผมก่อนอีก
00:16:18 → 00:16:20 อย่างนึงว่าในประวัติครอบครัวผมเนี่ย่ง
00:16:20 → 00:16:22 ฝั่งคุณแม่มีพี่น้อง 4 คนคุณลุงที่เป็น
00:16:22 → 00:16:26 พี่ของแม่คุณลุงคนนึงเขาเคยทำงานได้ดีมาก
00:16:26 → 00:16:28 เลยแล้วก็อย่างที่บอกประวัติฝั่งแม่ผม
00:16:28 → 00:16:29 เนี่ยเป็นความดันกันกับมดเลยแม่แม่ผมไม่
00:16:29 → 00:16:32 เป็นคนเดียวออโชคดีด้วยอะไรไม่รู้คุณลุง
00:16:32 → 00:16:35 เนี่ยเคเคยทำงานได้ทุกอย่างเลยแต่พอเกิด
00:16:35 → 00:16:39 ลอเลือดสมองขึ้นแขนขาเขอ่อนแรงไปเลยข้าง
00:16:39 → 00:16:41 นึงอ่อนแรงค่อนข้างมากด้วยนะครับอย่างที่
00:16:41 → 00:16:44 ผมบอกว่าเอ่อหลอดเลือสมองแตกมักจะรุนแรง
00:16:44 → 00:16:46 หน่อยมีส่วนที่แบบมันไปเบียดด้วยใช่มั้
00:16:46 → 00:16:48 เลือดไม่เลี้ยงด้วยส่วนนึงแต่ไอ้ไอ้หลอด
00:16:48 → 00:16:50 เลือดตีบเ่ะมันมักจะตันไปส่วนเดียว
00:16:50 → 00:16:52 อันเนี้ยเขาก็ทำงานไม่ได้เหมือนเดิมเลย
00:16:52 → 00:16:55 แขนขาข้างนึงอ่อนแรงพูดไม่ชัดดื่มน้ำเอง
00:16:55 → 00:16:58 ช่วงแรกก็ไม่ค่อยได้อ่าแบบเนี้ยก็ต้องให้
00:16:58 → 00:17:01 คนที่บ้านมาดูแลเนาะถ้าการเป็นโรคนี้แล้ว
00:17:01 → 00:17:05 จากไปเลยแบบคุณน้าที่เสียชีวิตเลยแบบคา
00:17:05 → 00:17:08 ที่วันนั้นเลยอ่ะก็ต้องบอกว่าการดูแลต่อ
00:17:08 → 00:17:10 เนื่องมันจะไม่ค่อยเยอะออถูกมั้ยมันก็จะ
00:17:11 → 00:17:12 จบที่ตรงนั้นคนที่ยังอยู่เราก็แบบเหมือน
00:17:13 → 00:17:16 กับก็เสียใจแหละถูกมยแต่ว่าก็ทุกอย่างมัน
00:17:16 → 00:17:18 ก็จะจบมันจะไม่มีอะไรเพิ่มเติมอแต่ถ้าไม่
00:17:18 → 00:17:21 จากไปนี่คือประเด็นเลยว่าเราจะดูแลต่อ
00:17:21 → 00:17:24 อย่างไรรอืนึกออกมั้ยครับและสิ่งที่สำคัญ
00:17:24 → 00:17:26 คือถ้าเกิดเหตุเราจะรับมือยังไงและป้อง
00:17:26 → 00:17:28 กันยังไงอันนี้คือสิ่งที่พยายามอยากจะมา
00:17:28 → 00:17:31 เล่าให้ฟังผมเชื่อว่าไม่น้อยคนถ้าสมมุติ
00:17:32 → 00:17:35 ได้ดูนะต้องมีคนรู้จักสักอย่างน้อยแบบ 1
00:17:35 → 00:17:37 คนหรือคนใกล้ตัวหรือเคยได้ยินมาแน่นอนว่า
00:17:37 → 00:17:41 เป็นโรคหลอเลือสมองแล้วไม่เหมือนเดิมมัน
00:17:41 → 00:17:44 ใกล้ตัวมากกว่าที่คิดแล้วก็อ่าจริงๆอ่ะ
00:17:44 → 00:17:49 ถ้ารู้มาก่อนเนาะมันจะยิ่งเข้าใจง่ายขึ้น
00:17:49 → 00:17:51 แล้วก็ต้องเรียกว่าอย่างน้อยที่สุดเลยคือ
00:17:52 → 00:17:55 ทำใจได้ง่ายขึ้นอือฮึอืเพราะโรคเหล่านี้
00:17:55 → 00:17:58 บางคนก็บอกว่าทำไมล่ะทำไมเกิดอะไรขึ้นยัง
00:17:58 → 00:18:02 ไงคนมักจะมาถามตอนที่เอ่ออย่างที่ผมบอก
00:18:02 → 00:18:04 อ่ะปัจจัยกระตุ้นมันคือสิ่งที่มีอยู่นาน
00:18:04 → 00:18:06 และอือแต่เราไม่ได้จัดการแล้วอยู่ๆมาเป็น
00:18:06 → 00:18:09 เนาะบางคนก็โทษว่าโรคเว้รโรคกรรมถูกป่ะ
00:18:09 → 00:18:12 ถูกมั้ยงอันนี้ง่ายง่ายคือเหมือนพูดมัน
00:18:12 → 00:18:15 พูดง่ายแหละเออซึ่งซึ่งถามว่าใช่มั้ยเรา
00:18:15 → 00:18:18 จะมองแบบนั้นก็ไม่ผิดอเออแต่ว่ากรรมก็คือ
00:18:18 → 00:18:21 การกระทำเนาะมันก็มาจากหลายๆอย่างผมมอง
00:18:21 → 00:18:24 ว่าถ้าเราไม่มองเรื่องนี้เป็นปัญหาเราจะ
00:18:24 → 00:18:27 ไม่มีวันแก้มันได้ถ้าเรามองว่าโทษเป็นโรค
00:18:27 → 00:18:29 เว้นโรกกรรมปุ๊บทุกอย่างจะจบตรงนั้นแล้ว
00:18:29 → 00:18:33 ไม่มีการแก้ไขอือย่างเช่นณปัจจุบันคุณน้า
00:18:33 → 00:18:35 พ่อแม่ 4 คนใช่ป่ะแม่ม่ผมไม่เป็นแล้วก็มี
00:18:35 → 00:18:38 คุณน้าผู้หญิงอีกคนนึงที่ยังอยู่อยู่ 2
00:18:38 → 00:18:40 คนเนี่ยเป็นพี่น้อง 2 เป็นพี่น้อง 4 คน
00:18:40 → 00:18:42 ใช่ 2 คนผู้ชายไปหมดแล้วแล้วก็คุณนาที่
00:18:42 → 00:18:45 เป็นผู้หญิงเนี่ยเป็นความดันกินยาอยู่เรา
00:18:45 → 00:18:47 ก็ดูแลกันต่อเนื่องผมก็แบบความดันเถ่าไหล
00:18:47 → 00:18:50 เป็นไงบ้างอะไรก็ถามมีกยากินตลอดใช่มั้ย
00:18:50 → 00:18:52 ถ้ายาหมดต้องเบิกได้นะอะไรเงี้ยซึ่งพวก
00:18:52 → 00:18:55 โรคพวกเยมันรักษาเบิกได้ตามสิทธิ์อยู่
00:18:55 → 00:18:57 แล้วจริงๆและรักษาไม่ยากินยาวันละเม็ด 2
00:18:57 → 00:19:00 เม็ดเงี้ยแค่นั้นเเองเห็นมั้ยไม่ยากนะ
00:19:00 → 00:19:03 ครับเดี๋ยวรอฟังตอน 2 อีกนิดนึงเพราะตอน 2
00:19:03 → 00:19:05 อ่ะจริงๆผมอยากจะพูดถึงเรื่อง 1 คือ
00:19:05 → 00:19:07 เดี๋ยวมีประสบการณ์ของพี่จันร์เนาะว่าเคย
00:19:07 → 00:19:10 เกิดเคยเจอเป็นยังไงมาบ้าง 2 คือการดูแล
00:19:10 → 00:19:14 เออแล้วก็ความคาดหวังจริงๆทำยังไงสมมุติ
00:19:14 → 00:19:17 เกิดเหตุมาละเออไม่ทันแล้วว่ะหมอเพิ่งมา
00:19:17 → 00:19:20 ฟังอ่ะเพิ่งรู้ทำอะไรได้บ้างถ้าสมมุติว่า
00:19:20 → 00:19:22 มันเกิดขึ้นมามันก็มีวิธีการดูแลอีกใช่โค
00:19:22 → 00:19:25 มั้ยเราเราคิดว่าอ่าอย่างน้อยๆตอนนี้เป็น
00:19:25 → 00:19:28 ตอนที่ทำให้ทุกคนน่ะรู้จักสำหรับคนที่ยัง
00:19:28 → 00:19:31 ไม่เคยรู้เนาะอือแล้วเราก็คิดว่ามันเป็น
00:19:31 → 00:19:34 โรคที่ทุกคนแบบไม่อยากเจออ่ะเป็นเป็นทาง
00:19:35 → 00:19:38 ที่น่ากลัวมากแต่ว่าเ่ออย่างน้อยๆเรารู้
00:19:38 → 00:19:40 จักวิธีการรับมือมันเนาะแล้วถ้าเกิดว่า
00:19:40 → 00:19:44 ได้เข้าใจมันมันยังไม่ใช่เป็นแบบทางตัน
00:19:44 → 00:19:47 หรือจุดสุดท้ายอ่ะมันมีทางแก้ไขและทางรับ
00:19:47 → 00:19:50 มือเนาะเพราะฉะนั้นก็อยากให้อ่าทุกคนเข้า
00:19:50 → 00:19:55 ใจแล้วก็เรู้จากวิธีการรับมือกับมันอือ
00:19:55 → 00:19:58 เนาะเออทนครั้งสุดท้ายนะ Stroke หรือหอด
00:19:58 → 00:20:02 เลือดสมองไม่ว่าจะตีบหรือแตกนะครับรู้ว่า
00:20:02 → 00:20:05 อาการคืออะไรเนาะหน้าเบี้ยวพูดไม่ชัดใช่
00:20:05 → 00:20:08 มยแขนขาอ่อนแรงข้างนึงเนาะหรือว่ามีเพิ่ม
00:20:08 → 00:20:11 เติม be ก็คือบอกว่าการเดินเสียการทรงตัว
00:20:11 → 00:20:15 อย่างผิดปกติทันทีขึ้นมา 2 คือหรือว่าตา
00:20:15 → 00:20:19 มองเห็นหายไปเลยข้างนึงหายแปลกๆตามองไม่
00:20:19 → 00:20:21 ไม่ชัดไม่เหมือนเดิมตามองลำบากขึ้นเนาะ
00:20:21 → 00:20:23 อือเพราปกติสายตามันจะเปลี่ยนไม่เร็วนึก
00:20:23 → 00:20:25 ออกมั้ยแต่พอแบบเฮ้ยอยู่ๆก็ดับไปข้างเลย
00:20:25 → 00:20:29 เนี่ยเกิดอะไรขึ้นไม่รู้ก็ติดต่อ 16 ไว้
00:20:29 → 00:20:32 ก่อนใช่ไม่ใช่อย่างน้อยๆถึงแม้ไม่ใช่ก็
00:20:32 → 00:20:34 ปลอดภัยกว่าไม่เรียกเดี๋ยวตอนนี้น่าจะทำ
00:20:34 → 00:20:37 แคปชั่นหรือว่าจะพยายามบุคมารกไว้นะครับ
00:20:37 → 00:20:41 ว่าอ่าให้คนที่เผื่อด่วนแล้วมาเสิร์ชเจอ
00:20:41 → 00:20:44 อย่างน้อยๆมีแบบอะไรให้รีบดูรีบจัดการ
00:20:44 → 00:20:47 เนาะเราเราอยากให้ทุกคนเข้าใจแล้วก็รู้
00:20:47 → 00:20:51 ว่าอ่าโรคหลอดเลือดเนี่ยมันอันตรายมาก
00:20:51 → 00:20:55 แล้วมันก็แข่งกับเวลาเนาะมันมีถ้ามันแข่ง
00:20:55 → 00:20:58 กับเวลาแล้วเราชนะเวลาได้อ่ะโอกาสฟื้นฟู
00:20:58 → 00:21:01 ที่จะกลับมาได้เยอะเนี่ยก็ยิ่งดีใช่เออ
00:21:01 → 00:21:03 ขณะเดียวกันถ้าเกิดว่ามันนานเราไม่รู้ว่า
00:21:03 → 00:21:06 เมื่อไหร่เออแบบมันมันก็ยิ่งอ่าสูญเสีย
00:21:06 → 00:21:10 อะไรไปหลายๆอย่างบางคนโชคดีที่ว่ามีคนอ่า
00:21:10 → 00:21:13 ดูแลบางคนแบบเราไม่ได้มีทุนทรัพย์มากขนาด
00:21:13 → 00:21:15 นั้นมันก็อันตรายหรือว่าแบบสูญเสียเยอะ
00:21:15 → 00:21:17 หรือบางทีเป็นไม่เยอะเป็นนิดเดียวไม่เยอะ
00:21:17 → 00:21:20 อย่างเงี้ยก็ก็ถือว่าโชคดีของคุณอะไร
00:21:20 → 00:21:22 เงี้ยนะครับสำหรับ EP นี้ก็ไว้ประมาณนี้
00:21:22 → 00:21:24 หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนกดไลก์ให้
00:21:24 → 00:21:27 หน่อยนะครับเราตั้งใจว่าอย่างน้อยๆเดี๋ยว
00:21:27 → 00:21:29 รอบนี้เราจะพยายามไปให้ถึงแสทรัยอยากให้
00:21:29 → 00:21:31 ถึงมากเลยอยากให้ถึงแสนทรัยมากเลยปีนี้ก็
00:21:31 → 00:21:35 อยากจะเอ่อมีวิถีทางในการนำเสนอคอนเทน
00:21:35 → 00:21:38 หลากหลายแบบมากขึ้นแล้วก็อยากให้ทุกคนได้
00:21:38 → 00:21:41 ได้ฟังคทนที่สำคัญๆัเรารู้สึกว่ามันมี
00:21:41 → 00:21:43 หลายๆเรื่องที่เราอยากจะเล่าอยากจะพูดให้
00:21:43 → 00:21:46 ฟังช่องนี้มันไม่ได้แบบมีผู้สนับสนุนอะไร
00:21:46 → 00:21:48 ใหญ่อะไรอย่างี้มันก็แบบเป็นการควักเนื้อ
00:21:48 → 00:21:50 ควักเนื้อครับคักเนื้อเป็นการควักเนื้อก็
00:21:50 → 00:21:54 อยากให้อ่ามีคนรู้จักแล้วก็ได้ดูเนาะหลาย
00:21:54 → 00:21:55 ๆอย่างมากๆนะครับใช่เพราะเรื่องเหล่านี้
00:21:55 → 00:21:57 ผมว่ามันก็มีคนพูดเยอะแหละแต่ว่าอยาก
00:21:57 → 00:22:01 อธิบายเล่าๆแบบเอาจริงๆโลกบางทีเราเห็น
00:22:01 → 00:22:03 แหละว่าคำพูดที่มันฟังยากๆมันเข้าใจยาก
00:22:03 → 00:22:06 เราอยากให้ย่อยให้มันง่ายแล้วกันนะครับ
00:22:06 → 00:22:09 โอเคแล้วมาเจอกันตอนหน้าแน่นอนกับเป็นเลย
00:22:09 → 00:22:10 คับนะครับคลับของเพื่อนที่อยู่ข้างคุณนะ
00:22:10 → 00:22:13 ครับคนส่วนมากนอกเหนือจากที่แบบเอ่อ 2
00:22:13 → 00:22:16 วันแล้วใช่ป่ะก็มีอีกอย่างนึงคือนอนหลับ
00:22:16 → 00:22:20 ไปอ่ะแล้วตื่นมาแล้วปากเบี้ยวแล้วเออ
00:22:20 → 00:22:23 อย่างงี้ก็มีแล้วถามว่าเใช้คำว่าไออาการ
00:22:23 → 00:22:27 ดีสุดล่าสุดเมื่อไหร่อ่ะก่อนนอนก็ก่อนนอน
00:22:27 → 00:22:29 บางทีคือเกิดตอนกลางคืนอ่ะยิ่งไม่รู้เลย
00:22:29 → 00:22:34 โอพวกเนี้ยพ่อเคยดื้อครั้งนึงว่าตอนกลาง
00:22:34 → 00:22:37 คืนน่ะอาบน้ำหลับตาแล้วแบบไม่ไม่สนิทปาก
00:22:37 → 00:22:40 เบี้ยวเออแล้วเคยเป็นก่อแล้วด้วยพ่อเคย
00:22:40 → 00:22:43 เป็นแล้วเราก็แบบว่าเฮ้ยทำไมถึงเป็นแบบ
00:22:43 → 00:22:46 นี้แล้วพ่อก็ดื้อดื้อซสไตล์พ่อเลยพ่อก็
00:22:46 → 00:22:48 ดื้ออย่างดีที่ตอนนั้นน่ะเป็นปลายปราสาท
00:22:48 → 00:22:53 อักเสบอ่าก็คือก็คือเป็นไอ้กไปประสาทตรงเ
00:22:53 → 00:22:56 นี้อักเสบใช่มั้ยเซี่อ่ะเซี่เออตซึ่งตอน
00:22:56 → 00:22:58 นั้นก็แบบก็ลุ้นแล้วรอบนึงว่าแบบพ่อกูจะ
00:22:58 → 00:22:59 เป็นอะไรป่ะเนี่ยอะไรอย่างเงี้ยอแต่หมอ
00:22:59 → 00:23:02 ไม่สนใจนะพวกนี้คือถ้าปากเบี้ยวหน้า
00:23:02 → 00:23:05 เบี้ยวอะไรมาก่อนไปฉกก่อนมาแล้วไม่ใช่โอ
00:23:05 → 00:23:08 สบายใจซึ่งแบบพอแบบเหมือนที่บ้านน่ะมี
00:23:08 → 00:23:11 คอร์ที่ว่าไม่ค่อยไปหาหมออ่ะซึ่งไม่ดีเลย
00:23:12 → 00:23:17 นะครับอย่าทำตามนี่เป็น ncit นะใช่ๆๆก็อื
00:23:17 → 00:23:20 เดี๋ยวต่อตอน 2 แต่ว่าบี Fast ก็ก็จริงๆ
00:23:20 → 00:23:22 ถ้ารู้รู้ก็ดีนะหถึงว่าแบบรู้ไว้สมยก่อน
00:23:22 → 00:23:25 เรียก Fast เอง fst Fast ก็จำให้ง่ายๆ
00:23:25 → 00:23:27 ต่างประเทศทำเป็นเพลงอนะเหรอทำเป็นเพลงมี
00:23:27 → 00:23:31 อิดีเหมือนหมอเจ็บอ่ะเออเล็บโตโรคเี้ยว
00:23:31 → 00:23:33 หนูเออใครใครดูบ้างครับแตแต่งแต่งเพลงม
00:23:33 → 00:23:37 แต่งแงงฟากันเอาดิอะไรวะอดีครับพี่ยกแค้น
00:23:37 → 00:23:39 ไม่
00:23:39 → 00:23:42 ขึ้นไว้ลองไวลองจริงๆก็ดีบอกว่าให้อย่าง
00:23:42 → 00:23:44 น้อยแบบปลูกฝังไว้ได้เด็กๆอ่ะเขาจะได้แบบ
00:23:44 → 00:23:48 เรียนรู้เนาะอทำไมแค้นไหมมีแรงเงี้ยเออ
00:23:49 → 00:23:51 ต้องอะไรเงี้ยเดี๋ยวขำๆอ่ะเดี๋ยวก็จำได้
00:23:51 → 00:23:56 เอาจริงๆเออฝากติดตามด้วยนะครับ