00:00:00 → 00:00:03 ก็สวัสดีครับเจอกันใหม่เช้าวันอาทิตย์กับ
00:00:03 → 00:00:07 ซีรีส์มายเซทแอลแคร์ทำยังไงให้เราหายป่วย
00:00:07 → 00:00:10 เร็วขึ้นโดยเฉพาะคนไข้โรคเรื้อรังก็คือ
00:00:10 → 00:00:14 การปรับใบเสร็จการเข้าใจนอกจากการปรึกษา
00:00:14 → 00:00:17 แพทย์ได้รับยาระบบวินิจฉัยที่ถูกแล้วตัว
00:00:17 → 00:00:20 การปรับมั้ยเสร็จของเราทำให้เราหายป่วย
00:00:20 → 00:00:23 ได้เร็วขึ้นนะวันนี้ก็เป็นตอนที่ 17 ต่อ
00:00:23 → 00:00:27 จากหัวข้อที่แล้วหัวข้อที่แล้วเราพูด
00:00:27 → 00:00:31 เรื่องเล่าเรื่องไม่เหมือนกับการเล่า
00:00:31 → 00:00:35 อาการนะครับวันนี้ก็ต่อจากหัวข้อที่แล้ว
00:00:35 → 00:00:40 คือมาปรึกษาหรือมาสนอง
00:00:40 → 00:00:42 มีความเชื่อ
00:00:42 → 00:00:45 ก็อ่าอันนี้ก็เป็นผมว่าเป็นโจทย์ที่แพทย์
00:00:45 → 00:00:53 ทุกคนนะฮะน่าจะเคยเจอผู้ป่วยประมาณนี้
00:00:53 → 00:00:55 มาปรึกษา
00:00:55 → 00:01:00 แต่มาด้วยเรื่องจริงๆแล้วเนี่ยมาเล่า
00:01:00 → 00:01:04 อาการหรือเล่าเรื่องแต่จริงๆแล้วต้องการ
00:01:04 → 00:01:09 ฟังจากหมอว่าสิ่งที่เขาเชื่อสิ่งที่เขา
00:01:09 → 00:01:12 คิดเนี่ยใช่หรือไม่
00:01:12 → 00:01:17 แต่ถ้าหมอท่านนั้นเห็นด้วยก็จะโอเคแต่ถ้า
00:01:17 → 00:01:21 หมอทั้งนั้นไม่เห็นด้วยคนไข้จะรู้สึกไม่
00:01:21 → 00:01:23 โอเค
00:01:23 → 00:01:26 ก็จะมีคนไข้บางกลุ่มนะฮะซึ่งผมว่าพบไม่
00:01:26 → 00:01:30 น้อยคือเมื่อเวลาข้อป่วยเนี่ยเขาเข้าไป
00:01:30 → 00:01:35 อ่านอ่านในข้อความอ่านในอินเตอร์เน็ตหรือ
00:01:35 → 00:01:39 ข้อความที่ส่งต่อกันมาในโซเชียลนะครับ
00:01:39 → 00:01:44 แล้วก็รู้สึกว่าอาการของเราเนี่ยเป็นแบบ
00:01:44 → 00:01:48 ที่ได้อ่านมาหรือได้รับข้อความมาเพียบเลย
00:01:48 → 00:01:53 เหมือนกันเปียบเลยก็เลยจะมาหาหมอบอกหมอ
00:01:53 → 00:01:56 เนี่ยเรามีอาการอย่างนี้
00:01:56 → 00:02:02 คุณหมอช่วยตรวจตรงนี้ให้หน่อยอ่ะอ่ะ
00:02:02 → 00:02:06 หมอพ่อหมอท้วงว่าเดี๋ยวก่อนนะครับผมขอซัก
00:02:06 → 00:02:10 ประวัติก่อนขอตรวจร่างกายก่อนว่าที่มาที่
00:02:10 → 00:02:14 ไปคืออะไรก่อนที่เราจะไปกระโดดถึงโลกโลก
00:02:14 → 00:02:17 นี้จริงมันมีตั้งหลายลูกเห็นไหมครับ
00:02:17 → 00:02:21 แก่ผู้ป่วยก็จะรู้สึกว่าไม่
00:02:21 → 00:02:24 แต่ดิฉันอ่านมาดิฉันมีอาการอย่างนี้เลย
00:02:24 → 00:02:27 ค่ะ
00:02:27 → 00:02:32 ก็เพราะคุณหมอตรวจหรือซักประวัติเสร็จ
00:02:32 → 00:02:36 ถ้าคนไข้ก็ยังพอหมอวินิจฉัยก็ใกล้ก็ยัง
00:02:36 → 00:02:37 รู้สึกแบบ
00:02:37 → 00:02:41 เหมือนกับไม่แซดที่สบายหรือรู้สึกไม่
00:02:41 → 00:02:44 ไม่โอเคเพราะเข้ามาด้วยเรื่องความเชื่อ
00:02:44 → 00:02:45 เรื่องนี้
00:02:45 → 00:02:50 เขาอยากจะตอบโจทย์เรื่องนี้จบ
00:02:50 → 00:02:51 หัวหน้าโอเคไหมครับ
00:02:51 → 00:02:57 หัวข้อนี้เนี่ยจริงๆก็ขัดกับหลายๆมิติถ้า
00:02:57 → 00:03:00 มิติผู้บริโภค
00:03:00 → 00:03:04 และก็คือผู้บริโภคมาเรื่องอะไรเราต้องตอบ
00:03:04 → 00:03:06 โจทย์เขาได้เรื่องกันนั้นอันนั้นผมเข้าใจ
00:03:06 → 00:03:10 เพราะว่าหมอหลายคนเขาเข้าใจอ่ะ
00:03:10 → 00:03:12 ถ้าสมมติว่าเราซื้อของอะไรเราต้องการให้
00:03:12 → 00:03:15 มันตอบโจทย์ชีวิตเราอะไรถ้ามันไม่ใช่แล้ว
00:03:15 → 00:03:18 ก็เปลี่ยนของนั้นไปซื้อของชิ้นอื่นที่
00:03:18 → 00:03:21 สามารถได้ทำทำโจทย์ของเราได้หรือตอบโจทย์
00:03:21 → 00:03:25 เราได้ฮะอันนี้เราเรียกว่า solution
00:03:25 → 00:03:27 Revenge The
00:03:27 → 00:03:32 มีผู้ดับหรือ service สนี้เข้าใจแต่ทีนี้
00:03:32 → 00:03:35 พอมาอัพพลายกับทางการแพทย์เนี่ยจะทำให้
00:03:35 → 00:03:39 ผู้ป่วยเนี่ยเสียประโยชน์
00:03:39 → 00:03:41 อ่าเดี๋ยวผมค่อยเก็บไว้ว่าข้อดีข้อเสีย
00:03:41 → 00:03:44 ของแนวทางอย่างนี้มันเป็นยังไงจะเอาเรามา
00:03:44 → 00:03:46 ดูเห็นภาพก่อนเราไม่เห็นภาพในมุมมองของ
00:03:46 → 00:03:50 แพทย์และคนไข้ก่อนอย่างยกตัวอย่างล่าสุด
00:03:50 → 00:03:55 มีผู้ป่วยท่านนึงเนี่ยมาปรึกษาเรื่อง
00:03:55 → 00:04:00 เสมหะในลำคอเรื้อรังนะครับก็หลังจากซัก
00:04:00 → 00:04:03 ประวัติตรวจร่างกายก็ตรงไปตรงมานะประวัติ
00:04:03 → 00:04:06 เค้าเนี่ยมีจามีน้ำมูกไหลลงคอมีคัดจมูกนะ
00:04:06 → 00:04:09 ครับมีกระตุ้นด้วยน้ำเย็นอากาศเย็นฝุ่น
00:04:09 → 00:04:13 ฟ้าและอกตรงไปตรงมา
00:04:13 → 00:04:15 ฮะซึ่งเป็นผู้ป่วยที่จริงๆแล้วดูมีการ
00:04:16 → 00:04:20 ศึกษาเป็นระดับผู้บริหารนะครับแล้วก็
00:04:20 → 00:04:24 ปัจจุบันก็คุณก็เสียละตีกอล์ฟบ้างทำงาน
00:04:24 → 00:04:24 บ้าง
00:04:24 → 00:04:29 ให้ดูว่าขนาดมีได้ทุกมิตินะอย่าเพิ่งไป
00:04:29 → 00:04:32 โทษว่าคนไม่มีการศึกษาถึงจะคิดอย่างนั้น
00:04:32 → 00:04:35 ไม่ใช่ความคิดหรือความเชื่อมันเราเจอกัน
00:04:35 → 00:04:38 ได้ทุกระดับของการศึกษาซึ่งจริงๆแล้วเรา
00:04:38 → 00:04:41 ไม่ควรเอาคำว่าการศึกษามาเป็นบรรทัดฐานใน
00:04:41 → 00:04:44 การแยกผมอยากจะใช้คำว่าความเชื่อมนุษย์
00:04:44 → 00:04:47 มากกว่าเพราะความเชื่อมนุษย์เนี่ยมันไร้
00:04:47 → 00:04:51 ขอบเขตมันไม่จำเป็นต้องมีการศึกษาสูงหรือ
00:04:51 → 00:04:54 การศึกษาที่น้อยไม่จำเป็นเลยครับความ
00:04:54 → 00:04:57 เชื่อมนุษย์หรือความช่วยผู้ป่วยเนี่ยยัง
00:04:57 → 00:05:01 ไงฮะมันใครทันนี้ก็เอิ่มอ๋อครับผมเริ่ม
00:05:01 → 00:05:04 เส้นด้ายและหลังจากตรวจร่างกาย 2 ป้องเลย
00:05:04 → 00:05:07 เสร็จปุ๊บเอ๊ะเหมือนกับเขายังไม่โอเคเส้น
00:05:07 → 00:05:10 ด้วยว่าเขายังสีหน้าท่าทางยังเหมือนกับ
00:05:10 → 00:05:13 ขาดอะไรบางอย่างก็เลยถามเขาว่าก็อยากให้
00:05:14 → 00:05:17 ผมช่วยอะไรครับมีอะไรสงสัยไหมอ่ะเขาก็เลย
00:05:17 → 00:05:22 บอกผมสงสัยครับผมกลัวว่าจะเป็นมะเร็งหรือ
00:05:22 → 00:05:28 กลัวว่าจะมีก็อยู่ตรงนี้อ่ะโอเคเราเข้าใจ
00:05:28 → 00:05:32 ก็บอกเขาอย่างนี้ครับจากการซักประวัติ
00:05:32 → 00:05:35 ตรวจร่างกายเนี่ยแล้วก็ทิศทางเนี่ยมันน่า
00:05:35 → 00:05:38 จะรอไปทางเรื่องง่ายๆก็คือเรื่องปกภูมิ
00:05:38 → 00:05:41 แพ้หลอดลมภูมิแพ้จมูกนะครับแต่เรื่อง
00:05:41 → 00:05:44 มะเร็งจริงๆมันมักจะมาเรื่องอาการหนึ่ง
00:05:44 → 00:05:50 สองสามเช่นมีเสียงแหบนะมีเสมหะที่ลำคอคือ
00:05:50 → 00:05:52 หนึ่งในนั้นแน่นอนครับแต่มันจะไม่อธิบาย
00:05:52 → 00:05:56 อาการที่น้ำมูกไหลลงคอคัดจมูกจำนะครับก็
00:05:56 → 00:06:00 ถ้าเป็นมะเร็งจริงๆมันไม่ควรจะเดี๋ยวดี
00:06:00 → 00:06:02 เดี๋ยวหาย a วันไหนวันหยุดไปเที่ยวตาก
00:06:02 → 00:06:05 อากาศไม่เห็นมีอาการเลยเนี่ยนะครับแล้วก็
00:06:05 → 00:06:06 เป็นมะเร็งจริงมันต้องเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ
00:06:06 → 00:06:09 มันมั่นคงเว้ยไม่เท่าเดิมเลยเนี้ยอ่ะแต่
00:06:09 → 00:06:12 ผมว่าแล้วว่าเท่าที่ซักประวัติตรวจร่าง
00:06:12 → 00:06:14 กายผมไม่เราอย่าเพิ่งคิดร้ายเลยพึ่ง
00:06:15 → 00:06:18 กระโดดไปตรงนั้นก่อนนะคือมาปรึกษาแพทย์
00:06:18 → 00:06:22 น้องให้แพทย์ให้คำวินิจฉัยและลองทำตามโดย
00:06:22 → 00:06:26 เรากำหนดขอบเขตว่ารอดูสัก 1 เดือนหรือเรา
00:06:26 → 00:06:28 ดูซักสิบถึงสองอาทิตย์ดูก็ได้ครับทิศทาง
00:06:28 → 00:06:32 หลังการรักษาโอเคมั้ยฮะอ่าสำหรับคนทั่วไป
00:06:32 → 00:06:36 ฟังอย่างนี้ก็จะรู้สึกโอเคได้ค่ะหมอเพราะ
00:06:36 → 00:06:39 ว่าอะไรเพราะว่าถ้าเราจะไปมุ่งหามะเร็ง
00:06:39 → 00:06:41 กล่องเสียงมันก็ต้องเริ่มจากการส่องกล้อง
00:06:41 → 00:06:44 ที่ใหญ่ขึ้นลงไปที่หลอดลมหรืออาจจะต้องไป
00:06:44 → 00:06:49 ซื้อที่สแกนแล้วแต่ว่าเขากังวลอะไรแค่ไหน
00:06:49 → 00:06:51 คะหรือเป็นเชื้อราเยาว์กังวลที่เชื้อรา
00:06:51 → 00:06:55 ได้ไหมครับมองนี่ไปไกลใช่ไหมไปอ่านมาไป
00:06:55 → 00:06:58 ฟังมารู้สึกมันน่ากลัวเนี่ยเห็นฆ่าเชื้อ
00:06:58 → 00:07:01 ราในแอร์ที่บ้านก็เลยกลัวว่าเป็นเชื้อรา
00:07:01 → 00:07:02 เกาะหรือเปล่า
00:07:02 → 00:07:06 โอเคไปผิดครับความเชื่อมันตัวนี้ไม่ผิดก็
00:07:06 → 00:07:10 ตอบใดที่เราเราไม่ได้รู้ทุกเรื่องแน่นอน
00:07:10 → 00:07:13 ว่าเราก็ต้องกังวลหรืออยากจะปกป้องร่าง
00:07:13 → 00:07:16 กายไว้ก่อนอันนี้เป็นเรื่องปกติแต่เมื่อ
00:07:16 → 00:07:19 มาปรึกษาแพทย์แล้วเนี่ยผมแนะนำอย่างนี้
00:07:19 → 00:07:20 ครับ
00:07:20 → 00:07:25 ก็คือเราควรจะฟังแพทย์ก่อน
00:07:25 → 00:07:27 และก็เชื่อเหมือนกันว่าแพทย์ก็ไม่ได้ถูก
00:07:27 → 00:07:31 ทุกคนผมเองก็จะไม่ได้ทุกครั้งก็เข้าใจตรง
00:07:31 → 00:07:34 นี้แต่หน้าที่ของแพทย์เนี่ยอาชีพเขาทำ
00:07:34 → 00:07:38 เรื่องนี้โดยตรงแล้วเขาทำมาตลอดชีวิตผม
00:07:38 → 00:07:40 ว่าอย่างน้อยคุณควรจะให้ประโยชน์หรือ
00:07:40 → 00:07:43 benefits of ดาวหรือประโยชน์กับจำเลย
00:07:43 → 00:07:45 เพื่อให้ประโยชน์กับแพทย์ก่อน
00:07:45 → 00:07:48 แต่ผมไม่รู้จะพูดอะไรทำให้เราปรับความคิด
00:07:48 → 00:07:52 นี้ได้นะแต่ผมจะแนะนำว่าเราควรจะเชื่อเขา
00:07:52 → 00:07:55 คอร์ดเพราะเราไปปรึกษาเขาแล้วเขาได้ตรวจ
00:07:55 → 00:07:59 เราแล้วใช่ไหมครับลองให้เขารักษาดุอะอัน
00:07:59 → 00:08:03 ที่ 2 ถ้าเราอ่ะในฐานะคนไข้อาจจะกำหนด
00:08:03 → 00:08:06 ระยะเวลาในการดูว่าโอเค
00:08:06 → 00:08:09 ก็แล้วแต่รูปนะครับบางลูกสิบวันสอง
00:08:09 → 00:08:12 อาทิตย์อาจจะไม่เห็นผลอาจจะ1เดือน2เดือน
00:08:12 → 00:08:15 3เดือนหรือเราไม่มีความรู้แล้วก็ถามหมอ
00:08:15 → 00:08:18 เลยว่าโลกที่ดีฉันกำลังรักษากับคุณหมอ
00:08:18 → 00:08:21 เนี่ยคาดว่าจะเห็นผลภายในกี่อาทิตย์อีวัน
00:08:21 → 00:08:25 กี่เดือนอ่ะแล้วเราก็ลองตั้งหน้าตั้งตาทำ
00:08:25 → 00:08:29 ในสิ่งที่เขาแนะนำและรักษาลองติดตามไปตาม
00:08:29 → 00:08:30 นั้น
00:08:30 → 00:08:33 แต่ในทางตรงกันข้ามทะเลมาด้วยความเชื่อ
00:08:33 → 00:08:38 แล้วเนี่ยมาได้เลยคือเชื่อมาแล้วมาฟัง
00:08:38 → 00:08:41 แพทย์เพื่อที่จะสนองความเชื่อของตนเอง
00:08:41 → 00:08:47 เนี่ยมันจบเลยมันไปต่อไม่ได้
00:08:47 → 00:08:51 แต่ถ้าคนไข้มานั่งแล้ว
00:08:51 → 00:08:54 ก็รอเมื่อไหร่หมอจะพูดสิ่งที่เขาอ่านมา
00:08:54 → 00:08:57 เนี่ยเดี๋ยวเชื่อใช่เลยค่ะหมอใช่เลยค่ะ
00:08:57 → 00:09:01 นุชเป็นแบบนี้เลยค่ะหรือใช่เลยค่ะหมอดู
00:09:01 → 00:09:04 อ่านมามาเป็นอย่างนี้เลยค่ะเห็นคนไข้ท่าน
00:09:04 → 00:09:09 นึงเนี่ยผมก็พูดทั้งหมดเลยนะว่า
00:09:09 → 00:09:11 แต่เท่าที่ซักประวัติตรวจร่างกายเนี่ย
00:09:11 → 00:09:15 เสมหะที่อยู่ในคอหรือน้ำมูกเนี่ยน่าจะมา
00:09:15 → 00:09:18 จากบริเวณนี้
00:09:18 → 00:09:23 วันพุธตั้งนานฮะสุดท้ายเขาก็ใช่ค่ะหมอแต่
00:09:23 → 00:09:29 หนูกังวลเรื่องเรื่องเรื่องว่าจะมีก็หรือ
00:09:29 → 00:09:31 เรื่องจะมีอะไรร้ายแรงซึ่งหนูก็ไม่รู้ว่า
00:09:31 → 00:09:35 มันจะมีอะไรแต่หนูกังวลเรื่องร้ายแรงให้
00:09:35 → 00:09:39 ผมก็อีกผมก็อธิบายไปนานมากนักก็อธิบายอีก
00:09:39 → 00:09:42 รอบนึงอ้ะมันไข้ลองตั้งใจฟังนะครับอาการ
00:09:42 → 00:09:45 ของเรามาเรื่องหนึ่งสองสามสี่การตรวจร่าง
00:09:45 → 00:09:50 กายเราเจอ 1234 ขึ้นอาการและตรวจร่างกาย
00:09:50 → 00:09:53 มันอธิบายได้เป็นเรื่องเดียวกันอ้ะทำ
00:09:53 → 00:09:56 เสร็จถึงที่เราคิดเนี่ยคือเรื่องนี้ซึ่ง
00:09:56 → 00:09:59 มันไม่อธิบายอาการข้อที่ 1 และข้อที่ 2
00:09:59 → 00:10:01 และตรวจร่างกายมันไม่เจอเรื่องพวกนี้เลย
00:10:01 → 00:10:05 นะครับผมคิดว่าเราให้ประโยชน์ก่อนนะอย่า
00:10:05 → 00:10:06 เพิ่งไปคิดร้ายกับตัวเองอย่าเพิ่งไปคิด
00:10:06 → 00:10:10 แย่ไปเกาะนั้นเราจะไม่มีความสุขน้องตั้ง
00:10:10 → 00:10:13 ใจรักษาดูก่อนมั้ยใช่ไหมครับผมพูดขนาดนี้
00:10:13 → 00:10:16 ล่ะผ่านไปสักพักนึงเขาก็
00:10:16 → 00:10:20 แต่หนูเนี่ยนะแล้วก็ออกนอกประเด็นรู้
00:10:20 → 00:10:23 สังเกตว่าบางทีเนี่ยเรานั่งอยู่เนี่ยหนู
00:10:23 → 00:10:27 จะมีขึ้นมาอย่างนี้ก็นี่แปลกว่าทำไมหนู
00:10:27 → 00:10:31 เป็นอย่างนี้ต้องที่หนูเนี่ยเห็นไหมครับ
00:10:31 → 00:10:35 เราคุยเรื่องอะไรเข้าไปเรื่องอะไรอ่ะ
00:10:35 → 00:10:37 มีแต่ถ้าผมเมื่อไหร่ผมพูดในสิ่งที่เขา
00:10:37 → 00:10:42 เชื่อเขาจะฟังผมทั้งทีเลยอ่ะ
00:10:42 → 00:10:45 แต่เมื่อไหร่ผมพูดในสิ่งที่เขาอ่านมาหรือ
00:10:45 → 00:10:47 ที่เขากังวลมากที่สุดเขาจะตั้งใจฟังผมทัน
00:10:47 → 00:10:48 ที
00:10:48 → 00:10:52 แต่สิ่งที่เราพยายามตรวจและพยายามจะบอก
00:10:52 → 00:10:55 เขาว่ามันไม่ใช่มันจะไม่ค่อยฟังเขาจะกลับ
00:10:55 → 00:10:58 ไปคิดในเรื่องของเขา
00:10:58 → 00:11:02 คะอันนี้มีปัญหาอันนี้จะทำให้เขาอันที่
00:11:02 → 00:11:05 หนึ่งเลยมาดูข้อเสียนะเขาจะหายป่วยยากมาก
00:11:05 → 00:11:08 เพราะ 2
00:11:08 → 00:11:11 มีการรักษาของเขาจะมีอุปสรรคเยอะ
00:11:11 → 00:11:13 เตือนพรุ่งนี้คนไข้ประมาณนี้เนี่ยกลับ
00:11:13 → 00:11:17 บ้านไปเนี่ยจะตอบ Ya เองหมดเลยเพราะว่า
00:11:17 → 00:11:20 เขามีความเชื่อฉันไม่มีอาการนี้นี้จะไม่
00:11:20 → 00:11:24 กินนี่ดีกว่าคืนนี้ไป 3-4 วันพอละจะรู้
00:11:24 → 00:11:26 สึกว่าเดี๋ยวยามันจะเยอะเกินกันจะหยุด
00:11:26 → 00:11:30 ก่อนก็จะปรับเองอิมโพรไวส์เองที่บ้านหรือ
00:11:30 → 00:11:33 สามีจริงๆเขาอาจจะเปลี่ยนหมออีกเราเลือก
00:11:33 → 00:11:35 Shopping เปลี่ยนหมอไปอีกเพราะมีความ
00:11:35 → 00:11:37 เชื่อของเขา
00:11:37 → 00:11:41 เบอร์ 4 กูจะสีเงินไปเรื่อยๆมันจะต้องถึง
00:11:41 → 00:11:45 ขั้นไปทำ CT ไปเข้าอุโปไปที่สีไปสารพัด
00:11:45 → 00:11:49 เลยทำอะไรเพื่อสนองความเชื่อตัวเอง
00:11:49 → 00:11:52 ยังไม่จบกูก็จะวนไปเรื่อยๆผ่านไป 6 เดือน
00:11:52 → 00:11:56 8 เดือนก็จะเนี่ยไม่หายแล้วก็จะสุดท้าย
00:11:56 → 00:11:59 จะลงเลยว่าไปตรวจมาหลายที่แล้วคำพูดที่
00:11:59 → 00:12:03 ตั้งใจฟังเดียวไปตรวจมาหลายที่แล้วไปหา
00:12:03 → 00:12:07 หมอเก่งๆที่เขาว่าดังๆไปมาหมดแล้วไม่มี
00:12:07 → 00:12:09 ใครช่วยฉันได้สักที
00:12:09 → 00:12:12 คะอันนี้เราต้องต้องระวัง
00:12:12 → 00:12:17 ก็เพราะว่ามันมีสองมิติที่หมอเก่งๆหมอ
00:12:17 → 00:12:20 ช่วยเขาไม่ได้จริงเนี่ยต้องถามว่าเขาติด
00:12:20 → 00:12:23 ตามค่ะหมอท่านนั้นอย่างต่อเนื่องไหม
00:12:23 → 00:12:26 อันนี้อันนี้ต้องระวังหรือมันเป็นอุปสรรค
00:12:26 → 00:12:31 ของของตัวคนไข้อีกอันนี้ผมพูดในมุมมองของ
00:12:31 → 00:12:34 มันเสร็จนะครับมันมองได้หลายแบบแต่สุด
00:12:34 → 00:12:37 ท้ายนี้ผมอยากให้เราเห็นภาพว่าเมื่อเรา
00:12:37 → 00:12:39 เล่าอาการ
00:12:39 → 00:12:43 เสร็จเวลาแพทย์เข้าตรวจเวลาแพทย์เขา
00:12:43 → 00:12:46 วินิจฉัยเราต้องเก็บความคิดความเชื่อเรา
00:12:46 → 00:12:50 ไว้ก่อนแล้วฟังในสิ่งที่เขาพูดก่อนเราฟัง
00:12:50 → 00:12:53 แล้วค่อยมาวิเคราะห์เพราะถ้าเราคิดและเรา
00:12:53 → 00:12:56 เชื่อในสิ่งที่เราเราปักหมุดไว้แล้วเนี่ย
00:12:56 → 00:12:59 มันไปต่อไม่ได้อ่ะ
00:12:59 → 00:13:02 ค่ะอันนี้ก็เป็นอีกหัวข้อที่ผมคิดว่า
00:13:02 → 00:13:06 สำคัญไม่น้อยๆนะครับยังไงหวังว่าคงจะได้
00:13:06 → 00:13:09 ประโยชน์วางว่าเราไปพบแพทย์เนี่ยเราจะฝึก
00:13:09 → 00:13:13 ฝึกพฤติกรรมหรือฝึกมันเสร็จเรื่องมา
00:13:13 → 00:13:16 ปรึกษาแพทย์ไม่ใช่มาสนองความเชื่อของเรา
00:13:17 → 00:13:20 นะครับอันนี้ลองดุยอมรับว่าแพทย์ไม่รู้
00:13:20 → 00:13:25 ทุกเรื่องนี้ผมยอมรับ Had เองก็รู้ว่าไม่
00:13:25 → 00:13:27 มีใครรู้ได้ทุกเรื่องแต่อย่างน้อยใน
00:13:27 → 00:13:30 เรื่องที่เขาทำงานอยู่เป็นประจำผมว่าเขา
00:13:30 → 00:13:34 น่าจะรู้มากกว่ามากกว่าคนที่เขียนออนไลน์
00:13:34 → 00:13:37 หรือมากกว่าคนที่มามาพูดนะครับ
00:13:37 → 00:13:40 ก็หวังว่าองค์จะได้ประโยชน์อาทิตย์นี้
00:13:40 → 00:13:43 แล้วเจอกันใหม่อาทิตย์หน้า
00:13:43 → 00:13:46 อาทิตย์นี้หรือเดือนหน้าเนี่ยน่าจะลงเอย
00:13:46 → 00:13:49 ได้มากขึ้นแล้วเพราะว่าเสร็จแล้วมันที่ผม
00:13:49 → 00:13:52 อันนี้ก็เป็นมุมพอดแคสต์เล็กๆนะครับ
00:13:52 → 00:13:55 เดี๋ยวค่อยๆทำไปเรื่อยๆไม่รีบตอนนี้ไม่
00:13:55 → 00:13:58 รีบล่ะอันนี้กลับไปทำในสิ่งที่ต้องทำล่ะ
00:13:58 → 00:14:01 ก็คือผมเสร็จ
00:14:01 → 00:14:04 The Factor หรือว่า Chapter ใหม่และก็
00:14:04 → 00:14:09 ขอบคุณทุกคนนะครับที่ที่ยังโอกาสยังยังๆ
00:14:09 → 00:14:12 ให้เกียรตินะครับที่เข้ามาติดตามผมแล้วก็
00:14:12 → 00:14:15 มาฟังพอดแคสต์ผมเท่านั้นที่ผมหยุดทำไป
00:14:15 → 00:14:20 เป็นเดือนกว่านะครับก็ขอให้เกิดประโยชน์
00:14:20 → 00:14:23 กับท่านทุกคนนะครับขอให้โชคดีครับสวัสดี
00:14:23 → 00:14:24 ครับ
00:14:24 → 00:14:32 [เพลง]