00:00:00 → 00:00:01 สวัสดีทุกคนนะครับวันนี้ก็เป็นตอนที่ 6
00:00:02 → 00:00:04 แล้วนะครับของซีรียส์ที่เราคุยกันอยู่นะ
00:00:04 → 00:00:06 ครับก็คืออธิบายเรื่องของการทำงานของหัว
00:00:06 → 00:00:08 ใจและก็หลอดเลื่อนนะครับวันนี้เนี่ยก็จะ
00:00:08 → 00:00:11 เป็นเรื่องของภาวะหัวใจวายนะครับที่อยาก
00:00:11 → 00:00:13 จะเล่าเรื่องนี้ให้ฟังนะครับต้องบอกว่า
00:00:13 → 00:00:15 ส่วนนึงก็คือมันมันพบได้ค่อนข้างบ่อย
00:00:15 → 00:00:17 เหมือนกันนะครับอย่างที่ 2 นะครับก็คือ
00:00:17 → 00:00:20 ว่าคำนี้เนี่ยคนที่อยู่ในวงการแพทย์นะ
00:00:20 → 00:00:22 ครับหรือว่าบุคลากรทางการแพทย์ต่างๆหมอ
00:00:22 → 00:00:25 พยาบาลเนี่ยจะใช้ต่างไปจากที่ใช้ในภาษา
00:00:25 → 00:00:28 ทั่วไปหลายครั้งก็เลยทำให้เกิดการสื่อสาร
00:00:28 → 00:00:30 ที่มันเหมือนกับคลาดเคลื่อนได้ก็เลยคิด
00:00:30 → 00:00:32 ว่าเป็นเรื่องที่น่าเอามาคุยกันนะครับที
00:00:32 → 00:00:35 นี้เรามาเริ่มต้นจากคำถามแรกก่อนว่าถ้า
00:00:35 → 00:00:37 สมมุติพูดถึงคำว่าหัวใจไววายขึ้นมานะครับ
00:00:37 → 00:00:40 ภาพที่ขึ้นมาในหัวนะครับหรือที่คิดขึ้นมา
00:00:40 → 00:00:45 เนี่ยคุณจะคิดถึงภาพอะไร
00:00:45 → 00:00:48 ครับปกตินะครับเวลาพูดถึงคำว่าหัวใจวายนะ
00:00:48 → 00:00:50 ครับผมเชื่อว่ามีคนไม่น้อยเลยนะครับจะนึก
00:00:50 → 00:00:52 ภาพของคนที่อยู่ๆก็เจ็บหน้าอกนะครับเอา
00:00:52 → 00:00:54 มือจำหน้าอกแล้วก็ล้มลงไปและหลายครั้ง
00:00:54 → 00:00:56 เนี่ยเวลาได้ยินคำว่าหัวใจวายเนี่ยจะนึก
00:00:56 → 00:00:59 ถึงว่ามันเป็นความรุนแรงถึงขั้นที่เอ่อ
00:00:59 → 00:01:01 เรียกว่าเกือบจะเสียชีวิตนะครับหรือว่าทำ
00:01:01 → 00:01:04 ให้เสียชีวิตได้ง่ายๆซึ่งที่เราคุยกันไป
00:01:04 → 00:01:05 ใน Episode ที่แล้วนะครับเราก็จะพอรู้
00:01:05 → 00:01:07 แล้วว่าไอ้ลักษณะของการที่เจ็บหน้าอกนะ
00:01:07 → 00:01:09 ครับเอามือจับหน้าอกขึ้นมาเนี่ยมันเป็น
00:01:09 → 00:01:12 เรื่องของคนที่มีภาวะกล้ำในหัวใจขาดเลือด
00:01:12 → 00:01:15 นะครับไม่ใช่ไม่ใช่ภาวะของหัวใจวายทีนี้
00:01:15 → 00:01:17 หัวใจวายในคำนิยามของทางการแพทย์เี่มัน
00:01:17 → 00:01:20 คืออะไรมันคือภาวะที่ตัวหัวใจจเนี่ยมันมี
00:01:20 → 00:01:23 ปัญหาแล้วทำให้การบีบเลือดเป็นส่วนต่างๆ
00:01:23 → 00:01:25 ของร่างกายเนี่ยมันทำได้ไม่ดีทำให้ส่วน
00:01:25 → 00:01:27 ต่างๆของร่างกายเนี่ยขาดเลือดหรืออาจจะ
00:01:27 → 00:01:30 เทียบง่ายๆว่าเหมือนกับปั๊มที่มันเสียนะ
00:01:30 → 00:01:31 ครับแล้วทำให้น้ำที่ไปเลี้ยงเอ่อหรือว่า
00:01:31 → 00:01:34 ปั๊มที่ไปที่ส่วนต่างๆของอาคารเนี่ยมันทำ
00:01:34 → 00:01:36 ได้ไม่ดีนะครับน้ำเนี่ยไม่ค่อยพอใช้แล้ว
00:01:36 → 00:01:38 อาการของผู้ป่วยเนี่ยก็ไม่จำเป็นจะต้อง
00:01:38 → 00:01:41 รุนแรงถึงขั้นใกล้เสียชีวิตนะครับผู้ป่วย
00:01:41 → 00:01:43 ที่เป็นโรคหัวใจวายนะครับหัวใจล้มเหลว
00:01:43 → 00:01:45 เนี่ยจำนวนมากสามารถที่จะอยู่ที่บ้านนะ
00:01:45 → 00:01:47 ครับกินข้าวได้นั่งดูทีวีได้แต่แน่นอนว่า
00:01:47 → 00:01:50 อาจจะมีอาการนะครับอาการของภาวะหัวใจล้ม
00:01:50 → 00:01:52 เหลวหรือหัวใจวายเนี่ยร่วมด้วยก็จะเป็น
00:01:52 → 00:01:54 เรื่องของอาการหอบนะครับที่เกิดจากภาวะ
00:01:55 → 00:01:58 น้ำท่วมปอดหรือว่ามีอาการบวมตามแขนขาหรือ
00:01:58 → 00:02:00 ว่ามีลักษณะของท้องบวมน้ำ
00:02:00 → 00:02:03 ซึ่งคำอธิบายนะครับว่าทำไมถึงได้มีน้ำ
00:02:03 → 00:02:05 ท่วมปอดทำไมถึงมีการบวมตามแขมขาเนี่ย
00:02:05 → 00:02:08 เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังนะครับพอเราเข้าใจ
00:02:08 → 00:02:10 กลไกนะครับมันจะเห็นภาพตรงเได้ชัดขึ้นว่า
00:02:10 → 00:02:13 อาการมันเกิดจากอะไรแต่ก่อนจะไปถึงตรง
00:02:13 → 00:02:15 นั้นนะครับผมอยากจะชวนมาเริ่มต้นที่คำถาม
00:02:15 → 00:02:20 ว่าอะไรนะครับที่ทำให้คนเนี่ยหัวใจวายได้
00:02:20 → 00:02:24 บ้างคำถามนี้จริงๆมันก็คือถามว่าอะไรที่
00:02:24 → 00:02:27 ทำลายหัวใจเราได้บ้างอย่างแรกเลยนะครับก็
00:02:27 → 00:02:29 คือเป็นภาวะที่พบได้บ่อยมากแล้วก็เป็น
00:02:29 → 00:02:31 เรื่องที่เราคุยกันไปแล้วใน Episode ที่
00:02:31 → 00:02:33 แล้วนะครับก็คือเรื่องของปัญหาที่เกิดที่
00:02:33 → 00:02:36 เส้นเลือดหัวใจก็คือตัวเส้นเลือดหัวใจ
00:02:36 → 00:02:38 เนี่ยมันตีบหรือมันอุดตันทำให้เลือดเ
00:02:39 → 00:02:42 มามันเลี้ยงที่หัวใจน้อยเมื่อเลือดมาน้อย
00:02:42 → 00:02:44 เนี่ยตัวเซลล์กล้ามเนื้อของหัวใจมันก็ขาด
00:02:44 → 00:02:46 เลือดซึ่งบางครั้งเนี่ยมันก็ทำให้บริเวณ
00:02:46 → 00:02:48 กล้ามเนื้อเนี่ยมันตายไปเลยก็ได้นะครับ
00:02:48 → 00:02:51 แล้วพอตายเสร็จมันก็ไม่ฟื้นทีนี้พอถ้า
00:02:51 → 00:02:53 กล้ามเนื้อหัวใจเนี่ยมันตายกินบริเวณค่อน
00:02:53 → 00:02:55 ข้างกว้างเนี่ยมันก็จะมีผลต่อการบีบตัว
00:02:55 → 00:02:58 ของหัวใจทำให้ไม่สามารถปั๊มเลือดไปส่วน
00:02:58 → 00:03:00 ต่างๆของร่างกายได้ดีก็จะนำไปสู่ภาวะหัว
00:03:00 → 00:03:03 ใจวายได้อย่างที่ 2 นะครับก็คือเรื่องของ
00:03:03 → 00:03:05 ภาวะความดันโลหิตสูงนะครับโดยเฉพาะคนที่
00:03:05 → 00:03:08 เป็นมานานๆหลายๆปีเนี่ยสิ่งที่เกิดขึ้นก็
00:03:08 → 00:03:11 คือหัวใจมันต้องต่อสู้กับแรงความดันที่
00:03:11 → 00:03:13 มันสูงถูกมั้ยครับก็คือมันต้องปั๊มตัวบีบ
00:03:13 → 00:03:15 เลือดเข้าไปในเส้นเลือดที่มีแรงดันสูงหัว
00:03:15 → 00:03:19 ใจก็เลยต้องทำงานหนักเมื่อถ้ามันดำเนินไป
00:03:19 → 00:03:21 หลายๆปีเนี่ยกล้ามเนื้อหัวใจมันก็จะทนไม่
00:03:21 → 00:03:23 ไหวนะครับก็จะเกิดการเสียหายแล้วสุดท้าย
00:03:23 → 00:03:25 เนี่ยก็จะนำไปสู่ภาวะหัวใจวายได้อย่างที่
00:03:25 → 00:03:28 3 นะครับก็จะเป็นการบาดเจ็บของก้ามือหัว
00:03:28 → 00:03:30 ใจจากไซ H อื่นๆนะครับครับอาจจะเป็น
00:03:30 → 00:03:32 เรื่องของติดเชื้อไวรัสก็ทำได้นะครับทำ
00:03:32 → 00:03:34 ให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหรือว่า
00:03:34 → 00:03:37 เรื่องของคนที่ดื่มแอลกอฮอล์มากๆนะครับก็
00:03:37 → 00:03:40 จะมีผลต่อผลเสียต่อกล้ามเนื้อหัวใจได้
00:03:40 → 00:03:42 สาเหตุอย่างที่ 4 นะครับที่อาจจะนำไปสู่
00:03:42 → 00:03:45 ภาวะหัวใจวายเนี่ยก็คือเป็นเรื่องของตัว
00:03:45 → 00:03:47 ลิ้นหัวใจก็คือตัวกล้ามเนื้อไม่มีปัญหา
00:03:48 → 00:03:50 อะไรบีบได้ดีแต่ว่าปัญหาก็คือลิ้นหัวใจ
00:03:50 → 00:03:52 เนี่ยที่เราเคยเทียบว่ามันเหมือนเป็น
00:03:52 → 00:03:56 ประตูเนี่ยมันเกิดปัญหาขึ้นเช่นถ้าลิ้น
00:03:56 → 00:03:58 หัวใจมันตีบมันก็จะเหมือนประตูที่มันฝืด
00:03:58 → 00:04:00 หมายความว่าหัวใจเนี่ยมันพยายามจะบีบตัว
00:04:00 → 00:04:03 ปกติแต่เลือดมันไม่สามารถออกไปได้คือมัน
00:04:03 → 00:04:05 ต้องไปสู้กับลิ้นหัวใจที่มันตีบอยู่หรือ
00:04:05 → 00:04:07 ว่าเหมือนประตูที่มันฝืดทำให้หัวใจเนี่ย
00:04:07 → 00:04:11 ต้องใช้แรงเยอะขึ้นพอบีบแรงๆนานๆเข้า
00:04:11 → 00:04:13 เนี่ยกล้ามเนื้อหัวใจเนี่ยผ่านเวลาผ่านไป
00:04:13 → 00:04:15 เป็นปีๆปๆเนี่ยกล้ามเนื้อหัวใจก็จะเสีย
00:04:15 → 00:04:18 หายหรือถ้าเป็นภาวะเล่นหัวใจรั่วเนี่ยก็
00:04:18 → 00:04:21 อาจจะนำไปสู่ภาวะหัวใจวายได้นะครับเช่น
00:04:21 → 00:04:23 เหมือนกับว่าพอหัวใจมันบีบเลือดออกไปแล้ว
00:04:23 → 00:04:25 นะครับคือเลือดเนี่ยเข้ามาในเส้นเลือด
00:04:25 → 00:04:26 เรียบร้อยะแต่ด้วยความที่เล้นหัวใจเนี่ย
00:04:27 → 00:04:29 มันรั่วก็คือมันไม่สามารถจะปิดได้ตอนที่
00:04:29 → 00:04:31 หัวใจมันมันคลายตัวเนี่ยเลือดที่ออกไป
00:04:31 → 00:04:33 แล้วมันก็กลับเข้ามาใหม่ทีนี้ปัญหาก็คือ
00:04:33 → 00:04:35 ว่าเลือดที่กลับเข้ามาเนี่ยเมื่อปนกับ
00:04:35 → 00:04:38 เลือดที่มาจากเอ่อหัวใจอีกห้องนึงนะครับ
00:04:38 → 00:04:41 มันก็เหมือนกับมาเพิ่มจำนวนปริมาณเลือดเ
00:04:41 → 00:04:43 มันเพิ่มขึ้นทำให้หัวใจเนี่ยต้องทำงาน
00:04:43 → 00:04:45 หนักขึ้นแล้วถ้าเป็นอย่างนี้ไปนานๆหลายๆ
00:04:45 → 00:04:48 ปีเนี่ยกล้ำในหัวใจเนี่ยก็จะเสียหายได้ก็
00:04:48 → 00:04:50 นำไปสู่ภาวะหัวใจวายได้สาเหตุอย่างที่ 5
00:04:51 → 00:04:53 นะครับอาจจะเป็นเรื่องของระบบไฟฟ้านะครับ
00:04:53 → 00:04:55 อย่างที่คุยกันไปก็คือตัวหัวใจของเรา
00:04:55 → 00:04:58 เนี่ยมันเวลามันเต้นเนี่ยจังหวะการเต้น
00:04:58 → 00:05:01 ต่างๆมันอาศัยการทำงานของของไฟฟ้าดังนั้น
00:05:01 → 00:05:03 แม้ว่ากล้ามเนื้อหัวใจจะดีรนหัวใจปกติแต่
00:05:03 → 00:05:05 ถ้าระบบไฟฟ้ามีปัญหาเนี่ยมันก็ทำให้เกิด
00:05:05 → 00:05:08 ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้ก็คือว่าตัว
00:05:08 → 00:05:10 เซลล์กล้ามนื้อต่างๆเนี่ยมันทำงานไม่
00:05:10 → 00:05:13 ประสานกันพอไม่ประสานกันเนี่ยการหดตัวมัน
00:05:13 → 00:05:15 ก็ไม่เกิดขึ้นไม่พร้อมกันพอไม่พร้อมกัน
00:05:15 → 00:05:18 มันก็บีบตัวเพื่อที่จะบีบเลือดให้ไปข้าง
00:05:18 → 00:05:21 หน้าเนี่ยได้ไม่ดีแล้วถ้าภาวะนี้มันเป็น
00:05:21 → 00:05:23 รุนแรงนะครับก็นำไปสู่ภาวะหัวใจวายแต่
00:05:23 → 00:05:25 สาเหตุของภาวะหัวใจไววายเนี่ยอาจจะไม่ได้
00:05:25 → 00:05:28 อยู่แค่ในหัวใจก็ได้นะครับอาจจะอยู่นอก
00:05:28 → 00:05:30 หัวใจก็ได้ตัวอย่างนะครับครับภาวะที่ 6
00:05:30 → 00:05:32 นะครับสาเหตุที่ 6 เนี่ยก็อาจจะเป็น
00:05:32 → 00:05:34 เรื่องของภาวะที่เรียกว่าภาวะ Sleep แนีย
00:05:34 → 00:05:37 นะครับหรือว่ามีการอุดตันของทางเดินหายใจ
00:05:37 → 00:05:39 เนี่ยระหว่างที่นอนหลับก็คือช่วงที่เรา
00:05:39 → 00:05:41 นอนหลับนะครับโดยเฉพาะคนที่อ้วนหรือว่าคน
00:05:41 → 00:05:44 ที่อายุมากๆเนี่ยบางคนจะมีภาวะที่เหมือน
00:05:44 → 00:05:47 กับทางเดินหายใจเนี่ยมันตีบแคบลงทีนี้นะ
00:05:47 → 00:05:49 ครับผลก็คือมันทำให้ปริมาณออกซิเจนใน
00:05:49 → 00:05:51 เลือดตอนกลางคืนเนี่ยมันน้อยลงซึ่งบาง
00:05:51 → 00:05:53 ครั้งเนี่ยภาวะเนี่ยมันก็เพิ่มความเสี่ยง
00:05:53 → 00:05:55 ที่ทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นคือจังหวะได้
00:05:55 → 00:05:57 นอกเหนือจากนี้นะครับภาวะ Sleep แนีย
00:05:57 → 00:05:58 เนี่ยมันก็ยังทำให้เกิดภาวะความดันโลหิต
00:05:58 → 00:06:01 สูงได้ด้วยนะครับซึ่งก็ถ้านเป็นนานๆก็จะ
00:06:01 → 00:06:03 มีผลให้หัวใจเนี่ยเอ่อเสียหายได้เหมือน
00:06:03 → 00:06:06 กันสำหรับสาเหตุที่ 7 นะครับที่อาจจะเป็น
00:06:06 → 00:06:08 ไปได้ก็คืออาจจะอยู่นอกหัวใจเหมือนกันก็
00:06:08 → 00:06:11 คือปัญหาเนี่ยอยู่ที่ปอดซึ่งภาวะนี้เนี่ย
00:06:12 → 00:06:14 ก็คือเราเคยคุยกันไปแล้วตอนที่เราคุย
00:06:14 → 00:06:16 เรื่องของปอดนะครับตอนนั้นเนี่ยเราคุยกัน
00:06:16 → 00:06:19 ไว้ว่ามันจะมีภาวะหลายๆภาวะนะครับหรือว่า
00:06:19 → 00:06:22 สาเหตุหลายๆอย่างที่ทำให้ความดันในปอด
00:06:22 → 00:06:25 เนี่ยมันสูงขึ้นได้ทีนี้สิ่งที่เกิดขึ้น
00:06:25 → 00:06:29 ก็คือว่าเมื่อความดันในปอดเมันสูงขึ้นหัว
00:06:29 → 00:06:31 ใจที่ที่บีบเลือดมาที่ปอดเนี่ยก็คือหัวใจ
00:06:31 → 00:06:33 ห้องล่างด้านขวามันก็ต้องทำงานหนักขึ้น
00:06:33 → 00:06:36 เพราะว่ามันต้องสู้กับแรงดันที่เพิ่มขึ้น
00:06:36 → 00:06:39 ในปอดแล้วถ้าภาวะนี้มันดำเนินไปนานๆนะ
00:06:39 → 00:06:40 ครับมันก็จะทำให้หัวใจห้องล่างข้างขวา
00:06:40 → 00:06:43 เนี่ยทำงานหนักจนถึงจุดที่มันสู้ไม่ไหวนะ
00:06:43 → 00:06:45 ครับแล้วก็นำไปสู่ภาวะหัวใจวายได้แล้วนี่
00:06:45 → 00:06:47 นะครับก็เป็นตัวอย่างที่พบได้บ่อยๆนะครับ
00:06:47 → 00:06:50 ของสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะหัวใจได้ทีนี้
00:06:50 → 00:06:53 คำถามต่อไปก็คือว่าถ้าหัวใจบีบเลือดได้
00:06:53 → 00:06:55 ไม่ดีนะครับก็คือเกิดภาวะหัวใจข้วายขึ้น
00:06:55 → 00:07:01 มาแล้วเนี่ยมันจะเกิดผลอะไรตามมา
00:07:01 → 00:07:03 ปกตินะครับเมื่อผู้ป่วยเกิดภาวะหัวใจวาย
00:07:03 → 00:07:06 ขึ้นเนี่ยผลที่ตามมานะครับหรือว่าอาการ
00:07:06 → 00:07:09 ที่จะเกิดขึ้นเนี่ยมันจะขึ้นกับว่าหัวใจ
00:07:09 → 00:07:12 ข้างไหนเป็นฝั่งที่ที่ไวนนะครับหรือว่า
00:07:12 → 00:07:15 หัวใจล้มเหลวคือเป็นฝั่งซ้ายหรือฝั่งขวา
00:07:15 → 00:07:17 ถ้าจำกันได้นะครับในตอนที่เราคุยกันใน
00:07:17 → 00:07:19 Episode แรกนะครับหรือตอนแรกของซีรีส
00:07:19 → 00:07:22 เรื่องหัวใจนะครับเราเคยคุยกันไปว่าหัวใจ
00:07:22 → 00:07:24 เนี่ยแม้ว่ามันจะเป็นเหมือนเป็นก้อนก้อน
00:07:24 → 00:07:25 เดียวนะครับแต่ในเวลาทำงานเนี่ยมันจะ
00:07:25 → 00:07:29 เหมือนเป็นปั๊ม 2 ตัวที่เหมือนกับปั๊มให้
00:07:29 → 00:07:31 กับวงจรไหล่เวียนของเลือดเนี่ย 2 วงด้วย
00:07:31 → 00:07:34 กันเรามาเริ่มดูจากวงข้างซ้ายก่อนนะครับ
00:07:34 → 00:07:36 ก็คือหัวใจห้องล่างด้านซ้ายเนี่ยเวลามัน
00:07:36 → 00:07:39 ปั๊มเลือดออกไปเนี่ยมันจะบีบเลือดเนี่ยไป
00:07:39 → 00:07:41 เลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายแล้วเลือดเนี่ย
00:07:41 → 00:07:44 ก็จะวนกลับเข้ามาหัวใจข้างขวาจากนั้นหัว
00:07:44 → 00:07:46 ใจห้องล่างด้านขวาเนี่ยก็จะปั๊มเลือด
00:07:46 → 00:07:49 เนี่ยไปที่ปอดแล้วก็วนกลับเข้ามาที่หัวใจ
00:07:49 → 00:07:52 ทีนี้จะเห็นว่าหัวใจแต่ละข้างเนี่ยมัน
00:07:52 → 00:07:55 ปั๊มเลือดไปคนละที่กันแล้วมันก็รับเลือด
00:07:55 → 00:07:57 มาจากคนละที่กันดังนั้นเวลาหัวใจมันวาย
00:07:57 → 00:08:00 เนี่ยมันก็จะเกิดผลที่ต่างกันไปก็คือขึ้น
00:08:00 → 00:08:03 กับว่าหัวใจฝั่งไหนวายนะครับหัวใจฝั่งไหน
00:08:03 → 00:08:06 ล้มเหลวมันก็จะมีผลกระทบกับวงนั้นแล้วผล
00:08:06 → 00:08:08 กระทบที่ต่างกันเนี่ยก็นำมาสู่อาการของ
00:08:08 → 00:08:11 โรคเนี่ยที่ต่างกันเรามาเริ่มจากหัวใจ
00:08:11 → 00:08:13 ข้างซ้ายไวก่อนนะครับมาดูกันว่ามันจะเกิด
00:08:13 → 00:08:16 อะไรขึ้นเมื่อหัวใจข้างซ้ายเนี่ยมันเสีย
00:08:16 → 00:08:18 นะครับสิ่งแรกที่จะเกิดขึ้นก็คือมันจะ
00:08:18 → 00:08:20 ปั๊มเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย
00:08:20 → 00:08:22 เนี่ยไม่ไหวทำให้เลือดเนี่ยไปส่วนต่างๆ
00:08:22 → 00:08:24 ของร่างกายได้น้อยนะครับทีนี้ส่วนใหญ่
00:08:24 → 00:08:27 เนี่ยปกติส่วนใหญ่ถ้าเราพูดถึงหัวใจวาย
00:08:27 → 00:08:29 หัวใจล้มเหลวเนี่ยมันก็หมายถึงว่ามันพอจะ
00:08:29 → 00:08:31 ปั๊มไปได้บ้างนะครับแน่นอนว่าถ้าเกิดว่า
00:08:31 → 00:08:33 หัวใจมันล้มเหลวรุนแรงเนี่ยมันก็จะนำไป
00:08:33 → 00:08:36 สู่ภาวะช็อกได้นะครับคือความดันตกมากๆจน
00:08:36 → 00:08:38 กระทั่งเข้าสู่ภาวะวิกฤตซึ่งเราจะคุยกัน
00:08:38 → 00:08:41 ใน Episode หน้านะครับแต่โดยทั่วไปเวลา
00:08:41 → 00:08:43 พูดถึงคนไข้ที่มีภาวะหัวใจวายหรือภาวะหัว
00:08:43 → 00:08:46 ใจล้มเหลวเนี่ยเราก็ยังในความหมายก็คือ
00:08:46 → 00:08:48 หัวใจมันพอจะทำงานได้บ้างแต่ทำให้เลือด
00:08:48 → 00:08:50 เนี่ยเป็นเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายเนี่ย
00:08:50 → 00:08:53 ไม่ค่อยพอเพียงเท่าไหร่ซึ่งอาการก็จะเป็น
00:08:53 → 00:08:55 ไปตามแต่อวัยวะนั้นนะครับเช่นที่เห็นได้
00:08:55 → 00:08:57 ชัดก็อาจจะรู้สึกอ่อนเพลียนะครับบางคน
00:08:57 → 00:09:00 เช่นเลือดไปเลี้ยงเ่อสมองไม่ค่อยดีเนี่ย
00:09:00 → 00:09:02 ก็จะมีอาการหน้ามืดเป็นลมเนี่ยได้ง่ายนอก
00:09:02 → 00:09:04 เหนือจากนั้นนะครับเมื่อเลือดไปเลี้ยงที่
00:09:05 → 00:09:08 ไตน้อยนะครับมันจะทำให้ไตเนี่ยหลั่งสาร
00:09:08 → 00:09:10 ที่ชื่อว่าเรนินออกมาจำได้มั้ยครับที่เรา
00:09:10 → 00:09:14 คุยกันไปเรื่องเรนินจินซินออสเตนทีนี้
00:09:14 → 00:09:16 เรนินก็จะนำไปสู่แทนซินแล้วก็นำไปสู่
00:09:16 → 00:09:18 อัลโดสเตอโรนตัวอัลโดสเตอโรนเนี่ยตัว
00:09:18 → 00:09:21 ฮอร์โมนตัวเนี้ยมันจะทำให้ไตเนี่ยดูด
00:09:21 → 00:09:23 เกลือกลับเข้าเลือดเนี่ยมากขึ้นคือดูดจาก
00:09:23 → 00:09:25 น้ำที่จะเอาไปทิ้งเป็นปัสสาวะเนี่ยกลับ
00:09:25 → 00:09:27 เข้ามาในเลือดมากขึ้นผลก็คือน้ำเนี่ยก็จะ
00:09:27 → 00:09:30 ตามเกลือเข้ามาด้วยหรือพูดง่ายๆคือน้ำกะ
00:09:30 → 00:09:31 เกลือมันจะกลับเข้ามาในร่างกายกลับเข้ามา
00:09:31 → 00:09:34 ในเส้นเลือดเนี่ยมากขึ้นผลที่เกิดขึ้นก็
00:09:34 → 00:09:36 คือผู้ป่วยเนี่ยจะมีน้ำในเส้นเลือดเนี่ย
00:09:36 → 00:09:38 เยอะขึ้นและน้ำเนี่ยก็จะไปคั่งตามเนื้อ
00:09:38 → 00:09:40 เยื่อต่างๆซึ่งก็จะเพิ่มความเสี่ยงให้มี
00:09:41 → 00:09:43 การบวมตามแขนขาขึ้นมาได้แล้วผู้ป่วยก็จะ
00:09:43 → 00:09:46 มีปัสสาวะเนี่ยน้อยลงแล้วก็ปัสสาวะเข้ม
00:09:46 → 00:09:48 คราวนี้มาดูในแง่ปัญหาของการที่เมื่อหัว
00:09:48 → 00:09:51 ใจวายเสร็จแล้วนะครับเลือดเนี่ยมันจะทน
00:09:51 → 00:09:54 กลับย้อนกลับไปบ้างก็คือเมื่อเลือดออกจาก
00:09:54 → 00:09:56 หัวใจข้างซ้ายไม่ได้เนี่ยเลือดที่จะเข้า
00:09:56 → 00:09:58 หัวใจข้างซ้ายมันก็จะเข้าไม่ได้ถูกมั้ยฮะ
00:09:58 → 00:10:00 พอเลือดเข้าไม่ได้เนี่ยมันก็จะท้นย้อน
00:10:00 → 00:10:03 กลับไปคำถามก็คือว่าเลือดเมันจะท้นกลับไป
00:10:03 → 00:10:06 ที่ไหนคำตอบก็คือถ้าเป็นหัวใจข้างซ้าย
00:10:06 → 00:10:08 เนี่ยเลือดก็จะทนกลับไปที่ปอดเพราะว่าหัว
00:10:09 → 00:10:12 ใจข้างซ้ายเนี่ยรับเลือดมาจากปอดผลก็คือ
00:10:12 → 00:10:14 เลือดเนี่ยก็ไปคั่งที่ปอดเยอะพอเลือดไป
00:10:14 → 00:10:16 คั่งที่น้ำที่ปอดเยอะนะครับมันก็จะทำให้
00:10:16 → 00:10:18 เหมือนกับตัวน้ำเนี่ยมันซึมออกมานะครับ
00:10:18 → 00:10:21 แล้วก็ไปคั่งอยู่ในถุงลมเกิดภาวะที่เรียก
00:10:21 → 00:10:23 ว่าน้ำท่วมปอดขึ้นทีนี้ตอนที่เราคุย
00:10:23 → 00:10:25 เรื่องปอดเนี่ยเราบอกว่าตัวถุงลมมันต้อง
00:10:25 → 00:10:27 บางๆถูกมั้ยครับถ้ามีน้ำเนี่ยเข้าไปแทรก
00:10:27 → 00:10:29 อยู่เนี่ยมันก็จะทำให้การแลกเปลี่ยนก๊าซ
00:10:29 → 00:10:32 เนี่ยทำได้แย่ลงผลก็คือผู้ป่วยเนี่ยจะ
00:10:32 → 00:10:34 เกิดอาการหอบเหนื่อยได้ง่ายนะครับแล้วก็
00:10:34 → 00:10:36 จะนอนร่าบไม่ได้ผู้ป่วยเนี่ยจะต้องนอน
00:10:36 → 00:10:39 หมอนสูงเนี่ยคือหมอนเอามาซ้อนกัน 2-3 ใบ
00:10:39 → 00:10:41 ซึ่งจำนวนหมอนที่สูงขึ้นเนี่ยอาจจะพอบอก
00:10:41 → 00:10:45 ได้ด้วยว่าโรคเนี่ยมันแย่ลงนะครับก็คือ
00:10:45 → 00:10:47 ถ้าอาการโรคเมันแย่ลงเนี่ยจำนวนหมอนที่
00:10:47 → 00:10:49 ต้องเอามาซ้อนๆเนี่ยอาจจะต้องเพิ่มขึ้น
00:10:49 → 00:10:53 เรื่อยๆหรือบางคนนะครับถ้าภาวะน้ำที่ไป
00:10:53 → 00:10:55 ที่ปอดเนี่ยมันไม่ไม่มันไม่มากนะครับใน
00:10:55 → 00:10:58 ช่วงแรกตอนตอนเข้านอนเนี่ยอาจจะพอนอนราบ
00:10:58 → 00:11:00 ได้แต่เมื่อนอนหลับไปสักพักนึงเนี่ยหลาย
00:11:00 → 00:11:02 คนบางคนจะสะดุ้งตื่นขึ้นมานะครับแล้วก็
00:11:02 → 00:11:05 ต้องมานั่งหอบเหนื่อยกลางดึกคำถามก็คือ
00:11:05 → 00:11:08 เพราะอะไรนะครับมันเกิดจากอะไรคำอธิบาย
00:11:08 → 00:11:10 เนี่ยก็คือว่าตอนที่เราตื่นอยู่เนี่ยนะ
00:11:10 → 00:11:12 ครับตอนที่เรานั่งตัวตรงเดินไปเดินมา
00:11:12 → 00:11:14 เนี่ยเลือดเนี่ยมันก็จะลงไปตามแรงโน้ม
00:11:14 → 00:11:16 ถ่วมได้ง่ายถูกมั้ยครับแต่ตอนที่เรานอนลง
00:11:16 → 00:11:18 ไปเนี่ยเลือดเนี่ยมันจะเริ่มมากองที่ด้าน
00:11:18 → 00:11:22 ล่างอก็คือทางทางฝั่งหลังของเราก็คือส่วน
00:11:22 → 00:11:25 หนึ่งก็คือเข้าไปกรองอยู่ในปอดแต่ว่า
00:11:25 → 00:11:27 เนื่องจากว่าหัวใจเนี่ยมันยังพอทำงานได้
00:11:27 → 00:11:29 ดังนั้นเลือดเนี่ยมันก็พอจะไหลเวียนไปได้
00:11:29 → 00:11:32 ก็คือมันจะเข้ามากรองช้าๆจนกระทั่งเมื่อ
00:11:32 → 00:11:35 มากถึงจุดนึงเนี่ยก็จะเกิดภาวะน้ำท่วมปอด
00:11:35 → 00:11:36 จนกระทั่งผู้ป่วยเนี่ยรู้สึกหอบเหนื่อย
00:11:36 → 00:11:39 ขึ้นมาสุดท้ายก็ต้องตื่นขึ้นมานั่งหอบ
00:11:39 → 00:11:41 เหนื่อยพอขึ้นมานั่งสักพักนึงเนี่ยอาการ
00:11:41 → 00:11:43 ก็ดีขึ้นแต่พอนอนกลับไปใหม่สักพักนึงก็
00:11:43 → 00:11:45 อาจจะต้องตื่นขึ้นมาอีกแล้วนี่ก็เป็นกรน
00:11:46 → 00:11:48 ไกคร่าวๆนะครับของหัวใจข้างซ้ายนะครับหัว
00:11:48 → 00:11:51 ใจวายข้างซ้ายโอเคคราวนี้เรามาดูกันบ้าง
00:11:51 → 00:11:54 นะครับว่าถ้าหัวใจข้างขวาวเนี่ยมันจะเกิด
00:11:54 → 00:11:57 อะไรขึ้น
00:11:57 → 00:12:00 บ้างสำหรับุหัวใจข้างขวานะครับมันก็จะรับ
00:12:00 → 00:12:03 เลือดดำที่มีออกซิเจนน้อยเ่ะมาจากส่วน
00:12:03 → 00:12:06 ต่างๆของร่างกายถูกมั้ยครับเสร็จแล้วตัว
00:12:06 → 00:12:08 หัวใจข้างขวาเนี่ยมันก็จะบีบเลือดเพื่อ
00:12:08 → 00:12:11 ส่งต่อไปที่ปอดดังนั้นถ้าหัวใจข้างขวาวาย
00:12:11 → 00:12:14 นะครับเลือดก็จะไปที่ปอดเนี่ยได้น้อยลงที
00:12:14 → 00:12:16 นี้ในแงของฝั่งเลือดที่ท้นกลับไปเนี่ยมัน
00:12:16 → 00:12:19 ก็จะท้นย้อนกลับไปที่ส่วนต่างๆของร่างกาย
00:12:19 → 00:12:21 ส่วนต่างๆที่ว่าเนี่ยก็คือทุกอย่างเลยนะ
00:12:21 → 00:12:25 ครับแขนขาตับเ่อลำไส้สมองอะไรต่างๆซึ่ง
00:12:26 → 00:12:27 อาการที่เห็นได้ชัดที่สุดนะครับก็จะเป็น
00:12:27 → 00:12:30 เรื่องของอาการบวมก็คือผู้ป่วยเนี่ยจะมี
00:12:30 → 00:12:33 อาการบวมตามแคนขาโดยเฉพาะมันจะเห็นชัดที่
00:12:33 → 00:12:36 หน้าแข้งนะครับที่ข้อเท้าหรือว่าถ้าเป็น
00:12:36 → 00:12:39 มากๆก็จะมีน้ำบวมในท้องนะครับแล้วก็บางคน
00:12:39 → 00:12:42 เนี่ยเวลานอนลงไปเนี่ยก็จะหรือว่านอนเอน
00:12:42 → 00:12:43 ตัวลงไปเนี่ยจะเห็นเสื้อเลือดดำที่คอ
00:12:43 → 00:12:46 เนี่ยมันจะออกนะครับเห็นได้ชัดหรือ
00:12:46 → 00:12:48 น้ำนะครับหรือว่าเลือดมันอาจจะคั่งกลับไป
00:12:48 → 00:12:50 ที่ตับได้นะครับซึ่งจะทำให้ตัวตับเนี่ย
00:12:50 → 00:12:52 มันพองออกนะครับก็คือเรียกว่าตับเนี่ยมัน
00:12:52 → 00:12:54 ใหญ่ขึ้นจนกระทั่งหมอเนี่ยสามารถที่จะคลำ
00:12:54 → 00:12:56 นะครับเวลาหมอคลำท้องตรวจร่างกายเนี่ยก็
00:12:56 → 00:12:59 จะพบว่าตับเนี่ยใหญ่ขึ้นได้โอเคนั้นก็
00:12:59 → 00:13:01 เป็นทางทฤษฎีนะครับว่าหัวใจข้างซ้าย Y
00:13:01 → 00:13:03 เนี่ยมันจะนำไปสู่อาการยังไงนะครับหรือ
00:13:03 → 00:13:06 ว่าหัวใจข้างขวา Y เนี่ยนำไปสู่อาการอะไร
00:13:06 → 00:13:08 แต่ในชีวิตจริงนะครับด้วยความที่ 2 วงจร
00:13:08 → 00:13:11 เนี้ยมันก็มีการเชื่อมต่อกันอยู่ทำให้สุด
00:13:11 → 00:13:12 ท้ายเนี่ยไม่ว่าเริ่มต้นเนี่ยหัวใจข้าง
00:13:13 → 00:13:16 ไหนจะเสียนะครับถ้ามันเป็นมากๆนะครับแล้ว
00:13:16 → 00:13:18 ก็เป็นนานๆเนี่ยสุดท้ายมันก็จะมีผลกระทบ
00:13:18 → 00:13:21 กับหัวใจอีกห้องอยู่ดีโดยเฉพาะถ้าหัวใจ
00:13:21 → 00:13:23 ข้างซ้ายล้มเหลวก่อนเนี่ยมันก็จะมีผล
00:13:23 → 00:13:25 กระทบไปที่หัวใจข้างขวาเนี่ยได้ง่ายเอ่อ
00:13:25 → 00:13:27 ตัวอย่างเช่นนะครับจะอธิบายให้ฟังนะครับ
00:13:27 → 00:13:30 สมมุติถ้าหัวใจข้างซ้ายในล้มเหลวก่อนนะ
00:13:30 → 00:13:33 ครับน้ำมันก็จะไปขั่งที่ปอดนานๆถูกมั้ยฮะ
00:13:33 → 00:13:36 น้ำพอพอเวลาผ่านไปนานๆเข้าเนี่ยแรงดันใน
00:13:36 → 00:13:39 ปอดเนี่ยมันก็จะสูงขึ้นสูงขึ้นทีนี้พอแรง
00:13:39 → 00:13:42 ดันในปอดสูงขึ้นมันจะก็จะไปกระทบหัวใจ
00:13:42 → 00:13:45 ข้างขวานะครับก็คือหัวใจห้องล่างด้านขวา
00:13:45 → 00:13:47 ซึ่งก็ต้องทำงานหนักเพื่อที่จะบีบเลือด
00:13:47 → 00:13:49 เนี่ยไปที่ปอดแล้วเมื่อนานไปถึงจุดนึงนะ
00:13:49 → 00:13:52 ครับหัวใจข้างขวาก็จะทนไม่ไหวก็จะล้มเหลว
00:13:52 → 00:13:54 ตามไปด้วยสุดท้ายก็คือจะมีอาการของทั้ง
00:13:54 → 00:13:56 หัวใจข้างซ้ายล้มเหลวแล้วก็จะอาการของ
00:13:57 → 00:13:59 ทั้งหัวใจข้างขวาเนี่ยล้มเหลวไปด้วยด้วย
00:13:59 → 00:14:02 แล้วทั้งหมดนี้นะครับก็คือภาวะหัวใจวายนะ
00:14:02 → 00:14:04 ครับแบบย่อๆนะครับคิดว่าน่าจะพอเห็นภาพ
00:14:04 → 00:14:06 แล้วนะครับเวลาครั้งหน้าถ้าได้ยินคำว่า
00:14:06 → 00:14:08 หัวใจวายนะครับน่าจะพอนึกออกว่ามันคือ
00:14:08 → 00:14:10 อะไรนะครับหรือว่าสาเหตุเป็นยังไงนะครับ
00:14:10 → 00:14:13 อาการเนี่ยเกเป็นยังไงนะครับแล้วอาจจะนึก
00:14:13 → 00:14:15 ภาพออกด้วยว่ากลไกของอาการเนี่ยมันเกิด
00:14:15 → 00:14:17 ขึ้นได้ยังไงสำหรับใน Episode หน้านะครับ
00:14:17 → 00:14:19 ซึ่งเป็น Episode สุดท้ายของซีรีสนี้นะ
00:14:19 → 00:14:21 ครับก็คือเรื่องหัวใจเนี่ยเราจะมาคุย
00:14:21 → 00:14:23 เรื่องของภาวะช็อกันบ้างนะครับแล้วก่อนจะ
00:14:23 → 00:14:25 จักันไปนะครับถ้าคิดว่าเรื่องที่เล่าให้
00:14:25 → 00:14:27 ฟังมันมีประโยชน์นะครับและอยากเป็นกำลัง
00:14:27 → 00:14:29 ใจให้อย่าลืมนะครับกด sub sub นะครับกด
00:14:29 → 00:14:31 กระดิ่งนะครับกดไลก์กดแชร์นะครับหรือว่า
00:14:31 → 00:14:33 เขียนคอมเมนต์หรือแนะนำให้คนอื่นรู้จัก
00:14:33 → 00:14:36 ต่อแล้วเรามาเจอกันใหม่ใน episod หน้านะ
00:14:36 → 00:14:40 ครับสวัสดีครับ
00:14:40 → 00:14:48 [เพลง]
00:00:00 → 00:00:01 สวัสดีทุกคนนะครับวันนี้ก็เป็นตอนที่ 6
00:00:02 → 00:00:04 แล้วนะครับของซีรียส์ที่เราคุยกันอยู่นะ
00:00:04 → 00:00:06 ครับก็คืออธิบายเรื่องของการทำงานของหัว
00:00:06 → 00:00:08 ใจและก็หลอดเลื่อนนะครับวันนี้เนี่ยก็จะ
00:00:08 → 00:00:11 เป็นเรื่องของภาวะหัวใจวายนะครับที่อยาก
00:00:11 → 00:00:13 จะเล่าเรื่องนี้ให้ฟังนะครับต้องบอกว่า
00:00:13 → 00:00:15 ส่วนนึงก็คือมันมันพบได้ค่อนข้างบ่อย
00:00:15 → 00:00:17 เหมือนกันนะครับอย่างที่ 2 นะครับก็คือ
00:00:17 → 00:00:20 ว่าคำนี้เนี่ยคนที่อยู่ในวงการแพทย์นะ
00:00:20 → 00:00:22 ครับหรือว่าบุคลากรทางการแพทย์ต่างๆหมอ
00:00:22 → 00:00:25 พยาบาลเนี่ยจะใช้ต่างไปจากที่ใช้ในภาษา
00:00:25 → 00:00:28 ทั่วไปหลายครั้งก็เลยทำให้เกิดการสื่อสาร
00:00:28 → 00:00:30 ที่มันเหมือนกับคลาดเคลื่อนได้ก็เลยคิด
00:00:30 → 00:00:32 ว่าเป็นเรื่องที่น่าเอามาคุยกันนะครับที
00:00:32 → 00:00:35 นี้เรามาเริ่มต้นจากคำถามแรกก่อนว่าถ้า
00:00:35 → 00:00:37 สมมุติพูดถึงคำว่าหัวใจไววายขึ้นมานะครับ
00:00:37 → 00:00:40 ภาพที่ขึ้นมาในหัวนะครับหรือที่คิดขึ้นมา
00:00:40 → 00:00:45 เนี่ยคุณจะคิดถึงภาพอะไร
00:00:45 → 00:00:48 ครับปกตินะครับเวลาพูดถึงคำว่าหัวใจวายนะ
00:00:48 → 00:00:50 ครับผมเชื่อว่ามีคนไม่น้อยเลยนะครับจะนึก
00:00:50 → 00:00:52 ภาพของคนที่อยู่ๆก็เจ็บหน้าอกนะครับเอา
00:00:52 → 00:00:54 มือจำหน้าอกแล้วก็ล้มลงไปและหลายครั้ง
00:00:54 → 00:00:56 เนี่ยเวลาได้ยินคำว่าหัวใจวายเนี่ยจะนึก
00:00:56 → 00:00:59 ถึงว่ามันเป็นความรุนแรงถึงขั้นที่เอ่อ
00:00:59 → 00:01:01 เรียกว่าเกือบจะเสียชีวิตนะครับหรือว่าทำ
00:01:01 → 00:01:04 ให้เสียชีวิตได้ง่ายๆซึ่งที่เราคุยกันไป
00:01:04 → 00:01:05 ใน Episode ที่แล้วนะครับเราก็จะพอรู้
00:01:05 → 00:01:07 แล้วว่าไอ้ลักษณะของการที่เจ็บหน้าอกนะ
00:01:07 → 00:01:09 ครับเอามือจับหน้าอกขึ้นมาเนี่ยมันเป็น
00:01:09 → 00:01:12 เรื่องของคนที่มีภาวะกล้ำในหัวใจขาดเลือด
00:01:12 → 00:01:15 นะครับไม่ใช่ไม่ใช่ภาวะของหัวใจวายทีนี้
00:01:15 → 00:01:17 หัวใจวายในคำนิยามของทางการแพทย์เี่มัน
00:01:17 → 00:01:20 คืออะไรมันคือภาวะที่ตัวหัวใจจเนี่ยมันมี
00:01:20 → 00:01:23 ปัญหาแล้วทำให้การบีบเลือดเป็นส่วนต่างๆ
00:01:23 → 00:01:25 ของร่างกายเนี่ยมันทำได้ไม่ดีทำให้ส่วน
00:01:25 → 00:01:27 ต่างๆของร่างกายเนี่ยขาดเลือดหรืออาจจะ
00:01:27 → 00:01:30 เทียบง่ายๆว่าเหมือนกับปั๊มที่มันเสียนะ
00:01:30 → 00:01:31 ครับแล้วทำให้น้ำที่ไปเลี้ยงเอ่อหรือว่า
00:01:31 → 00:01:34 ปั๊มที่ไปที่ส่วนต่างๆของอาคารเนี่ยมันทำ
00:01:34 → 00:01:36 ได้ไม่ดีนะครับน้ำเนี่ยไม่ค่อยพอใช้แล้ว
00:01:36 → 00:01:38 อาการของผู้ป่วยเนี่ยก็ไม่จำเป็นจะต้อง
00:01:38 → 00:01:41 รุนแรงถึงขั้นใกล้เสียชีวิตนะครับผู้ป่วย
00:01:41 → 00:01:43 ที่เป็นโรคหัวใจวายนะครับหัวใจล้มเหลว
00:01:43 → 00:01:45 เนี่ยจำนวนมากสามารถที่จะอยู่ที่บ้านนะ
00:01:45 → 00:01:47 ครับกินข้าวได้นั่งดูทีวีได้แต่แน่นอนว่า
00:01:47 → 00:01:50 อาจจะมีอาการนะครับอาการของภาวะหัวใจล้ม
00:01:50 → 00:01:52 เหลวหรือหัวใจวายเนี่ยร่วมด้วยก็จะเป็น
00:01:52 → 00:01:54 เรื่องของอาการหอบนะครับที่เกิดจากภาวะ
00:01:55 → 00:01:58 น้ำท่วมปอดหรือว่ามีอาการบวมตามแขนขาหรือ
00:01:58 → 00:02:00 ว่ามีลักษณะของท้องบวมน้ำ
00:02:00 → 00:02:03 ซึ่งคำอธิบายนะครับว่าทำไมถึงได้มีน้ำ
00:02:03 → 00:02:05 ท่วมปอดทำไมถึงมีการบวมตามแขมขาเนี่ย
00:02:05 → 00:02:08 เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังนะครับพอเราเข้าใจ
00:02:08 → 00:02:10 กลไกนะครับมันจะเห็นภาพตรงเได้ชัดขึ้นว่า
00:02:10 → 00:02:13 อาการมันเกิดจากอะไรแต่ก่อนจะไปถึงตรง
00:02:13 → 00:02:15 นั้นนะครับผมอยากจะชวนมาเริ่มต้นที่คำถาม
00:02:15 → 00:02:20 ว่าอะไรนะครับที่ทำให้คนเนี่ยหัวใจวายได้
00:02:20 → 00:02:24 บ้างคำถามนี้จริงๆมันก็คือถามว่าอะไรที่
00:02:24 → 00:02:27 ทำลายหัวใจเราได้บ้างอย่างแรกเลยนะครับก็
00:02:27 → 00:02:29 คือเป็นภาวะที่พบได้บ่อยมากแล้วก็เป็น
00:02:29 → 00:02:31 เรื่องที่เราคุยกันไปแล้วใน Episode ที่
00:02:31 → 00:02:33 แล้วนะครับก็คือเรื่องของปัญหาที่เกิดที่
00:02:33 → 00:02:36 เส้นเลือดหัวใจก็คือตัวเส้นเลือดหัวใจ
00:02:36 → 00:02:38 เนี่ยมันตีบหรือมันอุดตันทำให้เลือดเ
00:02:39 → 00:02:42 มามันเลี้ยงที่หัวใจน้อยเมื่อเลือดมาน้อย
00:02:42 → 00:02:44 เนี่ยตัวเซลล์กล้ามเนื้อของหัวใจมันก็ขาด
00:02:44 → 00:02:46 เลือดซึ่งบางครั้งเนี่ยมันก็ทำให้บริเวณ
00:02:46 → 00:02:48 กล้ามเนื้อเนี่ยมันตายไปเลยก็ได้นะครับ
00:02:48 → 00:02:51 แล้วพอตายเสร็จมันก็ไม่ฟื้นทีนี้พอถ้า
00:02:51 → 00:02:53 กล้ามเนื้อหัวใจเนี่ยมันตายกินบริเวณค่อน
00:02:53 → 00:02:55 ข้างกว้างเนี่ยมันก็จะมีผลต่อการบีบตัว
00:02:55 → 00:02:58 ของหัวใจทำให้ไม่สามารถปั๊มเลือดไปส่วน
00:02:58 → 00:03:00 ต่างๆของร่างกายได้ดีก็จะนำไปสู่ภาวะหัว
00:03:00 → 00:03:03 ใจวายได้อย่างที่ 2 นะครับก็คือเรื่องของ
00:03:03 → 00:03:05 ภาวะความดันโลหิตสูงนะครับโดยเฉพาะคนที่
00:03:05 → 00:03:08 เป็นมานานๆหลายๆปีเนี่ยสิ่งที่เกิดขึ้นก็
00:03:08 → 00:03:11 คือหัวใจมันต้องต่อสู้กับแรงความดันที่
00:03:11 → 00:03:13 มันสูงถูกมั้ยครับก็คือมันต้องปั๊มตัวบีบ
00:03:13 → 00:03:15 เลือดเข้าไปในเส้นเลือดที่มีแรงดันสูงหัว
00:03:15 → 00:03:19 ใจก็เลยต้องทำงานหนักเมื่อถ้ามันดำเนินไป
00:03:19 → 00:03:21 หลายๆปีเนี่ยกล้ามเนื้อหัวใจมันก็จะทนไม่
00:03:21 → 00:03:23 ไหวนะครับก็จะเกิดการเสียหายแล้วสุดท้าย
00:03:23 → 00:03:25 เนี่ยก็จะนำไปสู่ภาวะหัวใจวายได้อย่างที่
00:03:25 → 00:03:28 3 นะครับก็จะเป็นการบาดเจ็บของก้ามือหัว
00:03:28 → 00:03:30 ใจจากไซ H อื่นๆนะครับครับอาจจะเป็น
00:03:30 → 00:03:32 เรื่องของติดเชื้อไวรัสก็ทำได้นะครับทำ
00:03:32 → 00:03:34 ให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหรือว่า
00:03:34 → 00:03:37 เรื่องของคนที่ดื่มแอลกอฮอล์มากๆนะครับก็
00:03:37 → 00:03:40 จะมีผลต่อผลเสียต่อกล้ามเนื้อหัวใจได้
00:03:40 → 00:03:42 สาเหตุอย่างที่ 4 นะครับที่อาจจะนำไปสู่
00:03:42 → 00:03:45 ภาวะหัวใจวายเนี่ยก็คือเป็นเรื่องของตัว
00:03:45 → 00:03:47 ลิ้นหัวใจก็คือตัวกล้ามเนื้อไม่มีปัญหา
00:03:48 → 00:03:50 อะไรบีบได้ดีแต่ว่าปัญหาก็คือลิ้นหัวใจ
00:03:50 → 00:03:52 เนี่ยที่เราเคยเทียบว่ามันเหมือนเป็น
00:03:52 → 00:03:56 ประตูเนี่ยมันเกิดปัญหาขึ้นเช่นถ้าลิ้น
00:03:56 → 00:03:58 หัวใจมันตีบมันก็จะเหมือนประตูที่มันฝืด
00:03:58 → 00:04:00 หมายความว่าหัวใจเนี่ยมันพยายามจะบีบตัว
00:04:00 → 00:04:03 ปกติแต่เลือดมันไม่สามารถออกไปได้คือมัน
00:04:03 → 00:04:05 ต้องไปสู้กับลิ้นหัวใจที่มันตีบอยู่หรือ
00:04:05 → 00:04:07 ว่าเหมือนประตูที่มันฝืดทำให้หัวใจเนี่ย
00:04:07 → 00:04:11 ต้องใช้แรงเยอะขึ้นพอบีบแรงๆนานๆเข้า
00:04:11 → 00:04:13 เนี่ยกล้ามเนื้อหัวใจเนี่ยผ่านเวลาผ่านไป
00:04:13 → 00:04:15 เป็นปีๆปๆเนี่ยกล้ามเนื้อหัวใจก็จะเสีย
00:04:15 → 00:04:18 หายหรือถ้าเป็นภาวะเล่นหัวใจรั่วเนี่ยก็
00:04:18 → 00:04:21 อาจจะนำไปสู่ภาวะหัวใจวายได้นะครับเช่น
00:04:21 → 00:04:23 เหมือนกับว่าพอหัวใจมันบีบเลือดออกไปแล้ว
00:04:23 → 00:04:25 นะครับคือเลือดเนี่ยเข้ามาในเส้นเลือด
00:04:25 → 00:04:26 เรียบร้อยะแต่ด้วยความที่เล้นหัวใจเนี่ย
00:04:27 → 00:04:29 มันรั่วก็คือมันไม่สามารถจะปิดได้ตอนที่
00:04:29 → 00:04:31 หัวใจมันมันคลายตัวเนี่ยเลือดที่ออกไป
00:04:31 → 00:04:33 แล้วมันก็กลับเข้ามาใหม่ทีนี้ปัญหาก็คือ
00:04:33 → 00:04:35 ว่าเลือดที่กลับเข้ามาเนี่ยเมื่อปนกับ
00:04:35 → 00:04:38 เลือดที่มาจากเอ่อหัวใจอีกห้องนึงนะครับ
00:04:38 → 00:04:41 มันก็เหมือนกับมาเพิ่มจำนวนปริมาณเลือดเ
00:04:41 → 00:04:43 มันเพิ่มขึ้นทำให้หัวใจเนี่ยต้องทำงาน
00:04:43 → 00:04:45 หนักขึ้นแล้วถ้าเป็นอย่างนี้ไปนานๆหลายๆ
00:04:45 → 00:04:48 ปีเนี่ยกล้ำในหัวใจเนี่ยก็จะเสียหายได้ก็
00:04:48 → 00:04:50 นำไปสู่ภาวะหัวใจวายได้สาเหตุอย่างที่ 5
00:04:51 → 00:04:53 นะครับอาจจะเป็นเรื่องของระบบไฟฟ้านะครับ
00:04:53 → 00:04:55 อย่างที่คุยกันไปก็คือตัวหัวใจของเรา
00:04:55 → 00:04:58 เนี่ยมันเวลามันเต้นเนี่ยจังหวะการเต้น
00:04:58 → 00:05:01 ต่างๆมันอาศัยการทำงานของของไฟฟ้าดังนั้น
00:05:01 → 00:05:03 แม้ว่ากล้ามเนื้อหัวใจจะดีรนหัวใจปกติแต่
00:05:03 → 00:05:05 ถ้าระบบไฟฟ้ามีปัญหาเนี่ยมันก็ทำให้เกิด
00:05:05 → 00:05:08 ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้ก็คือว่าตัว
00:05:08 → 00:05:10 เซลล์กล้ามนื้อต่างๆเนี่ยมันทำงานไม่
00:05:10 → 00:05:13 ประสานกันพอไม่ประสานกันเนี่ยการหดตัวมัน
00:05:13 → 00:05:15 ก็ไม่เกิดขึ้นไม่พร้อมกันพอไม่พร้อมกัน
00:05:15 → 00:05:18 มันก็บีบตัวเพื่อที่จะบีบเลือดให้ไปข้าง
00:05:18 → 00:05:21 หน้าเนี่ยได้ไม่ดีแล้วถ้าภาวะนี้มันเป็น
00:05:21 → 00:05:23 รุนแรงนะครับก็นำไปสู่ภาวะหัวใจวายแต่
00:05:23 → 00:05:25 สาเหตุของภาวะหัวใจไววายเนี่ยอาจจะไม่ได้
00:05:25 → 00:05:28 อยู่แค่ในหัวใจก็ได้นะครับอาจจะอยู่นอก
00:05:28 → 00:05:30 หัวใจก็ได้ตัวอย่างนะครับครับภาวะที่ 6
00:05:30 → 00:05:32 นะครับสาเหตุที่ 6 เนี่ยก็อาจจะเป็น
00:05:32 → 00:05:34 เรื่องของภาวะที่เรียกว่าภาวะ Sleep แนีย
00:05:34 → 00:05:37 นะครับหรือว่ามีการอุดตันของทางเดินหายใจ
00:05:37 → 00:05:39 เนี่ยระหว่างที่นอนหลับก็คือช่วงที่เรา
00:05:39 → 00:05:41 นอนหลับนะครับโดยเฉพาะคนที่อ้วนหรือว่าคน
00:05:41 → 00:05:44 ที่อายุมากๆเนี่ยบางคนจะมีภาวะที่เหมือน
00:05:44 → 00:05:47 กับทางเดินหายใจเนี่ยมันตีบแคบลงทีนี้นะ
00:05:47 → 00:05:49 ครับผลก็คือมันทำให้ปริมาณออกซิเจนใน
00:05:49 → 00:05:51 เลือดตอนกลางคืนเนี่ยมันน้อยลงซึ่งบาง
00:05:51 → 00:05:53 ครั้งเนี่ยภาวะเนี่ยมันก็เพิ่มความเสี่ยง
00:05:53 → 00:05:55 ที่ทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นคือจังหวะได้
00:05:55 → 00:05:57 นอกเหนือจากนี้นะครับภาวะ Sleep แนีย
00:05:57 → 00:05:58 เนี่ยมันก็ยังทำให้เกิดภาวะความดันโลหิต
00:05:58 → 00:06:01 สูงได้ด้วยนะครับซึ่งก็ถ้านเป็นนานๆก็จะ
00:06:01 → 00:06:03 มีผลให้หัวใจเนี่ยเอ่อเสียหายได้เหมือน
00:06:03 → 00:06:06 กันสำหรับสาเหตุที่ 7 นะครับที่อาจจะเป็น
00:06:06 → 00:06:08 ไปได้ก็คืออาจจะอยู่นอกหัวใจเหมือนกันก็
00:06:08 → 00:06:11 คือปัญหาเนี่ยอยู่ที่ปอดซึ่งภาวะนี้เนี่ย
00:06:12 → 00:06:14 ก็คือเราเคยคุยกันไปแล้วตอนที่เราคุย
00:06:14 → 00:06:16 เรื่องของปอดนะครับตอนนั้นเนี่ยเราคุยกัน
00:06:16 → 00:06:19 ไว้ว่ามันจะมีภาวะหลายๆภาวะนะครับหรือว่า
00:06:19 → 00:06:22 สาเหตุหลายๆอย่างที่ทำให้ความดันในปอด
00:06:22 → 00:06:25 เนี่ยมันสูงขึ้นได้ทีนี้สิ่งที่เกิดขึ้น
00:06:25 → 00:06:29 ก็คือว่าเมื่อความดันในปอดเมันสูงขึ้นหัว
00:06:29 → 00:06:31 ใจที่ที่บีบเลือดมาที่ปอดเนี่ยก็คือหัวใจ
00:06:31 → 00:06:33 ห้องล่างด้านขวามันก็ต้องทำงานหนักขึ้น
00:06:33 → 00:06:36 เพราะว่ามันต้องสู้กับแรงดันที่เพิ่มขึ้น
00:06:36 → 00:06:39 ในปอดแล้วถ้าภาวะนี้มันดำเนินไปนานๆนะ
00:06:39 → 00:06:40 ครับมันก็จะทำให้หัวใจห้องล่างข้างขวา
00:06:40 → 00:06:43 เนี่ยทำงานหนักจนถึงจุดที่มันสู้ไม่ไหวนะ
00:06:43 → 00:06:45 ครับแล้วก็นำไปสู่ภาวะหัวใจวายได้แล้วนี่
00:06:45 → 00:06:47 นะครับก็เป็นตัวอย่างที่พบได้บ่อยๆนะครับ
00:06:47 → 00:06:50 ของสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะหัวใจได้ทีนี้
00:06:50 → 00:06:53 คำถามต่อไปก็คือว่าถ้าหัวใจบีบเลือดได้
00:06:53 → 00:06:55 ไม่ดีนะครับก็คือเกิดภาวะหัวใจข้วายขึ้น
00:06:55 → 00:07:01 มาแล้วเนี่ยมันจะเกิดผลอะไรตามมา
00:07:01 → 00:07:03 ปกตินะครับเมื่อผู้ป่วยเกิดภาวะหัวใจวาย
00:07:03 → 00:07:06 ขึ้นเนี่ยผลที่ตามมานะครับหรือว่าอาการ
00:07:06 → 00:07:09 ที่จะเกิดขึ้นเนี่ยมันจะขึ้นกับว่าหัวใจ
00:07:09 → 00:07:12 ข้างไหนเป็นฝั่งที่ที่ไวนนะครับหรือว่า
00:07:12 → 00:07:15 หัวใจล้มเหลวคือเป็นฝั่งซ้ายหรือฝั่งขวา
00:07:15 → 00:07:17 ถ้าจำกันได้นะครับในตอนที่เราคุยกันใน
00:07:17 → 00:07:19 Episode แรกนะครับหรือตอนแรกของซีรีส
00:07:19 → 00:07:22 เรื่องหัวใจนะครับเราเคยคุยกันไปว่าหัวใจ
00:07:22 → 00:07:24 เนี่ยแม้ว่ามันจะเป็นเหมือนเป็นก้อนก้อน
00:07:24 → 00:07:25 เดียวนะครับแต่ในเวลาทำงานเนี่ยมันจะ
00:07:25 → 00:07:29 เหมือนเป็นปั๊ม 2 ตัวที่เหมือนกับปั๊มให้
00:07:29 → 00:07:31 กับวงจรไหล่เวียนของเลือดเนี่ย 2 วงด้วย
00:07:31 → 00:07:34 กันเรามาเริ่มดูจากวงข้างซ้ายก่อนนะครับ
00:07:34 → 00:07:36 ก็คือหัวใจห้องล่างด้านซ้ายเนี่ยเวลามัน
00:07:36 → 00:07:39 ปั๊มเลือดออกไปเนี่ยมันจะบีบเลือดเนี่ยไป
00:07:39 → 00:07:41 เลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายแล้วเลือดเนี่ย
00:07:41 → 00:07:44 ก็จะวนกลับเข้ามาหัวใจข้างขวาจากนั้นหัว
00:07:44 → 00:07:46 ใจห้องล่างด้านขวาเนี่ยก็จะปั๊มเลือด
00:07:46 → 00:07:49 เนี่ยไปที่ปอดแล้วก็วนกลับเข้ามาที่หัวใจ
00:07:49 → 00:07:52 ทีนี้จะเห็นว่าหัวใจแต่ละข้างเนี่ยมัน
00:07:52 → 00:07:55 ปั๊มเลือดไปคนละที่กันแล้วมันก็รับเลือด
00:07:55 → 00:07:57 มาจากคนละที่กันดังนั้นเวลาหัวใจมันวาย
00:07:57 → 00:08:00 เนี่ยมันก็จะเกิดผลที่ต่างกันไปก็คือขึ้น
00:08:00 → 00:08:03 กับว่าหัวใจฝั่งไหนวายนะครับหัวใจฝั่งไหน
00:08:03 → 00:08:06 ล้มเหลวมันก็จะมีผลกระทบกับวงนั้นแล้วผล
00:08:06 → 00:08:08 กระทบที่ต่างกันเนี่ยก็นำมาสู่อาการของ
00:08:08 → 00:08:11 โรคเนี่ยที่ต่างกันเรามาเริ่มจากหัวใจ
00:08:11 → 00:08:13 ข้างซ้ายไวก่อนนะครับมาดูกันว่ามันจะเกิด
00:08:13 → 00:08:16 อะไรขึ้นเมื่อหัวใจข้างซ้ายเนี่ยมันเสีย
00:08:16 → 00:08:18 นะครับสิ่งแรกที่จะเกิดขึ้นก็คือมันจะ
00:08:18 → 00:08:20 ปั๊มเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย
00:08:20 → 00:08:22 เนี่ยไม่ไหวทำให้เลือดเนี่ยไปส่วนต่างๆ
00:08:22 → 00:08:24 ของร่างกายได้น้อยนะครับทีนี้ส่วนใหญ่
00:08:24 → 00:08:27 เนี่ยปกติส่วนใหญ่ถ้าเราพูดถึงหัวใจวาย
00:08:27 → 00:08:29 หัวใจล้มเหลวเนี่ยมันก็หมายถึงว่ามันพอจะ
00:08:29 → 00:08:31 ปั๊มไปได้บ้างนะครับแน่นอนว่าถ้าเกิดว่า
00:08:31 → 00:08:33 หัวใจมันล้มเหลวรุนแรงเนี่ยมันก็จะนำไป
00:08:33 → 00:08:36 สู่ภาวะช็อกได้นะครับคือความดันตกมากๆจน
00:08:36 → 00:08:38 กระทั่งเข้าสู่ภาวะวิกฤตซึ่งเราจะคุยกัน
00:08:38 → 00:08:41 ใน Episode หน้านะครับแต่โดยทั่วไปเวลา
00:08:41 → 00:08:43 พูดถึงคนไข้ที่มีภาวะหัวใจวายหรือภาวะหัว
00:08:43 → 00:08:46 ใจล้มเหลวเนี่ยเราก็ยังในความหมายก็คือ
00:08:46 → 00:08:48 หัวใจมันพอจะทำงานได้บ้างแต่ทำให้เลือด
00:08:48 → 00:08:50 เนี่ยเป็นเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายเนี่ย
00:08:50 → 00:08:53 ไม่ค่อยพอเพียงเท่าไหร่ซึ่งอาการก็จะเป็น
00:08:53 → 00:08:55 ไปตามแต่อวัยวะนั้นนะครับเช่นที่เห็นได้
00:08:55 → 00:08:57 ชัดก็อาจจะรู้สึกอ่อนเพลียนะครับบางคน
00:08:57 → 00:09:00 เช่นเลือดไปเลี้ยงเ่อสมองไม่ค่อยดีเนี่ย
00:09:00 → 00:09:02 ก็จะมีอาการหน้ามืดเป็นลมเนี่ยได้ง่ายนอก
00:09:02 → 00:09:04 เหนือจากนั้นนะครับเมื่อเลือดไปเลี้ยงที่
00:09:05 → 00:09:08 ไตน้อยนะครับมันจะทำให้ไตเนี่ยหลั่งสาร
00:09:08 → 00:09:10 ที่ชื่อว่าเรนินออกมาจำได้มั้ยครับที่เรา
00:09:10 → 00:09:14 คุยกันไปเรื่องเรนินจินซินออสเตนทีนี้
00:09:14 → 00:09:16 เรนินก็จะนำไปสู่แทนซินแล้วก็นำไปสู่
00:09:16 → 00:09:18 อัลโดสเตอโรนตัวอัลโดสเตอโรนเนี่ยตัว
00:09:18 → 00:09:21 ฮอร์โมนตัวเนี้ยมันจะทำให้ไตเนี่ยดูด
00:09:21 → 00:09:23 เกลือกลับเข้าเลือดเนี่ยมากขึ้นคือดูดจาก
00:09:23 → 00:09:25 น้ำที่จะเอาไปทิ้งเป็นปัสสาวะเนี่ยกลับ
00:09:25 → 00:09:27 เข้ามาในเลือดมากขึ้นผลก็คือน้ำเนี่ยก็จะ
00:09:27 → 00:09:30 ตามเกลือเข้ามาด้วยหรือพูดง่ายๆคือน้ำกะ
00:09:30 → 00:09:31 เกลือมันจะกลับเข้ามาในร่างกายกลับเข้ามา
00:09:31 → 00:09:34 ในเส้นเลือดเนี่ยมากขึ้นผลที่เกิดขึ้นก็
00:09:34 → 00:09:36 คือผู้ป่วยเนี่ยจะมีน้ำในเส้นเลือดเนี่ย
00:09:36 → 00:09:38 เยอะขึ้นและน้ำเนี่ยก็จะไปคั่งตามเนื้อ
00:09:38 → 00:09:40 เยื่อต่างๆซึ่งก็จะเพิ่มความเสี่ยงให้มี
00:09:41 → 00:09:43 การบวมตามแขนขาขึ้นมาได้แล้วผู้ป่วยก็จะ
00:09:43 → 00:09:46 มีปัสสาวะเนี่ยน้อยลงแล้วก็ปัสสาวะเข้ม
00:09:46 → 00:09:48 คราวนี้มาดูในแง่ปัญหาของการที่เมื่อหัว
00:09:48 → 00:09:51 ใจวายเสร็จแล้วนะครับเลือดเนี่ยมันจะทน
00:09:51 → 00:09:54 กลับย้อนกลับไปบ้างก็คือเมื่อเลือดออกจาก
00:09:54 → 00:09:56 หัวใจข้างซ้ายไม่ได้เนี่ยเลือดที่จะเข้า
00:09:56 → 00:09:58 หัวใจข้างซ้ายมันก็จะเข้าไม่ได้ถูกมั้ยฮะ
00:09:58 → 00:10:00 พอเลือดเข้าไม่ได้เนี่ยมันก็จะท้นย้อน
00:10:00 → 00:10:03 กลับไปคำถามก็คือว่าเลือดเมันจะท้นกลับไป
00:10:03 → 00:10:06 ที่ไหนคำตอบก็คือถ้าเป็นหัวใจข้างซ้าย
00:10:06 → 00:10:08 เนี่ยเลือดก็จะทนกลับไปที่ปอดเพราะว่าหัว
00:10:09 → 00:10:12 ใจข้างซ้ายเนี่ยรับเลือดมาจากปอดผลก็คือ
00:10:12 → 00:10:14 เลือดเนี่ยก็ไปคั่งที่ปอดเยอะพอเลือดไป
00:10:14 → 00:10:16 คั่งที่น้ำที่ปอดเยอะนะครับมันก็จะทำให้
00:10:16 → 00:10:18 เหมือนกับตัวน้ำเนี่ยมันซึมออกมานะครับ
00:10:18 → 00:10:21 แล้วก็ไปคั่งอยู่ในถุงลมเกิดภาวะที่เรียก
00:10:21 → 00:10:23 ว่าน้ำท่วมปอดขึ้นทีนี้ตอนที่เราคุย
00:10:23 → 00:10:25 เรื่องปอดเนี่ยเราบอกว่าตัวถุงลมมันต้อง
00:10:25 → 00:10:27 บางๆถูกมั้ยครับถ้ามีน้ำเนี่ยเข้าไปแทรก
00:10:27 → 00:10:29 อยู่เนี่ยมันก็จะทำให้การแลกเปลี่ยนก๊าซ
00:10:29 → 00:10:32 เนี่ยทำได้แย่ลงผลก็คือผู้ป่วยเนี่ยจะ
00:10:32 → 00:10:34 เกิดอาการหอบเหนื่อยได้ง่ายนะครับแล้วก็
00:10:34 → 00:10:36 จะนอนร่าบไม่ได้ผู้ป่วยเนี่ยจะต้องนอน
00:10:36 → 00:10:39 หมอนสูงเนี่ยคือหมอนเอามาซ้อนกัน 2-3 ใบ
00:10:39 → 00:10:41 ซึ่งจำนวนหมอนที่สูงขึ้นเนี่ยอาจจะพอบอก
00:10:41 → 00:10:45 ได้ด้วยว่าโรคเนี่ยมันแย่ลงนะครับก็คือ
00:10:45 → 00:10:47 ถ้าอาการโรคเมันแย่ลงเนี่ยจำนวนหมอนที่
00:10:47 → 00:10:49 ต้องเอามาซ้อนๆเนี่ยอาจจะต้องเพิ่มขึ้น
00:10:49 → 00:10:53 เรื่อยๆหรือบางคนนะครับถ้าภาวะน้ำที่ไป
00:10:53 → 00:10:55 ที่ปอดเนี่ยมันไม่ไม่มันไม่มากนะครับใน
00:10:55 → 00:10:58 ช่วงแรกตอนตอนเข้านอนเนี่ยอาจจะพอนอนราบ
00:10:58 → 00:11:00 ได้แต่เมื่อนอนหลับไปสักพักนึงเนี่ยหลาย
00:11:00 → 00:11:02 คนบางคนจะสะดุ้งตื่นขึ้นมานะครับแล้วก็
00:11:02 → 00:11:05 ต้องมานั่งหอบเหนื่อยกลางดึกคำถามก็คือ
00:11:05 → 00:11:08 เพราะอะไรนะครับมันเกิดจากอะไรคำอธิบาย
00:11:08 → 00:11:10 เนี่ยก็คือว่าตอนที่เราตื่นอยู่เนี่ยนะ
00:11:10 → 00:11:12 ครับตอนที่เรานั่งตัวตรงเดินไปเดินมา
00:11:12 → 00:11:14 เนี่ยเลือดเนี่ยมันก็จะลงไปตามแรงโน้ม
00:11:14 → 00:11:16 ถ่วมได้ง่ายถูกมั้ยครับแต่ตอนที่เรานอนลง
00:11:16 → 00:11:18 ไปเนี่ยเลือดเนี่ยมันจะเริ่มมากองที่ด้าน
00:11:18 → 00:11:22 ล่างอก็คือทางทางฝั่งหลังของเราก็คือส่วน
00:11:22 → 00:11:25 หนึ่งก็คือเข้าไปกรองอยู่ในปอดแต่ว่า
00:11:25 → 00:11:27 เนื่องจากว่าหัวใจเนี่ยมันยังพอทำงานได้
00:11:27 → 00:11:29 ดังนั้นเลือดเนี่ยมันก็พอจะไหลเวียนไปได้
00:11:29 → 00:11:32 ก็คือมันจะเข้ามากรองช้าๆจนกระทั่งเมื่อ
00:11:32 → 00:11:35 มากถึงจุดนึงเนี่ยก็จะเกิดภาวะน้ำท่วมปอด
00:11:35 → 00:11:36 จนกระทั่งผู้ป่วยเนี่ยรู้สึกหอบเหนื่อย
00:11:36 → 00:11:39 ขึ้นมาสุดท้ายก็ต้องตื่นขึ้นมานั่งหอบ
00:11:39 → 00:11:41 เหนื่อยพอขึ้นมานั่งสักพักนึงเนี่ยอาการ
00:11:41 → 00:11:43 ก็ดีขึ้นแต่พอนอนกลับไปใหม่สักพักนึงก็
00:11:43 → 00:11:45 อาจจะต้องตื่นขึ้นมาอีกแล้วนี่ก็เป็นกรน
00:11:46 → 00:11:48 ไกคร่าวๆนะครับของหัวใจข้างซ้ายนะครับหัว
00:11:48 → 00:11:51 ใจวายข้างซ้ายโอเคคราวนี้เรามาดูกันบ้าง
00:11:51 → 00:11:54 นะครับว่าถ้าหัวใจข้างขวาวเนี่ยมันจะเกิด
00:11:54 → 00:11:57 อะไรขึ้น
00:11:57 → 00:12:00 บ้างสำหรับุหัวใจข้างขวานะครับมันก็จะรับ
00:12:00 → 00:12:03 เลือดดำที่มีออกซิเจนน้อยเ่ะมาจากส่วน
00:12:03 → 00:12:06 ต่างๆของร่างกายถูกมั้ยครับเสร็จแล้วตัว
00:12:06 → 00:12:08 หัวใจข้างขวาเนี่ยมันก็จะบีบเลือดเพื่อ
00:12:08 → 00:12:11 ส่งต่อไปที่ปอดดังนั้นถ้าหัวใจข้างขวาวาย
00:12:11 → 00:12:14 นะครับเลือดก็จะไปที่ปอดเนี่ยได้น้อยลงที
00:12:14 → 00:12:16 นี้ในแงของฝั่งเลือดที่ท้นกลับไปเนี่ยมัน
00:12:16 → 00:12:19 ก็จะท้นย้อนกลับไปที่ส่วนต่างๆของร่างกาย
00:12:19 → 00:12:21 ส่วนต่างๆที่ว่าเนี่ยก็คือทุกอย่างเลยนะ
00:12:21 → 00:12:25 ครับแขนขาตับเ่อลำไส้สมองอะไรต่างๆซึ่ง
00:12:26 → 00:12:27 อาการที่เห็นได้ชัดที่สุดนะครับก็จะเป็น
00:12:27 → 00:12:30 เรื่องของอาการบวมก็คือผู้ป่วยเนี่ยจะมี
00:12:30 → 00:12:33 อาการบวมตามแคนขาโดยเฉพาะมันจะเห็นชัดที่
00:12:33 → 00:12:36 หน้าแข้งนะครับที่ข้อเท้าหรือว่าถ้าเป็น
00:12:36 → 00:12:39 มากๆก็จะมีน้ำบวมในท้องนะครับแล้วก็บางคน
00:12:39 → 00:12:42 เนี่ยเวลานอนลงไปเนี่ยก็จะหรือว่านอนเอน
00:12:42 → 00:12:43 ตัวลงไปเนี่ยจะเห็นเสื้อเลือดดำที่คอ
00:12:43 → 00:12:46 เนี่ยมันจะออกนะครับเห็นได้ชัดหรือ
00:12:46 → 00:12:48 น้ำนะครับหรือว่าเลือดมันอาจจะคั่งกลับไป
00:12:48 → 00:12:50 ที่ตับได้นะครับซึ่งจะทำให้ตัวตับเนี่ย
00:12:50 → 00:12:52 มันพองออกนะครับก็คือเรียกว่าตับเนี่ยมัน
00:12:52 → 00:12:54 ใหญ่ขึ้นจนกระทั่งหมอเนี่ยสามารถที่จะคลำ
00:12:54 → 00:12:56 นะครับเวลาหมอคลำท้องตรวจร่างกายเนี่ยก็
00:12:56 → 00:12:59 จะพบว่าตับเนี่ยใหญ่ขึ้นได้โอเคนั้นก็
00:12:59 → 00:13:01 เป็นทางทฤษฎีนะครับว่าหัวใจข้างซ้าย Y
00:13:01 → 00:13:03 เนี่ยมันจะนำไปสู่อาการยังไงนะครับหรือ
00:13:03 → 00:13:06 ว่าหัวใจข้างขวา Y เนี่ยนำไปสู่อาการอะไร
00:13:06 → 00:13:08 แต่ในชีวิตจริงนะครับด้วยความที่ 2 วงจร
00:13:08 → 00:13:11 เนี้ยมันก็มีการเชื่อมต่อกันอยู่ทำให้สุด
00:13:11 → 00:13:12 ท้ายเนี่ยไม่ว่าเริ่มต้นเนี่ยหัวใจข้าง
00:13:13 → 00:13:16 ไหนจะเสียนะครับถ้ามันเป็นมากๆนะครับแล้ว
00:13:16 → 00:13:18 ก็เป็นนานๆเนี่ยสุดท้ายมันก็จะมีผลกระทบ
00:13:18 → 00:13:21 กับหัวใจอีกห้องอยู่ดีโดยเฉพาะถ้าหัวใจ
00:13:21 → 00:13:23 ข้างซ้ายล้มเหลวก่อนเนี่ยมันก็จะมีผล
00:13:23 → 00:13:25 กระทบไปที่หัวใจข้างขวาเนี่ยได้ง่ายเอ่อ
00:13:25 → 00:13:27 ตัวอย่างเช่นนะครับจะอธิบายให้ฟังนะครับ
00:13:27 → 00:13:30 สมมุติถ้าหัวใจข้างซ้ายในล้มเหลวก่อนนะ
00:13:30 → 00:13:33 ครับน้ำมันก็จะไปขั่งที่ปอดนานๆถูกมั้ยฮะ
00:13:33 → 00:13:36 น้ำพอพอเวลาผ่านไปนานๆเข้าเนี่ยแรงดันใน
00:13:36 → 00:13:39 ปอดเนี่ยมันก็จะสูงขึ้นสูงขึ้นทีนี้พอแรง
00:13:39 → 00:13:42 ดันในปอดสูงขึ้นมันจะก็จะไปกระทบหัวใจ
00:13:42 → 00:13:45 ข้างขวานะครับก็คือหัวใจห้องล่างด้านขวา
00:13:45 → 00:13:47 ซึ่งก็ต้องทำงานหนักเพื่อที่จะบีบเลือด
00:13:47 → 00:13:49 เนี่ยไปที่ปอดแล้วเมื่อนานไปถึงจุดนึงนะ
00:13:49 → 00:13:52 ครับหัวใจข้างขวาก็จะทนไม่ไหวก็จะล้มเหลว
00:13:52 → 00:13:54 ตามไปด้วยสุดท้ายก็คือจะมีอาการของทั้ง
00:13:54 → 00:13:56 หัวใจข้างซ้ายล้มเหลวแล้วก็จะอาการของ
00:13:57 → 00:13:59 ทั้งหัวใจข้างขวาเนี่ยล้มเหลวไปด้วยด้วย
00:13:59 → 00:14:02 แล้วทั้งหมดนี้นะครับก็คือภาวะหัวใจวายนะ
00:14:02 → 00:14:04 ครับแบบย่อๆนะครับคิดว่าน่าจะพอเห็นภาพ
00:14:04 → 00:14:06 แล้วนะครับเวลาครั้งหน้าถ้าได้ยินคำว่า
00:14:06 → 00:14:08 หัวใจวายนะครับน่าจะพอนึกออกว่ามันคือ
00:14:08 → 00:14:10 อะไรนะครับหรือว่าสาเหตุเป็นยังไงนะครับ
00:14:10 → 00:14:13 อาการเนี่ยเกเป็นยังไงนะครับแล้วอาจจะนึก
00:14:13 → 00:14:15 ภาพออกด้วยว่ากลไกของอาการเนี่ยมันเกิด
00:14:15 → 00:14:17 ขึ้นได้ยังไงสำหรับใน Episode หน้านะครับ
00:14:17 → 00:14:19 ซึ่งเป็น Episode สุดท้ายของซีรีสนี้นะ
00:14:19 → 00:14:21 ครับก็คือเรื่องหัวใจเนี่ยเราจะมาคุย
00:14:21 → 00:14:23 เรื่องของภาวะช็อกันบ้างนะครับแล้วก่อนจะ
00:14:23 → 00:14:25 จักันไปนะครับถ้าคิดว่าเรื่องที่เล่าให้
00:14:25 → 00:14:27 ฟังมันมีประโยชน์นะครับและอยากเป็นกำลัง
00:14:27 → 00:14:29 ใจให้อย่าลืมนะครับกด sub sub นะครับกด
00:14:29 → 00:14:31 กระดิ่งนะครับกดไลก์กดแชร์นะครับหรือว่า
00:14:31 → 00:14:33 เขียนคอมเมนต์หรือแนะนำให้คนอื่นรู้จัก
00:14:33 → 00:14:36 ต่อแล้วเรามาเจอกันใหม่ใน episod หน้านะ
00:14:36 → 00:14:40 ครับสวัสดีครับ
00:14:40 → 00:14:48 [เพลง]