00:00:00 → 00:00:03 ในครอบครัวเนี่ยมีคนหลายเจนด้วยกันทั้ง
00:00:03 → 00:00:07 วัยเด็กวัยกลางคนวัยผู้ใหญ่แบบนี้เนี่ย
00:00:07 → 00:00:11 ถ้าจะมาสุขภาพดีกันทั้งครอบครัวเนี่ยมี
00:00:11 → 00:00:15 ทริกยังไงมีวิธีการยังไงบ้างขอคำแนะนำจาก
00:00:15 → 00:00:19 คุณหมอเลยค่ะค่ะก็ยินดีนะคะค่ะในส่วนของ
00:00:19 → 00:00:21 งานวิทยศาสตร์ป้องกันเนี่ยหลีกเลี่ยงไม่
00:00:21 → 00:00:24 ได้นะคะโดยเฉพาะหมอที่เป็นหมอเนสค่ะหมอ
00:00:24 → 00:00:27 เนสเนี่ยค่ะจะสังเกตนะคะว่าเวลาคนไข้เดิน
00:00:27 → 00:00:31 เข้ามานะคะต่อให้มีปัญหาแค่เจชเดียวนะคะ
00:00:31 → 00:00:34 แต่อีกแป๊บเดียวมา 3 เจนค่ะค่ะเป็นแบบว่า
00:00:34 → 00:00:36 เป็น all Gen Practice กันไปเลยก็คือ
00:00:36 → 00:00:39 เหมือนเป็นคลินิคประจำครอบครัวกันไปนะคะ
00:00:39 → 00:00:42 อันนี้ยกตัวอย่างนะคะว่าบางทีเนี่ยค่ะมา
00:00:42 → 00:00:45 ด้วยเด็กที่ภูมิต้านทานไม่ดีเป็นภูมิแพ้
00:00:45 → 00:00:48 บ่อยคอนเซิร์นเรื่องลูกหลานว่าหลานจะป่วย
00:00:49 → 00:00:51 บ่อยเช่นเคสที่หมอเพิ่งเจอเนี่ยนะคะล่า
00:00:51 → 00:00:54 สุดเอามาเล่าได้เป็นอจนด้วยเผื่อคุณผู้
00:00:54 → 00:00:56 ฟังนะคะหรือคคุณขวัญคุณโอ๊คจะนึกภาพออก
00:00:56 → 00:01:00 ว่ามาคอนเซิร์นว่าหลานเนี่ยเท่าโรงพยาบาล
00:01:00 → 00:01:02 เดือนละครั้งเลยทีเดียวคือเด็กเดี๋ยวนี้
00:01:02 → 00:01:06 นะคะถ้าเกิดว่าเวลาเเป็นภูมิแพ้หรือการดู
00:01:06 → 00:01:10 แลเอ่อเขาคต้องกินยาต้องกินยาเอ่อแก้แพ้
00:01:10 → 00:01:13 นะคะรวมถึงยาปฏิชีวนะเนี่ยแทบจะเดือนละ
00:01:13 → 00:01:16 1-2 ครั้งซึ่งอ่ะเริ่มเป็นเรื่องไม่ปกติ
00:01:16 → 00:01:18 ถูกต้องแล้วมั้ยคะแต่ทำอย่างไรอ่ะคะที่
00:01:18 → 00:01:20 เขาเดินเข้ามาหาหมอวิทยาศาสต์ป้องกันหรือ
00:01:20 → 00:01:25 มาดูแลเป็นแบบเนสคุณย่าคุณยายและคุณแม่นะ
00:01:25 → 00:01:29 คะอันนี้ 3 เจนแล้วนะคะพาหลานมาค่ะค่ะ
00:01:29 → 00:01:32 เสร็จแล้วอืพอหมอแนะนำว่าวิธีการควรจะ
00:01:32 → 00:01:35 ต้องดูแลในแบบิ pill คือ Lifestyle
00:01:35 → 00:01:37 Medicine อ่ะเดี๋ยวหมอจะมีคีย์เวิร์ดของ
00:01:37 → 00:01:40 คำว่า lest Medicine เอามาใส่ให้นึกภาพ
00:01:40 → 00:01:43 ออกนะคะว่าเออเราจะดูแลกันยังไงข้อแรก
00:01:43 → 00:01:45 เนี่ยหมอเริ่มปรับอาหารพอปรับอาหารว่า
00:01:45 → 00:01:48 หลานควรจะต้องกินแบบนั้นแบบนี้คุณแม่ก็
00:01:48 → 00:01:51 เริ่มจดค่ะว่าอ๋อจะต้องเป็นแบบนี้แต่คน
00:01:51 → 00:01:55 เลี้ยงจริงๆคือคุณยายค่ะคุณยายก็กลายเป็น
00:01:55 → 00:01:58 ว่าอ๋อของแบบนี้คุณยายก็ทำคุณยายก็กินแบบ
00:01:58 → 00:02:02 นี้อยู่นเมนูที่คุณยายกินเอามาให้หลานกิน
00:02:02 → 00:02:05 ด้วยสิอ๋อแบบนี้หลานควรจะต้องเอ่องดแล้ว
00:02:05 → 00:02:08 ใช่มั้ยอะไรอย่างเงี้ยค่ะนะคะดังนั้น
00:02:08 → 00:02:11 เนี่ยค่ะการดูแลสุขภาพทั้ง 3 เจนเนี่ยมัน
00:02:11 → 00:02:14 เริ่มต้นจากความรักค่ะเริ่มต้นจากความรัก
00:02:14 → 00:02:17 ที่อยากดูแลกันอไม่ใช่ยายอยากดูแลตัวเอง
00:02:17 → 00:02:20 นะคะเอาตัวเองไว้ทีหลังเลยค่ะแต่ยายอยาก
00:02:20 → 00:02:23 ดูแลหลานให้ดีขึ้นแล้วคนที่เป็นเป็นผลพอย
00:02:23 → 00:02:25 ได้คือพอยายทำกับข้าวครั้งเดียวแม่ได้กิน
00:02:25 → 00:02:29 ด้วยอือันเนี้ยค่ะอันนี้คือการยกตัวอย่าง
00:02:29 → 00:02:32 ว่าการดูแลสุขภาพออเจนเนี่ยเริ่มจากความ
00:02:32 → 00:02:35 รักก่อนว่าคุณรักใครให้โฟกัสที่ตรงนั้น
00:02:35 → 00:02:39 ก่อนแล้วสุดท้ายทางบ้านก็จะก็จะสุขภาพดี
00:02:39 → 00:02:41 กันทางบ้านเลยทีเดียวค่ะเพราะว่าพอเริ่ม
00:02:42 → 00:02:44 ต้นจากการกินอาหารที่ดีนะคะในแบบไสล
00:02:44 → 00:02:46 Medicine ยกตัวอย่างอย่างเด็กภูมิแพ้
00:02:46 → 00:02:49 เด็กคนนี้นะคะเขาเริ่มด้วยการกินอาหารที่
00:02:49 → 00:02:54 มี artificial เยอะคือกินไส้กรอกเบคอนกิน
00:02:54 → 00:02:57 อาหารที่มีนมเนยชีสนะคะเด็กคนนี้นอนดึก
00:02:57 → 00:03:01 ค่ะติดเกมค่ะเด็กที่ไม่ค่อยได้ออกกำลัง
00:03:01 → 00:03:03 กาย physical activities น้อยดังนั้น
00:03:03 → 00:03:06 เนี่ยสิ่งที่หมอ wellness เนี่ยจะแนะนำก็
00:03:06 → 00:03:08 คือจะแนะนำเป็นแบบ 6 พิล่าอันนี้คือ
00:03:08 → 00:03:11 เทรนด์แล้วนะคะว่าอ้าแล้วเราจะดูแลกันได้
00:03:11 → 00:03:14 ยังไง 3 เจนอ่ะหลานต้องเริ่มออกกำลังกาย
00:03:15 → 00:03:18 ละอ้าแล้วพอออกกำลังกายใครไปเดินด้วยคะ
00:03:18 → 00:03:23 คุณยายค่ะคุณยายไปด้วยคุณยายเป็นคุณยค่ะ
00:03:23 → 00:03:27 ใช่ค่ะคุณยายคุณย่าค่ะแล้วในขณะที่อ้อคุณ
00:03:27 → 00:03:30 แม่เวลากลับมาอ้าลูกลูกกับคุณยายไปไหนอ่อ
00:03:30 → 00:03:34 เดินตามไปด้วยสรุปว่าทั้งทั้งทางบ้านน่ะ
00:03:34 → 00:03:37 คะก็คือไปฟิตเนสในหมู่บ้านด้วยกันหรือ
00:03:37 → 00:03:41 หลานต้องไปว่ายน้ำคุณยายก็ไปลงน้ำด้วยคุณ
00:03:41 → 00:03:43 แม่คุณพ่อก็ไปเข้าด้วยนะคะอันนี้คือสิ่ง
00:03:44 → 00:03:46 ที่เริ่มต้นจากความรักจริงๆที่คนใน
00:03:46 → 00:03:49 ครอบครัวต้องมีโจทย์ค่ะในการตั้งต้นดูแล
00:03:49 → 00:03:52 สุขภาพนะคะอ่ะกลับกันอันนี้เป็นหลานที่
00:03:52 → 00:03:56 เขาโชคดีเหลือเกินที่คุณยายเนี่ยดูแลนะคะ
00:03:56 → 00:03:59 แล้วก็โฟกัสมากถึงกระจดอาหารจะต้องพาหลาน
00:03:59 → 00:04:03 ไปออกกำลังกายกลับกันค่ะคนสูงอายุบ้างค่ะ
00:04:03 → 00:04:07 คนสูงอายุที่เขาเริ่มเสื่อมค่ะอันนี้เป็น
00:04:07 → 00:04:09 คุณแม่ที่บ้านนะคะเขาเริ่มเสื่อมเป็นคุณ
00:04:09 → 00:04:12 ผู้หญิงะกันอ่ะหมอใช้คำว่าคุณผู้หญิงอัน
00:04:12 → 00:04:15 นี้เคสจริงคนที่สุขภาพดีพร้อมคุณผู้หญิง
00:04:15 → 00:04:17 คือใครรู้มั้ยคะ
00:04:17 → 00:04:20 เอ่อคุณป้าแม่บคุผู้หญิงต้องคุณผู้ชาย
00:04:20 → 00:04:23 มั้ยคะป้าแม่บ้านคุณผู้ชายไม่สนใจแต่คุณ
00:04:23 → 00:04:26 ป้าแม่บ้านคนทำอาหารให้คุณผู้หญิงแล้วคุณ
00:04:26 → 00:04:29 ป้าแม่บ้านทานอาหารที่คุณผู้หญิงเหลือไว้
00:04:29 → 00:04:32 ออคอว่าทั้งบ้านเลยค่ะคุณป้าแม่บ้านน้ำ
00:04:32 → 00:04:35 หนักลดเท่าคุณผู้หญิงเลยค่ะ 6 กลต่อเดือน
00:04:35 → 00:04:38 เท่าที่คุณผู้หญิงจะต้องลดนะคะอันเนี้ย
00:04:38 → 00:04:41 ค่ะคือสิ่งที่อ่ะมันเริ่มต้นจากการที่ใคร
00:04:41 → 00:04:45 สักคนในบ้านนั้นเขาต้องเริ่มดูแลสุขภาพ
00:04:45 → 00:04:48 ค่ะแล้วก็ต้องมีใครสักคนที่เป็นทีมค่ะ
00:04:48 → 00:04:52 ช่วยกันเอื้อให้คนที่ดูต้องดูแลสุขภาพแบบ
00:04:52 → 00:04:56 โฟกัสจริงๆเดูแลได้ราบรื่นขึ้นค่ะอันนี้
00:04:56 → 00:04:59 ก็คือเป็นสิ่งที่อ่าเป็นเคล็ดลับค่ะของ
00:04:59 → 00:05:01 การที่ที่เราจะต้องดูแลสุขภาพกันทาง
00:05:01 → 00:05:04 ครอบครัวได้อย่างไรอันนี้คือน่านน่าจะตอบ
00:05:04 → 00:05:09 คำตอบของของอ่าพิธีกรนะคะค่ะค่ะครับค่ะ
00:05:09 → 00:05:13 อันอันนี้เรามองถึงเ่อมีคุณยายคุณปู่คุณ
00:05:14 → 00:05:18 ย่าแล้วตัวคุณพ่อเนี่ยอยู่ตรงเอ่อ solu
00:05:18 → 00:05:21 ไหนของวงเอ่อวงจรความรักนี้อ่ะคะคุณหมอ
00:05:22 → 00:05:24 ค่ะวงจรความรักใช่มั้ยคะลองสังเกตนะคะคุณ
00:05:25 → 00:05:27 พ่อเป็นหัวหน้าครอบครัวใช่มั้ยคะความรื้อ
00:05:27 → 00:05:29 อันดับเท่าไหร่คะยิ่งหัวหน้าครอบครัวที่
00:05:29 → 00:05:35 ดื้อมากๆอ่ะค่ะก็ก็มีอันนี้ยกตัวอย่างมี
00:05:35 → 00:05:38 แล้วแต่ตามใจนิดนึงฮะว่า
00:05:38 → 00:05:44 จะค่ะว่าจะอยากทำหรือไม่อยากทำใช่ค่ะซึ่ง
00:05:44 → 00:05:48 อันนี้ค่ะเอาหลานไปปลาะค่ะเอาหลานไปค่ะ
00:05:48 → 00:05:51 บอกคุณตามาช่วยออกกำลังกายกับหลานหน่อย
00:05:51 → 00:05:53 แต่ก็อาจจะอันเนี้ยค่ะเป็นสิ่งที่เป็น
00:05:53 → 00:05:57 กิจกรรมทางครอบครัวนะคะที่เราก็ทำตาม
00:05:57 → 00:06:00 โอกาสนะคะเพื่อเกิดการ sustain นะคะก็คือ
00:06:00 → 00:06:03 ทุกอย่างมันต้องต่อเนื่องแล้วก็ยั่งยืนนะ
00:06:03 → 00:06:06 คะอีกอันนึงที่หลายๆบ้านชอบทำก็คือไปเข้า
00:06:06 → 00:06:10 แคมป์สุขภาพค่ะอย่าหอเวลาแคมป์ดูแลสุขภาพ
00:06:10 → 00:06:12 อ่ะนะคะก็คือเหมือนเป็น wellness แคมป์นั
00:06:12 → 00:06:16 แหละค่ะไปกินไปอยู่ไปนอนปรับึมปรับจังหวะ
00:06:16 → 00:06:20 การนอนทำอาหารให้นะคะโดยมากเนี่ยเ่อทั้ง
00:06:20 → 00:06:23 บ้านเนี่ยก็จะซื้อแคมป์แทนการซื้อทัวร์ไป
00:06:23 → 00:06:26 ต่างประเทศอ่ะอันเงยเป็นต้นนะคะแต่แคมป์
00:06:26 → 00:06:28 ก็คือซื้อแคมป์ให้คุณพ่อคุณแม่แล้วตัวเอง
00:06:28 → 00:06:32 มาเข้าแคมด้วยส่วนหลานๆก็เ่อไปดูแลหรือ
00:06:32 → 00:06:35 กิจกรรมเรื่องอื่นไปนะคะอันนี้คือสิ่งที่
00:06:35 → 00:06:38 ทำให้ให้ Education หรือองค์ความรู้ใน
00:06:38 → 00:06:41 ด้านของการดูแลสุขภาพให้กับทางครอบครัวนะ
00:06:41 → 00:06:44 คะเป็นโอกาสโอกาสหรือมาพร้อมกันเนี่ยก็
00:06:44 → 00:06:47 เป็นเป็นอ่าเป็นช่วงหนึงอ่ะยกตัวอย่าง
00:06:47 → 00:06:49 เข้าแคมป์ปีละครั้งถูกมั้ยคะ 5 ครั้งนึง
00:06:49 → 00:06:52 ประมาณ 5 วันแต่เสร็จแล้วแต่ละคนมีโจทย์
00:06:52 → 00:06:55 ในการกลับไปดูแลสุขภาพของตัวเองซึ่งหมอ
00:06:55 → 00:06:57 เนี่ยแหละค่ะก็จะมีหน้าที่ในการออกแบบให้
00:06:58 → 00:07:01 ทุกอย่างเนี่ยสอดคล้องกันเพื่อให้การดูแล
00:07:01 → 00:07:05 ทำอาหารก็ง่ายนะคะเช่นนึกนนึกออกมคะว่า
00:07:05 → 00:07:08 บางทีอ่ะหมอแนะนำอาหารเด็กแบบนี้อาหารคุณ
00:07:08 → 00:07:10 แม่อีกอย่างเกิดคุณปาคุณยายกินอีกอย่าง
00:07:10 → 00:07:13 นึงคนปวดหัวคือแม่บ้านคือแม่ครัวหรือคน
00:07:13 → 00:07:16 ที่ทำอาหารนะคะดังนั้นเนี่ยการมีหมอ
00:07:16 → 00:07:18 Lifestyle Medicine นะคะในพารทนึงที่
00:07:19 → 00:07:21 หมอทำงานทางด้านเวชศาสตรป้องกันใช่ไหคะ
00:07:21 → 00:07:23 อีกพารทนึงก็คือในการใช้ Lifestyle
00:07:23 → 00:07:25 Medicine ที่ชื่อว่า pill เนี่ยค่ะเป็น
00:07:25 → 00:07:31 การออกแบบการดูแลของคนทั้งครอบครัวค่ะอตอ
00:07:31 → 00:07:36 แต่ละยที่วิีดูแลตัวเองอย่านะคะทราบว่า
00:07:36 → 00:07:39 แต่ละท่านพอเคยได้ยินเรื่องนี้ไคะิ pill
00:07:39 → 00:07:42 หรือหรือเสาหลัก 6 ด้านของการดูแลสุขภาพ
00:07:42 → 00:07:45 ทางการแพทย์ที่เดี๋ยวนี้แนะนำกันแล้วค่ะ
00:07:45 → 00:07:47 คุณหมอลงรายละเอียดตรงนี้ให้เลยค่ะเผื่อ
00:07:47 → 00:07:49 คุณผู้ฟังทางบ้านยังไม่เคยได้ยินตรงนี้
00:07:49 → 00:07:51 ค่ะใชค่ะหมอกลัวเดี๋ยวเอามะพร้าวห้าวมา
00:07:51 → 00:07:56 ขายสวนค่ะเหมือนแบบกลัวพูดกันไปเยอะแล้ว
00:07:56 → 00:08:00 ยังพูดได้เสมอคุณหมอเกรงเกรว่าเดี๋ยวแบบ
00:08:00 → 00:08:02 เอ้ยไปกันหมดแล้วแล้วก็แบบเอ้ยเดี๋ยวหมอ
00:08:02 → 00:08:06 อ้อมมาพูดอะไรซ้ำๆนะคะ ill หรือ Lifestyle
00:08:06 → 00:08:08 Medicine เนี่ยนะคะคือคือต้องบอกว่าหมอ
00:08:08 → 00:08:11 อยู่ในโรงพยาบาลวิมุตินะคะโรงพยาบาลวิมุต
00:08:11 → 00:08:13 เนี่ยก็เป็นหนึ่งในในเครือพฤกษานะคะพฤกษา
00:08:13 → 00:08:17 เร Estate ก็ได้อ่อสร้างโรงพยาบาลวิมุต
00:08:17 → 00:08:19 ขึ้นมาเพื่อส่งเสริมดูแลสุขภาพปัจจัยเอ่อ
00:08:19 → 00:08:22 เราก็อยากที่จะดูแลสุขภาพคนใน community
00:08:22 → 00:08:24 หนึ่งในนั้นก็คือ Lifestyle Medicine นะ
00:08:24 → 00:08:28 คะที่คือ ill ill นี้คือเสาหลัก 6
00:08:28 → 00:08:32 ประการคืออะไรข้อแรกการนอนค่ะค่ะหลับดีมี
00:08:32 → 00:08:35 สุขค่ะถ้า 6 ประการที่หมออ้อมจะเริ่มต้น
00:08:35 → 00:08:37 ก่อนเลยแล้วเริ่มต้นให้คนไข้โฟกัสก่อนคือ
00:08:38 → 00:08:41 ต้องโฟกัสที่การนอนการนอนเนี่ยเราก็จะสอน
00:08:41 → 00:08:44 เรื่องของ Sleep นะคะการนอน Sleep ไฮยีน
00:08:44 → 00:08:46 ว่าควรจะต้องนอนอย่างไรเช่นถ้ารายการ
00:08:46 → 00:08:49 สุขภาพดี 22:00 นใช่มั้ยคะก็อาจจะเป็นแบบ
00:08:49 → 00:08:52 ว่าเออพอฟังรายการจบแล้วนอนเลยนะอ่าก็คือ
00:08:52 → 00:08:56 นอนช่วงเวลาที่นอนแล้วอ่าสมรรถนะร่างกาย
00:08:57 → 00:09:01 หรือร่างกายได้ฟื้นฟูดีที่สุดเนี่ยก็
00:09:01 → 00:09:08 นคะช่วงที่ฟืูนะคะต้องบว่าช่วง 22 นถนะคะ
00:09:08 → 00:09:10 อันนี้คือสิ่งที่ร่างกายเนี่ยอ่าก็จะมี
00:09:10 → 00:09:13 เรื่องของ biological Clock อ่ะค่ะการ
00:09:13 → 00:09:17 uin การฟื้นฟูร่างกายหรือฮอร์โมนจะหลัง
00:09:17 → 00:09:20 ได้ดีก็ตอนช่วงนี้เช่นกันนะคะหมอก็จะแนะ
00:09:20 → 00:09:23 นำ Sleep ไฮยีนหรือในกลุ่มของคนไข้บางคน
00:09:23 → 00:09:27 ที่ไม่อยากกินยานอนหลับะอยากที่จะหาวิธี
00:09:27 → 00:09:30 อะไรที่ทำให้เขานอนหลับดีนะคะหมอก็จะมี
00:09:30 → 00:09:33 การเทรนตรงนี้หรือมีมนในการเปลี่ยนผ่าน
00:09:33 → 00:09:35 แล้วก็ค่อยเปลี่ยนผ่านในเรื่องของ
00:09:35 → 00:09:39 พฤติกรรมการนอนนะคะหรือการดีสอ่ะเมื่อกี้
00:09:39 → 00:09:42 Sleep แล้วนะคะก็คือการนอนดีมีสุขถัดไป
00:09:43 → 00:09:46 เราทำอะไรแล้วถึงจะนอนหลับได้ดีข้อนึงก็
00:09:46 → 00:09:50 คือดีสนะคะก็คือการผ่อนคลายการผ่อนคลาย
00:09:50 → 00:09:52 ความเครียดนั่นเองนะคะซึ่งกระบวนการการ
00:09:52 → 00:09:55 ผ่อนคลายความเครียดอ่ะค่ะเคล็ดลับแบบไม่
00:09:55 → 00:09:59 ลับนะคะแล้วนอนหลับได้ดีก็คือการสึกหายใจ
00:09:59 → 00:10:02 อืหมอก็จะสอนคนไข้นะคะด้วยการฝึกหายใจ
00:10:02 → 00:10:05 เช่นนะคะเดี๋ยวเผื่อคุณผู้ฟังทำตามหายใจ
00:10:05 → 00:10:09 เข้าลึกท้องป่องเต็มปอดเลยนะคะแล้วก็
00:10:09 → 00:10:12 กลั้นไว้นับ 1 2 3 ในใจจากนั้นก็ค่อยๆ
00:10:13 → 00:10:16 หายใจออกผ่อนคลายอันเนี้ยเรานับเป็น 1
00:10:16 → 00:10:21 ครั้งนะคะหายใจเข้าลึกอกั้นไว้ 1 2 3
00:10:21 → 00:10:26 แล้วก็หายใจออกผ่อนคลายนับเป็น 2 ทำแบบเย
00:10:26 → 00:10:29 ค่ะ 30 ครั้งถึง 50 ครั้งเหมือนยานอนนอน
00:10:29 → 00:10:32 หลับเลยค่ะหลับดีแล้วหลับนานด้วยนะคะคน
00:10:32 → 00:10:36 ไข้ก็จะผ่อนคลายแล้วก็นอนหลับไปเลยค่ะนะ
00:10:36 → 00:10:38 คะซึ่งสูตรอันนี้เนี่ยนะคะหมออ้อมเอามา
00:10:38 → 00:10:42 ใช้สำหรับคนที่เป็นเบาหวานด้วยน้ำตาลก็
00:10:42 → 00:10:45 คุมได้นะคะลงได้ดีนั่นคือคือเป็นการควบ
00:10:45 → 00:10:48 คุมระบบประสาทอัตโนมัติด้วยนะคะก็คือเป็น
00:10:48 → 00:10:52 การผ่อนคลายดีมีสุข 2 ข้อแล้วนะคะใน 6
00:10:52 → 00:10:55 ข้อิ pill อีก 2 ข้อคืออะไรนะคะอันเนี้ย
00:10:55 → 00:10:59 ง่ายๆเลยนะคะก็คือเรื่องของนิวตรินิวตริ
00:11:00 → 00:11:02 เนี่ยค่ะก็จะขอเรียนอย่างนี้ค่ะว่าคนไทย
00:11:03 → 00:11:05 เราอ่ะเป็นโรค ncd เยอะมากแล้วถ้าเกิดว่า
00:11:05 → 00:11:08 เราดูรายการที่คุณหมอทุกคนมาออกรายการนะ
00:11:08 → 00:11:11 ค่ะโดยเฉพาะเรื่องไสล์เซเนี่ยก็จะบอกว่า
00:11:11 → 00:11:14 ncd หรือโรคติดต่อที่
00:11:14 → 00:11:17 เอ่อเป็นโรคติดต่อที่ไม่ใช่การติดเชื้อ
00:11:17 → 00:11:20 ค่ะเช่นไขมันสูงโรคอ้วนโรคเบาหวานโรคความ
00:11:20 → 00:11:23 ดันเนี่ยเปลืองทรัพยากรชาติเยอะมากเลยนะ
00:11:23 → 00:11:26 คะนะคะอันเนี้ยก็คือเป็นสิ่งที่หมอในด้าน
00:11:26 → 00:11:30 ของไสในดีซเนี่ยจะต้องมาโฟกัสละนะคะอต่อ
00:11:30 → 00:11:34 ไปค่ะคนไทยคจะรู้จ das di เยอะขึ้นอ้าว
00:11:34 → 00:11:37 das di คือชื่ออะไรเป็นอาหารสำหรับคน
00:11:37 → 00:11:40 ความดันสูงอย่างเงี้ยเป็นต้นนะคะต่อไปก็
00:11:40 → 00:11:44 คือคุมเกลือนะคะว่าเกลือเนี่ยไม่ควรเกิน
00:11:44 → 00:11:47 เท่าไหร่ต่อวันนะคะน้ำตาลไม่ควรเกิน 6 6
00:11:47 → 00:11:50 ช้อนชาเกลือไม่ควรเกิน 2 กรัมต่อวันนะ
00:11:50 → 00:11:52 อย่างเงี้ยต่อไปจะอยู่ใน fundamental คือ
00:11:52 → 00:11:56 พื้นฐานนะคะของการที่เอ่อประชาชนคนไทยควร
00:11:56 → 00:11:59 จะต้องรู้นะคะอาหารหวานเกินไปเค็มเกินไป
00:11:59 → 00:12:02 เนี่ยควรจะต้องอ่ากลับเข้ามาสู่เเรียก
00:12:02 → 00:12:05 ระบบประสาทอัตโนมัติในการเลือกกินนะคะ
00:12:05 → 00:12:07 หรือร้านอาหารทุกร้านเนี่ยควรจะต้องมี
00:12:07 → 00:12:11 เมนูความดันสูงนะคะมีเมนูที่คนที่เป็นเบา
00:12:11 → 00:12:13 หวานพึงระวังเนี่ยค่ะมีการเตือนตั้งแต่
00:12:13 → 00:12:16 ก่อนที่จะซื้อนะคะก็ต้องขอประทานโทษอาจจะ
00:12:16 → 00:12:19 บาแซ่บนะคะแต่ว่าเพื่อทำให้คุณภาพชีวิต
00:12:19 → 00:12:22 ของคนที่เป็นโรคเรื้อรังอย่างเงี้ยนะคะ
00:12:22 → 00:12:24 ควบคุมได้โดยไม่ต้องพึ่งอย่านะคะเพราะว่า
00:12:24 → 00:12:27 โรคต่างๆเหล่าเนี้ยพอเป็นสตกหรือหลอด
00:12:27 → 00:12:31 เลือดแตกนะคะก็ค่าใช้จ่ายเนี่ยเป็นแสนเลย
00:12:31 → 00:12:34 นะคะต่อเดือนนะคะในหลายๆคนที่เขาต้องติด
00:12:34 → 00:12:37 เตียงอันนี้เป็นต้นนะคะเรื่องของอาหาร
00:12:37 → 00:12:39 หรือบางคนน่ะค่ะอาจจะมารู้จักในด้านของแ
00:12:39 → 00:12:42 Base Diet แล้วค่ะอืแ Base อันนี้พอพอ
00:12:42 → 00:12:45 ทราบกันแล้วใช่มั้ยคะพอทราบอยู่บ้างค่ะ
00:12:45 → 00:12:48 คืออาหารที่เป็นคล้ายๆมังสวิรัตอ่ะค่ะเจท
00:12:48 → 00:12:51 นันค่ะแต่อาหารกลุ่มแนเบสเนี่ยเป็นอาหาร
00:12:51 → 00:12:54 ที่ลดกระบวนการอักเสบนะคะค่ะในกลุ่ม
00:12:54 → 00:12:56 กระบวนการอักเสบคืออะไรโอ้โหเมื่อยเนื้อ
00:12:56 → 00:13:00 เมื่อยตัวง่ายร้อนในหายใจไม่อิ่มถ้าเอา
00:13:00 → 00:13:02 ง่ายๆนะคะอาการเหมือนคนเป็นรองโควิดอ่ะ
00:13:02 → 00:13:06 ค่ะครับค่ะเวลาเป็นโควิดแล้วแล้วก็โอ้โห 3
00:13:06 → 00:13:08 เดือน 6 เดือนรู้สึกตัวเองกลับไปไม่ฟิ
00:13:08 → 00:13:10 เหมือนเดิมเหนื่อยง่ายอันนั้นล่ะค่ะคือ
00:13:10 → 00:13:13 เรื่องของกระบวนการอักเสบที่ยังหลงเหลือ
00:13:13 → 00:13:16 อยู่ในร่างกายนะคะซึ่งในในกลุ่มของเหมอ
00:13:16 → 00:13:19 เนสเนี่ยจะรักษารองโควิดกันเยอะมากเพราะ
00:13:19 → 00:13:23 รองโควิดไม่มียาไม่มียาที่สิิหรือไม่มีา
00:13:23 → 00:13:27 เฉพาะในการรักษาแต่โรคพวกเนี้ยเป็นกลุ่ม
00:13:27 → 00:13:30 ของกระบวนการอักเสบที่มันเยอะนะคะซึ่ง
00:13:30 → 00:13:32 กระบวนการอักเสบที่เยอะเนี่ยเราจะให้กิน
00:13:32 → 00:13:36 อาหารแพนเบสค่ะอาหารมังสวิรัตที่ไม่ผ่าน
00:13:36 → 00:13:40 การทอด EP ยคือไม่ใช่อาหารเจนะคะใครใคร
00:13:40 → 00:13:43 เห็นว่าตอนตอนกินเจกันโหจะเจอแต่ของทอด
00:13:43 → 00:13:45 เต็มไปหมดอันเนี้ยไม่ใช่แพนเบสที่ดีต่อ
00:13:45 → 00:13:48 สุขภาพนะคะก็จะต้องเป็นอาหารสดสะอาดและมา
00:13:48 → 00:13:51 จากธรรมชาติซึ่งพอกินอาหารในกลุ่มนี้ดีๆ
00:13:51 → 00:13:54 นะคะก็จะทำให้ค่าของการอักเสบลดลง
00:13:54 → 00:13:57 อันเนี้ยก็จะเป็นในกลุ่มของอาหารที่มาดู
00:13:57 → 00:13:59 แลสุขภาพอนทนมากขึ้น
00:13:59 → 00:14:04 หรือในกลุ่มของคีลาสำหรับลดน้ำตาลในคนไข้
00:14:04 → 00:14:07 เบาหวานหรือคนที่อ้วนทุบพลภาพอ่ะค่ะอ้วน
00:14:07 → 00:14:10 ทุกพลภาพเ่อทุกท่านพอจะเคยได้ยินคำเก๋ๆ
00:14:10 → 00:14:15 อันนี้มคะโอ้โหอ้วนรู้จักทุกพลภาด้วยคือ
00:14:15 → 00:14:19 ติดเตียงทุกพลภาพเลยขยับไปไหนไม่ได้ใช่
00:14:20 → 00:14:23 ลำบากใช่มั้ยฮะประมาณนั้นถูกต้องเข้าห้อง
00:14:23 → 00:14:27 น้ำหมุนตัวไม่ได้อ่ะค่ะค่ะคือคือคือคือคน
00:14:27 → 00:14:30 ไข้ที่อ้วนมากๆอ่ะค่ะก็ก็คือเข้าห้องน้ำ
00:14:30 → 00:14:33 ต้องถอยหลังเข้าแล้วก็นั่งชักโคกเลยอคือ
00:14:33 → 00:14:36 เข้าไปแบบหมุนตัวหรือหรือถอดเสื้อหรือ
00:14:36 → 00:14:39 อะไรต่างๆไม่ได้อันเนี้ยคืออ้วนเกินไปละ
00:14:39 → 00:14:42 อ้วนที่ BMI เกิน 40 ซึ่งกลุ่มเนี้ยค่ะก็
00:14:42 → 00:14:45 จะเข้าเกณฑ์ในการผ่าตัดกระเพาะอันนี้เคย
00:14:45 → 00:14:48 เคยได้ยินมั้ยคะว่าบาลาหลายคนไปผ่าตัด
00:14:48 → 00:14:50 กระเพาะอ่ะคะซึ่งผ่าตัดกระเพาะเนี่ยถ้า
00:14:50 → 00:14:52 เกิดว่าถึงขั้นอ้วนทุกพลภาพเนี่ยก็จะมี
00:14:52 → 00:14:54 สวัดิการในการผ่าตัดกระเพาะเพื่อลดความ
00:14:55 → 00:14:57 เสี่ยงที่จะเสียชีวิตนะคะซึ่งอันเนี้ย
00:14:57 → 00:15:00 เป็นคำที่เราเราจะต้องมาช่วยกันรณรงค์อ่ะ
00:15:00 → 00:15:03 ค่ะว่าอย่าไปถึงขั้นนั้นเลยเพราะว่ามัน
00:15:03 → 00:15:06 มันจะเสียหายหลายแสนน่ะคะมันทั้งเรื่อง
00:15:06 → 00:15:08 ของกระบวนการการรักษาแล้วด้วยบวกกับ
00:15:08 → 00:15:10 เรื่องของเราจะต้องอ่าไปผ่าตัดอะไรอย่าง
00:15:10 → 00:15:13 เงี้เป็นต้นดังนั้นเนี่ยเราก็จะต้องมา
00:15:13 → 00:15:16 สนับสนุนเรื่องการกินอาหารที่ดีในบทบาท
00:15:16 → 00:15:18 ของ Lifestyle Medicine อ่าเมื่อกี้
00:15:18 → 00:15:21 เมื่อกี้นอนแล้วนะคะใครเครียดแล้วนะคะ
00:15:21 → 00:15:25 แล้วก็นิติแล้วนะคะที่หมอโฟกัสไปนะคะอีก 3
00:15:25 → 00:15:29 นะคะก็คือการออกกำลังการออกกำลังใกำลัง
00:15:29 → 00:15:32 เนี่ยนะคะเอ่อคนเนี่ยก็จะคอยดูว่าเอ๊ะจะ
00:15:32 → 00:15:36 ออกกำลังแบบไหนดีนะคะที่จะช่วยส่งเสริม
00:15:36 → 00:15:38 สมรรถนะนะคะหมออ้อมก็จะบอกว่าเดี๋ยวนี้
00:15:38 → 00:15:40 หมอ Lifestyle Medicine หรือ Lifestyle
00:15:40 → 00:15:42 Medicine Coach เนี่ยก็จะแนะนำอยู่ 5
00:15:42 → 00:15:44 อย่างด้วยกันค่ะไม่ใช่เลือกอย่างใดอย่าง
00:15:44 → 00:15:49 หนึนะคะ 1 ก็คือการโฟกัสที่คาริวสคูลก็
00:15:49 → 00:15:52 คือเรื่องของระบบหัวใจนะคะก็คือการออก
00:15:52 → 00:15:54 กำลังแบบคาร์ดิโออ่ะค่ะแต่บางคนก็แบบจะ
00:15:54 → 00:15:58 โฟกัสแค่คาร์ดิโออย่างเดียวแต่ไม่ฝึกเอ่อ
00:15:58 → 00:16:01 ยืดเหยียดเลยอันก็เกิดอุบัติเหตได้เหมือน
00:16:01 → 00:16:04 กันคือขายึดอ่ะค่ะแล้วก้าวไม่พ้นค่ะแล้ว
00:16:04 → 00:16:07 ล้มปุ๊บหัวแตกกลางถนนค่ะรถชนนะคะอันนี้ก็
00:16:07 → 00:16:12 เคยเจอมาแล้วเส้นเส้นยึดนะคะอเรื่องของ
00:16:12 → 00:16:14 flexibility อ่าแต่ฝึก 2 อย่างแล้วไม่
00:16:14 → 00:16:17 ฝึกานก็ไม่ได้โดยเฉพาะคนสูงอายุค่ะที่บอก
00:16:17 → 00:16:19 ว่าเนี่ยค่ะออกกำลังกายทั้งครอบครัวค่ะ
00:16:20 → 00:16:22 เนี่ยค่ะการไปออกกำลังกายเช่นถ้าเกิดว่า
00:16:22 → 00:16:26 คนที่หนุ่มๆหน่อยอหรือเป็นคุณพ่อคุณแม่
00:16:26 → 00:16:30 หรือเด็กๆออกแบบคาร์ดิโอได้ได้นะเด็กฝึก
00:16:30 → 00:16:32 gymnastic flexibility ได้แต่ผู้สูง
00:16:32 → 00:16:35 อายุต้องโฟกัสที่ Balance ค่ะ Balance ก็
00:16:35 → 00:16:38 คือการทรงตัวค่ะการฝึกทรงตัวเช่นการยืนขา
00:16:38 → 00:16:41 เดียวอ่าการยืนขาเดียวใครคิดว่าง่ายนะคะ
00:16:41 → 00:16:44 ถ้าเราไม่ได้ยืนนานๆนี่มีเซเหมือนกันนะคะ
00:16:44 → 00:16:47 นะคะซึ่ง
00:16:47 → 00:16:50 ยืนใช่ต้องเล่นเซิร์ฟบอร์ดเล่นสเก็ตเล่น
00:16:50 → 00:16:52 อะไรบางทีเนี่ยค่ะหมอเนี่ยแหละค่ะแบบโหย
00:16:53 → 00:16:56 เมื่อก่อนยืนได้สบายมากพอเราไม่ได้ฝึกนาน
00:16:56 → 00:16:59 ๆนะค่ะเยืนอีกทีอ้าแหมคไม่ฟิตเหมือนเมื่อ
00:16:59 → 00:17:02 ก่อนอันนี้ต้องฝึกเสมอๆนะคะหัวข้อของการ
00:17:02 → 00:17:05 Exercise ก็เลยมีอยู่ 5 เรื่องคือคิ
00:17:05 → 00:17:08 flexibility การฝึกความสมดุลที่สำคัญอีก
00:17:08 → 00:17:11 อันนึงคือการฝึก Strength ก็คือพวกยกเท
00:17:11 → 00:17:15 ดำบลนะคะเล่นเทต่างๆค่ะฝึกสออย่างเงี้ย
00:17:15 → 00:17:18 ค่ะก็คือช่วยเสือ้างก้เหนือค่ะอันเนี้ย
00:17:18 → 00:17:22 ค่ะทราบมั้ยคะว่าเคยมีนะคะว่าบางคนน่ะคะ
00:17:22 → 00:17:25 คิดว่าเอ้ยหุ่นชั้นเท่าเดิมคนสูงอายุนะคะ
00:17:25 → 00:17:28 หุ่นเท่าเดิมเนี่ยเอ่อน้ำหนักเท่าเดิมทุก
00:17:28 → 00:17:31 อย่างคิดว่าร่างกายเหมือนเดิมแต่จริงๆไม่
00:17:31 → 00:17:34 เหมือนเดิมนะคะถ้าวัดเส้นรอบวงขนาดเอว
00:17:34 → 00:17:37 หรือขนาดขาต่อให้เท่าเดิมน้ำหนักเหมือน
00:17:37 → 00:17:40 เดิมแต่องค์ประกอบในนั้นเปลี่ยนแปลงค่ะ
00:17:40 → 00:17:43 กล้ามเนื้อลดลงแล้วแทนที่เป็นไขมันค่ะอ
00:17:43 → 00:17:45 เพราะฉะนั้นเนี่ยการเบิรนหรือความแข็งแรง
00:17:45 → 00:17:48 เนี่ยมันจะน้อยลงต่อให้น้ำหนักเท่าเดิม
00:17:48 → 00:17:50 ซึ่งอันเนี้เราจะต้องมาฝึกเรื่องของ
00:17:50 → 00:17:53 strengthening แล้วอีกอันนึงสุดท้ายคือ
00:17:53 → 00:17:56 agility ค่ะ agility คือการตอบสนองเร็ว
00:17:56 → 00:17:59 ค่ะค่ะอันนี้ถ้าคุณพิธีกรได้ออกกำลังกลัง
00:17:59 → 00:18:00 กายอยู่แล้วก็ขอประทานโทษเหมือนเอา
00:18:00 → 00:18:02 มะพร้าวห้าวมาขายสวนหรือเปล่าแต่ว่า
00:18:02 → 00:18:05 อันเนี้ยเราให้โฟกัสในการออกแบบการออก
00:18:05 → 00:18:07 กำลังกายเป็น 5 เรื่องนะคะซึ่ง 5 เรื่อง
00:18:08 → 00:18:11 เนี่ยถ้าใครจะออกแบบฟิตเนสในบ้านนะคะหรือ
00:18:11 → 00:18:14 ดูซิว่าฉันทำครบหรือยังนะคะเพราะบางคน
00:18:14 → 00:18:17 โฟกัสแต่คาร์ดิโอก็ไม่ไม่ไม่ไม่ได้ทำให้
00:18:17 → 00:18:21 วอแข็งแรงนะคะเคยเห็นมคะว่านักฟุตบอลก็ก็
00:18:21 → 00:18:24 หัวใจวายไกลได้เหมือนกันอะไรอย่างเงี้ยนะ
00:18:24 → 00:18:27 คะดังนั้นเนี่ยเราก็จะต้องมาเช็คแล้วก็ดู
00:18:27 → 00:18:30 แลสม่ำเสมอนะคะอันนั้นคือรูปแบบของการออก
00:18:30 → 00:18:34 กำลังนะคะแต่ประปริมาณล่ะเช่นความถี่อ่ะ
00:18:34 → 00:18:37 คุณคาร์ดิโอเดือนละครั้งก็ไม่แข็งแรงเนาะ
00:18:37 → 00:18:40 อ่าก็อาจจะต้องเป็นความถี่ 2-3 ครั้งต่อ
00:18:40 → 00:18:44 สัปดาห์นะคะความรุนแรงความแรงขนาดไหนนะคะ
00:18:44 → 00:18:47 เช่นแบบเป็นเทสไหนก็คือหัวใจเต้นเร็ว
00:18:47 → 00:18:51 เบอร์ไหนก็จะมีดีกรีว่าอ่าถ้าหัวใจเต้น
00:18:51 → 00:18:54 เท่านี้ต่อนาทีอ่าก็คือเบอรไขมันนะถ้าหัว
00:18:54 → 00:18:57 ใจเต้นสูงขึ้นอีกอ่ะอันเนี้ยเป็นการ
00:18:57 → 00:19:01 Exercise หัวใจให้หัวใจแข็งแรงขึ้นนะคะ
00:19:01 → 00:19:04 แล้วก็บวกกับระยะเวลาค่ะอันเนี้ยนะคะเวลา
00:19:04 → 00:19:07 เราเราจะเป็นเคล็ดลับไปดูแบางคนออกกำลัง
00:19:07 → 00:19:11 กายนะวิ่งนะอ่า 10 นาทีเลิกแล้วเป็นไงคะ
00:19:11 → 00:19:15 ได้ะต้องประมาณก็ยังไม่ถึงกำหนดที่พอ
00:19:15 → 00:19:17 เหมาะพอควรใช่มั้ยร่างกายเค้ารับรู้หรือ
00:19:17 → 00:19:20 ยังออกกำลังกายแค่ 10 นาทีอ่ะค่ะคุณหมอคะ
00:19:20 → 00:19:23 ใช่ค่ะก็คือเหนื่อยนะเหนื่อยแบบโอ้โหแฮกๆ
00:19:23 → 00:19:25 เลยแต่แบบจากนั้นก็ไปเล่นโทรศัพท์ละอ่ะใน
00:19:26 → 00:19:27 ฟิตเนสนะคะเราจะเนกันเยอะใช่มั้ยคะถ้าเรา
00:19:28 → 00:19:30 ไปเล่นฟิตเนสเราจะเห็นอ้าฟิตอย่างดีเลย
00:19:30 → 00:19:33 เอ้ยแต่บางคนนี่วินัยดีมากนะ 1 ช่วโมงเรา
00:19:33 → 00:19:36 เห็นเขาจับเวลาอ่ะอันเนี้ยใช่เอ๊หรือเรา
00:19:36 → 00:19:38 เป็นคนที่เล่นเบโทรศัพท์นะเราเห็นคนอื่น
00:19:38 → 00:19:41 เต็มไปหมดเปล่าเจริงๆมาไปเล่นเท Training
00:19:41 → 00:19:43 นะคะเราก็เอ่อไปดูซิในขณะที่เราเทอ่ะเรา
00:19:44 → 00:19:46 เห็นเพื่อนๆเราเป็น inspiration กันไปนะ
00:19:47 → 00:19:49 คะอันนี้ก็เป็นรูปแบบของการออกกำลังกาย
00:19:49 → 00:19:52 อันนี้ 4 ข้อละนะคะที่เราจะสุขภาพดีอัน
00:19:52 → 00:19:56 นี้ In นะคะตามหลักของไ Medicine ค่ะอือ
00:19:56 → 00:19:59 อันที่ 5 ค่ะคือ
00:19:59 → 00:20:02 avoidance ค่ะ toxic avoidance คืออะไร
00:20:02 → 00:20:05 แอลกอฮอลค่ะอันนี้ใกล้ปีใหม่แล้วนะคะขอ
00:20:05 → 00:20:09 อนุญาตคือคือเราอ่ะค่ะก็ควรดื่มไม่เกิน
00:20:09 → 00:20:12 1-2 ดื่มต่อวันน่ะค่ะไม่ใช่ดื่มไม่ได้
00:20:12 → 00:20:14 เลยนะคะบางทีบางคนโอ้โหมีปาร์ตี้แบบ
00:20:14 → 00:20:17 สังสรรค์อะไรอย่างเงี้ยค่ะแต่ก้าวเดียวก็
00:20:17 → 00:20:20 เปรี้ยวทั้งคืนอ่ะค่ะก็ขอให้ยึบคตินี้
00:20:20 → 00:20:22 แล้วกันนะคะค่ะแก้วแก้วเดียวเปรี้ยวทั้ง
00:20:22 → 00:20:25 คืนได้ก็แบบจิบๆไปอะไรอย่างเงี้ยก็คือ 1
00:20:25 → 00:20:28 ดื่มถึง 2 ดื่มต่อวันถ้าปาร์ตี้หนักหน่วง
00:20:28 → 00:20:31 7 วัน 7 คืนก็ 1-2 ดื่มทำให้ได้นะคะใน
00:20:31 → 00:20:35 กรณีบางคนที่อะไรรู้มยคะปับไม่สู้ดีอยู่
00:20:35 → 00:20:39 แล้วค่ะค่ะเพราบนไม่ได้ดื่มนะไม่ได้ดื่ม
00:20:39 → 00:20:41 เลยแต่ไขมันพอกตับไปเรียบร้อยแล้วเป็นตับ
00:20:41 → 00:20:45 ฟัวการู้จักตับัวกามั้ยคะเราเคยกินัวกา
00:20:45 → 00:20:48 มั้ยคอปัวกาเคยได้ินไม่มีโอกาได้กินเลย
00:20:48 → 00:20:51 ตับนุ่มๆค่ะตับนุ่มๆเลยค่ะนั่นน่ะค่ะเป็น
00:20:51 → 00:20:54 ไขมันพอกตับอ่ะค่ะเรากินตัวไขมันที่ไปพอก
00:20:54 → 00:20:58 ตับห่านอยู่นะคะค่ะแล้วก็จะไปพอกตรงไขมัน
00:20:58 → 00:21:01 พอกตับของเราด้วยนะคะออลักษณะจะเป็นอย่าง
00:21:01 → 00:21:05 งั้นเออขอขอประทานโทษอาจจะเบาะจอยแบบเวลา
00:21:05 → 00:21:07 กินน่ะนะคะแต่ว่าไม่เป็นไรครับผมผมยังไม่
00:21:07 → 00:21:12 เคยยังไม่เคยมีโอกาสกินมาดิเอ้อค่ะก็ไม่
00:21:12 → 00:21:14 เป็นไรค่ะก็อันนั้นน่ะไม่ค่อยดีหรอกนะคะ
00:21:14 → 00:21:17 อะไรก็แต่ว่าแต่ว่าฟกามักมักจะเป็นอาหาร
00:21:17 → 00:21:20 หรูอ่ะค่ะก็ถ้าจะกินกินแต่น้อยให้แบบเป็น
00:21:20 → 00:21:23 คำๆเดียวๆอยู่ในซูชิอ่ะค่ะแต่บางคนกิน
00:21:23 → 00:21:26 เป็นแบบ 2 ขีด 3 ขีดอันเนี้ยหมอว่ามันก็
00:21:26 → 00:21:29 เยอะเกินไปนะคะบางคนแบบเงินน่ะค่ะในการ
00:21:29 → 00:21:33 ซื้อเยอะแต่ว่ากินเยอะไปก็ไขมันพอกตับแบบ
00:21:33 → 00:21:36 ไม่รู้ตัวแล้วพอไขมันพอกตับเกิดตับอักเสบ
00:21:36 → 00:21:39 ค่ะพอตับอักเสบไปนานๆเกิดตับแข็งค่ะออัน
00:21:40 → 00:21:42 นี้ตับแข็งจากการอักเสบเรื้อรังที่ไม่ใช่
00:21:42 → 00:21:46 แอลกอฮอล์นะคะแต่ในคนที่บวกกับดื่ม
00:21:46 → 00:21:50 แอลกอฮอล์ไปด้วยแล้วนะคะยิ่งคูณ 2 นะคะ
00:21:50 → 00:21:54 เพราะดื่มแอลกอฮอล์ก็ก็ทำให้ตับอักเสบนะ
00:21:54 → 00:21:56 คะแล้วก็ไขมันพอกตับด้วยเหมือนกันนะคะ
00:21:56 → 00:21:59 เพราะฉะนั้นไม่ควรเกิน 1 ถึง 2 ดื่มต่อ
00:21:59 → 00:22:04 วันนะคะอือถัดไปเอ่อ toxic substance
00:22:04 → 00:22:06 ที่เราควรจะต้องเลิกหรือลดได้คือบุหรี่
00:22:06 → 00:22:10 ค่ะอืครับค่ะบุหรี่ค่ะคือตอนเหมอห่วงมากๆ
00:22:11 → 00:22:14 นะคะเพราะตอนนี้มีบุหรี่ไฟฟ้าที่รูปร่าง
00:22:14 → 00:22:16 หน้าตาน่ารักไผในเด็กแล้วนะคะครับครับคือ
00:22:16 → 00:22:19 อันเนี้ยหมออยากหมออยากแบบให้พวกเรา
00:22:19 → 00:22:22 รณรงค์กันมากๆเลยให้เด็กเราอ่ะรู้เท่าทัน
00:22:22 → 00:22:24 หรือผู้ปกครองอ่ะต้องรู้เท่าทันว่าจริงๆ
00:22:24 → 00:22:27 เนี่ยบุหรี่ไฟฟ้าสำหรับเด็กซึ่งติดกัน
00:22:27 → 00:22:31 ง่ายมากเพราะมันรสชาติหอมหวานนะคะเป็น
00:22:31 → 00:22:35 นิโคตินน่ะค่ะแล้วปอดลูกเรานะคะจะพังก่อน
00:22:35 → 00:22:38 วัยอันควรมากๆเลยอนะคะอันเนี้ยเป็นรูป
00:22:38 → 00:22:41 ลักษณ์ที่มันดูเหมือนเหมือนหักฝรั่งหรือ
00:22:41 → 00:22:44 บางทีดูแบบน่ารักมีการ์ตูนอะไรเงี้ยค่ะ
00:22:44 → 00:22:47 แต่จริงๆคือบุานะคะอันนี้ก็อาจจะต้องแบบ
00:22:47 → 00:22:50 เป็นอีกหนึ่งคทนเลยที่เราจะต้องรณรงค์
00:22:50 → 00:22:53 เพราะเพราะอันนี้สำคัญมากๆจริงๆนะคะนะคะ
00:22:53 → 00:22:56 เรื่องของการเอ่อเลิกบุหรี่นะคะเคล็ดลับ
00:22:56 → 00:22:59 ของการเลิกบุหรี่คืออะไรทราบมั้ยคะ
00:22:59 → 00:23:03 เคล็ดลับเหรอครับของการเลิกบุหรี่หาอย่าง
00:23:03 → 00:23:07 อื่นไม่ให้ปากว่างอืถูกต้องถูกต้องแล้วค
00:23:07 → 00:23:09 คะอย่างอื่นไม่ให้ปากว่างโดยเฉพาะในกลุ่ม
00:23:09 → 00:23:13 วิตามินซีค่ะเปรี้ยวๆนะคะเปรี้ยวๆบางคน
00:23:13 → 00:23:17 ชอบกินหมักฝรั่งหรือบางคนแบบมีสายด่วนอด
00:23:17 → 00:23:20 บุหรี่นะคะเขาก็จะเลือกโทรสายด่วนอด
00:23:20 → 00:23:23 บุหรี่ให้ช่วยผมหน่อยลงสมัครสลงสมัครนะคะ
00:23:23 → 00:23:27 เอ่อลงลงเช็คอินไปก็จะมีคนช่วยเป็นโค้ช
00:23:27 → 00:23:29 ช่วยดูแลนะคะครับขั้นแรกเลยนะคะต้องเลือก
00:23:29 → 00:23:33 วันก่อนเลือกวันว่าฉันจะอดบุหรี่วันนี้
00:23:33 → 00:23:38 เลือกวันแต่ไม่ใช่มีเดดไลน์มีเป้าหมายอ่า
00:23:38 → 00:23:42 ข้อที่ 2 ค่ะลั่นวาจาเลยค่ะลั่นวาจาบอก
00:23:42 → 00:23:45 เพื่อนบอกฝูงบอกผ่าน Facebook บอกผ่าน
00:23:45 → 00:23:50 สื่อโซเชียลลั่นวาจาว่าเอ้ยถ้าใครเห็น
00:23:50 → 00:23:53 เนี่ยนะช่วยเตือนด้วยอะไรอย่าเงี้ยถ้า
00:23:53 → 00:23:57 เลิกเงียบๆอ่ะเลิกไม่ได้ต้องลั่นวาจานะ
00:23:57 → 00:24:01 ถัดไปลาอุปกรณ์คือเอาอุปกรณ์ทั้งหมดไป
00:24:01 → 00:24:05 ทิ้งให้หมดเลยไม่ให้เจอนะคะเปรี้ยวปากเอา
00:24:05 → 00:24:09 ีมะนาวเข้าปากไปอยงยนไปอืยนไปและที่สำคัญ
00:24:09 → 00:24:13 คือทำทันทีค่ะลงมือทำทันทีอันเนี้ยคือ
00:24:13 → 00:24:16 เคล็ดลับของการสุขภาพดีนะคะว่าอุยเดี๋ยว
00:24:16 → 00:24:19 นี้การเลิกบุหรี่ไม่ใช่เป็นเรื่องเรื่อง
00:24:19 → 00:24:23 ของคนแก่นะเราอ่ะสามารถทำได้ทันทีเลยยิ่ง
00:24:23 → 00:24:27 โดยเฉพาะคนที่เพิ่งเริ่มตามแฟชั่นนะคะก็
00:24:27 → 00:24:30 ทำทันทีเถอะเพราะว่าทั้งเปลืองอ่าเปลือง
00:24:30 → 00:24:34 เงินแล้วเนาะในการในการซื้อนะคะแล้วเราก็
00:24:34 → 00:24:37 จะไม่มีอิสรภาพอ่ะค่ะเราเราต้องแบบออกไป
00:24:37 → 00:24:39 สูบบุหรี่คือเวลางานอีกเดี๋ยวนี้เขาก็
00:24:39 → 00:24:42 แทรกเวลางานนะคะว่าใครออกไปสูบบุหรี่ก็
00:24:42 → 00:24:45 ต้องมาเ่อชดใช้เวลางานเนาะในการในการที่
00:24:45 → 00:24:48 เข้าทำงานอันนี้ก็มีองค์กรที่คอย detect
00:24:48 → 00:24:51 ตรงนี้อยู่เหมือนกันนะคะข้อสุดท้ายเมื่อ
00:24:51 → 00:24:54 กี้ 5 อย่างแล้วใช่มั้ยคะความสัมพันธ์ค่ะ
00:24:54 → 00:24:58 ค่ะตอบโจทย์ครอบครัวเลยค่ะรชคมนุษย์เป็น
00:24:58 → 00:25:01 สัตวสังคมค่ะต่อให้อทวก็ตามก็ต้องมี
00:25:01 → 00:25:05 เพื่อนคุยถูกต้องมใช่เพราะฉะนั้นเนี่ยต่อ
00:25:05 → 00:25:07 ให้อทวนั่นหมายความว่าเขาไม่ได้คุยไป
00:25:07 → 00:25:10 เรื่อยเนาะเขาก็ต้องมีช่วงพักฟื้นตัวแต่
00:25:10 → 00:25:13 สุดท้ายคนเราก็ต้องมี community มี
00:25:13 → 00:25:16 ครอบครัวมีสังคมหรือมีคนที่ต้องคุยด้วยนะ
00:25:16 → 00:25:21 คะทักษะในการเข้าหาคนคุยกับคนนะคะหรือการ
00:25:21 → 00:25:25 ที่ี้คนหรืออยู่ร่วมกันอย่างดีมีสุขอย่าง
00:25:25 → 00:25:28 เงี้ยค่ะอันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งทักษะที่หม
00:25:28 → 00:25:31 อ๋อไไ Mate เนาะก็ยังต้องไปสอนคนไข้ให้
00:25:31 → 00:25:34 โฟกัสแบบ Positive Thinking อ่ะมีการ
00:25:34 → 00:25:36 empathy เข้าใจซึ่งกันและกันอย่างนี้
00:25:36 → 00:25:39 เป็นต้นนะคะหรือทำกิจกรรมต่างๆไม่ว่าจะ
00:25:39 → 00:25:43 เป็นดนตรีบำบัดศิลปะบำบัดการเข้าแคมป์
00:25:43 → 00:25:45 เข้าคลาอะไรต่างๆอย่างเงี้ยค่ะก็จะเป็น
00:25:45 → 00:25:49 เทคนิคเล็กๆน้อยๆที่เอามาทำให้คนไข้เรา
00:25:49 → 00:25:53 อ่ะสุขภาพดีขึ้นค่ะอือค่ะค่ะประมาณนี้
00:25:53 → 00:25:57 ครับอืมก็ค่อนข้างที่จะมีเอ่อเทคนิคในการ
00:25:57 → 00:26:00 ที่จะเริ่มต้นหลากหลายนะคือบางทีมันจะไม่
00:26:00 → 00:26:02 ต้อง 1 2 3 อย่างที่คุณหมอเรียงมาก็ได้
00:26:02 → 00:26:05 เริ่มจาก 3 4 หรือ 5 ที่มันเข้ากับสไตล์
00:26:05 → 00:26:08 เราได้เลยใช่มยคุณหมอถูกต้องค่ะพอคุยกัน
00:26:08 → 00:26:11 อย่างเงี้ยทุกคนก็จะนึกออกอออันนู้นชัน
00:26:11 → 00:26:15 ฉันเริ่มได้ก่อนเลยคืออย่าที่บอกอค่ะว่า
00:26:15 → 00:26:18 ในครอบครัวค่ะบางทีไม่ต้องเริ่มต้นจากคน
00:26:18 → 00:26:20 ที่อยากเริ่มแต่เริ่มต้นจากคนที่เรารัก
00:26:20 → 00:26:22 ก่อนก็ได้แล้วเราก็เปลี่ยนเองอะไรอย่าง
00:26:23 → 00:26:27 เงี้ยเป็นต้นค่ะอแล้วเดี๋ยวเนี้ยคือเขาจะ
00:26:27 → 00:26:32 มีเทรนด์ในการที่แบบเอ่อไปหาพวกเอ่อสถาน
00:26:32 → 00:26:34 ที่ต่างๆเมื่อกี้คุณหมอพูดถึงแคมป์สุขภาพ
00:26:34 → 00:26:37 ขวัญก็เลยเสิร์ชดูว่าลักษณะของแคมป์
00:26:37 → 00:26:39 สุขภาพหรือว่าที่เราเรียกกันว่า wellness
00:26:39 → 00:26:42 เนี่ยมันมีหลายแคมป์มากเลยค่ะคุณหมอเลือก
00:26:42 → 00:26:46 ยังไงให้เหมาะสมกับเอ่อแต่ละเจนของคนที่
00:26:47 → 00:26:48 อยู่ในบ้านเพราะตอนนี้ที่เห็นเนี่ยการ
00:26:48 → 00:26:52 ปรับสมดุลการนอนก็มีการเข้าแคมป์พิชิต
00:26:52 → 00:26:54 ความอ้วนพิชิตด้วยตัวเองอะไรอย่างเงี้ย
00:26:54 → 00:26:57 ค่ะลักษณะการเลือกให้เหมาะสมเลือกยังไง
00:26:57 → 00:27:01 ได้บ้างคะค่ะค่ะก็ขั้นแรกเนี่ยเราต้องมี
00:27:01 → 00:27:03 Self awareness หรือ Dict ตัวเองหรือ
00:27:03 → 00:27:06 รู้จักตัวเองก่อนนะคะการรู้จักตัวเอง
00:27:07 → 00:27:10 เนี่ยเรารู้จักอย่างไรบางคนเนี่ยรู้อยู่
00:27:10 → 00:27:14 แล้วแหละว่าแหมผลเช็คอัพมาก็รู้เนาะอะไร
00:27:14 → 00:27:16 อย่างเงี้ยค่ะว่าอ้าวคุณหมอเเตือนมาว่า
00:27:16 → 00:27:19 ยังไงฉันก็เริ่มมีการบ้านแล้วล่ะในการที่
00:27:19 → 00:27:21 จะต้องไปดูแลตัวเองถูกต้องมั้ยคะอันเนี้ย
00:27:22 → 00:27:25 คือรู้จักตัวเองจากผู้เชี่ยวชาญเชัว่ามี
00:27:25 → 00:27:28 การบ้านนะเดี๋ยวคราวหน้าไปลดน้ำหนักมาให้
00:27:28 → 00:27:32 หมอ 5 กอ้าเรู้ละว่าเมีจอบิในการดูแลตัว
00:27:32 → 00:27:35 เองเขาก็จะเสิร์ชะถ้าเกิดเขาทำเองไม่ได้
00:27:35 → 00:27:38 อ่ะหาแคมลดน้ำหนักซิอ่ะถ้ายังไม่อยากใช้
00:27:38 → 00:27:42 ยาอย่างนี้เป็นต้นค่ะบางคนก็เอ่อเป็น
00:27:42 → 00:27:44 เรื่องของความเครียดอ่ะเรู้อยู่แล้วว่าใน
00:27:44 → 00:27:47 งานเขาเครียดมากเลยเขาจะมีอาการยังไงบ้าง
00:27:47 → 00:27:51 รู้มั้คะมีอาการแพนิคมีอาการเริ่มนอนไม่
00:27:51 → 00:27:53 หลับอันเนี้ยค่ะคือเนื่องจากหมออ่ะค่ะ
00:27:53 → 00:27:56 เอ่อเป็นวิทยากรอาสาอยู่ที่เสถียร
00:27:56 → 00:27:59 ธรรมสถานอ่ะค่ะค่ะที่ของคุณยายจ๋านะคะ
00:27:59 → 00:28:02 ช่วงชนึงที่แบบว่าทำแคมป์อ่ะค่ะที่มีผู้
00:28:02 → 00:28:06 มาปฏิบัติธรรมอ่ะค่ะหมอก็เอ่อตอนนั้นคนมา
00:28:06 → 00:28:09 เนี่ยเกือบ100รนะเยอะค่ะก็ถามสาเหตุค่ะ
00:28:09 → 00:28:13 ของคนที่เข้ามาแคมป์สมาธิเนี่ยค่ะที่ฝึก
00:28:13 → 00:28:15 ปฏิบัติธรรมอยู่ 3 วัน 2 คืนอันนี้แคมป์
00:28:15 → 00:28:19 สมาธิ mindfulness นะคะว่าแต่ละคนน่ะใคร
00:28:19 → 00:28:24 มีปัญหาสุขภาพบ้างคะอ่ะ 30% ค่ะแต่อีก 70%
00:28:24 → 00:28:29 ค่ะเครียดค่ะอืนะคะเพราะฉะนั้นสสอ่ะค่ะก็
00:28:29 → 00:28:31 จะเป็นทางออกในด้านของการไปแคมป์ปฏิบัติ
00:28:31 → 00:28:35 ค่ะปฏิบัติธรรมนะคะการหยุดความคิดการอยู่
00:28:35 → 00:28:39 กับตัวเองการโฟกัสกับตัวเองปรับ Attitude
00:28:39 → 00:28:41 นะคะในการอยู่กับปัจจุบันอันเนี้ยก็จะ
00:28:42 → 00:28:44 เป็นแคมป์สำหรับความเครียดอ่ะเารู้ตัวเอง
00:28:44 → 00:28:47 ละแต่บางคนมียังไงรู้มยคะบอกหนูไม่มีลูก
00:28:47 → 00:28:51 หมอเพื่อนบอกว่ามาเข้าแคมป์นี้แล้วกลับไป
00:28:51 → 00:28:54 ลูกติดคือเทำ
00:28:54 → 00:28:58 ibf ทำ ibf แล้วก็เลเมาหลาย
00:28:58 → 00:29:02 อเจกับคนในแมเลยสนุกมากก็แบบว่าหนูมา
00:29:02 → 00:29:05 เพราะอะไรลูกอะไรอย่างเงี้ยค่ะเบอกว่าคือ
00:29:05 → 00:29:08 เพื่อนที่เขามาเข้าแคมป์เนี่ยเขากลับไปเา
00:29:08 → 00:29:10 ลูกติดเลยค่ะเขาติดลูก
00:29:10 → 00:29:14 เลยก็เลยมาทดลองก็เลยมาด้วยสุดท้ายก็คือ
00:29:14 → 00:29:17 ตัวคุณแม่หายเครียดไงคะค่ะตัวคุณแม่หาย
00:29:17 → 00:29:21 เครียดค่าการอักเสบรถไงคะอืพอหายเครียด
00:29:21 → 00:29:25 เสร็จก็ก็ก็มีลูกได้ง่ายขึ้นนะคะอันนี้ก็
00:29:25 → 00:29:28 คือได้ได้ได้คุยตอนตอนช่วงที่คุณยายแม่ชี
00:29:28 → 00:29:31 ท่านยังมีมีมีมีชีวิตอยู่นะคะท่านก็บอก
00:29:31 → 00:29:35 จริงๆลูกเนี่ยผู้หญิงที่แบบมีลูกยากมากัน
00:29:35 → 00:29:38 เยอะมากเลยเนี่ยคุณแม่มีองค์พระแม่ตารา
00:29:38 → 00:29:42 ที่เสทือนธรรมสถานทุกคนก็มาขอลูกกันค่ะอ
00:29:42 → 00:29:45 อันนี้ก็คือเป็นเป็นกิมิของคุณยายจ๋านะคะ
00:29:45 → 00:29:48 ก็จริงๆแล้วเนี่ยที่เสถียรธรรมสถานก็เป็น
00:29:48 → 00:29:51 มาซูแคมนะคะก็เมื่อกี้ค่ะที่ที่ถามว่าอ่ะ
00:29:51 → 00:29:54 มีแคมป์อะไรแคมป์ลดน้ำหนักถ้าคนรู้อยู่
00:29:54 → 00:29:56 แล้วว่าเป็นโจทย์ว่าเขาต้องลดนะคะแคมป์
00:29:57 → 00:30:00 เรื่องของ mindfulness นะคะหรืออย่างที่
00:30:00 → 00:30:02 หมอจัดแคมป์อย่างเงี้ยอ่ะเป็นแคมป์สำหรับ
00:30:02 → 00:30:06 มะเร็งครับคนไข้มะเร็งไม่อยากกลับไปเป็น
00:30:06 → 00:30:09 อีกอ่าคือเป็นมะเร็งที่รักษาหายแล้วนะอ่า
00:30:09 → 00:30:12 เราเราไม่ได้ไปยุ่งกับกระบวนการการรักษา
00:30:12 → 00:30:14 แต่พอกลับมาเหมือนแบบมีชีวิตใหม่แล้วอ่ะ
00:30:15 → 00:30:18 alive แล้วอ่ะแบบเอ้ยยังไงดีล่ะเอ่อควร
00:30:18 → 00:30:21 จะต้องดูแลตัวเองยังไงต่อจากนี้เพราะว่าิ
00:30:21 → 00:30:24 pill ค่ะที่หมอบอกไปกินดีมีสุขผ่อนคลาย
00:30:24 → 00:30:28 ดีมีสุขทุกอย่างเนี่ยบางคนรู้โดยหลักการ
00:30:28 → 00:30:32 แต่ยังไม่เปฏิบัติยาวๆว่าเอ๊ะแล้วเขาจะทำ
00:30:32 → 00:30:34 ได้อย่างไร sustain ยังไงคือสอนกระทั่ง
00:30:34 → 00:30:38 อ่าทำอาหารนะคะว่าควรจะต้องทำอาหารอย่าง
00:30:38 → 00:30:40 ไรการคัดเลือกวัตถุดิบทำอย่างไรการก่อน
00:30:41 → 00:30:43 ที่จะนอนเนี่ยเ่อฝึกโปรแกรมจิตตัวเองยัง
00:30:43 → 00:30:47 ไงให้นอนได้ดีหรือ Exercise ถ้าเกิดว่า
00:30:47 → 00:30:49 ออกกำลังกายหนักๆไม่ได้อย่างที่หมอบอก
00:30:49 → 00:30:51 เมื่อกี้ค่ะว่าคาร์ดิโออาจจะไม่ได้เพราะ
00:30:51 → 00:30:54 เราป่วยอ่ะเรามีการ Exercise ยังไงฝึกขี้
00:30:54 → 00:30:57 กงได้มั้ยโยคะท่าง่ายได้มยอย่างเงี้ยเป็น
00:30:57 → 00:31:00 ต้นนะ
00:31:00 → 00:31:06 คั้งเันแรมมนทางนะคะอีกแมนึงที่เคยจาดท่
00:31:06 → 00:31:11 เด็กค่ะสอนเด็กกินผักโอ้โหแชมป์สอนเด็ก
00:31:11 → 00:31:15 กินผักค่ะเพราะเด็กๆเดี๋ยวเค่ะก็คือเอ่อ
00:31:15 → 00:31:18 เขาก็จะแบบเลือกกินตามตามอร่อยนะคะแล้วก็
00:31:18 → 00:31:20 เมื่อก่อนเนี่ยยิ่งตอนสมัยเมื่อ 10 กว่า
00:31:20 → 00:31:23 ปีก่อนเนี่ยองค์ความรู้ด้าน He หรือส
00:31:24 → 00:31:27 สุขภาพอ่ะค่ะที่แบบอาหารจะต้องกินเป็นเ
00:31:27 → 00:31:29 หรืออะไรไม่ได้ไม่ได้มากมายขนาดนี้ที่มี
00:31:29 → 00:31:32 YouTube หรือ tiktok ที่ใครเลื่อนไปก็
00:31:32 → 00:31:35 เจอค่ะดังนั้นเนี่ยเด็กก็จะไปกินแต่
00:31:35 → 00:31:38 ฟาสฟู้ดกันน่ะค่ะตามวันเกิดตามเทรนด์ตาม
00:31:38 → 00:31:41 สิ่งที่เขาเลือกกินเป็นอาหารไขมันสูงเป็น
00:31:41 → 00:31:44 ภูมิแพ้กันไปนะคะหรือบางคนเป็นท้องผูก
00:31:44 → 00:31:47 เลือดรังหรือน้ำหนักเกินอันเนี้ยก็จะเป็น
00:31:47 → 00:31:50 ค่ายสอนเด็กกินผักอ่าก็จะมีเทคนิคของ
00:31:50 → 00:31:53 กระบวนกรของผู้นำแคมป์เหมือนกันที่อ่าจะ
00:31:53 → 00:31:56 สอนเด็กกินผักอย่างไรนะคะก็จะมีเทคนิคอด
00:31:56 → 00:31:59 ก่อนค่ะอดก่อนว่ากินมะละกอทั้งวันแต่เด็ก
00:31:59 → 00:32:02 เด็กไม่หิวนะคะเด็กอิ่มค่ะแต่อิ่มด้วย
00:32:02 → 00:32:05 มะละกอค่ะอันนี้ให้นึกภาพนะคะเด็กอิ่ม
00:32:05 → 00:32:08 ด้วยมะละกอค่ะแต่ต้องบอกก่อนนะคะว่าเด็ก
00:32:08 → 00:32:10 ไม่ใช่เด็กเล็กเกินไปนะคะประมาณซักอ่า
00:32:10 → 00:32:14 พรีทีนพรีทีนก็คือ 9 ขวบไปละ 9 ขวบจนถึง
00:32:14 → 00:32:17 ประมาณสัก 14 ประมาณเยค่ะอันนี้เป็นแคมป์
00:32:17 → 00:32:19 เด็กที่กำลังแบบกำลังเฟี้ยวเลยค่ะค่ะ
00:32:19 → 00:32:21 กำลังเฟี้ยวเลยเพราะว่าลองสังเกตนะคะถ้า
00:32:21 → 00:32:24 เกิดว่าใครมีลูกคือตอนเด็กๆลูกกินง่ายมาก
00:32:24 → 00:32:27 เลยพ่อแม่ให้กินผักให้กินอะไรลูกก็จะกิน
00:32:27 → 00:32:30 แต่พอเริ่มเฟี้ยวอ่ะค่ะก็เริ่มสุขภาพแย่
00:32:30 → 00:32:34 ก็ต้องมาปับกินผักนะคะพออดไปแล้วปุ๊บกิน
00:32:34 → 00:32:37 ผลไม้ใช่มั้ยคะคือเด็กอิ่มนะคะวันนึงวัน
00:32:37 → 00:32:40 รุ่งขึ้นมีผัดผักจานโตเขากินเลยค่ะขอให้
00:32:40 → 00:32:45 ไม่ใช่มะละกอเขากินผักดางี้เพราะเพราะมัน
00:32:45 → 00:32:47 มันแตกต่างมันเลยอุ้ยอันนี้ดูแล้วน่ากิน
00:32:47 → 00:32:51 กว่ามะละกอเยอะเลยนะไม่ใช่น่าจะกินมะละกอ
00:32:51 → 00:32:54 จนแบบได้กลิ่นมะละกอแค่นิดเดียวก็เหม็น
00:32:54 → 00:32:57 เบื่อแล้วหรือเปล่าคะคุณหมอใช่ค่ะจนจตอน
00:32:57 → 00:32:59 ตอนนั้นน่ะค่ะรายการทุ่งแสงตะวันอ่ะค่ะ
00:32:59 → 00:33:03 พี่นกนิมนต์เมธีสุวกุลน่ะค่ะถ้าถ้าท่านคง
00:33:03 → 00:33:06 จำได้ทุ่งแสงตะวันก็ไปเกาะติดทัวร์เด็ก
00:33:06 → 00:33:10 ช่วงนึงเด็กๆน่ารักกันเลยค่ะแล้วก็โหหน้า
00:33:10 → 00:33:13 เขากินผักจากเดิมที่แบบโอ๊ยไม่กินเลยกิน
00:33:13 → 00:33:15 ยากเหลือเกินอะไรอย่างเงี้ยค่ะก็กลับมา
00:33:15 → 00:33:18 กินผักกันอย่างน่ารักค่ะแล้วก็นอกเหนือ
00:33:18 → 00:33:21 จากนั้นน่ะค่ะก็จะมีแคมป์เกี่ยวกับรชนะคะ
00:33:21 → 00:33:23 ก็คือการฝึกเข้าใจตัวเองถ้าเกิดหลายๆคนคง
00:33:23 → 00:33:27 เข้าใจเนียแกมนพพลักไม่ทราบว่าพอเคยรู้
00:33:27 → 00:33:29 จักกันมั้ยคะรู้สึกขวัญจะเป็น type 3
00:33:29 → 00:33:32 อาจารย์อ้าเป็น type 3 เหรอคะหอกกับการ
00:33:32 → 00:33:35 อยู่ในวงการอย่างมากแอีกท่านอีกท่านไทป
00:33:36 → 00:33:38 อะไรนะคะรักไหนคะได้ได้เคยลองทำมั้ยคะ
00:33:38 → 00:33:40 ขวัญไม่เคยแชร์เรื่องนี้กับโอ๊คค่ะไม่ไม่
00:33:40 → 00:33:43 ไม่ไม่แน่ใจว่าโอ๊คเคยทำหรือเปล่าเห็นม
00:33:43 → 00:33:47 ไม่เคยแน่ๆผมอ่ะหิงพี่โอ๊คเลยว่าชันเบอร์
00:33:47 → 00:33:51 3 นะพี่โอ๊คเบอร์อะไรเออไม่รู้เลยฮะไม่
00:33:51 → 00:33:54 เคยทำอันเนี้ยอันเนี้ยค่ะเป็นเป็นการที่
00:33:54 → 00:33:56 ถ้าเรารู้เบอร์ของตัวเองหรือเกมอ่ะนะคะ
00:33:56 → 00:33:59 เราก็จะรู้ว่าออก็ถ้าเป็นเบอร์ 1 เนี่ยก็
00:33:59 → 00:34:02 จะเาก็เป็น type แบบ perfectionist แหละ
00:34:02 → 00:34:04 แต่ถ้าเราเป็นเบอร์ 2 อ่ะเราก็ empathy
00:34:04 → 00:34:07 เป็นกีอเนาะอ่าถ้าเกิดว่าเป็นเบอร์ 3
00:34:07 → 00:34:11 เนี่ยเป็นคนที่ชอบยังไงนะคะได้แชร์มั้ยคะ
00:34:11 → 00:34:13 คุณขวัญลองแชร์มคะเบอร์ 3 เป็นยังไงคะ
00:34:13 → 00:34:18 เบอร์ 3 เป็นคนที่เอ่ออดทนเพื่อความเพื่อ
00:34:18 → 00:34:21 เป้าหมายของตัวเองที่แบบเหมือนกับว่าเอ่อ
00:34:21 → 00:34:24 ที่อาจจะทำเพื่ออ่ะเหมือนเหมือนอย่างขวัญ
00:34:24 → 00:34:27 เนี่ยเป็นคนที่อดทนทำสิ่งต่างๆได้เพื่อ
00:34:27 → 00:34:30 รอยยิ้มของคุณแม่ประมาณเนี้ยค่ะอ่าเป้า
00:34:30 → 00:34:33 หมายมีไว้ชนค่ะค่ะขึ้นอยู่กับเป้าหมายเรา
00:34:33 → 00:34:35 คืออะไรอ่ะค่ะเป้าหมายของคุณขวัญคือคุณ
00:34:35 → 00:34:38 แม่ค่ะค่ะค่ะเพราะฉะนั้นเราก็จะทำทุกวิถี
00:34:38 → 00:34:40 ทางให้แบบโฟกัสที่จุดหมายอย่างเงี้ยค่ะ
00:34:40 → 00:34:42 แต่ถ้าเกิดว่าเพื่อนเบอร์ 4 อย่างเงี้ย
00:34:42 → 00:34:45 ค่ะก็จะเป็นกลุ่มโรแมนติกอ่ะค่ะค่ะกลุ่ม
00:34:45 → 00:34:48 โรแมนติกกลุ่มแบบอืก็ก็คือแบบเอ๊ะนั่งฟัง
00:34:48 → 00:34:52 เพลงหรืออยู่กับอะไรที่เศร้าๆได้นะอะอะไร
00:34:52 → 00:34:54 ประมาณอย่างเงี้ยค่ะฝึกให้เข้าใจคนค่ะว่า
00:34:54 → 00:34:58 อ๋อแต่ละคนเป็นไทปไหนต่อไหนหรือเบอ์ 5
00:34:58 → 00:35:00 ค่ะเบอร์ 5 ส่วนมากเป็นอินเวิร์ตค่ะอือ
00:35:00 → 00:35:03 เราก็จะเข้าใจว่าอ๋อเคไม่ค่อยอยากเข้า
00:35:03 → 00:35:06 สังคมเนาะเออเขาไม่ได้ไปกับเราเลยเนาะ
00:35:06 → 00:35:08 อะไรอย่างเงี้ยค่ะหรือเบอร์ 7 อ่ะค่ะเป็น
00:35:08 → 00:35:12 ปีเตอร์แพนค่ะเป็นแบบชอบนักท่องเที่ยวอ่ะ
00:35:12 → 00:35:17 ค่ะไม่ได้รนานๆความท้าทายอือฮึใช่ค่ะก็จะ
00:35:17 → 00:35:20 เป็นคนแบบนี้ซึ่งซึ่งเพื่อนที่แบบ
00:35:20 → 00:35:22 perfectionist ก็จะแบบอะไรอ่ะไปอีกแล้ว
00:35:22 → 00:35:24 อ่ะเนี่ยกลับมาทำงานเนี่ยอันนี้ยังไม่
00:35:24 → 00:35:26 เสร็จดีเลยยังไม่อะไรเลยอะไรอย่างเงี้ย
00:35:26 → 00:35:29 ค่ะมันจะทำให้เกิดทั้งความเล้าฉานและความ
00:35:29 → 00:35:31 เข้าใจกันน่ะนะคะคือถ้าไม่เข้าใจมันก็
00:35:31 → 00:35:34 เกิดความเล้าฉานนะคะว่าทำไมคนนั้นเป็น
00:35:34 → 00:35:36 อย่างงนี้ทำไมคนนี้เป็นอย่างงั้นแล้วคน
00:35:36 → 00:35:39 ที่ไม่มีความสุขคนแรกก็คือตัวเราแต่ถ้า
00:35:39 → 00:35:42 เกิดว่าเกิดความเข้าใจมันทำให้วางคนถูก
00:35:42 → 00:35:47 ที่ถูกงานถูกจังหวะนะคะเพราะว่าไม่มีคือ
00:35:47 → 00:35:50 มีคนตั้ง 9 รักนะคะอย่างเอกมมี 9 ประเภท
00:35:50 → 00:35:52 เพราะฉะนั้นมันมันไม่ใช่หรอกว่าประเภทไหน
00:35:52 → 00:35:55 ดีและประเภทไหนไม่ดีทุกอย่างมีข้อดีข้อ
00:35:55 → 00:35:57 เสียเหมือนคนเราเนี่ยแหละค่ะนะคะคเพราะ
00:35:58 → 00:36:00 ฉะนั้นจังหวะนี้ก็เหมาะกับคนแบบนี้ออีก
00:36:00 → 00:36:03 จังหวะนึงเหมาะกับอีกคนแบบนึงนะคะถ้าเรา
00:36:03 → 00:36:06 ยิ่งเข้าใจอ่ะค่ะก็ตอบโจทย์ไลฟตามแซรชค่ะ
00:36:06 → 00:36:11 ความสัมพันธ์จะดีมีสุขเลยอันนี้อันนี้
00:36:11 → 00:36:13 เห็นด้วยกับคุณหมอเลยค่ะเพราะว่าก่อนหน้า
00:36:13 → 00:36:16 เยขวัญจะเป็นคนที่ไม่เข้าใจว่าเอ่อเหมือน
00:36:16 → 00:36:20 ถ้าเป็น type 7 หรือเปล่าที่ชอบเผชิญผจญ
00:36:20 → 00:36:22 ภัยแล้วก็สดใสร่าเริงอะไรประมาณเยค่ะคุณ
00:36:22 → 00:36:26 หมอไอ้ไอคนที่จะเป็น type 3 ที่มุ่งมั่น
00:36:26 → 00:36:30 พุ่งชนเนี่ยจะรู้สึไปเลี้ยวตรงไหนมาทำไม
00:36:30 → 00:36:33 รีบๆทำสิอันเนี้ยจะเ่อเมื่อก่อนคือไม่
00:36:33 → 00:36:37 เข้าใจแต่พอไปเรียนรู้เรื่องเอกมเนี่ยก็
00:36:37 → 00:36:39 เลยรู้สึกว่าอ๋อเขาเป็นแบบนี้ด้วย
00:36:39 → 00:36:42 ธรรมชาติเขาเป็นแบบนี้แล้วคือความเข้าอก
00:36:42 → 00:36:45 เข้าใจอ่ะ empathy ตรงเนี้ยมันเพิ่มขึ้น
00:36:45 → 00:36:47 จริงๆตรงเนี้ยรู้สึกว่าเป็นประโยชน์กับ
00:36:48 → 00:36:51 ตัวเองมากเลยค่ะค่ะอแล้วคนคนที่มีความสุข
00:36:51 → 00:36:55 คนแรกคือเราใช่มั้ยคะค่ะก็ก็เป็นการแก้ไข
00:36:55 → 00:36:57 ปัญหาได้ตรงจุดมากๆเลยค่ะคุณขวัญแบบดีใจ
00:36:58 → 00:37:00 ที่ไปเข้าแคมป์นี้ค่ะเห็นมั้ยคะมีหลาย
00:37:00 → 00:37:03 แคมป์เลยค่ะเพราะฉะนั้นก็เหมาะกับความ
00:37:03 → 00:37:06 ต้องการน่ะค่ะของแต่ละท่านแต่ละคนค่ะอื
00:37:06 → 00:37:09 อันนี้จริงๆแล้วขวัญน่ะไม่ได้ไปเข้าแคมป์
00:37:09 → 00:37:12 มาคุณหมอมีเพื่อนไปเข้าแคมป์มาแล้วเขาเอา
00:37:12 → 00:37:15 สิ่งที่เรียนในคลาอ่ะมาแชร์ให้ขวัญฟัง
00:37:15 → 00:37:18 เอ่อแล้วลองให้ขวัญทำแบบทดสอบว่าขวัญน่ะ
00:37:18 → 00:37:21 เป็นไท้ไหนแล้วเขาก็เหมือนมาถ่ายทอดความ
00:37:21 → 00:37:24 รู้อีกทอดนึงอ่ะค่ะค่ะอเห็นมั้ยคะ
00:37:24 → 00:37:27 ประโยชน์โหเพื่อนต้องแบบดีใจมากๆแน่ๆเลย
00:37:27 → 00:37:31 อ่ะทำให้ปลดล็อคของเราได้แล้วก็มีความสุข
00:37:31 → 00:37:36 ก็บุญขึ้นเลยค่ะมีบุญมหาศาลค่ะอืเออนะพวก
00:37:36 → 00:37:39 นี้คุณโอเร่มอยากไปละเออมันมันมีมันมีคิส
00:37:39 → 00:37:42 ฟรีค่ะคุณโอ๊คขะเข้าในอินเตอร์เน็ตอ่าได้
00:37:42 → 00:37:47 ๆเดี๋ยวผมจะลองไปทำดูนะเออเออจริงแต่จริง
00:37:47 → 00:37:50 ๆอ่ะผมก็ก็ก็เขาเรียกว่าอะไรอ่ะไม่ไม่
00:37:50 → 00:37:54 ค่อยมองมองอะไรที่เอ่อมองมองแบบมองมัน
00:37:54 → 00:37:58 สบายๆไปไปซะทุกอย่างหมายถึงว่าอ้นั่นก็
00:37:58 → 00:38:00 โอเคอันนี่ก็ได้เป็นอย่างงั้นก็ได้ปรับ
00:38:00 → 00:38:03 ตามสภาพอ่ะเหมือนแบถูกถูกสอนมาให้ปรับตาม
00:38:03 → 00:38:06 สภาพไปเรื่อยๆอ่ะมันอย่าไปอย่าไปติดยึด
00:38:06 → 00:38:10 กับอะไรบางอย่างที่ที่ที่ทั้งเป็นตัวเรา
00:38:10 → 00:38:12 หรือเปล่าหรือว่าเป็นตัวเค้าหรือเปล่าแต่
00:38:12 → 00:38:15 ว่าเ่อมองว่าเป็นเป็นเป็นการผสมผสาน
00:38:15 → 00:38:18 ระหว่างธรรมชาติกันก็ก็โชคดีเราถูกสอนมา
00:38:18 → 00:38:21 อย่างนั้นด้วยผมก็เลยแบบไม่ได้มีมีมีลบ
00:38:21 → 00:38:26 หรือบวกสักักอะไรเกินไปักเท่าไหร่นะฮะค่ะ
00:38:26 → 00:38:29 รมชาก็ดีต่อทุกอย่างมันมันขึ้นอยู่กับว่า
00:38:29 → 00:38:34 เราจะจะใช้ให้เหมาะกับเราอย่างไรนะบางคน
00:38:34 → 00:38:37 ไปก็ไปแล้วอาจจะได้ผลเลยอย่างที่พี่ขวัญ
00:38:37 → 00:38:40 น่ะลองเพื่อนแชร์มาแล้วเอ้ตัวเองเจอเจอใน
00:38:40 → 00:38:43 สิ่งคำตอบที่มันติดอยู่ในใจบางอย่างเลย
00:38:43 → 00:38:46 แต่บางคนมันมันก็จะมีคำว่าอีโก้เข้ามา
00:38:46 → 00:38:50 กวางทางอยู่นะใช่หรือเปล่ามั่วหรือเปล่า
00:38:50 → 00:38:52 อะไรอย่าเงี้ยนะค่ะแต่แต่มันคำตอบพวกนี้
00:38:52 → 00:38:55 มันจะค่อยๆใช้เวลาในการแบบเจอตัวเองแล้ว
00:38:55 → 00:38:58 ก็จะเจอความสุขของตัวเองที่ที่แบบเป็น
00:38:58 → 00:39:01 สไตล์ตัวเองจริงๆอ่ะค่ะใช่ค่ะถูกต้องเลย
00:39:01 → 00:39:04 ค่ะคือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง wellness เนี่ย
00:39:04 → 00:39:07 นะคะคือคือหมออยู่ในคลินิกที่ทำเกี่ยวกับ
00:39:07 → 00:39:09 เรื่องของการส่งเสริมสุขภาพเนี่ยการปรับ
00:39:09 → 00:39:12 เปลี่ยนไลฟ์สไตล์เนี่ยเป็นอะไรที่ยากนะ
00:39:13 → 00:39:16 ปับเปลี่ยนวิธีคิดคนน่ะค่ะมันมีตั้งแบบ
00:39:16 → 00:39:18 เป็น Stage เลยค่ะ Stage แรกคืออะไรรู้
00:39:18 → 00:39:21 มั้ยคะ Free contemplation ค่ะอันเนี้ย
00:39:21 → 00:39:23 มันเป็นหลักการที่เราอ่ะพร้อมที่จะต้อง
00:39:23 → 00:39:26 เข้าใจคนไข้หรือพร้อมที่จะต้องเข้าใจคน
00:39:26 → 00:39:29 ที่เดินเข้ามาเลยนะคะทราบมั้ยคะว่าบางคน
00:39:29 → 00:39:31 น่ะค่ะเข้ามาโดยที่ไม่รู้เนืรู้ตัวว่าลูก
00:39:31 → 00:39:34 พามาหาหมออ่ะค่ะโดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อแม่
00:39:34 → 00:39:39 อ่าเอออไม่ได้เป็นไรนี่อ่ะใครพาพ่อมาไม่
00:39:39 → 00:39:42 ได้เป็นไรคิดว่าจะปรับสำเร็จมั้ยคะคือถ้า
00:39:42 → 00:39:45 หมอหมอให้ไปทำอันนู้นอันนี้ปรากฏอ้าวก็
00:39:45 → 00:39:49 ไม่ทำหรอกอ่าแต่ว่าเรามีหน้าที่ให้ให้ข้อ
00:39:49 → 00:39:54 มูลอแล้วก็แนะนำในสิ่งที่อ่ะถ้าเกิดว่าจะ
00:39:54 → 00:39:56 เป็นประโยชน์เนี่ยอย่างน้อยตัวคนไข้ได้
00:39:56 → 00:39:59 รับฟังแล้วก็มีค่ะมีอันนี้เคสจริงๆเลยอัน
00:39:59 → 00:40:02 นี้เป็นเคสเคสผู้ใหญ่เนี่ยแหละค่ะแล้วพอ
00:40:02 → 00:40:05 เขารับฟังตอนแรกเป็นคุณสามีคุณภรรยาอิน
00:40:05 → 00:40:08 มากเขาดูแลรักษาใได้ผลจูงคุณสามีมาบ้าง
00:40:08 → 00:40:12 สามีไม่อินก็ไม่ผิดนะคะสามีไม่อินไม่ผิด
00:40:12 → 00:40:14 เลยสามีต้องมีเวของตัวเองซึ่งหมอเนี่ย
00:40:14 → 00:40:17 อยู่ในจุดที่ Professional work ในกลุ่ม
00:40:17 → 00:40:20 เนี้ยเราเราจะเข้าใจคนไข้มากๆนะคะแต่เรา
00:40:20 → 00:40:24 ก็ Advice นะคะอ้าเก็ฟังๆๆไปปรากฏ 1 ปีมา
00:40:24 → 00:40:28 หาเองค่ะ 1 ปีนะคะ 1 ปีใช้เวลาอยู่เหมือน
00:40:28 → 00:40:32 กันนะคะเอ้อผมรู้แล้วหมอเออผมไปได้ยินจาก
00:40:32 → 00:40:35 เพื่อนคนนั้นว่ามาแบบนั้นแบบนี้อ๋อบวกกับ
00:40:35 → 00:40:38 ผมก็ไปตรวจเองตรงนู้นตรงนี้เออมันจริง
00:40:38 → 00:40:41 อย่างที่หมอพูดด้วยอ่ะพอทุกอย่างเนี่ยรวม
00:40:41 → 00:40:44 ความได้แล้วว่าอ๋อสิ่งที่หมอแนะนำไปเมื่อ
00:40:44 → 00:40:47 ปีก่อนมัน make เซนกับเขาเขาอยากกลับมาหา
00:40:47 → 00:40:50 solution ละอย่างนี้เป็นต้นนะคะคือไม่
00:40:50 → 00:40:52 จำเป็นจะต้องแบบโอ้โหเออออห่อหมกกันตั้ง
00:40:53 → 00:40:56 แต่วินาทีแรกที่เจอกันก็ได้แต่สิ่งที่เ่อ
00:40:56 → 00:41:00 เราได้ Advice ไปมันก็เป็นการแนะนำสิ่ง
00:41:00 → 00:41:02 ที่เป็นประโยชน์กับคนไข้อยู่แล้วอันเนี้ย
00:41:02 → 00:41:04 คือสิ่งที่หมอจะเจอกันบ่อยๆอย่างที่คุณนก
00:41:04 → 00:41:08 บอกเขต่างเวลานะคะเวลาที่เหมาะสมเราก็จะ
00:41:08 → 00:41:11 ได้เจอกันค่ะอันนี้เหมือนกับเหมือนกับว่า
00:41:11 → 00:41:15 เขาบางทีอ่ะพูดการแนะนำเอ่อซึ่งหน้ามัน
00:41:15 → 00:41:19 อาจจะเกิดกำแพงอยู่แต่ว่าพอพอคนคนั้นไป
00:41:19 → 00:41:22 เจอสถานการณ์แบบนึงแล้วไอ้คำคำที่เคยได้
00:41:22 → 00:41:25 รับฟังหรือว่าคำที่เคยได้ได้ยินมาจากคน
00:41:25 → 00:41:29 ที่แนะนำเนี่ยอยู่ขึ้บาตนั้นแหละเป็นจังห
00:41:29 → 00:41:33 ผมว่าเป็นจังหวะที่ที่เฮ้ยอหรือว่านะมัน
00:41:33 → 00:41:36 แล้วมันก็จะกลับมาถึงถึงการหาคำตอบที่ใช่
00:41:36 → 00:41:39 หรือเปล่าครับอย่างเงี้ยอเออืส่วนใหญ่จะ
00:41:39 → 00:41:42 เป็นอย่างงั้นเนาะค่ะถ้าเราแนะนำในขัน
00:41:42 → 00:41:44 กัลยาณมิตรและมีความปรารถนาดีกับคนไข้
00:41:44 → 00:41:47 เสมออ่ะค่ะสิ่งนั้นจะไม่หายไปไหนค่ะก็ยัง
00:41:47 → 00:41:49 ประทับอยู่ตรงนั้นแหละแต่จะเกิดแอชหรือ
00:41:49 → 00:41:51 เปล่าหรือเกิด solution หรือเกิดสิ่งที่
00:41:51 → 00:41:53 จะเปลี่ยนแปลงหรือเปล่าเนี่ยอันเนี้ยแล้ว
00:41:53 → 00:41:56 แต่จังหวะของแต่ละคนและความพร้อมจริงๆอื
00:41:56 → 00:42:01 อืใช่ครับอืมก็ทุกๆเรียกว่าทุกวัยทุกวัย
00:42:01 → 00:42:05 ก็สามารถเอาเรื่องเหล่านี้ไปปรับไปปรับ
00:42:05 → 00:42:09 ให้ตัวเองมีสุขภาพที่ดีได้ในกลุ่มทุกวัย
00:42:09 → 00:42:12 ทั้งครอบครัวเลยนะคุณหมอนะใช่ค่ะใช่ค่ะ
00:42:12 → 00:42:14 ใช่ค่ะก็คืออย่างที่บอกค่ะด้าน wellness
00:42:14 → 00:42:17 เนี่ยคืองานเวชศาสตร์ป้องกันคำว่า
00:42:17 → 00:42:20 เวชศาสตร์ป้องกันน่ะเค้าไม่ได้ป่วยนะคะ
00:42:20 → 00:42:23 เราเนี่ย introduce ให้คนเนี่ย prevent
00:42:23 → 00:42:27 คือดูแลตัวเองนะคะแล้วอะไรล่ะเป็นสิ่งที่
00:42:27 → 00:42:30 เป็นงานเวชศาสตร์ป้องกันนะคะพารทนึงที่คน
00:42:30 → 00:42:33 จะคุ้นชินคือการเช็คอัพค่ะเชใช่มยคะว่าก็
00:42:34 → 00:42:36 ไม่ได้ป่วยหรอกแต่ไปเช็คดูซะหน่อยอ้าน้ำ
00:42:36 → 00:42:39 ตาลเริ่มขึ้นแท้อ๋อไขมันเริ่มเกินแท้หรือ
00:42:39 → 00:42:43 อ้ากระดูกพรุนแล้วอ้าไม่ได้แล้วจะต้องกิน
00:42:43 → 00:42:45 แคลเซียมเสริมหรือจะต้องออกกำลังอะไร
00:42:45 → 00:42:47 อย่างเงี้ยกระดูกเริ่มบางแล้วนะเนี่ยคือ
00:42:47 → 00:42:51 การเช็คอัพเพื่อได้ข้อมูลมา identify
00:42:51 → 00:42:54 solution หรือกระบวนการของการดูแลตัวเอง
00:42:54 → 00:42:57 หรือก่อนหน้านั้นนะคะเดี๋ยวนี้เป็นเค่ะ
00:42:57 → 00:43:01 ใช้ AI ออ a ใส่ข้อมูลกันไปเราจะพูดถึง
00:43:02 → 00:43:05 เทรนดในอนาคตเนี่ยเดี๋ยวเหมอก็จะมีอกิ
00:43:05 → 00:43:09 หรือ AI ในการใส่พฤติกรรมตึ้งๆๆต่างๆใส่
00:43:09 → 00:43:12 ความเสี่ยงตึ้งๆๆไปออกมาแล้วค่ะยังไม่
00:43:12 → 00:43:14 ต้องเจาะเลือดก็ได้เร็วกว่านั้นก็คือเป็น
00:43:14 → 00:43:18 AI เช็คลิสได้เลยนะคะว่าอคุณมีความ
00:43:18 → 00:43:20 เสี่ยงตรงนั้นตรงนี้นะคะโดยเฉพาะอย่าง
00:43:20 → 00:43:23 ยิ่งเนี่ยมีความเสี่ยงเช่นเ่อคุณออกกำลัง
00:43:23 → 00:43:26 กายน้อยไปนะ physical activity น้อยหรือ
00:43:26 → 00:43:29 มันมีอค่ะกระทั่งว่าบอกว่า stress
00:43:29 → 00:43:31 management น่ะคือการ manage เรื่องความ
00:43:31 → 00:43:35 เครียดของคุณดูน้อยไปนะอ่ะคุณก็จะต้องมา
00:43:35 → 00:43:38 ดูแลความเครียดหรือบางคนน่ะค่ะใช้ชีวิตไป
00:43:38 → 00:43:41 วันๆไม่มี purpose หรือไม่มีลเลยมันก็จะ
00:43:41 → 00:43:44 เป็นออกมาด้วยเหมือนกันหรือบางทีค่ะไม่มี
00:43:44 → 00:43:48 Time Out หรือบ้างานค่ะทำแต่งานค่ะส่วน
00:43:48 → 00:43:51 มากคนที่ไม่มี Time Out มักจะมาว่าแลค of
00:43:51 → 00:43:54 คือไม่ยอมหลับยอมนอนด้วยเช่นกันมันก็จะทำ
00:43:54 → 00:43:58 ให้ให้เราพอทำเคลิอันนี้แล้วเอ้าแหมรู้
00:43:58 → 00:44:01 ตัวเองและอ่ะมันน้อยไปจริงๆอะไรอย่าง
00:44:01 → 00:44:04 เงี้ยค่ะอืค่ะเดี๋ยวนี้เทรน์เป็นอย่างนี้
00:44:04 → 00:44:07 ค่ะแล้วก็นอกเหนือจากนี้เทรนก็จะมีเรื่อง
00:44:07 → 00:44:12 ของการใช้วซวซนะคะก็เดี๋ยวนี้จะมีนาฬิกา
00:44:12 → 00:44:15 นาฬิกาวัดชีพจรกันทุกคนเนาะใช่มั้ยคะนก
00:44:15 → 00:44:20 ที่ตรว smart watch ต่างๆมีค่าตัวนึงค่ะ
00:44:20 → 00:44:22 คือค่าตัวอื่นน่ะหมอว่าทุกคนคงรู้อยู่
00:44:22 → 00:44:25 แล้วเช่นเดินสเต็ปกี่ก้าวหรือเบิร์นไปกี่
00:44:25 → 00:44:28 แควหรือหัวใจเต้นเท่าหรือการนอนเท่าไหร่
00:44:28 → 00:44:31 ใช่มคะแต่ความว้าวอีกอันนึงนะคะมันมีค่า
00:44:31 → 00:44:34 ความเครียดอยู่ในนาฬิกาเราด้วยถ้าใครใส่
00:44:34 → 00:44:38 สมาร Watch อืซึ่งอันนี้ค่ะหมออยากให้ดู
00:44:38 → 00:44:42 เพราะว่ามันเป็น HRV คือค่าค่าารทที่อีก
00:44:42 → 00:44:45 แบบนึงอ่ะค่ะที่มันจะบอกได้ว่าเราเครียด
00:44:45 → 00:44:49 มากเครียดน้อยซึ่งอันเนี้ยบางคนไม่รู้บาง
00:44:49 → 00:44:52 คนไม่รู้ว่านาฬีกาตัวเองมีฟีเจอร์นี้เรา
00:44:52 → 00:44:57 ไม่ค่อยได้ดูค่ะอือืขวัญนี่แหละเป็นหนมัน
00:44:57 → 00:45:00 จะช่วยมันจะช่วยให้เรารู้ตัวเองว่าอยู่ใน
00:45:00 → 00:45:04 ภาวะเครียดแล้วต้องต้องปรับปรับอารมณ์
00:45:04 → 00:45:06 แล้วนะอย่างเงี้ยใช่มั้ยคุณหมอใช่ๆอ้าพอ
00:45:06 → 00:45:09 มาดูอ้าหมอก็ชอบปรับติ๊กๆอ้าดูนิดนึงซิ
00:45:09 → 00:45:13 อ่ะแบบนี้เรียกว่าเครียดมนะมันมีแหมทุกคน
00:45:13 → 00:45:16 รวันพันเหตุการณ์ใช่มั้ยคะบอกว่าทุกคนเ่ะ
00:45:16 → 00:45:20 ต้องเจอแล้วแต่ละมื้อแต่ละเดนะคุณหมอนะ
00:45:20 → 00:45:25 อะไรนะแต่ละมือแต่ละเดใช่แล้วหมอหมอหมอก็
00:45:25 → 00:45:27 อยากรู้ว่าเฮ้ยแล้วอย่างเงี้ยเค้าเรียก
00:45:27 → 00:45:31 สเตรสหรือยังนะอ่ะไหนดูิคือสเตสออกร่าง
00:45:31 → 00:45:33 กายค่ะสเตรสที่แบบจากความคิดอ่ะเราก็รู้
00:45:33 → 00:45:36 ว่าอ๋ออันเนี้ยเครียดแต่บางคนเคยเห็นมั้ย
00:45:36 → 00:45:39 คะว่าโอ้โหคนภายนอกอ่ะรู้อยู่แล้วว่าคนเ
00:45:39 → 00:45:41 โคตรเครียดเลยแต่ต้องเแบบเฮ้ยไม่เคย
00:45:41 → 00:45:45 เครียดไม่เคยไม่คคยเครียดเลยอย่างเงี้ยอื
00:45:45 → 00:45:49 แบบว่าสมีนะคือแบบเชื่อว่าตัวเองไม่
00:45:49 → 00:45:53 เครียดอค่ะค่ะอือะไรประมาณนี้ค่ะ
00:45:53 → 00:45:57 เทคโนโลยีก็เข้ามามีบน
00:45:57 → 00:46:00 ครับเทคโนโลยีก็เริ่มเข้ามีมีบทบาทเป็น
00:46:00 → 00:46:04 เทรนด์ที่ใช้ในการดูแลตัวเองมากขึ้นอ่ะ
00:46:04 → 00:46:08 อ่าแลอย่างงี้สุดท้ายเราควรจะถ้าทุกคนฟัง
00:46:08 → 00:46:11 อยู่แล้วเอ้ยเอาแหละมันมีเทคนิคเทคนิค
00:46:11 → 00:46:13 แล้วแต่สำหรับสเต็ปต่อสเต็ปหลังจากนั้น
00:46:14 → 00:46:17 เราจะเริ่มต้นบางคนอยากเริ่มต้นคุณหมอ
00:46:17 → 00:46:20 เริ่มต้นเนี่ยเลี่ยงในเรื่องของการปัญหาต
00:46:20 → 00:46:23 คนเราควรเรี่งเลี่ยงอะไรดีเพื่อไม่ให้
00:46:23 → 00:46:27 เกิดปัญหาในเรื่องของปัญหาสุขภาพนับจากจ
00:46:27 → 00:46:31 ไปหอค่ะก็ถ้าโฟกัสอันแรกนะคะหมออยากให้
00:46:31 → 00:46:35 เลี่ยงการนอนดึกค่ะอืออค่าเรื่องการนอน
00:46:35 → 00:46:38 ดึกรู้มว่าในกลุ่มของคนที่แบบเหมือนกำลัง
00:46:38 → 00:46:41 จะซึมเศร้าเหมือนกำลังจะซึมเศร้าหรือ
00:46:41 → 00:46:44 เบิร์น Out หรือหมดแรงหมอให้กลับไปตัดใจ
00:46:44 → 00:46:49 นอนนะตัดใจนอนหมายความว่าอะไรนอน 20:00 น
00:46:49 → 00:46:51 ทุกวันลองนอน 20:00 นทุกวัน 7 วันติดต่อ
00:46:52 → 00:46:56 กันปรากฏดีขึ้นแฮะหายคือคือมันเกิดจากการ
00:46:56 → 00:46:59 ที่แบบไม่นอนน่ะเลี่ยงนอนดึกค่ะถ้าเลี่ยง
00:47:00 → 00:47:02 นะคะหมออยากให้เลี่ยงการอดนอนค่ะค่ะไม่
00:47:02 → 00:47:05 ไม่ต้องถึงขั้นนอนดึกเลี่ยงอดนอนอืนะคะ
00:47:05 → 00:47:09 อันเนี้ยคือสิ่งที่อยากให้เลี่ยงข้อที่ 2
00:47:09 → 00:47:12 ก็คือเลี่ยงในกลุ่มของ toxic substance
00:47:12 → 00:47:15 ไปจนถึงยาเสพติดเลยนะคะอันเนี้ยค่ะเพราะ
00:47:15 → 00:47:17 ว่าอะไรรู้มั้ยคะมันไม่ได้เดือดร้อนแค่
00:47:17 → 00:47:20 ตัวเองอ่ะค่ะเดือดร้อนคนรอบข้างนะคะแล้ว
00:47:20 → 00:47:23 หมอเคยเจอเ่อคนที่เขารอดๆๆอๆมานะคะคือแบบ
00:47:23 → 00:47:27 ใช้ยาใช้อะไรต่างๆเงี้ยคือสุดท้ายอดีเอ
00:47:27 → 00:47:31 อายุซ้า 50 อ่ะสมองเสื่อมนะคะอืครับคือ
00:47:31 → 00:47:34 สมองนี่ไปหมดเลยไวมากไวมากเลย 4 50
00:47:34 → 00:47:36 เสื่อมไวมากจริงๆคือคือสุดท้ายตัวเองก็
00:47:36 → 00:47:39 แบบเ้ยถ้าบางคนน่ะค่ะรวยมากนี่ต้องทำ
00:47:39 → 00:47:42 พินัยกรรมไว้ก่อนเลยนะเดี๋ยวพอซ้า 50
00:47:42 → 00:47:45 สมองคุณเริ่มเบลอเนี่ยนะคุณจะแบบคุจำว่า
00:47:45 → 00:47:48 สมบัติอยู่ไหนไม่ได้แล้วนะเอออะไรอย่าง
00:47:48 → 00:47:50 เงี้ยคือคือเรียง toxic substance นะคะ
00:47:51 → 00:47:53 ไปจนถึงเรื่องบุหรี่เรื่องแอลกอฮอล์เนี่ย
00:47:53 → 00:47:57 เรี่ยงนะคะข้อที่ 3 ถ้าจะรีเลี่ยงก็คือ
00:47:57 → 00:48:00 เลี่ยงการคิดลบอ่ะอือ Negative Energy
00:48:00 → 00:48:04 เนี่ยมันจะนำมาซึ่งทุกสิ่งเลยพารานอยหวาด
00:48:04 → 00:48:08 ระแวงคิดลบคิดร้ายกับคนอื่นอะไรอย่าง
00:48:08 → 00:48:11 เงี้ยค่ะมันมันจะเป็นตัวต้นเรื่องของหลาย
00:48:11 → 00:48:15 ๆเรื่องที่จะตามมาค่ะก็ก็ประมาณเค่ะแล้ว
00:48:15 → 00:48:18 ก็เรื่องการผิดศีลธรรมอ่ะนะคะค่ะอันนี้ก็
00:48:18 → 00:48:21 จะอันนี้เกี่ยวกับสุขภาพเลยนะอ่าอย่าง
00:48:21 → 00:48:24 น้อยมีศิรานะคะก็อันเนี้ยค่ะคือคือถ้าถาม
00:48:24 → 00:48:27 ว่าจะเลี่ยงอะไรบ้างนะคะก็ก็ประมาณนี้ค่ะ
00:48:27 → 00:48:30 เป็นสูตรง่ายๆนะไม่ไม่กี่อย่างซึ่งซึแบบ
00:48:30 → 00:48:32 มันก็ไม่ได้เหนือบากว่าแรงสำหรับใครที่
00:48:32 → 00:48:37 กำลังจะเริมตใชแล้วค่ะค่ะมีคุณผู้ฟังจาก
00:48:37 → 00:48:40 ทางบ้านถามมาค่ะว่าเอ๊ะถ้าเ้ามีอาการเป็น
00:48:40 → 00:48:43 ตับแข็งแล้วเนี่ยจะรักษาหายมั้ยหรือว่ามี
00:48:43 → 00:48:46 รูปแบบการรักษายังไงบ้างสำหรับกรณีของตัว
00:48:46 → 00:48:50 เวชศาสตร์ป้องกันเนี่ยค่ะคุณหมอค่ะเอ่อ
00:48:50 → 00:48:53 การปรับแข็งบรรเทาได้ไม่ให้แข็งเพิ่มค่ะอ
00:48:53 → 00:48:55 ถ้าถ้าเริ่มถ้าเริ่มแข็งแล้วนะคะคือคือ
00:48:55 → 00:48:58 process ของร dise เนี่ยก็มาตั้งแต่
00:48:58 → 00:49:02 เรื่องของตับปกติไปจนถึงตับเริ่มมีไขมัน
00:49:02 → 00:49:05 พอกแล้วพอไปจนถึงตับเริ่มเริ่มมีไฟบรัส
00:49:05 → 00:49:08 อ่ะค่ะเริ่มมีแผลเป็นอ่ะค่ะอยู่ในนั้นน่ะ
00:49:08 → 00:49:10 ค่ะแล้วก็ค่อยเป็นมะเร็งตับอ่ะค่ะเพราะ
00:49:10 → 00:49:13 ฉะนั้นเนี่ยพอตับแข็งแล้วอ่ะค่ะเราต้อง
00:49:13 → 00:49:16 โฟกัสในการป้องกันน่ะค่ะไม่ให้เขาแข็ง
00:49:16 → 00:49:19 เพิ่มจนเสี่ยงที่จะก้าวหน้าไปเป็นมะเร็ง
00:49:19 → 00:49:22 ค่ะนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยปัจจัยอะไรที่ที่
00:49:23 → 00:49:24 ก่อให้เกิดตรงนี้บ้างถ้าเกิดว่าคุณเริ่ม
00:49:24 → 00:49:27 เป็นเป็นตับแข็งจากการดื่มเห้าก็ต้องหยุด
00:49:27 → 00:49:30 เล่าอ่ะค่ะอย่างที่หมอได้บอกได้บอกเคล็ด
00:49:30 → 00:49:34 ลับไปนะคะก็เลือกวันเลิกทันทีนะคะประกาศ
00:49:34 → 00:49:37 ประกาศต่อชุมชนเลยว่าฉันจะเลิกนะอะไร
00:49:37 → 00:49:40 อย่างเงี้ยนะคะลั่นวาจานะคะแล้วก็ถัดไปก็
00:49:40 → 00:49:43 คือการดูแลตัวเองนะคะการที่เป็นโรคตับอ่ะ
00:49:43 → 00:49:46 ค่ะคุณต้องนอนเร็วนอนดีตับจะฟื้นนะคะจริง
00:49:46 → 00:49:48 ๆแล้วตับเนี่ยเป็นอวัยวะที่ง้อคืนดีง่าย
00:49:48 → 00:49:53 นะคะไม่เหมือนตครับตับยังงอได้ยังงอได้
00:49:53 → 00:49:57 ตับงอได้ตับรจตได้ผาตัดตับไปตัตัดตับไป
00:49:57 → 00:50:02 ตับงอกได้นะอ่าครับดังนั้นเนี่ยถ้าตับ
00:50:02 → 00:50:05 เริ่มๆแข็งอ่ะค่ะง้อเกลับคืนดีอ่ะค่ะก็
00:50:05 → 00:50:08 ต้องดูว่าเหตุแข็งจากอะไรถ้าแข็งจากไขมัน
00:50:08 → 00:50:12 แข็งจากแอลกอฮอล์ก็ต้องหยุด 2 อย่างเยค่ะ
00:50:12 → 00:50:16 นะคะประมาณนี้ค่ะแล้วก็อ่าหาแพทย์ที่ที่
00:50:16 → 00:50:20 เชี่ยวชาญในการดูแลหรือรีเวสนะคะรีเวสตับ
00:50:20 → 00:50:24 นะคะคือการรีเวสตับเนี่ยมันมันยากแต่ว่า
00:50:24 → 00:50:27 ไม่ใช่ว่ามันจะไม่ได้มีโอกาสดีขึ้นเลยนะ
00:50:27 → 00:50:32 คะแต่ใช้เวลานะคะแต่ที่แน่ๆคือถ้ารีบดูแล
00:50:32 → 00:50:35 ตั้งแต่ตอนนี้นะคะก็ก็จะไม่ต้องเป็นเพิ่ม
00:50:35 → 00:50:40 อค่ะค่ะอืง้อซะง้อตับซะง้อตับนะง้อตับ
00:50:40 → 00:50:43 ต้องง้อค่ะเราจะแบบปล่อยให้เขางอนนานไม่
00:50:43 → 00:50:46 ได้เดี๋ยวเราจะเสียหายหนักครับใช่ค่ะไม่
00:50:46 → 00:50:51 เหมือนไตนะไตงอนแล้วไปเลยนะไตที่แบบอไป
00:50:51 → 00:50:55 นี่คือเขาอึดมากนะกว่าเขาจะวายอ่ะค่ะอื
00:50:55 → 00:51:00 แต่ไปไปแล้วไปเลยงอยากมากค่ะโหคุณหมอคุย
00:51:00 → 00:51:04 สนุกมากเลยเกี่ยวกับเรื่องการดูแลสุขภาพ
00:51:04 → 00:51:07 ก็มีโอกาสเดี๋ยวอาจจะเดี๋ยวเดี๋ยวอาจจะรบ
00:51:07 → 00:51:09 กวนในช่วงธันวาคมเดี๋ยวเดี๋ยวอาจจะมาคุย
00:51:09 → 00:51:12 กันอัปเดตกันอีกเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ
00:51:12 → 00:51:14 เพิ่มเติมแล้วกันเดี๋ยวเดี๋ยวทับทามคุณ
00:51:14 → 00:51:17 หมอไว้แต่เนิ่นๆนะครับหรือว่าหลังปีใหม่
00:51:17 → 00:51:19 อะไรอย่าเงี้ยคุณหมอจะได้แบบมาคุยกันต่อ
00:51:19 → 00:51:22 เกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเรื่องที่ใกล้
00:51:22 → 00:51:25 เคียงนี้นะจะได้คุณผู้ฟังได้รับฟังกันไป
00:51:25 → 00:51:27 สนุกสนุกสนานกันต่อนะครับแล้วก็ได้สุขภาพ
00:51:27 → 00:51:29 ดีไปพร้อมๆกันวันนี้ขอบคุณมากเลยนะครับ
00:51:29 → 00:51:33 คุณหมอค่ะได้ค่ะค่ะโอ้โหสนุกมากขอบคุณ
00:51:33 → 00:51:36 ครับคุณหมอครับสวัสดีครับสวัสดีค่ะครับ
00:51:36 → 00:51:39 แพทย์หญิงกรอบการนะครับชุณหวัณสวัสดิกุล
00:51:39 → 00:51:42 นะครับแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ป้อง
00:51:43 → 00:51:46 กันโรงพยาบาลวิมุต