00:00:00 → 00:00:01 ตัวนวดหนังศีรษะ
00:00:01 → 00:00:06 >> 1.5 5 แล้วะกันฟนสก็ 9 นอกก็แคก 8
00:00:06 → 00:00:07 >> แชมพูรดผมร่วง
00:00:07 → 00:00:08 >> จ5
00:00:08 → 00:00:09 >> ใส่รั่มใส่ผม
00:00:09 → 00:00:09 >> 6
00:00:09 → 00:00:11 >> คุณครูคนนี้โหด
00:00:11 → 00:00:14 >> ผมคนเราเนี่ยก็ร่วงทุกวันจะร่วงมากร่วง
00:00:14 → 00:00:17 น้อยเนี่ยก็อยู่ที่ต้นทุนร่างกายมันมี
00:00:17 → 00:00:20 อะไรผิดปกติบางอย่างที่ไม่เหมาะสมกับการ
00:00:20 → 00:00:22 เจริญเติบโตของเส้นผมความเครียดของจิตใจ
00:00:22 → 00:00:24 เครียดชั่วครั้งชั่วคราวหรือว่าเป็น
00:00:24 → 00:00:26 เรื่องของโลกซึมเศร้านอนไม่หลับตั้งหลาย
00:00:26 → 00:00:29 ต่าง
00:00:29 → 00:00:32 >> หลังคลอดอ่ะมักจะบอกว่าผมบางลงตอนที่เขา
00:00:32 → 00:00:34 ท้องแล้วเรู้สึกว่าผมเาดีอ่ะ
00:00:34 → 00:00:37 >> จะบอกว่าเลืมไปแล้วใช่มั้ยลืมไปแล้วว่า 9
00:00:37 → 00:00:39 เดือนมันยาวเลืมไปแล้วว่าตอนไม่ได้ท้อง
00:00:39 → 00:00:41 เป็นยังไงแต่
00:00:41 → 00:00:44 แน่นอนว่าผู้หญิงเนี่ยมีลูก 1 คนผมก็จะ
00:00:44 → 00:00:45 หายไป 5%
00:00:45 → 00:00:47 >> พอคลอดเสร็จปุ๊บเนี่ยอันที่ 1 มันก็จะ
00:00:47 → 00:00:50 ร่วงตามฮอร์โมนที่หายไปอันที่ 2 สตสจาก
00:00:50 → 00:00:53 การเลี้ยงลูกอันที่ 3 อาจจะกินไม่พอหรือ
00:00:53 → 00:00:54 เปล่าฉ้นม
00:00:54 → 00:00:55 >> ใช่ใช่
00:00:55 → 00:00:57 >> จริงๆแล้วคนเราควรสาผมบ่อยแค่ไหน
00:00:57 → 00:01:00 >> เมื่อมันมีไขมันบนหนังเกินกว่าปกติบางคน
00:01:00 → 00:01:03 ใช้วิธีในการเอาไขมันบนหนังศีรษะออกด้วย
00:01:03 → 00:01:03 วิธีอื่น
00:01:04 → 00:01:06 >> คลิปนี้ออกไปนี่คือคนที่ไม่ชอบสาผมนี่คือ
00:01:06 → 00:01:08 ต้องเป็น reference ด้วยนะเนี่ยอ่ะแล้ว
00:01:08 → 00:01:09 ถ้าอาบน้ำล่ะอ่ะ
00:01:09 → 00:01:11 >> อาบน้ำก็เหมือนกัน
00:01:11 → 00:01:13 >> ที่ไม่ใช้สบู่เนี่ยใช้สบู่แค่อาทิตย์ละ
00:01:13 → 00:01:14 ครั้งก็อาจจะอยู่ได้ก็ได้
00:01:14 → 00:01:18 >> หรือจะทำชาลนมยไม่อาบน้ำ 30 วัน
00:01:18 → 00:01:20 [เพลง]
00:01:20 → 00:01:22 >> ก่อนอื่นเนี่ยก็ต้องคุยเรื่องผมร่วงดี
00:01:22 → 00:01:24 กว่านะเมื่อไหร่ถึงเรียกว่าผมร่วงแล้ว
00:01:24 → 00:01:25 เมื่อไหร่เราต้องกังวล
00:01:25 → 00:01:28 >> ผมร่วงก็คือผมมันหลุดออกมาจากรูขุงขนใช่
00:01:28 → 00:01:31 มั้ยครับก็ก็คือเมื่อไหร่ที่มันหลุดออกมา
00:01:31 → 00:01:34 จากรูหุมขนเนี่ยเราก็คือเรียกว่าผมร่วง
00:01:34 → 00:01:37 แต่ว่ามันก็มีหลุดแล้วก็ยังติดอยู่กับ
00:01:37 → 00:01:39 >> เส้นผมหรือว่าหลุดลงมาให้เราเห็นเงี้ย
00:01:39 → 00:01:43 ครับส่วนใหญ่ผมเราจะคนเราจะรู้สึกว่าผม
00:01:43 → 00:01:46 ร่วงเนี่ยก็มักจะเป็นตอนสระผมตอนหวีผมตอน
00:01:47 → 00:01:50 ตื่นนอนก็จะมี 3 ช่วงเวลาที่จะทำให้เรา
00:01:50 → 00:01:53 เห็นว่าเออมันร่วงมาเยอะปกติหรือผิดปกติ
00:01:53 → 00:01:56 คนไข้จะบ่นว่าผมร่วงก็หูสระผมแล้วร่วงมา
00:01:56 → 00:02:00 เยอะเลยคือถ้าสระวันนึงก็ร่วงเท่านึงถ้า
00:02:00 → 00:02:03 คนไข้ไม่ได้สะระผมติดต่อกัน 2-3 วันมันก็
00:02:03 → 00:02:06 จะร่วงเยอะอันนี้ก็จะเป็นเหตุผลที่พอคน
00:02:06 → 00:02:08 ที่ผมร่วงแล้วก็ไม่กล้าสระผม
00:02:08 → 00:02:11 >> แล้วทีนี้ 2-3 วันมาสระผมทีแล้วมันก็จะ
00:02:11 → 00:02:14 ร่วงเยอะมากกว่าปกติแล้วก็จะตกอกตกใจกัน
00:02:14 → 00:02:17 แต่จริงๆแล้วผมคนเราเนี่ยก็ร่วงทุกวัน
00:02:17 → 00:02:18 >> อ่าผมร่วงทุกวัน
00:02:18 → 00:02:21 >> แต่ว่าคนเราเนี่ยจะร่วงมากร่วงน้อยเนี่ย
00:02:21 → 00:02:24 ก็อยู่ที่ต้นทุนโดยหลักการแล้วเนี่ยผมคน
00:02:24 → 00:02:27 เราเนี่ยสมมุติว่ามีอยู่ 100,000 เส้นใน
00:02:27 → 00:02:30 ค่าเฉลี่ย 10% เนี่ยมันจะเป็นผมในระยะพัก
00:02:30 → 00:02:32 พักที่มันพร้อมจะหลุดร่วงหรือ 10,000
00:02:32 → 00:02:36 เส้นทีนี้ไอ้ 10,000 เส้นเนี้ยในภาวะปกติ
00:02:36 → 00:02:38 เนี่ยมันก็จะทยอยร่วงทุกวัน
00:02:39 → 00:02:39 >> อือ
00:02:39 → 00:02:41 >> ใน 3 เดือนหรือ 100 วันเพราะฉะนั้นมันถึง
00:02:41 → 00:02:43 ออกไปเป็นตัวเลขมาตรฐานที่หมอผิวหนังก็
00:02:44 → 00:02:46 บอกจะบอกคนไข้ว่าผมเนี่ยมันร่วงได้ประมาณ
00:02:46 → 00:02:49 100 เส้นต่อวันมันก็จะมาจากตัวเลขนี้
00:02:49 → 00:02:49 >> อื
00:02:49 → 00:02:50 >> ทีนี้
00:02:50 → 00:02:53 >> ผมทุกคนมันมีแสนเส้นหรือเปล่าแล้วก็ผม
00:02:53 → 00:02:56 ระยะพักมันจะมีหมื่นเส้นหรือเปล่ามันมัน
00:02:56 → 00:02:58 ก็ไม่ใช่ใช่มั้ยถ้ามันร้านไปแล้วครึ่งหัว
00:02:58 → 00:03:00 หรือว่าผมกลายเป็นคนที่ผมบางเนี่ยก็อาจจะ
00:03:00 → 00:03:03 เหลือผมไม่ถึงแสนเส้นอาจจะ 60,000 50,000
00:03:03 → 00:03:06 เพราะฉะนั้นเนี่ยจริงๆ 50 เส้นก็อาจจะ
00:03:06 → 00:03:08 เป็นปัญหาได้ถ้าต้นทุนเราไม่ใช่คนที่ผม
00:03:08 → 00:03:11 เยอะในขณะที่ถ้าคนที่ผมเยอะจริงๆหรือคน
00:03:11 → 00:03:14 ที่มีต้นทุนมาเยอะๆเนี่ยบางทีร่วงอาจจะ
00:03:14 → 00:03:16 เกิน 100 เส้นไปหน่อยก็อาจจะไม่ใช่ปัญหา
00:03:16 → 00:03:17 อะไร
00:03:17 → 00:03:17 >> อ๋อ
00:03:17 → 00:03:20 >> เพราะฉะนั้นเนี่ยมันก็จะเป็นตัวเลขที่แี่
00:03:20 → 00:03:24 แต่โดยหลักการแล้วเนี่ยถ้าสมมุติว่าวันๆ
00:03:24 → 00:03:26 นึงเนี่ยเรารู้สึกว่ามันร่วงมาเกินปกติ
00:03:26 → 00:03:28 เนี่ยส่วนใหญ่มันก็ผิดปกติและ
00:03:28 → 00:03:32 >> อออ่าโอเคแห้งขอรีแคAPสั้นๆนิดนึงนะคะวัน
00:03:32 → 00:03:36 ที่สระผมกับวันที่ไม่ได้สระผม
00:03:36 → 00:03:37 >> ผมร่วงไม่เท่ากัน
00:03:37 → 00:03:38 >> อ่าผมร่วงไม่เท่ากัน
00:03:38 → 00:03:39 >> ใช่
00:03:39 → 00:03:39 >> วันที่สระผม
00:03:39 → 00:03:43 >> ก็จะร่วงตามปกติก็คือประมาณไม่เกิน 100
00:03:43 → 00:03:45 เส้นต่อวันถ้าวันที่ไม่สระผมเนี่ย 100
00:03:45 → 00:03:48 เส้นเนี่ยมันก็อาจจะไม่ได้เห็นติดอยู่ที่
00:03:48 → 00:03:52 หนังศีรษะไม่ได้ร่วงอาจจะเห็น 50 เส้น
00:03:52 → 00:03:54 แล้วอีกวันนึงมันก็จะไปทบร่วงอีก
00:03:54 → 00:03:57 >> คือถ้าสมมุติว่าเป็นคนปกติเนี่ยวันที่สา
00:03:57 → 00:04:00 ผมผมร่วงเยอะวันที่ไม่สะผมไม่ร่วงอันเนี้
00:04:00 → 00:04:01 เป็นเรื่องธรรมดาทุกคนเหมือนกันหมด
00:04:01 → 00:04:03 >> ใช่ๆ
00:04:03 → 00:04:05 >> แล้วถ้าเราอยากรู้ว่าผมเราอ่ะร่วงเยอะ
00:04:05 → 00:04:07 กว่าปกติหรือเปล่าเราควรจะดูวันที่เราสะ
00:04:07 → 00:04:08 ผมหรือวันที่ไม่ได้สระผม
00:04:08 → 00:04:10 >> ก็ดู 2 วันแล้วหารเฉลี่ยกัน
00:04:10 → 00:04:12 >> แล้วจริงๆแล้วคนเราควรสระผมบ่อยแค่ไหน
00:04:12 → 00:04:16 >> คนเราควรจะสระผมเมื่อมันมีไขมันบนหนัง
00:04:16 → 00:04:19 ศีษะเกินกว่าปกติการสะผมเนี่ยเอาไขมัน
00:04:19 → 00:04:21 ส่วนเกินออกใช่มั้ครับถ้าสมมุติว่าไขมัน
00:04:21 → 00:04:24 ส่วนเกินไม่เยอะมากก็ไม่สะผมก็ได้จริงๆ
00:04:24 → 00:04:27 ถ้าคนที่หนังศีรษะไม่ได้หนังศีรษะมันหนัง
00:04:27 → 00:04:29 ศีรษะแห้งแรกเนี่ยจะ 2-3 วัน 3 ครั้งหรือ
00:04:29 → 00:04:31 แม้แต่อาทิตย์ละครั้งก็ยังทำได้
00:04:31 → 00:04:35 >> หรือถ้าบางคนใช้วิธีในการเอาไขมันบนหนัง
00:04:35 → 00:04:37 ศีรษะออกด้วยวิธีอื่นก็อาจจะไม่ต้องสะผม
00:04:38 → 00:04:40 เลยเป็นระยะเวลายาวๆเป็นเดือนก็ยังได้
00:04:40 → 00:04:41 >> มันอยู่ได้
00:04:41 → 00:04:44 >> ใช่เช่นใช้น้ำอุ่นล้างหนังศีษะซับผมด้วย
00:04:44 → 00:04:47 กระดาษซับมันอะไรพวกนี้ครับก็เป็นวิธีการ
00:04:47 → 00:04:49 ที่เอาหนังเอาไขมันออกจากหนังศีรษะโดยไม่
00:04:49 → 00:04:50 ต้องสระผม
00:04:50 → 00:04:52 >> คลิปนี้ออกไปนี่คือคนที่ไม่ชอบสระผมนี่
00:04:52 → 00:04:54 คือต้องเป็น reference ด้วยนะเนี่ย
00:04:54 → 00:04:59 >> เอ้าไม่เคยได้ยินปูเวย์เหรอหะโนปูเวย์เคย
00:04:59 → 00:04:59 ได้ยินมั้ย
00:04:59 → 00:05:00 >> ไม่เคยได้ยิน
00:05:00 → 00:05:03 >> มันผมเคยทำคลิปออกไปไม่สะผม 1 เดือนแล้ว
00:05:03 → 00:05:06 หนังศีรษะเป็นยังไงเป็นคลิปที่คนดูเยอะ
00:05:06 → 00:05:08 ที่สุด
00:05:08 → 00:05:11 >> จำได้คับแค้คับคาเลยอ่ะเหมือนช่วงเวลา
00:05:11 → 00:05:13 นั้นอุ๋มอยู่ในช่วงเวลานั้นด้วยที่แบบ
00:05:13 → 00:05:15 เฮียกำลังเก็บตัวเองอยู่
00:05:15 → 00:05:18 >> เก็บใช่แล้วก็แล้วก็เอา 2 กล้องให้ดูตอน 7
00:05:18 → 00:05:22 วัน 14 วันเอ่อ 21 วัน 28 วันว่าหนัง
00:05:22 → 00:05:23 ศีรษะเป็นยังไง
00:05:23 → 00:05:24 >> No ปู way
00:05:25 → 00:05:29 >> มันคืออะไร no N O แล้วก็ P O P O
00:05:29 → 00:05:32 >> อ๋อก็คือแบบ No แชมพู
00:05:32 → 00:05:35 >> ใช่ก็คือมันมันก็จะมีคนพยายามทำอยู่หลาย
00:05:35 → 00:05:39 คนแบบใช้น้ำอุ่นล้างผมใช้เวนกร้าบ้างอะไร
00:05:39 → 00:05:42 อย่างเงี้ยครับแต่ที่ผมทำก็ใช้น้ำล้าง
00:05:42 → 00:05:44 ธรรมดาแล้วก็ใช้กระดาษในครัวเนี่ยซับมัน
00:05:44 → 00:05:45 อะไรเงี้ย
00:05:45 → 00:05:48 >> กระดาษทิชชู่ครัวใช่ป่ะชู้ครัวใช่
00:05:48 → 00:05:50 >> แล้วเราบอกได้เลยมั้ยว่า 30 วันเกิดอะไร
00:05:50 → 00:05:50 ขึ้น
00:05:50 → 00:05:52 >> ได้บอกได้เลยมันจะทรมาน 7 วันแรกเท่านั้น
00:05:52 → 00:05:54 แหละ
00:05:54 → 00:05:56 [เพลง]
00:05:56 → 00:05:57 ทรมานนะ
00:05:57 → 00:05:59 >> ใช่คือผมเป็นเซฟเดิมเป็นเยอะด้วย
00:06:00 → 00:06:00 >> อือ
00:06:00 → 00:06:03 >> เออเพราะฉะนั้นเนี่ยพอไม่สะผมประมาณสัก 7
00:06:03 → 00:06:04 วันเนี่ยโอ้โหคันศีรษะมาก
00:06:05 → 00:06:05 >> อื
00:06:05 → 00:06:09 >> มันมันเซฟเดิมมันก็เริ่มออกอาการแต่ก็คือ
00:06:09 → 00:06:11 ก็ยังอยากรู้
00:06:11 → 00:06:15 >> ก็คือก็เอาเอากล้องมาส่องดูตอนนั้นก็
00:06:15 → 00:06:18 โอ้โหหนังศีรษะแดงแล้วก็มีขุยอะไรเงี้ย
00:06:18 → 00:06:18 >> อือๆ
00:06:18 → 00:06:21 >> คือครั้งแรกที่ทำเนี่ยอันเนี้ยคือทนได้
00:06:21 → 00:06:24 แค่ 7 วันแล้วก็สะไม่ทนต่อแต่ว่าไอ้รอบ 2
00:06:24 → 00:06:26 ที่ลองเนี่ยเนี่ยก็อ่ะแล้วสมมุติว่าถ้า
00:06:26 → 00:06:28 เราคนไปอ่ะแล้วมันจะเป็นยังไงอะไรเงี้ย
00:06:28 → 00:06:30 >> อือๆๆ
00:06:30 → 00:06:33 >> วันที่ 8 90 มันก็ยังแบบคันแล้วก็ยัง
00:06:33 → 00:06:35 ระคายเคืองอยู่แต่ก็เอ๊ะมันก็ชินๆไปละอื
00:06:35 → 00:06:39 >> พอพอ 2 อาทิตย์เนี่ยปรากฏว่าเออมันก็เฉยๆ
00:06:39 → 00:06:41 ไอ้ที่จากที่คันแล้วมันก็ไม่ค่อยคันแล้ว
00:06:41 → 00:06:42 แล้วมันก็หายคัน
00:06:42 → 00:06:43 >> อื
00:06:43 → 00:06:46 >> แล้วก็ผ่านไปมันก็จากนั้นมันก็โคงตัวอยู่
00:06:46 → 00:06:48 อย่างเนี้ยคันนิดหน่อยไม่มากมายอะไร
00:06:48 → 00:06:50 >> แล้วแบบมีสะเก็ดร่วงเรื่อยๆ
00:06:50 → 00:06:51 >> สเก็ตกลับน้อยลงอีก
00:06:51 → 00:06:53 >> ออสปาที่ 3 คือน้อยลง
00:06:53 → 00:06:55 >> ใช่ก็คือกลายเป็นเหมือนกับก็มีแพเกต
00:06:55 → 00:06:58 เหมือนกับเฟเดิมทั่วๆไปที่มีอยู่ในชีวิต
00:06:58 → 00:07:01 ประจำวันไม่ได้มากผิดปกติเหมือนกับช่วง 7
00:07:01 → 00:07:04 วันแรกศีรษะของคนเราเนี่ยมันก็จะปรับตัว
00:07:04 → 00:07:05 ไปตาม
00:07:05 → 00:07:05 >> สภาพแวดแวดล้อม
00:07:05 → 00:07:09 >> สภาพแวดล้อมตามตามสิ่งที่เราทรีทเค้า
00:07:09 → 00:07:10 >> อ่ะแล้วสัปดาห์สุดท้ายอ่ะ
00:07:11 → 00:07:12 >> สัปดาห์สุดท้ายก็ปกติเลย
00:07:12 → 00:07:13 >> คือเซฟเดิมหายหรอ
00:07:13 → 00:07:15 >> เซฟเดิมไม่หายหรอกมันก็เป็นของมันอยู่
00:07:15 → 00:07:17 อย่างนั้นแหละเพียงแต่ว่าอาการมันไม่ได้
00:07:17 → 00:07:18 มาก
00:07:18 → 00:07:18 >> เท่า 7 วันแรก
00:07:18 → 00:07:21 >> เท่ากับ 7 วันแรกการอักเสบก็ก็ไม่ได้มาก
00:07:21 → 00:07:23 ก็เหมือนกับก็นิดๆหน่อยๆมีของมันอยู่
00:07:23 → 00:07:26 >> อือุ้ยน่าสนใจถ้าเกิดมันหายนี่คือน่าสนใจ
00:07:26 → 00:07:26 กว่าเดิม
00:07:26 → 00:07:29 >> คือธรรมชาติของเฟิร์มมันเป็นมันเป็น
00:07:29 → 00:07:31 alergyจีใช่มั้ยเพราะฉะนั้นเนี่ยตราบใด
00:07:31 → 00:07:33 ที่มันมีเอลเจนมันก็ต้องมีการอักเสบอยู่
00:07:33 → 00:07:36 บ้างเพียงแต่ว่ามันกลับไม่ได้มากเหมือน
00:07:37 → 00:07:38 กับอย่างที่เราคิด
00:07:38 → 00:07:39 >> อื
00:07:39 → 00:07:42 >> เพราะฉะนั้นคำมันก็ถึงกลับมาคำถามว่าแล้ว
00:07:42 → 00:07:45 จริงๆคนเรามันจำเป็นต้องสะผมบ่อยขนาดทุก
00:07:45 → 00:07:48 วันหรือวันเว้นวันตามที่บริษัทแชมพูเขา
00:07:48 → 00:07:48 แนะนำมั้ย
00:07:48 → 00:07:50 >> อ่ะแล้วถ้าอาบน้ำล่ะอ่ะ
00:07:50 → 00:07:52 >> อาบน้ำก็เหมือนกัน
00:07:52 → 00:07:55 >> คนที่ไม่ใช้สบู่เนี่ยหรือว่าใช้สบู่แค่
00:07:55 → 00:07:57 อาทิตย์ละครั้งก็อาจจะอยู่ได้ก็ได้
00:07:57 → 00:08:03 >> หรือจะทำชาเลนจมไม่อาบน้ำ 30 วัน
00:08:03 → 00:08:07 ถ้าไปให้คนที่เป็น Atopic dermatis ทำผม
00:08:07 → 00:08:08 ว่าเขาอาจจะดีขึ้นนะ
00:08:08 → 00:08:10 >> เพราะ Skin Barrier ไม่ถูกทำร้ายเลย
00:08:10 → 00:08:12 >> ใช่ๆๆ
00:08:12 → 00:08:13 >> อื
00:08:13 → 00:08:16 >> แบบ No Sof
00:08:16 → 00:08:19 อันนี้แอบน่ากลัวนิดนึงเออใช่แล้ว No
00:08:19 → 00:08:21 Pool เนี่ยคือเมื่อกี้เนี่ยเราเน้น
00:08:21 → 00:08:22 เรื่องของเซฟเดิม
00:08:22 → 00:08:22 >> อือฮึ
00:08:22 → 00:08:25 >> แล้วเรื่องของผมร่วงล่ะถ้าเราแบบไม่สะผม
00:08:25 → 00:08:26 อย่างงั้นน่ะ
00:08:26 → 00:08:28 >> เออ no ปูเวย์คือไม่ไม่ใช่แชมพูแต่ว่าสระ
00:08:29 → 00:08:29 ด้วยน้ำ
00:08:29 → 00:08:31 >> อออ๋อสระด้วยน้ำ
00:08:31 → 00:08:32 >> ใช่
00:08:32 → 00:08:33 >> ก็คือล้างน้ำทุกวัน
00:08:35 → 00:08:38 >> เคยมีคนบอกเหมือนกันว่าเราอ่ะต้องไม่สะผม
00:08:38 → 00:08:41 ยิ่งสะระผมยิ่งทำให้หนังศีรษะมันยิ่งสะระ
00:08:41 → 00:08:43 ผมบ่อยเท่าไหร่ยิ่งมันมากขึ้น
00:08:43 → 00:08:46 >> ผมเชื่อว่ามันอยู่ที่ความพอดีอ่ะแต่ว่า
00:08:46 → 00:08:49 ถ้าคนที่สระผมแบบเช้าเย็นหรือสระผม
00:08:49 → 00:08:51 โอเวอร์แชมพูเนี่ยหนังศีรษะมันจริงแล้ว
00:08:51 → 00:08:53 แล้วมันถูกกระตุ้นด้วยแชมพูทำให้หนัง
00:08:53 → 00:08:56 ศีรษะแห้งแล้วต้องผลิตน้ำมันสู้ซึ่งซึ่ง
00:08:56 → 00:09:00 อันเนี้ยเป็นข้อมูลที่มีความเป็นจริงอยู่
00:09:00 → 00:09:03 การที่ไม่สะผมเลยหรือว่าไม่มีตัวขจัดความ
00:09:03 → 00:09:06 มันเลยเนี่ยความมันบนหนังศีษะมันก็เป็น
00:09:06 → 00:09:09 ตัวที่ก็เป็นอาหารเลี้ยงยีสน้ำมันที่ทิ้ง
00:09:09 → 00:09:11 ไว้ข้างนอกมันก็บูดมันก็ทำให้เกิดเหมือน
00:09:11 → 00:09:14 กับเฟอร์นationทำให้เกิดการระคายเคืองได้
00:09:14 → 00:09:17 เงี้ยพวกเนี้ยก็เป็นสิ่งที่ไม่ดีเพราะ
00:09:17 → 00:09:20 ฉะนั้นเนี่ยการที่เราจะสระผมกี่วันครั้ง
00:09:20 → 00:09:22 หรือจะใช้แชมพูหรือไม่ใช้เนี่ยเนี่ยหลัก
00:09:22 → 00:09:24 การมันอยู่ตรงนี้ถ้าเราสามารถเคลียร์น้ำ
00:09:24 → 00:09:27 มันที่อยู่บนหนังศีรษะออกด้วยวิธีใดวิธี
00:09:27 → 00:09:29 หนึ่งก็แชมพูอาจจะใช้น้อยลง
00:09:29 → 00:09:33 >> อ่าเข้าใจได้ก็คือถ้าสระผมบ่อยเกินไปหนัง
00:09:33 → 00:09:36 ศีรษะอาจจะมันมากขึ้นจากการที่
00:09:36 → 00:09:39 >> แชมพูมันไปดรผิวทำให้แห้งระคายเคือง
00:09:39 → 00:09:40 >> อือ
00:09:40 → 00:09:43 >> ถ้าคนมีปัญหาเรื่องหนังศีรษะมันจะมีผลทำ
00:09:43 → 00:09:44 ให้ผมร่วงมากขึ้นไหม
00:09:44 → 00:09:48 >> ผมว่าไม่แต่กลับกันคนที่ผมร่วงหรือคนที่
00:09:48 → 00:09:51 เริ่มผมเริ่มร้านเนี่ยหนังศีรษะจะมันเป็น
00:09:51 → 00:09:55 ทิทฤษฎีแบบตัดไม้แล้วน้ำท่วมอ่ะเดี๋นะ
00:09:55 → 00:09:58 >> เหมือนกับว่าเอ่อเพราะไม่มีป่าไม้มาชะลอ
00:09:58 → 00:10:01 น้ำที่ลงมาจากภูเขามันก็เลยทำให้น้ำลงมา
00:10:01 → 00:10:04 เร็วแล้วก็แล้วก็ท่วมบ้านเรือนใช่มั้ยที่
00:10:04 → 00:10:06 สมัยก่อนเบอกตัดไม้ทำลายป่าแล้วทำให้น้ำ
00:10:06 → 00:10:09 พ่วมอันนี้ก็เหมือนกันคือเส้นผมเนี่ยมัน
00:10:09 → 00:10:14 มันดูดน้ำมันบนน้ำมันออกไปสอบขึ้นไปฉาบไป
00:10:14 → 00:10:18 บนเส้นผมเพราะฉะนั้นถ้าเส้นผมหนาเส้นผม
00:10:18 → 00:10:21 ใหญ่มันก็จะดูดน้ำมันเยอะ
00:10:21 → 00:10:21 >> อืออือๆ
00:10:21 → 00:10:24 >> เออผมมันกับหนังศีษะมันไม่เหมือนกันอ
00:10:24 → 00:10:28 >> คือคนที่ผมเส้นใหญ่ผมหนาเนี่ยส่วนใหญ่
00:10:28 → 00:10:31 หนังศีษะจะค่อนแห้งแต่ว่าเส้นผมอาจจะมัน
00:10:31 → 00:10:35 ได้ออฮะแต่ถ้าเมื่อไหร่ที่แก่ตัวลงผมเส้น
00:10:35 → 00:10:38 เล็กผมหายไปหนังศีรษะก็จะมัน
00:10:38 → 00:10:41 >> อันเนี้ก็เป็นหนึ่งในทฤษฎีที่คนผมบางหนัง
00:10:41 → 00:10:42 ศีรษะจะง่าย
00:10:42 → 00:10:43 >> อ่า
00:10:43 → 00:10:46 >> เอออันที่ 2 ก็คือพอผมบางเนี่ยมันโชว์ให้
00:10:46 → 00:10:49 เห็นหนังศีษะมันก็ถูกแดดัตร violet ก็
00:10:49 → 00:10:52 กระตุ้นทำให้เอ่อต่อมไขมัน
00:10:52 → 00:10:52 >> ทำงานมากขึ้น
00:10:54 → 00:10:58 >> อ้าโอเคเข้าใจแล้วสาเหตุผมร่วงที่พบบ่อย
00:10:58 → 00:11:00 ที่สุดในคนไทย
00:11:00 → 00:11:04 ตอบไม่ได้นะเออคือปกติผมร่วงเนี่ยเกือบจะ
00:11:04 → 00:11:07 รทั้งร้อยเนี่ยมันก็เป็นทีโรเจนเอฟรูมนี่
00:11:07 → 00:11:09 แหละคนที่ผมบางแบบพันธุกรรมเนี่ยจริงๆ
00:11:09 → 00:11:13 ปริมาณเยอะกว่าคนที่เป็นทีรเจนเอฟูเียม
00:11:13 → 00:11:15 แต่คนที่เป็นผมบางแบบพันธุกรรมเนี่ยจริงๆ
00:11:15 → 00:11:17 มันไม่ได้ร่วงมากหรอกมันร่วงนิดหน่อยก็
00:11:17 → 00:11:20 คือมันจะร่วงมากขึ้นแต่มันจะมีจุดที่มัน
00:11:20 → 00:11:22 ร่วงมากและก็จุดที่มันไม่ร่วงเพราะฉะนั้น
00:11:22 → 00:11:25 เนี่ยโดยภาพรวมแล้วเนี่ยมันก็คือมันจะ
00:11:25 → 00:11:28 ร่วงมากในช่วงที่ในช่วงที่เป็นแพทเทิร์น
00:11:28 → 00:11:31 แอsหรือผมด้านบนในขณะที่ด้านหลังเนี่ยจะ
00:11:31 → 00:11:33 ไม่ร่วงถ้าจับดึงแล้วหลุดด้านบนแต่ด้าน
00:11:33 → 00:11:35 หลังไม่ไม่หลุดเนี่ยจริงๆมันก็จะเป็น
00:11:35 → 00:11:37 เรื่องของผมบางแบบพันธุกรรม
00:11:37 → 00:11:37 >> อื
00:11:37 → 00:11:40 >> แต่ว่าคนที่ผมบางแบบพันธุกรรมเนี่ยโดยภาพ
00:11:40 → 00:11:43 รวมแล้วก็นับว่าผมไม่ได้ร่วงเยอะเท่าไหร่
00:11:43 → 00:11:45 แต่ถ้าผมที่ร่วงเยอะๆเนี่ยส่วนใหญ่เนี่ย
00:11:45 → 00:11:48 มันก็จะเป็นเรื่องของผมร่วงระยะพักหรือ
00:11:48 → 00:11:50 ที่ที่เราเรียกว่าทิไโรเจนเอฟูเียมซึ่ง
00:11:50 → 00:11:53 ไทโรเจนเอฟูมเนี่ยมันก็จะมีหลายสาเหตุที่
00:11:53 → 00:11:55 แตกต่างกันไปอันดับแรกเนี่ยมันก็จะเป็น
00:11:55 → 00:11:58 เรื่องของความเครียดของร่างกายที่มีอะไร
00:11:58 → 00:12:01 สักอย่างมากระทบร่างกายเช่นไข้หวัดใยไข้
00:12:01 → 00:12:02 เลือดออกไข่โควิด
00:12:02 → 00:12:03 >> อื
00:12:03 → 00:12:07 >> ได้ร่างกายได้รับการบาดเจ็บนอนโรงพยาบาล
00:12:07 → 00:12:10 นานๆหรือว่าอะไรก็แล้วแต่ที่ไม่มีสตสต่อ
00:12:10 → 00:12:13 ร่างกายเนี่ยก็จะเป็นเหตุที่ทำให้ผมร่วง
00:12:13 → 00:12:15 ยุคโควิดเนี่ยคนก็จะผมร่วงจากทีโรเจน
00:12:15 → 00:12:18 เอฟูเบียมหลังโควิดเนี่ยกันเต้มไปหมดอ
00:12:18 → 00:12:19 จริงจริง
00:12:19 → 00:12:22 >> แล้วก็สาเหตุอันดับที่ 2 เนี่ยก็จะเป็น
00:12:22 → 00:12:24 เรื่องของร่างกายมันมีอะไรผิดปกติบาง
00:12:24 → 00:12:27 อย่างที่มันไม่เหมาะสมกับการเจริญเติบโต
00:12:27 → 00:12:30 ของเส้นผมยกตัวอย่างเช่นซีดขาดธาตุเหล็ก
00:12:30 → 00:12:34 ขาดวิตามินดีเป็นไทรรอยด์หลายๆโรคที่เป็น
00:12:34 → 00:12:37 โรคเรื้อรังที่ที่เป็นเหตุที่ทำให้ร่าง
00:12:37 → 00:12:38 กายไม่พร้อมสำหรับการเจริญเติบโตของเส้น
00:12:39 → 00:12:42 ผมผมก็ร่วงซึ่งพวกนี้เนี่ยเวลาที่ไปหาหมอ
00:12:42 → 00:12:45 เนี่ยบางทีเขาก็จะตรวจสกรีนิ่งเจาะเลือด
00:12:45 → 00:12:47 ตรวจดูว่ามันมีอะไรที่ผิดปกติที่จะต้อง
00:12:47 → 00:12:49 แก้อันที่ 3 เนี่ยก็เป็นเรื่องของความ
00:12:49 → 00:12:52 เครียดของจิตใจความเครียดของจิตใจก็คือ
00:12:52 → 00:12:54 ไม่ว่าจะเป็นเครียดชั่วครั้งชั่วคราวหรือ
00:12:54 → 00:12:57 ว่าเป็นเรื่องของโรคฟึมเศร้านอนไม่หลับ
00:12:57 → 00:12:58 ทั้งหลายต่างถ้าเมื่อไหร่ที่มันกระทบ
00:12:58 → 00:13:00 sleep cycle เนี่ยส่วนใหญ่มันก็จะเป็น
00:13:00 → 00:13:03 เหตุที่หนักแน่นพอที่จะทำให้ผมร่วงได้
00:13:03 → 00:13:04 >> อื
00:13:04 → 00:13:06 >> แล้วก็อันที่ 4 ก็เป็นเรื่องยาและสารพิษ
00:13:06 → 00:13:08 ก็ต่อจากเรื่องเมื่อกี้เวลาคนซึมเศร้า
00:13:08 → 00:13:11 เวลาคนนอนไม่หลับก็มักจะถูกให้กินยายาใน
00:13:11 → 00:13:14 กลุ่มของยาตั้นซึมเศร้ายานอนหลับเนี่ย
00:13:14 → 00:13:16 หลายตัวเลยก็จะเป็นตัวที่ทำให้ผมร่วง
00:13:16 → 00:13:20 >> อืดเด็กไอโซตติโนอีกินรักษาสิวก็ผมร่วงยา
00:13:20 → 00:13:23 ฆ่าเชื้อหลายๆตัวก็ร่วงยาเบาหวานยาความ
00:13:23 → 00:13:26 ดันก็ร่วงก็คือก็จะมียาต่างๆที่เราจะต้อง
00:13:26 → 00:13:28 เช็คดูว่าเออตัวไหนที่มันเป็นเหตุที่ทำ
00:13:28 → 00:13:29 ให้ผมร่วงบ้าง
00:13:29 → 00:13:31 >> ฮอร์โมนคุมกำเนิดล่ะ
00:13:31 → 00:13:34 >> ฮอร์โมนคุมกำเนิดเนี่ยมันจะร่วงเป็น
00:13:34 → 00:13:36 ไซเคิลโดยทั่วไปแล้วฮอร์โมนคุมกำเนิด
00:13:36 → 00:13:39 เนี่ยส่วนใหญ่ถือว่าไม่ร่วงช่วงแรกที่กิน
00:13:39 → 00:13:41 เนี่ยผมจะดีแต่เมื่อไหร่พอกินไปสักพักนึง
00:13:41 → 00:13:43 เกิน 6 เดือนขึ้นไปแล้วเนี่ยมันจะร่วง
00:13:43 → 00:13:45 เป็นไซเคิลเพราะว่ามันไม่ได้เหมือนกับ
00:13:45 → 00:13:48 ฮอร์โมนปกติเป๊ะมันก็จะมีช่วงที่ฮอร์โมน
00:13:48 → 00:13:50 มันเกินและช่วงที่ฮอร์โมนมันขาด
00:13:50 → 00:13:50 >> อ
00:13:50 → 00:13:53 >> คนที่กินยาคุมกำเนิดเนี่ยหลังจากที่กินไป
00:13:53 → 00:13:56 แหละเอ่อเกิน 6 เดือนเนี่ยก็มักจะบอกให้
00:13:56 → 00:13:58 ฟังว่าเออมันจะมีผมร่วงเป็นผักซึ่งมันก็
00:13:58 → 00:14:01 จะเป็นไปตามไซเคิลของฮอร์โมนที่เขากิน
00:14:01 → 00:14:04 เช่นเดียวกับหลังคอลฮอร์โมนที่ผลิตจากรก
00:14:05 → 00:14:07 เอสโตรเจนเยอะพวกนี้เนี่ยจะเป็นตัวที่มัน
00:14:07 → 00:14:10 จะทำให้อายุของเส้นผมยาวมากขึ้นคือช่วง
00:14:10 → 00:14:13 ที่คลอดช่วงที่ท้องอยู่เนี่ยผมจะไม่ร่วง
00:14:13 → 00:14:16 เพราะอายุผมเนี่ยมันจะมากขึ้นถึงแม้นมัน
00:14:16 → 00:14:18 จะถึงกำหนดหมดว่ามันจะต้องเปลี่ยนไปเป็น
00:14:18 → 00:14:21 ทีโรเจนเพื่อจะหยุดโตแล้วก็รอร่วงมันก็จะ
00:14:21 → 00:14:24 ไม่ร่วงคือในช่วงที่คนท้องเนี่ยทีโรเจน
00:14:24 → 00:14:26 hair เนี่ยเปอร์เซ็นต์จะลดลงแอนเจน hair
00:14:26 → 00:14:27 เปอร์เซ็นต์จะมากขึ้น
00:14:27 → 00:14:28 >> อือ
00:14:28 → 00:14:31 >> เอ่อแต่เวลาที่พอคลอดเสร็จปุ๊บรกออกไป
00:14:31 → 00:14:33 พร้อมกับเด็กแล้วก็ไม่มีฮอร์โมนมาสร้างใน
00:14:33 → 00:14:36 ในผู้หญิงเพราะฉะนั้นเนี่ยมันก็จะกลับเฟส
00:14:36 → 00:14:40 ตัวที่มันควรจะต้องร่วงตั้งแต่ตอนที่ตั้ง
00:14:40 → 00:14:42 ครรภ์มันก็มากองรวมกันแล้วก็ร่วงหลังคลอด
00:14:42 → 00:14:46 >> แต่ว่าคนหลังคลอดอ่ะมักจะบอกว่าผมบางลง
00:14:46 → 00:14:50 ด้วยนะบางลงกว่าตอนที่ก่อนตั้งครรภ์
00:14:50 → 00:14:52 >> ความที่ตอนที่เขาท้องแล้วเ้าก็รู้สึกว่า
00:14:52 → 00:14:53 ผมเาดีอ่ะ
00:14:53 → 00:14:55 >> จะบอกว่าเลืมไปแล้วใช่มั้
00:14:55 → 00:14:58 >> ลืมไปแล้วว่าว่า 9 เดือนมันยาวเลืมไปแล้ว
00:14:58 → 00:15:00 ว่าตอนไม่ได้ท้องเป็นยังไงแต่พอหลังคลอด
00:15:00 → 00:15:03 เนี่ยส่วนใหญ่ก็จะรู้สึกว่ามันบางลงจาก
00:15:03 → 00:15:04 การที่ผมร่วงหลังคลอด
00:15:04 → 00:15:06 >> แต่บางคนก็เห็นว่าบางจริง
00:15:06 → 00:15:08 >> แต่แน่นอนว่าผู้หญิงเนี่ยมีลูก 1 คนผมก็
00:15:08 → 00:15:11 จะหายไป 5% อันนี้ก็เป็นสิ่งที่เรารู้กัน
00:15:11 → 00:15:12 อยู่แล้ว
00:15:12 → 00:15:14 >> มันจะเป็นไปได้ไหมว่าคนพอคลอดเสร็จปุ๊บ
00:15:15 → 00:15:17 เนี่ยอันที่ 1 มันก็จะร่วงตามฮอร์โมนที่
00:15:17 → 00:15:20 หายไปอันที่ 2 สตสจากการเลี้ยงลูก
00:15:20 → 00:15:20 >> อือฮึ
00:15:20 → 00:15:22 >> อันที่ 3 อาจจะกินไม่พอหรือเปล่าล่ะปั๊ม
00:15:23 → 00:15:23 นม
00:15:23 → 00:15:24 >> ใช่ๆอื
00:15:24 → 00:15:25 >> มันก็เลยแบบไปกันใหญ่
00:15:25 → 00:15:26 >> ไปกันใหญ่คือหลายอย่าง
00:15:26 → 00:15:28 >> อันที่เป็นเหตุปัจจัยหลักๆจริงๆคือ
00:15:28 → 00:15:29 โพลักคติน
00:15:29 → 00:15:33 >> ถ้ายังให้นมลูกไปเรื่อยๆหรือปั๊มนมไป
00:15:33 → 00:15:36 เรื่อยๆคือโปรแรกตินเนี่ยมันเป็นฮอร์โมน
00:15:36 → 00:15:39 ที่ทำให้ร่างกายสร้างน้ำนมแต่ในทางกลับ
00:15:39 → 00:15:41 กันเนี่ยเส้นผมเป็นสิ่งไม่จำเป็นช่วงนั้น
00:15:42 → 00:15:44 มันก็หยุดการเจริญเติบโตของเส้นผมหยุด
00:15:44 → 00:15:46 สร้างเส้นผมให้ไปสร้างน้ำนมแทน
00:15:46 → 00:15:49 >> ก็แปลว่าแม่ที่ให้นมลูกอย่างต่อเนื่อง
00:15:49 → 00:15:51 เป็นปีๆ 2 ปี 3 ปี
00:15:51 → 00:15:54 >> ก็ส่วนใหญ่ผมก็จะร่วงหลังคลอดเนี่ยก็จะ
00:15:54 → 00:15:56 ร่วงยาวไปเรื่อยๆจนกว่าจะหยุดให้นม
00:15:56 → 00:15:58 >> แม่เจ้าเอ๊ะอันนี้ไม่รู้นะเพราะไม่ได้เคย
00:15:58 → 00:16:01 เป็นแม่หรือว่าไม่ได้จะเป็นแม่แต่ว่าเอ่อ
00:16:01 → 00:16:04 ฟังแล้วรู้สึกว่าลูกไม่ต้องกินนมและ
00:16:04 → 00:16:08 >> เฮ้ยไม่ได้ก็ต้องให้ลูกกินนมให้ครบ 1 ปี
00:16:08 → 00:16:10 ตามที่ควรจะเป็น
00:16:10 → 00:16:13 >> แล้วก็แล้วก็พอพอมันหมดรอบแล้วก็คือก็ให้
00:16:14 → 00:16:16 มันก็หยุดร่วงตามปกติออก็แปลว่าถ้าเกิด
00:16:16 → 00:16:19 หลังคลอดแล้วก็ให้นมลูก 1 ปีก็แปลว่าผม
00:16:19 → 00:16:21 มันจะกลับมาปกติหลังจากปีที่ 1
00:16:21 → 00:16:22 >> ใช่จากปีที่ 1 ถูกต้อง
00:16:23 → 00:16:24 >> อ๋อ
00:16:24 → 00:16:27 อ่ะก็ไม่เป็นไรก็ถือว่าให้กำลังใจคุณแม่
00:16:27 → 00:16:29 อย่างงี้ดีกว่าเนาะคุณแม่ที่ให้นมน้องก็
00:16:29 → 00:16:31 อาจจะมีผมร่วงต่อได้แต่ก็ถ้าสมมุติว่า
00:16:31 → 00:16:34 หยุดให้นมน้องเมื่อไหร่ผมก็จะกลับมาหนา
00:16:34 → 00:16:35 เหมือนเดิมแน่นอน
00:16:35 → 00:16:37 >> ใช่ถูกๆแล้วมันก็จะกลับมาเป็นปกติครับไม่
00:16:37 → 00:16:40 ไม่ต้องกังวลส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ผู้ชาเรื่อง
00:16:40 → 00:16:42 นี้นะแต่ผมรู้ว่าเดี๋ยวนี้เขามีแบบมัน
00:16:42 → 00:16:44 เยอะมากอ่ะ LGBTQ
00:16:44 → 00:16:46 Plus
00:16:46 → 00:16:47 คือมีหลายประเภทมาก
00:16:47 → 00:16:48 >> อื
00:16:48 → 00:16:51 >> แต่คือเอาประเภทของคนไข้ที่เคยเจอแล้วก็
00:16:51 → 00:16:53 มีปัญหามาเล่าให้ฟังเนี่ยก็จะมีอยู่ 2
00:16:53 → 00:16:55 กลุ่มใหญ่ๆแหละกลุ่มแรกก็คือเป็นกลุ่มที่
00:16:55 → 00:16:59 ผู้ชายแปลงเพศตัดเทสซิตัดอันทะแล้วก็เทค
00:16:59 → 00:17:01 ฮอร์โมนเพศหญิงเพื่อที่จะได้เป็นผู้หญิง
00:17:01 → 00:17:04 กับอีกกลุ่มนึงก็คือกลุ่มของผู้หญิงที่
00:17:04 → 00:17:06 เทคฮอร์โมนเพศชายเพื่อที่จะได้ให้มี
00:17:06 → 00:17:09 ลักษณะเหมือนผู้ชายก็จะทั้ง 2 กลุ่มเนี้ย
00:17:09 → 00:17:12 ก็จะเป็นกลุ่มที่ที่เคยเจอคนไข้แล้วก็มี
00:17:12 → 00:17:15 ปัญหาเรื่องเส้นผมเอาง่ายก่อนถ้ากลุ่มผู้
00:17:15 → 00:17:18 หญิงที่เทคฮอร์โมนเพศชายเพื่อที่จะมาเป็น
00:17:18 → 00:17:20 เพศชายอันนี้ตรงไปตรงมามีแอนโดจนติก
00:17:20 → 00:17:21 อโพเชียแน่นอน
00:17:21 → 00:17:22 >> เพิ่มขึ้น
00:17:22 → 00:17:22 >> เพิ่มขึ้นแน่นอน
00:17:22 → 00:17:26 >> เพราะว่าทานฮอร์โมนเพิ่ม
00:17:26 → 00:17:29 >> ก็จะมีลักษณะเป็นmซฟได้เหมือนผู้ชายมี
00:17:29 → 00:17:33 ลักษณะที่ที่เป็นผมบางแบบพันธุกรรมทั้ง
00:17:33 → 00:17:35 ที่ตอนที่ไม่ได้เทคไม่เป็นอะไรเงี้ยก็ก็
00:17:36 → 00:17:36 จะมี
00:17:36 → 00:17:40 >> อ่าจริงแล้วก็ส่วนตัวเมก็จะเจอว่าปัญหา
00:17:40 → 00:17:43 สิวนี่คือแบบจากเดิมนี่คือหน้าใสกิ้ง
00:17:43 → 00:17:46 อย่างต้นแขนก็กลายเป็นคนที่มีสิวก็เกิด
00:17:46 → 00:17:46 ขึ้นได้
00:17:46 → 00:17:49 >> ซึ่งในกลุ่มเนี้ยก็ได้ประโยชน์จากยากิน
00:17:49 → 00:17:52 ที่เราใช้รักษาผมบางแบบพันธุกรรมเพศชาย
00:17:52 → 00:17:54 ที่ปกติเราก็ไม่ได้ให้ใช้ในผู้หญิงใช่มั้
00:17:54 → 00:17:56 ครับก็กลุ่มนี้ก็เป็นกลุ่มที่เราใช้ได้
00:17:56 → 00:17:59 >> ก็คือถึงแม้จะมีผมร่วงเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่
00:17:59 → 00:18:02 ต้องกลัวมันก็มีวิธีที่ดูแลกัน
00:18:02 → 00:18:05 >> ใช่ๆอ่ะแล้วในกรณีที่ทรานจนเอร์
00:18:05 → 00:18:08 >> ในกรณีทรจนเดอร์ที่ผู้ชาย
00:18:08 → 00:18:08 >> ไปเป็นผู้หญิง
00:18:08 → 00:18:10 >> ไปเป็นผู้หญิงแล้วก็ตัดอันทะกลุ่มเนี้ย
00:18:10 → 00:18:13 กลับซับซ้อนมากกว่าเพราะว่าเรารู้ว่า
00:18:13 → 00:18:16 ฮอร์โมนเพศชโรเนี่ยเอมันเป็นตัวปัจจัย
00:18:16 → 00:18:19 สำคัญที่เปลี่ยนเป็นไดฮทสเตอโรนแล้วก็ทำ
00:18:19 → 00:18:21 ให้ผมบางแบบพันธุกรรมครับดังนั้นเนี่ยถ้า
00:18:21 → 00:18:24 ตัดอันทะเนี่ยมันก็ควรจะต่ำแล้วมันก็ควร
00:18:24 → 00:18:26 จะต้องดีขึ้นหรือมันก็มันควรจะต้องมี
00:18:26 → 00:18:29 ปัญหาผมน้อยลงแต่ปรากฏว่าก็ไม่ได้เป็น
00:18:29 → 00:18:31 อย่างนั้นตรงไปตรงมาโดยทั้งหมดผมเคยมีคน
00:18:32 → 00:18:34 ไข้เนี่ยในกลุ่มเนี้ยแล้วก็มีปัญหาผมร่วง
00:18:34 → 00:18:36 แต่ว่าลักษณะผมร่วงเขาเนี่ยมันไม่ได้เป็น
00:18:36 → 00:18:38 androgenic อโพเชียนะมันเป็นคล้ายๆ
00:18:38 → 00:18:41 chronicen effrovium หรือเป็นระยะเป็น
00:18:41 → 00:18:46 ผมร่วงเรือร่วงทั่วๆไม่ได้เป็นเชฟๆแล้ว
00:18:46 → 00:18:50 ทั่วใช่ๆๆเพราะว่าในกลุ่มเนี้ย 1 ฮอร์โมน
00:18:50 → 00:18:53 มันทำให้สมดุลเหมือนธรรมชาติยากก็ยังไง
00:18:53 → 00:18:54 มันก็เป็น
00:18:54 → 00:18:57 >> ฮอร์โมนที่เทคมันไม่ได้ปรับสมดุลผ่าน LS
00:18:57 → 00:19:00 fss จากนายผู้หญิง
00:19:00 → 00:19:00 >> อ
00:19:00 → 00:19:03 >> 2 เนี่ยการที่เขาขาดฮอร์โมนเพศชายเนี่ย
00:19:03 → 00:19:06 มันก็ส่งกับผลกระทบกับร่างกายอยู่พอสมควร
00:19:06 → 00:19:09 >> อืก็คือถ้าสมมุติว่าตัดอันทะออกไปแปลว่า
00:19:09 → 00:19:11 ไม่มีฮอร์โมนไม่มีแหล่งสร้างฮอร์โมนเพศ
00:19:11 → 00:19:12 ชายเลย
00:19:12 → 00:19:15 >> ผมเคยเจาะเทสโทสเตอโรนเคยเจาะไดฮโดรทสโรน
00:19:15 → 00:19:18 ของคนไข้คนนั้นนะคือมันเนีู่มากเลย
00:19:18 → 00:19:20 >> อ Oh my god แล้วมันจะหาความสมดุลได้
00:19:20 → 00:19:21 ยังไงเนาะ
00:19:21 → 00:19:23 >> ฮอร์โมนในรูปแบบที่เทคเนี่ยก็มีความสำคัญ
00:19:23 → 00:19:25 เพราะว่าฮอร์โมนที่อยู่ในยาคุมหรือว่า
00:19:25 → 00:19:27 ฮอร์โมนเพศหญิงที่เขาเทคเนี่ยส่วนใหญ่
00:19:27 → 00:19:30 เป็นโปรเจสตินไม่ใช่โปรเจสเตอโรนก็คือ
00:19:30 → 00:19:32 เลียนแบบโปรเจสเตอโรนปรากฏว่าโปรเจสติน
00:19:32 → 00:19:35 เนี่ยจับรีเฟตอร์ของฮอร์โมนเพศชายได้อีก
00:19:35 → 00:19:35 >> อื
00:19:35 → 00:19:38 >> เพราะฉะนั้นก็แอทำให้เกิดผมร่วงเหมือนใน
00:19:38 → 00:19:40 เพศชายได้เหนื่อยนิดนึงเนาะ
00:19:40 → 00:19:43 >> ใช่ก็เลยมีความงงแล้วก็เหนื่อยนิดนึงแต่
00:19:43 → 00:19:45 ว่าอะไรการรักษาแบบผมบางแบบพานุกรรมเพศ
00:19:45 → 00:19:47 ชายเนี่ยก็ได้ผลอยู่พอสมควร
00:19:47 → 00:19:49 >> อืก็คือรักษาแบบเดิมแต่ก็ได้ผลอยู่ดี
00:19:49 → 00:19:51 เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องกังวลอะไรคุณหมอรับ
00:19:51 → 00:19:52 มือได้
00:19:52 → 00:19:55 >> เพียงแต่ว่ามันไม่หยุดร่วงมันแบบขึ้นล่วง
00:19:55 → 00:19:57 ๆเป็นความทุกข์ของคนไข้ที่แบบเออเดี๋ยว
00:19:57 → 00:19:59 มันก็ร่วงอีกแล้วหมออะไรอย่างเงี้ย
00:19:59 → 00:20:01 >> จริงหรอทั้งๆที่ถ้าสมมุติว่าถึงแม้เราจะ
00:20:01 → 00:20:04 ดูแลสม่ำเสมออย่างเช่นทานยาตัวต้าน
00:20:04 → 00:20:08 ฮอร์โมนเพศชายต่อเนื่องทาตัวยาแบบไมนอให้
00:20:08 → 00:20:11 ผมขึ้นต่อเนื่องมันก็ร่วงเองอใช่ปกติ
00:20:11 → 00:20:13 อย่างสมมุติว่าถ้าในคนไข้ผู้ชายที่เป็นผม
00:20:13 → 00:20:18 มาชายแล้วกินยาในกลุ่มของ F of ได้คนใช้
00:20:18 → 00:20:22 ก็จะสมูทไม่ค่อยมีปัญหาผมขึ้นดีมา follow
00:20:22 → 00:20:24 up 3 เดือน 6 เดือน 1 ปีก็ไม่ค่อยมี
00:20:24 → 00:20:27 ปัญหาอะไรแฮปปี้แต่ถ้าในกลุ่มเนี้ยมันจะ
00:20:27 → 00:20:30 แบบขึ้นดีๆหมอดีใจมายิ้มแย้มแจ่มใสแล้วก็
00:20:30 → 00:20:32 6 เดือนต่อมาก็มันร่วงอีกแล้วหมออะไร
00:20:32 → 00:20:34 อย่างเงี้ยคือมันมันไม่ได้สมูทอ่ะ
00:20:34 → 00:20:36 >> เออแต่ว่ามีอีกอันนึงด้วยนะคือเนื่องจาก
00:20:36 → 00:20:38 ว่าก็ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญเนาะเวลาที่
00:20:38 → 00:20:40 เขาทรจนเดอร์เปลี่ยนมาเป็นผู้หญิงแล้ว
00:20:40 → 00:20:41 เนี่ยฮอร์โมนที่เขาเทคนี่คือเป็นยาคุม
00:20:42 → 00:20:43 กำเนิดเป็นหลักเหรอคะ
00:20:43 → 00:20:45 >> ไม่ไม่รู้อ่ะแต่ว่าส่วนใหญ่เขาก็คือเทค
00:20:45 → 00:20:47 ทั้งเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนเพื่อให้
00:20:47 → 00:20:48 เหมือนกับผู้หญิงมั้ย
00:20:48 → 00:20:51 >> เออคือเอสโตรเจนนแน่ๆเนาะ
00:20:51 → 00:20:51 >> ใช่
00:20:51 → 00:20:53 >> คือต้องมีแต่คราวนี้เนี่ยแค่ผู้หญิงปกติ
00:20:54 → 00:20:56 นะถ้าเราทานฮอร์โมนคุมกำเนิดต่อเนื่องยาว
00:20:56 → 00:20:58 ๆอ่ะก็ผมร่วงได้อีก
00:20:58 → 00:20:59 >> อใช่ใช่
00:20:59 → 00:21:01 >> เออแล้วอย่างงี้มันสาเหตุเกิดจากอะไร
00:21:01 → 00:21:03 >> คือเพราะมันไม่สมดุลไงมันไม่ใช่ธรรมชาติ
00:21:04 → 00:21:06 คือผู้หญิงถ้าทานยาคุมกำเนิดเนี่ย
00:21:06 → 00:21:08 แพทเทิร์นของการร่วงของเส้นผมเนี่ย 6
00:21:08 → 00:21:11 เดือนแรกไม่ร่วงดีทุกอย่างสมูทแต่พอหลัง
00:21:11 → 00:21:13 จาก 6 เดือนเนี่ยมันก็จะเริ่มมีแบบเดี๋ยว
00:21:13 → 00:21:17 ขึ้นๆเดี๋ยวร่วงๆบ้างก็ว่าตามไซเคิลบ้าง
00:21:17 → 00:21:20 ก็ว่าตามอะไรก็ไม่รู้แต่คือส่วนใหญ่ยาคุม
00:21:20 → 00:21:23 กำเนิดอย่างที่บอกมันเป็นโปรเจสตินไม่ใช่
00:21:23 → 00:21:24 โปรเจสเตอโรน
00:21:24 → 00:21:26 >> อ่าก็แปลว่า
00:21:26 → 00:21:27 >> เพราะฉะนั้นเนี่ยมันก็จะจับกับฮอร์โมนเพศ
00:21:27 → 00:21:28 ชายได้
00:21:28 → 00:21:30 >> แล้วอย่างงี้เวลาร่วงเนี่ยก็คือร่วง 2
00:21:30 → 00:21:32 แบบเลยเหรอเป็นเทโรเจนเอฟูเวียมด้วยเป็น
00:21:32 → 00:21:33 ทั้ง
00:21:33 → 00:21:36 >> ใช่เป็นทั้งแอนโดจนิสด้วยเป็นทั้งทีน
00:21:36 → 00:21:37 >> เหรอ
00:21:37 → 00:21:40 >> แล้วมันจะร่วงช่วงที่ 2 ช่วงครึ่งเดือน
00:21:40 → 00:21:41 หลังเป็นช่วงของโปรเจสติน
00:21:41 → 00:21:44 >> ถึงแม้เราจะทานฮอร์โมนคุมกำเนิดแบบที่มัน
00:21:44 → 00:21:47 เป็นเฟสเดียวอ่ะทุกเม็ดนเหมือนกันหมด
00:21:47 → 00:21:50 >> ไม่แน่ใจเรื่องแต่คือโดยหลักการถ้ามันมี
00:21:50 → 00:21:52 โปรเจสตินเนี่ยมันก็จะมีแอนโดจนติ
00:21:52 → 00:21:53 อโรเปชียได้
00:21:53 → 00:21:55 >> ก็ไม่เป็นไรอะไรที่ฮอร์โมนที่ไม่ธรรมชาติ
00:21:55 → 00:21:58 มันก็มีโอกาสทำให้ผมร่วงทั้งนั้นแต่ว่า
00:21:58 → 00:22:00 คุณหมอก็ไม่มีวิธีรับมือ
00:22:00 → 00:22:00 >> อื
00:22:01 → 00:22:03 >> มีข้อมูลอะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับการข้าม
00:22:03 → 00:22:05 เพศแล้วก็เกี่ยวกับผมเพิ่มเติมอีกมั้ย
00:22:05 → 00:22:08 >> อีกอันนึงที่น่าสนใจซึ่งผมก็ยังไม่รู้
00:22:08 → 00:22:12 เหตุผลนะยาในกลุ่มของเอ่อแอนติอนโดรเจน
00:22:12 → 00:22:13 >> ที่อยู่ในยาคุงกำเนิด
00:22:13 → 00:22:17 >> ที่อยู่ในที่ที่อยู่ในยาที่รักษาพวกต่อม
00:22:17 → 00:22:18 ลูกหมากที่เราเอามารักษาผมบางแบบ
00:22:18 → 00:22:21 พันธุกรรมของเพศหญิงกลุ่มพวกเนี้ยใช้แล้ว
00:22:21 → 00:22:24 ปรากฏว่าเซตเดิมในกลุ่มนี้ดีขึ้นด้วยกลไก
00:22:24 → 00:22:26 อะไรก็ไม่รู้
00:22:26 → 00:22:26 >> ออ
00:22:26 → 00:22:29 >> แต่คิดว่าน่าจะมีส่วนที่เกี่ยวกับเรื่อง
00:22:29 → 00:22:30 ของฮอร์โมนเพศนี้
00:22:30 → 00:22:33 >> ช่วยลดความมันด้วยมั้ยบนใบหน้า
00:22:33 → 00:22:36 >> ใช่เอ่อเฟเดิมเนี่ยเรารู้ว่าถ้าฟีบมัน
00:22:36 → 00:22:38 เยอะขึ้นเนี่ยมันก็จะทำให้เฟเดิมแย่ลงใช่
00:22:38 → 00:22:38 มั้
00:22:38 → 00:22:39 >> ใช่ใช่ๆ
00:22:39 → 00:22:42 >> อืก็อาจจะเป็นไปได้นะเพราะว่าถ้าใบค้าพวก
00:22:42 → 00:22:45 นี้มันก็จะทำให้หน้าแห้งน้ำมันน้อยลงเออ
00:22:45 → 00:22:47 แต่จะเห็นเนี่ยชัดเฟซเดิมดีขึ้น
00:22:47 → 00:22:49 >> เ้าให้ใช้ในอายุเท่าไหร่อ่ะ
00:22:49 → 00:22:51 >> พวกนี้ใช้ได้เลยนะตั้งแต่
00:22:51 → 00:22:52 >> ใช้ได้ตั้งแต่วัยรุ่น
00:22:52 → 00:22:53 >> ใช่ตั้งแต่
00:22:53 → 00:22:55 >> เค้าเอามารักษาสิวกันด้วยมั้อ่ะ
00:22:55 → 00:22:57 >> คิดว่ายังนะอาจจะต้องดูต้องดูเปเปอร์อาจ
00:22:57 → 00:22:59 จะเริ่มมีมาแล้วเพราะว่ามันก็น่าจะรักษา
00:22:59 → 00:23:02 สิวได้แหละเริ่มใช้มากขึ้นในปัจจุบันมาก
00:23:02 → 00:23:04 ขึ้นเรื่อยๆตัวนี้
00:23:04 → 00:23:06 >> เพราะว่าเขาก็ใช้ส
00:23:06 → 00:23:08 >> ใช่คือสมัยก่อนเราใช้สไป
00:23:08 → 00:23:11 คือสมัยนี้ก็ยังใช้สไปอยู่เป็นเป็น
00:23:11 → 00:23:14 มาตรฐานอยู่ในปัจจุบันแล้วก็ก็ดีในการที่
00:23:14 → 00:23:18 จะรักษาสิวก็ดีผมบางพันธุกรรมก็ดีแต่ว่า
00:23:18 → 00:23:19 ตัวเนี้ยดีกว่าเยอะ
00:23:19 → 00:23:20 >> เรียกว่าดีกว่าเยอะ
00:23:20 → 00:23:24 >> ใช่แต่ว่ายามันก็ยังมีอันตรายมันมีทติis
00:23:24 → 00:23:27 หรือว่ามีตับอักเสบเยอะอยู่ถ้าเปรียบ
00:23:27 → 00:23:30 เทียบกับสปแล้วก็ต้องปรับโดดที่ดีแต่ว่า
00:23:30 → 00:23:31 มันใช้โดดน้อยมาก
00:23:31 → 00:23:33 >> ถ้าคนเป็นสิวโดยเฉพาะสิวในวัยรุ่นเกี่ยว
00:23:34 → 00:23:35 กับฮอร์โมนอาจจะยังไม่เหมาะเนาะ
00:23:35 → 00:23:36 >> ใช่อาจจะยังไม่เหมาะ
00:23:36 → 00:23:37 >> อื
00:23:37 → 00:23:39 >> เพราะว่าเหมือนิสกมันจะเยอะหน่อย
00:23:39 → 00:23:41 >> ใช่ๆแต่ถ้าเหมือนกับมีอายุมาหน่อยแล้ว
00:23:41 → 00:23:44 เข้ามากลางคนแล้วเริ่มหัวผมบางหัวร้าน
00:23:44 → 00:23:46 แล้วเนี่ยแล้วก็ใช้วิธีอื่นๆไม่ได้ผล
00:23:46 → 00:23:48 เนี่ยอันนี้ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่า
00:23:48 → 00:23:49 สนใจ
00:23:49 → 00:23:52 >> อืพอเราอายุเพิ่มขึ้นเราก็มีผมหงอกแล้ว
00:23:52 → 00:23:54 เราก็ต้องย้อมผม
00:23:54 → 00:23:56 >> มันจะทำให้เราแบบผมโลกผมบางมั้ย
00:23:56 → 00:23:59 >> อ้าถ้าว่ากันตามการศึกษาเนี่ยการย้อมผม
00:23:59 → 00:24:02 มันก็ไม่ได้ทำให้ผมบางมากขึ้นชัดเจนหรือ
00:24:02 → 00:24:05 ว่ามีนัยยะสำคัญทางสถิตินักหลอกอ
00:24:05 → 00:24:09 >> อืถ้าพูดถึงกลกในการย้อมผมมันก็จะต้องมี
00:24:09 → 00:24:12 กลไกในการเปิดเกล็ดผมในการพวกเนี้ยมันก็
00:24:12 → 00:24:15 จะต้องใช้ไฮโดรเจนโปรอกไซด์ซึ่งมันก็คือ
00:24:15 → 00:24:17 ออก agent นั่นแหละเพราะฉะนั้นเนี่ยย้อม
00:24:17 → 00:24:21 ผม 1 ครั้งก็คือโดนออก agent 1 ครั้งถ้า
00:24:21 → 00:24:23 ย้อมมากขึ้นมันก็จะโดน oxidative agent
00:24:23 → 00:24:25 เพิ่มมากขึ้น oxidative agent เนี่ยมัน
00:24:25 → 00:24:28 ก็จะเป็นหนึ่งในกลไกที่ทำให้เซลล์แก่ร่าง
00:24:28 → 00:24:30 กายแก่ไวขึ้นเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้ามันโดน
00:24:30 → 00:24:33 เยอะๆมันก็คือก็น่าจะทำให้หนังศีรษะแก่
00:24:33 → 00:24:37 เร็วขึ้นแล้วก็ผมบางขึ้นแต่ว่าถ้าใช้ตาม
00:24:37 → 00:24:40 ปกติไม่เกิน 6 ครั้งต่อปีก็ถือว่ามันไม่
00:24:40 → 00:24:43 ได้มีนัยยะสำคัญทางสถิติที่ทำให้ผมบาง
00:24:43 → 00:24:45 >> อ๋อเมี 6 ครั้งต่อปีด้วยหรอ
00:24:45 → 00:24:48 >> มี 6 ครั้งต่อปี
00:24:48 → 00:24:51 >> โชคดีที่ตัวเองไม่ค่อยมีเวลาถ้ามีเวลา
00:24:51 → 00:24:54 เนี่ยคงจะ 12 ครั้งต่อปีแต่ผมเชื่อว่าผู้
00:24:54 → 00:24:57 ใหญ่ที่เขา้าแบบผมหงอกเยอะแล้วอ่ะ
00:24:57 → 00:24:57 >> อื
00:24:57 → 00:25:01 >> เ้าน่าจะ 12 ครั้งต่อปีนะมันมีอันตราย
00:25:01 → 00:25:04 อะไรมั้ยที่จะต้องกังวลหรือว่ามีคำแนะนำ
00:25:04 → 00:25:07 เพิ่มเติมมั้ยคือมันเคยมีข่าวใครสักคนใน
00:25:07 → 00:25:10 กระทรวงสาธารณสุขออกมาว่าย้อมผมทำให้ตับ
00:25:10 → 00:25:13 พังไตพังจากเคส report อะไรสักอย่างเอา
00:25:13 → 00:25:15 จริงๆอันนั้นมันเคส report ก็คือเคส
00:25:15 → 00:25:17 report มันไม่ได้เป็นสิ่งที่อันตรายขนาด
00:25:17 → 00:25:18 นั้นอ
00:25:18 → 00:25:18 >> อือๆ
00:25:18 → 00:25:21 >> เออมันทำได้ไม่ทำให้ตับพังไม่ทำให้ไตพัง
00:25:21 → 00:25:24 หรอกแต่ก็คือก็ทำเพราะประมาณ
00:25:24 → 00:25:27 >> แล้วยาย้อมผมแต่ละประเภทมีความเหมือนหรือ
00:25:27 → 00:25:29 ว่าต่างกันมยเราแบบควรจะเลือกแบบไหนอย่าง
00:25:29 → 00:25:34 เช่นแชมพูปิดผมขาวหรือเป็นครีมปิดผมขาว
00:25:34 → 00:25:36 อะไรอย่างเงี้ยในกลุ่มที่มันเป็น
00:25:36 → 00:25:38 professional brบที่ร้านทำผมเขาใช้กัน
00:25:38 → 00:25:42 เนี่ยส่วนใหญ่ก็จะได้สีที่ได้ดังใจแล้วก็
00:25:42 → 00:25:45 ติดนานก็เป็น permanent Air Color ใน
00:25:45 → 00:25:48 ขณะที่ถ้าเป็นกลุ่มสมุนไพรกลุ่ม Natural
00:25:48 → 00:25:50 กลุ่มออร์แกนิคเนี่ยเอ่อปัญหามันก็คือติด
00:25:50 → 00:25:53 ยากกว่าแล้วบางทีก็จะไม่ได้สีตามที่อยาก
00:25:53 → 00:25:57 ได้แม้นแต่สมุนไพรไทยบางอย่างที่เ้าทำกัน
00:25:57 → 00:25:59 มันก็ติดผมเหมือนกันบางทีมันก็จะติดหนัง
00:25:59 → 00:26:01 ศีรษะแล้วก็ดูค่อนข้างเปอะเปื้อนตามมา
00:26:01 → 00:26:05 ด้วยก็จะมีให้เห็นทีนี้ในกลุ่มกลุ่มที่
00:26:05 → 00:26:08 เป็นอะไรล่ะเิ permanent หรือพวกที่แบบถะ
00:26:09 → 00:26:12 ย้อม 5 นาที 10 นาทีแล้วก็ได้สีออกมาพวก
00:26:12 → 00:26:15 นี้มันก็ได้สีออกมาจริงแต่ความที่มันเป็น
00:26:15 → 00:26:17 เิ permanent เนี่ยมันก็จะหลุดง่ายกว่า
00:26:17 → 00:26:18 >> อื
00:26:18 → 00:26:21 >> แล้วก็จะได้สีที่ดังใจเรายากกว่าถ้าพูด
00:26:21 → 00:26:24 ถึงเิ permanent เนี่ยตามหลักการมันก็
00:26:24 → 00:26:26 ปลอดภัยกว่า permanent มีการทำลายเส้นผม
00:26:26 → 00:26:28 น้อยกว่าถ้าเปรียบเทียบกับ permanent แต่
00:26:29 → 00:26:31 ว่ามันก็ติดไม่ดีเท่าอ
00:26:31 → 00:26:33 >> ในกลุ่มที่ที่เป็น permanent อ
00:26:33 → 00:26:37 >> อ่าก็ต้องดูไปว่าเาเป็นระดับไหนคนที่มาหา
00:26:37 → 00:26:40 คุณหมอผมเนี่ยก็จะมีแบบอ้าปัญหาเรื่องผม
00:26:40 → 00:26:44 ร่วงมากับอีกแบบนึงคือมันร่วมเป็นปกติรู้
00:26:44 → 00:26:46 ตัวอีกทีนึงคือบางแล้ว
00:26:46 → 00:26:48 >> อ่ะก็จะมาหาด้วยเรื่องของผมบาง
00:26:48 → 00:26:50 >> แล้วสาเหตุผมบางที่เจอบ่อยที่สุดของคนไทย
00:26:50 → 00:26:51 คืออะไรคะ
00:26:51 → 00:26:53 >> ผมบางสาเหตุที่เจอบ่อยที่สุดก็พันธุกรรม
00:26:53 → 00:26:56 ผมแอนโดรเจนติกอโรเปเชียโรคผมบางแบบ
00:26:56 → 00:26:59 พันธุกรรมก็จะเป็นสาเหตุอันดับ 1 แหละที่
00:26:59 → 00:27:00 ทำให้ผมบาง
00:27:00 → 00:27:01 >> อื
00:27:01 → 00:27:03 >> ทีนี้ทั้งผู้ชายทั้งผู้หญิงเนี่ยมันก็จะ
00:27:03 → 00:27:06 เปอร์เซ็นต์ต่างกันถ้าสมมุติว่าเค้า
00:27:06 → 00:27:10 ประมาณคนที่ผมบางในระดับที่ 3 คือระดับ
00:27:10 → 00:27:14 กลางๆเนี่ยอายุ 30 เนี่ยก็จะมีประมาณ 30%
00:27:14 → 00:27:16 ของประชากรที่จะผมบาง
00:27:16 → 00:27:21 >> อืมอายุ 40 ก็จะ 40% อายุ 50 ก็จะ 50%
00:27:21 → 00:27:23 อายุ 60 ก็จะ 60%
00:27:23 → 00:27:26 >> เอ้ยเอาจริงสิเยอะมากที่เป็นบางเกรด 3
00:27:26 → 00:27:27 เป็นต้นไป
00:27:27 → 00:27:28 >> เกรด 3 ด้วย
00:27:28 → 00:27:29 >> ใช่ๆ
00:27:29 → 00:27:31 >> เราจะต้องขึ้นรูปให้ดูเนาะเกรด 1 เกด 2
00:27:31 → 00:27:31 เกด 3 เกด 4
00:27:32 → 00:27:34 >> 1 เกด 2 เกด 3 เกด 4 เป็นยังไงใช่
00:27:34 → 00:27:37 >> ทีนี้ถ้าสมมุติว่านายผู้หญิงเนี่ยก็จะ
00:27:37 → 00:27:39 เปอร์เซ็นต์น้อยกว่าในผู้หญิงเนี่ยก็คือ
00:27:39 → 00:27:43 ก็จะกลับกันน่ะอย่างเช่นผู้ถ้าผู้ชาย 30%
00:27:43 → 00:27:45 ผู้หญิงก็อาจจะแค่ประมาณ 15% อะไรเงี้ย
00:27:45 → 00:27:48 ที่เป็นผมบางเอ่อผมบางเกรด 3 ของผู้ชาย
00:27:48 → 00:27:49 เท่ากับเกรด 1 ของผู้หญิง
00:27:49 → 00:27:53 >> ก็แปลว่าถ้าผู้หญิงอายุ 30 มีโอกาสที่ผม
00:27:53 → 00:27:54 บางเกรด 1 30%
00:27:55 → 00:27:56 >> เออจะประมาณ 15%
00:27:56 → 00:27:57 >> อ๋อครึ่งนึงด้วย
00:27:57 → 00:27:59 >> ครึ่งนึงด้วยใช่ผู้ชายเนี่ยเาค้าจะแบ่ง
00:27:59 → 00:28:00 เป็น 7 เกรด
00:28:00 → 00:28:00 >> อื
00:28:00 → 00:28:03 >> อัน 1 2 3 4 5 6 7 อผู้หญิงเนี่ยเ
00:28:03 → 00:28:05 จะแบ่งเป็น 3 เกรด 1 2 3
00:28:05 → 00:28:09 >> แต่ว่าในเกรด 1 ของผู้หญิงเนี่ยก็คือที่
00:28:09 → 00:28:12 มันรู้สึกว่าบางในแบบที่ขึ้นว่าเป็น
00:28:12 → 00:28:14 lookวassification one เนี่ยหรือว่า 1
00:28:14 → 00:28:16 นิ้ววางทาบแล้วยังเห็นหนังศีรษะแล้วเนี่ย
00:28:17 → 00:28:19 ส่วนใหญ่เนี่ยก็คือก็เท่ากับผู้ชายประมาณ
00:28:19 → 00:28:20 เกรด 3 และ
00:28:20 → 00:28:24 >> ก็คือการแปรค่าเกรดดิ้งอาจจะแบบเทียบกัน
00:28:24 → 00:28:24 แบบนั้น
00:28:24 → 00:28:25 >> เทียบกันไม่ใช่แบบนั้น
00:28:25 → 00:28:27 >> แต่ก็คือโอกาสที่จะเจอผมบางประมาณครึ่ง
00:28:27 → 00:28:28 นึงของผู้ชาย
00:28:28 → 00:28:31 >> ใช่ๆๆๆ
00:28:31 → 00:28:33 >> ปกติแล้วเนี่ยเราดูแลตัวเองเบื้องต้นได้
00:28:33 → 00:28:36 ยังไงบ้างที่แบบเออสามารถไปซื้อแล้วก็มา
00:28:36 → 00:28:40 ดูแลตัวเองได้แชมพูตัวใส่ผมตัวกินโดยปกติ
00:28:40 → 00:28:45 เนี่ยถ้ามันไม่ใช่ผมร่วงที่ที่มากมายอะไร
00:28:45 → 00:28:47 หรือว่าเอ้ยช่วงเนี้ยผมมันร่วง 20-30
00:28:47 → 00:28:49 เส้นมากกว่าปกตินิดหน่อยมันก็อาจจะเป็น
00:28:49 → 00:28:52 สาเหตุจากอะไรที่จุ๊บจิ๊บไม่ที่คิดว่ามัน
00:28:52 → 00:28:54 เหมือนกับว่าไม่ต้องมาหาแพทย์ก็ได้
00:28:54 → 00:28:54 อย่างี้ใช่มั้ย
00:28:54 → 00:28:55 >> ใช่ๆ
00:28:55 → 00:28:58 >> ถ้าผมร่วงไม่เกิน 2 สัปดาห์อ่ะแล้วก็ร่วง
00:28:58 → 00:29:00 ไม่เยอะไม่ถึง 100 เส้นต่อวันมันก็ไม่
00:29:00 → 00:29:02 ต้องดู
00:29:02 → 00:29:05 อันนั้นเค้าเรียกร่วงเป็นปกติไงไม่ต้องดู
00:29:05 → 00:29:09 แลแต่ว่าเออแบบบางทีเค้าก็บางทีเค้าก็ยัง
00:29:09 → 00:29:11 ไม่สะดวกไปหาหมออะไรอย่างงี้ใช่มั้ยแบบ
00:29:11 → 00:29:14 ว่าเอออาจจะร่วงซักอ่ะ 90 เส้นยังไม่ถึง
00:29:14 → 00:29:14 100 เส้น
00:29:14 → 00:29:17 >> เข้าใจแต่คือคนส่วนใหญ่เนี่ยเวลาผมร่วง
00:29:17 → 00:29:19 เนี่ย common เซenseทุกคนก็จะเปลี่ยน
00:29:19 → 00:29:19 แชมพู
00:29:19 → 00:29:22 >> ใช่อ้าจริงๆแล้วแชมพูที่เขาบอกว่าแชมพูลด
00:29:22 → 00:29:24 ผมร่วงเวิร์คหรือไม่เวิร์ค
00:29:24 → 00:29:27 >> ผมจะถูกเกียด
00:29:27 → 00:29:30 เอาตามงานวิจัยนะแต่อันนี้ผมก็ไม่ได้หามา
00:29:30 → 00:29:32 นานแล้วว่าชมพูปัจจุบันที่มันมีงานวิจัย
00:29:33 → 00:29:36 ว่ามันลดผมร่วงได้จริงๆเนี่ยมันpapเปอร์
00:29:36 → 00:29:38 มันสรองขนาดไหนแล้วนะ
00:29:38 → 00:29:38 >> อื
00:29:38 → 00:29:41 >> แต่คือเท่าที่เคยดูมาสมัยก่อนอ่ะสัก 4-5
00:29:41 → 00:29:44 ปีที่แล้วเคยค้นเรื่องนี้มันมีเปเปอร์แบบ
00:29:44 → 00:29:47 พวกนี้น้อยมากอ่ะจะไม่เคยเห็นเปเปอร์ว่า
00:29:47 → 00:29:51 แชมพูนั่นนู่นนี่นน่นสามารถลดผมร่วงได้
00:29:51 → 00:29:54 จริงหรือว่าทำให้ผมขึ้นได้จริงแบบมี
00:29:54 → 00:29:57 randomiz control trial ออกมาให้เห็น
00:29:57 → 00:29:57 สักเท่าไหร่
00:29:57 → 00:29:59 >> เหมือนส่วนใหญ่เขาก็จะทำคู่กันกับตัว
00:29:59 → 00:30:02 เซรั่มตั้มทาหรืออะไรทาคู่กันจะไม่ออกมา
00:30:02 → 00:30:06 โดดๆว่าใช้แบบว่าใช้ชมพูแล้วมันเวิร์ค
00:30:06 → 00:30:08 >> มันก็อาจจะมีเหตุผลของมันเนาะเพราะมัน
00:30:08 → 00:30:09 >> ช็อตคทact
00:30:09 → 00:30:14 >> ซึ่งในธุรกิจหมื่นล้านของการทำแชมพู
00:30:14 → 00:30:17 รถผมร่วงเนี่ยแต่งานวิจัยมันน้อยมากขนาด
00:30:17 → 00:30:20 เนี้ย assume เอาว่ามันอาจจะไม่ได้เวิร์ค
00:30:20 → 00:30:22 >> ถ้าอยากรู้เดี๋รอไปรีวิวแล้วมาฟังตอนถัด
00:30:22 → 00:30:23 ไป
00:30:23 → 00:30:24 >> ครั้งหน้าจะมาเล่าให้ฟัง
00:30:24 → 00:30:28 >> โอเคแล้ว contact time ของการใช้ชมพูบน
00:30:28 → 00:30:30 หนังศีรษะเนี่ยมันแค่แค่ไม่เกิน 5 นาที
00:30:30 → 00:30:31 เนี่ย
00:30:31 → 00:30:32 >> อื
00:30:32 → 00:30:36 >> มันไม่พอหรอกจะกระตุ้นให้ผมขึ้นหรือว่าทำ
00:30:36 → 00:30:39 อะไรกับหนังศีษะเพราะฉะนั้นในมุมมองของผม
00:30:39 → 00:30:41 เนี่ยแชมพูก็มีหน้าที่แค่เป็นcleนingหนัง
00:30:42 → 00:30:44 ศีรษะชมพูรสผมร่วงเนี่ยส่วนใหญ่ไม่ได้
00:30:44 → 00:30:45 เวิร์คเท่าไหร่หรอก
00:30:45 → 00:30:46 >> อ่ะครีมนวดล่ะ
00:30:46 → 00:30:50 >> ครีมนวดยิ่งไม่เกี่ยวเลยครีมนวดก็คือนวด
00:30:50 → 00:30:52 เส้นผมใช่มั้ยแก้ไม่ให้ผมหยาบกระด้างไม่
00:30:53 → 00:30:54 ให้ผมเสียอะไรเงี้ยครับ
00:30:54 → 00:30:57 >> แล้วมีแล้วถ้าสมมุติว่าเป็นแบบแชมพูอย่าง
00:30:57 → 00:31:00 อื่นล่ะแชมพูพวกกลุ่มขจัดรังรังแคอะไรพวก
00:31:00 → 00:31:00 เนี้ย
00:31:00 → 00:31:03 >> ก็แต่ชมพูขจัดรังแคนี่มันเวิร์คอยู่หลาย
00:31:03 → 00:31:06 ตัวชมพูขจัดรังแคก็คือเป็นกลไกในการรักษา
00:31:06 → 00:31:09 ที่เราใช้รักษาเบิติหรือว่าโรครังแคบน
00:31:09 → 00:31:12 หนังศีรษะหลักแทบจะไม่ต้องใช้ยาหรือการ
00:31:12 → 00:31:14 รักษาอื่นๆเลยแล้วก็ใช้แชมพูเป็นหลัก
00:31:14 → 00:31:18 เนี่ยทั้งในกลุ่มที่มีกีโตนาโซนแชมพูเป็น
00:31:18 → 00:31:20 ส่วนประกอบทั้งในกลุ่มที่มีซีเรียมซัลไฟด
00:31:20 → 00:31:24 เป็นส่วนประกอบทั้งในกลุ่มของซิpิทอนทั้ง
00:31:24 → 00:31:27 เยอะแยะมากมายพวกนี้ส่วนใหญ่ก็ได้ผลทั้ง
00:31:27 → 00:31:27 นั้น
00:31:27 → 00:31:29 >> ก็คือได้ผลในการช่วยลดเซปเดิมแล้วถ้าเซฟ
00:31:29 → 00:31:32 เดิมเป็นสาเหตุของผมร่วงก็ทำให้ผมร่วงดี
00:31:32 → 00:31:32 ขึ้น
00:31:32 → 00:31:34 >> ใช่เซฟเดิมจะเป็นสาเหตุของผมร่วงก็ต่อ
00:31:35 → 00:31:37 เมื่อเป็นซีเวียเซฟเดิมหรือเซฟเดิมหนักๆ
00:31:37 → 00:31:40 ส่วนใหญ่เฟิมถ้าเป็นน้อยๆหรือกลางๆเนี่ย
00:31:40 → 00:31:41 ไม่ได้ทำให้ผมร่วงหรอก
00:31:41 → 00:31:44 >> ต่อมาเรื่องของเซรั่มบนหนังศีรษะ
00:31:44 → 00:31:46 >> เซรั่มบนหนังศีรษะนอกจากไม่นอกแล้วมีตัว
00:31:47 → 00:31:50 ไหนเวิร์คบ้างใช่มั้ย
00:31:50 → 00:31:52 >> อ้าใช่ๆ
00:31:52 → 00:31:54 >> ถ้าเปรียบเทียบกับกลุ่มนี้กับแชมพูเนี่ย
00:31:54 → 00:31:57 กลุ่มเนี้ยมันมีงานวิจัยแล้วก็มีมี
00:31:57 → 00:31:59 เปเปอร์อยู่หลายตัวเลย
00:31:59 → 00:32:00 >> อ๋อ
00:32:00 → 00:32:02 >> ใช่แต่ว่าส่วนใหญ่papเปอร์มันก็เป็น
00:32:02 → 00:32:05 papเปอร์ของบริษัทอ่ะนะว่าไหนทำแล้วมันก็
00:32:05 → 00:32:08 ทำแล้วแต่ว่ามันก็มีผลมีออกมาโชว์บ้าง
00:32:08 → 00:32:10 กลุ่มใหญ่ๆมันก็จะเป็นกลุ่มพวกไม่นั่น
00:32:10 → 00:32:13 แหละในประเทศไทยจริงๆก็มีอยู่หลายตัวนะ
00:32:13 → 00:32:15 แต่คือพวกนี้เนี่ยส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มที่
00:32:15 → 00:32:18 ผมก็ถ้าสมมุติว่าคนไข้อยากจะใช้เสริมการ
00:32:18 → 00:32:22 รักษาก็ใช้ไม่ได้ห้ามถ้าใช้ในกลุ่มของ
00:32:22 → 00:32:24 โลชั่นในกลุ่มพวกนี้ alone โดยที่ไม่ได้
00:32:24 → 00:32:27 มี finess ไม่ได้มีมีน้องเข้ามาส่วน
00:32:27 → 00:32:29 ประกอบเนี่ยประสบการณ์คนไข้กลุ่มพวกเนี้ย
00:32:30 → 00:32:32 จะเป็นกลุ่มที่เหมือนกับเวิร์คไม่เต็ม
00:32:32 → 00:32:33 เม็ดเต็มหน่วยอ่ะ
00:32:33 → 00:32:35 >> อืเข้าใจเข้าใจแทนที่ผมจะขึ้นรอยขึ้เส้น
00:32:35 → 00:32:38 อาจจะขึ้น 60 อะไรอย่างเงี้ยคือมันก็ขึ้น
00:32:38 → 00:32:41 บ้างตามเปเปอร์ที่มันได้อ่ะแต่ว่าคือ
00:32:41 → 00:32:43 เหมือนกับว่ามันก็จะแบบคือมันจะไม่มีรูป
00:32:43 → 00:32:47 แบบ significant change ให้เห็นบ่อยๆนัก
00:32:47 → 00:32:47 น่ะ
00:32:47 → 00:32:49 >> มีบ้างก็แปลว่าเปอร์เซ็นต์ที่ significant
00:32:49 → 00:32:50 change น่ะน้อย
00:32:50 → 00:32:52 >> ใช่ๆ
00:32:52 → 00:32:55 >> อ่ะคราวนี้เนี่ยก็เลยสงสัยว่าแล้วทำไมจะ
00:32:55 → 00:32:57 ต้องใช้อย่างอื่นที่ไม่ใช่แมน้อง
00:32:57 → 00:33:00 >> คือไมนอกเนี่ยมัน 1 มันไม่ได้เวิร์ค
00:33:00 → 00:33:04 สำหรับทุกคน 2 มันมีคนที่แพ้ในกลุ่มตัวทำ
00:33:04 → 00:33:07 ละลายของแม่นกหรือแพ้ไม่นอกเองอยู่ซอเซ็น
00:33:07 → 00:33:10 เพราะฉะนั้นเนี่ยมันก็จะไม่ใช่ทุกคนที่
00:33:10 → 00:33:12 ที่ใช้นอกแล้วเวิร์ค
00:33:12 → 00:33:13 >> แต่พอไปใช้อันนั้นแล้วเวิร์คก็มี
00:33:13 → 00:33:16 >> ก็มีใช่ใช่ๆๆ
00:33:16 → 00:33:18 >> ออก็คือยังมีประโยชน์อยู่แต่ทั้งนี้ทั้ง
00:33:18 → 00:33:20 นั้นเนี่ยทุกคนต้องเข้าใจเหมือนกันนะว่า
00:33:20 → 00:33:23 ไม่ว่าคุณจะใช้ไมอหรือคุณจะใช้กลุ่มอื่น
00:33:24 → 00:33:25 ถ้าคุณหยุดทา
00:33:25 → 00:33:26 >> มันก็ร่วงใช่
00:33:26 → 00:33:27 >> ใช่ใช่
00:33:27 → 00:33:29 >> เพราะว่าต้นกำเนิดคือมันเป็นผมบางแบบ
00:33:29 → 00:33:32 พันธุกรรมซึ่งมันไม่ใช่โลกมันคือธรรมชาติ
00:33:32 → 00:33:34 >> อที่มันไม่สามารถหายไปได้
00:33:34 → 00:33:34 >> อ
00:33:34 → 00:33:37 >> มันเหมือนทุกตัวจะเป็นไม็อกอลอกแล้วมักจะ
00:33:37 → 00:33:40 ทำงานวิจัยเทียบกันกับไมอถูกมั้คะ
00:33:40 → 00:33:40 >> ใช่
00:33:41 → 00:33:43 >> ว่าได้ผลเทียบเคียงกับไมอ
00:33:43 → 00:33:44 >> ใช่แต่สิ่งใหญ่แล้ว
00:33:44 → 00:33:48 >> เค้าก็จะใช้ไมนอก 2% มาเทียบ
00:33:48 → 00:33:51 >> ใช่ๆซึ่งปกติเราแนะนำที่ 5% ดังนั้นเนี่ย
00:33:51 → 00:33:53 ถ้าเกิดเทียบบัญญัติตยางง่ายๆเอาเข้าใจ
00:33:53 → 00:33:56 ง่ายๆก็แปลว่าถ้าสมมุติว่าไอ 5% % ให้ผม
00:33:56 → 00:34:00 ขึ้น 100 เส้นถ้าแค่ 2% มันก็ขึ้นแค่ 40
00:34:00 → 00:34:04 เส้นอืมันไม่ได้ตกไปตรงไหนหรอกอารมณ์นั้น
00:34:04 → 00:34:05 แหละ
00:34:05 → 00:34:08 >> อ่าอารมณ์นั้นอุปกรณ์อื่นๆที่เขา้ามีไว้
00:34:08 → 00:34:11 แบบดูแลหนังศีรษะอย่างเช่นตัวนวดหนัง
00:34:11 → 00:34:12 ศีรษะอะไรเงี้ยช่วยบ้างมั้
00:34:13 → 00:34:16 >> คือก็นี้ก็ก็เคยลองนะหลายอันเลยไอ้พวกที่
00:34:16 → 00:34:19 มันเป็นนวดๆมันก็สบายหัวดีนะเอาไปเอาไป
00:34:19 → 00:34:21 จิ้มหัวแมวแมวก็ชอบ
00:34:21 → 00:34:23 >> โอดู
00:34:23 → 00:34:26 >> แต่ว่าก็น่าจะอ่ะอาจจะช่วยเพิ่มบัตร
00:34:26 → 00:34:29 กระตุ้นบัตรโฟเพิ่มขึ้นนิดหน่อยอะไรเงี้ย
00:34:29 → 00:34:31 แต่คือเหมือนกับว่ามันมันชอบมีคลิปที่ถาม
00:34:31 → 00:34:35 ว่าอะไรเนี่ยช่วยเท่าไหร่ให้สเกล 0-10
00:34:35 → 00:34:35 ใช่มั้ย
00:34:35 → 00:34:36 >> อือๆ
00:34:36 → 00:34:39 >> ก็ซัก 1.5 5 แล้วกัน
00:34:39 → 00:34:42 >> โหด
00:34:42 → 00:34:43 คุณครูคนนี้โหด
00:34:43 → 00:34:47 >> อ้าถ้าเปรียบเทียบก็ฟนสก็ 9 ใช่มั้ย
00:34:47 → 00:34:49 >> พี่น้องก็แฟก 8
00:34:49 → 00:34:50 >> แชมพูรถผมร่วง
00:34:50 → 00:34:54 >> แชมพูรถผมร่วงก็จ5
00:34:54 → 00:34:56 >> โอ๊น้อยกว่าไอ้นี่อีกหรอ
00:34:56 → 00:35:01 >> อาจจะน้อยกว่านะไม่รู้อ่ะให้ 1 ก็ได้อ่ะ
00:35:01 → 00:35:04 >> แล้วเซรั่มใส่ผมอื่นๆที่ไม่ใช่ไมอื่นๆที่
00:35:04 → 00:35:05 ไม่ใช่ไมน็อก็ซัก 6
00:35:05 → 00:35:09 >> อ๋อ 6 เลย 5 6
00:35:09 → 00:35:10 ไม่มีซัพพอร์
00:35:10 → 00:35:11 >> อื
00:35:11 → 00:35:13 >> ปัญหาผมร่วงเนี่ยมันเกิดขึ้นเยอะมากเนาะ
00:35:13 → 00:35:14 >> อื
00:35:14 → 00:35:18 >> ผมก็เลยขออนุญาตให้อ่าหมอพลังช่วยแนะนำ
00:35:18 → 00:35:19 วิธีใช้ไมนิดนึง
00:35:19 → 00:35:22 >> จริงๆไม่ใช่เฉพาะไมนอกหรอกยาทาเส้นผม
00:35:22 → 00:35:23 >> อ่าเซรั่มทุกอย่าง
00:35:23 → 00:35:25 >> เซรั่มทุกอย่างที่เราจะใช้ทาหนังศีรษะ
00:35:25 → 00:35:29 เนี่ยถ้าสมมุติว่าเป็นไปได้มีเวลานะเรา
00:35:29 → 00:35:33 เ้าก็จะให้แสกหนังศีรษะเนี่ยแบ่งออกเป็น 5
00:35:33 → 00:35:39 แสกแสกซ้ายแสกก่อนจะกลางแสกกลางแสกออกมา
00:35:39 → 00:35:42 ข้างขวาแล้วก็แสกขวาสุด
00:35:42 → 00:35:42 >> อื
00:35:42 → 00:35:46 >> ในใน 1 แสเนี่ยก็หยดไป 1-2 หยดแล้วก็
00:35:46 → 00:35:48 กระจายยาให้ไปทั่วแสง
00:35:48 → 00:35:49 >> 1-2 หยดเองหรอ
00:35:49 → 00:35:50 >> 1-2 หยด
00:35:50 → 00:35:52 >> มันหยดใหญ่แค่ไหนเนี่ย
00:35:52 → 00:35:54 >> หรือหลดหยดเล็กแค่ไหน
00:35:54 → 00:35:56 >> ต้องใช้ดรอปเปอร์ถ้าใช้ดอปเปอร์
00:35:56 → 00:35:57 >> 10 หยดประมาณ 1 ซีซ
00:35:57 → 00:36:00 >> 10 หยดประมาณ 1 ซีซก็แปลว่า 100 เนี่ย
00:36:00 → 00:36:03 เราก็จะใช้ 0.5-1 5-1 ซีซ
00:36:03 → 00:36:05 >> 10 หยดเท่ากับ 1 ซีซจริงหรอ
00:36:05 → 00:36:06 >> ใช่จริง
00:36:06 → 00:36:08 >> เฮ้ยต้องไปลองหยดดูบ้าง
00:36:08 → 00:36:10 >> แต่ว่าก็คือสรุปว่าเอาเป็นว่า 1 ครั้งแนะ
00:36:10 → 00:36:12 นำให้ใช้ประมาณ 1 ซีซ
00:36:12 → 00:36:12 >> ใช่ๆ
00:36:12 → 00:36:15 >> ก็แปลว่าถ้าขวดนึง 30 ซีซคุณใช้เช้าเย็น
00:36:15 → 00:36:18 ก็จะใช้ได้แค่ 15 วันอันเนี้ยคือจะได้ผล
00:36:18 → 00:36:19 สูงสุดเพราะใช้
00:36:19 → 00:36:21 >> เต็มโดสใช่ใช่ๆ
00:36:21 → 00:36:21 >> อ่า
00:36:21 → 00:36:25 >> แต่ว่าเอ่อมันก็มันก็แล้วแต่แหละเพราะว่า
00:36:25 → 00:36:28 ส่วนใหญ่ก็คือเราจะแนะนำ 1 ครั้งก็คือ
00:36:28 → 00:36:31 0.5-1 5-1 ซีซขวด 30 ml เนี่ยจริงๆเขา
00:36:31 → 00:36:34 ก็กะมาไว้ให้คนใช้ประมาณสัก 1 เดือนแหละ
00:36:34 → 00:36:37 ก็คือ 0.5 เช้า 0.5 5 เย็น
00:36:37 → 00:36:40 >> อ๋อโอเคก็คือประมาณนี้
00:36:40 → 00:36:43 >> เพราะว่าผมอ่ะใช้ไม่เคยดูปริมาณนะคว่ำขวด
00:36:43 → 00:36:44 แล้วก็ถูไปเลยรอ
00:36:44 → 00:36:45 >> ออ
00:36:45 → 00:36:47 >> อืแล้วก็ค่อยนั่น
00:36:47 → 00:36:50 >> อืก็คือก็แสกซึดๆๆแล้วก็ถะแล้วก็นวดให้
00:36:50 → 00:36:51 มันเข้ากัน
00:36:51 → 00:36:56 >> แต่ทีนี้ 5 แสกเนี่ยมันอ่ะส่วนใหญ่จริงๆ
00:36:56 → 00:36:59 ที่คนไข้ใช้หรือว่าที่ที่ใช้แนะนำปกติก็ 3
00:36:59 → 00:37:00 แสก
00:37:00 → 00:37:04 >> แสกขวาแสกกลางแสกซ้ายแล้วก็ถ้า 3 แสกก็
00:37:04 → 00:37:06 แสกละ 3 หยดมันก็จะได้ 9 หยน
00:37:06 → 00:37:08 >> อุ๊ยน้อยขนาดนั้นเลยเหรอต้องบอกว่าจริงๆ
00:37:08 → 00:37:09 ผมใช้มากกว่า 5 แสกนะ
00:37:09 → 00:37:10 >> มากกว่า 5 แสกอีกเหรอ
00:37:10 → 00:37:11 >> ใช่ใช้เยอะมากเลย
00:37:11 → 00:37:14 >> โออันนี้ขยันนะแต่ว่าคนไข้ส่วนใหญ่ที่ดู
00:37:14 → 00:37:17 แลมาเนี่ยส่วนใหญ่ก็ 3 แสกเนี่ยจะเป็น
00:37:17 → 00:37:18 มาตรฐาน
00:37:18 → 00:37:19 >> แบบง่ายๆเร็วๆ
00:37:19 → 00:37:21 >> แบบง่ายๆเร็วๆใช่ก็จะมีกลุ่มนึงที่แบบไม่
00:37:21 → 00:37:24 รู้แหละใส่ไปตรงกลางเลย 5 ซีซแล้วก็ละเลง
00:37:24 → 00:37:27 เอาในกลุ่ม 3 แสกเนี่ยก็เป็นอันที่ก็
00:37:27 → 00:37:28 เวิร์คอยู่พอสมควร
00:37:28 → 00:37:29 >> ก็เวิร์คแล้ว
00:37:29 → 00:37:30 >> ใช่
00:37:30 → 00:37:32 >> แต่ว่าปริมาณต้องถึงก็คือต้องบวกเพิ่มไป
00:37:32 → 00:37:34 ให้ได้ 0.5-1 -1 ซีซเป็นหลัก
00:37:34 → 00:37:37 >> ใช่แต่ว่าถ้าตามหนังสือตามเปเปอร์เนี่ยเ
00:37:37 → 00:37:38 ก็มักจะแนะนำ 500,000
00:37:38 → 00:37:40 >> ทาตอนผมแห้งหรือผมเปียก
00:37:40 → 00:37:43 >> เออจริงๆทาได้ทั้งผมแห้งและผมเปียกช่วงผม
00:37:43 → 00:37:46 เปียกเนี่ยถ้าบางคนทาแล้วแสบบางคนทาแล้ว
00:37:46 → 00:37:48 รู้สึกว่ามันระคายเคืองเนี่ยก็รอให้ผม
00:37:48 → 00:37:50 แห้งแล้วค่อยทา
00:37:50 → 00:37:51 >> ออ
00:37:51 → 00:37:54 >> โอมันถูกสอนว่าให้ทาเฉพาะตอนผมแห้งเพราะ
00:37:54 → 00:37:56 ว่าถ้าเกิดทาตอนผมเปียกมันก็เหมือนทาคุณ
00:37:56 → 00:37:57 ล้างหน้าไม่เช็ดหน้า
00:37:57 → 00:38:00 >> ช่วงที่หนังศีษะชื้นอาจจะดูดซึมได้ดีกว่า
00:38:00 → 00:38:02 หรือเปล่าแต่จริงๆถ้าสมมุติว่าพูดถึงแม่
00:38:02 → 00:38:05 น้องเนี่ยผมแห้งก็ได้ผมเปียกก็ได้
00:38:05 → 00:38:07 >> แล้วหลายคนอยากจะคเพลนว่าช่วงแรกของการ
00:38:07 → 00:38:08 ใช้ไม่น
00:38:08 → 00:38:09 >> ผมจะร่วง
00:38:10 → 00:38:10 >> อื
00:38:10 → 00:38:12 >> อันนี้คือมีได้เป็นปกติ
00:38:12 → 00:38:14 >> เป็นปกติมันจะร่วงนานแค่ไหน
00:38:14 → 00:38:16 >> 4-6 สัปดาห์
00:38:16 → 00:38:18 >> 4-6 สัปดาห์แล้วตอนที่ร่วงเนี่ยมันจะให้
00:38:18 → 00:38:21 ความรู้สึกร่วงเยอะกว่าเดิมที่เคยร่วง
00:38:21 → 00:38:21 มั้ย
00:38:21 → 00:38:24 >> มันจะมีแบบนี้ถ้าสมมุติว่าคนไข้ที่ยังไม่
00:38:24 → 00:38:28 เคยผ่านการผมร่วงเยอะๆเช่นคนไข้มาหาเรา
00:38:28 → 00:38:31 แล้วก็ผมบางอย่างเดียวอยากจะกระตุ้นเนี่ย
00:38:31 → 00:38:33 >> แล้วก็เริ่มน้องเนี่ยเนี่ยอาจจะร่วง
00:38:33 → 00:38:35 >> เกิดความช็อกได้
00:38:35 → 00:38:38 >> ใช่แต่ว่าถ้าสมมุติคนไข้ผมร่วงอยู่แล้ว
00:38:38 → 00:38:41 แล้วมาใช้ไมน็อเลยเนี่ยส่วนใหญ่มันจะหยุด
00:38:41 → 00:38:42 ร่วงมันจะร่วงน้อยลง
00:38:42 → 00:38:44 >> อ๋อ
00:38:44 → 00:38:45 เข้าใจละเข้าใจละ
00:38:46 → 00:38:49 >> แต่เอฟเฟคที่ทานอกแล้วมีผมร่วงก่อนเนี่ย
00:38:49 → 00:38:51 จะเจอได้ประมาณสัก 30% ของคนไข้
00:38:51 → 00:38:55 >> 30 ก็เยอะนะ 1 ใน 3 เยอะปกติก็จะบอกคน
00:38:55 → 00:38:58 ไข้อยู่ในแพกมาตรฐานอยู่แล้วว่าเริ่มยา
00:38:58 → 00:39:01 4-6 สัปดาห์อาจจะร่วงเพิ่มมากขึ้นนะ
00:39:01 → 00:39:03 >> แล้วต้องใช้ไปนานแค่ไหน
00:39:03 → 00:39:08 >> ก็นานเท่านาน
00:39:08 → 00:39:10 ผมบางแบบพันธุกรรมเนี่ยมันไม่ใช่โรคมัน
00:39:10 → 00:39:12 เป็นธรรมชาติใช่มั้ยแต่ว่าการที่เราอยาก
00:39:12 → 00:39:16 จะให้มันมีผมอยู่มันก็ขวางธรรมชาติหน่อยๆ
00:39:16 → 00:39:18 อืเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเราหยุดการรักษา
00:39:18 → 00:39:21 เนี่ยโดยที่ไม่ได้มีอะไรที่มาซัพพอร์ตต่อ
00:39:21 → 00:39:23 เนี่ยส่วนใหญ่ที่ขึ้นมาจากยามันก็จะร่วง
00:39:23 → 00:39:24 ไป
00:39:24 → 00:39:26 >> แล้วหยุดใช้ไปนานเท่าไหร่ไอ้ผมที่ขึ้นน่ะ
00:39:26 → 00:39:27 มันถึงจะร่วงหายไป
00:39:27 → 00:39:30 >> ยกตัวอย่างเช่นผมบางพพันธุกรรมแล้วก็กิน
00:39:30 → 00:39:32 ฟินสอยู่แล้วหยุดแต่ไม่น็อ
00:39:32 → 00:39:33 >> อือๆ
00:39:33 → 00:39:36 >> มันอาจจะไม่ร่วงนะหรือว่าร่วงมันก็จะลาก
00:39:36 → 00:39:39 ยาวไปแบบ 3 เดือน 6 เดือนไม่ได้ร่วงเร็ว
00:39:39 → 00:39:40 ขนาดนั้น
00:39:40 → 00:39:41 >> อื
00:39:41 → 00:39:45 >> แต่ถ้าไม่ได้ทานฟินสแล้วก็ใช้แต่นอกอย่าง
00:39:45 → 00:39:47 เดียวแล้วก็หยุดก็ประมาณเดือนนึงก็จะมัก
00:39:47 → 00:39:48 จะเห็นแล้วว่าร่วง
00:39:48 → 00:39:50 >> แล้วถ้าเป็นเทโรเจนเอฟูเวียมล่ะผมร่วง
00:39:51 → 00:39:53 หลังคลอดหรืออะไรอย่างเงี้ย
00:39:53 → 00:39:56 >> พวกนี้หยุดได้นะสมมุติว่าผมร่วงหลังคลอด
00:39:56 → 00:39:59 แล้วก็บำรุงทายากินวิตามินนั่นนู่นนี่ไป
00:39:59 → 00:40:02 พอกลับมาสมดุลเนี่ยเนี่ยส่วนใหญ่ใช้สัก 6
00:40:02 → 00:40:04 เดือนถึง 1 ปีเนี่ยก็หยุดได้
00:40:05 → 00:40:09 >> อ๋อโอเคก็แปลว่าใช้มนาหยุดได้หยุดไม่ได้
00:40:09 → 00:40:10 ขึ้นอยู่กับสาเหตุของเรา
00:40:10 → 00:40:14 >> ใช่ๆๆถ้าถ้าสาเหตุเป็นจาก Legend of
00:40:14 → 00:40:16 เนี่ยหยุดได้แต่ว่าช่วงที่หยุดเนี่ยมันก็
00:40:16 → 00:40:20 จะมีดรอปไปบ้างแต่ก็แป๊บเดียว 3 เดือน
00:40:20 → 00:40:23 แล้วมันก็จะกลับมาปกติคงที่ถ้าสาเหตุถูก
00:40:23 → 00:40:24 แก้ไป
00:40:24 → 00:40:26 >> อื
00:40:26 → 00:40:29 >> มันมีวิตามินหลายอย่างที่มีองค์ประกอบของ
00:40:29 → 00:40:31 การสร้างเส้นผมมันไม่ใช่ใช่แค่สังกสีกับ
00:40:31 → 00:40:33 ไบโอตินที่คนรู้จักกัน
00:40:33 → 00:40:33 >> อือ
00:40:33 → 00:40:36 >> ส่วนใหญ่สังกสีกับไบโอตินเนี่ยก็จะเป็น
00:40:36 → 00:40:39 แร่ธาตุที่เป็นสำหรับโคเอนไซม์ในการสร้าง
00:40:39 → 00:40:42 เครือตินในการสร้างเส้นผมถ้ามีสังกสีก็
00:40:42 → 00:40:44 ต้องมีคอปเปอร์ให้ด้วยเพราะว่าสังกสีจะ
00:40:44 → 00:40:47 แย่งจับกับคอปเปอร์มีสังกสีไม่มีคอปเปอร์
00:40:47 → 00:40:51 กินไปนานๆก็จะผมขาวเพราะว่าขาดคอปเปอร์
00:40:51 → 00:40:51 >> อื
00:40:51 → 00:40:55 >> เอ่อมักจะต้องให้คู่กันตัวซิซอีนก็จะเป็น
00:40:55 → 00:40:57 อีกหนึ่งอะมิโนอซิดที่สำคัญที่เป็นองค์
00:40:57 → 00:41:00 ประกอบของการสร้างเส้นผมเพราะว่าเส้นผม
00:41:00 → 00:41:03 เนี่ยเวลาที่เครอาตินมันสร้างแล้วมันจะ
00:41:03 → 00:41:05 ต้องฟอร์มความแข็งแรงของเส้นผงเพราะ
00:41:05 → 00:41:07 ฉะนั้นเซตินก็จะเป็นหนึ่งในสูตรวิตามิน
00:41:07 → 00:41:09 ที่เรามักจะให้คนไข้แล้วก็วิตามิน B
00:41:10 → 00:41:12 complex ก็จะเป็นอีกตัวนึงที่ที่จะช่วย
00:41:12 → 00:41:15 เสริมเข้าไปพวกเนี้ยก็จะเป็นวิตามินและ
00:41:15 → 00:41:18 ล่าธาตุที่สำคัญสำหรับการฟักเส้นผมแต่นอก
00:41:18 → 00:41:21 จากนั้นเนี่ยโปรตีน Essential fatty
00:41:21 → 00:41:23 acid มันก็จะเป็นสิ่งสำคัญของร่างกาย
00:41:23 → 00:41:25 อยู่แล้วอันนี้ก็คือจะพูดถึงสิ่งที่
00:41:25 → 00:41:28 เหมือนกับเสริมขึ้นมาจากการกินอาหารปกติ
00:41:28 → 00:41:29 ก็มักจะเป็นพวกนี้
00:41:29 → 00:41:31 >> อ่าออ
00:41:31 → 00:41:33 >> ในพcสอันเดิมของเราเนี่ย
00:41:33 → 00:41:37 >> มีแต่คนคอมเมนต์ว่าคุณหมอผมหนาจังเลย
00:41:37 → 00:41:38 >> ออ
00:41:38 → 00:41:39 >> ทามั้น้องมั้คะ
00:41:39 → 00:41:41 >> ออไม่ได้ทาผมไม่ได้ทา
00:41:41 → 00:41:42 >> อ่าทานวิตามิน
00:41:42 → 00:41:43 >> ทานวิตามิน
00:41:43 → 00:41:46 >> กินอะไรอยู่จงบอกมา
00:41:46 → 00:41:50 >> วิตามินสำหรับแหสังกสีไบโอตินคอปเปอร์
00:41:50 → 00:41:55 ซิสเตอีนวิตามินบีกินเส้นนอกจากแสตาซtin
00:41:55 → 00:41:57 >> ผมคิดว่ามันเอฟเฟคมากเลยนะ
00:41:57 → 00:41:57 >> อื
00:41:58 → 00:42:01 >> เพราะว่าส่วนตัวแล้วอ่ะคือบางทีกิน
00:42:01 → 00:42:04 วิตามินเยอะอ่ะตัวเนี้ก็จะถูกสิปออกไป
00:42:04 → 00:42:06 เพราะเม็ดมันใหญ่แล้วก็พอไม่ได้ทานต่อ
00:42:06 → 00:42:09 เนื่องสักระยะจะเริ่มรู้สึกเลยว่า
00:42:09 → 00:42:09 >> ฟีบ
00:42:09 → 00:42:12 >> ใช่ผมฟีบแต่พอทานแล้วก็โอ๊ดี
00:42:12 → 00:42:14 >> อก็เนี่ยมีคนไข้ปลูกผมเพื่อนกันปลูกผม
00:42:14 → 00:42:18 พร้อมกันคนนึงเนี่ยเขาได้เวเชอร์ฉีด PRP
00:42:18 → 00:42:20 ฟรีเาก็เลยไม่กินวิตามินแล้วฉีด PRP กับ
00:42:20 → 00:42:23 อีกคนนึงก็กินวิตามินปกติพอมา follow up
00:42:23 → 00:42:27 6 เดือนน่ะคนกินวิตามินไม่ได้ฉีดพp
00:42:27 → 00:42:28 >> ผมขึ้นเร็วกว่า
00:42:28 → 00:42:30 >> อออืแต่ว่าสุดท้ายก็ขึ้นเท่าๆกันน่ะนะแต่
00:42:30 → 00:42:32 ว่าก็คือเห็นขึ้นขึ้นเร็วกว่า
00:42:32 → 00:42:35 >> ปัจจุบันน่ะมันจะมีวิตามินแบบสกินแฮเนล
00:42:36 → 00:42:37 >> มันก็คล้ายๆกันน่ะนะอื
00:42:37 → 00:42:39 >> มันคล้ายๆกันอันเนี้ยมันเป็นคำถามที่ถูก
00:42:39 → 00:42:43 ถามเยอะมากว่าเรากินสกินแฮเนลอยู่แล้วเรา
00:42:43 → 00:42:45 กินแฮเพิ่มอีกอันนึงได้มย
00:42:45 → 00:42:47 >> ยังไงดีล่ะไม่พูดดีกว่ามั้ย
00:42:47 → 00:42:48 >> คิดว่ารู้อยู่แล้ว
00:42:48 → 00:42:49 >> คิดว่าเธอรู้อยู่แล้วใช่มั้ย
00:42:49 → 00:42:52 >> ใช่คิดว่ารู้อยู่แล้วว่าอันเนี้มันมีอะไร
00:42:52 → 00:42:52 พิเศษอยู่
00:42:52 → 00:42:53 >> ใช่
00:42:53 → 00:42:55 >> เลยกลายเป็นว่าตอนเนี้ยก็คือแนะนำให้กิน
00:42:55 → 00:42:57 เสริมเพิ่มไป
00:42:57 → 00:42:57 >> ใช่
00:42:57 → 00:43:00 >> แต่พอยก็คือว่าพอกินเสริมเพิ่มไปอ่ะพวก
00:43:00 → 00:43:02 ซิงคเกินมั้ย
00:43:02 → 00:43:03 >> เกินใช่มั้ย
00:43:03 → 00:43:06 >> มันจะอันตรายอะไรมั้ยซิงคอันนี้มี 75 เลย
00:43:06 → 00:43:06 เหรอ
00:43:06 → 00:43:10 >> อันนี้ก็มี 75 มันคือ 100% RDI เอง
00:43:10 → 00:43:12 >> ก็โอเคนะไม่ไม่ได้มากเท่าไหร่อ่ะ
00:43:12 → 00:43:15 >> ไม่ได้มากอ่าก็สามารถทานเบิ้ลได้ทานคู่
00:43:15 → 00:43:17 กันไปแต่ว่าก็จะได้อย่างอื่นเพิ่มไงอัน
00:43:18 → 00:43:20 นี้ก็จะได้แบบเน้นผมไปเลย
00:43:20 → 00:43:20 >> เข้าใจ
00:43:20 → 00:43:22 >> ถ้า Symphony Number One เนี่ยก็จะมี
00:43:22 → 00:43:26 เป็นพวกพิกnalแล้วก็มีเป็นแบบเน้นกันแดด
00:43:26 → 00:43:28 เพิ่มรูนCantน
00:43:28 → 00:43:30 อันนี้ก็จะมี pink noจinalเหมือนกันแต่
00:43:30 → 00:43:33 เป็นเวอร์ชั่นแบบมี ltionine
00:43:33 → 00:43:34 >> pink noจinal
00:43:34 → 00:43:37 >> ก็มาจัดเต็มเหมือนกันแต่ก็ยังขาด
00:43:37 → 00:43:39 componนentที่แบบซเปอร์แ
00:43:39 → 00:43:45 ผมหนาแบบหมอพลังก็จัดกันไปเมื่อไหร่ถึงจะ
00:43:45 → 00:43:46 ปลูกผม
00:43:46 → 00:43:49 >> เมื่อเมื่อไหร่เมื่อนั้น
00:43:49 → 00:43:52 เราจะรู้อยู่แล้วว่ามันจะมีareเรียของการ
00:43:52 → 00:43:56 ปลูกผมที่การรักษาด้วยยาเนี่ยมันไม่ได้ผล
00:43:56 → 00:43:56 >> อ
00:43:56 → 00:43:59 >> ในรูปตรงMHฟที่
00:43:59 → 00:44:00 >> ที่แหว่งหายไป
00:44:00 → 00:44:02 >> ที่แหว่งหายไปรักษาด้วยยาก็มักจะได้เป็น
00:44:02 → 00:44:04 ผมเส้นเล็กมักจะไม่ขึ้นเป็นเป็นผมเส้น
00:44:04 → 00:44:06 ใหญ่เท่าไหร่ถ้าสมมุติว่าตรงนั้นเป็นสิ่ง
00:44:06 → 00:44:09 ที่คนไข้กังวลก็ก็ปลูกตรงนั้นได้เลยแต่
00:44:09 → 00:44:11 ถ้าโดยทั่วๆไปแล้วเนี่ยอินดิเคชของการ
00:44:11 → 00:44:14 ปลูกผมก็คือเมื่อเราใช้การรักษาด้วยยา
00:44:14 → 00:44:16 แล้วมันไม่ได้ผลหรือการรักษาด้วยยาแล้ว
00:44:16 → 00:44:18 มันไม่ขึ้นเพราะการรักษาด้วยยาจริงๆแล้ว
00:44:18 → 00:44:23 มันขึ้นเยอะมากนะเวลาที่เราดูเปเปอร์การ
00:44:23 → 00:44:26 รักษาทางเลือกของเส้นผมที่เขาออกมาไม่ว่า
00:44:26 → 00:44:28 จะเป็นมันมีฉีดโบท็อกกระตุ้นผมฉีด
00:44:29 → 00:44:33 โพลินิวโอไทดกระตุ้นผมเอกโซโซมพวกนี้มัน
00:44:33 → 00:44:36 ทำให้ผมขึ้นในระดับ 10-30%
00:44:36 → 00:44:38 ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าจะปกติเนี่ย
00:44:38 → 00:44:39 >> อือ
00:44:39 → 00:44:41 >> ซึ่งเค้าก็จะถือว่ามันก็เยอะพอใช้ได้ล่ะ
00:44:41 → 00:44:43 ที่มันบอกว่ามันกระตุ้นผมแต่ถ้าพูดถึงการ
00:44:43 → 00:44:48 รักษาด้วยยาเนี่ยไม่นอกฟessเนี่ย 70% 80%
00:44:48 → 00:44:51 คือมันขึ้นเยอะกว่าการรักษาทางเลือกเยอะ
00:44:51 → 00:44:54 อยู่พอสมควรเหมือนกันถ้าสมมุติว่าการ
00:44:54 → 00:44:56 รักษาด้วยยาเนี่ยสำหรับตรงกลางเนี่ยมันก็
00:44:56 → 00:44:59 จะได้ผลดีอยู่พอสมควรแต่ถ้าพูดถึงตรงข้าง
00:44:59 → 00:45:02 หน้าหรือตรงmชfเนี่ยมันก็มักเป็นจุดที่
00:45:02 → 00:45:04 การรักษาด้วยยาไม่ได้ผลอันเนี้ยก็จะเป็น
00:45:04 → 00:45:08 อินดิเคชที่คนไข้มักจะมาหาเพื่อที่จะมา
00:45:08 → 00:45:11 ปลูกผมก็คือเป็นเป็นmชฟที่มันขึ้นไม่ขึ้น
00:45:11 → 00:45:15 ด้วยยาฟทำแฮไลนทำกรอบหน้าเนี่ย
00:45:15 → 00:45:18 >> ทำด้านหน้าเนี่ยก็จะเป็นอินดิเคชหลักๆใน
00:45:18 → 00:45:19 การปลูกผม
00:45:19 → 00:45:21 >> อ่าถ้างั้นก็แปลว่าถ้าสมมุติว่าเราลองทา
00:45:21 → 00:45:24 ยาแล้วไม่เวิร์คควรจะไปลองฉีดๆอะไรอย่าง
00:45:24 → 00:45:27 งี้ก่อนมั้ยหรือว่าก็ไม่เวิร์คส่วนใหญ่
00:45:27 → 00:45:29 ไอ้ที่ยาไม่เวิร์คฉีดๆมันก็จะไม่เวิร์ค
00:45:29 → 00:45:30 เช่นเดียวกัน
00:45:30 → 00:45:32 >> แฮไลนของตรงเนี้ยคือผ่านการปลูกผมมาเรียบ
00:45:32 → 00:45:35 ร้อยแล้วนะคะโดยฝีมือหมอพลังนี่แหละแต่
00:45:35 → 00:45:37 ว่าให้นึกย้อนกลับไปมันประมาณสัก 2-3 ปี
00:45:37 → 00:45:40 ที่แล้วอ่ะจำไม่ได้เหมือนกันว่าเพราะอะไร
00:45:40 → 00:45:41 ตัวเองถึงไปปลุ
00:45:41 → 00:45:44 >> เธอบอกว่าไปจัดworkวิรชopอะไรสักอย่างก็
00:45:44 → 00:45:46 ไม่รู้แล้วก็ถ่ายรูป
00:45:46 → 00:45:49 >> อ๋อถ่ายรูปมาแล้วก็เห็นว่าเป็นแบบเข้าไป
00:45:49 → 00:45:51 ก็เลยบอกว่าอ่ะอยากปลูกะ
00:45:51 → 00:45:52 >> อ๋อคือมาด้วยอินดิเคชอยากปลูก
00:45:52 → 00:45:56 >> มาด้วยอินดิเคชว่ามันถ่ายรูปแล้วเห็นหัว
00:45:56 → 00:45:56 ล้านก็เลย
00:45:56 → 00:45:58 >> จำตัวเองไม่ได้พอสวยแล้วก็ลืมทุกอย่างนะ
00:45:58 → 00:46:02 ค่ะ
00:46:02 → 00:46:04 ก็สำหรับวันนี้นะคะก็หวังว่าทุกคนเนี่ยจะ
00:46:04 → 00:46:06 ได้รับความรู้กันไปแบบเต็มอิ่มเลยเนาะ
00:46:07 → 00:46:09 แล้วถ้าเกิดใครมีคำถามเพิ่มเติมอย่าลืมนะ
00:46:09 → 00:46:11 คะคอมเมนต์ไว้ด้านล่างเราจะมาตอบให้ทุกคำ
00:46:11 → 00:46:14 ถามคำถามทุกคำถามเนี่ยจะถูกรวบรวมเอาไว้
00:46:14 → 00:46:16 แล้วก็จะเชิญคุณหมอพลังมาอีกครั้งนึง
00:46:16 → 00:46:19 เพื่อมาตอบคำถามเหล่านี้นะคะเราก็ยินดี
00:46:19 → 00:46:22 มากๆค่ะตกให้วันนี้ขอบคุณหมอพลังมากๆนะคะ
00:46:22 → 00:46:24 ที่มาให้ความรู้ทุกคนค่ะ
00:46:24 → 00:46:28 >> ครับสวัสดีครับ
00:46:28 → 00:46:35 นะฮะ
00:46:35 → 00:46:40 [เพลง]