00:00:00 → 00:00:02 มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควินท์ในทีม
00:00:02 → 00:00:04 นั้นยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องไปทั่ว
00:00:04 → 00:00:08 โลกและรวมถึงในประเทศไทยด้วยเช่นกันและ
00:00:08 → 00:00:10 หลายคนอาจจะกำลังสงสัยว่าเชื้อไวรัสโควิช
00:00:10 → 00:00:12 ในทีมที่ไปสะสมอยู่ในสารคัดหลั่งแต่ละ
00:00:12 → 00:00:16 ชนิดนั้นมีปริมาณเท่าไรบ้างและการแพร่
00:00:16 → 00:00:18 ระบาดแบบซุปเปอร์เทรดเดอร์นั้นเป็นอย่าง
00:00:18 → 00:00:18 ไร
00:00:18 → 00:00:21 และวันนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็จะมาให้ความ
00:00:21 → 00:00:24 รู้เกี่ยวกับ shapeless โควิชในทีมที่ไป
00:00:24 → 00:00:26 สะสมอยู่ในสารคัดหลั่งแต่ละชนิดและการ
00:00:26 → 00:00:29 แพร่ระบาดแบบซุปเปอร์สเตอร์กันครับต่าง
00:00:29 → 00:00:32 คัดหลั่งเนี่ยก็เป็นเอ่อของเหลวนะคะที่
00:00:32 → 00:00:35 สร้างจากเซลล์เยื่อบุจะเอาอวัยวะต่างๆของ
00:00:35 → 00:00:38 ร่างกายมนุษย์ค่ะดังนั้นสั่งคัทหลังก็มี
00:00:38 → 00:00:41 โอกาสที่จะปนเปื้อนเชื้อไวรัสได้สำหรับ
00:00:41 → 00:00:44 โรคโควิชนายทีนก็คือปนเปื้อนด้วยไวรัสโค
00:00:44 → 00:00:47 โรน่าสายพันธุ์ใหม่สารข้างหลังอะไรบ้าง
00:00:47 → 00:00:50 ที่ปนเปื้อนเชื้อมากจนเปื้อนเชื้อน้อยใน
00:00:50 → 00:00:52 ปัจจุบันนี้ก็มีการเก็บข้อมูลมากมายนะคะ
00:00:52 → 00:00:54 สั่งข้างหลังที่เราพบว่ามีการปนเปื้อนของ
00:00:54 → 00:00:57 ปริมาณไวรัสที่พบได้บ่อยก็คือการคัดหลัง
00:00:57 → 00:01:01 จากระบบทางเดินหายใจระบบอยู่ในใจของเราก็
00:01:01 → 00:01:05 เริ่มตั้งแต่คอหอยหลอดลมดังนั้นต่างคัน
00:01:05 → 00:01:09 หลังดังกล่าวก็คือน้ำลายเสมหะเป็นต้นค่ะ
00:01:09 → 00:01:12 สำหรับสารคัดหลั่งจากอวัยวะอื่นที่เคย
00:01:12 → 00:01:14 ตรวจพบแล้วว่ามีเชื้อไวรัสปนเปื้อนอยู่
00:01:14 → 00:01:18 ได้บ้างเช่นอุจจาระปัสสาวะในขณะที่สาร
00:01:18 → 00:01:21 ข้างหลังบางอย่างยังไม่เคยมีรายงานว่า
00:01:21 → 00:01:23 ตรวจพบเจอไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่นะคะ
00:01:23 → 00:01:27 เช่นสารทะหลังจากช่องคลอดน้ำอสุจิแล้วก็
00:01:27 → 00:01:30 เหงื่อค่ะนอกร่างกายมนุษย์นะคะต่างข้าง
00:01:30 → 00:01:33 หลังเหล่านี้ถ้ากระเด็นออกจากผู้ป่วยแล้ว
00:01:33 → 00:01:35 มาอยู่ตามสิ่งแวดล้อมหรือผิวสัมผัสต่างๆ
00:01:35 → 00:01:38 ในเวรรอบตัวผู้ป่วยก็จะมีคนหลายคนตั้งคำ
00:01:38 → 00:01:41 ถามว่ามันอยู่นอกร่างกายแล้วยังมีชีวิต
00:01:41 → 00:01:44 อยู่ที่จะแพร่กระจายไปยังคนที่มาสัมผัสคน
00:01:44 → 00:01:47 ต่อมาเนี่ยได้นานเท่าไหร่ก็มีนัก
00:01:47 → 00:01:50 วิทยาศาสตร์ได้เก็บข้อมูลนะคะนำไวรัสที่
00:01:51 → 00:01:54 ตรวจพบที่บริเวณพื้นอยู่สัมผัสต่างๆมาทำ
00:01:54 → 00:01:56 การเพาะเชื้อในเซลล์แล้วพบว่าเวลายังมี
00:01:56 → 00:01:59 ชีวิตอยู่เนี่ยถ้าเป็นเหรียญทองแดงที่เรา
00:01:59 → 00:02:01 ใช้เหมือนกันอย่างเช่นเหรียญสตางค์เนี่ย
00:02:01 → 00:02:05 ก็จะพบว่าไวรัสอยู่ได้โดยเฉลี่ยที่ประมาณ
00:02:05 → 00:02:08 เพียง 4 ชั่วโมงสำหรับพื้นผิวที่เป็นไม้
00:02:08 → 00:02:11 นะคะอาจจะอยู่ได้ราวเฉลี่ยคือ 6 ถึง 24
00:02:11 → 00:02:14 ชั่วโมงค่ะถ้าเป็นพื้นอยู่สัมผัสที่เป็น
00:02:14 → 00:02:17 แก้วอาจจะนานขึ้นไปกว่านั้นหรือได้ถึง 1-2
00:02:17 → 00:02:20 วันในขณะที่เป็นกระดาษ
00:02:20 → 00:02:23 สแตนเลส Classic อาจจะนานขึ้นไปอีกเป็น
00:02:23 → 00:02:27 2-3 วันค่ะอันที่น่าตกใจมากก็คือหน้ากาก
00:02:27 → 00:02:31 อนามัยผิวด้านในของหน้ากากอนามัยตรวจพบ
00:02:31 → 00:02:35 เจอไวรัสได้นานถึงเกือบ 1 สัปดาห์ในขณะ
00:02:35 → 00:02:38 ที่ผิวด้านนอกของหน้ากากอนามัยพบไวรัสได้
00:02:38 → 00:02:41 นานมากกว่าหนึ่งสัปดาห์ก็เป็นเหตุหนึ่งนะ
00:02:41 → 00:02:45 คะที่เราไม่ควรใช้หน้ากากอนามัยซ้ำๆถ้ามี
00:02:45 → 00:02:47 การปนเปื้อนแล้วเราไปสัมผัสก็จะทำให้เกิด
00:02:47 → 00:02:50 การแพร่กระจายเชื้อหรือติดอยู่ที่มือเรา
00:02:50 → 00:02:53 ไม่ควรใช้ซ้ำจำเป็นต้องเปลี่ยนค่ะสำหรับ
00:02:53 → 00:02:56 การติดเชื้อหรือการแพร่กระจายของสารคัน
00:02:56 → 00:03:00 หลังดังกล่าวส่วนมากจะเป็นในลักษณะที่ถ้า
00:03:00 → 00:03:02 เป็นเขาเรียกว่าหยดกระเด็นจากตัวผู้ป่วย
00:03:02 → 00:03:05 เองโดยตรงนี่เป็นเหตุหนึ่งที่ผู้สัมผัส
00:03:05 → 00:03:07 เสี่ยงสูงจากตัวผู้ป่วยก็คืออยู่ในระยะ
00:03:07 → 00:03:10 ใกล้ที่ทำให้ศาลชั้นหลังจะสามารถหยด
00:03:10 → 00:03:12 กระเด็นไปถึงได้โดยเฉพาะถ้าไม่ได้ใส่แม้
00:03:12 → 00:03:15 ต้องกันมีโอกาสจะกระเด็นเข้าเยื่อบุตา
00:03:15 → 00:03:19 เยื่อบุทางเดินหายใจหรือระบุช่องปากทำให้
00:03:19 → 00:03:20 เกิดการแพร่กระจายและการติดเชื้อในผู้
00:03:20 → 00:03:24 สัมผัสมาได้แต่ในขณะที่ฝั่งข้างหลังเหล่า
00:03:24 → 00:03:27 นี้มันไปอยู่ที่พื้นผิวสัมผัสบริเวณรอบ
00:03:27 → 00:03:30 ตัวผู้ป่วยแล้วเราเผลอไปกลับแล้วเอามา
00:03:30 → 00:03:34 ขยี้ตาหรือหยิบรับประทานอาหารเอาเข้าป่า
00:03:34 → 00:03:37 ก็เป็นซอสนึงที่อาจจะให้เกิดการติดเชื้อ
00:03:37 → 00:03:39 ได้ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเห็นได้ว่าป้องกัน
00:03:39 → 00:03:42 ได้ด้วยการล้างมือค่ะนั้นก็เป็นเหตุที่ทำ
00:03:42 → 00:03:45 ให้เราต้องล้างมือบ่อยๆก่อนที่จะมาสัมผัส
00:03:45 → 00:03:48 บริเวณหน้าเพื่อป้องกันว่าเรามองไม่เห็น
00:03:48 → 00:03:51 เชื้อไวรัสที่ปนเปื้อนอยู่ก็ไม่ให้เข้ามา
00:03:51 → 00:03:54 เกิดการติดเชื้อที่เยี่ยมตาจมูกว่าช่อง
00:03:54 → 00:03:57 ปากของเรานั่นเองค่ะสำหรับคำว่าซุปเปอร์
00:03:57 → 00:04:00 สเปเดอร์เนี่ยหลักๆก็คือการแพทย์ก็ขยาย
00:04:00 → 00:04:03 เป็นวงกว้างอย่างรวดเร็วนะว่าแหล่งกำเนิด
00:04:04 → 00:04:06 เชื้อหรือตัวผู้ป่วยจะมีเพียงแค่หนึ่งคน
00:04:06 → 00:04:11 อย่างเช่นในขาวเมื่อต้นปีนะคะที่มีผู้
00:04:11 → 00:04:14 หญิงวัยกลางคนที่ประเทศเกาหลีที่เป็นผู้
00:04:14 → 00:04:17 ป่วยโรคโควิชนายทีนยังไม่ได้รับการตรวจหา
00:04:17 → 00:04:20 เชื้อแล้วเข้าร่วมพิธีในโบสถ์ที่มีการ
00:04:20 → 00:04:22 ร้องเพลงและไม่ได้มีการเว้นระยะห่างทาง
00:04:22 → 00:04:25 สังคมในระหว่างร้องเพลงก็มีโอกาสที่จะมี
00:04:25 → 00:04:28 น้ำลายกระเด็นไปยังคนข้างๆโดยที่ผู้ที่
00:04:28 → 00:04:31 ร่วมเข้าพิธีทั้งหมดก็ไม่ได้ส่วนใส่หน้า
00:04:31 → 00:04:34 กากในระหว่างเข้าร่วมพิธีก็มีโอกาสที่การ
00:04:34 → 00:04:37 ไหลเวียนของอากาศในบริเวณที่มีคนมากและ
00:04:37 → 00:04:40 ไม่ได้ส่วนหน้ากากอนามัยจะทำให้เกิดการ
00:04:40 → 00:04:42 แพร่กระจายเชื้อจากเดิมที่เป็นเพียงแค่
00:04:42 → 00:04:46 กันหยดกระเด็นมีโอกาสจะพัฒนาต่อเป็นการ
00:04:46 → 00:04:49 แพร่กระจ่ายทางอากาศทำให้เกิดการติดเชื้อ
00:04:49 → 00:04:52 เป็นวงกว้างค่ะกลับมาที่เดิมป้องกันยังไง
00:04:52 → 00:04:55 ไม่ให้เกิดซุปเปอร์สเปซเด้อก็คือทุกคน
00:04:55 → 00:04:59 หลีกเลี่ยงการเข้าไปในที่แออัดสวมใส่หน้า
00:04:59 → 00:05:02 กากอนามัยธหมอช้างเมื่อไปที่สาธารณะเว้น
00:05:02 → 00:05:05 ระยะห่างทางสังคมและก็ล้างมือด้วยเจอกอฮอ
00:05:05 → 00:05:09 ให้บ่อยครั้งค่ะค่ะในกรณีที่เราสงสัยว่า
00:05:09 → 00:05:11 เราเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงหรือมีประวัติ
00:05:11 → 00:05:14 สัมผัสเสี่ยงกลุ่มคนที่ควรรีบมาตรวจจริงๆ
00:05:14 → 00:05:17 ก็คือกลุ่มคนที่มีอาการในขณะที่ถึงแม้เรา
00:05:17 → 00:05:19 จะมีประวัติสัมผัสเสี่ยงหรือเข้าไปในพื้น
00:05:19 → 00:05:23 ที่เสี่ยงถ้าเรายังไม่มีอาการนะคะจริงๆก็
00:05:23 → 00:05:25 ยังสามารถใช้การโฮมคนทันทีหรือกับตัว
00:05:25 → 00:05:28 สังเกตอาการได้แต่เมื่อมีอาการแล้วก็ควร
00:05:28 → 00:05:31 รีบมาตรวจที่สถานพยาบาลทันทีอาการดัง
00:05:31 → 00:05:34 กล่าวคืออะไรบ้างที่พบได้บ่อยเนี่ยก็คือ
00:05:34 → 00:05:39 ค่ายปวดเมื่อตำตัวรู้สึกเหนื่อยเพลีย I
00:05:39 → 00:05:43 คัดจมูกจมูกไม่ได้กลิ่นลิ้นไม่รับรถ
00:05:43 → 00:05:46 สำหรับอาการบางอย่างอาจจะพบได้น้อยเช่น
00:05:46 → 00:05:50 ถ่ายเร็วท้องเสียเจ็บคอแต่ก็มีรายงานพบ
00:05:50 → 00:05:53 ได้บ้างค่ะถ้าไม่แน่ใจสามารถเข้ารับการ
00:05:53 → 00:05:57 ตรวจได้นะคะหากมีอาการผิดปกติมีประวัติ
00:05:57 → 00:06:00 สัมผัสเสี่ยงหรือมาจากพื้นที่เสี่ยง
00:06:00 → 00:06:03 และมาเข้ารับการตรวจบริการได้ที่อาคารจง
00:06:03 → 00:06:06 กลณีวัฒนวงศ์ชั้น 1 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
00:06:06 → 00:06:09 สภากาชาดไทยค่ะ
00:06:09 → 00:06:12 ก็ได้ชอบกันไปแล้วนะครับกับ church
00:06:12 → 00:06:14 service ในที่ที่ไปสะสมอยู่ในสารคัด
00:06:14 → 00:06:16 หลั่งแต่ละชนิดและการแพร่ระบายแบบ
00:06:16 → 00:06:19 ซุปเปอร์ Spender อย่างไรก็ตามเพื่อเป็น
00:06:19 → 00:06:22 การป้องกันตนเองได้ดีที่สุดนั้นควรสวม
00:06:22 → 00:06:24 หน้ากากอนามัยและหลีกเลี่ยงการไปสถานที่
00:06:24 → 00:06:29 แอร์ที่มีคนไปอยู่เป็นจำนวนมากนะครับ
00:06:29 → 00:06:32 ด้วยความปรารถนาดีจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
00:06:32 → 00:06:34 สภากาชาดไทย
00:06:34 → 00:06:47 [เพลง]