00:00:00 → 00:00:03 คุณผู้ฟังรู้ไหมคะว่าปลาไทยที่เราคุ้นเคย
00:00:03 → 00:00:06 กันดีเนี่ยบางชนิดมีโอเมก้า 3 สูงแน่น
00:00:06 → 00:00:09 ชนิดที่ว่าปลาต่างประเทศต้องยังทึ่งเลย
00:00:09 → 00:00:13 ค่ะใช่แล้วค่ะวันนี้สุขภาพสนทนาจะมาไข
00:00:13 → 00:00:16 ความลับของ 5 อันดับปลาโอเมก้าสูงที่จะ
00:00:16 → 00:00:19 เปลี่ยนความคิดคุณไปตลอดกาลว่าการมี
00:00:19 → 00:00:22 สุขภาพดีสมองไบรทหัวใจแข็งแรงไม่ใช่
00:00:22 → 00:00:26 เรื่องยากอีกต่อไปขอต้อนรับเข้าสู่รายการ
00:00:26 → 00:00:29 สุขภาพสนทนาสร้างสุขภาพดีที่เริ่มต้นจาก
00:00:29 → 00:00:32 ความเข้าใจนะคะอย่าลืมกดติดตามช่องของเรา
00:00:32 → 00:00:35 และกดกระดิ่งแจ้งเตือนไว้ด้วยนะคะจะได้
00:00:35 → 00:00:38 ไม่พลาดทุกสาระสุขภาพดีๆแบบนี้ค่ะเคยมั้ย
00:00:38 → 00:00:41 คะที่รู้สึกอ่อนเพลียเหนื่อยง่ายหรือรู้
00:00:41 → 00:00:44 สึกว่าความจำไม่ดีเท่าเดิมหรือบางทีอาจจะ
00:00:44 → 00:00:47 กังวลเรื่องสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดหลาย
00:00:47 → 00:00:50 คนอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับโอเมก้า 3 กัน
00:00:50 → 00:00:54 มาบ้างแล้วแต่รู้ไหคะว่าโอเมก้า 3 ที่มี
00:00:54 → 00:00:57 ประโยชน์มหาศาลนี้ซ้อนอยู่ในใกล้ตัวเรา
00:00:57 → 00:01:01 โดยเฉพาะในปลานี่แหละค่ะวันนี้เราจะพาไป
00:01:01 → 00:01:04 เจาะลึก 5 อันดับปลาโอเมก้าสูงที่คุณควร
00:01:04 → 00:01:07 เพิ่มในมื้ออาหารเพื่อสุขภาพที่ดีแบบรอบ
00:01:07 → 00:01:08 ด้าน
00:01:08 → 00:01:11 >> ใช่ครับเพราะกรดไขมันโอเมก้า 3 เนี่ยไม่
00:01:11 → 00:01:13 ใช่แค่ช่วยเรื่องสมองหรือหัวใจเท่านั้น
00:01:13 → 00:01:16 แต่ยังส่งผลดีต่อร่างกายในหลายๆด้านเลยที
00:01:16 → 00:01:19 เดียวเป็นสารอาหารสำคัญที่ร่างกายสร้าง
00:01:19 → 00:01:21 เองไม่ได้ด้วยนะครับต้องได้รับจากการ
00:01:21 → 00:01:23 บริโภคเข้าไปเท่านั้นครับ
00:01:23 → 00:01:25 >> ก่อนที่เราจะไปเจาะลึกเรื่องชนิดของปลา
00:01:25 → 00:01:28 เรามาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่าค่ะว่า
00:01:28 → 00:01:31 ทำไมโอเมก้า 3 ถึงได้ชื่อว่าฮีโร่แห่งสาร
00:01:31 → 00:01:34 อาหารที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ
00:01:34 → 00:01:37 >> ครับโอเมก้า 3 เป็นกลุ่มของกรดไขมันไม่
00:01:37 → 00:01:40 อิ่มตัวเชิงซ้อน Polyaturated Fatty
00:01:40 → 00:01:44 Acids หรือ PUFs ที่มีความสำคัญอย่าง
00:01:44 → 00:01:47 ยิ่งต่อการทำงานของร่างกายมนุษย์โดยเฉพาะ
00:01:47 → 00:01:50 อย่างยิ่งกรดไขมันหลักๆ 2 ชนิดที่พบในปลา
00:01:50 → 00:01:55 ทะเลน้ำลึกคือ EPA เอโคซาพิทาโนอic acid
00:01:55 → 00:01:58 และ DHA โดคซาHeฮซาโนอic Acid ครับ
00:01:58 → 00:02:02 >> ถูกต้องเลยค่ะ EPA และ DHA เนี่ยมีบทบาท
00:02:02 → 00:02:05 สำคัญอย่างมากในหลายระบบของร่างกายเริ่ม
00:02:05 → 00:02:07 จากเรื่องใกล้ตัวที่เราสัมผัสได้อย่าง
00:02:07 → 00:02:11 เรื่องสมองและระบบประสาทค่ะ DHA เป็นองค์
00:02:11 → 00:02:14 ประกอบหลักของสมองกว่า 60% มีส่วนช่วยใน
00:02:14 → 00:02:17 การพัฒนาสมองในเด็กเล็กและช่วยบำรุงสมอง
00:02:17 → 00:02:20 ในผู้ใหญ่ทำให้ความจำดีขึ้นลดความเสี่ยง
00:02:20 → 00:02:22 ของโรคความเสื่อมอย่างอัลไซเมอร์ได้ด้วย
00:02:22 → 00:02:25 นะคะงานวิจัยหลายชิ้นอย่างฉีให้เห็นว่า
00:02:25 → 00:02:28 การได้รับ DHA อย่างเพียงพอสามารถช่วย
00:02:28 → 00:02:31 เพิ่มสมาธิและการทำงานของสมองในภาพรวมค่ะ
00:02:31 → 00:02:34 >> นอกจากเรื่องสมองแล้วอีกบทบาทสำคัญที่ไม่
00:02:34 → 00:02:37 พูดถึงไม่ได้เลยก็คือสุขภาพหัวใจและหลอด
00:02:37 → 00:02:41 เลือดครับ EPA และ DHA มีคุณสมบัติช่วยลด
00:02:41 → 00:02:44 ระดับไตรกฤษซึ่งเป็นไขมันชนิดหนึ่งใน
00:02:44 → 00:02:47 เลือดที่ถ้ามีมากเกินไปจะเพิ่มความเสี่ยง
00:02:47 → 00:02:50 ต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดรวมถึงยังช่วยลด
00:02:50 → 00:02:53 ความดันโลหิตเล็กน้อยและป้องกันการเกาะ
00:02:53 → 00:02:55 ตัวของเกล็ดเลือดทำให้เลือดไหลเวียนดี
00:02:55 → 00:02:58 ขึ้นหลดความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือดที่
00:02:58 → 00:03:00 เป็นสาเหตุของโรคหัวใจวายและโรคหลอดเลือด
00:03:00 → 00:03:01 สมองครับ
00:03:01 → 00:03:04 >> ใช่ค่ะและสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับ
00:03:04 → 00:03:07 การอักเสบในร่างกายโอเมก้า 3 ก็ยังเป็น
00:03:07 → 00:03:10 ตัวช่วยสำคัญอีกด้วยนะคะเพราะมีคุณสมบัติ
00:03:10 → 00:03:12 ในการต้านการอักเสบซึ่งเป็นสาเหตุพื้นฐาน
00:03:12 → 00:03:15 ของโรคเรื้อรังหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นโรค
00:03:15 → 00:03:18 ข้ออักเสบรูมาตอยโรคลำไส้อักเสบหรือแม้
00:03:18 → 00:03:21 แต่โรคหัวใจและหลอดเลือดเองก็มีส่วน
00:03:21 → 00:03:23 เกี่ยวข้องกับการอักเสบด้วยค่ะ
00:03:23 → 00:03:26 >> ไม่เพียงเท่านั้นนะครับโอเมก้า 3 ยังมี
00:03:26 → 00:03:29 ส่วนช่วยในเรื่องสุขภาพดวงตาด้วยโดยเฉพาะ
00:03:29 → 00:03:32 DHA ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของจอประสาท
00:03:32 → 00:03:36 ตาการได้รับ DHA เพียงคอจะช่วยลดความ
00:03:36 → 00:03:39 เสี่ยงของการเกิดภาวะจอประสาทตาเสื่อมตาม
00:03:39 → 00:03:43 วัย AMD ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการสูญ
00:03:43 → 00:03:45 เสียการมองเห็นในผู้สูงอายุครับ
00:03:45 → 00:03:48 >> นอกจากนี้โอเมก้า 3 ยังมีผลดีต่อสุขภาพ
00:03:48 → 00:03:51 จิตใจด้วยนะคะงานวิจัยบางชิ้นฉีให้เห็น
00:03:52 → 00:03:55 ว่าการได้รับโอเมก้า 3 อย่างเพียงพออาจ
00:03:55 → 00:03:57 ช่วยลดอาการของภาวะซึมเศร้าและความวิตก
00:03:57 → 00:04:00 กังวลได้และยังช่วยให้คุณภาพการนอนหลับดี
00:04:01 → 00:04:02 ขึ้นอีกด้วยค่ะ
00:04:02 → 00:04:05 >> สรุปง่ายๆคือโอเมก้า 3 ไม่ใช่แค่สารอาหาร
00:04:05 → 00:04:08 เสริมแต่เป็นสารอาหารจำเป็นที่ช่วยให้
00:04:08 → 00:04:11 ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในหลาย
00:04:11 → 00:04:16 ๆระบบทั้งสมองหัวใจหลอดเลือดดวงตาและยัง
00:04:16 → 00:04:19 ช่วยลดการอักเสบแถมยังส่งผลดีต่อสุขภาพ
00:04:19 → 00:04:20 จิตใจด้วยครับ
00:04:20 → 00:04:23 >> เห็นมั้คะว่าโอเมก้า 3 สำคัญกับเราแค่ไหน
00:04:24 → 00:04:26 เพราะฉะนั้นการเลือกแหล่งอาหารที่มี
00:04:26 → 00:04:28 โอเมก้า 3 สูงจึงเป็นสิ่งที่เราไม่ควรมอง
00:04:28 → 00:04:31 ข้ามเลยค่ะเข้าสู่ช่วงที่ทุกคนรอคอยแล้ว
00:04:31 → 00:04:35 ค่ะเราจะมาเปิดเผย 5 อันดับปลาโอเมก้าสูง
00:04:35 → 00:04:38 ที่คุณควรเพิ่มในมื้ออาหารเพื่อสุขภาพที่
00:04:38 → 00:04:41 ดีรอบด้านค่ะและบอกได้เลยว่ามีปลาไทยที่
00:04:42 → 00:04:44 จะทำให้คุณต้องทึ่งรวมอยู่ด้วยนะคะ
00:04:44 → 00:04:46 >> เตรียมตัวให้พร้อมนะครับเพราะเราจะพาคุณ
00:04:47 → 00:04:50 ไปพบกับปลาที่มีโอเมก้า 3 สูงตั้งแต่
00:04:50 → 00:04:53 อันดับ 5 ไปจนถึงสุดยอดอันดับ 1 ที่จะทำ
00:04:53 → 00:04:55 ให้คุณต้องประหลาดใจเลยทีเดียวครับ
00:04:55 → 00:04:57 >> เรามาเริ่มต้นกันที่อันดับที่ 5 กับปลา
00:04:57 → 00:05:01 แมคคาเรลค่ะปลาชนิดนี้อาจจะไม่คุ้นหูคน
00:05:01 → 00:05:04 ไทยเท่าแซลมอนแต่รับรองว่าประโยชน์และ
00:05:04 → 00:05:07 ปริมาณโอเมก้า 3 สูงไม่แพ้กันเลยค่ะ
00:05:07 → 00:05:10 >> ครับปลาแมคคาเรลโดยเฉพาะชนิดlantic
00:05:10 → 00:05:13 marคarelเป็นปลาขนาดเล็กที่มีไขมันสูงและ
00:05:13 → 00:05:16 อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ในปริมาณที่น่าทึ่ง
00:05:16 → 00:05:19 เลยทีเดียวครับมักพบในปริมาณที่ใกล้เคียง
00:05:19 → 00:05:23 กับปลาแซลมอนโดยเฉลี่ยประมาณ 1,000-1,700
00:05:23 → 00:05:25 มลกรัต่อ 100 กรัมเลยนะครับ
00:05:25 → 00:05:29 >> นอกจากโอเมก้า 3 แล้วปลาแมคคาเรลยังให้
00:05:29 → 00:05:32 วิตามิน B12 ซึ่งสำคัญต่อระบบประสาทและ
00:05:32 → 00:05:35 การสร้างเม็ดเลือดแดงและซิเลเนียมที่ช่วย
00:05:35 → 00:05:38 ในการทำงานของต่อมไทรรอยด์และเป็นสารต้าน
00:05:38 → 00:05:39 อนุมูลอิสระค่ะ
00:05:39 → 00:05:42 >> ข้อดีของปลาแมคคาเรลคือมีขนาดเล็กจึงมี
00:05:42 → 00:05:45 สารปลอดสะสมอยู่น้อยกว่าปลาขนาดใหญ่ทำให้
00:05:45 → 00:05:48 เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยสำหรับการบริโภค
00:05:48 → 00:05:51 บ่อยครั้งครับสามารถหาซื้อได้ง่ายในรูป
00:05:51 → 00:05:54 แบบปลาสดแชร์แข็งหรือแม้กระทั่งในรูปของ
00:05:54 → 00:05:55 ปลากระป๋องครับ
00:05:55 → 00:05:58 >> สำหรับปลากระป๋องคุณผู้ฟังก็สามารถนำมา
00:05:58 → 00:06:01 ปรุงอาหารได้หลากหลายเลยนะคะเช่นยำปลา
00:06:01 → 00:06:04 แมเคอเราทานกับข้าวสวยร้อนก็อร่อยและได้
00:06:04 → 00:06:05 ประโยชน์แล้วค่ะ
00:06:06 → 00:06:09 >> ก้าวขึ้นมาที่อันดับ 4 คือปลาทูน่าครับ
00:06:09 → 00:06:12 โดยเฉพาะสายพันธุ์อย่างทูน่าครีบน้ำเงิน
00:06:12 → 00:06:15 Blueฟin Tuna ที่มีชื่อเสียงเรื่องปริมาณ
00:06:15 → 00:06:16 โอเมก้า 3 สูง
00:06:16 → 00:06:19 >> ใช่ค่ะปลาทูน่าเป็นปลาทะเลขนาดใหญ่ที่
00:06:19 → 00:06:23 นิยมนำมาทำซาชิมิสเต็กหรือแม้กระทั่งใน
00:06:23 → 00:06:25 รูปของปลาทูน่ากระป๋องที่สะดุดสะดวกสบาย
00:06:25 → 00:06:28 ค่ะแต่ต้องยอมรับเลยค่ะว่าปลาทูน่าครีบ
00:06:28 → 00:06:31 น้ำเงินในรูปแบบซาชิมิหรือเนื้อสดคุณภาพ
00:06:31 → 00:06:34 สูงนั้นมีราคาค่อนข้างสูงมากและอาจจะไม่
00:06:34 → 00:06:37 ใช่ตัวเลือกที่ทุกคนจะบริโภคได้บ่อยครั้ง
00:06:37 → 00:06:37 นะคะ
00:06:37 → 00:06:41 >> เป็นประเด็นที่สำคัญมากเลยครับปลาทูน่า
00:06:41 → 00:06:44 โดยเฉพาะทูน่าครีบน้ำเงินมีปริมาณโอเมก้า
00:06:44 → 00:06:48 3 เฉลี่ยประมาณ 1,300 มกรัต่อ 100 กรัม
00:06:48 → 00:06:51 นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งโปรตีนและวิตามิน
00:06:51 → 00:06:53 B12 ที่ดีอีกด้วยครับ
00:06:53 → 00:06:56 >> แล้วถ้าเราอยากได้โอเมก้า 3 จากปลาทูน่า
00:06:56 → 00:06:59 ในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าล่ะคะมีทางเลือก
00:06:59 → 00:06:59 อื่นมั้ยคะ
00:06:59 → 00:07:02 >> มีแน่นอนครับสำหรับผู้ที่มองหาทางเลือก
00:07:02 → 00:07:05 ที่เข้าถึงง่ายและประหยัดกว่าปลาทูน่า
00:07:05 → 00:07:08 กระป๋องก็เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมครับโดย
00:07:08 → 00:07:11 เฉพาะอย่างยิ่งปลาทูน่ากระป๋องชนิด Light
00:07:11 → 00:07:14 Tuna หรือ Skip Jack ซึ่งแม้ปริมาณ
00:07:14 → 00:07:17 โอเมก้า 3 อาจจะน้อยกว่าBlueฟin 2 ทูน่า
00:07:17 → 00:07:20 สดเล็กน้อยแต่ก็ยังถือว่ามีโอเมก้า 3 ที่
00:07:20 → 00:07:24 มีประโยชน์ในปริมาณที่ดีและที่สำคัญคือมี
00:07:24 → 00:07:26 ราคาที่คุ้มค่ากว่ามากครับ
00:07:26 → 00:07:28 >> นั่นเป็นข้อมูลที่ดีมากเลยค่ะเพราะปลาถู
00:07:28 → 00:07:31 หน้ากระป๋องเป็นอะไรที่ทุกคนคุ้นเคยและหา
00:07:31 → 00:07:32 ซื้อง่ายจริงๆค่ะ
00:07:32 → 00:07:35 >> นอกจากเรื่องราคาแล้วก็ยังมีข้อควรระวัง
00:07:35 → 00:07:38 สำหรับปลาถูหน้าตัวใหญ่ด้วยนะครับเพราะ
00:07:38 → 00:07:41 ปลาขนาดใหญ่อย่างทูน่าครีบน้ำเงินมักจะมี
00:07:41 → 00:07:44 สารปลอดสะสมอยู่สูงกว่าปลาขนาดเล็กครับ
00:07:44 → 00:07:46 >> แสดงว่าถ้าเป็นปลาทูน่ากระป๋องชนิดไล
00:07:46 → 00:07:49 ทูน่าจะปลอดภัยกว่าสำหรับบริโภคบ่อยครั้ง
00:07:49 → 00:07:50 ใช่มั้คะ
00:07:50 → 00:07:53 >> ถูกต้องครับปลาทูน่ากระป๋องชนิดไทูน่า
00:07:53 → 00:07:57 SKPJ จะมีสารปลอดน้อยกว่าและปลอดภัยกว่า
00:07:57 → 00:08:00 ในการบริโภคบ่อยครั้งครับดังนั้นหากจะ
00:08:00 → 00:08:03 เน้นปริมาณโอเมก้า 3 สูงจากปลาทูน่าสดอาจ
00:08:03 → 00:08:06 จะต้องเลือกBlueฟinทูน่าแต่ถ้าต้องการ
00:08:06 → 00:08:09 ความสะดวกประหยัดและปลอดภัยสำหรับบริโภค
00:08:09 → 00:08:13 บ่อยๆปลาทูน่ากระป๋องชนิดไทูน่าก็เป็นทาง
00:08:13 → 00:08:14 เลือกที่ยอดเยี่ยมครับ
00:08:14 → 00:08:17 >> และแล้วก็มาถึงอันดับที่ 3 ก็ยังคงเป็น
00:08:17 → 00:08:21 ปลาไทยอีกชนิดที่น่าภาคภูมิใจค่ะนั่นก็
00:08:21 → 00:08:23 คือปลาทูของเรานี่เอง
00:08:23 → 00:08:26 >> ถูกต้องครับปลาทูไทยหรือที่รู้จักในต่าง
00:08:26 → 00:08:29 ประเทศอย่างan marel เป็นปลาที่มีไขมัน
00:08:29 → 00:08:32 สูงและเป็นแหล่งโอเมก้า 3 ชั้นเยี่ยมที่
00:08:32 → 00:08:34 คนไทยหลายคนอาจจะยังไม่ทราบถึงศักยภาพ
00:08:34 → 00:08:37 เต็มที่นะครับปลาทูมีปริมาณโอเมก้า 3
00:08:37 → 00:08:41 เฉลี่ยประมาณ 1,600 มลกรัต่อ 100 กรัมเลย
00:08:41 → 00:08:43 ทีเดียวครับถือว่าสูงมากและเข้าถึงได้
00:08:43 → 00:08:45 ง่ายในชีวิตประจำวันของเราครับ
00:08:45 → 00:08:48 >> โอ้โหยอดเยี่ยมไปเลยค่ะปลาทูเป็นปลาที่หา
00:08:48 → 00:08:52 ซื้อง่ายราคาไม่แพงแถมยังมีให้เลือกหลาก
00:08:52 → 00:08:56 หลายทั้งปลาทูนึ่งปลาทูสดหรือปลาทูทอด
00:08:56 → 00:08:59 แล้วสำหรับปลาทูสดปลาทูนึ่งและปลาทูเค็ม
00:08:59 → 00:09:02 เนี่ยปริมาณโอเมก้า 3 ต่างกันมั้คะ
00:09:02 → 00:09:04 >> เป็นคำถามที่ดีและเป็นประโยชน์มากครับโดย
00:09:05 → 00:09:07 ทั่วไปแล้วปลาทูสดย่อมมีโอเมก้า 3 ใน
00:09:08 → 00:09:10 ปริมาณเต็มที่ตามธรรมชาติของมันครับส่วน
00:09:10 → 00:09:13 ปลาทูนึ่งซึ่งผ่านความร้อนจากการนึ่งนั้น
00:09:13 → 00:09:16 วิธีการปรุงแบบนี้จะช่วยคงคุณค่าของ
00:09:16 → 00:09:18 โอเมก้า 3 ไว้ได้ค่อนข้างดีครับเพราะความ
00:09:19 → 00:09:21 ร้อนจากการนึ่งไม่ได้ทำให้น้ำมันปลาไหล
00:09:21 → 00:09:24 ออกมามากหรือสลายตัวเหมือนการทอดที่ใช้
00:09:24 → 00:09:26 อุณหภูมิสูงและระยะเวลานานครับ
00:09:26 → 00:09:29 >> แล้วปลาทูเค็มล่ะคะมีโอเมก้า 3 เหมือนกัน
00:09:29 → 00:09:32 มั้ยสำหรับปลาทูเค็มนั้นอาจจะมีปริมาณ
00:09:32 → 00:09:34 โอเมก้า 3 ที่ลดลงไปบ้างครับเนื่องจาก
00:09:34 → 00:09:38 กระบวนการทำปลาเค็มมีการใช้เกลือและอาจมี
00:09:38 → 00:09:40 การตากแห้งซึ่งอาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง
00:09:40 → 00:09:44 ของไขมันบางส่วนได้ครับที่สำคัญคือปลาทู
00:09:44 → 00:09:47 เค็มจะมีปริมาณโซเดียมสูงมากซึ่งเป็นสิ่ง
00:09:47 → 00:09:49 ที่เราต้องระมัดระวังในการบริโภคครับ
00:09:49 → 00:09:52 เพราะการได้รับโซเดียมมากเกินไปจะเพิ่ม
00:09:52 → 00:09:54 ความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงและโรคไต
00:09:54 → 00:09:55 ได้ครับ
00:09:55 → 00:09:58 >> เข้าใจเลยค่ะสรุปคือถ้าอยากได้โอเมก้า 3
00:09:58 → 00:10:02 เต็มๆควรเลือกปลาทูสดหรือปลาทูนึ่งดีกว่า
00:10:02 → 00:10:05 ส่วนปลาทูเค็มก็ทานได้แต่ต้องจำกัดปริมาณ
00:10:05 → 00:10:07 เพื่อควบคุมโซเดียมใช่มั้คะ
00:10:07 → 00:10:10 >> ถูกต้องเลยครับการเน้นปลาทูสดหรือปลาทู
00:10:10 → 00:10:13 นึ่งและปรุงด้วยวิธีนึ่งอบหรือย่างจะช่วย
00:10:13 → 00:10:16 ให้เราได้รับโอเมก้า 3 สูงสุดและดีต่อ
00:10:16 → 00:10:17 สุขภาพโดยรวมครับ
00:10:17 → 00:10:20 >> นอกจากโอเมก้า 3 แล้วปลาทูยังอุดมไปด้วย
00:10:20 → 00:10:23 โปรตตีนไอโอดีนซึ่งสำคัญต่อการทำงานของ
00:10:23 → 00:10:27 ต่อมไทรอยด์และวิตามินบีต่างๆค่ะการนำปลา
00:10:27 → 00:10:30 ทูมาประกอบอาหารไทยอย่างน้ำพริกปลาทูหรือ
00:10:30 → 00:10:33 แกงส้มปลาทูก็ถือเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมใน
00:10:33 → 00:10:36 การเพิ่มโอเมก้า 3 ในมื้ออาหารประจำวัน
00:10:36 → 00:10:37 ของเราค่ะ
00:10:37 → 00:10:39 >> ก้าวมาถึงอันดับ 2 ครับยังคงเป็นปลาที่
00:10:39 → 00:10:42 คุ้นเคยกันดีและเป็นดาวเด่นในเรื่อง
00:10:42 → 00:10:45 โอเมก้า 3 นั่นก็คือปลาแซลมอนครับ
00:10:45 → 00:10:48 >> แน่นอนค่ะปลาแซลมอนเป็นที่รู้จักกันดีว่า
00:10:48 → 00:10:51 เป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ยอด
00:10:51 → 00:10:53 เยี่ยมและเป็นที่นิยมทั่วโลกค่ะ
00:10:53 → 00:10:56 >> ใช่ครับโดยเฉพาะปลาแซลมอนที่จับจาก
00:10:56 → 00:11:00 ธรรมชาติ Wild Cซลมอนเช่นปลาแซลมอนจาก
00:11:00 → 00:11:05 อลาสก้าหรือแปซิฟิกจะมีปริมาณ EPA และ DHA
00:11:05 → 00:11:08 สูงมากครับโดยเฉลี่ยแล้วอาจมีปริมาณตั้ง
00:11:08 → 00:11:12 แต่ 1,000 ไปจนถึงกว่า 2,500 มกรัของ
00:11:12 → 00:11:15 โอเมก้า 3 ต่อ 100 กรัมขึ้นอยู่กับสาย
00:11:15 → 00:11:17 พันธุ์และแหล่งที่มาเลยนะครับ
00:11:17 → 00:11:20 >> ปริมาณสูงมากเลยนะคะปลาซาแซลมอนไม่เพียง
00:11:21 → 00:11:24 แต่ให้โอเมก้า 3 สูงแต่ยังมีโปรตีนคุณภาพ
00:11:24 → 00:11:27 ดีวิตามินดีและซีเรเนียมที่สำคัญต่อ
00:11:27 → 00:11:29 กระดูกและระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วยค่ะ
00:11:29 → 00:11:32 >> การบริโภคแซลมอนเป็นประจำจึงช่วยลดความ
00:11:32 → 00:11:35 เสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดลดการ
00:11:35 → 00:11:39 อักเสบและบำรุงสมองได้เป็นอย่างดีครับและ
00:11:39 → 00:11:42 ที่สำคัญคือเนื้อปลามีรสชาติดีสามารถนำมา
00:11:42 → 00:11:44 ประกอบอาหารได้หลากหลายครับ
00:11:44 → 00:11:47 >> และแล้วก็มาถึงสุดยอดอันดับ 1 ที่จะทำให้
00:11:47 → 00:11:51 คุณผู้ชมต้องทึ่งกันจริงๆค่ะนั่นก็คือปลา
00:11:51 → 00:11:54 สวายปลาไทยบ้านๆของเรานี่เอง
00:11:54 → 00:11:57 >> ใช่ครับนี่แหละครับคือสิ่งที่ทำให้เรา
00:11:57 → 00:12:00 ต้องทึ่งปลาสวายแพงคาเซียสเป็นปลาไทยน้ำ
00:12:01 → 00:12:03 จืดที่พบมากทั้งในแหล่งน้ำธรรมชาติและ
00:12:03 → 00:12:06 นิยมนำมาเพาะเลี้ยวเป็นอย่างมากครับ
00:12:06 → 00:12:09 >> คุณผู้ฟังอาจจะสงสัยว่าแล้วปลาสวายที่จับ
00:12:09 → 00:12:12 จากธรรมชาติกับปลาสวายที่เลี้ยงตามฟาร์ม
00:12:12 → 00:12:14 แบบไหนจะมีโอเมก้า 3 สูงกว่ากันคะ
00:12:14 → 00:12:17 >> เป็นคำถามที่สำคัญมากครับโดยทั่วไปแล้ว
00:12:17 → 00:12:20 ปลาที่เติบโตในธรรมชาติมักจะมีสารอาหาร
00:12:20 → 00:12:23 ที่หลากหลายกว่าและองค์ประกอบของไขมันอาจ
00:12:23 → 00:12:25 แตกต่างไปตามอาหารที่มันหาได้เองตาม
00:12:26 → 00:12:28 ธรรมชาติครับสำหรับปลาสวายที่พบในแหล่ง
00:12:28 → 00:12:31 น้ำธรรมชาติของไทยก็เป็นแหล่งโอเมก้า 3
00:12:31 → 00:12:32 ที่ดีครับ
00:12:32 → 00:12:34 >> แล้วในส่วนของปลาสวายเลี้ยงล่ะคะจะยังมี
00:12:34 → 00:12:37 ศักยภาพในการให้โอเมก้า 3 สูงได้เหมือน
00:12:37 → 00:12:38 ปลาธรรมชาติมั้ยคะ
00:12:38 → 00:12:41 >> นี่แหละครับคือจุดที่น่าทึ่งของปลาเลี้ยง
00:12:41 → 00:12:44 แม้จะเป็นปลาเลี้ยงน้ำจืดแต่ปลาสวายก็
00:12:44 → 00:12:46 สามารถเป็นแหล่งโอเมก้า 3 ที่ยอดเยี่ยม
00:12:46 → 00:12:49 ได้ครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งในปลาที่ที่ได้
00:12:49 → 00:12:51 รับการเลี้ยงดูด้วยอาหารเสริมที่มีส่วน
00:12:51 → 00:12:54 ผสมของโอเมก้า 3 สูงซึ่งทำให้ปริมาณ
00:12:54 → 00:12:57 โอเมก้า 3 ของมันพุงสูงขึ้นอย่างมีนัยยะ
00:12:57 → 00:12:58 สำคัญ
00:12:58 → 00:13:01 >> โอ้โหแสดงว่าปลาสวายเลี้ยงบางส่วนก็
00:13:01 → 00:13:03 สามารถมีโอเมก้า 3 สูงได้ไม่แพ้ปลา
00:13:03 → 00:13:04 ธรรมชาติเลยใช่มั้คะ
00:13:04 → 00:13:08 >> ถูกต้องครับจากการศึกษาบางแหล่งข้อมูลพบ
00:13:08 → 00:13:10 ว่าปลาที่เลี้ยงด้วยอาหารที่เหมาะสม
00:13:10 → 00:13:13 สามารถมีปริมาณโอเมก้า 3 สูงได้ถึงกว่า
00:13:13 → 00:13:16 2,100 มกรัต่อ 100 กรัมเลยทีเดียวครับ
00:13:16 → 00:13:19 ซึ่งเป็นปริมาณที่จัดว่าสูงมากและเทียบ
00:13:19 → 00:13:22 เคียงได้กับปลาทะเลไขมันสูงบางชนิดเลยนะ
00:13:22 → 00:13:25 ครับแต่ต้องย้ำว่าปริมาณนี้อาจแตกต่างกัน
00:13:25 → 00:13:27 ไปอย่างมีนัยยะสำคัญขึ้นอยู่กับหลาย
00:13:27 → 00:13:31 ปัจจัยครับเช่นสายพันธุ์ย่อยของปลาสวาย
00:13:31 → 00:13:33 อาหารที่ใช้เลี้ยงวิธีการเลี้ยงและสภาพ
00:13:33 → 00:13:35 แวดล้อมในการเลี้ยงดูครับ
00:13:35 → 00:13:38 >> เข้าใจแล้วค่ะแสดงว่าปัจจัยเรื่องอาหาร
00:13:38 → 00:13:40 ที่ปลาได้รับสำคัญมากเลยใช่มั้ยคะ
00:13:40 → 00:13:44 >> ถูกต้องครับปลาสวายมีคุณสมบัติพิเศษคือ
00:13:44 → 00:13:46 สามารถปรัดเปลี่ยนองค์ประกอบไขมันในตัว
00:13:46 → 00:13:49 ได้ตามอาหารที่กินเข้าไปทำให้เกษตรกรผู้
00:13:49 → 00:13:52 เลี้ยงสามารถควบคุมคุณภาพและปริมาณ
00:13:52 → 00:13:55 โอเมก้า 3 ได้โดยการให้อาหารที่มีคุณภาพ
00:13:55 → 00:13:58 ครับถือเป็นข่าวดีสำหรับคนไทยเลยนะคะ
00:13:58 → 00:14:01 เพราะเป็นปลาที่หาซื้อง่ายราคาไม่แพงและ
00:14:01 → 00:14:04 คุ้นเคยกับการนำมาปรุงอาหารหลากหลายเมนู
00:14:04 → 00:14:07 ไม่ว่าจะเป็นแกงส้มตุ้มยำหรือทอดกระเทียม
00:14:07 → 00:14:08 พริกไทย
00:14:08 → 00:14:11 >> นอกจากโอเมก้า 3 แล้วปลาสวายยังให้โปรตีน
00:14:11 → 00:14:14 คุณภาพสูงมีไขมันโดยรวมต่ำเมื่อเทียบกับ
00:14:14 → 00:14:17 เนื้อสัตว์อื่นและยังมีวิตามินและแร่ธาตุ
00:14:17 → 00:14:18 บางชนิดอีกด้วยครับ
00:14:18 → 00:14:21 >> ดังนั้นเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดเราควร
00:14:21 → 00:14:24 เลือกซื้อปลาสวายจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
00:14:24 → 00:14:26 มีมาตรฐานการเลี้ยงดูที่ดีหรือเลือกปลา
00:14:26 → 00:14:29 จากผู้ผลิตที่ระบุข้อมูลโภชนาการอย่างชัด
00:14:29 → 00:14:32 เจนจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าเราได้รับ
00:14:32 → 00:14:34 โอเมก้า 3 ในปริมาณที่ต้องการค่ะ
00:14:34 → 00:14:37 >> เห็นมั้ครับว่าปลาไทยอย่างปลาสวายไม่ได้
00:14:37 → 00:14:40 ด้อยไปกว่าปลาต่างประเทศเลยนะครับแถมบาง
00:14:40 → 00:14:42 ครั้งยังทึ่งกว่าอีกด้วยครับ
00:14:42 → 00:14:45 >> เมื่อรู้แล้วว่าปลาชนิดไหนมีโอเมก้า 3
00:14:45 → 00:14:48 สูงทีนี้เรามาดูกันค่ะว่าเราจะมีเคล็ดลับ
00:14:49 → 00:14:51 ในการเลือกซื้อและบริโภคปลาอย่างไรให้ได้
00:14:52 → 00:14:54 ประโยชน์สูงสุดและปลอดภัยที่สุดนะคะ
00:14:54 → 00:14:58 >> ครับอันดับแรกเลยคือความสดใหม่ครับควร
00:14:58 → 00:15:01 เลือกปลาที่มีตาใสเหงือกแดงสดเหนือแน่น
00:15:01 → 00:15:04 และมีกลิ่นธรรมชาติของปลาครับปลาที่ไม่สด
00:15:04 → 00:15:08 อาจมีสารป้อนและคุณค่าทางอาหารลดลงครับ
00:15:08 → 00:15:11 >> ข้อ 2 คือวิธีการปรุงอาหารค่ะการปรุง
00:15:11 → 00:15:15 อาหารมีผลต่อปริมาณโอเมก้า 3 อย่างมากการ
00:15:15 → 00:15:18 นึ่งอบหรือย่างจะช่วยรักษาปริมาณโอเมก้า 3
00:15:18 → 00:15:21 ไว้ได้ดีที่สุดส่วนการทอดที่ใช้น้ำมันมาก
00:15:21 → 00:15:24 และอุณหภูมิสูงอาจทำให้โอเมก้า 3 บางส่วน
00:15:24 → 00:15:26 สลายไปได้ค่ะ
00:15:26 → 00:15:29 >> ข้อ 3 คือปริมาณการบริโภคที่เหมาะสมครับ
00:15:29 → 00:15:32 องค์การอนามัยโลกและหน่วยงานด้านสุขภาพ
00:15:32 → 00:15:35 หลายแห่งแนะนำให้บริโภคปลาที่มีไขมันสูง
00:15:35 → 00:15:38 อย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์โดยปริมาณ
00:15:38 → 00:15:42 ที่เหมาะสมคือประมาณ 100-150 กรัมต่อ
00:15:42 → 00:15:42 ครั้งครับ
00:15:42 → 00:15:45 >> และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการเลือกปลา
00:15:45 → 00:15:49 ที่มีสัสารปลอดต่ำค่ะปลาบางชนิดโดยเฉพาะ
00:15:49 → 00:15:53 ปลาขนาดใหญ่และมีอายุยืนเช่นปลาฉลามปลา
00:15:53 → 00:15:56 กระทงดาบหรือปลาถูหน้าครีบเหลืองอาจมีสาร
00:15:56 → 00:15:59 ปลอดสะสมอยู่สูงซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อ
00:15:59 → 00:16:02 สุขภาพได้โดยเฉพาะในสตรีมีครันและเด็ก
00:16:02 → 00:16:03 เล็กค่ะ
00:16:03 → 00:16:05 >> เพราะฉะนั้นควรเน้นปลาขนาดเล็กที่กล่าวมา
00:16:05 → 00:16:10 ข้างต้นเช่นปลาแซลมอนแมคเครอเรซาดีนหรือ
00:16:10 → 00:16:13 ปลาทูซึ่งมีสารปลอดสะสมต่ำกว่ามากทำให้
00:16:13 → 00:16:16 สามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัยและบ่อยครั้ง
00:16:16 → 00:16:16 ครับ
00:16:16 → 00:16:19 >> สำหรับปลาแซลมอนที่มีทั้งแบบเลี้ยงและแบบ
00:16:19 → 00:16:22 ธรรมชาติถ้าเลือกได้ควรเลือกปลาแซลมอนที่
00:16:22 → 00:16:25 จับจากธรรมชาติหรือเลือกปลาแซลมอนเลี้ยง
00:16:25 → 00:16:27 ที่มาจากฟาร์มที่เชื่อถือได้และมีมาตรฐาน
00:16:27 → 00:16:29 การเลี้ยงที่ดีนะคะ
00:16:29 → 00:16:32 >> นอกจากปลาแล้วก็ยังมีแหล่งโอเมก้า 3 จาก
00:16:32 → 00:16:36 พืชด้วยนะครับเช่นเมล็ดแฟกเมล็ดเจียวนั
00:16:36 → 00:16:39 แต่กรดไขมันโอเมก้า 3 ในพืชส่วนใหญ่เป็น
00:16:39 → 00:16:43 ALA แฟ่า Linolenic Accid ซึ่งร่างกาย
00:16:43 → 00:16:45 ต้องใช้กระบวนการเปลี่ยนเป็น EPA A และ
00:16:45 → 00:16:48 DHA อีกทีซึ่งประสิทธิภาพในการเปลี่ยน
00:16:48 → 00:16:50 ค่อนข้างจำกัดครับ
00:16:50 → 00:16:53 >> ดังนั้นการบริโภคปลาจึงยังคงเป็นวิธีที่
00:16:53 → 00:16:56 มีประสิทธิภาพที่สุดในการได้รับ EPA และ
00:16:56 → 00:16:59 DHA โดยตรงเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพ
00:16:59 → 00:17:02 ของเราค่ะเป็นอย่างไรกันบ้างคะคุณผู้ฟัง
00:17:02 → 00:17:05 สำหรับ 5 อันดับปลาโอเมก้าสูงที่เรานำมา
00:17:05 → 00:17:08 ฝากกันในวันนี้หวังว่าทุกท่านคงจะได้ความ
00:17:08 → 00:17:11 รู้และแรงบันดาลใจในการหันมาใส่ใจเลือก
00:17:11 → 00:17:15 ปลาดีๆมาเพิ่มในมื้ออาหารนะคะครับการได้
00:17:15 → 00:17:17 รับโอเมก้า 3 อย่างเพียงพอไม่ใช่แค่
00:17:18 → 00:17:22 เรื่องของแฟชั่นสุขภาพแต่เป็นพื้นผอง
00:17:22 → 00:17:26 หัวใจและทุกระบบในร่างกายให้ทำงานอย่างมี
00:17:26 → 00:17:28 ประสิทธิภาพหลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง
00:17:29 → 00:17:32 และช่วยให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นครับ
00:17:32 → 00:17:35 >> โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เราได้รู้ว่าปลา
00:17:35 → 00:17:38 ไทยอย่างปลาสวายและปลาทูก็เป็นแหล่ง
00:17:38 → 00:17:41 โอเมก้า 3 ที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้ปลาจากต่าง
00:17:41 → 00:17:44 ประเทศและบางชนิดก็มีปริมาณสูงจนน่าทึ่ง
00:17:44 → 00:17:47 จริงๆค่ะก็ยิ่งทำให้เราเข้าถึงสารอาหาร
00:17:47 → 00:17:50 สำคัญนี้ได้ง่ายและประหยัดมากขึ้นด้วยค่ะ
00:17:50 → 00:17:54 >> ใช่ครับอย่าลืมนะครับว่าอาหารคือยาการ
00:17:54 → 00:17:56 เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์โดย
00:17:56 → 00:17:59 เฉพาะปลาที่มีโอเมก้า 3 สูงอย่างสม่ำเสมอ
00:17:59 → 00:18:02 เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดเพื่อสุขภาพ
00:18:02 → 00:18:04 ที่ดีในระยะยาวของเราทุกคนครับ
00:18:04 → 00:18:07 >> สุดท้ายนี้หวังว่าข้อมูลในวันนี้จะเป็น
00:18:07 → 00:18:10 ประโยชน์ต่อทุกท่านนะคะหากชอบคลิปนี้อย่า
00:18:10 → 00:18:13 ลืมกดไลค์แสดงความคิดเห็นว่าปลาชนิดไหน
00:18:13 → 00:18:16 ที่คุณชอบทานหรืออยากให้เราพูดถึงเรื่อง
00:18:16 → 00:18:19 สุขภาพอะไรอีกในครั้งหน้ารวมถึงกดแชร์ให้
00:18:19 → 00:18:22 คนที่คุณรักได้ดูและนำไปปรับใช้กันด้วยนะ
00:18:22 → 00:18:22 คะ
00:18:22 → 00:18:25 >> และที่สำคัญที่สุดอย่าลืมกดติดตามช่อง
00:18:25 → 00:18:28 สุขภาพสนทนาและกดกระดิ่งแจ้งเตือนเพื่อ
00:18:28 → 00:18:31 ไม่พลาดทุกสาระสุขภาพดีๆที่เข้าใจง่ายและ
00:18:31 → 00:18:33 น่าเชื่อถือจากเรานะครับ
00:18:33 → 00:18:36 >> สำหรับวันนี้สุขภาพสนทนาต้องขอลาไปก่อนพบ
00:18:36 → 00:18:38 กันใหม่ในตอนหน้าสวัสดีค่ะ
00:18:39 → 00:18:41 >> สวัสดี PR