00:00:00 → 00:00:03 5 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับยาพาราเซตามอล
00:00:03 → 00:00:07 ยาพาราเซตามอลหรือยาแก้ปวดที่เราคุ้นเคย
00:00:07 → 00:00:11 มีความเชื่อผิดๆ เกิดขึ้นมากมาย
00:00:11 → 00:00:16 แล้วความเชื่อผิดๆนี้ อาจจะทำให้ท่านเป็นอันตรายได้เลยนะครับ
00:00:23 → 00:00:25 สวัสดีครับ ผมหมอท๊อปนะครับ
00:00:25 → 00:00:27 และนี่คือ DOCTOR TOP CHANNEL ครับ
00:00:27 → 00:00:30 รายการสุขภาพที่ทั้งสนุกและมีสาระครับ
00:00:30 → 00:00:31 วู้ฮู้.........
00:00:31 → 00:00:35 วันนี้เราจะมาคุยกันเกี่ยวกับ 5 ความเชื่อผิดๆ
00:00:35 → 00:00:38 เกี่ยวกับยาพาราเซตามอล
00:00:38 → 00:00:43 ต้องบอกว่ายาพาราเซตามอลหรือยาแก้ปวดที่เราคุ้นเคยกัน
00:00:43 → 00:00:47 มันมีความเชื่อผิดๆเกิดขึ้นมากมาย
00:00:47 → 00:00:53 แล้วความเชื่อผิดๆนี้ อาจจะทำให้ท่านเป็นอันตรายได้
00:00:53 → 00:00:56 ซึ่งบางครั้งอาจจะอันตรายได้ถึงชีวิตเลย
00:00:56 → 00:00:58 ทั้งๆที่มันก็เป็นแค่ยาแก้ปวดเอง
00:00:58 → 00:01:00 แต่ว่าถ้าเราเข้าใจผิดหรือเรา
00:01:00 → 00:01:02 ใช้ผิดวิธี อาจจะ...
00:01:02 → 00:01:05 ทำให้เกิดอันตรายต่อตัวเราได้
00:01:05 → 00:01:07 ก่อนไปครับ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์
00:01:07 → 00:01:09 กด Subscribe และกดกระดิ่งครับ ขอบคุณมากครับ
00:01:10 → 00:01:13 เรามาดูความเชื่อผิดๆ ข้อที่ 1
00:01:13 → 00:01:16 ยาพาราเซตามอล ยิ่งกินเยอะ ยิ่งหายปวด
00:01:16 → 00:01:18 นี่คือ...ความเชื่อที่ผมบอกเลยครับว่า
00:01:18 → 00:01:20 เป็นความเชื่อที่ผิดครับ
00:01:20 → 00:01:22 ถ้าท่านกิน 1 เม็ดก็หายปวด
00:01:22 → 00:01:24 กิน 3 เม็ดมันก็ต้องหายปวดยิ่งขึ้น
00:01:24 → 00:01:26 เพราะว่ายามันแรงขึ้นใช่ไหมครับ
00:01:26 → 00:01:28 นี่คือ...ความเชื่อที่เราเชื่อกันมา
00:01:28 → 00:01:31 แต่จริงแล้วครับบอกให้ว่ามันไม่ใช่ครับ
00:01:31 → 00:01:36 ให้เปรียบเทียบว่ายา 1 เม็ด ออกฤทธิ์ได้ 100%
00:01:36 → 00:01:39 และถ้าตัวเรามีน้ำหนักตัวประมาณนึง
00:01:39 → 00:01:42 ยาจะกิน 1 เม็ด 2 เม็ด หรือ 3 เม็ด
00:01:42 → 00:01:44 ผลมันก็เท่ากันไม่แตกต่างกัน
00:01:44 → 00:01:48 ถ้ามันถึงจุดสูงสุดที่ร่างกายเราตอบสนองต่อยา
00:01:48 → 00:01:50 ซึ่งขนาดยาที่เหมาะสม
00:01:50 → 00:01:53 ที่แนะนำก็คือประมาณ 10-15 มิลลิกรัม
00:01:53 → 00:01:54 ต่อกิโลกรัม (น้ำหนัก) ของเรา
00:01:54 → 00:01:56 ถ้าเราหนัก 50 กิโลกรัม
00:01:56 → 00:01:59 การกินยาพาราเซตามอลก็คือ...
00:01:59 → 00:02:01 ตัวอย่าง 10x50 = 500 mg (ปริมาณยา)
00:02:01 → 00:02:03 ก็คือ 1 เม็ดนั่นเอง 1 เม็ดทั่วไป
00:02:04 → 00:02:07 เช่น ถ้าหนัก 50 แล้วท่านไปกิน 1000 mg
00:02:08 → 00:02:10 ผลที่ได้ก็ไม่แตกต่างกัน
00:02:10 → 00:02:12 แต่ถ้าท่าน
00:02:12 → 00:02:15 หนัก 100 กิโลกรัม แล้วกิน 1 เม็ด กับ 2เม็ด
00:02:15 → 00:02:19 อย่างนี้ 2 เม็ดออกฤทธิ์ได้ดีกว่า 1เม็ด ครับ
00:02:19 → 00:02:23 เพราะฉะนั้น จำนวนต้องขึ้นอยู่กับน้ำหนักของท่าน
00:02:23 → 00:02:24 และปริมาณที่แนะนำก็คือ
00:02:24 → 00:02:29 mg(มิลลิกรัม) x km(กิโลกรัม) = จำนวนพาราเซตามอลต่อ 1 ครั้ง
00:02:29 → 00:02:30 ที่ท่านสามารถทานได้
00:02:30 → 00:02:37 และมีข้อแนะนำ 1วัน ห้าม! กินเกิน 8เม็ดหรือ 4000 mg
00:02:37 → 00:02:38 ยังมีรายละเอียดนิดนึง
00:02:38 → 00:02:41 ยาพาราเซตามอลที่ขายทั่วไป
00:02:41 → 00:02:43 มีขนาดไม่เท่ากันนะครับ
00:02:43 → 00:02:47 ยาเม็ด สำหรับผู้ใหญ่โดยทั่วไปคือ 500 มิลลิกรัม
00:02:47 → 00:02:52 แต่จริงๆ 325 mg และ 625 mg
00:02:52 → 00:02:55 เพราะฉะนั้นแล้วท่านจะต้องดูให้ดีว่า...
00:02:55 → 00:02:58 พาราเซตามอลที่ซื้อมันกี่มิลลิกรัมกันแน่นะครับ
00:02:58 → 00:03:01 ก่อนที่ท่านจะทานยาตัวนี้นะครับ
00:03:01 → 00:03:03 แล้วอย่างที่บอกครับว่าไม่จำเป็น
00:03:03 → 00:03:06 ที่จะต้องกินทีละ 2 เม็ด 3 เม็ดนะครับ
00:03:06 → 00:03:09 เพราะว่าถ้ามากเกินไป ไม่ได้มีผลดีมากขึ้น
00:03:09 → 00:03:10 แถมให้เกิดผลเสีย
00:03:10 → 00:03:13 เพราะว่าพาราเซตามอลสามารถทำลายตับของเราได้
00:03:13 → 00:03:15 มันไป เมตาโบไลท์ (Metabolite) ที่ตับ
00:03:15 → 00:03:17 หรือว่าไปขับที่ตับของเรา
00:03:17 → 00:03:19 ให้ออกจากร่างกายก็ทำให้ตับทำงานหนัก
00:03:19 → 00:03:23 บางคนตับวายถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยครับ
00:03:23 → 00:03:25 คราวนี้ครับเรามาดูความเชื่อผิดข้อที่ 2
00:03:25 → 00:03:27 เกี่ยวกับยาพาราเซตามอล
00:03:27 → 00:03:30 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับยาพาราเซตามอล
00:03:30 → 00:03:33 ก็คือยาพาราเซตามอลแบบน้ำ
00:03:33 → 00:03:35 ยี่ห้อไหนก็เหมือนกัน
00:03:35 → 00:03:37 กินขนาดเท่ากันได้หมด
00:03:37 → 00:03:39 บอกเลยครับ ว่าอันตรายมาก
00:03:39 → 00:03:42 เพราะยาพาราเซตามอลแบบน้ำ
00:03:42 → 00:03:44 ก็จะต้องให้เด็กๆกิน
00:03:44 → 00:03:46 เพราะฉะนั้น ถ้าเกิดปริมาณมันคลาดเคลื่อน
00:03:46 → 00:03:50 เด็กๆก็จะมีผลเสียมากกว่าผลดี เยอะมาก
00:03:50 → 00:03:52 ต้องบอกตามตรงว่ายาพาราเซตามอลแบบน้ำ
00:03:53 → 00:03:54 แบ่งเป็น 2 อย่างใหญ่ๆ
00:03:54 → 00:03:57 เป็นแบบนั้นเชื่อมแล้วก็เป็นแบบหยด
00:03:57 → 00:03:58 ซึ่งมันก็หวานก็นั่นแหละ
00:03:58 → 00:04:00 แต่มันเป็นอย่างนี้ครับ
00:04:00 → 00:04:02 ถ้ามาเป็นขวดใหญ่ๆ
00:04:02 → 00:04:04 พวกนี้จะค่อนข้างเจือจาง
00:04:04 → 00:04:06 แต่ถ้ามาเป็นขวดเล็กๆ พวกนี้เข้มข้นมาก
00:04:06 → 00:04:09 ถ้าเราไปกินพวกพาราเซตามอล Drop
00:04:09 → 00:04:10 Drop = หยด
00:04:10 → 00:04:12 ถ้าเราไปกินขนาดเท่ากับแบบ
00:04:12 → 00:04:14 ที่เจือจางแล้วเรากินปริมาณเท่ากัน
00:04:14 → 00:04:17 เด็กๆที่ทานเข้าไปถือว่า ได้รับพาราเซตามอลเกินหลายเท่า
00:04:17 → 00:04:19 อันตรายเลยนะครับยิ่งเป็นเด็ก
00:04:19 → 00:04:21 การได้รับยาเกินขนาดอันตราย
00:04:21 → 00:04:22 กว่าผู้ใหญ่มาก
00:04:22 → 00:04:24 เพราะฉะนั้น สิ่งที่สำคัญคือการ
00:04:24 → 00:04:27 ใช้ยาพาราเซตามอลแบบน้ำ
00:04:27 → 00:04:29 แล้วให้เด็กทาน
00:04:29 → 00:04:31 ควรจะดูข้างฉลากทุกครั้ง
00:04:31 → 00:04:34 The Must ก็คือทุกครั้งไม่มีการประมาท
00:04:34 → 00:04:37 ว่าเห้ยคล้ายๆเดิม เหมือนเดิม หน้าตามันคล้ายกันมากครับ
00:04:37 → 00:04:39 เพราะฉะนั้นขอให้ดูทุกครั้งนะครับ
00:04:39 → 00:04:41 ตามที่แพทย์สั่ง ข้อสำคัญมากๆ
00:04:41 → 00:04:42 อยากจะหยั่งเตือนไว้ครับ
00:04:42 → 00:04:45 นี่ก็คือความผิดข้อที่ 2 ครับ
00:04:45 → 00:04:48 คราวนี้มาดูความเชื่อผิดๆ ข้อที่ 3
00:04:48 → 00:04:50 เกี่ยวกับยาพาราเซตามอล ก็คือ...
00:04:50 → 00:04:52 ยาพาราเซตามอลไม่อันตราย
00:04:52 → 00:04:54 สามารถทานติดต่อกันได้
00:04:54 → 00:04:56 เป็นเดือน
00:04:56 → 00:04:59 บอกเลยครับว่าไม่ใช่!!!!!
00:04:59 → 00:05:00 มันอันตรายนะครับ
00:05:00 → 00:05:03 การทานยาพาราเซตามอลเป็นเดือนๆ
00:05:03 → 00:05:04 ข้อแรกคือตับเราจะทำงานหนัก
00:05:04 → 00:05:06 ทำให้ตับเรามีปัญหาเอนไซม์
00:05:06 → 00:05:08 กลายเป็นตับอักเสบได้
00:05:08 → 00:05:10 อันนี้อันตรายข้อที่ 1
00:05:10 → 00:05:12 ข้อที่ 2 คือ ถ้าท่านมีอาการปวด
00:05:12 → 00:05:16 ปวดอะไรก็ตาม แล้วต้องทานยาพาราเซตามอลเป็นเดือน
00:05:16 → 00:05:18 แปลว่าท่านมีปัญหาแล้วครับ
00:05:18 → 00:05:21 การปวดโดยทั่วไป ควรจะหายภายใน 7-10วัน
00:05:21 → 00:05:25 การปวดหัวจากไข้ ควยหายภายใน 3-5วัน
00:05:25 → 00:05:27 เพราะฉะนั้น ถ้าเกิดท่านทานยาเกิน
00:05:27 → 00:05:29 แปลว่า เห้ย!
00:05:29 → 00:05:31 เราไม่ควรจะรักษาตัวเองแบบนี้แล้ว
00:05:31 → 00:05:32 เราควรจะพบแพทย์
00:05:32 → 00:05:35 เพราะว่ามันอาจจะมีโรคบางโรคซ่อนอยู่
00:05:35 → 00:05:37 ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตของท่านมากๆ
00:05:37 → 00:05:41 เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าท่านยังทานยาพาราเซตามอลเป็นเดือนเนี่ย
00:05:41 → 00:05:43 ผมขอหยุดนะครับ ว่าหยุด! หยุดนะครับ
00:05:43 → 00:05:45 มีข้อแนะนำอย่างนี้ครับ
00:05:45 → 00:05:48 สำหรับการทานยาพาราเซตามอลแก้ปวดนะครับ
00:05:48 → 00:05:51 เด็กไม่แนะนำให้ทานเกิน 5 วัน
00:05:51 → 00:05:55 ส่วนผู้ใหญ่ไม่แนะนำให้ทานเกิน 10 วันนะครับ
00:05:55 → 00:05:57 ในกรณีที่เป็นไข้
00:05:58 → 00:06:00 แล้วทานยาพาราเซตามอลเพื่อลดไข้
00:06:00 → 00:06:03 แนะนำให้ทานยาไม่เกิน 3วัน
00:06:03 → 00:06:07 ถ้าเกิน 3 วัน ไม่รักษาเองแล้วครับ ไปพบแพทย์ได้แล้ว
00:06:07 → 00:06:09 เพราะว่าการเป็นไข้
00:06:09 → 00:06:11 ถ้า 3 วันแล้วไม่ดีขึ้นเลย
00:06:11 → 00:06:14 มันมีอย่างอื่นมาแทรกซ้อนหรือเปล่า
00:06:14 → 00:06:16 เราก็ไม่ควรรักษาตัวเองแล้วนะครับ
00:06:16 → 00:06:17 แต่ถ้าเกิน 2-3 วัน อาการทุเลาลง
00:06:17 → 00:06:19 อย่างนี้ เราก็ไม่ซีเรียส
00:06:19 → 00:06:20 อาจจะเป็นแบบไข้หวัดเล็กๆน้อยๆ
00:06:20 → 00:06:22 อย่างนี้ก็โอเคนะครับ
00:06:22 → 00:06:25 อันนี้ก็คือความเชื่อผิดๆ ข้อที่ 3
00:06:25 → 00:06:28 คราวนี้เรามาดูความเชื่อผิดๆ ข้อที่ 4 กันบ้างครับ
00:06:28 → 00:06:30 สำหรับยาพาราเซตามอลก็คือ....
00:06:30 → 00:06:34 ยาพาราเซตามอลสามารถรักษาไข้หวัดได้
00:06:34 → 00:06:36 ต้องบอกว่ายาพาราเซตามอล
00:06:36 → 00:06:38 มันคือยาแก้ปวดอย่างเดียวครับ
00:06:39 → 00:06:41 มันออกฤทธิ์โดยไปยับยั้ง
00:06:41 → 00:06:44 สมมุติว่าถ้าเราจะปวด เราจะมีกระแสประสาทส่งไปที่สมองว่าให้ปวด
00:06:44 → 00:06:46 ยาพาราเซตามอลจะไปขัดขวาง
00:06:46 → 00:06:48 เราก็จะไม่ค่อยปวด
00:06:48 → 00:06:51 อันนี้ก็คือฤทธิ์ของมันแบบคร่าวๆนะครับ
00:06:51 → 00:06:53 คราวนี้มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับไข้หวัด
00:06:53 → 00:06:56 เพราะไข้หวัดส่วนใหญ่ก็ติดเชื้อไวรัส
00:06:56 → 00:06:58 หรือเชื้อแบคทีเรีย
00:06:58 → 00:07:02 ซึ่งเชื้อไวรัสโดยส่วนใหญ่แล้ว 5-7 วันก็มักจะหายได้เอง
00:07:02 → 00:07:06 ส่วนเชื้อแบคทีเรียจะต้องได้ยาฆ่าเชื้อ
00:07:06 → 00:07:08 หรือที่เรียกว่ายาปฏิชีวนะ
00:07:08 → 00:07:09 เพื่อการรักษาครับ
00:07:09 → 00:07:14 ยาพาราเซตามอลมันเกิดมา เพื่อไม่ให้เราทุกข์ทรมานเท่านั้นเอง
00:07:14 → 00:07:18 แล้วร่างกายเราก็จะขจัดเชื้อต่างๆ ออกไปด้วยตัวเอง
00:07:18 → 00:07:21 เพราะฉะนั้น การกินยาพาราเซตามอล
00:07:21 → 00:07:23 เพื่อรักษาไข้หวัด
00:07:23 → 00:07:26 เป็นความเชื่อที่ผิดนะครับ
00:07:26 → 00:07:30 นี่ก็คือความเชื่อผิดๆข้อที่ 4 ของยาพาราเซตามอลครับ
00:07:30 → 00:07:33 ต่อไปมาดูความเชื่อผิดๆข้อที่ 5 ครับ
00:07:33 → 00:07:36 ยาพาราเซตามอลสามารถกินดักไข้ไว้ได้
00:07:36 → 00:07:39 ฟังแล้วก็ดูแบบแปลกๆนะ
00:07:39 → 00:07:42 สมมุติว่าเรารู้สึก ใช้คำว่ารู้สึก...
00:07:42 → 00:07:44 ว่าวันนี้จะไม่ค่อยสบายแน่เลย
00:07:44 → 00:07:47 ขอกินยาพาราเซตามอลก่อนดีกว่า
00:07:47 → 00:07:49 จะได้ป้องกันไข้ในวันพรุ่งนี้
00:07:49 → 00:07:51 เผื่อพรุ่งนี้มีงานสิ่งที่เราต้องทำสำคัญ
00:07:51 → 00:07:53 เราก็เลยกินยาพาราเซตามอลดักไว้เลย
00:07:53 → 00:07:55 บอกเลยครับ...ว่าไม่เกี่ยว
00:07:55 → 00:07:57 เพราะอะไรครับ? อันดับแรก เรามาดู...
00:07:57 → 00:07:58 ตามข้อเท็จจริงก่อน
00:07:58 → 00:07:59 ว่ายาพาราเซตามอล
00:07:59 → 00:08:04 มันสามารถออกฤทธิ์ได้ประมาณ 4-6 ชั่วโมงนะครับ
00:08:04 → 00:08:07 4-6 ชั่วโมง สำหรับยาพาราเซตามอลแบบปกติ
00:08:09 → 00:08:12 เพราะฉะนั้น ถ้าท่านกินเพื่อดักไข้
00:08:12 → 00:08:15 ท่านกิน 4โมงเย็น 2ทุ่ม ยาก็หมดฤทธิ์เสียแล้ว
00:08:15 → 00:08:18 ต้องเช้าท่านก็ยังมีไข้เหมือนเดิม ถ้าท่านกินเพื่อดักไข้
00:08:18 → 00:08:20 แต่ประเด็นคือ...
00:08:20 → 00:08:23 มันไม่สามารถที่จะดักไข้หรือป้องกันไข้ได้
00:08:23 → 00:08:28 มันเป็นอย่างที่เอาไว้รักษาอาการแบบทันท่วงที
00:08:28 → 00:08:29 ถ้าท่านเป็นท่านปวดหัว
00:08:29 → 00:08:31 ท่านกินยา
00:08:31 → 00:08:33 มันจะออกฤทธิ์ภายใน 10-30 นาที
00:08:33 → 00:08:35 มันก็จะทำให้อาการปวดของท่านลดลง
00:08:35 → 00:08:39 จากปวด 10 แต้มอาจจะลดลงเหลือ 7-5 แต้ม
00:08:39 → 00:08:39 เท่านั้นเอง
00:08:39 → 00:08:42 แต่มันก็ไม่ใช่ว่ามันจะหายปวดเป็นปลิดทิ้ง
00:08:42 → 00:08:46 เพราะว่ามันไม่ใช่ยาแก้ปวดที่รุนแรงมาก
00:08:46 → 00:08:48 ถ้าสมมุติว่าท่านปวดมากหรือว่า...
00:08:48 → 00:08:50 มีอาการปวดจากมะเร็ง
00:08:50 → 00:08:51 หรือกลุ่มอะไรพวกนี้
00:08:51 → 00:08:53 ยาพาราเซตามอลอาจจะไม่เพียงพอ
00:08:53 → 00:08:56 ก็จะมียาแก้ปวดตัวอื่นที่เสริมเข้าไป
00:08:56 → 00:09:00 แต่ไม่ใช่กินพาราเซตามอลเพิ่มเป็น 3-4 เม็ด/ครั้ง
00:09:00 → 00:09:02 อย่างนี้อันตรายนะครับ ตับวายได้นะครับ
00:09:02 → 00:09:04 อันนี้ก็คือความเชื่อผิดๆข้อที่ 5
00:09:04 → 00:09:07 ยาพาราเซตามอลสามารถกินดักไข้ได้
00:09:07 → 00:09:10 นะครับ อันนี้ก็คือ 5ข้อ ความเชื่อผิดๆ
00:09:10 → 00:09:12 เกี่ยวกับยาพาราเซตามอลครับ
00:09:13 → 00:09:14 คร่าวนี้ ผม...
00:09:14 → 00:09:17 มขอแถมข้อควรรู้นิดนึงนะครับ
00:09:17 → 00:09:19 สำหรับการใช้ยาพาราเซตามอล
00:09:19 → 00:09:21 ข้อแรกนะครับ
00:09:21 → 00:09:26 ต้องระวังการทานยาพาราเซตามอลซ้ำซ้อน
00:09:26 → 00:09:29 เพราะว่ายาพาราเซตามอล
00:09:29 → 00:09:33 มันเป็นส่วนผสมของยาหลายชนิด
00:09:33 → 00:09:36 บางทีเรากินยาพาราเซตามอลเม็ดนึง
00:09:36 → 00:09:38 และเราไปกินยาที่มีส่วนผสมของพาราเซตามอลอีก
00:09:38 → 00:09:42 มันก็กลายเป็นเรากินพาราเซตามอล 2 เท่าของปกติ
00:09:42 → 00:09:44 และยาที่เรามักใช้กันบ่อยก็คือ...
00:09:44 → 00:09:46 ทิฟฟี่นั้นเองครับ
00:09:46 → 00:09:48 หรือกลุ่มดีคอลเจนนะครับ
00:09:48 → 00:09:53 พวกนี้มีพาราเซตามอลอยู่ประมาณ 325-500 mg
00:09:53 → 00:09:55 ก็แล้วแต่นะครับ ซึ่ง...
00:09:55 → 00:09:57 มันก็เหมือนเรากินแบบ 2 เท่าเลย
00:09:57 → 00:09:59 เพราะฉะนั้น ถ้าท่านท่านทิฟฟี่หรือดีคอลเจน
00:09:59 → 00:10:02 กรุณาดูที่ฉลากก่อนว่ามันมีพาราเซตามอลผสมอยู่เท่าไหร่
00:10:02 → 00:10:04 และเราไม่ควรกินเกินนะครับ
00:10:04 → 00:10:09 ปริมาณก็คือ 10 * น้ำหนักนะครับ
00:10:09 → 00:10:12 ไม่เกินนั้น เช่น น้ำหนัก 50 ไม่เกิน 500 นะครับ
00:10:12 → 00:10:14 ข้อที่ 2 นะครับ
00:10:14 → 00:10:18 ควรเก็บในที่ที่ไม่มีแสงมากเกินไป
00:10:18 → 00:10:21 และอุณหภูมิไม่ควรเกิน 30 องศาครับ
00:10:21 → 00:10:25 เพราะฉะนั้นแล้ว ห้ามเก็บในรถครับ
00:10:26 → 00:10:27 ต่อมาข้อที่ 3 ครับ
00:10:27 → 00:10:29 ถ้าลืมทานยานะครับ
00:10:29 → 00:10:31 สามารถทานได้ทันทีเลย
00:10:31 → 00:10:32 เมื่อท่านนึกออก
00:10:32 → 00:10:35 ไม่จำเป็นที่จะต้องเพิ่มขนาดยา
00:10:35 → 00:10:37 แบบฉันลืมกินมื้อที่แล้ว
00:10:37 → 00:10:39 มื้อนี้ขอ 2 เม็ดไม่จำเป็นนะครับ
00:10:39 → 00:10:42 นึกออกก็กินเท่าเดิมนะครับ
00:10:42 → 00:10:43 สามารถกินได้เลยนะครับ
00:10:43 → 00:10:45 ข้อที่ 4 นะครับ
00:10:45 → 00:10:47 ยาออกฤทธิ์ภายใน 10-30 นาที
00:10:47 → 00:10:49 เพราะฉะนั้น อย่าใจร้อน
00:10:49 → 00:10:51 ไม่ใช่กินไป 2-3นาที ไม่หายปวด
00:10:51 → 00:10:52 แล้วกินซ้ำนะครับ
00:10:52 → 00:10:54 ครับ...สำหรับยาพาราเซตามอล ก็จบง่ายๆแค่นี้ครับ
00:10:54 → 00:10:56 ก็ขอให้ทุกท่านสุขภาพดี
00:10:56 → 00:10:58 อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ กด Subscribe ด้วยนะครับ
00:10:58 → 00:11:00 ขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ บ๊ายบาย....