00:00:00 → 00:00:02 ถ้าผมได้ยินมาว่าบางคนเนี่ยนะครับถึงแม้
00:00:02 → 00:00:05 ว่าจะรักษาเรียบร้อยแล้วแต่มันรู้ว่าร่าง
00:00:05 → 00:00:08 กายเขาไม่ได้กลับมาร้อยเปอร์เซ็นต์ใช่
00:00:08 → 00:00:10 มั้ยฮะใครไอ้อย่างนี้มันเรียกว่าเป็นเป็น
00:00:10 → 00:00:12 โรคไหมครับหรือว่าเป็นกลุ่มอาการหรือว่า
00:00:12 → 00:00:14 เป็นยังไงครับสำหรับอาการที่รู้สึกว่าและ
00:00:14 → 00:00:16 มันก็รักษาผ่านไปแล้วเป็นเดือนแล้วทำไม
00:00:16 → 00:00:18 มันยังไม่ได้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมเลย
00:00:18 → 00:00:21 เนี้ยอ่ะอันนี้ก็จะเป็นสิ่งที่เรามาคุย
00:00:21 → 00:00:23 กันวันนี้ก็คือตัวลองโคบิตนี่ล่ะครับ
00:00:23 → 00:00:26 อาจารย์กับคือลองโควิชเนี่ยมันมาจากคำว่า
00:00:27 → 00:00:30 โพสต์โกบิท Syndrome คือคำว่าชินโดมเนี่ย
00:00:30 → 00:00:32 มันคือเป็นกลุ่มอาการเขาอาจารย์คือเขาจะ
00:00:32 → 00:00:35 ยังไม่ได้ฟันธงว่าเป็นโรคที่หลังจากเกิด
00:00:35 → 00:00:37 หลังจากการติดเชื้อ Call it 19 นะครับ
00:00:37 → 00:00:40 แต่ว่ามันเป็นกลุ่มอาการนึงที่เวลาผู้
00:00:40 → 00:00:43 ป่วยโพธิ์วิจิตร 9 เนี่ยรักษาหายแล้วยัง
00:00:43 → 00:00:45 รู้สึกหลงเหลือลงหรืออาการบางอย่างต่อ
00:00:45 → 00:00:48 เนื่องไปแล้วเวลานานครับพรุ่งนี้เนี่ยทาง
00:00:48 → 00:00:50 ต่างประเทศเป็นโซนยุโรปอเมริกาเขาก็จะบอก
00:00:50 → 00:00:54 ว่าเอ่ออาการพวกที่เนี้ยมันจะมีอาการกิน
00:00:54 → 00:00:56 เวลาอยู่ในช่วงหลังจากที่วินิจฉัยว่าเป็น
00:00:56 → 00:00:59 ตัวโควิช 19 เนี่ยเอามา 4-6 สัปดาห์ขึ้น
00:00:59 → 00:01:03 ไปก็เป็นอ่อทางไลท์ LINE หรือว่าแนวทาง
00:01:03 → 00:01:05 ของอังกฤษเนี่ยเขาก็อาจจะบอกว่าประมาณแบบ
00:01:05 → 00:01:08 กินได้ถึง 12 สัปดาห์เลยประมาณแบบว่า 3
00:01:08 → 00:01:10 เดือนขึ้นไปเนี่ยก็เป็นได้ครับเราคืออาจ
00:01:10 → 00:01:14 จะจะมีอาการพวกนี้ครับก็เดี๋ยวถ้าเกิดถาม
00:01:14 → 00:01:16 ว่าเป็นอาการประมาณไหนก็ต้องบอกว่าแบบ
00:01:16 → 00:01:19 เยอะค่อนข้างเยอะเลยครับแต่หลักๆเนี่ย
00:01:19 → 00:01:23 อาการของตัวลองโควิชหรือว่าโพสต์โคบิต
00:01:23 → 00:01:25 syndome ที่เราพูดถึงกันนะครับมันก็จะมี
00:01:25 → 00:01:28 หลักๆอยู่ประมาณ 4-5 ข้อครับหาตัวแรกเลย
00:01:28 → 00:01:31 ก็คือตามระบบทางเดินหายใจเลยคนป่วยเนี่ย
00:01:31 → 00:01:34 ที่หลังจากขายแล้วเนี่ยอาจจะรู้สึกว่าตัว
00:01:34 → 00:01:37 เองมีอาการหอบเหนื่อยง่ายหายใจไม่ทันหรือ
00:01:37 → 00:01:41 ว่าหายใจลำบากได้ครับรออีกข้อนึงที่เจอ
00:01:41 → 00:01:44 เยอะๆเลยรู้สึกว่าเมื่อยล้าหรือบางคนอาจ
00:01:44 → 00:01:46 จะแบบว่ามีการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อและ
00:01:46 → 00:01:50 ข้อต่อบางคนก็ก็สเปรย์ที่ติกบางจุดชัดเลย
00:01:50 → 00:01:52 เช่นปวดไหล่มากป่วนป่ามากหรือมีคนเนี่ย
00:01:52 → 00:01:54 รู้สึกว่าปวดเมื่อยไปทั้งตัวแบบนี้ครับ
00:01:54 → 00:01:57 อาจารย์ครับครับหรือว่าบางคนอาจจะมี
00:01:57 → 00:02:01 ลักษณะของอ่าจมูกจะมีกลิ่นที่เนื้อค่อน
00:02:01 → 00:02:03 ข้างเยอะเหมือนกันจมูกไม่ได้กินแล้วก็
00:02:03 → 00:02:06 ลิ้นรับรสได้ไม่ดีต้นหรือว่าบางคนเนี่ย
00:02:06 → 00:02:08 หายไปเลยก็คือรับผิดไม่ได้รับรถไม่ได้ไป
00:02:08 → 00:02:11 เลยในช่วงนึงนะครับแล้วก็อย่างที่จะเจอ
00:02:11 → 00:02:13 เยอะๆเลยเหมือนกันก็คืออาจจะมีรู้สึกว่า
00:02:13 → 00:02:16 เจ็บแน่นหน้าอกใจสั่นเนี้ยเจอได้บ้างครับ
00:02:16 → 00:02:19 แล้วก็อีกท้ายที่เจอบ่อยๆก็คือภาวะเดียว
00:02:19 → 00:02:22 กับสมองครับคือสัตว์จะรู้สึกว่าสมองร้าคำ
00:02:22 → 00:02:24 ว่าสมองร้านเนี่ยภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า
00:02:24 → 00:02:27 เป็น Fox ครับแต่ว่าพอแปลว่าสมองร้าน
00:02:27 → 00:02:29 เนี่ยมันอาจจะพูดเข้าใจยากก็คือลักษณะ
00:02:29 → 00:02:32 เป็นรู้สึกเหมือนมึนงงไม่สดชื่นความจำไม่
00:02:32 → 00:02:34 ดีประมาณนี้นะครับหรือว่าบางคนอาจจะมี
00:02:34 → 00:02:37 ลักษณะของการปวดมึนศีรษะร่วมเข้ามาด้วย
00:02:37 → 00:02:40 ครับก็จะเป็นอาการทางสมองได้ครับคนที่มี
00:02:40 → 00:02:43 อาการลองโควิชเนี่ยต้องมีครบทุกอาการนี้
00:02:43 → 00:02:45 เลยหรือเปล่าครับก่อนอ๋ออ๋อไม่จำเป็นครับ
00:02:45 → 00:02:48 อาจารย์อันนี้ที่ที่บอกก็คือเป็นอาการที่
00:02:48 → 00:02:50 พบบ่อยด้วยครับแต่จริงๆนอกเหนืออาการพวก
00:02:50 → 00:02:53 นี้ที่พบบ่อยเนี่ยมีอย่างอื่นอีกเค้า
00:02:53 → 00:02:55 อาจารย์เช่นระบบทางเดินอาหารเกี่ยวกับการ
00:02:55 → 00:02:57 ปืนแตกเอ่ออาจจะผิดปกติไปได้หรือว่า
00:02:57 → 00:03:00 เกี่ยวกับพวกท้องนะครับอาจจะมีมีขนาดท้อง
00:03:00 → 00:03:03 ผูกท้องเสียได้ด้วยนะครับรวมถึงหลักๆที่
00:03:03 → 00:03:05 เราเจอกันปัจจุบันบ่อยเลยก็คือทางด้านจิต
00:03:05 → 00:03:09 ใจคือคนละอาจจะมีภาวะนอนไม่หลับวิตกกังวล
00:03:09 → 00:03:13 เล่าเนี่ยก็เป็นได้ครับอาจารย์ครับที่นิ
00:03:13 → 00:03:16 ใครบ้างครับที่จะมีความเสี่ยงในการที่จะ
00:03:16 → 00:03:19 เป็นลองโคเวฟนะครับคุณหมอมีมีเพราะมีตัว
00:03:19 → 00:03:22 เลขไหมคะว่าสมมติว่ามีผู้ป่วยที่เป็นโรค
00:03:22 → 00:03:26 โควิชรักษาหายแล้ว 100 คนจะมีสักกี่คนที่
00:03:26 → 00:03:28 จะมีโอกาสที่จะเป็นลองโคเวตต์เนี่ยครับมี
00:03:28 → 00:03:31 ตัวเลขสถิติมั้ยฮะมีมีสถิติที่ทางต่าง
00:03:31 → 00:03:33 ประเทศเขาเก็บไว้ครับต้องบอกว่าอันนี้ยัง
00:03:33 → 00:03:35 ไม่ใช่ตัวเลขที่แน่นอนนะครับแต่เป็นตัว
00:03:35 → 00:03:38 เลขส่วนมากที่ต่างประเทศเขาเก็บไว้ก็คือ
00:03:38 → 00:03:41 ส่วนมากแล้วต้องอาจจะบอกว่าอาจจะตกใจนิด
00:03:41 → 00:03:44 นึงคือเลขไม่น้อยเลยครับก็คือประมาณ 30
00:03:44 → 00:03:46 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์เลยครับที่จะเจอคนที่
00:03:46 → 00:03:49 มีภาวะลองโควิชตามมาหลังจากที่ติดเชื้อ
00:03:49 → 00:03:52 แล้วนะครับสูงขนาดนั้นเลยเหรอครับใช่ครับ
00:03:52 → 00:03:55 ค่ะครับแล้วเรานับใครบ้างที่จะมีความ
00:03:55 → 00:03:58 เสี่ยงที่จะปีมีอาการลองโควิชอย่างนี้
00:03:58 → 00:04:03 ครับครับต้องอีกหนึ่งคนที่มีติดเชื้อแล้ว
00:04:03 → 00:04:05 ก็มีความรุนแรงของตัวโลกมากอันเนี้ยให้
00:04:05 → 00:04:08 นอนครับว่าจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นรอง
00:04:08 → 00:04:11 ขวิดมากขึ้นก็แบบลงปอดมากกว่าจะอักเสบมาก
00:04:11 → 00:04:14 หรือว่าอาจจะแบบนอนโรงพยาบาลนานๆต้องใช้
00:04:14 → 00:04:16 เครื่องช่วยหายใจนอนห้องไอซียูอย่างนี้
00:04:16 → 00:04:19 ครับแล้วก็รวมไปถึงคนที่ได้รับการรักษา
00:04:19 → 00:04:22 โดยใช้ยาที่รักษาตัวโลก Call it 19
00:04:22 → 00:04:26 แล้วก็อาจจะใช้เคลียร์ลอยลิลอยก็คือเป็น
00:04:26 → 00:04:28 ยาลดการอักเสบนะครับร่วมด้วยอันนี้ก็อาจ
00:04:28 → 00:04:31 จะมีผลทำให้เกิดลองโควิชได้อย่างที่สอง
00:04:31 → 00:04:34 เลยก็คือจะเป็นอายุครับคนประยุต์มากส่วน
00:04:34 → 00:04:36 ใหญ่แล้วเราก็จะบอกว่าประมาณ 60 ปีขึ้นไป
00:04:36 → 00:04:38 ครับอาจารย์พอคนอายุมากเนี่ยก็จะมีโอกาส
00:04:38 → 00:04:41 ที่จะเกิดลองโทรบิดได้มากขึ้นหนึ่งอย่าง
00:04:41 → 00:04:43 หนึ่งก็คือคนที่มีโรคประจำตัวนั่นเองครับ
00:04:43 → 00:04:47 โรคประจำตัวเนี่ยขออ๋อลงลึกไปอีกนิดนึงก็
00:04:47 → 00:04:51 คืออาจจะเป็นเช่นโรคโรคปอดโรคไตโรคหัวใจ
00:04:51 → 00:04:53 ที่เป็นเรื้อรังนะครับหรือว่าบางคนเป็น
00:04:53 → 00:04:57 โรคเบาหวานโรคความดันโลหิตสูงอ่ะครับแล้ว
00:04:57 → 00:05:00 ก็อีกอย่างนึงเคยคือตัวอ้วนที่จะเจริญแม้
00:05:00 → 00:05:03 ว่าจะมีผลเยอะนะครับแล้วก็โลกอื่นๆจะเป็น
00:05:03 → 00:05:06 โรคที่ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันต่ำเช่นพวกหนู
00:05:06 → 00:05:09 มาตอยด์ sle หรือโรคเอดส์อย่างนี้ครับก็
00:05:09 → 00:05:11 จะมีผลทำให้เกิดลองคุยได้มากขึ้นแล้วก็
00:05:11 → 00:05:14 สุดท้ายจากสถิตินะครับอาจารย์เต้คือเขา
00:05:14 → 00:05:16 บอกว่าเจอในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายครับอ้าว
00:05:16 → 00:05:20 ลองโควิชทำไมล่ะครับมีมีเหตุผลว่าทำไมผู้
00:05:20 → 00:05:22 หญิงถึงมีโอกาสที่จะเป็นมากกว่าผู้ชาย
00:05:22 → 00:05:25 มั้ยฮะอันนี้ยังไม่มีครับอาจารย์คือเป็น
00:05:25 → 00:05:28 ก็คือเข้าแกเป็นกษิติๆครับต้องทีถ้าเกิด
00:05:28 → 00:05:31 เทียบในคนที่แข็งแรงที่ไม่ค่อยมีโรคประจำ
00:05:31 → 00:05:33 ตัวที่เป็นลองโควิชนะครับก็เจอในผู้หญิง
00:05:33 → 00:05:36 มากกว่าผู้ชายเช่นเดียวกันโทรโทรศัพท์นะ
00:05:36 → 00:05:39 ครับแอบถามด้วยความอยากรู้ครับครับประการ
00:05:39 → 00:05:42 ลองโควิชเนี่ยใครเป็นผู้วินิจฉัยครับเจ้า
00:05:42 → 00:05:44 ตัวเป็นคนบอกเองว่ามีอาการแบบนี้แบบนี้
00:05:44 → 00:05:46 แบบนี้รู้สึกเกินหนึ่งใส่ไปลองโควิชแน่ๆ
00:05:46 → 00:05:49 หรือต้องไปพบคุณหมอก่อนแล้วคุณหมอถึงจะ
00:05:49 → 00:05:52 วินิจฉัยครับอะที่จริงสังเกตอาการตัวเอง
00:05:52 → 00:05:54 เนี่ยก็พอบอกได้ครับเพราะอย่างที่บอกว่า
00:05:54 → 00:05:57 ตัวลองครูวิทย์เนี่ยมันไม่ใช่ตัวโรคคะมัน
00:05:57 → 00:05:59 เป็นกลุ่มอาการอยู่ถ้าเกิดเราสังเกตว่า
00:05:59 → 00:06:02 เรามีพี่ตาลหนึ่งในที่พูดไปเมื่อสักครู่
00:06:02 → 00:06:04 นะครับก็อาจจะสงสัยได้ว่าเราเป็นภาวะลอง
00:06:04 → 00:06:06 โคบิตแต่ที่มีทั้งนั้นนะครับถ้าเกิดได้
00:06:06 → 00:06:10 รับการศึกษากับแพ่งเนี่ยก็จะมันใจได้มาก
00:06:10 → 00:06:12 กว่าครับเพราะว่าบางทีถ้าเกิดเรามีอาการ
00:06:12 → 00:06:14 ใดการหนึ่งเราแค่ได้รับการตรวจวินิจฉัย
00:06:14 → 00:06:18 ค้นหาหลักฐานเนี่ยอาจจะเจอว่าหอที่จริง
00:06:18 → 00:06:20 มันไม่ใช่รองครูวิทย์นะมันมีสาเหตุอยู่
00:06:20 → 00:06:22 อ่ะครับใช่ครับก็อาจจะสังเกตอาการตัวเอง
00:06:22 → 00:06:25 ก็ได้ครับแต่ว่าถ้าเกิดผ่านไปซัก 2-3
00:06:25 → 00:06:27 อาทิตย์แล้วอาการเนี่ยก็ไม่ดีขึ้นเราไม่
00:06:27 → 00:06:30 สามารถ Step อะไรได้เลยเช่นเราไม่สามารถ
00:06:30 → 00:06:33 กลับไปทำงานอะไรได้ปกตินะครับอาจจะลองหา
00:06:33 → 00:06:35 เวลาไปปรึกษาแพทย์หรือว่าปรึกษาแพทย์ทาง
00:06:35 → 00:06:37 ปัจจุบันได้จะเป็นเทรนด์ it ซีนเป็น
00:06:37 → 00:06:41 ออนไลน์ได้เหมือนกันครับอ่ะ
00:06:41 → 00:06:44 ม.ค