00:00:15 → 00:00:19 การที่ระดับน้ำตาลในเลือดหรือว่าค่าน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในเลือดเนี่ย
00:00:20 → 00:00:23 เริ่มสูงขึ้นแต่ยังไม่เข้าเกณฑ์ของการเป็นเบาหวาน
00:00:23 → 00:00:27 เราจะเรียกภาวะนี้ว่าภาวะเสี่ยงก่อนเป็นเบาหวานค่ะ
00:00:27 → 00:00:30 โดยในภาวะนี้เวลาที่เราไปเจาะเลือดอ่ะค่ะ
00:00:30 → 00:00:35 หากเป็นค่าน้ำตาลในเลือดหลังจากการอดอาหารมาประมาณ 8 ชั่วโมง
00:00:35 → 00:00:38 ก็จะอยู่ที่ระดับปริมาณ 100-125 ค่ะ
00:00:39 → 00:00:41 ส่วนถ้าเป็นค่าน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในเลือด
00:00:41 → 00:00:44 ก็จะอยู่ที่ระดับปริมาณ 5.7-6.4ค่ะ
00:00:45 → 00:00:49 สาเหตุสำคัญของการเกิดภาวะนี้ก็คือการที่เซลล์ต่างๆในร่างกายของเราเนี่ย
00:00:50 → 00:00:52 เริ่มมีการดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลินค่ะ
00:00:52 → 00:00:55 หรือเรียกว่าเป็นภาวะ Insulin Resistance
00:00:56 → 00:00:58 แต่ถ้าหากว่าเซลล์ในร่างกายของเราเนี่ย
00:00:58 → 00:01:02 เริ่มมีการดื้อก็คือไม่ค่อยตอบสนองต่อฮอร์โมนอินซูลิน
00:01:02 → 00:01:05 และไม่ดึงน้ำตาลเนี่ยจากในเลือดเข้าสู่เซลล์
00:01:05 → 00:01:07 ระดับน้ำตาลในเลือดก็จะสูงอยู่ตลอดค่ะ
00:01:08 → 00:01:09 และถ้าหากปล่อยไปเรื่อยๆ
00:01:09 → 00:01:13 และมีการดื้อของเซลล์ต่อฮอร์โมนอินซูลินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
00:01:13 → 00:01:16 ก็จะพัฒนาไปสู่การเป็นโรคเบาหวานในที่สุดค่ะ
00:01:17 → 00:01:18 สำหรับวิธีการดูแลตัวเอง
00:01:18 → 00:01:22 เพื่อลดภาวะการที่เซลล์ในร่างกายดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน
00:01:22 → 00:01:25 และลดระดับน้ำตาลในเลือดสามารถทำได้ดังนี้ค่ะ
00:01:26 → 00:01:30 ข้อแรกก็คือการหลีกเลี่ยงอาหารกลุ่มที่มีน้ำตาลสูงๆ
00:01:30 → 00:01:32 หรือว่าพวกกลุ่มแป้งพวกขัดขาวค่ะ
00:01:32 → 00:01:37 อย่างเช่นกลุ่มน้ำหวาน น้ำอัดลม ขนมหวาน เบเกอรี่
00:01:37 → 00:01:41 อาหารพวกเส้นๆอย่างพวกกลุ่มพาสต้า บะหมี่ เส้นก๋วยเตี๋ยว
00:01:41 → 00:01:45 น้ำผลไม้รวมไปถึงพวกกลุ่มผลไม้ที่มีรสหวานค่ะ
00:01:46 → 00:01:49 เพราะว่าเวลาที่เรารับประทานอาหารกลุ่มที่เป็นแป้งๆ
00:01:49 → 00:01:51 หรือว่าพวกกลุ่มที่มีน้ำตาลสูงเหล่านี้เข้าไปเนี่ย
00:01:51 → 00:01:54 ระดับน้ำตาลในเลือดของเราจะเพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว
00:01:55 → 00:01:58 แล้วทำให้ร่างกายเนี่ยต้องหลั่งฮอร์โมนอินซูลินออกมามากเกินไป
00:01:58 → 00:02:03 ส่งผลทำให้เซลล์ในร่างกายของเราดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลินได้ง่ายค่ะ
00:02:03 → 00:02:06 ควรที่จะเปลี่ยนไปรับประทานอาหารพวกกลุ่มแป้งไม่ขัดสี
00:02:07 → 00:02:10 อย่างพวกข้าวกล้องหรือว่าพวกกลุ่มธัญพืชไม่ขัดสี
00:02:10 → 00:02:13 พวกกลุ่มผักแล้วก็ผลไม้ที่รสไม่หวานแทนค่ะ
00:02:15 → 00:02:17 ข้อ 2 ก็คือในเรื่องของการออกกำลังกาย
00:02:17 → 00:02:20 แล้วก็ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติค่ะ
00:02:20 → 00:02:22 เพราะว่าเวลาที่เราออกกำลังกายเนี่ย
00:02:22 → 00:02:27 ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายแบบใดก็จะเป็นการกระตุ้นให้เซลล์ในร่างกาย
00:02:27 → 00:02:32 ดึงน้ำตาลในเลือดไปใช้ได้ดีขึ้นแล้วก็ลดการดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลินลงได้ค่ะ
00:02:32 → 00:02:34 ส่วนในเรื่องของการลดน้ำหนักนั้น
00:02:35 → 00:02:38 เนื่องจากเรามีการศึกษาพบว่าไขมันในร่างกายอ่ะค่ะ
00:02:39 → 00:02:40 โดยเฉพาะไขมันในช่วงท้องเนี่ย
00:02:41 → 00:02:45 จะมีการปล่อยสารที่กระตุ้นการอักเสบในร่างกายออกมา
00:02:45 → 00:02:49 แล้วสารเหล่านี้ก็ยังส่งผลต่อการดื้อของเซลล์ต่อฮอร์โมนอินซูลินอีกด้วยค่ะ
00:02:50 → 00:02:52 ข้อ 3 ก็คือการหลีกเลี่ยงปัจจัยอื่นๆ
00:02:53 → 00:02:56 ที่ส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเนี่ยขึ้นสูงได้ง่าย
00:02:57 → 00:03:01 ไม่ว่าจะเป็นความเครียด การพักผ่อนน้อย การนอนดึก
00:03:01 → 00:03:03 รวมไปถึงการสูบบุหรี่ด้วยค่ะ
00:03:03 → 00:03:06 ข้อ 4 ก็คือการเลือกรับประทานอาหารเสริมบางกลุ่ม
00:03:06 → 00:03:10 ที่มีส่วนช่วยในการลดการดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน
00:03:10 → 00:03:13 แล้วกระตุ้นให้เซลล์เนี่ยดึงน้ำตาลในเลือดไปใช้ได้ดีขึ้น
00:03:13 → 00:03:17 อาหารเสริมเหล่านี้ก็เช่น กลุ่มโอเมก้า 3 หรือน้ำมันปลา
00:03:18 → 00:03:21 อาหารเสริมกลุ่มแร่ธาตุอย่างเช่น Chromium Magnesium
00:03:22 → 00:03:25 อาหารเสริมกลุ่มวิตามินอย่างเช่นวิตามินดี
00:03:25 → 00:03:28 รวมไปถึงอาหารเสริมที่เป็นสารสกัดจากพืช
00:03:28 → 00:03:33 ที่มีสารอย่างกลุ่มพวก Polyphenols และ Flavonoid ก็สามารถช่วยได้ค่ะ
00:03:33 → 00:03:36 แต่ก็ควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทานด้วยนะคะ
00:03:37 → 00:03:41 นอกจากนี้หมอแนะนำว่าควรที่จะไปเจาะเลือดซ้ำอย่างน้อยทุกๆ 3 เดือนค่ะ
00:03:41 → 00:03:45 จนกว่าระดับน้ำตาลในเลือดลดลงอยู่ในเกณฑ์ปกติค่ะ