00:00:00 → 00:00:05 ผงชูรสจะทำให้ทานอาหารได้อร่อยขึ้น คนสูง อายุก็จะกินอาหารได้มากขึ้น ทำให้สุขภาพดีขึ้น
00:00:05 → 00:00:10 มีความสุข แล้วก็คุณภาพชีวิตดีขึ้น ข้อกังวลของผงชูรสเนี่ย ที่คลาสสิคมากๆเลยนะครับ
00:00:10 → 00:00:15 ก็คือกินแล้วผมจะร่วง เรื่องนี้ไม่มี หลักฐานเลยว่าสัมพันธ์กัน การกินผงชูรส
00:00:15 → 00:00:20 ก็จะทำได้รับโซเดียมน้อยกว่าการกินเกลือ ประมาณ 3 เท่า สวัสดีครับ ขอต้อนรับ
00:00:20 → 00:00:25 เข้าสู่ หมออ๊อกบอกเล่า ผงชูรสเนี่ยเป็นสิ่งที่ ใกล้ตัวนะครับ แล้วก็เป็นสิ่งที่เกือบทุกคน
00:00:25 → 00:00:31 กินกันทุกวันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะใส่ในอาหาร หรือแม้แต่ใส่ในขนม แล้วผงชูรส
00:00:31 → 00:00:37 จริงๆแล้วเนี่ยคืออะไร มีประโยชน์และโทษมี อะไรบ้าง กินมากเป็นอันตรายไหม ความเชื่อหลาย
00:00:37 → 00:00:42 อย่างที่เกี่ยวกับผงชูรสนะครับ เช่นกิน แล้วผมร่วง หรือว่ากินแล้วจะสมองเสื่อม
00:00:42 → 00:00:48 เป็นความจริงแค่ไหน ท่านใดที่คิดว่า ผงชูรสดี ท่านใดที่คิดว่าไม่ดี หรือใครที่
00:00:48 → 00:00:54 ชอบกิน หรือใครที่ไม่ชอบกินผงชูรส ก็เม้นต์ มาเล่าเม้นต์มาแชร์ประสบการณ์กันนะครับ
00:00:54 → 00:01:00 ผงชูรสคือสารที่มีชื่อว่า โมโนโซเดียม กลูตาเมต ตัวผงชูรสนะครับ ถูกค้นพบในปี 1908
00:01:00 → 00:01:05 หรือว่าปีพ.ศ.2451 ค้นพบโดยนักวิทยาศาสตร์ ชาวญี่ปุ่น
00:01:05 → 00:01:11 คือดร.คิคุนาเอะ อิเคดะโดยเขาสังเกตนะครับว่า ซุปดาชิ ซึ่งเป็นซุปชนิดนึงของญี่ปุ่น
00:01:11 → 00:01:16 มีรสอร่อย และรสอร่อยที่ว่าเนี่ย เรียกว่ารสอูมามิ เขาเรียกกันว่าเป็น
00:01:16 → 00:01:20 รสชาติที่ 5 คือก่อนหน้านี้ในทาง วิทยาศาสตร์นะครับ รสชาติพื้นฐานของมนุษย์
00:01:20 → 00:01:27 ถือว่ามี 4 รสชาติ ก็คือรสเปรี้ยว หวาน เค็ม แล้วก็ขม อูมามิเนี่ยมาเป็นรสชาติ
00:01:27 → 00:01:32 ที่ 5 ในซุปดาชิมีส่วนประกอบหลักหลาย อย่างนะครับ หนึ่งในนั้นก็คือสาหร่ายคอมบุ
00:01:32 → 00:01:38 เขาก็เลยเอาสาหร่ายคอมบุ มาทำให้แห้ง เอามาป่น แล้วก็ต้ม แล้วก็ตกผลึกออกมาได้
00:01:38 → 00:01:44 เป็นผลึกกรดกลูตามิก กรดกลูตามิกตัวนี้ไม่ใช่ ของแปลกใหม่นะครับ อาหารหลายอย่างเช่น
00:01:44 → 00:01:49 โปรตีนหน่วยเล็กที่สุดของโปรตีน ก็มีหลาย ตัวนะครับ กรดกลูตามิกก็เป็นหนึ่งในนั้น
00:01:49 → 00:01:54 และในอาหารบางอย่างเนี่ย เราก็ยังเจอ กรดกลูตามิกหรือว่ากลูตาเมตได้เป็นปกติ
00:01:54 → 00:02:00 แต่ในสาหร่ายคอมบุนี่มีมากหน่อย ก็เลยมีรส อูมามิที่ชัดเจน พอเขาได้กรดกลูตามิกแล้ว
00:02:00 → 00:02:05 เขาก็พบว่า ถ้าเอากรดกลูตามิกที่ได้ เนี่ยมาทำปฏิกิริยากับสารประกอบโซเดียม(ด่าง)
00:02:05 → 00:02:10 ก็จะทำให้เกิดสารประกอบใหม่ที่เสถียรขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น และที่สำคัญเนี่ยรสชาติก็
00:02:10 → 00:02:16 ชัดขึ้นด้วย ปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นก็ เกิดเป็นผงชูรส หรือว่าโมโนโซเดียมกลูตาเมต นั่นเอง
00:02:16 → 00:02:22 ทำให้ในปีถัดไปนะครับ 2452 เขาก็ เลยจดลิขสิทธิ์ แล้วก็เข้าเป็นหุ้นส่วนกับ
00:02:22 → 00:02:28 บริษัทอายิโนะโมะโต๊ะ ผลิตผงชูรสยี่ห้อ อายิโนะโมะโต๊ะออกมา ที่เล่ามาทั้งหมดคือจุดเริ่มต้น
00:02:28 → 00:02:33 ของผงชูรสนะครับ แต่ถ้าในการผลิตแบบ อุตสาหกรรมจริงๆเนี่ย เขาก็จะเอาอ้อย
00:02:33 → 00:02:37 มันสำปะหลังแล้วก็กากน้ำตาล มาหมัก หมัก กับแบคทีเรีย ซึ่งการหมักแบบนี้จะทำให้
00:02:37 → 00:02:43 เกิดกรดกลูตามิกแบบเดียวกับกรดกลูตามิกที่ อยู่ในสาหร่ายคอมบุครับ เรามาดูเรื่อง
00:02:43 → 00:02:48 ประโยชน์หรือว่าข้อดีของผงชูรสกันนะครับ ผงชูรสคือโมโนโซเดียมกลูตาเมต เดี๋ยวผมจะ
00:02:48 → 00:02:53 เล่าเรื่องประโยชน์ของกลูตาเมตก่อนนะครับ เจ้ากลูตาเมตเนี่ยก็คือสารที่เราเจอได้ใน
00:02:53 → 00:02:58 อาหารหลายอย่างอยู่แล้ว เช่นในมะเขือเทศ สุก เห็ด ในสาหร่ายวากาเมะ หรือว่าใน
00:02:58 → 00:03:03 บล็อกเคอรี่ หรือว่าในแอสปารากัสก็มี หรือ เวลาร่างกายเราย่อยโปรตีนเสร็จแล้วเนี่ย
00:03:03 → 00:03:08 เราก็จะได้กลูตาเมตเหมือนกัน เหมือนกับ กลูตาเมตที่เราได้จากผงชูรส เพราะฉะนั้น
00:03:08 → 00:03:13 กลูตาเมตที่เราได้จากผงชูรสเนี่ยนะครับ ก็ไม่ต่างกับกลูตาเมตที่เราได้จากการกิน
00:03:13 → 00:03:19 อาหารอื่นๆ ซึ่งร่างกายเราก็จะเอากลูตาเมต เนี่ยไปใช้ในการสร้างโปรตีน สร้างสาร
00:03:19 → 00:03:25 สื่อประสาท ใช้ผลิตฮอร์โมน หรือว่าเป็นสาร ตั้งต้นในการสร้างพลังงานให้กับเซลล์ ต่อมาเรา
00:03:25 → 00:03:30 มาดูส่วนโซเดียมกันนะครับ เรามาดูมุมดีๆ ของโซเดียมในผงชูรสกัน คือก่อนที่จะมี
00:03:30 → 00:03:36 ผงชูรสนะครับ คนเราก็จะปรุงรสด้วยอย่างอื่น เช่นพวกเครื่องเทศ น้ำตาลแล้วก็เกลือ
00:03:36 → 00:03:41 ถ้าพูดถึงเกลือ เกลือหรือว่าโซเดียมคลอไรด์ ก็จะมีโซเดียมอยู่ ซึ่งในเกลือเนี่ย
00:03:41 → 00:03:47 จะมีโซเดียม 40% แต่ถ้ามาดูผงชูรสนะครับ ผงชูรสเนี่ยจะมีโซเดียมประมาณ 12% ซึ่ง
00:03:47 → 00:03:53 หมายถึงว่าถ้าเราเอาผงชูรสกับเกลือที่มี น้ำหนักเท่าๆกันมากิน การกินผงชูรสนะครับ
00:03:53 → 00:03:58 ก็จะทำได้รับโซเดียมน้อยกว่าการกินเกลือ ประมาณ 3 เท่า ซึ่งโซเดียมที่น้อยกว่าแบบนี้
00:03:58 → 00:04:03 นะครับ ก็จะดีกว่าในคนที่มีโรคบางอย่างที่ ต้องคุมปริมาณโซเดียม เช่นโรคความดันโลหิตสูง
00:04:03 → 00:04:09 โรคหัวใจ หรือว่าโรคไตเรื้อรัง ข้อดีต่อมา ก็คือการที่ผงชูรสนะครับ ช่วยเพิ่มรสชาติ
00:04:09 → 00:04:14 อาหาร ก็จะทำให้อาหารอร่อยขึ้น อันนี้ ก็จะดีกับคนสูงอายุนะครับ เพราะพอเรา
00:04:14 → 00:04:20 สูงอายุมากขึ้นเนี่ย บางคนก็จะมีการรับ รู้รสแล้วก็กลิ่นที่ลดลง ทานอาหารก็จะไม่
00:04:20 → 00:04:26 ค่อยอร่อย หรือไม่ค่อยอยากอาหาร ซึ่งผงชูรส ก็จะเข้ามาช่วยตรงนี้ครับ ผงชูรสจะทำ
00:04:26 → 00:04:31 ให้ทานอาหารได้อร่อยขึ้น คนสูงอายุก็จะกิน อาหารได้มากขึ้น ทำให้สุขภาพดีขึ้น มีความสุข
00:04:31 → 00:04:36 แล้วก็คุณภาพชีวิตดีขึ้น ประโยชน์อีก อย่างนึงนะครับ เชื่อมั้ยครับว่าผงชูรส
00:04:36 → 00:04:41 เนี่ยจะทำให้น้ำลายเราออกมามากขึ้น เคย ได้ยินคำว่าเปรี้ยวจนน้ำลายสอใช่ไหมครับ
00:04:41 → 00:04:47 เปรี้ยวเนี่ยทำให้น้ำลายออกมามากขึ้น รสอูมามิก็ทำให้น้ำลายออกมาเหมือนกัน การที่
00:04:47 → 00:04:51 น้ำลายออกมามากขึ้นเนี่ย มันดียังไง ตรงเนี้ย จะดีกับคนที่มีภาวะปากแห้งครับ
00:04:51 → 00:04:57 ไม่ว่าจะเป็นปากแห้งจากโรค ปากแห้งจากการใช้ยา บางอย่าง หรือว่าในคนสูงอายุบางคนที่ปากแห้ง
00:04:57 → 00:05:02 อาการพวกนี้ก็จะดีขึ้นได้ จะเห็น ว่าผงชูรสเนี่ยมีประโยชน์หลายอย่างอยู่นะครับ
00:05:02 → 00:05:08 ถ้างั้นเรากินผงชูรสเยอะๆดีไหมครับ จะเป็น อะไรไหม ผงชูรสนะครับ ถ้ากินเยอะไป บางคน
00:05:08 → 00:05:14 บางคนนะครับ บางคนก็ไม่เป็น บางคนเนี่ยจะทำ ให้เกิดอาการได้ เช่นอาการปวดศีรษะ หน้าแดง
00:05:14 → 00:05:20 คลื่นไส้อาเจียน หรือว่าท้องอืด มีตัวเลขที่ WHO ระบุไว้นะครับ ถ้ากินผงชูรสมื้อนึงมาก
00:05:20 → 00:05:27 กว่า 3 กรัมเนี่ย ก็อาจจะมีอาการแบบนี้ได้ ตามคำแนะนำของ WHO หรือว่า FDA หลาย
00:05:27 → 00:05:31 ประเทศนะครับเช่นในอเมริกาหรือยุโรปเนี่ย ถ้าเรากินผงชูรสในระดับปกติทั่วไป
00:05:31 → 00:05:36 ก็ถือว่าปลอดภัย คือตัวเลขเนี่ยอยู่ ที่วันนึงเนี่ยประมาณ 30 มิลลิกรัมต่อ
00:05:36 → 00:05:42 น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม แต่บางที่ให้ถึง 120 มิลลิกรัม ถ้าเราจับตัวเลข 30 มิลลิกรัมนะครับ ถ้าน้ำหนัก
00:05:42 → 00:05:48 50 กิโลเนี่ย วันนึงก็ 1.5 กรัม หรือถ้า น้ำหนัก 70 กิโลเนี่ยวั นนึงก็ 2 กรัม
00:05:48 → 00:05:54 โดยประมาณ ผมได้เล่าถึงข้อดีของผงชูรสแล้วนะ ครับ ต่อมาก็คือจะเล่าว่าใครควรหลีกเลี่ยง
00:05:54 → 00:06:00 ผงชูรส ความเชื่อและความกังวลเกี่ยวกับ ผงชูรสเนี่ยมีอะไรเป็นยังไงบ้าง และผงชูรส
00:06:00 → 00:06:05 เนี่ยมีผลกับสมองแค่ไหน คนที่ควรหลีกเลี่ยง ผงชูรสนะครับ อันแรกเลยนะครับ ก็คือ
00:06:05 → 00:06:11 คนที่ไวกับผงชูรส ก็คือกินนิดเดียวก็มี อาการปวดศีรษะ หน้าแดง คลื่นไส้ แบบเนี้ยก็
00:06:11 → 00:06:16 ควรหลีกเลี่ยง ต่อมาก็คือคนที่เป็นไมเกรน นะครับ ผงชูรสเนี่ยอาจจะกระตุ้นทำให้เกิด
00:06:16 → 00:06:22 ไมเกรนในบางคนได้ สำหรับคนที่มีภาวะความ ดันโลหิตสูง ภาวะทางหัวใจ คนที่เป็นโรคไต
00:06:22 → 00:06:27 หรือว่าโรคไตเรื้อรัง คนที่มีภาวะเกลือแร่ ในเลือดที่ผิดปกติ ก็ควรระวังนะครับเพราะ
00:06:27 → 00:06:32 ว่าการกินผงชูรสเนี่ยจะทำให้โซเดียมใน เลือดเนี่ยสูงขึ้นได้ แล้วก็คนที่มีภาวะ
00:06:32 → 00:06:36 สมองหรือสมองเสื่อมนะครับ เช่น dementia อัลไซเมอร์ คนที่เป็นโรคพาร์กินสันเนี่ยก็
00:06:36 → 00:06:42 ควรจะหลีกเลี่ยงครับ ต่อมาก็คือเรื่อง ข้อกังวลเกี่ยวกับผงชูรส ข้อกังวลของผงชูรส
00:06:42 → 00:06:46 เนี่ยที่คลาสสิคมากๆเลยนะครับก็คือกิน แล้วผมจะร่วง เรื่องเนี้ยไม่มีหลักฐานเลย
00:06:46 → 00:06:51 นะครับ ไม่มีหลักฐานเลยว่าสัมพันธ์กัน ก็ คือเรื่องของเส้นผมกับกลูตาเมตหรือว่า
00:06:51 → 00:06:56 ตัวรับกลูตาเมตเนี่ยไม่เกี่ยวข้องกันเลย ส่วนที่ ว่าผงชูรสเนี่ยจะทำให้เกิดมะเร็งนะครับ
00:06:56 → 00:07:01 เรื่องนี้ก็ไม่พบว่ามีหลักฐานที่ชัดเจน ว่าผงชูรสเนี่ยทำให้เป็นมะเร็งได้ อีกอัน
00:07:01 → 00:07:06 ก็คือคนท้องกินได้ไหม ในสัตว์ทดลองนะครับ ให้สัตว์ทดลองกินผงชูรสในระดับปกติ
00:07:06 → 00:07:11 ก็ไม่ได้มีผลกับลูกในท้อง แต่ถ้ากิน ในระดับที่เยอะมากๆเนี่ยอันนี้มีผล
00:07:11 → 00:07:16 แต่สำหรับในคนนะครับ จนถึงปัจจุบันเนี่ยก็ยัง ไม่พบ เพราะงั้นก็ยังถือว่ากินได้นะครับ
00:07:16 → 00:07:21 ไม่ใช่ข้อห้าม แต่เพื่อความสบายใจ ใครจะ หลีกเลี่ยงก็ได้นะครับ หรือถ้ากินเนี่ยก็
00:07:21 → 00:07:28 อย่ากินเยอะเกินไป ท่านใดที่มีข้อกังวลที่ ยังสงสัยอยู่ ก็เม้นต์มาคุยมาแชร์กันได้นะครับ
00:07:28 → 00:07:33 ต่อมาก็คือเรื่องผงชูรสกับสมอง อันเนี้ยผมขอเล่าละเอียดหน่อยนะครับ
00:07:33 → 00:07:38 ผงชูรสเนี่ยจะมีกลูตาเมต ซึ่งปกติแล้ว กลูตาเมตเป็นสารที่จำเป็นสำหรับสมอง
00:07:38 → 00:07:44 กลูตาเมตจัดเป็นสารสื่อประสาทประเภท กระตุ้นสมอง ทำให้เกิดการเรียนรู้และทำให้
00:07:44 → 00:07:49 เกิดความทรงจำ แต่การกระตุ้นที่มากเกินไป ก็เกิดผลเสียได้ครับ คือจะทำให้เซลล์
00:07:49 → 00:07:54 ประสาทเนี่ยเกิดอนุมูลอิสระ การทำงานของ เซลล์ก็จะผิดปกติไป แล้วก็เซลล์สมอง
00:07:54 → 00:08:00 ตายได้ในที่สุด สำหรับในคนปกติที่แข็งแรง ดีนะครับ ที่ไม่มีภาวะโรคทางสมองหรือโรค-
00:08:00 → 00:08:05 สมองเสื่อมเนี่ย ก็ไม่น่ากังวลในเรื่องนี้ เพราะถ้าเรากินผงชูรสเข้าไปนะครับ พอใน
00:08:05 → 00:08:10 เลือดของเราเนี่ยมีกลูตาเมตในเลือดเพิ่มขึ้น ตับของเราก็จะจัดการสลายกลูตาเมตไปได้
00:08:10 → 00:08:14 อีกอย่างนึงก็คือ ร่างกายของเราเนี่ยจะ มีสิ่งที่ป้องกันสมองตามธรรมชาติที่เรียกว่า
00:08:14 → 00:08:19 ตัวกั้นระหว่างเลือดกับสมองหรือว่า Blood brain barrier ตัวกั้นเนี่ยจะ
00:08:19 → 00:08:22 ทำหน้าที่ไม่ยอมให้สารอะไรก็ตามที่ อยู่ในเลือดนะครับ ผ่านเข้าไปในสมองได้ง่ายๆ
00:08:22 → 00:08:30 เพราะฉะนั้นกลูตาเมตในผงชูรสเนี่ยก็ ไม่สามารถเข้ามาทำลายสมองได้ แต่สำหรับคน
00:08:30 → 00:08:34 ที่มีภาวะโรคทางสมองบางอย่าง หรือภาวะสมอง เสื่อมนะครับ เช่นโรคอัลไซเมอร์ หรือว่าโรค
00:08:34 → 00:08:39 พาร์กินสัน คือโรคพวกเนี้ยตัวโรคเองก็ มีภาวะการกระตุ้นที่มากเกินไปอยู่แล้ว
00:08:39 → 00:08:45 แถมตัวกั้นระหว่างเลือดกับสมองในคน ไข้ที่เป็นโรคเนี้ย ก็ทำงานไม่ได้ 100%
00:08:45 → 00:08:50 เหมือนคนที่แข็งแรงปกติทั่วไป เพราะฉะนั้น การกินผงชูรสอาจจะ อาจจะนะครับทำให้
00:08:50 → 00:08:56 กลูตาเมตในเลือดเนี่ยเข้าไปในสมองมากขึ้น อาจจะทำให้โรคแย่ลงไปได้อีกหรือเปล่า
00:08:56 → 00:09:01 เรื่องเนี้ยยังมีความเห็นแย้งอยู่นะครับ เพราะว่าอันที่ 1 ก็คือยังไม่มีงานวิจัย
00:09:01 → 00:09:06 ที่ชัดเจนนะครับที่บอกว่าคนที่เป็นโรค สมองแล้วกินผงชูรสเนี่ยจะทำให้อาการแย่ลง
00:09:06 → 00:09:11 แล้วก็ร่างกายของเราเนี่ยจะมีการจัดการ กลูตาเมตในเลือดได้อยู่แล้ว ซึ่งด้วยเหตุผล
00:09:11 → 00:09:16 เนี่ยเขาก็บอกว่าการกินเล็กน้อยหรือการ กินในระดับปกติเนี่ย ก็ไม่น่าจะมีปัญหา
00:09:16 → 00:09:22 แต่ถ้าให้เลือกนะครับ ผมก็คิดว่าในทางทฤษฎี เนี่ยมันมีความเป็นไปได้ ถ้าไม่ลำบากและก็
00:09:22 → 00:09:28 คิดว่าทำได้เนี่ย ผมคิดว่างดก็น่าจะดีแล้ว ก็ปลอดภัยกว่าครับ บางท่านอาจจะเคย
00:09:28 → 00:09:32 ได้ยินว่า มีการศึกษาทดลองว่าผงชูรส ทำให้สมองเสื่อมไม่ใช่เหรอ อันนี้ใช่ครับ
00:09:32 → 00:09:37 แต่ทั้งหมดนี้เป็นการทดลองในหนู ทั้งนั้นครับ มีการทดลองหลายการทดลองเลย
00:09:37 → 00:09:42 และเป็นผลชัดเจนแล้วว่า ผงชูรสเนี่ยจะ ทำให้หนูสมองเสื่อมได้ แต่ก็นะครับข้อมูล
00:09:42 → 00:09:46 พวกนี้เอามาใช้ในคนไม่ได้นะครับ เพราะว่า โดสที่ใช้ทดลองในหนูเนี่ยจะสูงกว่า
00:09:46 → 00:09:51 ปกติ และอันที่ 2 ก็คือตัวกั้นระหว่าง เลือดกับสมองในหนูกับในคนเนี่ยต่างกัน
00:09:51 → 00:09:56 ในหนูจะกรองสารได้ไม่เหมือน ในคน ซึ่งตรงนี้ก็อาจจะทำให้กลูตาเมตใน
00:09:56 → 00:10:02 ผงชูรสเข้าไปทำลายสมองหนูได้ สำหรับในคนที่สมองเสื่อมนะครับ ผงชูรส
00:10:02 → 00:10:07 อาจจะไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวเสมอไป มีการศึกษา นะครับที่บอกว่า ผงชูรสเนี่ยช่วย
00:10:07 → 00:10:12 ให้สมองเสื่อมเนี่ยดีขึ้นนะครับ พบว่า ผงชูรสช่วยให้ผู้ป่วยสมองเสื่อมเนี่ย
00:10:12 → 00:10:17 ทานอาหารได้อร่อยขึ้น มีความสุขกับการทาน มากขึ้น ผู้ป่วยมีการพัฒนาการในเรื่อง
00:10:17 → 00:10:23 ของการรับรู้คำพูด การรับรู้เรื่องของเวลา ได้ดีขึ้น แต่นี้เป็นการศึกษาระยะสั้นๆ
00:10:23 → 00:10:28 นะครับประมาณ 4 เดือนกับการศึกษากับคนแค่ 79 คน ซึ่งอธิบายได้ว่าการที่รับรู้อะไร
00:10:28 → 00:10:33 ได้ดีขึ้นเนี่ย เชื่อว่าเกิดจากกลูตาเมต ไปกระตุ้นตัวรับกลูตาเมตที่ทางเดินอาหาร
00:10:33 → 00:10:40 แล้วส่งสัญญาณไปที่สมองอีกที ทำให้อารมณ์ ความอยากอาหาร การประมวลผล การรับรู้
00:10:40 → 00:10:45 การตัดสินใจดีขึ้น สำหรับผงชูรสที่ทำให้สมอง เสื่อมดีขึ้นเนี่ยอันนี้ต้องรองานวิจัย
00:10:45 → 00:10:50 ที่ยืนยันต่อไปนะครับ งานวิจัยเรื่องนี้ ยังน้อยมากๆอยู่ ก็หวังว่าคลิปนี้จะช่วย
00:10:50 → 00:10:55 ให้ทุกท่านได้รู้จักผงชูรสมากขึ้นนะครับ ถ้าเห็นว่าคลิปนี้มีประโยชน์ ก็ช่วยแชร์ด้วย
00:10:55 → 00:11:00 นะครับ ถ้าชอบก็รบกวนช่วยกดถูกใจ แต่ถ้าไม่ ชอบ ก็ช่วยเม้นต์มาบอกกันหน่อยนะครับว่า
00:11:00 → 00:11:08 ไม่ชอบตรงไหน จะได้ปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้น พบกันใหม่ในคลิปหน้านะครับ สวัสดีครับ
00:11:08 → 00:11:12 [เพลง]