00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีครับสืบเนื่องจากเพจดังเพจ 1 นะ
00:00:02 → 00:00:04 ครับได้มีการนำเสนอเรื่องราวของโบท็อกซ์
00:00:04 → 00:00:07 ผ่านมุมมองของบุคคลท่านหนึ่งและบุคคลท่าน
00:00:07 → 00:00:09 นี้นะครับยังได้นำเสนอเพิ่มเติมเกี่ยว
00:00:09 → 00:00:12 ข้องกับเรื่องของการดูแลรักษาและฟื้นฟู
00:00:12 → 00:00:15 เซลล์ด้วยวิธีตามธรรมชาตินะครับผมก็เลย
00:00:15 → 00:00:18 เกิดความสนใจในเรื่องราวของวิธีที่เขาใช้
00:00:18 → 00:00:20 ว่ามันคืออะไรกันแน่บุคคลท่านนี้นะครับ
00:00:20 → 00:00:22 เป็นนักเทคนิคการแพทย์แล้วก็ยังทำวิจัย
00:00:22 → 00:00:25 เรื่องราวเกี่ยวข้องกับเซลล์มีการตีพิมพ์
00:00:25 → 00:00:28 ในวารสารต่างๆอยู่ด้วยนะครับหลังจากที่ผม
00:00:28 → 00:00:31 ได้ทำการศึกษาเพิ่มเติมจากคลิปวีดีโองาน
00:00:31 → 00:00:33 วิจัยของเค้าแล้วก็เว็บไซต์ต่างๆของเค้า
00:00:33 → 00:00:36 แล้วเนี่ยก็รู้สึกว่าเออมันน่าสนใจดีและ
00:00:36 → 00:00:39 ผมคิดว่าหน่วยงานต่างๆของประเทศไทยเนี่ย
00:00:39 → 00:00:41 ควรจะเข้าไปศึกษาและตรวจสอบด้วยว่าสิ่ง
00:00:41 → 00:00:43 เหล่านี้เนี่ยมันเป็นยังไงบ้างเพราะถ้า
00:00:43 → 00:00:46 มันดีมากๆจริงๆเนี่ยผมคิดว่าน่าจะเป็น
00:00:46 → 00:00:48 ประโยชน์กับคนในประเทศไทยแล้วก็ทั่วโลก
00:00:48 → 00:00:51 อย่างสูงเลยทีเดียวนะครับแต่ก่อนที่เราจะ
00:00:51 → 00:00:54 ตัดสินใจใช้วิธีการรักษาโดยธรรมชาตินั้น
00:00:55 → 00:00:57 เราก็จะต้องเข้าใจในหลายๆเรื่องก่อนนะ
00:00:57 → 00:00:59 ครับซึ่งวันนี้เนี่ยผมก็จะเอาสิ่งที่ผม
00:00:59 → 00:01:02 ได้ไปศึกษามาเล่าให้ทุกคนฟังนะครับรวม
00:01:02 → 00:01:05 ทั้งคลิปวีดีโอต่างๆหรือไม่ว่าจะเป็น
00:01:05 → 00:01:07 โพสต์ต่างๆเว็บไซต์ต่างๆของบุคคลท่านนี้
00:01:07 → 00:01:10 ผมก็ได้ทำการเซฟไว้เรียบร้อยแล้วเพื่อว่า
00:01:10 → 00:01:13 จะได้เอามาดูในอนาคตต่อนะครับเผื่อว่า
00:01:13 → 00:01:17 เป็นกรณีศึกษาอะไรที่จะสำคัญขึ้นมานะครับ
00:01:17 → 00:01:19 พบกับผมนะครับนายแพทย์ธนีธนียยวเป็น
00:01:19 → 00:01:21 อาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
00:01:21 → 00:01:23 เชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤต
00:01:23 → 00:01:27 บำบัดนะครับบุคคลท่านนี้นะครับก็เป็นนัก
00:01:27 → 00:01:30 เทคนิคการแพทย์ซึ่งจบการศึกษาจากประเทศ
00:01:30 → 00:01:33 ไทยนะครับแล้วก็ไปศึกษาที่ต่างประเทศใน
00:01:33 → 00:01:36 ระดับปริญญาโทและปริญญาเอกที่ฝรั่งเศสนะ
00:01:36 → 00:01:39 ครับกลับมาทำงานที่ประเทศไทยนะครับก็มี
00:01:39 → 00:01:41 ตำแหน่งทางวิชาการด้วยนะครับรวมทั้งยัง
00:01:41 → 00:01:44 ได้มีการก่อตั้งบริษัทเพื่อที่จะทำการ
00:01:44 → 00:01:49 วิจัยต่างๆนะฮะแล้วก็ทำการมีบริการตรวจ
00:01:49 → 00:01:54 รักษาให้กับคนด้วยนะครับโดยสิ่งที่เค้าทำ
00:01:54 → 00:01:57 นะครับก็มีเท่าที่ผมรวบรวมมานะมีหลักๆ
00:01:57 → 00:01:59 อยู่ 3 อย่างนะครับอย่างแรกเป็นบริษัทที่
00:01:59 → 00:02:02 ทำงานวิจัยต่างๆให้นะครับอย่างที่ 2 ก็
00:02:02 → 00:02:05 คือเป็นบริษัทที่มีการทำงานร่วมกับบริษัท
00:02:05 → 00:02:09 แรกนะครับแต่ว่าก็จะมีการดูแลสุขภาพให้
00:02:09 → 00:02:11 กับคนที่เข้ามาปรึกษาแบบองค์รวมนะครับมี
00:02:11 → 00:02:14 การผลิตสารสกัดเอามาใช้ด้วยนะครับเป็นสาร
00:02:14 → 00:02:18 สกัดจากวายแดงร่วมกับไม้มาม่านะครับเท่า
00:02:18 → 00:02:20 ที่ผมไปดูมานะครับอาจจะมีชื่ออื่นก็ได้นะ
00:02:20 → 00:02:23 ครับแล้วก็ยังมีเรื่องของโรงเรียนอันนึง
00:02:23 → 00:02:27 เป็นโรงเรียนที่บอกว่าอ่าช่วยให้การศึกษา
00:02:27 → 00:02:29 เรื่องราวเกี่ยวเกี่ยวข้องกับการวิจัยสาร
00:02:29 → 00:02:32 ธรรมชาติเพื่อสุขภาพโดยอันนี้เนี่ยเขาบอก
00:02:32 → 00:02:35 ว่าอยู่ภายใต้การศึกษาจากภาคเอกชนนะครับ
00:02:35 → 00:02:37 ก็มีการให้ประกาศสนนบัตรด้วยว่าถ้าใครจบ
00:02:37 → 00:02:39 ตรงนี้มาเนี่ยก็จะได้ประกาศสนนียบัตร
00:02:39 → 00:02:41 เกี่ยวข้องกับเรื่องของสเต็มเซลล์และการ
00:02:41 → 00:02:44 ฟื้นฟูสุขภาพนี่คือเรื่องราวของเขานะครับ
00:02:44 → 00:02:46 และทีนี้บุคคลท่านนี้นะครับก็มีแนวคิด
00:02:46 → 00:02:49 ต่างๆมากมายเลยทีเดียวนะครับโดยสิ่งที่
00:02:49 → 00:02:51 เขา้าได้ศึกษาเกี่ยวข้องกับเซลล์เนี่ย
00:02:51 → 00:02:54 เค้าศึกษาเรื่องของพฤติกรรมของเซลล์การ
00:02:54 → 00:02:57 สื่อสารของเซลล์ระหว่างเซลล์นะนะครับว่า
00:02:57 → 00:02:59 มันทำตัวยังไงเซลล์มันเครียดหรือเปล่านะ
00:02:59 → 00:03:02 ครับนี่คือสิ่งที่เขาทำนะฮะนอกเหนือจาก
00:03:02 → 00:03:05 นี้เค้าเนี่ยบอกว่าภายใต้สิ่งที่เาค้าทำ
00:03:05 → 00:03:08 ทั้งหมดเนี่ยมันยังมีคลินิกเวชกรรมซึ่ง
00:03:08 → 00:03:11 เจ้าตัวเนี่ยบอกว่ามีแพทย์แผนปัจจุบันรวม
00:03:11 → 00:03:14 อยู่ในนั้นด้วยนะครับดูแล้วอ่าอันนี้น่า
00:03:14 → 00:03:17 จะน่าสนใจเลยทีเดียวสิ่งที่เขาทำเวลาคน
00:03:17 → 00:03:21 เข้ามาตรวจนะครับก็มีการตรวจสิ่งที่เรียก
00:03:21 → 00:03:23 ว่า Biomarkers นะครับ Biomarkers เนี่ย
00:03:24 → 00:03:28 ต้องบอกว่ามันแปลว่าสิ่งชี้วัดต่างๆ
00:03:28 → 00:03:30 เกี่ยวข้องกับเรื่องของชีววิทยาในร่างกาย
00:03:30 → 00:03:33 ของเราซึ่งแพทย์ของเราเนี่ยแผนปัจจุบันก็
00:03:33 → 00:03:36 มีการใช้นะครับยกตัวอย่างเช่นเราตรวจค่า
00:03:36 → 00:03:40 ฮีโมบิน A1C ตัวนี้ก็เป็นตัวชี้วัดของ
00:03:40 → 00:03:43 ระดับน้ำตาลสะสมในร่างกายของเราเราตรวจ
00:03:43 → 00:03:45 ค่า High Sensitivity CRP ตัวนี้ก็เป็น
00:03:45 → 00:03:48 สิ่งที่เราเอามาตรวจดูซิว่าในร่างกายของ
00:03:48 → 00:03:50 เรามีการอักเสบมากน้อยแค่ไหนนะครับแต่
00:03:50 → 00:03:54 บุคคลท่านนี้เขาก็บอกว่า Biomarkers ที่
00:03:54 → 00:03:56 เขาใช้เนี่ยมันเป็น Biomarkers ที่เขา
00:03:56 → 00:03:59 ศึกษาและพัฒนาคิดขึ้นมาเองไม่ใช่ตัวเดียว
00:03:59 → 00:04:02 กันกับที่แพทย์แผนปัจจุบันของเราใช้นะ
00:04:02 → 00:04:05 ครับซึ่งมันเป็นตัวอะไรนั้นผมก็ไม่แน่ใจ
00:04:05 → 00:04:07 เหมือนกันเพราะว่าไม่ได้มีการกล่าวไว้ใน
00:04:07 → 00:04:10 คลิปต่างๆของเค้าอ่ะนะครับทีนี้หลังจาก
00:04:10 → 00:04:12 ที่เขาตรวจมาเนี่ยเค้าก็บอกว่าBiโอมเกอร์
00:04:13 → 00:04:15 ของเขาเนี่ยสามารถบอกได้เลยนะครับว่า
00:04:15 → 00:04:18 สุขภาพร่างกายของบุคคลนี้มันเป็นยังไงไม่
00:04:18 → 00:04:21 ใช่แค่นั้นครับบอกได้อีกว่าสุขภาพจิตของ
00:04:21 → 00:04:23 บุคคลท่านนี้มันเป็นยังไงซึ่งอันเนี้ยผม
00:04:23 → 00:04:26 มองว่ามันต้องเจ๋งมากที่biomarkอร์อัน
00:04:26 → 00:04:30 หนึ่งสามารถจะบอกถึงระดับสุขภาพจิตได้
00:04:30 → 00:04:32 เพราะว่าในแพทย์แผนปัจจุบันเนี่ยแม้ว่า
00:04:32 → 00:04:35 เราจะวิจัยกันมานานนะครับเรายังไม่เจอ
00:04:35 → 00:04:37 biomarkเกอร์อะไรที่บอกถึงสุขภาพจิตได้
00:04:37 → 00:04:40 เลยสักตัวเดียวหรือเอาหลายตัวมารวมกันก็
00:04:40 → 00:04:43 บอกไม่ได้เหมือนกันว่าอันนี้คนนี้สุขภาพ
00:04:43 → 00:04:45 จิตดีหรือสุขภาพจิตไม่ดีหรือมีปัญหา
00:04:46 → 00:04:48 เรื่องอะไรกันแน่นะครับแต่บุคคลท่านนี้
00:04:48 → 00:04:52 สามารถที่จะทำได้อ้อฟังมาถึงตรงนี้หลายคน
00:04:52 → 00:04:54 คงอยากรู้ว่าบุคคลท่านนี้คือใครใช่มั้ย
00:04:54 → 00:04:57 ครับต้องบอกว่าผมยังไม่สามารถเอ่ยนามของ
00:04:57 → 00:04:59 บุคคลท่านนี้ได้นะครับเพราะว่าอาจจะมี
00:04:59 → 00:05:02 ปัญหาต่างๆได้นะครับดังนั้นผมก็ไม่อยากจะ
00:05:02 → 00:05:04 ให้ทัวร์ไปลงบุคคลท่านนี้หรือไม่อยากให้
00:05:05 → 00:05:07 ทัวร์มาลงผมด้วยดังนั้นก็ต้องรอไว้ก่อน
00:05:07 → 00:05:10 ถ้าในอนาคตเกิดมีเรื่องราวอะไรขึ้นมาผมก็
00:05:10 → 00:05:13 ค่อยเอาชื่อมาพูดอีกรอบนึงก็ได้หรืออาจจะ
00:05:13 → 00:05:15 เปลี่ยนชื่อคลิปในวันนี้ให้เป็นชื่อของ
00:05:15 → 00:05:17 บุคคลท่านนั้นก็ได้นะครับอ่ะแล้วมีอะไร
00:05:17 → 00:05:20 อีกที่เขา้าตรวจนะครับคือเค้าก็บอกว่า
00:05:20 → 00:05:23 หลังจากตรวจ biomer ต่างๆแล้วก็พอเราบอก
00:05:23 → 00:05:26 ได้ว่าอ๋อบุคคลท่านนี้มีสุขภาพร่างกายกับ
00:05:26 → 00:05:29 สุขภาพจิตเนี่ยมันมีปัญหาตรงไหนเขาก็จะไป
00:05:29 → 00:05:31 ปรับสมดุลให้กับร่างกายของเราเช่นคนนี้
00:05:31 → 00:05:34 อาจจะรับประทานอาหารไม่ดีอ่าเราก็แนะนำ
00:05:34 → 00:05:36 วิธีในการเปลี่ยนอาหารให้มันเหมาะสมนะ
00:05:36 → 00:05:39 ครับแต่ถ้าเกิดว่าสุขภาพมันแย่มากก็จะมี
00:05:39 → 00:05:42 การศึกษาเชิงลึกและก็จะมีการใช้สารสกัด
00:05:43 → 00:05:45 ตัวนึงซึ่งเขา้าก็บอกว่าตัวเนี้ยมันได้
00:05:45 → 00:05:48 รับมาตรฐานเรียบร้อยแล้วนะครับก็เป็นสาร
00:05:48 → 00:05:51 สกัดจากวายแดงแล้วก็อ่าไม้ม่ารวมกันใน
00:05:51 → 00:05:54 นั้นนะครับมีชื่อสารเคมีอยู่ด้วยนะฮะตัว
00:05:54 → 00:05:58 นี้เขาบอกว่ามันจะสามารถที่จะไปทำให้
00:05:58 → 00:06:02 เซลล์กลับเข้าสู่สมดุลนะครับสามารถส่ง
00:06:02 → 00:06:04 เสริมภูมิคุ้มกันและที่สำคัญครับสามารถทำ
00:06:04 → 00:06:07 ให้สเต็มเซลล์ในร่างกายของเราเนี่ยออกมา
00:06:07 → 00:06:09 ทำงานได้นะครับโดยสเต็มเซลล์กลุ่มนี้เรา
00:06:09 → 00:06:11 จะเรียกว่า endogenus stem cell ซึ่ง
00:06:11 → 00:06:13 ทุกคนก็มีสเต็มเซลล์พวกนี้อยู่ในร่างกาย
00:06:13 → 00:06:15 อยู่แล้วนะครับไม่ใช่สเต็มเซลล์ที่เราไป
00:06:15 → 00:06:17 ฉีดจากคนอื่นมานะครับมันคนละอย่างกันนะ
00:06:17 → 00:06:20 นี่เป็นสเต็มเซลล์ในร่างกายเราตรงนี้
00:06:20 → 00:06:22 เนี่ยเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากเพราะว่าอะไร
00:06:22 → 00:06:26 รู้มั้ยครับเพราะว่าสิ่งต่างๆเนี่ยไม่ว่า
00:06:26 → 00:06:29 จะเป็นวิทยาการในปัจจุบันเนี่ยเรายังไม่
00:06:29 → 00:06:32 มีอะไรเลยที่สามารถกระตุ้นสเต็มเซลล์
00:06:32 → 00:06:35 กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้มันทำงานได้ดีแล้ว
00:06:35 → 00:06:37 ก็ทำให้เซลล์ของเราเนี่ยกลับเข้าสู่สมดุล
00:06:37 → 00:06:41 ได้ทั้งหมดพร้อมกันไม่มีอันเนี้ยบุคคล
00:06:41 → 00:06:45 ท่านนี้เาทำได้แล้วในคลิปวีดีโอที่มีการ
00:06:45 → 00:06:47 แนะนำสิ่งที่บุคคลท่านนี้ทำนะครับก็ได้
00:06:47 → 00:06:50 อ้างอิงงานวิจัยไว้หลายงานเลยทีเดียวซึ่ง
00:06:50 → 00:06:53 ผมก็เปิดไปด้วยนะครับงานวิจัยของเค้า
00:06:53 → 00:06:56 เนี่ยเนี่ยต้องบอกว่ามันมีสิ่งบางสิ่งที่
00:06:56 → 00:06:59 แปลกอย่างนึงผมหาในอ่าเว็บไซต์ของ Pubmet
00:07:00 → 00:07:02 นะครับ Pubnet เนี่ยก็เป็นเว็บไซต์ที่เรา
00:07:02 → 00:07:05 ใช้หางานวิจัยต่างๆที่มันเป็นงานวิจัยที่
00:07:05 → 00:07:08 มีคุณภาพสูงนะครับจะพบว่าบุคคลท่านนี้
00:07:08 → 00:07:10 เนี่ยมีงานวิจัยทั้งหมด 17 งานวิจัยด้วย
00:07:11 → 00:07:12 กันนะครับบริษัทที่เขาทำมาทั้งหมดเี่
00:07:12 → 00:07:15 ประมาณสัก 10 กว่าปีนะบอกไว้ก่อนนะครับ
00:07:15 → 00:07:18 แล้วก็ใน 17 งานวิจัยตัวนี้เนี่ยที่ผม
00:07:18 → 00:07:20 สงสัยอย่างนึงนะครับคือบุคคลท่านนี้เขาจะ
00:07:20 → 00:07:22 พูดเรื่องเกี่ยวข้องกับสเต็มเซล์ไว้หลาย
00:07:22 → 00:07:24 อันมากแต่ในงานวิจัยของเขาไม่มีสักอันเลย
00:07:25 → 00:07:27 ที่เกี่ยวข้องกับสตมปเซลล์ซึ่งผมไม่แน่ใจ
00:07:27 → 00:07:30 เหมือนกันว่ามันเป็นเพราะอะไรเพราะว่า
00:07:30 → 00:07:31 จริงๆทางวิทยาศาสตร์เราถ้าเป็นนัก
00:07:31 → 00:07:33 วิทยาศาสตร์ที่ทำเรื่องสเต็มเซลล์เนี่ย
00:07:33 → 00:07:36 น่าจะต้องมีการพัฒนาแล้วก็วิจัยตีพิมพ์
00:07:36 → 00:07:38 เรื่องราวเกี่ยวข้องกับสเต็มเซลล์มหาศาล
00:07:38 → 00:07:41 และนะครับแต่บุคคลท่านนี้งานวิจัยส่วน
00:07:41 → 00:07:43 ใหญ่ของเขาเนี่ยมันเป็นเกี่ยวข้องกับการ
00:07:43 → 00:07:46 ดูเรื่องของสารต่างๆในระดับเซลล์ว่าเอ้ย
00:07:46 → 00:07:49 มันไปทำอะไรในเซลล์เซลล์นี้บางอย่างมัน
00:07:49 → 00:07:51 ต้านมะเร็งได้นะบางอย่างมันไปเปลี่ยนแปลง
00:07:51 → 00:07:53 บางอย่างในเซลล์นะครับอ่าเป็นการทดลองแบบ
00:07:53 → 00:07:57 เซลล์ทั้งหมดเลยนะครับไม่มีการทดลองในใน
00:07:57 → 00:08:02 คนนะไม่มีนะครับดังนั้นเนี่ยมันทำให้ผม
00:08:02 → 00:08:06 รู้สึกมีคำถามขึ้นมาว่าสารสกัดที่เขาว่า
00:08:06 → 00:08:09 เนี่ยมันไปยุ่งอะไรกับสเต็มเซลล์เราได้
00:08:09 → 00:08:11 จริงๆเหรอเพราะว่าในเมื่อตัวเขาบอกว่า
00:08:12 → 00:08:13 เฮ้ยมันยุ่งได้แต่งานวิจัยที่เขาตีพิมพ์
00:08:13 → 00:08:17 มันไม่มีตรงนั้นเลยนะครับสารสกัดที่ว่า
00:08:17 → 00:08:18 เนี่ยคือเขา้าเอามาทำงานวิจัยตรงนี้ด้วย
00:08:18 → 00:08:21 นะแล้วมีการตีพิมพ์สารสกัดพวกเนี้ยเนี่ย
00:08:21 → 00:08:24 ไม่ได้มีผลอะไรเกี่ยวข้องกับสตมเซลล์ครับ
00:08:24 → 00:08:26 ไม่ได้บอกว่ามันเกี่ยวข้องกับสเต็มเซลล์
00:08:26 → 00:08:29 แต่มีงานวิจัยของเขานะครับที่บอกว่ามัน
00:08:29 → 00:08:32 อาจจะช่วยยับยั้งมะเร็งบางชนิดได้นะครับ
00:08:32 → 00:08:34 ตรงนี้ผมอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าอย่างนี้
00:08:34 → 00:08:38 คือการมีรายงานวิจัยว่าสารตัวนึงมันยับ
00:08:38 → 00:08:40 ยั้งมะเร็งได้เนี่ยมันต้องคิดต่อไปใน
00:08:40 → 00:08:43 อนาคตว่านี่คือการทดลองในหลอดทดลองสภาพ
00:08:43 → 00:08:47 ของมันไม่เหมือนกับการใช้ในคนจริงๆนะครับ
00:08:47 → 00:08:49 ซึ่งหลายอย่างเนี่ยมันจัดการกับมะเร็งใน
00:08:49 → 00:08:52 หลอดทดลองได้แต่มันจัดการกับมะเร็งในตัว
00:08:52 → 00:08:54 คนไม่ได้หรือบางอย่างก็มีปัญหาเรื่องของ
00:08:54 → 00:08:58 การเอาเข้าไปในร่างกายที่สำคัญนะครับบาง
00:08:58 → 00:09:01 กรณีเนี่ยที่เราใช้สารสกัดหรือว่าจะใช้ยา
00:09:01 → 00:09:02 อะไรก็แล้วแต่ที่ไปจัดการกับมะเร็งพวก
00:09:02 → 00:09:05 เนี้ยสุดท้ายเนี่ยบางทีมะเร็งบางอย่างมัน
00:09:05 → 00:09:08 ก็ดื้อได้นะครับในรายงานของเขาเนี่ยเป็น
00:09:08 → 00:09:11 การทดลองระยะเวลาที่ไม่ได้ยาวมากเรายัง
00:09:11 → 00:09:14 ไม่ได้เห็นการดื้อเลยซึ่งตรงเนี้ยน่าแปลก
00:09:14 → 00:09:16 ใจอย่างนึงว่าเอ๊ะทำไมเขาถึงไม่ทำการทด
00:09:16 → 00:09:19 ลองให้มันไปถึงการเห็นการดื้อของพวกนี้
00:09:19 → 00:09:21 หรือว่าเค้าต้องการเห็นผลว่าอ๋อมันกำจัด
00:09:21 → 00:09:22 มะเร็งได้แล้วแล้วก็ไม่ได้คิดต่อหลังจาก
00:09:22 → 00:09:24 นั้นนะครับซึ่งตรงเนี้ยเป็นคำถามที่ผมยัง
00:09:24 → 00:09:27 หาคำตอบไม่ได้เลยเหมือนกันว่าเพราะอะไรนะ
00:09:27 → 00:09:29 ครับแล้วที่บอกว่ามันสามารถกระตุ้นภูมิ
00:09:29 → 00:09:32 ต้านทานได้ตรงนี้ผมก็ไม่เจอว่ามันกระตุ้น
00:09:32 → 00:09:35 อะไรได้เพียงแต่มันมีงานวิจัยอันนึงของ
00:09:35 → 00:09:38 เค้านะครับที่อ่าเราเจอว่ามันสามารถช่วย
00:09:38 → 00:09:41 ลดการอักเสบบางอย่างได้นะครับโดยมันไปสาร
00:09:41 → 00:09:42 สกัดของเขาเนี่ยมันไปจัดการกับสิ่งที่
00:09:43 → 00:09:46 เรียกว่า NF CAB นะครับ NF CAB เนี่ย
00:09:46 → 00:09:47 ถ้าเกิดว่าใครที่เรียนวิทยาศาสตร์ลึกๆก็
00:09:47 → 00:09:49 คงจะรู้เดียวว่ามันเกี่ยวข้องกับกระบวน
00:09:49 → 00:09:52 การอักเสบต่างๆนะฮะแต่ทีนี้มันยับยั้งได้
00:09:52 → 00:09:55 แค่ไหนก็ตอบไม่ได้นะครับเพราะนั่นคือใน
00:09:55 → 00:09:59 ระดับเซลล์เราไม่ได้ยับยั้งในระดับคนอ่า
00:09:59 → 00:10:01 ถูกมั้ครับถ้าเป็นผมเนี่ยมันดีขนาดนั้น
00:10:01 → 00:10:04 แล้วผมจะเอามาใช้นะก็ทดลองกับคนไปเลยสิ
00:10:04 → 00:10:06 ครับคนนึงใช้ยากินคนนึงใช้ยาสมุนไพรที่
00:10:06 → 00:10:09 เขาทำสกัดมาเนี่ยแล้วไปดูสิครับว่ามันมี
00:10:10 → 00:10:13 biomarkers ต่างๆที่แตกต่างกันมนะครับ
00:10:13 → 00:10:15 อ้อและอีกอย่างนึงเรื่องของ biomarkers
00:10:15 → 00:10:17 ที่เขาคิดขึ้นมาเนี่ยนะครับไม่มีอยู่ใน
00:10:17 → 00:10:19 งานวิจัยของเขานะ
00:10:19 → 00:10:22 ปกติเวลาที่เราเอาไโอเกอร์อะไรสักอย่างมา
00:10:23 → 00:10:25 ใช้นะครับไม่ว่าจะเป็นตัวใดตัวหนึ่งเช่น
00:10:25 → 00:10:27 เบาหวานเราใช้ฮีโมบิน A1C นะฮะหรือ
00:10:27 → 00:10:30 ฟรุโตซามีนพวกเนี้ยเราจะต้องมีกระบวนการ
00:10:30 → 00:10:34 ที่เรียกว่า validation อ่านะครับ
00:10:34 → 00:10:36 validation คืออะไร validation คือการ
00:10:36 → 00:10:38 ที่ข้อแรกเราคิดว่า Biomarkers ตัวเนี้ย
00:10:38 → 00:10:41 มันน่าจะใช้ได้มันมีการทดลองในระดับเซลล์
00:10:41 → 00:10:45 ในในระดับทั่วๆไปในระดับความคิดแต่มัน
00:10:45 → 00:10:46 ต้องเอามาดูในโลกแห่งความเป็นจริงว่ามัน
00:10:46 → 00:10:48 ใช้ได้จริงๆหรือเปล่าเพราะมีหลายครั้งว่า
00:10:48 → 00:10:51 มันใช้ไม่ได้แต่ Biomarkers ของบุคคลท่าน
00:10:51 → 00:10:54 นี้ไม่ได้รับการตรวจสอบแต่อย่างใดไม่ได้
00:10:54 → 00:10:57 มีเรื่องราวของ validation ว่ามันใช้ได้
00:10:57 → 00:11:01 หรือไม่ดังนั้นเมื่อมันไม่มี validation
00:11:01 → 00:11:05 มันจะใช้ได้ยังไงนะครับตรงเนี้ยที่เป็น
00:11:05 → 00:11:08 สิ่งที่ผมสงสัยมากที่สุดนะครับเออว่าเฮ้ย
00:11:08 → 00:11:12 มันเป็นอย่างนั้นได้ยังไงนะครับแล้วก็มัน
00:11:12 → 00:11:17 ไม่ใช่เรื่องราวอยู่แค่นี้นะครับในทั้ง
00:11:17 → 00:11:19 หมดเนี่ยเนี่ยต้องบอกว่าเพจดังเพจนี้
00:11:19 → 00:11:22 เนี่ยนะครับที่นำเสนอเรื่องราวของบุคคล
00:11:22 → 00:11:25 ท่านเนี้ยมันดั้นมาประจวบเหมาะกับการที่
00:11:25 → 00:11:28 ช่อง YouTube ของบุคคลท่านนี้นะหรือช่อง
00:11:28 → 00:11:32 YouTube ของบริษัทของเขาเนี่ยเริ่มมามี
00:11:32 → 00:11:35 ความเคลื่อนไหวมากในช่วงประมาณสัก 8-9
00:11:35 → 00:11:38 วันที่ผ่านมานี้เองก่อนหน้านั้นเนี่ยคลิป
00:11:38 → 00:11:39 วีดีโอที่โพสต์ก็คือประมาณ 2 เดือนที่
00:11:39 → 00:11:43 แล้วและก่อนไปนั้นอีกก็เป็นปีครับ 2 ปี 5
00:11:43 → 00:11:46 ปีแล้วคือเก่าแล้วมันขึ้นมาเกิดความ
00:11:46 → 00:11:49 เคลื่อนไหวเยอะตอนนี้นะครับแล้วเพจดังเพจ
00:11:49 → 00:11:52 เนี้ยต้องบอกว่าเค้าสามารถติดต่อโฆษณาได้
00:11:52 → 00:11:55 นะผมก็ไม่รู้ว่าเค้าไปติดต่อโฆษณาให้ไป
00:11:55 → 00:11:57 สัมภาษณ์หรือไม่ตรงนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกัน
00:11:57 → 00:12:00 นะครับแต่มันเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกเอ้อมัน
00:12:00 → 00:12:02 ก็น่าแปลกใจดีเหมือนกันนะที่มันมีเรื่อง
00:12:02 → 00:12:07 ราวแบบนี้นะดังนั้นแล้วเนี่ยศาสตร์นี้มัน
00:12:07 → 00:12:11 ให้ความน่าสงสัยกับผมอยู่มากมายหลายอย่าง
00:12:11 → 00:12:15 เลยทีเดียวนะครับทั้งในเรื่องของอ่า
00:12:15 → 00:12:17 Biomarkers ที่คิดนะนะครับไม่ได้รับการ
00:12:17 → 00:12:20 validate ต่างๆไม่มีใครรู้ว่ามันใช้ได้
00:12:20 → 00:12:22 จริงหรือไม่จริงแล้ว biomarker ของเขา
00:12:22 → 00:12:25 เนี่ยมันประกอบไปด้วยอะไรบ้างไม่มีไม่มี
00:12:25 → 00:12:28 ในงานวิจัยของเขาเลยด้วยซ้ำไปนะครับซึ่ง
00:12:29 → 00:12:31 โดยทั่วไปถ้านักวิจัยจะเอาอะไรมาใช้ที่
00:12:31 → 00:12:35 มันเป็นสิ่งที่ตัวเองพัฒนาก็จะต้องมีการ
00:12:35 → 00:12:37 ทำงานวิจัยในเรื่องนั้นแล้วตีพิมพ์ให้โลก
00:12:37 → 00:12:39 ได้รับรู้เราเอยากให้โลกได้รับรู้ด้วยซ้ำ
00:12:40 → 00:12:42 ไปเพราะอะไรรู้มั้ยครับเพราะว่ามันจะเป็น
00:12:42 → 00:12:45 ชื่อเสียงแล้วก็เป็นตัวการันตีว่าสิ่งที่
00:12:45 → 00:12:48 เราทำนั้นมันใช้ได้จริงๆไม่มีใครหรอกครับ
00:12:49 → 00:12:50 ที่เป็นนักวิจัยถึงแม้ว่าจะเป็นสาย
00:12:50 → 00:12:52 ธรรมชาติอะไรก็ตามนะครับที่เขาอยากจะเก็บ
00:12:52 → 00:12:56 ความรู้ดีๆนะครับไว้กับตัวเองแล้วไม่นำไป
00:12:56 → 00:12:59 เผยแพร่เพราะว่านี่เดี๋ยวเนี้ยเราอยู่ใน
00:12:59 → 00:13:02 ยุคข้อมูลการเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องมี
00:13:02 → 00:13:04 การตรวจสอบชัดเจนได้จากหน่วยงานที่เกี่ยว
00:13:04 → 00:13:06 ข้องหรือว่าการตีพิมพ์ในวารสารที่น่า
00:13:06 → 00:13:10 เชื่อถือโดยมีคนที่เขามาดูนะครับมา
00:13:10 → 00:13:12 วิเคราะห์วิจัยร่วมไปกับเราว่าเออมันดี
00:13:12 → 00:13:15 จริงๆนะครับเดี๋ยวเนี้ยมันต้องทำแบบนี้
00:13:15 → 00:13:16 ทั้งนั้นนะฮะ
00:13:16 → 00:13:21 ซึ่งกรณีของเค้าเนี่ยไม่มีไม่มีเรื่องของ
00:13:21 → 00:13:23 Biomarkers นะครับเอ่อ Biomarkers เ้า
00:13:23 → 00:13:25 ยังบอกถึงระดับจิตใจได้ซึ่งอันเนี้ยแปลก
00:13:25 → 00:13:28 มากผมไม่เคยเจอมาก่อนนะถ้ามันทำได้ก็จะ
00:13:28 → 00:13:30 เป็นอันแรกในโลกเลยอ่ะที่มันทำได้นะครับ
00:13:30 → 00:13:35 เอ่อรวมถึงสารสกัดของเค้านะฮะมันทำได้
00:13:35 → 00:13:37 หลายอย่างเลยทีเดียวซึ่งอันเนี้ยผมรู้สึก
00:13:37 → 00:13:39 ว่าอืมันแปลกใจเนาะมันต้องใช้สารสกัดตัว
00:13:39 → 00:13:42 นี้ไปนานเท่าไหร่กินกี่วันกินปริมาณเท่า
00:13:42 → 00:13:45 ไหร่มันได้ผลจริงหรือไม่ตรงนี้ก็ไม่ทราบ
00:13:45 → 00:13:48 ได้นะครับก็เลยทำให้รู้สึกว่าคงจะต้องมี
00:13:48 → 00:13:51 การเข้ามาดูแลตรวจสอบพวกนี้จากหน่วยงาน
00:13:51 → 00:13:54 ต่างๆเพิ่มมากขึ้นแล้วแหละครับอ่ะ
00:13:54 → 00:13:58 มันยังมีประเด็นอีกอย่างนึงซึ่งผมรู้สึก
00:13:58 → 00:14:02 ว่ามันน่าสนใจก็คือหลังจากเพจเนี้ยลง
00:14:02 → 00:14:06 เรื่องนี้ไปก็มีบุคคลหลายบุคคลที่บอกว่า
00:14:06 → 00:14:09 เคยมีประสบการณ์พาญาติไปรักษาหรือว่าญาติ
00:14:09 → 00:14:12 ไปตรวจกับบุคคลคนนี้นะครับอ้อเค้าเนี่ย
00:14:13 → 00:14:15 อ้างว่าเามีคลินิกเวชกรรมอยู่ในเครือข่าย
00:14:15 → 00:14:18 ของเขาด้วยนะที่มีแพทย์แผนปัจจุบันทำการ
00:14:18 → 00:14:20 ดูแลผมไม่รู้ว่าแพทย์แผนปัจจุบันคนนี้คือ
00:14:20 → 00:14:24 ใครหรือกลุ่มนี้คือใครบ้างและมีหน้าที่
00:14:24 → 00:14:27 อย่างไรในคลินิกเวชกรรมอันนี้นะครับเค้า
00:14:27 → 00:14:31 ก็อ้างว่าเนี่ยมีหลายคนเข้าไปปรึกษา
00:14:31 → 00:14:36 คนนี้แล้วเกิดเรื่องขึ้นมาครับเช่นมี
00:14:36 → 00:14:41 บุคคลท่านหนึ่งนะครับได้ไปตรวจแล้วก็บอก
00:14:41 → 00:14:43 ว่าเอ้อ
00:14:43 → 00:14:45 ญาติของเขาเนี่ยก็ไปหาคนๆนี้ญ่านของเขา
00:14:45 → 00:14:48 เป็นมะเร็งปอดนะครับแล้วพอไปตรวจแล้วก็
00:14:48 → 00:14:50 บุคคลท่านนี้ก็บอกว่าเออเซลล์ของคุณเนี่ย
00:14:50 → 00:14:52 สมบูรณ์แข็งแรงดีนะคุณไม่ต้องใช้ยามุ่ง
00:14:52 → 00:14:55 เป้าหรอกไม่ต้องใช้ยาเคมีบำบัดหรอกนะครับ
00:14:55 → 00:14:58 บุคคลท่านนี้ก็เลยไปหยุดยามุ่งเป้าด้วย
00:14:58 → 00:15:02 ตัวเองสุดท้ายก็เสียชีวิตด้วยมะเร็งปอด
00:15:02 → 00:15:06 มีกรณีแบบนี้หลายกรณีเหมือนกันนะครับที่
00:15:06 → 00:15:09 ไปถึงปุ๊บบุคคลท่านนี้ก็บอกว่าเซลล์แข็ง
00:15:09 → 00:15:12 แรงดีไม่มีปัญหาคุณไม่ต้องทำอะไรดูแลตัว
00:15:12 → 00:15:15 เองแบบธรรมชาติดีแล้วก็เสียชีวิตอันนี้
00:15:15 → 00:15:18 คืออะไร
00:15:18 → 00:15:22 อันนี้คืออะไรผมบอกเลยนะครับว่ามันอาจจะ
00:15:22 → 00:15:25 เป็นเฉพาะบางกรณีก็ได้ที่เกิดเรื่องขึ้น
00:15:25 → 00:15:28 มานะครับเพราะเราก็ต้องเข้าใจก่อนว่าใน
00:15:28 → 00:15:30 โลกของเราถึงแม้ว่าจะเป็นการแพทย์แผน
00:15:30 → 00:15:33 ปัจจุบันเราก็ไม่สามารถรักษาทุกคนให้หาย
00:15:33 → 00:15:36 ขาดได้ถึงแม้ว่าเราจะให้การรักษาที่ดีที่
00:15:36 → 00:15:38 สุดยังไงมันก็จะต้องมีคนที่ได้รับผลข้าง
00:15:38 → 00:15:41 เคียงและก็จะต้องมีคนที่ไม่ได้ผลหรือเสีย
00:15:41 → 00:15:44 ชีวิตเช่นกันนะครับแต่ในทางการแพทย์แผน
00:15:44 → 00:15:47 ปัจจุบันนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เราแนะนำ
00:15:47 → 00:15:50 ให้ใช้เรามีการศึกษาวิจัยมีข้อมูลหลักฐาน
00:15:50 → 00:15:54 ครบถ้วนทั้งหมดเราถึงเอาสิ่งเหล่านั้นมา
00:15:54 → 00:15:58 ใช้และเรามีการแนะนำผู้ป่วยก่อนว่าแต่ละ
00:15:58 → 00:16:00 วิธีมันแตกต่างกันยังไงข้อดีข้อเสียเป็น
00:16:00 → 00:16:03 ยังไงผู้ป่วยกับหมอจะร่วมกันตัดสินใจว่า
00:16:03 → 00:16:07 จะทำแบบไหนนะครับทุก biomarkers ทุกสิ่ง
00:16:07 → 00:16:10 ที่เราตรวจมันได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่า
00:16:10 → 00:16:13 มันโอเคมันใช้ได้จริง
00:16:13 → 00:16:16 ทีนี้ละครับบุคคลท่านนี้รวมทั้งบริษัทของ
00:16:16 → 00:16:19 เค้าก็อาจจะตกอยู่ในกรณีเดียวกันก็ได้
00:16:19 → 00:16:22 นั่นก็คือเออมันก็ต้องมีบางคนที่ทำวิธี
00:16:22 → 00:16:24 ของเขาแล้วมันดีแต่ก็จะมีบางคนที่ทำวิธี
00:16:24 → 00:16:29 ของเขาแล้วมันแย่ดังนั้นกรณีแบบนี้เนี่ย
00:16:29 → 00:16:31 บุคคลท่านนี้นะครับก็คงจะต้องไปพิสูจน์
00:16:31 → 00:16:34 เอาเองเกิดว่าคนหลายคนที่เขา้าได้รับผล
00:16:34 → 00:16:39 กระทบผลเสียจากสิ่งที่เค้าทำให้เนี่ยรวม
00:16:39 → 00:16:43 ตัวกันแล้วเกิดไปทำการฟ้องร้องซึ่งผมรู้
00:16:43 → 00:16:47 สึกว่ามันสมควรที่ต้องทำด้วยนะคุณทุกคน
00:16:47 → 00:16:49 ที่เกิดผลเสียตรงเนี้ยคงจะต้องรวมตัวกัน
00:16:50 → 00:16:52 แล้วก็ไปฟ้องร้องอะไรให้เรียบร้อยเพราะ
00:16:52 → 00:16:54 อะไรรู้มั้ครับเราไม่ได้ฟ้องร้องเพราะหา
00:16:54 → 00:16:57 ว่าท่านผิดนะครับแต่เราฟ้องร้องเพื่อ
00:16:57 → 00:16:59 ต้องการความกระจ่างทางวิทยาศาสตร์ว่ามัน
00:16:59 → 00:17:02 เป็นอย่างนั้นจริงๆหรือเปล่านะครับท่านก็
00:17:02 → 00:17:05 ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเฮ้ย Biomarkers ที่
00:17:05 → 00:17:08 ท่านใช้เนี่ยมันสามารถบอกถึงความสมบูรณ์
00:17:08 → 00:17:10 ระดับเซลล์ได้จริงหรือไม่เซลล์ที่มัน
00:17:10 → 00:17:13 สมบูรณ์เนี่ยพูดถึงเซลล์อะไรสเต็มเซลล์
00:17:13 → 00:17:16 สเต็มเซลล์ตรงไหนสเต็มเซลล์ของอะไร
00:17:16 → 00:17:18 สเต็มเซลล์ในไขกระดูกสเต็มเซลล์ของเซลล์
00:17:18 → 00:17:21 รากผมสเต็มเซลล์ของผิวหนังสเต็มเซลล์ของ
00:17:21 → 00:17:24 ปอดสเต็มเซลล์อะไรกันแน่ที่ท่านพูดถึงนะ
00:17:24 → 00:17:27 ครับ Biomarkers มันบอกตรงนั้นมั้ยนะครับ
00:17:27 → 00:17:30 แล้วมันบอกได้อย่างไรกลไกแบบไหนท่านมีงาน
00:17:30 → 00:17:32 วิจัยตรงไหนพิสูจน์มยเพราะในเมื่องาน
00:17:32 → 00:17:34 วิจัยของท่านมันไม่มีข้อพิสูจน์ตรงนี้
00:17:34 → 00:17:37 ท่านก็ต้องเอาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่ยืน
00:17:37 → 00:17:40 ยันที่ท่านเอามาใช้ประกอบการคิดเนี่ยเอา
00:17:40 → 00:17:44 มาให้คนเค้าดูนะครับเอามาให้กับผู้ที่
00:17:44 → 00:17:46 เค้าเชี่ยวชาญแล้วก็สืบสวนสอบสวนดูในตรง
00:17:46 → 00:17:49 นี้ว่าท่านเอามาจากไหนแล้วการที่บอกว่า
00:17:49 → 00:17:53 สารสกัดทำให้คุณภาพของเซลล์มันกลับมา
00:17:53 → 00:17:56 สมบูรณ์บางเดิมเข้าสู่สมดุลนะครับกระตุ้น
00:17:56 → 00:17:59 ภูมิต้านทานหรือไปช่วยทำให้เอนโดจนัสเต็ม
00:17:59 → 00:18:01 เซลล์ออกมาทำงานได้เป็นอย่างดีซ่อมแซมสูน
00:18:01 → 00:18:05 ต่างๆตามวิธีธรรมชาติมันมีตรงไหนที่
00:18:05 → 00:18:08 สนับสนุนในเรื่องราวที่คุณพูดไว้บ้างนะ
00:18:08 → 00:18:09 ครับเพราะว่าต้องบอกว่าในงานวิจัยทั้งหมด
00:18:10 → 00:18:13 เนี่ยมันไม่มีตรงไหนที่ออกมาบอกแบบนี้เลย
00:18:13 → 00:18:16 งานวิจัยที่ตัวบุคคลท่านนี้ทำไว้ไม่มีตรง
00:18:16 → 00:18:18 ไหนที่กล่าวถึงเรื่องนี้ดังนั้นจึงไม่
00:18:18 → 00:18:21 สามารถที่จะเอามาใช้ในการบอกได้ว่าเออมัน
00:18:21 → 00:18:24 ทำได้จริงๆนะครับตรงนี้แหละครับที่น่าจะ
00:18:24 → 00:18:28 มีสิ่งหลายสิ่งซึ่งจะต้องไปค้นหาคำตอบ
00:18:28 → 00:18:31 เพิ่มเติมนะครับอ่าแล้วผมก็ยังรู้สึกว่า
00:18:31 → 00:18:35 เค้าเนี่ยได้มีการเปิดโรงเรียนนะครับสอน
00:18:35 → 00:18:39 เรื่องของการวิจัยศาลธรรมชาติเพื่อสุขภาพ
00:18:39 → 00:18:42 ด้วยนะครับแล้วบุคคลที่จบจากตรงนี้ไปจะ
00:18:42 → 00:18:46 ได้ประกาศบัตร stell และการฟื้นฟูสุขภาพ
00:18:46 → 00:18:50 ซึ่งผมมองว่าในเมื่อตัวเองยังไม่มีงาน
00:18:50 → 00:18:53 วิจัยเกี่ยวข้องกับสเต็มเซลที่ออกมาเยอะๆ
00:18:53 → 00:18:56 นะแล้วงาน 10 ปีเนี่ยมีอยู่แค่ 17 เรื่อง
00:18:56 → 00:19:00 เองที่มันได้มาตรฐานพอที่จะลงพับอันนี้ผม
00:19:00 → 00:19:02 รู้สึกว่าข้อมูลน่ะมันยังไม่เพียงพอในสาย
00:19:02 → 00:19:06 ตาของผมนะถ้าเกิดคุณไปดูคนที่เค้าทำ
00:19:06 → 00:19:08 นวัตกรรมอะไรใหม่ๆขึ้นมาของโลกที่แบบเรา
00:19:08 → 00:19:11 เรียกว่าเป็น New Innovation พวกเนี้ย
00:19:11 → 00:19:13 หรือวิธีการตรวจการทำอะไรสักอย่าง
00:19:13 → 00:19:16 Biomarkers ดังๆสักตัวนึงเนี่ยกว่าเขาจะ
00:19:16 → 00:19:18 ทำมาเป็นตัวนั้นได้เ้าผ่านงานวิจัยมามาก
00:19:18 → 00:19:22 กว่า 17 เรื่องแน่นอนแน่นอนเลยอย่างคนที่
00:19:22 → 00:19:26 ผมเคยทำงานอยู่ด้วยเนี่ยก็ชื่อFrานซิ
00:19:26 → 00:19:28 อันยังหลีอันนี้ผมพูดได้เลยเขา้าเป็นคน
00:19:28 → 00:19:32 ที่เชี่ยวชาญทางด้านของบีเซลนะครับมากๆ
00:19:32 → 00:19:36 มากเลยด้วยแหละแล้วเขาก็เป็นคนแรกในโลก
00:19:36 → 00:19:39 ที่สามารถจะเลี้ยงเซลล์ตัวนึงนะครับชื่อ
00:19:39 → 00:19:44 พลาสma cell ให้มันมีชีวิตเป็นอมตะได้
00:19:44 → 00:19:45 ใครทุกคนเนี่ยที่ทำงานเกี่ยวข้องกับ
00:19:45 → 00:19:49 พลาสmaเซลล์จะรู้ว่าปกติเอาออกมาเลี้ยง
00:19:49 → 00:19:53 ได้แค่ 2 วันมันก็ตายแล้วแต่ว่าคนๆนี้เขา
00:19:53 → 00:19:57 สามารถที่จะหาสารตัวนึงนะครับเรียกว่า
00:19:58 → 00:20:00 เป็น Stromal Cell CCOM นะครับมีสาร
00:20:00 → 00:20:03 ต่างๆในนั้นมากมายเอามาเลี้ยงแล้วเซลล์
00:20:03 → 00:20:05 พลาสมาเซลล์เนี่ยมันอยู่ไปได้แบบตลอดไป
00:20:05 → 00:20:09 อ่ะตลอดไปเลยจนกว่าสารที่เรามีให้มันจะ
00:20:09 → 00:20:12 หมดอ่ะนะครับแล้วรู้มั้ครับกว่าเขาจะมา
00:20:12 → 00:20:14 ถึงขั้นนี้ได้เค้าทำงานวิจัยมาเป็นหลาย
00:20:14 → 00:20:17 สิบเรื่องเพื่อจะได้คำตอบแค่ตัวเดียวว่า
00:20:17 → 00:20:20 อ๋อศาลตัวนี้วิธีนี้วิธีเดียวที่จะทำให้
00:20:20 → 00:20:23 มันอยู่ได้ยาวๆมันไม่ใช่แบบไม่ทำงานวิจัย
00:20:23 → 00:20:25 เลยแล้วบอกเอ้ยมันใช้ได้เราใช้ในแลบกัน
00:20:25 → 00:20:29 มันได้ผลอันนั้นไม่ได้ครับนะดังนั้นเนี่ย
00:20:29 → 00:20:32 ก็เลยเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกว่าน่าจะต้องมี
00:20:32 → 00:20:34 หน่วยงานหลายๆหน่วยงานมาตรวจสอบถึงเรื่อง
00:20:34 → 00:20:36 ของความเหมาะสมถูกต้องนะครับแพทย์ที่ทำ
00:20:37 → 00:20:39 งานในคลินิกเวชกรรมนั้นมีหน้าที่อะไรกัน
00:20:39 → 00:20:41 แน่นะครับถ้ามีหน้าที่ในการตรวจสอบ
00:20:41 → 00:20:44 Biomarkers ต่างๆเฮ้ย Biomarkers พวก
00:20:44 → 00:20:47 นั้นมัน validate ไม่เห็น validate ตรง
00:20:48 → 00:20:50 ไหนนะครับมีหรือยังเพราะในเมื่อคุณบอกว่า
00:20:50 → 00:20:53 มันไม่ใช่ biomarkers ปกติที่ทางการแพทย์
00:20:53 → 00:20:55 เราใช้กันคุณก็ต้องมีการ validate
00:20:55 → 00:20:58 biomarker ของคุณนะครับหมอเหล่านั้นจะ
00:20:58 → 00:21:01 ได้รับการทำอะไรหรือเปล่าเพราะว่าต้องบอก
00:21:02 → 00:21:06 อีกครับว่าบางคนถ้าเคยเข้าใจวงการหมอจะมี
00:21:06 → 00:21:09 หมอบางคนเวลาจบใหม่เนี่ยไปอยู่ตามคลินิก
00:21:09 → 00:21:12 ความงามนะครับแล้วทางคลินิกก็จะมีการบอก
00:21:12 → 00:21:17 ว่าถ้าเกิดคนไข้เป็นอย่างี้ให้ทำวิธีใน
00:21:17 → 00:21:19 วิธี a นี้ก็มี 1 2 3 4 หรือบางทีบอก
00:21:19 → 00:21:22 ว่าให้ใช้ยาตัวนี้ทายาตัวนี้ก็มีเป็นยา A
00:21:22 → 00:21:24 ยา B ยา C แค่นี้เลยแต่ไม่บอกว่าในนั้นมี
00:21:24 → 00:21:27 อะไรบ้างมันมีอย่างี้จริงๆหมอก็จะบอกว่า
00:21:27 → 00:21:29 โอ้ถ้าคุณเป็นจุดอย่างี้มาใช่มั้ยอ่ะเอา
00:21:29 → 00:21:31 ยา A ไปใช้แต่ยา A มีอะไรก็ไม่รู้เหมือน
00:21:31 → 00:21:34 กันคนที่รู้เนี่ยมีแต่คนผสมหรือเจ้าของ
00:21:34 → 00:21:37 คลินิกเท่านั้นบางทีก็มีแบบนี้จริงจริง
00:21:37 → 00:21:39 แต่ตอนนี้คงจะน้อยลงไปเยอะแล้วนะครับที
00:21:39 → 00:21:41 นี้เหตุการณ์แบบนี้ผมก็ไม่แน่ใจว่ามัน
00:21:41 → 00:21:43 เกิดขึ้นที่คลินิกเวชกรรมอย่างนี้มั้ยบอก
00:21:43 → 00:21:45 ว่าโอเคถ้าเกิดคุณตรวจไบโอมเกอร์ได้แบบ
00:21:45 → 00:21:49 นี้นะคุณเอาสารสกัดตัวนี้ไป
00:21:49 → 00:21:51 หรือถ้าแบบนี้นะคุณไปนั่งสมาธิแบบนี้คุณ
00:21:51 → 00:21:55 ไปปรับอาหารแบบนี้คุณไปนอนเพิ่มเติมหมอจะ
00:21:55 → 00:21:58 ได้แบบนี้มาหรือเปล่าถ้าได้แบบนี้เนี่ย
00:21:58 → 00:22:00 คุณหมอที่ทำงานในคลินิกแบบนี้นะครับต้อง
00:22:00 → 00:22:03 ออกมาชี้แจงแล้วแหละว่าตัวคุณเองทำงานใน
00:22:03 → 00:22:08 คลินิกนี้อย่างไรมีวิธีอะไรในการตรวจให้
00:22:08 → 00:22:13 คำปรึกษาแต่ละบุคคลเพราะว่ามันมัน
00:22:13 → 00:22:15 ต้องมีหลายอย่างที่ชี้แจงทางด้านหลักฐาน
00:22:15 → 00:22:17 ทางวิชาการให้ชัดเจนเพราะไม่เช่นนั้น
00:22:17 → 00:22:20 เนี่ยนะครับก็ต้องบอกว่าคุณอาจจะถูกเข้า
00:22:20 → 00:22:24 ใจผิดได้นะว่าให้การรักษาที่มันไม่เป็นไป
00:22:24 → 00:22:28 ตามสิ่งที่มันควรจะเป็นนะครับตรงนี้คง
00:22:28 → 00:22:30 ต้องออกมาชี้แจงนอกเหนือจากนี้นะครับ
00:22:30 → 00:22:32 บุคคลท่านนี้ยังมีตำแหน่งทางวิชาการอยู่
00:22:32 → 00:22:35 ในมหาวิทยาลัยใหญ่เลยแหละนะครับ
00:22:35 → 00:22:38 มหาวิทยาลัยระดับดับดังเลยอ่ะนะฮะก็ไม่
00:22:38 → 00:22:41 แน่ใจเหมือนกันว่ายังไงนะครับแต่ต้องบอก
00:22:41 → 00:22:43 ว่าเวลาที่เค้าตีพิมพ์งานต่างๆของเขา
00:22:43 → 00:22:46 เนี่ยผมอ่านดูตัวเนื้องานมันค่อนข้างโอเค
00:22:46 → 00:22:49 นะค่อนข้างมีคุณภาพนะครับแต่มันจะเป็นงาน
00:22:50 → 00:22:52 ที่เราเรียกว่าระดับ Basic Science
00:22:52 → 00:22:54 Basic Science เนี่ยคือเป็นการทดลองใน
00:22:54 → 00:22:56 ระดับเซลล์เพื่อดูกลไกต่างๆทดลอง
00:22:56 → 00:23:00 สมมุติฐานต่างๆเออมันเป็นไปได้มยแต่มัน
00:23:00 → 00:23:02 ยังไม่สามารถเอาของ basic science เนี่ย
00:23:02 → 00:23:05 ไปใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆได้ก่อนที่จะ
00:23:05 → 00:23:07 เอาไปใช้ได้เนี่ยเราต้องมีการพัฒนาอ่ะ
00:23:07 → 00:23:10 เฮ้ยในในเซลล์มันได้ใช่มั้ยงั้นเราเอาไป
00:23:10 → 00:23:13 ลองในสัตว์ทดลองสัตว์ทดลองเออโอเคมันก็
00:23:13 → 00:23:15 ได้ผลนะผลข้างเคียงก็ไม่ค่อยมีงั้นเราเอา
00:23:16 → 00:23:18 ไปทดลองในคนตอนแรกก็ต้องเป็นเฟสแรกๆก่อน
00:23:18 → 00:23:20 ทดลองในคนที่มันสมบูรณ์แข็งแรงดูซิมันมี
00:23:20 → 00:23:23 ปัญหาอะไรมั้ยไม่มีปัญหาใช่มั้ยอ่ะมาลอง
00:23:23 → 00:23:26 เฟสต่อไปเอาคนเยอะขึ้นทดลองในโลกต่างๆมาก
00:23:26 → 00:23:29 ขึ้นพอมันเฮ้ยมันดีจริงๆขั้นต่อมาคราวนี้
00:23:29 → 00:23:32 แหละครับก็ต้องทดลองในประชากรกลุ่มใหญ่ๆ
00:23:32 → 00:23:34 เลยแล้วก็แบ่งกลุ่มชัดเจนกลุ่มนี้ได้ยา
00:23:34 → 00:23:36 จริงกลุ่มนี้ได้ยามาหลอกดูซิว่า 2 กลุ่ม
00:23:36 → 00:23:38 นี้มันต่างกันยังไงแล้วถ้าเกิดผลออกมาชัด
00:23:38 → 00:23:41 เจนแบบนั้นเนี่ยเราค่อยเอามาบอกว่าอ๋อมัน
00:23:41 → 00:23:44 ใช้ได้เราคิดได้และนะครับว่าสิ่งนี้มัน
00:23:44 → 00:23:48 เป็นสิ่งที่เออใช้ได้จริงๆนะครับนี่แหละ
00:23:48 → 00:23:50 ครับก็เรื่องราวเอ่อสำหรับเรื่องอื่นๆที่
00:23:50 → 00:23:54 ผมหามาเกี่ยวข้องกับเรื่องเค้าเนี่ยก็
00:23:54 → 00:23:57 มีประเด็นนึงซึ่งรู้สึกแปลกใจดีเหมือนกัน
00:23:57 → 00:23:58 คือ
00:23:58 → 00:24:02 เอ่อ 2 อย่างอย่างแรกนะครับเพจเนี้ยตอน
00:24:02 → 00:24:05 แรกที่เค้าเรียกว่าเรียกบุคคลท่านนี้ว่า
00:24:05 → 00:24:07 คุณหมอนักวิจัยเขาก็ยอมแก้ไขให้ผมแล้วนะ
00:24:07 → 00:24:12 ครับคือตัดคำนั้นออกนะฮะตัดออกไปเลยเรียก
00:24:12 → 00:24:14 เรียกบุคคลท่านนี้ว่าเป็นนักวิจัยเฉยๆอัน
00:24:14 → 00:24:18 นี้ผมโอเคละดีะนะครับประเด็นที่ 2 ครับ
00:24:18 → 00:24:20 วันแรกที่ผมเข้าไปดู Facebook ของบุคคล
00:24:20 → 00:24:23 ท่านเนี้ยข้อมูลมันยังเยอะอยู่เลยวันนี้
00:24:23 → 00:24:26 หายไปหมดแล้วมันทำไมเป็นแบบนั้นอันนี้ไม่
00:24:26 → 00:24:28 รู้เหมือนกันครับผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน
00:24:28 → 00:24:30 นะเสียดายผมไม่ได้ถ่าย Facebook ของเขา
00:24:30 → 00:24:33 ไว้ก่อนหน้านั้นนะครับเพราะว่าเฮ้ยทำไม
00:24:33 → 00:24:36 มันเหลือรูปเดียวแต่ก่อนตอนที่ผมหามันยัง
00:24:36 → 00:24:38 เห็นหลายรูปอยู่เลยอันนี้ก็ไม่ทราบเหมือน
00:24:38 → 00:24:40 กันนะครับอาจจะมีความรู้สึกว่าเออเค้า
00:24:40 → 00:24:43 ต้องการอยู่อย่างสงบๆนะครับไม่อยากจะให้
00:24:43 → 00:24:46 ใครไปดูเยอะก็ได้ก็เลยทำให้มันเหลืออยู่
00:24:46 → 00:24:48 รูปเดียวนะครับตรงนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
00:24:48 → 00:24:52 นะฮะอ่ะนี่แหละครับเวลาที่เราดูเรื่องราว
00:24:52 → 00:24:54 ของหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่างๆมันจะต้อง
00:24:54 → 00:24:57 ดูให้ครบถ้วนอย่างเงี้ยอย่างของผมเนี่ย
00:24:57 → 00:25:00 เวลาดูอย่างที่ผมเล่าไปวันก่อนงานวิจัย
00:25:00 → 00:25:02 ที่ทำมันคืองานอะไรกันแน่ต้องเข้าไปดูราย
00:25:02 → 00:25:04 ละเอียดไม่ใช่ว่ายกมางานวิจัยเยอะแยะแล้ว
00:25:04 → 00:25:06 ก็บอกว่าอ๋อมันสนับสนุนเรื่องนี้อย่าง
00:25:06 → 00:25:08 เนี้ยผมบอกชัดเจนเลยว่างานวิจัยที่เขาทำ
00:25:08 → 00:25:10 แล้วตีพิมพ์ใน PUBT เนี่ยมันไม่มีเรื่อง
00:25:10 → 00:25:14 ของ STEM salลที่สามารถมาอ้างอิงในสิ่ง
00:25:14 → 00:25:17 ที่เขาบอกได้นะครับถึงแม้จะมีงานวิจัยแต่
00:25:17 → 00:25:19 มันไม่มีเรื่องเนี้ยแล้วก็ไม่มีเรื่องของ
00:25:19 → 00:25:22 Biomarkers ไม่มีเรื่องของสารสกัดของเขา
00:25:22 → 00:25:25 ที่บอกว่ามันไปกระตุ้นไอ้ภูมิต้านทาน
00:25:25 → 00:25:27 สเต็มเซลล์ทำให้เซลล์กลับมาสมบูรณ์ตรงนี้
00:25:27 → 00:25:29 ยังไม่มีไม่มีตรงไหนบอกอย่างงั้นแล้วมัน
00:25:29 → 00:25:31 ยังต้องมีการให้คำนิยามอีกว่าสเต็มเซลล์
00:25:31 → 00:25:33 ที่สมบูรณ์คืออะไรหรือการทำให้เซลล์กลับ
00:25:33 → 00:25:36 มาสมบูรณ์คือมันแปลว่าอะไรกันแน่นะครับ
00:25:36 → 00:25:39 ตรงนี้ยังไม่มีการบอกนะฮะแต่ผมคาดว่าเค้า
00:25:39 → 00:25:41 คงจะมีวิธีของเค้านั่นแหละที่เขาทำในอ่า
00:25:41 → 00:25:45 ทางปฏิบัติของเขาจริงๆนะครับอ่ะก็ประมาณ
00:25:45 → 00:25:49 นี้แล้วกันนะครับยังไงก็แล้วแต่ผมคิดว่า
00:25:49 → 00:25:52 มี 3 เรื่องที่จะสรุปในวันนี้ข้อแรกถ้า
00:25:52 → 00:25:55 ท่านจะใช้วิธีธรรมชาติที่นอกเหนือไปจาก
00:25:55 → 00:25:59 การรักษาแผนปัจจุบันศึกษาให้ดีก่อนศึกษา
00:25:59 → 00:26:02 ให้ดีก่อนถ้าเป็นโรคหนักๆผมแนะนำว่าคุณ
00:26:02 → 00:26:04 ควรจะปรึกษาแพทย์แผนปุปัจจุบันแต่ถ้าเกิด
00:26:04 → 00:26:07 คุณจะไม่รักษาการแพทย์ปัจจุบันไม่เป็นไร
00:26:07 → 00:26:09 ตราบใดก็ตามที่คุณเข้าใจข้อดีข้อเสียนะ
00:26:09 → 00:26:14 ครับข้อ 2 บุคคลที่ได้รับผลเสียผลกระทบ
00:26:14 → 00:26:18 จากการดูแลของบุคคลท่านนี้ควรจะรวมตัวกัน
00:26:19 → 00:26:22 แล้วก็ออกมาเรียกร้องออกมาฟ้องร้องเพื่อ
00:26:22 → 00:26:24 สืบหาข้อเท็จจริงนะครับให้เข้าใจไปเลยว่า
00:26:24 → 00:26:27 ตรงๆมันเป็นยังไงกันแน่คุณอาจจะไม่ได้
00:26:27 → 00:26:30 อะไรเลยนะแต่อย่างน้อยคุณได้ความเข้าใจ
00:26:30 → 00:26:32 ว่าอ๋อศาสตร์ของเขาค้ามันเป็นยังไงนะครับ
00:26:32 → 00:26:35 บางทีสิ่งที่เค้าทำมันอาจจะถูกต้องคุณอาจ
00:26:35 → 00:26:37 จะเป็นคนที่โชคร้ายหรือครอบครัวของคุณ
00:26:37 → 00:26:39 หรือคนที่คุณรู้จักอาจจะเป็นคนที่โชคร้าย
00:26:39 → 00:26:42 ที่มันไม่ได้ผลขึ้นมาจริงๆก็ได้นะครับ
00:26:42 → 00:26:44 หรืออาจจะเป็นอีกกรณีนึงตรงกันข้ามคือ
00:26:44 → 00:26:47 สิ่งที่เขาทำมันไม่ถูกต้องก็ได้เช่นกันนะ
00:26:47 → 00:26:49 และข้อ 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะ
00:26:50 → 00:26:53 เป็นสภาเทคนิคการแพทย์หรือแพทยสภาหรือว่า
00:26:53 → 00:26:55 อย.หรืออะไรพวกเนี้ยอาจจะต้องเข้าไปดูแล
00:26:55 → 00:26:57 เรื่องนี้ว่าเอ้อมันมีที่มาที่ไปอย่างไร
00:26:57 → 00:27:00 ศึกษาให้เข้าใจนะครับเพื่อที่จะถ้ามันดี
00:27:00 → 00:27:03 จริงๆนะน่าจะทำให้มันเป็นที่รู้จักใน
00:27:04 → 00:27:06 ประเทศไทยให้มันกว้างขวางคนเราจะได้นำมัน
00:27:06 → 00:27:09 ไปใช้ได้อย่างมีประโยชน์นะครับแล้วก็ทำ
00:27:09 → 00:27:11 ให้ทั่วโลกรู้ว่านักวิจัยไทยมันก็เทพขนาด
00:27:11 → 00:27:15 ไหนนะครับก่อนที่จะไปถึงนักวิจัยเทพเราก็
00:27:15 → 00:27:17 ควรจะต้องมาเข้าใจก่อนว่าทั้งหมดกระบวน
00:27:17 → 00:27:20 การทางวิทยาศาสตร์จริงๆแล้วมันต้องทำไง
00:27:20 → 00:27:22 บ้างนะครับโอเคเล่าให้ฟังประมาณเท่านี้นะ
00:27:22 → 00:27:24 ครับต่อไปถ้าเกิดมีการเปิดเผยเรื่องนี้
00:27:24 → 00:27:27 ขึ้นมาผมก็อาจจะเอาชื่อบุคคลท่านนี้มาบอก
00:27:27 → 00:27:30 ให้ท่านรู้ก็ได้แต่ตอนนี้ท่านต้องไปค้นหา
00:27:30 → 00:27:32 ด้วยตัวเองนะครับวันนี้เท่านี้นะครับ
00:27:32 → 00:27:35 ขอบคุณมากครับสวัสดีครับ