00:00:00 → 00:00:01 ให้คุณหมอเล่าก่อนเลยดีกว่าครับว่าจริงๆ
00:00:01 → 00:00:04 แล้วเบาหวานเนี่ยมันเกิดขึ้นได้ยังไงครับ
00:00:04 → 00:00:09 คุณหมอครับจริงๆแล้วเบาหวานมันก็อย่างที่
00:00:09 → 00:00:12 เราทราบกันนะครับคุณพงอิกคุณชุษณว่าส่วน
00:00:12 → 00:00:15 นึงเนี่ยคบเป็นจพันธุกรรมแน่นอนนะครับอีก
00:00:15 → 00:00:19 ส่วนนึงก็คงเป็นจากพฤติกรรมของเรานี่แหละ
00:00:19 → 00:00:22 นะครับจริงๆพฤติกรรมเรามันก็มีหลายอย่าง
00:00:22 → 00:00:26 ทั้งการกินอาหารที่อ่ารับประทานอาหารหา
00:00:26 → 00:00:29 หวานมากเกินไปรับประทานทานแป้งเยอะเกินไป
00:00:29 → 00:00:32 นะครับอืแต่ก็เป็นการพฤติกรรมออกกำลังกาย
00:00:32 → 00:00:37 ที่ลดลงในสมัยปัจจุบันครับแน่นอนครับมัน
00:00:37 → 00:00:41 ก็หลักๆ 3 3 ส่วนนี้ประกอบกันครับคุณคนช
00:00:41 → 00:00:45 ชนะครับครับอือคุณหมอขอขออนุญาตถามก่อน
00:00:45 → 00:00:48 ว่าไอ้ 3 ส่วนนี้ครับคุณหมอส่วนไหนที่เรา
00:00:48 → 00:00:51 พบผู้ป่วยมากที่สุดครับเ่าพันธุกรรมหรือ
00:00:51 → 00:00:53 ว่าพฤติกรรมการกินหรือการที่แบบไม่ออก
00:00:53 → 00:00:55 กำลังกายครับคุณ
00:00:55 → 00:01:00 หมอคือสิ่งนึงอ่ะผมผมเชื่อว่าทุกคนคงมี
00:01:00 → 00:01:02 ญาติที่หรือคนรู้จักที่เป็นเบาหวานอยู่
00:01:02 → 00:01:05 แล้วครับพฤติกรรมผมว่าเป็นเป็นเป็นส่วน
00:01:05 → 00:01:08 นึงนะครับที่เป็นเหมือนแบบต้นทุนของเรา
00:01:08 → 00:01:11 แหละแต่ว่าจากจากข้อมูลมากขึ้นเรื่อยๆ
00:01:11 → 00:01:14 เนี่ยพบว่าจริงๆแล้วสิ่งที่มีความสำคัญ
00:01:14 → 00:01:17 มากๆเลยครับก็คือเรื่องการรับประทานอาหาร
00:01:17 → 00:01:20 อกับพติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปครับเพราะว่า
00:01:20 → 00:01:23 มันมีตัวเลขครับคุณตัวเลขที่น่าสนใจมากๆ
00:01:23 → 00:01:27 เลยเบอกว่าคนณณวันนี้เนี่ยเด็กที่อายุ
00:01:27 → 00:01:30 น้อยกว่า 15 ปีเนี่ยเป็นเบาหวานมากขึ้น
00:01:30 → 00:01:33 5-6 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อก่อนอน
00:01:33 → 00:01:35 หมายความว่าจริงๆแล้วพฤติกรรมเนี่ยมันก็
00:01:35 → 00:01:39 เป็นส่วนนึงแต่ว่าด้วยเอ่อพันธุกรรมเป็น
00:01:39 → 00:01:42 ส่วนหนึ่งแต่ด้วยพฤติกรรมกินครับจะเห็น
00:01:42 → 00:01:47 ว่าเด็กณปัจจุบันเนี้ยทานหวานจากน้ำอัดลม
00:01:47 → 00:01:50 จากขนมจากอะไรต่างๆมากขึ้นผมว่ามันก็เลย
00:01:50 → 00:01:51 กลายเป็นว่า
00:01:51 → 00:01:55 พฤติกรรมการบริโภคนี่แหละณปัจจุบันเป็น
00:01:55 → 00:01:58 ส่วนที่มีความสำคัญมากๆเลยที่ทำให้เบา
00:01:58 → 00:02:03 หวานเป็นเยอะมากขึและเป็นเร็วมากขึ้นอืโอ
00:02:03 → 00:02:06 ครับครับจากเมื่อก่อนเราจะได้ยินแต่วัย
00:02:06 → 00:02:08 ผู้ใหญ่เนาะที่จะเป็นแบบวัยรุ่นเอ่อวัย
00:02:08 → 00:02:11 กลางคนแล้วก็ถึงจะเป็นเบาเบาหวานนี่ไปถึง
00:02:11 → 00:02:14 ยุคสมัยใหม่นเด็ดขึ้นใช่ครับใช่อย่าอย่าง
00:02:14 → 00:02:17 ที่คุณบอกว่าเห็นอย่างที่คุณพงอิคุณชุณ
00:02:17 → 00:02:20 บอกว่าเห็นมบอกเพื่อนอายุ 30 ปลายๆ 30
00:02:21 → 00:02:24 ต้นๆเมื่อก่อนเราเรารู้ว่าเอ๊ะ 40 50
00:02:24 → 00:02:26 ถึงใช่จะเริ่มเป็นเบาหวานกันถูกมั้ยครับ
00:02:26 → 00:02:30 แต่ณปัจจุบันเนี่ย 20 30 10 เริ่มเป็น
00:02:30 → 00:02:35 กันแล้วนะครับอืๆมันมันไปคู่กับโลกอ้วน
00:02:35 → 00:02:40 เลยครับอ๋อึปัจจุบันเนี่ยเราจะเห็นว่าโลก
00:02:40 → 00:02:43 อ้วนเนี่ยก็เป็นกันมากขึ้นเรื่อยๆอืให้
00:02:43 → 00:02:46 ให้ให้ให้เดานะครับว่าปัจจุบันเนี่ยถ้า
00:02:47 → 00:02:50 เราสุ่มคนไทยเนี่ยครับครับอ้วนกี่
00:02:50 → 00:02:54 เปอร์เซ็นต์โอหเดเหรอฮะ 70 ได้มั้ยฮะจริง
00:02:54 → 00:02:57 มั้ยฮะคุณหมออ่ะคุให้ให้ผู้ฟังให้ผู้ฟัง
00:02:57 → 00:03:00 ทางบ้านลองเดาดูก็ได้ครับว่าเอ๊อยากให้
00:03:00 → 00:03:02 เราลองเดินออกชาวบ้านไป
00:03:02 → 00:03:06 เนี่ยลองดูซิว่าคนรอบตัวเราเนี่ยอ้วนกี่
00:03:06 → 00:03:08 เปอร์เซ็นต์
00:03:08 → 00:03:12 เออน่าตกใจนะครับครับครับปัจจุบันเนี่ยณ
00:03:12 → 00:03:15 ปัจจุบันนะครับคนไทยนะครับเอาคนไทยเลยนะ
00:03:15 → 00:03:20 ครับคนไทยเนี่ยอ้วนนะครับเอาค่าจาก BMI
00:03:20 → 00:03:24 แล้วกันแค่แบบแค่หยาบๆคร่าวๆเนี่ยครับ
00:03:24 → 00:03:28 ประมาณ 45 -50% นะครับนั่นหมายความว่า
00:03:28 → 00:03:31 เดินเดินมาถึง 100 คนต้องมีแหละ 45-50 คน
00:03:31 → 00:03:34 50 คนหรือ 2 คนเนี่ยมี 1 คนที่อ้วนแล้ว
00:03:34 → 00:03:38 ออออแต่ถ้าผมเป็นพี่อั๋เินคู่กันนี่ 100%
00:03:39 → 00:03:41 เลยนะ
00:03:41 → 00:03:44 ฮะคือจริงๆแล้วเนี่ยมันมีประเด็นอีกอย่าง
00:03:44 → 00:03:47 ครับจริงๆแล้ว BMI ที่เราใช้วัดกันที่เรา
00:03:47 → 00:03:51 ใช้น้ำหนักหารส่วนสูงเป็นเมตรกำลัง 2
00:03:51 → 00:03:54 หรือ 2 ครั้งเนี่ยมันเป็นค่าหยาบๆแค่นั้น
00:03:54 → 00:03:57 นะครับแต่จริงๆแล้วเนี่ยถ้าเราวัดที่ลึก
00:03:57 → 00:04:00 ซึ้งมากกว่านั้นก็คือวัดเปอร์เซ็นต์ไขมัน
00:04:00 → 00:04:04 ในร่างกายก็จะเจอค้วนเยอะเยอะกว่านี้อีก
00:04:04 → 00:04:07 ครับเยอะเยอะมากกว่านี้เยอะเลยอครับอ่า
00:04:07 → 00:04:10 คุณหมอครับขออนุญาตย้อนไปหน่อยว่าคุณหมอ
00:04:10 → 00:04:13 บอกว่าเอตอนนี้เนี่ยตัวเลขของคนที่เป็น
00:04:13 → 00:04:17 เบาหวานก็คืออายุน้อยลงอันเนี้ยมันมาจาก
00:04:17 → 00:04:19 อาหารในยุคปัจจุบันหรือว่ามันมาจาก
00:04:20 → 00:04:22 พฤติกรรมการกินล้วนๆเลยครับคุณหมอ
00:04:22 → 00:04:25 ครับก็ผม
00:04:25 → 00:04:29 ว่าก็เป็นจากอาหารและพฤติกรรมด้วยแหละแต่
00:04:29 → 00:04:33 เห็นว่าปัจจุบันเนี่ยอหารด้วยด้วยด้วยทาง
00:04:33 → 00:04:37 สื่อด้วยทางมีเดียต่างๆถ้าเราเราก็เสพ
00:04:37 → 00:04:41 เนาะมือถือสื่ออะไรกันเยอะขึ้นเราก็สรล
00:04:41 → 00:04:45 อะไรครับ Facebook Instagram tiktok ก็
00:04:45 → 00:04:48 มีอาหารเข้ามาแต่สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้น
00:04:48 → 00:04:52 ก็คือความน่ากลัวมากกว่านั้นคือเราไม่รู้
00:04:52 → 00:04:55 ว่าเราเผชิญกับน้ำตาลที่แฝงอยู่กับอาหาร
00:04:55 → 00:04:56 ออ
00:04:56 → 00:05:00 อ๋อเช่นเช่นผมยกตัวอย่างง่ายๆนะครับเช่น
00:05:00 → 00:05:04 สมมุติว่าเราไปซื้ออาหารนอกบ้านเช่นเป็น
00:05:04 → 00:05:06 แบบอาหารที่เาทานมาทำมาเราก็ไม่รู้แหละ
00:05:06 → 00:05:09 ว่าเา้าใส่น้ำตาลเยอะเท่าไหร่หรือเอาง่าย
00:05:09 → 00:05:14 ๆแค่อแค่อ่าไก่ทอดบางยี่ห้อที่มีการ
00:05:14 → 00:05:18 เคลือบน้ำตาลเข้าไปอ๋อๆๆนึกออกนึกออกมั้ย
00:05:18 → 00:05:23 ครับนึกออกครับนึออกเเก็นึกว่าเค้าอ่ะกิน
00:05:23 → 00:05:26 ไก่นะของคาวของคาวเออเป็นประสบเป็น
00:05:26 → 00:05:29 ประสบการณ์โดยตรงกับคนไข้ผมเลยครับเค้าเ
00:05:29 → 00:05:31 เคทานไก่นะเค้าไม่ได้ทานอย่างอื่นแล้วผม
00:05:31 → 00:05:36 ก็ซักไปซักมาไก่อะไรไก่ยังไงอออพอซักไป
00:05:36 → 00:05:39 เราก็จะเจอหรือแม้กระทั่งนะครับที่เจอ
00:05:39 → 00:05:41 บ่อยๆมากๆคือ
00:05:41 → 00:05:46 อ่าบอกว่าอยากสุขภาพดีอืมทอะไรครับทาน
00:05:46 → 00:05:51 อะไรครับสลัดครับน้ำผลไม้อ๋อน้ำผลไม้ใช่
00:05:51 → 00:05:55 อ๋อน้ำผลไม้นะครับคนไข้ผมนะครับคนไข้เบา
00:05:55 → 00:05:57 หวานน้ำตาลขึ้นกระฉูดมากหายังไงก็หาไม่
00:05:57 → 00:06:00 เจออ๋อภรรยาผม
00:06:00 → 00:06:04 แบบดีมากรักผมมากเ่อทำน้ำผลไม้ให้ผมดื่มว
00:06:04 → 00:06:09 ละ 2 แก้วตอนเช้าครับออแต่ว่า๋แ้กระทั่ง
00:06:09 → 00:06:13 กระชั่งที่คุณบอกก็คือน้ำสลัดบางยี่ห้อ
00:06:13 → 00:06:17 ใช่จ๊ะใ่งครับครับเหมือนเหมือนจะสุขภาพดี
00:06:17 → 00:06:20 นะครับแต่จริงๆแล้วแอบใส่คือโดยส่วนผสม
00:06:20 → 00:06:22 ของน้ำสลัดเนี่ยมันมีน้ำตาลแสงค่อนข้าง
00:06:22 → 00:06:27 เยอะครับอือือืในครีมซอสสลัดอมก็อันนี้
00:06:27 → 00:06:29 อันนี้มันมันมาจากประสบการณ์ของรุ่นรุ่น
00:06:29 → 00:06:32 พี่ครับคุณหมอแบบว่าเขาบอกว่าเ้ยเนี่ยจะ
00:06:32 → 00:06:35 จะลดน้ำหนักแล้วนะฉันจะไปกินสลัดพอกิน
00:06:35 → 00:06:39 สลัดเนี่ยกินกับเอ่อน้ำสลัดน้ำข้นเขาบอก
00:06:39 → 00:06:41 ว่ากินไปกินมาได้ประมาณเดือน 2 เดือนเอ๊ะ
00:06:41 → 00:06:44 ทำไมน้ำหนักขึ้นเยอะกว่าเดิมพอไปดูก็ไล่
00:06:44 → 00:06:48 ถามกันว่าอเออกินกินกินน้ำสลัดเยอะมากเลย
00:06:48 → 00:06:50 อะไรเงี้ย
00:06:50 → 00:06:54 โอผักแล้วสุขภาพดีนะอีกอันนึงตัวอย่าง
00:06:54 → 00:06:58 ซีเรียลครับอ่าครับซีเรียลบางอันเป็นไง
00:06:58 → 00:07:01 ครับหวานหานเลยเคลือบเคลือบน้ำกางเลยครับ
00:07:02 → 00:07:04 ทุกคนคิดว่าแบบกินธัญพืชสุขภาพดีอะไร
00:07:04 → 00:07:08 เงี้ยจริงๆแล้วมันมันไม่ใช่อย่างงั้นคือ
00:07:08 → 00:07:12 มันด้วยด้วยพฤติกรรมด้วยและด้วยคนพยายาม
00:07:12 → 00:07:15 จะแแสวงหาสิ่งที่สุขภาพดีแต่จริงๆแล้ว
00:07:15 → 00:07:18 เนี่ยมันมีน้ำตาลที่ซ่อนเร้นอยู่ที่เรา
00:07:18 → 00:07:22 อาจจะไม่ได้ไม่ได้ไม่ได้ระวังหรือว่าบาง
00:07:22 → 00:07:24 คนอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจริงๆแล้วเออตรง
00:07:24 → 00:07:27 นี้มันคือน้ำตาลที่แฝงอยู่คือคือผมผมว่า
00:07:27 → 00:07:32 หลายๆคนพอเราพอเวลามันขึ้นชื่อว่าผลไม้โอ
00:07:32 → 00:07:34 อันนี้สุขภาพดีเหมือนเมื่อก่อนผมก็เคยมี
00:07:34 → 00:07:36 ความคิดแบบนี้ครับว่าแบบอุยลดน้ำหนัก
00:07:36 → 00:07:40 โอ้โหกินผลไม้ก็กินมะม่วงสุกเข้า
00:07:40 → 00:07:44 ไปกลายเป็นว่าโอ้โหน้ำตาลเยอะกว่าเดิมอีก
00:07:44 → 00:07:49 ครับอืเพราะว่าานหวานนะอืสุครับคือมันมัน
00:07:49 → 00:07:52 ก็มีตัวเลขนะครับแบอย่างเช่นณปัจจุบัน
00:07:52 → 00:07:55 เนี่ยเค้ากำหนดแล้วว่าเราต้องกินน้ำตาล
00:07:55 → 00:07:59 เนี่ยไม่เกิน 6 ช้อนชาหรือ 24 กรัมอื
00:08:00 → 00:08:02 คนไทยเนี่ยครับมีการสำรวจแล้วกินเนี่ยเรา
00:08:02 → 00:08:06 กินน้ำตาลมากกว่าปกติประมาณ 3 เท่าอื
00:08:06 → 00:08:09 ประมาณน้ำตาลมันเยอะมากด้วจากการสำรวจ
00:08:09 → 00:08:12 คร่าวๆนะครับนี่อาจจะยังไม่รวมน้ำตาลที่
00:08:12 → 00:08:16 แสงอยู่ตามแล้วณปัจจุบันเนี่ยผมก็มีคุย
00:08:16 → 00:08:20 กับอ่าอย่างคนเอเชียเนี่ยเป็นเยอะเบาหวาน
00:08:20 → 00:08:23 เป็นเยอะขึ้นเพราะนั้นนะครับอันนี้พูดอาจ
00:08:23 → 00:08:26 จะเป็นดูเหมือนเรื่องตลกนะครับครับบิ TE
00:08:26 → 00:08:29 ครับชานมไข่มุกครับจริงๆโอ
00:08:29 → 00:08:33 อ๋อเช้าบางคนนี่กินแบบเช้ากลางวันเย็นนะ
00:08:33 → 00:08:36 ฮะใช่ใช่มันเป็นอาหารที่ปอปปูล่าแล้วจริง
00:08:36 → 00:08:39 ๆมันเกิดขึ้นจริงนะครับอันนี้คุยกับอ่าคน
00:08:39 → 00:08:42 อ่าหมอที่อยู่ทางจีนที่อยู่ทางสิงคโปร์
00:08:42 → 00:08:46 หรือว่าแถบเซาอีสเอเชียเนี่ยแถบที่ฮิตๆ
00:08:46 → 00:08:50 กับชานมไข่บุ๊กจริงครับมันก็ทำให้อือมัน
00:08:50 → 00:08:56 ก็ทำให้เหมือนเหมือนเป็นแบบน้ำดื่มที่ปปู
00:08:56 → 00:09:00 มากบูมมากในโซนเราอะไรเงี้ยครับอออมันก็
00:09:00 → 00:09:05 มันมันมันมันมันก็มีส่วนจริงๆที่ทำให้ให้
00:09:05 → 00:09:07 เกิดการเกิดเบาหวานเยอะขึ้นแล้วก็เกิดโรค
00:09:07 → 00:09:11 อ้วนเยอะขึ้นมันมันมาข้นอืกันมาคกันเพราะ
00:09:12 → 00:09:14 ว่าเพราะว่าอย่างที่บอกว่าอย่างที่คุณหมอ
00:09:14 → 00:09:17 ยกตัวอย่างว่าแบบเออเรื่องของชานมไข่มุก
00:09:17 → 00:09:20 เงี้ยผมก็นึกย้อนไปถึงไน้ำชงครับคุณหมอ
00:09:20 → 00:09:23 น้ำชงที่ขาย้รถเแหละที่เราแบบว่าเมื่อ
00:09:23 → 00:09:25 ก่อนน่ะเราก็กินแล้วเราก็รู้สึกแค่ว่าอุย
00:09:25 → 00:09:29 มันอร่อยแต่พอหลังๆเราเริ่มเห็นอันตรา
00:09:29 → 00:09:32 ราายของความหวานเวลาดูพี่ๆเาใส่น้ำตาลแบบ
00:09:32 → 00:09:36 โอ้โหกวักแบบปึ๊บแล้วก็นมข้นเข้าไปอีกเออ
00:09:36 → 00:09:39 ้างหๆผมก็ไม่ค่อยไม่ไม่ค่อยกินบ่อยนะฮะ
00:09:39 → 00:09:41 แต่ตัวก็ไม่ได้ผอม
00:09:41 → 00:09:46 ลงโอครับอ่ะคุณหมอครับนอกจากอาหารที่เรา
00:09:46 → 00:09:51 อาจจะแบบเอ๊ไม่ไม่เห็นน้ำตาลของมันอย่าง
00:09:51 → 00:09:54 ไอ้พวกน้ำอารมณ์หรือบางอย่างที่มันมีสาร
00:09:54 → 00:09:57 แทนความหวานอันเนี้ยมันมันส่งผลให้เราติด
00:09:57 → 00:09:59 หวานเหมือนกันมครับคุณหมอ
00:09:59 → 00:10:03 คือจริงๆเนี่ยตามตามคำแนะนำนะครับก็คือ
00:10:03 → 00:10:07 แหละไม่กินดีสุดถูกมยครับครับครับ
00:10:07 → 00:10:10 คือคือคือคือไม่กินหวานเลยอ่ะมันดีสุด
00:10:10 → 00:10:13 อยู่แล้วแต่ันนี้เนี่ยอืมันก็ต้องเข้าใจ
00:10:13 → 00:10:15 ว่าบางครั้งมันก็ขาดความสุขในชีวิต้ว
00:10:15 → 00:10:19 เหมือนกันนะนี้ผมก็เข้าใจสครับครับเออ
00:10:19 → 00:10:24 ครับก็คือสาารผมผมยกตัวอย่างผมพูดง่ายๆ
00:10:24 → 00:10:27 คือาให้ความหวานณปัจจุบันนะครับครับแบ่ง
00:10:27 → 00:10:32 ออกเป็น 2 กลุ่มอืเป็นจากธรรมชาติครับกับ
00:10:32 → 00:10:34 ที่สังเคราะห์ขึ้นแล้วะกันอ่ะพูดคร่าวๆ
00:10:34 → 00:10:38 ครับครับครับตามธรรมชาติเนี่ยผมว่าที่ดัง
00:10:38 → 00:10:41 ๆก็มีอยู่ 2 อันแหละหย้าหวาย้าหวหล่อัง
00:10:41 → 00:10:46 กล้วยหล่อจผมชอบกินะน้ำ้น้ำหล่อฮังกล้วย
00:10:46 → 00:10:49 อ่ามีหญ้าหวานกับหล่อางกล้วยครับส่วนไอ้
00:10:49 → 00:10:52 ตัวที่เป็นสังเคราะห์เนี่ยก็จะเป็นพวกซูค
00:10:52 → 00:10:56 เป็นพวกอ่าเป็นอ่าชูการแอลกอฮอล์ที่ใส่
00:10:56 → 00:10:58 พวกอ่าที่เราเคี้ยวพวกหักฝรั่งหรือว่า
00:10:58 → 00:11:03 เป็นพอืครับเป็นพวกที่เราซื้อลูกองคที่
00:11:03 → 00:11:07 ไม่มีน้ำตาลมากินอคราวนี้เนี่ยจากข้อมูล
00:11:07 → 00:11:10 นะครับจากข้อมูลครับ 1 ก็คือถ้าเราไม่กิน
00:11:10 → 00:11:13 หวานแล้วเราไปกินเนี้ยมันก็ติดหวานแน่ๆ
00:11:13 → 00:11:16 แหละอ่าแต่คพบว่าการที่เรากินสารความหวาน
00:11:16 → 00:11:20 จาก Natural เนี่ยมันก็อาจจะมีข้อดีมาก
00:11:20 → 00:11:24 กว่าอการที่เราไปกินจากสังเคราะห์ครับอ
00:11:24 → 00:11:28 แต่ยังไงก็ตามแต่ยังไงก็ตามมันก็มีข้อมูล
00:11:28 → 00:11:32 บางอันนะครับว่าการที่เราไปให้ความหวาน
00:11:32 → 00:11:35 กระตุ้นที่เ่อที่ปากเราเนี่ยมันก็กระตุ้น
00:11:35 → 00:11:39 การหลังอินซูลินและกระตุ้นทำให้เกิดโรค
00:11:39 → 00:11:44 ต่างๆตามมาเหมือนกันอออันนี้อชเจนยังไม่
00:11:44 → 00:11:46 ชัดเจนยังไม่ชัดเจนยังไม่ชัดเจนอ่าครับ
00:11:46 → 00:11:49 ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่หรือบางงานวิจัยก็
00:11:49 → 00:11:52 บอกว่ามันไปเปลี่ยนแบคทีเรียในลำไส้เรา
00:11:52 → 00:11:55 อีกอืพวกตความหวานพวกนี้เพราะฉะนั้นเนี่ย
00:11:55 → 00:11:58 ถ้าถามผมแล้วข้อมูลนะปัจจุบันนะครับไม่
00:11:58 → 00:12:01 กินดีสุดแต่ถ้ากินการน้อยๆหรือถ้าไม่ไหว
00:12:01 → 00:12:04 จริงๆก็อาจจะกินจากอ่าสารให้ความหวานได้
00:12:04 → 00:12:08 บ้างถ้ามันถ้ามันอยากอือแต่ว่าปริมาณถ้า
00:12:08 → 00:12:11 เราไม่ได้กินแบบเยอะมากๆมันก็อาจจะไม่ได้
00:12:11 → 00:12:13 ส่งผลเสียต่อร่างกายมากแต่ถ้าบางคนติดมาก
00:12:14 → 00:12:16 ต้องกินทุกวันเช่นต้องกินโคกฮีโร่ทุกวัน
00:12:16 → 00:12:18 อะไรอย่างเงี้ยครับมันก็เชื่อว่าอาจจะมี
00:12:19 → 00:12:21 ผลเสียได้เหมือนกันนะครับก็อาจจะมีผลเสีย
00:12:21 → 00:12:24 ได้เหมือนกันเอาเป็นว่าณข้อมูลปัจจุบัน
00:12:24 → 00:12:28 ยังสรุปไม่ชัดเจนมากเท่าไหร่แต่ว่าไม่กิน
00:12:28 → 00:12:30 ก็ดีที่สุดอยู่แล้วครับอ๋อกินไม่น้อยที่
00:12:30 → 00:12:34 สุดแล้วกันครับตามข้อมูลของของเอ่ออย่าง
00:12:34 → 00:12:37 องค์การอนามัยโลกหรือว่าเอ่อข้อมูลจาก
00:12:37 → 00:12:41 สมาคมเบาหวานของทั่วโลกก็บอกว่ามีกินได้
00:12:41 → 00:12:44 แต่ว่าให้กินในปริมาณที่ไม่เยอะจนเกินไป
00:12:44 → 00:12:47 อือครับน้อยน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
00:12:47 → 00:12:51 ะกันครับครับอ่าคุณหมอครับแล้วอย่างนี้
00:12:51 → 00:12:55 เนี่ยถ้าเกิดคนไหนที่อาจจะเป็นผู้ป่วยเบา
00:12:55 → 00:12:58 หวานหรือกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะมีคนใน
00:12:58 → 00:13:01 ครอบครัวแบบมีพันธุกรรมที่เขาเป็นเบาหวาน
00:13:01 → 00:13:04 แล้วเนี่ยกินยังไงนะฮะมีสูตรไหนที่จะเป็น
00:13:04 → 00:13:07 สูตรลับที่จะทำให้กินแล้วมันมันลดความ
00:13:07 → 00:13:10 เสี่ยงจากโรคเบาหวานลงครับคุณหมอครับคือ
00:13:10 → 00:13:13 จริงๆผมต้องบอกงี้นะครับคือด้วยด้วยความ
00:13:13 → 00:13:15 ที่ประสบการณ์เนี่ยผมก็ดูคนไข้เบาหวาน
00:13:15 → 00:13:18 ค่อนข้างเยอะครับการที่จะบอกเา้าว่าห้าม
00:13:18 → 00:13:20 กินเบาหวานเลยห้ามกินอาหารเบาหวานเลยใน
00:13:20 → 00:13:23 ชีวิตเนี่ยผมว่ามันเป็นไปได้ยากกับการที่
00:13:23 → 00:13:27 มันจะ practical ถูกมั้ยครับอืยากมากๆที่
00:13:27 → 00:13:30 บอกว่าจะจะตัดหวานเลยทุกอย่างครับแต่สิ่ง
00:13:30 → 00:13:35 ที่สำคัญที่สุดผมว่าเป็นน้ำหวานครับอ๋อ
00:13:35 → 00:13:38 ครับน้ำหวานเนี่ยมันจะอือมันเข้าโดยตรง
00:13:38 → 00:13:41 เลยอ่ะพอกินปุ๊บมันเข้าในกระแสเลือดเข้า
00:13:41 → 00:13:44 กระตุ้นการหลังอินซูรินเลยถ้าเป็นไปได้ิ
00:13:44 → 00:13:47 เรี้ยงน้ำหวานก่อนอืหรือถ้ากินน้ำหวานก็
00:13:47 → 00:13:50 หวานให้น้อยที่สุดหรือว่าใส่ถ้าถ้าถ้าถ้า
00:13:50 → 00:13:53 ไม่ได้กินจืดไม่ได้จริงๆอ่ะก็ใส่ใส่สัให้
00:13:53 → 00:13:57 ความหวานนิดหน่อยนะครับออืแต่แต่ผมเชื่อ
00:13:57 → 00:14:01 ว่าขนมหรือหรือผลไม้ที่มีความหวานบาง
00:14:01 → 00:14:05 อย่างสามารถทานได้ในปริมาณที่เหมาะสมนะ
00:14:05 → 00:14:10 ครับซึ่งปริมาณที่เหมาะสมของขนมหรือผลไม้
00:14:10 → 00:14:13 หรืออ่าอาหารบางอย่างที่มีรสหวานเนี่ยมัน
00:14:13 → 00:14:17 ก็ต้องไปดูสัดส่วนของอาหารแต่ละวันด้วยอื
00:14:17 → 00:14:21 อย่างที่ผมบอกครับแล้วมันก็ในในในคนไข้
00:14:21 → 00:14:23 เบาหวานเองเราก็ต้องมีการสอนที่เรียกว่า
00:14:23 → 00:14:26 เขาเรียกว่าขาบ Exchange หมายความว่าเรา
00:14:27 → 00:14:29 รู้อยู่แล้วว่าน้ำตาลเนี่ยคือหมวดหมัว
00:14:29 → 00:14:32 อาหารที่เป็นคาร์โบไฮเดรตถูกมั้ยครับครับ
00:14:32 → 00:14:35 ครับเช่นสมมุติว่าวันเนี้ยสมมติผมผมยกตัว
00:14:35 → 00:14:39 อย่างคนไข้ผมเลยแล้วกันชอบทุเรียนมากอ
00:14:39 → 00:14:43 ครับวิธีต้องกินทุเรียนอืไม่กินทุเรียน
00:14:43 → 00:14:47 ชีวิตไม่มีความสุขอยู่ไม่ได้อืป้างั้น
00:14:47 → 00:14:51 โอเคป้ากินครับอ่ะป้ากิน 1 ยวงนะป้าต้อง
00:14:51 → 00:14:53 ไปลดอาหารเท่านี้นึกออกมั้ยครับอ๋อครับ
00:14:53 → 00:14:55 หมายความว่าเาจะเรียกว่าอันเนี้ยคือ
00:14:55 → 00:14:57 กระบวนการที่เราเรียกว่า Car Exchange
00:14:57 → 00:15:00 หมายความว่าทำยังไงก็ก็ได้ให้ให้คนไข้
00:15:00 → 00:15:03 เนี่ยมีความสุขในการใช้ชีวิตอยู่อแต่ก็
00:15:03 → 00:15:06 ต้องควบคุมเบาหวานให้ได้ด้วยเพราะฉนั้น
00:15:06 → 00:15:08 รายละเอียดมันต้องเยอะสำหรับคนไข้ที่เป็น
00:15:08 → 00:15:11 เบาหวาดสูตรลับคงไม่มีแต่ว่าคงต้องมานั่ง
00:15:11 → 00:15:17 คุยกันในแต่ละคนผมจะใช้คำว่าต้องต้องต้อง
00:15:17 → 00:15:20 เหมือนเหมือนเราตัดชุดอ่ะครับเพไม่บอกว่า
00:15:20 → 00:15:23 ทุกคนต้องกินแบบนี้ทุกคนต้องทำตามแบบนี้
00:15:23 → 00:15:27 แล้วมันจะสำเร็จผมเชื่อว่าที่สำคัญที่สุด
00:15:27 → 00:15:29 ในการดูแลคนไข้เบาหวานหรือทุกคนเลยนะครับ
00:15:29 → 00:15:34 ต้องมาว่า 1 คุณชอบกินอะไรคุณอยากกินอะไร
00:15:34 → 00:15:37 แล้วคุณถ้าคุณอยากกินอันนี้คุณต้องงดอัน
00:15:37 → 00:15:40 นี้นะอ่าครับถ้าคุณชอบอันนี้คุณต้องไม่
00:15:40 → 00:15:43 กินอ่าถ้าคุณอยากกินออันนี้เยอะหน่อยคุณ
00:15:43 → 00:15:45 ต้องกินอันนี้น้อยลงหรือว่ากินอันนี้ได้
00:15:45 → 00:15:48 ครับเพื่อที่จะทำให้กลับไปตามแต่ละ
00:15:48 → 00:15:51 ไลฟ์สไตล์ของบุคคลแต่ละคนครับแลกเปลี่ยน
00:15:51 → 00:15:55 แลกเปลี่ยนโใช่โดยหลักการคร่าวๆแล้วก็คือ
00:15:55 → 00:16:00 ว่าสัดส่วนของคาร์โบไฮเดรตโปรตีนและอ่าไข
00:16:00 → 00:16:03 มันต้องดีแล้วก็ต้องมีสัดส่วนของที่เป็น
00:16:03 → 00:16:06 ผักเข้าไปด้วยแค่นั้นเองครับอ๋อต้องมี
00:16:07 → 00:16:09 ต้องกินอาหารให้ครบทุกเขาเรียกว่าสุดท้าย
00:16:09 → 00:16:11 แล้วมันมันจะเข้าสู่กระบวนการที่เรียกว่า
00:16:11 → 00:16:14 Healthy Balance Diet หมายความว่ากิน
00:16:14 → 00:16:18 อาหารสุขภาพดีในปริมาณที่เหมาะสมอืที่
00:16:18 → 00:16:23 เหมาะสพุกแต่ละลายครับครับอ๋อเอ่ออันนี้
00:16:23 → 00:16:25 คือรายละเอียดมันค่อนข้างเยอะแต่ผมพูดได้
00:16:25 → 00:16:27 แค่หลักการคร่าวๆแล้วกันเพราะว่าบางคนก็
00:16:27 → 00:16:30 ฉีบอินซูลินก็ต้องต้องกินอย่างนี้นึกออก
00:16:30 → 00:16:33 มั้ยครับกินไม่ถือคลินก็ต้องกินอย่างนี้
00:16:33 → 00:16:37 แต่ว่าคนอ้วนก็ต้องลดลดแคลอรี่ลงสักวันละ
00:16:37 → 00:16:40 500 จะลดตรงไหนดีอะไรอย่างเงี้ยมันต้อง
00:16:40 → 00:16:43 มาคุยกันน่ะแต่ใแต่ลออครับแต่ละคนก็จะแบบ
00:16:43 → 00:16:47 เหมือนกับว่ามีมีข้อจำกัดแตกต่างกันไปอื
00:16:47 → 00:16:48 ครับใช่ๆ
00:16:48 → 00:16:52 ๆเอ่อคุณหมอครับมีมีคุณผู้ฟังถามมาบอกว่า
00:16:52 → 00:16:55 แล้วอย่างน้ำผึ้งเนี่ยมีส่วนเกี่ยวข้อง
00:16:55 → 00:16:57 กับโรคเบาหวานเหมือนกันมั้ยครับคุณ
00:16:57 → 00:17:02 หมออะไรนะครับน้ำผึ้งครับน้ำผึ้งน้ำผึ้ง
00:17:02 → 00:17:05 ครับหวานเจี๊ยบมาเลยเนี่ยมีส่วนเกี่ยว
00:17:05 → 00:17:09 ข้องน้ำึ่งก็คือน้ำหวานแะครับครับอก็คือ
00:17:09 → 00:17:12 น้ำหวานก็คือน้ำหวานมันมันก็คือน้ำหวาน
00:17:12 → 00:17:16 นั่นแหละผมว่าอืมันมันก็มันก็คือตรงๆเลย
00:17:16 → 00:17:19 น้ำผึ้งมันก็คือน้ำหวานเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:17:19 → 00:17:21 ถ้าเรากินน้ำผึ้งเราก็ต้องลดปริมาณ
00:17:21 → 00:17:24 คาร์โบไฮเดรตลดปริมาณข้าวลงถ้าอยากจะกิน
00:17:24 → 00:17:27 นะครับแต่เป็นไปได้คือน้ำหวานนะครับอย่า
00:17:27 → 00:17:30 ไปทานเลยครับถ้าไม่จำเป็นครับอ๋อครับมี
00:17:31 → 00:17:33 หลายคนเข้าใจผิดนะพี่อั๋นคุณหมอเอ่อว่า
00:17:33 → 00:17:36 กินน้ำผึ้งแบบมันเป็นธรรมชาติผ่าน
00:17:36 → 00:17:39 ธรรมชาติกินไม่เป็นไรหรอกไม่ไม่ไม่กินได้
00:17:39 → 00:17:42 เป็นประโยชน์ซะอีกอะไรเงี้ยออแแท้จริง
00:17:42 → 00:17:45 แล้วก็เป็นของหวานเหมือนกันมันก็ไม่ดีต่อ
00:17:45 → 00:17:47 คนที่มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานใช่มั้ยฮะ
00:17:47 → 00:17:49 ใช่ถูกต้องครับถูกต้องอันนี้เป็นความ
00:17:49 → 00:17:54 เชื่อที่ถูกต้องเลยครับอือ๋อครับเอ่อคุณ
00:17:54 → 00:17:57 หมอแล้วอย่างงี้เนี่ยเอ่อคนที่สุขภาพดี
00:17:57 → 00:18:01 จริงๆเนี่ยเมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบา
00:18:01 → 00:18:04 หวานมั้ยครับคุณหมอ
00:18:04 → 00:18:09 อืมสุขภาพดีสุขภาพออกกำลังกายบ่อยกินดี
00:18:09 → 00:18:12 กำลกินแต่ของมีประโยชน์
00:18:12 → 00:18:16 กก็อย่างอย่างอย่าอย่างที่บอกนะครับบางคน
00:18:16 → 00:18:18 ไม่จำเป็นต้องอ้วนทุกคนที่จะเป็นเบาหวาด
00:18:18 → 00:18:22 อือครับครับคือมันแล้วอยู่ขึ้นอยู่กับใช้
00:18:22 → 00:18:25 คำว่าอะไรดีต้นทุนของชีวิตและและและ
00:18:25 → 00:18:29 พันธกรรมเราด้วยแหละคือบางคนอ๋อแว่าจะ
00:18:29 → 00:18:31 ปฏิบัติตัวดียังไงแต่มี
00:18:31 → 00:18:35 พันธุกรรมมันก็เป็นเบาหวานได้แต่แต่ถ้า
00:18:35 → 00:18:39 เราปฏิบัติตัวดีครับกินอาหารมีประโยชน์
00:18:39 → 00:18:41 มันก็จะทำให้เบาหวานที่มันจะเกิดขึ้น
00:18:41 → 00:18:45 เนี่ยช้าลงสมมติสมมตินะครับอ๋อพ่อคุณแม่
00:18:45 → 00:18:47 เราเป็นักอายุประมาณคุณพ่อคุณแม่เราเป็น
00:18:47 → 00:18:51 สัก 40 50 แต่ว่าเราเราทำตัวดีมากเลยอ่า
00:18:51 → 00:18:55 ฟิตมากเลยมีซิกแพคแบบกล้ามเนื้อดีกิน
00:18:55 → 00:18:59 อาหารดีมันก็เราอาจจะดียไปเป็นสัก 60 70
00:18:59 → 00:19:01 ซึ่งมันก็แบบผลแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นมันก็
00:19:01 → 00:19:03 น้อยกว่าคนที่เป็นอายุน้อยอยู่แล้วครับอื
00:19:03 → 00:19:06 อ๋อแต่อย่าไปเอาชนะนะแบบพ่อแม่เป็น 40
00:19:06 → 00:19:09 เราไปเป็น 20 30 เลยเอาชนะเอออันนี้อัน
00:19:09 → 00:19:14 นี้ยครับอันนี้เออเออย่างอย่างที่คุณหมอ
00:19:14 → 00:19:17 บอกครับว่าจริงๆแล้วมันมันก็อย่างที่
00:19:17 → 00:19:19 เพื่อนผมเป็นนะครับเพื่อนผมเป็นเขาก็ไม่
00:19:19 → 00:19:21 ได้ดูอ้วนขึ้นนะครับแต่ก็แบบเหมือนสวดเจอ
00:19:21 → 00:19:24 อะไรเงี้ยคุณหมอนอกจากวิธีการสังเกตเนี่ย
00:19:24 → 00:19:26 มันมันมีวิธีการสังเกตมั้ยครับอย่างที่ผม
00:19:26 → 00:19:28 เคยได้ยินก็คือคนที่เป็นเบาหวานเนี่ย
00:19:28 → 00:19:31 เนี่ยเวลาเป็นแผลจะหายช้าอันเนี้ยเป็น
00:19:31 → 00:19:34 หนึ่งในวิธีการสังเกตมั้ยครับคุณหมออคือ
00:19:34 → 00:19:36 เบาหวานเนี่ยมี 2 อย่างนะครับมีอาการกับ
00:19:36 → 00:19:39 ไม่มีอาการครับครับเอาอาการเลยแล้วกัน
00:19:39 → 00:19:44 อาการโดยสัพันธ์ก็อ่าถ้าเจอหิวน้ำบอยนะ
00:19:44 → 00:19:47 ครับนะครับปัสสาวะบ่อยน้ำหนักลดนะครับไม่
00:19:47 → 00:19:49 ใช่น้ำหนักเพิ่มช่วงที่เป็นเบาหวานเพราะ
00:19:49 → 00:19:51 ว่าร่างกายมันเอาน้ำตาลไปใส่ไม่ได้อแล้ว
00:19:51 → 00:19:56 ก็อันนี้คือเป็นอาการของของน้ำตาลสูงส่วน
00:19:56 → 00:19:59 เรื่องแผลแผลติดเชื้อแล้วหายากเป็นอาการ
00:19:59 → 00:20:03 ของเริ่มผลแทรกซ้อนและว่าแบบอเหายากหรือ
00:20:03 → 00:20:06 ว่าบางคนอาจจะมาด้วยมือเท้าชานะครับหรือ
00:20:06 → 00:20:09 บางคนแย่กว่านั้นก็คืออาจจะมาด้วยตามัว
00:20:09 → 00:20:12 มองไม่เห็นเลยอันนี้เป็นผลแทรกซ้อนที่ที่
00:20:12 → 00:20:15 เป็นค่อนข้างเยอะล่ะครับอ๋อแต่โดยส่วน
00:20:15 → 00:20:18 ใหญ่โดยส่วนใหญ่ของคนไข้เบาหวานจะไม่มี
00:20:18 → 00:20:22 อาการเพราะฉะนั้นนะครับเพราะฉะนั้นถ้าคุณ
00:20:22 → 00:20:25 อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเช่นมีคุณพ่อคุณแม่เป็น
00:20:25 → 00:20:28 มีปู่ย่าตายายหรือคนในสักคนนึงที่เป็น
00:20:28 → 00:20:32 เครือญาตที่เป็นครับนะครับเอ่อควรจะต้อง
00:20:32 → 00:20:37 คัดกรองอือย่างรดเร็วที่สุดโดยทั่วไปเลย
00:20:37 → 00:20:39 นะครับถึงคุณไม่มีความเสี่ยงอะไรเนี่ย
00:20:40 → 00:20:42 ประเทศไทยแนะนำให้คัดกองเมื่ออายุเกิน 35
00:20:42 → 00:20:48 ปีทุกคนต้องตรวจน้ำตในเลือดออืครับๆแต่
00:20:48 → 00:20:50 ถ้าคุณมีความ
00:20:50 → 00:20:55 เสี่ยงอายุ 25 คุณต้องไปตรวจแล้วอือ๋อ
00:20:55 → 00:20:57 ระยะเวลาซึ่งต่างเเยอะเหมือนกันนะ 25 กับ
00:20:58 → 00:21:00 35 10 ปีใช่ความเสี่ยงไม่ว่าจะเป็น
00:21:00 → 00:21:04 เรื่องอ่าอ้วนนะครับอ้วนหรือว่าเป็นอ่ามี
00:21:04 → 00:21:08 โรคประจำตัวอื่นๆเช่นเป็นไขมันในเลือดสูง
00:21:08 → 00:21:13 เป็นความดันนะครับครับหรือว่าอาจจะอ่าเคย
00:21:13 → 00:21:16 เป็นเบาหวานตอนตั้งครรภ์หรือเป็นผู้หญิง
00:21:16 → 00:21:19 บางคนที่มีถุงน้ำในรังไข่ครับที่ประจำ
00:21:19 → 00:21:23 เดือนมาไม่ไม่ไม่ปกติอืหืออีกกลุ่มนึงก็
00:21:23 → 00:21:26 คือเป็นแบบเช่นเคยคลอดลูกน้ำหนักเกินกว่า
00:21:26 → 00:21:29 4 กลอะไรอย่างเงี้ยครับแต่โดยหลักๆก็คือ
00:21:29 → 00:21:32 มีอ้วนหรือว่ามีโรคอื่นที่เป็นอ่าภาวะ
00:21:32 → 00:21:35 ร่วมด้วยเนี่ยเราก็จะแนะนำให้คัดกรองเร็ว
00:21:35 → 00:21:38 หน่อยนะครับอือืจริงๆแล้วประเทศไทยจริงๆ
00:21:38 → 00:21:41 แล้วประเทศไทยมีเค้ามีจกนะครับแล้วก็มี
00:21:41 → 00:21:44 แบบถ้าถ้าไปถามคุณหมอคุณหมอทุกท่านจะรู้
00:21:44 → 00:21:48 เลยว่าเป็นสกอร์ในการสกรีนนิ่งเขาก็จะดู
00:21:48 → 00:21:51 ความดันดูรอบเอวดูอายุอะไรอย่าเงี้ยครับ
00:21:52 → 00:21:55 อ๋อเกินสกอร์เกินเ้าก็ไปคัดกรองเหมือนกัน
00:21:56 → 00:21:59 อืครับมีการจริงๆ
00:21:59 → 00:22:02 จริงๆเนี่ยผมเนี่ยพยายามจะมาพูดนะครับ
00:22:02 → 00:22:04 แล้วก็สมาคมเองก็ออกมาพูดว่าจริงๆแล้วคน
00:22:04 → 00:22:07 ไทยต้องคัดกองเร็วขึ้นอ๋อเพราะว่าการที่
00:22:07 → 00:22:10 เราคัดกรองเร็วขึ้นการที่เราตรวจเร็วขึ้น
00:22:10 → 00:22:13 พอเรารู้ถึงแม้ว่าจุดนั้นเนี่ยน้ำตาลเรา
00:22:13 → 00:22:15 ยังไม่ได้ถึงขั้นเป็นเบาหวานแต่เราเสี่ยง
00:22:15 → 00:22:17 แล้วเนี่ยเราก็ต้องกลับมาดูแลตัวเองแล้ว
00:22:17 → 00:22:19 ถูกมั้ยครับครับก็ต้องปรับวิธีการใช้
00:22:20 → 00:22:23 ชีวิตการเอะไรงี้ใช่่ใช่เพราะว่าทุกใคร
00:22:23 → 00:22:26 ทุกคนก็คงไม่อยากเป็นเบาหวาอแต่ว่ายิ่ง
00:22:26 → 00:22:29 เป็นเรายิ่งเป็นแล้วถึงแม้คนที่เป็นแล้ว
00:22:29 → 00:22:33 เนี่ยแล้วเริ่มเริ่มรักษาเร็วครับภาวะ
00:22:33 → 00:22:35 แทรกซ้อนไม่ว่าจะเป็นเบาหวานขึ้นตาเบา
00:22:35 → 00:22:40 หวานลงไปหรือว่าต่างๆโรคหัวใจหลอดเลือด
00:22:40 → 00:22:44 สมองมันก็จะเกิดขึ้นชาลงอครับอครับอ่าคุณ
00:22:44 → 00:22:48 หมอครับมีคำถามจากคุณผู้ฟังครับบอกว่า
00:22:48 → 00:22:52 เอ่อทานน้ำมันมะพร้าวเนี่ยช่วยเรื่องเบา
00:22:52 → 00:22:55 หวานเอ่อ type type 2 มยครับประเภท 2
00:22:55 → 00:22:59 อะไรแบบเยครับแล้วปัจจุบันยังไม่มีข้อมูล
00:22:59 → 00:23:02 ชัดเจนว่าสามารถป้องกันได้นะครับอ๋อครับ
00:23:02 → 00:23:05 มีข้อมูลชัดเจนว่าสามารถป้องกันได้ครับ
00:23:05 → 00:23:08 ครับอือ่าแล้วก็มีมีอีกท่านนึงครับอันนี้
00:23:08 → 00:23:10 ก็คุณผู้ฟังเนี่ยตอนนี้รักษาเบาหวานอยู่
00:23:10 → 00:23:13 ครับคุณหมอก็ก็อยากจะเรียนถามหบอกว่าครับ
00:23:13 → 00:23:16 ผมอ่าฝากน้องๆเรียนถามคุณหมอให้พี่หน่อย
00:23:16 → 00:23:20 นะคะคือคุณหมอให้ยาพี่มาตอนแรกไม่ทราบ
00:23:20 → 00:23:23 แล้วก็ทานไปแต่พอไปเจอคุณหมออีกท่านนึง
00:23:24 → 00:23:27 เนี่ยคุณหมอบอกว่าอ้าวทำไมให้ยาไม่ให้ยา
00:23:27 → 00:23:29 ตัวนี้ต้องให้ยาอีกตัวตัวนึงเป็นตัวเริ่ม
00:23:29 → 00:23:32 ต้นด้วยอันนี้ไม่ใช่ตัวเริ่มต้นนะนะฮะคุณ
00:23:32 → 00:23:35 คุณผู้ฟังท่านนี้ก็เลยทานยาตัวใหม่เสร็จ
00:23:35 → 00:23:38 แล้วบอกตอนหลังไปเจอคุณหมออีกคนนึงนะครับ
00:23:38 → 00:23:42 คุณหมอบอกว่าต้องเพิ่มยาอีกตัวนึงแล้วออ
00:23:42 → 00:23:45 เพราะว่าเพราะว่าคุณผู้ฟังท่านเนี้ยพอมา
00:23:45 → 00:23:48 ทานเนี่ยรู้สึกว่าพอืดพอมเหมือนจะอาเจียน
00:23:48 → 00:23:50 จึงไม่แน่ใจว่าอันนี้เนี่ยมันเกิดจาก
00:23:50 → 00:23:53 อาการแพ้ยานะฮะเพราะว่าตอนนั้นเนี่ยข้าง
00:23:53 → 00:23:55 บ้านทาสีด้วยก็เลยแพ้ไม่รู้ว่ามันเกี่ยว
00:23:55 → 00:23:59 กันมั้ยอก็เลยก็เลยตอนเไม่กล้าทานยาตัว
00:23:59 → 00:24:03 ที่ 2 ที่คุณหมอท่านใหม่เนี่ยให้มาเออก็
00:24:03 → 00:24:06 เลยทานยาตัวแรกอยู่เม็ดเดียวจึงจึงอยากจะ
00:24:06 → 00:24:09 ถามว่าแบบถ้าไม่ทันตัวยาตัวที่ 2 ที่คุณ
00:24:09 → 00:24:11 หมอให้มาเนี่ยมันจะมีผลเสียหรือเปล่า
00:24:11 → 00:24:14 เพราะว่าตอนนี้เนี่ยน้ำตาลอยู่ที่ 150
00:24:14 → 00:24:16 ครับคุณหมอ
00:24:16 → 00:24:20 อืคืออันนี้ต้องต้องออกตัวก่อนนะครับว่า
00:24:20 → 00:24:23 ไม่รู้จักชื่อยาคงจะแนะนำอะไรค่อนข้าง
00:24:23 → 00:24:26 ลำบากนะครับอืแต่แต่จะบอกว่าจริงๆแล้ว
00:24:26 → 00:24:29 เนี่ยการรักษาวัมันก็มีหลายแบบมันก็ต้อง
00:24:29 → 00:24:33 ดูด้วยว่าเราอยากจะลดน้ำตาลเร็วแค่ไหนการ
00:24:33 → 00:24:35 ให้ยาตัวเดียวหรือการ 2 ตัวอะไรอย่าง
00:24:35 → 00:24:37 เงี้ยครับผมแนะวามนำว่าลองลองไปปรึกษาคุณ
00:24:37 → 00:24:40 หมอดีกว่าครับเพราะว่ามันผมคงให้คันกระปะ
00:24:40 → 00:24:44 เพราะว่าผมไม่รู้จักชื่อยาด้วยละก็คือ
00:24:44 → 00:24:46 ต้องดูด้วยว่าคนไข้อายุเท่าไหร่เป็นเบหวา
00:24:46 → 00:24:49 นาเท่าไหร่ผลเลือดเป็นยังไงถูกมั้ยครับ 2
00:24:49 → 00:24:52 ก็คือต้องดูว่ายาแต่ละตัวที่บอกเนี่ยชื่อ
00:24:52 → 00:24:56 อะไรด้วยออืพอเราไปดู้ชื่อยาเราไปแนะนำก็
00:24:56 → 00:25:00 อาจจะอาจจะไม่ตรงจุดมากกว่าผมว่าเห็นเพมี
00:25:00 → 00:25:03 รายละเอียดที่สำคัญต้องต้องดูเยอะใช่มั้ย
00:25:03 → 00:25:07 เห็นคใช่มีมีคือการรักษาของคนไข้ 1 คนเบา
00:25:07 → 00:25:10 หวานต้องดูเยอะมากครับดูตั้งแต่อายุน้ำ
00:25:10 → 00:25:14 หนักถูกมั้ยครับโรคร่วมเป็นเบาหวานด้วย
00:25:14 → 00:25:16 เป็นหัวใจด้วยมั้ยเป็นความดันด้วยมยเป็น
00:25:16 → 00:25:20 ไขมันด้วยมั้ยถูกมั้ยครับครับมีเอ่อเบา
00:25:20 → 00:25:22 หวานมีผลแทรกซอนมีโรคแทรกซ้อนหรือยังขึ้น
00:25:22 → 00:25:25 ตาหรือยังลงไตหรือยังอะไรอย่าเงี้ยครับ
00:25:25 → 00:25:28 สุดท้ายเราค่อยเราค่อยมาเลือกยากันมานั่ง
00:25:28 → 00:25:31 คุยกันจริงๆผมอ่ะส่วนตัวผมเองเนี่ยผมจะ
00:25:31 → 00:25:34 นั่งคุยกับคนไข้เลยว่าโอเคอยากรักษาเร็ว
00:25:34 → 00:25:37 แค่ไหนอยากลดน้ำหนักแค่ไหนอยากอบางคน
00:25:37 → 00:25:41 เนี่ยเบาหวานนะครับณปัจจุบันเนี่ยสามารถ
00:25:41 → 00:25:45 ทำให้โรคสงบได้นะครับถ้าเรารักษา
00:25:45 → 00:25:48 อืคำว่าโรคสงบเนี่ยผมจะจะไม่ใช้คำว่าหาย
00:25:48 → 00:25:52 อ่าครับไม่อยากใช้คำว่าหายคำว่าโรคสงบคือ
00:25:52 → 00:25:57 สามารถรักษาโดยไม่ใช้ยาได้อ๋อว่าเรารักษา
00:25:57 → 00:26:00 ดีๆนะครับโรคสงบก็คือสามารถอยู่ได้โดยไม่
00:26:00 → 00:26:03 ต้องใช้ยาแต่ไม่ได้หมายคว่าคุณหายจากเบา
00:26:03 → 00:26:06 หวานครับแต่ว่าคุณสามารถมาติดตามผลเลือด
00:26:06 → 00:26:09 สักทุก 3 เดือน 6 เดือนเพื่อมอนิเตอร์ถ้า
00:26:09 → 00:26:11 มันขึ้นมาใหม่พฤติกรรมเดิมก็กลับมากินเบา
00:26:12 → 00:26:14 หวานได้นะครับเพราะฉะนั้นโดยหลักการก็คือ
00:26:15 → 00:26:17 ว่าคนไข้บาหวังแต่ละคนมีเป้าหมายในการ
00:26:17 → 00:26:20 รักษาไม่เหมือนกันบางคนเนี่ยต้องการรักษา
00:26:20 → 00:26:23 เพื่อให้โรคสงบเลยลดน้ำหนักลงเยอะๆเป็น
00:26:23 → 00:26:26 เบาหวานในช่วงแรกๆหรือบางคนเป็นเบาหวานมา
00:26:26 → 00:26:29 นานมากแล้วเราก็แค่ป้องกันไม่ให้มันเกิด
00:26:29 → 00:26:31 ภาวะแซกซอนแค่นั้นเองเพราะฉะนั้นเนี่ยการ
00:26:31 → 00:26:35 เลือกยาการคุยกลวิธีอะไรเงี้มันมีหลาย
00:26:35 → 00:26:38 อย่างครับอ๋อนี่เหเห็นคุณผู้ฟังบอกว่า
00:26:38 → 00:26:41 เห็นเภสัแจ้งว่าเป็นยาตัวสุดท้ายก่อนที่
00:26:41 → 00:26:46 จะถึงขั้นต้องฉีดอินซูลินออโอหตอนนี้ยา
00:26:46 → 00:26:52 เบาหวานมีเยอะมากครับอืเยอะแบบเยอะๆๆๆๆๆ
00:26:52 → 00:26:55 เป็นผมจะบอกว่าณปัจจุบันเนี่ยเบาหวานเป็น
00:26:55 → 00:26:59 เป็นคือถ้าสายการแพทย์เนี่ยก็เป็นเหมือน
00:26:59 → 00:27:02 ศาสตร์ที่แบบโตเร็วมากๆเพราะว่าคนคนเป็น
00:27:02 → 00:27:07 เยอะออาเคสเสให้เป็นเคสเยอะใช่มั้ยฮะใช่
00:27:07 → 00:27:11 ครับอืใช่ๆเคสคุณคุณหมอครับเออมันมีมีมี
00:27:12 → 00:27:14 ข้อสงสัยอีกอย่างนึงถ้าสมมุติได้ยามาแล้ว
00:27:14 → 00:27:20 เนี่ยแต่ไม่กินยาจะได้มั้ยฮะหรือว่ามัน
00:27:20 → 00:27:23 ไม่ควรคือคือคือผมจะบอกอย่างงี้นะครับอัน
00:27:23 → 00:27:26 นี้ผมก็คนไข้จริงๆก็ถามมาหลายคนเหมือนกัน
00:27:26 → 00:27:30 เออคือคือถ้าเป็นช่วงแรกเนี่ยไม่ต้องกิน
00:27:30 → 00:27:33 ยาก็ได้นะครับออแต่ว่าถ้าวาถ้าจุดที่หมอ
00:27:33 → 00:27:36 เคให้ยาแล้วเนี่ยแสดงว่ามันน่าจะต้อง
00:27:36 → 00:27:39 เริ่มกินแล้วแหละแต่ว่าผมจะบอกคนไข้ทุกคน
00:27:39 → 00:27:42 ว่ามันไม่ใช่ว่าเราต้องกินตัวนี้ไปตลอด
00:27:42 → 00:27:46 ชีวิตนะออ๋อครับคือการที่เค้าให้ยาเนี่ย
00:27:46 → 00:27:49 ก็เหมือนเราเครียดนึกออกมั้ยหรือเราเป็น
00:27:49 → 00:27:52 หวัดครับอือๆๆมันก็ต้องมันก็ต้องรักษา
00:27:52 → 00:27:55 ด้วยยาในช่วงแรกก่อนเพื่อที่จะให้โรคเมัน
00:27:55 → 00:28:00 คุมได้นะครับอือืถ้าทุกอย่างมันคุมได้ดี
00:28:00 → 00:28:04 เราสามารถถอยยาได้มบางคนผมก็ถอยได้นะครับ
00:28:04 → 00:28:07 อืมันขึ้นขึ้นอยู่กับแต่ละคนคืออย่าไปคิด
00:28:07 → 00:28:10 ว่าอย่าไปอย่าไปคิดว่าการรักษาเบาหวา
00:28:10 → 00:28:13 เนี่ยต้องกินยาชุดนี้ไปตลอดชีวิตต้อง
00:28:13 → 00:28:16 เพิ่มยาไปเรื่อยๆตลอดเวลาไม่ใช่การรักษา
00:28:16 → 00:28:20 คนไ้เบาหวานเนี่ยมันมีมันมีกระบวนการใน
00:28:20 → 00:28:22 การรักษาที่มากกว่านั้นเพราะฉะนั้นอย่าไป
00:28:22 → 00:28:26 กลัวยาอผมจะบอกว่าไม่ต้องกลัวยามันคือตัว
00:28:26 → 00:28:28 ช่วยเราครับคือตัวช่วยเรา
00:28:28 → 00:28:31 คือไม่ใช่ว่ากินยาเยอะและอีกคำถามของ
00:28:31 → 00:28:35 เนี่ยกลัวมากกินยาเยอะแล้วตับใจจะพังอืมี
00:28:35 → 00:28:38 ปัญหาถ้าไม่กินมีปญหาเพราะว่าอะไรเพราะ
00:28:38 → 00:28:41 ตอนนี้น้ำตาลเรามันสูงอยู่ไงครับครับการ
00:28:41 → 00:28:45 ที่เราไปกินยาช่วยในช่วงแรกหรือว่าช่วย
00:28:45 → 00:28:47 มันไปก่อนเพราะว่าบางครั้งเนี่ยตับอ่อน
00:28:47 → 00:28:50 เราไม่ทำงานแล้วอินซูลินเราไม่หลังแล้วเอ
00:28:50 → 00:28:53 การกินยาช่วยในช่วงแรกมันก็มันน่าจะดี
00:28:53 → 00:28:56 กว่านะครับแล้วก็ค่อยๆคุยกับคุณหมอเไป
00:28:56 → 00:29:01 เอ๊ะลดยาได้มยน้ำตาลคุมได้ดีแล้วอืครับ
00:29:01 → 00:29:04 คือคนไ้าจะบอกว่าเนี่ยคุมอาหารออกกำลัง
00:29:04 → 00:29:08 กายดีแล้วไม่กินยาทำควบคู่กันไปครับครับ
00:29:08 → 00:29:10 ถ้าถ้าเราคุมอาหารออกกำลังกายดีเดี๋ยวมัน
00:29:10 → 00:29:13 ก็โชว์มาทางผลเลือดเองออแล้วต้องคุยกับ
00:29:13 → 00:29:16 คุณมอเราว่าถ้ามันดีอย่างเงี้ยลดยาได้มย
00:29:16 → 00:29:21 ลองดูมยอ่ะๆคุณหมอเก็มันมันจะโชว์ทางตัว
00:29:21 → 00:29:25 เลขเองอ่ะเวลาเราไปคอรับโอันนี้อันนี้อัน
00:29:25 → 00:29:29 อันนี้อย่างที่คุณหมอเล่าบอกว่าเนี่ยอัน
00:29:29 → 00:29:31 นี้ประสบการณ์ของผมเหมือนกันนะครับคุณหมอ
00:29:31 → 00:29:35 จริงๆผมเป็นเก๊าทครับผมรักษาเก๊าทอยู่ก็
00:29:35 → 00:29:36 เคยเป็นอย่างงี้เลยครับเมื่อก่อนเราก็จะ
00:29:37 → 00:29:39 แบบเหมือนได้ยินคนพูดฝังหูว่าโหโลกนี้
00:29:39 → 00:29:41 ต้องกินยาไปตลอดชีวิตเลยนะแล้วกินเยอะๆ
00:29:42 → 00:29:46 เนี่ยไตพังนะตับพังนะแต่พออย่างที่คุณหมอ
00:29:46 → 00:29:48 เล่าเลยว่าเวลาคุณหมอเขา Follow up ให้
00:29:48 → 00:29:51 เราเขาก็จะแบบสมมุติอ่ะคุณพงษ์อิฐลองไป
00:29:51 → 00:29:55 กิน 2 เม็ดก่อนดูว่ายูริกลงมยถ้ายังไม่ลง
00:29:55 → 00:29:58 อ่ะเพิ่มเป็น 3 เม็ดพอเพิ่มเป็นอมแล้วก็
00:29:58 → 00:30:01 เขก็จะตรวจเลือดด้วยดูเพื่อดูค่าตับของ
00:30:01 → 00:30:03 เราดูอะไรอย่าเงี้ยเพื่อให้เราปลอดภัย
00:30:03 → 00:30:05 อะไรอย่าเงี้ยผมก็เอออันนี้ประสบการณ์
00:30:06 → 00:30:08 จริงเลยเพราะว่าอย่างผมเคยเหมือนเคยพอมัน
00:30:08 → 00:30:10 ลดมาครั้งนึงผมก็ไปหยุดยาเองเลยครับคุณ
00:30:10 → 00:30:14 หมอผมหยุดอสุดท้ายมาโอ้โหเรียบร้อยพุ่ง
00:30:14 → 00:30:19 กว่าเดิมอีกคราวนี้หนักหนักเลยฮะออือย่าง
00:30:19 → 00:30:21 ที่คุณหมอบอกเลยว่าต้องเริ่มใหม่มั้ย
00:30:21 → 00:30:23 เหมือนต้องเริ่มใหม่โอหยิ่งกว่าเริ่มใหม่
00:30:23 → 00:30:26 อีกขึ้นเหรออย่างอย่างที่คุณหมอบอกเลยว่า
00:30:26 → 00:30:29 หลายๆคนจะเข้าใจผิด่ะเป็นแล้วจะต้องกิน
00:30:29 → 00:30:32 ตลอดชีวิตแล้วจะต้องตับไตพังอะไรเงี้จริง
00:30:32 → 00:30:34 ๆไม่คุณหมอถ้าเรารักษากับคุณหมอคุณหมอก็
00:30:35 → 00:30:39 จะดูแลเราเป็นอย่างดีนะฮะอือือครับครับ
00:30:39 → 00:30:43 เ่อมีมีคุณผู้ฟังถามมาบอกว่าเ่อลูกชาย
00:30:43 → 00:30:45 อายุ 18 ค่ะกำลังเป็นเบาหวานตอนนี้เขา
00:30:45 → 00:30:50 อ้วนมากค่ะคุณหมอแนะนำยังไงดีครับต้องลด
00:30:50 → 00:30:54 น้ำหนักครับอย่างแรกเลยใช่มน้ักคที่ทำยาก
00:30:54 → 00:30:58 มากเลยคุณมคือผมจะบอกว่าว่าอย่างที่ผมบอก
00:30:58 → 00:31:01 ไครับ 50% เพราะฉะนั้นเนี่ยเราอ้วนเราเรา
00:31:01 → 00:31:03 ไม่ต้องตกใจนะครับเราเป็นคนส่วนส่วนกลางๆ
00:31:03 → 00:31:05 หรือคนส่วนใหญ่ของประเทศแล้วแหละบผมว่า
00:31:05 → 00:31:07 ตัวเลขตอนนี้อาจจะพุ่งไปมากกว่านี้แล้วก็
00:31:07 → 00:31:11 ได้ครับครับอือเมริกา 60 70 80% แล้วนะ
00:31:11 → 00:31:13 ครับไม่งั้นไม่ต้องกลัวความอ้วนคือเรื่อง
00:31:13 → 00:31:16 ปกติแต่ว่าจะบอกว่าปกติก็ไม่ได้แต่หมาย
00:31:17 → 00:31:19 ความว่ามันก็คือสิ่งที่เราต้องมารักษามา
00:31:19 → 00:31:22 ดูแลกันนั่นแหละอือคือณปัจจุบันเนี่ย
00:31:22 → 00:31:25 อย่างสมาคมเบาหวานนะครับเพิ่งออกมาเลยนะ
00:31:25 → 00:31:29 ครับไกด์ไลน์ออกมาใหม่ครับบอกว่าการรักษา
00:31:29 → 00:31:32 ณปัจจุบันเนี่ยไม่ใช่ระดับน้ำตาลอย่าง
00:31:32 → 00:31:36 เดียวแล้วอืครับถ้าคนไข้ที่มีน้ำหนักเยอะ
00:31:36 → 00:31:39 ด้วยเนี่ยอ่าเป้าหมายผมว่าเป้าหมายในการ
00:31:39 → 00:31:43 รักษาต้องน้ำหนักกับน้ำตาลเนี่ยต้องรักษา
00:31:43 → 00:31:47 บคู่กันไปเลยอ๋อหมายความว่าหมายความว่า
00:31:47 → 00:31:48 หมายความ
00:31:48 → 00:31:52 ว่าน้ำหนักเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆถึงแม้นะ
00:31:52 → 00:31:55 ครับถึงแม้เนี่ยอย่างคนไข้ที่มาคลินิกของ
00:31:55 → 00:31:59 ผมทุกคนเนี่ยผมให้ตรวจอะไรรู้มั้ยครับ
00:31:59 → 00:32:02 ครับผมเอาเข้าเชื่องให้ทุกคนท้างน้ำหนัก
00:32:02 → 00:32:05 และวัดเปอร์เซ็นต์ไขมันไม่ว่าคุณจะมาโรค
00:32:05 → 00:32:08 อะไรก็แล้วแต่เพราะคุณมาที่ชั้น 9
00:32:08 → 00:32:11 าต้องผ่านเครื่องนี้เพราะว่าอะไรครับผม
00:32:11 → 00:32:14 คิดว่ามันเป็นครับโดยส่วนตัวนะครับคิดว่า
00:32:14 → 00:32:18 มันเป็นหนึ่งในไทอ S นัแหละอืในในสัญญาณน
00:32:18 → 00:32:23 แหละว่าคือถ้าคุณน้ำหนักเกินเนี่ยแสดงว่า
00:32:23 → 00:32:27 ไม่ดีแล้วแหละอืไม่ว่าคุณจะมาด้วยโรคอะไร
00:32:27 → 00:32:29 ก็แล้วแต่ถ้าน้ำหนักเกินเนี่ยไม่ดีและไม่
00:32:29 → 00:32:33 ว่าคุณจะเป็นโรคเก๊าทโรคอ่าเ่อไม่ว่าจะ
00:32:33 → 00:32:35 เป็นเก๊าทไม่ว่าจะเป็นความดันไขมันไม่
00:32:35 → 00:32:37 กว่าจะเป็นโรคมาด้วยโรคอะไรก็แล้วแต่แต่
00:32:37 → 00:32:40 มีน้ำหนักเกินหรือแม้กระทั่งโควิดนะครับอ
00:32:40 → 00:32:43 อ่าโควิดเนี่ยคนที่มีน้ำหนักเกินอย่างที่
00:32:43 → 00:32:48 เราทราบข่าวกันก็อัตราการตายอัตราการเป็น
00:32:48 → 00:32:51 โรคที่รุนแรงก็จะมากกว่าคนปกติเพราะ
00:32:51 → 00:32:54 ฉะนั้นเนี่ยผมจะใช้คำว่าถ้าใครมีน้ำหนัก
00:32:54 → 00:32:56 เกินอยู่นะครับผู้ฟังที่ฟังอยู่วันนี้นะ
00:32:56 → 00:32:59 ครับครับอ่าถ้าน้ำหนักลงนะครับชีวิตดี
00:32:59 → 00:33:03 ขึ้นทุกอย่างครับอใช่จริงๆครับเป็นอย่าง
00:33:03 → 00:33:06 แรกที่สามารถทำเริ่มจากจุดนั้นได้จุด
00:33:06 → 00:33:09 เริ่มต้นใช่ไม่ว่าหือปัญหาทางด้านจิตใจ
00:33:09 → 00:33:13 บางคนนะครับเครียดมากคุยไปคุยมาเป็น
00:33:13 → 00:33:16 เหมือน depression นิดๆแต่ไปถึงขนาดแบบ
00:33:16 → 00:33:20 เป็นโรคซึมเศร้านะครับอืบางคนเนี่ย Self
00:33:20 → 00:33:23 esteem เขาหายไปใช่นั่นเองครับเช่นแบบ
00:33:23 → 00:33:25 เมื่อก่อนเคยถ่ายรูปลง Instagram ไปซื้อ
00:33:25 → 00:33:28 เสื้อผ้าเสื้อผ้าในตู้แตไม่ได้เลยเลยไม่
00:33:28 → 00:33:30 กล้าถ่ายรูปเลยไม่ไม่มีความมั่นใจอะไร
00:33:30 → 00:33:34 อย่างเงี้ยครับเราต้องหักลงแค่แบบ 3% 5%
00:33:34 → 00:33:36 ความมั่นใจกลับมาอะไรเงี้ยครับอ๋อคือมัน
00:33:36 → 00:33:40 ไม่ใช่แค่เรื่องแต่ว่าแต่ว่าไม่ใช่แค่
00:33:40 → 00:33:43 เรื่องเรื่องทางด้านร่างกายนะครับร่างกาย
00:33:43 → 00:33:46 เรารู้อยู่แล้วละว่าน้ำหนักเยอะเนี่ยอืพอ
00:33:46 → 00:33:49 น้ำหนักเยอะเป็นไรครับหัวใจก็ถามหาเป็น
00:33:49 → 00:33:52 ปวดข่อปวดเข่าน้ำหนักเยอะมะเร็งด้วยนะ
00:33:52 → 00:33:55 ครับมะเร็งเยอะมากกว่าคนที่นหนักน้อยๆนะ
00:33:55 → 00:34:01 ครับเวาอืครับอือเดี๋ยววันนี้ผมผมนอนตนอื
00:34:01 → 00:34:05 ต้องต้องวิ่งกลับบ้านแน่เลยฮคุณหมออืได้
00:34:05 → 00:34:09 ครับแล้วแล้วเนี่ยคือผมอ่ะดูเรื่องอ้วน
00:34:09 → 00:34:12 ค่อนข้างเยอะแล้วผมอยบอกว่าคนไทยเนี่ย
00:34:12 → 00:34:16 คอนเซิร์นเรื่องนี้น้อยออครับผมบอกเลยบาง
00:34:16 → 00:34:18 คนเนี่ยคิดว่าโอนิดนึงหน่อยๆไม่เป็นไรแต่
00:34:18 → 00:34:22 จริงๆแล้วเนี่ยจ้ำม่ำมีราศีคือคือใช่มัน
00:34:22 → 00:34:25 คือความเสี่ยงในระยะยาวของการเกิดโรคต่าง
00:34:25 → 00:34:29 ๆอืครับอือครับออ่าคุณหมอขออนุญาตถามคำ
00:34:29 → 00:34:32 ถามสุดท้ายนะฮะมีคุณผู้ฟังโอ้โหวิธีนี้ก็
00:34:32 → 00:34:35 คลาสสิคเหมือนกันนะบอกว่าถ้าอย่างเอา
00:34:35 → 00:34:38 ปัสสวะเนี่ยไปให้มดกินจะจะสามารถทดสอบเบา
00:34:38 → 00:34:41 หวานได้หรือเปล่าครับอ๋อ
00:34:41 → 00:34:45 อ่าอย่าลืมนะครับกว่ากว่าน้ำตาลจะออกมาใน
00:34:45 → 00:34:48 ปัสสาวะเนี่ยกว่าน้ำตาลจะออกมาปัสสาวะเ
00:34:48 → 00:34:52 ครับน้ำตาลในเรือกมันต้องเยอะมากๆนะครับ
00:34:52 → 00:34:56 อันนั้นก็อ๋อเออเจอได้แหละแต่มันก็เจอเรท
00:34:56 → 00:34:58 มากแล้วแต่จริงๆผมจะบอกว่าอันนี้เป็น
00:34:58 → 00:35:01 คลาสสิคนะครับเป็นเป็นชื่อที่มาของคำว่า
00:35:01 → 00:35:03 เบาหวานนะอ่า
00:35:03 → 00:35:08 ครับใช่มั้ยครับเบาหก็คือเข่าเบาเบากออก็
00:35:08 → 00:35:13 คือเป็นเป็นชื่อที่มาแบบตั้งแต่สมัยตั้ง
00:35:13 → 00:35:16 แต่สมัยเตั้งชื่อเลยครับแต่ว่าอย่าดืมว่า
00:35:16 → 00:35:19 มันมันได้มยแต่ว่าบางครั้งมดมดมันก็อยู่
00:35:19 → 00:35:22 ของมันเราไปขี่ก็เป็นนะครับอย่าอย่าไป
00:35:22 → 00:35:26 เชื่อมันมากครับๆคือมันก็เป็นเป็นอันนึง
00:35:26 → 00:35:29 แต่ว่าในทางกแฟบางคนอาจจะไม่เป็นก็ได้
00:35:29 → 00:35:32 แล้วฉี่ตรงมดอยู่แต่ว่าอือหรือบางคนเป็น
00:35:32 → 00:35:34 จริงกว่าจะรอให้น้ำตาลออกมาทางฉี่นี่ก็
00:35:35 → 00:35:38 น้ำตาลขึ้นไปเยอะมากๆนะครับออคนควรจะมา
00:35:38 → 00:35:42 คัดกองครับควรจะมาคัดกรองสุขภาพด้วยด้วย
00:35:42 → 00:35:45 แพ็คเกจด้วยอะไรก็แล้วแต่หรือว่ายิ่งคน
00:35:45 → 00:35:48 อ้วนๆยิ่งต้องมาคัดกรองเบาหวานแล้วก็ถ้า
00:35:48 → 00:35:51 ใครอ้วนอยู่ผมก็ยืนยันนะครับว่าลดน้ำหนัก
00:35:51 → 00:35:52 ครับอ๋อ
00:35:52 → 00:35:56 ครับคุณคขึ้นจริงๆครับคุณคุณหมอขออนุญาต
00:35:56 → 00:35:59 อีกคำถามนึงพี่คุณคุณผู้ฟังถามมาอันนี้
00:35:59 → 00:36:01 เป็นถามเกี่ยวกับเรื่องไตบอกว่าตอนนี้
00:36:01 → 00:36:07 เนี่ยน้ำหนัก 59 สูง 171 ทานยาเวติไม่รู้
00:36:07 → 00:36:10 ผมอ่านผิดหรือเปล่านะฮะเเวติหรือเปล่านะ
00:36:10 → 00:36:12 ฮะแล้วก็คอเลสเตอรอลเนี่ย
00:36:12 → 00:36:17 265 idl 160 อย่างงี้ไตจะมีปัญหามั้
00:36:17 → 00:36:20 ครับคุณคุณหมอพอตอบได้มั้ยฮะน้ำหนักเท
00:36:20 → 00:36:25 ไหร่ 59 สูง 177 ใช่มั้ยครับ 171 ครับคุณ
00:36:25 → 00:36:28 หมอบอกว่ากิน
00:36:28 → 00:36:32 กินยากินารถไขมันอยู่น่าน่าจะใช่นะเเมวา
00:36:32 → 00:36:35 โลตินถ้าผมถ้าผมอ่านไม่ผิดนะครับคุณหมอขอ
00:36:35 → 00:36:37 อนุญาตฮะไม่ไม่รู้จักยานี้มันจะมีปัญหา
00:36:37 → 00:36:39 กลับไปหรือเปล่าอย่างงี้ใช่มั้ยครับใช่
00:36:39 → 00:36:42 ครับยาแรงไปมั้ย
00:36:42 → 00:36:45 โออันนี้นี้ก็เป็นอีกอย่างนึงเหมือนกัน
00:36:45 → 00:36:47 ที่อาจจะตอบได้ค่อนข้างลำบากเพราะว่าคง
00:36:47 → 00:36:51 ต้องไปดูมนเลือดดูดูโรคร่วมอื่นๆด้วยครับ
00:36:51 → 00:36:54 ผมว่านะอต้อง 1 ก็ต้องดูตั้งแต่อายุถูก
00:36:54 → 00:36:56 มั้ยครับครับความ
00:36:56 → 00:36:59 เสี่ยงเวลาดูไขมันเนี่ยเอาคร่าวๆก็คือ 1
00:36:59 → 00:37:01 อายุเท่าไหร่ถูกมั้ยครับครับ 2 ความ
00:37:01 → 00:37:03 เสี่ยงเป็นยังไงมีประวัติคนในครอบครัว
00:37:03 → 00:37:06 เป็นโรคหัวใจหรือเปล่านะครับออืเป็นไขมัน
00:37:06 → 00:37:10 สูงจากพันธุกรรมหรือเปล่าอืครับแต่ว่าอัน
00:37:10 → 00:37:13 นี้ก็ดูพฤติกรรมเป็นยังไงครับต้องกินยา
00:37:13 → 00:37:16 มั้ยต้องกินยาโดสเท่าไหร่อะไรอย่างเงี้ย
00:37:16 → 00:37:19 ครับแล้วก็ไปดูระดับระดับระดับไขมันใน
00:37:19 → 00:37:23 เลือดด้วยว่าสูงเท่าไหร่อืคงตอบตอบลำบาก
00:37:23 → 00:37:25 เพราะว่ามันต้องดูปัจจัยหลายอย่างอใช่
00:37:25 → 00:37:29 ต้องดูอครับก็ก็ถถ้าเราใช้หลักสูตรเหมือน
00:37:29 → 00:37:31 กับผู้ป่วยอย่างอื่นเลยมครับเหมือนเหมือน
00:37:31 → 00:37:33 ที่ผมเป็นเก๊าถ้าเกิดรักษากับคุณหมอแล้ว
00:37:33 → 00:37:35 คุณหมอให้กินเขาก็จะดูแลเราอยู่แล้วใช่ม
00:37:35 → 00:37:40 คุณหมอใช่ๆผมว่าจริงๆอ่ะคุณหมอทุกท่านที่
00:37:40 → 00:37:42 ดูแลอยู่อ่ะครับอยากจะตอบคำถามทุกท่าน
00:37:43 → 00:37:47 แหละแต่ว่าเราก็พยายามถามเท่าที่เวลาจะ
00:37:48 → 00:37:52 เป็นไปได้บางบางท่านก็คนไข้เยอะบาใช่แต่
00:37:52 → 00:37:56 ว่าแต่ผมว่าถ้าคนไข้ถามเนี่ยหมอต้องตอบ
00:37:56 → 00:38:00 ครับแล้วก็เราจะได้มั่นใจด้วยคือบางครั้ง
00:38:00 → 00:38:03 เนี่ยผมจะถามทุกไขทุกครั้งนะครับมีอะไรจะ
00:38:03 → 00:38:05 ถามมั้ยเพราะว่าอะไรครับเพราะบางคนไม่ถาม
00:38:06 → 00:38:11 อ่ะไม่กินยานะครับใช่ๆครับใช่เลยรู้รู้
00:38:12 → 00:38:15 ว่าอะไรรู้ว่าอย่างบางคนเนี่ยผมอจะเป็นคน
00:38:15 → 00:38:18 นับเม็ดยาอ่าครับเดี๋ยวสั่งเวลาสั่งเนี่ย
00:38:18 → 00:38:21 คุณป้าเหลือยะกี่เม็ตอะไรอย่างเงี้ยอือ๋อ
00:38:21 → 00:38:23 เหลือ 30 เมดอ่ะคุณป้าไม่ค่อยกินยา่ะสิ
00:38:23 → 00:38:27 อะไรอย่าเงี้ยก็อืเอออันนี้อันนี้อันนี้
00:38:27 → 00:38:31 ก็ก็นเป็นข้อที่คุณหมอใช้ใช้ประจำนะอนี่ๆ
00:38:31 → 00:38:33 พรุ่งนี้ผมต้องเช็คเชชัวร์พรุ่งนี้ผมต้อง
00:38:33 → 00:38:36 พบคุณหมอเนี่คุณหมอถามเลยว่าพรุ่งนี้นับ
00:38:36 → 00:38:40 ยามาให้ด้วยนะครับแต่ผมแต่ผมกินนะครับผม
00:38:40 → 00:38:42 ผมกินครับคุณเพราะว่าผมผมเข็ดแล้วกับการ
00:38:42 → 00:38:46 ที่มันปวดแบบโอ้โหแค่โดนพัดลมก็ปวดแล้ว
00:38:46 → 00:38:51 อะไรอ๋ออย่าครับอ่ะวันนี้ขอบพระคุณมากนะ
00:38:51 → 00:38:54 ครับคุณหมอเอ่อได้ความรู้หลายเรื่องมาก
00:38:54 → 00:38:57 เลยเกี่ยวกับเบาหวาดแล้วก็หลายสถิติอย่าง
00:38:57 → 00:39:00 ที่สถิติคุณหมอบอกว่าแบบโอ้โหพบคนอายุ
00:39:00 → 00:39:02 น้อยลงที่เป็นวะในเนี้ยต้องต้องหันกลับมา
00:39:03 → 00:39:05 ใส่ใจเกี่ยวกับเรื่องของอาหารที่มันอาจจะ
00:39:05 → 00:39:08 มีน้ำตาลแล้วเรามองข้ามไปอันนี้ก็ก็มี
00:39:08 → 00:39:10 ประโยชน์มากๆเลยนะครับขอบคุณมากนะครับคุณ
00:39:10 → 00:39:13 หมอครับขอบคุณครับขอบคุณมากครับสวัดีครับ
00:39:13 → 00:39:18 ครับสวัสดีครับนะฮะอ่ะเมื่อกี้เราพูดคุย
00:39:18 → 00:39:21 กับนายแพทย์ปริญญาสมัครการไถยนะครับผู้
00:39:21 → 00:39:24 แพทย์ผู้ชำนาญการโรคเบาหวานและต่อมไร้ท่อ
00:39:24 → 00:39:27 ศูนย์เบาหวานและต่อมไร้ท่อโรงพยาบาลวิมุต
00:39:27 → 00:39:30 นะครับ