00:00:00 → 00:00:02 นี้ก็เลยจะขอรบกวนค่ะอาจารย์ถามถึงโรคตา
00:00:02 → 00:00:04 ขี้เกียจค่ะตาขี้เกียจนี้มันเป็นยังไงอ่ะ
00:00:04 → 00:00:08 คะอาจารย์คะก็ตรงตามชื่อโลกเลยนะคะก็คือ
00:00:08 → 00:00:11 เป็นชื่อที่แปลงเป็นภาษาไทยได้ค่อนข้าง
00:00:11 → 00:00:14 เข้าใจได้ก็คือว่าตาคนเรามี 2 ข้างส่วน
00:00:14 → 00:00:16 ใหญ่โรคตาขี้เกียจเนี่ยค่ะมันก็คือเกิด
00:00:16 → 00:00:19 กับข้างใดข้างหนึ่งส่วนใหญ่นะคะข้างใด
00:00:19 → 00:00:22 ข้างหนึ่งขี้เกียจทำงานก็เลยใช้คำว่าตา
00:00:22 → 00:00:26 ขี้เกียจอ๋อค่ะในแต่จริงๆแล้วเนี่ยมัน
00:00:26 → 00:00:29 สามารถเป็น 2 ข้างได้นะคะเพแต่เจอน้อยมาก
00:00:29 → 00:00:31 ส่วนใหญ่จะเป็นเป็นที่้างใด้างหนึ่งเพใช้
00:00:31 → 00:00:33 คำว่าเออเหมือนเป็นภ้าไม่ถนัดแล้วก็เลย
00:00:33 → 00:00:36 ไม่ทำงานก็เลยเรียกว่าตาขี้เกียจอืค่ะ
00:00:36 → 00:00:38 แล้วตาขี้เกียจเนี่ยค่ะคือยังไงคะมองไม่
00:00:38 → 00:00:40 เห็นหรือว่ามันขี้เกียจลืมหรือว่ามันยัง
00:00:40 → 00:00:44 ไงคะเพื่อฉายภาพทางจริงๆแล้วค่ะจริงๆแล้ว
00:00:44 → 00:00:48 มองภายนอกเนี่ยจะดูไม่ออกเลยเพราะว่าตาก็
00:00:48 → 00:00:50 ถ้าเป็นตลาขี้เกียจที่ไม่ได้มีตาเขตาเหลด
00:00:50 → 00:00:54 หรือว่ามีเ่าตัวเปลือกตาตกก็กระจบชัดเจน
00:00:54 → 00:00:56 เนี่ยก็จะมองไปแล้วเหมือนเป็นตาปกติแต่
00:00:56 → 00:01:00 เมื่อให้ติดตาทีละข้างลองอ่านหรือดูความ
00:01:00 → 00:01:02 คมชัที่เกิดจากการมองเห็นแยกข้างเนี่ยค่ะ
00:01:02 → 00:01:04 ก็จะเห็นว่าข้างที่เป็นปลาขี้เกียจเนี่ย
00:01:04 → 00:01:07 ความสามารถในการมองเห็นความละเอียดของภาพ
00:01:07 → 00:01:10 หรือเหมือน resolution เค่ะมันต่ำมาก
00:01:10 → 00:01:12 เมื่อเทียบกับอีกข้างนึงก็คือแตกต่างกัน
00:01:12 → 00:01:14 อย่างค่อนข้างชัดเจนก็จะมีเกณฑ์อยู่ว่า
00:01:14 → 00:01:16 เกณฑ์เท่าไหร่เท่าไหร่ถึงจะถือว่าเป็นตา
00:01:16 → 00:01:20 ขี้เกียจโดยที่ไม่ได้เกิดจากพยาทิศสภาพ
00:01:20 → 00:01:24 เชิงโครงสร้างของตาโดยตรงก็คือตรวจตาแล้ว
00:01:24 → 00:01:27 เบื้องต้นมักจะตรวจแล้วค่อนข้างปกติอ่ามี
00:01:27 → 00:01:30 โครงสร้างที่ควรจะมีไม่มีอะไรเสียเสียหาย
00:01:30 → 00:01:33 แต่ทำไมตาข้างนี้ถึงพัฒนาได้ไม่เต็มที่
00:01:33 → 00:01:38 ประมาณนั้นค่ะอืค่ะอ่ะเอ่ออาจารย์คะแล้ว
00:01:38 → 00:01:40 อย่างเงี้ยค่ะโรคตาขี้เกียจเนี่ยค่ะมัน
00:01:41 → 00:01:43 เป็นเฉพาะในเด็กหรือว่าเป็นผู้ใหญ่หรือ
00:01:43 → 00:01:47 เป็นได้ทุกวัยคะอาจารย์จริงๆแล้วเริ่ม
00:01:47 → 00:01:51 เกิดขึ้นในเด็กแต่เป็นทีแล้วก็เป็นตลอด
00:01:51 → 00:01:54 ชีวิตเลยถ้าไม่ได้รับการแก้ไขอืเพราะมัน
00:01:54 → 00:01:58 อยู่ในช่วงที่กำลังมีพัฒนาการอืโดยนิยาม
00:01:58 → 00:02:00 แล้วของตาขี้เกียนเนี่ยมันคือเป็นโรคที่
00:02:00 → 00:02:03 ความผิดปกติเนี่ยอาจจะไม่ได้อยู่ที่ตาโดย
00:02:03 → 00:02:07 ตรงแบบไม่ได้ไม่เชิงว่าเป็นความผิดปกติ
00:02:07 → 00:02:09 เพราะว่าตาข้างนั้นเนี่ยไม่สามารถรภาพได้
00:02:09 → 00:02:11 แต่มันต้องมีเหตุปัจจัยอย่างใดอย่างหนึ่ง
00:02:11 → 00:02:15 ที่ทำให้ตาข้างนั้นเนี่ยไม่พัฒนาอืทำให้
00:02:15 → 00:02:17 แทนที่จะเต็มศักยภาพของเขาเนี่ยก็คือไม่
00:02:18 → 00:02:20 พัฒนาตาข้างนั้นเลยแล้วใช้แค่อีกข้างนึง
00:02:21 → 00:02:23 แทนเพราะฉะนั้นมันจะอยู่ในช่วงที่สมอง
00:02:23 → 00:02:25 กำลังพัฒนากการมองเห็นอ่ะค่ะส่วนใหญ่ก็จะ
00:02:25 → 00:02:28 ประมาณก่อน 7 ขวบ
00:02:28 → 00:02:33 อือ๋อก็คือว่ามันจะส่งผลต่อพัฒนาการอืโดย
00:02:33 → 00:02:35 ที่เราไม่รู้อาจารย์คะแล้วอย่างเงี้ยค่ะ
00:02:35 → 00:02:38 พอตาขี้เกียจแล้วค่ะสมมุติถ้าเป็นในเด็ก
00:02:38 → 00:02:40 แล้วก็เป็นถึงตอนโตด้วยค่ะแว่นเวิลหรือ
00:02:40 → 00:02:43 ว่าเลสิกหรืออะไรอย่างงี้มันแก้ปัญหาได้ย
00:02:43 → 00:02:45 คะอ่าเป็นคำถามที่ดีมากบางคนก็ไม่รู้ตัว
00:02:45 → 00:02:50 เลยว่าตัวเองมีตาขี้เกียจจนกระทั่งะอ่ะ
00:02:50 → 00:02:53 ลองมาทำเบสิคดูประกฏปวดละเอียดแล้วอ้าคุณ
00:02:53 → 00:02:56 เป็นตาขี้เกียจนะเจอได้เนาะหรือบางทีร้าน
00:02:56 → 00:02:59 แว่นก็บอกเอ๊ทำไมข่านี้รองแว่นยังไงก็ไม่
00:02:59 → 00:03:01 ให้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับอีกข้างนึงอือ
00:03:02 → 00:03:04 อันเนี้ยก็บางคนก็คือหลายๆคนเลยค่ะก็คือ
00:03:04 → 00:03:08 มารู้ตัวตอนโตกันอืเพราะฉะนั้นจริงๆแล้ว
00:03:08 → 00:03:12 ต่อให้โตแล้วเรามีอุปกรณ์ที่จะมาแก้ไข
00:03:12 → 00:03:14 เรื่องค่าสายตาไม่ว่าจะเป็นเลสิแว่น
00:03:15 → 00:03:17 Contact เลนส์แต่ถ้าเกิดเป็นตาขี้เกียจ
00:03:17 → 00:03:20 แล้วเนี่ยการแก้ไขต่อให้พยายามเต็มที่ก็
00:03:20 → 00:03:25 จะไม่สามารถได้เท่าตามปกติอือืครับอค่ะ
00:03:25 → 00:03:30 อ๋อค่ะครับอย่างอย่างเด็กสมัยนี้อย่าเด็ก
00:03:30 → 00:03:34 สมัยนี้ถือว่าได้รับผลกระทบจากจากเอ่อ
00:03:34 → 00:03:36 เทคโนโลยีทำให้เกิดผลเรื่องของการ่าขี้
00:03:36 → 00:03:39 เกียจค่อนข้างเยอะมั้ครับคุณหมอครับจริงๆ
00:03:40 → 00:03:42 แล้วเนี่ยคิดว่าถ้าส่วนตัวแล้วคิดว่าอาจ
00:03:42 → 00:03:45 จะมีบ้างนะคะเพราะว่าปัจจัยนึงของโรคตา
00:03:45 → 00:03:48 ขี้เกียตเนี่ยก็คือค่าสายตาอือืทีนี้การ
00:03:48 → 00:03:51 ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เยอะเกินไป
00:03:51 → 00:03:53 เนี่ยมันยิ่งกระตุ้นให้เกิดค่าสายตาได้
00:03:53 → 00:03:56 โดยเฉพาะใายกาสั้นครับแต่ก็ย้อนกลับมาว่า
00:03:56 → 00:04:00 สายกาสั้นเนี่ยมันเป็นแค่จุดนึงที่อาจทำ
00:04:00 → 00:04:02 ให้เกิดปาขี้เกียนได้แล้วถ้าเกิดว่าเาใช้
00:04:02 → 00:04:04 อุปกรณ์เยอะเนี่ยค่ะบางที 2 ข้างก็ไปด้วย
00:04:04 → 00:04:07 กันคือถ้าไม่แยกจริงๆกับ 2 ข้างต่างกัน
00:04:07 → 00:04:09 มากๆเนี่ยส่วนใหญ่จะไม่เกิดตาขี้เกียจ
00:04:09 → 00:04:12 เพราะฉนั้นคิดว่ามีผลบ้างแต่ว่าไม่ใช่
00:04:12 → 00:04:15 ปัจจัยหลัก
00:04:15 → 00:04:18 อืปัจจัยหลักเค่ะถ้าพูดถึงของตาขี้เกียจ
00:04:18 → 00:04:21 เนี่ยอันแรกเลยก็คือมีอะไรก็ไม่รู้มาบัง
00:04:21 → 00:04:24 ตาไม่ว่าจะเป็นเปลือกตาเป็นต้อกระจกแต่
00:04:24 → 00:04:27 กำเนิดอะไรอย่างเงี้ยมีก้อนมาบังตาเปลือก
00:04:27 → 00:04:30 ตาติดกันไม่ลืมเปิดอ่าอันนี้เนี้ยคือถ้า
00:04:30 → 00:04:32 ตาไม่ได้ใช้มันไม่พัฒนาแน่นอนอันนี้คือ
00:04:33 → 00:04:36 อันที่ 1 อค่ะครับอันที่ 2 ที่เจอบ่อย
00:04:36 → 00:04:40 ขึ้นบ่อยที่สุดเลยก็คือตาเขอ๋อตาเหร่
00:04:40 → 00:04:43 เนี่ยเวลาเา้ามอง 2 ตาเขาก็จะเห็นภาพซ้อน
00:04:43 → 00:04:45 แล้วในเด็กเนี่ยมันมีการปรับตัวค่อนข้าง
00:04:45 → 00:04:48 สูงสมองก็จะอ่าเห็นภาพซ้อนเนาะเราลองยับ
00:04:48 → 00:04:52 ยั้งข้างที่เขซิอ่ะพอยับยั้งข้างที่เขเ
00:04:52 → 00:04:53 ใช้ข้างที่มีมองข้างเดียวอีกข้างเห็นแค่
00:04:54 → 00:04:56 เบลอๆเขก็จะรู้สึกใช้ชีวิตง่ายขึ้นไม่
00:04:56 → 00:04:59 เห็นภาพ้อนคือสมองมันปรับตัวให้เราใช้งาน
00:04:59 → 00:05:02 ง่ายขึ้นแต่กลายเป็นสัดความสามารถในการ
00:05:02 → 00:05:04 พัฒนาก็คือถ้าเป็นตาเขตาเหลแล้วเราไม่ได้
00:05:05 → 00:05:08 แก้ไขค่ะมีโอกาสเป็นตาขี้เกียจสูงครับอัน
00:05:08 → 00:05:12 ต่อไปคือค่าสายตาค่ะถ้าเกิดว่ามีค่าสายตา
00:05:12 → 00:05:15 แตกต่างกัน 2 ข้างเนาะข้างนึงมองชัเต๊ะ
00:05:15 → 00:05:17 อีกข้างนึงมองแล้วเบลอไปหมดข้างที่มอง
00:05:17 → 00:05:20 แล้วเบลอเนี่ยค่ะส่วนใหญ่แล้วก็จะพัฒนาไป
00:05:20 → 00:05:22 เป็นตาที่ี้เขียนได้ถ้าาสายตา 2 ข้างต่าง
00:05:23 → 00:05:27 กันมากๆเช่นข้างนึง 0.00 มองไกลชัดเป๊ะ
00:05:27 → 00:05:30 อีกข้างนึงเป็นบวก 300 อะไรเงี้ยถ้าบวก
00:05:30 → 00:05:34 300 ก็คือใกล้ไม่รู้เรื่องเลยไกลยิ่งไม่
00:05:34 → 00:05:37 ชัดอันเนี้ยก็อาจจะทำให้เกิดกายขี้เกียจ
00:05:37 → 00:05:40 ได้ยกตัวอย่างหรือว่าค่าเตียงเยอะๆแต่ว่า
00:05:40 → 00:05:42 ค่าเสกาสั้นเนี่ยเยังมีจุดที่มองชัด
00:05:42 → 00:05:45 บริเวณใกล้ตัวเล็กน้อยเพราะฉะนั้นค่าเสกา
00:05:45 → 00:05:47 สั้นเนี่ยถ้าไม่เยอะมากจริงๆมักจะไม่ทำ
00:05:47 → 00:05:54 ให้เป็นปาที่ี้เกียนอือืค่ะครับแสดงว่า
00:05:54 → 00:05:57 อาการที่เด็กด็เป็นตั้งแต่เด็กตั้งแต่
00:05:57 → 00:06:00 เล็กๆเลยเนี่ยฮะเอ่อไม่ไม่ว่าจะเป็นตา
00:06:00 → 00:06:03 เหล่ตาเขตาเ่อสายตาค่าสายตาที่ต่างกันมาก
00:06:03 → 00:06:06 ทั้ง 2 ข้างเองเนี่ยแสดงว่าเมื่อเป็นแล้ว
00:06:06 → 00:06:09 มันมันมันไม่ควรจะปล่อยปล่อยไว้เพราะมัน
00:06:09 → 00:06:13 จะตามมาด้วยอาการอื่นๆอีกใช่มั้ยฮะถูก
00:06:13 → 00:06:17 ต้องค่ะก็คือจริงๆแล้วเราช่วยได้ช่วยให้
00:06:17 → 00:06:19 เราช่วยประคับประคองช่วยแก้ไขสถานการณ์
00:06:19 → 00:06:22 ที่ทำให้ปลาข้าวนั้นเนี่ยไม่มองเห็นได้
00:06:22 → 00:06:25 เต็มที่เพื่อให้ปลาข้านั้นมีพัฒนาการเต็ม
00:06:25 → 00:06:28 ที่ได้ในขณะตรงข้ามก็คือถ้าเกิดเราไม่ไป
00:06:28 → 00:06:31 ช่วยแก้ไขตรงจุดเงี้ยค่ะมารู้ตัวอีกทีตอน
00:06:31 → 00:06:34 โตแก้พัฒนาเต็มที่แล้วเงยแก้ไม่ทันแล้ว
00:06:34 → 00:06:38 อันเนี้ยคือข้อสำคัญของโลกตาขี้เกียจอือื
00:06:38 → 00:06:41 ต้องต้องรู้แต่เด็กแล้วอาจารย์ขางั้น
00:06:41 → 00:06:43 อาจารย์ขาย้ำชั่วโมงทองของคุณพ่อคุณแม่
00:06:43 → 00:06:46 คือบางคนก็เด็กก็ไม่รู้บาที่อาจารย์บอก
00:06:46 → 00:06:48 ว่าโตมาก็ไม่รู้เราต้องตรวจตั้งแต่วัยไหน
00:06:48 → 00:06:51 หรือว่าสังเกตน้องตอนไหนที่ว่าเอาแหละ
00:06:51 → 00:06:54 ก่อนที่มันจะไม่สามารถแก้ไขได้แล้วอ่ะค่ะ
00:06:54 → 00:06:56 อาจารย์ชั่วโมงทจริงๆปัจจุบันเนี้ยค่ะ
00:06:56 → 00:06:59 ตั้งแต่แรกพ่อเนี่ยถึงจะยังไม่มาเจอหมอนะ
00:06:59 → 00:07:02 คะคุณหมอเด็กเขาก็จะช่วยหมอพัดกองคร่าวๆ
00:07:02 → 00:07:05 โดยการดูว่าอ่าเด็กมีพัฒนาการมองตามสิ่ง
00:07:05 → 00:07:09 ของมองสิ่งของแล้วนิ่งมีความสนใจในการใช้
00:07:09 → 00:07:13 สายตาหรือว่ามีภาวะตาเขตาเหล่ก็กระจกที่
00:07:13 → 00:07:16 แสดงให้เห็นหรือไม่อะไรที่มันเด่นๆเลยนะ
00:07:16 → 00:07:18 ค่ะแบบแสดงออกอย่างแปลกไปจากพัฒนาการเด็ก
00:07:18 → 00:07:21 ทั่วไปเค่ะ 1 คือคุณหมอเด็กจะเป็นคนช่วย
00:07:21 → 00:07:26 หมอตาัดรองอือันที่ 2 เนี่ยก็คือบางทีอาจ
00:07:26 → 00:07:28 จะมีหลุดเนาะมันไม่ชัดมากคุณพ่อคุณแม่
00:07:28 → 00:07:31 เนี่ยเป็นอีกคนนึงที่จะช่วยดูได้ก็คือบาง
00:07:31 → 00:07:36 คนสังเกตเห็นว่าอ่ะลูกตาเขบางจังหวะอ่า
00:07:36 → 00:07:39 บางคนไม่ได้เขตลอดเวลานะคะเขแค่บางทีอะไร
00:07:39 → 00:07:41 อย่างเงี้ยค่ะเวลาอยู่บ้านหรือใช้เวลา
00:07:41 → 00:07:43 ร่วมกันก็จะเป็นอีคนที่สังเกตเห็นได้จริง
00:07:43 → 00:07:46 ๆแล้วนอกจากหมอเด็กที่ตรวจพบความผิดปกติ
00:07:46 → 00:07:49 แล้วส่งหาหมอตาเนี่ยค่ะก็จะมีเกณฑ์อีก
00:07:49 → 00:07:52 อย่างน้อยๆเลยเนี่ยก็คือก่อนเข้าโรงเรียน
00:07:52 → 00:07:56 ต้องมีการวัดค่าสตาอือครับก่อนเข้าโรง
00:07:56 → 00:08:00 เรียนนะคะใช่ก็มีการตรวจสุขภาพแล้วก็วัด
00:08:00 → 00:08:03 ธาตุสายตาค่ะอืเพื่อที่จะดูว่าเอ๊ะมี
00:08:03 → 00:08:05 พัฒนาการที่เหมาะสมตามวมั้ยเนาะโดยที่
00:08:05 → 00:08:08 จริงๆน้องยังไม่จำเป็นต้องอ่านป้ายได้ยัง
00:08:08 → 00:08:10 ไม่จำเป็นต้องดูตัวเลขได้แต่ว่าเราก็จะมี
00:08:10 → 00:08:13 ตัวการ์ตูนให้ดูแทนแล้วก็ใช้การตอบสนอง
00:08:14 → 00:08:16 ว่าอ่าอันนี้หรือถ้าเด็กมากๆเลยก็อาจจะ
00:08:16 → 00:08:18 เป็นตอบสนององตามวัตถุสิ่งของที่เป็นจริง
00:08:18 → 00:08:23 แล้วอ่าแล้วเปรียบเทียบตามจูนอายุอืค่ะอ
00:08:23 → 00:08:26 ก็คืออย่าได้ละเลยการตรวจสุขภาพพื้นฐานใน
00:08:26 → 00:08:29 เด็กโดยเฉพาะตรวจสายตาใช่ค่ะอย่างน้อยที่
00:08:29 → 00:08:33 สุดก็คือก่อนเข้าโรงเรียนนะคะอืโอผมไม่
00:08:33 → 00:08:36 นึกผมไม่คิดเลยนะว่าเอ่อเด็กก่อนเข้าโรง
00:08:36 → 00:08:38 เรียนเนี่ยจำเป็นจะต้องตรวจสายตาด้วยอัน
00:08:38 → 00:08:42 นี้อันเนี้ยแบบไม่อยู่ในในคลังความรู้ของ
00:08:42 → 00:08:46 ผมอันนี้ก็คือเป็นคำแนะนำเลยนะคะอือหรือ
00:08:46 → 00:08:48 บางคนเนี่ยยจริงๆอาจจะไม่เกี่ยวกับการขี้
00:08:48 → 00:08:50 เกียจในตรงพวกตาบาสีอะไรอย่างเงี้ยค่ะเออ
00:08:50 → 00:08:52 เราก็ไม่เคยเช็คเนาะมามันรู้เปืออีกที
00:08:52 → 00:08:54 ก่อนจะเข้าเรียนอ้าวเข้าคณะนั้นคณะนี้ไม่
00:08:54 → 00:08:56 ได้อะไรอย่างเงี้ยค่ะจริงๆก็เป็นสิ่งที่
00:08:56 → 00:09:01 ควรเช็คตั้งแต่เด็กเหมือนกันอือือืโอ้โห
00:09:01 → 00:09:04 แสดงว่าก่อนเข้าอนุบาลอะไรเนี่ยเเข้าโรง
00:09:04 → 00:09:07 เรียนตั้งแต่วัยอนุบาลเช็คก่อนจะดีที่สุด
00:09:07 → 00:09:11 ใช่่ค่ะแต่ว่าขั้นต้นเลยเนี่ยอย่างน้อยๆ
00:09:11 → 00:09:14 ก็คือจะมีคุณหมอเด็กถ้าเรามีการแบบนัก
00:09:14 → 00:09:16 สุขภาพมีสมุดเด็กดีมีการฉีดวัคซีนค่ะคุณ
00:09:16 → 00:09:20 หมอเเคก็จะช่วยหมอปาัดรองส่วนนึงละอืค่ะอ
00:09:20 → 00:09:23 อาจารย์คะพอดีมีคุณผู้ฟังทางบ้านสอบถาม
00:09:23 → 00:09:25 แบบเยค่ะว่าถ้าเด็กตาส่อนหรือตาเหล่นิดๆ
00:09:25 → 00:09:28 เนี่ยค่ะถ้าแบบตั้งแต่เกิดเลยนะคะต้องแบบ
00:09:28 → 00:09:32 ไปพบคุณหมอตรวจตาทุกคนเลยยหรือว่ามันจะ
00:09:32 → 00:09:35 หายได้คะอะไรอย่างเงี้ยจริงๆแล้วควรไปพบ
00:09:35 → 00:09:38 ทุกคนค่ะต้องขอก่อนว่าที่คุณพ่อคุณแม่
00:09:38 → 00:09:42 เห็นตา่อนตาเขนิดแล้วมันใช่ไม่ใช่อะไร
00:09:42 → 00:09:45 อย่างเงี้ยค่ะจริงๆแยากยากในเด็กเอเชียอ
00:09:45 → 00:09:49 เพราะว่าเราจะมีแบบผิวหนังตรงบริเวณหัวตา
00:09:49 → 00:09:52 น่ะค่ะที่อาจจะเป็นเป็นโฟของนึงแล้วแล้ว
00:09:52 → 00:09:54 ทำให้ดูเหมือนไอ้เด็กเล็กๆทำไมดูเหมือนตา
00:09:54 → 00:09:57 เขเข้าในตลอดเวลาอะไรอย่างเงี้ยค่ะอก็
00:09:57 → 00:09:59 จริงๆแล้วดูเองยากนะคะ
00:10:00 → 00:10:03 แต่ว่าถ้าไม่มั่นใจจรู้สึกว่าเอ๊ะมันไม่
00:10:03 → 00:10:05 เหมือนปกติหรือว่าแสงบังเอิญมีจังหวะที่
00:10:05 → 00:10:08 แสงส่องไปแล้วข้างนึงแสงตกกลางตาอีกข้าง
00:10:08 → 00:10:11 แสงเบี้ยวอะไรอย่างเงี้ยค่ะก็น่าจะใช่ะ
00:10:11 → 00:10:14 หรือว่าเวลาน้องมองมีการสลับค่าชัดเจนคือ
00:10:14 → 00:10:16 ถ้ามุมเขนเป็นเหชดเยอะๆเงี้ยมันก็จะเห็น
00:10:16 → 00:10:19 ชัดถ้าเป็นน้อยบางทีดูยากจริงๆถ้าไม่มั่น
00:10:19 → 00:10:23 ใจก็ควรจะให้หมอตาช่วยดูนะคะอืค่ะเพราะ
00:10:23 → 00:10:26 ว่าแบบคุณผู้ฟังก็แบบสงสัยว่าเอ๊ะแล้ว
00:10:26 → 00:10:28 เป็นแบบยังไงอะไรอย่างเงี้ยค่ะแล้ว
00:10:28 → 00:10:31 อาจารย์นะคะก็ยังมีคำถามอีกค่ะอย่างต่อ
00:10:31 → 00:10:35 เนื่องว่าเอ่อเนี่ยค่ะว่าถ้าสมมุติว่านะ
00:10:35 → 00:10:38 คะการปล่อยไว้นานนะค่ะถ้าเราแบบไม่ได้แก้
00:10:38 → 00:10:40 ไขตั้งแต่เด็กเนี่ยค่ะโตขึ้นจะเป็นยังไง
00:10:40 → 00:10:42 อย่างที่เมื่อกี้อาจารย์บอกว่าอ่ะตัดแว่น
00:10:43 → 00:10:45 เราก็ไม่รู้แล้วก็ไม่อะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:10:45 → 00:10:48 มันจะส่งผลยไงได้บ้างมั้ยคะกรณีคือจริงๆ
00:10:49 → 00:10:50 โรคตาขี้เกียจเนี่ยมันมีความรุนแรงหลาย
00:10:51 → 00:10:55 ระดับกรณีที่เป็นแบบน้อยๆก็คือเอ๊ะพยายาม
00:10:55 → 00:10:58 คนทั่วไปแบบมองไปตัวเล็กๆเหนือเส้นสีแดง
00:10:58 → 00:11:00 เวลาเให้เราไปวัดใส่ตาอ่านคลาสนะค่ะมันจะ
00:11:00 → 00:11:03 มีบเเส้นแดงเส้นบทนี้ต้องอ่านได้นะอันนี้
00:11:03 → 00:11:06 คือตาปกติแต่ถ้าเป็นตาที่มีภาวะตาขี้
00:11:06 → 00:11:09 เกียจก็อ่าจจะดรอลงไปซัก 1 บรรทัด 2
00:11:09 → 00:11:11 บรรทัดอะไรอย่างเงี้ยเป็นต้นค่ะคือเค้า
00:11:11 → 00:11:14 ความมันเหมือนคอจอคอมพิวเตอร์ที่แบบความ
00:11:14 → 00:11:17 ละเอียดมันต่ำนึกออกมั้ยคะภาพที่เา้าเห็น
00:11:17 → 00:11:20 อ่าจะให้แปลแปลง่ายๆประมาณนั้นคือภาพมัน
00:11:20 → 00:11:22 เห็นนะแต่มันดูนัวๆไปหมดอะไรอย่างเงี้ย
00:11:22 → 00:11:26 ค่ะเป็นเม็ดๆขึ้นมาออืไม่ไม่ไม่ไม่ชัดคือ
00:11:26 → 00:11:29 แบบความละเอียดมันดรอปลงเวลามี
00:11:29 → 00:11:32 ที่เป็นตัวอักษรเล็กๆอยู่งิดๆเๆอย่าเงี้เ
00:11:32 → 00:11:35 จะแยกยากอืไม่เต็มประสิทธิภาพว่างั้นแทน
00:11:35 → 00:11:38 ที่แบบมันจะต้องแบบพับคุมชแทที่ความ
00:11:38 → 00:11:41 ละเอียดมันจะแบบให้ definition 4 ดีมัน
00:11:41 → 00:11:44 ไม่ได้อย่างนั้นอืเราอาจจะไปอยู่ในยุค
00:11:44 → 00:11:48 อนาลอกก็เป็นไปได้แต่ว่าเ่าใช่ค่ะแล้วเ
00:11:48 → 00:11:51 ถ้าชิงกับภาวะอย่างงั้นน่ะก็คืออยู่มา
00:11:51 → 00:11:52 อย่างเงี้ยตั้งแต่เด็กอะไรอย่างเงี้ค่ะก็
00:11:52 → 00:11:55 เลยไม่รู้ว่าจริงๆมันชัได้อีกอ๋อก็ก็เลย
00:11:55 → 00:11:57 ไม่รู้ว่าตัวเองผิดปกติอย่างที่อาจารย์
00:11:57 → 00:12:00 บอกอ๋อมันเป็นบางคนก็รู้แหละแต่ว่านึกว่า
00:12:00 → 00:12:03 เออมันก็ปกติอ่ะมีค่าถนัดค่าไม่ถนัดอะไร
00:12:03 → 00:12:06 อย่างเงี้ยแต่ถ้าเกิดว่าคนเยอะมากๆเค่ะ
00:12:06 → 00:12:09 อันเนี้ยมันจะค่อนข้างชัดเนาะบางทีคนเด็ก
00:12:09 → 00:12:12 ก็จะรู้แหละแต่ว่ามันก็มีหลายระดับมีตั้ง
00:12:12 → 00:12:14 แต่เป็นน้อยเป็นการเป็นมากอะไรอย่างเงี้ย
00:12:14 → 00:12:19 ค่ะอืค่ะครับอ๋อมันเป็นอย่างงี้นี่เองอก็
00:12:19 → 00:12:21 ถ้าทิ้งไว้นานๆเนี่ยปัจจัยที่มีปัญหากอน
00:12:21 → 00:12:24 โตกรณีที่เป็นเยอะหน่อยเค่ะก็คือความ
00:12:24 → 00:12:26 สามารถในการมองภาพสมิติเป็นอย่างน้อย
00:12:26 → 00:12:29 เพราะเวลาเรามองภาพสมิติกะระยะก็ใไกลห่าง
00:12:29 → 00:12:32 เงี้ยค่ะเราใช้ 2 ตาร่วมกันอืถ้าข้างนึง
00:12:32 → 00:12:35 มองไม่ชัดเนี่ยการกะระยะมันก็อาจจะแย่ลง
00:12:35 → 00:12:38 อ๋อเนาะหรือว่าเวลาที่ต้องใช้สายตาเยอะๆ
00:12:38 → 00:12:42 เช่นขับรถในที่แสงน้อยอ่ะต้องมองไกลให้ขม
00:12:42 → 00:12:45 ชัดแสงรอบข้างก็น้อยอีกถ้าเกิดข้างนึงมัน
00:12:45 → 00:12:47 มองเบลอเี้ยค่ะประสิทธิภาพมันก็กว่าคน
00:12:47 → 00:12:50 ทั่วไปอือาจารย์คะอันนี้ถามเป็นความรู้
00:12:50 → 00:12:53 เพราะเพราะว่ามันส่งผลถึงตอนโตเคะขับรถ
00:12:53 → 00:12:55 เลยอยากรู้ว่าเด็กเนี่ยค่ะกี่เปอร์เซ็นต์
00:12:55 → 00:12:58 น่ะคะถึงจะเป็นตายขี้เกียจโบอกไม่ได้เลย
00:12:58 → 00:13:03 ค่ะอถ้าบอกอ่าตั้งต้นว่าเด็กที่มีภาวะ
00:13:03 → 00:13:05 ตาเขแบบนี้แบบนี้มีโอกาสกี่เปอร์เซ็นต
00:13:05 → 00:13:08 อันเนี้ยพอบอกได้แต่ว่าโอ้โหมันยิบย่อย
00:13:08 → 00:13:12 มากเอาเป็นว่าอันที่แย่ที่สุดเนี่ยคือมี
00:13:12 → 00:13:15 อะไรมาบางตาอันเนี้ยถ้าเป็นแล้วไม่รักษา
00:13:15 → 00:13:18 เนี่ยค่ะมันจะทำให้เกิดภาวะตาขี้เกียชนิด
00:13:18 → 00:13:21 รุนแรงและเป็นเร็วมากอเนาะยกตัวอย่างเช่น
00:13:21 → 00:13:24 เป็นเ้ากระจกแต่กำเนิดหรือว่าหนังตาตกมาก
00:13:24 → 00:13:26 บังตามีก้อนเนื้องอกอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:13:26 → 00:13:29 แล้วไม่ได้รักษาเงี้ยพอตาข้างนั้นโดนบัง
00:13:29 → 00:13:31 อยู่ตลอดเงี้ยค่ะแล้วเราไม่ได้ไปรีบผ่า
00:13:31 → 00:13:34 ตัดเอาออกหรือว่าแก้ไขให้อ่ะค่ะก็กระจก
00:13:34 → 00:13:36 เอ้ยไม่ใช่ตัวตาขี้เกียจคนเยจะเกิดขึ้น
00:13:36 → 00:13:40 เร็วมากแล้วก็รุนแรงมากแล้วก็แก้ไขยากอื
00:13:40 → 00:13:44 ค่ะอันต่อไปก็คือเรื่องตาเขถ้าตาเขแบบ
00:13:44 → 00:13:47 โอ้โหองศาใหญ่มากก็คือใครๆได้ทักว่าเอ้ย
00:13:47 → 00:13:50 ตาเขข้างนึงมองตรงนี้อีกข้างมองตรงนั้น
00:13:50 → 00:13:53 แล้วใช้แค่ข้างเดียวตลอดมีข้างถนัดชัดเจน
00:13:53 → 00:13:56 บางคนเตาเขแล้วเสลับข้างเดี๋ยวใช้ขวา
00:13:56 → 00:13:58 เดี๋ยวใช้ซ้ายผัดๆกันใช้อย่างเงี้ยโอกาส
00:13:58 → 00:14:01 ที่จะตาขี้เกียจจะน้อยกว่าแต่ถ้าเกิดว่า
00:14:01 → 00:14:03 เป็นคนที่แบบถนัดข้างเนี้ยอีกข้างนึงมอง
00:14:03 → 00:14:05 ไปไหนก็ไม่รู้อ่าอย่างเงี้ยค่ะองจากเป็น
00:14:05 → 00:14:10 ตาขี้เกียจก็จะยิ่งถูกอืออโอมันมันมันมี
00:14:10 → 00:14:13 หลายหลายอ่าไม่ใช่ค่ะมันมีสาเหตุหลากหลาย
00:14:13 → 00:14:16 เนาะอันต่อไปก็คือค่าสายตาอย่างที่บอกไป
00:14:16 → 00:14:19 แล้วถ้า 2 ข้างต่างกันเยอะๆแล้วไอ้ค่าที่
00:14:19 → 00:14:21 ต่างกันเยอะๆเนี่ยมันเป็นค่าสายตาที่มอง
00:14:21 → 00:14:25 ตรงไหนก็ไม่ชัดเช่นสายตาเอียงสายตาเอียง
00:14:25 → 00:14:29 คือมองตรงไหนก็ไม่คมชัดหรือสายตายาวสยาว
00:14:29 → 00:14:32 คือมองใกล้ไม่ชัดแน่นอนมองไกลดีกว่ามอง
00:14:32 → 00:14:34 ใกล้แต่ก็ยังคงไม่ชัดถ้าเกิดว่าค่า
00:14:34 → 00:14:37 พาวเวอร์มันเยอะเนี่ยค่ะก็จะทำให้เกิดการ
00:14:37 → 00:14:39 ขี้เปียนได้ง่ายกว่าสายตาสั้นเพราะว่าสาย
00:14:39 → 00:14:43 ตาสั้นเป็นภาวะที่มองใกล้ยังพอชัดบ้างอื
00:14:43 → 00:14:46 ครับในบางอ่าถ้าไม่เยอะมากนะคะมันจะมี
00:14:46 → 00:14:48 ระยะที่เขาเห็นชัดอยู่เพราะฉะนั้นถ้ามี
00:14:48 → 00:14:50 การใช้งานบ้างเนี่ยยังไงมันก็จะพัฒนานิด
00:14:50 → 00:14:52 หน่อยเนาะแต่ถ้าไม่ได้ใช้เลยแบบโอไม่ไหว
00:14:52 → 00:14:55 แล้วเป็นอะไรโโบเก้เบลอๆของมันไปเ่ะค่ะก็
00:14:55 → 00:14:58 จะเกิดภาวะการขี้เกียจที่รุนแรงขึ้นอออื
00:14:58 → 00:15:03 อืออืเออเออการการใช้ดวงแสดงว่าการใช้ดวง
00:15:03 → 00:15:08 ตามันต้องใช้คู่คู่กันไปไม่ใชต้องพัฒนา
00:15:08 → 00:15:11 ทั้งคู่ใช่ค่ะแต่ก็มีข้อยกเว้นนะถ้าเกิด
00:15:11 → 00:15:16 ว่ามีค่าสายตาเยอะมากๆ 2 ข้างพอๆกัน
00:15:16 → 00:15:19 สามารถเป็นตาขี้เกียจ 2 ข้างได้ค่ะค่ะไม่
00:15:19 → 00:15:21 อ๋อสืบเดื่องมาจากที่น้องโอ๊บอกว่าต้อง
00:15:21 → 00:15:24 ใช้ตา 2 ข้างอาจารย์คะอันนี้หนูเลยคิดแบบ
00:15:24 → 00:15:26 อันนี้ขออนุญาตนะคะคิดแบบแผลงๆก็เลยลอง
00:15:26 → 00:15:29 ถามดูว่าถ้าสมมุติว่าค่าสายตาแต่ละข้าง
00:15:29 → 00:15:31 มันไม่เท่ากันใช่มั้ยคะสมมุติว่าเราปิด
00:15:31 → 00:15:34 แล้วเราเหลือข้างเดียวเหมือนแบบเหมือนแบบ
00:15:34 → 00:15:37 อ่าใช่ค่ะมันจะดีขึ้นมั้ยคะใช่ค่ะนั่นคือ
00:15:37 → 00:15:39 วิธีรักษาอ้อเหรอคะ
00:15:39 → 00:15:43 อ๋อถูกต้องเลยนะคะแต่ว่าก่อนอื่นเลยก็คือ
00:15:43 → 00:15:47 เราต้องแก้สาเหตุก่อนเนาะถ้าเป็นปลาเขอ่ะ
00:15:47 → 00:15:50 ทำให้มันตรงถ้ามีค่าสายตาอ่ะตัดแว่นให้
00:15:50 → 00:15:53 มันเหมาะสมอและบังคับใช้ปลาข้างนั้นออ
00:15:53 → 00:15:56 เนาะมันเป็นการรักษาหลักเลยค่ะออไม่ว่าจะ
00:15:56 → 00:15:59 เป็นการหยอดยาคายการเพ่งในปลาข้างดีทำให้
00:15:59 → 00:16:02 ตาข้างนั้นมองเห็นไม่ชัดบังคับให้ตาข้าง
00:16:02 → 00:16:05 นั้นมองเห็นไม่ชัดเขจะได้ใช้อีกข้างนึงอื
00:16:05 → 00:16:09 หรือการใช้ิตาบังคับปิดไปที่ตาข้างดี
00:16:09 → 00:16:11 เหลือข้างเดียวให้เขาใช้ก็คือข้างที่เขา
00:16:11 → 00:16:14 ไม่ชอบบังคับใช้อือ่าพวกเค่ะคือการรักษา
00:16:14 → 00:16:17 ละอ๋อฝึกไปเรื่อยๆใช่มั้ยคะให้ตามันแบบ
00:16:17 → 00:16:20 เพิ่มประสิทธิภาพด้วยตัวเองเหมือนเราใช้
00:16:20 → 00:16:22 เหมือนแบบการใช้กล้าเนื้อือซ้ายมือไม่
00:16:22 → 00:16:25 ถนัดกล้ามเนื้อมันดเล็กมันดใหญ่ฝึกไป
00:16:25 → 00:16:27 เรื่อยๆมันจะต้องจับได้แม่นเองสักอย่าง
00:16:27 → 00:16:31 นฉรักษาแเอเอายาไปหยอดเอายาไปกินมันต้อง
00:16:31 → 00:16:34 พึ่งความร่วมมือของผู้ปกครองกับหมอและ
00:16:34 → 00:16:38 เด็กเนาะค่ะแล้วไม่ใช่แค่เจอแล้วจบนะคะ
00:16:38 → 00:16:42 เจอแล้วยังต้องไปต่อตามกันเป็นปีๆกี่ปี
00:16:42 → 00:16:44 อ่ะคะอาจารย์กว่าเราแบบจะฝึกแบบให้สายตา
00:16:44 → 00:16:47 เราเนี่ยประสิทธิภาพมันแบบเท่ากันในการ
00:16:47 → 00:16:50 มองเนี่ยอู้หมันต้องปิดนานปิดน้อยหรือปิด
00:16:50 → 00:16:53 เฉพาะเวลาเพ่งหรือปิดตลอดเวลายาวเลยค่ะก็
00:16:53 → 00:16:56 คือแล้วแต่แล้วแต่ความรุนแรงเนาะแล้วก็
00:16:56 → 00:16:58 แล้วแต่อายุที่มาเจอแล้วแต่ว่าเป็นมานาน
00:16:58 → 00:17:01 แค่แค่ไหนนะคะเพราะฉะนั้นอันแรกเลยที่
00:17:01 → 00:17:04 ต้องทำคือคุณแก้ต้นเหตุก่อนพอแก้ต้นเหตุ
00:17:04 → 00:17:07 บังคับใช้ปาอีกข้างนึงแล้วบางเราก็ต้องดู
00:17:07 → 00:17:09 อีกว่าบังคับใช้ได้จริงหรือไม่บางคนเด็ก
00:17:09 → 00:17:12 งอแงแกะปาสเตอร์ออกอ่ะบางคนอ่ะแพ้
00:17:12 → 00:17:15 ปาสเตอร์แปะาข้างนี้ไม่ได้เอ่อหยอดยาแล้ว
00:17:15 → 00:17:18 บ่นปวดหัวใช้ชีวิตไม่ได้อะไรเคมันก็ยังมี
00:17:18 → 00:17:21 ปัญหายิบย่อยอีกแต่ถ้าเกิดทุกอย่างเพอเฟค
00:17:21 → 00:17:24 เป๊ะเจอแต่เร็วรีบทำรีบจัดการเด็กให้ความ
00:17:25 → 00:17:27 ร่วมมือผู้ปกครองเอาใจใส่ดูแลเต็มที่
00:17:27 → 00:17:30 เนี่ยก็อาจจะใช้เวลาไม่นานมากอืแต่ก็ยัง
00:17:30 → 00:17:33 พอดีตีว่าหายแล้วเนี่ยพอกลับมาใช้ 2 ตา
00:17:33 → 00:17:36 ได้ค่ะก็ยังต้องมาตรวจติดตามอยู่เก็ยังมี
00:17:36 → 00:17:39 โอกาส develop ใหม่ได้
00:17:39 → 00:17:45 อืมันโอ้โหมันต้องใช้ใช้ใช้ในเรื่องของอ
00:17:45 → 00:17:47 การดูแลประคบประหงม
00:17:47 → 00:17:50 กับาค่อนข้างเยอะใช่แต่พอพ้นช่วงใช่ค่ะพอ
00:17:50 → 00:17:53 พ้นช่วงวัยประมาณวัยรุ่นไปเก็ไม่มีปัญหาะ
00:17:54 → 00:17:59 อืค่ะออ๋อแสดงว่าระยะเวลาในการ
00:17:59 → 00:18:05 จะจะรักษาอาการแบบเนี้ยก็ต้องเป็นเป็นปี
00:18:05 → 00:18:10 เป็นปีได้ออเหรอะอ๋อใช่ค่ะหลักเดือนก็อาจ
00:18:10 → 00:18:13 จะมีเนาะแต่ก็ในแง่ของการเปิดติดตามก็ยัง
00:18:13 → 00:18:18 คงต้องคิดว่าเป็นปีอยู่เหมือนกันอืค่ะอื
00:18:18 → 00:18:22 อืมันต้องมันต้องใช้โอ้โหแล้วเด็กๆเขาเขา
00:18:22 → 00:18:29 เขาเขาทนทนไม่ไหวหรือเยอะค่ะมันเกเออแล้ว
00:18:29 → 00:18:32 มันมันก็ไม่ง่ายอ่ะนะคะเพราะว่าเอยู่ดีๆ
00:18:32 → 00:18:34 มาบังคับใช้ไปโรงเรียนปิดตาไว้อ่ะโดน
00:18:34 → 00:18:36 เพื่อน้อมั้ยอะไรเงี้ยปัจจุบันมันก็เลยมี
00:18:36 → 00:18:38 อ่าการวิจัยว่าเอ๊ะเราไม่จำเป็นต้องปิด
00:18:39 → 00:18:41 ตลอดเวลาก็ได้เราปิดแค่ตางชั่วโมงอ่า
00:18:41 → 00:18:44 สัปดาห์ละกี่ชั่วโมงวันละกี่ชั่วโมงอะไร
00:18:44 → 00:18:46 อย่างเงี้ยค่ะเทียบเท่ากับปิดตลอดเวลาย
00:18:46 → 00:18:50 อ่ะปัจจุบันก็ไม่ได้จำเป็นต้องปิดตลอด
00:18:50 → 00:18:52 เวลาเก็จะแนะนำว่าปิดเป็นชั่วครางชั่ว
00:18:52 → 00:18:54 คราวเนี่ยช่วยมากกว่าเพราะบางทีปิดเยอะไป
00:18:54 → 00:18:57 เกิดปัญหาข้างที่ปิดเนี่ยขี้เกียจแทนอื
00:18:57 → 00:19:01 ค่ะอเหรอฮะอใช่ค่ะเกิดขึ้นได้เป็นภาวะแก
00:19:01 → 00:19:04 ซ้อนของการรักษาอืค่ะอาจารย์คะพดีน้อง
00:19:04 → 00:19:06 โอ๊คคะมีคุณผู้ฟังทางบ้านรบกวนถามแบบเย
00:19:06 → 00:19:08 ค่ะว่าแล้วตาขี้เกียจเนี่ยค่ะนอกจาก
00:19:08 → 00:19:11 ประสิทธิภาพอ่ะที่แบบการมองจะไม่ชัดแล้ว
00:19:11 → 00:19:15 เรื่องของสีอ่ะคะการมองเห็นของสีนี่มันมี
00:19:15 → 00:19:19 ผลด้วยมั้ยคะะเล็กน้อยออมากนะคะเพราะว่า
00:19:19 → 00:19:21 ปัจจัยหลักของเรื่องสีมันจะเป็นเรื่องของ
00:19:21 → 00:19:25 เอ่อเซลล์รับสีบนจอตา 5 กว่าซึ่งก็จะแยก
00:19:25 → 00:19:28 ไปเป็นตัวโรคตาบอสีแต่ว่าอันเนี้ยค่ะจะ
00:19:28 → 00:19:31 เด็ดที่เรืองของความคมชัดแต่การแยกแยะสี
00:19:31 → 00:19:33 เนี่ยมันก็มีสัดส่วนที่เกี่ยวข้องกับความ
00:19:33 → 00:19:35 คมชัดเนาถ้าเกิดเป็นสีตรงที่แบบอือมัน
00:19:35 → 00:19:38 ใกล้กันมากๆค่ะคสหรือว่าความต่างของสีมัน
00:19:39 → 00:19:40 ก็เป็นอีกตัวที่ช่วยแยกเอาเป็นว่ามีผล
00:19:40 → 00:19:44 น้อยอ๋ออย่างกรมท่ากับกับกับดำใช่มั้ยคะ
00:19:44 → 00:19:46 อย่างเงี้ยท่าสียังไงอ่ะอ่ะยกตัวอย่างใช่
00:19:46 → 00:19:48 ค่ะมันก็มีความใกล้เคียงมากแต่ว่าจะไม่
00:19:48 → 00:19:50 ใช่จุดเด่นของตาขี้เกียจตาขี้เกียจคือ
00:19:50 → 00:19:53 ความสามารถในการแยกคาแรคเตอร์ที่แบบ
00:19:53 → 00:19:56 ละเอียดมากๆเนี่ยมันเกาะลงอืค่ะอาจจะแยก
00:19:56 → 00:19:59 คนสิ่งของอะไรไม่ชัดเอาละอย่างเงี้ยค่ะ
00:19:59 → 00:20:01 อจารยเช่นตัวตัวอักษรที่มันแบบรายละเอียด
00:20:01 → 00:20:03 เยอะๆเช่นภาษาจีนอะไรอย่างเงี้ยค่ะมันจะ
00:20:03 → 00:20:07 ต้องใช้ความคมชับสูงในการแยกภาษาก็ถือว่า
00:20:07 → 00:20:09 มันเป็นตัวอักษรที่มีความละเอียดสูงเหมือ
00:20:09 → 00:20:13 กันคอคนกับคควายอย่างงี้อ่าแสดงว่ามันก็
00:20:13 → 00:20:17 จะกระทบต่อพัฒนาการด้านอื่นๆตามมาด้วยถ้า
00:20:17 → 00:20:20 เรามองสิ่งนั้นๆได้ไม่อย่างได้ไม่ชัดเจน
00:20:20 → 00:20:24 การอ่านการเขียนอาจจะผิดเพี้ยงไปก็เป็นไป
00:20:24 → 00:20:27 ได้แต่ส่วนใหญ่ส่วนใหญ่เป็นข้างเดียวอื
00:20:27 → 00:20:30 ค่ะอนั้นในแง่ของการอ่านการเขียนอาจจะไม่
00:20:30 → 00:20:34 ได้แย่มากอืค่ะอ๋ออาจารย์คะพอดีมีคุณผู้
00:20:34 → 00:20:37 ฟังทางบ้านนะคะรบกวนถามแบบนี้ด้วยค่ะแล้ว
00:20:37 → 00:20:40 ถ้าตาบอดสีแก้ได้มยคะวันนี้ขอโทษทีค่ะตา
00:20:40 → 00:20:44 บอดสีปัจจุบันยังแก้ไม่ได้นะคะอื
00:20:44 → 00:20:49 โถทำได้แค่เอ่อตรวจคัดกรองไว้ก่อนก็คือ
00:20:49 → 00:20:52 ถ้าเราทราบว่าเรามีประวัติตาบอดสีใน
00:20:52 → 00:20:55 ครอบครัวจริงๆส่วนใหญ่แล้วมันจะเอามารัน
00:20:55 → 00:20:58 เป็นแผนผังได้เลยค่ะว่าอ่ะโอกาสที่ลูกจะ
00:20:58 → 00:21:00 มีมีตาบอดสีถ้าเป็นผู้หญิงกี่เปอร์เซ็นต์
00:21:00 → 00:21:02 ถ้าเป็นผู้ชายกี่เปอร์เซ็นต์อันนี้พูดถึง
00:21:02 → 00:21:05 ตาบอดสีแต่กำเนิดนะคะจริงๆตาบอดสีถ้าลง
00:21:05 → 00:21:07 รายละเอียดก็เยอะอีกมีทั้งแต่กำเนิดที่
00:21:07 → 00:21:09 เราเจอเยอะสุดเด็กผู้ชายจะเป็นเยอะกว่า
00:21:09 → 00:21:12 ผู้หญิงอู้อืผู้หญิงโอกาสเป็นต่ำมากอ้อ
00:21:13 → 00:21:15 เพราะอะไรถ้าใครเคยดูทีวี่อะไรที่เขาแบบ
00:21:15 → 00:21:17 เอมีเด็กผู้หญิงเป็นตาบ่อสีแล้วเขาเล่น
00:21:17 → 00:21:20 ประเด็นเรื่องเนติกเนี่ยเก็ค่อนข้างถือ
00:21:20 → 00:21:22 ว่าให้ข้อมูลทางการแพทย์ได้บางส่วนแต่ว่า
00:21:22 → 00:21:24 จริงๆแล้วเด็กผู้ชายเป็นเยอะกว่าถ้าเด็ก
00:21:24 → 00:21:27 ผู้หญิงเป็นนี่คือของแรหายากอะไรอย่าง
00:21:27 → 00:21:31 เงี้ยอ๋อแรตายแล้วหายากแต่ก็ไม่อยากให้มี
00:21:31 → 00:21:33 ใครได้เป็นของหายากเลยนะออ่าผู้หญิงส่วน
00:21:33 → 00:21:38 ใหญ่จะเป็นพาหะค่ะอืเป็นพาหะอ๋อใช่ถ้าเอา
00:21:38 → 00:21:40 มาเลียงแผงันก็จะเห็นว่าอ่าได้มาจากแม่คน
00:21:40 → 00:21:44 นี้อ่าแม่ต้องได้ตัว X ก็คือยีนที่มีเอ่อ
00:21:44 → 00:21:47 เซลล์ตาบอสีอะไรอย่างเงี้ยค่ะแล้วก็มารวม
00:21:47 → 00:21:50 กับ y ของคุณพ่ออะไรอย่างเงี้ยแล้วก็เกิด
00:21:50 → 00:21:53 เป็นผู้ชายที่เป็น X ตัวนึงซึ่งมีซกเป็น
00:21:53 → 00:21:55 ตาบอดสีอยู่อืค่ะแต่ผู้หญิงเนี่ยถ้าเ้ามี
00:21:55 → 00:21:58 x x 2 ตัวเนี่ยมันจะข่มยืนตาบอดสีให้
00:21:58 → 00:22:03 ไม่แสดงออกอือออคร่าวๆนะคะแต่จริงๆมันจะ
00:22:03 → 00:22:07 มีตาบาสีที่แบบเกิดจากเอ่อการได้รับยาได้
00:22:07 → 00:22:10 รับสารโรคใดๆเส้นประสาทอักเสบอีกอะไร
00:22:10 → 00:22:11 อย่างเงี้ยค่ะ
00:22:11 → 00:22:15 อ๋อค่ะเออเป็นอย่างงนี้นี่เองเราก็เลยแบบ
00:22:15 → 00:22:18 ว่าเอ๊แบบอืเพราะว่าบางคนส่วนใหญ่เคงเป็น
00:22:18 → 00:22:21 ความหวังว่าเออถ้าใครอยากแบบตาบอสีมันส่ง
00:22:21 → 00:22:23 ผลกระทบอาชีพมันก็เป็นไปมันมันก็เป็นไม่
00:22:23 → 00:22:26 ได้หลายอย่างนะคะก็เลยบาคนเอ๊ยมันใช่เท่า
00:22:26 → 00:22:31 ที่รู้ก็จะมีนักบินอ่อเสัสกรทำประแพทย์
00:22:31 → 00:22:34 อะไรอย่างเงี้ยค่ะที่ต้องใช้ตัวความความ
00:22:34 → 00:22:37 แยดแยะสีค่อนข้างสูงอืนะคะหมอตาก็ไม่ได้
00:22:38 → 00:22:41 อืเดี๋ยวตัวคนไข้ไม่ได้อ้ออือเดี๋ยวคนไข้
00:22:41 → 00:22:45 คนไข้เห็นสีแยกดีกว่าอ๋อก็ก็เป็นเช่นนั้น
00:22:45 → 00:22:47 เอออาจารย์คะแล้วมีคุณผู้ฟังทางบ้านนะคะ
00:22:47 → 00:22:49 รบกวนถามอาจารย์แบบนี้เหมือนกันค่ะแบบถาม
00:22:50 → 00:22:52 เนื่องจากมันเป็นโรคแบบตานะคะก็เลยถามว่า
00:22:52 → 00:22:55 แล้วการใช้น้ำตาเทียมเนี่ยค่ะถ้าหมดอายุ
00:22:55 → 00:22:57 ยังใช้ได้ไมแล้วแบบการใช้น้ำตาเทียมเนี่ย
00:22:57 → 00:22:59 มันจะช่วยให้แบบสิ่งที่เราบางครั้งเราอาจ
00:22:59 → 00:23:02 จะตราเบลอตราบัวอาจจะไม่ได้เป็นแบบตราขี้
00:23:02 → 00:23:03 เกียจอย่างชัดเจนหรอกแต่อาจจะแบบเหนื่อย
00:23:04 → 00:23:07 ล้าอย่าเงี้มันช่วยให้สายตาเราดีขึ้นมคะ
00:23:07 → 00:23:09 จริงๆแยกง่ายมากเลยนะคะว่าเราเป็นตลาขี้
00:23:09 → 00:23:12 เกียจหรือว่าเราแค่เบลอมัวชั่วคราวจากตลา
00:23:12 → 00:23:14 แห้งคือนักต้าเทียนเนี่ยมันจะช่วยชชั้นใน
00:23:14 → 00:23:17 แง่ของตลาแห้งอ๋อคซึ่งถ้าเกิดเป็นตามัว
00:23:17 → 00:23:19 จากตาแห้งเกิดขึ้นได้ค่ะเพราะว่าฟิล์มน้ำ
00:23:19 → 00:23:22 ตาลมันแตกตัวทีนี้ถ้าตามัวจากตาแห้งเนี่ย
00:23:22 → 00:23:25 ง่ายๆเลยคือกระพริบตาปึ๊บเอ้อดีขึ้นะแต่
00:23:25 → 00:23:27 อาจจะดีขึ้นแป๊บเดียวแล้วเบลอใหม่จะไม่
00:23:27 → 00:23:30 ได้เบลอตลอดเวลาแบบโรคตาอย่างอื่นอืค่ะ
00:23:30 → 00:23:33 ครับแต่ยกเว้นตาแห้งจะมีแผลนะคะถ้าตาแห้ง
00:23:33 → 00:23:36 จนเกิดแผลบนกระจกตาเงี้ยก็ก็เบลอตลอดจน
00:23:36 → 00:23:38 กว่าแผลจะหายซึ่งน้ำตาเทียมเนี่ยมันจะไป
00:23:38 → 00:23:41 ช่วย 1 ทำให้ีมน้ำตาอยู่ตัวมากขึ้นเวลา
00:23:41 → 00:23:45 มองมันก็มองผ่านผิวเรียบภาพก็ไม่แตกหรือ
00:23:45 → 00:23:47 ทำให้แผที่เกิดขึ้นหายเร็วขึ้นเนาะเพราะ
00:23:47 → 00:23:49 ฉะนั้นน้ำตาเทียมเนี่ยช่วยเลื่องตามัวที่
00:23:49 → 00:23:53 เกิดจากตาแห้งได้ใช้บ่อยได้ตามต้องการถ้า
00:23:53 → 00:23:57 ไม่มีสารกันบูดอืค่ะอแต่ถ้ามีสารกันบูดก็
00:23:57 → 00:23:59 ไม่ได้อตรานะคะเพียงแต่ว่าไม่เหมาะกับปลา
00:23:59 → 00:24:02 ที่เป็นแผหรือว่าอาจจะไม่ควรใช้เกิน 4-6
00:24:02 → 00:24:05 ครั้งต่อวันอืเตที่เหมาะสมจถ้าเกิดมันหมด
00:24:05 → 00:24:07 อายุแล้วเนี่ยก็ต้องถามก่อนว่าเป็นแบบขวด
00:24:08 → 00:24:10 หรือเป็นแบบหลอดถ้าเป็นแบบขวดเปิดใช้แล้ว
00:24:10 → 00:24:12 เกิน 1 เดือนควรจะทิ้งค่ะเพราะมันอาจจะมี
00:24:12 → 00:24:14 เชื้อโลคเข้าไปอยู่ในนั้นถ้าเกิดว่าเป็น
00:24:14 → 00:24:16 แบบหลอดยังไม่ได้เปิดแต่อ้ามาดูข้างซอง
00:24:16 → 00:24:20 หมดอุแล้วคิดว่าความสะอาดเนี่ยคงยังไม่
00:24:20 → 00:24:21 ได้เป็นปัญหามากขึ้นแป๊บเดียวแต่ว่า
00:24:21 → 00:24:24 ประสิทธิภาพยังไงก็จะดรอปลงแน่นอนคิดว่า
00:24:24 → 00:24:27 ใช้ไปก็อาจจะไม่ค่อยได้ผลหรือถ้าเกิดทิ้ง
00:24:27 → 00:24:30 นานมากๆเนี่ยแต่บรรจุพันธ์ที่เาเคลมว่าอ
00:24:30 → 00:24:31 เคปลอดเชื้อเนี่ยมันก็อาจจะไม่ได้
00:24:31 → 00:24:34 ประสิทธิภาพตามนั้นแล้วสรุปถ้าหมดอายุไม่
00:24:34 → 00:24:39 ควรใช้อืค่ะอืหมดอายุก็ลืมไปเลยสิ่งใดๆ
00:24:39 → 00:24:43 หมดอายุก็ไม่ควรใช้เนาะอืค่ะก็เสก็คือดี
00:24:43 → 00:24:46 ที่สุดก็คือไม่ควรใช้อืค่ะแต่ถ้าเผิดใช้
00:24:46 → 00:24:48 ไปแล้วแล้วไม่มีอาการอะไรเนี่ยเฉพาะน้ำตา
00:24:48 → 00:24:50 เทียมเนี่ยคือเราไม่ได้คาดหวัง
00:24:50 → 00:24:52 ประสิทธิภาพในการไปฆ่าเชื้อหรือเงี้ยก็
00:24:52 → 00:24:56 ไม่ต้องตกอกตกใจนะคะแค่ไม่ใช้อีกก็พออือ
00:24:56 → 00:24:59 ค่ะแต่ว่าถ้าจะแก้ปัญหาระยะยาวเรื่องของ
00:24:59 → 00:25:02 ตาแห้งล่ะคะอาจารย์คือต้องคอยกระพริบตา
00:25:02 → 00:25:04 ปล่อยหรือว่าไม่ไปเพ่งไม่ไปอะไรอย่างงี้
00:25:04 → 00:25:08 บ่อยๆต้องหาสาเหตุค่ะอ๋อค่ะตาแห้งเนี่ยก็
00:25:08 → 00:25:10 มีสาเหตุไม่ใช่ว่าเอ้อเดี๋ยวมันก็แห้งของ
00:25:10 → 00:25:12 มันไปเองอะไรอย่างเงี้ยนะคะคือมันมี
00:25:12 → 00:25:16 สาเหตุอืไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอ่าภาวะที่
00:25:16 → 00:25:18 การสร้างน้ำตาลน้อยกว่าปกติอืซึ่ง
00:25:18 → 00:25:21 อันเนี้ยเจอน้อยต้องเป็นโรคจำเพาะที่มัน
00:25:21 → 00:25:25 มีแบบเซลล์ฟูคุ้มกันมาแทคต่อตัวต่อมน้ำตา
00:25:25 → 00:25:27 ที่มันทันห้ามที่สร้างน้ำตาคนไ้ส่วนใหญ่
00:25:27 → 00:25:30 ก็จะมีปาแห้งตันกุอะไรง่ายด้วยก็จะแสดง
00:25:30 → 00:25:33 ออกค่อนข้างชัดเจนว่าเอ๊ะไม่ใช่ตายแห้ง
00:25:33 → 00:25:37 ธรรมดาหรือตายแห้งทั่วไปที่เจอบ่อยขึ้นก็
00:25:37 → 00:25:40 คือเกิดอเจอเยอะสุดก็คือมีการระเหยของน้ำ
00:25:40 → 00:25:42 ตาเร็วเนื่องจากโครงสร้างน้ำตาเนี่ยมัน
00:25:42 → 00:25:45 ไม่เสถียงอืขาน้ำมันข่ะเมือกเป็นต้นนะคะ
00:25:45 → 00:25:48 แทนที่มันจะเคลื่อบตาได้นานสัก 10 วินาที
00:25:48 → 00:25:51 มันค่อยระเหยมันก็ 3 วินาที 5 วินาทีมัน
00:25:51 → 00:25:53 ก็แตกตัวแล้วอันนี้ก็คือตาแห้งแบบองค์
00:25:53 → 00:25:56 ประกอบน้ำตาไม่ดีอืค่ะ 1 คือสร้างน้อย 2
00:25:56 → 00:26:00 คือทำลายมากอออ๋อค่ะอ่ะอันนี้เป็นสิ่งที่
00:26:00 → 00:26:04 คุณผู้ฟังทางบ้านนะคะามมากค่ะแล้วนี่ขอมา
00:26:04 → 00:26:06 เข้าเรื่องตาขี้เกียจอีกนิดนึงค่ะอาจารย์
00:26:06 → 00:26:08 ว่าแล้วถ้าเป็นตาขี้เกียจเนี่ยค่ะจะป้อง
00:26:08 → 00:26:11 กันมีทางป้องกันได้บ้างมยคะอาจารย์ 1 เลย
00:26:11 → 00:26:15 นะคะก็คือรีบตรวจทับกองเนาะถ้าเกิดว่า
00:26:16 → 00:26:18 อย่างที่บอกค่ะเราตรวจเจอแต่เนืนๆวัยก่อน
00:26:18 → 00:26:20 เข้าโรงเรียนเค่ะมันก็จะเป็นวัย 3 ขวบ 4
00:26:20 → 00:26:23 ขวบอะไรอย่างเงี้ยค่ะก็ทันมักจะทันเพราะ
00:26:24 → 00:26:26 ว่าสมองยังพัฒนาไม่เต็มที่มักจะทันในการ
00:26:26 → 00:26:29 แก้ไขการรักษาดีกว่ามาเจอตอน 8 ขวบ 9 ขวบ
00:26:29 → 00:26:32 อันนี้เริ่มรุ้นแล้วว่าเอ๊ะจะทันมยนะอื
00:26:32 → 00:26:36 ค่ะอือ๋อก็คือแนวทางการป้องกันมันแต่ไม่
00:26:36 → 00:26:40 มีขั้นสูตรที่ว่าโอกินยาตัวนั้นใช้ยาหยอด
00:26:40 → 00:26:42 ตัวนี้หายอันนี้อันนี้ต้องระมัดระวัง
00:26:42 → 00:26:47 เรื่องของของความเชื่อหรือว่าหรือว่าเอ่อ
00:26:47 → 00:26:49 ความผูอะไรความเป็นท้องถิ่นอะไรงี้ด้วย
00:26:49 → 00:26:53 ใช่มั้ยฮะคุณหมอเออยังไม่เคยเห็นโฆษณาา
00:26:53 → 00:26:55 ตัวไหนเรืื่องการขี้เกียจนะคะแต่ว่าไม่มี
00:26:56 → 00:26:58 ไม่มียาหรือสารอาหารเสริมอะไรที่กินแล้ว
00:26:58 → 00:27:01 แบบอ่าคนคนนี้จะไม่เป็นตาขี้เกียจไม่มี
00:27:01 → 00:27:03 เพียงแต่ว่าถ้าเกิดว่าเช็คแล้วไม่มี
00:27:03 → 00:27:05 ปัจจัยที่จะทำให้เกิดตาขี้เกียจเงี้ยค่ะ
00:27:05 → 00:27:08 ก็ถือว่าผ่านแต่ถ้ามีปัจจัยรีบแก้ไขอืแค่
00:27:08 → 00:27:11 นั้นเองนะคะค่ะก็ก็คือการตรวจคัดกรองแล้ว
00:27:12 → 00:27:13 แหละแต่เด็กอย่าเพิเฉยเรื่องของการให้
00:27:13 → 00:27:17 วัคซีนตามไวการตรวจค่ากองตามไวเพราะล้วน
00:27:17 → 00:27:19 แล้วแต่มีผลกับพัฒนาการของน้องๆหนูๆใช่
00:27:19 → 00:27:23 มั้ยคะใช่แล้วก็การใช้เวลากับลูกเราก็จะ
00:27:23 → 00:27:26 สังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่บางทีมาลบบา
00:27:26 → 00:27:28 แป๊บๆชั่วครางชั่วคราวอาจจะไม่ทันสังเกต
00:27:28 → 00:27:30 เห็นก็ได้แต่ว่าพ่อแม่เนี่ยมีส่วนสำคัญ
00:27:30 → 00:27:34 เยอะในการจะคบกวงผิดปกติที่มันเล็กๆน้อยๆ
00:27:34 → 00:27:37 ของนู่นนะคออาจารย์คะมีเรื่องรบกวนแล้ว
00:27:37 → 00:27:39 ค่ะพอดีคุณผู้ฟังทางบ้านพอเห็นเป็นคุณหมอ
00:27:39 → 00:27:41 จักษุเลยรีบถามนะคะเดี๋ยวนี้คนยังเป็นตา
00:27:42 → 00:27:44 กุ้งยิงกันอยู่ั้ยคะอาจารย์อันนี้ถามอีก
00:27:44 → 00:27:48 แล้วเยอะมากค่ะเยอะขึ้นนะคะเหรอคะคือช่วง
00:27:48 → 00:27:51 นี้เจอเยอะขึ้นมากเดาว่าคิดว่า PM 2.5
00:27:51 → 00:27:55 มีผลอืโอเพราะว่ามันเกี่ยวพันกับหลาย
00:27:55 → 00:27:58 เรื่องพอช่วงฝุ่นเยอะเนี่ยค่ะทั้งตาแห้ง
00:27:58 → 00:28:02 ทั้งภูมิแพ้แล้วพอตาแหงภูมิแพ้คันตายิบๆ
00:28:02 → 00:28:05 ยับๆเอามือก็มาขยี้ตาบ่อยๆมือก็ฝุ่นละออง
00:28:05 → 00:28:07 เลอะเทอะอะไรก็ว่าไปปรากฏว่าเป็นตากุ้ง
00:28:07 → 00:28:09 ยิงเยอะขึ้นมากเป็นทีเป็นหลายตำแหน่งก็
00:28:09 → 00:28:12 เจอเหมือนกันเป็นแล้วเป็นอีกอะไรเงี้ค่ะ
00:28:12 → 00:28:14 รู้สึกว่าช่วงนี้เยอะขึ้นอย่างชัดเจนแต่
00:28:14 → 00:28:19 ยังไม่ได้เก็บข้อมูลพัดๆนะคะออได้ค่ะตา
00:28:19 → 00:28:21 กุ้งยิงเนี่ยเอาจริงๆนะตอนเด็กๆผมก็เป็น
00:28:21 → 00:28:25 นะครับอ้าไปแอบดูใครรือเปล่าแต่มแต่อ่ะ
00:28:25 → 00:28:27 นั่นไงนัแหละคำนี้เลยทุกคนชอบคิดว่าไปแอบ
00:28:27 → 00:28:29 ดู
00:28:29 → 00:28:31 จริงๆมันคือการแอบดูคนอื่นมคะอาจารย์หรือ
00:28:31 → 00:28:35 ว่ามันเป็นจากอะไรมันจิดเชื้อคะมันคือการ
00:28:35 → 00:28:37 ติดเชื้อที่รอบดวงตาค่ะรอบดวงตามันจะมี
00:28:37 → 00:28:41 ตล่อมไขมันอยู่อปาเิก็จะแบ่งเป็นภายนอก
00:28:41 → 00:28:44 กับภายในอืก็คือเป็นการติดเชื้อของต่อมไข
00:28:44 → 00:28:47 มันที่แทนที่จะแปล่อยน้ำมันใสๆผลิตน้ำมัน
00:28:47 → 00:28:49 ออกมาเคลือบน้ำตาอย่างที่บอกมันทำให้น้ำ
00:28:49 → 00:28:52 ตาเสถียรอยู่ตัวไม่แตกไม่ระเหยเร็วปรากฏ
00:28:52 → 00:28:55 ว่าน้ำมันตรงนั้นน่ะมันอุดปันเหมือนเป็น
00:28:55 → 00:28:58 สิอุดปันอ่ะค่ะแต่อยู่รอบดวงปลาออ๋อถ้ามี
00:28:58 → 00:29:02 เชื้อโรคเ้าสิวอักเสบไก่อยู่ตรงตาอ๋ออ่า
00:29:02 → 00:29:05 ถ้าโชคไว้าหน่อยเชื้อแรงอีกเป็นผีต้องมา
00:29:05 → 00:29:09 กรีดออกโอๆๆๆๆๆอันนี้น่าต้องกรีดออกเออผม
00:29:09 → 00:29:14 เคยนะ้าจริงผมเคยผมเคยอืกรีประสบการณ์
00:29:14 → 00:29:18 แล้วเออเออใช่โอหแล้วมันแบบก็จะเป็นความ
00:29:18 → 00:29:22 สัใจวัยเด็กผมออืใช่ๆๆเป็นแบบนจะเกลียด
00:29:22 → 00:29:25 หมอไปเลยนะคะอย่างงี้มันรู้สึกว่าทำไมนะ
00:29:25 → 00:29:29 อยู่เราเป็นอันนี้ทำไมต้องเป็นทำไมต้อง
00:29:29 → 00:29:32 ไอ้นี่ด้วยมันก็งงตัวเองเหมือนกันแต่ว่า
00:29:32 → 00:29:35 ก็นั่นแหละครับเด็กๆก็ต้องผ่านคำว่าเอ้ย
00:29:35 → 00:29:39 ไปแอบดูใครมารึเปล่าเออแอบดูคิดตั้งนาน
00:29:39 → 00:29:42 คิดจนโตยังไม่จำไม่ได้นึกไม่ออกเลยฮะส่วน
00:29:42 → 00:29:46 ใหญ่ก็ขยี้ตานล่ะค่ะอ่าครับอืเล่นอะไรนี่
00:29:46 → 00:29:49 ใช่มยมือการอ่าเล่นรินเล่นทรายมาแล้วก็
00:29:49 → 00:29:51 ขยี้ตาสัก 2 ปึ๊บอะไรเงี้ยค่ะวันรุ่งขึ้น
00:29:51 → 00:29:56 ก็เอาะอืมันก็เปรียบได้กับเป็นสิวอ๋ออ่า
00:29:56 → 00:29:58 คล้ายๆอย่างนั้นเลยค่ะเปรียบให้เหเห็นภาพ
00:29:58 → 00:30:02 เนาะอืค่ะอแต่ว่าแสดงว่าโรคตาเองก็มีหลาก
00:30:02 → 00:30:07 หลายเหมือนกันนะนอกจากใช่ค่ะอืก็ต้องดูแล
00:30:07 → 00:30:08 ด้วยนะพี่
00:30:08 → 00:30:14 หยกอืค่ะก็เลยแบบว่ากลายเป็นแบบว่าเอ๊ะ
00:30:14 → 00:30:17 มันก็แตกแล้วจากจากอ่าเรื่องตาขี้เกียจนะ
00:30:17 → 00:30:19 คะพอดีคุณผู้ฟังเอถามกันมาเยอะก็เลยแบบ
00:30:19 → 00:30:21 ออ้ได้เรียนรู้กันไปว่าโอ้ตายแล้วโอช่วง
00:30:21 → 00:30:25 นี้ฝุ่นเยอะแล้วถ้าเกิดจะป้องกันไม่ให้
00:30:25 → 00:30:27 เป็นล่ะค่ะอาจารย์ช่วงนี้คือขอขใส่แว่น
00:30:27 → 00:30:30 ป้องกันมยหรือว่าเราควรไม่ไปขยี้ตาถ้าเรา
00:30:30 → 00:30:32 ออกไปเจอฝุ่นอะไรอย่างเงี้ยค่ะอาจารย์ไม่
00:30:32 → 00:30:37 ควรขยี้ตาค่ะอันดับหนึเลยนะคะอันดับ 2 ก็
00:30:37 → 00:30:40 คือถ้าแบบมีพวกูมแพ้มีขอบเตาอักเสบทำให้
00:30:40 → 00:30:43 ขอมไขมันอุดตันเนี่ยก็ควรจะกระทบอุ่นทำ
00:30:43 → 00:30:46 ความสะอาดอาจจะเคยได้ยินอยู่บ้างมคะว่า
00:30:46 → 00:30:48 เออปลาเนี่ยเราต้องเช็ดทำความสะอาดบ้างนะ
00:30:48 → 00:30:52 ต้องใช้การกระทบอุ่นนวดเบาๆแล้วก็เชทำ
00:30:52 → 00:30:55 ความสะอาดทุกวันออแต่เอาจริงๆก็ไม่มีใคร
00:30:55 → 00:30:59 ทำได้ขนาดนั้นนะคะถ้ายังไม่เป็นโรคอืส่วน
00:30:59 → 00:31:03 ใหญ่ก็จะมาเริ่มทำกันตอนมีปัญหาอืเออแต่
00:31:03 → 00:31:05 ผมเคยประคบอุ่นแล้วมันรู้สึกสบายตามากเลย
00:31:05 → 00:31:08 นะมันแบบมันแบบอ่ามันจะช่วยเรื่องตลาแห้ง
00:31:08 → 00:31:12 ได้บ้างอืคือตลาแห้งไม่รักษาด้วยน้ำตา
00:31:12 → 00:31:14 เทียม 100% คือน้ำตลาเทียมมันคือตาเหตุ
00:31:14 → 00:31:16 ต้นเหตุถ้าต้นเหตุของคุณคือน้ำมันไม่ออก
00:31:16 → 00:31:18 คุณต้องพยายามกระตุ้นน้ำมันของตัวเองให้
00:31:18 → 00:31:20 ออกซึ่งมันไม่ง่ายง่ายสุดคือคุณรักษาตาย
00:31:20 → 00:31:24 เหตุอ่ะหยอดเข้าไปอ่าอันนั้นง่ายกว่าแต่
00:31:24 → 00:31:26 จะให้ดีคือต้องจัดการที่ต้นเหตุ
00:31:26 → 00:31:28 ด้วย
00:31:28 → 00:31:35 อ๋อก็มีวิธีการจัดการอค่ะอืออืนะครับ
00:31:35 → 00:31:38 ปัจจุบันเองปัจจุบันเองเรื่องเกี่ยวกับ
00:31:38 → 00:31:41 โรคตาเนี่ยเอ่อส่วนใหญ่ได้รับความความดู
00:31:41 → 00:31:45 แลใส่ใจมากขึ้นมครับแบบผู้ปกครองพาเด็กมา
00:31:45 → 00:31:49 หามาดูแลเขาเรียกว่ามาเช็คสายตาตั้งแต่
00:31:49 → 00:31:53 ต้นๆมากหรือว่ามานะคะอืเพราะว่าเพราะว่า
00:31:53 → 00:31:55 เดี๋ยวนี้ก็เข้าถึงการแพทย์ได้เยอะขึ้น
00:31:55 → 00:31:59 ข้อมูลข่าวสารอ่าฟังวยุอ่ะมีการให้ข้อมูล
00:31:59 → 00:32:01 ว่าเอออย่าลืมพามาตรจทักกองหรือว่าอ่ะ
00:32:01 → 00:32:04 เล่นอินเทอร์เน็ตมีข้อมูลว่าเออจริงๆควร
00:32:04 → 00:32:06 จะตรวจตาเช็คนู่นเช็คนี่อะไรเงี้ค่ะคือก็
00:32:06 → 00:32:09 คือเราเข้าถึงการแพทย์ได้ง่ายขึ้นเนาะ
00:32:09 → 00:32:11 เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ง่ายขึ้นเพราะ
00:32:11 → 00:32:14 ฉะนั้นก็เลยมีการประาหักรู้แล้วก็ตรวจ
00:32:14 → 00:32:18 เช็คมากขึ้นคือสมัยก่อนเนี่ยก่อนๆนานๆเลย
00:32:18 → 00:32:21 เนี่ยก็คือคนเป็นตาบอดจากต้อกระจกเยอะ
00:32:21 → 00:32:23 เพราะว่าอไม่เคยตรวจไม่รู้ปรวจอีกทีก็คือ
00:32:23 → 00:32:26 โอ้โหสุกเยอะแยะไปะอ่ะไม่ผ่าไม่ไหวและ
00:32:26 → 00:32:28 อะไรอย่างเงี้ยค่ะก็มีแต่ปัจจุบันเนี่ยตา
00:32:28 → 00:32:30 บ่อที่เกิดจากเ้อกระจกน้อยลงมากเพราะว่า
00:32:30 → 00:32:33 การเข้าถึงทางการแพทย์เนาะเราชิงตรวจเช็ค
00:32:33 → 00:32:36 สุขภาพพเริ่มเยอะอาชิงผ่าตอนที่มันยังหา
00:32:36 → 00:32:39 ง่ายแล้วก็ไม่เกิดภาวะแกกรยกตัวอย่างนะคะ
00:32:39 → 00:32:41 หรือโรคต้อหินเนี่ยเป็นโรคที่ไม่รู้ตัว
00:32:41 → 00:32:44 ว่าเป็นคนส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวว่าเป็นจนกว่า
00:32:44 → 00:32:47 จะเป็นหนักๆแต่ตั้งแต่อ่ามีการโปรโมทการ
00:32:47 → 00:32:50 ตรวจสุขภาพเนี่ยค่ะคนก็จะอ่ามีความตื่น
00:32:50 → 00:32:52 รู้มากขึ้นเอ๊ะมันมีโรคต้อตอะไรสักอย่าง
00:32:52 → 00:32:55 นะต้องที่ต้องไปเช็คอะไรเงี้ยพอมาเช็คมี
00:32:55 → 00:32:58 วัดความตันๆนี้ก็จะทำให้ตรวจคัดกองได้
00:32:58 → 00:33:01 เร็วขึ้นก่อนดีกว่ารอให้คนไข้มีอาการเยอะ
00:33:01 → 00:33:07 ๆแล้วค่อยมาล้อมพ้อกันทีหลังนะคะอืครับผม
00:33:07 → 00:33:11 ผมมีความสงสัยอีกอย่างนึงเอ่อกรณีของคน
00:33:11 → 00:33:14 เราอ่ะครับทำไมคุณคุณหมอทำไมคนเรามักจะ
00:33:14 → 00:33:16 มันเป็นความสามารถพิเศษหรือเปล่าครับเวลา
00:33:16 → 00:33:19 แบบคนตาปกติแต่ว่าเอ่อมันจะมีความสามารถ
00:33:19 → 00:33:21 พิเศษในการทำตาเดตาเขตได้อย่างเงี้ยมัน
00:33:21 → 00:33:24 เป็นความสามารถพิเศษมแล้วถ้าทำบ่อยๆมันจะ
00:33:24 → 00:33:26 กลายเป็นถาวรได้จริงๆมั้ยครับหรือคคุณมอก
00:33:26 → 00:33:28 อะไรู้
00:33:28 → 00:33:32 ค่ะเคยเห็นเหมือนกันค่ะคือเคยเห็นคนที่เค
00:33:32 → 00:33:34 คอนโทรลก้านเนื้อตาได้เยอะมากนะแบนักแสดง
00:33:34 → 00:33:37 หรืออะไรอย่างเงี้ยเก็จะพยายามอ่ะทำตาเข
00:33:37 → 00:33:40 ให้ดูส่วนอย่าเป็นเขเข้าอืเอเพราะว่าเวลา
00:33:40 → 00:33:42 เราเ่งตั้งแต่เ่งเยอะๆอ่ะตามันจะเขเข้า
00:33:42 → 00:33:46 อยู่แล้วเนาะเพียงแต่ว่าการทำเยอะมากผิด
00:33:46 → 00:33:50 ปกติเนี่ย 1 ล้านะคะอ 2 ถ้าสายตาที่เกิด
00:33:51 → 00:33:53 จากการเพ่งถ้าเป็นชนิดเขเข้านะคะชนิดอื่น
00:33:53 → 00:33:55 ยังไม่แน่ใจว่าเอ๊ะเราสามารถบังคับตาให้
00:33:55 → 00:33:58 เขออกได้หป่ะยังไม่เคยเห็นนะคะอ่าถ้าเป็น
00:33:58 → 00:34:01 ชนิดเเข้าเกิดจากการเพ่งบังคับเงี้ยอ่ะทำ
00:34:01 → 00:34:03 ได้แล้วก็อาจจะทำให้เกิดการล้าแล้วก็ทำ
00:34:03 → 00:34:06 ให้เกิดค่าสายตาที่มากเกินจำเป็นใน
00:34:06 → 00:34:08 ระหว่างที่ใช้สายตาแต่ส่วนใหญ่เทำกันแค่
00:34:08 → 00:34:11 เล็กๆน้อยๆเนี่ยอาจจะไม่ได้อันตรายนะคะ
00:34:11 → 00:34:14 อีกอันนึงที่เห็นก็คือแบบเวลาลงกิเนสุก
00:34:14 → 00:34:18 ที่คนเ่อเชื้อชาติที่เขาตาโตๆอย่างเช่นคน
00:34:18 → 00:34:21 ผิวดำเนี่ยค่ะเขาพยายามเบิกตาถลนให้ตาโปน
00:34:21 → 00:34:24 มากที่สุดแล้วลงกินเตุว่าใครตาโปนุดอะไร
00:34:24 → 00:34:26 เงี้ยอาจจะไม่เคยเห็นกันอนี้เคยเห็นมา
00:34:26 → 00:34:29 บ้างอันนี้อันตรายอืค่ะโหลเพราะว่าเวลาตา
00:34:29 → 00:34:32 มันยืดออกเยอะๆเนี่ยมันมันถึงเส้นประสาท
00:34:32 → 00:34:34 ตาเนาะถ้าเกิดว่าทำเยอะเกินไปเนี่ยเส้น
00:34:34 → 00:34:39 ประสาทตาก็อาจจะได้รับการกระทบโอหอืพอดี
00:34:39 → 00:34:42 เป็นคนแต่คนไทยไม่เคยเห็นนะคะคือด้วยตรง
00:34:42 → 00:34:45 เบ้าตาเนี่ยของคนต่างชาติเนี่ยเขาอาจจะทำ
00:34:45 → 00:34:47 แบบนี้ได้ง่ายกว่าเก็มีแนวโมที่มองไปแบบ
00:34:47 → 00:34:50 โอ้โหตาใหญ่เหมือนเห็นตาขาวเยอะอยู่แล้ว
00:34:50 → 00:34:55 อะไรอย่างเงี้ยค่ะอือ๋อครับอือออนี้ก็ไม่
00:34:55 → 00:34:58 แน่ใจนะคะแต่ที่เห็นน่าจะมีผแน่นอนเพราะ
00:34:58 → 00:35:01 ว่าถล่นออกมาเยอะมากที่เห็นในอันที่เลง
00:35:01 → 00:35:05 กิเนสอ่าจริงอันนี้ผมก็เคยเห็นดูบ้างตาม
00:35:05 → 00:35:08 เอ่อช่องทางต่างๆเนาะเดี๋ยวนี้เห็นได้
00:35:08 → 00:35:12 ง่ายด้วยเออก็ก็จรใดๆก็อย่าไปฝืนธรรมชาติ
00:35:12 → 00:35:16 ใช่มั้ยคุณหมอใช่
00:35:16 → 00:35:20 ค่ะเออนะครับคุณหมอนี่ผมแอบแอบฟ้องเลยมี
00:35:20 → 00:35:23 คนแอบดูคุณหมออยู่นะครับคุณภัทรดนัย
00:35:23 → 00:35:26 เทพสุวรรณครับคุณหมอคุณพี่ดีมผู้ดำเนิน
00:35:26 → 00:35:30 รายการอีกท่านนึงบอกว่าขอบคุณค่ะเอ่อบอก
00:35:30 → 00:35:34 ว่าคุณหมอน่ารักจังเลยนะครับนี่ไงสาเหตุ
00:35:34 → 00:35:39 ที่ผมไม่เอาพี่ดรีมมาจัดในวันนี้นะฮะพี่
00:35:39 → 00:35:42 หยกต้องมาต้องมาป้องกันนะฮะอย่าให้พี่ดรม
00:35:42 → 00:35:46 มาก่อแกะคุณหมอได้
00:35:46 → 00:35:49 นะครับผมก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องนะครับที่
00:35:49 → 00:35:51 ที่เราได้คุยกันเกี่ยวกับเรื่องโรคตาแล้ว
00:35:51 → 00:35:55 ก็อ่าได้ได้รู้จักเกี่ยวกับโรคตาขี้เกียจ
00:35:55 → 00:35:58 แล้วก็ผู้ปกครองโดยะโดยเฉพาะเพราะผู้ปก
00:35:58 → 00:36:01 ครองทั้งหลายอย่างผมเองเนี่ยก็จะได้ระมัด
00:36:01 → 00:36:04 ระวังแล้วก็หมั่นสังเกตนะหมัสังเกตลูกห
00:36:04 → 00:36:07 สังเกตบุตรหลานคือรายละเอียดมันเยอะเน้น
00:36:07 → 00:36:10 อย่างเดียวต้องมีการตกเช็คนะคะอ่าอย่า
00:36:10 → 00:36:12 ปล่อยปะคิดว่าเอ้ยเคก็ใช้ชีวิตได้ปกติ
00:36:12 → 00:36:15 หรือคิดว่าเอ้ยเคแกล้งใขี้เกียจเนี่ยสั่ง
00:36:16 → 00:36:19 ให้หยิบของไม่หยิบอะไรอย่างเงี้ยให้คิด
00:36:19 → 00:36:21 ไว้ก่อนว่ามันมีความผิดปกติหรือเปล่าอ
00:36:21 → 00:36:25 เนาะแล้วก็ตรวจเช็คคัดกรองสักนิดนึงนะคะ
00:36:25 → 00:36:28 จะได้ไม่เสียโอกาสออืการคัดกองไว้ก่อนนะ
00:36:28 → 00:36:30 จะให้ไปตรวจเองอะไรอย่างเงี้ยมันค่อนข้าง
00:36:30 → 00:36:35 ย่งยากไปค่ะอืครับอืครับผมก็เป็นอีกหนวัน
00:36:35 → 00:36:38 ที่ได้ข้อมูลจากเอ่อเอาวใช้ในการสังเกต
00:36:38 → 00:36:41 ครอบครัวคนรอบข้างได้ด้วยนะครับเพื่อป้อง
00:36:41 → 00:36:44 กันอาการที่จะเกิดโรคในระยะยาวต่อไปคุณ
00:36:44 → 00:36:47 หมอวันนี้ขอบคุณมากเลยนะครับค่ะขอบคุณมาก
00:36:47 → 00:36:50 ขอบคุณนะคะสวัสดีค่ะอาจารย์สวัสดีครับคุณ
00:36:50 → 00:36:54 หมอครับสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะก็ที่จบไปนะคะ
00:36:54 → 00:36:57 เป็นแพทย์หญิงจีรนันท์นะคะทรัพย์ทวีผลบุญ
00:36:57 → 00:37:00 นะคะเป็นจักษุแพทย์นะคะแพทย์ชำนาญนะคะการ
00:37:00 → 00:37:03 โรงเอ้ยขอโทษค่ะแพทย์ชำนาญการโรคต้อหินนะ
00:37:03 → 00:37:08 คะศูนย์จักษุโรงพยาบาลวิมุตนะคะ