นมทำให้เกิดเชื้อราในลำไส้หรือภูมิแพ้ได้หรือไม่

คนดังอธิบายความรู้เรื่องอาหารผิดๆ ใครเชื่อก็รับเคราะห์ -- โซดามิ้นต์ นม โปรตีน (ภาค 1)

จากช่อง : Doctor Tany


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:03 สวัสดีครับเรื่องของโภชนาการนั้นนับได้

00:00:0300:00:05 ว่าเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจครับ

00:00:0500:00:07 ดังที่เราจะเห็นว่าปัจจุบันเนี่ยมี

00:00:0700:00:10 influencer สายสุขภาพขึ้นมาเป็นจำนวนมาก

00:00:1000:00:14 เลยทีเดียวแล้วก็หมอหลายคนนะครับก็มีความ

00:00:1400:00:17 เห็นเกี่ยวข้องกับเรื่องของโภชนาการที่

00:00:1700:00:20 อาจจะไม่ตรงกันซะทีเดียวแต่ผมมั่นใจข้อ

00:00:2000:00:23 นึงครับทุกคนที่เล่าให้เราฟังเนี่ยเามี

00:00:2300:00:25 ความหวังดีอยากจะให้เรามีสุขภาพที่ดีมี

00:00:2500:00:29 ชีวิตที่ยืนยาวแต่เนื่องจากว่าความเห็น

00:00:3000:00:33 มันเป็นคนละทิศคนละทางก็จะทำให้คนที่ฟัง

00:00:3300:00:37 เนี่ยมีความสับสนนะครับวันนี้ครับผมได้

00:00:3700:00:40 รับคลิปวีดีโอคลิปหนึ่งซึ่งพูดเกี่ยวข้อง

00:00:4000:00:43 กับเรื่องของอาหารโภชนาการนะครับแต่เท่า

00:00:4300:00:46 ที่ผมฟังดูแล้วเนี่ยมันค่อนข้างที่จะไม่

00:00:4600:00:48 ถูกต้องหลายประเด็นเลยทีเดียวนะครับถึง

00:00:4800:00:52 แม้ว่าคนพูดจะมีความหวังดีต่อผู้ฟังก็

00:00:5200:00:54 จริงนะครับแต่ว่าสิ่งที่พูดนั้นมันอาจจะ

00:00:5400:00:57 ไม่ถูกต้องซะทีเดียวงั้นวันนี้ผมจะเอา

00:00:5700:01:00 เรื่องนี้มาวิเคราะห์ให้ฟังเป็นประเด็น

00:01:0000:01:02 ประเด็นไปเลยนะครับพบกับผมนะครับนายแพทย์

00:01:0200:01:04 ธานีธนียวันเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่

00:01:0400:01:06 ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการ

00:01:0600:01:10 ปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับผมต้องขอ

00:01:1000:01:12 อภัยอย่างนึงนะครับคือผมไม่สามารถที่จะ

00:01:1200:01:15 เอาคลิปวีดีโอต้นทางเนี่ยมาโพสต์ให้เราดู

00:01:1500:01:18 ได้แล้วผมก็ไม่สามารถทิ้งลิงก์ไว้ที่นี่

00:01:1800:01:20 ได้นะครับคุณจะต้องไปฟังเอาเองนะครับ

00:01:2000:01:22 เนื่องจากว่าถ้าผมเอามาโพสต์ตรงนี้อาจจะ

00:01:2200:01:25 เป็นการหมิ่นประมาทก็ได้นะครับก็จะไม่

00:01:2500:01:28 สามารถทำแบบนั้นได้นะครับแล้วก็คลิป

00:01:2800:01:30 วีดีโอนี้อาจจะมีความยาวสักสักนิดนึงนะ

00:01:3000:01:32 ครับแต่ผมเชื่อว่ามันจะเป็นประโยชน์กับ

00:01:3200:01:36 หลายๆคนที่ฟังจนจบนะครับผมได้ลิสต์

00:01:3600:01:39 ประเด็นที่พูดในคลิปนั้นมาทั้งหมดแล้วผม

00:01:3900:01:42 จะชี้แจงไปเป็นประเด็นประเด็นไปนะครับ

00:01:4200:01:46 ประเด็นแรกนะครับผู้พูดเนี่ยเขาบอกว่าคน

00:01:4600:01:49 เอเชียเนี่ยมีการขาดน้ำย่อยนมก็คือขาด

00:01:4900:01:53 แลคเตสนะครับไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตส

00:01:5300:01:57 ที่ึมันอยู่ในนมได้ถ้าเราดื่มนมเข้าไปนะ

00:01:5700:02:00 ครับก็จะเกิดปัญหาต่างๆขึ้นมาเช่นเกิด

00:02:0000:02:03 เชื้อราในลำไส้นะครับเขาใช้คำว่าปลูก

00:02:0300:02:06 เชื้อราในลำไส้นะครับแล้วก็ทำให้เกิด

00:02:0600:02:11 รังแคผื่นแพ้ภูมิแพ้ต่างๆในเด็กนะครับทำ

00:02:1100:02:14 ให้เกิดอาการท้องผูกอาหารไม่ย่อยต่างๆผม

00:02:1400:02:17 ต้องขอบอกอย่างนี้ก่อนนะครับว่านมเนี่ยนะ

00:02:1700:02:21 ฮะมันไม่ได้ทำให้เกิดเชื้อราในลำไส้ครับ

00:02:2100:02:24 มันไม่ทำให้เป็นแบบนั้นเลยนะฮะแล้วมันก็

00:02:2400:02:26 ไม่ได้ทำให้เราเกิดภูมิแพ้อะไรขึ้นมาขนาด

00:02:2600:02:29 นั้นด้วยนะครับโอเคในสมัยก่อนอาจจะมีคน

00:02:2900:02:33 ที่เขาทำงานวิจัยแล้วสงสัยว่านมวัวเนี่ย

00:02:3300:02:35 นะฮะมันจะมีความเกี่ยวข้องกับการเกิดภูมิ

00:02:3500:02:37 แพ้แต่มันก็ไม่ได้ขนาดนั้นครับแล้วมันก็

00:02:3700:02:41 มีงานวิจัยที่ออกมาคัดค้านอันนั้นซะด้วย

00:02:4100:02:43 ถ้าเกิดว่าเราจะเลือกเฉพาะงานวิจัยที่มัน

00:02:4300:02:46 เห็นตรงกับเราเนี่ยอันเนี้ยก็เป็นอคติ

00:02:4600:02:51 อย่างที่ไม่สมควรจะทำนะครับต่อมามีการบอก

00:02:5100:02:57 ว่าถ้าเราอ่ารับประทานนมเนยชีสน้ำตาลผงฟู

00:02:5700:03:00 หรือแอลกอฮอล์เนี่ยจะทำให้เกิดคความไม่

00:03:0000:03:04 สมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ของเรานะครับ

00:03:0400:03:07 แล้วก็นำไปสู่โรคต่างๆนะครับแล้วยังบอก

00:03:0700:03:09 อีกว่าเด็กเดี๋ยวเนี้ยหรือคนปัจจุบัน

00:03:0900:03:11 เนี้ยท้องผูกกันเยอะแยะเลยเหตุผลก็เพราะ

00:03:1100:03:14 ว่ากินของพวกนี้เข้าไปก็ต้องขอบอกครับว่า

00:03:1400:03:16 มันไม่เกี่ยวอะไรกันเลยนะครับมันไม่ได้ทำ

00:03:1700:03:19 ให้จุลินทรีย์ในลำไส้ของเราเนี่ยมีปัญหา

00:03:1900:03:22 แต่อย่างใดนะครับจุลินทรีย์ในลำไส้ของเรา

00:03:2200:03:26 เนี่ยมันมีหลากหลายชนิดนะครับบางคนมีบาง

00:03:2600:03:28 ประเภทมากกว่าบางคนก็มีอีกประเภทหนึมาก

00:03:2800:03:31 กว่าทั้งหมดเนี่ยอาจจะมีความเกี่ยวข้อง

00:03:3100:03:34 กับอาหารสิ่งแวดล้อมที่แต่ละคนจะไม่

00:03:3400:03:36 เหมือนกันแต่มันไม่ใช่ประเด็นเรื่องนี้

00:03:3600:03:40 อย่างเดียวนะครับอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่า

00:03:4000:03:42 มันจะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันโดยตรงไม่

00:03:4200:03:44 ได้แปลว่าคุณควรจะไปกินของพวกนี้เข้าไป

00:03:4400:03:47 เยอะๆนะครับทั้งนมเนยชีสแอลกอฮอล์ผงฟู

00:03:4700:03:50 เนี่ยกินเข้าไปเยอะๆมันก็มีปัญหาได้แล้ว

00:03:5000:03:54 ก็ไม่ได้แปลว่าคุณเนี่ยถ้าไม่อยากดื่มนม

00:03:5400:03:57 แล้วมันจะเกิดปัญหานะครับหรือบางคนบอกว่า

00:03:5700:04:00 เฮ้ยเออนมเนี่ย

00:04:0000:04:03 มันไม่ได้เป็นอะไรอย่างที่คนๆนี้เขาพูด

00:04:0300:04:06 อย่างงั้นเราก็กินเข้าไปได้เรื่อยๆก็อาจ

00:04:0600:04:09 จะไม่ตรงไปตรงมาซะทีเดียวนะครับอย่างแรก

00:04:0900:04:11 ถ้าเกิดว่าคุณขาดเอนไซมแลคเตสซึ่งคน

00:04:1100:04:14 เอเชียส่วนใหญ่เวลาโตขึ้นมาเนี่ยจะขาดการ

00:04:1400:04:17 ดื่มนมเข้าไปเนี่ยแน่นอนครับบางคนท้องอืด

00:04:1700:04:20 คลื่นไส้ท้องเสียได้อันนี้เป็นปกติไม่ใช่

00:04:2000:04:23 ท้องผุกนะครับท้องเสียนะฮะถ้าอยากจะกินนม

00:04:2300:04:26 ต่ออาจจะต้องกินเอนไซมแลคเตสที่มันเป็น

00:04:2600:04:28 แคปซูลเข้าไปเพื่อที่จะย่อยนมตรงนั้นได้

00:04:2800:04:30 นะครับ

00:04:3000:04:34 แต่จะไม่กินนมได้มคำตอบคือได้ครับคุณไม่

00:04:3400:04:38 ได้จำเป็นจะต้องกินนมวัวเพราะว่าคุณ

00:04:3800:04:40 สามารถได้สารอาหารที่มีอยู่ในนมเนี่ยจาก

00:04:4000:04:44 แหล่งอื่นได้ครับจากงาดำก็ได้นะครับ

00:04:4400:04:46 โปรตีนก็ได้จากแหล่งอื่นเหมือนกัน

00:04:4600:04:49 แคลเซียมก็มาจากงาดำจากตัวปลาที่เรากิน

00:04:4900:04:52 เข้าไปทั้งก้างได้นะครับดังนั้นนมเนี่ย

00:04:5200:04:54 ไม่ได้แปลว่าเป็นสิ่งที่คุณจำเป็นจะต้อง

00:04:5400:05:00 กินนะครับในนี้ยังบอกอีกว่าถ้าเราดื่มนม

00:05:0000:05:03 บ่อยๆแล้วเราชอบดื่มนมเนี่ยเราจำเป็นจะ

00:05:0300:05:06 ต้องกินโปรไบโอติกเข้าไปเพราะว่านมมันทำ

00:05:0600:05:09 ให้จุลินทรีย์ในลำไส้ของเราเนี่ยมันผิด

00:05:0900:05:13 ปกติไปคำกล่าวนี้ไม่ถูกต้องเลยครับนมไม่

00:05:1300:05:15 ได้ทำให้จุลินทรีย์ในลำไส้ของเราผิดปกติ

00:05:1500:05:18 ไปแต่อย่างไรไม่เกี่ยวอะไรกันเลยนะครับ

00:05:1800:05:22 ถ้าคุณจะกินโปรไบโอติกเข้าไปกินได้ครับ

00:05:2200:05:24 แต่มันไม่ได้กินเพราะว่าคุณดื่มนมบ่อยๆ

00:05:2400:05:26 แล้วมันเกี่ยวอะไรกับโปรไบโอติกไม่เกี่ยว

00:05:2600:05:30 กันนะครับอ่า

00:05:3000:05:34 ที่สำคัญยังมีการเขียนพูดออกมาอีกนะครับ

00:05:3400:05:38 ว่าโรค sle หรือโรคพุ่มพวงนะครับโรค

00:05:3800:05:40 autoimmune disease โรคภูมิต่อต้านตัว

00:05:4000:05:44 เองนะครับไขข้ออักเสบเขาบอกว่ามีจุด

00:05:4400:05:46 กำเนิดมาจากน้ำตาลนะครับแล้วก็มีความ

00:05:4600:05:48 เกี่ยวข้องกับน้ำตาลแลคโตสที่ย่อยไม่ได้

00:05:4900:05:52 นะฮะมาจากนมสัตว์นะครับต้องบอกว่าไม่

00:05:5200:05:55 เกี่ยวกันเลยนะครับข้อความนี้ไม่มีความ

00:05:5500:05:58 จริงเลยแม้แต่อย่างเดียวนะครับนม

00:05:5800:06:01 ผลิตภัณฑ์จากนมนมหรือจากสัตว์ไม่ได้ทำให้

00:06:0100:06:04 คุณเป็นโรคภูมิต่อต้านตัวเองไม่เกี่ยวกับ

00:06:0400:06:07 อะไรกับ sle ไม่เกี่ยวกับโรคไขข้อครับดัง

00:06:0700:06:11 นั้นอันนี้ถ้าไปฟังมาจากไหนข้อความเนี้ย

00:06:1100:06:14 ไม่มีหลักฐานทางวิชาการตรงไหนสนับสนุนเลย

00:06:1400:06:16 ครับมีแต่คิดขึ้นมาเองล้วนๆเลยนะฮะดัง

00:06:1600:06:20 นั้นอันนี้ไม่ถูกต้องนะครับอ่าโอเคมี

00:06:2100:06:24 อย่างนึงบอกว่าเดี๋ยวเเวลาที่เราทานอาหาร

00:06:2400:06:27 เนี่ยนะครับเราควรจะเน้นผักสดโอเคอันนี้

00:06:2700:06:30 เห็นด้วยนะครับแลถ้าเราได้ผักหลายๆสีนะ

00:06:3000:06:32 ครับไม่ว่าจะเป็นสีเขียวเขียวอ่อนเหลือง

00:06:3200:06:35 แดงส้มขาวครบทุกอย่างม่วงด้วยอ่าอันนี้

00:06:3600:06:37 เป็นสิ่งที่ดีและอันนี้เห็นด้วยนะครับ

00:06:3700:06:40 เพราะปัจจุบันเนี่ยอาหารที่ดีที่สุดคือ

00:06:4000:06:42 อาหารที่เราเรียกว่าเป็นอาหารให้มัน

00:06:4200:06:46 Balance สมดุลนะครับแล้วก็เน้นพืชผันะฮะ

00:06:4600:06:49 แต่ไม่ได้แปลว่าเนื้อมันกินไม่ได้นะครับ

00:06:4900:06:54 เนื้อกลิ่นได้ในนี้ยังมีการบอกว่าถ้าเรา

00:06:5400:06:58 เอาเนื้อสัตว์นะครับมารับประทานไม่ควรจะ

00:06:5900:07:01 รับประทานให้มันใหญ่กว่า 1 ฝ่ามือคือขนาด

00:07:0100:07:03 ที่มันใหญ่กว่า 1 ฝ่ามือเนี่ยถ้าเรารับ

00:07:0300:07:06 ประทานเข้าไปจะทำให้ร่างกายของเราเป็นกรด

00:07:0600:07:09 นะฮะและยังบอกอีกว่าทุกๆอย่างที่เรารับ

00:07:0900:07:12 ประทานไปที่ไม่ใช่มาจากธรรมชาตินั้นจะทำ

00:07:1200:07:14 ให้ร่างกายของเราเป็นกรดเช่นเนื้อสัตว์

00:07:1400:07:18 ที่มากเกินไปนะครับเช่นจากพืชถ้าเอาไปทอด

00:07:1800:07:21 นะครับหรือถ้าเราใช้อุณหภูมิเกิน 100

00:07:2100:07:23 องศาจะทำให้ร่างกายของเราเป็นกรดหรือยา

00:07:2300:07:25 ชนิดต่างๆที่เรากินเข้าไปจะทำให้ร่างกาย

00:07:2500:07:29 ของเราเป็นกรดอันเนี้ยไม่จริงนะครับไม่

00:07:2900:07:32 จริงเลยนะแล้วก็ไม่มีหลักฐานทางวิชาการ

00:07:3200:07:35 อะไรขนาดนั้นด้วยถ้าจะบอกว่าเป็นกรดเนี่ย

00:07:3500:07:37 มีอยู่อย่างเดียวสมมุติคุณกินเนื้อเนื้อ

00:07:3700:07:40 แดงผลิตภัณฑ์จากเนื้อเยอะๆโอเคเนื้อมัน

00:07:4000:07:43 อาจจะมีซัลเฟอร์นะครับมีฟอสฟอรัสอยู่ใน

00:07:4300:07:44 นั้นซึ่งบางครั้งมันทำให้ร่างกายของเรา

00:07:4400:07:48 เป็นกรดได้แต่น้อยมากน้อยเพราะว่าร่างกาย

00:07:4800:07:52 ของเราสามารถจัดการกับมันได้นะครับแล้ว

00:07:5200:07:55 ที่สำคัญคือการที่บอกว่าเลือดเป็นกรด

00:07:5500:07:58 เนี่ยในนี้ยังบอกว่ามันมีความเกี่ยวข้อง

00:07:5800:08:01 กับการเกิดโรคไตเพราะว่าไตจะต้องทำงาน

00:08:0100:08:05 หนักนะครับขับกรดแล้วสุดท้ายไตวายนะซึ่ง

00:08:0500:08:07 นี้ไม่ถูกต้องนะทำให้กระดูกพรุนก็ไม่ถูก

00:08:0700:08:10 ต้องอีกเหมือนกันนะครับมันไม่มีหลักฐาน

00:08:1000:08:13 ทางการแพทย์ว่ามันเป็นเช่นนั้นนะฮะการที่

00:08:1300:08:16 เรากินเนื้อสัตว์เข้าไปนะครับโอเคมันจะทำ

00:08:1600:08:20 ให้ร่างกายของเรามีกรดเพิ่มมากขึ้นนะครับ

00:08:2000:08:23 ในคนที่ไตปกติคนที่แข็งแรงเนี่ยกินเข้าไป

00:08:2300:08:26 คุณไม่เกิดอะไรขึ้นไม่ได้ทำให้เป็นโรคไต

00:08:2600:08:30 แต่ถ้าเกิดคุณเป็นโรคไตระยะท้ายๆเช่นระยะ

00:08:3000:08:33 3 ระยะ 4 ระยะ 5 อย่างเงี้ยนะครับพวกนี้

00:08:3300:08:36 การกินเนื้อที่เยอะเกินไปจะทำให้ร่างกาย

00:08:3600:08:40 ของเราเป็นกรดอย่างไรก็ตามไม่ได้แปลว่า

00:08:4000:08:43 เราแก้ไขไม่ได้ครับเราก็มีวิธีในการแก้ไข

00:08:4300:08:45 ในคนที่เป็นโรค

00:08:4500:08:49 ไตการขาดโปรตีนในคนที่เป็นโรคไตต่างหากล

00:08:4900:08:52 ครับที่ทำให้คุณเนี่ยมีปัญหาได้เราพบนะ

00:08:5200:08:54 ครับว่าถ้าเกิดคุณเป็นโรคไตแล้วคุณได้รับ

00:08:5400:08:58 โปรตีนไม่เพียงพออาจจะทำให้ชีวิตของเรา

00:08:5800:08:59 เนี่ยสั้นลง

00:09:0000:09:05 นะครับสมัยก่อนในเนี้ยนะครับสมัยก่อนบอก

00:09:0500:09:10 ว่าคนที่เป็นโรคไตไม่ควรกินโปรตีนเกิน 0.6

00:09:1000:09:13 กรัมต่อกิกัต่อวันนั่นคือสมัยก่อนแต่เรา

00:09:1300:09:16 พบว่าเดี๋ยวนี้ทำแบบนั้นเนี่ยคุณภาพชีวิต

00:09:1700:09:19 ไม่ดีอัตราการตายเพิ่มมากขึ้นแล้วก็โรค

00:09:1900:09:22 แทรกซ้อนต่างๆเยอะขึ้นดังนั้นปัจจุบันคำ

00:09:2200:09:25 แนะนำอันเนี้ยจึงล้าสมัยไปแล้วนะ

00:09:2500:09:30 ครับโดยสรุปตรงนี้นะครับอาหารที่มาจาก

00:09:3000:09:34 ธรรมชาตินะครับกินได้แล้วมันก็เป็นสิ่ง

00:09:3400:09:37 ที่ดีเนื้อคุณกินได้ไม่ได้มีปัญหาอะไรมัน

00:09:3700:09:40 ไม่ได้ทำให้ร่างกายของเราเป็นกรดขนาดนั้น

00:09:4000:09:43 ยายิ่งไม่เกี่ยวอะไรกันเลยครับผมเคยทำ

00:09:4300:09:46 คลิปว่าการรับประทานยามากๆแล้วมันจะเป็น

00:09:4600:09:50 ไตวายตับวายหรือเปล่านะครับลองกลับไปย้อน

00:09:5000:09:53 ดูมันขึ้นกับชนิดของยานะครับยาโดยทั่วไป

00:09:5300:09:56 ที่แพทย์ให้กินเนี่ยมันเป็นสิ่งที่จำเป็น

00:09:5600:09:59 ต่อร่างกายนะครับตรงนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไร

00:09:5900:10:01 ด้วยซ้ำไปสามารถที่จะกนได้นะครับตราบใดก็

00:10:0100:10:05 แล้วแต่ที่ทางการแพทย์เนี่ยมันมีข้อแนะนำ

00:10:0500:10:08 ให้รับประทานยาเหล่านั้นเป็นสิ่งที่เรา

00:10:0800:10:10 สามารถทำได้แล้วมันก็ไม่ได้ทำให้ร่างกาย

00:10:1000:10:12 ของเราเป็นกรดแต่อย่างใดครับไม่เกี่ยวกัน

00:10:1200:10:15 เลยนะครับงั้นไอ้ของพวกเนี้ยไม่ได้ทำให้

00:10:1500:10:18 ร่างกายเราเป็นกรดจนกระทั่งเราต้องกังวล

00:10:1800:10:20 สิ่งเหล่านี้ที่แนะนำมาจึงเป็นสิ่งที่ไม่

00:10:2000:10:23 ถูกต้องเลยนะครับไม่ถูกต้องเลยสักนิด

00:10:2300:10:27 เดียวนะครับมิฉะนั้นถ้าเราฟังคำคำนี้ไป

00:10:2700:10:30 เรื่อยๆทำให้ต่อไปเราไม่กินยา

00:10:3000:10:33 แล้วเกิดอะไรขึ้นครับโรคเราต่างๆกำเริบ

00:10:3300:10:35 มันมีคนเคยเชื่อแบบนี้มาแล้วนะครับบอกว่า

00:10:3500:10:38 กินยาจะทำให้ตับวายไตวายได้นะครับแล้วก็

00:10:3800:10:41 พาไม่กินยาไปหาอะไรก็ไม่รู้มากินแล้วสุด

00:10:4100:10:46 ท้ายก็โรคกำเริบอาการก็แย่ลงได้ดังนั้น

00:10:4600:10:48 ตรงนี้ต้องระวังมากๆนะครับถ้าใครรับ

00:10:4800:10:50 ประทานยาอยู่แล้วไปเชื่อเรื่องพวกนี้แล้ว

00:10:5000:10:53 หยุดทานยาโดยกันทานหันอาจจะเป็นอันตราย

00:10:5300:10:57 ได้เลยนะครับต่อมาคำว่าเลือดเป็นกรดตรง

00:10:5700:11:01 เนี้ยอยากจะอธิบายนนนึงเพราะว่าพอเลือด

00:11:0100:11:04 เป็นกรดเนี่ยนะครับคนเนี้ยเค้าก็อธิบาย

00:11:0400:11:06 ว่าเลือดเป็นกรดทำให้เราเป็นมะเร็งเลือด

00:11:0600:11:09 เป็นกรดทำให้เป็นกระดูกผุ่นเลือดเป็นกรด

00:11:0900:11:13 ทำให้ตายวายแล้วก็ทำให้มีโรคต่างๆมากมาย

00:11:1300:11:15 เรื่องของมะเร็งเนะครับไม่เกี่ยวอะไรกับ

00:11:1500:11:17 เลือดเป็นกรดนะครับเลือดเป็นกรดไม่ได้ทำ

00:11:1700:11:19 ให้คุณเป็นมะเร็งแล้วปกติเลือดของเรามัน

00:11:1900:11:21 ก็ไม่เป็นกรดอยู่แล้วครับเพราะว่าอะไรรู้

00:11:2100:11:24 มั้ยร่างกายเรามีสิ่งนึงซึ่งเรียกว่า

00:11:2400:11:28 บัฟเฟอร์ครับบัฟเฟอร์เนี่ยมันจะควบคุมทำ

00:11:2800:11:31 ให้่าพิของเลือดของเราอยู่ที่ 7.35 -

00:11:3100:11:35 7.45 บัฟเฟอร์ในร่างกายมีหลักๆ 3 ระบบ 1

00:11:3500:11:39 ปอดครับถ้าร่างกายเราเป็นกรดเยอะเราก็จะ

00:11:3900:11:41 หายใจขับกรดออกมาอย่างรวดเร็วไม่ได้ทำให้

00:11:4100:11:45 ปอดทำงานหนักครับอันที่ 2 กระดูกครับมัน

00:11:4500:11:47 สามารถที่จะบัฟเฟอร์กับสารที่อยู่ใน

00:11:4700:11:50 กระดูกได้นะฮะพวกนี้เนี่ยกระดูกคุณจะไม่

00:11:5000:11:53 ได้เสียไปหรอกครับยกเว้นคุณจะเป็นโรคไต

00:11:5300:11:56 ระยะท้ายๆเท่านั้นที่การรับประทานกรดเข้า

00:11:5600:11:59 ไปเยอะๆอาจจะมีปัญหากับคุณได้แต่คนทั่วไป

00:11:5900:12:01 ไปไม่ต้องกลัวตรงนี้ครับมันไม่เกิดขึ้น

00:12:0100:12:04 หรือไตก็ทำหน้าที่ในการขับกรดโอเคอาจจะ

00:12:0400:12:07 ขับกรดได้อ่าในคนทั่วไปไม่เกิดอะไรขึ้น

00:12:0800:12:09 แต่ในคนที่เป็นโรคไตถ้าได้รับกดเข้าไป

00:12:0900:12:13 เยอะๆร่างกายก็ขับไม่ได้ทั้งหมดทั้งมวล

00:12:1300:12:14 ไอ้บัฟเฟอร์นี่มันจะทำอะไรมันจะทำให้

00:12:1400:12:18 เลือดของเรามีพีอยู่ที่ 7.35 - 7.45

00:12:1800:12:22 จริงๆก็อยู่ประมาณ 7.4 เป๊ะๆนะครับผมลอง

00:12:2200:12:24 ให้คุณลองไปหาดูสิครับถ้าคนกินเนื้อเข้า

00:12:2400:12:27 ไปแล้วไปเจาะเลือดดูเนี่ยพในเลือดจะ

00:12:2700:12:28 เปลี่ยน

00:12:2800:12:31 มอ่ามันไม่เปลี่ยนหรอกครับมันเหมือนเดิม

00:12:3100:12:33 มันเหมือนเดิมเป๊ะๆเลยด้วยนะครับมันไม่

00:12:3300:12:35 ได้ทำให้เลือดของคุณเป็นกรดแต่อย่างใดนะ

00:12:3500:12:37 ฮะดังนั้นการที่จะเปลี่ยนให้เลือดมันเป็น

00:12:3700:12:40 กรดเนี่ยมันแทบเป็นไปไม่ได้นะ

00:12:4000:12:43 ครับเลือดเป็นกรดเกี่ยวอะไรกับมะเร็งมย

00:12:4300:12:47 สมัยก่อนมีความเชื่ออย่างหนึ่งว่าตรง

00:12:4700:12:49 บริเวณที่มะเร็งมันอยู่เนี่ยมันจะมีความ

00:12:4900:12:53 เป็นกรดสูงแต่ไม่เกี่ยวอะไรกับเลือดครับ

00:12:5300:12:55 เพราะว่าอะไรรู้มยมะเร็งเนี่ยมันจะมี

00:12:5500:12:58 เมตาบอลิซึมของมันที่มีความผิดปกติทำให้

00:12:5800:13:01 ที่อยู่รอบๆของมันนั้นเป็นกรดครับมันไม่

00:13:0100:13:03 ได้เกี่ยวกับเลือดเป็นกรดร่างกายเป็นกรด

00:13:0300:13:06 แล้วมันจะเกิดมะเร็งขึ้นมันเกิดมะเร็ง

00:13:0600:13:08 ขึ้นแล้วมะเร็งมันสร้างกรดขึ้นมาอยู่รบๆ

00:13:0800:13:10 ตัวมันนั่นแหละนะครับดัง

00:13:1000:13:14 นั้นข้อแรกนะคุณทำให้เลือดเป็นกรดน่ะมัน

00:13:1400:13:16 แทบจะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วต่อให้มันเป็น

00:13:1600:13:19 มันก็เป็นน้อยมากจนกระทั่งไม่มีความสำคัญ

00:13:1900:13:21 และ้ามันเป็นไปได้จริงๆก็ไม่เกี่ยวอะไร

00:13:2100:13:24 กับมะเร็งเช่นกันนะครับแล้วมันก็ไม่ทำให้

00:13:2400:13:27 กระดูกขนพุนด้วยไม่ได้ทำให้ไตคุณวายอีก

00:13:2700:13:30 ต่างหากนะครับดังนั้นเรือเรื่องของการคิด

00:13:3000:13:32 ว่าเลือดเป็นกรดทำให้เกิดโรคต่างๆขึ้นมา

00:13:3200:13:35 นั้นจึงไม่ถูกต้องนะครับ

00:13:3500:13:39 อ่าต่อมาบอกว่าคนที่กินมังสวิรัสจะมี

00:13:3900:13:41 โอกาสขาดธาตุเหล็กกับขาด B12 อันเนี้ยอัน

00:13:4100:13:44 นี้ผมเห็นด้วยนะครับเป็นอย่างนั้นจริงๆ

00:13:4400:13:46 ถ้าเรารับประทานมังงเสาวิรัตโอกาสขาดธาตุ

00:13:4600:13:49 เหล็กเนี่ยจะสูงมากนะครับการที่เราจะกิน

00:13:4900:13:52 พวกผักคะน้าหรือว่าอะไรที่มันมีธาตุเหล็ก

00:13:5200:13:55 เยอะๆเนี่ยมันต้องกินเยอะมากๆเนาะถึงจะ

00:13:5500:13:57 ได้เข้าไปเพียงพอในกรณีแบบเนี้อาจจะต้อง

00:13:5700:14:00 รับประทานธาตุเหล็กที่เป็นวิตามินเสริม

00:14:0000:14:02 เข้าไปนะครับอาจจะต้องทานวิตามิน B2

00:14:0200:14:04 เสริมเข้าไปนะฮะอันเนี้ยอันนี้เห็นด้วยนะ

00:14:0400:14:06 ฮะ

00:14:0600:14:09 เอ่ออันต่อมาบอก

00:14:0900:14:12 ว่าถ้าเราอยากจะให้ร่างกายของเราเป็นด่าง

00:14:1200:14:15 เนี่ยเราจะต้องกินพืชเข้าไปเยอะๆนะครับ

00:14:1500:14:18 กลิ่นพืชเพราะว่ามันมีโซเดียมมี

00:14:1800:14:21 โพแทสเซียมแมกนีเซียมแคลเซียมนะครับแล้ว

00:14:2100:14:24 ก็น้ำแร่นะฮะโดยเฉพาะน้ำด่างมันจะทำให้

00:14:2400:14:29 ร่างกายเราเป็นด่างหรือกินโซดามินท์

00:14:2900:14:31 ทำให้ร่างกายเราเป็นด่างโอเคคุณกินโซลิน

00:14:3100:14:33 ร่างกายมีความเป็นด่างเพิ่มขึ้นถูกต้องนะ

00:14:3300:14:36 ครับแต่มันไม่ไม่เป็นด่างมากหรอกครับ

00:14:3600:14:38 เพราะว่าร่างกายเราต้องควบคุมพีให้มัน

00:14:3800:14:42 อยู่ที่ 7.4 นะครับหรือ 7.35 - 7.45

00:14:4200:14:45 มันจะเปลี่ยนไปจากช่วงนี้ไม่ได้ต่อให้คุณ

00:14:4500:14:47 กินด่างเข้าไปยังไงมันก็ยังอยู่ที่เท่า

00:14:4700:14:49 นี้มันไม่ได้ทำให้ร่างกายของคุณเป็นด่าง

00:14:4900:14:52 ครับงั้นโอกาสที่จะร่างกายเป็นด่างมัน

00:14:5200:14:54 เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วนะฮะคุณกินเข้าไปยัง

00:14:5400:14:56 ไงมันก็ยังอยู่เท่าเดิมนั่นแหละยกเว้นคุณ

00:14:5700:14:59 มีความผิดปกติในร่างกายเยอะๆนั่นแหละแหละ

00:14:5900:15:01 ถึงคุณจะมีปัญหาแล้วบางทีการกินด่างมากจน

00:15:0100:15:04 เกินไปก็เกิดปัญหาได้นะครับโดยเฉพาะคนที่

00:15:0400:15:08 มีโรคตับแข็งกินด่างมากเกินไปอ่าคุณอาจจะ

00:15:0800:15:10 ชักก็ได้นะครับต้องระวังตรงนี้ไว้ดีๆด้วย

00:15:1000:15:11 นะ

00:15:1100:15:16 ครับที่สำคัญนะครับพืชคุณกินเข้าไปเยอะๆ

00:15:1600:15:18 มันไม่ได้ทำให้ร่างกของคุณเป็นด่างครับ

00:15:1800:15:21 แล้วโซเดียมโพแทสเซียมแมกนีเซียมแคลเซียม

00:15:2100:15:23 ก็ไม่ได้ทำให้คุณเป็นด่างเหมือนกันอีกอัน

00:15:2300:15:26 นึงซึ่งผมขำมากๆเลยอันนี้ดูตลกมากก็คือ

00:15:2600:15:28 บอกว่าการกินน้ำมะนาวทำให้ร่างกายของเรา

00:15:2800:15:31 เป็นด่างแล้วเหตุผลที่บอกว่าเป็นเช่นนั้น

00:15:3100:15:34 ก็คือมะนาวมันเป็นพืชมันถึงทำให้คุณเป็น

00:15:3400:15:37 ด่างอันนี้ไม่รู้เหตุผลอะไรเลยครับไม่ถูก

00:15:3700:15:40 ต้องคือคุณกินกรดมันจะไปเปลี่ยนเป็นด่าง

00:15:4000:15:43 ในร่างกายมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วเป็นไป

00:15:4300:15:45 ไม่ได้เลยด้วยเหตุผลประการทั้งปวงนะครับ

00:15:4500:15:48 ดังนั้นมะนาวไม่ได้ทำให้ร่างกายเราเป็น

00:15:4800:15:50 ด่างนะครับแล้วเหตุผลที่ว่าเพราะมันเป็น

00:15:5000:15:53 พืชก็ยิ่งไม่ถูกต้องเข้าไปใหญ่ครับตรงนี้

00:15:5300:15:57 คือเ่อไม่ถูกต้องนะครับไม่ถูกต้องเลยนะ

00:15:5700:16:01 ครับต่อมาบอกว่าน้ำอัดลมนะฮะมีความเป็น

00:16:0100:16:03 กรดสูงอันนี้เห็นด้วยน้ำอัดลมเนี่ยพีอยู่

00:16:0300:16:07 ที่ประมาณ 2.5 -3.5 นะครับถ้าเรากินน้ำ

00:16:0700:16:10 อัดลมเข้าไป 1 กระป๋องเนี่ยนะครับมันจะทำ

00:16:1000:16:13 ให้ร่างกายของเราเป็นกรดแบบสูงมากๆเลยนะ

00:16:1300:16:16 แล้วจะต้องดื่มน้ำด่างเข้าไปแบบอย่างเยอะ

00:16:1600:16:18 เลยเพื่อที่จะทำให้กรดเนี้ยมันกลายเป็น

00:16:1800:16:22 กลางร่างกายของเราจึงจะไม่เป็นกรดผิดครับ

00:16:2200:16:26 ผิดล้วนๆเลยคือต่อให้คุณดื่มกรดแบบนั้น

00:16:2600:16:27 เข้าไปนะครับร่างกายของคุณมันก็ไม่กลาย

00:16:2700:16:29 เป็นกรดครับเนื่องจากระบบบัฟเฟอร์อย่าง

00:16:2900:16:32 ที่ผมเล่าไปตอนแรกแล้วถ้าคุณไม่เชื่อคุณ

00:16:3200:16:34 ลองดื่มน้ำอลงแล้วไปเจาะเลือดดูพีในร่าง

00:16:3400:16:36 กายคุณสิครับมันไม่เปลี่ยนแปลงครับมัน

00:16:3600:16:39 เหมือนเดิมน่ะแล้วถ้าคิดง่ายๆนะครับคิด

00:16:3900:16:42 ง่ายกว่านั้นอีกในกระเพาะคุณเนี่ยมันมี

00:16:4200:16:44 กรดมั้ยครับ

00:16:4400:16:50 มีกดรุนแรงซะด้วยกดไฮโดรคลอริก pH เนี่ย 1

00:16:5000:16:53 หรือ 2 อะไรเงี้ยนะครับคุณสร้างของคุณ

00:16:5300:16:56 ขึ้นมาเองแล้วคุณคิดว่าไอ้กรดพวกนั้นที่

00:16:5600:16:59 คุณสร้างของคุณด้วยตัวเองเนี่ยมันทำให้

00:16:5900:17:00 ร่างกายคุณเป็นกรดมั้ย

00:17:0000:17:06 ครับก็ไม่ใช่มยคุณทำ fasting กรดคุณออกมา

00:17:0600:17:10 ได้แล้วร่างกายจะเป็นกรดมยก็ไม่ไม่เกี่ยว

00:17:1000:17:13 อะไรกันเลยนะครับดังนั้นเรื่องนี้เนี่ย

00:17:1300:17:17 จึงไม่ถูกต้องนะครับ

00:17:1700:17:21 เอิ่มต่อมาบอกว่าเดี๋ยวนี้เนี่ย PM 2.5

00:17:2100:17:23 มีโลหะหนักเป็นส่วนประกอบค่อนข้างเยอะนะ

00:17:2300:17:26 ครับเวลาไปตรวจโลหะหนักในคนไหนก็เจอว่าคน

00:17:2600:17:29 ๆนั้นมีโลหะหนักในปริมาณที่สูง

00:17:2900:17:32 สุดท้ายทำให้ร่างกายเป็นกรดเพราะว่าโลหะ

00:17:3200:17:36 หนักมันเยอะแล้วก็ทำให้ไตทำงานหนักค่าไต

00:17:3600:17:39 ขึ้นนำไปสู่ไตวนตรงนี้ก็ต้องบอกว่ามีส่วน

00:17:3900:17:42 จริงและส่วนไม่จริงครับ PM 2.5 มีส่วน

00:17:4200:17:45 ประกอบของโลหะเพิ่มมากขึ้นจริงครับเพราะ

00:17:4500:17:47 ว่าเนื่องด้วยอุตสาหกรรมในปัจจุบันนะครับ

00:17:4700:17:50 มีทั้งยา่าแมลงแล้วก็สารปนเปื้อนต่างๆนะ

00:17:5000:17:53 ครับทำให้โลหะหนักเนี่ยมันลอยอยู่ใน PM

00:17:5300:17:56 2.5 จริงๆนะครับแต่ถามว่าไปเจาะเลือด

00:17:5600:17:59 แล้วก็เจอว่าทุกๆคนที่เจาะเนี่ยมีมีโลหะ

00:17:5900:18:02 หนักปริมาณที่สูงจริงมั้ยอันเนี้ยต้อง

00:18:0200:18:06 ระวังมากๆนะครับส่วนใหญ่มันไม่จริงแล้ว

00:18:0600:18:08 ไอ้ที่จริงที่เจาะมาแล้วมันสูงหรือตรวจมา

00:18:0800:18:11 แล้วมันสูงเนี่ยต้องบอกเลยครับว่ามันไม่

00:18:1100:18:15 ได้มีความหมายอะไรโดยปกติในทางการแพทย์

00:18:1500:18:20 เราจะรักษาคนที่มีภาวะโลหะหนักเกินในร่าง

00:18:2000:18:23 กายก็ต่อเมื่อเขามีอาการหรือตรวจพบความ

00:18:2300:18:27 ผิดปกติบางอย่างเช่นโลหิตวิทยามีความผิด

00:18:2700:18:31 ปกตินะครับมีปกติจากตัวโลหหนักที่อธิบาย

00:18:3100:18:34 อาการของเขาได้ไม่ใช่ว่าโลหหนักเกินมานิด

00:18:3500:18:36 นึงแล้วเราคิดว่าคนนั้นเป็นพิษจากโลหหนัก

00:18:3600:18:39 อันนี้ไม่ถูกต้องนะครับดังนั้นเราจะเห็น

00:18:3900:18:43 ว่ามีคนพยายามขายคส kation ให้กับเราซึ่ง

00:18:4300:18:45 ผมเคยทำคลิป kation ไปแล้วถ้าใครจำไม่ได้

00:18:4500:18:48 ก็ลองกลับไปดูนะครับว่ามันมีเทคนิคอย่าง

00:18:4800:18:51 หนึ่งคือการตรวจโลหะหนักแล้วเกินมานิดนึง

00:18:5100:18:54 เขาคก็จะให้ยาขับโลหาหนักคือคีชขายเป็น

00:18:5400:18:57 คอสราคาแพงนอกเหนือจากมันไม่ได้ช่วยอะไร

00:18:5700:19:00 คุณแล้วมันยังอาจมีอันตรายแล้วก็เสียเงิน

00:19:0000:19:03 ของคุณด้วยนะครับตรงนี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูก

00:19:0300:19:06 ต้องนะครับโลหะหนักมีจริงใน PM 2.5 แต่

00:19:0600:19:08 การไปตรวจแล้วโลหะหนักเกินไม่จำเป็นว่า

00:19:0800:19:11 คุณต้องรักษามันแล้วก็ไม่ใช่แปลว่าคุณมี

00:19:1100:19:13 อาการอะไรแล้วไปโทษโลหะหนักตลอดเวลาเพราะ

00:19:1300:19:15 ว่าส่วนใหญ่แล้วมันไม่ใช่มันไม่เกี่ยว

00:19:1500:19:18 อะไรกันไม่งั้นบางคนจะบอกอุ้ยเรามึนหัว

00:19:1800:19:21 เพลียไปหาหมอมาหลายเจ้าแล้วก็ไม่รู้เป็น

00:19:2100:19:23 อะไรนะครับแล้วไปตรวจโลหหนักเกินเค้าก็

00:19:2300:19:26 เลยให้ไปทำคีชอันเนี้ยไม่ถูกต้องละโลห

00:19:2600:19:27 หนักไม่ได้ทำให้คุณมีอาการแบบนั้นถ้าคุณ

00:19:2700:19:30 จะมีอาการเพลียอะไรพวกนี้จากโลหะหนัก

00:19:3000:19:32 เนี่ยผลเลือดคุณจะต้องผิดปกติมหาศาลไม่

00:19:3200:19:34 ได้เกี่ยวข้องกับโลหะหนักอย่างเดียวครับ

00:19:3400:19:37 ดังนั้นอันนี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องนะ

00:19:3700:19:41 ครับต่อมาเรื่องของวิตามินซีครับอ่าตรง

00:19:4100:19:45 นี้แหละมีการอ้างงานศึกษาชนิดอ่างานศึกษา

00:19:4500:19:49 1 ในประมาณปี 1990 นะครับที่ศึกษานัก

00:19:4900:19:53 ศึกษานะครับว่าจะให้รับประทานวิตามินซี

00:19:5300:19:57 เข้าไปเยอะๆนะครับอ่าตอนแรกเนี่ยเขาบอก

00:19:5700:19:59 ว่าผมไปดูงานศึกษาอันนี้เลยซึ่งงานศึกษา

00:19:5900:20:02 อันนี้เนี่ยเค้าพูดไม่ตรงกับที่เค้าพูด

00:20:0200:20:04 อยู่ในคลิปนะครับงานศึกษานี้ทำในนักศึกษา

00:20:0400:20:08 ประมาณ 200 กว่าคนนะครับโดยเค้าเนี่ยมี

00:20:0800:20:12 การเปรียบเทียบกลุ่มนึงเวลาที่ป่วยขึ้นมา

00:20:1200:20:14 เนี่ยให้ทานวิตามินซี megadose หมายความ

00:20:1400:20:16 ว่าทุกชั่วโมงเลยเป็นเวลา 6 ชมงนะครับ

00:20:1600:20:19 หลังจากนั้นให้กินเช้ากรางวันเย็นไป

00:20:1900:20:21 เรื่อยๆเ้าพบว่าคนที่กินวิตามินซีแบบ

00:20:2100:20:24 เนี้ยอาการจะน้อยกว่าและสามารถป้องกันทำ

00:20:2400:20:29 ให้อาการต่างๆลดลงได้ถึง 85% นะครับ

00:20:2900:20:32 ซึ่งจริงๆตอนเนี้ยพอออกมาแบบนี้ปุ๊บทุกคน

00:20:3200:20:35 โอโหวิตามินซีมันต้องดีขนาดนั้นแน่ๆเลย

00:20:3500:20:38 สามารถลดอาการได้ทำให้ทุกๆอย่างดีขึ้นคุณ

00:20:3800:20:39 รู้อะไรมครับว่าหลังจากนั้นเนี่ยมีงาน

00:20:3900:20:42 วิจัยออกมาเยอะแยะไปหมดเพื่อที่จะต้องตอบ

00:20:4200:20:45 โจทย์ตรงนี้ว่าวิตามินซีมันสามารถป้องกัน

00:20:4500:20:47 โรคไข้หวัดไข้หวัดใหญ่หรือว่าทำให้ไข้

00:20:4700:20:49 หวัดไข้หวัดใหญ่มันอาการดีขึ้นได้ไหม

00:20:4900:20:52 ปรากฏว่าอะไรรู้มั้ยครับงานวิจัยใหญ่ๆที่

00:20:5200:20:56 ออกมาหลังจากนั้นเนี่ยค้านงานวิจัยตัวนี้

00:20:5600:20:57 หมด

00:20:5700:20:59 เลยแสดงแสดงว่าคนที่เขาเชื่อเรื่องของ

00:20:5900:21:03 วิตามินซีจริงๆเนี่ยเค้าก็เลือกเฉพาะงาน

00:21:0300:21:05 ที่มันไปตรงกับความเชื่อของเขาเท่านั้น

00:21:0500:21:08 แต่งานอื่นที่มันใหญ่กว่าเนี่ยเาปิดตาปิด

00:21:0800:21:11 หูปิดจมูกปิดปากไม่ฟังไม่ดูไม่เห็นเลย

00:21:1100:21:14 อันเนี้ยไม่ถูกต้องนะครับไม่ถูกต้องเลยนะ

00:21:1400:21:17 ฮะแถมเอาไปเปรียบเทียบกับนี่อีกนะครับบอก

00:21:1700:21:21 ว่าเอ่อด an fy นะครับเค้ามีการเก็บ

00:21:2100:21:24 สถิติตั้งแต่ปี 200 -29 บอกว่าวัคซีน

00:21:2400:21:26 ป้องกันไข้หวัดใหญ่นะครับป้องกันได้แค่

00:21:2600:21:29 40% ดังนั้นถ้าเกิดว่าว่าเรากินวิตามิน

00:21:2900:21:31 ซีมันป้องกันได้ 84 85% แต่ไอ้นี่ได้แค่

00:21:3100:21:35 40% เองดังนั้นไม่ต้องฉีดวัคซีนสิอันนี้

00:21:3500:21:38 ไม่ถูกต้องด้วยประการหลายประการเลยนะครับ

00:21:3800:21:41 ข้อแรกนะฮะงานวิจัยที่คุณเอามาอ้างตอนแรก

00:21:4100:21:44 เนี่ยมันถูกตีตกไปแล้วด้วยงานวิจัยที่

00:21:4400:21:47 ใหญ่กว่าหลังจากนั้นอีกหลายงานวิตามินซี

00:21:4700:21:50 ไม่ได้ช่วยเรื่องของไข้หวัดไขหวัดใหญ่ที่

00:21:5000:21:52 ให้มันหายเร็วขึ้นหรือป้องกันมันได้มัน

00:21:5200:21:57 ป้องกันไม่ได้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่

00:21:5700:22:00 มันป้องกันอาการหนักจากไขวใหญ่ครับป้อง

00:22:0000:22:03 กันได้ดีเสียด้วยนะฮะงั้นตรงนี้เนี่ยเอา

00:22:0300:22:04 มาเทียบกันไม่ได้เลยตั้งแต่แรกเนื่องจาก

00:22:0400:22:07 ว่างานวิจัยตอนแรกมันก็ invalid ไปแล้ว

00:22:0700:22:09 มันใช้ไม่ได้มันจะเอามาเทียบกันอย่างนี้

00:22:0900:22:12 ก็ผิดแล้วล่ะครับนะฮะถ้าจะเทียบวัคซีนกับ

00:22:1200:22:15 วิตามินซีคุณต้องเป็นงานศึกษาชิ้นเดียว

00:22:1500:22:19 กันเช่นคุณมีคนทั้งหมด 1,000 คนนะครับอ่า

00:22:1900:22:22 จริงๆเอาัก 1,200 คนแล้วกันแบ่งเป็น 3

00:22:2200:22:25 กลุ่มนะครับกลุ่มละ 400 กลุ่มนี้ได้

00:22:2500:22:28 วัคซีนกลุ่มนี้ได้วิตามินซีอีกกลุ่มนึง

00:22:2800:22:29 ไม่ได้อะไรเลยแล้วมาเทียบกันดูว่ามันเป็น

00:22:2900:22:31 ยังไงอันเงี้ยถึงจะเปรียบเทียบกันได้นะ

00:22:3200:22:34 ครับไม่ใช่การเอาสึการศึกษาที่มันไม่แน่

00:22:3400:22:36 ไม่นอนแล้วมาเปรียบเทียบกันอันนี้ไม่ถูก

00:22:3600:22:41 ต้องนะครับอีกอย่างนึงบอกว่าการได้วัคซีน

00:22:4100:22:44 ไข้หวัดใหญ่นั้นถ้าเราได้วัคซีนไข้หวัด

00:22:4400:22:47 ใหญ่ต่อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์หนึถ้าเราไป

00:22:4700:22:50 ติดว่าไข้หวัดใหญ่อีกสายพันธุ์จะทำให้เรา

00:22:5000:22:53 มีโอกาสเป็นปอดอักเสบรุนแรงมากขึ้นอัตรา

00:22:5300:22:55 การตายสูงขึ้นมากกว่าคนที่ไม่ได้ฉีด

00:22:5500:23:00 วัคซีนค่วัดใหญ่อันเนี้ยผิดเลยผิดไม่จริง

00:23:0000:23:02 ไม่มีความจริงเลยแม้แต่นิดเดียวนะครับดัง

00:23:0200:23:05 นั้นถ้าเราจะหาเหตุผลไม่ฉีดวัคซีนไข้หวัด

00:23:0500:23:09 ใหญ่นี้เพราะว่าเรากินวิตามินซีแล้วมันจะ

00:23:0900:23:11 ป้องกันเพราะว่าเราไปเชื่อว่าการฉีด

00:23:1100:23:13 วัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์หนึ่งจะทำให้

00:23:1300:23:15 เราติดอีกสายพันธุ์นึงและอาการรุนแรง

00:23:1500:23:18 อันเนี้ยผิดเราใช้เหตุผลนี้ไม่ได้แต่ถ้า

00:23:1800:23:21 เราจะไม่อยากฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพราะ

00:23:2100:23:23 ว่าเรากลัวเข็มเรากลัวผลข้างเคียงเรากลัว

00:23:2300:23:25 ปวดอันนั้นเป็นสิทธิ์ของแต่ละคนผมไม่ได้

00:23:2600:23:28 มาขยันคยอหรือว่าแนะนำว่าคุณจำเป็นจะต้อง

00:23:2800:23:31 ฉีดวัคซีนแค่วัดใหญ่นะถ้าไม่ฉีดจะเป็น

00:23:3100:23:33 นั่นเป็นนี่คือตรงเนี้ยผมว่ามันแล้วแต่

00:23:3300:23:36 คุณนะครับแต่คุณจะเอาเหตุผลที่ว่าวัคซีน

00:23:3600:23:39 ไข้หวัดใหญ่มันประสิทธิภาพด้อยกว่า

00:23:3900:23:42 วิตามินซีหรือวัคซีนไข้หวัดใหญ่นั้นมันจะ

00:23:4200:23:44 ทำให้เราไปติดอีกสายพันธุ์ที่มีอาการทำ

00:23:4400:23:47 ให้อาการรุนแรงเป็นปลออเสบได้เอามาเป็น

00:23:4700:23:50 เหตุผลอันเนี้ยไม่ถูกต้องนะครับ

00:23:5000:23:55 อ่าต่อมาคือเรื่องของฮอร์โมนอาหารเสริม

00:23:5500:23:57 ที่ถูกต้องนะครับฮอร์โมนนี้คือ

00:23:5700:23:59 bioidentical ฮอโมนหมายความว่าฮอร์โมน

00:23:5900:24:01 ที่มีลักษณะเหมือนธรรมชาติมากที่สุดกับ

00:24:0100:24:05 อาหารเสริมที่ถูกต้องสามารถทำให้เราเนี่ย

00:24:0500:24:09 ย้อนไวได้แก้กระดูกพรุนได้ทำให้ค่าไตของ

00:24:0900:24:13 เราดีขึ้นทำให้เบาหวานของเราดีขึ้นโอเค

00:24:1300:24:16 ตรงนี้เนี่ยต้องบอกว่ามันอาจจะพอมีส่วน

00:24:1600:24:20 ว่างนะครับอาจจะพอมีส่วนว่างแต่เรื่องของ

00:24:2000:24:23 อาหารเสริมนะครับกับเรื่องของ

00:24:2300:24:25 bioidentical ฮอร์โมนอย่างเดียวไม่

00:24:2500:24:28 สามารถทำได้ครับไม่สามารถทำได้มันจะต้อง

00:24:2800:24:31 อาศัยการเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตตั้งแต่

00:24:3100:24:33 การออกกำลังกายการนอนหลับพักผ่อนที่มัน

00:24:3300:24:36 เหมาะสมนะครับการที่ไม่ใช้สารที่มันเป็น

00:24:3600:24:39 พิษเข้าไปในร่างกายเช่นบุหรี่นะครับ

00:24:3900:24:42 แอลกอฮอล์ยาเสพติดชนิดต่างๆนะครับพวก

00:24:4200:24:46 เนี้ยจะต้องแก้ไขทั้งหมดเลยไม่ใช่แค่เรา

00:24:4600:24:48 ใช้ฮอร์โมนที่ถูกต้องอาหารเสือที่ถูกต้อง

00:24:4800:24:51 แล้วทุกๆอย่างจะดีขึ้นมันไม่ดีขึ้นครับนะ

00:24:5100:24:54 งั้นมีส่วนจริงบ้างแต่ว่าก็มีส่วนไม่จริง

00:24:5400:24:55 เหมือนกันนะ

00:24:5500:25:00 ครับอีกอันนึงคือว่าสมดุลกรดด่างในร่าง

00:25:0000:25:01 กายเป็นสิ่งสำคัญที่สุดโอเคตรงนี้เห็น

00:25:0100:25:04 ด้วยนะครับแต่ว่าเราไปยุ่งอะไรกับมันไม่

00:25:0400:25:07 ได้นะร่างกายของเราทำโดยอัตโนมัติอยู่

00:25:0700:25:09 แล้วไม่ได้ทำด้วยการกินอะไรเข้าไปทำให้

00:25:0900:25:11 สมดุลกรดดังมันเสียนะครับบอกว่าถ้ากรด

00:25:1100:25:14 เยอะไตทำงานหนักพอไตทำงานหนักไตเนี่ยมัน

00:25:1500:25:17 มีหน้าที่เปลี่ยนวิตามิน D จากฟอร์มที่

00:25:1700:25:19 มันไม่ Active ก็คือวิตามิน d2 ให้ไปเป็น

00:25:1900:25:22 วิตามิน D3 ซึ่งเป็น Active ฟร์มถ้าเกิด

00:25:2200:25:24 ว่าเรามีกรดเข้าไปในร่างกายทำให้ไตทำงาน

00:25:2400:25:26 หนักไตไม่สามารถเปลี่ยนวิตามินดีได้จึง

00:25:2600:25:29 เป็นกระดูกพรุนอันนี้ไม่จริงไม่เกี่ยว

00:25:2900:25:31 อะไรกันเลยด้วยนะครับไม่เกี่ยวอะไรกันเลย

00:25:3100:25:35 ด้วยนะฮะคนที่ไม่สามารถเปลี่ยนวิตามินดี

00:25:3500:25:38 เป็น Active form ได้

00:25:3800:25:43 นั้นมีแค่คนที่มีโรคไตระยะท้ายๆเท่านั้น

00:25:4300:25:46 ครับระยะหนึ่งระยะ 2 เตินแบบ 1.3 1.4

00:25:4600:25:48 เงี้ยไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอกครับโน่นต้อง

00:25:4800:25:50 เครติน 2 3 อย่างเงี้ขึ้นไปเออนี้อาจจะ

00:25:5100:25:53 มีปัญหาละนะครับซึ่งพวกนั้นเนี่ยหมอโรค

00:25:5300:25:56 ไตยเค้าก็ดูแลอยู่เาก็จะรู้เลยว่าคนๆ

00:25:5600:25:59 เนี้ยอาจจะต้องกินวิตามินดีชนิดพิเศษนะ

00:25:5900:26:02 ครับเสริมเข้าไปนะฮะเรียกว่า One Alpha

00:26:0200:26:05 ตรงเนี้ยคืออาจจะช่วยเป็นวิตามินดีที่

00:26:0500:26:07 Active form เข้าไปนะครับตรงนี้คือมี

00:26:0700:26:11 ความสำคัญที่จะต้องรู้มันมีทั้งความรู้

00:26:1100:26:14 ที่ถูกและผิดปนๆกันไปดังนั้นเท่าที่ดูมา

00:26:1400:26:18 ทั้งหมดนะครับอ่าตอนสุดท้ายเนี่ยเห็นบอก

00:26:1800:26:23 ว่าเค้าจะไม่แนะนำให้กินตเอานี้เตัวเขา

00:26:2300:26:25 ไม่เชื่อในยาสักตัวเดียวคือจะไม่กินยาจะ

00:26:2500:26:28 ไม่ใช้วัคซีนทุกอย่างนะครับเพราะว่าเชื่อ

00:26:2800:26:31 ในการรับประทานอาหารที่ดีมีคุณค่ามีคุณ

00:26:3100:26:33 ประโยชน์ดูแลตัวเองออกกำลังกายนอนหลับพัก

00:26:3300:26:35 ผ่อนให้เพียงพอลดความเครียดซึ่งส่วนหนึง

00:26:3500:26:39 นะผมเห็นด้วยในเรื่องของการออกกำลังกาย

00:26:3900:26:42 พักผ่อนเพียงพอทานอาหารให้มันสมดุลนะครับ

00:26:4200:26:45 แต่เหตุผลของการทานอาหารของเหตุผลเรื่อง

00:26:4500:26:47 ของเลือดเป็นกรดเนี้ยอันนี้อาจจะไม่ถูก

00:26:4700:26:48 ต้องนะ

00:26:4800:26:51 ครับการที่ไม่เชื่อเรื่องยาอันเนี้ยเป็น

00:26:5100:26:54 สิทธิส่วนบุคคลและแต่การที่จะบอกว่ายาพวก

00:26:5400:26:56 เทำให้เลือดเป็นกรดแล้วเกิดโรคต่างๆ

00:26:5600:26:58 อันเนี้ยผิดมันไม่ถูกต้องนะครับการการที่

00:26:5800:27:00 จะไม่ฉีดวัคซีนอะไรเลยเพราะว่าเรามีวิธี

00:27:0000:27:02 ทำให้ร่างกายของเรามีภูมิต้านทานที่ดี

00:27:0200:27:04 ขึ้นจากการกินวิตามินซีหรืออาหารเสริม

00:27:0400:27:06 ต่างๆอันเนี้ยก็ไม่เห็นด้วยเพราะว่ามันทำ

00:27:0600:27:08 ไม่ได้มันไม่ถูกต้องนะครับคุณจะไม่ฉีด

00:27:0800:27:12 วัคซีนมันเป็นสิทธิส่วนบุคคลไม่จำเป็นจะ

00:27:1200:27:15 ต้องทำตามผมหรือทำตามใครที่แนะนำฉีด

00:27:1500:27:17 วัคซีนตัวนั้นตัวนี้คุณไม่ฉีดไม่เป็นไร

00:27:1700:27:20 มันไม่ได้มีปัญหาแต่จะเอาเหตุผลของการไม่

00:27:2000:27:24 ฉีดมาบอกว่ามันเป็นเพราะว่าวิตามินซีป้อง

00:27:2400:27:26 กันได้ดีกว่าหรือการกินอาหารทำให้เราป้อง

00:27:2600:27:29 กันโรคนั้นโรคนี้ได้อันนี้ไม่จริงครับและ

00:27:2900:27:31 ต้องบอกว่าตอนนี้เนี่ยเดี๋ยวเราอาจจะเจอ

00:27:3100:27:34 ศึกหนักนะครับเพราะว่าที่อเมริกา Robert

00:27:3400:27:38 f kenedy ได้มาคุมเรื่องของสาธารณสุข

00:27:3800:27:41 อย่างเต็มตัวและคนๆนี้แี้ sci มากๆไม่

00:27:4100:27:44 เชื่อในวิทยาศาสตร์และไม่เชื่อมากไปกว่า

00:27:4400:27:48 นั้นก็คือไม่เชื่อว่าโรคต่างๆเช่นโรคหัด

00:27:4800:27:51 เยอรมันเกิดจากเชื้อโรคเค้าไม่เชื่อใน

00:27:5100:27:55 germ theory เดี๋ยวะประเทศไทยคนที่ไม่

00:27:5500:27:59 เชื่ออะไรซักอย่างนะครับต่อต้านวัคซีนนะ

00:27:5900:28:03 เชื่อในเรื่องของกัญชาสมุนไพรต่างๆนะครับ

00:28:0300:28:06 หรือบอกว่าเดี๋ยว MRI เอ M วัคซีนจะถูก

00:28:0600:28:08 ถอดถอนอะไรอย่างโง้นอย่างงี้จากทาง

00:28:0800:28:11 อเมริกาเดี๋ยวคนพวกเนี้ยก็จะสร้างปัญหา

00:28:1100:28:13 ให้กับสังคมอีกมากมายเลยทีเดียวพวกเราก็

00:28:1300:28:16 จะต้องออกมาให้ความรู้ที่มันถูกต้องแล

00:28:1600:28:19 กระจ่างกระจ่างแจ้งเพราะว่าอเมริกาเนี่ย

00:28:1900:28:21 แน่นอนนะครับพอ Robert f kenedy ขึ้นมา

00:28:2100:28:24 จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอีกหลายอย่างแล้ว

00:28:2400:28:26 ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ความรู้ทางด้านสุขภาพ

00:28:2600:28:30 เนี่ยมันสับสนโอมานไปเยอะเลยทีเดียวนะ

00:28:3000:28:34 ครับวันนี้ผมก็มาชี้แจงประเด็นต่างๆเท่า

00:28:3400:28:38 นี้นะครับดังนั้นทั้งหมดที่พูดมาผมมั่นใจ

00:28:3800:28:41 อย่างหนึ่งคือคนที่เาพูดในคลิปวีีดีโอ

00:28:4100:28:45 นั้นมีความหวังดีต่อทุกคนจริงๆนะครับเขาค

00:28:4500:28:48 ตั้งใจดีจริงๆนะครับตัวเค้าก็ทำแบบที่เขา

00:28:4800:28:51 พูดจริงๆเาไม่ได้หลอกลวงใครนะครับแต่สิ่ง

00:28:5100:28:56 ที่พูดนั้นมันไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์

00:28:5600:28:58 นะครับแล้วหลักฐานก็ชี้ไปในทางตรงกันข้าม

00:28:5800:29:01 กับสิ่งที่เขาพูดมันจึงเป็นสิ่งที่ไม่ถูก

00:29:0100:29:03 ต้องนะครับวันนี้ผมก็ชี้แจงเพียงเท่านี้

00:29:0300:29:06 นะครับถ้าใครสงสัยอะไรก็สอบถามกันเข้ามา

00:29:0600:29:09 ผมจะไม่สามารถโพสต์ลิงก์ที่เกี่ยวข้องกับ

00:29:0900:29:12 คลิปวีีดีโอนี้ได้ถ้าท่านอยากรู้ก็ต้องไป

00:29:1200:29:15 หาเอาเองนะครับวันนี้เล่าเพียงเท่านี้นะ

00:29:1500:29:20 ครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ