00:00:09 → 00:00:29 [เพลง]
00:00:29 → 00:00:34 ไวรัสตับอักเสบบต้นเหตุมะเร็งตับเกิดจาก
00:00:34 → 00:00:37 อะไรรู้เท่าทันไวรัสตับอักเสบ B ก่อน
00:00:37 → 00:00:40 พัฒนาเป็นมะเร็ง
00:00:40 → 00:00:44 ตับไวรัสตับอักเสบ B ป้องกันได้ด้วย
00:00:44 → 00:00:47 วัคซีนติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ในรายการ
00:00:47 → 00:00:50 tn and Health วัน
00:00:50 → 00:00:54 นี้สวัสดีค่ะคุณผู้ชมขอต้อนรับเข้าสู่ราย
00:00:54 → 00:00:57 การ tn and Health เข้าถึงทุกสาระ
00:00:57 → 00:01:01 สุขภาพเสริมภูมิคุ้มกันรู้ทันโรคไปกับเฮล
00:01:01 → 00:01:04 นะคะและดิฉันหมอดาวแพทย์หญิงฉัตดาวจัง
00:01:04 → 00:01:07 วังกรแพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ครอบครัว
00:01:07 → 00:01:10 พร้อมที่จะรับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ
00:01:10 → 00:01:16 พาคุณผู้ชมไปเข้าถึงสาระสุขภาพดีๆกัน
00:01:16 → 00:01:22 [เพลง]
00:01:28 → 00:01:35 ค่ะ
00:01:35 → 00:01:38 [เพลง]
00:01:38 → 00:01:41 คุณผู้ชมทราบมคะว่ามะเร็งนั้นเป็นสาเหตุ
00:01:41 → 00:01:44 การตายอันดับ 1 เลยค่ะของคนไทยและที่
00:01:44 → 00:01:47 สำคัญมะเร็งตับนะคะก็่าชีวิตคุณผู้ชาย
00:01:47 → 00:01:50 เป็นอันดับ 1 เช่นเดียวกันซึ่งตรงนี้ค่ะ
00:01:50 → 00:01:52 หลายท่านยังไม่ทราบนะคะว่ามะเร็งตับเนี่ย
00:01:52 → 00:01:55 ส่วนหนึ่งมาจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ
00:01:55 → 00:01:58 บเรื่องราวเป็นยังไงไปฟังพร้อมๆกัน
00:01:58 → 00:02:01 ค่ะ
00:02:01 → 00:02:08 [เพลง]
00:02:08 → 00:02:11 ไวรัสตับอักเสบบเกิดจากอะไรไวรัสตับ
00:02:11 → 00:02:15 อักเสบบคือการอักเสบของเซลล์ตับที่เกิด
00:02:15 → 00:02:19 จากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ B หรือ hbv
00:02:19 → 00:02:22 เป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้ผู้ได้รับเชื้อมี
00:02:22 → 00:02:25 แนวโน้มเกิดภาวะตับอักเสบเรื้อรังตับแข็ง
00:02:25 → 00:02:28 และอาจกลายเป็นมะเร็งตับในที่สุดซึ่งพบ
00:02:28 → 00:02:31 ว่าผู้ป่วยมะเร็งตับส่วนใหญ่ร้อยละ 990
00:02:31 → 00:02:34 มีประวัติเป็นโรคไวรัสตับอักเสบมาก่อนใน
00:02:34 → 00:02:37 ประเทศไทยพบผู้ป่วยที่เป็นพาหะของเชื้อ
00:02:37 → 00:02:40 ไวรัสตับอักเสบบประมาณ 8-10 ล้านคนเพราะ
00:02:40 → 00:02:42 ในผู้ที่เกิดก่อนปี
00:02:42 → 00:02:46 2535 จะยังไม่ได้รับวัคซีนแต่ในปัจจุบัน
00:02:46 → 00:02:48 หลังจากมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับ
00:02:48 → 00:02:51 อักเสบบในเด็กแรกเกิดทุกคนทำให้อุบัติ
00:02:51 → 00:02:54 การณ์ในคนไทยลดลงประมาณ 100 ละ
00:02:54 → 00:02:58 3-5 แล้วไวรัสตับอักเสบบติดต่อได้ทาง
00:02:58 → 00:02:59 ช่องทางไหนได้บ้าง
00:02:59 → 00:03:08 [เพลง]
00:03:08 → 00:03:12 1 ไวรัสสามารถถ่ายทอดจากมารดาสูบุตรซึ่ง
00:03:12 → 00:03:14 เป็นสาเหตุการติดเชื้อที่สำคัญประการ
00:03:14 → 00:03:17 หนึ่งในประเทศไทยแต่ในปัจจุบันการถ่ายทอด
00:03:17 → 00:03:20 จากมารดาที่ติดเชื้อสู่บุตรลดลงมากเพราะ
00:03:20 → 00:03:23 บุตรที่คลอดออกมาจะได้รับการฉีดวัคซีน
00:03:23 → 00:03:26 ป้องกันการติดเชื้อการฉีดวัคซีนให้ทารก
00:03:26 → 00:03:31 ที่คลอดมาจะช่วยป้องกันได้เกือบร้อยละ 100
00:03:31 → 00:03:34 2 การติดต่อทางเพศสัมพันธ์ยังถือเป็น
00:03:34 → 00:03:36 วิธีการติดต่อที่สำคัญในปัจจุบันทั้งนี้
00:03:36 → 00:03:39 เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ
00:03:39 → 00:03:42 โดยไม่ได้ป้องกันซึ่งไวรัสตับอักเสบชนิด B
00:03:42 → 00:03:46 จะสามารถติดต่อได้ง่ายกว่าเชื้อไวรัส a 3
00:03:46 → 00:03:48 การได้รับเลือดหรือผลิตภัณฑ์ของเลือดที่
00:03:48 → 00:03:52 ป่นเปื้อนเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิด B ผู้
00:03:52 → 00:03:54 ที่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกันกับผู้ติดเชื้อการ
00:03:55 → 00:03:58 สัมผัสน้ำคัดหลังของผู้ป่วยเช่นเลือดน้ำ
00:03:58 → 00:04:00 เหลืองการติดเชื้อจากการการได้รับเลือดพบ
00:04:00 → 00:04:03 ได้น้อยมากในปัจจุบันเนื่องจากระบบการ
00:04:03 → 00:04:06 ตรวจคัดกรองของธนาคารเลือดดีขึ้นมาก 4
00:04:06 → 00:04:09 อาจติดต่อได้จากการสัมผัสเลือดและสารคัด
00:04:09 → 00:04:13 หลังของผู้ป่วยเช่นการสักเจาะหูหรือการ
00:04:13 → 00:04:16 ฝังเข็มโดยอุปกรณ์ที่ผ่านการฆ่าเชื้อไม่
00:04:16 → 00:04:19 ถูกต้องปัญหาสำคัญของโรคไวรัสตับอักเสบบ
00:04:19 → 00:04:23 คือในช่วงแรกผู้ป่วยมักจะไม่มีอาการแสดง
00:04:23 → 00:04:25 เลยในขณะที่การดำเนินของโรคเป็นไปอย่าง
00:04:25 → 00:04:28 ต่อเนื่องผู้ป่วยจึงไม่ได้ดูแลตนเองดีนัก
00:04:28 → 00:04:31 และด้วยความที่ไม่รู้นี่เองที่ทำให้มีการ
00:04:31 → 00:04:34 แพร่เชื้อไปเรื่อยๆอย่างไม่ตั้ง
00:04:34 → 00:04:38 ใจทั้งนี้นะคะเราจะต้องให้ความสำคัญกับ
00:04:38 → 00:04:41 การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบเหตุเพราะว่า
00:04:41 → 00:04:44 คนไข้มักไม่มีอาการค่ะจะมาทราบก็ต่อเมื่อ
00:04:44 → 00:04:48 เป็นภาวะมะเร็งตับนะคะช่วงหน้านะคะเราจะ
00:04:48 → 00:04:51 ไปรู้ลึกรู้จริงกันในเรื่องของไวรัสตับ
00:04:51 → 00:04:54 อักเสบบที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งตับจาก
00:04:54 → 00:04:56 อาจารย์หมอผู้เชี่ยวชาญจากแอปหมอดีค่ะติด
00:04:56 → 00:04:59 ตามได้ในรายการ TNN H ช่วงหน้าค่ะ
00:04:59 → 00:05:22 [เพลง]
00:05:23 → 00:05:27 สนับสนุนโดยแอปหมอดีหมอประจำบ้านในมือ
00:05:27 → 00:05:31 คุณกลับเข้าสู่ช่วงที่ 2 ของรายการ TNN
00:05:31 → 00:05:34 ค่ะเรามารู้ลึกรู้จริงกันดีกว่าว่าการติด
00:05:34 → 00:05:37 เชื้อไวรัสตับอักเสบ B เป็นอย่างไรและ
00:05:37 → 00:05:39 เกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งตับอย่างไรค่ะ
00:05:39 → 00:05:41 วันนี้นะคะเราได้รับเกียรติจากอาจารย์หมอ
00:05:41 → 00:05:44 ผู้เชี่ยวชาญจากแอปหมอดีค่ะอาจารย์คะ
00:05:44 → 00:05:46 สวัสดี
00:05:46 → 00:05:54 [เพลง]
00:05:54 → 00:05:58 ค่ะอาจารย์คะไวรัสตับอักเสบบนั้นแบ่งออก
00:05:58 → 00:06:01 เป็นกี่ประเภทค่ะค่ะปกติแล้วเนี่ยไวรัส
00:06:01 → 00:06:03 ตับอักเสบ B ก็จะแบ่งได้เป็น 2 ประเภท
00:06:03 → 00:06:05 หลักๆค่ะอย่างแรกก็คือจะเป็นตับอักเสบ
00:06:05 → 00:06:07 ไวรัสแบบเฉียบพันธ์กับอีกอันนึงก็คือเป็น
00:06:08 → 00:06:10 แบบเรื้อรังค่ะต้องบอกก่อนว่าเชื้อไวรัส
00:06:10 → 00:06:13 เนี่ยร่างกายเราสามารถกำจัดได้โดยโดยโดย
00:06:13 → 00:06:16 ภูมิของร่างกายเองค่ะทีนี้ถ้าเป็นการติด
00:06:16 → 00:06:19 เชื้อแบบฉับพันธเนี่ยก็คือพึ่งเป็นการติด
00:06:19 → 00:06:21 เชื้อทีนี้เราจะดูว่ามันเป็นการติดเชื้อ
00:06:21 → 00:06:23 แบบเรื้อรังหรือเปล่าเราก็ต้องดูว่าร่าง
00:06:23 → 00:06:25 กายเราสามารถกำจัดเชื้อได้หรือเปล่าค่ะ
00:06:25 → 00:06:27 ถ้ากำจัดเชื้อไม่ได้มันก็จะกลายเป็นเชื้อ
00:06:27 → 00:06:30 ไวรัสตับอักเสบแบบเรือรังค่ะแล้วไวรัสตับ
00:06:30 → 00:06:33 อักเสบบีมีอาการอย่างไรบ้างคะโดยส่วนมาก
00:06:33 → 00:06:36 คนที่ติดเชื้อไวรัสอักเสบบีเนี่ยช่วงแรก
00:06:36 → 00:06:38 ก็จะไม่ได้มีอาการอยู่แล้วค่ะยกเว้นใน
00:06:38 → 00:06:40 กรณีบางคนก็จะมีอาการได้บ้างเช่นอ่อน
00:06:40 → 00:06:43 เพลียหรือว่ามีตัวเหลืองตาเหลืองหรือว่า
00:06:43 → 00:06:45 มีอาการปวดท้องร่วมด้วยได้เหมือนกันค่ะ
00:06:45 → 00:06:48 ซึ่งช่วงนั้นก็อาจจะเป็นอาการที่แบบเคย
00:06:48 → 00:06:50 ติดได้ติดมาแล้วประมาณ 1-2 สัปดาห์ค่อย
00:06:50 → 00:06:53 แสดงอาการค่ะ 1-2 สัปดาห์แแลกอาจจะไม่ได้
00:06:53 → 00:06:55 แสดงอาการหรือในบางคนอาจจะไม่ได้มีอาการ
00:06:55 → 00:06:57 เลยก็ได้ค่ะจะทราบก็ต่อเมื่อเราตรวจ
00:06:57 → 00:07:00 สุขภาพมากกว่าถึงจะทราบว่าอ๋อเรามีการติด
00:07:00 → 00:07:03 เชื้อพวกไวรัสตับอักเสบขึ้นมาค่ะค่ะ
00:07:03 → 00:07:06 อาจารย์คะมันมีสัญญาณที่เตือนเรื่องของ
00:07:06 → 00:07:08 ไวรัสตับอักเสบ B หรือเปล่าคะคืออาการที่
00:07:08 → 00:07:11 บ่งบอกถึงว่าเป็นตัวจำเพาะต่อการติดเชื้อ
00:07:11 → 00:07:14 ไวรัสตับอักเสบอาจจะไม่มีค่ะแต่ว่าอาการ
00:07:14 → 00:07:17 ที่บอกได้ว่าอาจจะมีได้ก็คือเช่นเรื่อง
00:07:17 → 00:07:19 ปลดเมื่อยเนื้อตัวตามร่างกายอย่างที่เจ้ง
00:07:19 → 00:07:21 ไปเนาะกับเรื่องของตัวเหลืองตาเหลืองที่
00:07:21 → 00:07:25 เราเจอได้บ่อยค่ะไวรัสตับอักเสบบติดต่อ
00:07:25 → 00:07:28 ได้ทางไหนบ้างคะอืไวรัสตับอักเสบบเนี่ย
00:07:28 → 00:07:30 ติดต่อได้หลายชนิดเลยค่ะอย่างที่เราเจอ
00:07:30 → 00:07:32 ได้บ่อยก็คือจากแม่สู่ลูกที่เราเจอได้
00:07:32 → 00:07:35 บ่อยๆเลยในกรณีที่แม่หลายๆคนที่เป็นการ
00:07:35 → 00:07:38 ติดเชื้อพวกไวรัสตับอักเสบก็สามารถส่งต่อ
00:07:38 → 00:07:40 ให้ลูกได้ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม
00:07:40 → 00:07:43 หรือว่าได้รับยาตอนก่อนคลอดค่ะแล้วก็
00:07:43 → 00:07:46 อย่างอื่นที่เจอได้เช่นเรื่องการทานอาหาร
00:07:46 → 00:07:48 แต่ว่าเจอได้ไม่บ่อยค่ะกับอีกที่อันนึง
00:07:48 → 00:07:50 ที่เจอได้บ่อยๆก็คือเรื่องของเพศสัมพันธ์
00:07:50 → 00:07:52 หรือการได้รับเลือดที่เราเจอได้ค่อนข้าง
00:07:52 → 00:07:56 บ่อยค่ะอาจารย์ขาแล้วเราจะทราบได้อย่างไร
00:07:56 → 00:07:58 คะว่าตัวเราเนี่ยติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบ
00:07:58 → 00:08:01 แล้วพวกเอย่างที่แจ้งไปเนาะว่าด้วยความ
00:08:01 → 00:08:03 ที่ไวรัสตับอักเสบมันอาจจะไม่ได้แสดง
00:08:03 → 00:08:05 อาการตั้งแต่ในช่วงแรกค่ะเพราะฉะนั้นบาง
00:08:06 → 00:08:08 คนที่ไม่ได้มีอาการเลยก็มีได้เหมือนกัน
00:08:08 → 00:08:10 ตั้งแต่เกิดจนเสียชีวิตเนี่ยก็คือไม่ทราบ
00:08:10 → 00:08:12 เลยว่ามีการติดเชื้อเรื่องของไวรัสตับ
00:08:12 → 00:08:14 อักเสบจะทราบก็ต่อเมื่อเราไปตรวจสุขภาพ
00:08:14 → 00:08:16 ค่ะแล้วก็เจอว่าตัวไวรัสตัวเนี้ยมันเป็น
00:08:16 → 00:08:20 ผลบวกขึ้นมาค่ะปกติแล้วเนี่ยถ้าเรามีความ
00:08:20 → 00:08:23 เสี่ยงของการติดเชื้อเช่นบางคนบอกว่าเออ
00:08:23 → 00:08:26 มีพี่หรือมีน้องที่เป็นไวรัสตัอักเสบตั้ง
00:08:26 → 00:08:28 แต่กำเนิดอันเนี้ยหมอแนะนำว่าเราควรจะไป
00:08:28 → 00:08:30 ตรวจเพราะว่าหลักๆถ้าเด็กๆที่ติดอ่ะค่ะ
00:08:30 → 00:08:33 มันจะเกิดจากแม่สู่ลูกเนาะเพราะฉะนั้นแนะ
00:08:33 → 00:08:35 นำว่าถ้าเรารู้ว่ามันเรามีความเสี่ยงพวกเ
00:08:35 → 00:08:39 ควรไปตรวจหรือเอ่อมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้
00:08:39 → 00:08:41 ป้องกันและคู่นอนที่เกี่ยวข้องมีการติด
00:08:41 → 00:08:44 เชื้อพวกไวรัสตับอักเสบร่วมด้วยอันเนี้ย
00:08:44 → 00:08:46 ควรจะไปตรวจค่ะว่าแบบเรามีเชื้อหรือว่า
00:08:46 → 00:08:49 เป็นพาหะอยู่หรือเปล่าค่ะค่ะไวรัสตับ
00:08:49 → 00:08:52 อักเสบบรักษาหายได้หรือไม่คะอาจารย์แล้ว
00:08:52 → 00:08:56 รักษาอย่างไรคะจริงๆคือพวกเนี้ยจะต้องดู
00:08:56 → 00:08:58 ค่าเลือดประกอบด้วยค่ะว่าเป็นยังไงในบาง
00:08:58 → 00:09:01 คนอย่างที่แจ้งไปว่าตัวไวรัสเองเนี่ยร่าง
00:09:01 → 00:09:03 กายสามารถควบคุมเองได้ค่ะหรือว่าสามารถ
00:09:03 → 00:09:06 รักษาด้วยตัวเองได้บางคนที่เป็นภาวะเฉือด
00:09:06 → 00:09:09 พันเนี่ยเชื้ออาจจะหายได้เองโดยที่ร่าง
00:09:09 → 00:09:11 กายเนี่ยกำจัดได้หมดกับอีกบางคนที่ถ้า
00:09:11 → 00:09:14 เป็นเรื้อรังอาจจะเป็นแค่มีเชื้อที่อยู่
00:09:14 → 00:09:16 ในร่างกายแต่ว่าไม่ได้ก่อโรคอะไรเช่นค่า
00:09:16 → 00:09:19 ตับปกติไม่ได้มีตัวตาเหลืองอะไรไม่ได้มี
00:09:19 → 00:09:22 ปัญหาเรื่องของตับแข็งพวกนี้ก็เป็นการติด
00:09:22 → 00:09:26 ตามเป็นระยะระยะค่ะอาจารย์ขาเมื่อเราทราบ
00:09:26 → 00:09:29 ว่าตัวเราเนี่ยเป็นพาหะของไวรัสตับอักเสบ
00:09:29 → 00:09:31 B เนี่ยการใช้ชีวิตไม่ว่าจะเป็นการกิน
00:09:31 → 00:09:34 การปฏิบัติต่างๆเกี่ยวกับร่างกายจะต้องทำ
00:09:34 → 00:09:36 อย่างไรบ้างคะอยากให้แบบทานอาหารให้ครบ
00:09:36 → 00:09:39 แล้วก็ถูกหลักอนามัยมากกว่าพวกนี้ถ้าใน
00:09:39 → 00:09:42 ระยะแรกหรือว่าแม้แต่ในระยะเรื้อรังเองก็
00:09:42 → 00:09:45 ไม่ได้มีผลอะไรยกเว้นในกรณีที่การติด
00:09:45 → 00:09:46 เชื้อเรื้อรังเนี่ยมันอาจจะเป็นพวกของตับ
00:09:46 → 00:09:49 แข็งได้เพราะฉะนั้นถ้าในช่วงเฟสนั้นเนี่ย
00:09:49 → 00:09:51 อาจจะต้องระวังเกี่ยวกับเรื่องของการทัน
00:09:51 → 00:09:54 ยาหรืออาหารเสริมต่างๆที่มีผลต่อตับ
00:09:54 → 00:09:56 เหมือนกันค่ะถ้าในกรณีพวกที่มีภาวะเรื่อง
00:09:57 → 00:09:59 ของตับอักเสบอยู่กับตับแข็งเนี่ยอยากให้
00:09:59 → 00:10:01 ให้ระวังเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์แล้วก็
00:10:01 → 00:10:04 อย่างที่บอกก็คือทายาบางตัวที่มีผลต่อตับ
00:10:04 → 00:10:07 เช่นเรื่องของตัวพาราในขณะที่แบบเรากิน
00:10:07 → 00:10:09 ขนาดเยอะๆอย่างเงี้ยค่ะก็อาจจะมีผลต่อ
00:10:09 → 00:10:11 เรื่องของตับได้เหมือนกันแนะนำว่าไม่ควร
00:10:11 → 00:10:14 ทันเกิน 6 เม็ดอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นหรือ
00:10:14 → 00:10:16 ไม่เป็นนะคะซึ่งในคนที่มีภาวะเรื่องของ
00:10:16 → 00:10:18 ตับอักเสบอยู่แล้วอันนี้ยิ่งต้องระวัง
00:10:18 → 00:10:20 เข้าไปใหญ่ค่ะเพราะฉะนั้นเวลาไม่สบายหรือ
00:10:20 → 00:10:22 จะทานยาอะไรอาจจะต้องปรึกษาแพทย์ก่อนที่
00:10:22 → 00:10:26 จะทันยาค่ะการป้องกันตัวเองค่ะอาจารย์จาก
00:10:26 → 00:10:30 ไวรัสตับอักเสบบีทำได้อย่างไรบ้างคะหลักๆ
00:10:30 → 00:10:32 อย่างที่บอกเนาะเรื่องของอ่ะถ้าสมมุติว่า
00:10:32 → 00:10:34 เราดูสาเหตุก่อนถ้าเป็นเรื่องของแม่สู่
00:10:34 → 00:10:37 ลูกอ่ะค่ะปกติพวกเนี้ยเรื่องของการฝากัน
00:10:37 → 00:10:40 สำคัญค่ะเพราะว่าเราต้องดูด้วยว่าตอนคลอด
00:10:40 → 00:10:43 น้องออกมาเนี่ยเราจะมีการฉีดวัคซีนหรือ
00:10:43 → 00:10:45 ว่าฉีดตัว hb ตอนแรกเกิดอ่ะค่ะเพื่อลด
00:10:45 → 00:10:48 โอกาสการแพร่เชื้อจากแม่สู่ลูกนะคะส่วน
00:10:48 → 00:10:50 เรื่องอย่างอื่นการติดเชื้อทาง
00:10:50 → 00:10:52 เพศสัมพันธ์หรือว่าการให้เลือดด้านการให้
00:10:52 → 00:10:54 เลือดเองเนี่ยในปัจจุบันเนี่ยมีการคัด
00:10:54 → 00:10:57 กรองอยู่แล้วค่ะในธนาคารเลือดว่าเราจะ
00:10:57 → 00:10:59 ต้องเอาเลือดคนที่มาบริจาคเนี่ยมาตรวจ
00:10:59 → 00:11:01 ก่อนว่ามีเชื้อตัวนี้มถ้าไม่ได้มีเชื้อ
00:11:01 → 00:11:05 ตัวนี้เนี่ยเราก็สามารถเอาเลือดผู้บริจาค
00:11:05 → 00:11:07 ไปให้ได้อยู่แล้วค่ะเพราะฉะนั้นโอกาสหลุด
00:11:07 → 00:11:09 จะน้อยมากอยู่และอีกอันที่เราเจอได้บ่อย
00:11:09 → 00:11:11 ก็คือเป็นการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ค่ะ
00:11:11 → 00:11:13 พวกนี้ก็อาจจะติดต่อได้จากทางน้ำลายแต่
00:11:13 → 00:11:15 ว่าไม่เยอะกับอีกอันนึงที่เจอได้บ่อยก็
00:11:15 → 00:11:18 คือการติดเชื้อจากพวกน้ำเชื้ออสุจินะคะ
00:11:18 → 00:11:21 พวกนี้เนี่ยแนะนำว่าวิธีการป้องกันน่ะก็
00:11:21 → 00:11:23 คือป้องกันโดยการใส่ถุงยางค่ะเพื่อป้อง
00:11:23 → 00:11:27 กันการแพร่เชื้อจากคนนึงสู่อีกคนนึงค่ะ
00:11:27 → 00:11:30 อาจารย์ขาแล้วเด็กทุกคนค่ะจะได้รับการฉีด
00:11:30 → 00:11:33 วัคซีนไวรัสตับอักเสบบเมื่ออายุเท่าไหร่
00:11:33 → 00:11:36 คะณปัจจุบันเลยนะคะเด็กแรกคอดทุกคนเาจะมี
00:11:37 → 00:11:39 โปรแกรมที่จะให้ฉีดวัคซีนตั้งแต่แรกคลอด
00:11:39 → 00:11:42 ค่ะโดยฉีด 3 เข็มอยู่แล้วตั้งแต่แรกคลอด
00:11:42 → 00:11:45 นะคะหลังจากนั้นเนี่ยปกติเราจะไม่ได้ตรวจ
00:11:45 → 00:11:47 ภูมิอยู่แล้วค่ะว่าเราอ่ะมีภูมิขึ้นหรือ
00:11:48 → 00:11:51 ว่าไม่ได้มีภูมิขึ้นเราจะรู้อีกทีก็คือ
00:11:51 → 00:11:54 ทราบเมื่อ 1 คือเรามีอาการมีการติดเชื้อ
00:11:54 → 00:11:57 หรืออีกอันนึงก็คือหลายๆคนใช้เอาไปตรวจ
00:11:57 → 00:11:59 สุขภาพค่ะค่อยรู้ว่าเออเราเรามีภูมิหรือ
00:11:59 → 00:12:02 ว่าไม่มีภูมิค่ะการฉีดวัคซีนเกี่ยวกับการ
00:12:02 → 00:12:05 ป้องกันไวรัสตับอักเสบบีค่ะอาจารย์มีวิธี
00:12:05 → 00:12:08 การอย่างไรบ้างคะในผู้ใหญ่ก็สามารถฉีดได้
00:12:08 → 00:12:11 ค่ะโดยฉีด 3 เข็มเหมือนกันถ้าในกรณีที่ 1
00:12:11 → 00:12:13 คือไม่แน่ใจประวัติว่าเอ๊ะตอนเด็กเราได้
00:12:13 → 00:12:15 ฉีดมาหรือเปล่าเพราะว่าโปรแกรมมันอาจจะ
00:12:15 → 00:12:18 พึ่งเข้ามาทีหลังตอนช่วงเราเกิดเนาะหรือ
00:12:18 → 00:12:21 ว่าฉีดแล้วภูมิไม่ขึ้นค่ะพวกนี้ก็สามารถ
00:12:21 → 00:12:23 ฉีดกระตุ้นได้โดยถ้าสมมุติว่าเราไม่รู้
00:12:23 → 00:12:25 ว่าเราเคยฉีดมาก่อนหรือเปล่าแนะนำว่าฉีด 3
00:12:25 → 00:12:28 เข็มไปเลยค่ะแต่ว่าถ้าสมมุติว่าเคยฉีดมา
00:12:28 → 00:12:30 ก่อนแหละภูมิไม่ขึ้นลองกระตุ้นดูก่อนเข็ม
00:12:30 → 00:12:32 นึงแล้วก็มีการตรวจเลือดซ้ำอ่ะค่ะว่าพวก
00:12:32 → 00:12:34 เนี้ยภูมิขึ้นหรือเปล่าแล้วเราก็ค่อยมา
00:12:34 → 00:12:37 ประเมินซ้ำอีกทีนึงค่ะอาจารย์คะอันนี้
00:12:37 → 00:12:40 เป็นคำถามที่เจอบ่อยมากเลยค่ะว่าแล้วทำไม
00:12:40 → 00:12:42 ฉีดวัคซีนไวรัสตับแเสบบีไปแล้วก็จริงแต่
00:12:42 → 00:12:45 ดันไม่มีภูมิคะอาจารย์หลายๆคนก็คือฉีด
00:12:45 → 00:12:48 กระตุ้นแล้วก็ไม่ขึ้นเหมือนกันบางคนฉีด
00:12:48 → 00:12:51 กระตุ้นเข็มแรกลองดูที่ 3 เดือนอ้าไม่
00:12:51 → 00:12:54 ขึ้นอีกก็แนะนำว่าจะลองฉีดกระตุ้นอีกเข็ม
00:12:54 → 00:12:56 นึงก็ได้แต่โอกาสขึ้นก็ค่อนข้างน้อยแล้ว
00:12:56 → 00:12:59 ค่ะถามว่าแล้วฉีดกระตุ้นภูมิแล้วไม่ขึ้น
00:12:59 → 00:13:02 แล้วทำอะไรได้บ้างอันนี้ก็ได้แค่เฝ้า
00:13:02 → 00:13:04 ระวังอย่างเดียวแล้วก็หลีกเลี่ยงปัจจัย
00:13:04 → 00:13:07 เสี่ยงต่างๆที่กล่าวไปข้างต้นค่ะเราจะไป
00:13:07 → 00:13:10 รับการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบได้ที่ไหน
00:13:10 → 00:13:14 บ้างคะอาจารย์จริงๆณตอนเค่ะทุกสถานพยาบาล
00:13:14 → 00:13:18 มีตัววัคซีนตัวเอ่อ hbv อยู่แล้วเนาะไม่
00:13:18 → 00:13:20 ว่าจะเป็นตัวอนามัยเองหรือว่าตัวสถาน
00:13:20 → 00:13:23 พยาบาลต่างๆตรงเนี้ยมีหมดเลยนะคะแล้วก็
00:13:23 → 00:13:25 อีกช่องทางหนึงที่เราเจอได้ก็คือในตัวแอป
00:13:25 → 00:13:28 หมอดีเองเนี่ยมีบริการฉีดวัคซีนไปถึงที่
00:13:28 → 00:13:31 บ้านด้วยค่ะแล้วก็ร่วมกับมีบริการปรึกษา
00:13:31 → 00:13:34 กับหมอเฉพาะทางมากกว่า 20 สาขาเลยในการดู
00:13:34 → 00:13:36 แลหรือว่าให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องของ
00:13:36 → 00:13:39 วัคซีน hbv หรือไม่ว่าจะเป็นโรคอื่นๆร่วม
00:13:39 → 00:13:41 ด้วยค่ะสามารถดาวน์โหลดที่ Play Store
00:13:41 → 00:13:43 หรือ App Store ได้เลย
00:13:43 → 00:13:46 ค่ะขอบพระคุณอาจารย์นะคะที่มาให้ความรู้
00:13:46 → 00:13:50 ความเข้าใจในเรื่องของไวรัสตับแซบกันช่วง
00:13:50 → 00:13:52 หน้าห้ามพลาดค่ะคุณผู้ชมเพราะเราจะไปเจาะ
00:13:52 → 00:13:55 ลึกรายละเอียดเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนเพื่อ
00:13:55 → 00:13:59 ป้องกันไวรัสตับอักเสบบีกันค่ะ
00:13:59 → 00:14:04 สนับสนุนโดยแอปหมอดีหมอประจำบ้านในมือ
00:14:04 → 00:14:26 [เพลง]
00:14:26 → 00:14:30 คุณกลับเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของรายการ TNN
00:14:30 → 00:14:32 Health ค่ะในช่วงนี้นะคะเราจะไปรู้
00:14:32 → 00:14:35 เรื่องราวเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนไวรัสตับ
00:14:35 → 00:14:38 อักเสบ B กันค่ะวัคซีนป้องกันไวรัสตับ
00:14:38 → 00:14:41 อักเสบบอาจเรียกได้ว่าเป็นวัคซีนป้องกัน
00:14:41 → 00:14:44 มะเร็งชนิดแรกเนื่องจากสามารถช่วยป้องกัน
00:14:44 → 00:14:48 มะเร็งตับอันเกิดต่อเนื่องจากภาวะไวรัส
00:14:48 → 00:14:51 ตับอักเสบ B ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งตับ
00:14:51 → 00:14:54 ถึงร้อยละ 80 และเป็นสาเหตุการเสียชีวิต
00:14:54 → 00:14:57 เป็นอันดับต้นๆของโรคมะเร็งทั้ง
00:14:57 → 00:15:01 หมดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ B ประกอบ
00:15:01 → 00:15:04 ด้วยโปรตีนจากผิวของไวรัสหรือ hbs
00:15:04 → 00:15:07 แอนติเจนซึ่งไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อ
00:15:07 → 00:15:10 ไวรัสตับอักเสบ B แต่จะไปกระตุ้นให้เกิด
00:15:10 → 00:15:13 ภูมิต้านทานขึ้นในร่างกายสามารถฉีดป้อง
00:15:13 → 00:15:16 กันได้ตั้งแต่ทารกแรกเกิดโดยฉีดเหมือนกับ
00:15:16 → 00:15:19 ผู้ใหญ่ทั้งหมด 3 เข็มหลังจากฉีดเข็มแรก
00:15:19 → 00:15:22 แล้ว 1 เดือนจึงฉีดเข็มที่ 2 และฉีดเข็ม
00:15:22 → 00:15:25 ที่ 3 หลังจากฉีดเข็มที่ 2 แล้ว 5 เดือน
00:15:25 → 00:15:27 เมื่อฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบมี
00:15:27 → 00:15:31 ครบ 3 เข็มส่วนใหญ่พบว่าร่างกายสร้างภูมิ
00:15:31 → 00:15:35 คุ้มกันได้มากถึงร้อยละ 97 และสามารถป้อง
00:15:35 → 00:15:37 กันการติดเชื้อได้นานตลอดชีวิตอย่างไรก็
00:15:38 → 00:15:41 ตามหลังจากได้รับวัคซีนครบ 3 เข็มประมาณ
00:15:41 → 00:15:44 1-2 เดือนควรเข้ารับการตรวจเลือดเพื่อ
00:15:44 → 00:15:47 ยืนยันว่ามีภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบดี
00:15:47 → 00:15:51 หากยังไม่มีภูมิต้านทานควรฉีดวัคซีนเพิ่ม
00:15:51 → 00:15:53 ตามคำแนะนำของ
00:15:53 → 00:15:57 แพทย์แล้วใครคือผู้ที่ควรได้รับการฉีด
00:15:57 → 00:16:02 วัคซีนไวรัสตอักเสบบีทารกแรกเกิดเด็กและ
00:16:02 → 00:16:05 วัยรุ่นที่ไม่ได้รับวัคซีนเมื่อแรกเกิด
00:16:05 → 00:16:07 ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยไวรัสตับ
00:16:07 → 00:16:11 อักเสบบบุคลากรทางการแพทย์และผู้ที่ทำงาน
00:16:11 → 00:16:15 ในสถานพยาบาลผู้ป่วยโรคตับเหลือรังผู้
00:16:15 → 00:16:18 ป่วยโรคไตเรื้อรังที่ได้รับการฟอกไตผู้
00:16:18 → 00:16:21 ป่วยที่ได้รับเลือดบ่อยๆผู้ที่ใช้ยาเสพ
00:16:21 → 00:16:24 ติดชนิดฉีดเข้าเส้นผู้ที่ต้องเดินทางไป
00:16:24 → 00:16:27 ยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคผู้ที่
00:16:27 → 00:16:30 เสี่ยงต่อโรคเนื่องจากปัจจัยเสี่ยงทาง
00:16:30 → 00:16:33 พฤติกรรมทางเพศเช่นรักร่วมเพศมีคู่นอน
00:16:33 → 00:16:38 หลายคนสำหรับวันนี้นะคะคุณผู้ชมเราได้รู้
00:16:38 → 00:16:40 กันแล้วว่าไวรัสตับอักเสบบเเนี่ยเป็น
00:16:40 → 00:16:43 อันตรายได้นะคะถ้าสมมุติว่าเราได้รับ
00:16:43 → 00:16:47 วัคซีนที่เหมาะสมนะคะและมีการดูแลปฏิบัติ
00:16:47 → 00:16:49 ตัวเป็นอย่างดีแล้วจะช่วยห่างไกลจาก
00:16:49 → 00:16:52 มะเร็งตับซึ่งทำให้เราเสียชีวิตกันได้เลย
00:16:52 → 00:16:55 และอย่าลืมติดตามค่ะรายการ TNN He เป็น
00:16:56 → 00:16:59 ประจำทุกวันเสาร์เวลาดี 15 นถึง
00:16:59 → 00:17:04 15:30 นที่นี่ TNN ช่อง 16 ไม่เพียงเท่า
00:17:04 → 00:17:07 นี้นะคะถ้าท่านใดชอบที่จะชมรายการย้อน
00:17:07 → 00:17:12 หลังค่ะทุกวันจันทร์ 14:30 น - 15:00 น
00:17:12 → 00:17:14 และเอาใจคนตื่นเช้าวันเสาร์ด้วยค่ะคือ
00:17:14 → 00:17:19 6:00 นถ 6:30 นค่ะแต่ถ้าท่านใดนะคะชอบ
00:17:19 → 00:17:22 ที่จะดูช่องทางออนไลน์ค่ะสามารถติดตามได้
00:17:23 → 00:17:24 ใน Facebook และ tiktok tean and
00:17:24 → 00:17:27 Health ค่ะและถ้าท่านใดนะคะอยากจะมีคุณ
00:17:27 → 00:17:30 หมออยู่ใกล้ตัวใกล้ใจค่ะเพียงแค่หยิบ
00:17:30 → 00:17:33 โทรศัพท์มือถือของท่านขึ้นมาค่ะเข้าไปใน
00:17:33 → 00:17:37 LINE แอปพลิเคชันพิมพ ign TNN E ath
00:17:37 → 00:17:41 @t He ค่ะหรือใช้วิธีง่ายกว่านั้นก็คือ
00:17:41 → 00:17:44 สแกน QR coe ที่มุมจอด้านล่างเท่านี้าระ
00:17:44 → 00:17:47 สุขภาพดีๆก็จะอยู่ในมือถือของท่านแล้วค่ะ
00:17:47 → 00:17:50 และอย่าลืมนะคะกดไลค์กดแชร์กด Subscribe
00:17:50 → 00:17:53 เป็นกำลังใจให้หมอดาวและทีมงาน tn and
00:17:53 → 00:17:55 Health เพื่อที่เราจะได้เข้าถึงทุการะ
00:17:55 → 00:17:59 สุขภาพเสริมภูมิคุ้มกันรู้ทันโรคไปกับ tn
00:17:59 → 00:18:02 hth กันและวันนี้นะคะหมอดาวและทีมงาน tn
00:18:02 → 00:18:04 hth ต้องขอตัวลาไปก่อนค่ะสวัสดี
00:18:04 → 00:18:27 [เพลง]
00:18:27 → 00:18:30 ค่ะ