00:00:00 → 00:00:03 เรื่องนี้เป็นเรื่องแปลกมีเด็กทารกเสีย
00:00:03 → 00:00:05 ชีวิตไปมากกว่า 10 คน
00:00:06 → 00:00:09 เกิดขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
00:00:09 → 00:00:14 มีทั้งหมอคนและหมอปลามาช่วยกันไขปริศนา
00:00:14 → 00:00:17 หลังจากที่ท่านฟังคลิปจบท่านจะเลือกเชื่อ
00:00:17 → 00:00:25 ใครมาฟังกันดูนะครับ
00:00:25 → 00:00:28 สวัสดีครับทุกท่านเพจหมอซ้อทางบาดเดียว
00:00:28 → 00:00:31 และ YouTube Channel หมอสอบถามบาทเดียว
00:00:31 → 00:00:34 นะครับกระผมหมอเกมนายแพทย์อดุลชัยทำมาแสน
00:00:34 → 00:00:36 เสริมนะครับก็เป็นศัลยแพทย์แล้วก็
00:00:36 → 00:00:38 ศัลยแพทย์ตกแต่งนะครับกับในครั้งหนึ่งใน
00:00:38 → 00:00:41 เรื่องของลึกลับทางการแพทย์รวมถึงคำถาม
00:00:41 → 00:00:45 ทางบ้านด้วยเพราะเคสนี้เคสที่คุณแม่เนี่ย
00:00:45 → 00:00:49 มีลูกแล้วก็เสียชีวิตติดต่อกัน 5 ศพเนี่ย
00:00:49 → 00:00:54 เป็นเคสที่หลายท่านสนใจแล้วก็ inbox เข้า
00:00:54 → 00:00:57 มาบอกว่าคุณหมอช่วยอธิบายเคสนี้หน่อยอยาก
00:00:57 → 00:00:59 ให้อธิบายเคสนี้
00:00:59 → 00:01:03 แต่ก่อนที่เราจะเข้าไปเล่าเรื่องเคสนี้
00:01:03 → 00:01:06 เขาพูดถึงคลิปที่แล้วกว่าคลิปเรื่องของ
00:01:06 → 00:01:08 พระโลหิตธาตุกันนะ
00:01:08 → 00:01:11 จริงๆหลังจากคลิปนี้ออกไปเนี่ย
00:01:11 → 00:01:16 อาจารย์ทางด้านวิศวกรรมมหาวิทยาลัยทาง
00:01:16 → 00:01:20 ด้านภาคเหนือท่านเข้ามาคล้ายๆว่าคอมเมนต์
00:01:20 → 00:01:23 แหละเออเข้ามาคุยด้วยแหละท่านบอกว่า
00:01:23 → 00:01:25 เครื่องที่ตรวจ
00:01:25 → 00:01:29 ไม่สามารถตรวจหาคาร์บอนได้
00:01:29 → 00:01:32 เพราะฉะนั้นเนี่ยการที่เอา
00:01:32 → 00:01:35 พระธาตุไปตรวจด้วยเครื่องแบบนี้ไม่น่าจะ
00:01:35 → 00:01:39 ได้ผลลัพธ์ที่แน่นอนแต่พอหมอถามว่าแล้ว
00:01:39 → 00:01:42 อาจารย์อาจารย์คิดว่ามีเครื่องมือไหนที่
00:01:42 → 00:01:46 พอจะตรวจได้บ้างไหมเพราะว่าเท่าที่ได้ยิน
00:01:46 → 00:01:50 มาเนี่ยสมาคมอัญมณีของประเทศฮ่องกงเนี่ย
00:01:50 → 00:01:53 ใช้เครื่องชนิดหนึ่งที่เป็นเครื่อง
00:01:53 → 00:01:55 สเปกโตโมกราฟฟี่มั้ง
00:01:55 → 00:01:59 ยิงแสงเข้าไปที่ตัวพระธาตุแล้วก็
00:01:59 → 00:02:02 วิเคราะห์ว่าพระธาตุมีแร่ธาตุอะไรบ้าง
00:02:02 → 00:02:07 อาจารย์เขาก็บอกว่าคนไปเห็นด้วยนะจริงๆ
00:02:07 → 00:02:12 เคยมีคนคิดจะยิงรังสีหรือแสงเข้าไปแต่ว่า
00:02:12 → 00:02:15 ไม่ประสบความสำเร็จก็แล้วกัน
00:02:15 → 00:02:18 อันนี้พูดเรื่องแค่นี้ก่อนแต่อาจารย์เขา
00:02:18 → 00:02:21 บอกว่าคุณหมอช่วยแก้หน่อยว่าเครื่องมือ
00:02:21 → 00:02:24 ที่ตรวจเนี่ยมันไม่สามารถหาตัว
00:02:24 → 00:02:26 คาร์บอนไดออกไซด์ได้อยู่แล้ว
00:02:26 → 00:02:30 เราก็ตัดตรงแค่นี้ก่อนคำที่กลับมาใน
00:02:30 → 00:02:34 เรื่องของเราก็คือไขปริศนานะครับนะแม่มี
00:02:34 → 00:02:39 ลูกเสียชีวิตติดต่อกัน 5 ศพอ่าติดต่อกัน 5
00:02:39 → 00:02:44 ศพก็คือก่อนหน้านี้มีคุณแม่ท่านหนึ่งท่าน
00:02:44 → 00:02:48 มีลูกคลอดลูกต่อเนื่องกันเลย 4 คน
00:02:48 → 00:02:51 ปรากฏว่าเสียชีวิตหลังจากที่คลอดเนี่ย
00:02:51 → 00:02:57 ประมาณ 16 วันหลังคลอดและความครบ 16 วัน
00:02:57 → 00:03:00 ปุ๊บเสียชีวิตหมดเลยเพราะลูกคนที่ 5
00:03:00 → 00:03:02 เนี่ย
00:03:02 → 00:03:05 เขาก็ติดต่อหมอปลาติดต่อประมาณวันที่
00:03:05 → 00:03:09 15-16 นะวันก่อนวันที่ 16 วันที่ 15 ติด
00:03:09 → 00:03:14 ต่อหมอปลามาทำพิธีหมอปลาก็ทำพิธีปรากฏว่า
00:03:14 → 00:03:17 ลูกคนที่ 5 กับคนที่ 6 รอดชีวิตเขาก็คิด
00:03:17 → 00:03:21 ว่าโอเคจบแล้วพอกดล่าสุดเนี่ยเมื่อวันที่
00:03:21 → 00:03:23 4 กันยายน
00:03:23 → 00:03:26 เขาคลอดลูกอีกนะครับนะคลอดลูกอีกลูกมี
00:03:26 → 00:03:30 อายุ 29 วันก็เสียชีวิตก็เลยกลายเป็นข่าว
00:03:30 → 00:03:35 ขึ้นมาสามารถตามหาข่าวนี้ได้นะแต่ช่อง 8
00:03:35 → 00:03:37 นะครับ
00:03:37 → 00:03:40 เขาตั้งข้อสังเกตว่าในช่วงที่เขาตั้ง
00:03:40 → 00:03:43 ครรภ์เนี่ยจะมีการฝันเห็นผู้หญิงแก่นะ
00:03:43 → 00:03:47 ครับเขาบอกว่าหาของมาหรือไม่ก็ถือทองมา
00:03:47 → 00:03:52 แล้วก็มาพูดว่าจะเอาทองไหมเขาก็บอกว่าเขา
00:03:52 → 00:03:56 อยากได้นะแต่เขาไม่มีอะไรจะแลก
00:03:56 → 00:04:01 ผู้หญิงแก่ก็พูดว่าก็เอาลูกมาแลกสินะ
00:04:01 → 00:04:06 ปรากฏว่าพอวันที่ 15 ตอนตั้งครรภ์ฝันนะพอ
00:04:06 → 00:04:10 วันที่ 15 หลังคลอดเขาก็ฝันอีกนะฝันว่า
00:04:10 → 00:04:13 ผู้หญิงแก่กลับมาอีก
00:04:13 → 00:04:17 แล้วก็พูดทำนองว่าจะมาเอาลูกไปนะ
00:04:17 → 00:04:21 พอวันที่ 16 ลูกก็เสียชีวิตเป็นมาอย่าง
00:04:21 → 00:04:26 นี้ติดๆกันอย่างที่บอกว่า 4 เคสเขาก็บอก
00:04:26 → 00:04:27 ว่า
00:04:27 → 00:04:31 ในความฝันครั้งหลังๆเนี่ยเขาก็ปฏิเสธแล้ว
00:04:31 → 00:04:34 ว่าเขาจะไม่เอา
00:04:34 → 00:04:37 เพราะคราวนี้ลูกคนที่ 5
00:04:37 → 00:04:41 ที่เป็นลูกผู้หญิงพอครบ 15 วันหมอปลามา
00:04:42 → 00:04:45 ช่วยไว้เด็กรอดมหัศจรรย์นะ
00:04:45 → 00:04:48 ปรากฏว่าหมอก็ search internet อยากจะหา
00:04:48 → 00:04:51 ข้อมูลอยากจะฟังบทสัมภาษณ์ของคุณแม่ท่าน
00:04:51 → 00:04:57 นี้หลายๆคลิปปรากฏว่าไปเจอคุณแม่อีกท่าน
00:04:57 → 00:05:00 หนึ่งคนไทยนะ
00:05:00 → 00:05:03 มีลักษณะแบบเดียวกันเลยคือคลอดลูกต่อ
00:05:03 → 00:05:06 เนื่องกันนะครับปี 56 57 แล้วก็ 60
00:05:06 → 00:05:07 เนี่ย
00:05:07 → 00:05:10 เพราะน้องอายุได้ 2 เดือน 14 วัน 1 เดือน
00:05:10 → 00:05:13 14 วันละ 5 เดือน 14 วันน้องเสียชีวิต
00:05:13 → 00:05:17 น้องเสียชีวิตแบบเดียวกันเลยคือกำลังจะ
00:05:17 → 00:05:19 Search หาข้อมูล
00:05:19 → 00:05:22 ปรากฏไปเจอคุณแม่ของท่านหนึ่ง
00:05:22 → 00:05:26 มีลูกยังไม่พ้นขวบเอาง่ายๆยังไม่พ้นขวบ
00:05:26 → 00:05:28 เสียชีวิต
00:05:28 → 00:05:32 หน้าแปลกใจนะ
00:05:32 → 00:05:36 คราวนี้หมอก็เลยค้นไปค้นมาไปเจอเคสของ
00:05:36 → 00:05:38 ต่างประเทศ
00:05:38 → 00:05:43 คุณแม่ท่านนี้เหมือนกันมีลูก 20 วันนะ
00:05:43 → 00:05:47 เด็กผู้ชายซื้อเครปเสียชีวิตคนที่ 2 8
00:05:47 → 00:05:50 เดือนแพทริคเด็กผู้ชายอีกเสียชีวิตคนที่ 3
00:05:50 → 00:05:53 กับคนที่ 4 เนี่ยเลี้ยงได้ประมาณ 10
00:05:53 → 00:05:56 เดือนกับ 18 เดือนก็เสียชีวิตเพราะฉะนั้น
00:05:56 → 00:05:58 เหตุการณ์นี้
00:05:58 → 00:06:02 ไม่ได้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย
00:06:02 → 00:06:06 อย่างเดียวต่างประเทศก็มี
00:06:06 → 00:06:07 แต่เคสนี้
00:06:07 → 00:06:11 คุณแม่โดนจำคุกไป 40 ปี
00:06:11 → 00:06:15 ลูก 4 คนกระทงละ 10 ปีเพราะอะไรเพราะว่า
00:06:15 → 00:06:19 สามีของเขาเนี่ยไปเจอไดอารี่ที่เขาเขียน
00:06:19 → 00:06:24 เอาไว้ซึ่งไดอารี่เนี่ยที่เห็นเขียนอยู่
00:06:24 → 00:06:28 มีรายละเอียดทำนองว่าฉันเบื่อฉันไม่อยาก
00:06:28 → 00:06:31 ฟังเสียงร้องของแก
00:06:31 → 00:06:34 อยากให้แกเนี่ยหยุดร้องไป
00:06:34 → 00:06:39 คุณแม่ท่านนี้พอเขาเรียนตำรวจเห็นไดอารี่
00:06:39 → 00:06:43 นะหลังจากลูก 4 คนเสียสามีเอาไดอารี่ไป
00:06:43 → 00:06:44 ให้ส่งให้ตำรวจ
00:06:44 → 00:06:49 โดนจับเลยนะเพราะเขาคิดว่าสงสัยหลังจาก
00:06:49 → 00:06:53 คลอดลูกแล้วมีอาการซึมเศร้าและทำอะไรบาง
00:06:53 → 00:06:55 อย่างทำให้ลูกเสียชีวิต
00:06:55 → 00:06:58 ซึ่งเด็กทั้งเสีย 4 คนเนี่ยเสียชีวิตโดย
00:06:58 → 00:07:02 ไม่ทราบสาเหตุไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย
00:07:02 → 00:07:06 ร่างกายเลย
00:07:06 → 00:07:11 แต่เขาคิดว่าคุณแม่คงทำอะไรบางอย่าง
00:07:11 → 00:07:15 ติดคุกไป 40 ปีเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังต่อนะ
00:07:15 → 00:07:19 เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังต่อ
00:07:19 → 00:07:23 คำนี้มาข้อสังเกตแรกก่อนในเคสแรกที่เขามี
00:07:23 → 00:07:24 ลูก
00:07:24 → 00:07:28 เด็กเป็นเด็กผู้ชายทั้งนั้นเลยเห็นไหม
00:07:28 → 00:07:31 เมื่อกี้นี้นะ
00:07:31 → 00:07:33 น้องพอร์ชก็น่าจะเป็นเด็กผู้ชายแหละนะแต่
00:07:33 → 00:07:36 น้องปาร์ตี้กับน้องเนเน่อาจจะเป็นเด็กผู้
00:07:36 → 00:07:37 หญิงหรือเปล่าไม่รู้
00:07:37 → 00:07:40 แต่คุณแม่ท่านนี้เคล็ดกับแพทริคเนี่ยผู้
00:07:40 → 00:07:46 ชายแน่นอนซาร่ากับ lora น่าจะเป็นผู้หญิง
00:07:46 → 00:07:49 ข้อสังเกตแรกก็คือเอ๊ะมันเกี่ยวข้องอะไร
00:07:49 → 00:07:52 กับเด็กผู้ชายหรือเปล่าเพราะว่าพอเป็นลูก
00:07:52 → 00:07:58 ผู้หญิงคนที่ 5 กับรอดและแปลกที่ว่าพอ
00:07:58 → 00:08:02 เป็นเด็กผู้ชายคนที่ 6 กับรอดแล้วมาเป็น
00:08:02 → 00:08:04 ผู้หญิงคนที่เจ็บกับเสียชีวิต
00:08:04 → 00:08:07 สิ่งแรกที่หมอคิดนะคือ
00:08:07 → 00:08:12 คุณแม่มียีนหรือพันธุกรรมอะไร
00:08:12 → 00:08:14 ที่
00:08:14 → 00:08:17 เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของลูกหรือ
00:08:17 → 00:08:20 เปล่าเรามาดูภาพนี้
00:08:20 → 00:08:26 ยกตัวอย่างสมมุติว่าดูภาพสีสีฟ้ากับสี
00:08:26 → 00:08:29 ม่วงนะยกตัวอย่างว่าถ้าสมมุติคุณแม่มี
00:08:29 → 00:08:33 ความผิดปกติทางพันธุกรรมที่โครโมโซม x
00:08:33 → 00:08:37 เวลามีลูกเอาง่ายๆถ้าเป็นเด็กผู้ชายจะได้
00:08:37 → 00:08:41 โครโมโซม Y จากพ่อเท่านั้นถูกไหมและจะได้
00:08:41 → 00:08:46 โครโมโซม x กับจากแม่ถ้าสมมุติว่าแม่ส่ง
00:08:46 → 00:08:50 โครโมโซม x ที่มีปัญหามาให้ลูกผู้ชาย
00:08:50 → 00:08:52 เพราะฉะนั้นเด็กก็จะมีโครโมโซม x เดียว
00:08:52 → 00:08:56 ที่มีปัญหาใช่ไหมทำให้เด็กป่วยหรืออาจ
00:08:57 → 00:08:59 เสียชีวิตหรือได้รับโรคที่ทำให้เสียชีวิต
00:09:00 → 00:09:04 ได้แต่ถ้าสมมุติเป็นเด็กผู้หญิงพ่อจะส่ง
00:09:04 → 00:09:09 โครโมโซม x ที่ปกติมาให้ส่วนแม่จะส่ง
00:09:09 → 00:09:12 โครโมโซม x ที่ผิดปกติหรือไม่ผิดปกติก็
00:09:12 → 00:09:17 ได้มาให้ลูกแต่ลูกก็จะรอดเข้าใจไหมเข้าใจ
00:09:17 → 00:09:19 ไหม
00:09:19 → 00:09:22 คำนี้มาใหม่คนที่ 6 ทำไมรอดเราหมอเป็นผู้
00:09:22 → 00:09:25 ชายคนที่ 6 เขารับโครโมโซมมาจากพ่ออยู่
00:09:25 → 00:09:28 แล้วส่วนโครโมโซม x
00:09:28 → 00:09:31 ต้องมาจากแม่แต่อย่างที่บอกว่าแม่จะมี
00:09:31 → 00:09:34 โครโมโซมเองที่ผิดปกติตัวนึงกับปกติตัว
00:09:34 → 00:09:38 หนึ่งเด็กผู้ชายคนที่ 6 อาจจะโชคดีได้รับ
00:09:38 → 00:09:43 โครโมโซมที่ปกติจากแม่เด็กก็เลยรอดเพราะ
00:09:43 → 00:09:46 แม่เขาไม่ได้แสดงอาการป่วยในความหมายก็
00:09:46 → 00:09:49 คือว่าเขาจะมีผิดปกติแค่ตัวหนึ่งกับปกติ
00:09:49 → 00:09:52 ตัวนึงนั่นคือไม่ป่วยแต่ถ้ามียีนส์ผิด
00:09:52 → 00:09:56 ปกติ 2 ตัวรวมกันที่ x เขาจะป่วยเขาอาจจะ
00:09:56 → 00:09:59 ตายเข้าใจไหม
00:09:59 → 00:10:02 มันคือคนที่ 7 ที่เป็นเด็กผู้หญิงเนี่ย
00:10:02 → 00:10:04 แหละ
00:10:04 → 00:10:08 จริงๆเหมือนจะไขปริศนาได้แต่บอกคนที่ 7
00:10:08 → 00:10:11 มีปัญหาเพราะว่าคนที่ 7 เป็นผู้หญิงใช่
00:10:11 → 00:10:17 ไหมเขาต้องรับโครโมโซม x ที่ดีจากพ่อส่วน
00:10:17 → 00:10:20 จะรับโครโมโซมผิดปกติหรือปกติจากแม่ก็ได้
00:10:20 → 00:10:24 ถูกป่ะแต่แน่นอนว่าถ้ารับโครโมโซมปกติจาก
00:10:24 → 00:10:29 พ่อมาเขาควรที่จะรอดไม่ควรที่จะเสียชีวิต
00:10:29 → 00:10:32 ดังนั้นการที่บอกว่าเป็น extring
00:10:33 → 00:10:36 โครโมโซมนั้นยังมีปริศนาอยู่
00:10:36 → 00:10:39 แสดงว่ายังมีปริศนาอยู่
00:10:39 → 00:10:43 เด็กคนที่ 7 อาจจะไม่ได้เสียชีวิตจาก
00:10:43 → 00:10:47 เรื่องโครโมโซมในความคิดหมอนะอาจจะเป็น
00:10:47 → 00:10:51 เรื่องอื่นแต่ 4 คนแรกอาจจะใช่
00:10:51 → 00:10:59 มาดูเคสที่ 2 เคสของคุณแม่อีกท่านหนึ่ง
00:10:59 → 00:11:02 คุณแม่ไล่เรียงลำดับเลยว่าอันที่คนที่ 1
00:11:02 → 00:11:06 เนี่ยน้องพอร์ชเสียชีวิตแม่ให้นมสังเกตุ
00:11:06 → 00:11:10 ว่าน้องชักกระตุกเกร็งและหมดสติต้อง CPR
00:11:10 → 00:11:12 ต่อหน้าต่อตาเลยนะ
00:11:12 → 00:11:17 อีกคนนึงน้องปาร์ตี้อาบน้ำแต่งตัวให้นม
00:11:17 → 00:11:21 หลังจากให้นมมีอาการชักเกร็งตาค้างหมดสติ
00:11:21 → 00:11:24 แล้วก็เสียชีวิตเหมือนกัน
00:11:24 → 00:11:28 น้องเนเน่ก็คล้ายๆกันคือนอนเล่นอยู่ดีๆ
00:11:28 → 00:11:31 สักพัก
00:11:31 → 00:11:32 ผิดปกติ
00:11:32 → 00:11:34 แล้วก็เสียชีวิตไป
00:11:34 → 00:11:42 เคสนี้ปรากฏว่าเขาไปสืบดูในครอบครัวเขา
00:11:42 → 00:11:44 บอกว่ามีคนในครอบครัวเนี่ยป่วยเป็นโรค
00:11:44 → 00:11:48 เกี่ยวกับลิ้นหัวใจแต่เท่าที่หมอฟังราย
00:11:48 → 00:11:51 ละเอียดเนี่ยมันเป็นโรคลิ้นหัวใจที่พบใน
00:11:51 → 00:11:55 คนแก่ซึ่งคนทั่วไปก็สามารถพบได้ที่คนที่ 3
00:11:55 → 00:11:58 เนี่ยน้องเนเน่เนี่ยหมอวินิจฉัยว่าหัวใจ
00:11:58 → 00:12:01 ล้มเหลวแต่อย่างที่บอกนะไอ้หัวใจล้มเหลว
00:12:01 → 00:12:04 เนี่ยมันเป็นคำกว้างๆมันไม่ได้เป็นการบอก
00:12:04 → 00:12:08 สเปคว่าคือเอาง่ายๆคนตายทุกคนน่ะหัวใจล้ม
00:12:08 → 00:12:10 เหลวหมดแหละหรือไม่ก็ระบบหายใจล้ม
00:12:10 → 00:12:14 แต่มันไม่ได้บอกสเปคไปว่าหรือว่าเน้นไป
00:12:14 → 00:12:18 ว่าเขาอะไรเป็นเหตุที่ทำให้น้องคนนี้เสีย
00:12:18 → 00:12:22 ชีวิตซึ่งในความคิดหมอนะมันจะมีโรคบางโรค
00:12:22 → 00:12:25 ที่เกี่ยวกับเป็นโรคที่เขาเรียกว่า
00:12:25 → 00:12:29 metabolic dise เป็นโรคที่เกี่ยวข้อง
00:12:29 → 00:12:34 กับระบบการเผาผลาญในร่างกายผิดปกติก็ได้
00:12:34 → 00:12:39 นะหรืออาจเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับ
00:12:39 → 00:12:44 การเขาเรียกเกี่ยวข้องกับสมองหรือระบบหาย
00:12:44 → 00:12:46 ใจก็ได้
00:12:46 → 00:12:50 และเป็นมาแต่กำเนิดและไม่รู้
00:12:50 → 00:12:53 มาดูต่อ
00:12:53 → 00:12:56 เคสนี้เคสของฝรั่ง
00:12:56 → 00:13:00 เคสของฝรั่งเขาชันสูตรศพทุกเคสเขาบอกว่า
00:13:00 → 00:13:05 เคสแรกเนี่ยเคล็ดเนี่ยมีภาวะกล่องเสียง
00:13:06 → 00:13:10 กับหลอดลมเนี่ยมีกระดูกอ่อนที่ฟาร์มเป็น
00:13:10 → 00:13:15 หลอดลมที่เป็นท่อหลอดลมน้อยหรืออ่อนแอทำ
00:13:15 → 00:13:20 ให้หายใจผิดปกติและเด็กเสียชีวิต
00:13:20 → 00:13:24 ส่วนคนที่ 2 เนี่ยแพทริคเขาบอกว่าป่วย
00:13:24 → 00:13:27 เป็น sid
00:13:27 → 00:13:31 ภาวะชัก sids เดี๋ยวจะพูดให้ฟังนะว่าคือ
00:13:31 → 00:13:32 โรคอะไร
00:13:32 → 00:13:36 ซาร่าก็เหมือนกันเป็น sids ส่วนคนสุดท้าย
00:13:36 → 00:13:39 ลอร่าป่วยเป็นกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ
00:13:39 → 00:13:43 กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเขาเอาชิ้นเนื้อของ
00:13:43 → 00:13:47 เรากับซาร่ามาตรวจพบว่ามีกลายพันธุ์ที่
00:13:47 → 00:13:48 ชื่อว่า
00:13:48 → 00:13:52 calm to
00:13:52 → 00:13:54 g11434r
00:13:54 → 00:13:58 คุณแม่คนนี้โดนโทษไป 40 ปีนะ
00:13:58 → 00:14:02 ปรากฏว่ามีคนพยายามช่วยเหลือเขา
00:14:02 → 00:14:06 ค้นพบว่าเด็กเนี่ยมียีนผิดปกติแล้วเอาไป
00:14:06 → 00:14:09 ยื่นต่อศาลคุณแม่เลยโดนปล่อยตัวหลังจาก
00:14:09 → 00:14:15 โดนจำคุกไปแล้ว 20 ปีตายแล้ว
00:14:15 → 00:14:19 งั้นมันมีความน่าสนใจ
00:14:19 → 00:14:23 ทั่วโลกนะครับนะโดยเฉพาะประเทศอังกฤษนะมี
00:14:23 → 00:14:27 เด็กเสียชีวิตก่อนที่อยู่อายุจะถึง 1 ปี
00:14:27 → 00:14:30 เนี่ยประมาณ 200 กว่าคนโดยเขาสรุปสาเหตุ
00:14:30 → 00:14:34 การเสียชีวิตนะส่วนใหญ่เลย 80% เนี่ยเป็น
00:14:34 → 00:14:35 สาเหตุที่
00:14:35 → 00:14:39 ไม่ค่อยเจอสาเหตุโดยเขาจะฟันว่ามันเป็น
00:14:39 → 00:14:45 โรค sids
00:14:45 → 00:14:53 คือมีภาวะไอออน Channel
00:14:53 → 00:14:58 3 อิเล็กโทรไลต์ผิดปกติในระดับเซลล์
00:14:58 → 00:15:02 7% เป็นโรคหัวใจที่เป็นกล้ามเนื้อหัวใจ
00:15:02 → 00:15:06 ผิดปกติกล้ามเนื้อหัวใจโตแต่กำเนิด
00:15:06 → 00:15:09 แล้วก็มีโรคภาวะหัวใจอื่นๆสุดท้ายก็เป็น
00:15:09 → 00:15:11 อย่างที่บอกว่าเป็นเม็ด
00:15:11 → 00:15:16 ที่บอกว่ามีการเผาผลาญผิดปกติเด็กอาจจะ
00:15:16 → 00:15:19 กินนมไปแล้วไม่สามารถเปลี่ยนเอานมนั้นมา
00:15:19 → 00:15:23 เป็นอาหารได้ก็เลยเสียชีวิตในช่วงหนึ่ง
00:15:23 → 00:15:27 ถึงสองสัปดาห์เหมือนขาดอาหารตายนะ
00:15:27 → 00:15:30 วันนี้เราจะมาเน้นเรื่องเกี่ยวกับ sub
00:15:30 → 00:15:32 then in frend Syndrome เพราะจริงๆ
00:15:32 → 00:15:34 subdent in frendest Syndrome นั้น
00:15:34 → 00:15:39 เป็นโรคที่สามารถแก้ไขได้ง่ายๆเขาบอกว่า
00:15:39 → 00:15:42 เด็กเวลาเกิดขึ้นมาใหม่ๆเนี่ยทั้งหลอดลม
00:15:42 → 00:15:45 หลอดอาหารอะไรยังไม่แข็งแรงและค่อนข้าง
00:15:45 → 00:15:48 สั้นด้วย
00:15:48 → 00:15:51 ถ้าสมมุติว่าเราจับเด็กนอนคว่ำ
00:15:51 → 00:15:55 คอก็ยังไม่แข็งถ้าเด็กไม่สามารถเงยหน้า
00:15:55 → 00:15:59 ได้หรือหันศีรษะได้เด็กจะเสียชีวิต
00:15:59 → 00:16:03 ซึ่งมันตรงคล้ายๆกับความเชื่อแบบไทยๆนะ
00:16:03 → 00:16:08 ว่านอนคว่ำสิลูกเดี๋ยวหัวไม่สวยคนโบราณ
00:16:08 → 00:16:11 ชอบพูดอย่างนี้ก็จะเบรคหน้าคว่ำเด็กมาก
00:16:11 → 00:16:16 คว่ำหายใจไม่ออกเสียชีวิตเพราะฉะนั้น sids
00:16:16 → 00:16:20 มักจะเป็นโรคที่ทำให้เกิดว่าเด็กหายใจไม่
00:16:20 → 00:16:24 ออกและเสียชีวิตตาย
00:16:24 → 00:16:29 อย่างเคสที่นี่นะเคสแรก
00:16:29 → 00:16:32 ที่หมอสงสัยคนที่ 7 เนี่ยแม่เขาให้
00:16:32 → 00:16:35 ประวัติว่าเขาตื่นมาเหมือนบ้านได้ยินคน
00:16:35 → 00:16:38 มาเรียกตอนตี 3 ก็เดินไปเปิดประตูไม่เจอ
00:16:38 → 00:16:42 ใครกลับเข้ามาจะเอาลูกเข้าเต้า
00:16:42 → 00:16:45 ปรากฏว่าเสียชีวิตไปแล้ว
00:16:45 → 00:16:49 เพราะฉะนั้นเสียชีวิตในขณะหลับนะคนที่ 7
00:16:49 → 00:16:53 ของเขานะ
00:16:53 → 00:16:55 มาต่อ
00:16:55 → 00:16:58 sids เนี่ยมันมี List Factor คือมีความ
00:16:58 → 00:17:01 เสี่ยงยังไงบ้างก็คือถ้าเป็นแม่อายุน้อย
00:17:01 → 00:17:05 หรือมีภาวะหรือเคยมีประวัติกินแอลกอฮอล์
00:17:05 → 00:17:08 ในระหว่างตั้งครรภ์หรือเด็กคลอดก่อนกำหนด
00:17:08 → 00:17:10 ใช่ไหมเด็กคลอดก่อนกำหนดอายุ
00:17:10 → 00:17:14 อื่นๆในร่างกายโดยเฉพาะระบบหายใจระบบทาง
00:17:14 → 00:17:17 เดินอาหารระบบหัวใจยังฟอร์มตัวได้ไม่เต็ม
00:17:17 → 00:17:20 ที่หรือเด็กที่คลอดมาแล้วน้ำหนักน้อยกว่า
00:17:20 → 00:17:24 ปกติหรือมีประวัติว่าคุณแม่สูบบุหรี่หรือ
00:17:24 → 00:17:30 ในสภาวะแวดล้อมใกล้ๆนั้นมีบุหรี่คืออาจจะ
00:17:30 → 00:17:34 มีคุณพ่อหรือคนแวดล้อมสูบบุหรี่ก็เป็นไป
00:17:34 → 00:17:40 ได้มักพบในเด็กผู้ชาย
00:17:40 → 00:17:41 ขาวๆแล้วนะ
00:17:41 → 00:17:45 วิธีการแก้ไขง่ายๆเลยคือเขาบอกว่าพยายาม
00:17:45 → 00:17:49 ให้เด็กนอนหงายนะเด็กนอนหงายแบล็คลิสนะ
00:17:49 → 00:17:52 ครับนะเพราะว่าในภาวะที่เด็กร้านไหนเนี่ย
00:17:53 → 00:17:56 มันก็ตกไปตาม Gravity คือไปทางด้านหลังนะ
00:17:57 → 00:18:00 คือมีนมอาจจะเขาเรียกว่าไงไม่ปิดการหายใจ
00:18:00 → 00:18:04 แล้วถ้าสมมุติว่ามีนมไหลย้อนเขาก็สามารถข
00:18:04 → 00:18:08 ย้อนลงมาได้ใช่ไหมเพราะฉะนั้นเขาแนะนำว่า
00:18:08 → 00:18:13 ให้นอนหงายมันจะเปิดทางรถทางเดินของทาง
00:18:13 → 00:18:16 เดินของอากาศนะครับนะ
00:18:16 → 00:18:20 อันที่ 2 ก็คือว่าบรรยากาศโดยรอบไม่ควรมี
00:18:20 → 00:18:22 บุหรี่นะเพราะบุหรี่อย่างที่บอกมีสาเหตุ
00:18:22 → 00:18:27 อันที่ 3 อย่างที่บอกว่าเตียงนอนไม่ควร
00:18:27 → 00:18:30 ใช้โฟมหรือว่าอะไรที่มันดิ้นเกินไป
00:18:30 → 00:18:34 เพราะพอก้มหน้าไปแล้วเนี่ยมันไม่มี Space
00:18:34 → 00:18:40 มันแนบแนบเด็กก็ขาดอากาศ
00:18:40 → 00:18:43 อันที่ 4 บอกว่าเอาเตียงของเด็กหรือแปล
00:18:43 → 00:18:47 ให้อยู่ใกล้ๆตัวเองจะได้คอยสังเกตได้แล้ว
00:18:47 → 00:18:50 ก็สุดท้ายเนี่ยก็บอกว่าควรเลี้ยงลูกเข้า
00:18:50 → 00:18:55 เต้าเข้านมนะ
00:18:55 → 00:18:59 นอกจากหมอปลาแล้วเนี่ยเขาก็อย่างที่บอก
00:18:59 → 00:19:01 ว่าพอลูกเขาเสียใช่ไหม
00:19:01 → 00:19:03 เขาก็เอารูปไป
00:19:03 → 00:19:09 ไปวัดไปฌาปนกิจพระก็ทักว่าเนี่ยมีอะไรติด
00:19:09 → 00:19:14 ตามตัวแม่เขามาทำให้ตัวแม่เขาเนี่ยอาจจะ
00:19:14 → 00:19:15 กินลูกกินผัว
00:19:15 → 00:19:19 ซึ่งอย่างที่หมอคาดนะ
00:19:19 → 00:19:23 อาจจะเป็นโครโมโซม X ตัวนี้แหละที่ติดตัว
00:19:23 → 00:19:25 คุณแม่เข้ามา
00:19:25 → 00:19:27 ส่วนท่านฟังแล้ว
00:19:27 → 00:19:29 จะเชื่อใคร
00:19:30 → 00:19:31 ว่าเฮ้ย
00:19:31 → 00:19:34 โรคนี้มันมีที่มาที่ไป
00:19:34 → 00:19:37 แบบนี้จะเชื่อเอาง่ายๆเชื่อหมอคนหรือ
00:19:37 → 00:19:40 เชื่อหมอปลา
00:19:40 → 00:19:43 สาระความรู้ดีๆจากเพจหมอเขาทำแบบเดียวและ
00:19:43 → 00:19:44 YouTube
00:19:44 → 00:19:48 ขอบคุณมากครับสวัสดีครับ