00:00:00 → 00:00:03 ก็สวัสดีค่ะก็กลับมาพบกันอีกครั้งนะคะกับ
00:00:03 → 00:00:07 พอดแคสต์เรื่องเล่าจากร่างกายนะคะวันนี้
00:00:07 → 00:00:09 เราจะมาคุยกันเรื่องหัวข้อที่จะคุยวันนี้
00:00:09 → 00:00:11 แล้วก็เป็นคำถามเพื่อนๆใบเสร็จเลยว่าก็
00:00:11 → 00:00:15 คือว่ามนุษย์เหมาะกับการวิ่งระยะไกลหรือ
00:00:15 → 00:00:18 เปล่าเพราะว่าตอนนี้จริงแล้วแบบทุกคนฮิต
00:00:18 → 00:00:20 วิ่งมาราธอนมากเลยเนาะก็คือเพราะฉะนั้น
00:00:20 → 00:00:23 เนี่ยเราก็มีความสงสัยนิดหน่อยเว้ยอันนี้
00:00:23 → 00:00:25 มันเป็นธรรมชาติหรือเปล่ามันคือว่ามันฝืน
00:00:25 → 00:00:27 ธรรมชาติแค่
00:00:27 → 00:00:29 สำหรับในส่วนนี้นะคะก็ต้องขอบคุณ
00:00:29 → 00:00:35 สปอนเซอร์ของเรา slc คลิป lsb ดีความงาม
00:00:35 → 00:00:37 ที่เป็นคุณขอบคุณค่ะ
00:00:37 → 00:00:41 ก็อย่างนี้ปกติเนี่ยในธรรมชาติว่าเราดู
00:00:41 → 00:00:44 สัจตยาเนี่ยเราพอจะนึกออกว่าร่างกายของ
00:00:44 → 00:00:48 มันวิวัฒนาการมาเพื่อทำงานต่างกันไปตาม
00:00:48 → 00:00:51 อย่างเช่นเรานึกถึงหมาใช่ไหมเราก็ต้องนึก
00:00:51 → 00:00:54 ว่ามาได้เป็นสัตว์ที่วิ่งได้ไกลไม่ได้ทน
00:00:54 → 00:00:56 ส่วนนึกถึงลานแล้วจะรู้สึกว่ามันเป็น
00:00:56 → 00:00:59 สัตว์ที่เดินอืดแต่ไม่ใช่สัตว์ที่วิ่ง
00:00:59 → 00:01:00 เร็ว
00:01:00 → 00:01:02 เกาะกูดเขาก็จะภาพของอู่ที่สามารถเดินคน
00:01:02 → 00:01:07 สินค้าข้ามทะเลทรายได้แต่พอมัวเนี่ยมีลาก
00:01:07 → 00:01:09 ของหนักได้ก็จริงแต่จะเดินได้ช้าๆแล้วก็
00:01:09 → 00:01:12 เดินไม่ค่อยไปมากเท่าไหร่ไม่คำถามก็คือ
00:01:12 → 00:01:15 ว่ามนุษย์เนี่ยในของร่างกายมนุษย์เนี้ย
00:01:15 → 00:01:18 มนุษย์เนี่ยบอกกันที่ระยะไกลหรือเปล่าและ
00:01:18 → 00:01:22 คำตอบคือก็คำตอบฟันธงมาเลยนะครับคือเท่า
00:01:22 → 00:01:25 กับใครจะปิดผัดค้าตอนนี้ก็คือคำตอบคือมัน
00:01:25 → 00:01:28 รู้เนี่ยร่างกายเนี่ยมีวัฒนาการมาเพื่อ
00:01:28 → 00:01:30 เป็นสิ่งมีชุดที่วิ่งได้ไกลที่สุดไม่ได้
00:01:30 → 00:01:35 ไกลมากแล้วก็คือพูดง่ายๆคือเธอจะมองว่าใน
00:01:35 → 00:01:37 แจ้งวิ่งมาราธอนเนี่ยมันรู้เนี่ยเป็นสิ่ง
00:01:37 → 00:01:39 มีชีวิตที่สามารถวิ่งมาราธอนได้ดีที่สุด
00:01:39 → 00:01:43 คือใกล้ด้วยทนด้วยเธอจะมีแค่ชื่อเดียวที่
00:01:43 → 00:01:45 จะแข่งขันรูดได้ก็คือ
00:01:45 → 00:01:48 สิ่งไม่ใช่เป็นสารนะเนียมหน้าตาใครขวา
00:01:48 → 00:01:51 หรือว่าครองฮ้อนๆในตอนมันออกค่ะอยู่ใน
00:01:51 → 00:01:53 ทวีปอเมริกาแล้วก็เคยเป็นสัตว์ที่วิ่งได้
00:01:53 → 00:01:56 เร็วนั่นแหละที่นี่เรื่องราวในมันต้องบอก
00:01:56 → 00:01:58 มันเริ่มต้นมาจากเรื่องที่ที่ไม่ค่อย
00:01:58 → 00:02:00 เกี่ยวข้องเท่าไหร่คือเรื่องราวดีหมอลำ
00:02:00 → 00:02:03 ต้นมาจากคำถามว่าทำไมมนุษย์ถึงได้เป็นลิง
00:02:03 → 00:02:07 ที่ฉลาดวันลิงสายพันธ์อื่นเพราะในทาง
00:02:07 → 00:02:09 ชีววิทยาในมนุษย์ก็จะเป็นลิงสายพันธุ์นึง
00:02:09 → 00:02:12 ค่ะที่นี่ถ้าย้อนเวลากลับไปสัก 50 ผมถึง
00:02:12 → 00:02:15 60 ปีที่แล้วนะเวลาต่างคำถามเนี้ยคำถาม
00:02:15 → 00:02:17 ว่าทำไมมนุษย์มนุษย์เนี่ยเริ่มต่างจากลิง
00:02:17 → 00:02:19 สายพันธ์อื่นๆแต่เมื่อไหร่มันเกิดขึ้นได้
00:02:19 → 00:02:23 ยังไงคำตอบที่คนส่วนใหญ่นักวิทยาศาสตร์
00:02:23 → 00:02:26 ส่วนใหญ่โฟกัสก็คือว่ามันคงเริ่มต้นที่
00:02:26 → 00:02:29 สมองหมายความว่าว่าเร่งแดกก็คงจะเป็น
00:02:29 → 00:02:31 ลักษณะที่อยู่ก็มินลิงสายพันธุ์หนึ่งซึ่ง
00:02:31 → 00:02:35 ดูฉลาดคนอื่นขึ้นมาที่นี่เหตุผลมันก็เข้า
00:02:35 → 00:02:37 ใจได้ไม่ยากนะเพราะว่าเมื่อเรามองมนุษย์
00:02:37 → 00:02:39 เที่ยวภาษาต่างๆในใจเมื่อร่างกายของ
00:02:39 → 00:02:42 มนุษย์เนี่ยค่อนข้างอ่อนแน่เนี่ยเอาอ่า
00:02:42 → 00:02:45 มากนะคะแล้วก็คือจริงๆถ้าเราดูขนาดสมองนะ
00:02:45 → 00:02:48 คะเทียบขนาดสมองกับร่างกายเนี่ยสมองของ
00:02:48 → 00:02:51 มนุษย์ในนะคะใหญ่กว่าที่ควรจะพบในเรื่อง
00:02:51 → 00:02:54 อื่นอ่ะมาถึง 5 เท่าคนนะก็มีสมองนะที่
00:02:54 → 00:02:57 ใหญ่มากๆเลยนะคะแต่ว่าในทางกับการทหารและ
00:02:57 → 00:03:00 มีสมองที่ใหญ่จริงแต่ว่าร่างกายเราอ่อนดี
00:03:00 → 00:03:02 มากแหละนะคะถ้าสมมติว่านึกถึงลิงที่แข็ง
00:03:02 → 00:03:04 แรงที่สุดในเราคงจะต้องนึกถึงนี่เลยค่ะ
00:03:04 → 00:03:07 กอลิล่าเลยเนี่ยเพราะว่าแบบเห็นแล้วเขาจะ
00:03:07 → 00:03:10 แบบโคซิกแพคชัดมากแบบกล้ามเนื้อการเป็น
00:03:10 → 00:03:13 กล้าเนี่ยฮะสมุดว่าเราเอานักมวยที่แบบสุด
00:03:13 → 00:03:16 ยอดของเราถึงมาเอาไม้ไทยฉันตอนพริกเนี่ย
00:03:16 → 00:03:19 ไปต่อย SUGOI ล่าตัวและเบบี้เบบี้นะคะก็
00:03:19 → 00:03:22 หมายไทยสั้นว่าจะโดนฉีกเป็นชิ้นชิ้นได้
00:03:22 → 00:03:25 ใช้จริงๆเนี้ยมันเคยเกิดขึ้นนะเคยอ่านจะ
00:03:25 → 00:03:27 ได้ยินข่าวไหมก็ไม่ใส่สั้นเนี่ยมีช่วง
00:03:27 → 00:03:30 เนี่ยตอนที่เขาไปเที่ยวข้อมูลค้างของ
00:03:30 → 00:03:32 เที่ยวสวนสัตว์แล้วก็เคยเป็นกับไปติดสิน
00:03:32 → 00:03:34 บนคนเฝ้าสวนทราบว่าจะจ่ายให้หมื่นเหรียญ
00:03:34 → 00:03:38 ขอเข้าไปต่อยครับกอลิล่าแล้งซึ่งตอนนั้น
00:03:38 → 00:03:40 ไม่ได้เขาไม่ได้คือหมายถึงว่าก็เคยโดน
00:03:40 → 00:03:43 ปฏิเสธไปแต่คำถามคือทำไมที่สั้นเข้าจริงๆ
00:03:43 → 00:03:47 ก็คือก็คือก็คือกะเจียวสิ้นชื่อแน่ๆ
00:03:47 → 00:03:50 เหมือนเพราะว่าอันที่ 1 ก็คือแค่โดนกัด
00:03:50 → 00:03:53 หรือโดนฉี่เลิศกอลิล่าในสามารถจะมาที่ศาล
00:03:53 → 00:03:56 ได้โยนถ้านึกภาพแบบเหมือน House กับเขา
00:03:56 → 00:03:58 จ่ายก็คือแบบว่าถ้าเทียบกับก็เลยละในเรา
00:03:58 → 00:04:01 ของมันเป็นตุ๊กตาผ้าเลยนะไม่ใช่อันนี้คือ
00:04:01 → 00:04:02 ในแง่ของความแข็งแรงไปแล้วนะครับที่นี่ใน
00:04:02 → 00:04:05 แง่ของความเร็วเนี่ยปกติเราจะนึกถึงหัว
00:04:05 → 00:04:08 มนุษย์ที่วิ่งเร็วที่สุดในโลกคืออยู่เช่น
00:04:08 → 00:04:11 บทเพลงก่อนเราซึ่งเป็นรู้สึกคุ้กกิ้งแบบ
00:04:11 → 00:04:14 เร็วเป็นจรวดเลยแต่ว่าอะไรนะภาพของลิง
00:04:14 → 00:04:16 ชิมแปนซีไหนดีใกล้ตัวเล็กๆเนี่ยที่มันดู
00:04:16 → 00:04:19 วิ่งไปวิ่งมาเนี่ยชิงบัญชีอะไรวิ่งเร็ว
00:04:19 → 00:04:21 กว่าเช่นมาซิทั่วๆไปเลยนะไม่ต้องเป็นทีม
00:04:21 → 00:04:24 สีที่เป็นแชมป์นักวิ่งนะนี่เรายูเซนโบลต์
00:04:24 → 00:04:26 เนี่ยประมาณเกือบเท่าตัวโอ้โหเลยว่าจริงๆ
00:04:26 → 00:04:29 นี่ยังไม่นะว่าเขาเป็นต้นไม้แล้วแบบคน
00:04:29 → 00:04:31 เฒ่าวันเลยเนี่ยซึ่งเพิ่มความเร็วอีก
00:04:31 → 00:04:33 อย่างเงี้ยอันนี้จากที่พูดมาทั้งหมดจะ
00:04:33 → 00:04:35 เห็นว่ามันอัพยาสาดมองมนุษย์ที่ประสาท
00:04:35 → 00:04:38 อื่นจะรู้สึกว่าเฮ้ยแบบมันรู้ในดูด้อย
00:04:38 → 00:04:41 กว่าทุกอย่างเลยคือร่างกายเราตามเมื่อเรา
00:04:41 → 00:04:43 ก็สู้ไม่ได้ความเย็น turnt ความเร็วแล้ว
00:04:43 → 00:04:46 ก็สู้ไม่ได้แต่สิ่งเดียวที่เราจะเด่นเท่า
00:04:46 → 00:04:48 นั้นก็คือเรื่องของสมองทำไมถึงจะเด่นกว่า
00:04:48 → 00:04:51 คนอื่นก็คือของสมองซึ่งเพราะฉะนั้นมนุษย์
00:04:51 → 00:04:54 นะพญาศาสตร์ในยุคนั้นเนี่ยประมาณ 50 ปี
00:04:54 → 00:04:57 ที่แล้วในเวลาจะมองว่าสัตว์เนี่ยมนุษย์จะ
00:04:57 → 00:04:58 เริ่มต่างไปจากลิงสายพันธ์อื่นยังไงก็จะ
00:04:58 → 00:05:02 ปกติสมองแต่ก็พยายามจะมองว่าเมื่อไหร่นะ
00:05:02 → 00:05:04 คะโดนศึกษาในฟอสซิลและพยายามมองหากระดูก
00:05:04 → 00:05:08 ที่บ่งว่าสมองของมนุษย์เนี่ยเริ่มใหญ่
00:05:08 → 00:05:11 ขึ้นแต่ปรากฏว่าหลังจากที่ศึกษาเป็นระยะ
00:05:11 → 00:05:13 หนึ่งเพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนการ
00:05:13 → 00:05:15 เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเกาะและทำให้มัน
00:05:15 → 00:05:17 รู้ตามมาจากลิงสายพันธ์อื่นๆไม่ใช่ว่ามัน
00:05:17 → 00:05:19 พระคุณของมนุษย์เนี่ยตั้งแต่เครื่องซัก
00:05:19 → 00:05:21 ผ้านักเรียนก็คือมนุษย์เนี่ยมันพูดคำรถ
00:05:21 → 00:05:26 แน่นเดินสองขาโอ้ฉันเกิดขึ้นจากน้อยก็ 3
00:05:26 → 00:05:30 ละ 3.5 ล้านปีที่แล้ว 3 ล้านปีครึ่งที่
00:05:30 → 00:05:33 นี่ภาพเหมือนภาพภาพวาดมันก็จะเปลี่ยนไปก็
00:05:33 → 00:05:37 คือว่าก็จะเดินมามองว่าเป็นเล็งสายพันธุ์
00:05:37 → 00:05:40 อะไรที่ดูฉลากกันเล่นกันแต่ตอนภาพที่ได้
00:05:40 → 00:05:43 ไหมก็คือภาพของหนึ่งที่ไม่ได้สละคนอื่น
00:05:43 → 00:05:47 แต่เดินสองขาเริ่มต้นที่เดินสองขาก่อนเออ
00:05:47 → 00:05:50 แล้วก็มาว่าไปแต่ในสงขลาในมันคงเป็น
00:05:50 → 00:05:53 ปัจจัยบางอย่างที่นำไปสู่การที่สมองของ
00:05:53 → 00:05:57 ทีมมนุษย์วิวัฒนาการขึ้นแต่ว่ายอมมาตรง
00:05:57 → 00:06:00 นี้นิดนึงค่ะ 3-5 ล้านปีก่อนในตอนนั้นเรา
00:06:00 → 00:06:02 ยังไม่เป็นโฮโมเซเปียนแบบในปัจจุบันนั้น
00:06:02 → 00:06:05 คือบรรพบุรุษของเราอีกทีเนาะใช่ๆพี่
00:06:05 → 00:06:08 อธิบายไม่ดีก็คือว่าตอนนั้นเนี่ยก็คือคน
00:06:08 → 00:06:11 เพราะว่าบรรพบุรษที่เป็นสายที่จะต่อมา
00:06:11 → 00:06:13 วิวัฒนาการมาเป็นมนุษย์เนี่ยเริ่มเดินสอง
00:06:13 → 00:06:17 ขาโอเคละอ้าวและสมองแล้วสมองมันเริ่มโต
00:06:17 → 00:06:21 ขึ้นมาจริงๆอย่างที่นักเยอะสงสัยหลังจาก
00:06:21 → 00:06:25 เดินสองขานานไหมผิวก็ประมาณสัก 1 ล้านปี
00:06:25 → 00:06:27 จึงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่วิธีก็คือ
00:06:27 → 00:06:30 ว่าจะส่วนเข้ากัน - ตลกมานั่นแหละแล้วก็
00:06:30 → 00:06:33 วัดปริมาตรข้างในก็คือใส่ทรายเข้าไปแล้ว
00:06:33 → 00:06:35 ก็ดูว่าใส่นี่ประมาณสักเท่าไหร่แม่ยก
00:06:35 → 00:06:37 เสียงเล่นๆที่จับตัวเล่นไม่ค่อยได้ชัดเจน
00:06:37 → 00:06:39 เหมือนกันแต่อย่างเช่นเป็นซีมันจึงประมาณ
00:06:39 → 00:06:43 450 ซีซีแต่เราก็จะเริ่มเห็นว่ามันขึ้น
00:06:43 → 00:06:46 เป็นสักหกร้อยตอนเอ่อเอ่อ
00:06:46 → 00:06:49 ขอคัดมาก็คือเป็นสายพันธุ์ชื่อโคโมะเอ่อ
00:06:49 → 00:06:52 โทรมาหาพี่ลิสแล้วก็จากนั้นก็จะเริ่มเห็น
00:06:52 → 00:06:54 แบบที่ใหญ่เป็นหลักพันขึ้นมาเช่นพันสอง
00:06:54 → 00:06:57 ร้อยเนี่ยตรงเครื่องโคโม vectis ซึ่ง
00:06:57 → 00:07:00 ประมาณสัก 1.8 ล้านปีมนุษย์ในประมาณ 1400
00:07:00 → 00:07:04 ซีซีก็คือจากสมัยที่เป็นแซ่บชื่อสปีชีส์
00:07:04 → 00:07:06 เป็นลิงนะเพราะเริ่มเข้าสู่ซีรีส์ของ
00:07:06 → 00:07:09 สปีชีส์เป็น homo นั้นก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
00:07:09 → 00:07:12 ใช่ๆแต่ว่าทั้งหมดมันจะเกิดขึ้นหลังจาก
00:07:12 → 00:07:17 ที่เดินสองขาแล้วที่นี่มาถึงคำถามถัดมาก็
00:07:17 → 00:07:20 คือว่าทำไมสมองของให้สมองแบบมนุษย์มาถึง
00:07:20 → 00:07:23 วิวัฒนาการเกิดขึ้นได้ยากเพราะปัจจุบันใน
00:07:23 → 00:07:26 แง่ของการแพทย์และรู้ว่าสมองเป็นอวัยวะ
00:07:26 → 00:07:28 ที่ใช้พลังงานหรือเปลืองมากก็คือใช้
00:07:28 → 00:07:32 ประมาณ 20% ของเบเศร้าไม่ต้องเล็กๆซึม
00:07:32 → 00:07:36 ผ่านซึ่งก็คือแบบว่าถ้าเลือดที่ปั๊มออกมา
00:07:36 → 00:07:40 จากหัวใจในแต่ละครั้งใน 1 ปืนนะคะ 20% นะ
00:07:40 → 00:07:42 พุ่งเข้าไปใช้ที่สมองส่วนนี้คือตอนที่แบบ
00:07:42 → 00:07:45 เฉยๆด้วยนะเธอเพราะฉันเห็นว่าเป็นเอาไว้
00:07:45 → 00:07:48 วันที่ทำงานมากเพราะฉะนั้นในโลกธรรมชาติ
00:07:48 → 00:07:52 สมัยก่อนในตอนที่อาหารที่มันหายากการที่
00:07:52 → 00:07:54 สมองจะวิวัฒนาการขึ้นมามีขนาดใหญ่และใช้
00:07:54 → 00:07:56 พลังงานขนาดนี้ได้เนี่ยมนุษย์เหมือนกับจะ
00:07:56 → 00:07:59 ต้องหรือว่าบรรพบุรุษของมนุษย์เนี่ยไม่
00:07:59 → 00:08:01 ครับต้องมีวิธีที่จะหาแหล่งพลังงานถ้าจะ
00:08:01 → 00:08:05 มาสระเกาะแล้วก็คำตอบก็คือว่าพลังงานที่
00:08:05 → 00:08:08 เพิ่มขึ้นในหาได้จากไหนคำตอบที่เค้าก็คือ
00:08:08 → 00:08:10 ว่ามันจะมีสองช่วงด้วยกันแล้วก็คือเมื่อ
00:08:10 → 00:08:13 มนุษย์เริ่มกินเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้นอันที่
00:08:13 → 00:08:17 สองคือเป็นช่วงเวลาที่ทำให้นำไฟหรือนำ
00:08:17 → 00:08:20 ความร้อนมาทำให้อาหารนะสุขมากขึ้นซึ่งแต่
00:08:20 → 00:08:23 ว่าเรื่องไฟเนี่ยมันเป็นเรื่องที่ยาวมา
00:08:23 → 00:08:25 แล้วก็มีรายละเอียดมาเลยละอาจจะไม่ได้ลง
00:08:25 → 00:08:27 รายละเอียดเรื่องการที่มนุษย์ใช้ไฟนะคะ
00:08:27 → 00:08:31 กับชีววิทยาหรือพัฒนาการอาจจะไปทำ mx-p
00:08:31 → 00:08:33 สมุด 1 ณวันนี้ช่วยก็อาจจะเป็นคุยกันต่อ
00:08:33 → 00:08:35 หน้าก็ได้เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่ต่อกัน
00:08:35 → 00:08:39 ต้องเคหะนะคะนี้ที่เราคุยกันแบบนี้เรา
00:08:39 → 00:08:43 สรุปเลยได้ไหมเพราะว่าว่ามนุษย์เราอ่ะที่
00:08:43 → 00:08:46 มีสมองที่ใหญ่และก็ฉลาดมากขึ้นกว่าหรือ
00:08:46 → 00:08:49 อื่นๆแบบทุกวันนี้ก็เพราะว่าจุดแรกเลย
00:08:49 → 00:08:52 เนี่ยมาจากว่าว่าเราเปลี่ยนจากเดินที่ค่ะ
00:08:52 → 00:08:53 เราเป็นสองขา
00:08:53 → 00:08:56 ใช่เป็นอย่างนั้นเลยที่นี่ก่อนที่จะไปต่อ
00:08:56 → 00:08:59 นะพี่อยากจะขอเล่านิดนึงแบบสั้นๆย้อนหรือ
00:08:59 → 00:09:01 ว่าทำไมมนุษย์เน็ตถึงเปลี่ยนจากการที่จะ
00:09:01 → 00:09:04 เป็นไปเป็นต้นไม้ลองมาเดินสองขาพื้นดิน
00:09:04 → 00:09:07 คืนนี้ในช่วงนั้นเนี่ยต้องบอกว่าปัจจัย
00:09:07 → 00:09:10 หลักๆเลยที่สำคัญนึงจะเป็นเรื่องของการ
00:09:10 → 00:09:13 เปลี่ยนแปลงของผมยการไครเมทเช่นถ้าเราไป
00:09:13 → 00:09:18 ดูในแง่ของเค้าเรียกว่าเป็นเป็นพาลีโอใคร
00:09:18 → 00:09:21 มาทอจี้อ่ะก็คือการเปลี่ยนแปลงของคุณญา
00:09:21 → 00:09:24 กาศสมัยโลกยกโบราณเนี่ยประมาณสัก 5-10 ปี
00:09:24 → 00:09:27 ที่แล้วนะฮะถึง 7 ปีทิศ 57 ล้านปีก่อนนะ
00:09:27 → 00:09:30 มันจะมีช่วงที่เหมือนก็อุณหภูมิของโลก
00:09:30 → 00:09:33 เนี่ยมันก็ค่อยลดลงเรื่อยๆก็ลงอย่างช้าๆ
00:09:33 → 00:09:36 เราเรื่อยๆทำให้เวลาปูนภูมพลเปลี่ยนเสร็จ
00:09:36 → 00:09:38 ปุ๊บสิ่งที่เกิดขึ้นก็ได้ป่าชุมเป็นป่าดง
00:09:38 → 00:09:40 ดิบที่มันมีความรวมสมบูรณ์เนี่ยมันมีขนาด
00:09:40 → 00:09:43 เล็กลงแต่สิ่งที่กินพื้นที่เข้ามานั่นก็
00:09:43 → 00:09:47 คือพวกทองอย่ามันทุ่งหญ้าสะวันนาในใน
00:09:47 → 00:09:50 อเมริกาเธอนึกภาพเนาะที่นี่ถ้าเป็นลุงที่
00:09:50 → 00:09:53 อาศัยอยู่กลางป่าสนใจก็ไม่ค่อยได้ผลกระทบ
00:09:53 → 00:09:55 ถูกเพราะว่ามันก็อยู่กลางป่าของมันก็ยัง
00:09:56 → 00:09:58 หา 7 จะจำกัดอิแต่ลิงที่แต่เดิมมีถิ่นนะ
00:09:58 → 00:10:01 คะสายอยู่ชายขอบป่านที่ดึงเนี่ยบางกันไป
00:10:01 → 00:10:04 วัดถิ่นที่อยู่อาศัยของมาเนี่ยกฎเล็กลงทำ
00:10:04 → 00:10:06 ให้มันต้องลงมาเดินหากินบนพื้นมากขึ้น
00:10:06 → 00:10:09 นั่นมันจุดเปลี่ยนที่ทำให้ลิงบรรพบุรุษ
00:10:09 → 00:10:11 ของมนุษย์เนี่ยที่แต่เดิมเนี่ยเป็นไป
00:10:11 → 00:10:13 เหมือนต้นไม้หรือว่าถ้าเดินก็จะเดิน
00:10:13 → 00:10:15 ลักษณะที่เหมือนเดินใช้ข้อนิ้วคือโดนสีขา
00:10:15 → 00:10:19 แหละเป็นมนุษย์เดินสองขามากขึ้นคลินิกใน
00:10:19 → 00:10:22 การเดินสองขาในการเดิน 4 ขาเนี่ยมันก็บอก
00:10:22 → 00:10:24 ว่ามันใช้ร่างกายที่ต่างกันถูกไหมมันก็
00:10:24 → 00:10:26 เกิดการวิวัฒนาการให้มีการเปลี่ยนไปของ
00:10:26 → 00:10:29 ร่างกายหลายๆอย่างเนี่ยให้มาเดินสองขามาก
00:10:29 → 00:10:32 ขึ้นเพื่อให้ส่วนก็คือคือในแง่ของการหา
00:10:32 → 00:10:34 อาหารก็ลักษณะการที่แบบอาจจะเป็นลักษณะ
00:10:34 → 00:10:38 ของการเดินเก็บพวกเนื้อผลไม้หรือว่าหากิน
00:10:38 → 00:10:41 ในทุ่งหญ้ามากขึ้นแต่ได้เป็นครั้งแรกนะ
00:10:41 → 00:10:44 แล้วก็บอกว่าตอนช่วงประมาณสักสามถึง 2-3
00:10:44 → 00:10:47 ล้านปีก่อนถึง 2 ล้านปีก่อนเนี่ยอากาศมัน
00:10:47 → 00:10:50 เย็นลงขึ้นอีกรอบนึงชนข้างเร็วป่ามันก็กด
00:10:50 → 00:10:52 ลงอีกครั้งหนึ่งที่นี่สิ่งที่เกิดขึ้น
00:10:52 → 00:10:56 หลังจากช่วงนี้ก็จะเริ่มเห็นว่ามันมีก็
00:10:56 → 00:10:58 คือมีเป็นพระบุตรจะคุณผู้ como ในเริ่ม
00:10:58 → 00:10:59 เกิดขึ้น
00:10:59 → 00:11:04 มากขึ้นรักแล้วก็จะเริ่มเห็นว่าช่วงนี้
00:11:04 → 00:11:06 มันพูดของเราแต่เริ่มออกไปหากินในลักษณะ
00:11:06 → 00:11:09 ที่เหมือนเป็นไปการไปล่าซักก็ตายังไม่
00:11:09 → 00:11:12 เป็นผู้ล่านะแต่มันก็ไปกินพวกซากสัตว์ที่
00:11:12 → 00:11:14 สัตว์อื่นในกินทิ้งเอาไว้
00:11:14 → 00:11:18 ก็จะไปกินก็จะไปอาหารที่จะเพิ่มขึ้นมาก็
00:11:18 → 00:11:19 เจอเรื่องของเนื้อสัตว์อันที่สองคือ
00:11:19 → 00:11:22 เรื่องใครเคยดูซึ่งในกระดูกในมันเป็น
00:11:22 → 00:11:25 เหมือนกับส่วนของสัตว์ที่มีพลังงานค่อน
00:11:25 → 00:11:28 ข้างสูงเพราะไขมันสูงมากเลยช่วยใครก็ดูก็
00:11:28 → 00:11:30 คือภายในครบก็คือเข้าใจที่เขารู้นะเพราะ
00:11:30 → 00:11:32 ว่ามันจะเห็นมีรอยไหมครับเป็นเครื่องมือ
00:11:32 → 00:11:36 หินในกระเทาะกระดูกแล้วเสื้อมันทำให้ดู
00:11:36 → 00:11:39 ถ้าสมัยก่อนขึ้นพอไปถึงแล้วก็เนื้อสัตว์
00:11:39 → 00:11:41 จะหมดแล้วแต่ว่าสิ่งที่ต้องการคือไขมัน
00:11:41 → 00:11:44 ที่อยู่ในคือดูภายในได้จริงๆทุกวันนี้นะ
00:11:44 → 00:11:46 เมนูไขกระดูกในเป็นเมนูที่นิยมมากเลยใน
00:11:46 → 00:11:50 ยุโรปเวลาที่แบบมีคนสั่งมากินทีไรอ่ะจะ
00:11:50 → 00:11:52 นึกถึงตรงนี้ที่แล้วอ้าวอีนี่แบบว่านี่นะ
00:11:52 → 00:11:56 ชีวิตแบบมนุษย์โบราณ 1 กินไข่ค่ะดูก็คือ
00:11:56 → 00:11:58 เป็นอาหารที่ทำให้เรากลายมาเป็นมนุษย์นก
00:11:58 → 00:12:00 เองไม่ใช่อาหารที่ดูป่าเถื่อนที่อะไร
00:12:00 → 00:12:03 ประมาณนั้นตัวนี้เนี่ยในแง่ของคุณภาพ
00:12:03 → 00:12:05 อาหารแล้วต้องพวกเนื้อสัตว์รู้พวกทหารใคร
00:12:05 → 00:12:07 มันพูดเนี่ยถือว่าเป็นอาหารที่มีคุณภาพ
00:12:07 → 00:12:09 สูงเขาว่าคุณภาพสูงมาถึงว่าให้แคลอรี่
00:12:09 → 00:12:12 เยอะให้พลังงานสูงแล้วที่นี่ปลาต่อมา
00:12:12 → 00:12:14 เดี๋ยวจากเริ่มที่เป็นลักษณะของการล่าพวก
00:12:14 → 00:12:17 ซากสัตว์กินเนี่ยมันก็จะเริ่มมีกัน
00:12:17 → 00:12:20 เปลี่ยนเป็นเป็นล่าสัตว์มากขึ้นคือล่า
00:12:20 → 00:12:22 สัตว์ที่ยังมีชีวิตอยู่ที่นี่ในการล่า
00:12:22 → 00:12:25 สัตว์มันต้องมีเรื่องของการทำทีมเนื่อง
00:12:25 → 00:12:26 จากในที่บอกว่าร่างกายมนุษย์เนี่ยไม่ค่อย
00:12:26 → 00:12:29 แข็งแรงเนาะจะวิ่งช้าและไม่แข็งแรงมันเลย
00:12:29 → 00:12:32 ก็มีลักษณะการล่าแบบทีมเวิร์คมีการวางแผน
00:12:32 → 00:12:35 ร่วมกันมีการที่แบบไหมครับคนนี้วิ่งเข้า
00:12:35 → 00:12:38 ไปข้างหน้าก็จะรอมีแต่คนนี้จะต้องเข้าจาก
00:12:38 → 00:12:40 ด้านหลังอะไรประมาณนั้นมีการพูดคุยสื่อ
00:12:40 → 00:12:43 สารกันไม่ได้สัตว์ไม่ได้อาหารมาแล้วได้มี
00:12:43 → 00:12:46 การแต่งปันมันก็จะมีการแบ่งหน้าที่กันทำ
00:12:46 → 00:12:49 ที่นี่มันก็จะนำไปสู่กันวิวัฒนาการที่ทำ
00:12:49 → 00:12:52 ให้สมองมันก็ต้องใช้สมองที่มีความสามารถ
00:12:52 → 00:12:54 ในการคิดมากขึ้น
00:12:54 → 00:12:57 โอเคนะคือภาพใหญ่นะคะในคำถามถัดมาก็คือ
00:12:57 → 00:13:00 ว่ามนุษย์เนี่ยซึ่งอย่างที่บอกก็คือมี
00:13:00 → 00:13:03 หน้าตาที่อ่อนแอแล้วก็วิ่งช้าล่าสัตว์ยัง
00:13:03 → 00:13:06 ไงเธอขึ้นมาภาพว่าตอนนี้ซึ่งเรามีไปกับ
00:13:06 → 00:13:08 เพื่อน 3 4 คนนั้นว่าจะไปล่าสัตว์ในทุ่ง
00:13:08 → 00:13:12 หญ้าสะวันนาเราจะล่าสัตว์จะได้อย่างไรอ่ะ
00:13:12 → 00:13:14 มีวิธีการที่ใช้เนี่ยมันจะมีชื่อเรียกว่า
00:13:14 → 00:13:19 เป็น persistence ฉันติ้งก็คือแบบหลายๆ
00:13:19 → 00:13:21 อย่างไม่ลดละซอยเปอร์เซ็นต์ก็คือเหมือน
00:13:21 → 00:13:24 กับวิ่งไล่ล่าอย่างที่ที่ไม่หยุดหย่อนไม่
00:13:24 → 00:13:28 ลดละเนาะจะนี่วิธีการเนี้ยนักวิทยาศาสตร์
00:13:28 → 00:13:30 จะปิดคิดได้ยังไงว่าเขาใช้วิธีนี้เพราะ
00:13:30 → 00:13:33 ว่าวิธีการแบบเนี้ยยังมีการใช้พวกเป็น
00:13:33 → 00:13:37 อยู่ในปัจจุบันก็ Play สังคมของคนละสถาน
00:13:37 → 00:13:40 ของป่าในทวีปเผ่าแอฟริกาเนาะชนต่อฮักจ้า
00:13:40 → 00:13:43 นอนในออสเตรเลียพวกชาวบางชนิดจะใช้เพราะ
00:13:43 → 00:13:46 ว่าปัจจุบันในโลกเนี่ยเราก็ยังมีคนที่ใช้
00:13:46 → 00:13:50 วิถีชีวิตแบบเดิมๆแบบสมัยที่เราใช้ยังอ่ะ
00:13:50 → 00:13:52 ตั้งแต่เราเป็นมนุษย์ปากเผ่าแบบล่าสัตว์
00:13:52 → 00:13:55 ของป่าเนี่ยแล้วก็การศึกษาใจในพวกนี้ก็ทำ
00:13:55 → 00:13:57 ให้เราเห็นภาพถึงในยุคก็ดีเนอะใช่มา
00:13:57 → 00:13:59 สะท้อนให้เห็นว่าสมัยก่อนตอนที่มนุษย์
00:13:59 → 00:14:02 อาศัยอยู่ในป่าหรือเป็นเผ่าเนี่ยใช้ชุด
00:14:02 → 00:14:04 แบบไหนแล้วก็ไม่ใช่คราวซวยแล้วพิการกันใน
00:14:04 → 00:14:08 ทวีปอเมริกาในขอทำไมกากลางนะก็มีชนเผ่า
00:14:08 → 00:14:12 ที่ใช้ลักษณะนี้ก็คือค่อยๆๆแกะรอยโป้
00:14:12 → 00:14:15 สวิ่งไรไปเรื่อยๆจะได้วิธีการนี้มันทำงาน
00:14:15 → 00:14:19 ยังไงอ้าก็คือว่า basic ก็คือนี้ปกติ
00:14:19 → 00:14:22 เนี่ยสัตว์แต่ละชนิดเนี่ยมันจะมีความ
00:14:22 → 00:14:25 สามารถในการวิ่งทนได้ประมาณนึงถ้ามันวิ่ง
00:14:25 → 00:14:28 เก่งมากถึงจุดนึงนะมันจะต้องพักจะมาทับ
00:14:28 → 00:14:30 พักเนี่ยมันจะต้องพักสักระยะเวลาหนึ่งมัน
00:14:30 → 00:14:32 ถึงจะวิ่งต่อได้เพราะอะไรเพราะว่าม่วง
00:14:32 → 00:14:34 วิ่งไปเรื่อยๆเนี่ยต้องมีการระบายความ
00:14:34 → 00:14:37 ร้อนน้ำมันเครื่องเอาไว้และพูดสั้นๆ
00:14:37 → 00:14:40 เข้าใจครับเพราะฉะนั้นคือถ้าเราร่วมไล่ไป
00:14:40 → 00:14:43 เรื่อยๆนะจนสัตว์ในมันไม่ได้พักนานพอแล้ว
00:14:43 → 00:14:44 ต้องคอยวิ่งไปเรื่อยชุดอย่างการจะ
00:14:44 → 00:14:47 โอเวอร์ฮีทมันจะร้อนเกินไปจนไม่สามารถจะ
00:14:47 → 00:14:51 ขยับไปได้แล้วถึงตอนนั้นเนี่ยพวกชกของ
00:14:51 → 00:14:53 มนุษย์ที่ใช้ชุดลักษณะปราสาทของป่าและจะ
00:14:53 → 00:14:55 เดินก็เป็นสามารถเดินเข้าไปที่สัตว์แล้ว
00:14:55 → 00:14:59 ก็สังหารๆเลยชิวๆและเป็นวิธีการที่พบเห็น
00:14:59 → 00:15:02 ได้ทั่วไปและทำให้เชื่อว่าสมัยก่อนมนุษย์
00:15:02 → 00:15:06 ก็ใช้วิธีการในการล่าสัตว์ที่จากที่คุยมา
00:15:06 → 00:15:07 ทั้งหมดจะเห็นว่าว่าเริ่มเห็นแล้วว่า
00:15:07 → 00:15:11 มนุษย์เนี่ยมีเหมือนกับภาพใหญ่ก็คือว่า
00:15:11 → 00:15:13 มนุษย์เนี่ยก็มีมีการที่จะวิ่งทนแล้ว
00:15:13 → 00:15:16 เรื่องกินได้มากๆที่คำถามคือว่าหลักฐานใน
00:15:16 → 00:15:19 คืออะไรคำตอบก็คือหลักฐานในมันซ่อนอยู่ใน
00:15:19 → 00:15:22 ร่างกายของมนุษย์เพราะเราจะเห็นว่ามีการ
00:15:22 → 00:15:25 พนันวิวัฒนาการลักษณะหลายๆอย่างที่ทำให้
00:15:25 → 00:15:27 ร่างกายของมนุษย์เนี่ยเหมาะสำหรับที่จะ
00:15:27 → 00:15:30 วิ่งไปแล้วก็ลักษณะหลายอย่างที่พูดเนี่ย
00:15:30 → 00:15:32 มันไม่ใช่ออกแบบมาเพื่อใช้เดินด้วยจะมา
00:15:32 → 00:15:34 ชักมัดมันต้องบอกมันเหมาะแบบมาเพื่อการ
00:15:34 → 00:15:38 วิ่งโดยตรงที่เราจะลองไล่เข้าๆจากหัวลงไป
00:15:38 → 00:15:41 ถึงเท้านะว่ามีอะไรบ้างอย่างแรกสุดเลยนะ
00:15:41 → 00:15:44 คะจะเป็นเรื่องของเอาส่วนที่เป็นหลังคอ
00:15:44 → 00:15:47 และศีรษะหรือหัวของคนเนี่ยขึ้นไรหลังคอ
00:15:47 → 00:15:50 หัวเนี่ยถ้าเป็นเห็ดในลิงชิมแปนซีนั้นลิง
00:15:50 → 00:15:53 ที่ต้องเป็นไปต่างๆมันจะมีลักษณะที่
00:15:53 → 00:15:54 เหมือนกับส่วนเนี่ยค่อนข้างเชื่อมติดกัน
00:15:54 → 00:15:57 ขาสั้นว่าเราเนาะก่อสร้างเหมือนกันไหล่
00:15:57 → 00:16:00 มันเหมือนถ้านึกภาพเหมือนเรายืนยกอะไร
00:16:00 → 00:16:02 อยู่คนนิดๆแล้วซึ่งลักษณะพรุ่งนี้มันทำ
00:16:02 → 00:16:06 ให้มันสามารถตินจับตามพวกกิ่งไม้ต่างๆดี
00:16:06 → 00:16:09 เป็นไปได้ดีแต่ว่าการที่มนุษย์แยกส่วนคอ
00:16:09 → 00:16:11 กับตัวมาด้วยกันเนี่ยมันทำให้เราสามารถ
00:16:11 → 00:16:14 ที่จะหมุนมีคนขวาเนี่ยได้ง่ายฮ่าๆๆตัวที่
00:16:14 → 00:16:17 ตัวได้ไม่ต้องหมุนตามไปด้วยซึ่งมันมี
00:16:17 → 00:16:19 ประโยชน์อะไรก็บอกว่าให้ฟังก์ชันนี้จริงๆ
00:16:19 → 00:16:21 ๆมันจะใช้ก็ตอนที่เวลาเราวิ่งด้วยความ
00:16:21 → 00:16:24 เร็วสูงแล้วแต่ที่เราวิ่งความเร็วสูงวิ่ง
00:16:24 → 00:16:27 แบบที่ความเร็วประมาณหนึ่งเพราะลำตัวเลย
00:16:27 → 00:16:29 จะคอยหมุนซ้ายหมุนขวาด้วยที่หน้าเนี่ยไม่
00:16:29 → 00:16:32 เห็นไปด้วยซึ่งมันจะช่วยรักษาสมดุลตอนที่
00:16:32 → 00:16:36 เราวิ่งอันที่สองเลยนะมันจะมีไก่ขี้คุย
00:16:36 → 00:16:39 ว่ะหนึ่งก็คือถ้าถ้าเห็นผ้านี้ก็ลองทำที่
00:16:39 → 00:16:41 ท้ายทอยของตาเรามันจะมีปุ่มอยู่ตุ่ม 1
00:16:41 → 00:16:44 ตัวไหมล่ะถ้าเรามือถ้าไปใต้ตรงนั้นเนี่ย
00:16:44 → 00:16:47 เรากลมๆก็เลยเนี่ยเราจะรู้สึกได้ว่ามีมัน
00:16:47 → 00:16:50 ก็เป็นเส้นเอ็นหรือเป็นพังผืดใดๆวันหนึ่ง
00:16:50 → 00:16:53 ต้องคือการไม่ชื่อว่าหนูเข้าเล็กกับแม่น
00:16:53 → 00:16:55 เออซึ่ง
00:16:55 → 00:16:58 ต้องบอกว่าเจ๋งนะที่จำได้
00:16:58 → 00:17:01 ก็สั่นก็คือเรียนตอนตอนเป็นนักเรียนแพทย์
00:17:01 → 00:17:04 แต่เราก็ไม่ค่อยพูดถึงทำไม่ได้นะเธอทำไม่
00:17:04 → 00:17:07 ได้เป็นแบบคนที่เรียนด้านทางด้านนี้หน่อย
00:17:07 → 00:17:09 แต่ได้หมอกระดูก
00:17:09 → 00:17:12 ณที่นี้เนี่ยไอ้เส้นเอ็นเนี้ยมันไม่พบใน
00:17:12 → 00:17:16 บรรพบุรุษของมนุษย์เธอก็คงบอกว่าทั้งหลาย
00:17:16 → 00:17:18 แหล่ที่พบเมื่อสักสองร้อยสองร้อยกว่าปี
00:17:18 → 00:17:20 ที่แล้วสามารถปีที่แล้วร้านกับปีที่แล้ว
00:17:20 → 00:17:23 เนี่ยจะไม่มีเส้นเอ็นนี้แต่ไอ้เซ็มตัวนี้
00:17:23 → 00:17:26 อันนี้มันจะมีลักษณะเหมือนที่พบในมาเลย
00:17:26 → 00:17:28 เนี่ยสูตรซึ่งหน้าที่ของมันก็คือทำให้หัว
00:17:28 → 00:17:30 หน้ามีความมั่นคงขณะที่วิ่งด้วยความเร็ว
00:17:30 → 00:17:33 เอ้อซึ่งมันก็เป็นการหนึ่งที่ที่เป็น
00:17:33 → 00:17:35 สัญลักษณ์บ่งบอกว่ามนุษย์อย่างนี้
00:17:35 → 00:17:37 วัฒนาการมาเพิ่มมีความสามารถในการวิ่ง
00:17:37 → 00:17:41 ระยะยาวต้นมาจากนี้ก็คือคันนี้ก็มีในหัว
00:17:41 → 00:17:44 มีหูนะในหูนั้นก็จะมีเอาเวลาที่ชื่อว่า
00:17:44 → 00:17:47 เซอร์มิสะคุณล่ะคะแนวคืออธิบายแน่ค่ะคืน
00:17:47 → 00:17:50 ดีและผูกเรานอกจากทำหน้าที่เรื่องการได้
00:17:50 → 00:17:53 ยินแล้วนะคะหูชั้นในเนี่ยมันยังมีอวัยวะ
00:17:53 → 00:17:55 ตัวนี้เซมิเซอร์คิวลาร์แคแนลนะคะมีสอง
00:17:55 → 00:17:58 ข้างซึ่งจริงแล้วทำหน้าที่เกี่ยวกับการ
00:17:58 → 00:18:01 ทรงตัวการ Balance นะคะคันนี้มันมีพัฒนา
00:18:01 → 00:18:04 มาอย่างไรให้เหมาะกับการวิ่งนะฮะก็เข้ายา
00:18:04 → 00:18:06 นี้มันก็คือหรือที่คนชอบเรียกว่าน้ำในหู
00:18:06 → 00:18:08 ไม่เท่ากันนะเนาะก็คือถ้าน้ำในหูไม่เท่า
00:18:08 → 00:18:11 กันก็มีมีอัดและนั่นก็คือสิ่งที่เกิดขึ้น
00:18:11 → 00:18:14 ก็คือว่าเค้าให้เซลล์มีสุขคะแนวของมนุษย์
00:18:14 → 00:18:17 เนี่ยมันมีขนาดที่ใหญ่เกินความจำเป็น
00:18:17 → 00:18:21 สำหรับการเดินซึ่งค่ะหมายความว่าคือของ
00:18:21 → 00:18:23 เรานั้นมันมีขนาดเท่ากับสัตว์ที่มีการการ
00:18:23 → 00:18:26 เคลื่อนที่แบบลักษณะของต้องเป็นป่าเยอะ
00:18:26 → 00:18:30 หรือว่าเป็นหลักสำคัญที่ต้องวิ่งขอวิ่ง
00:18:30 → 00:18:33 และวิจารณ์กระเทือนมากก็เลยเชื่อว่าเอา
00:18:33 → 00:18:34 อวัยวะส่วนนี้มันขยายใหญ่ขึ้นกว่า
00:18:34 → 00:18:37 บรรพบุรุษของเราเนี่ยเพราะว่าเราเนื้อ
00:18:37 → 00:18:41 เพลงมากวิ่งมากขึ้นคือไม่ใช่แบบมันพระบท
00:18:41 → 00:18:45 ที่เน้นเดินเป็นหลักอีกเอาไว้วันที่ที่
00:18:45 → 00:18:49 ที่ที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงแล้วก็คือว่าใน
00:18:49 → 00:18:50 สันรูดได้นำส่วนใหญ่ที่ต้องวิ่งด้วยความ
00:18:50 → 00:18:53 เร็วสูงเนี่ยที่ต้องวิ่งระยะไกลเนี่ยมัน
00:18:53 → 00:18:56 จะมีหางหน้าที่ของหางคืออะไรก็คือเป็น
00:18:56 → 00:18:57 เรื่องของการที่เหมือนเป็นหางเสืออะไรก็
00:18:57 → 00:19:01 คือควบคุมสมดุลตอนที่ต้องขอเลี้ยวเข้า
00:19:01 → 00:19:04 โค้งซ้ายทีขวาทีเนี่ยเพื่อครับเพื่อการ
00:19:04 → 00:19:06 ทรงตัวแต่หัวใจเราจะหันไปทางขวานะเราจะ
00:19:06 → 00:19:08 เลี้ยวไปทางขวาเนี่ยหาก็จะปัดไปทางซ้าย
00:19:08 → 00:19:13 ถูกไหมอ่ะและกันคงไม่ให้เสียสมดุลแต่คน
00:19:13 → 00:19:17 ไม่มีหางเนาะแต่ว่าเรามีการยกก้นที่ใหญ่
00:19:17 → 00:19:20 มากฝึกก้นของมนุษย์ในใหญ่กว่าลิงทั่วไป
00:19:20 → 00:19:24 ซึ่งกำหนดคนที่ใหญ่มันคือช่วยในแก้ของการ
00:19:24 → 00:19:25 สมดุล
00:19:25 → 00:19:29 ตอนที่เราวิ่งจึงถ้าเราจับต้นแล้วตอนที่
00:19:29 → 00:19:31 เราเดินก็ตามที่เราวิ่งแล้วจะเห็นว่าคน
00:19:31 → 00:19:33 เนี่ยมันจะไม่ค่อยแข็งตอนที่เดินเท่าไหร่
00:19:33 → 00:19:35 คือไม่ได้ใช้งานเยอะเท่าไหร่แต่มันใช้งาน
00:19:35 → 00:19:37 เยอะจริงๆตอนที่วิ่ง
00:19:37 → 00:19:40 ตอนนี้ฟังอันนี้แล้วแบบตรงนี้นักวิ่งอยาก
00:19:40 → 00:19:42 จะฟังแล้วแบบตัดโตแล้วก็ตอนนี้ก็จะเข้า
00:19:42 → 00:19:44 กลางมีเทรนด์นะเนี่ยพวกนักวิ่งเขาเรียก
00:19:44 → 00:19:48 กลูเตียส branding ก็เราที่ไม่ใช่คือแผนก
00:19:48 → 00:19:51 ก็คือเหมือนกับว่าพยายามฝึกตอนวิ่งให้ใช้
00:19:51 → 00:19:54 กำเนิดบนเยอะมันจะวิ่งได้เร็วขึ้นเฮ้อน่า
00:19:54 → 00:19:57 สนใจที่นั่งนับจากนี้แหละไอ้วันก็คือ
00:19:57 → 00:20:00 เรื่องของขาสังเกตดูสัตว์ที่วิ่งอีเมล
00:20:00 → 00:20:02 ส่วนใหญ่นะสัตว์นักล่าทั้งหลายและขาในมัน
00:20:02 → 00:20:05 จะเรียวคือต้นขามันจะใหญ่มากแต่ว่าต้อง
00:20:05 → 00:20:08 ค้าส่วนปลายหนูจะเหวี่ยวมากที่ประโยชน์
00:20:08 → 00:20:09 ที่มันเป็นอย่างนี้เพราะว่าว่ามันจะไป
00:20:09 → 00:20:13 อยู่ที่ตรงต้นขาหมดส่วนขาที่เรียวนำจะทำ
00:20:13 → 00:20:16 ให้มันเบาถูกมั้ยเจนนี่นึกภาพแล้วก็คือ
00:20:16 → 00:20:19 ว่ามันเหมือนกับเราจะเหวี่ยงอะไรสักอย่าง
00:20:19 → 00:20:22 แท้สิ่งที่เราเหวี่ยงเนี่ยเราใช้แรงไม่
00:20:22 → 00:20:25 อยู่ตรงส่วนที่อยู่ทั้งต้นและส่วนที่ไปๆ
00:20:25 → 00:20:28 มันเบาไม่ทำให้เหวี่ยงได้เร็วขึ้นมันขา
00:20:28 → 00:20:31 ได้สามารถตวัดนี่ไงได้เร็วมากขึ้นจะขาของ
00:20:31 → 00:20:34 มนุษย์เนี่ยถือว่าใหญ่ก็ไม่ได้ว่าใต้เข่า
00:20:34 → 00:20:36 ลงไปเนี่ยจะมีลักษณะที่ใหญ่กว่าสัตว์ทั่ว
00:20:36 → 00:20:41 ไปเหตุผลก็คือว่าเราย้ายกล้ามเนื้อจากที่
00:20:41 → 00:20:44 อยู่ต้นขายเนี่ยไปไว้ที่ส่วนไปปลายขาบ้าง
00:20:44 → 00:20:47 คือแบ่งไปบ้างก็ไม่กล้ามเนื้อมันสั้นได้
00:20:47 → 00:20:50 กล้ามเนื้อมันสั้นเนี่ยมันทำให้
00:20:50 → 00:20:53 ผมขอพลังหรือว่าแรงที่มันต้องใช้ในการ
00:20:53 → 00:20:56 เบี่ยงขาเนี่ยมันลดลงถูกมั้ยก็คือมันก็
00:20:56 → 00:20:59 เราจับกับล่ะถ้าถึงของยาวแล้วต้องใช้แรง
00:20:59 → 00:21:01 เยอะแล้วถึงของสั้นๆก็ไม่ต้องใช้แรงเยอะ
00:21:01 → 00:21:03 มากข้อดีคือทำให้กล้ามเนื้อนะเนี่ยมันไม่
00:21:03 → 00:21:06 มันไม่ต้องใช้รายงานเยอะแต่มันทำงานได้
00:21:06 → 00:21:10 นานขึ้นพูดง่ายๆก็คือทำให้ผ่อนๆใช่แล้วก็
00:21:10 → 00:21:11 อีกส่วนหนึ่งก็เป็นส่วนเรื่องน้อยก็เป็น
00:21:11 → 00:21:13 ไรหรือของกล้ามเนื้อคือว่าจะมีซ่ามือที่
00:21:13 → 00:21:15 เรียกว่ากรรมนึงนะเป็นซำเหนือทำงานทน
00:21:15 → 00:21:19 เนี่ยมากกว่ากล้ามเนื้อทำงานเร็วซึ่งจะมี
00:21:19 → 00:21:21 ชื่อว่า fastest กับ slow to Search หา
00:21:21 → 00:21:23 ค่าของมนุษย์เนี่ยค่อนข้างจะมี sotus
00:21:23 → 00:21:25 เนี่ยค่อนข้างมากกว่าถ้ารับเศร้าทะเว้นใน
00:21:25 → 00:21:30 ก็คือเน้นให้ท่อนใช่ก็มาดูที่น้อง
00:21:30 → 00:21:32 น้องในปีนี้อวัยวะหนึ่งซึ่ง
00:21:32 → 00:21:36 ปกติมันไม่ได้มีหน้าที่ในช่วงที่เวลาเรา
00:21:36 → 00:21:39 เดินมากนักเธอก็คือนอกเหนือไม่ได้ทำงาน
00:21:39 → 00:21:41 เยอะมากกว่าที่เราเดินแต่จะทำงานมากตอน
00:21:41 → 00:21:45 ที่เราวิ่งถูกไหมเพราะฉะนั้นเนี่ยเอ่อถ้า
00:21:45 → 00:21:47 มองในแง่นี้นะมันจะมีลักษณะนั้นก็คือว่า
00:21:47 → 00:21:50 โครงสร้างของขาและกล้ามเนื้อมนุษย์เนี่ย
00:21:50 → 00:21:52 แกะออกแบบมาให้เหมือนมี 2 เกียร์คือ
00:21:52 → 00:21:55 เกียร์สมุดเดินกับเกียร์สมัครวิ่งโทรมา
00:21:55 → 00:21:58 ใช้ใช้ต่อกล้ามเนื้อแล้วก็หลายๆอย่างใน
00:21:58 → 00:22:01 ที่ต่างกันไปอย่างตอนที่ยักษ์สัตว์อื่น
00:22:01 → 00:22:03 สัตว์ที่วิ่งเล่นอื่นๆจะไม่ค่อยมีน้องมาก
00:22:03 → 00:22:06 ที่นี่โอเคค่ะนี่มาถึงส่วนที่ล่าสุดใน
00:22:06 → 00:22:10 ส่วนเท้าของเราเท้าเราเนี่ยมันจะมีถ้าเรา
00:22:10 → 00:22:12 คำถามของเรานะโดยเฉพาะถ้าเราทำท่าในละ 3
00:22:12 → 00:22:15 อันค่ะอย่างเท้าเนี่ยก็จะเห็นชาติว่าเท้า
00:22:15 → 00:22:18 ของเราเนี่ยมันจะมีเหมือนสปริงอยู่อยู่ 2
00:22:18 → 00:22:22 ส่วนด้วยกันใหญ่จะเป็นงานล่ะก็เคืองชนิด
00:22:22 → 00:22:24 เทนดอนเห็นร้อยหวายเป็นร้อยไว้ด้านหลังก็
00:22:24 → 00:22:26 คือว่าเวลาลูวิ่งเนี่ยมันจะช่วยไหมครับ
00:22:26 → 00:22:30 เก็บแรงกระแทกเอาไว้แล้วก็ดีดดีดเราเวลา
00:22:30 → 00:22:33 เวลาที่เราไม่ออกไปทำให้รู้สึกเหมือนเรา
00:22:33 → 00:22:36 เด้งไปเรื่อยๆอันที่สองคือตัวอ่าของเท้า
00:22:36 → 00:22:39 คือส่วนโค้งของเท้าจะได้เท้าของมนุษย์ใน
00:22:39 → 00:22:42 จะมีส่วนโค้งอยู่ 3 3 อันอันแรกในจะเป็น
00:22:42 → 00:22:46 ส่วนโค้งจากหัวแม่เท้าที่ส้นเท้าอันที่ 2
00:22:46 → 00:22:49 เป็นส่วนโค้งอันเนี้ยอันส่วนของกันและกัน
00:22:49 → 00:22:52 จะเห็นง่ายกูขอที่ 2 มาจากขานิ้วก้อยเท้า
00:22:52 → 00:22:56 ในไปที่ส้นเท้าซึ่งปกติหมอจะภายนอกจะมอง
00:22:56 → 00:22:58 ไม่เห็นมันจะเห็นก็ต้องตอบว่าไปเอ็กซเรย์
00:22:58 → 00:23:01 ดูจะเห็นว่ากระดูกมันโค้งอยู่อันที่ 3 จะ
00:23:01 → 00:23:03 เป็นโค้งจากซ้ายไปขวา
00:23:03 → 00:23:07 ซึ่ง Echo พรุ่งนี้นึกทำจะเหมือนกับคัน
00:23:07 → 00:23:11 ธนูที่ที่วางความอยู่แล้วเวลาเรากดเอาแรง
00:23:11 → 00:23:13 กดลงไปเวลาแล้วมันเราวิ่งแล้วกระแทกลงไป
00:23:13 → 00:23:15 เนี่ยมันจะช่วยเหมือนกับคันทะนงก็จะถูก
00:23:15 → 00:23:19 ยืดออกใช่ไหมแล้วก็พอเราเราขอก้าวขาถัดไป
00:23:19 → 00:23:22 น่าจะเข้าจะมามันจะเด้งขึ้นก็จะทำหน้าที่
00:23:22 → 00:23:25 เหมือนเป็นสปริงที่คอยดันให้เราเนี่ยขอ
00:23:25 → 00:23:28 เดินหน้าไปเรื่อยๆซึ่งอันนี้มันก็จะเป็น
00:23:28 → 00:23:30 สำคัญที่มันก็ระบบประหยัดพลังงานศพการ
00:23:30 → 00:23:33 วิ่งให้ฟังเราแบบนึกถึงโฆษณาพวกรองเท้า
00:23:34 → 00:23:36 วิ่งเนี่ยมันจะแบบมีเนี่ยต้องแบบใช้วัตถุ
00:23:36 → 00:23:38 ดิบต่างๆทรายคาร์บอนใช้อะไรเพื่อให้มัน
00:23:38 → 00:23:41 เกิดสปริงเลยแบบนี้แต่ว่าจริงๆแล้วแบบเธอ
00:23:41 → 00:23:45 ธรรมชาติมันมีสปริงมีกลไกในติดมาให้อยู่
00:23:45 → 00:23:49 ในเท้าและน่าสนใจมากเลยหนึ่งชายก็น่าสนใจ
00:23:49 → 00:23:50 เพราะฉันกำลังเค้าก็เจอมันมีส่วนที่มัน
00:23:50 → 00:23:53 เป็น Extension ขยายจากสิ่งที่ธรรมชาติ
00:23:53 → 00:23:55 สร้างไว้อยู่แล้วเนาะแล้วเราก็ทำให้มันดี
00:23:55 → 00:23:59 ขึ้นที่นี่ที่พิเศษสุดเลยเนี่ยก็คือห่วง
00:23:59 → 00:24:01 ที่สำคัญว่าสำคัญที่สุดในที่เป็นตัวบ่ง
00:24:01 → 00:24:03 ชี้ว่ามนุษย์เนี่ยเป็นสิ่งมีชีวิตที่วิ่ง
00:24:03 → 00:24:06 ได้นั้นนี่ได้เร็วว่าโทษทีวิ่งได้ทนก่อ
00:24:06 → 00:24:08 สร้างอื่นๆก็คือเรื่องของระบบความร้อน
00:24:08 → 00:24:11 ระบบระบายความระบายความร้อนอันนี้อันนี้
00:24:11 → 00:24:15 รู้ไหมไม่รู้รายละเอียดครับก็คือนี้ปกติ
00:24:15 → 00:24:18 ในสัตว์อื่นเนี่ยฉันรู้ได้นอนอื่นๆที่ไม่
00:24:18 → 00:24:19 วิ่งกันว่าเราจะระบายความร้อนทำไมต้องใช้
00:24:19 → 00:24:22 วิธีการหายใจที่ตีกลับมาพร้อมวิ่งไปสัก
00:24:22 → 00:24:25 พักมันต้องหยุดพักหลายใจและนำมาใช่ที่นี่
00:24:25 → 00:24:28 ปกติสัตว์อื่นๆที่เป็นวิ่งสีขาเรื่องๆ
00:24:28 → 00:24:31 เร็วๆเนี่ยระบบการหายใจของมานะจะทำงานคู่
00:24:31 → 00:24:35 กับการวิ่งถูกตั้งเนื้อมันใช้ร่วมกันนะก็
00:24:35 → 00:24:38 คือตอนที่มึงวิ่งไม่ต้องมันไม่สามารถที่
00:24:38 → 00:24:41 จะหายใจผิดๆแบบที่ใช้ระบายความร้อนได้
00:24:41 → 00:24:43 เพราะฉันไม่สามารถจะวิ่งไประบายความร้อน
00:24:43 → 00:24:46 ได้ซึ่งอันนี้เป็นเหมือนกันหมดเลยว่าจะ
00:24:46 → 00:24:48 เป็นมาม้าลายกวางอุ่นเลยต่างเสื้อมาตัว
00:24:48 → 00:24:51 กำจัดตัวจำกัดจะวิ่งได้ไกลมากก็คือเรื่อง
00:24:51 → 00:24:54 ของความร้อนแต่มนุษย์เนี่ยเรามีระบบระบาย
00:24:54 → 00:24:57 ความร้อนที่พิเศษมากขึ้นเราใช้เหงื่อ
00:24:57 → 00:25:00 ระบายความร้อนทางเหนือด้วยซึ่งสามารถเป็น
00:25:00 → 00:25:03 ความร้อนได้ดีมากและเราไปความร้อนได้ตลอด
00:25:03 → 00:25:05 เวลานั่นก็หมายความว่าเราเนี่ยสามารถจะ
00:25:05 → 00:25:08 วิ่งไปเรื่อยๆไปที่เราจะมีน้ำน้ำดื่มเข้า
00:25:08 → 00:25:11 มาไม่คือไม่แห้งน้ำเกินไปนะคือผลว่าทำไม
00:25:11 → 00:25:14 มนุษย์เนี่ยสามารถที่จะวิ่งไล่เขาสัตว์
00:25:14 → 00:25:17 อื่นๆจนกระทั่งมันหมดแรงแล้วก็สามารถเข้า
00:25:17 → 00:25:20 ไปสังหารมันได้เพราะเราแบบมีข้อได้เปรียบ
00:25:20 → 00:25:22 ทางการระบายความร้อนตรงนี้นี่ซึ่งเป็น
00:25:22 → 00:25:26 ระบบที่สำคัญมากที่สุดท้ายนะเราจริงๆถาม
00:25:26 → 00:25:28 นั่นก็คือจริงๆเคยผลว่าทำไมมนุษย์ถึงจะ
00:25:28 → 00:25:33 เป็นลิงที่ไม่มีขนโอ้วก็ไปความร้อนเองใน
00:25:33 → 00:25:35 คำอธิบายแล้วแต่ว่าตอนนี้เราคงไม่ได้เลย
00:25:35 → 00:25:37 คุยรายละเอียดแค่พูดกันพูดถึงไม่ได้หน่อย
00:25:37 → 00:25:40 ค่ะจริงมันอีกอันหนึ่งที่น่าสนใจก็คือไอ้
00:25:40 → 00:25:44 ระบบที่เขาเรียกว่าเนื้อหายเกิดวิ่งไปถึง
00:25:44 → 00:25:46 จุดหนึ่งในผู้นักวิ่งจะมีความฟินไม่เข้า
00:25:46 → 00:25:49 ใจในข้อนี้ไหมก็เป็นเออมันจะเป็นคือมัน
00:25:49 → 00:25:52 พรุ่งนี้จะถ้าเกิดจากการที่กันหลังของพวก
00:25:52 → 00:25:54 สารที่เรา endo คณะพี่น้อยเคยว่า
00:25:54 → 00:25:56 เอนดอร์ฟินในพรุ่งนี้เธอก็เหมือนเป็นพวก
00:25:56 → 00:25:59 ตระกูลกัญชาในร่างกายสังเฆมีโครงสร้างให้
00:25:59 → 00:26:03 คล้ายกันที่นี่เนี่ยเอ้ยข่าวว่าเนี่ยที่
00:26:03 → 00:26:04 รู้ว่าวิ่งไปเยอะถึงจุดนึงแล้วเกิดการ
00:26:04 → 00:26:07 หลังพวกสารโดคะหน้าพี่น้อยสิมันไม่ได้พบ
00:26:07 → 00:26:10 ในสัตว์อื่นทุกชนิดพร้อมเช่นสัตว์ที่มี
00:26:10 → 00:26:14 ระยะสั้นๆหลายอย่างมันไม่พบเจอไม่ว่าจะ
00:26:14 → 00:26:16 เป็นพวกก็คือสัตว์อันหลายๆอย่างสั้นเล่น
00:26:16 → 00:26:18 กับหลายอย่างที่ระยะสั้นจะไม่พบภาวะนี้จะ
00:26:18 → 00:26:21 สัตว์ที่วิ่งไปๆเนี่ยอย่างเช่นพวกคุณ
00:26:21 → 00:26:23 สุนัขแต่เราเฉพาะพรุ่งนี้ได้แค่นี้ก็อัน
00:26:23 → 00:26:25 นี้ก็บองบ่ๆอย่างในว่าสมองเราเนี่ยอาจจะ
00:26:25 → 00:26:29 วิวัฒนาการมาให้ชอบการวิ่งใช่เลยใช่เลย
00:26:29 → 00:26:34 ที่นี่ทั้งหมดนี้ก็คือจบล่ะก็คือคำที่บาย
00:26:34 → 00:26:36 ว่าทำไมเป็นเหมือนเป็นหลักขาละที่ให้เห็น
00:26:36 → 00:26:38 ว่ามนุษย์เนี่ยมีพัฒนาการมันก็เป็นนัก
00:26:38 → 00:26:42 วิ่งที่วิ่งระยะไกลจริงๆที่ได้คำถามว่ามี
00:26:42 → 00:26:45 ตั้งแต่แค่ไหนมาราธอนนะเรามาทอนเนี่ยอัน
00:26:45 → 00:26:47 นี้คำตอบจริงปัจจุบันถือว่ายังไม่ชัดเจน
00:26:47 → 00:26:51 แต่ว่าเขาก็จะถ้าเราเข้าสู่ปั่นก็คือว่า
00:26:51 → 00:26:53 มนุษย์เนี่ยมีความสามารถการวิ่งที่ยืด
00:26:53 → 00:26:55 หยุ่นมากๆหมายความว่าถ้าเราสามารถที่จะ
00:26:55 → 00:26:59 เทรนได้เนี่ยมันก็อาจจะสมัยวิ่งไปได้ไกล
00:26:59 → 00:27:02 เรื่อยๆจะถามว่ามันจะมีจุดที่แบบโอเคมัน
00:27:02 → 00:27:04 เริ่มเพิ่มไม่ดีกับสุขภาพหรือเปล่าเนี่ย
00:27:04 → 00:27:07 อันนี้อาจจะมีแต่คำตอบยังไม่ชัดเจนใช่ไหม
00:27:07 → 00:27:10 มันก็จะมีคนพูดถึงว่าเป็นคนที่วิ่ง
00:27:10 → 00:27:14 มาราธอนเยอะมากๆวิ่งเอาตามอาทรเยอะเลย
00:27:14 → 00:27:17 เนี้ยอาจจะปวดใจอาจจะไม่ไหวแต่ก็จะมีคน
00:27:17 → 00:27:19 แย้งว่าถ้าคุณสามารถเทรนได้แบบค่อยเป็น
00:27:19 → 00:27:23 ค่อยไปมันก็จะอาจจะไปได้ว่าคอนเทนต์ใหม่
00:27:23 → 00:27:26 ว่าตรงนี้จริงปัจจัยในที่มันทำให้สรุปยาก
00:27:26 → 00:27:29 เพราะว่าคนเราเนี่ยมันแตกต่างกันมากเพราะ
00:27:29 → 00:27:33 ฉะนั้นในบางทีเราเอาเหมือนกับ
00:27:33 → 00:27:37 กิจกรรมกิจกรรมนึงเนี่ยเรามาวัดในแล้วมา
00:27:37 → 00:27:40 ใช้อธิบายคนทุกคนเลยเนี่ยมันอาจจะมาจาก
00:27:40 → 00:27:42 กว้างเกินไปอาจจะต้องดูเป็นรายบุคคลความ
00:27:42 → 00:27:46 แข็งแรงพันธุกรรมหัวใจเดิมความเสี่ยงและ
00:27:46 → 00:27:49 แบบนี้เนอะคนเป็นไงพูดถึงตรงนี้ทำให้พูด
00:27:49 → 00:27:53 ไม่ถึงคนหนึ่งแต่ฉันก็คือชื่อว่าดีนค่ะนะ
00:27:53 → 00:27:56 จ๊ะใช่มั้ยอ๋อก็ดิเอาตามาตอน Man นะคะผัว
00:27:56 → 00:27:59 คนนี้นี่คือแบบสุดยอดเป็นคนที่แบบวิ่ง
00:27:59 → 00:28:01 ตั้งแต่เด็กคือแบบฉันชีวิตนี้ฉันเกิดมา
00:28:01 → 00:28:04 ผู้วิ่งเนี่ยแล้วก็ล่าสุดในพึ่งทำสถิติไป
00:28:04 → 00:28:06 ก็คือวิ่ง
00:28:06 → 00:28:10 568 กิโลเมตรอ่ะ 3 วันครึ่งนะทั้งหมดอ้ะ
00:28:10 → 00:28:14 โดยที่แบบไม่หยุดเลยเนี่ยแบบคือทลายขีด
00:28:14 → 00:28:16 จำกัดของมนุษย์เนี่ยเป็นที่ที่ช่วยคือเขา
00:28:16 → 00:28:18 วิ่งอยู่ที่ไม่นอนเลยอ่ะตะวัน 3 วันครึ่ง
00:28:18 → 00:28:22 เนอะซึ่งมันจริงๆก็บอกว่านี้ของเขามัน
00:28:22 → 00:28:24 เป็นตัวที่จะเห็นอะไรว่ามนุษย์ในวันนี้
00:28:24 → 00:28:27 ร่างกายที่สามารถที่จะไปถึงขีดก็ขีดจำกัด
00:28:27 → 00:28:30 ของมนุษย์มาสูงมากและถ้าเราเทรนไปเรื่อยๆ
00:28:30 → 00:28:33 ที่คณะสั้นเขามาตั้งแต่เด็กวิ่งด้วยความ
00:28:33 → 00:28:35 ชอบไปเรื่อยๆมาสมาธิไปได้ไกลมาก
00:28:35 → 00:28:39 โอเคสำหรับเรื่องตัวนี้ก็มีแค่นี้แหละมี
00:28:39 → 00:28:41 อะไรจะเสริมไหม
00:28:41 → 00:28:45 เอาของไปให้ว่ามันน่าสนใจมากแล้วคือร่าง
00:28:45 → 00:28:48 กายเราเนี่ยมันโดนวิวัฒนาการแบบล้านปีมา
00:28:48 → 00:28:51 เนี่ยให้ให้เหมาะกับการวิ่งจริงนะอยู่แถว
00:28:51 → 00:28:53 นี้พายุปัจจุบันเนี่ยเราไม่มีกวางไม่มี
00:28:53 → 00:28:55 กระต่ายเลยเนี่ยให้เราไปวิ่งล่าแล้วอะไร
00:28:55 → 00:28:58 เงี้ยเราก็เลยต้องหันมาล่าช่วยทั้งวัน
00:28:58 → 00:29:01 ต้องเรียนรางวัลแท้เลยเนี้ยเมื่อไหร่ใจ
00:29:01 → 00:29:04 ที่มาทอนมันแบบฮิตขนาดนี้แล้วก็คนเนี่ยไป
00:29:04 → 00:29:07 วิ่งแล้วทุกคนพูดเหมือนกันนะว่ามันฟินเลย
00:29:07 → 00:29:09 มันรู้สึกฟิตมันฟินอะไรเงี้ยขึ้นเหนื่อย
00:29:09 → 00:29:11 แค่ไหนทรมานร่างกายอะไรเงี้ยแต่ว่าวินาที
00:29:11 → 00:29:15 ที่นี่คือแบบผ่าเส้นชายไปมันคือแบบเป็น
00:29:15 → 00:29:17 อีกก้าวหนึ่งชีวิตเลยนะเนี่ยเข้าใจมากๆ
00:29:17 → 00:29:20 คือคือว่ามันเหมือนกับคนที่วิ่งมันคือแต่
00:29:20 → 00:29:22 คนนึกภาพอ่ามันก็จะมีภาพนะครับตัวเอง
00:29:22 → 00:29:24 เนี่ยมันถึงว่าหลังจากที่เขาได้ฟังเรื่อง
00:29:24 → 00:29:27 นี้เนี่ยคะน่าจะไม่ถึงภาพแล้วสำคัญที่แบบ
00:29:27 → 00:29:29 มันกลับไป Connect กับบรรพบุรุษของมนุษย์
00:29:29 → 00:29:33 เพราะการวิ่งในคือมันก็เป็นรากฐานที่นำมา
00:29:33 → 00:29:35 สู่มนุษย์ทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องของความ
00:29:35 → 00:29:38 ฉลาดแล้วก็จะไม่ภาพไปวิ่งในทุ่งหญ้าวิ่ง
00:29:38 → 00:29:41 ได้ล่าวิ่งไปเรื่อยเรื่อยๆนะแล้วการวิ่ง
00:29:41 → 00:29:45 ไปในก็เหมือนเป็นเป็นเลข 4 ของเผ่าพันธุ์
00:29:45 → 00:29:48 มนุษย์โฮโมเซเปียนโอเคสุดวันนี้ก็คิดว่า
00:29:48 → 00:29:51 น่าจะพอทนนี้เลยเนอะก็ก็สวยนะครับก็ถ้า
00:29:51 → 00:29:53 ชอบฝากเหมือนเดิมเมื่อคือฝากกด like กด
00:29:53 → 00:29:56 Share comment Subscribe นะครับแล้วก็
00:29:56 → 00:29:58 เราเจอกันนายพิสนธิ์หน้าคงจะเรื่องของว่า
00:29:58 → 00:30:01 ทำไมไม่รู้ถึงต้องใช้ความร้อนทำอาหารซึ่ง
00:30:01 → 00:30:03 ทำอะไรต้องกินอาหารสุข
00:30:03 → 00:30:06 สันติส่วนนี้นะคะก็ต้องขอบคุณสปอนเซอร์
00:30:06 → 00:30:12 ของเรา slc คลิป lsb ดีความงามที่เป็นคุณ
00:30:12 → 00:30:14 ขอบคุณค่ะ
00:30:14 → 00:30:16 รับสมัครวันนี้เราสองคนเข้าขอลาไปก่อนนะ
00:30:16 → 00:30:27 ครับสวัสดีครับสวัสดีค่ะอ่ะ
00:30:27 → 00:30:30 [เพลง]
00:30:30 → 00:30:33 อิอิ