00:00:00 → 00:00:03 [เพลง]
00:00:03 → 00:00:05 ภาวะที่เราเรียกว่าเป็นกล้ามเนื้อลดลง
00:00:05 → 00:00:08 แข็งแรงลดลงมาพร้อมกับแคมากขึ้นเราเรียก
00:00:08 → 00:00:11 ว่าเป็นcคopinic obity ครับซึ่งในรูปนี้
00:00:11 → 00:00:15 ค่อนข้างบอกเราได้ชัดเนาะว่าการที่เรามี
00:00:15 → 00:00:18 แฟชมากขึ้นกล้ามเนื้อที่เสื่อมถอยลงนั้น
00:00:18 → 00:00:21 นะครับการที่เ้ามาคู่กันเราเรียกเป็น
00:00:21 → 00:00:25 coexistent of access adiposity
00:00:25 → 00:00:27 adiposityy เป็นบทนึงซึ่งอยากให้ทุกคน
00:00:27 → 00:00:29 รู้จักเนาะวันนี้ต้องขออนุญาตพูดภาษา
00:00:29 → 00:00:31 อังกฤษกิจประกอบด้วยเพราะว่าในปัจจุบัน
00:00:31 → 00:00:33 เนี่ยองค์ความรู้เรื่องนี้เนี่ยอยากให้
00:00:33 → 00:00:37 พวกเราศึกษาทั้งไทยแล้วก็อังกฤษไปด้วยกัน
00:00:37 → 00:00:40 เราจะได้ความรู้ที่มากขึ้นนะครับฟังหมอ
00:00:40 → 00:00:43 ตั้มวันนี้ปุ๊บอ่ะอาจจะไปฟังคุณหมอท่าน
00:00:43 → 00:00:46 อื่นหรือเปิดเข้าไปในช่องที่มีคุณหมอเอ่อ
00:00:46 → 00:00:49 ต่างชาตินะครับทางฝั่งยุโรปอเมริกาเนี่ย
00:00:49 → 00:00:51 เขาจะอัปเดตความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้
00:00:51 → 00:00:54 ค่อนข้างไวขึ้นกว่าบ้านเรานะครับเพราะ
00:00:54 → 00:00:57 ฉะนั้นเนี่ยฟังให้คุ้นนะครับไม่ต้องอาจจะ
00:00:57 → 00:00:59 ไม่ได้เข้าใจทั้งหมดวันนี้ทั้งหมดทีเดียว
00:00:59 → 00:01:02 แต่ว่าให้เราได้คุ้นตาคุ้นหูมากขึ้นนะ
00:01:02 → 00:01:05 ครับอ่าเพราะหลายๆท่านก็บอกว่าเอ้ยคุณหมอ
00:01:05 → 00:01:07 พูดภาษาอังกฤษด้วยก็อยากให้พวกเราได้
00:01:07 → 00:01:09 เรียนรู้นะครับตรงนี้เพราะฉะนั้นบอกว่า
00:01:09 → 00:01:12 เป็นสิ่งที่สำคัญนะครับอ่านิยามของ
00:01:12 → 00:01:16 Pคopinic Obity นะครับเรามีหน่วยงานที่
00:01:16 → 00:01:21 เค้าให้คำนิยามนะครับก็คือของ ESP EN
00:01:21 → 00:01:24 ฝั่งยุโรปแล้วก็ EASO นะครับก็เป็นของ
00:01:24 → 00:01:27 ฝั่งยุโรปเหมือนกันนะครับเค้ามีคำข้อสรุป
00:01:27 → 00:01:32 ในปี 22 ออกมาว่าก็คือการที่แฟชเพิ่มขึ้น
00:01:32 → 00:01:36 ประกบกับการที่มีมวลกล้ามเนื้อลดลงความ
00:01:36 → 00:01:39 แข็งแรงลดลงนั่นเองนะฮะก็เป็นการมาจoอย
00:01:40 → 00:01:44 กันพอดีระหว่างobิกับ
00:01:44 → 00:01:48 ไดอะแกรมนี้นะฮะโชว์ทั้งหมด 4 กลุ่มของ
00:01:48 → 00:01:52 เ่อวัยผู้ใหญ่เราจะเห็นว่าคนที่มีเอ่อ
00:01:52 → 00:01:55 Healthy Wight ก็อยู่ในหมายเลข 1 นะ
00:01:55 → 00:01:58 ครับคนที่มีกล้ามเนื้อน้อยลงซาโคพิีเนี่ย
00:01:58 → 00:02:01 ก็มี strength ที่ลดลง muscle quality
00:02:01 → 00:02:05 ที่ลดลง physical performance ที่ลดลงนะ
00:02:05 → 00:02:07 ฮะอ่าถ้าเป็นกลุ่ม obity เหมือนที่หมอ
00:02:07 → 00:02:09 เล่าให้ฟังเห็นมั้ยเค้าโฟกัสที่เรื่องของ
00:02:09 → 00:02:12 access adiposity ครับแล้วก็มีโรคร่วม
00:02:12 → 00:02:15 อื่นๆซึ่งมาพร้อมกับ obesity ไม่ว่าจะ
00:02:15 → 00:02:19 เป็นเรื่องของโรคหัวใจในหลอดเลือดโรคของ
00:02:19 → 00:02:23 เบาหวานอ่าภาวะตับข้างไขมันไขมันในเลือด
00:02:23 → 00:02:26 ผิดปกตินะครับแล้วก็กลุ่มกล้ามเนื้อ
00:02:26 → 00:02:29 มาสคโลสเกตนะครับปวดข้อปวดเข่าเนาะข้อ
00:02:29 → 00:02:32 เข่าเสื่อมเมื่อไหร่ก็ตามเค้าฟิกันอ่ะ
00:02:32 → 00:02:36 ประจบพบเจอกันอยู่ตรงกลางเราเรียกเป็น
00:02:36 → 00:02:39 obity นะครับก็จะเพิ่มความเสี่ยงนะครับ
00:02:39 → 00:02:42 คำถามก็คือว่าเอ๊ะทำไมinic
00:02:43 → 00:02:47 obity นั้นเาเพิ่มความเสี่ยงมากกว่า
00:02:47 → 00:02:49 อย่างเดียวนะครับวันนี้เรารู้จักแล้ว
00:02:49 → 00:02:52 เรื่องของทั้งโฟกัสที่เรื่องของเสียบถอย
00:02:52 → 00:02:54 กล้ามเนื้อ
00:02:54 → 00:02:57 obesity บวกการที่มีไขมันเพิ่มขึ้นมา
00:02:57 → 00:02:59 ร่วมด้วย
00:02:59 → 00:03:03 obity เค้าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญมาก
00:03:03 → 00:03:06 เราไม่ได้พบภาวะนี้แค่ผู้สูงอายุเหมือน
00:03:06 → 00:03:09 กับซาโคพิเนียอย่างเดียวแต่ในยุคปัจจุบัน
00:03:09 → 00:03:13 นี้เราเริ่มพบมากในคนอายุที่น้อยลงเพราะ
00:03:13 → 00:03:15 อะไรครับเพราะในปัจจุบันนี้เรามีคนที่
00:03:15 → 00:03:18 อ้วนมากขึ้นนั่นเองนะอ่าในคนไทยถ้าเราจำ
00:03:18 → 00:03:21 ได้เนี่ยสำรวจสุขภาพคนไทยครั้งที่ 6
00:03:21 → 00:03:24 เนี่ยเราเจอคนที่มี BMI มากกว่าเท่ากับ 25
00:03:24 → 00:03:27 นะครับในวัยมากกว่า 15 ปีเนี่ยมากถึง
00:03:27 → 00:03:30 ประมาณ 42 กว่าเปอร์เซ็นอ่าเห็นมั้ยฮะแปล
00:03:30 → 00:03:33 ว่าอะไรเอ่ยเกือบเดินไปเจอวัยผู้ใหญ่ 2
00:03:33 → 00:03:37 คนเนี่ยมี 1 คนแล้วนะที่ BMI เกินนะฮะ BMI
00:03:37 → 00:03:40 เป็นสenนingก็จริงแต่ว่าถ้าเราดูให้มาก
00:03:40 → 00:03:43 กว่านั้นหมอว่าประมาณ 1 ใน 3 แหละในคน
00:03:43 → 00:03:46 ปัจจุบันนี้เราเริ่มอ้วนขึ้นพออ้วนขึ้น
00:03:46 → 00:03:50 ปุ๊บแนวโน้มที่กล้ามเนื้อเราจะฝ่อจะฟีบจะ
00:03:50 → 00:03:53 แข็งแรงลดลงเนี่ยมันก็จะไวกว่าปกติเห็น
00:03:53 → 00:03:56 มั้ครับไม่ต้องรอถึงอายุ 60 70 กล้าม
00:03:56 → 00:03:59 เนื้อก็จะลดลงนะครับ sarcopenic obesity
00:03:59 → 00:04:02 เพิ่มความเสี่ยงคาร์ดิสcular disease โรค
00:04:02 → 00:04:07 หัวใจและหลอดเลือดเบาหวานมะเร็งโรคอื่นๆ
00:04:07 → 00:04:10 ที่เป็นเกี่ยวกับโรคระบบการเผาผานลดใน
00:04:10 → 00:04:12 เรื่องของ quality of life นะครับตรง
00:04:12 → 00:04:15 นี้ก็มาจากหลายๆงานวิจัยนะครับที่เอาข้อ
00:04:15 → 00:04:18 มูลมาสรุปให้ดูตรงนี้นะครับอ่ะคราวนี้เรา
00:04:18 → 00:04:21 มาดูรูปนี้กันนะครับมาจาก Nature Review
00:04:21 → 00:04:24 Endocinology ปี 2024 นะครับเค้าก็ทำให้
00:04:24 → 00:04:28 เราเห็นว่า suyinic obity นั้นเพิ่มความ
00:04:28 → 00:04:30 เสี่ยงไม่ว่าจะเป็นอัตราการเจ็บป่วยการ
00:04:30 → 00:04:33 เสียชีวิตโรคทางระบบการเผาผลาหรือแม้
00:04:33 → 00:04:37 กระทั่งมะเร็งนะครับอ่าโรคในผู้สูงอายุ
00:04:37 → 00:04:41 อ่าตั้งแต่เรื่องของอาการเอ่อเรื่องของ
00:04:41 → 00:04:43 การที่เรามีเหนื่อยรากอ่อนเพลียเคลื่อน
00:04:43 → 00:04:46 ไหวไม่สะดวกนะครับความจำเสื่อมอ่าพวก
00:04:46 → 00:04:49 เนี้ยมีผลหมดเลยครับแต่ถ้าเราโฟกัสที่
00:04:49 → 00:04:51 เรื่องของ
00:04:51 → 00:04:54 อ่าอัตราการเสียชีวิตที่เรามอง mortality
00:04:54 → 00:04:56 rate นะครับ mortality rate ก็คือการ
00:04:57 → 00:04:59 เสียอัตราการเสียชีวิตถ้าเรามีภาวะนี้เรา
00:04:59 → 00:05:03 จะเห็นว่าเขานำเสนอในรูปของ HR ย่อมาจาก
00:05:03 → 00:05:06 Hazard Rชioครับเป็นจำนวนเท่าถ้าเทียบ
00:05:06 → 00:05:09 กับคนที่ไม่ได้มีภาวะนี้เราจะเห็นว่า
00:05:09 → 00:05:12 ซาโคพีอย่างเดียวเนี่ย Hazard Rชอยู่ที่
00:05:12 → 00:05:17 ประมาณจุด 1.3- 1.9 แต่ถ้าเรามี SO หรือ
00:05:17 → 00:05:21 Scopinic Obity นั้น Hazard เรชเพิ่ม
00:05:21 → 00:05:24 มากถึง 2.5 5 นะฮะเพราะฉะนั้นเนี่ยเป็น
00:05:24 → 00:05:29 ภาวะที่เราต้องคิดถึงมองหาแล้วก็ต้อง take
00:05:29 → 00:05:32 action ทันทีนะครับถ้าเรามีภาวะนี้เกิด
00:05:32 → 00:05:35 ขึ้นเนาะอแถวบ้านฟังทันนะครับวันนี้เรา
00:05:35 → 00:05:39 เข้าสู่ obity กันอย่างเต็มตัวแล้วจะเห็น
00:05:39 → 00:05:43 ว่ากลไกอะไรเอ่ยที่นำมาสู่ภาวะนี้นะครับ
00:05:43 → 00:05:45 มาจากทั้งเรื่องของ fat แล้วก็ muscle นะ
00:05:45 → 00:05:47 ครับไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของ
00:05:47 → 00:05:50 ฮอร์โมนอย่างเช่นกรฮอร์โมนฮอร์โมนเพศ
00:05:50 → 00:05:53 ฮอร์โมนที่เป็นสายanาบอลเนี่ยเค้าลดลงใช่
00:05:53 → 00:05:56 มั้ฮะกระบวนการอักเสบที่เป็น chronic
00:05:56 → 00:05:59 inflammation เรื่องของการที่มีเอ่อ
00:05:59 → 00:06:03 อนุมูลอิสระมากขึ้นในร่างกายอ่าการลดลง
00:06:03 → 00:06:05 ของเอ่อไมโตคอนเดรียหรือคุณภาพ
00:06:05 → 00:06:09 ไมโตคอนเดรียที่ลดลงภาวะดื้ออินซูลินเห็น
00:06:09 → 00:06:12 มั้ยเจ้าดื้ออินซูลินที่หมอตั้มเล่าให้
00:06:12 → 00:06:16 ฟังมาตลอดโอ้โหต้องบอกว่าในช่วง 10 ปีที่
00:06:16 → 00:06:19 ผ่านมาเนี่ยเค้าไปยุ่งกับทุกๆโรคในร่าง
00:06:19 → 00:06:21 กายของเราจริงๆครับอซูลิน resistance
00:06:21 → 00:06:23 เนี่ยโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ Skeletal
00:06:23 → 00:06:26 Muscle มันทำให้กล้ามเนื้อเราเนี่ยมี
00:06:26 → 00:06:30 ประสิทธิมี quality ที่ลดลง build ก็ยาก
00:06:30 → 00:06:32 เสื่อมฝ่อก็เร็วเห็นมั้ฮะเพราะฉะนั้น
00:06:33 → 00:06:36 เนี่ยต้องรู้จักเค้าป้องกันเ้าไว้ให้ดี
00:06:36 → 00:06:39 ที่สุดครับแล้วก็การที่มีความไม่สมดุลของ
00:06:39 → 00:06:42 ตัวadดิโพไลแล้วก็ไมโอไคลเห็นมั้ฮะทั้ง
00:06:42 → 00:06:46 หมดเนี้ยล้วนแล้วแต่เพิ่มความเสี่ยงในการ
00:06:47 → 00:06:49 ที่เราจะเพิ่มการเกิดโรคหัวใจและหลอด
00:06:49 → 00:06:53 เลือดเพิ่มเรื่องของโรคเมบอิsyนrมภาวะตับ
00:06:54 → 00:06:56 คั่งไขมันเนาะปัจจุบันนี้เรามีเทอมคำว่า
00:06:56 → 00:07:00 เป็น muscle นะครับแล้วก็ความจำเสื่อมเอย
00:07:00 → 00:07:02 เพิ่มความเสี่ยงการเสียชีวิตการเจ็บป่วย
00:07:02 → 00:07:05 นะครับก็การที่เรามีcโคenic obity นั้น
00:07:05 → 00:07:11 จึงเป็นภาวะที่เรียกว่าเอ่อเพิ่มอัตราการ
00:07:11 → 00:07:13 ตายไวนะครับแล้วก็เจ็บป่วยเร็วนั่นเอง
00:07:13 → 00:07:16 เนาะมาดูกันหน่อยว่าเอ๊ะสาเหตุอะไรเอ่ย
00:07:16 → 00:07:19 ที่ทำให้เกิดภาวะนี้ก็อย่างที่เราทราบ
00:07:19 → 00:07:23 ทั่วไปครับอายุที่มากขึ้นการที่เราบริโภค
00:07:23 → 00:07:26 อาหารที่ไม่ดีกับร่างกายของเราโดยเฉพาะ
00:07:26 → 00:07:29 อย่างยิ่งพวกกลุ่มแป้งน้ำตาลสูงกลุ่มขับ
00:07:29 → 00:07:32 อาหารแปรรูปแปรรูปขั้นสุด Ultra Process
00:07:32 → 00:07:35 Food นะครับการที่กินพวกกลุ่มเอ่อไขมัน
00:07:35 → 00:07:38 ที่เป็นไขมันแปรรูปพวกกลุ่มน้ำมันต่างๆ
00:07:38 → 00:07:41 มากเกินไปนะครับบวกกับไลฟ์สไตล์ของเราที่
00:07:41 → 00:07:44 ปัจจุบันนี้ต้องบอกว่าหลายๆคนก็ออกกำลัง
00:07:44 → 00:07:47 กายน้อยลงเนาะใช้ชีวิตแบบSLไลทกันมากขึ้น
00:07:47 → 00:07:50 นอนดึกทำงานที่ต้องเผชิญหน้ากับความ
00:07:50 → 00:07:53 เครียดมากขึ้นเราอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่
00:07:53 → 00:07:56 เอื้อให้เราอ้วนง่ายขึ้นเนาะเราเรียกว่า
00:07:56 → 00:07:59 เป็น obisogenic environment ไม่ว่าจะ
00:07:59 → 00:08:02 เป็นมลพิษทางอากาศการที่เราอยู่ในสังคม
00:08:02 → 00:08:05 เมืองที่มีความเครียดนะครับชีวิตเร่งรีบ
00:08:05 → 00:08:08 พวกเนี้ยครับการที่เราไม่มีพื้นที่ในการ
00:08:08 → 00:08:10 ออกกำลังกายที่เพียงพอนะฮะทั้งหมดเนี้ย
00:08:10 → 00:08:14 เป็นปัจจัยที่เป็น facor ที่เอื้อให้เรา
00:08:14 → 00:08:18 มีเรื่องของ obesity กันมากขึ้นภาวะเหล่า
00:08:18 → 00:08:21 นี้ครับเพิ่มอะไรเอ่ยก็คือเพิ่มการสะสมไข
00:08:21 → 00:08:24 มันในร่างกายมากขึ้นเพิ่มเรื่องของการ
00:08:24 → 00:08:27 เสี่ยงภาวะดื้อต่ออินซูลินแล้วก็นำไปสู่
00:08:27 → 00:08:30 ภาวะของการที่มีมวลกล้ามเนื้อที่ลดลงนะ
00:08:30 → 00:08:34 ครับอ่าถัดมาเราจะเห็นว่าการที่เรามี
00:08:34 → 00:08:37 เซลล์ไขมันที่เ้ามีไซingขนาดที่โตขึ้น
00:08:37 → 00:08:40 เนาะเราเรียกว่าเป็น fat cellลที่ expand
00:08:40 → 00:08:43 ขึ้นเนี่ยใครที่เคยฟังหมอไลในเรื่องของ
00:08:43 → 00:08:46 ดื้อต่ออินซูลินจะเห็นว่าเซลล์ไขมันของ
00:08:46 → 00:08:48 เราเนี่ยเวลาที่เราอ้วนขึ้นเนี่ยเค้าไม่
00:08:49 → 00:08:51 ค่อยเพิ่มจำนวนใช่มั้ฮะเค้าเลือกที่จะ
00:08:51 → 00:08:55 เพิ่มขนาดเพิ่มขนาดหรือว่าไซส์ของเซลล์ไข
00:08:55 → 00:08:58 มันมากขึ้นเราเรียกเป็นhyperทรophyเนาะ
00:08:58 → 00:09:01 อ่าการที่เซลล์ไขมันตัวโตขึ้นนั้นเค้าจะ
00:09:01 → 00:09:05 ทำหน้าที่ผิดปกติไปจากเดิมนะครับไม่ว่าจะ
00:09:05 → 00:09:07 เป็นเอ่อเพราะว่าอะไรเพราะว่าเ้ามีกระบวน
00:09:07 → 00:09:10 การอักเสบเกิดขึ้นข้างในเ้ามีอนุมูลอิสระ
00:09:10 → 00:09:13 เกิดขึ้นเขาก็จะดึงเซลล์เม็ดเลือดขาว
00:09:13 → 00:09:15 เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันเข้ามาเก็บกลิ่น
00:09:16 → 00:09:18 เห็นมั้ยครับในรูปนี้จะเห็นเซลล์เม็ด
00:09:18 → 00:09:21 เลือดเลือดขาวโดยเฉพาะอย่างยิ่งแมครนะ
00:09:21 → 00:09:24 ครับเข้ามาใกล้ๆเซลล์ไขมันมากขึ้นทั้งหมด
00:09:24 → 00:09:27 นี้ครับก็จะช่วยกันปล่อยสารก่ออักเสบที่
00:09:27 → 00:09:31 เราเรียกว่าเป็น proinflammatory cyตให้
00:09:31 → 00:09:33 มากขึ้นนะครับสารนี้มากขึ้นเท่ากับอะไร
00:09:33 → 00:09:37 เอ่ยเท่ากับร่างกายเราอักเสบมากขึ้นเพิ่ม
00:09:37 → 00:09:39 ฮอร์โมนเลปตินอ่าเลปตินปกติเป็นฮอร์โมน
00:09:40 → 00:09:42 ที่ไปสื่อสารกับสมองเรานะครับผลิตมาจาก
00:09:42 → 00:09:45 เซลล์ไขมันก็ทำให้เราอิ่มง่ายเพิ่มระบบ
00:09:45 → 00:09:48 การเผาผลาญแต่พอเซลล์ไขมันเรามากขึ้น
00:09:49 → 00:09:52 เลปตินมากขึ้นเซลล์สมองกลับดื้อต่อเลปติน
00:09:52 → 00:09:55 เราเรียกภาวะนี้ว่าเป็นเลปติน resistance
00:09:55 → 00:09:57 อันนี้เป็นหนึ่งในกลไกในปัจจุบันที่เราพบ
00:09:57 → 00:10:00 ว่าทำให้คนในปัจจุบันเนี่ยอ้วนง่ายขึ้น
00:10:00 → 00:10:03 แล้วก็ลดน้ำหนักได้ยากขึ้นกว่าเดิมนะครับ
00:10:03 → 00:10:07 เอ่อตัวไคตัวนึงซึ่งเป็นสารต้านอักเสบก็
00:10:07 → 00:10:11 ลดลงครับเาชื่อเห็นมั้ฮะทั้งหมดนี้ก็เร่ง
00:10:11 → 00:10:14 ให้เกิดเรื่องของอะไรเอ่ยแฟมากขึ้นกล้าม
00:10:14 → 00:10:18 เนื้อที่ลดลง