00:00:03 → 00:00:07 med cmu podcast fung for
00:00:07 → 00:00:10 Hell f for Health
00:00:10 → 00:00:13 podcast รายการที่จะมาพูดคุยเรื่องราว
00:00:13 → 00:00:16 ของสุขภาพและแบ่งปันประสบการณ์จากแพทย์
00:00:16 → 00:00:20 ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆของคณะแพทยศาสตร์
00:00:20 → 00:00:22 มหาวิทยาลัย
00:00:22 → 00:00:28 เชียงใหม่เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัว
00:00:28 → 00:00:32 เราสวัสดีค่ะขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ฟัง
00:00:32 → 00:00:35 for Health podcast อยู่กับดิฉันฟ้า
00:00:35 → 00:00:38 ธัญญลักษณ์สดสวยนักประชาสัมพันธ์คณะ
00:00:38 → 00:00:41 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ผู้ฟังทุก
00:00:41 → 00:00:43 ท่านคะเรื่องที่จะมาพูดคุยกันเป็นเรื่อง
00:00:43 → 00:00:46 เกี่ยวกับมลพิษทางอากาศค่ะซึ่งมีผลต่อ
00:00:46 → 00:00:50 ระบบทางเดินหายใจของเรานั่นก็คือ PM 2.5
00:00:50 → 00:00:53 นะคะเราจะมาทำความรู้จักค่ะว่า PM 2.5
00:00:53 → 00:00:56 คืออะไรส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจของ
00:00:56 → 00:01:00 เรายังไงบ้างและตัวฝุ่น PM 2.5 ทำให้
00:01:00 → 00:01:03 เกิดภาวะเลือดกำเดาไหลได้จริงหรือไม่รวม
00:01:04 → 00:01:06 ถึงเราสามารถป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยจาก
00:01:06 → 00:01:09 เรื่องนี้ได้ยังไงบ้างค่ะผู้ที่จะมาให้
00:01:09 → 00:01:12 ข้อมูลกับเรานะคะท่านคือรองศาสตราจารย์ดร
00:01:12 → 00:01:16 แพทยหญิงสายสวาทชัยสรอาจารย์ประจำภาควิชา
00:01:16 → 00:01:19 ดสนาสิกวิทยาคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัย
00:01:19 → 00:01:22 เชียงใหม่สวัสดีค่ะอาจารย์หมอสวัสดีค่ะ
00:01:22 → 00:01:24 วันนี้เรามาพูดคุยกันในเรื่องที่ใกล้ตัว
00:01:25 → 00:01:27 มากๆเข้ากับช่วงสถานการณ์มากๆเลยนะคะ
00:01:27 → 00:01:30 เกี่ยวกับมลพิษทางอากาศค่ะมีมีผลต่อระบบ
00:01:30 → 00:01:33 ทางเดินหายใจของคนเราได้ยังไงก่อนอื่นมา
00:01:33 → 00:01:36 รู้จักกันก่อนนะคะว่า PM 2.5 คืออะไรค่ะ
00:01:36 → 00:01:39 ค่ะถ้าเกิดว่าเรานึกภาพอากาศที่เราหายใจ
00:01:39 → 00:01:42 ใช่ไหมมคะปกติแล้วเรามองไม่เห็นส่วน
00:01:42 → 00:01:46 ประกอบนะคะแต่ว่าตัว PM หรือ particulate
00:01:47 → 00:01:49 matter เนี่ยค่ะมันก็คือส่วนประกอบที่ปน
00:01:49 → 00:01:52 อยู่กับในอากาศค่ะซึ่งเราก็ยังคงมองไม่
00:01:52 → 00:01:54 เห็นอยู่เหมือนกันค่ะแต่ว่าเมื่อไหร่ที่
00:01:54 → 00:01:56 มันเยอะมากๆเราก็จะเห็นว่ามันมัวๆใช่ไหมย
00:01:56 → 00:02:00 คะถ้าเราเทียบขนาดของตัวฝุ่น 2.5 เนี่ย
00:02:00 → 00:02:02 บางคนเรียกฝุ่นจิ๋วบางคนเรียกฝุ่นละเอียด
00:02:02 → 00:02:05 เนี่ยนะคะมันก็จะเล็กกว่าเส้นผมของเราอีก
00:02:05 → 00:02:08 ค่ะถ้าเรานึกถึงไม้บรรทัดของเราที่เป็น
00:02:08 → 00:02:11 เซนติเมตมีขีดเล็กๆ 10 ขีดนะคะไอ้เนี่ย
00:02:11 → 00:02:14 เล็กกว่า 1 ขีดของขีดเล็กอีกเล็กเป็นแบบ
00:02:14 → 00:02:17 พันเท่าเลยค่ะไม่แปลกใจที่เรามองไม่เห็น
00:02:17 → 00:02:19 ใช่ค่ะมองไม่เห็นเลยค่ะแต่ว่ามันจะเป็น
00:02:19 → 00:02:22 สารเจอปนที่อยู่กับอากาศที่เราหายใจเข้า
00:02:22 → 00:02:25 ไปค่ะแล้วมันเกิดขึ้นได้ยังไงคะอาจารย์
00:02:25 → 00:02:28 จริงๆแล้วเนี่ยแหล่งกำเนิดของ PM เนี่ยมี
00:02:28 → 00:02:31 มาจากหลายอย่างอย่างนะคะแต่ว่าสำหรับบ้าน
00:02:31 → 00:02:34 เราเนี่ยที่เห็นชัดมากๆเลยก็คือการเผาค่ะ
00:02:34 → 00:02:38 โดยเฉพาะการเผาในเ่อวัสดุทางการเกษตรอะไร
00:02:38 → 00:02:41 ทั้งหลายที่จะหมดเนะคะเผาปาเผาใบไม้เผา
00:02:41 → 00:02:44 เตรียมที่ทำกินอะไรพวกเนี้ยค่ะก็จะทำให้
00:02:44 → 00:02:47 มีฝุ่นเเยอะแต่ว่าถ้าเกิดว่าเราเป็นเมือง
00:02:47 → 00:02:49 ใหญ่อย่างเชียงใหม่ของเราเป็นเมืองใหญ่
00:02:49 → 00:02:51 หรือว่ากรุงเทพฯที่เป็นเมืองใหญ่ๆเนี่ยก็
00:02:51 → 00:02:56 จะมีพวกฝุ่นจากพวกรถยนต์ท่อไอเสียกันเผา
00:02:56 → 00:02:59 ไหม้ที่ไม่ดีค่ะนอกจากนี้ก็ยังมีโรงงาน
00:02:59 → 00:03:00 คือมีหล้านหลายอย่างเลยที่ประกอบกัน
00:03:00 → 00:03:04 สามารถจะเป็นตัวประกอบส่วนประกอบต่างๆของ
00:03:04 → 00:03:07 ตัวอากาศที่เป็นฝุ่นพิษอย่างนี้ค่ะแล้ว
00:03:07 → 00:03:11 ตัวของ PM 2.5 เองเนี่ยเขาส่งผลต่อระบบ
00:03:11 → 00:03:15 ทางเดินหายใจได้ยังไงบ้างคะค่ะถ้าลองนึก
00:03:15 → 00:03:18 ดูว่าเวลาตอนที่เราหายใจเข้าไปใช่มั้ยคะ
00:03:18 → 00:03:21 มันก็จะผ่านรูจมูกใช่มั้ยคะช่องจมูกด้าน
00:03:21 → 00:03:24 หน้าเข้าไปซึ่งจริงๆแล้วอ่ะเราจะมีขนจมูก
00:03:24 → 00:03:28 อยู่ที่เป็นตัวป้องกันคอยกรองจับตัวที่
00:03:28 → 00:03:30 เกิดว่าเป็นอะไรที่ชิ้นใหญ่ๆเนี่ยมันก็จะ
00:03:30 → 00:03:32 ติด
00:03:32 → 00:03:35 อยู่แต่ว่าถ้าเกิดว่ายิ่งเล็กเนาะยิ่ง
00:03:35 → 00:03:38 เล็กมันก็จะสามารถผ่านลงไปได้โดยตรงโดย
00:03:38 → 00:03:41 ที่จมูกมันจับไม่ได้ก็จะลงเข้าไปผ่านช่อง
00:03:41 → 00:03:45 จมูกลงไปในทางเดินหายใจส่วนล่างลงไปในปอด
00:03:45 → 00:03:47 นอกจากนี้ก็ยังสามารถเข้าสู่กระแสเลือด
00:03:47 → 00:03:51 ได้ด้วยค่ะก็เลยมีผลกับร่างกายของเราจริง
00:03:51 → 00:03:54 ๆคือมีได้ทุกระบบร่างกายเลยค่ะได้ไปอ่าน
00:03:54 → 00:03:56 เจอบทความแล้วก็ข่าวที่เขาออกมาค่ะ
00:03:56 → 00:03:59 อาจารย์เาวมีหลายครอบครัวนะคะคุณพ่อคุณ
00:03:59 → 00:04:02 แม่เนี่ยได้โพสต์ลงมาเกี่ยวกับเรื่องของ
00:04:02 → 00:04:05 ลูกแล้วก็คนใกล้ตัวค่ะว่าพอมีช่วง PM 2.5
00:04:05 → 00:04:09 เกิดขึ้นลูกมีภาวะเลือดกำเดาไหลค่ะอันนี้
00:04:09 → 00:04:11 มันเป็นไปได้จริงมั้ยคะที่อาจจะเกิดจาก
00:04:11 → 00:04:16 ตัวฝุ่น PM 2.5 ค่ะค่ะจริงๆก็จริงเลยค่ะ
00:04:16 → 00:04:18 จริงเลยเพราะเป็นช่วงสถานการณ์นทีรหลายๆ
00:04:18 → 00:04:21 บ้านก็เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นนะคะใช่ค่ะ
00:04:21 → 00:04:24 จริงๆก็คือว่ามีคนเ้าทำการศึกษาเหมือนกัน
00:04:24 → 00:04:26 ค่ะอยากรู้ว่าเอ๊ะมันจริงหรือเปล่าหรือ
00:04:26 → 00:04:29 ว่าเราคิดไปเองเนาะในช่วงเนี้ยค่ะก็เขาค
00:04:30 → 00:04:33 ก็ทดลองโดยเอาสัตว์ทดลองนะคะมาให้เจอพวก
00:04:33 → 00:04:36 PM เงี้ยค่ะเจอแบบแช่อยู่ในฝุ่นอย่างงี้
00:04:36 → 00:04:39 3 ช่วโมงต่อวันติดกันไป 30 วันเสร็จแล้ว
00:04:40 → 00:04:43 ก็เอาเซลล์มาดูอ่ะค่ะเพพบว่าเยื่อบุจมูก
00:04:43 → 00:04:46 เนี่ยมันจะมีการถูกทำลายไปคือมันจะมันจะ
00:04:46 → 00:04:50 ไม่มีรูปร่างหน้าตาสวยๆเหมือนกับคนปกติ
00:04:50 → 00:04:52 อ่ะค่ะพอมันถูกทำลายไปปุ๊บจมูกมันก็เป็น
00:04:53 → 00:04:56 แผลเป็นแผลแล้วก็จะมีโอกาสที่อักเสบติด
00:04:56 → 00:05:00 เชื้อหรือว่าเลือดออกได้ง่ายค่ะที่ทำให้
00:05:00 → 00:05:03 ทุกคนคิดว่าก็เป็นเพะ PM แหละที่ทำให้
00:05:03 → 00:05:06 เกิดภาวะเลือดกำเดาไหลได้นะคะแล้วมันเกิด
00:05:06 → 00:05:09 ขึ้นได้ยังไงคะอาจารย์ขาทำไมถึงเกิดได้
00:05:09 → 00:05:14 ใช่ไหคะคือเ่อตัวที่เป็นฝุ่นเล็กๆเนี่ย
00:05:14 → 00:05:17 ค่ะพอมันตกเข้าไปเนี่ยจริงๆคือมันเป็น
00:05:17 → 00:05:19 สิ่งแตกปลอมเนาะร่างกายก็จะพยายามกำจัด
00:05:19 → 00:05:22 ค่ะเพราะฉะนั้นร่างกายจะกำจัดได้เนี่ยมัน
00:05:22 → 00:05:25 ก็จะต้องเหมือนกับสร้างสารต่างๆมาเพื่อจะ
00:05:25 → 00:05:28 เพื่อจะปรับสมดุลของร่างกายอย่างเช่นว่า
00:05:28 → 00:05:31 เซลล์ผิวที่มันตายไปก็จะต้องลอกออกไปแล้ว
00:05:31 → 00:05:33 ก็รอให้อันใหม่ขึ้นมาไอ้ตัวที่ตกอยู่ค้าง
00:05:33 → 00:05:36 อยู่ก็จะได้หลุดออกไปเนาะแล้วก็มีการ
00:05:36 → 00:05:38 สร้างสารอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ
00:05:38 → 00:05:43 อ่ะค่ะเยอะขึ้นมาได้ค่ะก็เลยทำให้ตัวผิวอ
00:05:43 → 00:05:46 เยื่อบุผิวมันถูกทำลายส่วนนอกถูกทำลาย
00:05:46 → 00:05:48 ส่วนในก็มีความหนาตัวขึ้นค่ะไม่เหมือน
00:05:48 → 00:05:52 ปกติอย่างที่เรามีกันค่ะก็อย่างปกติที่มี
00:05:52 → 00:05:55 กันในช่วงภาวะนี้นะคะก็เลยต้องเกิดอะไร
00:05:55 → 00:05:57 ที่เรียกว่าเอฟเฟคกับร่างกายออกมาให้รู้
00:05:57 → 00:06:00 ใช่มั้ยคะว่านี้นี้ร่างกายของเราอาจจะ
00:06:00 → 00:06:03 กำลังรับไม่ไหวแล้วค่ะค่ะมันเพราะว่าของ
00:06:03 → 00:06:07 เราจมูกเป็นทางผ่านนะคะถ้าเกิดว่าเราป้อง
00:06:07 → 00:06:11 กันตัวดีนะใส่แมสตลอดเลยป้องกันไว้เนี่ย
00:06:11 → 00:06:13 อาจจะเป็นเคืองตาแทนก็ได้ค่ะเพราะว่าตา
00:06:13 → 00:06:17 กับกับผิวหนังเนี่ยก็รับรับสัมผัสบางคนก็
00:06:17 → 00:06:20 จะเป็นผื่นเลยคันเลยน้ำตาไหลตาแดงหมดเลย
00:06:20 → 00:06:22 ค่ะอย่างที่เรารู้ค่ะว่า PM 2.5 ไม่ได้
00:06:22 → 00:06:26 ส่งผลกระทบแค่ระบบทางเดินหายใจเพียงอย่าง
00:06:26 → 00:06:29 เดียวค่ะยังมีอีกหลากหลายอวัยวะเลยที่ได้
00:06:29 → 00:06:32 รับผลกระทบนะคะซึ่งเราจะมาพูดคุยกันเป็น
00:06:32 → 00:06:35 ตอนๆไปค่ะให้ผู้ฟังเนี่ยได้ทำความรู้จัก
00:06:35 → 00:06:38 กับไอ้ตัว PM 2.5 ที่ส่งผลกับร่างกาย
00:06:38 → 00:06:40 เฉพาะทางมากขึ้นนะคะวันนี้เรามาคุยกัน
00:06:40 → 00:06:43 เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจค่ะเพราะฉะนั้น
00:06:43 → 00:06:46 ค่ะอาจารย์หมอคะใครบ้างล่ะที่จะเป็นกลุ่ม
00:06:46 → 00:06:50 เสี่ยงอันตรายเฉพาะเด็กๆหรือเปล่าผู้สูง
00:06:50 → 00:06:52 อายุหรือวัยรุ่นไปทำงานอาจจะไม่อันตราย
00:06:52 → 00:06:55 หรือเปล่าค่ะคือจริงๆแล้วอ่ะทุกคนก็มี
00:06:55 → 00:06:59 ความเสี่ยงค่ะถ้าเราอยู่นานพออยู่นานพอคน
00:06:59 → 00:07:02 ที่มีภูมิคุ้มกันไม่ค่อยดีเนาะสุขภาพไม่
00:07:02 → 00:07:05 ค่อยแข็งแรงอันเนี้ยก็จะเจอก่อนเลยมีมี
00:07:05 → 00:07:08 ปัญหาก่อนเลยเพราะฉะนั้นถูกเตือนก่อน
00:07:08 → 00:07:10 เนี่ยก็จะเป็นเด็กผู้สูงอายุคนที่มีโรค
00:07:11 → 00:07:14 ประจำตัวค่ะเพราะว่ากลุ่มเนี้ยอเหมือนกับ
00:07:14 → 00:07:17 ภาวะร่างกายเนี่ยมันป้องกันตัวได้น้อย
00:07:17 → 00:07:20 กว่าคนปกติอยู่แล้วถ้าเผื่อว่ามีอะไรมา
00:07:20 → 00:07:23 กระตุ้นอีกอาจจะทำให้เขาแย่ไปได้ง่ายๆค่ะ
00:07:23 → 00:07:26 แล้วก็สำหรับเด็กๆเนี่ยเนื่องจากว่าระบบ
00:07:26 → 00:07:28 ร่างกายของเขาอ่ะอาจจะยังไม่ค่อยพร้อม
00:07:28 → 00:07:31 เหมือนกับผู้ใหญ่ใหญ่อค่ะยังภูมิคุ้มกัน
00:07:31 → 00:07:34 ก็ยังไม่เต็มที่ค่ะป้องกันตัวจากสิ่งต่าง
00:07:34 → 00:07:36 ๆยังไม่ค่อยได้เพราะฉะนั้นเขาก็จะมีความ
00:07:36 → 00:07:39 ไวค่ะมีอะไรเกิดขึ้นก็ก็เห็นว่าเด็กจะ
00:07:39 → 00:07:43 เป็นก่อนเป็นเยอะเห็นให้ชัดเลยนะคะถ้าใน
00:07:43 → 00:07:45 ครอบครัวก็คือสังเกตได้จากเด็กเล็กนี้ละ
00:07:45 → 00:07:48 ค่ะเรื่องของ PM 2.5 เองก็เป็นเรื่อง
00:07:48 → 00:07:50 ใหญ่ที่เราไม่สามารถแก้ปัญหาได้ภายในวัน 2
00:07:50 → 00:07:53 วันค่ะอาจารย์ขาแล้วเราสามารถรับมือกับ
00:07:53 → 00:07:55 มันยังไงป้องกันตัวเองยังไงได้บ้างคะ
00:07:56 → 00:07:58 เพื่อที่ผู้ฟังหลายท่านกำลังกังวลใจกับ
00:07:58 → 00:08:02 เรื่องนี้กันค่ะค่ะอ่อเมื่อเวลาที่มี
00:08:02 → 00:08:06 ประกาศนะคะบอกว่าช่วงเนี้ยอากาศไม่ดีนะคะ
00:08:06 → 00:08:09 มีมลพิษเยอะมี PM เยอะเนี่ยค่ะก็จะแนะนำ
00:08:09 → 00:08:12 ว่าเราไม่ควรจะอยู่ในที่โล่งแจ้งโดยไม่
00:08:12 → 00:08:14 ป้องกันตัวค่ะคือจริงๆป้องกันตัวมันก็อาจ
00:08:14 → 00:08:17 จะป้องกันได้ไม่หมดด้วยค่ะก็ไม่แนะนำให้
00:08:17 → 00:08:19 ออกกำลังกายกลางแจ้งถ้าเผื่อว่าเราจะต้อง
00:08:19 → 00:08:22 ออกไปอยู่ในที่โล่งๆเราก็ควรจะต้องใส่ผ้า
00:08:22 → 00:08:26 ปิดจมูกเนาะใส่อ่าวัสดุอะไใส่อะไรที่มัน
00:08:26 → 00:08:29 จะกันฝุ่นได้ดีๆอค่ะถ้าที่บ้านนะคะที่
00:08:29 → 00:08:32 บ้านก็แนะนำให้ปิดประตูหน้าต่างอ่าเปิด
00:08:32 → 00:08:35 เครื่องฟอกอากาศค่ะเพราะว่าถ้าเกิดว่า
00:08:35 → 00:08:37 อากาศไม่สะอาดเนี่ยเราอยู่ในบ้านเราก็จะ
00:08:37 → 00:08:40 ได้อากาศแบบเดียวกันกับข้างนอกไปด้วยค่ะ
00:08:40 → 00:08:42 ถ้าเราจะเตรียมตัวพร้อมว่ามันจะเป็นอย่าง
00:08:43 → 00:08:46 นี้ทุกปีเนี่ยก็แนะนำว่าคนอาจจะต้องลงทุน
00:08:46 → 00:08:48 ปลูกต้นไม้ไว้เยอะหน่อยรอบบ้านมีต้นไม้
00:08:49 → 00:08:50 เยอะหน่อยมีความชื้นเยอะขึ้นมันจะกรอง
00:08:51 → 00:08:53 ฝุ่นดักฝุ่นไปได้ส่วนนึงละแล้วก็ใช้
00:08:53 → 00:08:56 เครื่องฟองอากาศนี่น่าจะจำเป็นค่ะค่ะค
00:08:56 → 00:08:58 หลายคนเขาก็แซวกันว่าเดี๋ยวนี้จะออกนอก
00:08:58 → 00:09:01 บ้านไม่ได้ดูแต่ดวงหรือชุดสีมงคลแล้วนะคะ
00:09:01 → 00:09:04 ต้องดูค่าฝุ่นด้วยว่าเอ๊ะฝุ่นวันนี้เป็น
00:09:04 → 00:09:07 ยังไงแล้วเราต้องเตรียมรับมือยังไงบ้าง
00:09:07 → 00:09:10 หน้ากากแบบไหนที่กันฝุ่นได้และสถานที่ที่
00:09:10 → 00:09:13 เราจะไปเนี่ยเป็นที่ปิดหรือเปิดนะคะหรือ
00:09:13 → 00:09:15 ว่าบางคนที่ไม่ได้ติดตามอาจจะไปออกกำลัง
00:09:15 → 00:09:19 กายกลางแจ้งในช่วงที่ค่าฝุ่นสูงใช่ค่ะพอ
00:09:19 → 00:09:22 กลับมาก็จะแสบจมูกเลยค่ะจะมีปัญหาได้เลย
00:09:22 → 00:09:25 ป่วยเลยออกแล้วไม่แข็งแรงนะคะอย่างเงี้นะ
00:09:25 → 00:09:28 คะค่ะนอกจากนี้ก็คือกินน้ำบ่อยหน่อยนะคะ
00:09:28 → 00:09:31 เพราะว่าน้ำมันจะระเหยไปกับอากาศกับกับ
00:09:31 → 00:09:33 เยื่อบุที่มันพยายามช่วยทำความสะอาดตัว
00:09:33 → 00:09:37 เองเยค่ะมันจะมีเมือกเยอะขึ้นได้ก็กินน้ำ
00:09:37 → 00:09:39 กินผักผลไม้เหมือนกับทำทุกอย่างให้สุขภาพ
00:09:39 → 00:09:42 เราแข็งแรงไว้เราจะได้มีตัวป้องกันได้
00:09:42 → 00:09:44 เยอะขึ้นค่ะทีนี้ถ้าพูดถึงอีกอันนึงที่
00:09:44 → 00:09:47 อาจจะป้องกันได้ก็การล้างจมูกด้วยน้ำ
00:09:47 → 00:09:50 เกลือค่ะถ้าเผื่อว่าไม่ได้เป็นคนที่ตกใจ
00:09:50 → 00:09:54 ง่ายมถ้าล้างน้ำเกลือน้อยๆค่ะเวลาตอนที่
00:09:54 → 00:09:56 มันมีฝุ่นมีอะไรที่มันระคายเคืองเนี่ยมัน
00:09:56 → 00:09:58 ก็จะช่วยกำจัดไปได้ส่วนนึงแต่ว่าก็ต้อง
00:09:58 → 00:10:01 ล้างเบาๆแล้วก็ระวังอย่าให้อุปกรณ์ที่เรา
00:10:01 → 00:10:04 ใช้ล้างจมูกเนี่ยไปจิ้มจนกระทั่งจมูกเรา
00:10:04 → 00:10:07 เป็นแผลค่ะค่ะอันนี้ก็ต้องระวังด้วยค่ะ
00:10:07 → 00:10:10 แล้วก็เห็นวิธีการมากมายในอ่าโซเชียลนะคะ
00:10:10 → 00:10:14 ที่พูดถึงวิธีการล้างจมูกที่ถูกต้องก็
00:10:14 → 00:10:16 สามารถไปรับชมแต่ก็ต้องเลือกสื่อที่เชื่อ
00:10:17 → 00:10:19 ถือได้นะแล้วก็ทำอย่างปลอดภัยนะคะเหมาะสม
00:10:19 → 00:10:22 เพราะว่าเหมือนแต่ละวัยเองก็ใช้ปริมาณน้ำ
00:10:22 → 00:10:25 เกลือไม่ได้เท่ากันรึเปล่าคะอาจารยจริงๆ
00:10:25 → 00:10:27 มันมันจะขึ้นอยู่กับว่าตอนที่เราล้าง
00:10:27 → 00:10:30 เนี่ยค่ะอเรามีน้ำหมูเยอะหรือเปล่าทถ้า
00:10:30 → 00:10:32 น้ำมุกเยอะแล้วเราใช้น้ำเกลือนิดเดียว
00:10:32 → 00:10:35 เนี่ยมันก็อาจจะยังไม่ทันละลายพอที่จะ
00:10:35 → 00:10:38 สั่งออกมาได้หรือว่าจะออกมากับน้ำเกลือ
00:10:38 → 00:10:40 ของเราได้ค่ะถ้าน้ำมุกเยอะอาจจะต้องใช้
00:10:40 → 00:10:42 น้ำเกลือเยอะนิดนึงแต่ว่าถ้าน้ำมุกไม่ได้
00:10:42 → 00:10:45 เยอะเนี่ยอาจจะไม่ต้องใช้ปริมาณเยอะก็ได้
00:10:45 → 00:10:47 ค่ะเพราะว่าบางคนพอล้างแล้วกลายเป็นอ่า
00:10:47 → 00:10:50 น้ำเข้าหูจากหลังพงจมูกคาต่อไปถึงหูได้
00:10:50 → 00:10:53 หรือว่าล้างแล้วน้ำไปขังในไซนัสเพราะว่า
00:10:53 → 00:10:55 ไซนัสเขาไม่ได้ตันเงี้ยค่ะมันก็กลายเป็น
00:10:55 → 00:10:59 มึนๆหัวอย่าเงี้ยมีเหมือนกันเกากที่ตัว
00:10:59 → 00:11:01 เองค่ะจะดูแลตัวเองให้ดีแต่ว่าอาจจะทำผิด
00:11:02 → 00:11:05 วิธีเพราะฉะนั้นต้องศึกษาให้ดีนะคะเกี่ยว
00:11:05 → 00:11:08 กับเรื่องของการดูแลตัวเองค่ะอาจารย์หมอ
00:11:08 → 00:11:11 คะแล้วถ้าเกิดที่บ้านไหนลูกๆมีอาการที่
00:11:11 → 00:11:14 เอ๊ะค่อนข้างกังวลใจมากแล้วต้องไปเจอคุณ
00:11:14 → 00:11:17 หมอเอาการอะไรที่ทำให้เรารู้ว่าควรจะพบ
00:11:17 → 00:11:20 แพทย์แล้วอย่างเงี้ยค่ะค่ะอาการขึ้นต้น
00:11:20 → 00:11:23 เลยเนี่ยก็จะเป็นลูกบ่นได้นะคะหรือว่าลูก
00:11:23 → 00:11:25 หายใจไม่ค่อยออกฟืดๆดฟืๆน้ำมูกไหลหรือว่า
00:11:26 → 00:11:28 มีน้ำมูกปนเลือดค่ะนี่ถ้าเกิดว่าเป็นน้ำ
00:11:28 → 00:11:31 มูกปนเลือดเฉยๆเนี่ยอ่าคุณพ่อคุณแม่ก็อาจ
00:11:31 → 00:11:35 จะยังดูอาการต่อได้ค่ะให้ลูกกินน้ำบ่อยๆ
00:11:35 → 00:11:38 หน่อยเนาะอ่าแนะนำว่าอาจจะใช้ยาขี้ผึ้ง
00:11:38 → 00:11:40 หรือว่าใช้วาสลีนป้ายตรงด้านหน้าจมูกตรง
00:11:40 → 00:11:42 ที่จะเป็นแผลถลอกอ่ะค่ะแล้วก็ระวังอย่า
00:11:42 → 00:11:45 ให้ลูกเอาทิชชู่แหย่เข้าไปหรือเอานิ้วไป
00:11:45 → 00:11:47 แกะค่ะเพราะว่าแผลมันจะใหญ่ขึ้นได้แล้วก็
00:11:47 → 00:11:50 เลือดออกได้ค่ะแต่ว่าถ้าเกิดเลือดออกแบบ
00:11:50 → 00:11:53 ไม่ไม่ใช่เป็นปนกับน้ำมูกละเป็นเลือดหยด
00:11:53 → 00:11:55 หยดนะคะถ้าตอนที่กำลังไหล่เนี่ยขอให้ก้ม
00:11:55 → 00:11:58 หน้าแล้วก็บีบจมูกเข้าหากันแน่นๆเลยนะคะ
00:11:58 → 00:12:01 อ่าจะเหมือนกับเลือดออกแล้วเรากดแผลให้
00:12:01 → 00:12:05 เลือดหยุดอ่ะค่ะก็ดไวใช่หน้าไม่ใช่เงหน้า
00:12:05 → 00:12:07 ค่ะถ้าเงหน้าเลือดมันจะลงคอแล้วเราก็ไม่
00:12:07 → 00:12:09 รู้ด้วยว่ามันออกไปเยอะแค่ไหนแล้วนะคะถ้า
00:12:09 → 00:12:11 เราก้มหน้าเนี่ยเลือดมันจะมากองอยู่ด้าน
00:12:11 → 00:12:13 หน้าใช่มั้ยคะแล้วมันก็จะมีการแข็งตัวของ
00:12:13 → 00:12:16 เลือดนะคะแล้วก็บีบจมูกให้แน่นๆใช่ค่ะบีบ
00:12:16 → 00:12:19 ประมาณ 5 นาที 10 นาทีเนี่ยปกติแล้วถ้า
00:12:19 → 00:12:21 ไม่มีปัญหาอะไรเรื่องระบบการแข็งตัวของ
00:12:21 → 00:12:24 เลือดอ่ะมันจะหยุดละอถ้าเกิดว่าไม่หยุด้า
00:12:24 → 00:12:26 อย่างเงี้ยจะแนะนำให้มาหาหมอเลยแต่ว่าถ้า
00:12:26 → 00:12:30 เกิดว่าหยุดโอเคอาจจะดูก่อนได้นะหรือถ้า
00:12:30 → 00:12:32 ไม่สบายใจจะมาดูที่โรงพยาบาลหลังจากที่
00:12:32 → 00:12:36 มันหยุดไปแล้วก็ได้นะคะถ้าเกิดเอ๊คุณพ่อ
00:12:36 → 00:12:38 คุณแม่เองหรือว่าผู้ใหญ่ผู้ใหญ่มักจะอดทน
00:12:38 → 00:12:42 กว่านะมักจะต้องไหลๆทีถึงจะมาเงี้ค่ะถ้า
00:12:42 → 00:12:45 อย่างงั้นก็ได้ค่ะก็ถ้าเราจะดูแลตัวเองก็
00:12:45 → 00:12:49 คือพอตรงที่เราคิดว่ามันจะเป็นแผลเป็น
00:12:49 → 00:12:51 เป็นสะเก็ดอยู่ด้านหน้าเนี่ยอย่าแกะมัน
00:12:51 → 00:12:54 ค่ะอย่าแกะมันเนาะถ้าเราแกะๆแคๆเอาทิชชู่
00:12:54 → 00:12:57 แยๆเงี้ยคะลอกใหม่เลือดออกใหม่โามาอีกรอบ
00:12:57 → 00:13:01 นึงหรือว่าหลายรอบเลยนะคะเป็นความรู้ที่
00:13:01 → 00:13:03 ดีมากๆเลยค่ะเพราะว่าเราอาจจะได้ศึกษาใน
00:13:03 → 00:13:06 ข้อมูลที่ผิดๆกันมาหรือว่าเจอภาพจำว่า
00:13:06 → 00:13:09 เฮ้ยต้องนอนต้องนอนแล้วนะแล้วต้องนเงย
00:13:10 → 00:13:12 หน้าขึ้นอย่างเงี้ยค่ะอาจารยอันนี้ยัง
00:13:12 → 00:13:14 เป็นอันตรายค่ะเดี๋ยวเราจะสำลักเลือดค่ะ
00:13:14 → 00:13:17 ที่ถูกต้องก็คือต้องก้มหน้าลงนะคะแล้วก็
00:13:17 → 00:13:19 อ่าระหว่างนั้นต้องไม่ต้องอ้าปากอะไรใช่
00:13:19 → 00:13:21 มั้ยคะอาจารย์ก็คือพอเราบีบจมูกแน่นใช่
00:13:22 → 00:13:23 มั้ยคะถ้าเกิดว่าออก 2 ข้างเนี่ยเราก็
00:13:23 → 00:13:26 ต้องหายใจทางปากแต่ว่าถ้าเกิดว่ามันเป็น
00:13:26 → 00:13:28 ข้างเดียวอ่ะเราจะกดแน่นอยู่ฝั่งเดียวก็
00:13:28 → 00:13:33 ได้ค่ะกดแน่นๆเลยเนาเอานิ้วโป้งกดกับปีก
00:13:33 → 00:13:37 จมูกมาให้ชนกับผนังกั้นจมูกอ่ะค่ะแล้วก็
00:13:37 → 00:13:39 เราก้มหน้าไว้อีกข้างนึงก็จะยังพอหายใจ
00:13:39 → 00:13:42 ได้อยู่แล้วถ้าเกิดยังไม่หยุดไหลก็ต้องพบ
00:13:42 → 00:13:46 คุณหมอนะคะอย่าปล่อยให้รอหลายลๆรอบอยู่
00:13:46 → 00:13:48 เป็นชั่วโมงแบบนี้ก็อันตรายได้เหมือนกัน
00:13:48 → 00:13:51 อย่าอดทนนะคะนี้อย่าอดทนค่ะควรจะต้องรีบ
00:13:51 → 00:13:54 ตรวจดูหรือถ้าเกิดบางคนไม่ได้มีปัญหาของ
00:13:54 → 00:13:57 เลือดแต่ว่ามันเริ่มน้ำมูกเปลี่ยนสีละไม่
00:13:57 → 00:14:00 ไม่ใช่เป็นน้ำมูกใสๆแล้วก็ปวดหัวปวดแก้ม
00:14:00 → 00:14:02 น้ำมูกเป็นเขียวๆเหลืองๆอ่ะค่ะคือมีหลาย
00:14:02 → 00:14:05 คนเหมือนกันที่พอ PM ขึ้นแล้วก็ภูมิแพ็ค
00:14:05 → 00:14:10 กำเริบไซนัสอักเซพอค่ะมันไม่ปกติค่ะนอก
00:14:10 → 00:14:12 เหนือจากทางเดินหายใจส่วนล่างที่เขาจะหอบ
00:14:12 → 00:14:15 กันนะคะของจมูกก็จะเป็นแบบนี้ค่ะมาถึง
00:14:15 → 00:14:17 ช่วงสุดท้ายของรายการแล้วค่ะอาจารย์อยาก
00:14:17 → 00:14:20 ให้ทิ้งท้ายถึงผู้ฟังที่ต้องให้ความสำคัญ
00:14:20 → 00:14:23 เกี่ยวกับเรื่องมลพิษทางอากาศเพราะว่ามี
00:14:23 → 00:14:28 ผลต่อร่างกายของเรามากๆค่ะค่ะเราก็
00:14:28 → 00:14:31 คงกากาศบ้านเราก็คงจะเป็นอย่างนี้ไปจน
00:14:31 → 00:14:35 กว่าจะแก้ไขระบบรวมได้นะคะเพราะฉะนั้น
00:14:35 → 00:14:38 สิ่งที่เราทำได้คือเราต้องป้องกันตัวค่ะ
00:14:38 → 00:14:40 ป้องกันตัวยังไงป้องกันตัวก็คือดูแลตัว
00:14:40 → 00:14:45 เองให้สุขภาพดีค่ะอ่านอกเหนือจากตัวที่
00:14:45 → 00:14:47 เราหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วเนี่ยมันจะมีอัน
00:14:47 → 00:14:50 ที่เราหลีกเลี่ยงได้ถ้าเกิดคนที่เคยสูบ
00:14:50 → 00:14:52 บุหรี่นะคะจริงๆแล้วก็แนะนำให้เลิกสูบ
00:14:52 → 00:14:56 บุหรี่คนที่อ่ะไปวัดจริงๆแล้วอยากจะแนะนำ
00:14:56 → 00:15:00 ว่าไหว้พระแบบไม่ต้องจุดธูปอเพราะว่าู
00:15:00 → 00:15:05 อที่ทำเกฝพิษพวกนี้ค่ะแล้วก็เป็นอันตรายจ
00:15:05 → 00:15:09 จสารประกอบที่อยู่ข้างในของธูปได้นะคะการ
00:15:09 → 00:15:11 ทำกับข้าวที่บ้านนะคะถ้าเกิดว่ามีควัน
00:15:11 → 00:15:15 เยอะเนใช้ฟืนใช้ถ่านนะคะพวกเสามารถจะเป็น
00:15:15 → 00:15:17 เหมือนฝุ่นในบ้านของเราได้โดยที่เราไม่
00:15:17 → 00:15:20 ได้ออกนอกบ้านเราก็มีฝุ่นแบบนี้ได้เหมือน
00:15:20 → 00:15:22 กันค่ะเพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าเราหลีก
00:15:22 → 00:15:26 เลี่ยงตัวที่จะทำให้เกิดฝุ่นไม่ได้เราก็
00:15:26 → 00:15:29 ต้องป้องกันตัวเราก็ต้องกรองฝุ่นออกไปนะ
00:15:29 → 00:15:32 คะแล้วก็ดูแลสุขภาพให้ดีค่ะป้องกันลูกๆ
00:15:32 → 00:15:35 ด้วยค่ะเด็กๆบางทีเยังป้องกันตัวไม่ได้
00:15:35 → 00:15:39 เราก็ต้องช่วยเย่นเนาอากาศแบบอากาศแบบนี้
00:15:39 → 00:15:42 ลูกก็อาจจะไม่ได้คิดว่ามันอันตรายออกไป
00:15:42 → 00:15:44 วิ่งเล่นหน้าบ้านอะไรอย่าเงี้ใช่เด็กๆอึด
00:15:44 → 00:15:46 อัดเนาะถ้าอยู่แต่ในบ้านนะคะค่ะค่ะเป็น
00:15:47 → 00:15:49 ช่วงเวลาที่มีคุณค่ามากๆค่ะอาจารย์หาที่
00:15:49 → 00:15:51 เราได้มาพูดคุยกันถึงเรื่องที่ใกล้ตัว
00:15:51 → 00:15:54 แล้วก็อยู่ในกระแสตอนนี้มากๆเลยนะคะต้อง
00:15:54 → 00:15:57 ขอบพระคุณอาจารย์มากๆค่ะสวัสดีค่ะสวัสดี
00:15:57 → 00:16:01 ค่ะ
00:16:01 → 00:16:08 เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัว
00:16:08 → 00:16:11 เรา