00:00:00 → 00:00:02 ะเป็นมะเร็งห้ามกินชาเขียวชาเขียวมันต้อง
00:00:02 → 00:00:04 ผ่านตับแล้วก็ยามะเร็งหลายตัวผ่านตับ
00:00:05 → 00:00:07 เหมือนกันถ้าคนไข้อ่ะค่ะกินชาเขียวเวลา
00:00:07 → 00:00:10 ใกล้เคียงกับกินยามี 2 กรณี 1 เจอว่าตัว
00:00:10 → 00:00:13 เองเป็นมะเร็งเต้านมในวัย 20 กว่าทั้งๆ
00:00:13 → 00:00:15 ที่คนในครอบครัวเนี่ยไม่มีใครเป็นมะเร็ง
00:00:15 → 00:00:18 เลยเต้านม 2 ข้างของตัวเองไม่เท่ากันแต่
00:00:18 → 00:00:20 เพราะตัวเองคิดว่าก็ยังอายุน้อยอยู่ก็เลย
00:00:20 → 00:00:23 ไม่ได้สนใจค่ะปัจจุบันเนี้ยคนใช้ชีวิตมี
00:00:23 → 00:00:26 สารเคมีค่อนข้างเยอะอ่ะมีทั้ง PM การใช้
00:00:26 → 00:00:29 ขวดพลาสติกทุกวันการเจอยาฆ่ามะเรงในสาร
00:00:29 → 00:00:30 อาหารอะไรต่างๆเหล่าเนี้ค่ะถ้าเรามี
00:00:30 → 00:00:33 พันธุกรรมที่ไม่สามารถขับออกสิ่งเหล่านี้
00:00:33 → 00:00:35 ได้ดีเราก็อาจจะเป็นได้ง่ายกว่าคนทั่วไป
00:00:35 → 00:00:37 จากงานวิจัยก็พบว่าการที่เรากินยาคุม
00:00:37 → 00:00:40 กำเนิดอ่ะค่ะต่อเนื่องกันเป็นหลายๆปีอาจ
00:00:40 → 00:00:42 จะทำให้มีปัจจัยเสียงนำให้เป็นมะเร็งเช่น
00:00:42 → 00:00:47 มะเร็งเต้านมได้ง่ายขึ้นเคสนี้เป็นแอร์
00:00:47 → 00:00:49 ถ้าคุณยิ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์โดย
00:00:49 → 00:00:51 เฉพาะพยาบาลเข้ากะเวลากลางคืนอย่างเงี้ย
00:00:51 → 00:00:54 ไม่ได้นอนจะมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งได้มาก
00:00:54 → 00:00:56 กว่าคนทั่วไป 3-4 เท่าเลยด้วยซ้ำอุ้ยตาย
00:00:56 → 00:01:00 ละฉันก็ทำงานหนักนอนน้อยงานของฉันน่ะมี
00:01:00 → 00:01:02 ความเครียดเยอะงั้นฉันก็เสี่ยงเป็นมะเร็ง
00:01:02 → 00:01:04 สิควรจะป้องกันตัวเองจากการเป็นมะเร็งยัง
00:01:04 → 00:01:07 ไงคะมันมียาแล้วก็อาหารเสริมหลากหลายที่
00:01:07 → 00:01:10 เราสามารถลองได้ที่หมอขอแนะนำะกันนะคะ
00:01:10 → 00:01:12 สำหรับคนไข้เมื่อกี้มีบอกไปแล้วว่า
00:01:12 → 00:01:16 1 สวัสดีค่ะยินดีต้อนรับเข้าสู่อด
00:01:16 → 00:01:18 podcast ที่จะพาคุณไปพบแพทย์เพื่อถามคำ
00:01:18 → 00:01:21 ถามสุขภาพอยู่กับเจมส์รติพันธ์พรพินิจค่ะ
00:01:21 → 00:01:24 วันนี้เราจะพูดถึงเรื่องโรคที่คนไทยเป็น
00:01:24 → 00:01:27 มากที่สุดนั่นก็คือเรื่องโรคมะเร็งค่ะและ
00:01:27 → 00:01:29 เช่นเคยนะคะถ้าพูดถึงโรคมะเร็งต้องเป็น
00:01:29 → 00:01:32 แพทย์ท่านนี้ค่ะคุณหมอเอมมี่สวัสดีค่ะ
00:01:32 → 00:01:35 สวัสดีค่ะเจนหมอเอมมี่นะคะแพทย์ผู้เชี่ยว
00:01:35 → 00:01:38 ชาญด้านวิทยศาสตร์ป้องกันตอนนี้ทำงานอยู่
00:01:38 → 00:01:40 ที่นวาคลินิกค่ะขอบคุณนะคะวันนี้มาพูดกัน
00:01:40 → 00:01:42 เรื่องมะเร็งอีกแล้วยินดีค่ะเห็นว่ามีคาม
00:01:42 → 00:01:45 ถามมาค่อนข้างเยอะเลยวันนี้เรื่องแรกค่ะ
00:01:45 → 00:01:47 หมอเป็นผู้หญิงคนนึงที่อยู่ๆเจอว่าตัวเอง
00:01:47 → 00:01:50 เป็นมะเร็งเต้านมในวัยย 20 กว่าทั้งๆที่
00:01:50 → 00:01:52 คนในครอบครัวเนี่ยไม่มีใครเป็นมะเร็งเลย
00:01:52 → 00:01:55 แล้วตอนนี้กำลังทำคีโมอยู่ะทรมานมากเลย
00:01:55 → 00:01:58 ค่ะก็เลยส่งคำถามมาถามนะคะอันนี้คือคุณโม
00:01:58 → 00:02:02 นะคะอายุ 27 ปีอยู่จังหวัดนนทบุรีค่ะโม
00:02:02 → 00:02:05 เป็นวิศวกรทำงานมาได้ 4 ปีค่ะทำงานค่อน
00:02:05 → 00:02:07 ข้างหนักนอนดึกตื่นเช้าตลอดอาหารที่กิน
00:02:08 → 00:02:10 เป็นประจำก็จะมียำแล้วก็อาหารตามสั่งทั่ว
00:02:10 → 00:02:13 ไปค่ะในระหว่างที่โมคกับแฟนมา 4 ปีก็กิน
00:02:13 → 00:02:16 ยาคุมมาตลอดนะคะตอนนี้ก็รวมแล้ว 7 ปีค่ะ
00:02:16 → 00:02:19 จนวันนึงโมมาสังเกตว่าเต้านม 2 ข้างของ
00:02:19 → 00:02:22 ตัวเองไม่เท่ากันแต่เพราะตัวเองคิดว่าก็
00:02:22 → 00:02:25 ยังอายุน้อยอยู่ก็เลยไม่ได้สนใจค่ะบวกกับ
00:02:25 → 00:02:27 ที่บ้านเนี่ยไม่มีประวัติใครเป็นมะเร็ง
00:02:27 → 00:02:31 ด้วยเลยไม่ได้สนใจะใช้ชีวิตตามปกติค่ะแต่
00:02:31 → 00:02:33 หลังจากนั้นได้ 3 เดือนเต้านมของโมก็มี
00:02:33 → 00:02:37 เลือดออกมาเลยตัดสินใจหาคุณหมอค่ะสุดท้าย
00:02:37 → 00:02:39 พบว่าตัวเองเป็นมะเร็งเต้านมจริงๆรู้สึก
00:02:39 → 00:02:43 ช็อกมากเลยค่ะทำอะไรไม่ถูกเลยพบว่าเป็น
00:02:43 → 00:02:45 ระยะที่ 2 แล้วด้วยหลังจากที่ผ่าตัดก้อน
00:02:46 → 00:02:49 เนื้อออกไปโมได้เข้าทำคีโมมาประมาณ 3
00:02:49 → 00:02:52 ครั้งแล้วค่ะหลังจากทำคีโมตั้งแต่ครั้ง
00:02:52 → 00:02:55 แรกเนี่ยโมรู้สึกคลื่นไส้หนักมากแล้ว
00:02:55 → 00:02:58 เริ่มผมร่วงหลังจากนั้นก็รู้สึกจิตใจแย่
00:02:58 → 00:03:01 ลงทุกวันเลยค่ะไม่อยากทำคีโมแล้วร้องไห้
00:03:01 → 00:03:04 กับที่บ้านแทบทุกวันเลยค่ะทั้งเจ็บตัว
00:03:04 → 00:03:07 แล้วก็รู้สึกทรมานในใจเพราะว่าต้องหยุด
00:03:07 → 00:03:09 งานแล้วก็ไม่กล้าออกไปเจอเพื่อนหรือแฟน
00:03:09 → 00:03:12 เลยค่ะโมคุยกับคุณหมอล่าสุดคุณหมอก็บอก
00:03:12 → 00:03:15 ว่าต้องทำคีโมอีก 5 ครั้งโมเลยอยากรู้ว่า
00:03:15 → 00:03:17 มะเร็งเต้านมเนี่ยมันเกิดขึ้นได้ยังไงกับ
00:03:17 → 00:03:20 คนที่อายุ 20 กว่าเพราะครอบครัวก็ไม่มี
00:03:20 → 00:03:23 ใครเป็นมะเร็งเลยค่ะแล้วมะเร็งเนี่ยมัน
00:03:23 → 00:03:26 กลัวความสุขจริงมั้ยคะถ้าโมทำใจสบายๆไม่
00:03:26 → 00:03:29 เครียดจะหายจากโรคมะเร็งจริงหรือเปล่าคะ
00:03:29 → 00:03:31 มีคนในกลุ่มมะเร็งบอกว่าให้ทานอาหารเสริม
00:03:32 → 00:03:35 บางชนิดช่วยขับพิษมะเร็งและลดการอักเสบ
00:03:35 → 00:03:38 มันจริงหรือเปล่าคะแต่พอไปอ่านบางคนก็บอก
00:03:38 → 00:03:41 ว่าไม่ควรกินอาหารเสริมถ้าเรากำลังทำคีโม
00:03:41 → 00:03:44 อยู่ตอนนี้โมก็เลยงงหนักมากเลยค่ะอยากให้
00:03:44 → 00:03:47 คุณหมอช่วยแนะนำได้ไมมคะว่าควรเตรียมตัว
00:03:47 → 00:03:49 ก่อนและหลังทำคีโมยังไงทุกวันนี้ทรมานมาก
00:03:49 → 00:03:52 ๆเลยค่ะอันนี้ต้องบอกก่อนว่าอ่าเลือกมัน
00:03:52 → 00:03:54 ค่อนข้างยาวนิดนึงนะคะเดี๋ยวขอแบ่งนิดนึง
00:03:54 → 00:03:56 เนาะคำถามแรกของคุณมอาจจะเกี่ยวว่าเอ๊ะ
00:03:56 → 00:03:59 ทำไมคุณโมอายุแค่ 20 กว่าปีเองแล้วทำไม
00:03:59 → 00:04:01 ถึงเป็นมะเร็งนะคะคราวนี้ต้องบอกก่อนว่า
00:04:01 → 00:04:03 ทุกคนน่ะค่ะที่เป็นมะเร็งมันมีหลายปัจจัย
00:04:03 → 00:04:06 เเรียกว่ามัลิเนาะฉันบอกว่าอาจจะเป็นจาก
00:04:06 → 00:04:08 พันธุกรแต่คุณมองบอกว่าเอ๊ะพ่อแม่ก็ไม่
00:04:08 → 00:04:10 เห็นมีใครเป็นพี่น้องไม่เห็นมีใครเป็นนี่
00:04:10 → 00:04:13 ทำไมเราถึงเป็นก็ต้องบอกว่าบางทีอ่ะค่ะ
00:04:13 → 00:04:15 DNA ของเราอาจจะเปลี่ยนแค่ตอนเราเองก็
00:04:15 → 00:04:17 ได้เออเราอาจไม่ได้รับการส่องทอดมาจากพ่อ
00:04:18 → 00:04:20 แม่อะไรอย่างเงี้ยค่ะเป็นจากตัวเราเอง
00:04:20 → 00:04:22 แล้วก็องเป็นแค่เราที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้
00:04:22 → 00:04:24 อาจจะเป็นมะเร็งได้ง่ายกว่าคันทั่วไปอัน
00:04:24 → 00:04:26 นี้คืออันที่ 1 เนาะอันที่ 2 ต้องดูก่อน
00:04:26 → 00:04:29 ว่าสภาพแวดล้อมเป็นยังไงเพราะต้องบอกก่อน
00:04:29 → 00:04:31 ว่าปัจจุบันเนี้ยคนใช้ชีวิตปัจจุบันเราก็
00:04:31 → 00:04:33 แบบมีสารเคมีค่อนข้างเยอะอ่ะอย่าง
00:04:34 → 00:04:36 กรุงเทพฯก็บอกมีทั้ง PM เนาะการใช้ขวด
00:04:36 → 00:04:39 พลาสติกทุกวันการเจอยาฆ่าแมรงในสารอาหาร
00:04:39 → 00:04:42 อะไรต่างๆเหล่าเยค่ะถ้าเรามีพันธุกรรมที่
00:04:42 → 00:04:44 ไม่สามารถขับออกสิ่งเหล่านี้ได้ดีเราก็
00:04:45 → 00:04:47 อาจจะเป็นได้ง่ายกว่าคนทั่วไปถูกมั้ยคะ
00:04:47 → 00:04:49 อันแรกก็คือ 1 พันธุกรรมนะคุณมีพันธุกรรม
00:04:49 → 00:04:52 อะไรที่ผิดปกติหรือเปล่าเนาะ 2 สิ่งแวด
00:04:52 → 00:04:55 ล้อมคุณอยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบไหนหรือบางคน
00:04:55 → 00:04:57 อยู่ในพวกแบบว่าเป็นเกษตรกรต้องเจอยาอะไร
00:04:57 → 00:05:00 ตลอดเวลาก็อาจจะสามารถทำให้เป็นได้อันดับ
00:05:00 → 00:05:03 ที่ 3 ไลฟ์สไตล์คุณเป็นยังไงการใช้ชีวิต
00:05:03 → 00:05:06 ของคุณประเด็นคือคุณมอเป็นวิศวะไม่รู้ทำ
00:05:06 → 00:05:08 งานหนักมากน้อยแค่ไหนหามรุ่งหามค่ำหรือ
00:05:09 → 00:05:10 เปล่าใช่มั้ยอันนี้น่าจะหนักนะคะเพราะบอก
00:05:10 → 00:05:13 ว่านอนนอนดึกตื่นเช้าอยู่ตลอดอ่าก็คือว่า
00:05:14 → 00:05:16 มันมีความเครียดค่อนข้างเยอะไงคะความ
00:05:16 → 00:05:18 เครียดเนี่ยจะเยอะทั้งแบบว่าร่างกายก็ได้
00:05:18 → 00:05:20 จิตใจก็ได้ถือว่าเป็นความเครียดหมดเลย
00:05:20 → 00:05:23 เนาะการกินอาหารก็ไม่รู้กินยังไงเวลาออก
00:05:23 → 00:05:25 กำลังกายหรือเปล่าก็ไม่รู้ถูกมั้ยคะ
00:05:25 → 00:05:28 ฉะนั้นแค่สิ่งเหล่าเนี้ยค่ะมันก็เป็นหลาย
00:05:28 → 00:05:30 ปัจจัยที่อาจจะทำให้ก่อโรคมะเร็งได้แล้ว
00:05:30 → 00:05:33 ของคุณโมเนาะและอีกสำคัญก็คือคุณโมว่าคุณ
00:05:33 → 00:05:37 โมเนี่ยมีกินทมีกินยาคุมด้วย 7 ปีละคราว
00:05:37 → 00:05:40 เนี้ยค่ะผู้หญิงบางคนเขาอาจจะมีพันธุกรรม
00:05:40 → 00:05:42 นะคะที่บอกว่าสามารถ sensitive ต่อแบบว่า
00:05:42 → 00:05:45 ยาคุมกำเนิดนิดนึงบางคนกินแล้วอาจจะทำให้
00:05:45 → 00:05:48 มีลิ่มเลือดผิดปกติได้อ่าโดยเฉพาะถ้าคุณ
00:05:48 → 00:05:51 โมอาจจะมีการสูบบุหรี่ด้วยมยหมอไม่มั่นใจ
00:05:51 → 00:05:53 เนาะดื่มแอลกอฮอล์ด้วยหรือเปล่าไม่มั่นใจ
00:05:53 → 00:05:55 นะคะอาจจะทำให้มีปัญหาเรื่องเลือดข้นได้
00:05:55 → 00:05:58 มากกว่าคนทั่วไปอันนี้อันที่ 1 นะคะอัน
00:05:58 → 00:06:00 ที่ 2 จากงานวิจัยก็ก็เพราะว่าการที่เรา
00:06:00 → 00:06:02 กินยาคลุมกำเนิดอ่ะค่ะติดต่อเนื่องกัน
00:06:02 → 00:06:06 เป็นหลายๆปีเนาะอาจจะทำให้มีริส์นะคะหรือ
00:06:06 → 00:06:08 ปัจจัยเสียงทำให้เป็นมะเร็งเช่นมะเร็ง
00:06:08 → 00:06:11 เต้าโนมได้ง่ายขึ้นจริงค่ะมันมีมันมีงาน
00:06:11 → 00:06:14 วิจัยออกมาชัดเจนเลยว่าเาเก็บสถิติข้อมูล
00:06:14 → 00:06:17 เนาะของคนที่บอกว่าเอิกินยาคุมกำเนิดต่อ
00:06:17 → 00:06:19 เนื่องกันเลยเป็นเวลา 10 ปีขึ้นไปอะไร
00:06:19 → 00:06:21 อย่างเงี้ยค่ะก็จะทำให้มีความเสี่ยงที่จะ
00:06:21 → 00:06:24 เป็นมะเร็งเต้านมได้ง่ายขึ้นมากขึ้นแต่ก็
00:06:24 → 00:06:26 ไม่ได้แบบเยอะมากชัดเจนขนาดนั้นเนาะแล้ว
00:06:26 → 00:06:28 ก็มีมะเร็งอื่นๆอีกนะคะเช่นอาจจะเป็น
00:06:28 → 00:06:31 มะเร็งปมดลูกอย่างเงี้ยค่ะที่เจอนะคะแล้ว
00:06:31 → 00:06:34 ก็มะเร็งอื่นๆเช่นเค้าเรียกว่านิวรอนไน
00:06:34 → 00:06:36 เช่นมะเร็งตับอ่อนอะไรอย่างเงี้ยค่ะก็มี
00:06:36 → 00:06:39 ได้แต่ก็มีงานวิจัยบอกอีกเหมือนกันว่าถ้า
00:06:39 → 00:06:42 คุณกินยาคุ้มเนี่ยนะมะเร็งบางอย่างก็ลดลง
00:06:42 → 00:06:45 นะเอ่าเช่นเกี่ยวกับว่ามะเร็งเกี่ยวกับ
00:06:45 → 00:06:47 พวกมดลูกมะเร็งรังไขอะไรอย่าเงี้ยค่ะก็
00:06:47 → 00:06:49 สามารถลดลงได้เช่นเดียวกันฉะนั้นมันก็มี
00:06:49 → 00:06:53 ข้อดีและข้อเสี่ยงเสี่ยงเนาะที่เราจะต้อง
00:06:53 → 00:06:55 ช่างน้ำหนักนิดนึงว่าเอ๊ะมันโอเคไหมที่จะ
00:06:55 → 00:06:58 กินแต่ปัจจุบันเนี้ยยาคุมกำเนิดมันก็วิว
00:06:58 → 00:07:01 วิวัฒนาการไปค่อนข้างไกลมันค่อนข้างเซฟ
00:07:01 → 00:07:04 มากเหมือนกันค่ะในนัดปัจจุบันงั้นจริงๆ
00:07:04 → 00:07:07 แล้วก็การที่บอกว่าทำไมอายุ 20 กว่าถึง
00:07:07 → 00:07:09 เป็นมะเร็งเนี่ยเราต้องดูองค์รวมเนาะ
00:07:09 → 00:07:11 อย่างเช่นโอเคถึงแม้ว่าคนในครอบครัวเรา
00:07:11 → 00:07:13 เนี่ยไม่มีใครเป็นมะเร็งก็จริงแต่ว่าการ
00:07:13 → 00:07:16 ใช้ชีวิตของเราล่ะเนาะไม่ว่าจะเป็นการนอน
00:07:16 → 00:07:19 ดึกตื่นเช้าความเครียดนะคะหรือว่าบางที
00:07:19 → 00:07:22 การกินยาคุมบางคนก็อาจจะส่งผลป้องกัน
00:07:22 → 00:07:23 อย่างคุณหมอเมื่อกี้บอกไปบอกว่าอาจจะป้อง
00:07:23 → 00:07:26 กันพวกมะเร็งรังไคแต่เพิ่มเปอร์เซ็นต์
00:07:26 → 00:07:28 เต้านมเนาะออีกใช่ฉะนั้นเราก็อาจจะต้อง
00:07:28 → 00:07:31 รู้ว่าแบบเออจริงๆก่อนกินยาคุมเนี่ยค่ะ
00:07:31 → 00:07:34 ต้องปรึกษาแพทย์เนาะใช่ควรจะปรึกษาแพทย์
00:07:34 → 00:07:36 แล้วก็คุณหมอเขอาจจะมีการตรวจเพิ่มเติม
00:07:36 → 00:07:39 นิดนึงเลๆว่าเรามีความเสี่ยงที่จะกินยา
00:07:39 → 00:07:41 คุ้มได้หรือกินไม่ได้สมมุติว่าถ้าเรากิน
00:07:42 → 00:07:44 ไม่ได้จริงๆเจะมีการใส่ห่วงเป็นต้นอย่าง
00:07:44 → 00:07:46 เงี้ยค่ะที่สามารถคุมกำเนิดได้เช่นเดียว
00:07:46 → 00:07:49 กันก่อนที่เราจะเข้าสู่อ่าคำแนะนำเรื่อง
00:07:49 → 00:07:52 เรื่องยาคุมขอถามแทนหลายๆคนที่เชื่อว่า 20
00:07:52 → 00:07:56 ลายหลายๆคนน่าจะอยู่ในช่วงทำงานหนักเนาะ
00:07:56 → 00:07:58 แล้วอาจจะเป็นคล้ายๆคุณโมแล้วฟังแล้วอาจ
00:07:58 → 00:08:02 จะหุ้ยตายละฉันก็ทำงานหนักนอนน้อยตื่น
00:08:02 → 00:08:04 เช้าแล้วอาจจะด้วยงานของฉันน่ะมีความ
00:08:04 → 00:08:06 เครียดเยอะงั้นฉันก็เสี่ยงเป็นมะเร็งสิ
00:08:06 → 00:08:08 อะไรอย่างเงี้ยค่ะงั้นคนพวกเนี้ยค่ะเหล่า
00:08:08 → 00:08:10 เนี้ยที่มีไลฟ์สไตล์ใกล้ๆกับคุณโมแต่กลัว
00:08:10 → 00:08:12 ไม่อยากจะเป็นมะเร็งเต้านมเนี่ยควรจะ
00:08:12 → 00:08:15 เริ่มต้นยังไงคะเพราะว่าเชื่อว่าบางทีถ้า
00:08:15 → 00:08:18 ายุไม่ไม่ถึง 30 อาจจะไม่ต้องตามการตรวจ
00:08:18 → 00:08:20 สุขภาพเนาะเอาจจะยังไม่ให้ตรวจมะเร็ง
00:08:20 → 00:08:22 หรรือเปล่านะคะหรือว่าอาจจะยังไม่ให้ทำ
00:08:22 → 00:08:24 การตรวจต่างๆอย่างเงี้ยแต่ว่าถ้าเราใช้
00:08:24 → 00:08:27 ชีวิตในความเครียดกินนอนไม่เป็นเวลาทำงาน
00:08:27 → 00:08:30 หนักควรจะป้องกันตัวเองจการเป็นมะเร็งยัง
00:08:30 → 00:08:32 ไงคะอันนี้ขอพูดเกี่ยวกับเรื่องความ
00:08:32 → 00:08:34 เครียดก่อนแล้วะกันนะคะว่าความเครียด
00:08:34 → 00:08:37 เนี่ยงานวิจัยหลากหลายมากมายหลายฉบับถ้า
00:08:37 → 00:08:39 เราไปอ่านจะเจอว่าความเครียดส่งกระทบ
00:08:39 → 00:08:41 เกี่ยวกับร่างกายและจิตใจค่อนข้างเยอะ
00:08:41 → 00:08:43 เนาะอย่างที่บอกไว้ความเครียดมีทั้งความ
00:08:43 → 00:08:46 เครียดทั้งร่างกายนอนไม่พอเนาะหรือความ
00:08:46 → 00:08:48 เครียดจากจิตใจไม่ว่าจากการงานที่มัน
00:08:48 → 00:08:50 ท็อกซิกหรืออะไรอย่างเงี้ยค่ะเค้าก็มีการ
00:08:51 → 00:08:54 การวัดดูนะว่าภูมิคุ้มกันของเราเนี่ยมี
00:08:54 → 00:08:56 การตอบสนองยังไงบ้างกับความเครียดตอนแรก
00:08:56 → 00:08:58 เค้าก็ดูว่าเอ๊ะการตอบสนองชั้นๆเรียกว่า
00:08:58 → 00:09:00 acute stress ก็คือเนี่ยความคิดเกิด
00:09:00 → 00:09:02 ตรงงนี้เลยเจาะเลือดตอนนี้เลยเนี่ยก็เห็น
00:09:02 → 00:09:04 ว่าเออเม็ดเลือดขาวบางอย่างมันทำงานได้ดี
00:09:04 → 00:09:07 ขึ้นมันไวขึ้นเพราะว่ามันมีแรงที่ต้องต่อ
00:09:07 → 00:09:09 สู้นู่นนี่นั่นเช่นว่าตอนเนี้ยเราอาจจะ
00:09:09 → 00:09:12 เจอไข้หวัดถูกมยเป็นมาแบบประเดี๋ยวประดาว
00:09:12 → 00:09:14 โอ้โหเม็ดเลือดขาก็รีบทำงานต่อสู้เลยจะทำ
00:09:14 → 00:09:18 งานได้ดีขึ้นไงอ่าช่วงสั้นๆนะแต่พอมันนาน
00:09:18 → 00:09:21 เข้าล่ะเป็นสัปดาห์เป็นเดือนก็เจอว่าพอ
00:09:21 → 00:09:24 มันทำงานมากขึ้นมากขึ้นนานๆขึ้นน่ะค่ะมัน
00:09:24 → 00:09:26 จะทำให้เมล็ดขาวเหล่าเนี้ยเริ่มเเรียกว่า
00:09:26 → 00:09:30 ชราภาพลงเนาะอ่อนแรงลงนะคะทำงานได้ไม่
00:09:30 → 00:09:31 ค่อยดีเหมือนเดิมก็เลยจะเรียกภาษาอังกฤษ
00:09:32 → 00:09:32 เรียกว่า
00:09:32 → 00:09:34 immunosuppression คือการที่มีความ
00:09:34 → 00:09:37 เครียดเป็นระยะเวลานานทำให้ภูมิคุ้มกันทำ
00:09:37 → 00:09:39 งานได้ไม่ดีอย่างเดิมและไม่ใช่แค่โรค
00:09:39 → 00:09:43 มะเร็งนะทุกโรคเลยไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วนอ่า
00:09:43 → 00:09:47 ก็เกี่ยวโรคหัวใจโรคไขมันโรคเบาหวานนะคะ
00:09:47 → 00:09:49 อะไรต่างๆเหล่าเนี้ยเกี่ยวข้องกันหมดเลย
00:09:49 → 00:09:51 แล้วก็โรคมะเร็งด้วยฉะนั้นไม่ได้บอกว่า
00:09:51 → 00:09:53 เอ้อคุณเครียดคุณจะเป็นโรคมะเร็งนะก็ไม่
00:09:53 → 00:09:56 ใช่แค่โรคมะเร็งไงมันมีโรค ncd หรือโรค
00:09:56 → 00:09:58 เรื้อรังต่างๆมากมายเกี่ยวข้องกับความ
00:09:58 → 00:10:01 เค็ดเนี่ยชัดเจส่วนโรคมะเร็งเาก็มีการทำ
00:10:01 → 00:10:03 เปเปอร์งานวิจัยเพิ่มเติมค่ะว่าเอ๊ะแล้ว
00:10:03 → 00:10:05 ถ้าคนไข้เครียดมากๆเนี่ยจะเกิดอะไรขึ้น
00:10:05 → 00:10:08 เขาก็มีการทำหลักหลายเลยโดยเฉพาะช่วง
00:10:08 → 00:10:10 โควิดมีกลุ่มนึงเป็นมะเร็งเต้านมเนาะแต่
00:10:10 → 00:10:13 ว่าอยู่คนเดียวไงเพราะว่าตอนนั้นมีไลชใช่
00:10:13 → 00:10:15 ไหมคะเป็นการกักตัวเนาะคิดว่าโรคมะเร็ง
00:10:16 → 00:10:18 แย่ลงกว่าเดิมอีกอ่าก็มีการวิจวิจัยว่า
00:10:18 → 00:10:21 เอ๊ะถ้าคนไข้ที่เป็นโรคมะเร็งอยู่คนเดียว
00:10:21 → 00:10:23 ไม่เจอผู้คนมะเร็งร้ายลงกว่าเดิมอ่าอัน
00:10:23 → 00:10:26 นี้อันที่ 1 เนาะอันที่ 2 ถ้าเป็นคนที่
00:10:26 → 00:10:28 แบบว่ากลุ่มเปราะบางเช่นคนแก่อย่างเงี้ย
00:10:29 → 00:10:31 ค่ะแล้วไม่มีคนนซัพพอร์ตที่บ้านต้องอยู่
00:10:31 → 00:10:34 ตัวเองหรืออยู่บ้านพักพลชราอย่างเงี้ยเขา
00:10:34 → 00:10:37 ก็บอกว่ามะเร็งก็ดูแย่ลงเหมือนกันอืหรือ
00:10:37 → 00:10:39 ว่าเป็นการเครียดจากการผ่าตัดการเครียด
00:10:39 → 00:10:42 จากการงานก็ทำให้ภูมิไม่ค่อยดีเหมือนกัน
00:10:42 → 00:10:45 ฉันเราก็เลยพูดรวมๆว่าการที่คุณมีความ
00:10:45 → 00:10:48 เครียดเป็นระยะเวลานานสะสมเนี่ยทำให้ภูมิ
00:10:48 → 00:10:50 ทำงานได้ไม่ค่อยดีและทำให้เา้าเรียกว่า
00:10:50 → 00:10:53 มะเร็งสามารถโตขึ้นได้ง่ายเพราะว่ามันมี
00:10:53 → 00:10:55 environment หรือสิ่งแวดล้อมในร่างกาย
00:10:55 → 00:10:57 ที่เอื้อต่อมะเร็งทำให้มันโตได้มากขึ้น
00:10:57 → 00:10:59 งั้นเท่าที่ฟังมาเนี่ยก็คือคืออย่างแรก
00:10:59 → 00:11:01 เลยสำหรับใครที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังทำ
00:11:01 → 00:11:03 งานหนักแล้วอาจจะยังอายุไม่มากเนา 20
00:11:04 → 00:11:05 ปลายๆอะไรอย่าเงี้ย 1 ต้องหาวิธีการจัด
00:11:06 → 00:11:08 การกับความเครียดเครียดให้ได้นะคะเพราะ
00:11:08 → 00:11:10 ว่าอย่างที่คุณหมอบอกพอมันเครียดสั้นๆ
00:11:10 → 00:11:12 ปุ๊บเนี่ยเราก็จะแบบมีรงแรงฮึดสู้เนาะ
00:11:12 → 00:11:14 เม็ดเลือดขาวนี่ก็จะทำงานได้ดีแต่ถ้าเรา
00:11:14 → 00:11:18 เครียดซ้ำๆซ้ำๆซ้ำๆเม็ดเลือดขาวนี่ก็จะ
00:11:18 → 00:11:20 เขาเรียกว่าอะไรอ่ะก็จะอ่อนแอลงเนาะทำให้
00:11:20 → 00:11:22 เราเวลาเจอโรคอะไรเนี่ยเราก็จะเป็นง่าย
00:11:22 → 00:11:25 ติดหวัดง่ายและอีกอย่างนึงที่สำคัญมากๆ
00:11:25 → 00:11:27 ที่เมื่อกี้คุณหมอพูดก็คือการอยู่คนเดียว
00:11:27 → 00:11:30 ใช่เพราะว่าเมื่อกี้เคสนี้ยค่ะเขาบอกว่า
00:11:30 → 00:11:32 ตั้งแต่เป็นมะเร็งแล้วทำคีโมเนี่ยไม่ออก
00:11:32 → 00:11:35 ไปเจอเพื่อนแฟนยังไม่อยากเจอเลยอาจจะแบบ
00:11:35 → 00:11:38 อายเนาะรู้สึกโรมผมร่วงอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:11:38 → 00:11:40 ฉะนั้นสิ่งที่อีกสำคัญอีกอย่างนึงก็คือ
00:11:40 → 00:11:42 การที่มีกำลังใจที่ดีเนาะใช่แล้วก็คนเรา
00:11:43 → 00:11:45 อ่ะเราเป็นสัตว์สังคมเนาะมนุษย์เราอค่ะ
00:11:45 → 00:11:48 แล้วต้องการคนที่พูดคุยด้วยปลอบโยนหรือ
00:11:48 → 00:11:50 แม้กระทั่งคนเป็นมะเร็งอ่ะค่ะเขาอาจจะมี
00:11:50 → 00:11:53 สังคมของผู้ป่วยมะเร็งที่สามารถซัพพอร์ต
00:11:53 → 00:11:55 ซึ่งกันและกันได้เช่นว่าเอ๊ะถ้าคุณจะต้อง
00:11:55 → 00:11:58 แบบไปทำคีโมจะเจออะไรบ้างใช่มั้ยคะหรือ
00:11:58 → 00:12:00 ว่าเราต้องต้องเตรียมตัวยังไงก่อนแลลัง
00:12:00 → 00:12:03 อย่างเงี้ยเก็จะมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน
00:12:03 → 00:12:05 ทำให้คนไข้มีการเตรียมตัวก่อนอ๋อฉันต้อง
00:12:05 → 00:12:07 เจออย่างนี้นะสมมุติบอกว่าเธอเนี่ยถ้าทำ
00:12:08 → 00:12:10 คีโมเธอจะต้องผมร่วงนะคนไข้บางคนเาก็
00:12:10 → 00:12:12 เตรียมตัวดีมากเลยเตรียมวิกเลยสไตล์ไหน
00:12:12 → 00:12:15 ที่ฉันอยากได้อะไรอย่างเงี้ยค่ะก็ทำให้เา
00:12:15 → 00:12:17 บอกเออมีกำลังใจในการจะทำหรือว่าบางคนก็
00:12:17 → 00:12:19 บอกว่าเอ๊ะถ้าฉันทำตันเนี้ยฉันต้องปลาย
00:12:19 → 00:12:23 มือชาเก็รีบบริหารก่อนเลยหรือว่าอาจจะกิน
00:12:23 → 00:12:25 อาหารเสริมวิตามินบางตัวก่อนเลยว่าฉัน
00:12:25 → 00:12:28 ต้องเตรียมร่างกายก่อนให้แข็งแรงไงตอนทำ
00:12:28 → 00:12:31 ฉันจะได้สู้กับมันได้อืมแล้วก็ไม่ใช่แค่
00:12:31 → 00:12:33 แบบว่าเออจัดการความเครียดธรรมดาเนาะก็
00:12:33 → 00:12:36 ต้องอาหารการกินก็ต้องถึงเนาะเพราะคนไข้
00:12:36 → 00:12:39 ส่วนใหญ่บางทีแบบได้รับคีโมแล้วมันอาหาร
00:12:39 → 00:12:41 ไม่ค่อยย่อยบ้างงเงี้ยค่ะความรู้สึกอยาก
00:12:41 → 00:12:44 อาหารไม่ค่อยมีบ้างก็กินไม่ค่อยถึงพอกิน
00:12:44 → 00:12:46 ไม่ถึงเนี่ยก็ทำให้มีผลข้างเคียงจากคีโม
00:12:46 → 00:12:49 ได้ค่อนข้างง่ายเนาะชั้นอาหารก็ต้องถึง
00:12:49 → 00:12:52 การนอนการพักผ่อนก็ต้องถึงความเครียด
00:12:52 → 00:12:55 เนี่ยคุณจะทำอะไรก็ได้จะโยคะก็ได้จะว่าย
00:12:55 → 00:12:58 น้ำจะฟังเพลงอะไรก็ได้กิจกรรมที่คุณค่อน
00:12:58 → 00:13:01 ข้างผ่อนคลายและที่สำคัญอย่างที่เจนพูดเม
00:13:01 → 00:13:03 เมื่อกี้ว่าถ้าคนไข้มีคนคอยซัพพอร์ตอยู่
00:13:03 → 00:13:06 เคียงข้างเป็นอะไรที่ดีมากๆขอเจาะลึกไป
00:13:06 → 00:13:09 ถึงเรื่องอาหารบ้างดีกว่าค่ะเพราะว่าเขา
00:13:09 → 00:13:12 เขียนมาว่าคนบางคนบอกว่าห้ามกินอาหาร
00:13:12 → 00:13:14 เสริมถ้าเรากำลังทำคีโมอยู่สรุปเรากิน
00:13:14 → 00:13:16 อาหารเสริมได้ไหมมคะถ้าเรากำลังทำคีโม
00:13:16 → 00:13:18 อยู่หรือว่าคนไข้ที่เป็นมะเร็งเนี่ยควร
00:13:18 → 00:13:21 หรือไม่ควรกินค่ะอาหารเสริมก็คืออาหาร
00:13:21 → 00:13:23 เนาะคราวนี้ต้องบอกก่อนว่าอาหารเสริมอ่ะ
00:13:23 → 00:13:26 ค่ะมันมีหลากหลายรูปแบบเลยเช่นถ้าเป็น
00:13:26 → 00:13:28 อาหารเสริมในกลุ่มที่แพทย์แนะนำอาจจะเป็น
00:13:28 → 00:13:30 แบบในกลุ่มโปรตีนอย่างเงี้ยค่ะเพราะคนไข้
00:13:30 → 00:13:33 บางคนสมมุติว่ากินปลาแล้วกินไข่แล้วแต่
00:13:33 → 00:13:35 กินไม่ค่อยลงเนาะเา้าอาจจะกินโโปรตีน
00:13:35 → 00:13:37 เสริมของคนอาหารของคนที่เป็นโรคมะเร็งได้
00:13:37 → 00:13:40 เนาะคะอันนี้อันที่ 1 ก็คือแพทแนะนำกิน
00:13:40 → 00:13:43 ได้นะโปรตีนกินเพิ่มได้ 2 พวกฟิช Oil
00:13:43 → 00:13:45 หรือน้ำปมันปลาเป็นต้นค่ะเดี๋ยวนี้ของคน
00:13:45 → 00:13:47 ไข้มะเร็งเาก็จะมีอาหารสำหรับคนไข้มะเร็ง
00:13:47 → 00:13:50 โดยเฉพาะซึ่งเติมฟิช Oil เข้าไปซึ่งพอมี
00:13:50 → 00:13:53 โอเมก้า 3 มากขึ้นปรากฏว่าทำให้การอักเสบ
00:13:53 → 00:13:56 ลดลงทำให้ความอยากอาหารมากขึ้นทำให้ร่าง
00:13:56 → 00:13:58 กายแข็งแรงขึ้นอย่างเงี้ยกินได้เพราะว่า
00:13:58 → 00:14:01 มีงานิใจรับรองว่าเออมันโอเคนะคุณกินแล้ว
00:14:01 → 00:14:04 โอเคอ่าหรือว่าวิตามินดีเพราะว่าคนไข้ทำ
00:14:04 → 00:14:06 คีโมหรือมะเร็งบางทีเนี่ยไม่ได้มีเวลาออก
00:14:06 → 00:14:09 ไปเดินเจอแดดมากมายก็ไม่ค่อยได้รับแสงแดด
00:14:09 → 00:14:11 วิตามินดีก็ไม่ถึงวิตามินดีไม่ถึงเราก็
00:14:11 → 00:14:14 รู้แล้วว่าภูมิไม่ดีทำให้อ่าร่างกายห่อ
00:14:14 → 00:14:16 เหี่ยวจิตใจไม่ดีนอนไม่ดีอย่างเงี้ยค่ะก็
00:14:17 → 00:14:19 สามารถกินวิตามินดีเสริมได้สิ่งเหล่า
00:14:19 → 00:14:21 เนี้ยโอเคถ้าจะกินได้แต่ต้องบอกแพทย์นะ
00:14:21 → 00:14:24 เพราะแพทย์จะได้รู้ว่าคนไข้กินเหล่านี้
00:14:24 → 00:14:26 อยู่เผื่อมีอะไรปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเงี้ย
00:14:26 → 00:14:29 ค่ะจะได้แก้ไขได้แต่ก็มีอาหารเสริมบาง
00:14:29 → 00:14:32 ประเภทหรือสมุนไพรที่ไม่ควรกินเอาง่ายๆ
00:14:32 → 00:14:35 เลยนะเจนเช่นชาเขียวะเป็นมะเร็งห้ามกินชา
00:14:35 → 00:14:38 เขียวคือชาเขียวอ่ะกินได้แต่คุณต้องรู้
00:14:38 → 00:14:41 วิธีการกินและเวลากินที่เหมาะสมออเพราะ
00:14:41 → 00:14:44 ว่าให้เรานะคะชาเขียวมีคาเฟอีนถ้ากินก่อน
00:14:44 → 00:14:46 นอนทำให้ไม่หลับแล้วก็ลุกขึ้นมาเข้าห้อง
00:14:46 → 00:14:48 น้ำบ่อยหรือเปล่าอ่าอันนั้นเป็นปัจจัยนึง
00:14:48 → 00:14:50 ที่แบบว่าที่เราไม่ควรกินเพราะว่ามัน
00:14:50 → 00:14:52 interrupt หรือว่าขัดต่อการนอนของเราใช่
00:14:52 → 00:14:55 มก็ทำให้พักผ่อนไม่ดีภูมิก็ไม่ค่อยโอเค
00:14:55 → 00:14:58 แต่อีกอันนึงที่น่าสนใจก็คือบางทีเราคิด
00:14:58 → 00:15:00 ว่าชาเขียวเดี๋ยวกินดีเนาะได้ทั้งผอมด้วย
00:15:00 → 00:15:03 เผาผลาญด้วยบางคนไม่ใช่แค่กินน้ำเป็นแก้ว
00:15:03 → 00:15:06 นะกินเป็นเม็ดก็มีอ่าคราวนี้ก็เลยมีงาน
00:15:06 → 00:15:09 วิจัยว่าถ้าคนไข้อ่ะค่ะกินชาเขียวเวลา
00:15:09 → 00:15:11 ใกล้เคียงกับกินยาเช่นยามุ่งเป้าอะไรต่าง
00:15:11 → 00:15:14 ๆปรากฏว่ามี 2 กรณี 1 อาจจะทำให้ยามุ่ง
00:15:14 → 00:15:17 เป้าทำงานออกฤทธิ์ได้มากเกินไปเป็น
00:15:17 → 00:15:20 อันตรายก็ทำให้มีผลข้างเคียงเยอะเกินหรือ
00:15:20 → 00:15:22 แบบที่ 2 ทำให้ยามุงเป้าเนี่ยทำงานได้
00:15:23 → 00:15:26 น้อยเกินไปพอน้อยเกินไปก็ทำให้มะเร็งไม่
00:15:26 → 00:15:28 ตายไงอเออฉะนั้นเพราะว่าอะไรเพราะว่าชา
00:15:28 → 00:15:31 เขียวมันต้องผ่านตับแล้วก็ยามะเร็งหลาย
00:15:31 → 00:15:33 ตัวผ่านตับเหมือนกันมันก็เลยไปขัดแย้งกัน
00:15:34 → 00:15:36 เนาะขัดการทำงานซึ่งกันและกันฉะนั้นอย่าง
00:15:36 → 00:15:37 เงี้ยอันง่ายๆอย่างเงี้ยเราก็ควรจะบอก
00:15:38 → 00:15:40 แพทย์ก่อนเอ๊ะถ้าหนูอยากกินชาเขียวค่ะคุณ
00:15:41 → 00:15:44 หมอควรกินเวลาไหนดีที่ไม่ขัดต่อการกินยา
00:15:44 → 00:15:46 เป็นต้นอันนี้คือตัวง่ายๆเนาะอันดับที่ 2
00:15:46 → 00:15:49 ที่เจอค่อนข้างง่ายก็คือการกินน้ำผลไม้
00:15:49 → 00:15:54 บางอย่างเช่นน้ำเปฟอืน้ำเปฟคนเป็นมะเร็ง
00:15:54 → 00:15:58 ห้ามทาหรอคะไม่ใช่แค่มะเร็งคนที่กินยาอ๋อ
00:15:58 → 00:16:00 โกประจำตัวเราต้องกินยาต่อเนื่องอ่ะค่ะ
00:16:00 → 00:16:03 เพราะว่าน้ำเปฟอ่ะเกปฟรุ๊ดเป็นผลไม้กึ่ง
00:16:03 → 00:16:06 ระหว่างส้มกับส้มโอส้มเช้งกับส้มโอแล้ว
00:16:06 → 00:16:10 เอามาผสมกันใช่ไหมมคะคราวนี้น้ำเกฟฟุดพอ
00:16:10 → 00:16:12 กินเข้าไปอ่ะเหมือนกันเลยมันจะไปออกฤทธิ์
00:16:12 → 00:16:15 ที่ตับพอออกฤทธิ์ที่ตับก็ทำให้ยาบางตัวทำ
00:16:15 → 00:16:18 งานได้ไม่ดีหรือยาบางตัวทำงานมากเกินไป
00:16:18 → 00:16:20 ฉะนั้นน้ำเกปฟรุดก็จะไม่สามารถกิินกับยา
00:16:20 → 00:16:23 ได้ฉะนั้นเราเคยอาจได้ยินว่าน้ำผลไม้ไม่
00:16:23 → 00:16:25 ควรกินกับยานะเพราะเห็ดนี้แหละออ่าอันนี้
00:16:25 → 00:16:27 ก็เป็นอันง่ายๆไม่ใช่ซัพพลีเมนท์ด้วยซ้ำ
00:16:27 → 00:16:29 เนาะเป็นผลไม้ที่เราเราเจออย่างเงี้ยค่ะ
00:16:29 → 00:16:32 ที่เราก็ไม่ควรกินเนาะอันดับถัดไปก็ที่
00:16:32 → 00:16:36 อาจจะกินหมดก็คือพวกแปะก๊วยโสมอะไรอย่าง
00:16:36 → 00:16:38 เงี้ยค่ะเพราะว่าเราบอกว่ากลิ่นแปลกก๊วย
00:16:38 → 00:16:41 สมองดีนะโสมหัวใจดีไงทำงานได้ดีนะคะเลือด
00:16:41 → 00:16:44 ไหลเวียนดีแต่ประเด็นคือบางทีมันทำให้
00:16:44 → 00:16:47 เลือดเนี่ยมันไหลออกมากเกินไปนะคะคือแบบ
00:16:47 → 00:16:49 แล้วเราก็แบบว่าบางคนก็กินยาละลายลิ่ม
00:16:49 → 00:16:52 เลือดอีกอย่างเงี้ยบางคนได้คีโมเข้าไปนะ
00:16:52 → 00:16:54 คะเจอผลค้างเคียงทำให้เกล็ดเลือดต่ำอีก
00:16:54 → 00:16:56 เลือดยิ่งออกง่ายกว่าเดิมฉะนั้นสิ่งเหล่า
00:16:56 → 00:16:59 เนี้ยเวลากินมันก็อาจจะทำให้มีอันตราต่อ
00:16:59 → 00:17:01 ร่างกายได้ก็เลยอยากให้ปรึกษาแพทย์ก่อน
00:17:01 → 00:17:03 ที่เราจะกินจะดีกว่าค่ะฉะนั้นมันกินได้
00:17:03 → 00:17:05 เลยเนาะแต่อาจจะต้องถามแพทย์นิดนึงใช่แต่
00:17:05 → 00:17:07 บางอย่างอ่านอ่านเคฟู้ดนี่อาจจะไม่แนะนำ
00:17:08 → 00:17:10 ให้กินเลยมันมียานะคะแล้วก็อาหารเสริม
00:17:10 → 00:17:13 หลากหลายที่เราสามารถลองได้เนาะถ้าบอกว่า
00:17:13 → 00:17:16 อาหารเสริมที่หมอขอแนะนำะกันนะคะสำหรับคน
00:17:16 → 00:17:19 ไข้เมื่อกี้มีบอกไปแล้วว่า 1 วิตามินดอก
00:17:19 → 00:17:22 นะคะถ้าอยากให้ลองทานดูถ้าเราตรวจแล้วไม่
00:17:22 → 00:17:24 ถึงเนาะเพราะว่าถ้าวิตามินดีไม่ถึงภูมิ
00:17:24 → 00:17:26 คุ้มกันก็ทำงานได้ไม่ค่อยดีนะคะชั้
00:17:26 → 00:17:29 วิตามินดีนี่อยากให้เสริมนะคะแต่ว่ากิน
00:17:29 → 00:17:32 เช้านะเออไม่ใช่ว่าวิตามินดีปุ๊บคุณไปกิน
00:17:32 → 00:17:34 ก่อนนอนพระอาทิตย์มาเช้าคุณก็ต้องกินเช้า
00:17:34 → 00:17:37 เอเพราถ้ากินต่อนก่อนถ้ากินวิตามินดีก่อน
00:17:37 → 00:17:39 นอนจะเกิดอะไรขึ้นคะบางคนหลับไม่ดีเหมือน
00:17:39 → 00:17:41 กันเพราะว่ามันทำให้อิตง่ายเหมือนกันค่ะ
00:17:41 → 00:17:44 เนาะแต่ว่ามันก็มีคนไข้ของหมอบางคนกิน
00:17:44 → 00:17:46 วิตามินดีก่อนนอนแล้วนอนดีก็มีอ่าคือมัน
00:17:46 → 00:17:50 จะมีคนโดยส่วนน้อยที่กินได้อย่างเงี้ยค่ะ
00:17:50 → 00:17:52 แล้วก็ขอเสริมนิดนึงเพราะว่าหลายคนชอบมา
00:17:52 → 00:17:54 คอมเมนต์ว่าถึงคืออะไรกินถึงคืออะไรเนา
00:17:54 → 00:17:57 ถึงเนี่ยก็คือประมาณถ้าเป็นคนไข้มะเร็ง
00:17:57 → 00:17:59 เนาะอาจจะประมาณตั้งแต่ 4 100 I ถึง
00:17:59 → 00:18:02 5,000 I ต่อวันเราต้องบอกก่อนว่าแต่ละ
00:18:02 → 00:18:05 คนเนี่ยการดูดซูมไม่เท่ากันนะคะแล้วก็อาจ
00:18:05 → 00:18:07 จะมีปัจจัยเช่นโรคกระดูกพูนน่ะวิตามินดี
00:18:07 → 00:18:11 ซตมีปัญหาฉันอาจต้องการมากกว่าคนทั่วไปคน
00:18:11 → 00:18:13 ทั่วไปก็แนะนำว่าให้ตรวจเลือดไปด้วยเจ๊
00:18:13 → 00:18:16 รู้ว่าเรากินเนี่ยถึงหรือยังอ่าอีกอันนึง
00:18:16 → 00:18:19 วิตามินดีละลายในไขมันไม่ได้ละลายในน้ำ
00:18:19 → 00:18:22 เปล่าเนาะฉันต้องกินพร้อมหรือหลังอาหารออ
00:18:22 → 00:18:25 บางคนก็บอกหมอกินแล้วนะแต่ทำไมไม่ขึ้นเลย
00:18:25 → 00:18:27 อ่ะกินยังไงออ๋อก็แปลว่าถ้าสมมุติว่าเรา
00:18:27 → 00:18:29 กินวิตามินดีเราก็ตามด้วยตามด้วยน้ำเปล่า
00:18:29 → 00:18:31 เนี่ยบางทีร่างกายไม่ได้ดูดซึมนะคะมันก็
00:18:31 → 00:18:33 ออกออกร่างกายไปเลยแต่ว่าพอเรากินพร้อม
00:18:33 → 00:18:36 อาหารปุ๊บมันก็เลยเข้าไปกับอาหารมันก็เลย
00:18:36 → 00:18:38 ซึมเข้าไปในร่างกายได้เข้ามาในกระแสได้
00:18:38 → 00:18:41 ใช่เพราะว่าวิตามิน a d e k ค่ะดูดซึม
00:18:41 → 00:18:44 ในไขมันออ่าฉะนั้นอะไรก็ตามที่มารูปแบบไข
00:18:44 → 00:18:48 มันรูปแบบซอตเจลอ่ะค่ะของของอาหารเสริม
00:18:48 → 00:18:51 ควรกินพร้อมหรือหลังมื้ออาหารเลยอืโอเค
00:18:51 → 00:18:53 อันที่ 1 คือวิตามินดีอันที่ 2 อันที่ 2
00:18:53 → 00:18:55 นะคะแนะนำก็คือตัวฟิช Oil โอเมก้า 3
00:18:55 → 00:18:57 เมื่อกี้ที่บอกไปแล้วเนาะอย่างที่บอกก็
00:18:57 → 00:18:59 คือฟิ Oil นะคะมันเป็นรูปแบบซอฟตเจล
00:18:59 → 00:19:02 เหมือนกันใช่ไมั้ยคะก็ควรกินพร้อมหรือว่า
00:19:02 → 00:19:04 หลังอาหารทันทีคราวนี้ถามว่ากินเท่าไหร่
00:19:04 → 00:19:07 ถึงจะพอก็ต้องดูก่อนว่าเอ๊ะคนไข้การ
00:19:07 → 00:19:09 อักเสบมากน้อยแค่ไหนเนาะมีปัญหาเรื่อง
00:19:09 → 00:19:11 หลอดเลือดหัวใจหลอดเลือดสมองด้วยหรือ
00:19:11 → 00:19:13 เปล่าเพราะว่าในตัวโอเมก 3 Fish Oil
00:19:13 → 00:19:17 เนี่ยค่ะจะมีค่า epa เนาะกับ dha นะคะที่
00:19:17 → 00:19:19 ไม่เหมือนกัน epa นี่เกี่ยวกับเรื่องหลอด
00:19:19 → 00:19:22 เลือดหัวใจ dha กับเรื่องสมองฉะนั้นถ้าคน
00:19:22 → 00:19:24 ไข้มีอาการเกี่ยวกับสมองและหัวใจเนี่ยโดส
00:19:24 → 00:19:26 อาจจะไม่ค่อยเท่ากันเท่าไหร่แต่ขอให้ดู
00:19:26 → 00:19:28 นิดนึงว่าไอ้ตัว epa กับ dha เนี่ยมัน
00:19:28 → 00:19:31 เยอะนิดนึงไม่ใช่มีแบบว่าน้ำมันโอเมก้า 6
00:19:31 → 00:19:33 ค่อนข้างเยอะอย่างเงี้ยค่ะก็ให้กินพร้อม
00:19:33 → 00:19:36 อาหารเนาะแล้วก็สามารถทำให้การอักเสบลดลง
00:19:36 → 00:19:38 นะคะแล้วก็ความอยากอาหารมากขึ้นเนาะช่วย
00:19:38 → 00:19:41 ได้อันนี้อันที่ 2 นะคะแล้วก็ควรบอกแพทย์
00:19:41 → 00:19:43 ด้วยเพราะว่า Fish Oil เนี่ยก็อาจจะทำ
00:19:43 → 00:19:45 ให้มีแบบว่าเลือดเหลวได้เหมือนกันนะคะ
00:19:45 → 00:19:48 คราวนี้อันที่ 3 นะคะกลุ่มที่อยากแนะนำก็
00:19:48 → 00:19:51 คือกลุ่มที่ทำให้ภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี
00:19:51 → 00:19:54 ขึ้นะกันนะคะก็เช่นเบต้ากูแคนเป็นต้นเนาะ
00:19:54 → 00:19:56 จริงๆมีหลายตัวเลยแต่ว่าเบต้ากูแคนเนื่อง
00:19:56 → 00:19:58 จากว่าในเมืองไทยเนี่ยมันหาได้ค่อนข้าง
00:19:58 → 00:20:01 ง่ายแล้วก็มีหลายอแบรนด์ที่บอกว่าได้รับ
00:20:01 → 00:20:03 อยอย่างเงี้ยค่ะก็ให้ไปดูนนิดนึงแล้วกัน
00:20:03 → 00:20:06 ว่าเต้าแคนที่เราอยากเลือกเนี่ยโอเคไหม
00:20:06 → 00:20:09 เพราะว่าอะไรเพราะว่าเบตกูแคนน่ะมันมี 2
00:20:09 → 00:20:12 แบบหลักๆมันจะมีไอ้ที่ 1 3 1 อย่าง
00:20:12 → 00:20:14 เงี้ยค่ะมันเป็นมันเป็นหางเลขออกมาเนาะ
00:20:14 → 00:20:17 1314 นี่หมายความว่าเอ๊ะกลุ่มเนี้ยกิน
00:20:17 → 00:20:20 ได้นะแต่เป็นกลุ่มที่ให้เป็นพวกไฟเบอร์นะ
00:20:20 → 00:20:23 คะลดคอเลสเตอรอลนะคะเป็นแบบว่าอ่าเขา
00:20:23 → 00:20:25 เรียกว่าเป็นพรีไบโอติกสำหรับลำไส้นะคะ
00:20:25 → 00:20:28 ช่วยทำให้แบบว่าการป้องกันตับเนาะได้ดี
00:20:28 → 00:20:30 ยิ่งขึ้นอย่างเงี้ยอันนี้กินก็คือได้หัว
00:20:30 → 00:20:33 ใจหลอดเลือดคอเลสเตอรอลเป็นต้นนะกลุ่มที่
00:20:33 → 00:20:36 2 นะคะเบตกูแคนเป็นกลุ่มเเรียกว่า 1316
00:20:36 → 00:20:39 1316 นี่ก็หมายความว่าเป็นกลุ่มที่
00:20:39 → 00:20:41 สามารถทำให้ภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้นนะ
00:20:42 → 00:20:44 คะเช่นคนไข้มะเร็งเนี่ยภูมิไม่ค่อยดีใช่
00:20:44 → 00:20:47 มั้ยภูมิต่ำจากยาถูกมั้ยคะก็การกินเบต้า
00:20:47 → 00:20:50 คูแคนเข้าไปเนี่ยก็อาจจะทำให้พวก nkc
00:20:50 → 00:20:52 Natural C Cell เมเลิศขาวเนี่ยค่ะทำ
00:20:52 → 00:20:54 งานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเนาะหรือ
00:20:54 → 00:20:57 ถ้าเขาคมีการอักเสบเนาะก็ทำให้กดการ
00:20:57 → 00:21:00 อักเสบลงได้ฉะนั้นมันบอกว่าการกินเบต้า
00:21:00 → 00:21:02 กูแคนเนี่ยไม่ได้ทำให้ภูมิดีอย่างเดียวนะ
00:21:02 → 00:21:04 แต่เป็นการปรับสมดุลภูมิคุ้มกันดีกว่า
00:21:04 → 00:21:06 หรือแม้กระทั่งว่าถ้าเราไม่ได้เป็นคนเป็น
00:21:06 → 00:21:09 มะเร็งแต่ว่าช่วงนั้นภูมิตกพักผ่อนไม่
00:21:09 → 00:21:11 ค่อยถึงอย่างเงี้ยค่ะร่างกายอ่อนแอการกิน
00:21:11 → 00:21:15 เบต้ากลูแคน 1316 ก็ทำให้เมลดขาวทำงานได้
00:21:15 → 00:21:17 ดีขึ้นสามารถไปต่อสู้กับพวกไวรัส
00:21:17 → 00:21:19 แบคทีเรียอะไรต่างๆได้ด้วยเหมือนกัน
00:21:19 → 00:21:21 ฉะนั้นการที่คุณจะเลือกเบต้ากูแคนก็ต้อง
00:21:21 → 00:21:23 ดูนิดนึงเนาะเพราะว่ามันส่วนใหญ่สกัดมา
00:21:23 → 00:21:26 จากพวกแบบว่ายีสอะไรอย่างเงี้ยค่ะก็ต้อง
00:21:26 → 00:21:29 เลือกผลิตภัณฑ์นิดนึงอีกอันนึงค่ะนอกจาก
00:21:29 → 00:21:32 เบต้าคูแคนเนาะก็อยากให้ดูเรื่องลำไส้นิด
00:21:32 → 00:21:33 นึงเหมือนกันค่ะเพราะอย่างที่บอกว่าคน
00:21:33 → 00:21:36 มะเร็งคนไข้มะเร็งเนี่ยส่วนใหญ่ก็คืออาจ
00:21:36 → 00:21:38 จะกินอาหารได้ไม่ค่อยถึงหรือกินไม่ค่อยดี
00:21:38 → 00:21:41 แล้วก็อาจจะมีไซส์เอฟเฟคหรือผลข้างเคียง
00:21:41 → 00:21:43 จากยาเช่นขับถ่ายแบบไม่ออกไงถ่ายแข็งหรือ
00:21:43 → 00:21:46 บางคนก็ถ่ายเหลวเลยเนาะก็เลยทำให้ภวะลำ
00:21:46 → 00:21:49 ไส้แปรปวนค่อนข้างจะเยอะหมอก็เลยอยากแนะ
00:21:49 → 00:21:52 นำพวกโปรไบโอติกนิดนึงค่ะโปรไบโอติกเนี่ย
00:21:52 → 00:21:54 ก็จะมีในรูปแบบทั้งอาหารเนาะคะเนาะไม่ว่า
00:21:54 → 00:21:57 จะเป็นของกิมจินะคะอะไรอย่างเงี้ยก็ได้
00:21:57 → 00:22:00 แต่ว่าถ้าเราสามารถได้โพรไบโอติกแบบที่
00:22:00 → 00:22:02 เป็นอาหารเสริมเลยจะได้ดูว่าเออชนิดเนี้ย
00:22:02 → 00:22:05 มันถึงมนะคะเหมาะกับเราหรือเปล่าเพราะว่า
00:22:05 → 00:22:07 มันมีหนึ่งในกลไกของโรคมะเร็งอ่ะค่ะที่
00:22:07 → 00:22:11 บอกว่าถ้าเรามีกัดไมโครไบโอมที่ไม่สมดุล
00:22:11 → 00:22:14 หรือจุลินทรรลำไส้ที่ไม่สมดุลเนี่ยจะ
00:22:14 → 00:22:16 สามารถทำให้มะเร็งโตขึ้นได้ง่ายเช่นเดียว
00:22:16 → 00:22:18 กันฉะนั้นถ้าคนไข้มะเร็งรู้อยู่แล้วว่า
00:22:18 → 00:22:21 เอ๊ะลำไส้เราไม่ค่อยโอเคเลยหรือว่าการได้
00:22:21 → 00:22:24 รับยาคีโมเนี่ยก็เป็นการทำลายจุลินทรีย์
00:22:24 → 00:22:26 ในลำไส้เนี่ยก็เลยควรจะเสริมโพรไบโอติก
00:22:26 → 00:22:28 นิดนึงแต่การที่จะกินโปรไบโอติกเราก็ต้อง
00:22:28 → 00:22:30 เลือกนิดนึงว่าเอ๊ะเราเนี่ยสามารถกิน
00:22:30 → 00:22:34 โบติกแบบมีนมได้มนะคะแบบอันนี้มีน้ำตาล
00:22:34 → 00:22:36 ได้หรือเปล่าอะไรอย่างเงี้ยให้เลือกนิด
00:22:36 → 00:22:38 นึงสายพันธุ์คือทุกวันเนี้ค่ะมี
00:22:38 → 00:22:40 โปรไบโอติกขายเยอะมากหลายยี่ห้อมากหมอมี
00:22:40 → 00:22:43 ไกด์ไลน์ง่ายๆสำหรับคนที่กำลังดูอยู่มยคะ
00:22:44 → 00:22:45 ว่าเพราะมันเยอะไปหมดเลยแล้วเขาไม่รู้ว่า
00:22:45 → 00:22:47 เขาจะตั้งต้นจะเริ่มต้นยังไงดีถ้าอยากจะ
00:22:47 → 00:22:50 เลือกโปรไบโอติกที่ช่วยโดยเฉพาะเนาะในเคส
00:22:50 → 00:22:51 นี้ก็คือถ้าเขาเป็นมะเร็งอยู่ด้วยอย่าง
00:22:51 → 00:22:54 เงี้ยค่ะว่าควรเลือกยังไงดีคะก็ง่ายๆนะคะ
00:22:54 → 00:22:57 ก็คือ 1 ให้ดูก่อนเลยว่าสินค้าที่เรา
00:22:57 → 00:23:00 เลือกเนี่ยมียมั้อันที่ 1 ต้องสำคัญเนาะ
00:23:00 → 00:23:02 อันที่ 2 ส่วนใหญ่โปรไบโอติกอ่ะค่ะเขาจะ
00:23:02 → 00:23:05 มีเขียนชื่อข้างหน้าละแล้วเขาจะมีเขียน
00:23:05 → 00:23:08 นัอข้างหลังแบบ l3 l4 อะไรอย่างเงี้ยถ้า
00:23:08 → 00:23:10 มันมีนัเแปว่าสายพันธุ์เนี้ยเามีการวิจัย
00:23:10 → 00:23:13 แล้วการทดลองว่ามันเหมาะกับคนไข้อะไร
00:23:13 → 00:23:15 อย่างเงี้ยค่ะอันถัดไปดูนิดนึงว่า
00:23:15 → 00:23:18 โปรไบโอติกที่เราเลือกเนี่ยสำหรับอะไรบาง
00:23:18 → 00:23:20 ทีบอกว่าสำหรับอารมณ์อามุบางทีบอกว่า
00:23:20 → 00:23:23 สำหรับการขับถ่ายบางทีสำหรับการภูมิคุ้ม
00:23:23 → 00:23:24 กันอย่างเงี้ยเราอาจจะเลือกเกี่ยวกับการ
00:23:24 → 00:23:27 ขับถ่ายกับภูมิคุ้มกันทำให้มันเหมาะสมกับ
00:23:27 → 00:23:30 เราเนาะแล้วก็อันถัดไปก็ต้องดูว่าอ่ามห่อ
00:23:30 → 00:23:32 ลักษณะต่างๆผลิตภัณฑ์เป็นยังไงเช่นอยู่ใน
00:23:32 → 00:23:35 แคปซูลมยหรือว่าเป็นซองแบบเป็นผงๆอย่าง
00:23:35 → 00:23:37 เงี้ยค่ะเพราะจะได้ดูว่าเราควรจะกินแบบ
00:23:37 → 00:23:39 ไหนเบางคนเนี่ยอาจจะกลืนลำบากเนาะเป็น
00:23:39 → 00:23:42 เม็ดอาจจะไม่ค่อยเหมาะสมอาจจะเป็นผงผสม
00:23:42 → 00:23:44 น้ำอาจจะกลืนง่ายกว่าหรือบางคนก็บอกว่า
00:23:44 → 00:23:46 เออฉันกินเม็ดได้ก็ต้องกินเป็นเม็ดอย่าง
00:23:46 → 00:23:49 นี้ก็โอเคอ่าฉั้นการกินโพรไบโอติกอย่าง
00:23:49 → 00:23:51 เงี้ยค่ะก็เลือกนิดนึงะกันอย่างที่หมอบอก
00:23:51 → 00:23:53 เนาะแล้วก็จัดเก็บอยู่ในแบบว่าเอิ่มตู้
00:23:53 → 00:23:55 เย็นอุณหภูมิเย็นนิดนึงมันจะได้อยู่ได้
00:23:55 → 00:23:58 นานขึ้นค่ะทีเนี้ค่ะเข้ามาที่เรื่องการทำ
00:23:58 → 00:24:02 ทำคีโมค่ะนะคะก็คืออยากรู้ว่าทำไมบางคนทำ
00:24:02 → 00:24:06 คีโมเนี่ยยังแข็งแรงไม่แพ้แต่บางคนแพ้
00:24:06 → 00:24:08 หนักปัจจัยมันขึ้นอยู่ที่อะไรอ่ะคะต้อง
00:24:08 → 00:24:11 บอกก่อนว่าอันที่เราพูดแพ้แพคีโมจริงๆมัน
00:24:11 → 00:24:13 ไม่ใช่แพ้คีโมนะอ้าวเหรอคะจริงเพราะว่า
00:24:13 → 00:24:16 การแพ้ยาจริงๆหมายถึงว่าคุณฉีดเข้าไปปุ๊บ
00:24:16 → 00:24:18 อุ๊ยหัวหายใจไม่ออกเลยฉีดเข้าไปปุ๊บแบบ
00:24:18 → 00:24:20 เป็นผืดอันนี้เราเรียกว่าแพ้อ่าแต่การที่
00:24:20 → 00:24:23 เราบอกว่าแพ้แล้วผมล่วกแพ้แล้วไม่มีแรง
00:24:23 → 00:24:25 อย่างเงี้ยเราเรียกว่าผลข้างเคียงของยา
00:24:25 → 00:24:28 อ๋ออ่าฉั้นขอแก้ความเข้าใจก่อนว่าที่เรา
00:24:28 → 00:24:31 พูดแพ้ๆเนี่ยคือผลข้างเคียงของยานะแต่
00:24:31 → 00:24:33 ครันนี้บอกว่าเอ๊ะทำไมผลข้างเคียงของยา
00:24:33 → 00:24:36 คีโมมันถึงไม่เหมือนกันเพราะว่าอะไรเพราะ
00:24:36 → 00:24:39 ว่า 1 น้ำหนักแต่ละคนก็ไม่เท่ากันถูกมั้ย
00:24:39 → 00:24:41 คะโดสยาอะไรต่างๆก็อาจจะไม่เหมือนกัน
00:24:42 → 00:24:44 พันธุกรรมไม่เหมือนกันอีกเนาะไลฟ์สไตล์
00:24:44 → 00:24:47 ไม่เหมือนกันอีกฉันก็เลยบอกว่า 1 ถ้าเป็น
00:24:47 → 00:24:49 เรื่องของโดสขนาดยาส่วนใหญ่แพทย์จะคำนวณ
00:24:49 → 00:24:51 ไว้ละอ่ะอันนี้ไม่ใช่หน้าที่เราเนาคะอัน
00:24:52 → 00:24:55 ที่ 2 นะคะก็ือคือเรื่องของพันธุกรรมสมัย
00:24:55 → 00:24:57 เนี้ยค่ะมันก็เลยมีคนไข้หลายคนเนาะเไป
00:24:57 → 00:25:00 ตรวจดูพันกรเค้าก่อนเลยดูยีนเลยว่าเอ๊ะ
00:25:00 → 00:25:02 ยีนฉันน่ะรับยาตัวนี้ได้หรือเปล่าบางที
00:25:02 → 00:25:05 ไม่ใช่แค่ยาคีโมนะยาพวกคอเลสเตอรอลยาลด
00:25:05 → 00:25:08 ความดันบางอย่างก็กินไม่ได้เพราะว่าร่าง
00:25:08 → 00:25:10 กายเราเนี่ยใช้เร็วกว่าคนทั่วไปใช้เร็ว
00:25:10 → 00:25:12 หมายถึงว่าต้องได้รับยาปริมาณมากกว่าคน
00:25:12 → 00:25:15 ทั่วไปอันนี้อันที่ 1 แบบที่ 2 คือใช้
00:25:15 → 00:25:17 น้อยกว่าคนทั่วไปคือมันขจัดไม่ค่อยออกไง
00:25:18 → 00:25:21 มันก็ทำทำให้เราได้รับยา 100% เรามีรู้
00:25:21 → 00:25:23 สึกเหมือนได้ยา 150% อย่างเงี้ยค่ะอันนี้
00:25:23 → 00:25:25 ก็ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมคนไท่และเนาะแต่
00:25:25 → 00:25:27 ว่าพันธุกรรมอย่างที่บอกว่าปัจจุบันเรา
00:25:27 → 00:25:30 ยังไม่ได้มีงบที่จะโรดให้ทุกคนน่ะค่ะก็
00:25:30 → 00:25:33 เลยแค่มีบางคนที่เขาสามารถรู้ได้เนาะอัน
00:25:33 → 00:25:35 ที่ 3 แน่นอนขึ้นอยู่กับตัวเราและ
00:25:35 → 00:25:38 ไลฟ์สไตล์เรานะคะว่าเป็นยังไงบ้างบางคน
00:25:38 → 00:25:40 นี่โอ้โหรู้ว่าต้องให้คีโมฉันกินโปรตีน
00:25:40 → 00:25:42 ให้ถึงฉันเตรียมพร้อมร่างกายออกกำลังกาย
00:25:42 → 00:25:46 นอนให้ดีฉะนั้นร่างกายค่อนข้างแข็งแรงได้
00:25:46 → 00:25:48 รับคีโมมาผลข้างเคียงก็ค่อนข้างน้อย
00:25:48 → 00:25:50 เหมือนแบบฉันจะซ้อมรบแล้วฉันก็ซ้อมก่อน
00:25:50 → 00:25:52 ซ้อมก่อนพอไป่ซ้อมก่อนที่ฉันจะต้องเจอกับ
00:25:52 → 00:25:55 มันอย่างเงี้ยก็แบบก็ชิๆก็ได้ชๆเพราะว่า
00:25:55 → 00:25:57 เรารู้อยู่แล้วว่าเอ้ยคีโมเนี่ยได้รับ
00:25:57 → 00:25:59 เข้าไปปึ๊บนะมันไม่รู้หรอกว่าเซลล์ดี
00:25:59 → 00:26:03 เซลล์ไม่ดีฉันฆ่าหมดอือ่าถูกมยแต่ว่าการ
00:26:03 → 00:26:05 ฆ่าของมันเนี่ยคนไข้ก็บอกแต่ฉันเตรียม
00:26:05 → 00:26:07 ร่างกายแล้วนะฉันโปรตีนถึงฉันอันนั้นถึง
00:26:07 → 00:26:10 วิตามินถึงทุกอย่างฉันเอ่อเธอเข้ามาเหอะ
00:26:10 → 00:26:13 ถึงเธอจะแบบฆ่าตัวไม่ตัวดีตัวไม่ดีไปแต่
00:26:13 → 00:26:16 ฉันยังมี 2 สำรองไว้เยอะอ่ะร่างกายฉันก็
00:26:16 → 00:26:17 ยังไหวฉันยังนอนได้อะไรได้อย่างเงี้ยก็
00:26:18 → 00:26:20 เลยทำให้ร่างกายเขค่อนข้างโอเคแต่กับการ
00:26:20 → 00:26:24 คนไข้บางคนเนี่ยนอนก็ไม่ดีกินก็ไม่ถึงออก
00:26:24 → 00:26:26 กำลังกายก็ไม่โอเคอย่างเงี้ยทำให้เขาก็
00:26:26 → 00:26:28 ไม่โอเคเหมือนกันที่จะ
00:26:28 → 00:26:32 [เพลง]
00:26:32 → 00:26:38 อับยาโมที่ข้าเงเหมือนฉะนั้นถ้าในเคสนี้
00:26:38 → 00:26:41 ค่ะเขาอยากขอคำแนะนำเนาะว่าก่อนและหลังทำ
00:26:41 → 00:26:44 คีโมเนี่ยควรจะทำยังไงให้เขามีผลค้าง
00:26:44 → 00:26:47 เคียงให้น้อยลงค่ะจริงๆอยากให้ไปศึกษา
00:26:47 → 00:26:49 ก่อนค่ะว่ายาคีโมที่เราจะได้รับอ่ะค่ะมัน
00:26:49 → 00:26:52 มีผลข้างเคียงยังไงบ้างเพราะว่าจริงๆแต่
00:26:52 → 00:26:54 ละตัวก็อาจจะมีผลข้างเคียงไม่เหมือนกัน
00:26:54 → 00:26:57 เนาะบางตัวนะคะอย่างแรกๆเลยอย่างอันแรกๆ
00:26:57 → 00:26:59 ก็คือ 1 อาจจะทำให้ให้แบบอ่อนเพียเหนื่อย
00:26:59 → 00:27:02 ง่ายอะไรอย่างเงี้ยค่ะฉะนั้นอาหารต้องถึง
00:27:02 → 00:27:05 เนาะนะคะไม่ว่าจะเป็นโปรตีนไขมันที่ดีถูก
00:27:05 → 00:27:07 มั้ยคะโอเมก้า 3 ที่เราคุยไปแล้วเนาะหรือ
00:27:08 → 00:27:10 ว่าจะการกินโปรตีนไข่ขาวให้ถึงเงี้ยค่ะ
00:27:10 → 00:27:12 มันก็ควรถึงเพื่อจะทำให้ร่างกายเราเนี่ย
00:27:12 → 00:27:15 มีของสำรองไว้ก่อนเพฉันได้รับคีโมเข้าไป
00:27:15 → 00:27:18 แล้วสารอาหารเหล่านี้ยังถึงนะอ่าภูมิคุ้ม
00:27:18 → 00:27:20 กันช้ยังเช็ดได้อยู่เนาะอันดับที่ 2 ก็
00:27:20 → 00:27:22 คือเรื่องของความสะอาดหรือไฮจีนเพราะว่า
00:27:22 → 00:27:24 เรารู้อยู่แล้วว่าการที่เราได้รับคีโม
00:27:24 → 00:27:27 เนี่ยภูมิจะตกไงถูกมยภูมิตกปุ๊บแปลว่าคุณ
00:27:27 → 00:27:30 จะกินอะไรคุก็ต้องกินอาหารที่ปรุงสุกเนาะ
00:27:30 → 00:27:32 ไม่ใช่กินอาหารดิบอะไรอย่างเงี้ยค่ะหรือ
00:27:32 → 00:27:35 ว่าผลไม้เงี้ยก็ต้องล้างให้ดีให้สะอาดนะ
00:27:35 → 00:27:38 คะหรือแม้กระทั่งว่าถ้าคุณได้รับคีโมจน
00:27:38 → 00:27:40 ไม่เลือดขาวคุณต่ำมากๆบางทีต้องฉีดยา
00:27:40 → 00:27:43 กระตุ้นด้วยซ้ำฉะนั้นการ Practice ไฮจีน
00:27:43 → 00:27:45 นะคะความสะอาดสำคัญมากๆเลยนะคะแม้กระทั่ง
00:27:45 → 00:27:47 คนที่บ้านก็ต้องเวลาเราคุยกันอะไรกัน
00:27:47 → 00:27:49 อย่างเงี้ยค่ะเราก็ต้องป้องกันตัวเองว่า
00:27:49 → 00:27:51 เอ๊ะถ้าเราไปข้างนอกบางทีเราต้องใส่หน้า
00:27:51 → 00:27:54 กากอนามัยมยนะคะเพื่อที่เราจะไม่แบบไป
00:27:54 → 00:27:55 สุ่มเสี่ยงการติดเชื้อได้ง่ายอันเนี้ยเรา
00:27:55 → 00:27:58 ต้องเตรียมตัวก่อนแล้วถูกป่ะอันถัดไปที่
00:27:58 → 00:28:00 เคยคุยกับเจแล้วว่าเออมันทำให้ผมร่วงหรือ
00:28:00 → 00:28:03 เปล่าถูกมยถ้าเราเป็นผู้หญิงแล้วเราไม่มี
00:28:03 → 00:28:05 ความมั่นใจอ่ะหมอคิดว่าเราบางคนอาจจะ
00:28:05 → 00:28:07 เตรียมวิกหรือเตรียมอะไรก่อนก็ได้อย่าง
00:28:07 → 00:28:09 เงี้ยค่ะเพื่อให้เราบอกว่าเออมีผมให้
00:28:09 → 00:28:12 เรียบร้อยเนาะแล้วก็แน่นอนว่าอาหารต่างๆ
00:28:12 → 00:28:14 นะคะรมอาหารเสริมบางอย่างอาจจะช่วยได้
00:28:14 → 00:28:17 เช่นสังกสีเนาะไบโอตินต่างๆเงี้ยค่ะก็ทำ
00:28:17 → 00:28:20 ให้รากผมแข็งแรงขึ้นได้ถ้าจะให้สรุปนะคะ
00:28:20 → 00:28:23 สิ่งแรกเลยที่เขาถามมาว่ามะเร็งกลัวความ
00:28:23 → 00:28:27 สุขจริงมยเท่าที่ฟังคุณหมอมาเนี่ยจริง
00:28:27 → 00:28:34 เนาะเพราะว่า
00:28:35 → 00:28:38 ใช่ทำให้ภูมพุ้มกันเราตกลงด้วยเนาะแล้วก็
00:28:38 → 00:28:40 การที่เราได้อยู่กับเพื่อนหรือว่าอยู่กับ
00:28:40 → 00:28:42 คนที่เรารักการที่เรามีกำลังใจเนี่ยมันก็
00:28:42 → 00:28:44 สามารถไม่น่าเชื่อเนาทำให้ภูมิคุ้มกันของ
00:28:44 → 00:28:46 เรามันแข็งแรงมากขึ้นด้วยใช่ไหมคะคุณหมอ
00:28:46 → 00:28:48 จริงค่ะอันที่ 2 เนี่ยก็คือเรื่องอาหาร
00:28:48 → 00:28:51 การกินนะคะควรจะเลือกทานเาแล้วอาหารการ
00:28:51 → 00:28:54 กินเนี่ยรวมถึงอาหารเสริมด้วยถามว่ากิน
00:28:54 → 00:28:57 อาหารเสริมได้ไหมกินได้แลกินดีด้วยถ้า
00:28:57 → 00:28:59 เลือกให้ถูกต้องนะคอที่อันตรายก็อาจจะ
00:28:59 → 00:29:01 ต้องหลีกเลี่ยงเนแล้วก็เราสามารถไปหาข้อ
00:29:02 → 00:29:03 มูลตามอินเทอร์เน็ตได้เลยเป็นสิ่งที่ดี
00:29:03 → 00:29:07 แต่อย่าสรุปเองถามหมอนิดนึงเนาะเพราะ
00:29:07 → 00:29:08 อย่างเมื่อกี้เก็เป็นความรู้ใหม่มากเลยนะ
00:29:08 → 00:29:11 คะไม่รู้มาก่อนเลยว่าการกินชาเขียวหรือ
00:29:11 → 00:29:14 น้ำผลไม้บางอันเนี่ยมีผลต่อการรับประทาน
00:29:14 → 00:29:16 ยาบางชนิดด้วยนะคะฉะนั้นเนี่ยเป็นสิ่งที่
00:29:16 → 00:29:19 สำคัญมากๆว่าไม่ควรละเลยและถามคุณหมอก่อน
00:29:19 → 00:29:22 นะคะอันต่อมานี่ก็คือการเตรียมตัวร่างกาย
00:29:22 → 00:29:25 number one เลยคือต้องนอนให้ถึงเนาะนอน
00:29:25 → 00:29:28 ให้ถึงนะที่นี้ก็คือ 7-8 ชมแล้วเนี่ยบาง
00:29:28 → 00:29:31 คนอาจจะทำคีโมโหฉันมันตื่นกลางดึกอาจจะ
00:29:31 → 00:29:33 ต้องเข้าห้องน้ำเจ็บปวดเกินไปฉะนั้นเนี่ย
00:29:33 → 00:29:35 ถ้าเรารู้สึกว่าเรามีปัญหาเรื่องการนอน
00:29:35 → 00:29:38 จริงๆเนี่ยอาจจะต้องปรึกษาแพทย์นะคะแพทย์
00:29:38 → 00:29:40 อาจจะมีการปรับยาหรืออาจจะมีต้องใช้อาหาร
00:29:40 → 00:29:42 เสริมหรือว่ายาบางตัวช่วยให้นอนหลับม
00:29:42 → 00:29:44 เพราะว่าถ้าเราไม่นอนหลับเนี่ยร่างกายจะ
00:29:45 → 00:29:48 ฟื้นฟูไม่ได้เลยใช่มั้คะจริงค่ะแล้วก็รวม
00:29:48 → 00:29:50 กับการออกกำลังกายด้วยถึงแม้ร่างกายเราจะ
00:29:50 → 00:29:53 อ่อนแอแต่ถ้าเรายิ่งนอนเปื่อยก็จะยิ่ง
00:29:53 → 00:29:55 อ่อนแอมันก็จะยิ่งเปื่อยไปกว่านั้นแหละ
00:29:55 → 00:29:57 ใช่แล้วเพราะว่าอย่างในเคสนี้เนี่ยเขาจะ
00:29:57 → 00:29:59 ต้องทำทำคีโมอีกตั้งหลายรอบฉะนั้นเราจะ
00:29:59 → 00:30:01 ต้องทำทุกอย่างให้ร่างกายเราแข็งแรงพร้อม
00:30:01 → 00:30:04 รบเนาะฉะนั้นอย่าละเลยการออกกำลังกายแล้ว
00:30:04 → 00:30:07 ก็อันสุดท้ายน่าจะเป็นเรื่องความสะอาดใช่
00:30:07 → 00:30:08 ค่ะใช่มั้ยคะเพราะว่าไม่ว่าจะเป็นความ
00:30:08 → 00:30:11 สะอาดในการทานอาหารการปรุงสุกหรือว่าพอ
00:30:11 → 00:30:14 ภูมิเราตกเนี่ยเราก็จะเจอเชื้อโรคอะไรได้
00:30:14 → 00:30:16 ง่ายฉะนั้นเนี่ยอยากให้ดูแลความสะอาดใน
00:30:16 → 00:30:19 บ้านนิดนึงใช่ค่ะแล้วก็เวลาเราออกไปข้าง
00:30:19 → 00:30:21 นอกด้วยเนาะให้ใส่หน้ากากนิดนึงเงี้ยค่ะ
00:30:21 → 00:30:23 ป้องกันว่าเผื่อได้รับเชื้อโรคมาอะไรอย่า
00:30:23 → 00:30:25 เงี้ยหรือว่า PM อะไรอย่างเงี้ยค่ะก็ป้อง
00:30:25 → 00:30:27 กันตัวเองไปนิดนึงะกันหลายคนอาจสงสัยว่า
00:30:27 → 00:30:29 ผู้ป่วยเป็นมะเร็งสามารถทานอาหารเสริมได้
00:30:29 → 00:30:32 ไหมตามที่คุณหมอได้แนะนำไปสามารถทานได้นะ
00:30:32 → 00:30:35 คะและทานได้ดีด้วยหากเลือกอาหารเสริมที่
00:30:35 → 00:30:37 ปลอดภัยและเหมาะกับตัวคนไข้ค่ะหนึ่งใน
00:30:37 → 00:30:39 อาหารเสริมที่ผู้ป่วยมะเร็งสามารถทานได้
00:30:39 → 00:30:42 ก็คือเบต้าคูแคนและเบต้าคูแคนนะคะมีงาน
00:30:42 → 00:30:45 วิจัยร่วมกับโรคมะเร็งมามากกว่า 60 ปี
00:30:45 → 00:30:47 แล้วนะคะว่าเบตคูแคนเนี่ยสามารถช่วยเสริม
00:30:48 → 00:30:50 ภูมิคุ้มกันนะคะสำหรับคนที่กำลังเป็นโรค
00:30:50 → 00:30:52 มะเร็งและต้องรับการรักษาไม่ว่าจะเป็น
00:30:52 → 00:30:56 ผ่านการทำคีโมฉายแสงผ่าตัดสามารถลดผลข้าง
00:30:56 → 00:30:58 เคียงนะคะแล้วก็ทำให้ให้ร่างกายแข็งแรง
00:30:58 → 00:31:01 ขึ้นแล้วสำหรับใครที่รักษามะเร็งหายแล้ว
00:31:01 → 00:31:04 เนี่ยจะได้ลดโอกาสการกลับมาของมะเร็งด้วย
00:31:04 → 00:31:06 ค่ะเบต้าคูแคนที่เหมาะกับผู้ป่วยมะเร็งนะ
00:31:06 → 00:31:09 คะจะเป็นสายพันธุ์ 1316 D นะคะที่จะช่วย
00:31:09 → 00:31:12 ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาและทำให้
00:31:12 → 00:31:14 การรักษามีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น
00:31:14 → 00:31:17 ค่ะวันนี้เจลอยากจะแนะนำสปอนเซอร์ของเรา
00:31:17 → 00:31:20 your Beta คูนค่ะซึ่งเป็น Beta คูนสาย
00:31:20 → 00:31:24 พันธุ์ 1316 จากยีสที่สามารถกระตุ้นการทำ
00:31:24 → 00:31:26 งานของระบบภูมิคุ้มกันค่ะนำเข้าสารสกัด
00:31:26 → 00:31:29 จากสวิตเซอร์แลนด์แลนแล้วก็ผ่านอยไทย
00:31:29 → 00:31:32 เรียบร้อยแล้วค่ะที่สำคัญนะคะเป็นสารสกัด
00:31:32 → 00:31:34 มาจากธรรมชาติแล้วก็ตัวแคปซูลเนี่ยก็ทำมา
00:31:34 → 00:31:37 จากพืชด้วยค่ะสำหรับใครที่ต้องการเสริม
00:31:37 → 00:31:39 การดูแลตัวเองนะคะแล้วก็ไม่ใช่ผู้ป่วย
00:31:39 → 00:31:41 เเร็งก็สามารถทานได้เช่นเดียวกันนะคะไม่
00:31:41 → 00:31:44 ว่าคุณจะเป็นคนที่ป่วยง่ายนะคะอาจจะเป็น
00:31:44 → 00:31:47 ภูมิแพ้นะคะอยากหรือว่าเป็นคนนอนน้อยนะคะ
00:31:47 → 00:31:50 เ้าคูคเนี่ยก็สามารถเสริมภูมิพุมกันทำให้
00:31:50 → 00:31:52 เราไม่ป่วยนะคะแล้วใครที่เป็นโรคเบาหวาน
00:31:52 → 00:31:55 ก็สามารถทานได้ด้วยเพราะเบตคูแคนเนี่ยจะ
00:31:55 → 00:31:57 ช่วยลดการอักเสบในร่างกายค่ะเรื่องวิธี
00:31:57 → 00:31:59 การรับรประทานนะคะแต่ละคนก็จะมีปริมาณที่
00:31:59 → 00:32:02 แตกต่างกันและแอบแนะนำนิดนึงค่ะว่าเวลา
00:32:02 → 00:32:04 ทานขอให้ทานตอนท้องว่างนะคะจะได้ดูดซึม
00:32:04 → 00:32:07 ได้อย่างเต็มที่ค่ะอย่างเจนที่มีสุขภาพ
00:32:07 → 00:32:10 ที่ดีอยู่นะคะก็จะทานเพื่อป้องกันไม่ให้
00:32:10 → 00:32:12 เป็นโรคหรือว่าไม่ให้ป่วยง่ายนะคะก็จะทาน
00:32:12 → 00:32:15 2 เม็ดตอนเช้าแล้วก็ 2 เม็ดตอนเย็นค่ะ
00:32:15 → 00:32:17 แล้วก็ควรทานอย่างต่อเนื่องนะคะจะได้ผล
00:32:17 → 00:32:20 ลัพธ์ที่ดีค่ะถ้าใครที่สนใจอยากสั่งซื้อ
00:32:20 → 00:32:22 หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ
00:32:23 → 00:32:25 สามารถแอด Line นะคะหรือว่าทัก Facebook
00:32:25 → 00:32:28 มานะคะตามรายละเอียดที่เจนขึ้นให้ตนี้ได้
00:32:28 → 00:32:31 เลยนะคะเรื่องต่อมาค่ะคุณหมอเกี่ยวกับผู้
00:32:31 → 00:32:33 หญิงคนนึงที่อายุแค่ 30 กว่าแต่เป็น
00:32:33 → 00:32:36 มะเร็งมาแล้ว 2 รอบมันเกิดขึ้นได้ยังไงนะ
00:32:36 → 00:32:39 คะเขาก็เลยเขียนคำถามมาถามค่ะชื่อคุณหวาน
00:32:39 → 00:32:43 อายุ 36 ปีนะคะทำงานเป็นแอร์มาแล้ว 12 ปี
00:32:43 → 00:32:47 ค่ะเขียนมาว่าสวัสดีค่ะคุณหมอด้วยงานที่
00:32:47 → 00:32:49 หวานทำทำให้ต้องเดินทางตลอดแล้วก็นอนไม่
00:32:49 → 00:32:52 ค่อยเป็นเวลาค่ะเดิมทีเป็นคนสุขภาพแข็ง
00:32:52 → 00:32:55 แรงมากค่ะมีป่วยบ้างประปรายแต่เมื่อ 5 ปี
00:32:55 → 00:32:57 ที่แล้วเพิ่งตรวจเจอว่าตัวเองเป็นเบาหวาน
00:32:57 → 00:33:00 ค่ะคนในครอบครัวเป็นเบาหวานกันเยอะมาก
00:33:00 → 00:33:03 ทั้งคุณแม่นาแล้วก็คุณยายเลยพยายามระมัด
00:33:03 → 00:33:06 ระวังเรื่องการกินมากขึ้นและเมื่อกลางปี
00:33:06 → 00:33:10 ที่แล้วกลางปี 2023 หวานรู้สึกปวดท้องมาก
00:33:10 → 00:33:13 ๆเลยค่ะปรากฏว่าเป็นไส้ติงเลยไปผ่าออกแต่
00:33:13 → 00:33:16 พอผ่าไปได้ 1 เดือนยังปวดท้องอยู่เลยค่ะ
00:33:16 → 00:33:19 ปวดหนักมากๆใช้ชีวิตไม่ได้เลยถ้าไม่ได้
00:33:19 → 00:33:22 ยินถ้าไม่ได้กินยาแก้ปวดก็เลยกลับไปหาหมอ
00:33:22 → 00:33:25 ที่โรงพยาบาลหมอจับอุนต้าซาวแล้วเจอว่ามี
00:33:25 → 00:33:28 ก้อนเนื้อในรังไข่และก้อนเนื้อนนั้นก็
00:33:28 → 00:33:31 เป็นมะเร็งค่ะเลยผ่าตัดออกไปแล้วทำคีโมไป
00:33:31 → 00:33:34 ได้ 6 ครั้งในระหว่างทำคีโมฉายแสงรู้สึก
00:33:34 → 00:33:37 ปวดท้องอีกครั้งปวดอีกแล้วอรอบ 2 รอบ 3
00:33:37 → 00:33:40 แล้วนะคะปวดหนักเหมือนที่เคยปวดเลยค่ะหมอ
00:33:40 → 00:33:44 เลยทำ CT สแกนแล้วพบว่าเจอก้อนเนื้ออีก 1
00:33:44 → 00:33:47 ก้อนอยู่ในปอดแล้วก็นเนื้อนั้นก็ดันเป็น
00:33:47 → 00:33:50 มะเร็งอีกแล้วค่ะสรุปก็คือเป็นมะเร็งรัง
00:33:50 → 00:33:53 ไข่ต่อด้วยมะเร็งปอดเลยค่ะมะเร็งรังไข่
00:33:53 → 00:33:56 ยังไม่หายดีทำคีโมอยู่ดันไปเจอมะเร็ง
00:33:56 → 00:34:00 เพิ่มอีกบอกบอกตรงๆเลยค่ะว่าท้อมากเลยค่ะ
00:34:00 → 00:34:02 ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นมะเร็งติดๆกันได้
00:34:02 → 00:34:05 แบบนี้ตั้งแต่ที่รู้ว่าตัวเองเป็นเบาหวาน
00:34:05 → 00:34:08 ก็กินดีมากๆเลยนะคะออกกำลังกายไม่ดื่ม
00:34:08 → 00:34:11 เหล้าไม่สุบบุหรี่มันจะมีโอกาสให้หวาน
00:34:11 → 00:34:13 เป็นมะเร็งรอบที่ 3 อีกมั้ยคะหวานจะ
00:34:13 → 00:34:16 ปฏิบัติตัวยังไงดีคะถ้าอยากให้หายขาดจาก
00:34:16 → 00:34:18 โรคนี้แล้วก็ไม่เป็นอีกโอ้โหอันนี้นี่
00:34:18 → 00:34:21 ค่อนข้างพีคนะคะเพราะว่าอายุแค่ 30 กว่า
00:34:21 → 00:34:23 เนาะแล้วเป็นมะเร็งมา 2 รอบเลยมันเกิด
00:34:23 → 00:34:26 ขึ้นได้ยังไงขอหมอแบบติดๆกันเลยยังทำคีโม
00:34:26 → 00:34:28 อยู่เลยนะคะอันนี้ต้องอิอธิบายก่อนว่าอ่า
00:34:28 → 00:34:31 เวลาเราสมมุติว่าเป็นมะเร็งอันแรกสมมุติ
00:34:31 → 00:34:34 นะคะอย่างเคสเนี้ยบอกว่าเป็นมะเร็งรังไข่
00:34:34 → 00:34:36 เนาะใช่มั้ยคะแล้วก็ระหว่างทำคีโมไปเนี่ย
00:34:37 → 00:34:39 อยู่ๆก็ไปอีกเจออีกก้อนนึงที่ปอดคราว
00:34:39 → 00:34:42 เนี้ยมันแบ่งได้เป็น 2 กรณีเนาะกรณีแรกก็
00:34:42 → 00:34:44 หมายถึงว่ามันเป็นมะเร็งที่เดิมนะคะจาก
00:34:44 → 00:34:47 รังไข่แต่แพร่กระจายไปที่ปอดชั้นเป็น
00:34:47 → 00:34:50 มะเร็งชนิดเดียวกันแต่เกิดการแพร่กระจาย
00:34:50 → 00:34:53 ไปชั้นแปลว่าอาการของโรคคุมด้วยยาไม่ได้
00:34:53 → 00:34:55 นะคะอาจจะต้องเปลี่ยนวิธีการรักษาเนาะอัน
00:34:55 → 00:34:58 นี้ก็คือแบบว่าอุ้ยโรคมันลุกรามากขึ้นนะ
00:34:58 → 00:35:00 คะทำให้มันเป็นแพ่กระจไปที่ปอดอันนี้แบบ
00:35:00 → 00:35:04 ที่ 1 แบบที่ 2 ก็คือคนไข้เนี่ยมีมะเร็ง
00:35:04 → 00:35:07 รังไข่อยู่แล้วแต่พอมีการตรวจชิ้นเนื้อ
00:35:07 → 00:35:09 ค่ะพบว่ามันเป็นมะเร็งอีกชนิดนึงเป็นชนิด
00:35:10 → 00:35:12 ใหม่เป็นมะเร็งปอดจริงๆก็หมายความว่าคน
00:35:12 → 00:35:15 ไข้คนเนี้ยมีมะเร็งชนิดที่ 2 ที่เกิดขึ้น
00:35:15 → 00:35:18 ในร่างกายก็คือเป็นมะเร็ง 2 อย่างอะฮะใน
00:35:18 → 00:35:20 เวลาเดียวกันเนาะซึ่งมันเกิดพร้อมกันเลย
00:35:20 → 00:35:22 รือเปล่าคะหมอมันอาจจะเกิดพร้อมกันหรือ
00:35:22 → 00:35:25 ว่าเกิดระหว่างการรักษาเช่นได้รับคีโมก็
00:35:25 → 00:35:27 เป็นไปได้เพราะว่าอันนี้เราไม่ชัดเจนเนาะ
00:35:27 → 00:35:30 ระยะเวลานะคะก็เรียบอกว่ามันแต่ว่ามันน่า
00:35:30 → 00:35:32 จะเป็นของอ่ามะเร็งปอดมากกว่าถ้าฟังในเคส
00:35:32 → 00:35:34 นี้เนาะไม่น่าจะเป็นแบแต่ว่าไม่ได้เป็น
00:35:34 → 00:35:36 การแพร่กระจายได้เป็นการแพร่กระจายค่ะแต่
00:35:36 → 00:35:38 เป็นการแบบว่าเกิดมะเร็งชิดใหม่ขึ้นมาที่
00:35:38 → 00:35:41 เป็นที่ปอดซึ่งต้องบอกก่อนว่าจากงานวิจัย
00:35:41 → 00:35:44 อ่ะค่ะเขาพบว่ายิ่งถ้าเราเป็นมะเร็งชิด
00:35:44 → 00:35:46 แรกตั้งแต่อายุน้อยๆนะคะความเสี่ยงที่จะ
00:35:46 → 00:35:49 เป็นม็มะเร็งชิดที่ 2 ที่ 3 เนาะมีความ
00:35:49 → 00:35:52 เสี่ยงมากขึ้นนะคะค่อนข้างเยอะถ้าเทียบ
00:35:52 → 00:35:54 กับคนทั่วไปเพราะว่าอะไรเพราะว่า 1 เรา
00:35:54 → 00:35:56 ได้รับยาการรักษาซึ่งอาจจะทำให้ภูมิต่ำ
00:35:56 → 00:35:59 ล่งนะคะคะอันที่ 2 การที่คุณเป็นมะเร็ง
00:35:59 → 00:36:01 ตั้งแต่อายุน้อยหมายความว่าคุณอาจจะมี
00:36:01 → 00:36:04 พันธุกรรมเนาะที่มีปัญหาหรือเปล่าเช่นถ้า
00:36:04 → 00:36:06 เป็นเคสเนี้ยค่ะอาจจะเป็นโรคที่เขาเรียก
00:36:06 → 00:36:09 ว่าิน Syndrome ิน Syndrome หมายถึงว่า
00:36:09 → 00:36:10 อะไรหมายถึงว่าร่างกายคนไข้เนี่ยมี
00:36:10 → 00:36:13 พันธุกรรมที่มันซ่อมแซนตัวเองได้ไม่ค่อย
00:36:13 → 00:36:17 ดีพอแปลว่าคุณเจอแสงแดดเนาะคุณกินอ่ะคุณ
00:36:17 → 00:36:19 สูบบุหรี่นะคะคุณได้รับ PM พวกเนี้ยจะ
00:36:19 → 00:36:22 เป็นปัจจัยทำให้ DNA เราเพี้ยนไปถูกมั้ย
00:36:22 → 00:36:24 มันโดนการทำลายพอทำลายเสร็จปุ๊บคนทั่วไป
00:36:24 → 00:36:26 มันต้องซ่อมเลยซ่อมเลยแล้วก็ดีอคุณ
00:36:26 → 00:36:29 สมบูรณ์อ่ะคุณก็ปกติไงแต่คนกลุ่มนี้ที่
00:36:29 → 00:36:32 เป็นินซดรมเนี่ยได้รับการทำลายปุ๊บอ้าว
00:36:32 → 00:36:33 มันซ่อมไม่ได้อ่ะซ่อมไม่ได้เสร็จปุ๊บอ่ะ
00:36:34 → 00:36:35 พยายามซ่อมอีกอ่ะก็ซ่อมไม่ได้อีกจนการ
00:36:35 → 00:36:38 ซ่อมของมันซ่อมไม่ได้เลยทำให้ DNA มัน
00:36:38 → 00:36:40 เพี้ยนไปแล้วกลายเป็นมะเร็งในที่สุดแล้ว
00:36:40 → 00:36:41 เราจะรู้ได้ยังไงคะว่าเราเป็นินซินโดรม
00:36:41 → 00:36:43 หรือเปล่าอันเนี้ยมันต้องมีการเช็คนะคะ
00:36:43 → 00:36:45 เพราะการเป็นรินซินโดรมเนี่ยจะมีการบอก
00:36:45 → 00:36:48 ว่าเอ๊ะคนไข้ได้รับการถ่ายทอดพันธุกรรมมา
00:36:48 → 00:36:50 คุณพ่อคุณแม่เป็นเนาะนะคะแล้วก็เราเป็น
00:36:50 → 00:36:52 อย่างเงี้ยเป็นต้นนะคะแล้วก็พี่น้องดญาติ
00:36:53 → 00:36:55 พี่น้องอาจจะมีความเสี่ยงในการเป็นหรือ
00:36:55 → 00:36:57 เราเป็นคนที่แบบว่าไม่มีใครเป็นเลยอยู่ๆ
00:36:57 → 00:36:59 มันมันมาเพี้ยนที่เราคนเดียวนะคะฉนั้น
00:36:59 → 00:37:02 ต้องมีการเช็คพันธุกรรมนิดนึงนะคะว่าคุณ
00:37:02 → 00:37:04 ไข้มีปัญหาเรื่อง DNA หรือเปล่าถ้ามี
00:37:04 → 00:37:06 เนี่ยจะต้องป้องกันยังไงเพราะคนกลุ่ม
00:37:06 → 00:37:08 เนี้ยจะมีสิทธิ์เป็นมองอันที่ 2 อันที่ 3
00:37:08 → 00:37:11 อันที่ 4 ได้อีกเออก็เลยต้องดูก่อนว่า
00:37:11 → 00:37:13 เอ๊ะเค้ามีปัญหาที่พันธุกรรมมยเนาะอันที่
00:37:13 → 00:37:16 1 นะคะก็คือเราต้องมีการเช็คว่าเค้ามี
00:37:16 → 00:37:19 หรือเปล่าเนาะอันที่ 2 ก็คือขึ้นอยู่กับ
00:37:19 → 00:37:21 ปัจจัยแหละว่าคุณใช้ชีวิตยังไงเพราะว่า
00:37:21 → 00:37:24 อะไรเคสนี้เป็นแอร์ถูกมั้ยคะการที่คุณ
00:37:24 → 00:37:27 เป็นแอร์เนี่ยถ้าคุณเป็นแอร์กราเนาะทำงาน
00:37:27 → 00:37:29 ตอนออฟฟิศก็คือแบบทำงานเช้ากลับบ้านนอน
00:37:29 → 00:37:32 อันนี้โอเคแต่ถ้าคุณเป็นนางฟ้าบนเครื่อง
00:37:32 → 00:37:35 บินใช่มยคุณก็ต้องโอ้โหแบบทำงานยิ่งมืดๆ
00:37:36 → 00:37:38 ค่ำๆหรือไม่ได้นอนเลยด้วยซ้ำโดยเฉพาะถ้า
00:37:38 → 00:37:40 คุณบีมข้ามทวีปอย่างเงี้ยค่ะฉะนั้นมันมี
00:37:40 → 00:37:42 งานวิจัยนะคะจากหลากหลายประเทศเลยโดย
00:37:42 → 00:37:45 เฉพาะในประเทศอเมริกาเราค้นพบว่าถ้าคุณนะ
00:37:45 → 00:37:48 คะยิ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์โดยเฉพาะ
00:37:48 → 00:37:52 พยาบาลนะคะคุณเข้าแกะเข้ากะเข้าเวลากลาง
00:37:52 → 00:37:54 คืนอย่างเงี้ยไม่ได้นอนจะมีความเสี่ยง
00:37:54 → 00:37:56 เป็นมะเร็งอ่ะค่ะได้มากกว่าคนทั่วไป 3-4
00:37:56 → 00:38:00 เท่าเลยด้วยซ้ำเยอะมากเลยนะเยอะมากอันนี้
00:38:00 → 00:38:03 ถึงเป็นเหตุผลว่าทำไมถ้าคุณทำงานกลางคืนเ
00:38:03 → 00:38:05 ถึงจ่ายเงินคุณเยอะขึ้นอ๋อเพราะว่ามันมี
00:38:05 → 00:38:09 ความเสด้วเใช่เพราะว่าไม่ใช่แค่มะเร็งนะ
00:38:09 → 00:38:12 คะไม่ว่าจะเป็นโรคความดันเบาหวานหัวใจโรค
00:38:12 → 00:38:15 อ้วนแลกมาจากการที่คุณไม่ได้นอนนั่นแหละ
00:38:15 → 00:38:19 อือืเขาก็มีเกณฑ์นิดนึงเช่น 1 ถ้าคุณทำ
00:38:19 → 00:38:22 งานกะกลางคืนอ่ะค่ะโดยเฉพาะเครื่องคืนถึง
00:38:22 → 00:38:24 5:00 นไม่ได้นอนอันนี้ความเสี่ยงแรงมาก
00:38:24 → 00:38:28 อันนี้อันที่ 1 อันดับที่ 2 นะคะถ้าคุณนะ
00:38:28 → 00:38:31 คะทำนะคะงานนี้มาเกิน 10 ปีอันที่ 3 นะคะ
00:38:31 → 00:38:34 มีความเครียดนะคะระหว่างการทำงานต้องดู
00:38:34 → 00:38:36 นิดนึงว่าเคมีความเร่งนิในการที่จะต้อง
00:38:36 → 00:38:38 บริการเซอร์วิสต่างๆมากน้อยแค่ไหนแต่ว่า
00:38:38 → 00:38:41 พูดแว่าไครทีเรียในการที่ดูว่ามันจะมี
00:38:41 → 00:38:43 ปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกันหรือเปล่าความคิด
00:38:43 → 00:38:46 ต่างๆมันมีค่อนข้างเยอะการที่เขาไม่ได้
00:38:46 → 00:38:48 นอนอ่ะค่ะตอนกลางคืนก็เลยทำให้เป็นหนึ่ง
00:38:48 → 00:38:50 ในปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดเป็นมะเร็งได้
00:38:50 → 00:38:54 ค่อนข้างง่ายงั้นขอคำแนะนำหน่อยค่ะว่าถ้า
00:38:54 → 00:38:57 ใครที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์เป็นพยาบาล
00:38:57 → 00:38:59 ต้องทำงานกลางคืนหรือว่าการที่เป็นแอร์
00:38:59 → 00:39:01 เป็นสอย่างเงี้ยค่ะแล้วนอนหลับไม่เป็น
00:39:01 → 00:39:04 เวลาต้องทำงานตอนกลางคืนสามารถดูแลตัวเอง
00:39:04 → 00:39:07 ได้ยังไงบ้างคะจริงๆอันแรกก็ต้องบอกว่า
00:39:07 → 00:39:10 ถ้าคุณปรับเปลี่ยนชั่วโมงการทำงานได้ดี
00:39:10 → 00:39:13 ที่สุดนะคะเช่นอาจจะเป็นแอร์กานะคะหรือ
00:39:13 → 00:39:16 ว่าถ้าเป็นบุคลากรอาจจะเป็นแบบตรวจคนไข้
00:39:16 → 00:39:18 opd อะไรอย่างเงี้ยค่ะสมมุติถ้าอายุเรา
00:39:18 → 00:39:20 เยอะแล้วเนาะอันนี้ก็จะดีที่สุดนะคะแต่
00:39:20 → 00:39:23 ถ้ามันไม่ได้จริงๆเพราะว่าเป็นหน้าที่การ
00:39:23 → 00:39:26 งานเนาะก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีมากๆเช่นถ้า
00:39:26 → 00:39:29 คุณจะนอนอ่ะค่ะคุณต้องนอนหลับให้สนิทปิด
00:39:29 → 00:39:30 อะไรให้ทุกอย่างให้มืดให้เหมือนแบบเป็น
00:39:30 → 00:39:33 กลางคืนไปเลยอ่ะค่ะเพื่อทำให้เรานอนได้ดี
00:39:33 → 00:39:36 ขึ้นนะคะแล้วก็อ่าต้องดูว่าการนอนของเรา
00:39:36 → 00:39:38 มีปัญหามมเพราะว่าถ้าคุณมีปัญหาอาจต้องไป
00:39:38 → 00:39:41 พบแพร่ว่าอาจจะต้องได้รับยาหรืออาหาร
00:39:41 → 00:39:43 เสริมบางอย่างทำให้มันนอนหลับสนิทจริงๆนะ
00:39:43 → 00:39:46 คะเพื่อการฟื้นฟูร่างกายเนาะอันดับที่ 2
00:39:46 → 00:39:48 นะคะคือเรื่องของความเครียดอย่างที่เรา
00:39:48 → 00:39:50 คุยกันไปแล้วว่าความเครียดเนี่ยค่ะมันมี
00:39:51 → 00:39:53 ความเสี่ยงที่จะทำให้เป็นโรคต่างๆไม่ว่า
00:39:53 → 00:39:55 จะเป็นโรคมะเร็งนะคะหรือว่าโรคเรื้อรัง
00:39:55 → 00:39:58 อื่นๆค่อนข้างมากฉะนั้นถ้าอะไรก็ได้ถ้า
00:39:58 → 00:40:01 คุณจะไม่เครียดมากเกินไปหรือมี Enjoy
00:40:01 → 00:40:04 ความสุขต่างๆร้องเพลงก็ได้ทำอาหารอะไรก็
00:40:04 → 00:40:06 ได้นะคะให้ Enjoy นิดนึงคุณหรือว่านั่ง
00:40:06 → 00:40:08 สมาธิไม่ต้องเสียเงินด้วยใช่มยเออพวกนี้
00:40:08 → 00:40:10 ก็ทำให้เป็นคุณมีแบบฟื้นฟูนะคะภูมิคุ้ม
00:40:10 → 00:40:13 กันได้มากยิ่งขึ้นเนาะอันดับ 3 ที่สำคัญ
00:40:13 → 00:40:15 คือการออกกำลังกายนะคะเพราะว่าการที่คุณ
00:40:15 → 00:40:17 ออกกำลังกายนะคะ moderate Exercise ไม่
00:40:17 → 00:40:19 ต้องแบบโอหวิ่งหนักอะไรขนาดนั้นก็ได้เนาะ
00:40:19 → 00:40:21 นะคะเดินนิดหน่อยก็ได้เดินให้เราบอกว่า
00:40:22 → 00:40:24 เดินให้ได้ 7,500 กต่อวันอย่างงี้ถูกมั้ย
00:40:24 → 00:40:27 คะหรือว่าคุณจะอาจจะแบบมีเวลาไม่มากพอแต่
00:40:27 → 00:40:29 คุณอาจจะทำให้หัวใจเต้นเร็วมากๆแบบ
00:40:29 → 00:40:31 เหนื่อยหอประมาณ 1 นาทีถ้าคุณแข็งแรง
00:40:31 → 00:40:34 เงี้ยก็สามารถช่วยได้แลนะคะแล้วก็อันที่
00:40:34 → 00:40:37 ถัดไปนอกจากนี้ก็คือการการกินเนาะว่ากิน
00:40:37 → 00:40:40 ต้องกินให้ถึงนะคะโดยเฉพาะผักผลไม้หลากสี
00:40:40 → 00:40:43 แล้วก็อะไรภาชนะต่างๆที่เป็นพลาสติกนะคะ
00:40:43 → 00:40:45 หรืออะไรอย่างเงี้ยก็ควรจะหลีกเลี่ยงนิด
00:40:45 → 00:40:47 นึงเนาะถ้าเราสามารถมีเป็นแก้วได้อะไรก็
00:40:47 → 00:40:50 ได้ก็จะดีกว่าอันนี้เป็นเบสิคง่ายๆเลยที่
00:40:50 → 00:40:53 ทุกคนควรจะทำและที่สำคัญที่สุดการที่คุณ
00:40:53 → 00:40:55 ใช้ชีวิตหรืออาชีพที่มีความเสี่ยงต้องมี
00:40:55 → 00:40:58 การตรวจสุขภาพแน่นอนเพราะฉะนั้นถ้าเขาจะ
00:40:58 → 00:41:01 มีการให้คุณทำ screening Test ทุกปีอยู่
00:41:01 → 00:41:03 แล้วค่ะสำหรับบุคลากรทางการแพทย์นะคะหรือ
00:41:03 → 00:41:05 ว่าคุณจะเป็นแอร์นะคะสจ๊วดเนาะเขจะมีให้
00:41:06 → 00:41:08 คุณไปตรวจสุขภาพอย่าขี้เกียจไปตรวจอแล้ว
00:41:09 → 00:41:13 ขอนิดนึงค่ะขอวิตามิน 3 ตัวสำหรับแอร์๊ด
00:41:13 → 00:41:15 หรือว่าใครที่ทำงานกลางคืนให้เสริมสุขภาพ
00:41:15 → 00:41:17 ให้แข็งแรงเนี่ยเพราะว่าเพราะว่าเขานอน
00:41:17 → 00:41:20 น้อยเนาะมีตัวไหนบ้างคะที่แบบว่าคิดว่า
00:41:20 → 00:41:22 เป็นเบสไลน์เลยที่ 3 ตัวนี้ทุกคนควรทาน
00:41:22 → 00:41:24 อันดับแรกคือวิตามินดีเหมือนกันเพราะคิด
00:41:24 → 00:41:26 ว่าอาจจะไม่ได้เจอแสงแดดเลยใช่เพราะทำงาน
00:41:26 → 00:41:30 ตอนกลางคืนใชใช่หรือว่าบางทีก็เจอแวบๆนะ
00:41:30 → 00:41:32 คะอันเงี้ยมาในบนเครื่องอะไรแค่นั้นนะคะ
00:41:32 → 00:41:34 ก็คืออยากให้กินวิตามินดีให้ถึงอย่างที่
00:41:34 → 00:41:37 พูดไปเมื่อกี้ก็คือแบบอาจจะเป็น 400 IU
00:41:37 → 00:41:40 ถึง 5,000 I per Day ต่อวันนะคะแต่คุณ
00:41:40 → 00:41:41 ต้องไปเช็คก่อนว่าคุณต้องกินเท่าไหร่
00:41:41 → 00:41:43 เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกันแล้วก็ให้กิน
00:41:43 → 00:41:46 พร้อมอาหารเนาะนะคะกินตอนเช้าเช้าของหมอ
00:41:46 → 00:41:49 หมายถึงว่าตอนที่คุณตื่นมาทำงานเพะของเขา
00:41:49 → 00:41:51 จะเช้าไม่เหมือนกับคนทั่วไปเนาะอันดับที่
00:41:51 → 00:41:53 2 ก็คือโปรไบโอติกเหมือนกันนะคะเพราะว่า
00:41:53 → 00:41:56 อะไรการที่เราต้องบินข้ามทวีปอะไรอย่าง
00:41:56 → 00:41:58 เงี้ยค่ะหรือว่าว่าการที่เรานอนไม่เป็น
00:41:58 → 00:42:00 เวลาเหมือนคนอย่างคนอื่นเนาฬิกาชีวิตเรา
00:42:00 → 00:42:02 จะไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไปเนาะฉะนั้นการ
00:42:02 → 00:42:05 ที่กินโพรไบโอติกหรือจุรินทรีย์ที่ดีอ่ะ
00:42:05 → 00:42:07 ค่ะจะเป็นการตัวทำให้อ่าลำไส้เราเคลื่อน
00:42:07 → 00:42:10 ไหวได้ดีขึ้นลดการอักเสบอะไรต่างๆช่วยได้
00:42:10 → 00:42:12 นะคะมีงานวิจัยออกมาว่าการที่คุณจะต้อง
00:42:12 → 00:42:15 บินบ่อยๆเนี่ยโปรไบโอติกก็ทำให้นอนดีขึ้น
00:42:15 → 00:42:17 ได้เช่นเดียวกันนะคะฉะนั้นการเลือก
00:42:17 → 00:42:20 โปรไบโอติกที่เหมาะสมจำเป็นเนาะแล้วก็อัน
00:42:20 → 00:42:23 ที่ 3 นะคะที่อยากให้กินนิดนึงเนาะถ้าเรา
00:42:23 → 00:42:25 กินอาหารไม่ถึงก็คือเป็นวิตามิน B
00:42:25 → 00:42:27 Complex เพราะว่าจะทำให้เรามีแรงทำงานนะ
00:42:28 → 00:42:30 คะสมองไวนิดนึงนะคะเพราะบางทีมันอาจจะ
00:42:30 → 00:42:32 เพียรเหนื่อยอ่อนล้าจากการที่เราพักผ่อน
00:42:32 → 00:42:34 แบบไม่เป็นเวลาได้ก็เลยอยากให้เป็น Top 3
00:42:34 → 00:42:38 มนะกันค่ะงั้นขอทวนนิดนึงนะคะเพราะเชื่อ
00:42:38 → 00:42:40 ว่าคนหลายๆคนน่ะทำงานกลางคืนแล้วอาจจะ
00:42:40 → 00:42:42 ละเลการดูแลสุขภาพแล้วคิดว่าก็ยังไหวอยู่
00:42:42 → 00:42:44 นะอันดับแรกที่หมอพูดเลยก็คือเรื่องการ
00:42:44 → 00:42:47 นอนเพราะว่าคถึงแม้ว่าเราเนี่ยไม่ได้นอน
00:42:47 → 00:42:50 เวลาเหมือนชาวบ้านแต่เวลาได้นอนน่ะขอให้
00:42:50 → 00:42:52 มั่นใจว่าตัวเองอ่ะนอนได้ดีจริงหรือเปล่า
00:42:52 → 00:42:54 เนาะซึ่งเดี๋ยวนี้มันก็อาจจะมี smart
00:42:54 → 00:42:56 watch Smart หรืออุปกรณ์ต่างๆที่ช่วย
00:42:56 → 00:42:58 ให้เรามว่าเฮ้ยตกลงที่เราคิดว่าเรานอนได้
00:42:58 → 00:43:00 เรานอนดีมันดีจริงมั้ยแล้วอันนี้ต้อง
00:43:00 → 00:43:02 ซีเรียสนะถ้านอนไม่ดีเนี่ยต้องการต้องอาจ
00:43:02 → 00:43:05 จะต้องไปพบหมอเพื่อที่จะปรับยังไงก็ได้
00:43:05 → 00:43:07 ให้เวลานอนน่ะเราได้นอนดีจริงๆนะคะอันที่
00:43:07 → 00:43:10 2 ก็คือความเครียดเพราะว่าสมมุติว่าบาง
00:43:10 → 00:43:14 ทีเรายิ่งบางทีกลังทำงานบริการเนาะโดนคน
00:43:14 → 00:43:16 เหวี่ยงคนอะไรใส่อะไรเงี้ยฉะนั้นเราต้อง
00:43:16 → 00:43:18 หาวิธีการจัดการความเครียบไม่งั้นมันอาจ
00:43:18 → 00:43:20 จะสะสมทำให้เราเป็นโรคได้ในอนาคตแล้วก็
00:43:20 → 00:43:23 การออกกำลังกายก็อย่าคิดว่าก็ฉันเดินก็
00:43:23 → 00:43:26 เดินตลอดก็ยืนตลอดก็เหมือนออกกำลังกาย
00:43:26 → 00:43:28 แล้วมันไม่ใช่เนาะใช่มันไม่ใช่เลยแล้วก็
00:43:28 → 00:43:31 อีกอันนึงที่ลิงก์กับโบติกดก็คือการขับ
00:43:31 → 00:43:34 ถ่ายเพราะบางทีเนี่ยการที่เราเป็นคน
00:43:34 → 00:43:37 บริการต่างๆไม่ว่าจะเป็นแอร์หรือพยาบาล
00:43:37 → 00:43:40 อ่ะเนื้อน้ำไม่ค่อยได้กินเลยเออแล้วคุณก็
00:43:40 → 00:43:41 จะแบบกินน้ำทีเดียวสุดท้ายเลยแล้วก็คุณ
00:43:42 → 00:43:44 ขับถ่ายได้ไม่ค่อยดีเพราะว่าหมอก็เจอคน
00:43:44 → 00:43:45 ไข้หลายคนน่ะค่ะที่ว่าไม่ว่าจะเป็น
00:43:45 → 00:43:48 บุคลากรทางการแพทย์เองเนาะหรือว่าอาชีพ
00:43:48 → 00:43:50 บริการเช่นแอร์อย่างเงี้ยค่ะก็คือมีปัญหา
00:43:50 → 00:43:52 การขับถ่ายเกือบทั้งนั้นเลยเพราะว่าไม่
00:43:52 → 00:43:54 ได้กินน้ำเลยระทำงานแล้วบางทีอ่ะเรารู้
00:43:54 → 00:43:56 สึกว่าเราอยู่บนเครื่องบินเราก็ไม่อยาก
00:43:56 → 00:43:58 ทานน้ำไงเพะากเข้าห้องน้ำในเครื่องบิน
00:43:58 → 00:43:59 เนาะใช่แต่ว่าการที่อยู่บนเครื่องบินแล้ว
00:43:59 → 00:44:01 อากาศเย็นเนี่ยคาจะทำให้เราสูญเสียน้ำได้
00:44:01 → 00:44:04 ง่ายก็จะทำให้การขับถ่ายมีปัญหาเพราะการ
00:44:04 → 00:44:07 ขับถ่ายมีปัญหาระบบอันๆมันก็รวนอยู่แล้ว
00:44:07 → 00:44:09 อืงั้นก็อย่าลืมดื่มน้ำเยอะๆแล้วก็พยายาม
00:44:10 → 00:44:12 กินอาหารให้ครบหลักสีแล้วถ้าเรารู้สึกว่า
00:44:12 → 00:44:14 เราอยากเสริมก็วิตามินทั้ง 3 ตัวที่หมอ
00:44:14 → 00:44:16 บอกไปใช่ค่ะแล้วก็คนไข้คนนี้อีกอันนึงที่
00:44:16 → 00:44:19 หมอลืมพูดไปก็คือเรื่องของเบาหวานนะคะ
00:44:19 → 00:44:22 เพราะว่าอันนอกจากที่เขาจะแบบนอนได้ไม่
00:44:22 → 00:44:24 เป็นเวลาความเครียดเยอะอะไรก็แล้วแต่แต่
00:44:24 → 00:44:26 ความเสี่ยงปัจจัยนึงที่เป็นปัญหาหลักก็
00:44:26 → 00:44:29 คือคือโรคเบาหวานเนาะเพราะว่าเ้าเป็นถือ
00:44:29 → 00:44:31 ว่าเป็นโรคเบาหวานที่ยังอายุน้อยอยู่ค่ะ
00:44:31 → 00:44:33 แล้วเป็นอันเนี้ยต้องถามก่อนว่าพ่อแม่พี่
00:44:33 → 00:44:36 น้องมีใครเป็นหรือเปล่าตามประวัตินี่คือ
00:44:36 → 00:44:39 แม่เป็นน้าเป็นยายเป็นมะเร็งมันเกี่ยวกับ
00:44:39 → 00:44:42 เบาหวานด้วยหรอคะอจริงๆต้องบอกว่ามันค่อน
00:44:42 → 00:44:44 ข้างเกี่ยวเพราะว่าอะไรเพราะว่าการที่คุณ
00:44:44 → 00:44:46 เป็นโรคเบาหวานค่ะหมายถึงว่าน้ำตาลใน
00:44:46 → 00:44:49 เลือดสูงเป็นระยะเวลานานเนาะมีความเสี่ยง
00:44:49 → 00:44:52 เช่น1ึทำให้เกิดการอักเสบตลอดเวลานะคะ 2
00:44:52 → 00:44:55 ก็คือทำเป็นการกดภูมิคุ้มกันไม่ให้ทำงาน
00:44:55 → 00:44:57 ได้ดีใช่มั้ยซึ่ง 2 ปัจจัยเนี้ยเป็น
00:44:57 → 00:45:00 ปัจจัยหลักที่ทำให้มะเร็งมันโตได้ง่ายนะ
00:45:00 → 00:45:02 คะหรือว่าเกิดขึ้นแล้วเซลล์เราไม่สามารถ
00:45:02 → 00:45:04 กำจัดมันได้ฉะนั้นการที่คุณเป็นบาหวานก็
00:45:04 → 00:45:06 เลยทำให้เป็นมะเร็งได้ง่ายขึ้นเนาะฉะนั้น
00:45:06 → 00:45:10 คนไข้คนเนี้ยก็หมายความว่าการที่เขาจะดู
00:45:10 → 00:45:12 แลโรคมะเร็งของตัวเองอ่ะต้องดูแลเบาหวาน
00:45:12 → 00:45:15 ด้วยถ้าคุณควบคุมน้ำตาลได้ไม่ดีการที่คุณ
00:45:15 → 00:45:17 จะควบคุมมะเร็งก็ยากมากอย่างที่เราอาจจะ
00:45:17 → 00:45:20 เคยได้ยินว่าเอ๊ะทำไมคนเป็นเบาหวานควรจะ
00:45:20 → 00:45:23 แบบว่ากินแป้งลดนิดนึงอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:45:23 → 00:45:25 เพราะว่ายิ่งกินแป้งเยอะน้ำตาลยิ่งเยอะ
00:45:25 → 00:45:27 น้ำตาลยิ่งเยอะเนี่ยเซลลมะเร็งก็สามารถ
00:45:28 → 00:45:30 ใช้เป็นพลังงานแล้วเติบโตและกระจายได้
00:45:30 → 00:45:32 ง่ายเคสนี้ก็เหมือนกันชั้นการควบคุมน้ำ
00:45:32 → 00:45:35 ตาลนะคะในร่างกายให้เป็นปกติเนาะจะสามารถ
00:45:35 → 00:45:37 ช่วยนะคะควบคุมมะเร็งได้ด้วยเหมือนกัน
00:45:37 → 00:45:40 ฉะนั้นก็อย่าชะล่าใจเนาะเพราะว่าบางทีเบา
00:45:40 → 00:45:42 หวานนี่แหละกระตุ้นการอักเสบแล้วก็ตัวน้ำ
00:45:43 → 00:45:44 ตานี่แหละทำให้มันเป็นมะเร็งได้ง่ายขึ้น
00:45:44 → 00:45:46 ใช่เพราะว่าคนคิดว่าอ้าก็เป็นโรคเบาหวาน
00:45:46 → 00:45:49 เองกินยาก็แบบไม่เห็นเป็นไรเลยอะไรอย่าง
00:45:49 → 00:45:51 เงี้ยแต่จริงๆเบาหวานมันมันร้ายกว่านั้น
00:45:51 → 00:45:53 เพราะว่าตามที่หมอเจอคนไข้หลายๆคนนะคะพอ
00:45:53 → 00:45:56 เป็นเบาหวานปุ๊บเนี่ยเราอาจจะเคยได้ยิน
00:45:56 → 00:45:58 ว่าเบาหวานขึ้นตาเนาะทำให้อาจจะแบบมองไม่
00:45:58 → 00:46:00 เห็นอะไรอย่างเงี้ยค่ะมีปัญหาแต่มันมีอีก
00:46:00 → 00:46:04 แบบนึงนะเบาหวานเข้ากระดูกอืเพราะว่าการ
00:46:04 → 00:46:06 ที่เบาหวานเข้ากระดูกหมายถึงว่าร่างกาย
00:46:06 → 00:46:08 เราเนี่ยค่ะมีน้ำตาลสะสมสูงเป็นระยะเวลา
00:46:08 → 00:46:10 นานนะคะเนาะแล้วพอมันเข้ากระดูกหมายความ
00:46:11 → 00:46:13 ว่าอะไรหมายความว่าทำให้เม็ดเลือดต่างๆใน
00:46:13 → 00:46:15 กระดูกทำงานได้ไม่ดีไม่ว่าจะเป็นเม็ด
00:46:15 → 00:46:17 เลือดแดงเม็ดเลือดขาวม็ดเลือดแดงก็หมาย
00:46:17 → 00:46:19 ถึงอาจจะทำให้ซีดได้ง่ายเม็ดเลือดขาวก็
00:46:19 → 00:46:21 หมายถึงว่าทำให้ภูมิคุณทำงานได้ห่วยไงทำ
00:46:21 → 00:46:23 งานไม่ได้เลยฉะนั้นเบาหวานมันก็เข้า
00:46:23 → 00:46:25 กระดูกนะแล้วที่สำคัญก็ทำให้เซลล์กระดูก
00:46:25 → 00:46:27 เนี่ยมันเติบโตได้ไม่ดีทำให้ให้กระดูกมี
00:46:27 → 00:46:29 ปัญหาได้ด้วยเหมือนกันออือก็เลยคุณต้องดู
00:46:29 → 00:46:32 ก่อนว่าการควบคุมเบาหวานของคนไข้เนี่ยดี
00:46:32 → 00:46:35 พอหรือยังทีนี้ถ้าจะให้สรุปนะคะสิ่งที่
00:46:35 → 00:46:38 เขาถามว่าหวานเนี่ยมีโอกาสจะเป็น
00:46:38 → 00:46:43 มะเร็งแบบที่ 3 มยคำตอบคืออมีจริงๆคือ
00:46:43 → 00:46:45 เป็นสิ่งที่เศร้าเนาะแต่มันคือความจริงนะ
00:46:45 → 00:46:48 คะฉะนั้นใช่ก่อนอื่นเลยคือต้องตรวจเพิ่ม
00:46:48 → 00:46:50 เติมใช่มั้คะอย่างเช่นตรวจ DNA ใช่ตรวจ
00:46:50 → 00:46:53 พันธุกรรมว่าเพันธุกรรมเป็นอย่างที่หมอ
00:46:53 → 00:46:55 บอกมยนะคะมีอะไรที่สุ่มเสี่ยงทำให้เาเป็น
00:46:55 → 00:46:58 ได้ง่ายหรือเปล่าแต่แต่มีแต่นิดนึงนะถึง
00:46:58 → 00:47:01 เราจะตรวจไม่เจอนะว่า DNA เขมีผิดปกติม
00:47:01 → 00:47:03 เพราะว่าต้องบอกก่อนว่าเทคโนโลยีปัจจุบัน
00:47:03 → 00:47:06 เมันอาจจะยังไม่ก้าวหน้ามากพอที่จะเจอก็
00:47:06 → 00:47:09 ต้องระวังตัวเองอยู่ดีค่ะแต่ว่าให้กำลัง
00:47:09 → 00:47:10 ใจหน่อยแล้วกันว่าอย่างน้อยเป็นแต่อายุ
00:47:10 → 00:47:13 น้อยก็ยังน่าจะร่างกายฟื้นฟูได้ดีกว่าคน
00:47:13 → 00:47:16 ที่เป็นตอนอายุมากใช่มั้ยคะก็งั้นข้อแรก
00:47:16 → 00:47:18 ก็คือว่าขอให้ตรวจให้ละเอียดมากขึ้นเนาะ
00:47:18 → 00:47:21 อาจจะสกรีนนิ่งแบบอตลอดบ่อยๆนิดนึงอาจจะ
00:47:21 → 00:47:23 ทุก 3 เดือน 6 เดือนใกล้ชิดนิดนึงแล้วก็
00:47:23 → 00:47:26 แล้วก็อาจจะตรวจ DNA เพิ่มเติมนะคะอันที่
00:47:26 → 00:47:28 2 ก็คือจะต้องดูแลเรื่องเบาหวานให้ดีนะ
00:47:28 → 00:47:31 คะเพราตามที่คุณหมออธิบายไปคือเบาหวาน
00:47:31 → 00:47:33 เนี่ยก็คือเป็นหนึ่งในต้นตอของการพัฒนา
00:47:33 → 00:47:35 ของมะเร็งก็ได้เพราะมันทำให้มีการอัก
00:47:35 → 00:47:37 เสียบในร่างกายสูงมากๆค่ะแล้วก็ทำให้ภูมิ
00:47:37 → 00:47:39 คุ้มกันทำงานได้ไม่ดีด้วยซึ่งเป็นปัจจัย
00:47:39 → 00:47:42 สำคัญมากๆของเคสนี้เพราะว่าอย่างที่คุณ
00:47:42 → 00:47:44 หวานเขาถามว่าจะทำให้เขามีความเสี่ยงที่
00:47:44 → 00:47:46 จะกลับมาเป็นได้มั้ยเบาหวานนี่แหละเป็น
00:47:46 → 00:47:50 ปัจจัยสำคัญที่สุดเลยอถ้าเขดูแลได้ดีดี
00:47:50 → 00:47:54 ใช่ค่ะอันต่อมาเนี่ยก็คือการปรับเปลี่ยน
00:47:54 → 00:47:57 การทำงานหรือไลฟ์สไตล์เนาใช่ๆคือถ้าเป็น
00:47:57 → 00:47:59 คนอื่นอย่างเงี้ค่ะหมออาจจะบอกว่าเออคุณ
00:47:59 → 00:48:01 ก็ยังทำงานได้นะแต่ของคุณหวานเนี่ยเนื่อง
00:48:01 → 00:48:04 จากแกเป็นมะเร็ง 2 ชนิดแล้วนะคะแล้วก็
00:48:04 → 00:48:06 อายุแค่นี้เองเนี่ยหมอแนะนำว่าระโดยเฉพาะ
00:48:06 → 00:48:09 การรักษาค่ะถ้าหยุดนักงานกลางคืนได้อย่าง
00:48:09 → 00:48:11 เงี้ยค่ะแล้วก็ให้ปรับวิธีการนอนเป็นแบบ
00:48:11 → 00:48:14 ปกติอันนี้จะดีที่สุดเลยนะคะไม่ว่าจะเป็น
00:48:14 → 00:48:16 การพักงานหรือว่าปรับเปลี่ยนเวลาการทำงาน
00:48:16 → 00:48:19 อันนี้แล้วแต่เลยนะคะแต่ขอให้ทำให้ได้ะ
00:48:19 → 00:48:21 กันอือก็อาจจะสมมุติเป็นแอได้อยู่แต่ว่า
00:48:21 → 00:48:23 มันก็อาจจะเลือกไฟลยากนิดนึงอาจจะลอง
00:48:23 → 00:48:26 พิจารณาเนาะว่าตัวเองสามารถปรับเปลี่ยนไ
00:48:26 → 00:48:28 หรือทำงานยังไงก็ได้เพราะสิ่งที่สำคัญที่
00:48:28 → 00:48:30 สุดคือจะต้องทำยังไงก็ได้ให้ร่างกายแข็ง
00:48:30 → 00:48:32 แรงถ้าร่างกายแข็งแรงนี่แหละเราจะได้หาย
00:48:32 → 00:48:35 จากมะเร็งมะเร็งที่เป็นอยู่ณปัจจุบันแล้ว
00:48:35 → 00:48:37 ก็ไม่พัฒนาเป็นมะเร็งใช่อื่นๆค่ะเพราะว่า
00:48:37 → 00:48:39 ถ้าสมมุติคุณหวานไม่นอนกลางคืนอย่างเงี้ย
00:48:39 → 00:48:43 ประเด็นคือก็ยิ่งทำให้ DNA อ่ะมีการซ่อม
00:48:43 → 00:48:45 แซมได้ไม่ดีใช่มยก็ยิ่งทำให้เป็นมะเร็ง
00:48:45 → 00:48:47 ได้ง่ายกว่าเดิมอีกฉะนั้นก็เลยเป็นปัจจัย
00:48:47 → 00:48:49 สำคัญว่าคุณจะต้องนอนช่วงที่คุณควรจะนอน
00:48:49 → 00:48:52 ช่วงกลางคืนอืมเพราะว่าไม่ว่าจะเป็นโกด
00:48:52 → 00:48:55 ฮอร์โมนนะการขับสอนสารพิษการฟื้นฟูร่าง
00:48:55 → 00:48:57 กายการนอนนี่สำคัญอันดับ1ึใช่ค่ะค่ะวัน
00:48:58 → 00:49:00 นี้ก็ได้ข้อมูลเยอะกันอีกแล้วจริงๆอ่ะจะ
00:49:00 → 00:49:03 บอกว่ามีคนเขียนคำถามมาเรื่องมะเร็งเยอะ
00:49:03 → 00:49:06 มากๆนะคะก็เดี๋ยวจะทยอยตอบกันนะคะก็หวัง
00:49:06 → 00:49:08 ว่าเทปนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่กลัว
00:49:08 → 00:49:10 การเป็นมะเร็งแล้วก็ทั้ง 2 เคสเนี่ยไม่
00:49:10 → 00:49:13 ใช่แค่กลัวเนาะเป็นแล้วนะคะก็เป็นกำลังใจ
00:49:13 → 00:49:16 ให้เนาะแล้วก็ทุกปัญหามีทางออกถ้าเรารู้
00:49:16 → 00:49:18 ทันก็หวังว่าอันนี้จะเป็นประโยชน์แล้วก็
00:49:18 → 00:49:21 เป็นความรู้ให้กับใครหลายๆคนนะคะก็ขอ
00:49:21 → 00:49:23 ขอบคุณหมออมี่อีกครั้งนะคะที่วันนี้มาให้
00:49:23 → 00:49:25 ความรู้กันขอบคุณเจนมากเช่นเดียวกันค่ะ
00:49:25 → 00:49:27 แล้วเดี๋ยวไว้เจอกันในเทปหน้าจะชวนมาใหม่
00:49:27 → 00:49:30 นะคะค่ะก็สำหรับใครนะคะที่มีคำถามสุขภาพ
00:49:30 → 00:49:33 ก็สามารถส่งคำถามของตัวเองเข้ามาได้นะคะ
00:49:33 → 00:49:36 ทางช่องทางในแคปชั่นหรือจะสแกน QR Code
00:49:36 → 00:49:38 แล้วก็เขียนเรื่องราวของตัวเองมาได้เช่น
00:49:38 → 00:49:40 เดียวกันค่ะแล้วพบกันใหม่ใน EP หน้า
00:49:40 → 00:49:55 สวัสดีค่ะสวัสดี
00:49:55 → 00:49:59 ค่ะอ