00:00:00 → 00:00:02 ก็สวัสดีทุกคนนะครับวันนี้ก็เป็นตอนที่ 4
00:00:02 → 00:00:04 แล้วนะครับของ C with Microphone ที่
00:00:04 → 00:00:06 เราคุยกันอยู่นะครับหรือว่าเรื่องของ
00:00:06 → 00:00:07 จุลินทรีย์ที่อยู่ภายในร่างกายของมนุษย์
00:00:07 → 00:00:10 นะครับในชีวิตนี้นะครับที่ผ่านมาเดี๋ยว
00:00:10 → 00:00:13 เราก็จะคุยถึงโรคต่างๆนะครับที่ต้องบอก
00:00:13 → 00:00:15 ว่าพบมากขึ้นเรื่อยๆนะครับในยุคปัจจุบัน
00:00:15 → 00:00:17 และเป็นโรคที่เราคุยกันว่ามันเกิดจากการ
00:00:17 → 00:00:19 เปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมนะครับรวมถึง
00:00:19 → 00:00:22 การเปลี่ยนแปลงของจุลินทรีย์ในร่างกายของ
00:00:22 → 00:00:25 มนุษย์สำหรับในวันนี้นะครับลมจะคุยกันถึง
00:00:25 → 00:00:27 นี้เป็นโรคของเบาหวานนะครับปลาวาฬชนิดที่
00:00:27 → 00:00:30 สองนะครับซึ่งก็เกี่ยวข้องกับ at T นำ
00:00:30 → 00:00:32 ใส้เหมือนกันโดยทั่วไปนะครับเบาหวานเนี่ย
00:00:32 → 00:00:34 เราจะแบ่งเป็นชนิดต่างๆด้วยกัน 3 ชนิดนะ
00:00:34 → 00:00:37 ครับขอชนิดที่หนึ่งนะครับที่ 2 แล้วก็ปลา
00:00:37 → 00:00:39 วาฬในคนตั้งครรภ์นะครับซึ่งต้องบอกว่า
00:00:39 → 00:00:42 ทั้งประมาณทั้ง 3 ชนิดเนี่ยปัจจุบันก็มี
00:00:42 → 00:00:44 แนวโน้มจะพบมากขึ้นด้วยนะครับตัวอย่าง
00:00:44 → 00:00:46 เช่นนะครับเบาหวานชนิดที่ 1 เนี่ยช่วง
00:00:46 → 00:00:48 เวลาประมาณสัก 20 กว่าปีที่ผ่านมานะครับ
00:00:48 → 00:00:51 จำนวนคนที่ปวดบอลชนิดนึงเนี้ยเพิ่มขึ้น
00:00:51 → 00:00:54 ประมาณ 2 เท่านะครับแล้วก็มีการประมาณการ
00:00:54 → 00:00:57 ว่าในยุโรปเนี่ยประวัติชื่อหนึ่งมันจะ
00:00:57 → 00:01:00 เพิ่มขึ้นด้วยทุกปีนะครับอีกประมาณ 34%
00:01:00 → 00:01:02 อีกประมาณชนิดที่สองนะครับเป็นเบาหวานที่
00:01:02 → 00:01:04 คนส่วนใหญ่จะเป็นการเนี่ยก็มีแนวโน้มจะ
00:01:04 → 00:01:06 เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเหมือนกันประมาณคร่าวๆนะ
00:01:06 → 00:01:08 ครับว่าตอนนี้ในประชากรโลกเนี่ยมีคนที่
00:01:09 → 00:01:10 ป่วยเป็นเบาหวานมีอยู่ประมาณ 10
00:01:10 → 00:01:12 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลกนะครับและตัวเลข
00:01:12 → 00:01:15 เนี่ยจะเพิ่มมากขึ้นแล้วปัจจุบันนะครับก็
00:01:15 → 00:01:17 มีข้อมูลมากขึ้นไปเรื่อยๆว่าบอกหวานทั้ง
00:01:17 → 00:01:19 หลายนะครับที่เพิ่มมากขึ้นจะส่วนนึงมันก็
00:01:19 → 00:01:22 เกี่ยวข้องกับเรื่องของไปทุเรียนหรือว่า
00:01:22 → 00:01:24 จุลินทรีย์ในลำไส้ของเราด้วยแต่ได้ที่โซน
00:01:24 → 00:01:27 นี้นะครับก็จะ Focus เรื่องจะคุยกันในไป
00:01:27 → 00:01:28 ที่เบาหวานชั้นที่ 2 อย่างเดียวนะครับ
00:01:28 → 00:01:32 เพราะว่าต้องบอกว่าวาฬตาชนิดไม่ว่าจะมี
00:01:32 → 00:01:34 ชื่อเรียกเหมือนกันว่าเป็นโรคเบาหวานนะ
00:01:34 → 00:01:37 ครับแต่ต้องปวนไกลของมันเนี่ยต่างกันไปนะ
00:01:37 → 00:01:39 ครับโคตรเจ้าวาฬชนิดที่ 1 เดี๋ยวเขาจะ
00:01:39 → 00:01:42 เรื่องของระบบภูมิคุ้มกันที่มันทำลายตัว
00:01:42 → 00:01:45 ตะกอนของเรานะครับจะโจมตีตะกอนของเราทำ
00:01:45 → 00:01:47 ให้มีการสร้างชุดเล่นน้อยลงขึ้นมาว่าจะ
00:01:47 → 00:01:50 ได้ที่ 2 เนี่ยออกกรรไกรหลักๆแล้วตัว
00:01:50 → 00:01:52 ปัญหาหลักๆเป็นเรื่องของภาวะที่เรียกว่า
00:01:52 → 00:01:54 ดูอินซูลินนะครับซึ่งเดี๋ยวจะอธิบายให้
00:01:54 → 00:01:56 ฟังอีกทีนะครับว่ามันคืออะไรส่วนเบาหวาน
00:01:56 → 00:01:58 ในคนตั้งครรภ์นะครับก็จะเกี่ยวข้องกับ
00:01:58 → 00:02:01 ฮอร์โมนที่ปที่จะสร้างขึ้นมานะครับเราได้
00:02:01 → 00:02:03 ความที่เบาหวานทั้ง 3 นะคะมันมีคนกายที่
00:02:03 → 00:02:05 ต่างกันก็เลยบอกว่ามันเป็นคนละโลกกันเลย
00:02:05 → 00:02:08 นะครับพี่จะว่าผลสุดท้ายของมันเนี่ยก็
00:02:08 → 00:02:10 เหมือนกันก็คือมีภาวะของน้ำตาลในเลือดเอว
00:02:10 → 00:02:13 สูงสำหรับวันนี้เราก็จะคุยกันแค่เบาหวาน
00:02:13 → 00:02:15 ชนิดที่ 2 ก่อนนะครับสำหรับเบาหวานชนิด
00:02:15 → 00:02:16 ที่ 1 ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน
00:02:16 → 00:02:20 ที่มันทำลายไปตัวเราเองนะว่าทำร้ายเธอว่า
00:02:20 → 00:02:23 เพราะตับอ่อนนะครับก็เจ็บไว้คุยกันตอนที่
00:02:23 → 00:02:25 เราคุยเรื่องของโรคกลุ่มนี้นะครับซึ่งก็
00:02:25 → 00:02:28 มีหลายโรคด้วยกันจะได้เพราะคุยถึงตรงนี้
00:02:28 → 00:02:30 และก็คิดว่าน่าจะเห็นภาพนะคะเพราะโรคเบา
00:02:30 → 00:02:32 หวานแล้วมันเป็นปัญหาสำคัญนะครับที่เขา
00:02:32 → 00:02:34 บอกว่ามนุษย์ยุคปัจจุบันเนี่ยมีความ
00:02:34 → 00:02:36 เสี่ยงกันค่อนข้างเยอะนะครับแต่ก่อนที่จะ
00:02:36 → 00:02:38 เข้าในเรื่องของเรานะครับก็อยากจะขอพูด
00:02:38 → 00:02:41 ถึงผู้สนับสนุนซีรีส์เส้นก่อนนะครับสิ่ง
00:02:41 → 00:02:43 with Microphone เนี่ยนะครับรายการ
00:02:43 → 00:02:45 ทรัพย์สนุนจากบริษัทหมดก๊าซนะครับว่าการ
00:02:45 → 00:02:47 นะครับเป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่ม
00:02:47 → 00:02:49 นักวิจัยนะครับนักวิทยาศาสตร์ที่เชี่ยว
00:02:49 → 00:02:52 ชาญทางด้านเทคโนโลยีไปเข้าไปโอมห์จาก
00:02:52 → 00:02:53 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
00:02:53 → 00:02:57 บางมดนะครับศิริบริษัทหมดกันเนี่ยทำอะไร
00:02:57 → 00:03:00 ก็คือเขาได้เปิดให้บริการตรวจและก็เพราะ
00:03:00 → 00:03:02 จุลินทรีย์ในลำไส้ของเรานะครับดีเคราะห์
00:03:02 → 00:03:05 bactrim ไส้ของเราเพื่อให้รู้ว่าไปช่วย
00:03:05 → 00:03:07 ที่ในครับไส้ของเราเนี่ยอยู่ในสภาวะแบบ
00:03:07 → 00:03:09 ไหนนะครับซึ่งก็จะเป็นข้อมูลที่มี
00:03:09 → 00:03:11 ประโยชน์นะครับช่วยให้เราสามารถดูแล
00:03:11 → 00:03:13 สุขภาพให้ดีขึ้นได้สำหรับใครที่สนใจ
00:03:13 → 00:03:16 บริการของมดกัดนะครับเดี๋ยวผมจะนำข้อมูล
00:03:16 → 00:03:18 นะครับมาใส่ไว้ให้ในตอนท้ายคลิปนะครับ
00:03:18 → 00:03:20 หรือว่าจะเขียนว่าได้รวม Description เลย
00:03:20 → 00:03:23 ในคอมเม้นนะครับใส่ลิงค์ไว้ให้นะครับถ้า
00:03:23 → 00:03:25 สนใจก็ลองเข้าไปดูได้โอเคกลับมาที่เรื่อง
00:03:25 → 00:03:27 ของเรานะครับก็คือเรื่องของเบาหวานนะครับ
00:03:27 → 00:03:30 ก่อนที่เราจะไปคุยกันว่าไปเที่ยวในลำไส้
00:03:30 → 00:03:32 เนี่ยมันเกี่ยวข้องกับเรากว่าได้ยังไงผม
00:03:32 → 00:03:34 อยากจะชวนไปทำความรู้จักเกี่ยวกับโรคเบา
00:03:34 → 00:03:37 หวานก่อนเข้าๆนะครับสั้นๆพอให้นึกภาพออก
00:03:37 → 00:03:39 นะครับว่าเราเบาหวานนี้มันมีหน้าตาแบบไหน
00:03:39 → 00:03:45 นะครับมันอันตรายยังไงนะครับ
00:03:45 → 00:03:48 โอเคเรามาเริ่มต้นที่โรคเบาหวานคืออะไรนะ
00:03:48 → 00:03:50 ครับเพราะเบาหวานนะคะไม่ว่าจะเป็นประมาณ
00:03:50 → 00:03:52 ชนิดที่หนึ่งนะครับชนิดที่สองหรือว่าโรค
00:03:52 → 00:03:54 เบาหวานมีคนตั้งครรภ์เนี่ยมันจะมีรักษา
00:03:54 → 00:03:56 ร่วมเหมือนกันอยู่อย่างเลยนะครับก็คือว่า
00:03:56 → 00:03:59 เป็นลักษณะเด่นของโรคเบาหวานเลยก็คืออ่อ
00:03:59 → 00:04:02 น้ำตาการเลือกมันจะสูงที่นี่มันก็เลยเกิด
00:04:02 → 00:04:05 คำถามขึ้นมา 2 คำถามนะครับคำถามและก็คือ
00:04:05 → 00:04:08 ว่าทำไมน้ำตาลในเลือดของคนที่เป็นเบาหวาน
00:04:08 → 00:04:11 เนี่ยถึงที่สุดกว่าปกติได้คำถามที่ 2 ก็
00:04:11 → 00:04:14 คือแล้วน้ำตาลที่สูงขึ้นเนี่ยมันไม่ดียัง
00:04:14 → 00:04:16 ไงนะครับมันโพธิ์ส่งผลเสียหรือส่งผลร้าย
00:04:16 → 00:04:18 กับร่างกายอย่างไรทำไมเราถึงต้องกลัว
00:04:18 → 00:04:22 เพราะว่าน้ำตาลสูงก่อนอื่นนะครับผมจะขอ
00:04:22 → 00:04:24 ตอบคำถามที่ 2 ก่อนนะครับว่าน้ำตาลใน
00:04:24 → 00:04:25 เลือดที่มันสูงขึ้นเนี่ยมันไม่ได้ยังไง
00:04:25 → 00:04:28 เพราะว่าคำตอบเนี่ยจะเป็นคำตอบร่วมนะครับ
00:04:28 → 00:04:31 ที่ใช้ได้กับทั้งเบาหวานชนิดที่ 1 ชั้น
00:04:31 → 00:04:33 ที่ 2 นะคะเมื่อวานให้คนตั้งครรภ์ส่วนคำ
00:04:33 → 00:04:35 ถามได้นะคะว่าทำไมน้ำตาลในเลือดถึงสูงๆ
00:04:35 → 00:04:37 เนี่ยต้องบอกว่าในเบาหวานแต่ละชนิดนะครับ
00:04:37 → 00:04:40 มันมีคำอธิบายที่ต่างกันไปซึ่งก็เลยอยาก
00:04:40 → 00:04:43 จะขอเก็บไว้ตอบทีหลังโอเคมาเริ่มที่คำถาม
00:04:43 → 00:04:45 ที่ 2 นะครับก็คือว่าน้ำตาลที่สูงขึ้นมัน
00:04:45 → 00:04:48 ไม่ดีอย่างไรนะครับเรากลัวภาวะน้ำตาลใน
00:04:48 → 00:04:53 เลือดที่สูงเนี่ยเพราะอะไร
00:04:53 → 00:04:56 น้ำตาลในเลือดแต่มันเป็นสิ่งที่จำเป็น
00:04:56 → 00:04:58 สำหรับร่างกายนะครับเพราะว่ามันคือตัว
00:04:58 → 00:05:00 เชื้อเพลิงที่ saves และร่างกายของเรา
00:05:00 → 00:05:03 เนี่ยใช้ก็คือมันจะนำน้ำตาลเข้าไปในเซลล์
00:05:03 → 00:05:06 แล้วก็นำไปเผาทำให้น้ำตาลในเลือดเนี่ยมัน
00:05:06 → 00:05:08 ก็จะเหมือนกับทุกอย่างร่างกายคือมี
00:05:08 → 00:05:10 ประโยชน์แต่ก็จะดีโทษด้วยเหมือนกันโดย
00:05:10 → 00:05:12 เฉพาะถ้ามีปริมาณที่มากเกินไปน้ำตาลก็จะ
00:05:12 → 00:05:15 ก่อให้เกิดโทษกับร่างกายที่ได้สิ่งที่
00:05:15 → 00:05:17 เกิดขึ้นก็คือว่าน้ำตาลที่มันเยอะเกินไป
00:05:17 → 00:05:20 มันจะไปทำปฏิกิริยาเคมีนะครับกับโมเลกุล
00:05:20 → 00:05:23 ในร่างกายโดยเฉพาะโปรตีนและจะเกิดสิ่งที่
00:05:23 → 00:05:26 มีชื่อเรียกว่าเหตุนะครับเอจีอีนะครับ
00:05:26 → 00:05:28 ซึ่งคำนี้เป็นคำย่อจากคำเต็มว่าคือ
00:05:28 → 00:05:30 แอดวานซ์ไกลเคชั่น End product คำนี้นะ
00:05:30 → 00:05:32 ครับจริงๆเป็นคำที่เห็นได้บ่อยนะครับถ้า
00:05:32 → 00:05:34 ใครอ่านพูดบทความเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ
00:05:34 → 00:05:36 บ่อยๆจะเห็นนะครับตัวนี้มันจะทำให้ตัว
00:05:36 → 00:05:39 โปรตีนนะการไอเสียสภาพไปคำว่าเสียสภาพคือ
00:05:39 → 00:05:42 ว่าโปรตีนซึ่งจะเรียกว่าเป็นนะครับทุก
00:05:42 → 00:05:44 อย่างร่างกายของเราเนี่ยมันไม่สามารถทำ
00:05:44 → 00:05:47 งานได้ตามปกติของมันหรือว่าทำงานได้อย่าง
00:05:47 → 00:05:49 ที่มันควรจะต้องทำนี่มันก็เลยส่งผลกระทบ
00:05:49 → 00:05:53 ต่อเนื่องไปโดยเฉพาะออกมาจะทำให้หลายๆ
00:05:53 → 00:05:55 อย่างเดียวเสียหน้าที่การงานไปนะครับซึ่ง
00:05:55 → 00:05:58 ใดตัวหลักๆเลยที่จะโดนทำลายนะครับก็คือ
00:05:58 → 00:06:00 เรื่องของเส้นเลือดเรื่องของและประสาทที่
00:06:00 → 00:06:02 นี้นะครับตัวเส้นประสาทกับเส้นเลือดเนี่ย
00:06:02 → 00:06:05 จะเรียกว่าเหมือนเป็นโครงสร้างพื้นฐานของ
00:06:05 → 00:06:08 ร่างกายก็ได้ครับก็คือมาถือว่ามันเป็น
00:06:08 → 00:06:10 เหมือนกับท่อน้ำหรือสายปรับสายไฟฟ้านะ
00:06:10 → 00:06:13 ครับของของเมืองก็ได้นะครับของร่างกายเรา
00:06:13 → 00:06:15 มันก็เลยสามารถส่งผลกระทบต่อไปเรื่องอื่น
00:06:15 → 00:06:18 ๆได้ยกตัวอย่างเช่นนะครับถ้าเส้นเลือดแต่
00:06:18 → 00:06:20 มันมีปัญหาโดยเฉพาะเลือดฝอยที่ไปเลี้ยง
00:06:20 → 00:06:23 อวัยวะต่างๆก็จะทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะ
00:06:23 → 00:06:26 นั้นน้อยนะครับก็จะมีปัญหาเกิดขึ้นได้ตัว
00:06:26 → 00:06:28 อย่างเช่นไตเนี่ยถ้าคนที่เป็นเบาหวานนานๆ
00:06:28 → 00:06:30 แล้วก็มีปัญหาเรื่องของเส้นเลือดนั้นๆก็
00:06:30 → 00:06:33 จะเกิดภาวะไตวายได้หรือถ้าเกิดกับเช่น
00:06:33 → 00:06:35 เลือดที่ไปเลี้ยงสมองนะครับก็จะนำไปสู่
00:06:35 → 00:06:38 ภาวะเส้นเลือดของสมองมีปัญหาก็จะเป็น
00:06:38 → 00:06:40 เรื่องของเส้นเลือดในสมองตีแปลว่าจะเล่น
00:06:40 → 00:06:43 สมองตายใต้ถ้าเป็นเส้นเลือดที่ไปเลี้ยง
00:06:43 → 00:06:45 หัวใจเนี่ยก็จะเกิดความเสียหายกับหัวใจ
00:06:45 → 00:06:48 ได้ก็คือทำให้เกิดภาวะเช่นหัวใจตีนะครับ
00:06:48 → 00:06:51 เกิดเพราะว่าควรใจขาดเลือดได้ถ้าเป็นเส้น
00:06:51 → 00:06:53 เลือดที่ไปเลี้ยงตานะครับก็จะทำให้เกิดตา
00:06:53 → 00:06:55 บ่ได้นะครับซึ่งหลายคนก็ดูว่าเมื่อวาน
00:06:55 → 00:06:57 เนี่ยสามารถทำให้ตาบอดได้โอเคนะก็เป็นตัว
00:06:57 → 00:07:00 อย่างนะครับว่าถ้าเส้นเลือดมีปัญหาเหรอดี
00:07:00 → 00:07:03 ขึ้นทีนี้เรามาดูเช่นภาษากันบ้างนะครับก็
00:07:03 → 00:07:05 คือพวกน้ำตาลมันทำให้เส้นประสาทโดยเฉพาะ
00:07:06 → 00:07:07 ส่วนที่เรียกว่าปลายประสาทเนี่ยมันทำงาน
00:07:07 → 00:07:10 ไม่ดีมันก็เลยจะออกมาในอาการหลายๆอย่างนะ
00:07:10 → 00:07:13 ครับที่พบบ่อยในผู้ป่วยโรคเบาหวานเช่น
00:07:13 → 00:07:16 เรื่องของอาการชาปลายมือปลายเท้านะครับ
00:07:16 → 00:07:18 ซึ่งเกิดจากการทำงานของเส้นประสาทเล็กๆ
00:07:18 → 00:07:21 ที่มันเสียหน้าที่ไปที่ได้การชาได้มันไม่
00:07:21 → 00:07:23 ใช่เรื่องเล็กๆนะครับหลายคนคิดว่าแค่มัน
00:07:23 → 00:07:25 แค่ชาวปลายมือปลายเท้ามันก็ไม่ได้น่ากลัว
00:07:25 → 00:07:28 อะไรแต่จริงๆเวลาชาปลายมือปลายเท้าเนี่ย
00:07:28 → 00:07:31 ลายข้างมันทำให้เราไม่รู้สึกนะครับที่เจอ
00:07:31 → 00:07:33 บ่อยมากๆเลยนะครับสมัยก่อนนะครับก็คือ
00:07:33 → 00:07:35 หลายคนเนี่ยมีแผลที่เท้าเดี๋ยวเรียนรู้
00:07:35 → 00:07:38 ตัวเพราะว่าเท้าในชาก็เพ้อไปแต่นวดแต่นี่
00:07:38 → 00:07:40 นะครับหรือว่าครั้งใส่รองเท้าที่มันคับไป
00:07:40 → 00:07:42 เกิดเป็นเหมือนน้องเท่ากับขึ้นมาเป็นพาย
00:07:42 → 00:07:45 เล็กๆขึ้นมาเนี่ยก็ปอดด้วยความที่ฉากไม่
00:07:45 → 00:07:48 เจ็บนะครับก็เลยเราไม่ได้ใส่ใจไม่ได้รู้
00:07:48 → 00:07:52 ตัวหลายครั้งนะครับเราก็ได้สนใจดูแลมันก็
00:07:52 → 00:07:55 เผลอเตะซ้ำแต่ 3 ไปเรื่อยๆที่นิดบวกกับ
00:07:55 → 00:07:58 การที่ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงๆมันทำให้พวก
00:07:58 → 00:08:00 Cell ในระบบภูมิคุ้มกันนะครับก็ไม่ได้
00:08:00 → 00:08:03 ต่างๆเนี่ยมันทำงานไม่ดีด้วยเมื่อเซลล์
00:08:03 → 00:08:05 ระบบภูมิคุ้มกันมาทำงานไม่ดีเนี่ยมันก็จะ
00:08:05 → 00:08:08 ทำให้พวกแพ้ต่างๆเนี่ยมันหายากนะครับแล้ว
00:08:08 → 00:08:10 ก็เกิดการภาวะแทรกซ้อนครับเกิดการติด
00:08:10 → 00:08:12 เชื้อกับแผลในได้ง่ายจากนั้นหลายครั้ง
00:08:12 → 00:08:15 เดียวแผลเริ่มต้นถ่ายเล็กๆนะครับเช่นแพ้
00:08:15 → 00:08:17 ลองเข้ากับธรรมดาหรือว่าแพ้มันไปโดนเตะ
00:08:17 → 00:08:19 อะไรสักอย่างมาเนี่ยแต่ต่อหน้ามันลุกลาม
00:08:19 → 00:08:22 ไปเรื่อยๆนะครับมันค่อยๆลามขึ้นแพ้มัน
00:08:22 → 00:08:25 เน่ากินเนื้อดีนะไปเรื่อยๆจนกระทั่งหลาย
00:08:25 → 00:08:27 ครั้งเนี่ยสมัยก่อนเดี๋ยวจะมีบ่อยมากเลย
00:08:27 → 00:08:29 ที่ผู้ป่วยด้วยก็เป็นมากระทั่งสุดท้าย
00:08:29 → 00:08:32 เนี่ยแพ้มันคงไม่ได้นะคะอันตรายต่างอาจจะ
00:08:32 → 00:08:35 ทำให้เสียชีวิตได้บอกเลยต้องตัดสินใจที่
00:08:35 → 00:08:37 จะตัดขาของผู้ป่วยทิ้งโดยเฉพาะในคนที่
00:08:38 → 00:08:41 เป็นเบาหวานที่ออกควบคุมน้ำตาลไม่ค่อยดี
00:08:41 → 00:08:43 นะครับแต่ปัจจุบันในการเพื่อนว่ารู้จัก
00:08:43 → 00:08:45 รักษาในมันดีขึ้นนะครับแล้วก็คนมีความรู้
00:08:45 → 00:08:48 มากขึ้นทำให้เพราะว่าแทรกซ้อนขนาดต้องตัด
00:08:48 → 00:08:50 ขาเนี่ยมันก็น้อยเรามาสมัยก่อนนอนเนื่อง
00:08:50 → 00:08:52 จากนั้นนะครับอาการของโรคปัญหาของเส้น
00:08:52 → 00:08:55 ประสาทมันก็มีผลต่อระบบพื้นได้ตัวอย่าง
00:08:55 → 00:08:57 เช่นนะครับมีถ้ามีผลกับระบบทางเดินอาหาร
00:08:57 → 00:09:01 นะครับก็จะทำให้ผู้ป่วยเบาหวานและพี่ขอดู
00:09:01 → 00:09:03 รู้สึกเหมือนกับอิ่มง่ายนะครับหรือว่ากิน
00:09:03 → 00:09:05 อาหารไม่ค่อยลงกินได้เดียวเนี่ยเขาจะกิน
00:09:05 → 00:09:07 แล้วบางคนรู้สึกเครื่องใช้อาเจียนร่วม
00:09:07 → 00:09:09 ด้วยหรือว่าพูดง่ายๆคือเหมือนกระเพาะ
00:09:09 → 00:09:12 อาหารมันไม่รับอาหารนะครับซึ่งพวกนี้มัน
00:09:12 → 00:09:14 เกิดจากการที่เส้นประสาทที่ไปเลี้ยง
00:09:14 → 00:09:16 กระเพาะเนี่ยมันมีปัญหานะครับทำให้
00:09:16 → 00:09:18 กระเพาะได้มันไม่สามารถทำงานได้ปกติเพราะ
00:09:18 → 00:09:20 เพราะว่าแบบนี้นะคะไม่มีชื่อเรียกทางทาง
00:09:20 → 00:09:24 การแพทย์นะครับว่าใด beaches นะครับโอเค
00:09:24 → 00:09:25 ทั้งหมดที่เล่ามานี้นะครับก็คิดว่าน่าจะ
00:09:25 → 00:09:28 พอเห็นภาพนะครับแล้วก็ตอบคำถามว่าน้ำตาล
00:09:28 → 00:09:31 ที่สุดนานๆมันไม่ดียังไงนะครับทำไมเราถึง
00:09:31 → 00:09:34 ป่วยภาวะน้ำตาลในเลือดที่มันสุขมากๆครั้ง
00:09:34 → 00:09:36 นี้นะครับเราก็จะตอบคำถามแรกนะครับที่เรา
00:09:36 → 00:09:38 ถามกันไว้เมื่อกี้นะครับก็คือว่าแล้วทำไม
00:09:38 → 00:09:44 น้ำตาลในเลือดเนี่ยมันถึงสูงได้
00:09:44 → 00:09:47 โอเคอธิบายเปล่า Ben10 Ben10 ง่ายเลยนะ
00:09:47 → 00:09:50 ครับว่าทำไมน้ำตาลในเลือดมาถึงสูงคำตอบ
00:09:51 → 00:09:53 ได้ก็คือพ่อน้ำตาลมันไม่สามารถเข้าไปใน
00:09:53 → 00:09:56 เซลล์ได้พอน้ำตาลมันเข้าไปในเซลล์ไม่ได้
00:09:56 → 00:09:58 เนี่ยมันก็เหมือนกับครั้งเติมนะครับรอ
00:09:58 → 00:10:00 อยู่ในเลือดเนี่ยทำให้ประมาณน้ำมีเพื่อน
00:10:00 → 00:10:03 มันสูงขึ้นมันก็เลยเกิดคำถามต่อไปว่าเรา
00:10:03 → 00:10:05 จะไปน้ำตาเนี่ยมันถึงเข้าไปในเซลล์ไม่ได้
00:10:05 → 00:10:08 คำอธิบายนี้นะครับต้องเข้าใจกันปกติก่อน
00:10:08 → 00:10:10 นะครับเพราะว่าปกติเนี่ยน้ำตาลมันจะเข้า
00:10:10 → 00:10:12 ไปในเซลล์ได้มันจะต้องมีเหมือนกับตัวที่
00:10:12 → 00:10:15 มาเปิดประตูให้นะครับซึ่งตัวที่จะมาเปิด
00:10:15 → 00:10:17 ประตูให้และพาน้ำตาลเข้าไปในเซลล์เนี่ย
00:10:17 → 00:10:20 มันก็คือฮอร์โมนที่มีชื่อว่าอินซูลินซึ่ง
00:10:20 → 00:10:22 เป็นฮอร์โมนชนิดนึงนะครับที่สร้างมาจาก
00:10:22 → 00:10:24 อวัยวะที่ชื่อว่าตับอ่อนซึ่งจับคอร์ด
00:10:24 → 00:10:27 เนี่ยมันเป็นอวัยวะที่อยู่อยู่ใกล้ๆกับ
00:10:27 → 00:10:30 กระเพาะอาหารนะครับถ้าประมาณข้างๆนะครับ
00:10:30 → 00:10:32 ก็คืออยู่แถวๆกันกลางท้องนะครับค่อนมาทาง
00:10:32 → 00:10:34 ข้างบนนิดนึงนะครับที่คำถามว่าทำไมน้ำตาล
00:10:34 → 00:10:37 ถึงเข้าเซิฟเข้าเธอไม่ได้เนี่ยคำตอบก็คือ
00:10:37 → 00:10:39 ว่าเพราะปัญหาได้มันอยู่ที่ตัวอินซูลิน
00:10:39 → 00:10:43 แต่ปัญหาที่ว่าเดี๋ยวคืออะไรปัญหาที่มัน
00:10:43 → 00:10:45 เกิดได้จากหลายคนไก่ด้วยกันนะครับเช่นถ้า
00:10:45 → 00:10:48 ปัญหาอยู่ที่การสร้างอินซูลินไม่ค่อยพอนะ
00:10:48 → 00:10:49 ครับคือตับอ่อนยังไม่สามารถสร้างอินซูลิน
00:10:49 → 00:10:52 ได้ว่าสร้างได้น้อยมากเนี่ยเราจะเรียกโรค
00:10:52 → 00:10:54 เบาหวานชนิดนี้ว่าเป็นเบาหวานชนิดที่ 1
00:10:54 → 00:10:58 แต่ถ้าตับอ่อนสามารถสร้างอินซูลินได้แต่
00:10:58 → 00:11:01 ว่าประตูที่จะเปิดให้น้ำตาลเธอมันดื้อนะ
00:11:01 → 00:11:04 ครับคุณไม่ยอมตอบสนองจ.สุรินทร์เขาเรียก
00:11:04 → 00:11:06 ว่าภาวะดื้ออินสุลินเนี่ยเราจะเลี่ยงโรค
00:11:06 → 00:11:08 นี้นะครับว่าเบาหวานชนิดที่ 2 ชนิดก็คือ
00:11:08 → 00:11:11 เหมือนตรงนี้นะครับก็คิดว่าน่าจะขอเราน่า
00:11:11 → 00:11:13 จะมาคุยสักเล็กน้อยนะครับว่าเบาหวานแต่ละ
00:11:13 → 00:11:16 ชนิดนะครับวาฬชนิดหนึ่งแล้ววาฬชนิดที่สอง
00:11:16 → 00:11:20 เนี่ยต่างกันยังไง
00:11:20 → 00:11:24 โอเคเรื่องต้นจากภาพใหญ่ก่อนนะครับปลาวาฬ
00:11:24 → 00:11:26 ทั้งสองชนิดนะครับชนิดที่ 1 และชนิดที่
00:11:26 → 00:11:28 สองเนี่ยมันน่าจะเกิดขึ้นกับคนกลุ่มอายุ
00:11:28 → 00:11:31 ต่างกันนะครับก็คือถ้าเป็นเบาหวานชนิดที่
00:11:31 → 00:11:34 1 เนี่ยน่าจะผมพบในคนอายุน้อยนะครับอายุ
00:11:34 → 00:11:35 น้อยที่ว่าเนี่ยส่วนใหญ่แล้วกันใช่ว่า
00:11:35 → 00:11:38 น้อยกว่า 30 นะครับแต่ว่าคนไข้ส่วนใหญ่
00:11:38 → 00:11:40 ที่มาเนี่ยหรือว่าเริ่มมีอาการต้องมาหา
00:11:40 → 00:11:42 หมอเนี่ยจะอยู่ในประมาณช่วงก่อนวัยรุ่น
00:11:42 → 00:11:45 แล้วช่วงวัยรุ่นนะครับประมาณสัก 11 12
00:11:45 → 00:11:47 13 14 เนี่ยก็จะเริ่มมีอาการแล้วก็ต้อง
00:11:47 → 00:11:50 มาหาหมอแล้วก็จะและการวินิจฉัยว่าเป็นโรค
00:11:50 → 00:11:52 เบาหวานชนิดที่ 1 ตอนช่วงวัยนี้แต่ถ้ามัน
00:11:52 → 00:11:54 เบาหวานชนิดที่ 2 เนี่ยส่วนแหลมจะเกิด
00:11:54 → 00:11:57 ขึ้นกับคนที่อายุมากนะครับเค้าอายุมาก
00:11:57 → 00:11:59 เนี่ยในที่นี้เนี่ยส่วนใหญ่เขาจะประมาณ 50
00:11:59 → 00:12:02 60 ต่อไปนะครับแต่ที่น่าสนใจก็คือว่า
00:12:02 → 00:12:05 Trend ของโลกตอนนี้มันจะเห็นว่าคนที่
00:12:05 → 00:12:07 ป่วยเป็นโรคเบาหวานเนี่ยผมบอกว่าชนิดที่
00:12:07 → 00:12:09 สองเนี่ยมีแนวโน้มที่จะอายุน้อยลงเรื่อยๆ
00:12:09 → 00:12:11 ก็คืออายุน้อยลงมาจาก 5 เสร็จอาจจะเหลือ
00:12:12 → 00:12:14 แค่ประมาณสี่สิบห้าร้อยสี่สิบเนี่ยหรือ
00:12:14 → 00:12:16 บางครั้งแรกคนไข้อยู่ 30 กว่าแล้วก็เริ่ม
00:12:16 → 00:12:19 เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้โดยเฉพาะคน
00:12:19 → 00:12:21 ที่โอนมากๆนะครับหรือว่าคนที่มีหลายสไตล์
00:12:21 → 00:12:24 แบบไม่ค่อยได้ขยับไปด้วยหนูไม่ค่อยออก
00:12:24 → 00:12:26 กำลังกายความต่างที่ 2 นะครับระหว่าง
00:12:26 → 00:12:28 เพราะว่าชนิดหนึ่งอาทิตย์ที่ 2 เนี่ยก็
00:12:28 → 00:12:31 คือกลไกของการเกิดของมานะครับก็อย่างที่
00:12:31 → 00:12:33 คุยกันไปก่อนหน้านะครับถ้าเป็นเบาหวาน
00:12:33 → 00:12:35 ชนิดที่ 1 ในควรใครของมันเป็นเรื่องของ
00:12:35 → 00:12:37 ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเราเองเนี่ยมัน
00:12:37 → 00:12:39 ไปทำลายเซลล์ที่สร้างอินซูลินในตับอ่อนก็
00:12:39 → 00:12:42 คือเซลล์ที่มีชื่อว่าเบต้าเซลล์นะครับนี่
00:12:42 → 00:12:43 เบต้าเจอมาดูทำลายเนี่ยมันก็ไม่สามารถ
00:12:43 → 00:12:46 สร้างอินซูลินได้หรือว่าสร้างได้น้อยลง
00:12:46 → 00:12:49 แต่โดยทั่วไปในร่างกายเราจะเหม็นจะมี
00:12:49 → 00:12:51 สุรินทร์เค้าเรียกว่ามีรีเซิฟอยู่นะครับ
00:12:51 → 00:12:54 มีสำรองไว้ประมาณหนึ่งจะเริ่มมีอาการก็
00:12:54 → 00:12:56 ต่อเมื่อเบต้าเซลล์ถูกทำลายประมาณ 80 ถึง
00:12:56 → 00:12:58 90 เปอร์เซ็นต์นะครับแล้วผู้ป่วยเนี่ยก็
00:12:58 → 00:13:00 จะเริ่มมีอาการขึ้นมาสำหรับคะณวัดทำไม
00:13:00 → 00:13:02 อยู่ๆระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเนี่ยจึง
00:13:02 → 00:13:05 ไปทำลายตับอ่อนเนี่ยเราจะไม่คุยกันในวัน
00:13:05 → 00:13:07 นี้นะครับผมจะเก็บเรื่องนี้ไว้คุยตอนที่
00:13:07 → 00:13:09 เราคุยเรื่องของพวกโรคภูมิคุ้มกันที่มัน
00:13:09 → 00:13:11 ทำลายตัวเองนะครับหรือว่าโลกคะแล้วก็ต้อง
00:13:11 → 00:13:14 m o d c S นะครับซึ่งปัจจุบันก็พบ
00:13:14 → 00:13:16 ด้วยนะครับว่าไปเพียงลำไส้เนี่ยมีที่
00:13:16 → 00:13:18 เหลือเกินปัจจัยสำคัญนึงนะครับที่ก่อให้
00:13:18 → 00:13:20 เกิดพวกเรากลุ่มนี้ได้นะครับพวกโลกที่
00:13:20 → 00:13:23 ภูมิคุ้มกันมันทำร้ายร่างกายตัวเองสำหรับ
00:13:23 → 00:13:25 โรคเบาหวานชนิดที่สอนนะครับกลไกของมาใน
00:13:25 → 00:13:28 มันจะเกิดจากภาวะที่มีชื่อว่าพอเลยที่เรา
00:13:28 → 00:13:30 เรียกว่าภาวะดื้ออินซูลินนะครับประเด็นใน
00:13:30 → 00:13:32 ทางการแพทย์แล้วชายว่า insulin
00:13:32 → 00:13:34 resistance นะครับซึ่งก็แปลตรงตัวนะครับ
00:13:34 → 00:13:36 วิธีสั้นก็คือมันจังวะต่อต้านนะครับก็คือ
00:13:37 → 00:13:40 มันต่อต้านอินซูลินมันเดินสุรินทร์ก็หมาย
00:13:40 → 00:13:42 ความว่าตัวในเลือดเนี่ยก็ตับอ่อนสร้าง
00:13:42 → 00:13:45 อินซูลินได้ในเรือนอินซูลินจะประตูที่จะ
00:13:45 → 00:13:47 เปิดให้ฟังเนี่ยมันดื้อไหมครับมันต้องมัน
00:13:47 → 00:13:49 ไม่ค่อยยอมฟังฉันว่าประตูมันผมเติมก็ได้
00:13:49 → 00:13:52 นะครับก็คือต้องมีปริมาณอินซูลินมากๆมัน
00:13:52 → 00:13:55 ถึงจะยอมตอบสนองที่นี่มันก็เลยมีคำถามที่
00:13:55 → 00:13:57 น่าสนใจก็คือว่าแล้วภาวะเดินธุลินมันเกิด
00:13:57 → 00:14:00 ขึ้นได้อย่างไรคำตอบนี้นะหมอเขาไปคำตอบ
00:14:00 → 00:14:02 ที่ค่อนข้างย่างนะครับแล้วก็ไม่มีคนไกล
00:14:02 → 00:14:04 ที่ซับซ้อนนะครับทุกวันนี้เราก็ยังไม่
00:14:04 → 00:14:07 เข้าใจมันทั้งหมดแต่ปัจจุบันเนี่ยเรารู้
00:14:07 → 00:14:09 มันมีปัจจัยหลายๆอย่างนะครับที่ถือว่า
00:14:09 → 00:14:11 เป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้
00:14:11 → 00:14:14 ออกคนแต่ละคนเนี่ยรู้ว่าเราเรียนมีโอกาส
00:14:14 → 00:14:17 ที่จะเกิดภาวะดื้ออินสุลินได้ปัจจัยเช่น
00:14:17 → 00:14:20 ต่างเหล่านี้มีอะไรบ้างอย่างแรกสุดนะครับ
00:14:20 → 00:14:22 ก็เป็นเรื่องของอายุนะครับก็คือเมื่อเรา
00:14:22 → 00:14:24 คนเรามีอายุมากขึ้นนะครับก็จะมีใครก็ตาม
00:14:24 → 00:14:26 นะครับเมื่ออายุมากขึ้นเนี่ยก็จะมีโอกาส
00:14:26 → 00:14:30 ที่จะเกิดภาวะดื้อต่อลินได้ง่ายขึ้นอัน
00:14:30 → 00:14:32 นี้มันก็จะเคยจะเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติ
00:14:32 → 00:14:34 ปัจจัยที่สองเดือนซึ่งก็เป็นปัจจัยที่
00:14:34 → 00:14:36 สำคัญมากๆนะครับเป็นปัจจัยเรียกว่าปัจจัย
00:14:36 → 00:14:39 หลักเลยก็ได้ก็คือภาวะอ้วนคือยิ่งควรมาก
00:14:39 → 00:14:42 เนี่ยก็จะมีความเสี่ยงที่เกิดภาวะเรือนจะ
00:14:42 → 00:14:46 หลุดง่ายส่วนคำอธิบายนะคะว่าทำไมขอคำที่
00:14:46 → 00:14:49 ใบนึงก็คือว่าเพราะว่าตัวไขมันนะครับที่
00:14:49 → 00:14:51 สะสมมากขึ้นโดยเฉพาะไข่เข้าไขมันที่ช่อง
00:14:51 → 00:14:54 ท้องเลยคิดว่าเป็นวิชาแฟลชเนี่ยนะครับมัน
00:14:54 → 00:14:56 จะสามารถสร้างสารที่ว่าเป็นสารการอักเสบ
00:14:56 → 00:15:00 ในขึ้นมาได้แล้วสารเคมีเหล่าเนี้ย
00:15:00 → 00:15:02 หมอเสมก็จะกระจายไปในเลือดซึ่งมันจะมีผล
00:15:03 → 00:15:05 ให้เกิดภาวะดื้ออินสุลินขึ้นมาทำให้เซลล์
00:15:05 → 00:15:07 ของร่างกายต่างๆนะครับว่าจะเป็นเซลล์
00:15:07 → 00:15:09 กล้ามเนื้อนะครับเซลล์ตับนะครับหรือว่า
00:15:09 → 00:15:12 เซลล์ไขมันเนี่ยมันดื้อต่ออินซูลินก็คือ
00:15:12 → 00:15:14 มันไม่ค่อยยอมมาทำตานะเข้าไปในเซลล์
00:15:14 → 00:15:16 ปัจจัยเสี่ยงที่ 3 นะครับที่สำคัญก็คือ
00:15:16 → 00:15:19 เป็นเรื่องของอาหารครับโดยเฉพาะอาหารที่
00:15:19 → 00:15:21 มีใครมาเต็มตัวสูงนะครับก็คือพวกไขมันจาก
00:15:21 → 00:15:23 เนื้อสัตว์ต่างๆแล้วน่าจะนี้นะครับก็จะมี
00:15:23 → 00:15:26 เป็นเรื่องของพวกพันธุกรรมนะครับแต่ว่า
00:15:26 → 00:15:28 พันธุกรรมเนี่ยจะรู้ว่าเป็นเหมือนกับเป็น
00:15:28 → 00:15:29 แพ็คราวก็ได้นะครับที่อยู่เบื้องหลัง
00:15:29 → 00:15:32 เพราะว่าไม่ใช่ทุกคนที่มีพันธุกรรมเนี่ย
00:15:32 → 00:15:34 จะเกิดโรคเบาหวานนะครับคือมาถึงว่าถ้าต่อ
00:15:34 → 00:15:36 ให้เรามีพันธุกรรมที่มีความเสี่ยงเนี่ย
00:15:36 → 00:15:39 แต่ถ้า Lifestyle เราค่อนข้างดีเราก็จะ
00:15:39 → 00:15:41 ไม่เป็นโรคเบาหวานเนี่ยก็ได้แต่นั้น
00:15:41 → 00:15:43 เหมือนกับว่าถ้ามีพันธุกรรมหรือมันเป็น
00:15:43 → 00:15:45 แค่บันไดขั้นแรกเท่านั้นแล้วก็มีปัจจัย
00:15:45 → 00:15:47 ทางด้านสิ่งแวดล้อมอื่นเข้ามากระตุ้นด้วย
00:15:47 → 00:15:50 เรานี้ก็เป็นภาพกว้างย่อๆนะครับของโรคเบา
00:15:50 → 00:15:52 หวานนะครับเพราะเห็นภาพว่าให้โรคเธอเลย
00:15:52 → 00:15:54 ว่าโรคเบาหวานเนี่ยมันคืออะไรนะครับมันมี
00:15:54 → 00:15:57 ลักษณะแบบไหนบ้างเกิดกับใครบ้างมีความ
00:15:57 → 00:16:00 เสี่ยงอะไรบ้างแต่จุดสังเกตข้อสังเกตนะ
00:16:00 → 00:16:03 ครับประเด็นสำคัญคือว่าในมุมมองของทางการ
00:16:03 → 00:16:05 แพทย์นะครับในช่วงที่ผ่านมานะครับประมาณ
00:16:05 → 00:16:07 สักร้อยปีที่ผ่านมาเนี่ยเวลาพูดถึงโรคเบา
00:16:07 → 00:16:10 หวานเนี่ยในวงการแพทย์จะบอกว่าเราเมื่อ
00:16:10 → 00:16:13 วานคือโรคของฮอร์โมนอินซูลินนะครับเป็น
00:16:13 → 00:16:15 โรคของอวัยวะที่ชื่อว่าตับอ่อนแต่เมื่อ
00:16:15 → 00:16:17 ประมาณสัก 10 กว่าปีก่อนนะครับก็มีความ
00:16:17 → 00:16:19 รู้ใหม่เกิดขึ้นนะครับคือมีการค้นเพราะ
00:16:19 → 00:16:23 ว่าโรคเบาหวานเนี่ยมันไม่ใช่แค่โรคของตับ
00:16:23 → 00:16:25 อ่อนนะครับแต่ไม่เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับ
00:16:25 → 00:16:28 ลำไส้ด้วยนะครับจะชวนเราใช้ใหญ่หรือว่า
00:16:28 → 00:16:31 แบคทีเรียในลำไส้นะครับคำถามว่าคือว่า
00:16:31 → 00:16:33 แบคทีเรียที่อยู่ในระบบทางเดินอาหารนะ
00:16:33 → 00:16:35 ครับที่อยู่ในลำไส้ใหญ่เนี่ยมันไม่เกี่ยว
00:16:35 → 00:16:38 ข้องกับโรคเบาหวานที่เรามองว่าเป็นโรคของ
00:16:38 → 00:16:43 ฮอร์โมนเนี่ยได้ยังไง
00:16:43 → 00:16:46 เรื่องราวความสัมพันธ์นะครับของไปด้วยใน
00:16:46 → 00:16:48 ลำไส้กับโรคเบาหวานเนี้ยจะบอกว่ามันเกิด
00:16:48 → 00:16:50 ขึ้นประมาณช่วงประมาณ 2010 นี่เองนี้นะ
00:16:50 → 00:16:53 ครับก็คือในเวลานั้นนักเรียนศาสตร์เรื่อง
00:16:53 → 00:16:55 รู้กันแล้วว่าไปที่นำไส้เนี่ยมันมีผลต่อ
00:16:55 → 00:16:58 ระบบเผาผลาญของร่างกายมนุษย์ได้แล้วก็
00:16:58 → 00:17:00 เกี่ยวข้องกับความอ้วนด้วยโดยหมอนวดเนี่ย
00:17:00 → 00:17:03 จะมีแบคทีเรียเนี่ยที่ต่างไปช่วยในลำไส้
00:17:03 → 00:17:06 ในที่ต่างไปจากคนผอมที่นี่มันก็รู้กันมา
00:17:06 → 00:17:08 นานแล้วนะคะว่าโรคควรหรือว่าภาวะอ้วน
00:17:08 → 00:17:10 เนี่ยมันเกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานด้วยอย่า
00:17:10 → 00:17:12 ที่เราว่าไปนะครับคือความอ้วนเพิ่มความ
00:17:12 → 00:17:14 เสี่ยงของโรคเบาหวานก็เลยมีนัก
00:17:14 → 00:17:16 วิทยาศาสตร์นะครับที่เกิดสงสัยแล้วก็ต้อง
00:17:16 → 00:17:19 กับตาขึ้นมาว่าและแบคทีเรียในลำไส้ของคน
00:17:19 → 00:17:21 ที่เป็นปลาหวานเนี่ยเมื่อเทียบกับคนที่
00:17:21 → 00:17:24 ไม่เป็นโรคเบาหวานเนี่ยมันจะต่างกันไหมก็
00:17:24 → 00:17:27 เลยมีการศึกษาขึ้นมานะครับเราศึกษาเพื่อ
00:17:27 → 00:17:29 เทียบกันดูว่าไปเที่ยว 2 ระหว่างคนเป็น
00:17:29 → 00:17:31 เบาหวานคนที่เป็นเบาหวานเนี่ยเหมือนใน
00:17:31 → 00:17:33 ต่างกันแล้วก็มีการตีพิมพ์ครั้งแรกเนี่ย
00:17:33 → 00:17:36 ออกมาประมาณปี 2010 ซึ่งในตอนนั้นเดี๋ยว
00:17:36 → 00:17:39 คนพบว่าไปช่วยในลำไส้ของคนที่เป็นเบาหวาน
00:17:39 → 00:17:41 แล้วคนที่เป็นเบาหวานนี่มันต่างกันจริงๆ
00:17:41 → 00:17:44 โดยที่คนเป็นเบาหวานมันจะมีประเทศบางชนิด
00:17:44 → 00:17:46 เนี่ยลดลงไปแล้วก็มีแบคทีเรียชนิดเดียว
00:17:46 → 00:17:49 เพิ่มขึ้นซึ่งต่างจากคนปกตินะครับคนที่มี
00:17:49 → 00:17:52 เปิดโรคเบาหวานซึ่งรายละเอียดว่าเพิ่มรส
00:17:52 → 00:17:53 ต่างกันยังไงเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังคร่าวๆนะ
00:17:53 → 00:17:56 ครับนั่นก็เป็นคำไว้ได้นะครับแล้วแต่นี่
00:17:56 → 00:17:59 มันก็จะมีคำว่าอื่นด้วยนะครับทำไมที่ 2
00:17:59 → 00:18:02 เนี่ยมารู้จักการผ่าตัดแบบนึงนะครับที่
00:18:02 → 00:18:04 เรียกว่าเป็นการผ่าตัดสำหรับลดความอ้วนนะ
00:18:04 → 00:18:07 ครับที่นี่ผ่าตัดลดความอ้วนน่ะคืออะไร
00:18:07 → 00:18:10 พรุ่งนี้ครับมันจะมีการผ่าตัดชนิดนึงนะ
00:18:10 → 00:18:12 ครับประเภทหนึ่งนะครับเราเรียกว่าเป็น
00:18:12 → 00:18:14 บาร์บี้ effexor เจอรี่นะครับซึ่งคำว่า
00:18:14 → 00:18:17 บาเรียเหล็กนะครับเค้าแบรี่นะครับมันมาทำ
00:18:17 → 00:18:19 บ่าวร้อนนะคะเป็นซักรีดโบราณที่แปลว่า
00:18:19 → 00:18:21 หนักซึ่งก็ในที่นี้หมายถึงคนที่มีน้ำหนัก
00:18:21 → 00:18:24 เยอะนะครับเดี๋ยวคนอ้วนส่วน s-trek มันจะ
00:18:24 → 00:18:26 หมายถึงการรักษาคำว่าสตรีเนี่ยแปลว่าผ่า
00:18:26 → 00:18:29 ตัดดังนั้นคำนี้ไปลงตัวนะคะไม่ถือว่าการ
00:18:29 → 00:18:32 ผ่าตัดเพื่อรักษาก็ภาวะอ้วนที่นี่เทคนิค
00:18:32 → 00:18:35 ในการผ่าตัดนั้นก็จะมีอยู่ออนไลน์แบบนะ
00:18:35 → 00:18:37 ครับแต่ว่ามันจะเป็นการผ่าตัดมีทีละวรรค
00:18:37 → 00:18:40 Add text by แพสเซจรี่นะครับแล้วสึกใบ
00:18:40 → 00:18:42 พาสเซนเจอร์วินัยคืออะไรคืออันนี้เป็น
00:18:42 → 00:18:44 อย่างนี้ครับเขาบอกว่าคนอ้วนเดี๋ยวปัญหา
00:18:44 → 00:18:47 ก็กินอาหารเข้าไปเยอะพอละมันก็ดูดซึมและ
00:18:47 → 00:18:50 ทำให้คนเราในอ้วนนั้นก็เลยบอกว่าถ้าเรา
00:18:50 → 00:18:52 สามารถตัดกระเพาะให้มันเล็กลงนะครับมันก็
00:18:52 → 00:18:56 จะทำให้กินได้น้อยลงทำให้อิ่มเร็วขึ้นเรา
00:18:56 → 00:18:59 ก็จะผอมลงได้ก็เกิดการผ่าตัดแบบนี้ขึ้นมา
00:18:59 → 00:19:01 ก็คือการผ่าตัดขอพรเอาไปส่วนนึงนะครับเรา
00:19:01 → 00:19:03 ก็พอได้มาเชื่อมาลำไส้เล็กเพื่อหวังเนี่ย
00:19:03 → 00:19:06 จะให้ผู้ป่วยกินได้น้อยลงที่นี่สำหรับคน
00:19:06 → 00:19:09 ที่ไม่คุ้นเคยนะครับฟังดูฟังดูแลโทรศัพท์
00:19:09 → 00:19:11 ผมมันสุดต่อจังเลยนะครับถ้าอยากลดความ
00:19:11 → 00:19:13 อ้วนไปถึงต้องตัดกระเพาะที่เลยหรอแต่ถ้า
00:19:13 → 00:19:16 บอกว่าตอนตอนแรกนะครับของการผ่าตัดแบบนี้
00:19:16 → 00:19:18 นะครับที่เรามาฉายเนี่ยขึ้นมาใช้ผู้ป่วย
00:19:18 → 00:19:21 ที่มีภาวะอ้วนกับอ้วนมากๆจริงนะครับก็คือ
00:19:21 → 00:19:23 เช่นอ้วนแบบ 250 กิโลกรัมประมาณนี้นะครับ
00:19:23 → 00:19:26 แล้วก็ไม่สามารถที่ลดความอ้วนได้คือลอง
00:19:26 → 00:19:29 ทุกวิธีทางแล้วนะก็ไม่สามารถลดได้เราคือ
00:19:29 → 00:19:31 ว่าอ้วนจะนึกว่าเสียงที่จะเสียชีวิตได้
00:19:31 → 00:19:35 ง่ายๆจะนี่ก็เลยบอกว่าอ๋อในเมื่อโลกมัน
00:19:35 → 00:19:37 รุนแรนะครับการรักษาแบบสุดโต่งแบบนี้
00:19:37 → 00:19:39 เนี่ยมันก็เลยจำเป็นเพราะว่ามันไม่มีทาง
00:19:39 → 00:19:41 เลือกอื่นแล้วการตัดกระเพาะมือเที่ยวกับ
00:19:41 → 00:19:43 การเสียชีวิตในการต่างกระเพาะจะฟังดูแรง
00:19:43 → 00:19:46 ร้ายร้อยกว่าปรากฏว่านะครับการรักษาแบบ
00:19:46 → 00:19:49 นี้มันได้ผลดีมากนะครับก็คือผู้ป่วย
00:19:49 → 00:19:52 สามารถลดความอ้วนได้อย่างรวดเร็วเราที่
00:19:52 → 00:19:54 น่าสนใจก็คือว่าผู้ป่วยที่อ้วนแล้วเนี่ย
00:19:54 → 00:19:57 ตายควรจะมีโรคเบาหวานอยู่ด้วยป่ะก่อนว่า
00:19:57 → 00:20:00 โรคเบาหวานหลายคนดีขึ้นจึงแต่บางคนเรียก
00:20:00 → 00:20:03 ว่าหายขาดได้เลยก็ยังมีที่นี่มันก็เลยมี
00:20:03 → 00:20:05 คนสนใจนะครับมีนักวิทยาศาสตร์บ่เนี่ยตั้ง
00:20:05 → 00:20:08 คำถามว่าจริงๆเนี่ยกวนไก่เนี่ยมันคงไม่
00:20:08 → 00:20:09 ใช่แค่เรื่องการตัดกระเพาะอาหารแล้วมี
00:20:09 → 00:20:13 ขนาดเล็กลงผู้ป่วยในถึงได้ผอมลงแล้วใน
00:20:13 → 00:20:14 ช่วงเวลาไล่เลี่ยกันเนี่ยนะครับก็มีการ
00:20:14 → 00:20:17 ค้นพบแล้วก็เข้าใจเดียวกันทำงานของตัว
00:20:17 → 00:20:19 เปียกต่อฮอร์โมนนะครับในระบบทางเดินอาหาร
00:20:19 → 00:20:22 ได้มากขึ้นก็คือคนเพราะว่าตัวกระเพาะ
00:20:22 → 00:20:25 อาหารและลำไส้เล็กเนี่ยมันสามารถสร้างคอม
00:20:25 → 00:20:27 โอนมาที่หลายชนิดนะครับและเป็นฮอร์โมนที่
00:20:27 → 00:20:30 เกี่ยวข้องกับระบบเผาผลาญพลังงานด้วยก็
00:20:30 → 00:20:32 คือเกี่ยวข้องกับความอ้วนนี่เองเช่น
00:20:32 → 00:20:34 ฮอร์โมนที่ชื่อว่าเกรลินนะครับหรือว่า
00:20:34 → 00:20:37 เพ็ชรทายวายหรือว่าจะเอากี่วันนะครับคะก็
00:20:37 → 00:20:40 ไลค์กับพายวันนั้นซึ่งออกถ้าใครไม่คุ้น
00:20:40 → 00:20:42 เคยมาสนใจไม่ต้องจำชื่อก็ได้นะครับวัน
00:20:42 → 00:20:44 หน้าจอที่เราคุยเรื่องของ Hormone ที่
00:20:44 → 00:20:46 เกี่ยวข้องกับความผิวความอิ่มนะครับแล้ว
00:20:46 → 00:20:48 คุยเรื่องของความอ้วนเนี่ยเรื่องของระบบ
00:20:48 → 00:20:51 เมตาบอริซึ่มเนี่ยผมจะเราพูดให้ฟังอีกที
00:20:51 → 00:20:54 นะครับจะประเด็นก็คือว่าคนที่รับการผ่า
00:20:54 → 00:20:56 ตัดกระเพาะอาหารเนี่ยเมื่อเข้ามาตรวจพอ
00:20:56 → 00:20:57 มันพรุ่งนี้ดูเนี่ยเพราะว่ามีการเปลี่ยน
00:20:57 → 00:21:00 แปลงของ Hormone ในหลายอย่างเราที่น่าก็
00:21:00 → 00:21:02 ได้ยังไม่หมดการท่านนะครับเพราะว่าต่อมา
00:21:02 → 00:21:05 เนี่ยมีการค้นพบด้วยว่าแบคทีเรียในลำไส้
00:21:05 → 00:21:07 ใหญ่ของคนที่เราการผ่าตัดต่อรักษาความ
00:21:07 → 00:21:09 อ้วนด้วยนะคะว่าที่เรียกว่าใบอย่างชัด
00:21:09 → 00:21:12 ชวี่เนี่ยมีการเปลี่ยนแปลงของแบคทีเรียดี
00:21:12 → 00:21:15 ในลำไส้ใหญ่ด้วยโดยเพราะว่าจะมีแบคทีเรีย
00:21:15 → 00:21:17 ที่ชื่อว่าแอคเคอร์แมนเซียมิวสิคัลเพิ่ม
00:21:17 → 00:21:21 ขึ้นซึ่งจะช่วยตัวนี้น่าสนใจเพราะว่าเป็น
00:21:21 → 00:21:24 ที่รู้กันนะครับว่าในคนอ้วนเดี๋ยวจะมีแบต
00:21:24 → 00:21:26 เตรียมตัวน้อยและเป็นแบบทเวที่สัมพันธ์
00:21:26 → 00:21:30 กับความผอมนอกเหนือจากนี้นะครับไปช่วยตัว
00:21:30 → 00:21:32 นี้เนี่ยก็ยังรู้ได้ว่าเป็นไปทุเรียนที่
00:21:32 → 00:21:34 ทำให้เมือกที่อยู่ภายในลำไส้เนี่ยมันแข็ง
00:21:34 → 00:21:37 แรงนะครับหรือว่ามันมีปริมาณมากขึ้นแล้ว
00:21:37 → 00:21:39 การเมืองเป็นข้อดีเพราะมันจะช่วยลดการ
00:21:39 → 00:21:42 อักเสบที่เกิดขึ้นภายในลำไส้ด้วยซึ่ง
00:21:42 → 00:21:44 เดี๋ยวจะเล่ารายละเอียดให้ฟังนะคะว่ากัน
00:21:44 → 00:21:47 เซรั่มใช้ในคืออะไรดังนั้นนะครับการที่
00:21:47 → 00:21:50 ผู้ป่วยหลังผ่าตัดเนี่ยสามารถลดความอ้วน
00:21:50 → 00:21:52 ได้อย่างรวดเร็วนะครับแล้วก็โรคเบาหวาน
00:21:52 → 00:21:54 ได้ดีขึ้นอย่างมากเนี่ยอาจจะไม่ได้เกิด
00:21:54 → 00:21:56 จากการที่กระเพาะเล็กลงแล้วกินน้อยลงแต่
00:21:56 → 00:21:58 เพียงอย่างเดียวแต่เกิดมาจากการเปลี่ยน
00:21:58 → 00:22:01 แปลงของ Hormone แล้วก็แตกคิวยาที่นี่อ่อ
00:22:01 → 00:22:04 อยู่ในภายในลำไส้หรือร่วมด้วยแล้วคำว่า
00:22:04 → 00:22:06 เหล่านี้นะครับก็คือการค้นพบเหล่านี้มัน
00:22:06 → 00:22:09 เป็นข้อมูลนะครับที่ทำให้นักเรียนศาสตร์
00:22:09 → 00:22:11 เนี่ยแล้วก็หมอเนี่ยเริ่มหันมาสนใจ
00:22:11 → 00:22:14 แบคทีเรียในลำไส้มากขึ้นและเชื่อว่าไปเท
00:22:14 → 00:22:16 น้ำไส้เนี่ยมันน่าจะสัมพันธ์แล้วก็เกี่ยว
00:22:16 → 00:22:18 ข้องกับโรคเบาหวานเนี่ยค่อนข้างมากจะนี่
00:22:18 → 00:22:20 พอแล้วเหมือนตรงนี้นะครับก็เชื่อว่าน่าจะ
00:22:20 → 00:22:22 พอเห็นภาพแล้วนะครับว่าเพราะเบาหวานหน้า
00:22:22 → 00:22:24 ที่แต่เดิมมองว่าเป็นโรคของอินซูลินนะคะ
00:22:24 → 00:22:27 หมดหรือว่าเป็นโรคของตับอ่อนเนี่ยอ๋อได้
00:22:27 → 00:22:29 รับความสนใจว่าเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับลำ
00:22:29 → 00:22:31 ไส้ใหญ่หรือแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในลำไส้
00:22:31 → 00:22:34 ใหญ่ได้ยังไงคราวนี้นะครับเราจะลองมาดู
00:22:34 → 00:22:36 กันดับเข้าๆนะครับว่าแบตใครที่อยู่ในลำ
00:22:36 → 00:22:38 ไส้ใหญ่เนี่ยมันไปเกี่ยวข้องกับโรคเบา
00:22:38 → 00:22:41 หวานได้ยังไงคือเราจะมาคุยกันเรื่องของคน
00:22:41 → 00:22:43 ไกลนะครับว่าแบคทีเรียเราเนี้ยมันไปทำ
00:22:43 → 00:22:45 อะไรนะครับที่ทำให้เบาหวานของผู้ป่วย
00:22:45 → 00:22:50 เนี่ยมันดีขึ้นหรือว่าแย่ลง
00:22:50 → 00:22:53 ที่นี่คำอธิบายนะครับว่าแบคทีเรียในลำไส้
00:22:53 → 00:22:55 ใหญ่เนี่ยมันไปเกี่ยวข้องกับโรคเบาหวาน
00:22:55 → 00:22:57 ได้ยังไงนะครับก็เหมาะก่อนเลยนะคะว่ากลไก
00:22:57 → 00:23:00 ของเรื่องมันข้างซับซ้อนนะครับณปัจจุบัน
00:23:00 → 00:23:02 แต่ปัจจุบันในล็อคก็ยังไม่ได้เข้าใจคนใจ
00:23:02 → 00:23:04 ของมาทั้งหมดนะครับแต่ในการที่จะเล่าให้
00:23:04 → 00:23:06 ฟังหน่อยจริงๆต้องการที่จะเล่าลงเลยทุก
00:23:06 → 00:23:08 รายละเอียดนะครับแล้วก็ไม่ได้อยากจะให้จำ
00:23:08 → 00:23:10 ชื่อพวกไปเที่ยงต่างๆได้มากมายด้วยนะครับ
00:23:10 → 00:23:13 แต่เป้าหมายหลักจริงๆคืออยากจะให้เหมือน
00:23:13 → 00:23:15 กับพอจะนึกภาพออกนะครับคือเวลาได้ยินว่า
00:23:15 → 00:23:17 แบคทีเรียในลำไส้มันเกี่ยวข้องกับโรคเบา
00:23:17 → 00:23:20 หวานเนี้ยสามารถที่จะจะโยงได้ว่าจะไป
00:23:20 → 00:23:23 เที่ยวในลำไส้เนี่ยมันไปเกี่ยวข้องกับโรค
00:23:23 → 00:23:25 เบาหวานได้ยังไงเพราะผมเชื่อว่าถ้าเรา
00:23:25 → 00:23:28 สามารถนึกภาพออกนะครับว่าขอกลไกต่างๆมัน
00:23:28 → 00:23:30 เป็นยังไงนะครับคือแค่หนึ่งออกเค้าๆนะ
00:23:30 → 00:23:32 ครับหรือพอจะมีสร้างภาพข้อในหัวได้เจตนา
00:23:32 → 00:23:34 การขึ้นมาได้เนี่ยมันจะเป็นแรงจูงใจอย่าง
00:23:34 → 00:23:37 ดีนะครับที่ทำให้เราอยากจะดูแลสุขภาพมาก
00:23:37 → 00:23:40 ขึ้นแต่ถ้าเราไม่คุ้นเคยกับเรื่องอะไรสัก
00:23:40 → 00:23:41 อย่างนะคะหรือว่าไม่สบายจะนึกภาพด้วยนั้น
00:23:41 → 00:23:44 ออกได้เนี่ยเราจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่
00:23:44 → 00:23:46 ใครตัวนะครับเราจะไม่ค่อยสนใจมากเท่าไหร่
00:23:46 → 00:23:49 โอเคมาดูนะครับว่าแบตเตอรี่นำไส้เนี่ยมัน
00:23:49 → 00:23:51 เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานได้อย่างไรอย่าง
00:23:51 → 00:23:53 ที่เราไปในเกาะหน้านะครับว่าในช่วงแรกๆ
00:23:53 → 00:23:55 ที่มีการศึกษาเกี่ยวกับไปช่วยนำไส้ของคน
00:23:55 → 00:23:57 ที่เป็นเบาหวานกับคนที่ไม่เป็นเบาหวาน
00:23:57 → 00:24:00 เนี่ยเพราะว่าแบบนิด TV นะหน้าที่ของคน
00:24:00 → 00:24:03 สองกลุ่มนี้มีความต่างกันคือมันจะมี
00:24:03 → 00:24:05 แบคทีเรียบางชนิดลดลงและที่น่าสนใจก็คือ
00:24:05 → 00:24:08 แบคทีเรียพวกที่ลดลงเนี่ยเป็น 8 ธุระที่
00:24:08 → 00:24:11 สามารถสร้างสารเคมีตัวนึงนะครับที่มีชื่อ
00:24:11 → 00:24:15 ว่าวิวทะเลใต้ที่นี้เราก็เลยต้องมาคุยสัก
00:24:15 → 00:24:17 หน่อยนะคะว่าสาร betta เลตที่ว่าเนี่ยมัน
00:24:17 → 00:24:20 คืออะไรจากที่เราคุยกันมาก่อนๆหน้านะครับ
00:24:20 → 00:24:23 เรารู้กันว่านะครับเราคุยกันว่าแบบช่วยนำ
00:24:23 → 00:24:25 สายของเราเนี่ยมันทำหน้าที่หลายอย่างด้วย
00:24:25 → 00:24:28 กันและหนึ่งในสิ่งสิ่งสำคัญนะครับหัวหน้า
00:24:28 → 00:24:32 ที่สำคัญที่ไปช่วยในลำไส้ใหญ่ทำคือมันจะ
00:24:32 → 00:24:34 ช่วยย่อยพวกใหญ่อาหารที่เรากินเข้าไปแล้ว
00:24:34 → 00:24:36 เนี่ยแต่ร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถย่อย
00:24:36 → 00:24:39 ได้ก็คือน้ำย่อยของเราหรือว่าเอนไซม์ของ
00:24:39 → 00:24:42 เราเนี่ยไม่สามารถที่จะย่อยพวกใยอาหารผู้
00:24:42 → 00:24:44 นั้นได้แต่แบคทีเรียพวกนี้เนี่ยมันจะ
00:24:44 → 00:24:46 สามารถย่อยได้จึงจะเข้าไปย่อยเนี่ยหมาย
00:24:46 → 00:24:49 ถึงว่ามันจะเลขให้ถูกมาใช้เพื่อการบักมาก
00:24:49 → 00:24:52 กว่านะครับว่าเป็นคนกายของการหมักแล้ว
00:24:52 → 00:24:54 เมื่อมันหมักใยอาหารที่เราย่อยไม่ได้
00:24:54 → 00:24:58 เนี่ยมันก็จะมีการสร้างสารเคมีออกมาสาร
00:24:58 → 00:25:00 เคมีพวกนี้นะครับมันก็จะเป็นสารก็สามารถ
00:25:00 → 00:25:03 ติดไม่มีผลนะครับต่อระบบเผาผลาญของร่าง
00:25:03 → 00:25:05 กายมนุษย์นะครับและระบบเมตาบอไนเซอร์มนะ
00:25:05 → 00:25:07 ครับเราก็เลยเลือกสารเคมีเหล่านี้ว่าเป็น
00:25:07 → 00:25:10 พวกเมตาโบไลท์นะครับที่นี่ศาลไม่จะมาหลาย
00:25:10 → 00:25:13 เนี่ยพอมันพาไปเที่ยวมันสร้างออกมาเนี่ย
00:25:13 → 00:25:15 นำใช่เราก็จะสามารถดูดซึมเข้าไปได้นะครับ
00:25:15 → 00:25:17 แล้วก็จะเข้าไปสู่กระแสเลือดแล้วก็ไหล
00:25:17 → 00:25:20 เวียนไปทั่วร่างกายของเราแล้วก็ไปมีผลต่อ
00:25:20 → 00:25:24 ขอร่างกายเนี่ยตอนไปทุกส่วนของร่างกายได้
00:25:24 → 00:25:27 เต็มไปหมดนะครับที่นี่ในกลุ่มของพวกสาร
00:25:27 → 00:25:29 ไม่เอาอะไรเนี่ยที่สร้างขึ้นมาเนี่ยมันจะ
00:25:29 → 00:25:31 มีสารทุกกลุ่มหนึ่งซึ่งค่อนข้างเด่นและก็
00:25:31 → 00:25:35 สำคัญเป็นพิเศษเราจะเรียกสารกลุ่มนี้รวมๆ
00:25:35 → 00:25:38 ว่าเป็นกรดไขมันสายสั้นซึ่งก็คือมาจาก
00:25:38 → 00:25:41 ชื่อในภาษาอังกฤษว่าช็อตเชน CR เศษนะครับ
00:25:41 → 00:25:43 ชอบเชนคือสายสั้นนะครับไฟล์เดียวเสร็จ
00:25:43 → 00:25:46 เข้าไปตรงตัวก็คือกรดไขมันแล้วในสารกลุ่ม
00:25:46 → 00:25:49 นี้นะครับสารที่เราเป็นกฎใครมาใส่สั้นเรา
00:25:49 → 00:25:53 นี่มันจะมีตัวหลักๆนะครับอยู่ 3 ตัวด้วย
00:25:53 → 00:25:54 กันนะครับหรือสารที่ดี 3 ตัวด้วยกันที่
00:25:54 → 00:25:57 เราสนใจและก็ศึกษากันมากเป็นพิเศษก็คือ
00:25:57 → 00:26:00 สารที่มีชื่อว่าบิลล์ไทยเรดนะครับข้อที่
00:26:00 → 00:26:02 สองชื่อว่าพอเพียวนะตัวที่ 3 ในชื่อว่า
00:26:02 → 00:26:05 ศิษย์เอดส์ซึ่งทั้ง 3 ตัวเนี่ยค่อนข้าง
00:26:05 → 00:26:08 สำคัญนะครับแล้วก็คิดว่าถ้าจำได้นะครับ
00:26:08 → 00:26:11 คณะจำนะครับหรือว่าฟังให้คุณหัวไว้นะครับ
00:26:11 → 00:26:13 เพราะคิดว่าในอนาคตนี้อาจจะมีโอกาสที่จะ
00:26:13 → 00:26:16 ได้ยินชื่อของสัน 3 ตัวนี้บ่อยคือได้
00:26:16 → 00:26:18 เรื่อยๆนะครับแต่ตัวที่เราจะพูดถึงกันใน
00:26:18 → 00:26:20 ตอนนี้นะครับแล้วก็ค่อนข้างเด่นพิเศษในก็
00:26:20 → 00:26:24 คือตัวที่ชื่อว่าวิวทะเลนะครับโดยที่เรา
00:26:24 → 00:26:26 พบว่าอย่างที่คุยไปเกาะหน้าก็คือว่าคนที่
00:26:26 → 00:26:28 ป่วยเป็นเบาหวานเนี่ยลำไส้ของเขาในจะมี
00:26:28 → 00:26:31 แบคทีเรียที่สร้างพวกปีทะเลเนี้ยได้น้อย
00:26:31 → 00:26:33 ลงและบิลเท่านั้นไม่มีหน้าที่สำคัญในร่าง
00:26:33 → 00:26:36 กายของเราขอเยอะมากนะครับหลายระบบด้วยกัน
00:26:36 → 00:26:38 นะครับไม่เฉพาะแค่เรื่องของโรคความอ้วน
00:26:38 → 00:26:40 แล้วก็รบเป่าหวานนะครับแต่ตอนนี้เราจะ
00:26:40 → 00:26:43 โฟกัสกันที่เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับโรคเบา
00:26:43 → 00:26:49 หวานชนิดที่ 2 ก่อนนะครับ
00:26:49 → 00:26:51 อย่างแรกสุดเลยนะครับก็คือว่าบิลล์
00:26:51 → 00:26:53 เทเวศร์เมื่อมันเข้าไปในกระแสเลือดของเรา
00:26:53 → 00:26:56 เนี่ยมันสามารถที่จะออกฤทธิ์ที่เซลล์ที่
00:26:56 → 00:26:58 สร้างอินซูลินที่ตับอ่อนโดยตรงเลยนะครับ
00:26:58 → 00:27:01 ก็คือตัวเบต้าเซลล์เหมาะสำหรับผลการเนี่ย
00:27:01 → 00:27:03 เรายังไม่เข้าใจมันทั้งหมดนะครับแล้วยัง
00:27:03 → 00:27:05 ไม่เข้าใจชัดเจนว่ามันทำอะไรนะครับแต่
00:27:05 → 00:27:07 เหมือนว่ามันไปช่วยป้องกันตรวจเบต้าเซลล์
00:27:07 → 00:27:10 นะครับแล้วก็ทำให้การหลังทุเรียนของเบตา
00:27:10 → 00:27:12 เซลล์แล้วมันดีขึ้นนอกเหนือจากนั้นนะครับ
00:27:12 → 00:27:15 ตัววิวทะเลเนี่ยก็ยังช่วยเรื่องของภาวะ
00:27:15 → 00:27:17 ดื้ออินซูลินด้วยนะครับเธอทำให้ภาวะ this
00:27:17 → 00:27:21 tradition ดีขึ้นซึ่งก็ทำให้โรคเบาหวาน
00:27:21 → 00:27:24 ชนิดที่ 2 ดีขึ้นส่วนคนไกลว่ามันทำให้
00:27:24 → 00:27:26 ภาวะดื้ออินสุลินเนี่ยมันดีขึ้นได้ยังไง
00:27:26 → 00:27:28 เนี่ยต้องบอกว่ามันมีหลายวิธีด้วยกันเลย
00:27:28 → 00:27:31 นะครับรายการกันด้วยกันตัวอย่างเช่นมัน
00:27:31 → 00:27:33 สามารถที่จะไปออกฤทธิ์ที่เซลล์ต่างๆโดย
00:27:33 → 00:27:35 ตรงนะครับเช่นเซลล์กล้ามเนื้อเซลล์ตับ
00:27:35 → 00:27:37 เซลล์ไขมันทำให้เซลล์เหล่านี้สิ่งดื้อต่อ
00:27:37 → 00:27:39 อินซูลินเนี่ยสามารถที่จะตอบสนองต่อ
00:27:39 → 00:27:42 อินซูลินดีขึ้นก็คือดื้อน้อยลงนะครับตอบ
00:27:42 → 00:27:45 ต้องเองสุรินทร์ดีขึ้นหรือว่าอีกวิธีคือ
00:27:45 → 00:27:47 ว่าโตวิวทะเลเนี่ยมันสามารถที่จะเป็นลด
00:27:47 → 00:27:50 การอักเสบในเลือดได้ซึ่งอย่างที่เราเคย
00:27:50 → 00:27:52 คุยกันไปก่อนหน้าว่าการอักเสบเดี๋ยวมัน
00:27:52 → 00:27:55 เป็นปัจจัยสำคัญอันนึงนะครับเป็นสาเหตุ
00:27:55 → 00:27:56 หนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะดื้ออินสุลินขึ้นมา
00:27:56 → 00:28:00 ได้เมื่อบิลเทเลทมันป.ล The Sunset ใน
00:28:00 → 00:28:03 เลือดก็คือมันก็ได้ช่วยให้ภาวะดื้ออินสุ
00:28:03 → 00:28:05 ลินเนี่ยมันดีขึ้นด้วยอีกวิธีนึงนะครับ
00:28:05 → 00:28:08 ที่วิวทะเลมันลดการอักเสบเนี่ยก็คือมันไป
00:28:08 → 00:28:10 ช่วยลดภาวะที่เรียกว่าภาวะลำไส้รั่วนะ
00:28:10 → 00:28:13 ครับหรือเรียกว่าเล็กกี้กัดนะครับซึ่งพอ
00:28:13 → 00:28:15 เล็กพิกัดในมันรู้ว่าเพราะเราช่วยรวดเร็ว
00:28:15 → 00:28:17 มันสามารถนำไปสู่ภาวะการเกษตรในเลือดได้
00:28:17 → 00:28:20 ที่นี่ภาวะลำไส้รั่วในคืออะไรนะครับ
00:28:20 → 00:28:22 เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังนะครับขอติดไว้ตรง
00:28:22 → 00:28:24 นี้ได้ดึงเอาเป็นว่ามันสามารถทำให้เพราะ
00:28:24 → 00:28:26 ลำไส้รั่วในดีขึ้นซึ่งภาวะลำไส้ด้วยเนี่ย
00:28:26 → 00:28:30 เป็นสาเหตุของการอักเสบขอของเลือดด้วยที่
00:28:30 → 00:28:33 อยากจะคุยก่อนก็คือว่ามันมีนัก
00:28:33 → 00:28:35 วิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งนะครับที่มองว่าถ้า
00:28:35 → 00:28:37 คนเป็นเบาหวานเนี่ยมีแบคทีเรียที่สร้างดู
00:28:37 → 00:28:41 เทรดได้ลดลงถ้าอย่างนั้นเรานำแบคทีเรีย
00:28:41 → 00:28:44 ที่สร้าง be too late ได้เนี่ยจากคนที่
00:28:44 → 00:28:46 ไม่เป็นเบาหวานมาใส่ในคนที่เป็นโรคเบา
00:28:46 → 00:28:49 หวานเนี่ยมันจะช่วยไหมซึ่งเขาก็ได้ทำการ
00:28:49 → 00:28:51 ทดลองเล็กๆนะครับก็การเท่าไหร่ที่ว่ามาดู
00:28:51 → 00:28:53 ว่ามีผู้ป่วยไม่กี่คนนะครับแล้วก็พบว่า
00:28:53 → 00:28:57 มันทำให้ภาวะดื้ออินสุลินได้ดีขึ้นซึ่งทำ
00:28:57 → 00:29:00 ให้เห็นว่าในอนาคตเนี่ยเรื่องของการรักษา
00:29:00 → 00:29:02 คือเรื่องของจุลินทรีย์นะครับภาษาที่ตัว
00:29:02 → 00:29:04 ไปเคลียร์ที่ในลำไส้เนี่ยมันจะเป็นวิธี
00:29:04 → 00:29:07 การรักษาไม่ไหวต่อไปในอนาคตนะครับก็คง
00:29:07 → 00:29:09 ต้องติดตามดูกันต่อไปโอเคแค่นี้ผมจะ
00:29:09 → 00:29:12 อธิบายเรื่องของภาวะลำไส้รั่วกันนิดนึงนะ
00:29:12 → 00:29:14 ครับว่าภาวะลำไส้รั่วเนี่ยมันคืออะไรนะ
00:29:14 → 00:29:16 ครับรับวิวทะเลเนี่ยมันไปเกี่ยวข้องได้
00:29:16 → 00:29:20 ยังไง
00:29:20 → 00:29:23 ขอเริ่มต้นเนี่ยต้องเข้าใจก่อนว่าตัวผนัง
00:29:23 → 00:29:26 ลำไส้เนี่ยมันทำหน้าที่ดูดซึมสารอาหาร
00:29:26 → 00:29:28 ต่างๆเนี่ยเข้าเป็นกระแสเลือดโอไหมครับ
00:29:28 → 00:29:31 ดังนั้นมันก็เลยต้องเหมือนกับมีช่องว่าง
00:29:31 → 00:29:34 ที่ทำให้พวกโมเลกุลต่างๆนะครับพวกสารหา
00:29:34 → 00:29:36 หน้าตาในสามารถจะทะลุผนังลำไส้เล็กเข้าไป
00:29:36 → 00:29:39 ในเส้นเลือดได้จากขณะเดียวกันโตผนังลำไส้
00:29:39 → 00:29:41 ในมันก็ต้องคอยควบคุมไม่ให้เสียงแปลกปลอม
00:29:41 → 00:29:44 หรือว่าสิ่งมีพิษรวมไปถึงพวกออกเจริญที่
00:29:44 → 00:29:46 ต่างๆแล้วจะเริ่มตายเนี้ยผ่านเข้าไปได้
00:29:46 → 00:29:49 ด้วยหรือพูดง่ายๆก็คือว่าตัวผนังลำไส้ใน
00:29:49 → 00:29:51 มันต้องทำหน้าที่คอยเลือกนะครับแล้วทำ
00:29:51 → 00:29:53 หน้าที่เหมือนเป็นปที่ควบคุมชายแดนเนี่ย
00:29:53 → 00:29:56 ว่าใครเนี่ยควรจะเข้าใครที่ไม่ควรจะเข้า
00:29:56 → 00:29:59 ซึ่งหน้าที่นี้สำคัญมากเพราะมันเหมือนก็
00:29:59 → 00:30:01 เป็นดาบหน้าอันนี้ต้องเหนื่อยจากนั้นนะ
00:30:01 → 00:30:03 ครับด้วยความที่ตัวผนังลำไส้เนี่ยเหมือน
00:30:03 → 00:30:06 กับที่ว่าไปก็เป็นฐานหน้าบ้างก็จะมีเซลล์
00:30:06 → 00:30:08 ในระบบภูมิคุ้มกันเนี่ยเข้าไปอาศัยอยู่
00:30:08 → 00:30:11 มากมายนะครับเราถ้ามันมีสิ่งที่ไม่อยาก
00:30:11 → 00:30:14 ไม่ควรผ่านสามารถทะลุผนังลำไส้เข้ามาได้
00:30:14 → 00:30:16 เนี่ยเซลล์ภูมิคุ้มกันเหล่านี้มันก็จะ
00:30:16 → 00:30:18 เข้าไปโจมตีนะครับก็คือเข้าไปป้องกัน
00:30:18 → 00:30:20 เพื่อให้สิ่งเหล่านั้นเนี่ยสามารถที่จะ
00:30:20 → 00:30:23 เข้ากระแสเลือดไปได้ที่นี่การโจมตีของ
00:30:23 → 00:30:26 เซลล์ระบบภูมิคุ้มกันเนี่ยมันก็คือภาวะ
00:30:26 → 00:30:28 การอักเสบถูกไหมครับที่เราเคยคุยกันไปตอน
00:30:28 → 00:30:31 ที่เราคุยเรื่องของระบบภูมิคุ้มกันถ้าใคร
00:30:31 → 00:30:32 ยังไม่เคยฟังในสามารถย้อนกลับไปฟังได้นะ
00:30:32 → 00:30:35 ครับเราจะทำให้เข้าใจตรงนี้มากขึ้นแล้วก็
00:30:35 → 00:30:37 เกษตรที่เกิดขึ้นนะครับก็จะมีการสร้างพวก
00:30:37 → 00:30:40 สารอักเสบหน้าตาเนี่ยออกมาคราวนี้นะคะมัน
00:30:40 → 00:30:42 จะมีบางครั้งนะครับที่จบอย่างลำไส้เหมือน
00:30:42 → 00:30:44 กับเปิดกว้างขึ้นนะครับก็คือมันก็ปล่อย
00:30:44 → 00:30:46 ให้สิ่งต่างๆนั้นสามารถหลุดรอดเข้ามาได้
00:30:46 → 00:30:50 มากเกินไปซึ่งภาวะเนี่ยภาษาไทยเนี่ยเรา
00:30:50 → 00:30:52 เรียกว่าเป็นภาวะลำไส้รั่วนะครับสังเกตก็
00:30:52 → 00:30:55 จะชักวันเลขพิกัดนะครับคำถามคือว่าว่า
00:30:55 → 00:30:57 อะไรบ้างที่ทำให้เกิดภาวะลำไส้รั่วเกิด
00:30:57 → 00:31:01 ขึ้นได้นะครับอย่านี้นะครับส่วนนึงเดี๋ยว
00:31:01 → 00:31:02 จะบอกว่ามันเป็นเรื่องของพันธุกรรมก็คือ
00:31:02 → 00:31:05 ว่าคนบางคนเนี่ยมีความเสี่ยงที่จะเกิด
00:31:05 → 00:31:07 ภาวะลำไส้รั่วในได้มากคนอื่นคือมาถึงว่า
00:31:07 → 00:31:09 ถ้ามีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องเนี่ย
00:31:09 → 00:31:13 คนคนนั้นก็มีโอกาสจะเป็นเมาคนอื่นต่อ
00:31:13 → 00:31:14 เนื่องจากนั้นนะครับก็จะเป็นเรื่องของ
00:31:14 → 00:31:16 ปัจจัยภายนอกคนอื่นนะครับซึ่งก็เป็นส่วน
00:31:16 → 00:31:18 ใหญ่ที่เราคุ้นเคยดีว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี
00:31:18 → 00:31:22 กับร่างกายนะครับเช่นการกินอาหารที่มีใย
00:31:22 → 00:31:24 อาหารน้อยนะครับหรือว่าชิ้นงานที่มีน้ำ
00:31:24 → 00:31:26 ตาลสูงมีใครมาดิ้นตัวสูงพูดเนี้ยทำให้
00:31:26 → 00:31:29 เกิดว่าลำไส้รั่วในได้ง่ายเพราะว่าความ
00:31:29 → 00:31:32 เครียดทางจิตใจนะครับก็ทำให้กันเกิดได้นะ
00:31:32 → 00:31:34 ครับหรือว่าการดื่มพวกอัลกอฮอล์นะครับ
00:31:34 → 00:31:36 เรื่องเล่าเยอะๆเนี่ยก็มีผลให้เกิดภาวะ
00:31:36 → 00:31:39 นี้ได้จะได้คำถามว่าคือว่าเมื่อเกิดภาวะ
00:31:39 → 00:31:42 ลำไส้รั่วเนี่ยมันจะเกิดผลอะไรตามมาสิ่ง
00:31:42 → 00:31:46 ที่เกิดขึ้นก็คือว่า of เมื่อมีของที่ไม่
00:31:46 → 00:31:48 ควรจะเข้าเนื้อเข้าไปได้มากเนี่ยจะพบกัน
00:31:48 → 00:31:51 ก็จะต้องทำหน้าติดต่อสู้เยอะขึ้นมันก็
00:31:51 → 00:31:54 เกิดภาวะการอักเสบมากขึ้นที่นี่การเกษตร
00:31:54 → 00:31:56 ที่เกิดขึ้นเนี่ยมันเกิดขึ้นภายในผนังของ
00:31:56 → 00:31:59 ลำไส้นะครับก็คือพูดง่ายขึ้นผนังลำไส้ใน
00:31:59 → 00:32:01 วันนี้การเกษตรมากแม้แต่การอักเสบเดี๋ยว
00:32:01 → 00:32:04 มันไม่ได้จำกัดอยู่แค่ที่ผนังลำไส้เท่า
00:32:04 → 00:32:06 นั้นเพราะสารเกษตรที่สร้างขึ้นมามากมาย
00:32:06 → 00:32:09 เนี่ยมาสามารถที่จะเข้าไปในกระแสเลือดได้
00:32:09 → 00:32:11 และเมื่อมันเข้าไปในกระแสเลือดเนี่ยมันก็
00:32:11 → 00:32:14 จะมาที่จะขอเดินทางต่อตามกระแสเลื่อนและ
00:32:14 → 00:32:16 กระจายไปทั่วร่างกายได้และเมื่อภาวะการ
00:32:16 → 00:32:18 เกษตรในเมืองกระจายไปที่ส่วนอื่นของร่าง
00:32:18 → 00:32:21 กายนะครับอาทิคิดว่าต่างๆมันก็สามารถ
00:32:21 → 00:32:24 เพิ่มความเสี่ยงของโรคหลายๆโลกนะครับที่
00:32:24 → 00:32:26 เราเคยคุยกันไปแล้วนะครับที่เราคุยเรื่อง
00:32:26 → 00:32:28 ของระบบภูมิคุ้มกันซึ่งก็รวมไปถึงเรื่อง
00:32:28 → 00:32:31 ของโรคเบาหวานและภาวะเดือนทุเรียนที่เรา
00:32:31 → 00:32:33 คุยกันอยู่นี่ด้วยที่นี่ปลดบาทของบิว
00:32:33 → 00:32:35 เทเวศร์นะครับที่ใบเคลียร์สร้างขึ้นมา
00:32:35 → 00:32:40 เนี่ยมันมาช่วยตรงนี้ยังไง
00:32:40 → 00:32:43 เดี๋ยวเฉลยนี้นะครับมันจะช่วยทำให้ผนังลำ
00:32:43 → 00:32:46 ไส้ของเราเนี่ยมีการสร้างโปรตีนบางอย่าง
00:32:46 → 00:32:48 ขึ้นมาซึ่งโปรตีนที่สร้างขึ้นมาเนี่ยมัน
00:32:48 → 00:32:50 ปกติที่เหมือนกับคอยเชื่อมช่องว่าง
00:32:50 → 00:32:53 ระหว่างผนังลำไส้ด้วยจะพูดง่ายว่าตัว v
00:32:53 → 00:32:56 ทะเลแต่มันทำให้ขอท้าว่าลำไส้รั่วเนี่ย
00:32:56 → 00:32:58 มันดีขึ้นนะครับบ่อเล็กคุณต่างๆมันผ่าน
00:32:58 → 00:33:01 เข้าลำไส้เรียนได้อย่างดีขึ้นเมื่อภาวะลำ
00:33:01 → 00:33:03 ไส้รั่วมันดีขึ้นนะครับเพราะว่าการอักเสบ
00:33:03 → 00:33:06 เนี่ยมันก็จะลดลงด้วยและเมื่อภาวะการ
00:33:06 → 00:33:07 เกษตรที่ลำไส้ดีขึ้นนะครับเพราะว่าการ
00:33:07 → 00:33:10 เกษตรเลือดมันก็ดีขึ้นที่นี่พูดถึง
00:33:10 → 00:33:12 แบคทีเรียนะครับที่ช่วยเกี่ยวกับเรื่อง
00:33:12 → 00:33:14 ภาวะลำไส้รั่วเนี่ยมันก็ไม่อยู่หลายตัว
00:33:14 → 00:33:16 ด้วยกันนะครับก็เลยอยากจะพูดที่ให้ฟังนะ
00:33:16 → 00:33:18 ครับอย่างน้อยก็คือได้ยินสักครั้งนะครับ
00:33:18 → 00:33:20 หรือฟังผ่านๆหูไว้นะครับก็ไม่ได้ตั้งใจ
00:33:20 → 00:33:23 อยากจะให้จำนะครับตัวอย่างเช่นนะครับก็จะ
00:33:23 → 00:33:25 มีพวกต่อไปช่วยรักคุณที่ชื่อว่า Big C
00:33:25 → 00:33:27 doe แบบที่มีอะนะครับก็เนื่องจากนี้นะ
00:33:27 → 00:33:30 ครับก็จะมีตัวที่ชื่อว่า Sea คะรีบแบคที
00:33:30 → 00:33:33 เรียม Plus Vit C I นะครับหรือว่าขอ
00:33:33 → 00:33:36 โรสเบอรี่ erase นะครับซึ่งที่เรามีต้อง
00:33:36 → 00:33:39 บอกว่ามันเจอบ่อยนะครับก็คือเวลาถ้าเรา
00:33:39 → 00:33:41 อ่านเดียวพวกนี้นะครับเดี๋ยวฟังจะเริ่ม
00:33:41 → 00:33:43 พรุ่งนี้เราก็จะได้เห็นชื่อผู้ที่ออกมานะ
00:33:43 → 00:33:45 ครับน้องเดี๋ยวจากนี้ก็มีตัวนะครับก็คือ
00:33:45 → 00:33:48 ตัวอคาเมนเซียที่พูดไปนี่เมื่อกี้นะครับ
00:33:48 → 00:33:51 คืออคาเมนเซียมซีนี้ฟิล่านะครับซึ่งตัว
00:33:51 → 00:33:54 ชื่อของมันคำว่ามิวซินี่ฟิล่าเนี่ยคำว่า
00:33:54 → 00:33:56 มิลเส้นนี้ก็คือแปลว่าเมื่อนะครับฟิลล่า
00:33:56 → 00:33:59 ก็คือชอบเมือกคือแบบใช้ตัวนี้ไปกินเมือก
00:33:59 → 00:34:01 ได้นะครับผมมีเมือกที่เคลือบลำไส้อยู่
00:34:01 → 00:34:03 เนี่ยมันชัดต้นให้ลำไส้เราเนี่ยสร้าง
00:34:03 → 00:34:06 เมือกมากขึ้นและทำให้เมืองมันแข็งแกร่ง
00:34:06 → 00:34:08 ขึ้นที่นี่เมืองในมันดียังไงก็คือว่า
00:34:08 → 00:34:10 เมื่อมันทำหน้าที่เหมือนเป็นประการนะครับ
00:34:10 → 00:34:13 เป็นด่านป้องกันไม่ให้สิ่งต่างๆในสามารถ
00:34:13 → 00:34:16 ทะลุผ่านผนังลำไส้เหนื่อยง่ายขึ้นก็อย่าง
00:34:16 → 00:34:18 ที่ว่าไปนะครับก็คือถ้าใครที่ผ่านไปง่าย
00:34:18 → 00:34:20 ขึ้นก็จะก่อให้เกิดการอักเสบง่ายขึ้นโอเค
00:34:20 → 00:34:22 นะครับทั้งหมดนี้ก็ประมาณนี้นะครับกลไก
00:34:22 → 00:34:24 ต่างๆที่เราให้ฟังเนี่ยก็คืออยากจะให้
00:34:24 → 00:34:27 เห็นภาพคร่าวๆนะครับว่ามันเกี่ยวข้องกัน
00:34:27 → 00:34:29 ยังไงนะครับแล้วคิดว่าที่เราว่าทั้งหมด
00:34:29 → 00:34:31 นี้นะครับก็น่าจะพอให้เห็นภาพนะครับว่า
00:34:31 → 00:34:33 อย่างน้อยก็พอดีก่อนนะครับว่าไปช่วยในลำ
00:34:33 → 00:34:35 ไส้ของเราเนี่ยมันไปเกี่ยวโยงกับโรคเบา
00:34:35 → 00:34:38 หวานได้ยังไงนะครับที่นี่ก่อนจบนะครับ
00:34:38 → 00:34:40 เนื่องจากเราคุยกันมาค่อนข้างเยอะนะครับ
00:34:40 → 00:34:43 ก็อยากจะขอสรุปเป็นข้อให้ทีนะครับว่ามี
00:34:43 → 00:34:46 อะไรที่ที่น่าจะบ้างนะครับเค้ารักนะครับ
00:34:46 → 00:34:49 เรารู้จักกับโรคเบาหวานชนิดต่างๆนะครับก็
00:34:49 → 00:34:51 เห็นว่าวาฬชนิดเช่นเดิมแล้วก็ชนิดที่สอง
00:34:51 → 00:34:53 ในต่างกันยังไงนะครับกลไกของมาในคืออะไร
00:34:53 → 00:34:56 ข้อที่ 2 เราคุยไปนะครับว่าน้ำตาลในเลือด
00:34:56 → 00:34:59 ที่สูงเนี่ยมันไม่ดีกับร่างกายอะไรบ้างนะ
00:34:59 → 00:35:02 ครับมันต่อไปวายตาบอดหรือว่าต้องตัดขา
00:35:02 → 00:35:05 เนี่ยยังไงข้อที่ 3 นะครับเราคุยกันว่าไป
00:35:05 → 00:35:07 เคลียร์ในลำไส้เนี่ยมันเกี่ยวข้องกับโรค
00:35:07 → 00:35:10 เบาหวานได้ยังไงนะครับเช่นคนเบาหวานมี
00:35:10 → 00:35:12 แบคทีเรียในลำไส้ต่างไปจากคนที่ไม่ป่วย
00:35:12 → 00:35:15 เป็นโรคเบาหวานยังไงคนที่ผ่าตัดใบเจียร
00:35:15 → 00:35:17 เหล็ก surgery นะครับหรือผ่าตัดลดความ
00:35:17 → 00:35:19 อ้วนเนี่ยแล้วมันทำให้โรคเบาหวานได้ดี
00:35:19 → 00:35:22 ขึ้นได้ยังไงนะครับสำหรับข้อที่ 4 นะครับ
00:35:22 → 00:35:25 เราได้เห็นว่าคนใจของประเทศนำไส้เนี่ยมัน
00:35:25 → 00:35:27 ไปเกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานได้ยังไงโดยเรา
00:35:27 → 00:35:29 พูดถึงสารเคมีที่ชื่อว่าบิลล์ไทยเรดกันนะ
00:35:29 → 00:35:31 ครับซึ่งสาร Vintage ที่ 8 Type R
00:35:31 → 00:35:34 สร้างขึ้นมาเนี่ยมันช่วยภาวะเดินชนเล่นนะ
00:35:34 → 00:35:36 มันดีขึ้นได้โดยตรงแล้วมึงจะช่วยลดการ
00:35:36 → 00:35:39 อักเสบในเลือดได้ด้วยนอกเหนือจากนี้ก็จะ
00:35:39 → 00:35:41 ช่วยทำให้ภาวะลำไส้รั่วเนี่ยดีขึ้นได้
00:35:41 → 00:35:45 ซึ่งเมื่อภาวะอักเสบในเลื่อนดีขึ้นมาช่วย
00:35:45 → 00:35:47 ทำให้ภาวะดื้อต่ออินซูลินเนี่ยมันดีขึ้น
00:35:47 → 00:35:49 แล้วทั้งหมดนี้นะครับก็คือเรื่องราวนะ
00:35:49 → 00:35:51 ครับที่อยากเล่าให้ฟังหน่อยพี่โสดนี่นะ
00:35:51 → 00:35:53 ครับเนื้อหาค่อนข้างยาวนิดนึงนะครับเรา
00:35:53 → 00:35:55 ค่อนข้างเยอะนิดนึงนะครับจะหวังว่าจะมี
00:35:55 → 00:35:57 ประโยชน์นะครับบอกว่าจะทำให้เข้าใจเรื่อง
00:35:57 → 00:36:01 ของไมโครโอมกับก็ของปลาหวานดีนะครับโอเค
00:36:01 → 00:36:03 แล้วก็มาถึงช่วงท้ายนะครับคือช่วงที่อยาก
00:36:03 → 00:36:05 จะแนะนำให้รู้จักกับฟอนต์เซอร์ของเรานะ
00:36:05 → 00:36:08 ครับผู้สนับสนุนนะครับบริษัทมดกัดครับก็
00:36:08 → 00:36:10 ถึงช่วงเวลาที่สัญญากันไว้นะครับก็คือจะ
00:36:10 → 00:36:12 เล่าเกี่ยวกับผู้สับสน Series ในคราว
00:36:12 → 00:36:15 ไบโอมของเรานะครับบริษัทมดกัดนะครับ
00:36:15 → 00:36:17 บริษัทรถการนะครับเป็นบริษัทที่ก่อตั้ง
00:36:17 → 00:36:20 ขึ้นโดยนักวิจัยนะคะเป็นชิ้นนะคะยศาสตร์
00:36:20 → 00:36:22 ที่เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี Micro Bio
00:36:22 → 00:36:24 นะครับจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี
00:36:24 → 00:36:27 พระจอมเกล้าธนบุรีบางมดนะครับโดยทางทีม
00:36:27 → 00:36:29 ของนักเรียนศาสตร์ของมหาวิทยาลัยนะครับ
00:36:29 → 00:36:32 ของบางบอนนะครับร่วมมือกับภาคเอกชนก็คือ
00:36:32 → 00:36:35 บริษัทไบโอเทค Global โนเวชั่นนะครับตั้ง
00:36:35 → 00:36:38 บริษัทใหม่ขึ้นมานะครับแล้วก็ให้ชื่อว่า
00:36:38 → 00:36:41 เป็นบริษัทมดกัดนะครับเขาหมดเนี่ยมาจากคำ
00:36:41 → 00:36:43 ว่าบางมดนะครับสกัดนะครับจะอยู่ที่กัด
00:36:43 → 00:36:46 เนี่ยเป็นคำในภาษาอังกฤษนะครับที่นิยมใช้
00:36:46 → 00:36:49 ในทางการแพทย์จะมีความหมายว่าลำไส้จะนี่
00:36:49 → 00:36:51 บริษัทมดกัดทำอะไรนะครับทั้งหมดการ์ด
00:36:51 → 00:36:53 เนี่ยก็คือเปิดให้บริการนะครับตรวจแล้วก็
00:36:53 → 00:36:55 วิเคราะห์จุลินทรีย์ในลำไส้แก่คนทั่วไป
00:36:55 → 00:36:58 เพื่อให้คนที่ไปตรวจนะครับแล้วตัวคุณ
00:36:58 → 00:37:01 เนี้ยได้รู้ว่าสภาวะมีธุระที่นำไส้ของตัว
00:37:01 → 00:37:04 เองเนี่ยอยู่ในสภาวะแบบไหนสำหรับท่านไหน
00:37:04 → 00:37:06 นะครับที่สนใจแล้วก็อยากจะได้ข้อมูลเพิ่ม
00:37:06 → 00:37:09 เติมจะว่าบริษัทมดกัดนะครับเช่นประโยชน์
00:37:09 → 00:37:11 ที่จะได้จากการตัวนั้นมีอะไรบ้างนะครับ
00:37:11 → 00:37:13 แล้วก็ในการถั่วแดงมีรายละเอียดอะไรบ้าง
00:37:13 → 00:37:16 ยังไงบ้างนะครับหรือว่าขั้นตอนในการตรวจ
00:37:16 → 00:37:19 มันมีไปเรื่อยอะไรบ้างผมจะแปะลิงค์ไว้ได้
00:37:19 → 00:37:21 จะแคปชั่นนะครับหรือว่าเอาไว้ในช่อง
00:37:21 → 00:37:23 คอมเม้นต์นะครับใครสนใจในก็ลองติดต่อไป
00:37:23 → 00:37:26 คุยเพิ่มเติมดูได้นะครับเพราะว่าเขาบอก
00:37:26 → 00:37:28 ความรู้ทางด้านนี้มันเปลี่ยนเร็วมากนะ
00:37:28 → 00:37:30 ครับท่านที่มาดูคลิปเนี่ย 3 เดือน 6
00:37:30 → 00:37:32 เดือนแล้วว่าปีหนึ่งจากที่ผมโพสหรือว่าลง
00:37:32 → 00:37:34 คลิปไว้เนี่ยอาจจะมีความรู้ใหม่ๆเนี้ยที่
00:37:34 → 00:37:38 ต่างไปจากเดิมในออกมามากมายนะครับถ้าสนใจ
00:37:38 → 00:37:41 ก็ลองติดต่อดูนะครับมดกัดนะครับสิ่งเล็กๆ
00:37:41 → 00:37:43 ที่สร้างให้ชีวิตเราต่างกันสำหรับวันนี้
00:37:43 → 00:37:46 ผมขอลาไปก่อนนะครับว่าเรามาพบกันใหม่ใน
00:37:46 → 00:37:48 โซนหน้านะครับเป็นซีรีส์ของไม่ค่อยโอ่ง
00:37:48 → 00:37:52 ส่วนดีครับอ่ะ
00:00:00 → 00:00:02 ก็สวัสดีทุกคนนะครับวันนี้ก็เป็นตอนที่ 4
00:00:02 → 00:00:04 แล้วนะครับของ C with Microphone ที่
00:00:04 → 00:00:06 เราคุยกันอยู่นะครับหรือว่าเรื่องของ
00:00:06 → 00:00:07 จุลินทรีย์ที่อยู่ภายในร่างกายของมนุษย์
00:00:07 → 00:00:10 นะครับในชีวิตนี้นะครับที่ผ่านมาเดี๋ยว
00:00:10 → 00:00:13 เราก็จะคุยถึงโรคต่างๆนะครับที่ต้องบอก
00:00:13 → 00:00:15 ว่าพบมากขึ้นเรื่อยๆนะครับในยุคปัจจุบัน
00:00:15 → 00:00:17 และเป็นโรคที่เราคุยกันว่ามันเกิดจากการ
00:00:17 → 00:00:19 เปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมนะครับรวมถึง
00:00:19 → 00:00:22 การเปลี่ยนแปลงของจุลินทรีย์ในร่างกายของ
00:00:22 → 00:00:25 มนุษย์สำหรับในวันนี้นะครับลมจะคุยกันถึง
00:00:25 → 00:00:27 นี้เป็นโรคของเบาหวานนะครับปลาวาฬชนิดที่
00:00:27 → 00:00:30 สองนะครับซึ่งก็เกี่ยวข้องกับ at T นำ
00:00:30 → 00:00:32 ใส้เหมือนกันโดยทั่วไปนะครับเบาหวานเนี่ย
00:00:32 → 00:00:34 เราจะแบ่งเป็นชนิดต่างๆด้วยกัน 3 ชนิดนะ
00:00:34 → 00:00:37 ครับขอชนิดที่หนึ่งนะครับที่ 2 แล้วก็ปลา
00:00:37 → 00:00:39 วาฬในคนตั้งครรภ์นะครับซึ่งต้องบอกว่า
00:00:39 → 00:00:42 ทั้งประมาณทั้ง 3 ชนิดเนี่ยปัจจุบันก็มี
00:00:42 → 00:00:44 แนวโน้มจะพบมากขึ้นด้วยนะครับตัวอย่าง
00:00:44 → 00:00:46 เช่นนะครับเบาหวานชนิดที่ 1 เนี่ยช่วง
00:00:46 → 00:00:48 เวลาประมาณสัก 20 กว่าปีที่ผ่านมานะครับ
00:00:48 → 00:00:51 จำนวนคนที่ปวดบอลชนิดนึงเนี้ยเพิ่มขึ้น
00:00:51 → 00:00:54 ประมาณ 2 เท่านะครับแล้วก็มีการประมาณการ
00:00:54 → 00:00:57 ว่าในยุโรปเนี่ยประวัติชื่อหนึ่งมันจะ
00:00:57 → 00:01:00 เพิ่มขึ้นด้วยทุกปีนะครับอีกประมาณ 34%
00:01:00 → 00:01:02 อีกประมาณชนิดที่สองนะครับเป็นเบาหวานที่
00:01:02 → 00:01:04 คนส่วนใหญ่จะเป็นการเนี่ยก็มีแนวโน้มจะ
00:01:04 → 00:01:06 เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเหมือนกันประมาณคร่าวๆนะ
00:01:06 → 00:01:08 ครับว่าตอนนี้ในประชากรโลกเนี่ยมีคนที่
00:01:09 → 00:01:10 ป่วยเป็นเบาหวานมีอยู่ประมาณ 10
00:01:10 → 00:01:12 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลกนะครับและตัวเลข
00:01:12 → 00:01:15 เนี่ยจะเพิ่มมากขึ้นแล้วปัจจุบันนะครับก็
00:01:15 → 00:01:17 มีข้อมูลมากขึ้นไปเรื่อยๆว่าบอกหวานทั้ง
00:01:17 → 00:01:19 หลายนะครับที่เพิ่มมากขึ้นจะส่วนนึงมันก็
00:01:19 → 00:01:22 เกี่ยวข้องกับเรื่องของไปทุเรียนหรือว่า
00:01:22 → 00:01:24 จุลินทรีย์ในลำไส้ของเราด้วยแต่ได้ที่โซน
00:01:24 → 00:01:27 นี้นะครับก็จะ Focus เรื่องจะคุยกันในไป
00:01:27 → 00:01:28 ที่เบาหวานชั้นที่ 2 อย่างเดียวนะครับ
00:01:28 → 00:01:32 เพราะว่าต้องบอกว่าวาฬตาชนิดไม่ว่าจะมี
00:01:32 → 00:01:34 ชื่อเรียกเหมือนกันว่าเป็นโรคเบาหวานนะ
00:01:34 → 00:01:37 ครับแต่ต้องปวนไกลของมันเนี่ยต่างกันไปนะ
00:01:37 → 00:01:39 ครับโคตรเจ้าวาฬชนิดที่ 1 เดี๋ยวเขาจะ
00:01:39 → 00:01:42 เรื่องของระบบภูมิคุ้มกันที่มันทำลายตัว
00:01:42 → 00:01:45 ตะกอนของเรานะครับจะโจมตีตะกอนของเราทำ
00:01:45 → 00:01:47 ให้มีการสร้างชุดเล่นน้อยลงขึ้นมาว่าจะ
00:01:47 → 00:01:50 ได้ที่ 2 เนี่ยออกกรรไกรหลักๆแล้วตัว
00:01:50 → 00:01:52 ปัญหาหลักๆเป็นเรื่องของภาวะที่เรียกว่า
00:01:52 → 00:01:54 ดูอินซูลินนะครับซึ่งเดี๋ยวจะอธิบายให้
00:01:54 → 00:01:56 ฟังอีกทีนะครับว่ามันคืออะไรส่วนเบาหวาน
00:01:56 → 00:01:58 ในคนตั้งครรภ์นะครับก็จะเกี่ยวข้องกับ
00:01:58 → 00:02:01 ฮอร์โมนที่ปที่จะสร้างขึ้นมานะครับเราได้
00:02:01 → 00:02:03 ความที่เบาหวานทั้ง 3 นะคะมันมีคนกายที่
00:02:03 → 00:02:05 ต่างกันก็เลยบอกว่ามันเป็นคนละโลกกันเลย
00:02:05 → 00:02:08 นะครับพี่จะว่าผลสุดท้ายของมันเนี่ยก็
00:02:08 → 00:02:10 เหมือนกันก็คือมีภาวะของน้ำตาลในเลือดเอว
00:02:10 → 00:02:13 สูงสำหรับวันนี้เราก็จะคุยกันแค่เบาหวาน
00:02:13 → 00:02:15 ชนิดที่ 2 ก่อนนะครับสำหรับเบาหวานชนิด
00:02:15 → 00:02:16 ที่ 1 ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน
00:02:16 → 00:02:20 ที่มันทำลายไปตัวเราเองนะว่าทำร้ายเธอว่า
00:02:20 → 00:02:23 เพราะตับอ่อนนะครับก็เจ็บไว้คุยกันตอนที่
00:02:23 → 00:02:25 เราคุยเรื่องของโรคกลุ่มนี้นะครับซึ่งก็
00:02:25 → 00:02:28 มีหลายโรคด้วยกันจะได้เพราะคุยถึงตรงนี้
00:02:28 → 00:02:30 และก็คิดว่าน่าจะเห็นภาพนะคะเพราะโรคเบา
00:02:30 → 00:02:32 หวานแล้วมันเป็นปัญหาสำคัญนะครับที่เขา
00:02:32 → 00:02:34 บอกว่ามนุษย์ยุคปัจจุบันเนี่ยมีความ
00:02:34 → 00:02:36 เสี่ยงกันค่อนข้างเยอะนะครับแต่ก่อนที่จะ
00:02:36 → 00:02:38 เข้าในเรื่องของเรานะครับก็อยากจะขอพูด
00:02:38 → 00:02:41 ถึงผู้สนับสนุนซีรีส์เส้นก่อนนะครับสิ่ง
00:02:41 → 00:02:43 with Microphone เนี่ยนะครับรายการ
00:02:43 → 00:02:45 ทรัพย์สนุนจากบริษัทหมดก๊าซนะครับว่าการ
00:02:45 → 00:02:47 นะครับเป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่ม
00:02:47 → 00:02:49 นักวิจัยนะครับนักวิทยาศาสตร์ที่เชี่ยว
00:02:49 → 00:02:52 ชาญทางด้านเทคโนโลยีไปเข้าไปโอมห์จาก
00:02:52 → 00:02:53 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
00:02:53 → 00:02:57 บางมดนะครับศิริบริษัทหมดกันเนี่ยทำอะไร
00:02:57 → 00:03:00 ก็คือเขาได้เปิดให้บริการตรวจและก็เพราะ
00:03:00 → 00:03:02 จุลินทรีย์ในลำไส้ของเรานะครับดีเคราะห์
00:03:02 → 00:03:05 bactrim ไส้ของเราเพื่อให้รู้ว่าไปช่วย
00:03:05 → 00:03:07 ที่ในครับไส้ของเราเนี่ยอยู่ในสภาวะแบบ
00:03:07 → 00:03:09 ไหนนะครับซึ่งก็จะเป็นข้อมูลที่มี
00:03:09 → 00:03:11 ประโยชน์นะครับช่วยให้เราสามารถดูแล
00:03:11 → 00:03:13 สุขภาพให้ดีขึ้นได้สำหรับใครที่สนใจ
00:03:13 → 00:03:16 บริการของมดกัดนะครับเดี๋ยวผมจะนำข้อมูล
00:03:16 → 00:03:18 นะครับมาใส่ไว้ให้ในตอนท้ายคลิปนะครับ
00:03:18 → 00:03:20 หรือว่าจะเขียนว่าได้รวม Description เลย
00:03:20 → 00:03:23 ในคอมเม้นนะครับใส่ลิงค์ไว้ให้นะครับถ้า
00:03:23 → 00:03:25 สนใจก็ลองเข้าไปดูได้โอเคกลับมาที่เรื่อง
00:03:25 → 00:03:27 ของเรานะครับก็คือเรื่องของเบาหวานนะครับ
00:03:27 → 00:03:30 ก่อนที่เราจะไปคุยกันว่าไปเที่ยวในลำไส้
00:03:30 → 00:03:32 เนี่ยมันเกี่ยวข้องกับเรากว่าได้ยังไงผม
00:03:32 → 00:03:34 อยากจะชวนไปทำความรู้จักเกี่ยวกับโรคเบา
00:03:34 → 00:03:37 หวานก่อนเข้าๆนะครับสั้นๆพอให้นึกภาพออก
00:03:37 → 00:03:39 นะครับว่าเราเบาหวานนี้มันมีหน้าตาแบบไหน
00:03:39 → 00:03:45 นะครับมันอันตรายยังไงนะครับ
00:03:45 → 00:03:48 โอเคเรามาเริ่มต้นที่โรคเบาหวานคืออะไรนะ
00:03:48 → 00:03:50 ครับเพราะเบาหวานนะคะไม่ว่าจะเป็นประมาณ
00:03:50 → 00:03:52 ชนิดที่หนึ่งนะครับชนิดที่สองหรือว่าโรค
00:03:52 → 00:03:54 เบาหวานมีคนตั้งครรภ์เนี่ยมันจะมีรักษา
00:03:54 → 00:03:56 ร่วมเหมือนกันอยู่อย่างเลยนะครับก็คือว่า
00:03:56 → 00:03:59 เป็นลักษณะเด่นของโรคเบาหวานเลยก็คืออ่อ
00:03:59 → 00:04:02 น้ำตาการเลือกมันจะสูงที่นี่มันก็เลยเกิด
00:04:02 → 00:04:05 คำถามขึ้นมา 2 คำถามนะครับคำถามและก็คือ
00:04:05 → 00:04:08 ว่าทำไมน้ำตาลในเลือดของคนที่เป็นเบาหวาน
00:04:08 → 00:04:11 เนี่ยถึงที่สุดกว่าปกติได้คำถามที่ 2 ก็
00:04:11 → 00:04:14 คือแล้วน้ำตาลที่สูงขึ้นเนี่ยมันไม่ดียัง
00:04:14 → 00:04:16 ไงนะครับมันโพธิ์ส่งผลเสียหรือส่งผลร้าย
00:04:16 → 00:04:18 กับร่างกายอย่างไรทำไมเราถึงต้องกลัว
00:04:18 → 00:04:22 เพราะว่าน้ำตาลสูงก่อนอื่นนะครับผมจะขอ
00:04:22 → 00:04:24 ตอบคำถามที่ 2 ก่อนนะครับว่าน้ำตาลใน
00:04:24 → 00:04:25 เลือดที่มันสูงขึ้นเนี่ยมันไม่ได้ยังไง
00:04:25 → 00:04:28 เพราะว่าคำตอบเนี่ยจะเป็นคำตอบร่วมนะครับ
00:04:28 → 00:04:31 ที่ใช้ได้กับทั้งเบาหวานชนิดที่ 1 ชั้น
00:04:31 → 00:04:33 ที่ 2 นะคะเมื่อวานให้คนตั้งครรภ์ส่วนคำ
00:04:33 → 00:04:35 ถามได้นะคะว่าทำไมน้ำตาลในเลือดถึงสูงๆ
00:04:35 → 00:04:37 เนี่ยต้องบอกว่าในเบาหวานแต่ละชนิดนะครับ
00:04:37 → 00:04:40 มันมีคำอธิบายที่ต่างกันไปซึ่งก็เลยอยาก
00:04:40 → 00:04:43 จะขอเก็บไว้ตอบทีหลังโอเคมาเริ่มที่คำถาม
00:04:43 → 00:04:45 ที่ 2 นะครับก็คือว่าน้ำตาลที่สูงขึ้นมัน
00:04:45 → 00:04:48 ไม่ดีอย่างไรนะครับเรากลัวภาวะน้ำตาลใน
00:04:48 → 00:04:53 เลือดที่สูงเนี่ยเพราะอะไร
00:04:53 → 00:04:56 น้ำตาลในเลือดแต่มันเป็นสิ่งที่จำเป็น
00:04:56 → 00:04:58 สำหรับร่างกายนะครับเพราะว่ามันคือตัว
00:04:58 → 00:05:00 เชื้อเพลิงที่ saves และร่างกายของเรา
00:05:00 → 00:05:03 เนี่ยใช้ก็คือมันจะนำน้ำตาลเข้าไปในเซลล์
00:05:03 → 00:05:06 แล้วก็นำไปเผาทำให้น้ำตาลในเลือดเนี่ยมัน
00:05:06 → 00:05:08 ก็จะเหมือนกับทุกอย่างร่างกายคือมี
00:05:08 → 00:05:10 ประโยชน์แต่ก็จะดีโทษด้วยเหมือนกันโดย
00:05:10 → 00:05:12 เฉพาะถ้ามีปริมาณที่มากเกินไปน้ำตาลก็จะ
00:05:12 → 00:05:15 ก่อให้เกิดโทษกับร่างกายที่ได้สิ่งที่
00:05:15 → 00:05:17 เกิดขึ้นก็คือว่าน้ำตาลที่มันเยอะเกินไป
00:05:17 → 00:05:20 มันจะไปทำปฏิกิริยาเคมีนะครับกับโมเลกุล
00:05:20 → 00:05:23 ในร่างกายโดยเฉพาะโปรตีนและจะเกิดสิ่งที่
00:05:23 → 00:05:26 มีชื่อเรียกว่าเหตุนะครับเอจีอีนะครับ
00:05:26 → 00:05:28 ซึ่งคำนี้เป็นคำย่อจากคำเต็มว่าคือ
00:05:28 → 00:05:30 แอดวานซ์ไกลเคชั่น End product คำนี้นะ
00:05:30 → 00:05:32 ครับจริงๆเป็นคำที่เห็นได้บ่อยนะครับถ้า
00:05:32 → 00:05:34 ใครอ่านพูดบทความเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ
00:05:34 → 00:05:36 บ่อยๆจะเห็นนะครับตัวนี้มันจะทำให้ตัว
00:05:36 → 00:05:39 โปรตีนนะการไอเสียสภาพไปคำว่าเสียสภาพคือ
00:05:39 → 00:05:42 ว่าโปรตีนซึ่งจะเรียกว่าเป็นนะครับทุก
00:05:42 → 00:05:44 อย่างร่างกายของเราเนี่ยมันไม่สามารถทำ
00:05:44 → 00:05:47 งานได้ตามปกติของมันหรือว่าทำงานได้อย่าง
00:05:47 → 00:05:49 ที่มันควรจะต้องทำนี่มันก็เลยส่งผลกระทบ
00:05:49 → 00:05:53 ต่อเนื่องไปโดยเฉพาะออกมาจะทำให้หลายๆ
00:05:53 → 00:05:55 อย่างเดียวเสียหน้าที่การงานไปนะครับซึ่ง
00:05:55 → 00:05:58 ใดตัวหลักๆเลยที่จะโดนทำลายนะครับก็คือ
00:05:58 → 00:06:00 เรื่องของเส้นเลือดเรื่องของและประสาทที่
00:06:00 → 00:06:02 นี้นะครับตัวเส้นประสาทกับเส้นเลือดเนี่ย
00:06:02 → 00:06:05 จะเรียกว่าเหมือนเป็นโครงสร้างพื้นฐานของ
00:06:05 → 00:06:08 ร่างกายก็ได้ครับก็คือมาถือว่ามันเป็น
00:06:08 → 00:06:10 เหมือนกับท่อน้ำหรือสายปรับสายไฟฟ้านะ
00:06:10 → 00:06:13 ครับของของเมืองก็ได้นะครับของร่างกายเรา
00:06:13 → 00:06:15 มันก็เลยสามารถส่งผลกระทบต่อไปเรื่องอื่น
00:06:15 → 00:06:18 ๆได้ยกตัวอย่างเช่นนะครับถ้าเส้นเลือดแต่
00:06:18 → 00:06:20 มันมีปัญหาโดยเฉพาะเลือดฝอยที่ไปเลี้ยง
00:06:20 → 00:06:23 อวัยวะต่างๆก็จะทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะ
00:06:23 → 00:06:26 นั้นน้อยนะครับก็จะมีปัญหาเกิดขึ้นได้ตัว
00:06:26 → 00:06:28 อย่างเช่นไตเนี่ยถ้าคนที่เป็นเบาหวานนานๆ
00:06:28 → 00:06:30 แล้วก็มีปัญหาเรื่องของเส้นเลือดนั้นๆก็
00:06:30 → 00:06:33 จะเกิดภาวะไตวายได้หรือถ้าเกิดกับเช่น
00:06:33 → 00:06:35 เลือดที่ไปเลี้ยงสมองนะครับก็จะนำไปสู่
00:06:35 → 00:06:38 ภาวะเส้นเลือดของสมองมีปัญหาก็จะเป็น
00:06:38 → 00:06:40 เรื่องของเส้นเลือดในสมองตีแปลว่าจะเล่น
00:06:40 → 00:06:43 สมองตายใต้ถ้าเป็นเส้นเลือดที่ไปเลี้ยง
00:06:43 → 00:06:45 หัวใจเนี่ยก็จะเกิดความเสียหายกับหัวใจ
00:06:45 → 00:06:48 ได้ก็คือทำให้เกิดภาวะเช่นหัวใจตีนะครับ
00:06:48 → 00:06:51 เกิดเพราะว่าควรใจขาดเลือดได้ถ้าเป็นเส้น
00:06:51 → 00:06:53 เลือดที่ไปเลี้ยงตานะครับก็จะทำให้เกิดตา
00:06:53 → 00:06:55 บ่ได้นะครับซึ่งหลายคนก็ดูว่าเมื่อวาน
00:06:55 → 00:06:57 เนี่ยสามารถทำให้ตาบอดได้โอเคนะก็เป็นตัว
00:06:57 → 00:07:00 อย่างนะครับว่าถ้าเส้นเลือดมีปัญหาเหรอดี
00:07:00 → 00:07:03 ขึ้นทีนี้เรามาดูเช่นภาษากันบ้างนะครับก็
00:07:03 → 00:07:05 คือพวกน้ำตาลมันทำให้เส้นประสาทโดยเฉพาะ
00:07:06 → 00:07:07 ส่วนที่เรียกว่าปลายประสาทเนี่ยมันทำงาน
00:07:07 → 00:07:10 ไม่ดีมันก็เลยจะออกมาในอาการหลายๆอย่างนะ
00:07:10 → 00:07:13 ครับที่พบบ่อยในผู้ป่วยโรคเบาหวานเช่น
00:07:13 → 00:07:16 เรื่องของอาการชาปลายมือปลายเท้านะครับ
00:07:16 → 00:07:18 ซึ่งเกิดจากการทำงานของเส้นประสาทเล็กๆ
00:07:18 → 00:07:21 ที่มันเสียหน้าที่ไปที่ได้การชาได้มันไม่
00:07:21 → 00:07:23 ใช่เรื่องเล็กๆนะครับหลายคนคิดว่าแค่มัน
00:07:23 → 00:07:25 แค่ชาวปลายมือปลายเท้ามันก็ไม่ได้น่ากลัว
00:07:25 → 00:07:28 อะไรแต่จริงๆเวลาชาปลายมือปลายเท้าเนี่ย
00:07:28 → 00:07:31 ลายข้างมันทำให้เราไม่รู้สึกนะครับที่เจอ
00:07:31 → 00:07:33 บ่อยมากๆเลยนะครับสมัยก่อนนะครับก็คือ
00:07:33 → 00:07:35 หลายคนเนี่ยมีแผลที่เท้าเดี๋ยวเรียนรู้
00:07:35 → 00:07:38 ตัวเพราะว่าเท้าในชาก็เพ้อไปแต่นวดแต่นี่
00:07:38 → 00:07:40 นะครับหรือว่าครั้งใส่รองเท้าที่มันคับไป
00:07:40 → 00:07:42 เกิดเป็นเหมือนน้องเท่ากับขึ้นมาเป็นพาย
00:07:42 → 00:07:45 เล็กๆขึ้นมาเนี่ยก็ปอดด้วยความที่ฉากไม่
00:07:45 → 00:07:48 เจ็บนะครับก็เลยเราไม่ได้ใส่ใจไม่ได้รู้
00:07:48 → 00:07:52 ตัวหลายครั้งนะครับเราก็ได้สนใจดูแลมันก็
00:07:52 → 00:07:55 เผลอเตะซ้ำแต่ 3 ไปเรื่อยๆที่นิดบวกกับ
00:07:55 → 00:07:58 การที่ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงๆมันทำให้พวก
00:07:58 → 00:08:00 Cell ในระบบภูมิคุ้มกันนะครับก็ไม่ได้
00:08:00 → 00:08:03 ต่างๆเนี่ยมันทำงานไม่ดีด้วยเมื่อเซลล์
00:08:03 → 00:08:05 ระบบภูมิคุ้มกันมาทำงานไม่ดีเนี่ยมันก็จะ
00:08:05 → 00:08:08 ทำให้พวกแพ้ต่างๆเนี่ยมันหายากนะครับแล้ว
00:08:08 → 00:08:10 ก็เกิดการภาวะแทรกซ้อนครับเกิดการติด
00:08:10 → 00:08:12 เชื้อกับแผลในได้ง่ายจากนั้นหลายครั้ง
00:08:12 → 00:08:15 เดียวแผลเริ่มต้นถ่ายเล็กๆนะครับเช่นแพ้
00:08:15 → 00:08:17 ลองเข้ากับธรรมดาหรือว่าแพ้มันไปโดนเตะ
00:08:17 → 00:08:19 อะไรสักอย่างมาเนี่ยแต่ต่อหน้ามันลุกลาม
00:08:19 → 00:08:22 ไปเรื่อยๆนะครับมันค่อยๆลามขึ้นแพ้มัน
00:08:22 → 00:08:25 เน่ากินเนื้อดีนะไปเรื่อยๆจนกระทั่งหลาย
00:08:25 → 00:08:27 ครั้งเนี่ยสมัยก่อนเดี๋ยวจะมีบ่อยมากเลย
00:08:27 → 00:08:29 ที่ผู้ป่วยด้วยก็เป็นมากระทั่งสุดท้าย
00:08:29 → 00:08:32 เนี่ยแพ้มันคงไม่ได้นะคะอันตรายต่างอาจจะ
00:08:32 → 00:08:35 ทำให้เสียชีวิตได้บอกเลยต้องตัดสินใจที่
00:08:35 → 00:08:37 จะตัดขาของผู้ป่วยทิ้งโดยเฉพาะในคนที่
00:08:38 → 00:08:41 เป็นเบาหวานที่ออกควบคุมน้ำตาลไม่ค่อยดี
00:08:41 → 00:08:43 นะครับแต่ปัจจุบันในการเพื่อนว่ารู้จัก
00:08:43 → 00:08:45 รักษาในมันดีขึ้นนะครับแล้วก็คนมีความรู้
00:08:45 → 00:08:48 มากขึ้นทำให้เพราะว่าแทรกซ้อนขนาดต้องตัด
00:08:48 → 00:08:50 ขาเนี่ยมันก็น้อยเรามาสมัยก่อนนอนเนื่อง
00:08:50 → 00:08:52 จากนั้นนะครับอาการของโรคปัญหาของเส้น
00:08:52 → 00:08:55 ประสาทมันก็มีผลต่อระบบพื้นได้ตัวอย่าง
00:08:55 → 00:08:57 เช่นนะครับมีถ้ามีผลกับระบบทางเดินอาหาร
00:08:57 → 00:09:01 นะครับก็จะทำให้ผู้ป่วยเบาหวานและพี่ขอดู
00:09:01 → 00:09:03 รู้สึกเหมือนกับอิ่มง่ายนะครับหรือว่ากิน
00:09:03 → 00:09:05 อาหารไม่ค่อยลงกินได้เดียวเนี่ยเขาจะกิน
00:09:05 → 00:09:07 แล้วบางคนรู้สึกเครื่องใช้อาเจียนร่วม
00:09:07 → 00:09:09 ด้วยหรือว่าพูดง่ายๆคือเหมือนกระเพาะ
00:09:09 → 00:09:12 อาหารมันไม่รับอาหารนะครับซึ่งพวกนี้มัน
00:09:12 → 00:09:14 เกิดจากการที่เส้นประสาทที่ไปเลี้ยง
00:09:14 → 00:09:16 กระเพาะเนี่ยมันมีปัญหานะครับทำให้
00:09:16 → 00:09:18 กระเพาะได้มันไม่สามารถทำงานได้ปกติเพราะ
00:09:18 → 00:09:20 เพราะว่าแบบนี้นะคะไม่มีชื่อเรียกทางทาง
00:09:20 → 00:09:24 การแพทย์นะครับว่าใด beaches นะครับโอเค
00:09:24 → 00:09:25 ทั้งหมดที่เล่ามานี้นะครับก็คิดว่าน่าจะ
00:09:25 → 00:09:28 พอเห็นภาพนะครับแล้วก็ตอบคำถามว่าน้ำตาล
00:09:28 → 00:09:31 ที่สุดนานๆมันไม่ดียังไงนะครับทำไมเราถึง
00:09:31 → 00:09:34 ป่วยภาวะน้ำตาลในเลือดที่มันสุขมากๆครั้ง
00:09:34 → 00:09:36 นี้นะครับเราก็จะตอบคำถามแรกนะครับที่เรา
00:09:36 → 00:09:38 ถามกันไว้เมื่อกี้นะครับก็คือว่าแล้วทำไม
00:09:38 → 00:09:44 น้ำตาลในเลือดเนี่ยมันถึงสูงได้
00:09:44 → 00:09:47 โอเคอธิบายเปล่า Ben10 Ben10 ง่ายเลยนะ
00:09:47 → 00:09:50 ครับว่าทำไมน้ำตาลในเลือดมาถึงสูงคำตอบ
00:09:51 → 00:09:53 ได้ก็คือพ่อน้ำตาลมันไม่สามารถเข้าไปใน
00:09:53 → 00:09:56 เซลล์ได้พอน้ำตาลมันเข้าไปในเซลล์ไม่ได้
00:09:56 → 00:09:58 เนี่ยมันก็เหมือนกับครั้งเติมนะครับรอ
00:09:58 → 00:10:00 อยู่ในเลือดเนี่ยทำให้ประมาณน้ำมีเพื่อน
00:10:00 → 00:10:03 มันสูงขึ้นมันก็เลยเกิดคำถามต่อไปว่าเรา
00:10:03 → 00:10:05 จะไปน้ำตาเนี่ยมันถึงเข้าไปในเซลล์ไม่ได้
00:10:05 → 00:10:08 คำอธิบายนี้นะครับต้องเข้าใจกันปกติก่อน
00:10:08 → 00:10:10 นะครับเพราะว่าปกติเนี่ยน้ำตาลมันจะเข้า
00:10:10 → 00:10:12 ไปในเซลล์ได้มันจะต้องมีเหมือนกับตัวที่
00:10:12 → 00:10:15 มาเปิดประตูให้นะครับซึ่งตัวที่จะมาเปิด
00:10:15 → 00:10:17 ประตูให้และพาน้ำตาลเข้าไปในเซลล์เนี่ย
00:10:17 → 00:10:20 มันก็คือฮอร์โมนที่มีชื่อว่าอินซูลินซึ่ง
00:10:20 → 00:10:22 เป็นฮอร์โมนชนิดนึงนะครับที่สร้างมาจาก
00:10:22 → 00:10:24 อวัยวะที่ชื่อว่าตับอ่อนซึ่งจับคอร์ด
00:10:24 → 00:10:27 เนี่ยมันเป็นอวัยวะที่อยู่อยู่ใกล้ๆกับ
00:10:27 → 00:10:30 กระเพาะอาหารนะครับถ้าประมาณข้างๆนะครับ
00:10:30 → 00:10:32 ก็คืออยู่แถวๆกันกลางท้องนะครับค่อนมาทาง
00:10:32 → 00:10:34 ข้างบนนิดนึงนะครับที่คำถามว่าทำไมน้ำตาล
00:10:34 → 00:10:37 ถึงเข้าเซิฟเข้าเธอไม่ได้เนี่ยคำตอบก็คือ
00:10:37 → 00:10:39 ว่าเพราะปัญหาได้มันอยู่ที่ตัวอินซูลิน
00:10:39 → 00:10:43 แต่ปัญหาที่ว่าเดี๋ยวคืออะไรปัญหาที่มัน
00:10:43 → 00:10:45 เกิดได้จากหลายคนไก่ด้วยกันนะครับเช่นถ้า
00:10:45 → 00:10:48 ปัญหาอยู่ที่การสร้างอินซูลินไม่ค่อยพอนะ
00:10:48 → 00:10:49 ครับคือตับอ่อนยังไม่สามารถสร้างอินซูลิน
00:10:49 → 00:10:52 ได้ว่าสร้างได้น้อยมากเนี่ยเราจะเรียกโรค
00:10:52 → 00:10:54 เบาหวานชนิดนี้ว่าเป็นเบาหวานชนิดที่ 1
00:10:54 → 00:10:58 แต่ถ้าตับอ่อนสามารถสร้างอินซูลินได้แต่
00:10:58 → 00:11:01 ว่าประตูที่จะเปิดให้น้ำตาลเธอมันดื้อนะ
00:11:01 → 00:11:04 ครับคุณไม่ยอมตอบสนองจ.สุรินทร์เขาเรียก
00:11:04 → 00:11:06 ว่าภาวะดื้ออินสุลินเนี่ยเราจะเลี่ยงโรค
00:11:06 → 00:11:08 นี้นะครับว่าเบาหวานชนิดที่ 2 ชนิดก็คือ
00:11:08 → 00:11:11 เหมือนตรงนี้นะครับก็คิดว่าน่าจะขอเราน่า
00:11:11 → 00:11:13 จะมาคุยสักเล็กน้อยนะครับว่าเบาหวานแต่ละ
00:11:13 → 00:11:16 ชนิดนะครับวาฬชนิดหนึ่งแล้ววาฬชนิดที่สอง
00:11:16 → 00:11:20 เนี่ยต่างกันยังไง
00:11:20 → 00:11:24 โอเคเรื่องต้นจากภาพใหญ่ก่อนนะครับปลาวาฬ
00:11:24 → 00:11:26 ทั้งสองชนิดนะครับชนิดที่ 1 และชนิดที่
00:11:26 → 00:11:28 สองเนี่ยมันน่าจะเกิดขึ้นกับคนกลุ่มอายุ
00:11:28 → 00:11:31 ต่างกันนะครับก็คือถ้าเป็นเบาหวานชนิดที่
00:11:31 → 00:11:34 1 เนี่ยน่าจะผมพบในคนอายุน้อยนะครับอายุ
00:11:34 → 00:11:35 น้อยที่ว่าเนี่ยส่วนใหญ่แล้วกันใช่ว่า
00:11:35 → 00:11:38 น้อยกว่า 30 นะครับแต่ว่าคนไข้ส่วนใหญ่
00:11:38 → 00:11:40 ที่มาเนี่ยหรือว่าเริ่มมีอาการต้องมาหา
00:11:40 → 00:11:42 หมอเนี่ยจะอยู่ในประมาณช่วงก่อนวัยรุ่น
00:11:42 → 00:11:45 แล้วช่วงวัยรุ่นนะครับประมาณสัก 11 12
00:11:45 → 00:11:47 13 14 เนี่ยก็จะเริ่มมีอาการแล้วก็ต้อง
00:11:47 → 00:11:50 มาหาหมอแล้วก็จะและการวินิจฉัยว่าเป็นโรค
00:11:50 → 00:11:52 เบาหวานชนิดที่ 1 ตอนช่วงวัยนี้แต่ถ้ามัน
00:11:52 → 00:11:54 เบาหวานชนิดที่ 2 เนี่ยส่วนแหลมจะเกิด
00:11:54 → 00:11:57 ขึ้นกับคนที่อายุมากนะครับเค้าอายุมาก
00:11:57 → 00:11:59 เนี่ยในที่นี้เนี่ยส่วนใหญ่เขาจะประมาณ 50
00:11:59 → 00:12:02 60 ต่อไปนะครับแต่ที่น่าสนใจก็คือว่า
00:12:02 → 00:12:05 Trend ของโลกตอนนี้มันจะเห็นว่าคนที่
00:12:05 → 00:12:07 ป่วยเป็นโรคเบาหวานเนี่ยผมบอกว่าชนิดที่
00:12:07 → 00:12:09 สองเนี่ยมีแนวโน้มที่จะอายุน้อยลงเรื่อยๆ
00:12:09 → 00:12:11 ก็คืออายุน้อยลงมาจาก 5 เสร็จอาจจะเหลือ
00:12:12 → 00:12:14 แค่ประมาณสี่สิบห้าร้อยสี่สิบเนี่ยหรือ
00:12:14 → 00:12:16 บางครั้งแรกคนไข้อยู่ 30 กว่าแล้วก็เริ่ม
00:12:16 → 00:12:19 เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้โดยเฉพาะคน
00:12:19 → 00:12:21 ที่โอนมากๆนะครับหรือว่าคนที่มีหลายสไตล์
00:12:21 → 00:12:24 แบบไม่ค่อยได้ขยับไปด้วยหนูไม่ค่อยออก
00:12:24 → 00:12:26 กำลังกายความต่างที่ 2 นะครับระหว่าง
00:12:26 → 00:12:28 เพราะว่าชนิดหนึ่งอาทิตย์ที่ 2 เนี่ยก็
00:12:28 → 00:12:31 คือกลไกของการเกิดของมานะครับก็อย่างที่
00:12:31 → 00:12:33 คุยกันไปก่อนหน้านะครับถ้าเป็นเบาหวาน
00:12:33 → 00:12:35 ชนิดที่ 1 ในควรใครของมันเป็นเรื่องของ
00:12:35 → 00:12:37 ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเราเองเนี่ยมัน
00:12:37 → 00:12:39 ไปทำลายเซลล์ที่สร้างอินซูลินในตับอ่อนก็
00:12:39 → 00:12:42 คือเซลล์ที่มีชื่อว่าเบต้าเซลล์นะครับนี่
00:12:42 → 00:12:43 เบต้าเจอมาดูทำลายเนี่ยมันก็ไม่สามารถ
00:12:43 → 00:12:46 สร้างอินซูลินได้หรือว่าสร้างได้น้อยลง
00:12:46 → 00:12:49 แต่โดยทั่วไปในร่างกายเราจะเหม็นจะมี
00:12:49 → 00:12:51 สุรินทร์เค้าเรียกว่ามีรีเซิฟอยู่นะครับ
00:12:51 → 00:12:54 มีสำรองไว้ประมาณหนึ่งจะเริ่มมีอาการก็
00:12:54 → 00:12:56 ต่อเมื่อเบต้าเซลล์ถูกทำลายประมาณ 80 ถึง
00:12:56 → 00:12:58 90 เปอร์เซ็นต์นะครับแล้วผู้ป่วยเนี่ยก็
00:12:58 → 00:13:00 จะเริ่มมีอาการขึ้นมาสำหรับคะณวัดทำไม
00:13:00 → 00:13:02 อยู่ๆระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเนี่ยจึง
00:13:02 → 00:13:05 ไปทำลายตับอ่อนเนี่ยเราจะไม่คุยกันในวัน
00:13:05 → 00:13:07 นี้นะครับผมจะเก็บเรื่องนี้ไว้คุยตอนที่
00:13:07 → 00:13:09 เราคุยเรื่องของพวกโรคภูมิคุ้มกันที่มัน
00:13:09 → 00:13:11 ทำลายตัวเองนะครับหรือว่าโลกคะแล้วก็ต้อง
00:13:11 → 00:13:14 m o d c S นะครับซึ่งปัจจุบันก็พบ
00:13:14 → 00:13:16 ด้วยนะครับว่าไปเพียงลำไส้เนี่ยมีที่
00:13:16 → 00:13:18 เหลือเกินปัจจัยสำคัญนึงนะครับที่ก่อให้
00:13:18 → 00:13:20 เกิดพวกเรากลุ่มนี้ได้นะครับพวกโลกที่
00:13:20 → 00:13:23 ภูมิคุ้มกันมันทำร้ายร่างกายตัวเองสำหรับ
00:13:23 → 00:13:25 โรคเบาหวานชนิดที่สอนนะครับกลไกของมาใน
00:13:25 → 00:13:28 มันจะเกิดจากภาวะที่มีชื่อว่าพอเลยที่เรา
00:13:28 → 00:13:30 เรียกว่าภาวะดื้ออินซูลินนะครับประเด็นใน
00:13:30 → 00:13:32 ทางการแพทย์แล้วชายว่า insulin
00:13:32 → 00:13:34 resistance นะครับซึ่งก็แปลตรงตัวนะครับ
00:13:34 → 00:13:36 วิธีสั้นก็คือมันจังวะต่อต้านนะครับก็คือ
00:13:37 → 00:13:40 มันต่อต้านอินซูลินมันเดินสุรินทร์ก็หมาย
00:13:40 → 00:13:42 ความว่าตัวในเลือดเนี่ยก็ตับอ่อนสร้าง
00:13:42 → 00:13:45 อินซูลินได้ในเรือนอินซูลินจะประตูที่จะ
00:13:45 → 00:13:47 เปิดให้ฟังเนี่ยมันดื้อไหมครับมันต้องมัน
00:13:47 → 00:13:49 ไม่ค่อยยอมฟังฉันว่าประตูมันผมเติมก็ได้
00:13:49 → 00:13:52 นะครับก็คือต้องมีปริมาณอินซูลินมากๆมัน
00:13:52 → 00:13:55 ถึงจะยอมตอบสนองที่นี่มันก็เลยมีคำถามที่
00:13:55 → 00:13:57 น่าสนใจก็คือว่าแล้วภาวะเดินธุลินมันเกิด
00:13:57 → 00:14:00 ขึ้นได้อย่างไรคำตอบนี้นะหมอเขาไปคำตอบ
00:14:00 → 00:14:02 ที่ค่อนข้างย่างนะครับแล้วก็ไม่มีคนไกล
00:14:02 → 00:14:04 ที่ซับซ้อนนะครับทุกวันนี้เราก็ยังไม่
00:14:04 → 00:14:07 เข้าใจมันทั้งหมดแต่ปัจจุบันเนี่ยเรารู้
00:14:07 → 00:14:09 มันมีปัจจัยหลายๆอย่างนะครับที่ถือว่า
00:14:09 → 00:14:11 เป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้
00:14:11 → 00:14:14 ออกคนแต่ละคนเนี่ยรู้ว่าเราเรียนมีโอกาส
00:14:14 → 00:14:17 ที่จะเกิดภาวะดื้ออินสุลินได้ปัจจัยเช่น
00:14:17 → 00:14:20 ต่างเหล่านี้มีอะไรบ้างอย่างแรกสุดนะครับ
00:14:20 → 00:14:22 ก็เป็นเรื่องของอายุนะครับก็คือเมื่อเรา
00:14:22 → 00:14:24 คนเรามีอายุมากขึ้นนะครับก็จะมีใครก็ตาม
00:14:24 → 00:14:26 นะครับเมื่ออายุมากขึ้นเนี่ยก็จะมีโอกาส
00:14:26 → 00:14:30 ที่จะเกิดภาวะดื้อต่อลินได้ง่ายขึ้นอัน
00:14:30 → 00:14:32 นี้มันก็จะเคยจะเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติ
00:14:32 → 00:14:34 ปัจจัยที่สองเดือนซึ่งก็เป็นปัจจัยที่
00:14:34 → 00:14:36 สำคัญมากๆนะครับเป็นปัจจัยเรียกว่าปัจจัย
00:14:36 → 00:14:39 หลักเลยก็ได้ก็คือภาวะอ้วนคือยิ่งควรมาก
00:14:39 → 00:14:42 เนี่ยก็จะมีความเสี่ยงที่เกิดภาวะเรือนจะ
00:14:42 → 00:14:46 หลุดง่ายส่วนคำอธิบายนะคะว่าทำไมขอคำที่
00:14:46 → 00:14:49 ใบนึงก็คือว่าเพราะว่าตัวไขมันนะครับที่
00:14:49 → 00:14:51 สะสมมากขึ้นโดยเฉพาะไข่เข้าไขมันที่ช่อง
00:14:51 → 00:14:54 ท้องเลยคิดว่าเป็นวิชาแฟลชเนี่ยนะครับมัน
00:14:54 → 00:14:56 จะสามารถสร้างสารที่ว่าเป็นสารการอักเสบ
00:14:56 → 00:15:00 ในขึ้นมาได้แล้วสารเคมีเหล่าเนี้ย
00:15:00 → 00:15:02 หมอเสมก็จะกระจายไปในเลือดซึ่งมันจะมีผล
00:15:03 → 00:15:05 ให้เกิดภาวะดื้ออินสุลินขึ้นมาทำให้เซลล์
00:15:05 → 00:15:07 ของร่างกายต่างๆนะครับว่าจะเป็นเซลล์
00:15:07 → 00:15:09 กล้ามเนื้อนะครับเซลล์ตับนะครับหรือว่า
00:15:09 → 00:15:12 เซลล์ไขมันเนี่ยมันดื้อต่ออินซูลินก็คือ
00:15:12 → 00:15:14 มันไม่ค่อยยอมมาทำตานะเข้าไปในเซลล์
00:15:14 → 00:15:16 ปัจจัยเสี่ยงที่ 3 นะครับที่สำคัญก็คือ
00:15:16 → 00:15:19 เป็นเรื่องของอาหารครับโดยเฉพาะอาหารที่
00:15:19 → 00:15:21 มีใครมาเต็มตัวสูงนะครับก็คือพวกไขมันจาก
00:15:21 → 00:15:23 เนื้อสัตว์ต่างๆแล้วน่าจะนี้นะครับก็จะมี
00:15:23 → 00:15:26 เป็นเรื่องของพวกพันธุกรรมนะครับแต่ว่า
00:15:26 → 00:15:28 พันธุกรรมเนี่ยจะรู้ว่าเป็นเหมือนกับเป็น
00:15:28 → 00:15:29 แพ็คราวก็ได้นะครับที่อยู่เบื้องหลัง
00:15:29 → 00:15:32 เพราะว่าไม่ใช่ทุกคนที่มีพันธุกรรมเนี่ย
00:15:32 → 00:15:34 จะเกิดโรคเบาหวานนะครับคือมาถึงว่าถ้าต่อ
00:15:34 → 00:15:36 ให้เรามีพันธุกรรมที่มีความเสี่ยงเนี่ย
00:15:36 → 00:15:39 แต่ถ้า Lifestyle เราค่อนข้างดีเราก็จะ
00:15:39 → 00:15:41 ไม่เป็นโรคเบาหวานเนี่ยก็ได้แต่นั้น
00:15:41 → 00:15:43 เหมือนกับว่าถ้ามีพันธุกรรมหรือมันเป็น
00:15:43 → 00:15:45 แค่บันไดขั้นแรกเท่านั้นแล้วก็มีปัจจัย
00:15:45 → 00:15:47 ทางด้านสิ่งแวดล้อมอื่นเข้ามากระตุ้นด้วย
00:15:47 → 00:15:50 เรานี้ก็เป็นภาพกว้างย่อๆนะครับของโรคเบา
00:15:50 → 00:15:52 หวานนะครับเพราะเห็นภาพว่าให้โรคเธอเลย
00:15:52 → 00:15:54 ว่าโรคเบาหวานเนี่ยมันคืออะไรนะครับมันมี
00:15:54 → 00:15:57 ลักษณะแบบไหนบ้างเกิดกับใครบ้างมีความ
00:15:57 → 00:16:00 เสี่ยงอะไรบ้างแต่จุดสังเกตข้อสังเกตนะ
00:16:00 → 00:16:03 ครับประเด็นสำคัญคือว่าในมุมมองของทางการ
00:16:03 → 00:16:05 แพทย์นะครับในช่วงที่ผ่านมานะครับประมาณ
00:16:05 → 00:16:07 สักร้อยปีที่ผ่านมาเนี่ยเวลาพูดถึงโรคเบา
00:16:07 → 00:16:10 หวานเนี่ยในวงการแพทย์จะบอกว่าเราเมื่อ
00:16:10 → 00:16:13 วานคือโรคของฮอร์โมนอินซูลินนะครับเป็น
00:16:13 → 00:16:15 โรคของอวัยวะที่ชื่อว่าตับอ่อนแต่เมื่อ
00:16:15 → 00:16:17 ประมาณสัก 10 กว่าปีก่อนนะครับก็มีความ
00:16:17 → 00:16:19 รู้ใหม่เกิดขึ้นนะครับคือมีการค้นเพราะ
00:16:19 → 00:16:23 ว่าโรคเบาหวานเนี่ยมันไม่ใช่แค่โรคของตับ
00:16:23 → 00:16:25 อ่อนนะครับแต่ไม่เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับ
00:16:25 → 00:16:28 ลำไส้ด้วยนะครับจะชวนเราใช้ใหญ่หรือว่า
00:16:28 → 00:16:31 แบคทีเรียในลำไส้นะครับคำถามว่าคือว่า
00:16:31 → 00:16:33 แบคทีเรียที่อยู่ในระบบทางเดินอาหารนะ
00:16:33 → 00:16:35 ครับที่อยู่ในลำไส้ใหญ่เนี่ยมันไม่เกี่ยว
00:16:35 → 00:16:38 ข้องกับโรคเบาหวานที่เรามองว่าเป็นโรคของ
00:16:38 → 00:16:43 ฮอร์โมนเนี่ยได้ยังไง
00:16:43 → 00:16:46 เรื่องราวความสัมพันธ์นะครับของไปด้วยใน
00:16:46 → 00:16:48 ลำไส้กับโรคเบาหวานเนี้ยจะบอกว่ามันเกิด
00:16:48 → 00:16:50 ขึ้นประมาณช่วงประมาณ 2010 นี่เองนี้นะ
00:16:50 → 00:16:53 ครับก็คือในเวลานั้นนักเรียนศาสตร์เรื่อง
00:16:53 → 00:16:55 รู้กันแล้วว่าไปที่นำไส้เนี่ยมันมีผลต่อ
00:16:55 → 00:16:58 ระบบเผาผลาญของร่างกายมนุษย์ได้แล้วก็
00:16:58 → 00:17:00 เกี่ยวข้องกับความอ้วนด้วยโดยหมอนวดเนี่ย
00:17:00 → 00:17:03 จะมีแบคทีเรียเนี่ยที่ต่างไปช่วยในลำไส้
00:17:03 → 00:17:06 ในที่ต่างไปจากคนผอมที่นี่มันก็รู้กันมา
00:17:06 → 00:17:08 นานแล้วนะคะว่าโรคควรหรือว่าภาวะอ้วน
00:17:08 → 00:17:10 เนี่ยมันเกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานด้วยอย่า
00:17:10 → 00:17:12 ที่เราว่าไปนะครับคือความอ้วนเพิ่มความ
00:17:12 → 00:17:14 เสี่ยงของโรคเบาหวานก็เลยมีนัก
00:17:14 → 00:17:16 วิทยาศาสตร์นะครับที่เกิดสงสัยแล้วก็ต้อง
00:17:16 → 00:17:19 กับตาขึ้นมาว่าและแบคทีเรียในลำไส้ของคน
00:17:19 → 00:17:21 ที่เป็นปลาหวานเนี่ยเมื่อเทียบกับคนที่
00:17:21 → 00:17:24 ไม่เป็นโรคเบาหวานเนี่ยมันจะต่างกันไหมก็
00:17:24 → 00:17:27 เลยมีการศึกษาขึ้นมานะครับเราศึกษาเพื่อ
00:17:27 → 00:17:29 เทียบกันดูว่าไปเที่ยว 2 ระหว่างคนเป็น
00:17:29 → 00:17:31 เบาหวานคนที่เป็นเบาหวานเนี่ยเหมือนใน
00:17:31 → 00:17:33 ต่างกันแล้วก็มีการตีพิมพ์ครั้งแรกเนี่ย
00:17:33 → 00:17:36 ออกมาประมาณปี 2010 ซึ่งในตอนนั้นเดี๋ยว
00:17:36 → 00:17:39 คนพบว่าไปช่วยในลำไส้ของคนที่เป็นเบาหวาน
00:17:39 → 00:17:41 แล้วคนที่เป็นเบาหวานนี่มันต่างกันจริงๆ
00:17:41 → 00:17:44 โดยที่คนเป็นเบาหวานมันจะมีประเทศบางชนิด
00:17:44 → 00:17:46 เนี่ยลดลงไปแล้วก็มีแบคทีเรียชนิดเดียว
00:17:46 → 00:17:49 เพิ่มขึ้นซึ่งต่างจากคนปกตินะครับคนที่มี
00:17:49 → 00:17:52 เปิดโรคเบาหวานซึ่งรายละเอียดว่าเพิ่มรส
00:17:52 → 00:17:53 ต่างกันยังไงเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังคร่าวๆนะ
00:17:53 → 00:17:56 ครับนั่นก็เป็นคำไว้ได้นะครับแล้วแต่นี่
00:17:56 → 00:17:59 มันก็จะมีคำว่าอื่นด้วยนะครับทำไมที่ 2
00:17:59 → 00:18:02 เนี่ยมารู้จักการผ่าตัดแบบนึงนะครับที่
00:18:02 → 00:18:04 เรียกว่าเป็นการผ่าตัดสำหรับลดความอ้วนนะ
00:18:04 → 00:18:07 ครับที่นี่ผ่าตัดลดความอ้วนน่ะคืออะไร
00:18:07 → 00:18:10 พรุ่งนี้ครับมันจะมีการผ่าตัดชนิดนึงนะ
00:18:10 → 00:18:12 ครับประเภทหนึ่งนะครับเราเรียกว่าเป็น
00:18:12 → 00:18:14 บาร์บี้ effexor เจอรี่นะครับซึ่งคำว่า
00:18:14 → 00:18:17 บาเรียเหล็กนะครับเค้าแบรี่นะครับมันมาทำ
00:18:17 → 00:18:19 บ่าวร้อนนะคะเป็นซักรีดโบราณที่แปลว่า
00:18:19 → 00:18:21 หนักซึ่งก็ในที่นี้หมายถึงคนที่มีน้ำหนัก
00:18:21 → 00:18:24 เยอะนะครับเดี๋ยวคนอ้วนส่วน s-trek มันจะ
00:18:24 → 00:18:26 หมายถึงการรักษาคำว่าสตรีเนี่ยแปลว่าผ่า
00:18:26 → 00:18:29 ตัดดังนั้นคำนี้ไปลงตัวนะคะไม่ถือว่าการ
00:18:29 → 00:18:32 ผ่าตัดเพื่อรักษาก็ภาวะอ้วนที่นี่เทคนิค
00:18:32 → 00:18:35 ในการผ่าตัดนั้นก็จะมีอยู่ออนไลน์แบบนะ
00:18:35 → 00:18:37 ครับแต่ว่ามันจะเป็นการผ่าตัดมีทีละวรรค
00:18:37 → 00:18:40 Add text by แพสเซจรี่นะครับแล้วสึกใบ
00:18:40 → 00:18:42 พาสเซนเจอร์วินัยคืออะไรคืออันนี้เป็น
00:18:42 → 00:18:44 อย่างนี้ครับเขาบอกว่าคนอ้วนเดี๋ยวปัญหา
00:18:44 → 00:18:47 ก็กินอาหารเข้าไปเยอะพอละมันก็ดูดซึมและ
00:18:47 → 00:18:50 ทำให้คนเราในอ้วนนั้นก็เลยบอกว่าถ้าเรา
00:18:50 → 00:18:52 สามารถตัดกระเพาะให้มันเล็กลงนะครับมันก็
00:18:52 → 00:18:56 จะทำให้กินได้น้อยลงทำให้อิ่มเร็วขึ้นเรา
00:18:56 → 00:18:59 ก็จะผอมลงได้ก็เกิดการผ่าตัดแบบนี้ขึ้นมา
00:18:59 → 00:19:01 ก็คือการผ่าตัดขอพรเอาไปส่วนนึงนะครับเรา
00:19:01 → 00:19:03 ก็พอได้มาเชื่อมาลำไส้เล็กเพื่อหวังเนี่ย
00:19:03 → 00:19:06 จะให้ผู้ป่วยกินได้น้อยลงที่นี่สำหรับคน
00:19:06 → 00:19:09 ที่ไม่คุ้นเคยนะครับฟังดูฟังดูแลโทรศัพท์
00:19:09 → 00:19:11 ผมมันสุดต่อจังเลยนะครับถ้าอยากลดความ
00:19:11 → 00:19:13 อ้วนไปถึงต้องตัดกระเพาะที่เลยหรอแต่ถ้า
00:19:13 → 00:19:16 บอกว่าตอนตอนแรกนะครับของการผ่าตัดแบบนี้
00:19:16 → 00:19:18 นะครับที่เรามาฉายเนี่ยขึ้นมาใช้ผู้ป่วย
00:19:18 → 00:19:21 ที่มีภาวะอ้วนกับอ้วนมากๆจริงนะครับก็คือ
00:19:21 → 00:19:23 เช่นอ้วนแบบ 250 กิโลกรัมประมาณนี้นะครับ
00:19:23 → 00:19:26 แล้วก็ไม่สามารถที่ลดความอ้วนได้คือลอง
00:19:26 → 00:19:29 ทุกวิธีทางแล้วนะก็ไม่สามารถลดได้เราคือ
00:19:29 → 00:19:31 ว่าอ้วนจะนึกว่าเสียงที่จะเสียชีวิตได้
00:19:31 → 00:19:35 ง่ายๆจะนี่ก็เลยบอกว่าอ๋อในเมื่อโลกมัน
00:19:35 → 00:19:37 รุนแรนะครับการรักษาแบบสุดโต่งแบบนี้
00:19:37 → 00:19:39 เนี่ยมันก็เลยจำเป็นเพราะว่ามันไม่มีทาง
00:19:39 → 00:19:41 เลือกอื่นแล้วการตัดกระเพาะมือเที่ยวกับ
00:19:41 → 00:19:43 การเสียชีวิตในการต่างกระเพาะจะฟังดูแรง
00:19:43 → 00:19:46 ร้ายร้อยกว่าปรากฏว่านะครับการรักษาแบบ
00:19:46 → 00:19:49 นี้มันได้ผลดีมากนะครับก็คือผู้ป่วย
00:19:49 → 00:19:52 สามารถลดความอ้วนได้อย่างรวดเร็วเราที่
00:19:52 → 00:19:54 น่าสนใจก็คือว่าผู้ป่วยที่อ้วนแล้วเนี่ย
00:19:54 → 00:19:57 ตายควรจะมีโรคเบาหวานอยู่ด้วยป่ะก่อนว่า
00:19:57 → 00:20:00 โรคเบาหวานหลายคนดีขึ้นจึงแต่บางคนเรียก
00:20:00 → 00:20:03 ว่าหายขาดได้เลยก็ยังมีที่นี่มันก็เลยมี
00:20:03 → 00:20:05 คนสนใจนะครับมีนักวิทยาศาสตร์บ่เนี่ยตั้ง
00:20:05 → 00:20:08 คำถามว่าจริงๆเนี่ยกวนไก่เนี่ยมันคงไม่
00:20:08 → 00:20:09 ใช่แค่เรื่องการตัดกระเพาะอาหารแล้วมี
00:20:09 → 00:20:13 ขนาดเล็กลงผู้ป่วยในถึงได้ผอมลงแล้วใน
00:20:13 → 00:20:14 ช่วงเวลาไล่เลี่ยกันเนี่ยนะครับก็มีการ
00:20:14 → 00:20:17 ค้นพบแล้วก็เข้าใจเดียวกันทำงานของตัว
00:20:17 → 00:20:19 เปียกต่อฮอร์โมนนะครับในระบบทางเดินอาหาร
00:20:19 → 00:20:22 ได้มากขึ้นก็คือคนเพราะว่าตัวกระเพาะ
00:20:22 → 00:20:25 อาหารและลำไส้เล็กเนี่ยมันสามารถสร้างคอม
00:20:25 → 00:20:27 โอนมาที่หลายชนิดนะครับและเป็นฮอร์โมนที่
00:20:27 → 00:20:30 เกี่ยวข้องกับระบบเผาผลาญพลังงานด้วยก็
00:20:30 → 00:20:32 คือเกี่ยวข้องกับความอ้วนนี่เองเช่น
00:20:32 → 00:20:34 ฮอร์โมนที่ชื่อว่าเกรลินนะครับหรือว่า
00:20:34 → 00:20:37 เพ็ชรทายวายหรือว่าจะเอากี่วันนะครับคะก็
00:20:37 → 00:20:40 ไลค์กับพายวันนั้นซึ่งออกถ้าใครไม่คุ้น
00:20:40 → 00:20:42 เคยมาสนใจไม่ต้องจำชื่อก็ได้นะครับวัน
00:20:42 → 00:20:44 หน้าจอที่เราคุยเรื่องของ Hormone ที่
00:20:44 → 00:20:46 เกี่ยวข้องกับความผิวความอิ่มนะครับแล้ว
00:20:46 → 00:20:48 คุยเรื่องของความอ้วนเนี่ยเรื่องของระบบ
00:20:48 → 00:20:51 เมตาบอริซึ่มเนี่ยผมจะเราพูดให้ฟังอีกที
00:20:51 → 00:20:54 นะครับจะประเด็นก็คือว่าคนที่รับการผ่า
00:20:54 → 00:20:56 ตัดกระเพาะอาหารเนี่ยเมื่อเข้ามาตรวจพอ
00:20:56 → 00:20:57 มันพรุ่งนี้ดูเนี่ยเพราะว่ามีการเปลี่ยน
00:20:57 → 00:21:00 แปลงของ Hormone ในหลายอย่างเราที่น่าก็
00:21:00 → 00:21:02 ได้ยังไม่หมดการท่านนะครับเพราะว่าต่อมา
00:21:02 → 00:21:05 เนี่ยมีการค้นพบด้วยว่าแบคทีเรียในลำไส้
00:21:05 → 00:21:07 ใหญ่ของคนที่เราการผ่าตัดต่อรักษาความ
00:21:07 → 00:21:09 อ้วนด้วยนะคะว่าที่เรียกว่าใบอย่างชัด
00:21:09 → 00:21:12 ชวี่เนี่ยมีการเปลี่ยนแปลงของแบคทีเรียดี
00:21:12 → 00:21:15 ในลำไส้ใหญ่ด้วยโดยเพราะว่าจะมีแบคทีเรีย
00:21:15 → 00:21:17 ที่ชื่อว่าแอคเคอร์แมนเซียมิวสิคัลเพิ่ม
00:21:17 → 00:21:21 ขึ้นซึ่งจะช่วยตัวนี้น่าสนใจเพราะว่าเป็น
00:21:21 → 00:21:24 ที่รู้กันนะครับว่าในคนอ้วนเดี๋ยวจะมีแบต
00:21:24 → 00:21:26 เตรียมตัวน้อยและเป็นแบบทเวที่สัมพันธ์
00:21:26 → 00:21:30 กับความผอมนอกเหนือจากนี้นะครับไปช่วยตัว
00:21:30 → 00:21:32 นี้เนี่ยก็ยังรู้ได้ว่าเป็นไปทุเรียนที่
00:21:32 → 00:21:34 ทำให้เมือกที่อยู่ภายในลำไส้เนี่ยมันแข็ง
00:21:34 → 00:21:37 แรงนะครับหรือว่ามันมีปริมาณมากขึ้นแล้ว
00:21:37 → 00:21:39 การเมืองเป็นข้อดีเพราะมันจะช่วยลดการ
00:21:39 → 00:21:42 อักเสบที่เกิดขึ้นภายในลำไส้ด้วยซึ่ง
00:21:42 → 00:21:44 เดี๋ยวจะเล่ารายละเอียดให้ฟังนะคะว่ากัน
00:21:44 → 00:21:47 เซรั่มใช้ในคืออะไรดังนั้นนะครับการที่
00:21:47 → 00:21:50 ผู้ป่วยหลังผ่าตัดเนี่ยสามารถลดความอ้วน
00:21:50 → 00:21:52 ได้อย่างรวดเร็วนะครับแล้วก็โรคเบาหวาน
00:21:52 → 00:21:54 ได้ดีขึ้นอย่างมากเนี่ยอาจจะไม่ได้เกิด
00:21:54 → 00:21:56 จากการที่กระเพาะเล็กลงแล้วกินน้อยลงแต่
00:21:56 → 00:21:58 เพียงอย่างเดียวแต่เกิดมาจากการเปลี่ยน
00:21:58 → 00:22:01 แปลงของ Hormone แล้วก็แตกคิวยาที่นี่อ่อ
00:22:01 → 00:22:04 อยู่ในภายในลำไส้หรือร่วมด้วยแล้วคำว่า
00:22:04 → 00:22:06 เหล่านี้นะครับก็คือการค้นพบเหล่านี้มัน
00:22:06 → 00:22:09 เป็นข้อมูลนะครับที่ทำให้นักเรียนศาสตร์
00:22:09 → 00:22:11 เนี่ยแล้วก็หมอเนี่ยเริ่มหันมาสนใจ
00:22:11 → 00:22:14 แบคทีเรียในลำไส้มากขึ้นและเชื่อว่าไปเท
00:22:14 → 00:22:16 น้ำไส้เนี่ยมันน่าจะสัมพันธ์แล้วก็เกี่ยว
00:22:16 → 00:22:18 ข้องกับโรคเบาหวานเนี่ยค่อนข้างมากจะนี่
00:22:18 → 00:22:20 พอแล้วเหมือนตรงนี้นะครับก็เชื่อว่าน่าจะ
00:22:20 → 00:22:22 พอเห็นภาพแล้วนะครับว่าเพราะเบาหวานหน้า
00:22:22 → 00:22:24 ที่แต่เดิมมองว่าเป็นโรคของอินซูลินนะคะ
00:22:24 → 00:22:27 หมดหรือว่าเป็นโรคของตับอ่อนเนี่ยอ๋อได้
00:22:27 → 00:22:29 รับความสนใจว่าเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับลำ
00:22:29 → 00:22:31 ไส้ใหญ่หรือแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในลำไส้
00:22:31 → 00:22:34 ใหญ่ได้ยังไงคราวนี้นะครับเราจะลองมาดู
00:22:34 → 00:22:36 กันดับเข้าๆนะครับว่าแบตใครที่อยู่ในลำ
00:22:36 → 00:22:38 ไส้ใหญ่เนี่ยมันไปเกี่ยวข้องกับโรคเบา
00:22:38 → 00:22:41 หวานได้ยังไงคือเราจะมาคุยกันเรื่องของคน
00:22:41 → 00:22:43 ไกลนะครับว่าแบคทีเรียเราเนี้ยมันไปทำ
00:22:43 → 00:22:45 อะไรนะครับที่ทำให้เบาหวานของผู้ป่วย
00:22:45 → 00:22:50 เนี่ยมันดีขึ้นหรือว่าแย่ลง
00:22:50 → 00:22:53 ที่นี่คำอธิบายนะครับว่าแบคทีเรียในลำไส้
00:22:53 → 00:22:55 ใหญ่เนี่ยมันไปเกี่ยวข้องกับโรคเบาหวาน
00:22:55 → 00:22:57 ได้ยังไงนะครับก็เหมาะก่อนเลยนะคะว่ากลไก
00:22:57 → 00:23:00 ของเรื่องมันข้างซับซ้อนนะครับณปัจจุบัน
00:23:00 → 00:23:02 แต่ปัจจุบันในล็อคก็ยังไม่ได้เข้าใจคนใจ
00:23:02 → 00:23:04 ของมาทั้งหมดนะครับแต่ในการที่จะเล่าให้
00:23:04 → 00:23:06 ฟังหน่อยจริงๆต้องการที่จะเล่าลงเลยทุก
00:23:06 → 00:23:08 รายละเอียดนะครับแล้วก็ไม่ได้อยากจะให้จำ
00:23:08 → 00:23:10 ชื่อพวกไปเที่ยงต่างๆได้มากมายด้วยนะครับ
00:23:10 → 00:23:13 แต่เป้าหมายหลักจริงๆคืออยากจะให้เหมือน
00:23:13 → 00:23:15 กับพอจะนึกภาพออกนะครับคือเวลาได้ยินว่า
00:23:15 → 00:23:17 แบคทีเรียในลำไส้มันเกี่ยวข้องกับโรคเบา
00:23:17 → 00:23:20 หวานเนี้ยสามารถที่จะจะโยงได้ว่าจะไป
00:23:20 → 00:23:23 เที่ยวในลำไส้เนี่ยมันไปเกี่ยวข้องกับโรค
00:23:23 → 00:23:25 เบาหวานได้ยังไงเพราะผมเชื่อว่าถ้าเรา
00:23:25 → 00:23:28 สามารถนึกภาพออกนะครับว่าขอกลไกต่างๆมัน
00:23:28 → 00:23:30 เป็นยังไงนะครับคือแค่หนึ่งออกเค้าๆนะ
00:23:30 → 00:23:32 ครับหรือพอจะมีสร้างภาพข้อในหัวได้เจตนา
00:23:32 → 00:23:34 การขึ้นมาได้เนี่ยมันจะเป็นแรงจูงใจอย่าง
00:23:34 → 00:23:37 ดีนะครับที่ทำให้เราอยากจะดูแลสุขภาพมาก
00:23:37 → 00:23:40 ขึ้นแต่ถ้าเราไม่คุ้นเคยกับเรื่องอะไรสัก
00:23:40 → 00:23:41 อย่างนะคะหรือว่าไม่สบายจะนึกภาพด้วยนั้น
00:23:41 → 00:23:44 ออกได้เนี่ยเราจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่
00:23:44 → 00:23:46 ใครตัวนะครับเราจะไม่ค่อยสนใจมากเท่าไหร่
00:23:46 → 00:23:49 โอเคมาดูนะครับว่าแบตเตอรี่นำไส้เนี่ยมัน
00:23:49 → 00:23:51 เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานได้อย่างไรอย่าง
00:23:51 → 00:23:53 ที่เราไปในเกาะหน้านะครับว่าในช่วงแรกๆ
00:23:53 → 00:23:55 ที่มีการศึกษาเกี่ยวกับไปช่วยนำไส้ของคน
00:23:55 → 00:23:57 ที่เป็นเบาหวานกับคนที่ไม่เป็นเบาหวาน
00:23:57 → 00:24:00 เนี่ยเพราะว่าแบบนิด TV นะหน้าที่ของคน
00:24:00 → 00:24:03 สองกลุ่มนี้มีความต่างกันคือมันจะมี
00:24:03 → 00:24:05 แบคทีเรียบางชนิดลดลงและที่น่าสนใจก็คือ
00:24:05 → 00:24:08 แบคทีเรียพวกที่ลดลงเนี่ยเป็น 8 ธุระที่
00:24:08 → 00:24:11 สามารถสร้างสารเคมีตัวนึงนะครับที่มีชื่อ
00:24:11 → 00:24:15 ว่าวิวทะเลใต้ที่นี้เราก็เลยต้องมาคุยสัก
00:24:15 → 00:24:17 หน่อยนะคะว่าสาร betta เลตที่ว่าเนี่ยมัน
00:24:17 → 00:24:20 คืออะไรจากที่เราคุยกันมาก่อนๆหน้านะครับ
00:24:20 → 00:24:23 เรารู้กันว่านะครับเราคุยกันว่าแบบช่วยนำ
00:24:23 → 00:24:25 สายของเราเนี่ยมันทำหน้าที่หลายอย่างด้วย
00:24:25 → 00:24:28 กันและหนึ่งในสิ่งสิ่งสำคัญนะครับหัวหน้า
00:24:28 → 00:24:32 ที่สำคัญที่ไปช่วยในลำไส้ใหญ่ทำคือมันจะ
00:24:32 → 00:24:34 ช่วยย่อยพวกใหญ่อาหารที่เรากินเข้าไปแล้ว
00:24:34 → 00:24:36 เนี่ยแต่ร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถย่อย
00:24:36 → 00:24:39 ได้ก็คือน้ำย่อยของเราหรือว่าเอนไซม์ของ
00:24:39 → 00:24:42 เราเนี่ยไม่สามารถที่จะย่อยพวกใยอาหารผู้
00:24:42 → 00:24:44 นั้นได้แต่แบคทีเรียพวกนี้เนี่ยมันจะ
00:24:44 → 00:24:46 สามารถย่อยได้จึงจะเข้าไปย่อยเนี่ยหมาย
00:24:46 → 00:24:49 ถึงว่ามันจะเลขให้ถูกมาใช้เพื่อการบักมาก
00:24:49 → 00:24:52 กว่านะครับว่าเป็นคนกายของการหมักแล้ว
00:24:52 → 00:24:54 เมื่อมันหมักใยอาหารที่เราย่อยไม่ได้
00:24:54 → 00:24:58 เนี่ยมันก็จะมีการสร้างสารเคมีออกมาสาร
00:24:58 → 00:25:00 เคมีพวกนี้นะครับมันก็จะเป็นสารก็สามารถ
00:25:00 → 00:25:03 ติดไม่มีผลนะครับต่อระบบเผาผลาญของร่าง
00:25:03 → 00:25:05 กายมนุษย์นะครับและระบบเมตาบอไนเซอร์มนะ
00:25:05 → 00:25:07 ครับเราก็เลยเลือกสารเคมีเหล่านี้ว่าเป็น
00:25:07 → 00:25:10 พวกเมตาโบไลท์นะครับที่นี่ศาลไม่จะมาหลาย
00:25:10 → 00:25:13 เนี่ยพอมันพาไปเที่ยวมันสร้างออกมาเนี่ย
00:25:13 → 00:25:15 นำใช่เราก็จะสามารถดูดซึมเข้าไปได้นะครับ
00:25:15 → 00:25:17 แล้วก็จะเข้าไปสู่กระแสเลือดแล้วก็ไหล
00:25:17 → 00:25:20 เวียนไปทั่วร่างกายของเราแล้วก็ไปมีผลต่อ
00:25:20 → 00:25:24 ขอร่างกายเนี่ยตอนไปทุกส่วนของร่างกายได้
00:25:24 → 00:25:27 เต็มไปหมดนะครับที่นี่ในกลุ่มของพวกสาร
00:25:27 → 00:25:29 ไม่เอาอะไรเนี่ยที่สร้างขึ้นมาเนี่ยมันจะ
00:25:29 → 00:25:31 มีสารทุกกลุ่มหนึ่งซึ่งค่อนข้างเด่นและก็
00:25:31 → 00:25:35 สำคัญเป็นพิเศษเราจะเรียกสารกลุ่มนี้รวมๆ
00:25:35 → 00:25:38 ว่าเป็นกรดไขมันสายสั้นซึ่งก็คือมาจาก
00:25:38 → 00:25:41 ชื่อในภาษาอังกฤษว่าช็อตเชน CR เศษนะครับ
00:25:41 → 00:25:43 ชอบเชนคือสายสั้นนะครับไฟล์เดียวเสร็จ
00:25:43 → 00:25:46 เข้าไปตรงตัวก็คือกรดไขมันแล้วในสารกลุ่ม
00:25:46 → 00:25:49 นี้นะครับสารที่เราเป็นกฎใครมาใส่สั้นเรา
00:25:49 → 00:25:53 นี่มันจะมีตัวหลักๆนะครับอยู่ 3 ตัวด้วย
00:25:53 → 00:25:54 กันนะครับหรือสารที่ดี 3 ตัวด้วยกันที่
00:25:54 → 00:25:57 เราสนใจและก็ศึกษากันมากเป็นพิเศษก็คือ
00:25:57 → 00:26:00 สารที่มีชื่อว่าบิลล์ไทยเรดนะครับข้อที่
00:26:00 → 00:26:02 สองชื่อว่าพอเพียวนะตัวที่ 3 ในชื่อว่า
00:26:02 → 00:26:05 ศิษย์เอดส์ซึ่งทั้ง 3 ตัวเนี่ยค่อนข้าง
00:26:05 → 00:26:08 สำคัญนะครับแล้วก็คิดว่าถ้าจำได้นะครับ
00:26:08 → 00:26:11 คณะจำนะครับหรือว่าฟังให้คุณหัวไว้นะครับ
00:26:11 → 00:26:13 เพราะคิดว่าในอนาคตนี้อาจจะมีโอกาสที่จะ
00:26:13 → 00:26:16 ได้ยินชื่อของสัน 3 ตัวนี้บ่อยคือได้
00:26:16 → 00:26:18 เรื่อยๆนะครับแต่ตัวที่เราจะพูดถึงกันใน
00:26:18 → 00:26:20 ตอนนี้นะครับแล้วก็ค่อนข้างเด่นพิเศษในก็
00:26:20 → 00:26:24 คือตัวที่ชื่อว่าวิวทะเลนะครับโดยที่เรา
00:26:24 → 00:26:26 พบว่าอย่างที่คุยไปเกาะหน้าก็คือว่าคนที่
00:26:26 → 00:26:28 ป่วยเป็นเบาหวานเนี่ยลำไส้ของเขาในจะมี
00:26:28 → 00:26:31 แบคทีเรียที่สร้างพวกปีทะเลเนี้ยได้น้อย
00:26:31 → 00:26:33 ลงและบิลเท่านั้นไม่มีหน้าที่สำคัญในร่าง
00:26:33 → 00:26:36 กายของเราขอเยอะมากนะครับหลายระบบด้วยกัน
00:26:36 → 00:26:38 นะครับไม่เฉพาะแค่เรื่องของโรคความอ้วน
00:26:38 → 00:26:40 แล้วก็รบเป่าหวานนะครับแต่ตอนนี้เราจะ
00:26:40 → 00:26:43 โฟกัสกันที่เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับโรคเบา
00:26:43 → 00:26:49 หวานชนิดที่ 2 ก่อนนะครับ
00:26:49 → 00:26:51 อย่างแรกสุดเลยนะครับก็คือว่าบิลล์
00:26:51 → 00:26:53 เทเวศร์เมื่อมันเข้าไปในกระแสเลือดของเรา
00:26:53 → 00:26:56 เนี่ยมันสามารถที่จะออกฤทธิ์ที่เซลล์ที่
00:26:56 → 00:26:58 สร้างอินซูลินที่ตับอ่อนโดยตรงเลยนะครับ
00:26:58 → 00:27:01 ก็คือตัวเบต้าเซลล์เหมาะสำหรับผลการเนี่ย
00:27:01 → 00:27:03 เรายังไม่เข้าใจมันทั้งหมดนะครับแล้วยัง
00:27:03 → 00:27:05 ไม่เข้าใจชัดเจนว่ามันทำอะไรนะครับแต่
00:27:05 → 00:27:07 เหมือนว่ามันไปช่วยป้องกันตรวจเบต้าเซลล์
00:27:07 → 00:27:10 นะครับแล้วก็ทำให้การหลังทุเรียนของเบตา
00:27:10 → 00:27:12 เซลล์แล้วมันดีขึ้นนอกเหนือจากนั้นนะครับ
00:27:12 → 00:27:15 ตัววิวทะเลเนี่ยก็ยังช่วยเรื่องของภาวะ
00:27:15 → 00:27:17 ดื้ออินซูลินด้วยนะครับเธอทำให้ภาวะ this
00:27:17 → 00:27:21 tradition ดีขึ้นซึ่งก็ทำให้โรคเบาหวาน
00:27:21 → 00:27:24 ชนิดที่ 2 ดีขึ้นส่วนคนไกลว่ามันทำให้
00:27:24 → 00:27:26 ภาวะดื้ออินสุลินเนี่ยมันดีขึ้นได้ยังไง
00:27:26 → 00:27:28 เนี่ยต้องบอกว่ามันมีหลายวิธีด้วยกันเลย
00:27:28 → 00:27:31 นะครับรายการกันด้วยกันตัวอย่างเช่นมัน
00:27:31 → 00:27:33 สามารถที่จะไปออกฤทธิ์ที่เซลล์ต่างๆโดย
00:27:33 → 00:27:35 ตรงนะครับเช่นเซลล์กล้ามเนื้อเซลล์ตับ
00:27:35 → 00:27:37 เซลล์ไขมันทำให้เซลล์เหล่านี้สิ่งดื้อต่อ
00:27:37 → 00:27:39 อินซูลินเนี่ยสามารถที่จะตอบสนองต่อ
00:27:39 → 00:27:42 อินซูลินดีขึ้นก็คือดื้อน้อยลงนะครับตอบ
00:27:42 → 00:27:45 ต้องเองสุรินทร์ดีขึ้นหรือว่าอีกวิธีคือ
00:27:45 → 00:27:47 ว่าโตวิวทะเลเนี่ยมันสามารถที่จะเป็นลด
00:27:47 → 00:27:50 การอักเสบในเลือดได้ซึ่งอย่างที่เราเคย
00:27:50 → 00:27:52 คุยกันไปก่อนหน้าว่าการอักเสบเดี๋ยวมัน
00:27:52 → 00:27:55 เป็นปัจจัยสำคัญอันนึงนะครับเป็นสาเหตุ
00:27:55 → 00:27:56 หนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะดื้ออินสุลินขึ้นมา
00:27:56 → 00:28:00 ได้เมื่อบิลเทเลทมันป.ล The Sunset ใน
00:28:00 → 00:28:03 เลือดก็คือมันก็ได้ช่วยให้ภาวะดื้ออินสุ
00:28:03 → 00:28:05 ลินเนี่ยมันดีขึ้นด้วยอีกวิธีนึงนะครับ
00:28:05 → 00:28:08 ที่วิวทะเลมันลดการอักเสบเนี่ยก็คือมันไป
00:28:08 → 00:28:10 ช่วยลดภาวะที่เรียกว่าภาวะลำไส้รั่วนะ
00:28:10 → 00:28:13 ครับหรือเรียกว่าเล็กกี้กัดนะครับซึ่งพอ
00:28:13 → 00:28:15 เล็กพิกัดในมันรู้ว่าเพราะเราช่วยรวดเร็ว
00:28:15 → 00:28:17 มันสามารถนำไปสู่ภาวะการเกษตรในเลือดได้
00:28:17 → 00:28:20 ที่นี่ภาวะลำไส้รั่วในคืออะไรนะครับ
00:28:20 → 00:28:22 เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังนะครับขอติดไว้ตรง
00:28:22 → 00:28:24 นี้ได้ดึงเอาเป็นว่ามันสามารถทำให้เพราะ
00:28:24 → 00:28:26 ลำไส้รั่วในดีขึ้นซึ่งภาวะลำไส้ด้วยเนี่ย
00:28:26 → 00:28:30 เป็นสาเหตุของการอักเสบขอของเลือดด้วยที่
00:28:30 → 00:28:33 อยากจะคุยก่อนก็คือว่ามันมีนัก
00:28:33 → 00:28:35 วิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งนะครับที่มองว่าถ้า
00:28:35 → 00:28:37 คนเป็นเบาหวานเนี่ยมีแบคทีเรียที่สร้างดู
00:28:37 → 00:28:41 เทรดได้ลดลงถ้าอย่างนั้นเรานำแบคทีเรีย
00:28:41 → 00:28:44 ที่สร้าง be too late ได้เนี่ยจากคนที่
00:28:44 → 00:28:46 ไม่เป็นเบาหวานมาใส่ในคนที่เป็นโรคเบา
00:28:46 → 00:28:49 หวานเนี่ยมันจะช่วยไหมซึ่งเขาก็ได้ทำการ
00:28:49 → 00:28:51 ทดลองเล็กๆนะครับก็การเท่าไหร่ที่ว่ามาดู
00:28:51 → 00:28:53 ว่ามีผู้ป่วยไม่กี่คนนะครับแล้วก็พบว่า
00:28:53 → 00:28:57 มันทำให้ภาวะดื้ออินสุลินได้ดีขึ้นซึ่งทำ
00:28:57 → 00:29:00 ให้เห็นว่าในอนาคตเนี่ยเรื่องของการรักษา
00:29:00 → 00:29:02 คือเรื่องของจุลินทรีย์นะครับภาษาที่ตัว
00:29:02 → 00:29:04 ไปเคลียร์ที่ในลำไส้เนี่ยมันจะเป็นวิธี
00:29:04 → 00:29:07 การรักษาไม่ไหวต่อไปในอนาคตนะครับก็คง
00:29:07 → 00:29:09 ต้องติดตามดูกันต่อไปโอเคแค่นี้ผมจะ
00:29:09 → 00:29:12 อธิบายเรื่องของภาวะลำไส้รั่วกันนิดนึงนะ
00:29:12 → 00:29:14 ครับว่าภาวะลำไส้รั่วเนี่ยมันคืออะไรนะ
00:29:14 → 00:29:16 ครับรับวิวทะเลเนี่ยมันไปเกี่ยวข้องได้
00:29:16 → 00:29:20 ยังไง
00:29:20 → 00:29:23 ขอเริ่มต้นเนี่ยต้องเข้าใจก่อนว่าตัวผนัง
00:29:23 → 00:29:26 ลำไส้เนี่ยมันทำหน้าที่ดูดซึมสารอาหาร
00:29:26 → 00:29:28 ต่างๆเนี่ยเข้าเป็นกระแสเลือดโอไหมครับ
00:29:28 → 00:29:31 ดังนั้นมันก็เลยต้องเหมือนกับมีช่องว่าง
00:29:31 → 00:29:34 ที่ทำให้พวกโมเลกุลต่างๆนะครับพวกสารหา
00:29:34 → 00:29:36 หน้าตาในสามารถจะทะลุผนังลำไส้เล็กเข้าไป
00:29:36 → 00:29:39 ในเส้นเลือดได้จากขณะเดียวกันโตผนังลำไส้
00:29:39 → 00:29:41 ในมันก็ต้องคอยควบคุมไม่ให้เสียงแปลกปลอม
00:29:41 → 00:29:44 หรือว่าสิ่งมีพิษรวมไปถึงพวกออกเจริญที่
00:29:44 → 00:29:46 ต่างๆแล้วจะเริ่มตายเนี้ยผ่านเข้าไปได้
00:29:46 → 00:29:49 ด้วยหรือพูดง่ายๆก็คือว่าตัวผนังลำไส้ใน
00:29:49 → 00:29:51 มันต้องทำหน้าที่คอยเลือกนะครับแล้วทำ
00:29:51 → 00:29:53 หน้าที่เหมือนเป็นปที่ควบคุมชายแดนเนี่ย
00:29:53 → 00:29:56 ว่าใครเนี่ยควรจะเข้าใครที่ไม่ควรจะเข้า
00:29:56 → 00:29:59 ซึ่งหน้าที่นี้สำคัญมากเพราะมันเหมือนก็
00:29:59 → 00:30:01 เป็นดาบหน้าอันนี้ต้องเหนื่อยจากนั้นนะ
00:30:01 → 00:30:03 ครับด้วยความที่ตัวผนังลำไส้เนี่ยเหมือน
00:30:03 → 00:30:06 กับที่ว่าไปก็เป็นฐานหน้าบ้างก็จะมีเซลล์
00:30:06 → 00:30:08 ในระบบภูมิคุ้มกันเนี่ยเข้าไปอาศัยอยู่
00:30:08 → 00:30:11 มากมายนะครับเราถ้ามันมีสิ่งที่ไม่อยาก
00:30:11 → 00:30:14 ไม่ควรผ่านสามารถทะลุผนังลำไส้เข้ามาได้
00:30:14 → 00:30:16 เนี่ยเซลล์ภูมิคุ้มกันเหล่านี้มันก็จะ
00:30:16 → 00:30:18 เข้าไปโจมตีนะครับก็คือเข้าไปป้องกัน
00:30:18 → 00:30:20 เพื่อให้สิ่งเหล่านั้นเนี่ยสามารถที่จะ
00:30:20 → 00:30:23 เข้ากระแสเลือดไปได้ที่นี่การโจมตีของ
00:30:23 → 00:30:26 เซลล์ระบบภูมิคุ้มกันเนี่ยมันก็คือภาวะ
00:30:26 → 00:30:28 การอักเสบถูกไหมครับที่เราเคยคุยกันไปตอน
00:30:28 → 00:30:31 ที่เราคุยเรื่องของระบบภูมิคุ้มกันถ้าใคร
00:30:31 → 00:30:32 ยังไม่เคยฟังในสามารถย้อนกลับไปฟังได้นะ
00:30:32 → 00:30:35 ครับเราจะทำให้เข้าใจตรงนี้มากขึ้นแล้วก็
00:30:35 → 00:30:37 เกษตรที่เกิดขึ้นนะครับก็จะมีการสร้างพวก
00:30:37 → 00:30:40 สารอักเสบหน้าตาเนี่ยออกมาคราวนี้นะคะมัน
00:30:40 → 00:30:42 จะมีบางครั้งนะครับที่จบอย่างลำไส้เหมือน
00:30:42 → 00:30:44 กับเปิดกว้างขึ้นนะครับก็คือมันก็ปล่อย
00:30:44 → 00:30:46 ให้สิ่งต่างๆนั้นสามารถหลุดรอดเข้ามาได้
00:30:46 → 00:30:50 มากเกินไปซึ่งภาวะเนี่ยภาษาไทยเนี่ยเรา
00:30:50 → 00:30:52 เรียกว่าเป็นภาวะลำไส้รั่วนะครับสังเกตก็
00:30:52 → 00:30:55 จะชักวันเลขพิกัดนะครับคำถามคือว่าว่า
00:30:55 → 00:30:57 อะไรบ้างที่ทำให้เกิดภาวะลำไส้รั่วเกิด
00:30:57 → 00:31:01 ขึ้นได้นะครับอย่านี้นะครับส่วนนึงเดี๋ยว
00:31:01 → 00:31:02 จะบอกว่ามันเป็นเรื่องของพันธุกรรมก็คือ
00:31:02 → 00:31:05 ว่าคนบางคนเนี่ยมีความเสี่ยงที่จะเกิด
00:31:05 → 00:31:07 ภาวะลำไส้รั่วในได้มากคนอื่นคือมาถึงว่า
00:31:07 → 00:31:09 ถ้ามีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องเนี่ย
00:31:09 → 00:31:13 คนคนนั้นก็มีโอกาสจะเป็นเมาคนอื่นต่อ
00:31:13 → 00:31:14 เนื่องจากนั้นนะครับก็จะเป็นเรื่องของ
00:31:14 → 00:31:16 ปัจจัยภายนอกคนอื่นนะครับซึ่งก็เป็นส่วน
00:31:16 → 00:31:18 ใหญ่ที่เราคุ้นเคยดีว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี
00:31:18 → 00:31:22 กับร่างกายนะครับเช่นการกินอาหารที่มีใย
00:31:22 → 00:31:24 อาหารน้อยนะครับหรือว่าชิ้นงานที่มีน้ำ
00:31:24 → 00:31:26 ตาลสูงมีใครมาดิ้นตัวสูงพูดเนี้ยทำให้
00:31:26 → 00:31:29 เกิดว่าลำไส้รั่วในได้ง่ายเพราะว่าความ
00:31:29 → 00:31:32 เครียดทางจิตใจนะครับก็ทำให้กันเกิดได้นะ
00:31:32 → 00:31:34 ครับหรือว่าการดื่มพวกอัลกอฮอล์นะครับ
00:31:34 → 00:31:36 เรื่องเล่าเยอะๆเนี่ยก็มีผลให้เกิดภาวะ
00:31:36 → 00:31:39 นี้ได้จะได้คำถามว่าคือว่าเมื่อเกิดภาวะ
00:31:39 → 00:31:42 ลำไส้รั่วเนี่ยมันจะเกิดผลอะไรตามมาสิ่ง
00:31:42 → 00:31:46 ที่เกิดขึ้นก็คือว่า of เมื่อมีของที่ไม่
00:31:46 → 00:31:48 ควรจะเข้าเนื้อเข้าไปได้มากเนี่ยจะพบกัน
00:31:48 → 00:31:51 ก็จะต้องทำหน้าติดต่อสู้เยอะขึ้นมันก็
00:31:51 → 00:31:54 เกิดภาวะการอักเสบมากขึ้นที่นี่การเกษตร
00:31:54 → 00:31:56 ที่เกิดขึ้นเนี่ยมันเกิดขึ้นภายในผนังของ
00:31:56 → 00:31:59 ลำไส้นะครับก็คือพูดง่ายขึ้นผนังลำไส้ใน
00:31:59 → 00:32:01 วันนี้การเกษตรมากแม้แต่การอักเสบเดี๋ยว
00:32:01 → 00:32:04 มันไม่ได้จำกัดอยู่แค่ที่ผนังลำไส้เท่า
00:32:04 → 00:32:06 นั้นเพราะสารเกษตรที่สร้างขึ้นมามากมาย
00:32:06 → 00:32:09 เนี่ยมาสามารถที่จะเข้าไปในกระแสเลือดได้
00:32:09 → 00:32:11 และเมื่อมันเข้าไปในกระแสเลือดเนี่ยมันก็
00:32:11 → 00:32:14 จะมาที่จะขอเดินทางต่อตามกระแสเลื่อนและ
00:32:14 → 00:32:16 กระจายไปทั่วร่างกายได้และเมื่อภาวะการ
00:32:16 → 00:32:18 เกษตรในเมืองกระจายไปที่ส่วนอื่นของร่าง
00:32:18 → 00:32:21 กายนะครับอาทิคิดว่าต่างๆมันก็สามารถ
00:32:21 → 00:32:24 เพิ่มความเสี่ยงของโรคหลายๆโลกนะครับที่
00:32:24 → 00:32:26 เราเคยคุยกันไปแล้วนะครับที่เราคุยเรื่อง
00:32:26 → 00:32:28 ของระบบภูมิคุ้มกันซึ่งก็รวมไปถึงเรื่อง
00:32:28 → 00:32:31 ของโรคเบาหวานและภาวะเดือนทุเรียนที่เรา
00:32:31 → 00:32:33 คุยกันอยู่นี่ด้วยที่นี่ปลดบาทของบิว
00:32:33 → 00:32:35 เทเวศร์นะครับที่ใบเคลียร์สร้างขึ้นมา
00:32:35 → 00:32:40 เนี่ยมันมาช่วยตรงนี้ยังไง
00:32:40 → 00:32:43 เดี๋ยวเฉลยนี้นะครับมันจะช่วยทำให้ผนังลำ
00:32:43 → 00:32:46 ไส้ของเราเนี่ยมีการสร้างโปรตีนบางอย่าง
00:32:46 → 00:32:48 ขึ้นมาซึ่งโปรตีนที่สร้างขึ้นมาเนี่ยมัน
00:32:48 → 00:32:50 ปกติที่เหมือนกับคอยเชื่อมช่องว่าง
00:32:50 → 00:32:53 ระหว่างผนังลำไส้ด้วยจะพูดง่ายว่าตัว v
00:32:53 → 00:32:56 ทะเลแต่มันทำให้ขอท้าว่าลำไส้รั่วเนี่ย
00:32:56 → 00:32:58 มันดีขึ้นนะครับบ่อเล็กคุณต่างๆมันผ่าน
00:32:58 → 00:33:01 เข้าลำไส้เรียนได้อย่างดีขึ้นเมื่อภาวะลำ
00:33:01 → 00:33:03 ไส้รั่วมันดีขึ้นนะครับเพราะว่าการอักเสบ
00:33:03 → 00:33:06 เนี่ยมันก็จะลดลงด้วยและเมื่อภาวะการ
00:33:06 → 00:33:07 เกษตรที่ลำไส้ดีขึ้นนะครับเพราะว่าการ
00:33:07 → 00:33:10 เกษตรเลือดมันก็ดีขึ้นที่นี่พูดถึง
00:33:10 → 00:33:12 แบคทีเรียนะครับที่ช่วยเกี่ยวกับเรื่อง
00:33:12 → 00:33:14 ภาวะลำไส้รั่วเนี่ยมันก็ไม่อยู่หลายตัว
00:33:14 → 00:33:16 ด้วยกันนะครับก็เลยอยากจะพูดที่ให้ฟังนะ
00:33:16 → 00:33:18 ครับอย่างน้อยก็คือได้ยินสักครั้งนะครับ
00:33:18 → 00:33:20 หรือฟังผ่านๆหูไว้นะครับก็ไม่ได้ตั้งใจ
00:33:20 → 00:33:23 อยากจะให้จำนะครับตัวอย่างเช่นนะครับก็จะ
00:33:23 → 00:33:25 มีพวกต่อไปช่วยรักคุณที่ชื่อว่า Big C
00:33:25 → 00:33:27 doe แบบที่มีอะนะครับก็เนื่องจากนี้นะ
00:33:27 → 00:33:30 ครับก็จะมีตัวที่ชื่อว่า Sea คะรีบแบคที
00:33:30 → 00:33:33 เรียม Plus Vit C I นะครับหรือว่าขอ
00:33:33 → 00:33:36 โรสเบอรี่ erase นะครับซึ่งที่เรามีต้อง
00:33:36 → 00:33:39 บอกว่ามันเจอบ่อยนะครับก็คือเวลาถ้าเรา
00:33:39 → 00:33:41 อ่านเดียวพวกนี้นะครับเดี๋ยวฟังจะเริ่ม
00:33:41 → 00:33:43 พรุ่งนี้เราก็จะได้เห็นชื่อผู้ที่ออกมานะ
00:33:43 → 00:33:45 ครับน้องเดี๋ยวจากนี้ก็มีตัวนะครับก็คือ
00:33:45 → 00:33:48 ตัวอคาเมนเซียที่พูดไปนี่เมื่อกี้นะครับ
00:33:48 → 00:33:51 คืออคาเมนเซียมซีนี้ฟิล่านะครับซึ่งตัว
00:33:51 → 00:33:54 ชื่อของมันคำว่ามิวซินี่ฟิล่าเนี่ยคำว่า
00:33:54 → 00:33:56 มิลเส้นนี้ก็คือแปลว่าเมื่อนะครับฟิลล่า
00:33:56 → 00:33:59 ก็คือชอบเมือกคือแบบใช้ตัวนี้ไปกินเมือก
00:33:59 → 00:34:01 ได้นะครับผมมีเมือกที่เคลือบลำไส้อยู่
00:34:01 → 00:34:03 เนี่ยมันชัดต้นให้ลำไส้เราเนี่ยสร้าง
00:34:03 → 00:34:06 เมือกมากขึ้นและทำให้เมืองมันแข็งแกร่ง
00:34:06 → 00:34:08 ขึ้นที่นี่เมืองในมันดียังไงก็คือว่า
00:34:08 → 00:34:10 เมื่อมันทำหน้าที่เหมือนเป็นประการนะครับ
00:34:10 → 00:34:13 เป็นด่านป้องกันไม่ให้สิ่งต่างๆในสามารถ
00:34:13 → 00:34:16 ทะลุผ่านผนังลำไส้เหนื่อยง่ายขึ้นก็อย่าง
00:34:16 → 00:34:18 ที่ว่าไปนะครับก็คือถ้าใครที่ผ่านไปง่าย
00:34:18 → 00:34:20 ขึ้นก็จะก่อให้เกิดการอักเสบง่ายขึ้นโอเค
00:34:20 → 00:34:22 นะครับทั้งหมดนี้ก็ประมาณนี้นะครับกลไก
00:34:22 → 00:34:24 ต่างๆที่เราให้ฟังเนี่ยก็คืออยากจะให้
00:34:24 → 00:34:27 เห็นภาพคร่าวๆนะครับว่ามันเกี่ยวข้องกัน
00:34:27 → 00:34:29 ยังไงนะครับแล้วคิดว่าที่เราว่าทั้งหมด
00:34:29 → 00:34:31 นี้นะครับก็น่าจะพอให้เห็นภาพนะครับว่า
00:34:31 → 00:34:33 อย่างน้อยก็พอดีก่อนนะครับว่าไปช่วยในลำ
00:34:33 → 00:34:35 ไส้ของเราเนี่ยมันไปเกี่ยวโยงกับโรคเบา
00:34:35 → 00:34:38 หวานได้ยังไงนะครับที่นี่ก่อนจบนะครับ
00:34:38 → 00:34:40 เนื่องจากเราคุยกันมาค่อนข้างเยอะนะครับ
00:34:40 → 00:34:43 ก็อยากจะขอสรุปเป็นข้อให้ทีนะครับว่ามี
00:34:43 → 00:34:46 อะไรที่ที่น่าจะบ้างนะครับเค้ารักนะครับ
00:34:46 → 00:34:49 เรารู้จักกับโรคเบาหวานชนิดต่างๆนะครับก็
00:34:49 → 00:34:51 เห็นว่าวาฬชนิดเช่นเดิมแล้วก็ชนิดที่สอง
00:34:51 → 00:34:53 ในต่างกันยังไงนะครับกลไกของมาในคืออะไร
00:34:53 → 00:34:56 ข้อที่ 2 เราคุยไปนะครับว่าน้ำตาลในเลือด
00:34:56 → 00:34:59 ที่สูงเนี่ยมันไม่ดีกับร่างกายอะไรบ้างนะ
00:34:59 → 00:35:02 ครับมันต่อไปวายตาบอดหรือว่าต้องตัดขา
00:35:02 → 00:35:05 เนี่ยยังไงข้อที่ 3 นะครับเราคุยกันว่าไป
00:35:05 → 00:35:07 เคลียร์ในลำไส้เนี่ยมันเกี่ยวข้องกับโรค
00:35:07 → 00:35:10 เบาหวานได้ยังไงนะครับเช่นคนเบาหวานมี
00:35:10 → 00:35:12 แบคทีเรียในลำไส้ต่างไปจากคนที่ไม่ป่วย
00:35:12 → 00:35:15 เป็นโรคเบาหวานยังไงคนที่ผ่าตัดใบเจียร
00:35:15 → 00:35:17 เหล็ก surgery นะครับหรือผ่าตัดลดความ
00:35:17 → 00:35:19 อ้วนเนี่ยแล้วมันทำให้โรคเบาหวานได้ดี
00:35:19 → 00:35:22 ขึ้นได้ยังไงนะครับสำหรับข้อที่ 4 นะครับ
00:35:22 → 00:35:25 เราได้เห็นว่าคนใจของประเทศนำไส้เนี่ยมัน
00:35:25 → 00:35:27 ไปเกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานได้ยังไงโดยเรา
00:35:27 → 00:35:29 พูดถึงสารเคมีที่ชื่อว่าบิลล์ไทยเรดกันนะ
00:35:29 → 00:35:31 ครับซึ่งสาร Vintage ที่ 8 Type R
00:35:31 → 00:35:34 สร้างขึ้นมาเนี่ยมันช่วยภาวะเดินชนเล่นนะ
00:35:34 → 00:35:36 มันดีขึ้นได้โดยตรงแล้วมึงจะช่วยลดการ
00:35:36 → 00:35:39 อักเสบในเลือดได้ด้วยนอกเหนือจากนี้ก็จะ
00:35:39 → 00:35:41 ช่วยทำให้ภาวะลำไส้รั่วเนี่ยดีขึ้นได้
00:35:41 → 00:35:45 ซึ่งเมื่อภาวะอักเสบในเลื่อนดีขึ้นมาช่วย
00:35:45 → 00:35:47 ทำให้ภาวะดื้อต่ออินซูลินเนี่ยมันดีขึ้น
00:35:47 → 00:35:49 แล้วทั้งหมดนี้นะครับก็คือเรื่องราวนะ
00:35:49 → 00:35:51 ครับที่อยากเล่าให้ฟังหน่อยพี่โสดนี่นะ
00:35:51 → 00:35:53 ครับเนื้อหาค่อนข้างยาวนิดนึงนะครับเรา
00:35:53 → 00:35:55 ค่อนข้างเยอะนิดนึงนะครับจะหวังว่าจะมี
00:35:55 → 00:35:57 ประโยชน์นะครับบอกว่าจะทำให้เข้าใจเรื่อง
00:35:57 → 00:36:01 ของไมโครโอมกับก็ของปลาหวานดีนะครับโอเค
00:36:01 → 00:36:03 แล้วก็มาถึงช่วงท้ายนะครับคือช่วงที่อยาก
00:36:03 → 00:36:05 จะแนะนำให้รู้จักกับฟอนต์เซอร์ของเรานะ
00:36:05 → 00:36:08 ครับผู้สนับสนุนนะครับบริษัทมดกัดครับก็
00:36:08 → 00:36:10 ถึงช่วงเวลาที่สัญญากันไว้นะครับก็คือจะ
00:36:10 → 00:36:12 เล่าเกี่ยวกับผู้สับสน Series ในคราว
00:36:12 → 00:36:15 ไบโอมของเรานะครับบริษัทมดกัดนะครับ
00:36:15 → 00:36:17 บริษัทรถการนะครับเป็นบริษัทที่ก่อตั้ง
00:36:17 → 00:36:20 ขึ้นโดยนักวิจัยนะคะเป็นชิ้นนะคะยศาสตร์
00:36:20 → 00:36:22 ที่เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี Micro Bio
00:36:22 → 00:36:24 นะครับจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี
00:36:24 → 00:36:27 พระจอมเกล้าธนบุรีบางมดนะครับโดยทางทีม
00:36:27 → 00:36:29 ของนักเรียนศาสตร์ของมหาวิทยาลัยนะครับ
00:36:29 → 00:36:32 ของบางบอนนะครับร่วมมือกับภาคเอกชนก็คือ
00:36:32 → 00:36:35 บริษัทไบโอเทค Global โนเวชั่นนะครับตั้ง
00:36:35 → 00:36:38 บริษัทใหม่ขึ้นมานะครับแล้วก็ให้ชื่อว่า
00:36:38 → 00:36:41 เป็นบริษัทมดกัดนะครับเขาหมดเนี่ยมาจากคำ
00:36:41 → 00:36:43 ว่าบางมดนะครับสกัดนะครับจะอยู่ที่กัด
00:36:43 → 00:36:46 เนี่ยเป็นคำในภาษาอังกฤษนะครับที่นิยมใช้
00:36:46 → 00:36:49 ในทางการแพทย์จะมีความหมายว่าลำไส้จะนี่
00:36:49 → 00:36:51 บริษัทมดกัดทำอะไรนะครับทั้งหมดการ์ด
00:36:51 → 00:36:53 เนี่ยก็คือเปิดให้บริการนะครับตรวจแล้วก็
00:36:53 → 00:36:55 วิเคราะห์จุลินทรีย์ในลำไส้แก่คนทั่วไป
00:36:55 → 00:36:58 เพื่อให้คนที่ไปตรวจนะครับแล้วตัวคุณ
00:36:58 → 00:37:01 เนี้ยได้รู้ว่าสภาวะมีธุระที่นำไส้ของตัว
00:37:01 → 00:37:04 เองเนี่ยอยู่ในสภาวะแบบไหนสำหรับท่านไหน
00:37:04 → 00:37:06 นะครับที่สนใจแล้วก็อยากจะได้ข้อมูลเพิ่ม
00:37:06 → 00:37:09 เติมจะว่าบริษัทมดกัดนะครับเช่นประโยชน์
00:37:09 → 00:37:11 ที่จะได้จากการตัวนั้นมีอะไรบ้างนะครับ
00:37:11 → 00:37:13 แล้วก็ในการถั่วแดงมีรายละเอียดอะไรบ้าง
00:37:13 → 00:37:16 ยังไงบ้างนะครับหรือว่าขั้นตอนในการตรวจ
00:37:16 → 00:37:19 มันมีไปเรื่อยอะไรบ้างผมจะแปะลิงค์ไว้ได้
00:37:19 → 00:37:21 จะแคปชั่นนะครับหรือว่าเอาไว้ในช่อง
00:37:21 → 00:37:23 คอมเม้นต์นะครับใครสนใจในก็ลองติดต่อไป
00:37:23 → 00:37:26 คุยเพิ่มเติมดูได้นะครับเพราะว่าเขาบอก
00:37:26 → 00:37:28 ความรู้ทางด้านนี้มันเปลี่ยนเร็วมากนะ
00:37:28 → 00:37:30 ครับท่านที่มาดูคลิปเนี่ย 3 เดือน 6
00:37:30 → 00:37:32 เดือนแล้วว่าปีหนึ่งจากที่ผมโพสหรือว่าลง
00:37:32 → 00:37:34 คลิปไว้เนี่ยอาจจะมีความรู้ใหม่ๆเนี้ยที่
00:37:34 → 00:37:38 ต่างไปจากเดิมในออกมามากมายนะครับถ้าสนใจ
00:37:38 → 00:37:41 ก็ลองติดต่อดูนะครับมดกัดนะครับสิ่งเล็กๆ
00:37:41 → 00:37:43 ที่สร้างให้ชีวิตเราต่างกันสำหรับวันนี้
00:37:43 → 00:37:46 ผมขอลาไปก่อนนะครับว่าเรามาพบกันใหม่ใน
00:37:46 → 00:37:48 โซนหน้านะครับเป็นซีรีส์ของไม่ค่อยโอ่ง
00:37:48 → 00:37:52 ส่วนดีครับอ่ะ