00:00:01 → 00:00:07 [เพลง]
00:00:07 → 00:00:11 สนับสนุนโดยโรซ่า Family Food เชื่อมรส
00:00:11 → 00:00:15 ชาติความสุขของครอบครัว
00:00:15 → 00:00:18 มาแล้วครับคุณผู้ฟังครับความลับของร่าง
00:00:18 → 00:00:21 กายในวันนี้เราจะพาคุณผู้ฟังไปเจาะลึก
00:00:21 → 00:00:24 เกี่ยวกับเม็ดเลือดขาวที่เราได้ทิ้งท้าย
00:00:24 → 00:00:26 กันไว้เมื่อครั้งที่แล้วนะครับว่าเม็ด
00:00:26 → 00:00:28 เลือดขาวเนี่ยอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์แล้วก็
00:00:28 → 00:00:31 สิทธิพิเศษของมันเยอะเหลือเกินอีกทั้งยัง
00:00:31 → 00:00:34 เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองร่างกายเขาทำงาน
00:00:34 → 00:00:36 กันยังไงเดี๋ยววันนี้ไปเจาะลึกกันกับคุณ
00:00:36 → 00:00:39 หมอปัญญาครับสวัสดีครับสวัสดีครับมาแล้ว
00:00:39 → 00:00:41 ครับไม่ได้ขาวนั้นเป็นตัวเดียวที่มี
00:00:41 → 00:00:46 สิทธิ์แทรกซึมไปทั่วร่างกายถึงระดับเซลล์
00:00:46 → 00:00:50 เพื่อจะตรวจสอบทั่วร่างกายเลยว่ามีสิ่ง
00:00:50 → 00:00:53 แปลกปลอมมีเจ้าเชื้อโรคมีโจรผู้ร้ายมี
00:00:53 → 00:00:56 เชื้อแบคทีเรียเชื้อไวรัสเข้ามาในกายหรือ
00:00:56 → 00:01:00 ไม่ถ้ามีระบบที่จะทำการจัดการต่อสู้ทันที
00:01:00 → 00:01:04 นะครับโดยวิธีการของตัวเองจึงถูกกำหนดโดย
00:01:04 → 00:01:07 ธรรมชาติควบคุมด้วย DNA ที่พ่อให้มาครึ่ง
00:01:07 → 00:01:11 นึงแม่ให้มาครึ่งนึงนั่นเองนะครับ
00:01:11 → 00:01:16 นี่คือแค่น้ำจิ้มถ้วยแรกของเม็ดเลือดขาว
00:01:16 → 00:01:19 นั่นเองงั้นแสดงว่าให้เราจินตนาการนะครับ
00:01:19 → 00:01:22 ถ้าจินตนาการถึงเม็ดเลือดแดงเม็ดเลือดแดง
00:01:22 → 00:01:25 ก็เป็นตัวกลมๆบีบตรงกลางเหมือนขนมโมจิถูก
00:01:25 → 00:01:27 บีบก่อนเราเอาเข้าปากเจ้าตัวนั้นสามารถ
00:01:27 → 00:01:31 ที่จะขนส่งสิ่งดีๆในร่างกายเนี่ยไปส่ง
00:01:31 → 00:01:33 ทั้งอวัยวะต่างๆร่างกายแล้วค่อยนำกลับมา
00:01:33 → 00:01:36 จัดการในเม็ดเลือดขาวเราสามารถจินตนาการ
00:01:36 → 00:01:38 ได้ไหมคะคุณพ่อเม็ดเลือดขาวเนี่ยเหมือน
00:01:38 → 00:01:41 กองกำลังที่เรามีไว้ปกป้องร่างกายของเรา
00:01:41 → 00:01:44 ถือมีดถือดาบพร้อมอาวุธครบมือ
00:01:44 → 00:01:49 ใดๆก็แล้วแต่ที่มี DNA ไม่ใช่ของเรา
00:01:49 → 00:01:53 ไม่ใช่เซลล์ของมนุษย์ของตัวเจ้าของนี้
00:01:53 → 00:01:55 ว่าสิ่งแปลกปลอม
00:01:55 → 00:01:58 วัดด้วยลักษณะของรหัสทางดีเอ็นเอเลยที
00:01:58 → 00:02:01 เดียวตัวอย่างเช่นเชื่อแบคทีเรียรหัส
00:02:01 → 00:02:04 รีเลย์ไม่เหมือนของเราแน่นอนไม่ใช่ 23
00:02:04 → 00:02:06 คู่ที่เราเป็นสัตว์ที่ไม่ใช่พ่อแม่ขึ้น
00:02:06 → 00:02:11 พ่อขึ้นแม่ขึ้นแน่นอนเมื่อเทียบเทะไม่ได้
00:02:11 → 00:02:13 ขายจะบอกตัวเองว่าสิ่งแปลกปลอมตัวนี้ก็
00:02:13 → 00:02:17 ทำลายมันก็ไม่ใช่ตัวเราไม่ได้เซลล์เราถ้า
00:02:17 → 00:02:20 ใช่เส้นเราต้องตรงกับรหัสของพ่อของแม่เรา
00:02:20 → 00:02:23 ถ้าไม่ใช่ไม่ตรงต้องฆ่ามันทำลายมันให้หมด
00:02:24 → 00:02:27 นั่นคือเชื้อโรคสิ่งแปลกปลอมหรือฝุ่น
00:02:27 → 00:02:30 ละอองที่เราแพ้อากาศต่างๆก็ตามแต่นะครับ
00:02:30 → 00:02:33 นี่แสดงว่าเขาคอยตรวจตราร่างกายของเรา
00:02:33 → 00:02:37 ตั้งแต่หัวจรดเท้าตลอดเวลาด้วยเพื่อดูว่า
00:02:37 → 00:02:41 อันไหนคือของเราอันไหนคือของคนอื่นอันไหน
00:02:41 → 00:02:44 คือสิ่งแปลกปลอมตรวจเจอในเลือดขาวทำงาน
00:02:44 → 00:02:46 ทั้งนี้ทั้งวันและตรวจเจอคนแรกเลยใช่ไหม
00:02:46 → 00:02:49 ครับถูกต้องครับวัดด้วยระดับของรหัส DNA
00:02:49 → 00:02:51 ที่เกิดขึ้น
00:02:51 → 00:02:55 จัดกันแบบละเอียดกันไปเลยแม่นมากๆรู้เลย
00:02:55 → 00:02:57 ว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมเป็นเชื้อโรคเป็นสิ่ง
00:02:57 → 00:03:00 ไม่ได้ไม่ใช่ตัวเราก็แล้วกันถ้าใช่ทุก
00:03:00 → 00:03:04 เซลล์ต้องมี DNA ของเราเสมอเป็นพ่อครึ่ง
00:03:04 → 00:03:07 นึงแม่ครึ่งนึงเสมอถ้าไม่ใช่ตามนี้ถือว่า
00:03:07 → 00:03:10 เป็นสิ่งแปลกปลอมหมดไม่ย้อนอยู่แล้วร่าง
00:03:10 → 00:03:12 กายต้องจัดการที่จากร่างกายให้ได้ตัว
00:03:12 → 00:03:17 อย่างมาครับแฮ่ตัวอย่างมาเลยครับคุณแม่
00:03:17 → 00:03:20 ครับสมมุตินะตรวจเจอร่างกายตัวเม็ดเลือด
00:03:20 → 00:03:22 ขาวเดินตรวจตั้งแต่หัวตดเท้าหัวตดเท้าหัว
00:03:22 → 00:03:24 ตดเท้าบังเอิญเอาตัวอย่างกอล์ฟก็แล้วกัน
00:03:24 → 00:03:27 กอล์ฟเดินอยู่ในบ้านปกติไม่มีปัญหาเลยแต่
00:03:27 → 00:03:30 เมื่อไหร่ที่เดินออกไปหน้าปากซอยเอ้มีต้น
00:03:30 → 00:03:33 ไม้อยู่ต้นหนึ่งเกสรดอกไม้นั้นกอล์ฟแพ้
00:03:33 → 00:03:37 เนี่ยหายใจฟืดเข้าไปในเกสรดอกไม้ความรู้
00:03:37 → 00:03:39 สึกฟึดฟัดฟึดฟัดเหมือนจะมีน้ำมูกทันทีเลย
00:03:39 → 00:03:43 คนที่ตรวจเจอนี้ใช่เม็ดเลือดขาวมั้ยฮะถูก
00:03:43 → 00:03:46 ต้องครับเนื้อขาวชนิดพิเศษนะครับซึ่งตรวจ
00:03:46 → 00:03:50 เกี่ยวกับเรื่องของเอกสารศาลแปลกปลอมอ้อ
00:03:50 → 00:04:07 แล้วก็ตรวจเจอเสร็จแล้วเขาทำไงต่อครับ
00:04:07 → 00:04:10 เพื่อทำให้มันเจือจางลงไปวิธีนี้เองทำให้
00:04:10 → 00:04:14 เกิดน้ำมูกเยอะต้องมีน้ำมูกจามต่างๆเกิด
00:04:14 → 00:04:17 ขึ้นเพื่อขจัดออกจากร่างกายกระบวนการจาม
00:04:17 → 00:04:21 ไอน้ำมูกเป็นกระบวนการที่ร่างกายใช้ในการ
00:04:21 → 00:04:24 ใช้เงินเจือจางลงแล้วก็หลุดจากร่างกายไป
00:04:24 → 00:04:27 ทางน้ำมูกทางการไอออกไปจามออกไปเป็นตัว
00:04:27 → 00:04:29 อย่างนะครับแล้วถ้าเกิดเป็นตามร่างกายนะ
00:04:29 → 00:04:32 ครับเป็นสิ่งแปลกปลอมต่างๆที่เข้าไปอย่าง
00:04:32 → 00:04:34 ทำให้เราเกิดตุ่มหนองอย่างนี้ครับคนที่
00:04:34 → 00:04:37 เป็นคนก่อเหตุครั้งนี้ใช่เม็ดเลือดขาวไหม
00:04:37 → 00:04:40 ฮะ
00:04:40 → 00:04:43 เป็นการกินเชื้อโรคเข้าไปในตัวไม่ได้ขาว
00:04:43 → 00:04:44 เลยถ้าเป็นเชื้อโรคอยู่ในร่างกายนะครับ
00:04:45 → 00:04:48 มันจะกินเข้าไปเลยในโลกเข้าไปเลยวัดสลาย
00:04:48 → 00:04:51 ตัวย่อยเป็นคนเสร็จจนตายหมดเกิดเป็นหนอง
00:04:51 → 00:04:54 ขึ้นมาให้เป็นสิวบ้างเป็นสีมั่งเป็นอะไร
00:04:54 → 00:04:57 ต่างๆที่แบบพูดถึงนะครับอ๋ออย่างนี้แสดง
00:04:57 → 00:05:00 ว่าวิธีการที่เม็ดเลือดขาวใช้จัดการกับ
00:05:00 → 00:05:03 สิ่งแปลกปลอมเชื้อโรคต่างๆเชื้อโรคแตก
00:05:03 → 00:05:07 ต่างกันเขาก็มีวิธีการที่แตะต่างกันเชื้อ
00:05:07 → 00:05:10 โรคหรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆอยู่แต่ละที่ของ
00:05:10 → 00:05:15 ร่างกายระบบหายใจกระจัดการแบบนึงผิวของ
00:05:15 → 00:05:17 ผิวหนังก็จัดการอีกแบบหนึ่งไปเกิดในร่าง
00:05:17 → 00:05:19 กายในอวัยวะจัดการอีกแบบหนึ่งแสดงว่ามี
00:05:19 → 00:05:23 วิธีกระบวนท่าหลากหลายมากในการจัดการสิ่ง
00:05:23 → 00:05:27 แปลกปลอมอีกก็มีเป็นอันขาวเฉพาะเฉพาะ
00:05:27 → 00:05:30 เพื่อจัดการในแต่ละจุดแต่ละที่แต่ละตัว
00:05:30 → 00:05:34 ร้ายผู้ร้ายคนละแบบกันไม่ได้ขายเฉพาะเช่น
00:05:34 → 00:05:38 เชื้อแบคทีเรียจัดการด้วยนิวโทรฟิลด์ไม่
00:05:38 → 00:05:39 ต้องจำชื่อนะครับ
00:05:39 → 00:05:43 ต่างๆเช่นไข้หวัดใหญ่ก็ต้องจัดการด้วย
00:05:43 → 00:05:46 ลิ้นโปรไฟล์
00:05:46 → 00:05:50 เป็นพยาธิตั้งแต่การด้วยอีโอซิโนฟิวเห็น
00:05:50 → 00:05:54 ไหมครับมันมีตัวไม่ได้ขาวมากมายเป็นสิบๆ
00:05:54 → 00:05:56 อย่างเพื่อจัดการเกษตรพร้อมที่ร่างกาย
00:05:56 → 00:06:00 เรียนรู้มาแล้วจัดการได้ตามนี้นะครับถูก
00:06:00 → 00:06:03 สั่งการด้วยดีเอ็นเอของพ่อของแม่นะครับ
00:06:03 → 00:06:06 โอ๊ยนี่มันสุดยอดจริงๆนะฮะคุณพ่อเชื่อไหม
00:06:06 → 00:06:08 ครับว่าทั้งหมดที่คุณพ่อเล่ามาเนี่ยสรุป
00:06:08 → 00:06:10 ฮั้วเดียวเนี่ยนะฮะถ้าเกิดอ่านหนังสือเอง
00:06:10 → 00:06:15 อ่ะเยอะเลยก็ทำได้พวกนี้ยาวมากเลยครับคุณ
00:06:15 → 00:06:18 ผู้ฟังครับถ้าอย่างนั้นพาไปเจาะลึกกันต่อ
00:06:18 → 00:06:20 เนื่องเลยดีกว่านะครับเชื่อว่าคุณผู้ฟัง
00:06:20 → 00:06:23 หลายๆท่านเนี่ยสงสัยครับคุณพ่อว่ามันเก่ง
00:06:23 → 00:06:26 ขนาดนี้มันทำงานขยันขันแข็งขนาดนี้แล้ว
00:06:26 → 00:06:28 ที่เราทิ้งท้ายกันไปเมื่อครั้งที่แล้วบอก
00:06:28 → 00:06:30 ว่าเม็ดเลือดขาวยังมีสิทธิพิเศษแล้วก็
00:06:30 → 00:06:32 อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่มันเพิ่มกว่าชาว
00:06:33 → 00:06:35 บ้านชาวช่องเขาเนี่ยในการดูแลร่างกาย
00:06:35 → 00:06:37 เนี่ยแล้วไปเกี่ยวเนื่องกับพวกวัคซีนที่
00:06:37 → 00:06:40 เราฉีดกันด้วยมันเรื่องราวเป็นยังไงครับ
00:06:40 → 00:06:44 บางสิ่งคือตัวเชื้อโรคถอดแบบเอาหน้าตา
00:06:44 → 00:06:47 จมูกตาคิ้วคางต่างๆเพื่อบอกรหัสของเชื้อ
00:06:47 → 00:06:50 โรคให้เม็ดเลือดขาวได้รับรู้ว่าเชื้อโรค
00:06:51 → 00:06:53 นั้นเจ้าเชื้อนี้แหละให้หวัดใหญ่นี่แหละ
00:06:53 → 00:06:56 วัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ฉีดเข้าไปคือจำลอง
00:06:56 → 00:06:58 หน้าตาของมันมาให้รู้ว่าหน้าตาเป็นอย่าง
00:06:58 → 00:07:02 นี้นะถ้ามันเข้ามาครั้งใหม่ให้จำให้ได้นะ
00:07:02 → 00:07:05 ไม่ได้ขายของ yes Memory sale จำไว้เลย
00:07:05 → 00:07:08 มีการจดจำรูปร่างหน้าตาอีกส่วนหนึ่งเกิด
00:07:09 → 00:07:12 จากดีเซลในร่างกายก็จะเป็นสร้างภูมิคุ้ม
00:07:12 → 00:07:14 กันต่อเจ้าตัวที่ทันที
00:07:14 → 00:07:17 เก็บไว้ในน้ำเลือดและเม็ดเลือดขาวจำ
00:07:17 → 00:07:21 ลักษณะคนไว้ 2 ทางนะครับวัคซีนที่ฉีดแต่
00:07:21 → 00:07:23 ละเข็มจิตเข้าร่างกายร่างกายจะไปสร้าง
00:07:23 → 00:07:26 ภูมิคุ้มกันต่อเจ้าตัวนี้ทันทีเก็บไว้ใน
00:07:26 → 00:07:28 น้ำเลือดอยู่ได้ประมาณ 3 เดือน 6 เดือน 8
00:07:28 → 00:07:32 เดือนแล้วแต่อีกแฉกนึงก็คือไปสอนไม่ได้
00:07:32 → 00:07:36 ขายให้รู้จักหน้าตามันเพื่อจะจำได้เรา
00:07:36 → 00:07:37 เกิดขึ้นใหม่จะได้อาการไม่รุนแรง
00:07:37 → 00:07:40 จินตนาการแล้วร่างกายสู้กับมันได้ระดับ
00:07:40 → 00:07:43 หนึ่งทีเดียวนี่คือผลที่เกิดขึ้นซึ่งไม่
00:07:43 → 00:07:45 รู้เหมือนกันว่าเกิดขึ้นอย่างไรแต่ร่าง
00:07:45 → 00:07:48 กายทำได้ถ้าทำมาตลอดชีวิตคอยปกป้องเรามา
00:07:48 → 00:07:52 ตลอดเวลาเหมือนปิดทองหลังพระนี่คือเหตุผล
00:07:52 → 00:07:55 ใช่ไหมครับว่าเอ่อร่างกายของเราเนี่ยถ้า
00:07:55 → 00:07:58 เราอยากให้อิทธิฤทธิ์ของการฉีดวัคซีนมัน
00:07:58 → 00:08:00 อยู่ยาวนานเราจึงต้องมีเข็ม Booster หรือ
00:08:00 → 00:08:03 ว่าขาดการฉีดซ้ำเข็ม 2 เข็ม 3 เข็ม 4
00:08:03 → 00:08:04 ประมาณนั้น
00:08:04 → 00:08:08 การกระตุ้นในการเตือนเตือนตอกย้ำซ้ำให้
00:08:08 → 00:08:12 มนุษย์ขาวจำได้สร้างภูมิได้เก่งจำได้แม่น
00:08:12 → 00:08:16 ๆ 2 ทางสร้างผมจะเก่งอยู่ในน้ำเลือดออก
00:08:16 → 00:08:18 ฤทธิ์ทันทีถ้ามีเชื้อโรคเข้ามาและจำหน้า
00:08:18 → 00:08:22 ตาเชื้อโรคได้ดีๆโดยทำให้เกิดการเอฟเฟค
00:08:22 → 00:08:25 ต่อไปยาวนานในอนาคตด้วยนะครับสมมุติเชื้อ
00:08:25 → 00:08:27 โรคเดินเข้ามาหน้าตาเหมือนกอล์ฟอย่างนี้
00:08:27 → 00:08:29 เป็นเชื้อโรคเดินเข้ามาในร่างกายถ้า
00:08:29 → 00:08:32 บังเอิญเป็นเชื้อโรคจริงๆอิชิโร่ตัวนี้ก็
00:08:32 → 00:08:35 จะเข้าไปกลั่นแกล้งร่างกายแต่การที่เรา
00:08:35 → 00:08:39 ฉีดวัคซีนคือการฉีดเชื้อโรคที่ไม่ได้มาทำ
00:08:39 → 00:08:43 ร้ายแต่หน้าตาแบบนี้เป๊ะเลยเดินเข้ามาใน
00:08:43 → 00:08:46 ร่างกายให้เจ้าเอ่อเม็ดเลือดขาวเนี่ยได้
00:08:46 → 00:08:48 จำหน้าไว้ก่อนว่าเฮ้ยเชื้อลอกหน้าอย่าง
00:08:48 → 00:08:50 นี้นะแต่ตัวนี้มันเข้ามามันไม่แกล้งเรา
00:08:50 → 00:08:54 หรอกแต่จำหน้ามันไว้พอถึงเวลาเจอเชื้อโรค
00:08:54 → 00:08:56 ของจริงที่เข้ามาจะแกล้งร่างกายของเรา
00:08:56 → 00:08:59 เม็ดเลือดขาวก็จะผลิตง่ายอย่างนี้เลยเอา
00:08:59 → 00:09:01 ไปจัดการกับมันได้ทันท่วงที
00:09:01 → 00:09:04 นั้นกระบวนการผลิตจากโรงงานผลิตวัคซีนนะ
00:09:04 → 00:09:08 ท้ายมันหมดฤทธิ์ให้มันตายไปก่อนถ้าถึงฉีก
00:09:08 → 00:09:10 เข้าร่างกายมนุษย์ได้มันจะได้ไม่มีผลต่อ
00:09:10 → 00:09:13 ร่างกายมนุษย์เลยที่จะเอาหน้าตาไปบอกให้
00:09:13 → 00:09:18 ร่างกายว่ามันหน้าตาแบบนี้นะจมูกบี้ๆแบนๆ
00:09:18 → 00:09:22 อย่างนี้นะตาหยีๆอย่างเงี้ยเป็นตัวอย่าง
00:09:22 → 00:09:25 นะครับซึ่งเป็นตัวที่หมดฤทธิ์แล้วทำให้
00:09:25 → 00:09:28 เกิดโรคไม่ได้แล้วฉีดให้ร่างกายรู้จักว่า
00:09:28 → 00:09:31 หน้าตามันเป็นอย่างนี้เองนะครับที่คุณพ่อ
00:09:31 → 00:09:33 เล่ามากอล์ฟนึกถึงสถานการณ์หนึ่งที่เกิด
00:09:33 → 00:09:36 ขึ้นในองค์กรใหญ่ๆหรือองค์กรเล็กๆก็แล้ว
00:09:36 → 00:09:38 แต่นะครับที่เกิดเกณฑ์ขึ้นทุกปีทุกปีนั่น
00:09:38 → 00:09:40 คือการซ้อมหนีไฟครับคุณพ่อ
00:09:40 → 00:09:43 การฉีดวัคซีนนี้เปรียบเสมือนการซ้อมหนีไป
00:09:43 → 00:09:46 ชนิดนึงเหมือนกันคือการให้ร่างกายของเรา
00:09:46 → 00:09:48 โดยเฉพาะแกนนำก็คือเม็ดเลือดขาวได้รู้จัก
00:09:48 → 00:09:51 วิธีการก่อนว่าถ้าเกิดเหตุแบบนี้ทำอย่าง
00:09:51 → 00:09:55 ไรบ้างโดยการใส่เชื้อโรคที่อ่อนแรงไม่
00:09:55 → 00:09:57 สามารถแกล้งร่างกายเนี่ยเข้าไปให้รู้จัก
00:09:57 → 00:10:00 ก่อนเลยแต่ครั้งนี้อาจจะไม่ได้ไฟไหม้จริง
00:10:00 → 00:10:03 ๆนะเป็นการซ้อมๆเฉยๆเออก็เหมือนให้เจอ
00:10:03 → 00:10:07 เชื้อโรคไว้ก่อนรู้จักหน้าไว้ก่อนหน้าแบบ
00:10:07 → 00:10:09 นี้นะจัดการได้เลยแต่ครั้งต่อไปถ้าเป็น
00:10:09 → 00:10:12 ของจริงจะได้สร้างทางโน้นทีจัดการได้รวด
00:10:12 → 00:10:15 เร็วโอ้
00:10:15 → 00:10:18 แบบทุกอย่างเนี่ยครับมนุษย์ทำเลียนแบบ
00:10:18 → 00:10:20 มะละกามนุษย์ทั้งสิ้นในร่างกายทำมาก่อน
00:10:20 → 00:10:24 แล้วเป็นพันๆหมื่นๆเป็นแสนปีนะครับมนุษย์
00:10:24 → 00:10:26 ก็ไปเรียนรู้แล้วก็ไปทำ process ต่างๆ
00:10:26 → 00:10:29 กระบวนการต่างเพื่อเลียนแบบจะช่วยให้เรา
00:10:29 → 00:10:32 อยู่ในสังคมได้อย่างดีต่อไปนะครับก็ภาค
00:10:32 → 00:10:34 ขยายความเจาะลึกต่ออิเล็กน้อยครับคุณพ่อ
00:10:34 → 00:10:37 เมื่อกี้นี้ที่เราพูดกันว่าเม็ดเลือดขาว
00:10:37 → 00:10:40 จำเป็นจะต้องเรียนรู้หน้าตาของเชื้อโรค
00:10:40 → 00:10:43 ก่อนที่จะมีเชื้อโรคจริงเข้ามาคือการฉีด
00:10:43 → 00:10:45 วัคซีนนั่นแหละนั่นแสดงว่าถ้าเกิดว่าเรา
00:10:45 → 00:10:49 ไม่ได้ฉีดวัคซีนเชื้อโรคเข้ามาปุ๊บเม็ด
00:10:49 → 00:10:51 เลือดขาวไปเจอเฮ้ยหน้าแปลกๆไม่คุ้นเลย
00:10:51 → 00:10:53 เม็ดเลือดขาวจะจัดการกับมันได้ไหมครับ
00:10:54 → 00:10:55 เนี่ย
00:10:55 → 00:11:00 ครับแต่ว่าเราเดินไปเจอเชื้อจริงนะครับ
00:11:00 → 00:11:03 การที่จะพ่ายแพ้ได้เหมือนกันถ้าพ่ายแพ้
00:11:03 → 00:11:06 เราก็เป็นโรคได้จนได้แต่การสร้างสิ่งนั้น
00:11:06 → 00:11:08 เอาตัวจริง
00:11:08 → 00:11:12 หน้าตาเหมือนจริงแต่ไม่มีฤทธิ์ในการทำให้
00:11:12 → 00:11:16 เกิดโรคเราย่อมดีที่การฝึกอบรมพนักงานเรา
00:11:16 → 00:11:18 ให้เก่งขึ้นนะครับเมื่อฝึกแล้วเรียนพอตัว
00:11:18 → 00:11:23 จริงเข้ามายังซวยอย่างไม่มีปัญหาสบายมาก
00:11:23 → 00:11:26 โอเคนะครับสรุปทิ้งท้ายสักเล็กน้อยครับ
00:11:26 → 00:11:28 คุณพ่อไหนๆพูดถึงเรื่องระบบเม็ดเลือดขาว
00:11:28 → 00:11:31 การฉีดวัคซีนแล้วจะมีความเชื่ออยู่อย่าง
00:11:31 → 00:11:34 หนึ่งว่าการฉีดวัคซีนค่ะคุณพ่อฉีดเพื่อ
00:11:34 → 00:11:37 ไม่ให้เป็นโรคภัยไข้เจ็บอันนี้จริงเท็จ
00:11:37 → 00:11:40 แค่ไหนแล้วการทำงานจริงๆของระบบป้องกัน
00:11:40 → 00:11:43 ร่างกายนี้มันทำให้เราไม่เป็นจริงหรือ
00:11:43 → 00:11:46 เปล่าหรือว่าเป็นแต่เราไม่รู้เวลาฉีด
00:11:46 → 00:11:48 วัคซีนเข้าสู่ร่างกายจะเกิดการต่อต้านโดย
00:11:48 → 00:11:51 สร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา 2 คะแนนคะแนนให้
00:11:51 → 00:11:54 เลยคือสร้างเพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ
00:11:54 → 00:11:57 ไม่ให้ติดเชื้อยังมีเชื้อตัวจริงเข้ามา
00:11:57 → 00:11:59 เราจะฆ่ามันทันทีได้ทันทีเนี่ยแต่ระบบ
00:11:59 → 00:12:02 เนี้ยหลังฉีดไประยะหนึ่งแล้วมันจะลดลงลด
00:12:02 → 00:12:06 ลงลดลงลดลงเรื่อยๆระบบที่ 2 คือให้ไม่ได้
00:12:06 → 00:12:10 ขาวได้จดจำหน้าตามันไว้เออได้สร้างภูมิมา
00:12:10 → 00:12:12 ต่อสู้กันได้ทันทีเมื่อมีตัวใหม่เข้ามา
00:12:12 → 00:12:14 ตัวจริงเข้ามาขออภัยนะครับ
00:12:14 → 00:12:16 เป็นการรับทำระบบ 2 เนี่ยเป็นระบบที่เกิด
00:12:16 → 00:12:20 ความยั่งยืนในร่างกายเราคุ้มครองได้เป็น
00:12:20 → 00:12:24 ปีหรือเป็นตลอดชีวิตก็ตามแต่แต่ระบบที่ 1
00:12:24 → 00:12:27 คือการป้องกันการติดเชื้อนั้นฉีดแล้วจะ
00:12:27 → 00:12:29 ติดเชื้อลดลง
00:12:29 → 00:12:32 แต่ว่ามีระยะอายุที่น้อยลงไปเรื่อยๆ
00:12:32 → 00:12:35 เรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปนะครับอันนี้เรา
00:12:35 → 00:12:38 บทที่ 1 ระบบที่สอนนั้นป้องกันที่เม็ด
00:12:38 → 00:12:43 เลือดขาวทำให้เรามีอาการไม่รุนแรง
00:12:43 → 00:12:47 ปัจจุบันเป็นการทำงานที่ชาญฉลาดมากๆของ
00:12:47 → 00:12:48 ระบบร่างกายที่
00:12:48 → 00:12:51 ช่วยป้องกันการติดเชื้อเชื้อเชื้อโรคเข้า
00:12:51 → 00:12:54 มาเข้าเลยแล้วก็ไปบอกเม็ดเลือดขาวจำหน้า
00:12:54 → 00:12:56 ไว้นะถ้าเกิดมาแบบนี้จัดการให้ถูกต้องนะ
00:12:56 → 00:12:58 แสดงว่าถ้าเกิดเม็ดเลือดขาวรู้จักก่อน
00:12:58 → 00:13:00 เนี่ยจัดการใดๆแต่ถ้าเกิดไม่รู้จักเป็น
00:13:00 → 00:13:03 ตัวใหม่ก็อาจจะมีเพียงพร้อมกันบ้างแต่สุด
00:13:03 → 00:13:07 ท้ายแล้วก็จะจัดการให้จงได้อื้มนี่แหละ
00:13:07 → 00:13:09 ครับคือความรู้ทั้งหมดของอุ่นใจใกล้คุณ
00:13:09 → 00:13:12 หมอในวันนี้นะฮะในท้องเรื่องที่เราพูดคุย
00:13:12 → 00:13:14 เกี่ยวกับความลับของ
00:13:14 → 00:13:17 ร่างกายซึ่งแจ้งคุณผู้ฟังอีกครั้งนึงครับ
00:13:17 → 00:13:20 ความลับของร่างกายจะพาทัวร์ร่างกายนะครับ
00:13:20 → 00:13:23 ข้อมูลแต่ละระบบของแต่ละส่วนในร่างกายของ
00:13:23 → 00:13:27 เราจะถูกนำมาขยายความคลี่ให้ฟังกันเป็น
00:13:27 → 00:13:29 ระบบระบบไปเลยนะครับตอนนี้เราพาทัวร์
00:13:30 → 00:13:33 เนี่ยจากเริ่มต้นเริ่มต้นจาก DNA มาเลย
00:13:33 → 00:13:36 แล้วก็ไปที่เซลล์การสร้างเซลล์ขึ้นมาที่
00:13:36 → 00:13:38 เราได้มาจากคุณพ่อคุณแม่นะมีการเริ่ม
00:13:38 → 00:13:41 สร้างเซลล์ระบบการทำงานต่างๆฮอร์โมนระบบ
00:13:42 → 00:13:45 วิตามินนะครับเอนไซม์ต่างๆมาจนถึงระบบ
00:13:45 → 00:13:49 เลือดแล้วเลือดมีความเจ๋งอยู่ในเลือดมี 3
00:13:49 → 00:13:52 ตัวที่เราจะเจอนั่นก็คือเม็ดเลือดแดงเม็ด
00:13:52 → 00:13:55 เลือดขาวเกล็ดเลือดแล้ววันนี้เราก็ได้พา
00:13:55 → 00:13:57 มาขยายความต่อกันในอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์
00:13:57 → 00:14:01 เฉพาะกิจของเม็ดเลือดขาวติดตามอุ่นใจใกล้
00:14:01 → 00:14:04 คุณหมอเลยท้องเรื่องซีรีส์ของเราเกี่ยว
00:14:04 → 00:14:06 กับความลับของร่างกายนั้นนะครับว่าครั้ง
00:14:06 → 00:14:09 หน้าเรา 2 พ่อลูกจะมาเล่าอะไรให้คุณผู้
00:14:09 → 00:14:11 ฟังได้ฟังกันต่อนะครับสำหรับวันนี้หมด
00:14:11 → 00:14:13 เวลาแล้วครับคุณพ่อมีอะไรจะฝากถึงคุณผู้
00:14:13 → 00:14:21 ฟังนะครับ
00:14:21 → 00:15:14 [เพลง]
00:15:14 → 00:15:17 นอนดีและอย่าเครียดมากทำจิตใจให้เบิกบาน
00:15:17 → 00:15:18 นะครับ
00:15:18 → 00:15:20 วันนี้ต้องลาไปก่อนแล้วครับกับความลับของ
00:15:20 → 00:15:23 ร่างกายติดตามในเทปหน้านะครับสำหรับวัน
00:15:23 → 00:15:26 นี้ลาไปก่อนนะครับสวัสดีครับสวัสดีครับ
00:15:26 → 00:15:43 [เพลง]