00:00:01 → 00:00:03 สวัสดีครับวันนี้เนี่ยเราอยู่กับคำถามที่

00:00:03 → 00:00:07 ว่าทำไมเราชอบรสเค็มหรือถ้าพูดให้ชัดขึ้น

00:00:07 → 00:00:10 อีกนิดนึงก็คือทำไมคนส่วนใหญ่ถึงติดเค็ม

00:00:10 → 00:00:13 ทั้งที่รู้ว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพนะครับถ้า

00:00:13 → 00:00:16 เราเป็นคนที่ติดเค็มเนี่ยลองนึกย้อนกลับ

00:00:16 → 00:00:18 ไปนะครับว่าทุกคนเนี่ยเริ่มคุ้นกับรสชาติ

00:00:18 → 00:00:21 เค็มตั้งแต่เมื่อไหร่อาจจะมาจากพริกน้ำ

00:00:21 → 00:00:24 ปลาบนโต๊ะอาหารตอนเด็กมันฝรั่งทอดหรือขนม

00:00:24 → 00:00:27 กรุบกรอบต่างๆหรือข้าวผัดที่แม่ทำแล้วเรา

00:00:27 → 00:00:30 ก็ใส่แม็กกี้ซีอิ๊วขาวหรือน้ำปลาเข้าไป

00:00:30 → 00:00:33 เพิ่มอีกซึ่งสำหรับหลายคนเนี่ยรสชาติเค็ม

00:00:33 → 00:00:37 มันไม่ใช่แค่รสชาติแต่มันคือความทรงจำคือ

00:00:37 → 00:00:39 สิ่งที่ปอบประโลมใจตอนเหนื่อยคือสิ่งที่

00:00:39 → 00:00:42 อยู่ในอาหารประจำบ้านหรือของโปรดของใคร

00:00:42 → 00:00:44 หลายๆคนใช่ไหมมั้ครับนักวิทยาศาสตร์บอก

00:00:44 → 00:00:47 ว่ามนุษย์เราเนี่ยชอบอาหารเค็มเพราะว่า

00:00:47 → 00:00:50 ร่างกายเนี่ยต้องการโซเดียมในปริมาณเล็ก

00:00:50 → 00:00:53 น้อยเพื่อช่วยให้ระบบประสาททำงานส่ง

00:00:53 → 00:00:55 สัญญาณและช่วยให้กล้ามเนื้อเนี่ยโหดตัว

00:00:55 → 00:00:58 ได้ดีแต่ถ้าได้มากเกินไปเนี่ยก็กลายเป็น

00:00:58 → 00:01:01 ปัญหาเรื่องความดันโลหิตโรคหัวใจและหลอด

00:01:01 → 00:01:04 เลือดได้นะครับองค์การอนามัยโลกจึงแนะนำ

00:01:04 → 00:01:07 ว่าเราไม่ควรรับโซเดียมเกิน 2,000 มลกรัม

00:01:07 → 00:01:10 ต่อวันแต่ในความจริงจากการสำรวจของ NH

00:01:10 → 00:01:15 AES ในสหรัฐพบว่ามากกว่า 80% ของผู้ใหญ่

00:01:15 → 00:01:18 ทุกกลุ่มเชื้อชาติบริโภคโซเดียมเกินระดับ

00:01:18 → 00:01:20 ที่แนะนำนะครับและแม้แต่ในกลุ่มที่เป็น

00:01:21 → 00:01:23 ความดันโลหิตสูงเนี่ยก็ยังลดโซเดียมไม่

00:01:23 → 00:01:26 ได้จริงๆทีนี้เนี่ยแล้วเราได้รับโซเดียม

00:01:26 → 00:01:29 มาจากไหนกันบ้างหลายคนคงอาจคิดว่าโซเดียม

00:01:29 → 00:01:32 ที่เราได้รับมาส่วนใหญ่มาจากการที่เรา

00:01:32 → 00:01:35 เนี่ยใส่น้ำปลาเพิ่มหรือปรุงเพิ่มตามหลัง

00:01:35 → 00:01:38 นะครับแต่จริงๆแล้วเนี่ยกว่า 70-80% ของ

00:01:38 → 00:01:41 โซเดียมที่เราบริโภคเนี่ยมาจากอาหารแปร

00:01:41 → 00:01:45 รูปและอาหารสำเร็จรูปเช่นขนมปังพิซซ่าซุป

00:01:45 → 00:01:47 หรือเครื่องปรุงนะครับซึ่งบางอย่างเนี่ย

00:01:47 → 00:01:50 ไม่ได้เค็มมากแต่โซเดียมเนี่ยกลับสูงมาก

00:01:50 → 00:01:53 นะครับงานวิจัยในอเมริกาเนี่ยพบว่าคนแต่

00:01:53 → 00:01:56 ละเชื้อชาติติดเค็มไม่ต่างกันแต่ต่างกัน

00:01:56 → 00:01:58 แค่แหล่งที่มาของความเค็มเท่านั้นนะครับ

00:01:58 → 00:02:01 ยกตัวอย่างคนอเมริกันผิวขาวอาจได้โซเดียม

00:02:01 → 00:02:06 จากพิซซ่าซุปและแฮมในคนเอเชียอเมริกันได้

00:02:06 → 00:02:10 จากซีอิ๊วซอสถั่วเหลืองและคนลาตินได้จาก

00:02:10 → 00:02:13 อาหารประจำถิ่นที่ใส่เครื่องปรุงรสเค็มนะ

00:02:13 → 00:02:16 ครับซึ่งข้อสังเกตที่ผมสังเกตได้จากงาน

00:02:16 → 00:02:19 วิจัยนี้ก็คือการที่เราชอบรสเค็มเนี่ยอาจ

00:02:19 → 00:02:21 ไม่ใช่เพราะว่าลิ้นเราเท่านั้นนะครับแต่

00:02:21 → 00:02:24 มันเกิดจากพฤติกรรมของคนรอบตัวหรือ

00:02:24 → 00:02:27 วัฒนธรรมของกลุ่มที่อยู่ด้วยนะครับบาง

00:02:27 → 00:02:29 บ้านเนี่ยชอบเติมน้น้ำปลาทุกมื้อบางกลุ่ม

00:02:29 → 00:02:32 เนี่ยเพื่อนสั่งอาหารรสจัดทุกครั้งที่ไป

00:02:32 → 00:02:35 กินข้าวนะครับบางวัฒนธรรมเองก็ต้มซุปที่

00:02:35 → 00:02:38 มีรสเค็มไว้กินหลายๆวันพออยู่ในสภาพแวด

00:02:38 → 00:02:41 ล้อมแบบนั้นซ้ำๆเนี่ยลิ้นเราก็จะชินพอเจอ

00:02:41 → 00:02:44 ของจืดๆเราก็จะรู้สึกว่าไม่ค่อยอร่อยเลย

00:02:44 → 00:02:46 ต้องปรุงเพิ่มทุกครั้งมันเลยไม่ใช่แค่

00:02:46 → 00:02:49 เรื่องของความชอบส่วนตัวนะครับแต่มันคือ

00:02:49 → 00:02:52 พฤติกรรมหมู่ที่สะสมและส่งต่อกันผ่าน

00:02:52 → 00:02:55 อาหารในชีวิตประจำวันดังนั้นเนี่ยถ้าเรา

00:02:55 → 00:02:57 อยากจะลดเค็มเพื่อสุขภาพของเราจริงๆเนี่ย

00:02:57 → 00:03:00 นอกจากเริ่มที่ตัวเราแล้วเนี่ยเราอาจจะ

00:03:00 → 00:03:03 ต้องชวนคนรอบตัวเนี่ยมาลดด้วยนะครับโดย

00:03:03 → 00:03:06 การลดโซเดียมเนี่ยก็มีหลายวิธีที่นัก

00:03:06 → 00:03:09 โภชนาการแนะนำนะครับอย่างแรกเลยคือการ

00:03:09 → 00:03:13 อ่านฉลากอาหารก่อนซื้อของโดยที่ดูปริมาณ

00:03:13 → 00:03:16 โซเดียมต่อหน่วยบริโภคนะครับต่อมาคือการ

00:03:16 → 00:03:19 ที่เราเนี่ยทำอาหารกินเองและลดการปรุง

00:03:19 → 00:03:23 อาหารไม่ให้เค็มเกินไปใช้เกลือหรือน้ำปลา

00:03:23 → 00:03:26 ที่ลดโซเดียมในการปรุงรสของอาหารเนี่ยก็

00:03:26 → 00:03:29 อาจจะใช้สมุดสมุนไพรเครื่องเทศหรือรส

00:03:29 → 00:03:31 เปรี้ยวเนี่ยมาช่วยเพิ่มรสชาติแทนความ

00:03:31 → 00:03:34 เค็มนะครับในงานวิจัยเนี่ยยังพบว่าคนที่

00:03:34 → 00:03:37 ใช้เกลือแบบโซเดียมต่ำและเพิ่มโพแทสเซียม

00:03:37 → 00:03:41 แทนเกลือธรรมดามีความดันลดลงและเสี่ยงโรค

00:03:41 → 00:03:44 น้อยลงอย่างชัดเจนนะครับและที่สำคัญเนี่ย

00:03:44 → 00:03:46 รสชาติก็ไม่ได้ต่างจากเกลือปกติมากนัก

00:03:46 → 00:03:49 ด้วยนะครับดังนั้นเนี่ยลองกลับไปสังเกต

00:03:49 → 00:03:52 ตัวเองดูนะครับว่าวันนี้เรากินอะไรไปแล้ว

00:03:52 → 00:03:55 บ้างลองกลับไปดูฉลากโภชนาการข้างซองลองลด

00:03:55 → 00:03:58 น้ำปลาหรือไม่ปรุงเพิ่มดูนะครับและทำ

00:03:58 → 00:04:01 อาหารกินเองให้บ่อยขึ้นเพื่อที่เราเนี่ย

00:04:01 → 00:04:03 จะได้ควบคุมปริมาณโซเดียมได้นะครับไม่

00:04:03 → 00:04:05 ต้องเปลี่ยนให้ได้ภายในวันเดียวแค่ลดให้

00:04:05 → 00:04:08 ได้ทีละนิดให้เราเนี่ยยังมีความสุขกับการ

00:04:08 → 00:04:11 กินได้นะครับและถ้าเป็นไปได้เนี่ยลองชวน

00:04:11 → 00:04:14 คนในครอบครัวมาลดการกินเค็มด้วยกันนะครับ

00:04:14 → 00:04:17 เพราะยิ่งถ้าเราแวดล้อมไปด้วยคนที่มีจุด

00:04:17 → 00:04:19 มุ่งหมายเดียวกันเนี่ยการลดการกินเค็มก็

00:04:19 → 00:04:22 จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปนะครับแล้วเจอ

00:04:22 → 00:04:25 กันใหม่ใน episode ต่อไปสำหรับวันนี้

00:04:25 → 00:04:28 ขอบคุณครับ