00:00:00 → 00:00:03 [เสียงดนตรี]
00:00:03 → 00:00:05 You're listening to Mahidol Channel Podcast.
00:00:06 → 00:00:08 Listen for a better life.
00:00:09 → 00:00:11 ฟังเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
00:00:11 → 00:00:14 และนี่คือรายการพอดแคสต์ของช่อง Mahidol Channel
00:00:14 → 00:00:16 โดย มหาวิทยาลัยมหิดล
00:00:16 → 00:00:22 [เสียงดนตรี]
00:00:22 → 00:00:25 เพราะเป้าหมายของเราทุกคน คือการมีชีวิตที่ดี
00:00:25 → 00:00:28 มาพัฒนาตัวเราให้มีชีวิตที่ดีขึ้น
00:00:28 → 00:00:33 กับรายการ Well-Being สุขภาพดี ชีวิตดีสร้างได้
00:00:33 → 00:00:39 กับผม อาจารย์เต้ ระพี บุญเปลื้อง จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
00:00:41 → 00:00:45 สวัสดีครับ ผมอาจารย์เต้ ระพี บุญเปลื้อง คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
00:00:45 → 00:00:49 กับรายการ Well-Being สุขภาพดี ชีวิตดีสร้างได้
00:00:49 → 00:00:51 ในวันนี้ครับ ผมไม่ได้มาคนเดียว
00:00:51 → 00:00:54 ดีใจมากเลยที่ได้มีแขกรับเชิญเข้ามา
00:00:54 → 00:01:00 แขกรับเชิญของผมวันนี้นะครับ ก็คือ ผศ.ดร.ก.บ.ศุภลักษณ์ เข็มทอง
00:01:00 → 00:01:01 หรืออาจารย์ป๊อบครับ
00:01:01 → 00:01:04 อาจารย์ป๊อบอยู่ที่สาขาวิชากิจกรรมบำบัด
00:01:04 → 00:01:07 คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล
00:01:07 → 00:01:09 ก็สวัสดีครับ อ.เต้ และท่านผู้ฟังนะครับ
00:01:10 → 00:01:12 กิจกรรมบำบัดนี่คนไม่ค่อยรู้จักครับ
00:01:12 → 00:01:16 พออาศัยคำว่ากิจกรรมปุ๊บ คนจะเข้าใจว่าเดี๋ยวจะต้องเป็น
00:01:16 → 00:01:18 กิจกรรมโน่นนี่นั่นนะครับ
00:01:18 → 00:01:19 แต่จริง ๆ แล้วนี่
00:01:19 → 00:01:22 มันมาจากภาษาละตินครับ แปลว่า Occupy
00:01:22 → 00:01:23 Occupy
00:01:24 → 00:01:27 Occupy คือจิตของเราจะต้องจดจ่อครับ
00:01:27 → 00:01:32 จดจ่อ แล้วก็ทำให้ ทำอะไรก็ได้ให้เรารู้สึกมีความสุข
00:01:32 → 00:01:35 โอ้ อันนี้เข้าเรื่องของเราเลยครับ เพราะว่า
00:01:35 → 00:01:42 ถ้าเราสามารถจะได้กิจกรรมบำบัดในการที่จะ ช่วยในเรื่องของความสัมพันธ์ในสังคม
00:01:42 → 00:01:44 นี่คือสิ่งที่เราจะมาคุยกันวันนี้เลย
00:01:44 → 00:01:48 ใช่เลยครับ เป็นความหมายที่ดีมากสำหรับ การที่อยู่ร่วมกันอย่างอยู่เย็นเป็นสุข
00:01:48 → 00:01:54 ความอยู่เย็นเป็นสุขเป็นสิ่งที่เราอยากจะเห็น ในครอบครัว และที่สำคัญในที่ทำงานของเราด้วย
00:01:54 → 00:01:56 เพราะเวลาที่เราพูดถึงที่ทำงานของเรานี่
00:01:56 → 00:01:59 ก็จะเป็นที่รวมของคนที่มาจากหลากหลาย
00:01:59 → 00:02:04 เรื่องของชุดความคิดที่เขามี ชุดประสบการณ์ที่เขามี
00:02:04 → 00:02:06 รวมทั้งสิ่งที่ติดตัวเขามาด้วย
00:02:06 → 00:02:07 คือเรื่องวัย
00:02:07 → 00:02:10 เขาแบ่งเป็น Generation ใช่ไหมครับ มี Gen อะไรกันอยู่บ้าง
00:02:10 → 00:02:11 ตอนนี้เราก็จะแบ่งออกเป็น 4 Generation
00:02:12 → 00:02:12 ครับ
00:02:12 → 00:02:16 4 Gen นะครับ Gen แรกก็คือเป็น Gen ที่เราเรียกว่า Baby Boom
00:02:16 → 00:02:21 Baby Boom ก็หมายถึงว่า ท่านก็อายุประมาณสักเกิน 64 ปีแล้ว
00:02:21 → 00:02:23 คือเกษียณมาสักเกือบ 5 ปีแล้ว
00:02:23 → 00:02:24 ครับ
00:02:24 → 00:02:28 แล้วก็กลุ่มที่ยังทำงานอยู่ แล้วค่อนข้างจะเป็น Senior ตอนนี้
00:02:28 → 00:02:30 เราเรียกว่า Gen X
00:02:30 → 00:02:37 ประมาณสัก 40 ต้น ๆ แล้วก็ตอนนี้ยาวไปถึง 60 ปลาย ๆ นิดนึง
00:02:37 → 00:02:39 เสร็จแล้ว Gen ที่เยอะที่สุดตอนนี้นะครับ
00:02:39 → 00:02:42 แล้วก็กำลังวิตกกังวล เราเรียกว่า Gen วิตกกังวล
00:02:42 → 00:02:43 [เสียงหัวเราะ]
00:02:43 → 00:02:44 Gen Y
00:02:44 → 00:02:46 เพราะว่ามีคำถามว่า Why, Why, Why
00:02:46 → 00:02:48 - ทำไมเสมอ - ทำไมตลอดเลย
00:02:48 → 00:02:52 ทำไมนี่ จะมีพวกอารมณ์ลังเล สงสัย วิตกกังวล
00:02:52 → 00:02:56 แล้วก็ช่วงที่เป็น 8-24 ปีนี่ เราเรียกว่า Gen Z
00:02:56 → 00:02:57 การที่จะแบ่งเป็น Gen ต่าง ๆ นี่
00:02:57 → 00:03:02 ดูจากปีเกิดเท่านั้นหรือ หรือว่าดูจากลักษณะอื่น ๆ ของเขาด้วย
00:03:02 → 00:03:07 จริง ๆ แล้ว พวก Gen ต่าง ๆ เขามาพร้อมกับ วัฒนธรรมการสื่อสาร
00:03:07 → 00:03:08 โอ้โฮ ใช้คำใหญ่
00:03:08 → 00:03:11 อา...เพราะว่า Gen Y นี่ เขามาพร้อมกับ Millennium
00:03:11 → 00:03:12 ครับ
00:03:12 → 00:03:16 เป็นคอมพิวเตอร์ ชุดคอมพิวเตอร์ที่เร็วขึ้น
00:03:17 → 00:03:18 ทันสมัยขึ้นนะครับ
00:03:18 → 00:03:24 ส่วน Gen Z เขาก็จะมาพร้อมกับ อะไรที่เกี่ยวกับบนมือถือ ซึ่งเล็กลงมาก ๆ
00:03:24 → 00:03:26 ส่วน Gen X กับ Baby Boom นี่คล้าย ๆ กัน
00:03:26 → 00:03:30 มาพร้อมพิมพ์ดีดนะ เครื่องพิมพ์ดีดอัตโนมัติ
00:03:30 → 00:03:32 มาพร้อมทีวี ประมาณนี้ครับ
00:03:32 → 00:03:35 เคยได้ยินมาครับ เขาบอกคนที่อายุเยอะ ๆ หน่อย
00:03:35 → 00:03:41 เขาอาจจะเป็นพวกที่เคลื่อนย้ายจากยุค Analog เข้ามาสู่ยุค Digital
00:03:41 → 00:03:44 เขาก็จะมีความสามารถในการรอระดับหนึ่งถูกไหม
00:03:44 → 00:03:47 แต่คนที่เกิดมาก็รู้จัก Digital แล้ว
00:03:47 → 00:03:49 แล้วส่วนใหญ่ก็จะรอไม่เป็น เกี่ยวข้องไหมครับ
00:03:49 → 00:03:54 เกี่ยวข้องเลย เพราะว่าอะไรก็ตาม ที่มีมาพร้อมเทคโนโลยีนี่ครับ
00:03:54 → 00:03:56 เขาก็จะใจร้อน
00:03:56 → 00:04:01 อารมณ์ก็คือ คาดหวังสูง และต้องทำให้เสร็จ ได้ผลเร็ว
00:04:01 → 00:04:02 - เดี๋ยวนั้นเลย - เดี๋ยวนั้นด้วย
00:04:02 → 00:04:05 เป็น Generation ประเภท Now
00:04:05 → 00:04:06 - ใช่ - เดี๋ยวนี้
00:04:06 → 00:04:08 แต่เขาจะขาดอะไรบางอย่าง
00:04:08 → 00:04:12 เช่น เขาจะขาดวิธีการสื่อสารที่อ่อนโยน
00:04:12 → 00:04:15 เขาสื่อสารประสบการณ์ชีวิตไม่ค่อยได้
00:04:15 → 00:04:15 ครับ
00:04:15 → 00:04:18 เพราะรุ่นพ่อรุ่นแม่เขาก็เร่งรีบไปหมดเลย
00:04:18 → 00:04:20 เวลาที่อยู่ในสังคมการทำงานนี่ครับ
00:04:21 → 00:04:25 มันก็คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เนอะ ที่จะต้องมีการสื่อสารกับคนอื่น ๆ
00:04:25 → 00:04:29 วิธีการสื่อสารของแต่ละคน
00:04:29 → 00:04:33 คนแต่ละรุ่น แต่ละวัย มันก็แตกต่างกัน
00:04:33 → 00:04:37 มันจะเป็นอุปสรรคไหมครับในการที่จะ ทำให้งานของเรามันเดินหน้าต่อไปได้
00:04:37 → 00:04:41 ไม่ว่าจะวัยไหน ๆ เขาก็จะมีอยู่ 3 ความ
00:04:41 → 00:04:44 3 ความ ว่ามา จัดมา
00:04:44 → 00:04:45 หนึ่ง ความรัก
00:04:45 → 00:04:46 ความรัก
00:04:46 → 00:04:48 สองคือ ความสัมพันธ์
00:04:48 → 00:04:50 ความสัมพันธ์ และสาม
00:04:50 → 00:04:52 - สามคือ ความสงบครับ - ความสงบ
00:04:52 → 00:04:52 ใช่ครับ
00:04:52 → 00:04:57 โดย 3 อันนี้ มันคือสิ่งที่อยู่ภายในใจ ของทุกวัยเลย
00:04:57 → 00:05:02 นั่นก็หมายความว่า ถ้าวิธีในการสื่อสารของเราคำนึงถึง 3 ความนี้
00:05:02 → 00:05:03 ครับ
00:05:03 → 00:05:05 มันจะทำให้การสื่อสารมันสำเร็จ
00:05:05 → 00:05:07 - เป็นภาษาเดียวกัน
00:05:07 → 00:05:13 [เสียงดนตรี]
00:05:13 → 00:05:15 พอสังคมมันเปลี่ยนไป
00:05:15 → 00:05:18 เรื่องของอาวุโส Seniority
00:05:18 → 00:05:24 มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้คน ๆ หนึ่ง ถูกโปรโมตขึ้นไปเป็นหัวหน้าถูกไหม
00:05:24 → 00:05:26 มันอาจจะเป็นด้วยคุณสมบัติอย่างอื่น
00:05:26 → 00:05:28 เราทำงานที่นี่มา 15 ปีแล้ว
00:05:28 → 00:05:29 เราไปไม่ถึงตรงนั้น
00:05:30 → 00:05:32 เขาเพิ่งมาทำงานได้ 3 ปี เขาเป็นหัวหน้าเราแล้ว
00:05:32 → 00:05:36 เราจะจัดการกับความคิดของเราอย่างไร
00:05:36 → 00:05:39 อันนี้พูดถึงในแง่ของ คนที่เป็นลูกน้องที่อายุเยอะกว่านะ
00:05:39 → 00:05:40 ถ้าพูดอีกแง่หนึ่ง
00:05:40 → 00:05:43 เฮ้ย เราก็เพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่ได้ 3 ปี
00:05:43 → 00:05:48 อยู่ ๆ เราก็แซงหน้าทุกคน วิ่งเข้าไปถึงตำแหน่งที่เป็นผู้จัดการแล้ว
00:05:48 → 00:05:51 - โดยธรรมชาติแล้วนี่ ไม่ต้องจัดการอะไรเลย - อ้าว
00:05:52 → 00:05:54 เพราะว่าอะไร เพราะว่า Gen X
00:05:54 → 00:05:54 ครับ
00:05:54 → 00:05:56 Gen X นี่เขา One-man show
00:05:56 → 00:05:59 คือเขาทำได้ ทำงานคนเดียวก็ได้
00:05:59 → 00:06:01 และก็ไม่อยากเป็นหัวหน้าใครด้วย
00:06:01 → 00:06:02 Gen X จะภูมิใจมาก
00:06:02 → 00:06:04 แต่ก็จะมีข้อเสียก็คือ
00:06:04 → 00:06:07 เขานี่จะบ้างานนิด ๆ
00:06:07 → 00:06:08 อืม
00:06:08 → 00:06:12 แล้วก็อยากได้ชีวิตของเขาเป็นส่วนตัวมาก ๆ
00:06:12 → 00:06:14 เขาต้องการความสมดุลของชีวิต
00:06:14 → 00:06:16 และการใช้ชีวิตที่มีงานด้วย
00:06:16 → 00:06:19 พักผ่อนด้วย สุขภาพก็ด้วย
00:06:19 → 00:06:21 คราวนี้กลุ่มที่เขาอยากเป็นหัวหน้า รู้ไหมครับใคร
00:06:22 → 00:06:24 อ้าว มันก็คงไม่ใช่ Gen X แล้วล่ะ
00:06:24 → 00:06:25 [เสียงหัวเราะ]
00:06:25 → 00:06:26 - Gen Z ไง - อ้าว หรือครับ
00:06:26 → 00:06:28 - ใช่ - แล้วข้าม Gen Y ไปไหน
00:06:28 → 00:06:30 เพราะว่า Gen Y เป็น Gen วิตกกังวล
00:06:30 → 00:06:30 อ๋อ
00:06:30 → 00:06:32 ลังเล สงสัย
00:06:32 → 00:06:32 ครับ
00:06:32 → 00:06:36 จะเป็นหัวหน้าทำไม แค่นี้ก็งานยุ่งอยู่แล้ว
00:06:36 → 00:06:39 ดังนั้น Gen ที่จะมาใหม่ ๆ คือ เขาคอยดู Gen X
00:06:39 → 00:06:41 ดู Gen Y
00:06:41 → 00:06:44 แล้วก็เขาจะปรับปรุงตัวเองให้ดีกว่า X และ Y
00:06:44 → 00:06:45 ก็คือ Gen Z
00:06:45 → 00:06:47 สำหรับคนที่เป็น Gen Z
00:06:47 → 00:06:48 ครับ
00:06:48 → 00:06:50 แล้วในที่สุดได้เป็นหัวหน้า
00:06:50 → 00:06:52 คนที่เป็นลูกน้องเรา
00:06:52 → 00:06:54 เป็น...สวัสดีครับคุณพี่
00:06:54 → 00:06:56 ช่วยทำอย่างนี้ให้ผมหน่อย อย่างนั้นหรือเปล่า
00:06:56 → 00:07:00 หรือมันมีวิธีในการที่จะพูดคุยกับ คนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาอย่างไร
00:07:00 → 00:07:01 เขาจะปรับตัวเร็วมาก
00:07:01 → 00:07:02 อ้าวหรือครับ
00:07:02 → 00:07:05 แต่ที่ผมบอกเมื่อกี๊คือ ที่เขาขาดคือ Soft Skill
00:07:06 → 00:07:09 Soft Skill เขาจะพูดอย่างไร เจรจาต่อรองอย่างไร
00:07:09 → 00:07:10 ทำได้เลยครับ
00:07:11 → 00:07:13 เป็น Gen ที่มาแรงมาก ๆ สำหรับยุคนี้
00:07:13 → 00:07:17 หลาย ๆ ที่ที่ผมไปอ่านเจอมา รวมทั้งได้ฟังมาด้วยก็คือว่า
00:07:17 → 00:07:19 บางทีการเป็นหัวหน้านี่
00:07:20 → 00:07:23 มันอาจจะไม่คอยเป็น Ideal เท่าไหร่
00:07:23 → 00:07:26 มันอาจจะ เอ...เป็นโค้ชจะดีกว่าไหม
00:07:26 → 00:07:31 อ.ป๊อบมีข้อคิดเห็นในเรื่องของคำว่า หัวหน้ากับคำว่าโค้ชอย่างไรบ้างครับ
00:07:31 → 00:07:33 จะบอกว่า Gen Y ชอบมากเลย
00:07:33 → 00:07:37 Gen Y นี่ ขอให้มีหัวหน้านะ เพราะเขาวิตกกังวล
00:07:37 → 00:07:40 เขาก็เลยอยากมีคนที่เป็นเสาหลัก
00:07:40 → 00:07:42 ขอให้มีใครเป็นหัวหน้าแทนเขา
00:07:43 → 00:07:46 แล้วเขาจะตามบ้าง ไม่ตามบ้าง อีกเรื่องหนึ่ง เพราะเขารักอิสระ
00:07:46 → 00:07:47 ครับ
00:07:47 → 00:07:49 อีกอันหนึ่งก็คือเรื่องโค้ชนี่
00:07:49 → 00:07:51 เขาก็อยากให้หัวหน้าเป็นโค้ชด้วย
00:07:51 → 00:07:53 กรณีที่เขาวิตกกังวล
00:07:53 → 00:07:57 เขาต้องการพึ่งพาทางด้านสุขภาพจิตอย่างแรง สำหรับ Gen Y
00:07:57 → 00:08:02 ดังนั้น ใน Gen Y เขาก็จะนิยมทั้งหัวหน้าที่เป็นโค้ชได้
00:08:02 → 00:08:08 และโค้ชที่สามารถที่จะเป็นหัวหน้า ช่วยนำทางเขาได้
00:08:09 → 00:08:10 แล้ว Gen Z ล่ะครับ
00:08:10 → 00:08:14 Gen Z เขาก็จะรักความยุติธรรม
00:08:15 → 00:08:17 ดังนั้น ทุกคนเท่าเทียมกัน
00:08:17 → 00:08:20 - ไม่มีหัวหน้า ไม่มีโค้ช -อ้าว
00:08:20 → 00:08:25 ทุกคนจะได้เป็นหัวหน้า เฉพาะเรื่องที่เขาถนัดนะ
00:08:25 → 00:08:29 Gen Z สนใจคนที่สร้างแรงบันดาลใจ
00:08:29 → 00:08:30 มีประสบการณ์ชีวิต
00:08:31 → 00:08:37 แล้วก็เขาจะขวนขวายค้นหา Baby Boomer หรือ Gen X
00:08:38 → 00:08:41 ที่มาถ่ายทอด แลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างจริงจัง
00:08:41 → 00:08:42 ครับ
00:08:42 → 00:08:44 เวลาที่ทำงานร่วมกันเนอะ
00:08:45 → 00:08:47 มันก็คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะต้องทำงานกับคนนี้
00:08:47 → 00:08:50 บางคนบางทีเคมีไม่ตรงกัน
00:08:50 → 00:08:55 แค่มองหน้าเฉย ๆ ก็ไม่รู้อะไรที่มาทำให้ ไม่อยากทำงานกับคนนี้เลย
00:08:55 → 00:08:56 แต่มันก็ต้องทำ
00:08:56 → 00:08:59 มันจะมีกิจกรรมอะไร
00:08:59 → 00:09:05 วิธีอย่างไรที่จะทำให้ทุกคนได้ทำงานร่วมกัน ได้อย่างมีสันติและมีประสิทธิภาพ
00:09:05 → 00:09:09 นักกิจกรรมบำบัดนี่นะครับ โดยทั่วไป คนอาจจะเข้าใจว่าอยู่ในโรงพยาบาล
00:09:10 → 00:09:13 แต่จริง ๆ แล้วนี่ กิจกรรมบำบัดเราอยู่กับ กิจกรรมในชีวิต
00:09:14 → 00:09:17 เรามีหน้าที่อันหนึ่งที่เราเรียกว่า ออกแบบสิ่งแวดล้อม
00:09:18 → 00:09:20 สิ่งแวดล้อมหมายถึง ต้นไม้ ป่าเขา?
00:09:20 → 00:09:24 สิ่งแวดล้อมที่จะสร้างความสัมพันธ์ สร้างความรัก และความสงบ
00:09:24 → 00:09:26 มีที่ 3 ความเมื่อกี๊ครับ
00:09:26 → 00:09:26 ครับ
00:09:26 → 00:09:28 เป็น 3 ความที่ทุกวัยต้องการ
00:09:28 → 00:09:32 ดังนั้น เราจะเรียกห้องหนึ่งว่า Multisensory
00:09:34 → 00:09:34 ใช่ครับ
00:09:34 → 00:09:36 ห้อง Multisensory ก็คือ
00:09:36 → 00:09:40 จะมีทางเลือกว่าคุณชอบแสง
00:09:40 → 00:09:42 - คุณชอบเสียง - ครับ
00:09:42 → 00:09:44 คุณชอบการเคลื่อนไหว
00:09:44 → 00:09:46 คุณชอบการสัมผัส
00:09:46 → 00:09:49 คุณชอบรส กลิ่นจากอาหารอะไรพวกนี้ครับ
00:09:49 → 00:09:53 คือ เรามี 5 ทางเลือกให้เขา
00:09:53 → 00:09:55 - ก็คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส - ใช่เลย
00:09:55 → 00:09:55 อ๋อ
00:09:55 → 00:09:58 ตรงนี้เราเรียกว่า Gen Z ต้องการมาก
00:09:58 → 00:09:59 อืม
00:09:59 → 00:10:03 แล้วเมื่อใดก็ตาม เขาได้ในสิ่งที่เขารู้สึกพอใจ
00:10:03 → 00:10:03 ครับ
00:10:03 → 00:10:05 เขาก็จะผ่อนคลาย
00:10:05 → 00:10:07 พอเขาผ่อนคลายปุ๊บ
00:10:07 → 00:10:10 ใครมาอย่างไร อารมณ์เขาร่วมได้หมดเลย
00:10:10 → 00:10:12 นั่นก็คือ เขามองจากมุมของตัวเอง
00:10:12 → 00:10:13 ใช่
00:10:13 → 00:10:15 ถ้าในที่สุด เขาพอใจในสิ่งที่เขาได้รับ
00:10:15 → 00:10:18 ทีนี้เขาโอเคที่จะทำงานกับใครก็ได้
00:10:18 → 00:10:18 เปิดใจเลย
00:10:18 → 00:10:19 อา...
00:10:19 → 00:10:25 [เสียงดนตรี]
00:10:25 → 00:10:29 ฟังตอนแรก ผมก็พยายามที่จะ.. เอ๊ะ ผมจะฟิตอยู่ในกลุ่มไหนนะ
00:10:29 → 00:10:35 แต่พอฟังไปฟังมา เหมือนกับเรากำลังจะ Put label ให้กับคนเหล่านี้
00:10:35 → 00:10:37 แต่จริง ๆ แล้ว ชีวิตจริง ๆ ของคนเรา
00:10:37 → 00:10:40 มันอาจจะไม่ได้จำเป็นว่า จะต้องเข้าไปอยู่ในกล่องไหนเนอะ
00:10:40 → 00:10:41 มันอาจจะมีความหลากหลายมากกว่านี้ถูกไหม
00:10:41 → 00:10:43 มีความผสมผสานมากกว่า
00:10:43 → 00:10:46 เพราะว่าตอนหลังนี้ เขาไม่พูดถึง Gen แล้วนะครับ
00:10:46 → 00:10:46 อ้าวหรือครับ
00:10:46 → 00:10:49 ใช่ครับ Gen นี่เป็นแค่ให้เรารู้ว่า
00:10:49 → 00:10:51 อ๋อ เราอยู่ใน Gen นี้นะ
00:10:51 → 00:10:54 แต่ว่า Gen ทุก Gen มันมีการพัฒนาที่ดีขึ้น
00:10:54 → 00:10:58 ภายในตัวเราเองนี่ เราเลยเรียกอันใหม่ว่า Self
00:10:58 → 00:10:59 Self
00:10:59 → 00:11:00 ใช่
00:11:00 → 00:11:04 Self นี่นะครับก็คือ ทุกวัยนี่ เราไม่สนใจว่าอยู่ Gen ไหน
00:11:04 → 00:11:05 อ๋อ
00:11:05 → 00:11:10 แต่คุณจะมีการเรียนรู้เรื่องของ ตัว S ตัวแรกคือ Social
00:11:10 → 00:11:11 Social
00:11:11 → 00:11:13 E คือ Emotion
00:11:14 → 00:11:15 - L คือ Learning - ครับ
00:11:15 → 00:11:19 แล้วตัวหลังสำคัญมาก เป็นจิตวิทยาเชิงบวกที่เราเรียกว่า Flow
00:11:19 → 00:11:21 เวลาที่เราอยู่กับ Gen ไหน ๆ ได้
00:11:21 → 00:11:26 แสดงว่าสมองของเรา จิตใจของเรา มันสมดุลกัน
00:11:26 → 00:11:27 อืม
00:11:27 → 00:11:29 เราคิดบวก เราคิดยืดหยุ่น
00:11:29 → 00:11:33 อารมณ์ เรามีอารมณ์ดีไปกับทุก ๆ วัยได้
00:11:33 → 00:11:38 เราควรจะมีกิจกรรมที่ ร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจกัน
00:11:38 → 00:11:40 ระหว่างคนต่างวัยนั่นเอง
00:11:40 → 00:11:42 และทำให้เกิดการสื่อสารกัน
00:11:42 → 00:11:45 สื่อสารกันทางบวก เข้าใจกัน
00:11:45 → 00:11:48 เห็นอกเห็นใจกัน อันนี้สำคัญมาก เราเรียกว่า Flow
00:11:49 → 00:11:51 อารมณ์ลบมา Flow
00:11:52 → 00:11:53 ให้เป็นอารมณ์บวกเร็ว ๆ
00:11:54 → 00:11:56 คิดลบมา Flow
00:11:56 → 00:11:57 ให้เกิดความคิดบวกเร็ว ๆ
00:11:58 → 00:12:01 อันนี้จะเป็นการบังคับกันจนเกินไปไหมครับว่า
00:12:01 → 00:12:05 ถ้าอารมณ์ลบมา ต้องรีบกด ๆ มันไป แล้วใส่อารมณ์บวกเข้าไป
00:12:05 → 00:12:06 ไม่เชิงครับ
00:12:06 → 00:12:08 เราถือว่าให้เป็นไปตามธรรมชาติ
00:12:08 → 00:12:11 แต่ละคนนี่ อารมณ์อาจจะหงุดหงิดมาจากบ้าน
00:12:11 → 00:12:11 ครับ
00:12:11 → 00:12:13 แต่พอเข้ามาในที่ทำงานปุ๊บ
00:12:13 → 00:12:15 ให้รู้สึกว่าเป็นบ้านแห่งหนึ่ง
00:12:15 → 00:12:18 เป็นบ้านที่พื้นที่เราปลอดภัย
00:12:18 → 00:12:22 เป็นพื้นที่ที่เราสามารถที่จะ ไว้อกไว้ใจกันได้อย่างนี้ครับ
00:12:22 → 00:12:24 มันก็เลยเรียกว่าจิตวิทยาเชิงบวก
00:12:24 → 00:12:26 ซึ่งเราหาได้จากไหน
00:12:26 → 00:12:29 ก็หาได้จากคนที่อยู่รอบ ๆ ตัวเรา
00:12:29 → 00:12:30 ครับ
00:12:30 → 00:12:33 แล้วก็สามารถที่จะสะสมประสบการณ์ชีวิต
00:12:33 → 00:12:36 ภายในตัวเราที่เราเรียกว่า Self-esteem
00:12:36 → 00:12:42 มันคือความรู้สึก โอ้โฮ ภูมิใจจังเลย ที่อยู่กับที่ทำงานกับพี่ ๆ
00:12:42 → 00:12:46 ภูมิใจจังเลยที่ได้ทำงานร่วมกับน้อง ๆ
00:12:46 → 00:12:49 มันก็จะใกล้ ๆ กับคำว่า Self-confidence อยู่ด้วยเหมือนกัน
00:12:49 → 00:12:51 Self-confidence คือมันจะออกมาให้เห็น
00:12:51 → 00:12:53 Self-confidence อยู่ข้างนอก
00:12:53 → 00:12:55 Self-esteem อยู่ข้างใน
00:12:55 → 00:12:58 เป็นวิธีเปรียบเทียบที่ทำให้เห็นภาพได้ง่าย
00:12:58 → 00:12:59 ใช่ ใช่ครับ ชัดมาก
00:12:59 → 00:13:02 Self-esteem และ Self-confidence นี่
00:13:02 → 00:13:03 มันอาจจะถูกทำลายได้ง่าย ๆ เลยนะ
00:13:03 → 00:13:06 เวลาที่เราเสนองานให้ทีมฟัง
00:13:06 → 00:13:10 แล้วอยู่ ๆ ทีมก็ให้ feedback มา ประเภทที่แบบ...เฮ้ย ไม่ไว้หน้ากันเลยหรือ
00:13:10 → 00:13:14 มันจะมีวิธีอย่างไรที่จะให้ feedback เวลาที่มันไม่ไหวจริง ๆ
00:13:14 → 00:13:15 แต่ว่ามันต้องให้ feedback
00:13:15 → 00:13:17 ปัจจุบันนี้เราเรียกว่า
00:13:17 → 00:13:20 เราต้องเรียนรู้ทักษะการ feedback
00:13:20 → 00:13:23 เพราะว่า feedback ตอนนี้ มันมีอยู่ 5 การ feedback
00:13:23 → 00:13:25 ซึ่งเป็น Negative feedback
00:13:25 → 00:13:26 อ้าว
00:13:27 → 00:13:29 - จำง่าย ๆ - ไม่มี Positive หรือ
00:13:29 → 00:13:35 โดยองค์กรที่เขาทำงาน เป็นประเพณีนิยมมานานนี่นะครับ
00:13:35 → 00:13:38 เขาก็มักจะต้องมี Criticize เนอะ
00:13:38 → 00:13:41 การ Criticize นี่ เชื่อไหมครับว่าตอนหลัง ๆ นี่
00:13:41 → 00:13:42 สุขภาพจะแย่ลง
00:13:43 → 00:13:46 คนที่ตำหนิติเตียน วิจารณ์คนอื่น
00:13:46 → 00:13:48 ลืมมองตัวเอง
00:13:48 → 00:13:49 [เสียงหัวเราะ]
00:13:49 → 00:13:51 พอลืมมองตัวเองปุ๊บนี่ นอนไม่หลับ
00:13:52 → 00:13:55 สุขภาพก็เริ่มแย่ ดังนั้น เราเลยเปลี่ยนใหม่ว่า
00:13:55 → 00:13:59 ต้องมาเรียนรู้นะ ไม่ว่าจะอายุไหน ๆ Gen ไหน ๆ
00:13:59 → 00:14:01 ต้องมาเรียนรู้ Sandwich feedback
00:14:01 → 00:14:04 นึกถึงนะครับ เรามีขนมปัง 2 ชิ้น
00:14:04 → 00:14:04 ครับ
00:14:04 → 00:14:08 อยู่ปิดบน ปิดล่าง แล้วก็มีไส้อยู่ข้างใน
00:14:08 → 00:14:12 ตัวขนมปังเปิดและปิดนี่ ก็คือเราต้องใส่ Positive
00:14:13 → 00:14:15 เจอกันครั้งแรกก็ Positive แล้ว
00:14:15 → 00:14:17 คิดบวก ชื่นชมแล้ว
00:14:17 → 00:14:18 ครับ
00:14:18 → 00:14:20 และไม่ได้ชื่นชมแบบเสแสร้งนะครับ
00:14:20 → 00:14:22 - ชื่นชมแบบจริงใจ - ครับ
00:14:22 → 00:14:23 ยกตัวอย่างให้เห็นเลย
00:14:23 → 00:14:27 พี่จำได้นะ น้องจำได้นะว่าเหตุการณ์นี้
00:14:28 → 00:14:31 พี่ทำได้ดีแบบนี้ น้องทำได้ดีแบบนี้
00:14:31 → 00:14:34 นี่คือการเปิด Positive ขนมปังใบแรก
00:14:36 → 00:14:37 คราวนี้ไส้ข้างในนี่
00:14:37 → 00:14:40 ไส้ข้างในควรจะต้องให้เขาลองคิดเอง
00:14:40 → 00:14:43 ให้ถามเขาว่าเขามั่นใจ ในความสามารถของเขาอย่างไร
00:14:43 → 00:14:44 ครับ
00:14:44 → 00:14:46 คะแนนไม่มีเป็นสเกล 0 นะครับ
00:14:46 → 00:14:47 ให้บอกว่า 1-7
00:14:48 → 00:14:48 อ๋อ
00:14:48 → 00:14:50 นี่ ๆ เขาเรียกว่าเป็น Trick เลยเนอะ
00:14:50 → 00:14:53 เป็น Trick เลยครับ แล้วก็เป็นจิตวิทยาแบบหนึ่งที่บอกว่า
00:14:53 → 00:14:56 1 คือ คุณมีคุณค่าอยู่นะ
00:14:56 → 00:14:56 ครับ
00:14:56 → 00:14:58 แต่ 7 นี่คือแบบ โอ้โฮ เต็มที่เลย
00:14:58 → 00:14:59 - สุด ๆ - สุด ๆ เลย
00:15:00 → 00:15:03 แล้วให้เขาประเมินตัวเองว่า เขาจะต้องปรับพัฒนาอย่างไรด้วย
00:15:03 → 00:15:05 เราไม่มีไกด์อะไรเลย
00:15:05 → 00:15:06 ครับ
00:15:06 → 00:15:09 และสุดท้ายก็ชมที่เขาสามารถบอกได้ว่า
00:15:09 → 00:15:14 เขารู้จุดแข็งตัวเอง แล้วก็พัฒนาตัวเอง มีแนวทางชัดเจน
00:15:14 → 00:15:16 ก็เป็นตัวปิดท้ายนั่นเอง
00:15:17 → 00:15:21 - โอ้ ก็คือเริ่มด้วยคำชมเชิงบวก - ใช่ครับ
00:15:21 → 00:15:22 ใช่ครับ
00:15:22 → 00:15:25 - แล้วตามมาด้วย feedback ที่เป็นเชิงคำถาม - ใช่ครับ
00:15:25 → 00:15:29 - แล้วปิดท้ายด้วยคำบวกอีกสักทีหนึ่ง - คำบวกอีกทีหนึ่ง
00:15:29 → 00:15:31 อ๋อ นี่คือ Sandwich feedback
00:15:31 → 00:15:35 ใช่ครับ ออกไปมันแบบ โอ้โฮ เบิกบานใจทุกคนครับ
00:15:35 → 00:15:38 ผมว่า มันคงจะต้องบวกด้วยคำว่า ความจริงใจด้วยใช่หรือเปล่า
00:15:38 → 00:15:38 ใช่เลย
00:15:39 → 00:15:44 มันก็จะเป็นวิธีหนึ่งในการที่จะทำให้ Self-esteem ของคน ๆ นั้น จะยังคงอยู่
00:15:44 → 00:15:45 ดีมาก ๆ
00:15:45 → 00:15:47 แล้วก็ไม่ถูกทำลาย
00:15:47 → 00:15:49 ไม่ถูกทำลาย แล้วก็รู้จักตัวเองมากขึ้น
00:15:50 → 00:15:52 คนเรานะครับ ถ้ารู้จักตัวเองมาขึ้นนี่
00:15:52 → 00:15:56 เขาจะอยากจะนำสิ่งที่ดี ๆ ออกไปให้คนอื่นรู้ด้วย
00:15:58 → 00:16:02 Self-esteem มันเกิดจากเจ้าของตัวตนหรือเปล่า
00:16:02 → 00:16:07 หรือว่าคนอื่น ๆ มาช่วยเสริมสร้าง Self-esteem ของคน ๆ หนึ่งได้
00:16:07 → 00:16:09 80% มาจากภายในตัวเรา
00:16:10 → 00:16:11 อีก 20% คือข้างนอก
00:16:11 → 00:16:16 ลองยกตัวอย่างของการสร้าง Self-esteem ด้วยตัวเองสักนิดนึงได้ไหมครับ
00:16:16 → 00:16:18 เผื่อผมจะเอาไปใช้เอง
00:16:18 → 00:16:19 ได้ครับ
00:16:19 → 00:16:21 วิธีการง่าย ๆ เลยครับ อ.เต้ ก็คือ
00:16:22 → 00:16:23 เราลองบอกมาซิตอนนี้
00:16:23 → 00:16:24 ครับ
00:16:24 → 00:16:26 ว่าเรามีข้อดีอะไรสัก 10 ข้อ
00:16:26 → 00:16:27 เพียบเลยครับ
00:16:27 → 00:16:28 - แต่ยังนึกไม่ออก - ให้เขียน
00:16:28 → 00:16:30 - อ๋อให้เขียน - เขียน ใช่
00:16:30 → 00:16:32 เพราะบางทีเราคิดแล้วมันฟุ้งใช่ไหมครับ
00:16:32 → 00:16:35 เวลาเขียนจริง ๆ เราจะรู้เลยว่า
00:16:35 → 00:16:37 มันใช่ มันใช่ แล้วเราทำบ่อย
00:16:37 → 00:16:39 ยิ่งเราทำบ่อย เราจะเขียนได้เร็ว
00:16:40 → 00:16:42 - 10 ข้อ ไม่เกิน 5 นาทีก็เขียนได้แล้ว - ครับ
00:16:43 → 00:16:44 แต่ถ้าไม่มี
00:16:44 → 00:16:49 เขาก็จะเริ่ม อา...แย่แล้ว เคสผมเขาก็บอกว่า ไม่ถึง 10 ข้อ ทำอย่างไร
00:16:49 → 00:16:53 แสดงว่าอันนี้ดูออกเลยว่า Perfectionist
00:16:53 → 00:16:54 [เสียงหัวเราะ]
00:16:54 → 00:16:56 - เขาคาดหวังที่จะต้องให้ตัวเอง 10 ข้อ - ครับ
00:16:56 → 00:17:00 แต่เขานึกไม่ออก เพราะเขาไม่ได้ภูมิใจกับเรื่องนั้นจริง ๆ
00:17:00 → 00:17:04 ถึงแม้ว่าเขาจะเก่งและดีในเรื่องนั้น ในสายตาคนอื่น
00:17:04 → 00:17:04 ใช่
00:17:04 → 00:17:07 แต่ด้วยความที่เขาเป็นสมบูรณ์แบบ Perfectionist
00:17:07 → 00:17:11 มันอาจจะยังไม่ถึง Standard ที่เขาวางไว้ เขาก็เลยไม่กล้าเคลมว่านี่คือสิ่งที่เขาดี
00:17:12 → 00:17:14 เพราะเขาไม่เคยย้อนมองตัวเอง
00:17:14 → 00:17:15 หรือขอบคุณตัวเอง
00:17:15 → 00:17:18 มีคำใหม่ที่ยอดฮิตมาสำหรับทุก Gen คือคำว่า Gratitude
00:17:18 → 00:17:19 Gratitude
00:17:19 → 00:17:23 เราต้องรู้จักที่จะ acknowledge ตัวเอง ขอบคุณตัวเอง
00:17:24 → 00:17:27 พอเราบอกว่าข้อดีเรามี 10 ข้อ ถึงไม่ถึงไม่รู้
00:17:27 → 00:17:27 ครับ
00:17:27 → 00:17:31 แต่ถ้ามี 3 ข้อ เราก็ขอบคุณตัวเราที่ทำได้ 3 ข้อ
00:17:31 → 00:17:37 [เสียงดนตรี]
00:17:37 → 00:17:39 ในสังคมที่มีคนหลาย ๆ วัย
00:17:39 → 00:17:43 ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงาน หรือว่าอาจจะเป็นในครอบครัวของเรา
00:17:43 → 00:17:48 หรืออาจจะเป็นในชมรมอะไรสักอย่าง ที่เราไปเจอในโลกออนไลน์แล้วเรามารวมตัวกัน
00:17:49 → 00:17:54 ผมว่าวิธีหนึ่งในการที่จะทำให้คนเหล่านี้ เข้าด้วยกันได้ ก็คงจะเป็นกิจกรรมเนอะ
00:17:54 → 00:17:54 ครับ
00:17:54 → 00:17:59 กิจกรรมอะไรบ้างครับที่คิดว่า ในฐานะที่เป็นนักกิจกรรมบำบัด
00:17:59 → 00:18:03 จะแนะนำให้กับผมหรือคุณผู้ฟัง ได้ลองนำไปใช้ครับ
00:18:03 → 00:18:07 ครับ ผมขอเรียกสั้น ๆ ว่าเป็น กิจกรรมมหัศจรรย์
00:18:07 → 00:18:07 [เสียงหัวเราะ]
00:18:07 → 00:18:08 MAGIC
00:18:08 → 00:18:10 MAGIC ก็มาจากคำว่า
00:18:10 → 00:18:12 ตัว M แรก Music ครับ
00:18:12 → 00:18:17 ก็คือเราต้องแบบ อย่างน้อยมีดนตรีเปิดในที่ทำงาน
00:18:17 → 00:18:20 อาจจะเป็นดนตรีที่ร้องเพลงร่วมกัน
00:18:20 → 00:18:23 เพื่อแสดงความเป็นทีมเวิร์คอย่างนี้
00:18:23 → 00:18:26 คือร้องเพลงในระหว่างเวลางานเลยหรือครับ
00:18:26 → 00:18:26 ใช่ ได้เลย
00:18:27 → 00:18:28 - ได้เลยหรือครับ - ได้เลย
00:18:28 → 00:18:31 เพราะจริง ๆ นะครับ ทำงานจริง ๆ นี่ เราให้ทำงานเคร่งเครียดจริง ๆ นี่นะครับ
00:18:32 → 00:18:34 สมองรับได้นี่ 25 นาที
00:18:34 → 00:18:35 ใน 1 ชั่วโมงใช่ไหม
00:18:35 → 00:18:36 ใช่ ใน 1 ชั่วโมง
00:18:36 → 00:18:37 หมายถึงต่อเนื่องกัน 25 นาที
00:18:37 → 00:18:40 ไม่ควรจะนั่งนานเกินไป อย่างนี้สุขภาพองค์กรแย่
00:18:40 → 00:18:41 โอ้โฮ ครับ
00:18:41 → 00:18:44 25 นาที เบรกสัก 5 นาที แล้วกลับมาใหม่อย่างนี้ครับ
00:18:44 → 00:18:48 และเวลาที่ดีที่สุดสำหรับ MAGIC คือ 11.00-12.00 น.
00:18:48 → 00:18:50 นั่นก็คือเป็นช่วงสำหรับทำกิจกรรมด้วย
00:18:50 → 00:18:51 ทำกิจกรรมที่ว่านี้
00:18:51 → 00:18:53 - ตัว M ตัวแรกคือ Music - คือ Music
00:18:53 → 00:18:54 ก็ไปถึง Art
00:18:54 → 00:18:58 Art ก็เป็นเรื่องของ ชมรมถ่ายภาพก็เป็น Art
00:18:58 → 00:18:59 - ศิลปะ - ศิลปะเนอะ
00:18:59 → 00:19:04 ชมรมเต้น เต้นลีลาศ เต้นรำ เต้นอะไร ตามสไตล์ยุคสมัย
00:19:04 → 00:19:05 เพนต์ภาพ
00:19:05 → 00:19:06 ปักครอสติสช์
00:19:06 → 00:19:08 มีอะไรที่เป็นกำแพงนะครับ
00:19:08 → 00:19:13 กำแพงสีขาว แต่เริ่มแต้มสี เป็นศิลปะ มันงดงามมากนะครับ
00:19:13 → 00:19:15 มันจะเกิด Games นะครับ
00:19:15 → 00:19:19 เกมเราก็ทำบ่อย ๆ แต่ควรจะทำบ่อย ๆ ไม่ใช่เฉพาะแค่ปีละครั้ง
00:19:19 → 00:19:21 - กีฬาสีประจำปี - เล่นกีฬาสีอะไรอย่างนี้ ใช่
00:19:21 → 00:19:26 มันจะต้องมีใครเล่นกีฬาเพื่อผ่อนคลายเนอะ
00:19:26 → 00:19:30 ระหว่างทำงานเล่นปิงปอง เล่นกีฬาหมากรุก หมากฮอสได้ อย่างนี้ครับ
00:19:30 → 00:19:33 และอันหนึ่งที่น่าสนใจมากคือ Ideal
00:19:33 → 00:19:38 Idea ก็คือบันได เป็นการที่เราแสดงแบบ มีพื้นที่แสดงอิสระเลย
00:19:38 → 00:19:42 ไอเดียสร้างสรรค์ อยากให้องค์กรไปข้างหน้าอย่างไร
00:19:42 → 00:19:45 อยากให้คนนี้ได้พัฒนาตัวเองอย่างไร เป็นอิสระเลย
00:19:46 → 00:19:48 เปิดกว้างคือ ไม่มีผิดมีถูก
00:19:48 → 00:19:50 พื้นที่อิสระ และปลอดภัยด้วย
00:19:50 → 00:19:51 ปลอดภัยด้วย
00:19:51 → 00:19:57 และสุดท้ายนี่ มันจะเกิดความศรัทธาในตัวเขาตัวเรา
00:19:57 → 00:19:59 คนในองค์กรก็จะเกิดพลังอีกแบบหนึ่ง
00:19:59 → 00:20:01 ซึ่งไประดับสุดท้ายคือ Crafts
00:20:01 → 00:20:03 Crafts นี่ก็คือเป็น หัตถกรรม
00:20:03 → 00:20:04 โอ้
00:20:04 → 00:20:07 หัตถกรรมนี่ก็คือ เวลาจัดกิจกรรม
00:20:07 → 00:20:11 ยกตัวอย่างง่าย ๆ กิจกรรมรับขวัญน้องใหม่
00:20:11 → 00:20:13 นั่นถือว่าเป็นหัตถกรรม?
00:20:13 → 00:20:17 หัตถกรรม เพราะว่ารับขวัญน้องใหม่นี่จริง ๆ แล้ว
00:20:17 → 00:20:23 มันจะมีรายละเอียดของการที่จะต้องแบบ โอ้โฮ ต้องมีการผูกด้ายนะครับ
00:20:23 → 00:20:25 มีการร้อยดอกไม้
00:20:25 → 00:20:27 บางทีอาจจะมีดนตรีไทยนะครับ
00:20:27 → 00:20:32 ภูมิปัญญาบ้านเราหลาย ๆ อย่างที่ใส่ลงไปนี่ เราเรียกว่า Crafts ทั้งนั้นเลยนะครับ
00:20:32 → 00:20:36 แล้วก็แม้กระทั่งงานวันประเพณีไทยต่าง ๆ บ้านเรามีเยอะมากครับ
00:20:37 → 00:20:39 มันจะมีองค์ประกอบของ Crafts เยอะมาก
00:20:40 → 00:20:43 ซึ่งตรงนี้ เมื่อใดก็ตามมีหัตถกรรม
00:20:43 → 00:20:46 จิตใจของเราก็ถักทอได้ละเอียดอ่อนมาก
00:20:46 → 00:20:48 Soft Skill มันก็จะประณีต
00:20:48 → 00:20:50 จิตใจก็อ่อนโยนขึ้นครับ
00:20:50 → 00:20:55 กิจกรรมที่เรียกว่า MAGIC มันควรจะต้องจัดถี่บ่อยขนาดไหนครับ
00:20:55 → 00:20:58 ปีละครั้ง 2 เดือนครั้ง หรือว่าจัดกันทุกวันเลย
00:20:58 → 00:20:59 ไม่เอาเวลามายึดติดเลยครับ
00:20:59 → 00:21:00 - อ๋อหรือครับ - ใช่ครับ
00:21:01 → 00:21:04 แต่ขอให้ผสมผสานในตัวเหล่านี้นะครับ
00:21:04 → 00:21:05 ครับ
00:21:05 → 00:21:08 จำเป็นต้องมีครบ 5 ตัวไหมครับ ในแต่ละกิจกรรมที่เราจัดนี่
00:21:08 → 00:21:12 ก็ไม่จำเป็น แต่เชื่อไหมครับ โดยธรรมชาติมันจะจัดสรรค์ให้เอง
00:21:12 → 00:21:12 มันจะมาเอง
00:21:12 → 00:21:15 ทั้ง 5 ตัวนี้ในกิจกรรมบำบัด
00:21:15 → 00:21:17 ทั่วโลกเขาก็ลงมติว่า
00:21:17 → 00:21:22 เป็นการที่ทำให้เราเกิดความสัมพันธ์ มากขึ้นเรื่อย ๆ
00:21:22 → 00:21:23 ผูกพันใกล้ชิดมาก ๆ
00:21:24 → 00:21:27 - จากเดิมที่องค์กรของเราต่างคนต่างอยู่ - ครับ
00:21:27 → 00:21:30 ต่างวัย แล้วก็มีกำแพง เราเรียกว่า Empty Love
00:21:30 → 00:21:33 เป็นรักที่แบบ... ฉันรักในหน้าที่งานเท่านั้นแหละ
00:21:33 → 00:21:35 ไม่ได้ใกล้ชิดผูกพันอะไร
00:21:35 → 00:21:38 แต่พอมันเปลี่ยนไป เปลี่ยนไป โดยใส่ MAGIC เข้าไป
00:21:38 → 00:21:38 ครับ
00:21:39 → 00:21:42 - มันจะกลายเป็น Unlimited Love - โอ้โฮ
00:21:42 → 00:21:43 รักไม่มีข้อจำกัด
00:21:43 → 00:21:45 ใช่ครับ ไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ด้วย
00:21:46 → 00:21:47 ช่วยเหลือกันนั่นเองครับ
00:21:48 → 00:21:50 สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้ เวลาที่ทำกิจกรรมนี่ครับ
00:21:50 → 00:21:53 บางทีทำกิจกรรมแล้วก็ เออ...ทำแล้วก็ทำอะไรอย่างนี้
00:21:53 → 00:21:59 แต่ว่าเราไม่ได้มีการที่จะมา คล้าย ๆ มานั่งคิดอีกทีว่า ทบทวนอีกทีว่า
00:21:59 → 00:22:01 เราได้อะไรจากกิจกรรมนี้
00:22:01 → 00:22:05 มันจะต้องมีอะไรที่มันต่อเนื่องจากกิจกรรมไหม หลังจากที่ทำกิจกรรมแล้ว
00:22:05 → 00:22:06 ถ้าสังเกตดี ๆ นะครับอาจารย์เต้
00:22:07 → 00:22:09 MAGIC นี่ ทุกกิจกรรมนี่
00:22:09 → 00:22:11 ขณะทำ มันทำอย่างช้า ๆ
00:22:11 → 00:22:13 ขณะทำ มีการรับฟัง
00:22:13 → 00:22:14 อืม
00:22:14 → 00:22:16 เราเรียกว่า Reflective listening
00:22:17 → 00:22:17 ครับ
00:22:17 → 00:22:21 ดังนั้น แต่ละคนจดจ่ออยู่กับกิจกรรม ซึ่งมันเป็นกิจกรรมบำบัดอยู่แล้วล่ะ
00:22:21 → 00:22:22 ครับ
00:22:22 → 00:22:25 มันก็จะพัฒนาสิ่งที่อ่อนโยนอยู่ภายใน
00:22:25 → 00:22:27 แล้วเราก็เปิดเวทีนิดนึงว่า
00:22:28 → 00:22:29 คุณเรียนรู้อะไรบ้าง
00:22:30 → 00:22:33 คุณมีข้อดีอะไรบ้างระหว่างทำกิจกรรม
00:22:33 → 00:22:34 และอย่าลืมขอบคุณ
00:22:35 → 00:22:36 ขอบคุณตัวเรานะ
00:22:37 → 00:22:39 กิจกรรมนี้ทำให้เราทำดีตั้ง 3 ข้อแน่ะ
00:22:40 → 00:22:43 ขอบคุณ อ.เต้นะที่มาร่วมกิจกรรมนี้
00:22:43 → 00:22:46 และผมได้เห็นความดีของอาจารย์ อีกตั้ง 3 ข้อแน่ะ
00:22:46 → 00:22:50 มันจะมาเป็นกระบวนการโดยธรรมชาติครับ
00:22:50 → 00:22:52 เป็นการถอดบทเรียนอย่างหนึ่ง
00:22:52 → 00:22:53 ใช่
00:22:53 → 00:22:58 แล้วเป็นการที่ทำให้เห็นคุณค่าของทั้งตนเอง และผู้ที่มาร่วมกิจกรรมด้วย
00:22:58 → 00:23:03 เพราะมันเป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ง่าย แล้วก็มันจริงใจเนอะ
00:23:03 → 00:23:03 ใช่
00:23:03 → 00:23:06 เพราะว่าพอเราเข้ามาร่วมในกิจกรรมนี้
00:23:06 → 00:23:08 เรารู้สึกบวกอย่างไร เราก็บอกไปถูกไหม
00:23:08 → 00:23:09 ถูกต้องเลยครับ
00:23:09 → 00:23:11 วันนี้ผมได้เรียนรู้จาก อ.ป๊อบเยอะมากเลยครับ
00:23:11 → 00:23:12 ยินดีมากครับ
00:23:12 → 00:23:16 ทั้งในเรื่องของ 3 ความ ทั้งในเรื่องของ MAGIC
00:23:16 → 00:23:17 ทั้งในเรื่องของ Self
00:23:17 → 00:23:18 ครับ
00:23:18 → 00:23:21 คืออาจจะไม่ได้ไปใช้กับองค์กรจริง ๆ
00:23:21 → 00:23:25 แต่อย่างน้อยมันเป็นความรู้พื้นฐาน เวลาที่เราไปทำงานร่วมกับใคร
00:23:25 → 00:23:26 เราก็จะได้มีข้อมูล
00:23:26 → 00:23:27 เราก็จะได้รู้ว่า
00:23:27 → 00:23:31 วิธีการในการที่จะสร้างความสัมพันธ์
00:23:31 → 00:23:35 แล้วนำไปสู่ประสิทธิภาพ ประสิทธิผลขององค์กร
00:23:35 → 00:23:36 มันดำเนินไปได้อย่างไรเนอะ
00:23:36 → 00:23:37 ครับ
00:23:37 → 00:23:38 เออ...วิธีนี้ดี
00:23:38 → 00:23:39 ยินดีมากครับ
00:23:39 → 00:23:41 - ขอบคุณมากเลยครับ - ขอบคุณมากครับ
00:23:41 → 00:23:44 คุณผู้ฟังครับ วันนี้ครับ เราอยู่กับรายการ Well-Being
00:23:44 → 00:23:46 สุขภาพดี ชีวิตดีสร้างได้
00:23:47 → 00:23:49 อาจารย์ป๊อบมาเป็นแขกรับเชิญของเรา
00:23:49 → 00:23:52 หวังว่าจะได้กลับมา เป็นแขกรับเชิญของเราอีกเนอะ
00:23:52 → 00:23:55 เพราะว่ารายการของเรา เราคุยกัหลายเรื่องเลย
00:23:55 → 00:23:57 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Hot Issue
00:23:57 → 00:23:59 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Mental Health, Physical Health
00:24:00 → 00:24:03 เป็นเรื่องของ Self-improvement นั่นคือสิ่งที่เราคุยกัน
00:24:04 → 00:24:06 สิ่งที่อาจารย์ป๊อบเอามาฝาก ให้คุณผู้ฟังได้ฟัง
00:24:06 → 00:24:08 มันตรงกับฟอร์แมทของรายการของเราเลยครับ
00:24:09 → 00:24:13 คุณผู้ฟังครับ รายการของเรา มีตอนใหม่ ๆ ออกมาอยู่เรื่อย ๆ
00:24:13 → 00:24:15 ทุก ๆ วันจันทร์ เวลา 18.00 น. ครับ
00:24:15 → 00:24:17 ทั้งทาง Facebook ของ Mahidol Channel
00:24:17 → 00:24:20 ทั้งทาง YouTube ของ Mahidol Channel
00:24:20 → 00:24:23 รวมทั้งในรูปแบบที่เป็น Podcast ครับ
00:24:23 → 00:24:25 ไม่ว่าจะเป็น Apple Podcasts
00:24:25 → 00:24:26 Anchor
00:24:26 → 00:24:27 Spotify
00:24:27 → 00:24:28 และ Blockdit ครับ
00:24:28 → 00:24:31 ในวันนี้ Well-Being กับผม ระพี บุญเปลื้อง และ อ.ป๊อบ
00:24:31 → 00:24:33 ก็คงจะต้องสวัสดีคุณผู้ฟังไปก่อนนะครับ
00:24:33 → 00:24:35 จนกว่าจะพบกันใหม่ครับ สวัสดีครับ
00:24:35 → 00:24:36 สวัสดีครับ
00:24:36 → 00:24:41 [เสียงดนตรี]
00:24:41 → 00:24:45 Well-Being สุขภาพดี ชีวิตดีสร้างได้