00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับตอนนี้เนี่ยเทรนด์สุขภาพมัน
00:00:03 → 00:00:06 เริ่มมีอะไรแปลกๆออกมามากมายแล้วส่วนใหญ่
00:00:06 → 00:00:09 มันก็จะเริ่มมาจากต่างประเทศเช่นอเมริกา
00:00:09 → 00:00:11 ก่อนนะครับมันมีเทรนด์สุขภาพอย่างหนึ่ง
00:00:11 → 00:00:14 ที่อเมริกาเนี่ยเริ่มแล้วแต่ประเทศไทยยัง
00:00:14 → 00:00:16 ไม่ค่อยมีเท่าไหร่แต่ผมคาดว่าอีกไม่นาน
00:00:16 → 00:00:18 เดี๋ยวประเทศไทยก็ทำตามนั่นเองนะครับนั่น
00:00:18 → 00:00:23 ก็คือเทรนด์การกินสีเมทิลี Blue ครับกิน
00:00:23 → 00:00:26 เพื่อชะลอไวกินเพื่อเพิ่มพลังงานให้กับ
00:00:26 → 00:00:30 ร่างกายกินเพื่อป้องกันโรคอัลไซเมอร์กิน
00:00:30 → 00:00:33 เพื่อรักษาโรคซึมเศร้ามันจะทำได้อย่าง
00:00:33 → 00:00:35 นั้นจริงหรือเปล่าแล้วมันมีอะไรที่ต้อง
00:00:35 → 00:00:38 กังวลบ้างแล้วถ้าใครจะไปกินเนี่ยจะต้องทำ
00:00:39 → 00:00:41 ยังไงจะต้องกินเท่าไหร่วันนี้ผมจะเล่าให้
00:00:41 → 00:00:43 ฟังนะครับพบกับผมนะครับนายแพทย์ธนี
00:00:43 → 00:00:45 ธนียวันเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศ
00:00:45 → 00:00:48 สหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่าย
00:00:48 → 00:00:51 ปอดและวิกฤตบำบัดนะครับเมินบูเนี่ยตัวมัน
00:00:51 → 00:00:55 เองคือสีน้ำเงินเข้มเลยนะครับถ้าเรากิน
00:00:55 → 00:00:57 เข้าไปเนี่ยอ่าสิ่งนึงซึ่งจะเจอแล้วก็คือ
00:00:58 → 00:01:01 ปัสสาวะของเราเนี่ยจะฉี่ออกมาสีน้ำเงิน
00:01:01 → 00:01:03 เข้มนะครับหรือบางคนสีฟ้านะฮะแล้วก็
00:01:03 → 00:01:06 อุจจาระของเราก็จะเป็นสีปนน้ำเงินออกมา
00:01:06 → 00:01:11 ด้วยนะครับสมัยก่อนเนี่ยที่ประเทศไทยมี
00:01:11 → 00:01:14 ชาวบ้านนะครับเขาไปโฆษณาว่าไอ้เมธิลีนบลู
00:01:14 → 00:01:17 เนี่ยมันเป็นยาล้างไตคนไหนไตวายคนไหนที่
00:01:17 → 00:01:19 มีโรคไตหรือกังวลว่าตัวเองจะเป็นโรคไตให้
00:01:19 → 00:01:22 กินตัวนี้เข้าไปนะครับมันจะทำให้ปัสสาวะ
00:01:22 → 00:01:24 ของเราหรือฉี่ของเราเนี่ยออกมาสีน้ำเงิน
00:01:24 → 00:01:27 เข้มเขาก็รู้สึกเหมือนว่าเออได้ทำการล้าง
00:01:27 → 00:01:29 ไต่แต่เอาจริงๆคือมันล้างไม่ได้ครับมัน
00:01:29 → 00:01:32 ไม่ได้ช่วยอะไรเลยด้วยซ้ำไปนะฮะแล้วอีก
00:01:32 → 00:01:35 อย่างนึงในสมัยก่อนเนี่ยมันมีวัยรุ่นหัว
00:01:35 → 00:01:39 ใสครับเค้ากินเมทิลีนบูเพื่อที่จะหลีก
00:01:39 → 00:01:43 เลี่ยงการตรวจจับฉี่ม่วงเพราะว่าเิิบูมัน
00:01:43 → 00:01:47 ไปรบกวนกระบวนการตรวจจับนะครับของตำรวจ
00:01:47 → 00:01:48 อย่างไรก็
00:01:48 → 00:01:51 ตามผมไม่ได้มาเฉลยวิธีในการหลีกเลี่ยงนะ
00:01:51 → 00:01:54 ครับแต่มันหลีกเลี่ยงไม่ได้หรอกครับเพราะ
00:01:54 → 00:01:56 ว่าอะไรรู้มั้ยเพราะว่าถ้าเกิดคุณกิน
00:01:56 → 00:01:59 เมทิลีนบลูเข้าไปเนี่ยปัสสาวะออกมาเป็น
00:01:59 → 00:02:02 น้ำเงินเข้มนะครับหรือสีฟ้าตำรวจเต้อง
00:02:02 → 00:02:05 สงสัยอยู่แล้วครับว่าคุณไปทำอะไรมามัน
00:02:05 → 00:02:07 ต้องมีอะไรสักอย่างนึงที่เป็นปัญหาแล้ว
00:02:07 → 00:02:10 ต่อให้มันรบกวนการตรวจเบื้องต้นมันมีการ
00:02:10 → 00:02:12 ตรวจยืนยันครับว่าคุณมีสารเสพติดอยู่ใน
00:02:12 → 00:02:16 ปัสสาวะหรือไม่ด้วยวิธีการตรวจพิเศษนะฮะ
00:02:16 → 00:02:18 ซึ่งทำได้ดังนั้นถ้าวัยรุ่นตามสถาน
00:02:18 → 00:02:21 บันเทิงหรือที่ไหนก็แล้วแต่กะว่าจะหลีก
00:02:21 → 00:02:22 เลี่ยงการตรวจจับฉี่ม่วงเนี่ยด้วยการกิน
00:02:22 → 00:02:26 เมทิลีนบลูเข้าไปช่วยไม่ได้หรอกครับยังไง
00:02:26 → 00:02:30 ก็หลบสายตาตำรวจไม่ได้ครับอ่ะทีนี้เรามา
00:02:30 → 00:02:32 ถึงเทรนดสุขภาพเลยเรื่องของเิิ Blue
00:02:32 → 00:02:35 เนี่ยมันไปทำอะไรในร่างกายนะครับตัวเิิ
00:02:35 → 00:02:38 Blue เนี่ยถ้าเราพูดถึงแง่ประโยชน์ของ
00:02:38 → 00:02:42 มันนะคือมันจะไปทำให้ร่างกายของเราผลิต
00:02:42 → 00:02:46 พลังงานได้ดีขึ้นคือตัวมันเองจะไปกระตุ้น
00:02:46 → 00:02:50 การทำงานของไมโทคอนเดรียนะฮะถ้าลงลึกไป
00:02:50 → 00:02:53 นิดนึงแล้วกันว่ามันไปทำอะไรกันแน่สำหรับ
00:02:53 → 00:02:54 เด็กสายวิทนะครับก็คงจะรู้ดีว่า
00:02:54 → 00:02:58 ไมโทคอนเดรียเนี่ยมันมีวิธีในการสร้างสาร
00:02:58 → 00:03:02 พลังงานก็คืออินซีฟอสเฟตหรือ ATP ด้วย
00:03:02 → 00:03:04 สิ่งๆนึงก็คืออิเลก Tron Transport
00:03:04 → 00:03:08 chain โดยมันจะมีโมเลกุลเล็กๆอยู่ใน
00:03:08 → 00:03:11 ไมโตคอนเดรียคอยส่งอิเล็กตรอนเป็นทอดๆไป
00:03:11 → 00:03:14 นะครับในนั้นก็จะมี 2 อย่างซึ่งเิิบูไป
00:03:15 → 00:03:18 เกี่ยวข้องก็คือปกติเนี่ยอิเล็กตรอนมันจะ
00:03:18 → 00:03:21 ต้องสูกจากส่งจากคอมเพลก 1 ไป 2 ไป 3
00:03:21 → 00:03:24 แล้วก็สุดท้ายไปลงที่ไซโทโครม C นะครับ
00:03:24 → 00:03:27 ถึงจะทำการผลิตพลังงานออกมาได้นะทีนี้
00:03:27 → 00:03:31 เนี่ยไอ้เิิ Blue เนี่ยมันสามารถ Bypass
00:03:31 → 00:03:33 Complex 1 กับ 3 ได้เลยไปจับกับ
00:03:33 → 00:03:36 ไซโทโครม C โดยตรงทำให้ไมโทคอนเดรีย
00:03:36 → 00:03:39 สามารถสร้างพลังงานได้โดยตรงและเร็วขึ้น
00:03:39 → 00:03:41 คนไหนที่ไมโทคอนเดรียเสียเนี่ยนะครับมัน
00:03:41 → 00:03:43 จะสร้างพลังงานได้ยากอยู่แล้วการใช้
00:03:43 → 00:03:45 เมทิลีนบูเนี่ยก็จะทำให้มันสร้างได้ง่าย
00:03:45 → 00:03:50 ขึ้นอ่านะครับแล้วการสร้างได้ง่ายขึ้น
00:03:50 → 00:03:54 เนี่ยไมโตคอนเดรียทำงานได้ดีขึ้นนะฮะอีก
00:03:54 → 00:03:57 อย่างนึงก็คือสารเมธิลีนบูเนี่ยมันเป็น
00:03:57 → 00:04:00 สารต้านอนุมูลอิสระนะครับแอนติออกซิแดนท์
00:04:00 → 00:04:06 นะฮะมันก็เลยทำให้สิ่งต่างๆซึ่งจะมาทำลาย
00:04:06 → 00:04:08 ร่างกายของเราทำลายเซลล์ของเราเนี่ยไม่มี
00:04:08 → 00:04:12 นะครับหมดไปนี่คือข้อดีของมันแล้วถ้าเกิด
00:04:12 → 00:04:15 ว่าการสร้างพลังงานของเราเนี่ยมันทำได้ดี
00:04:15 → 00:04:18 ขึ้นเอ๊ะอย่างนี้มันก็น่าจะไปช่วยหลาย
00:04:18 → 00:04:21 อย่างเช่นช่วยชะลอวัยนะครับเวลาคนแก่ตัว
00:04:21 → 00:04:23 ลงเนี่ยมันก็จะสร้างพลังงานได้ไม่ค่อยดี
00:04:23 → 00:04:27 นะครับหรือคนที่มีโรคอ่าอ่อนเพลียเรื้อ
00:04:27 → 00:04:30 รังนะฮะเจ็บป่วยเรื้อรังแล้วอ่อนเพลียการ
00:04:30 → 00:04:34 ได้เิิ Blue ก็ช่วยเราได้นะครับอีกอย่าง
00:04:34 → 00:04:38 นึงก็คือตัวมันเองเนี่ยมีฤทธิ์เป็นสาร
00:04:38 → 00:04:42 ต้านเอนไซม์ชนิดหนึ่งเรียกว่าเป็นโอมีน
00:04:42 → 00:04:46 ออกซิเดสนะครับเมินบูเนี่ยคือโอน oxidase
00:04:47 → 00:04:50 inhibitor นะครับในทางการแพทย์เรามียา
00:04:50 → 00:04:52 กลุ่มที่เป็น mon oxides inhibitor
00:04:52 → 00:04:57 เพื่อต้านโรคซึมเศร้าครับดังนั้นถ้าไอ้
00:04:57 → 00:04:59 เนบูมันสามารถทำอย่างนี้ได้มันน่าจะจะ
00:04:59 → 00:05:03 ต้านโรคซึมเศร้าให้เราได้นะครับนี่คือข้อ
00:05:03 → 00:05:05 ดีทั้งหมดนะที่เกี่ยวข้องกับกลไกของเมิน
00:05:05 → 00:05:09 บลูแล้วในทางการแพทย์เนี่ยเราก็มีที่ใช้
00:05:09 → 00:05:11 กับมันจริงๆนะครับแต่วันนี้เนี่ยขอให้ฟัง
00:05:11 → 00:05:15 ให้จบคลิปเพราะว่ามันมีข้อดีมันก็มีข้อ
00:05:15 → 00:05:18 เสียและมีข้อควรระวังเยอะเสียด้วยนะครับ
00:05:18 → 00:05:21 ผมจะขอพูดการใช้ในทางการแพทย์จริงๆก่อน
00:05:21 → 00:05:23 ว่าในทางการแพทย์เนี่ยมันมีการใช้อะไร
00:05:23 → 00:05:27 บ้างนะครับเมธิลีนบูเนี่ยมันเป็นสิ่งหนึ
00:05:27 → 00:05:30 ซึ่งเราเอามาใช้ในการรักษาโรคหนึ่งซึ่ง
00:05:30 → 00:05:33 เรียกว่าเม็ดฮีโมโกลบินนีเมียเป็นโรคซึ่ง
00:05:33 → 00:05:36 ฮีโมโกลบินของเราเนี่ยมันผิดปกติจาก
00:05:36 → 00:05:39 สาเหตุต่างๆเช่นจากยาแดบซนนะครับจากยา
00:05:40 → 00:05:44 เคมีบำบัดไอฟอมนะครับทีนี้พอมันเปลี่ยน
00:05:44 → 00:05:47 ไอ้ตัวฮีโมโกลบินของเราให้มันผิดปกติแล้ว
00:05:47 → 00:05:49 เนี่ยเลือดของเราเนี่ยมันจะกลายเป็นสีออก
00:05:49 → 00:05:51 น้ำตาลน้ำตาลครับเวลาเราเจาะเลือดออกมาสี
00:05:51 → 00:05:54 น้ำตาลเลยนะฮะแล้วมันจะทำให้ร่างกายของ
00:05:54 → 00:05:56 เราใช้ออกซิเจนไม่ค่อยดีออกซิเจนจะตกใน
00:05:56 → 00:05:59 ร่างกายนะครับแล้วถ้าเราไปวัดออกซิเจน
00:05:59 → 00:06:02 ปลายนิ้วเนี่ยพวกเนี้ยจะอยู่สักประมาณ 80%
00:06:02 → 00:06:04 ออกซิเจนจะตกนะแต่คนไข้ดูไม่ค่อยเหนื่อย
00:06:05 → 00:06:06 มากขนาดนั้นแต่ถ้ามันเป็นมากๆก็เหนื่อย
00:06:06 → 00:06:09 ได้เหมือนกันนะฮะไอ้เิิบูเนี่ยไปช่วย
00:06:09 → 00:06:11 รักษาภาวะนี้
00:06:11 → 00:06:15 ได้มันสามารถที่จะช่วยรักษาภาวะช็อได้นะ
00:06:15 → 00:06:18 ครับโดยเฉพาะคนที่เป็นโรคตับแล้วช็อกหรือ
00:06:18 → 00:06:20 คนที่ติดเชื้อในกระแสเลือดแล้วช็อกเพราะ
00:06:20 → 00:06:22 ว่าในภาวะนั้นเนี่ยมันมีการสร้างสาร
00:06:22 → 00:06:25 ไนตริกออกไซด์ซึ่งเป็นสารที่ไปขยายหลอด
00:06:25 → 00:06:27 เลือดเยอะทีนี้ถ้าขยายหลอดเลือดทั้งร่าง
00:06:27 → 00:06:30 กายเนี่ยความดันก็ตกเม็ดินบูเนี่ยมันจะไป
00:06:30 → 00:06:35 ยับยั้งเอนไซม์ชื่อกนิตไซเลสแล้วก็ไนตริก
00:06:35 → 00:06:38 ออกไซด์ซินเทสจะเป็นการป้องกันไม่ให้ร่าง
00:06:38 → 00:06:40 กายสร้างไนตริกออกไซด์เยอะจนเกินไปนะครับ
00:06:40 → 00:06:43 ซึ่งไนตริกออกไซด์เยอะจนเกินไปเนี่ยเรา
00:06:43 → 00:06:45 เจอในภาวะช็อกจากการติดเชื้อในกระแสเลือด
00:06:45 → 00:06:47 แล้วก็คนที่เป็นโรคต่ำด้วยนะครับดังนั้น
00:06:47 → 00:06:51 เมินบูสามารถไปช่วยเหลือภาวะนี้ได้นะครับ
00:06:51 → 00:06:54 อีกอย่างนึงที่เราใช้กันแต่ก็ไม่ค่อยได้
00:06:54 → 00:06:58 ใช้บ่อยก็คือภาวะเป็นพิษจากไซนายนะฮะพิษ
00:06:58 → 00:07:00 จากไซนายเนี่ยถ้าใครจำคลิปที่ผมเคยทำไป
00:07:00 → 00:07:03 ได้มันจะใช้ยาอีกตัวนึงชื่อไฮดรอกบามินะ
00:07:03 → 00:07:05 ครับตัวนั้นก็สามารถที่จะใช้ได้แล้วก็
00:07:05 → 00:07:07 จริงๆมันดีกว่าซะด้วยซ้ำไปนะครับแต่ถ้า
00:07:08 → 00:07:10 ไม่มีจริงๆเนี่ยตัวเมิ Blue เนี่ยก็
00:07:10 → 00:07:14 สามารถที่จะใช้ได้นะครับนี่คือสิ่งที่เรา
00:07:14 → 00:07:17 เอามาใช้ในทางการแพทย์จริงๆแต่จะสังเกต
00:07:17 → 00:07:20 ว่าผมไม่ได้พูดถึงเรื่องของการชะลอวัยไม่
00:07:20 → 00:07:23 ได้พูดถึงเรื่องของการใช้รักษาซึมเศร้านะ
00:07:23 → 00:07:26 ครับแล้วก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องของการรักษา
00:07:26 → 00:07:28 อัลไซเมอร์เอออีกอย่างนึงเรื่องของ
00:07:28 → 00:07:31 อัลไซเมอร์เมิน Blue เนี่ยมันจะไปป้องกัน
00:07:31 → 00:07:34 การสะสมของโปรตีนตัวนึงชื่อว่า tal
00:07:34 → 00:07:38 โปรตีน tau นะครับ T โปรตีนนะฮะตัวนี้ถ้า
00:07:39 → 00:07:40 มีการสะสมเยอะๆเนี่ยมันจะกลายไปเป็น
00:07:40 → 00:07:43 อัลไซเมอร์แล้วเมทิลีนบูไปยับยั้งตรงนี้
00:07:43 → 00:07:45 อย่างไรก็ตามอันนี้คือการทดลองในหลอดทด
00:07:45 → 00:07:48 ลองครับทดลองในคนในสัตว์อะไรพวกเนี้ยมัน
00:07:48 → 00:07:50 ยังไม่ค่อยเยอะดังนั้นเวลาข้อมูลมันไม่
00:07:51 → 00:07:53 ค่อยมีเนี่ยเราก็จะไปมั่นใจบอกว่าให้้มัน
00:07:53 → 00:07:56 ย้อนไวได้นะมันช่วยไมโทคอนเดรียเราทำงาน
00:07:56 → 00:07:58 ได้ดีขึ้นอันเนี้ยก็คงจะไม่ถูกต้องซักที
00:07:58 → 00:08:01 เดียวนะครับนั้นเราต้องเข้าใจว่าเรามี
00:08:01 → 00:08:05 ความจำกัดในเรื่องของข้อมูลด้วยทีนี้มี
00:08:06 → 00:08:09 อย่างหนึ่งซึ่งผมอยากจะอธิบายว่าแล้วมัน
00:08:09 → 00:08:12 ต้องระวังอะไรบ้างอ่าตงนี้สำคัญมากเลยนะ
00:08:12 → 00:08:18 เม็ที Blue เนี่ยถ้ากินในขนาดต่ำเช่น 0.5
00:08:18 → 00:08:22 - 1 มกรต่อกิกัต่อวันเนี่ยมักจะไม่เป็น
00:08:22 → 00:08:25 ไรมักจะนะไม่ได้แปลว่ามันจะไม่เป็นไรเสมอ
00:08:25 → 00:08:30 ไปถ้ามากกว่านั้นอาจจะมีปัญหา
00:08:30 → 00:08:32 นะครับและคนที่ห้ามกินโดยเด็ดขาดไม่ว่า
00:08:32 → 00:08:35 คุณจะกินน้อยแค่ไหนคือคนที่เป็นโรคขาด
00:08:35 → 00:08:38 เอนไซม์กลูโคส 6 phosphate
00:08:38 → 00:08:40 dehydrogenase หรือโรค G6PD ที่เราพูด
00:08:40 → 00:08:44 กันนั่นแหละถ้าคนพวกนี้กินไอ้เมทิลีนบลู
00:08:44 → 00:08:47 เข้าไปนะไม่เลือดแดงแตกเลยครับแตกเยอะเลย
00:08:47 → 00:08:50 อ่ะนะแล้วอันตรายกับร่างกายได้ดังนั้นคน
00:08:50 → 00:08:53 ที่เป็นโรคนี้ห้ามเด็ดขาดในการกินเมทิลีน
00:08:53 → 00:08:57 Blue เข้าไปนะครับและเิิ Blue
00:08:57 → 00:09:01 เนี่ยมันเป็นสารสารซึ่งมีคุณสมบัติแปลก
00:09:01 → 00:09:04 ประหลาดอย่างหนึ่งถ้าเราให้ขนาดต่ำเนี่ย
00:09:04 → 00:09:06 มันจะเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระหรือ
00:09:06 → 00:09:10 แอนตี้ออกซินแต่ถ้าให้ขนาดสูงแล้วล่ะก็
00:09:10 → 00:09:15 มันจะกลายไปเป็นสารออกซิแดนโปร
00:09:15 → 00:09:18 ออกซิแดนคือตรงกันข้ามกับสิ่งที่ดีที่มัน
00:09:18 → 00:09:21 จะทำในขนาดที่มันมีอ่าปริมาณน้อยๆถ้า
00:09:21 → 00:09:24 ปริมาณเยอะมันจะเกิดปัญหาขึ้นมาแล้วเมื่อ
00:09:24 → 00:09:27 ไหร่ที่มันเป็นออกซิแดนเนี่ยก็แน่นอนว่า
00:09:27 → 00:09:29 ร่างกายก็จะโดนทำลายเยอะ
00:09:29 → 00:09:32 นะครับอันนี้คือปัญหาถ้าเรากินเยอะเกินไป
00:09:32 → 00:09:38 นะครับอีกอย่างนึงถ้าเราใช้เมลินบูในคน
00:09:38 → 00:09:41 ที่ได้รับออกซิเจนขนาด
00:09:41 → 00:09:45 สูงมันจะมีฤทธิ์เป็นออกซิไดเซอร์
00:09:45 → 00:09:51 คือเป็นอนุอิสระขึ้นมาเลยอ่ะนะครับทำไมผม
00:09:51 → 00:09:56 ถึงพูดเพราะว่าในคนที่ชื่นชอบเวชศาสตร์
00:09:56 → 00:09:59 ชะลอวัยเนี่ยเค้ามักจะมีการใช้ออกซิเจน
00:09:59 → 00:10:02 บางคนมีเครื่องผลิตออกซิเจนที่บ้านเลยบาง
00:10:02 → 00:10:05 คนไปใช้ hyperbaric ออกซิเจน cham
00:10:05 → 00:10:09 ออกซิเจนความดันแรงดันสูงออกซิเจนแรงดัน
00:10:09 → 00:10:12 สูงบวกเมินบูเท่ากับปัญหาครับมันยิ่ง
00:10:12 → 00:10:14 ออกซิไดซ์ทางร่างกายเลยอันนี้ก็จะเกิด
00:10:14 → 00:10:17 ปัญหาขึ้นมานะแล้วเมลิบลูเนี่ยมันไปได้
00:10:17 → 00:10:20 ทุกเนื้อเยื่อนะในสมองก็เข้าไปได้ในไขมัน
00:10:20 → 00:10:22 ก็เข้าไปได้ในเนื้อเยื่อในน้ำทุกอย่างก็
00:10:22 → 00:10:25 เข้าไปได้หมดนะครับมันก็จะมีปัญหาทั้ง
00:10:25 → 00:10:27 ร่างกายได้ถ้าเกิดคุณมีออกซิเจนที่สูง
00:10:27 → 00:10:31 เกินไปอีกอย่างนึงคือ meine Blue เนี่ย
00:10:31 → 00:10:35 มันทำมันเป็นสารที่เรียกว่า ph
00:10:35 → 00:10:38 sensitizer ph sensitizer หมายความว่า
00:10:38 → 00:10:43 มันทำให้เราเนี่ยไวต่อแสงโดยเฉพาะแสงสี
00:10:43 → 00:10:47 แดงมันแปลว่าอะไรมันแปลว่าถ้าเกิดคุณกิน
00:10:47 → 00:10:50 เิน Blue เข้าไปแล้วคุณไปเจอแสงแดดหรือ
00:10:50 → 00:10:53 โดยเฉพาะคนที่เข้าซาน่าที่เป็น infrared
00:10:53 → 00:10:56 นะครับแสงสีแดงหรือว่าใต้แดงเอินดเนี่ย
00:10:56 → 00:11:00 meine Blue เนี่ยมันจะดูดแสงพวกนี้เขไป
00:11:00 → 00:11:03 ไว้กับตัวมันแล้วมันจะเกิดผลร้ายขึ้นมา
00:11:03 → 00:11:05 คือมันจะเปลี่ยนแปลงตัวเองกันไปเป็นสาร
00:11:05 → 00:11:07 อนุมูล
00:11:07 → 00:11:12 อิสระเกิดการทำลายผิวเกิดการทำลายอวัยวะ
00:11:12 → 00:11:14 ต่างๆถ้าแสงเข้าไปตรงผิวที่เรามีเมทิลีน
00:11:14 → 00:11:19 บูอยู่เนี่ยผิวจะอักเสบได้นะแดงเป็นผื่น
00:11:19 → 00:11:21 อาจจะเป็นตุ่มอะไรขึ้นมาเลยก็ได้นะครับ
00:11:21 → 00:11:23 ดังนั้นเป็นสิ่งที่ต้องระวังมากๆถ้าคุณจะ
00:11:23 → 00:11:26 กินเมธิลีนบลูเข้าไปเพราะว่าบางคนเนี่ยพอ
00:11:26 → 00:11:29 เห็นเขาบอกว่าเฮ้ยเมธิลีนบลูมันดีกินเข้า
00:11:29 → 00:11:31 ไปแล้วมันจะได้ช่วยชะลอวัยของเราได้ช่วย
00:11:31 → 00:11:33 รักษาอัลไซเมอร์ป้องกันไม่ให้เราเป็นภาวะ
00:11:33 → 00:11:35 ซึมเศร้าอย่างงั้นเราต้องกินเข้าไปเยอะๆ
00:11:35 → 00:11:38 เพราะว่าหมอส่วนใหญ่ที่เขารักษาเนี่ยเค้า
00:11:38 → 00:11:40 ไม่รู้จักตัวนี้หรอกที่เขาพูดกันก็เพราะ
00:11:40 → 00:11:43 ว่าเอ้ยเค้าติดบริษัทยาหรือเปล่าเค้าการ
00:11:43 → 00:11:46 ค้ามยแต่เนี่ยคนที่เขาเสนอเนี่ยมันไม่การ
00:11:46 → 00:11:49 ค้ามันราคาถูกหาที่ไหนก็ได้อ่าคนพวกนี้ก็
00:11:49 → 00:11:52 จะคิดแบบนี้แล้วก็จะกินเข้าไปเยอะๆไม่สน
00:11:52 → 00:11:55 ใจว่าในทางการแพทย์จะมีปัญหายังไงแล้ว
00:11:55 → 00:11:59 เดี๋ยวสุดท้ายก็จะมีปัญหาพวกนี้นะครับ
00:11:59 → 00:12:02 แล้วเมื่อกี้ที่ผมบอกว่าเมทินบูเนี่ยมัน
00:12:02 → 00:12:05 สามารถรักษาภาวะเม็ดฮีโมโกลบินเนเมียได้
00:12:05 → 00:12:07 ใช่มยถ้าคุณกินเยอะเกินไปอ่ะตรงกันข้าม
00:12:07 → 00:12:10 ครับมันจะทำให้เกิดเม็ดฮีโมโกลบินนีเมีย
00:12:10 → 00:12:13 ตรงกันข้ามหมดเลยนะ
00:12:13 → 00:12:19 ฮะอีกอย่างนึงคือการที่เอามาใช้ในคนที่
00:12:19 → 00:12:22 เป็นโรคซึมเศร้าอันนี้ต้องระวังมากนะครับ
00:12:22 → 00:12:25 ระวังยังไงถ้าเกิดว่าคุณกินเมินบลูซึ่ง
00:12:25 → 00:12:30 เมื่อกี้ผมบอกว่ามันเป็นสารที่มีฤทธิ์ยับ
00:12:30 → 00:12:34 ยั้งเอนไซม์โอมินออกซิเดสนะครับแล้วคุณไป
00:12:34 → 00:12:37 กินร่วมกับยาต้านซึมเศร้าเช่นกลุ่ม
00:12:37 → 00:12:41 serotonin Rex inhibitor ssri หรือ sn
00:12:41 → 00:12:45 หรือ Mao inhibitor ตัวใดตัวหนึ่งนะครับ
00:12:45 → 00:12:48 มันจะเสริมฤทธิ์กันครับแล้วคุณจะเกิดเป็น
00:12:48 → 00:12:52 โรคอันนึ่งเรียกว่า serotonin Syndrome
00:12:52 → 00:12:56 โรคเนี้ยถึงตายนะครับอาการของ serotonin
00:12:56 → 00:12:58 Syndrome เนี่ยคืออุณหภูมิร่างกายจะขึ้น
00:12:58 → 00:13:00 สูงร่างกายจะมีการเกร็งเกร็งแล้วมีการ
00:13:00 → 00:13:04 กระตุกบางอย่างนะครับเช่นอย่างเงี้ยนะฮะ
00:13:04 → 00:13:07 ถ้าเราไปเคาะรีเฟลกปกติเราเคยเคาะแล้วอ่า
00:13:07 → 00:13:09 เคาะตรงหัวเข่าแล้วมันกระเด้งใช่มั้ย
00:13:09 → 00:13:11 อย่างเงี้ยนะฮะไอ้พวกเนี้ยเคาะแล้วมัน
00:13:11 → 00:13:13 กระเด้งเร็วมากเลยกลปกติสเช่นสมมุติเรา
00:13:13 → 00:13:15 เคาะแล้วกระเด้งเท่าเนี้ยนะฮะไอ้คนพวกนี้
00:13:15 → 00:13:17 นะฮะริ Syndrome เนี่ยเกระเด้งดึ๋เลย
00:13:18 → 00:13:20 อย่างรวดเร็วนะแล้วตรงขาเนี่ยสมมุติตรง
00:13:20 → 00:13:23 นี้เป็นขาตทิงมือก็ทำได้นะถ้าเราทำแบบ
00:13:23 → 00:13:27 เนี้ยหักมันไม่เป็นไรใช่มั้ยฮะแต่ในคนที่
00:13:27 → 00:13:28 เป็นซีโรโทนินซินโดรมเนี่ยเวลาคุณทำอย่าง
00:13:28 → 00:13:29 เงี้ย
00:13:29 → 00:13:32 มันจะเป็นอย่างเงี้ยนะครับที่ขาเราเรียก
00:13:32 → 00:13:36 ว่าโคนัสนะภาวะเนี้ถึงตายได้ต้องรีบรักษา
00:13:36 → 00:13:39 โดยด่วนนะฮะดังนั้นถ้าคุณจะกินเมทินบลู
00:13:39 → 00:13:41 ต้องมั่นใจว่าคุณไม่ได้กินยาต้านซึมเศร้า
00:13:41 → 00:13:43 ตัวไหนอยู่เลยสักตัวเดียวนะครับไม่ฉะนั้น
00:13:43 → 00:13:48 อาจจะเกิดปัญหาขึ้นมาได้นะครับตรงเนี้ย
00:13:48 → 00:13:51 เป็นสิ่งสำคัญอ้อผมขอถอยไปเรื่องของแสง
00:13:51 → 00:13:53 นิดนึงเมื่อตะกี้เนี่ยเมรินบลูเนี่ยมาดูด
00:13:53 → 00:13:56 แสงสีแดงใช่มั้ยครับแล้วตอนนี้เนี่ยมันมี
00:13:56 → 00:14:00 คนเอาแสงสีแดงมาย้อนไวครับนะแสงสีแดงเี่
00:14:00 → 00:14:03 เอามาย้อนไวได้เพราะว่ามันสามารถกระตุ้น
00:14:03 → 00:14:05 ไมโทคอนเดรียได้เหมือนกันเมื่อตะกี้ผมบอก
00:14:05 → 00:14:08 ว่าไอ้เมธิลีน Blue เนี่ยมัน Bypass
00:14:08 → 00:14:10 Complex ที่ 1 กับที่ 3 แล้วก็ไปกระตุ้น
00:14:10 → 00:14:14 ไซโทโครม C ทำให้มันเกิดการสร้างพลังงาน
00:14:14 → 00:14:18 ใช่มั้ยครับนี่เลยครับไอ้แสงสีแดงก็ไป
00:14:18 → 00:14:20 กระตุ้นไซโทโครมสีให้มันยิ่งทำงานใหญ่เลย
00:14:20 → 00:14:22 ทำให้ไมโตคอนเดรียทำงานได้ดีขึ้นนะครับก็
00:14:22 → 00:14:25 จะเด็กลงแล้วก็แสงสีแดงยังช่วยกระตุ้นการ
00:14:25 → 00:14:27 สร้างคอลลาเจนด้วยคนที่เขาย้อนไวก็มักจะ
00:14:28 → 00:14:30 คิดแบบเนี้ยเอาของ 2 อย่างมารวมกันแต่มัน
00:14:30 → 00:14:34 รวมกับผิดอย่างครับเมทรินบลูบวกแสงสีแดง
00:14:34 → 00:14:38 เท่ากับผิวนังอักเสบครับนะฮะต้องระวัง
00:14:38 → 00:14:40 เป็นอย่างยิ่งนะครับบางคนบอกว่านี่เอาแสง
00:14:40 → 00:14:43 สีแดงมาครอบเป็นหมวกครอบทำให้ผมขึ้นเอามา
00:14:43 → 00:14:45 ครอบตรงหน้ากับคอทำให้มันเกิดการสร้าง
00:14:45 → 00:14:48 คอลลาเจนหน้าไม่เหี่ยวนะครับถ้าคุณกิน
00:14:48 → 00:14:50 เมทินบูเข้าไปด้วยคุณจะมีปัญหาพวกนี้ทั้ง
00:14:50 → 00:14:53 หมดเลยนะฮะต้องระวังให้ดีบางคนอาจจะใช้
00:14:53 → 00:14:55 แล้วไม่เกิดอะไรขึ้นมาแต่ไม่ได้การันตี
00:14:55 → 00:14:57 ว่าคุณจะไม่เกิดปัญหาขึ้นมาในอนาคตถ้า
00:14:57 → 00:14:59 เกิดคุณใช้มันต่อไปและแล้วถ้าเกิดใครดำไป
00:14:59 → 00:15:01 ทำแล้วเกิดปัญหาขึ้นมาอันนี้ก็ช่วยไม่ได้
00:15:01 → 00:15:08 นะครับนะอ่าทีนี้มาถึงเรื่องของปริมาณเิิ
00:15:08 → 00:15:12 Blue ที่ผมคิดว่ามันน่าจะปลอดภัยเิิบู
00:15:12 → 00:15:16 ที่น่าจะปลอดภัยก็คือ 0.5 - 1 มกรต่อ
00:15:16 → 00:15:20 กิกัต่อวันนะครับส่วนใหญ่ก็จะกินแค่ 5
00:15:20 → 00:15:22 วันต่อสัปดาห์แล้วพัก 2 วันเพื่อไม่ให้
00:15:22 → 00:15:23 เกิด
00:15:23 → 00:15:27 ภาวะสารออกซิไดเซอร์สูงเกินไปเมทลิดูอย่า
00:15:27 → 00:15:29 ลืมนะครับถ้ามันเยอะในร่างกายมันกลายไป
00:15:29 → 00:15:32 เป็นสารออกซิไดเซอร์ครับแทนที่จะเป็นสาร
00:15:32 → 00:15:35 ต้านอนุมูลอิสระมันจะเป็นตรงข้ามกันคือ
00:15:35 → 00:15:38 สารอนุมูลอิสระเลยนะ
00:15:38 → 00:15:41 ครับแล้วถ้าเราเริ่มกินก็ต้องกินโดสต่ำ
00:15:41 → 00:15:45 ก่อนอาการข้างเคียงที่เจอแน่ๆอุจจา
00:15:45 → 00:15:47 ปัสสาวะครับสีน้ำเงินแน่ๆนะครับหรือไม่ก็
00:15:47 → 00:15:50 สีฟ้านะฮะอีกอย่างที่จะเจอก็คือบางคนมี
00:15:50 → 00:15:54 อาการปวดหัวเวียนหัวคลื่นไส้ได้ถ้ามี
00:15:54 → 00:15:56 อาการแบบนี้ขึ้นมาต้องหยุดกินหรือไม่
00:15:56 → 00:15:59 ฉะนั้นก็ต้องลดโดสนะครับคนที่ที่เป็นโรค
00:15:59 → 00:16:03 G6PD คุณกินไม่ได้สักโดสครับนะกินไม่ได้
00:16:03 → 00:16:05 สักโดสนึงไม่ว่าจะโดสต่ำขนาดไหนถ้าคุณกิน
00:16:05 → 00:16:08 เข้าไปเนี่ยอ่าเม็ดเลือแดงแตกได้ต้อง
00:16:08 → 00:16:11 ระวังเป็นอย่างมากนะ
00:16:11 → 00:16:15 ฮะแล้วทีนี้ถ้าเกิดคุณจะกินมากกว่า 1
00:16:15 → 00:16:19 มิลกรัมต่อกิกัต่อวันตัวใครตัวเขาแล้ว
00:16:19 → 00:16:22 ครับเพราะว่ายิ่งโดสสูงก็จะยิ่งเกิดปัญหา
00:16:22 → 00:16:25 ขึ้นมาได้บางคนอาจจะบอกว่าเฮ้ยฉันไปอ่าน
00:16:25 → 00:16:29 มาว่าในการทดลองของอัลไซเมอร์นะครับในการ
00:16:29 → 00:16:33 ทดลองของอ่าโรคต่างๆเนี่ยมันใช้โดสสูงนี่
00:16:33 → 00:16:36 หว่านะครับเช่นใช้ 5 มิลกรัมต่อกิกัต่อ
00:16:36 → 00:16:39 วันหรือ 10 มิลกรัมต่อกิกัต่อวันนั่นเป็น
00:16:39 → 00:16:42 การทดลองในหลอดทดลองครับไม่ได้ทดลองกับ
00:16:42 → 00:16:45 เซลล์เท่าไหร่นะไม่ได้ทดลองกับคนกับสัตว์
00:16:45 → 00:16:48 จริงๆแล้วพวกนั้นทดลองระยะสั้นครับไม่ได้
00:16:48 → 00:16:52 ทดลองระยะยาวนะครับถ้าคุณกินขนาดสูงไปยาว
00:16:52 → 00:16:54 ๆเนี่ยผมรับรองได้ว่าคุณยังไกก็เกิดปัญหา
00:16:54 → 00:16:57 แน่ๆนะครับดังนั้นต้องระวังให้ดีนะไม่ใช่
00:16:57 → 00:17:00 บางคนไปไปกินแล้วเกิดปัญหาบอกว่าโอ้นี่
00:17:00 → 00:17:01 คือการกระทุ้งพิษออกมาจากร่างกายอันนี้
00:17:02 → 00:17:04 คือบอกเลยครับว่าคนที่บอกว่ากินอะไรเข้า
00:17:04 → 00:17:08 ไปแล้วกระทุ้งพิษผืนขึ้นเนี่ยคือเรียกได้
00:17:08 → 00:17:10 ว่าไม่มีความรู้ทางด้านการแพทย์เลยแม้แต่
00:17:10 → 00:17:11 น้อยนะครับดังนั้นเราอย่าไปทำตามมัน
00:17:11 → 00:17:14 อันตรายนะครับแล้วพวกเนี้ยถ้ามันเข้าไปใน
00:17:14 → 00:17:16 ร่างกายแล้วแล้วมันเกิดปัญหาขึ้นมานะครับ
00:17:16 → 00:17:19 คุณแก้ไม่ได้นะฮะแก้ไม่ได้เลยนะต้องรอ
00:17:19 → 00:17:22 เช่นผื่นแพ้ที่เกิดจากการกินเมลินบลูสูง
00:17:22 → 00:17:25 เกินไปแล้วก็ไปเจอแสงแดดเนี่ยไอ้ผืนเนี้ย
00:17:25 → 00:17:27 ไม่หายไปไหนนะคุณต้องรอเวลาเท่านั้นแหละ
00:17:27 → 00:17:31 จนกว่ามันจะหายไม่มียาแก้อะไดทั้งสิ้นก็
00:17:31 → 00:17:33 ต้องรอให้มันเป็นอย่างงั้นน่ะคนส่วนใหญ่
00:17:33 → 00:17:36 ที่เป็นขึ้นมาก็ก็เป็นเดือนอ่ะกว่าจะหาย
00:17:36 → 00:17:38 นะครับต้องระวังข้อเนี้ยมันเคยมีการทดลอง
00:17:38 → 00:17:42 ในเด็กแรกคลอดนะครับที่ได้เมทิลีนบลูเข้า
00:17:42 → 00:17:47 ไปปรากฏว่าพอไปเจอแสงพวกเนี้ยมันเป็นตุ่ม
00:17:47 → 00:17:49 พุพองมาเลยต้องรอประมาณ 3 อาทิตย์เนี่ย
00:17:50 → 00:17:52 ถึงจะเริ่มดีขึ้นเริ่มดีขึ้นนะยังไม่หาย
00:17:52 → 00:17:56 เลยแล้วคุณคิดดูเด็กเล็กเนี่ยเา้ามีการ
00:17:56 → 00:17:58 สร้างผิวหนังได้ดีกว่าผู้ใหญ่และถ้าเกิด
00:17:58 → 00:18:00 ผู้ใหญ่อย่างพวกเรากินเข้าไปขนาดสูงแล้ว
00:18:00 → 00:18:03 เกิดผิวมันเป็นผื่นแพ้ขึ้นมาเนี่ยก็อาจจะ
00:18:03 → 00:18:07 นานกว่านั้นได้นะครับงั้นสิ่งเนี้ยก็ต้อง
00:18:07 → 00:18:08 ระวังเป็นอย่างมากอย่าเพิ่งไปทำตาม
00:18:08 → 00:18:11 influencer หรือเทรนด์แปลกๆตามที่เราไป
00:18:11 → 00:18:15 ได้ยินมานะครับมันต้องศึกษาข้อมูลให้ชัด
00:18:15 → 00:18:17 เจนเสียก่อนไม่ฉะนั้นก็อาจจะเกิดปัญหาที่
00:18:18 → 00:18:21 ไม่คาดคิดขึ้นมาได้นะครับดังนั้นโดยสรุป
00:18:21 → 00:18:24 นะฮะคือตัวเิิบูเนี่ยนะครับเรื่องของการ
00:18:25 → 00:18:27 ชะลอวัยแล้วก็เรื่องของการต้านอัลไซเมอร์
00:18:27 → 00:18:30 หรือซึมเศร้าพวกเนี้ยยังไม่ได้รับการ
00:18:30 → 00:18:33 ศึกษาที่ดีพอข้อมูลมันก็ยังไม่ชัดเจนนะ
00:18:33 → 00:18:36 ครับถ้าเกิดว่าเราจะกินก็ต้องมั่นใจก่อน
00:18:36 → 00:18:38 ว่าเราไม่เป็นโรค G6PD deficiency หรือ
00:18:38 → 00:18:42 โรคขาดเอนไซม G6PD นะครับไม่ได้กินยาต้าน
00:18:42 → 00:18:45 ซึมเศร้ากลุ่ม Mao inhibitor หรือว่ายา
00:18:45 → 00:18:48 กลุ่ม ssri snr อยู่นะครับถ้าใครกินยา
00:18:49 → 00:18:50 ต้านซึมเซร้าไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่นะครับ
00:18:50 → 00:18:54 หรือว่ายาต้านวิตกกังวลเนี่ยอ่ายาต้านโรค
00:18:54 → 00:18:57 ocd ย้ำคิดย้ำทำเนี่ยก็ถามหมอเคก่อนเลย
00:18:57 → 00:18:59 นะครับเพราะว่ามันกินด้วยกันไม่ได้ครับ
00:18:59 → 00:19:01 เดี๋ยวจะเกิดปัญหาขึ้นมานะฮะถ้าจะกินก็
00:19:01 → 00:19:05 ขนาดต่ำก่อน 0.5 - 1 มกต่อกกต่อวันนะฮะ
00:19:05 → 00:19:07 แล้วก็ดูตัวเองด้วยว่ามีผลข้างเคียงปวด
00:19:07 → 00:19:09 หัวขึ้นไส้อาเจียนเวียนหัวอะไรหรือเปล่า
00:19:09 → 00:19:12 ถ้ามีก็ต้องรีบหยุดถ้าจะกินก็อย่าไปเจอ
00:19:12 → 00:19:14 แสงแดดเยอะครับเพราะไม่ฉะนั้นเนี่ยอาจจะ
00:19:14 → 00:19:17 มีปัญหาได้บางคนบอกทาครีมกันแดดได้มยอัน
00:19:17 → 00:19:19 นี้ผมไม่รู้เหมือนกันครับว่ามันจะกันได้
00:19:19 → 00:19:22 จริงหรือเปล่านะครับถ้ามันกันได้ก็ดีไป
00:19:22 → 00:19:24 แต่ถ้ามันกันไม่ได้ก็ช่วยไม่ได้ครับถ้า
00:19:24 → 00:19:27 ใครกินเข้าไปแล้วอยากจะไปเข้าซาวน่าอนด
00:19:27 → 00:19:29 ซาวน่าก็ระวังตัวไว้ดีๆแล้วกันนะครับ
00:19:29 → 00:19:31 เพราะว่ามันก็ดูดสารอินฟาเรดเข้าไปแล้วก็
00:19:31 → 00:19:34 เกิดปัญหาขึ้นมาได้อยู่ดีนั่นแหละครับนี่
00:19:34 → 00:19:36 คือสิ่งที่จำเป็นจะต้องระวังมากๆเกี่ยว
00:19:37 → 00:19:40 ข้องกับเมทิลีน Blue นะฮะเอ่ออีกอย่างนึง
00:19:41 → 00:19:44 ซึ่งถ้าเรากินเข้าไปอ่ะสำหรับผมนะถ้าคุณ
00:19:44 → 00:19:47 จะกินเพื่อการชะลอไวเพื่อให้ร่างกายแข็ง
00:19:47 → 00:19:51 แรงมันควรต้องมีการวัดผลครับในเมื่อมันทำ
00:19:51 → 00:19:53 ให้ไมโทคอนเดรียคุณแข็งแรงขึ้นใช่มั้ย
00:19:53 → 00:19:56 ผลิตพลังงานได้ดีขึ้นคุณต้องมีตัวชี้วัด
00:19:57 → 00:19:59 ครับตัวชี้วัดที่ทำได้ก็คือการไปวัด vo2
00:20:00 → 00:20:03 Max ครับนะฮะถ้าไมโทคอนเดรียผลิตพลังงาน
00:20:03 → 00:20:06 ได้ดีขึ้น vo2 Max ของคุณจะต้องสูงขึ้น
00:20:06 → 00:20:10 ครับนะตัวอื่นๆวิธีในการตรวจเลือดเนี่ย
00:20:10 → 00:20:12 มันอาจจะตรวจยากหน่อยนะครับแต่ว่าไอ้
00:20:12 → 00:20:14 เนี้ยชัวร์สุดและถ้าเกิดคุณอยากจะแน่ใจ
00:20:14 → 00:20:17 ว่ามันชะลอไวได้หรือเปล่าคุณลองไปตรวจว่า
00:20:17 → 00:20:19 เออก่อนที่คุณจะกินกับคุณกินไปแล้ว 1
00:20:19 → 00:20:22 เดือนเนี่ยไอ้ตัวทีเมียของคุณมันยาวขึ้น
00:20:22 → 00:20:25 มั้ยหรือถ้าคุณมีเงินมากพอนะครับก็ไปตรวจ
00:20:26 → 00:20:28 DNA mation เช่น horvath Clock อย่าง
00:20:28 → 00:20:30 เงี้ยนะนะครับไปดูซิว่าก่อนกับหลังมันมี
00:20:30 → 00:20:32 การเปลี่ยนแปลงไปหรือเปล่าอายุคุณน้อยลง
00:20:32 → 00:20:35 หรือเปล่านะครับเพราะว่าหลายครั้งนะครับ
00:20:35 → 00:20:39 ไอ้ของย้อนวัยพวกเนี้ยคุณกินตามๆกันมา
00:20:39 → 00:20:41 เพียงเพราะว่าคนอื่นเขาบอกว่ามีผลวิจัย
00:20:41 → 00:20:43 แต่คุณไม่ได้ไปอ่านว่าผลวิจัยเนี่ยมันทำ
00:20:43 → 00:20:46 ในหลอดทดลองไม่ได้ทำในคนแล้วต่อให้ทำในคน
00:20:46 → 00:20:49 ก็มี 5 คนอย่างเงี้ยไม่ได้มีเป็นพันคนนะ
00:20:49 → 00:20:52 ครับแล้วคุณก็เชื่อไปอย่างงั้นนะฮะก็เลย
00:20:52 → 00:20:53 ทำให้คุณรู้สึกว่าเออมันน่าเชื่อถือแต่
00:20:53 → 00:20:56 คุณไม่รู้จักวัดเลยว่ามันทำได้อย่างที่
00:20:56 → 00:20:58 ว่าจริงๆหรือเปล่านะครับดังนั้นถ้าเราจะ
00:20:58 → 00:21:01 กินจริงๆต้องมั่นใจว่าคุณไม่มีโรคประจำ
00:21:01 → 00:21:04 ตัวผิดปกติไม่ได้กินยาแปลกๆอยู่นะครับ
00:21:05 → 00:21:09 แล้วก็กินโดสต่ำก่อนพวกเนี้ยในทางการ
00:21:09 → 00:21:12 แพทย์เราไม่เคยให้ระยะเวลานานผมเคยฉีด
00:21:12 → 00:21:15 เข้าเส้นเลือดคนไข้อย่างดีก็แค่ 2 ดสจบ
00:21:15 → 00:21:17 ไม่มีการให้ไปเรื่อยๆอย่างเงี้ยไม่มีนะฮะ
00:21:17 → 00:21:21 อ่าต้องระวังตรงนี้นะถ้าคุณจะกินคุณกิน
00:21:21 → 00:21:23 ระยะยาวมันอาจจะมีปัญหาก็ได้ผมก็ไม่
00:21:23 → 00:21:25 สามารถการันตีได้แล้วผมก็ไม่สามารถห้าม
00:21:25 → 00:21:28 คุณได้ด้วยเช่นกันแต่ขอให้คุณระวังสิ่ง
00:21:28 → 00:21:31 ต่างๆไว้แล้วก็มีการวัดผลเพราะว่าถ้าเกิด
00:21:31 → 00:21:33 คุณทำพลาดไปมันก็ร่างกายคุณและที่สำคัญ
00:21:33 → 00:21:36 คือมันไม่มียานถอนพิษมันแก้ไม่ได้ก็ต้อง
00:21:36 → 00:21:39 รอให้อาการข้างเียงของมันหมดไปเองนะครับ
00:21:39 → 00:21:41 โอเควันนี้ผมเล่าให้ฟังเพียงเท่านี้นะ
00:21:41 → 00:21:45 ครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ