00:00:00 → 00:00:02 หลายคนที่ดื่มมัฉะหรือฉาเขียวนะครับอาจ
00:00:02 → 00:00:04 ต้องการให้ผิวตัวเองดีขึ้นช่วยชะลอไว
00:00:04 → 00:00:07 เพราะว่ามีคนพูดเรื่องนี้กันเยอะแต่ทราบ
00:00:07 → 00:00:09 ไหครับว่าถ้าต้องการให้เห็นผลชัดๆแบบที่
00:00:09 → 00:00:12 ตัวเองหรือคนรอบข้างรู้สึกได้เนี่ยต้อง
00:00:12 → 00:00:15 ดื่มหรือกินในปริมาณที่เยอะในมัจฉะหรือ
00:00:15 → 00:00:17 ว่าชาเขียวมีสารที่ชื่อว่าคาตคินมี
00:00:17 → 00:00:20 คุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระแล้วก็ลด
00:00:20 → 00:00:23 การอักเสบครับสารตัวเนี้ยจะช่วยเรื่องผิว
00:00:23 → 00:00:26 ได้แต่ถ้าจะให้ผลชัดเจนนะครับตามข้อมูล
00:00:26 → 00:00:29 แล้วเนี่ยต้องกินสูงถึงวันละ 1,402 มลกรั
00:00:29 → 00:00:32 กินต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือนกินแบบนี้
00:00:32 → 00:00:35 แล้วผิวจะชุ่มชื้นขึ้นยืดหยุ่นแล้วก็
00:00:35 → 00:00:37 เรียบเนียนขึ้นจะลดผิวแดงที่เกิดจากแสง
00:00:37 → 00:00:40 แดดได้ด้วยปริมาณคาตคิน 1,400 กว่า
00:00:41 → 00:00:43 มิลกรัมเนี่ยนะครับถ้าเราเปรียบเทียบเป็น
00:00:43 → 00:00:46 ผงมัฉักถ้าเป็นผงมัฉักเกรดพิธีก็ต้องใช้
00:00:46 → 00:00:49 วันละประมาณ 9-14 กรัมหรือถ้ามัฉเกรด
00:00:49 → 00:00:52 อาหารเครื่องดื่มก็ประมาณสัก 7-8 กรัม
00:00:52 → 00:00:54 ซึ่งก็ถือว่าเยอะปริมาณที่เยอะแบบเนี้ย
00:00:54 → 00:00:57 ไม่ใช่แค่เราต้องจ่ายแพงขึ้นนะครับกินนาน
00:00:57 → 00:01:01 ๆก็ต้องระวังผลข้างเคียงด้วย 1,400 มกรัม
00:01:01 → 00:01:04 เนี่ยจะประกอบด้วย EGCG ประมาณ 800 มกรั
00:01:05 → 00:01:07 บวกลบซึ่งเหมาะได้ทำคลิปเกี่ยวกับผลข้าง
00:01:07 → 00:01:10 เคียงของตัวมัฉับแล้วนะครับว่าถ้ากิน
00:01:10 → 00:01:13 ปริมาณที่เยอะเช่นประมาณ 800 มลกัมขึ้นไป
00:01:13 → 00:01:16 เนี่ยกินนานๆก็เสี่ยงกับการเกิดภาวะตับ
00:01:16 → 00:01:19 อักเสบได้เพราะฉะนั้นใครที่กินมัฉะปริมาณ
00:01:19 → 00:01:22 ที่เยอะและกินต่อเนื่องก็ต้องดูเรื่องนี้
00:01:22 → 00:01:24 ด้วยนะครับแล้วถ้าเรากินน้อยกว่านี้ได้
00:01:24 → 00:01:27 มั้ล่ะได้ครับยังมีผลดีกับผิวอยู่แต่อาจ
00:01:27 → 00:01:30 จะเห็นผลไม่ได้ชัดเจนเจนนักในระยะสั้นมี
00:01:30 → 00:01:34 การศึกษาครับพบว่าคาตคิน 540 มลกรัมหรือ
00:01:34 → 00:01:37 ว่าเทียบเท่ากับผงมัจฉะก็ประมาณสัก 3-5
00:01:37 → 00:01:39 กรัมผิวก็ยังเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นได้แต่
00:01:39 → 00:01:42 ว่าไม่มีนัยยะสำคัญเท่านั้นเองแต่ไงก็ตาม
00:01:42 → 00:01:45 โดสขนาดนี้ก็ปลอดภัยกับผลข้างเคียงมาก
00:01:45 → 00:01:48 กว่ามากกับ