00:00:00 → 00:00:03 พอพ่อชีวิตเปลี่ยนนะจากเดิมที่แต่ละคนน
00:00:03 → 00:00:05 ใช้ชีวิตอิสระครอบครัวก็ต้องออกแบบกัน
00:00:05 → 00:00:08 ใหม่สิท่าถ้าลองเล่าให้ฟังตั้งแต่วันแรกๆ
00:00:08 → 00:00:10 ที่เขากลับมาเราเราทำอะไรกันบ้างตั้งแต่
00:00:10 → 00:00:13 ตอนที่เขาอยู่โรงพยาบาลน่ะพวกเราก็ตกใจ
00:00:13 → 00:00:17 ค่ะอตกใจมากแล้วก็สงสารเขาด้วยคือสภาพเขา
00:00:17 → 00:00:20 จากคนที่แบบปกติอ่ะร่าเริงคุยเล่นกับเรา
00:00:20 → 00:00:24 อะไรเงี้ยเขาก็กลายเป็นคนนั่งตานอนตาลอย
00:00:24 → 00:00:26 ใส่สายอาหารพู้ดจาก็ไม่รู้เรื่องถามว่า
00:00:26 → 00:00:30 เราเป็นใครก็ตอบไม่ได้เงี้ยค่ะที่บ้านก็
00:00:30 → 00:00:33 รู้สึกแบบสงสารตกใจเนาะแล้วก็คิดว่าแล้ว
00:00:33 → 00:00:35 เราจะทำยังไงต่อดีอะไรเงี้ยแต่ว่ามันมี
00:00:35 → 00:00:38 ความโชคดีตรงที่ว่าก่อนหน้าเยค่ะมีอากงก็
00:00:38 → 00:00:42 คือคุณตาที่ก็เป็นสต๊กเหมือนกันแล้วก็
00:00:42 → 00:00:45 เพิ่งจะเสียชีวิตไปตอนตอนที่ก่อนที่ปาเขา
00:00:45 → 00:00:48 จะเป็นน่ะไม่เกินปีนึงที่บ้านของอางอ่ะก็
00:00:48 → 00:00:51 เลยยังเก็บอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้กับคนป่วย
00:00:51 → 00:00:54 เอาไว้แล้วก็จากโจกก็ได้ได้ไปดูแลอางด้วย
00:00:54 → 00:00:56 อืเราก็เลยพอจะรู้ว่าอ่าการที่เราต้องดู
00:00:56 → 00:00:59 แลคนแก่มันน่าจะมีการเตรียมอะไรบ้างเงี้
00:00:59 → 00:01:02 ค่ะก็เลยพอพอที่จะเข้าที่เข้าทางได้ง่าย
00:01:02 → 00:01:05 แต่ว่าตัวพวกเราเองอ่ะก็ไม่พร้อมที่จะแบบ
00:01:05 → 00:01:10 เข้าไปดูแลแบบที่ว่าตลอดเวลา 24 ชมงค่ะโจ
00:01:10 → 00:01:13 ก็เลยทำ Family Meeting เลยกที่บ้านว่า
00:01:13 → 00:01:16 อ่าส่วนนี้เรามีทรัพยากรตรงนี้แล้วนะว่า
00:01:16 → 00:01:19 เรามีอุปกรณ์สำหรับคนป่วยอ่ะพร้อมแล้วอ
00:01:19 → 00:01:21 แต่ว่าโดยแรงงานน่ะโจไม่สามารถที่จะทำได้
00:01:21 → 00:01:23 เพราะว่าตอนนั้นป๊าเหมือนติดเตียงแล้ว
00:01:23 → 00:01:26 ต้องมีสายอาหารด้วยเราก็จะไม่มีแรงที่จะ
00:01:26 → 00:01:29 ไปทำให้เขาเราก็เลยบอกว่าคุยที่บ้านอย่าง
00:01:29 → 00:01:31 ชัดเจนเลยว่าว่าขอพี่เลี้ยงนะอืที่บอกว่า
00:01:32 → 00:01:33 กลับมาทำ Family Meeting สมาชิกใน
00:01:33 → 00:01:36 ครอบครัวมีมีใครบ้างนะครับก็มีคุณพ่อคุณ
00:01:36 → 00:01:39 แม่มีโจ๋ค่ะอ่าน้องชายแล้วก็น้องสะใภ้มี
00:01:39 → 00:01:41 น้องชายแล้วก็น้องสะใภ้ทั้งหมดก็คือ 5 คน
00:01:42 → 00:01:44 ก็ถือว่าครอบครัวไม่ใหญ่ 5 คนใช่ค่ะอ่า
00:01:44 → 00:01:45 Family Meeting นี่เกิดตอนไหนครับเกิด
00:01:45 → 00:01:48 ตอนที่พ่ออยู่ในโรงพยาบาลใช่ค่ะเราก็เลย
00:01:49 → 00:01:50 เรียกกันเรียกคุยเลยหรือว่าชีวิตพ่อ
00:01:50 → 00:01:52 เปลี่ยนแน่ชีวิตครอบครัวคนอื่นก็น่าจะ
00:01:52 → 00:01:54 เปลี่ยนแน่ใช่มั้ยใช่คิดว่าฉันนี่แหละ
00:01:54 → 00:01:56 ต้องรับอะไรบางอย่างแน่ๆอะไรอย่างเงี้ยก็
00:01:56 → 00:02:00 เลยแบบมาคุยกันเลยว่าใครจะดูแลในส่วนไหน
00:02:00 → 00:02:03 ได้บ้างคือบทสนทนาที่คุยกับคนที่บ้านก็
00:02:03 → 00:02:05 คือบอกว่าเออตอนนี้อาการของป๊าคือแบบนี้
00:02:05 → 00:02:08 นะเขาต้องการคนดูแลนะคะแล้วก็หลังจากนี้
00:02:08 → 00:02:12 น่าจะดูแลระยะยาวเลยเอโจ๋จะทำหน้าที่ดูแล
00:02:12 → 00:02:16 เป็นหลักนะแต่ว่าไม่ได้เหมือนกับว่าเปิด
00:02:16 → 00:02:18 โอกาสให้คนอื่นน่ะเข้ามาร่วมดูแลด้วยกัน
00:02:19 → 00:02:23 นะอืแล้วก็ถ้าใครอยากจะเสริมตรงไหนใครคิด
00:02:23 → 00:02:26 ว่าอยากจะทำอะไรตรงไหนยอก็คือโก็เป็นคำ
00:02:26 → 00:02:29 ถามภเปิดว่าเออาอยากจะช่วยอะไรตรงไหนยที่
00:02:30 → 00:02:32 เขาคิดว่าเขอยากจะทำครับอะไรอย่างเงี้ย
00:02:32 → 00:02:35 ค่ะเขาก็บอกว่าแล้วแต่โจ๋เลยอือก็คือทุก
00:02:35 → 00:02:37 คนก็น้องชายกับน้องสะใภ้ก็บอกว่าถ้ามี
00:02:37 → 00:02:40 อะไรที่เขาซัพพอร์ตได้อ่ะก็บอกบอกเขา
00:02:40 → 00:02:42 เพราะว่าเขาก็ไม่รู้จะต้องทำยังไงเหมือน
00:02:42 → 00:02:44 กับว่าก็ให้โจเป็นคนที่ดูแลแล้วก็รับข้อ
00:02:44 → 00:02:46 มูลต่างๆเป็นหลักแล้วก็มากระจายงานให้ก็
00:02:47 → 00:02:50 ได้โจ๋นี่เป็นในฐานะลูกสาวคนโตค่ะอ่าลูก
00:02:50 → 00:02:52 สาวคนโตแล้วตอนนั้นทำงานอยู่หรือเปล่า
00:02:52 → 00:02:54 ครับตอนนั้นโชคดีตอนนั้นเป็นช่วงโควิด
00:02:54 → 00:02:57 ครับก็เลยแบบงานน่ะไม่ค่อยเยอะออืคือทำ
00:02:57 → 00:02:59 งานในกิจการครอบครัวอยู่แล้วด้วยใช่มั้ย
00:02:59 → 00:03:01 ใช่งานครอบครัวแล้วก็งานพฟูดด้วยก็ยังมี
00:03:01 → 00:03:03 อยู่ค่ะอครับนั่นหมายถึงว่าอะไรคือเหตุผล
00:03:03 → 00:03:06 ที่เราคิดว่าต้องต้องทำ Family Meeting
00:03:06 → 00:03:08 หรือว่าเรียกพูดง่ายๆก็คือเรียกคนในบ้าน
00:03:08 → 00:03:11 มามาล้อมวงคุยกันน่ะใช่พโมองว่าการที่คน
00:03:11 → 00:03:13 เราป่วยคนนึงในครอบครัวค่ะมันไม่ใช่หน้า
00:03:13 → 00:03:16 ที่ของใครคนใดคนหนึ่งอืที่จะเป็นคนดูแล
00:03:16 → 00:03:19 ทั้งหมดอืทุกคนในครอบครัวมีส่วนร่วมเท่าๆ
00:03:19 → 00:03:22 กันอือๆเพียงแต่ว่าอยู่ที่ว่าแต่ละคนน่ะ
00:03:22 → 00:03:25 จะรับหน้าที่หรือรับบทบาทไหนในการที่จะ
00:03:25 → 00:03:28 เข้ามาดูแลอย่างแม่ก็ชัดเจนแม่บอกว่าเอ่อ
00:03:28 → 00:03:31 มีดูแลเรืื่องเงินอครับก็คือไม่ต้องหว
00:03:31 → 00:03:34 เรื่องนะเงี้น้องชบยินดีในทุกๆเร่องมี
00:03:34 → 00:03:37 อะไรขอให้บอกมาเลยเงี้น้องสะใภ้ก็เหมือน
00:03:37 → 00:03:40 กันเงี้ค่ะอๆแต่ส่วนโ๋ก็เหมือนคล้ายๆกับ
00:03:40 → 00:03:43 ว่าทำหน้าที่เป็นเป็นคนดูแลหลักใช่ค่ะ
00:03:43 → 00:03:46 แล้วก็แจ้งเขาเลยว่าขอพี่เลี้ยงนะอือเหรอ
00:03:47 → 00:03:50 เพราะว่าเราเราดูแลคนเดียวไม่ไหวอค่ะอ
00:03:50 → 00:03:52 หมายถึงว่าตอนนั้นแสดงว่าไอ้วิธีการคุย
00:03:52 → 00:03:54 ตรงนี้ว่าจะต้องทำอะไรบ้างเนี่มันมันออก
00:03:55 → 00:03:57 มาตั้งแต่ช่วงระยะเวลาต้นๆเลยใช่มั้ยใช่
00:03:57 → 00:04:00 ค่ะทำไมตอนนั้นถึงคิดว่าตัวเองเลือกจะจะ
00:04:00 → 00:04:03 เป็นคนดูแลหลักครับค่ะคือเราก็มองว่าเป็น
00:04:03 → 00:04:06 คนที่มีเวลามากกว่าน้องชายซึ่งน้องชายจะ
00:04:06 → 00:04:09 ต้องเดินทางแล้วก็นั่งประชุมทั้งวันอือ
00:04:09 → 00:04:12 เขาก็จะไม่สามารถที่จะลงมาทำอะไรได้มาก
00:04:12 → 00:04:14 เท่าเราเราก็มองว่าตรงนั้นน่ะเราทำได้มาก
00:04:14 → 00:04:17 กว่าเขาอือๆเราก็ทำเลยแต่ว่าทำในส่วนที่
00:04:17 → 00:04:20 เรารู้สึกว่าเท่าที่เราพอจะไหวว่าเราไหว
00:04:20 → 00:04:22 ประมาณนี้นะเพราะฉะนั้นส่วนที่ไม่ไหวก็ขอ
00:04:22 → 00:04:26 ตัวช่วยครับครับก็คือบอกว่ายังยังยังไง
00:04:26 → 00:04:28 เสียก็ต้องมีมีผู้ดูแลเลยคือจากประสบการ์
00:04:29 → 00:04:32 ของโจนี่ก็คือว่าว่าการคุยกันแบบนี้การทำ
00:04:32 → 00:04:33 Family Meeting คุยกันตั้งแต่ต้นนี้มัน
00:04:33 → 00:04:36 มีข้อดีอย่างไรบ้างค่ะข้อดีก็คือว่าให้
00:04:36 → 00:04:38 ทุกคนได้รับรู้ค่ะว่าสิ่งที่กองอยู่ตรง
00:04:38 → 00:04:40 หน้าเราอ่ะไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง
00:04:40 → 00:04:43 อแล้วก็ทุกคนสามารถที่จะมีส่วนร่วมเข้ามา
00:04:44 → 00:04:46 จัดการได้คือในบางครั้งอ่ะถ้าเราเห็นว่า
00:04:46 → 00:04:49 บางบางครอบครัวค่ะคนที่รับหน้าที่เข้ามา
00:04:49 → 00:04:52 ดูแลเขาก็จะมองว่าฉันจะต้องทำคนเดียวแล้ว
00:04:52 → 00:04:54 เขาอาจจะกอดหน้าที่นั้นไว้โดยที่เขาไม่
00:04:54 → 00:04:57 รู้ว่าเขาสามารถขอความช่วยเหลือได้หรือ
00:04:57 → 00:05:00 ว่ามีคนอื่นที่เขาอาจจะเต็มใจเข้ามาช่วย
00:05:00 → 00:05:03 ดูแลแต่ไม่รู้ว่าจะเข้ามาได้อย่างไรเงี้ย
00:05:03 → 00:05:05 ค่ะเพราะฉะนั้นการที่ทำ Family Meeting
00:05:05 → 00:05:07 อ่ะเหมือนกับเป็นการที่เราเปิดพื้นที่ให้
00:05:07 → 00:05:10 ว่าใครสบายใจที่จะทำอะไรตรงไหนไหมแล้วเรา
00:05:10 → 00:05:13 จะสามารถที่เห็นทรัพยากรในครอบครัวเราได้
00:05:13 → 00:05:16 ว่าเรามีอะไรที่จะเอามาดูแลเขาได้บ้างมัน
00:05:16 → 00:05:20 เหมือนมันก็การเป็นการอะไร่ะเปิดกเปิดอก
00:05:20 → 00:05:22 คุยกันน่ะเนาะใช่ใช่มั้ยอจริงๆถ้าสมมุติ
00:05:22 → 00:05:24 ว่าเป็นครอบครัวที่เขาไม่ได้มีไม่ได้มี
00:05:24 → 00:05:26 ขั้นตอนแบบนี้ค่ะสมมุติว่าเป็นขั้นเป็น
00:05:26 → 00:05:30 ครอบครัวที่เอ่อพอพอคุณพ่อคุณแม่ป่วยที
00:05:30 → 00:05:34 พี่สาวคนโตก็ทำหน้าที่บอกว่าเหมือนมเป็น
00:05:34 → 00:05:36 ความเข้าใจกันเองอ่ะเนาะว่าพี่สาวคนโต
00:05:36 → 00:05:39 เป็นคนที่อยู่บ้านเขาก็เขาก็จะเข้าใจกัน
00:05:39 → 00:05:43 เองว่าคนเนี้ยคือคนต้องดูแลเอ่อแล้วเขาก็
00:05:43 → 00:05:45 ทำหน้าที่ดูแลไปเรื่อยๆโดยที่คนอื่นๆไม่
00:05:45 → 00:05:48 ไม่เข้าใจหรือว่าไม่รู้ถึงภาระหน้าที่
00:05:48 → 00:05:50 สถานการณ์มันก็จะเป็นอีกแบบนึงใช่มั้ย
00:05:50 → 00:05:52 ครับใช่ค่ะใช่ตรงนั้นก็จะคนนั้นเาก็จะรับ
00:05:52 → 00:05:55 ไปแล้วก็คนอื่นก็จะไม่รู้ว่าตัวเองสามารถ
00:05:55 → 00:05:58 ที่จะซัพพอร์ตเขาได้นะอแต่เพียงแต่ว่าไม่
00:05:58 → 00:06:00 ไม่ได้ไม่ได้เคยรับรับรู้หรือไม่ได้เคย
00:06:00 → 00:06:02 ได้รับการบอกกล่าวว่าสิ่งนี้มันควรจะเกิด
00:06:02 → 00:06:05 ขึ้นในครอบครัวไม่ใช่การที่จะให้ใครคนใด
00:06:05 → 00:06:08 คนหนึ่งรับหน้าที่นั้นไปอืเพราะฉะนั้นตรง
00:06:08 → 00:06:12 นี้ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นข้อดีมากๆข้อนึ
00:06:12 → 00:06:15 เลยเนาะใช่มั้ยครับผมคิดว่าที่บ้านถ้า
00:06:15 → 00:06:17 บ้านไหนแบบกำลังเผชิญเหตุการณ์เดียวกัน
00:06:17 → 00:06:19 อันถ้าจะบอกว่าเป็นขั้นตอนแรกๆก็ว่าได้
00:06:20 → 00:06:22 ใช่มั้ยที่ที่ทุกคนจะต้องนั่งนั่งคุยกัน
00:06:22 → 00:06:25 นั่งหารือกันใชใช่ค่ะอแล้วก็อย่างนึงที่
00:06:25 → 00:06:29 ที่มันเกินไปกว่าการสถานการณ์ในตอนนั้น
00:06:29 → 00:06:33 น่ะก็คือต้องย้อนกลับไปเลยค่ะว่าอ่าคนที่
00:06:33 → 00:06:36 ก่อนหน้านี้ยังไม่ป่วยใช่มั้ยคะเมองภาพ
00:06:36 → 00:06:40 ตัวเองป่วยไว้ยังไงแล้วเขาได้เตรียมตัว
00:06:40 → 00:06:42 เอาไว้ไมว่าถ้าวันหนึ่งเขาดูแลตัวเองไม่
00:06:42 → 00:06:45 ได้ต้องอยู่ในภวะพึ่งพิงอ่ะครับจะเตรียม
00:06:45 → 00:06:48 ตัวเอาไว้ยังไงซึ่งตรงเโชคดีที่ว่ามีอากง
00:06:48 → 00:06:50 ที่เป็นตัวอย่างแล้วว่าเมื่อมีคนป่วยคน
00:06:51 → 00:06:53 นึงเราจะทำยังไงใช่มั้ยค่ะเอ่อพ่ออาจจะ
00:06:53 → 00:06:55 ไม่ได้เตรียมตัวว่าตัวเองจะเป็นแบบนี้แต่
00:06:55 → 00:06:58 ว่าโอเคว่าการที่เขาทำงานมาเามีรายได้ที่
00:06:58 → 00:07:02 เขาจะัตัวเองในส่วนนี้ซึ่งทำให้เราอ่ะไม่
00:07:02 → 00:07:05 ต้องกังวลอตรงเนี้ยค่ะมันก็ทำให้คนดูแล
00:07:05 → 00:07:07 สบายใจแล้วก็ดูแลได้ง่ายขึ้นเพราะว่าการ
00:07:07 → 00:07:10 ดูแลคนคุณนมันก็มีทั้งเรื่องอ่าการเงิน
00:07:10 → 00:07:12 เป็นเป็นหลักที่สำคัญเลยอ่ะแรงงานที่จะ
00:07:12 → 00:07:15 เกิดขึ้นใช่มั้ยคะการแพทย์ที่จะเกิดเข้า
00:07:15 → 00:07:18 มาความรู้ต่างๆที่เขาจะต้องมีอะไรอย่าง
00:07:18 → 00:07:20 เงี้ยเพราะฉะนั้นน่ะถ้าเกิดว่ามีคนมา
00:07:20 → 00:07:22 ซัพพอร์ตในประเด็นเหล่าเนี้ยอครับตั้งแต่
00:07:22 → 00:07:24 ต้นหรือว่าคิดมาแล้วตั้งแต่ต้นน่ะมันก็จะ
00:07:24 → 00:07:27 ง่ายค่ะครับครับแสดงว่าแต่อย่างของคุณพ่อ
00:07:27 → 00:07:29 โจ๋นี่อาจจะโชคดีหน่อยตรงที่อาจจะทำงาน
00:07:29 → 00:07:31 งานมามีเงินเก็บมีเงินออมเนาะแต่ถ้า
00:07:31 → 00:07:34 สำหรับบางครอบครัวเขาอาจจะสถานะทางการ
00:07:34 → 00:07:37 เงินก็อาจจะไม่พร้อมแบบนี้ใช่มั้ยแต่ว่า
00:07:37 → 00:07:39 อย่างน้อยเขาก็ควรคิดไว้บ้างใช่มั้ยว่า
00:07:39 → 00:07:42 ถ้าเาเกิดต้องป่วยใช่ใช่ค่ะแบบปุบปับขึ้น
00:07:42 → 00:07:44 มาแล้วต้องการการดูแลเนี่ยทางออกจะคือ
00:07:44 → 00:07:46 อะไรใช่มั้ยครับใช่ค่ะถ้าคิดเอาไว้ล่วง
00:07:46 → 00:07:48 หน้าหรือเราได้เห็นภาพล่วงหน้ามันมันมี
00:07:48 → 00:07:51 ประโยชน์มากค่ะที่ที่จะแบบได้รับการดูแล
00:07:51 → 00:07:54 ง่ายขึ้นหลังจากนั้นอครับครับแต่ก็ปฏิเสธ
00:07:54 → 00:07:56 ไม่ได้เนบางทีคุณพ่อคุณแม่บางทีเรื่องแบบ
00:07:56 → 00:07:58 นี้เไม่คิดอ่ะแต่ไม่ใช่หมายถึงคุณพ่อคุณ
00:07:58 → 00:08:00 แม่ไม่คิดเราคิดว่าบงทีตัวเราเองก็ไม่คิด
00:08:00 → 00:08:03 ่ะเนาะว่าเราจะป่วยปุบปับอ่ะใช่มั้ยอืแต่
00:08:03 → 00:08:05 ว่ากรณีนี้ก็น่าสนใจนะครับว่าในครอบครัว
00:08:05 → 00:08:08 คุณพ่อคุณแม่หรือบรรดาลูกๆเองก็เถอะก็ควร
00:08:08 → 00:08:12 จะออกแบบนึกถึงว่าถ้าตัวเองต้องเกิดป่วย
00:08:12 → 00:08:15 ปุบปับขึ้นมาจะทำอย่างไรบ้างใช่ใช่มย
00:08:15 → 00:08:18 บุพการีที่เคารพคู่มือการดูแลพ่อแม่ของคน
00:08:18 → 00:08:21 เจนลูกถ้าชอบเนื้อหาแบบนี้ก็อย่าลืมกด
00:08:21 → 00:08:25 Subscribe ไว้ด้วยนะครับ