00:00:00 → 00:00:03 ก็สวัสดีครับผมรอชมธงทองวันนี้มาต่อ
00:00:03 → 00:00:07 เรื่องของเบาหวานเป็นตอนที่ 3 นะเหตุที่
00:00:07 → 00:00:09 ผมนิดเบาหวานเพราะว่าเบาหวานนั้นมันเป็น
00:00:09 → 00:00:16 ประตูเปิดปิดสู่โลกขึ้นอื่นๆมากมายใน 30
00:00:16 → 00:00:20 ปีที่ผ่านมาคุณจะพบว่าคนไทยเนี่ยเป็นโรค
00:00:20 → 00:00:24 ที่เรียกว่า ncd หรือนอน Communication
00:00:24 → 00:00:27 aces เยอะมากตั้งแต่เบาหวานประเภทที่ 2
00:00:27 → 00:00:33 โรคไตโรคตับหัวใจความดันทั้งหลายถือว่า
00:00:33 → 00:00:35 เป็นกลุ่มเดียวกันเอามาพึ่งอัมพาตเนี่ย
00:00:35 → 00:00:38 คืออันเดียวกันสับก็เลยบอกว่าตายด้วย
00:00:38 → 00:00:42 มะเร็งมากที่สุดถ้า kinsen อัลไซเมอร์โลก
00:00:42 → 00:00:46 ทีมกินสมองของตัวเองและโรคที่เกี่ยวกับออ
00:00:46 → 00:00:49 โต้อิมมูนผมอยากให้คุณสังเกตุนิดนึงว่า
00:00:49 → 00:00:53 โลกเรานี้ที่พูดมาเนี่ยจะไม่พบในเด็กหรือ
00:00:53 → 00:00:58 พบก็พบน้อยมากๆสาเหตุของโรคกล่าวนี้ที่มี
00:00:58 → 00:01:01 สาเหตุร่วมกันก็คือมถ้าอยากความเสื่อมของ
00:01:01 → 00:01:04 ร่างกายประเด็นก็คือเราจะทำยังไงให้ร่าง
00:01:04 → 00:01:07 กายไม่เสื่อมหรือเสื่อมช้าที่สุดชะลอความ
00:01:07 → 00:01:10 เสื่อมของร่างกายน้อยที่สุดผมก็เลยเอา
00:01:10 → 00:01:13 เรื่องของเบาหวานมาเป็นประเด็นเพราะว่า
00:01:13 → 00:01:16 มันเป็นประตูเปิดไปทุกโลกถ้าเกิดคุณเป็น
00:01:16 → 00:01:19 เบาหวานประเภทที่ 2 ก็ขอให้รู้เอาไว้ว่า
00:01:19 → 00:01:23 คุณเปิดประตูแล้วนำไปสู่โรคตับโรคไตโรค
00:01:23 → 00:01:28 หัวใจมะเร็งภาคินสั้นอัลไซเมอร์ซึ่งถือ
00:01:28 → 00:01:30 ว่าเป็นเบาหวานประเภทที่ 3 และโรคที่
00:01:30 → 00:01:35 เกี่ยวกับ Auto มูลหรือภูมิคุ้มกันโรคยอด
00:01:35 → 00:01:38 ชิดของคนไทยในปัจจุบันก็คือเบาหวานประเภท
00:01:38 → 00:01:41 ที่ 2 ก็คือประตูบางแรกที่นำไปสู่ความ
00:01:41 → 00:01:45 เสื่อมและความตายคนไข้ก็มีทางเลือกอยู่ 3
00:01:45 → 00:01:49 ทันอันที่ 1 ก็คือไม่สนใจรักษาจะตายก็ตาย
00:01:49 → 00:01:54 ไปอันที่ 2 รักษาด้วยอาการเพราะความอดทน
00:01:54 → 00:01:58 ไม่พอไม่อยากเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองก็
00:01:58 → 00:02:01 เป็นการรักษาที่คุณหมอหมอในโรงพยาบาลนิยม
00:02:01 → 00:02:05 ทำเป็นว่าคุณหมอหลายท่านก็จะแนะนำคนไข้
00:02:05 → 00:02:07 ก่อนว่าคุณจะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน
00:02:07 → 00:02:11 แต่ส่วนมากก็ไม่ทำคุณหมอก็ไม่รู้จะทำยัง
00:02:11 → 00:02:15 ไงในกรณีแบบนี้ก็ไม่อยากให้คุณตายเร็วให้
00:02:15 → 00:02:19 คุณตายช้าหน่อยโดยการใช้อินซูลินและอย่า
00:02:19 → 00:02:23 พูดง่ายๆว่าไม่ให้คุณตายในเดือนนี้แต่ให้
00:02:23 → 00:02:27 คุณตายแบบผ่อนส่งลดอายุขัยที่เหลือลงหรือ
00:02:27 → 00:02:30 ครึ่งหนึ่งถ้าคุณอายุ 50 อายุขัยของคุณ
00:02:30 → 00:02:33 อาจจะเก้าสิบแต่ถ้าเกิดคุณรักษาด้วยวิธี
00:02:33 → 00:02:38 นี้คุณอาจจะตายที่ 70 คนอื่นๆที่ผมบอก
00:02:38 → 00:02:41 เพราะว่าร่างกายมันเสื่อมและแบบที่สามก็
00:02:41 → 00:02:44 คือคุณต้องอดทนเอาเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน
00:02:44 → 00:02:48 การใช้ชีวิตการออกกำลังกายของคุณให้ได้
00:02:48 → 00:02:52 สำคัญที่สุดก็คือการกินอันดับหนึ่งเลยก็
00:02:52 → 00:02:56 คือไปรักษาที่ต้นเหตุของมันถ้าคุณหายขาด
00:02:56 → 00:03:01 คุณก็จะอยู่ตามอายุขัยควรมีสุขภาพที่ดีจน
00:03:01 → 00:03:05 ถึง 90 และความเสื่อมของร่างกายนั้นวัน
00:03:05 → 00:03:09 เกิดจาก in saline ที่หลังมากและหลัง
00:03:09 → 00:03:13 บ่อยสาเหตุที่มันหลังมาก็คือคุณกินครับ
00:03:13 → 00:03:17 กินแป้งและน้ำตาลและ 90 เปอร์เซ็นต์ของ
00:03:17 → 00:03:20 น้ำตาลในกระแสเลือดของคนไทยเนี่ยมันไม่
00:03:20 → 00:03:23 ได้มาจากน้ำตาลที่คุณเห็นแล้วคนส่วนมาก
00:03:23 → 00:03:27 เข้าใจผิดนึกว่าน้ำตาลมันมาจากน้ำตาลน้ำ
00:03:27 → 00:03:30 ตาลในเลือดของคนเนี่ย 90% เลยมาจากข้าว
00:03:30 → 00:03:33 ข้าวขาวข้าวกล้องนี่แหละ
00:03:33 → 00:03:37 คุณไม่ได้กินน้ําตาลวันละ 5 ช้อนโต๊ะถูก
00:03:37 → 00:03:42 ไหมครับแต่คนกินข้าวขาววันละ 5 ทัพพีไอ้
00:03:42 → 00:03:46 นี่ปัญหาและคือสาเหตุที่ทำไมน้ำตาลใน
00:03:46 → 00:03:50 กระแสเลือดมันเยอะรวมถึงคนส่วนมากเข้าใจ
00:03:50 → 00:03:54 ผิดคิดว่าไขมันในร่างกายของคุณนะมันมาจาก
00:03:54 → 00:03:58 ไขมันสัตว์ที่คุณกินเข้าไปมันไม่ได้มาจาก
00:03:58 → 00:04:00 ไขมันสัตว์
00:04:00 → 00:04:02 ออกมาจากแป้งที่คุณกินเข้าไปนั่นแหละมัน
00:04:02 → 00:04:06 จะเข้าขาวนี่แหละมันมาจะข้าวนี่แหละเข้า
00:04:07 → 00:04:10 ขาวกล้องนี่แหละที่ทำให้อ้วนอันที่สองก็
00:04:10 → 00:04:13 คือ in saline มันหลั่งบ่อยสาเหตุที่มัน
00:04:13 → 00:04:18 หลังบ่อยพ่อคุณกินบ่อยคุณกินเกินกว่า
00:04:18 → 00:04:22 ธรรมชาติของมนุษย์ธรรมชาติของมนุษย์หลาย
00:04:22 → 00:04:27 แสนปีที่ผ่านมามนุษย์กินวันละ 1 มื้อยัง
00:04:27 → 00:04:30 เก่งในตอนหลังนี้ก็กินวันละ 2 มื้อใน
00:04:30 → 00:04:34 ปัจจุบันนักเศรษฐศาสตร์บอกว่าสาเหตุทั้ง
00:04:34 → 00:04:37 หมดแล้วมันมาจากตู้เย็นคนจะกินกี่มือก็
00:04:37 → 00:04:41 ได้เพราะว่าคุณสามารถกินระหว่างมื้ออาหาร
00:04:41 → 00:04:44 หลักนอกจาก 3 มื้อแล้วยังมีอาหารระหว่าง
00:04:44 → 00:04:49 มื้ออีกปัจจุบันก็ยังมีกาแฟหลังมื้ออีก 5
00:04:49 → 00:04:53 คุณนับวัดอมลูกอม 1 ลูกเนี่ยเป็นหนึ่ง
00:04:53 → 00:04:57 มื้อคุณถามตัวเองหน่อยว่าคุณกินทั้งหมดใน
00:04:57 → 00:05:01 แต่ละวันกินกี่มื้อแต่บางคนชัดเข้าไปถึง 7
00:05:01 → 00:05:06 มื้อนอกจากอาหารเช้ากลางวันเย็นแล้วยังมี
00:05:06 → 00:05:13 กาแฟตอนสายตอนบ่ายและลองท้องตอน 16:00 น
00:05:13 → 00:05:17 หลายคนยังมีรอบดึกกินรองท้องอีกสักหน่อย
00:05:17 → 00:05:21 ตอน 9:00 นเม็ดเซตกินวันหนึ่ง 7 มื้อไอ้
00:05:21 → 00:05:23 นี่แหละเป็นสาเหตุที่ทำให้อินซูลินมัน
00:05:23 → 00:05:27 หลังบ่อยการหลั่งมากและหลังบ่อยของ
00:05:27 → 00:05:31 อินซูลินนั้นทำให้มันดื้อทำให้มันไม่ไว
00:05:31 → 00:05:34 ต่อกลูโคสทำให้มันเสื่อมเป็นความเสื่อม
00:05:34 → 00:05:37 ของอินซูลินเนี่ยภาษาหมอเขาเรียกว่าเบา
00:05:37 → 00:05:41 หวานประเภท 2 และมันเป็นจุดเริ่มต้นเป็น
00:05:41 → 00:05:46 ประตูที่เปิดสู่โลกสารพัดชนิดเลยแม่ว่า
00:05:46 → 00:05:49 คุณจะไม่เป็นเบาหวานก็ตามนะในการที่
00:05:49 → 00:05:52 ประสิทธิภาพของอินซูลินมันเสื่อมมันเปิด
00:05:52 → 00:05:56 โอกาสให้โลกสารพัดชนิดเข้ามา
00:05:56 → 00:06:00 นี้พูดถึงผู้ป่วยโรคเบาหวานก็ที่ 2 ที่
00:06:00 → 00:06:04 เขาหมดแรงมันก็เกิดจากกลูโคสในเลือดไม่พอ
00:06:04 → 00:06:10 ผมเปรียบได้กับเค้กส่งไปไม่ทันแขกแขกอยาก
00:06:10 → 00:06:15 จะกินเค้กแต่กลูโคส่งไปไม่ทันและสาเหตุก็
00:06:15 → 00:06:19 คือไม่ใช่ว่าเด็กเสิร์ฟมันน้อยนะเด็ก
00:06:19 → 00:06:21 เสิร์ฟมันเยอะไปเด็กเสิร์ฟมันไม่มี
00:06:21 → 00:06:22 ประสิทธิภาพ
00:06:22 → 00:06:26 เมื่อเขาอ่อนแรงมันก็ต้องส่งกลูโคส
00:06:26 → 00:06:31 ฉุกเฉินไปให้แขกรองท้องนั่นคือการแก้
00:06:31 → 00:06:36 ปัญหาโชคข่าวแกงให้คุณรอดตายในวันนั้นแต่
00:06:36 → 00:06:40 ปัญหาจริงๆมันคืออะไรมันก็คือเค้กที่อยู่
00:06:40 → 00:06:43 ในตู้เย็นน่ะอยู่ในช่องแช่แข็งมันไม่เอา
00:06:43 → 00:06:48 ออกมาใช้และวิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้องที่จะ
00:06:48 → 00:06:51 ทำให้คุณมีชีวิตยืนยาวคือคุณต้องไปเอา
00:06:51 → 00:06:56 เค้กที่มันแช่แข็งออกมาใช้ออกมากินไม่ใช่
00:06:56 → 00:06:59 เห็นว่าเค้กไม่พอก็ไปสั่งแต่เค้กอันใหม่
00:06:59 → 00:07:01 เข้ามาๆ
00:07:01 → 00:07:04 และสูตรการรักษาเบาหวานที่ดีที่สุดในโลก
00:07:04 → 00:07:08 ก็คือสูตรที่ผมบอกว่ารถครับไม่กินหลาย
00:07:08 → 00:07:13 มื้อและผมต้องยำนะว่าผมไม่เคยบอกให้คุณ
00:07:13 → 00:07:18 กินน้อยผมบอกว่าแต่ละมื้อให้คุณกินเยอะๆ
00:07:18 → 00:07:21 แต่กินวันนึงอ่ะอ่ะหนึ่งหรือสองมือเท่า
00:07:21 → 00:07:26 นั้นไม่มีระหว่างมื้อไม่มีข้อยกเว้นลูกอม
00:07:26 → 00:07:28 เม็ดเดียวระหว่างมือก็ไม่ได้
00:07:28 → 00:07:31 นอกจากมันไม่ทำให้คุณเป็นเบาหวานแล้วร่าง
00:07:31 → 00:07:34 กายของคุณก็จะไม่เสื่อมคุณจะแก่ช้าด้วย
00:07:34 → 00:07:38 เพราะฉะนั้นไอ้เครื่องสำอางที่โฆษณาขาย
00:07:38 → 00:07:42 ยามันไม่มีประโยชน์เลยเมื่อเทียบกับสูตร
00:07:42 → 00:07:46 ที่ผมบอกถ้าคุณเป็นผู้หญิงอยากจะสาวสวย
00:07:46 → 00:07:50 อย่างยาวนานเนี่ยไม่ต้องไปสนใจเครื่อง
00:07:50 → 00:07:54 ประทินผิวให้มากนะสิ่งที่คุณต้องสนใจก็
00:07:54 → 00:07:59 คือกินเยอะๆจะกินน้อยมือที่สุดไม่กิน
00:07:59 → 00:08:03 ระหว่างมื้อเลยและนอกจากน้ำเปล่านี้ผมพูด
00:08:03 → 00:08:06 ถึงกรณีทั่วไปนะครับไม่ใช่พูดถึงผู้ป่วย
00:08:06 → 00:08:10 ที่ว่าต้องกินยาหรือว่าผู้ป่วยเบาหวานที่
00:08:10 → 00:08:12 หมดแรงอันนี้คือเขาต้องเติมครูโคตรทันที
00:08:12 → 00:08:16 อันที่สามก็คือคุณต้องเรียนแป้งและน้ำตาล
00:08:16 → 00:08:21 ทุกรูปแบบรวมถึงเข้ากล้องด้วยและน้ำผลไม้
00:08:21 → 00:08:26 แท้ต้องเรียนข้อสุดท้ายผมอยากแนะนำให้ออก
00:08:26 → 00:08:30 กำลังกายให้หอบให้เหนื่อยวันละ 20 นาทีก็
00:08:30 → 00:08:34 พอไม่ต้องออกมากและขอให้เดินระหว่างวัน
00:08:34 → 00:08:40 ให้เยอะถ้าคนทำได้ 4 ข้อนี้คุณจะรักษาเบา
00:08:40 → 00:08:44 หวานได้อย่างถาวรและมีชีวิตที่ยืนยาวคุณ
00:08:44 → 00:08:46 จะแก่ช้า
00:08:46 → 00:08:51 มีสุขภาพที่ดีในระยะยาวคุณจะเห็นความ
00:08:51 → 00:08:54 เปลี่ยนแปลงของร่างกายอย่างชัดเจนภายใน 1
00:08:54 → 00:08:57 เดือน
00:08:57 → 00:09:01 และสิ่งกี้ต้อง 5 และก็คือตรงกันข้ามก็
00:09:01 → 00:09:05 คือ 4 อย่างหนึ่งอยากกินค้าหมายถึงให้กิน
00:09:05 → 00:09:10 ครับให้น้อยที่สุดก็คือกินทางอ้อมเช่นคน
00:09:10 → 00:09:12 กินผลไม้เนี่ยมันอาจจะมีน้ำตาลติดมาบ้าง
00:09:12 → 00:09:15 อย่างนี้คุณกินได้แต่ถ้าเป็นน้ำตาลที่
00:09:15 → 00:09:18 เห็นเป็นเม็ดเม็ดเลยอ่ะหรือน้ำผลไม้อัน
00:09:18 → 00:09:22 นี้ห้ามกินเลขสูตรนี้ว่าโลคาร์ฟถ้าจะเอา
00:09:22 → 00:09:25 ให้หนักกว่านั้นก็ได้ว่าขี่โตก็คือเน้นไข
00:09:25 → 00:09:30 มันโปรตีนแทนการกินแป้งอันที่สองอยากกิน
00:09:30 → 00:09:33 บ่อยๆคุณควรกินวันนึงเนี่ยหนึ่งหรือสอง
00:09:33 → 00:09:36 มือเท่านั้นยังผมในปัจจุบันถึงว่ากินแค่
00:09:36 → 00:09:39 วันละมื้อห้ามกินระหว่างมื้อเด็ดขาดแม้
00:09:39 → 00:09:42 แต่กาแฟก็ไม่ใส่นมจืดนมจืดมันไม่ใช่ไม่มี
00:09:42 → 00:09:46 น้ำตาลนะครับร้านที่ 3 อย่างกินก็คือ
00:09:46 → 00:09:49 ปล่อยให้ท้องมันหิวใช่บ้างยิ่งท้องหิวมาก
00:09:49 → 00:09:52 เท่าไหร่นั่นแหละคือยาอายุวัฒนะเหตุ
00:09:52 → 00:09:55 โปรแกรมที่เขานิยมทำกันก็คือ intermission
00:09:55 → 00:09:57 ฟาสติ้งและถ้ามีโอกาสเดี๋ยวผมจะมาอธิบาย
00:09:57 → 00:10:01 เทคนิคให้ฟังนักปและก็คือ prolong คาส
00:10:01 → 00:10:05 ติ้งกดข้ามวันเลยการกินวันละ 1 มื้อเนี่ย
00:10:05 → 00:10:09 เขาก็ถือว่าอีก 23 ชั่วโมงตีไป 24
00:10:09 → 00:10:12 ชั่วโมงแล้วกันตัวเลขมันจะได้ลงตัวกาหนด
00:10:12 → 00:10:16 ข้ามวันของคนที่กิน 1 มื้อก็ตีไป 48
00:10:16 → 00:10:20 ชั่วโมงกาหนดข้าม 2 วันก็คือ 72 ชั่วโมง
00:10:20 → 00:10:25 กาหนดข้ามสามวันก็เก้าสิบหกชั่วโมงถ้าคุณ
00:10:25 → 00:10:28 สามารถอดข้าม 3 วันได้หรือ 96 ชั่วโมงได้
00:10:28 → 00:10:32 คุณก็จะไม่หิวคุณจะอด 4-5 วัน 6 วันอะไร
00:10:32 → 00:10:35 ก็แล้วแต่อันนี้ขึ้นอยู่กับไขมันในร่าง
00:10:35 → 00:10:40 กายนะแล้วก็สุดท้ายอย่ากินยาพิษให้กินแต่
00:10:40 → 00:10:44 ของดีและผมจะต้องอธิบายว่าอะไรที่ผมถือ
00:10:44 → 00:10:48 ว่าเป็นยาพิษไม่อยากให้คุณกินทุกคนถามแต่
00:10:48 → 00:10:52 ยาวิเศษคือกินอะไรแล้วอายุจะยืนแล้วผมได้
00:10:52 → 00:10:57 ยินตั้งแต่เด็กว่ากีฬาเป็นยาวิเศษและผมมา
00:10:57 → 00:11:00 ค้นพบภายหลังว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกนี่
00:11:00 → 00:11:03 เป็นสิ่งที่ผิดทำไมคนเล่นกีฬาทุกวันยัง
00:11:03 → 00:11:06 เป็นเบาหวานการออกกำลังกายนั้นมันเป็นแค่
00:11:06 → 00:11:10 ยาขนานหนึ่งเท่านั้นเองมันไม่ใช่ยาวิเศษ
00:11:10 → 00:11:14 ไอ้ตัวที่เป็นยาวิเศษที่ผมค้นพบๆและทดลอง
00:11:14 → 00:11:19 กับตนเองจนประจักษ์แล้วเนี่ยน้ำมั่นใจจน
00:11:19 → 00:11:22 กระทั่งผมแชร์ได้อย่างมั่นใจยาวิเศษตัว
00:11:22 → 00:11:26 นั้นมีชื่อว่าความหิวคือการไม่กินอะไรเลย
00:11:26 → 00:11:31 การกินวันละมื้อนั้นมันป้องกันโรค ncd
00:11:31 → 00:11:36 ได้จริงและกาหนดข้ามวันเนี่ยอด 2-4 วันนะ
00:11:36 → 00:11:40 คะอาจจะทำทุกเดือนแบบผมหรือทำทุก 2 3
00:11:40 → 00:11:42 เดือนก็ได้ถ้าเกิดคุณไม่มีเวลามันทำให้
00:11:42 → 00:11:47 อายุยืนได้จริงมันอาจจะฟังดูแล้วเพ้อเจ้อ
00:11:47 → 00:11:51 แต่คุณเชื่อผมเหอะผมขอร้องแล้วผมมั่นใจ
00:11:51 → 00:11:55 มากว่าสักวันนึงไม่เกิน 10 ปีหมอทั้ง
00:11:55 → 00:11:58 ประเทศไทยจะพูดอย่างที่ผมพูดในวันนี้ความ
00:11:58 → 00:12:01 หิวคือยาถ้า
00:12:01 → 00:12:05 สมมติจับคนมาขังคุกแล้วกันมีอาหาร 3 จาน
00:12:05 → 00:12:10 ในแต่ละวันกินแบบไหนจะเป็นโรคน้อยที่สุด
00:12:10 → 00:12:14 ในแบบที่ 1 แบ่งกิน 6 มื้อกินน้อยเตะกิน
00:12:14 → 00:12:18 บ่อย 3 ชั่วโมงไอ้แบงค์ที่ 2 เป็น 3 มือ
00:12:18 → 00:12:21 ก็คือเช้ากลางวันเย็นมาตรฐาน
00:12:21 → 00:12:26 แบบที่สามก็คือแบ่งกิน 2 มื้อตอนไหนก็ได้
00:12:26 → 00:12:30 และแบบที่สี่ก็คือเอา 3 จานมันรวมกันเลย
00:12:30 → 00:12:35 นะกินมื้อเดียวและคำตอบก็คือไอ้แบบที่ 4
00:12:35 → 00:12:39 จะเป็นโรคน้อยที่สุดเอา 3 จานมารวมกันและ
00:12:39 → 00:12:42 กินให้ได้ภายในมื้อเดียวและเอาเข้าจริงๆ
00:12:42 → 00:12:45 แล้วคุณอาจจะกินแค่ 2 จานหรือ 2 จานครึ่ง
00:12:45 → 00:12:48 เท่านั้นเองเพราะว่าท้องมันอิ่มสะก่อน
00:12:48 → 00:12:51 นั้นได้ที่เหลือทิ้งไอ้แบบนี้แหละคือวิธี
00:12:51 → 00:12:54 ที่จะทำให้คุณเป็นโรคน้อยที่สุดไม่ว่าจะ
00:12:54 → 00:12:58 ทดลองกับหนูทดลองกับลิงคำตอบมันออกมา
00:12:58 → 00:13:01 เหมือนกันไอ้คือกลุ่มที่เสียอายุยืนที่
00:13:01 → 00:13:05 สุดให้มันกินอาหารวันนั้น 1 มื้อเท่านั้น
00:13:05 → 00:13:09 เอา 3 จานมารวมกันแล้วมันอาจจะกินแค่ 2
00:13:09 → 00:13:12 จานหรือ 2 จันทร์ครึ่งเท่านั้นเองมันไม่
00:13:12 → 00:13:17 จำเป็นจะต้องกิน 3 จานเป็นเต็มๆและนี่
00:13:17 → 00:13:20 เป็นเครื่องพิสูจน์ลดความหิวเป็นยาที่
00:13:20 → 00:13:23 วิเศษที่สุด
00:13:23 → 00:13:28 ผมอยากพูดถึงพาราด็อกซีนลึกความขัดแย้ง
00:13:28 → 00:13:32 ของการเคี้ยวและการย่อยคือมันเป็นเรื่อง
00:13:32 → 00:13:35 แปลกการที่คุณเคี้ยวละเอียดเนี่ยเขี้ยว
00:13:35 → 00:13:38 ละเอียดมากๆเนี่ยกลับเพราะมันใช้เวลาย่อย
00:13:38 → 00:13:43 นานและมันทำให้หิวช้าด้วยมันทำให้อิ่มทน
00:13:43 → 00:13:46 คนส่วนมากนึกว่าโอ๊ยเขียวละเอียดเดี๋ยว
00:13:46 → 00:13:50 มันก็ย่อยเร็วเดี๋ยวก็หิวเร็วก็กดว่ามัน
00:13:50 → 00:13:53 ตรงกันข้ามยิ่งคุณเคี้ยวละเอียดเท่าไหร่
00:13:53 → 00:13:57 มันใช้เวลาย่อยนานขึ้นและมันก็อิ่มทนแล้ว
00:13:57 → 00:14:01 มันก็หิวช้าช้าเหตุก็พวกมันมีเพื่อนที่
00:14:01 → 00:14:04 ผิวของสารอาหารเยอะมันจะเหมือนกับว่า
00:14:04 → 00:14:08 อาหารมันเข้ามาเยอะมันใช้เวลาดูดซึมเยอะ
00:14:08 → 00:14:13 ก็ฉะนั้นถ้าเกิดคุณอดอาหารใหม่ๆหรือคุณ
00:14:13 → 00:14:16 ต้องการกินในน้อยๆสิ่งที่คุณต้องทำก็
00:14:16 → 00:14:19 เคี้ยวให้ละเอียดที่สุดเพราะถ้าคุณเคี้ยว
00:14:19 → 00:14:22 ไม่ละเอียดเนี่ยกระเพาะมาใช้เวลาย่อยเร็ว
00:14:22 → 00:14:25 นะแล้วคุณก็จะหิวเร็วเพราะฉะนั้นถ้าเกิด
00:14:25 → 00:14:28 คุณอยากจะกินวันนึงแค่ 2 มื้อหรือกินวัน
00:14:28 → 00:14:32 นึง 1 มื้อเท่านั้นเนี่ยผมย้ำว่ากูต้อง
00:14:32 → 00:14:35 เที่ยวละเอียดมากที่สุดแล้วคุณจะหิวชาติ
00:14:35 → 00:14:40 พูดถึงการใช้ยาของผู้ป่วยโรคเบาหวานยาตัว
00:14:40 → 00:14:43 นี้มันทำหน้าที่อะไรกันแน่หลายคนก็อยาก
00:14:43 → 00:14:46 ให้ผมอธิบายคือยามันมีหลายตัวแต่ว่าไอ้
00:14:46 → 00:14:50 ตัวที่ใช้กันมากมันทำหน้าที่เหมือนกับคน
00:14:50 → 00:14:55 เรียงเค้กในช่องแช่แข็งก็คือแขกในงานเค้า
00:14:55 → 00:14:59 ไม่รับเค้กเพราะเขาอิ่มแล้วนะเด็กเซิฟมัน
00:14:59 → 00:15:02 ก็ต้องเอามามีตู้เย็นถูกไหมครับไอ้เด็ก
00:15:02 → 00:15:06 เซอร์ว่ามันไม่ใช่มืออาชีพมันก็เรียนใน
00:15:06 → 00:15:09 ตู้เย็นสะเปะสะปะมันก็ใส่เข้าไปได้น้อย
00:15:09 → 00:15:12 ไอ้ยาที่ว่านี้ก็คือทำหน้าที่มันเรียน
00:15:12 → 00:15:16 เค้กในช่องแช่แข็งให้มันอัดเข้าไปได้เยอะ
00:15:16 → 00:15:20 ๆเพื่อไม่ให้เค้กระวังและเก็กละกันอยู่ใน
00:15:20 → 00:15:24 งานเลี้ยงก็คือไม่ให้ครบคอร์สเดินสเปคสับ
00:15:24 → 00:15:27 อาจอยู่ในกระแสเลือดคุณก็คือไม่ให้น้ำตาล
00:15:27 → 00:15:30 ในเลือดมันสูงอย่างที่เขาพูดกันมันไม่ได้
00:15:30 → 00:15:34 ไปรักษาหรือไปเพิ่มประสิทธิภาพของ
00:15:34 → 00:15:38 อินซูลินที่เป็นสาเหตุจริงๆ
00:15:38 → 00:15:42 เอาล่ะอย่างที่ผมบอกการรักษาเบาหวานนั้น
00:15:42 → 00:15:45 ก็คือเอาเค้กที่มันแช่แข็งอยู่ในตู้เย็น
00:15:45 → 00:15:48 นี้ออกมาใช้ให้มากที่สุดไม่ต้องไปสั่ง
00:15:48 → 00:15:51 เค้กใหม่ใส่เข้าปากและมันมีอยู่ 3 วิธี
00:15:51 → 00:15:56 หนึ่งคุณเอาเค้กออกมาเนี่ยรับใส่ไมโครเวฟ
00:15:56 → 00:16:00 เลยละลายมันเลยวิธีนี้เรียกว่าออกกำลัง 1
00:16:00 → 00:16:03 นายแต่วันนึงอ่ะคุณจะออกกำลังกายได้กี่
00:16:03 → 00:16:07 นาทีคุณจะออกกำลังกาย 16 ชั่วโมงไหมมันก็
00:16:07 → 00:16:11 เป็นไปไม่ได้เวลาคุณเอาของจากเซอร์มา
00:16:11 → 00:16:14 นารายณ์ในไมโครเวฟเนี่ยวันนึงคุณอาจจะทำ
00:16:14 → 00:16:17 ได้ 5 ชิ้นถ้าคุณขี้เกียจถ้าคุณขยันคุณก็
00:16:17 → 00:16:21 ทำได้ 20 ชิ้นถูกไหมมันก็ทำได้แค่นั้นน่ะ
00:16:21 → 00:16:27 อันที่ 2 เอามาวางไว้ข้างนอกเลยเขาจะช่อง
00:16:27 → 00:16:31 แช่แข็งเอามาวางพึ่งอากาศข้างนอกเลยไอ้
00:16:31 → 00:16:35 แบบนี้ก็มีสองวิธีวิธีแรกก็คือคุณเอามา
00:16:35 → 00:16:39 วางไม่มากนักเรียกว่าเป็นการลดครับก็คือ
00:16:39 → 00:16:43 ลบมือของการกินวันหนึ่งคุณอาจจะทำได้ 20
00:16:43 → 00:16:47 ชิ้นก็ว่าไปแล้วคุณทำได้ดีกว่าไอ้คนที่
00:16:47 → 00:16:51 ออกกำลังกายนั้นการลดจำนวนมื้ออาหารให้
00:16:51 → 00:16:54 เหลือ 1 มื้อประสิทธิภาพมันจะสูงกับคนที่
00:16:54 → 00:16:58 ออกกำลังกายหลายๆชั่วโมงนี่และวิธีที่ดี
00:16:58 → 00:17:02 ที่สุดก็คือบทจะกินอะไรเลยเปรียบได้กรรม
00:17:02 → 00:17:06 คุณเอาเค้กจากในเฟซเอ้อเมื่อวางบนพื้น
00:17:06 → 00:17:10 บ้านคืนให้มันละลายให้มากที่สุดเท่าที่จะ
00:17:10 → 00:17:11 มากได้
00:17:11 → 00:17:14 ไอ้แบบนี้วันนึงคุณทำได้เป็นร้อยชิ้นเลย
00:17:14 → 00:17:15 ถูกไหมครับ
00:17:15 → 00:17:20 เพราะฉะนั้นวิธีที่จะเอาเค้กในช่องฟรีส
00:17:20 → 00:17:24 เซอร์ออกมาละลายให้มากที่สุดก็คืออดอาหาร
00:17:24 → 00:17:28 ไม่ใช่การออกกำลังกายออกกำลังกายยังมันทำ
00:17:28 → 00:17:31 ได้นิดเดียวเท่านั้นเองคุณจะออกวันนึงกี่
00:17:31 → 00:17:35 ชั่วโมงแต่คุณอดอาหารและคุณค่ามันอดได้ 24
00:17:35 → 00:17:40 ชั่วโมงถูกไม่ถูกที่นี่พูดถึงความเข้าใจ
00:17:40 → 00:17:44 ผิดของคนไทยคนส่วนมากเลยนะก็เอา 10% เลย
00:17:44 → 00:17:48 เข้าใจผิดคิดว่ากินของหวานทำให้เป็นเบา
00:17:48 → 00:17:51 หวานเขาก็จะสรุปสั้นๆว่าขอเป็นเพราะไอ้
00:17:51 → 00:17:53 นั่นมันกินของหวานเยอะมันเลยเป็นเบาหวาน
00:17:53 → 00:17:56 ฉันไม่เป็นเบาหวานเพราะว่าฉันไม่กินหวาน
00:17:56 → 00:17:59 ค่ะอยากไม่เป็นเบาหวานก็ต้องลดของหวาน
00:17:59 → 00:18:01 เท่านั้นเองโอ้นี่เป็นความเข้าใจผิด
00:18:01 → 00:18:02 มหันต์
00:18:02 → 00:18:09 ร้านที่สองก็คือกินน้อยๆแต่กินบ่อยจะดี
00:18:09 → 00:18:13 ไอ้ความคิดนี้มันเกิดมาประมาณซักสี่สิบปี
00:18:13 → 00:18:15 แล้วมันแล้วเขาเลิกคิดแบบนี้มา 10 กว่าปี
00:18:15 → 00:18:17 แล้ว
00:18:17 → 00:18:20 อันที่สามที่ผมจะมาต่อในคลิปหน้าก็คือ
00:18:20 → 00:18:25 อาหารที่เลวคนเข้าใจผิดว่ามันดีอย่างเช่น
00:18:25 → 00:18:28 เข้ากล้องอย่างเงี้ยพอพูดถึงเข้ากล้องทุก
00:18:28 → 00:18:33 คนก็โอ๊ยสงสัยมันดีทุกคนก็งงคิดอยู่แต่
00:18:33 → 00:18:36 ว่ามันดีทั้งๆที่มันเป็นอาหารที่เลวเพียง
00:18:36 → 00:18:40 แต่ข้าวขาวเร็วกว่าด้วยน้ำผลไม้แท้เนี่ย
00:18:40 → 00:18:44 ทุกคนก็มองว่าโอ๊ยมันจะนั่งเป็นของดีทั้ง
00:18:44 → 00:18:48 ๆที่มันเลวอาจจะเร็วน้อยกว่าน้ำอัดลมนิด
00:18:48 → 00:18:51 หน่อยเท่านั้นเองแล้วก็มองว่าน้ำผลไม้
00:18:51 → 00:18:55 เนี่ยเพื่อสุขภาพเป็นเนื้อสัตว์เป็นของ
00:18:55 → 00:18:59 ไม่ดีเป็นของที่จะทำลายสุขภาพเนื้อสัตว์
00:18:59 → 00:19:00 เนื้อแดง
00:19:00 → 00:19:02 ก็เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งอย่างเงี้ยมัน
00:19:02 → 00:19:06 ล่ะมันอยู่ในสังคมไทยเนี่ยมันอมนานและ
00:19:06 → 00:19:09 แม้นแต่อาจารย์แพทย์หลายคนก็เข้าใจอย่าง
00:19:09 → 00:19:12 นี้อ้วนเนื้อสัตว์แดงเป็นของไม่ดีไอ้นี่
00:19:13 → 00:19:16 จะต้องมาให้การศึกษากันใหม่หมดเลยและนี่
00:19:16 → 00:19:19 คือสิ่งที่ผมจะพูดในคลิปหน้าแพ็คของที่
00:19:19 → 00:19:24 เขาบอกว่าดีกันนักกันหนาเนี่ยมันเลวยังไง
00:19:24 → 00:19:29 แล้วถ้าเกิดคุณชอบคลิปนี้ก็อย่าลืมกดคลิป
00:19:29 → 00:19:33 ที่โชว์อยู่ขณะนี้ข้างใดข้างนึงเพื่อดูใน
00:19:33 → 00:19:37 คลิปที่ผมเชื่อว่าคุณก็ต้องชอบด้วย
00:19:37 → 00:19:43 ขอขอบคุณที่ติดตามสวัสดีครับอ่า
00:19:43 → 00:19:56 [เพลง]