00:00:00 → 00:00:02 คุณหมอคะไอ้คำว่าหายใจไม่เต็มอิ่มเนี่ย
00:00:02 → 00:00:06 บริบทมันคืออะไรอาการแบบไหนที่บอกได้ว่า
00:00:06 → 00:00:10 หายใจไม่อิ่มอ่ะอ๋อคือคือผมว่าเรื่องหาย
00:00:10 → 00:00:13 ใจไม่อิ่มเนี่ยมันมันเป็นมันเป็นความรู้
00:00:13 → 00:00:16 สึกอ่ะครับมันเป็นความรู้สึกของคนไข้ที่
00:00:16 → 00:00:20 ที่ชอบมามาเล่าให้หมอฟังทีเนี้ยเวลาเรา
00:00:20 → 00:00:22 พูดคำว่าหายใจไม่อิ่มเนี่ยผมคิดว่าเรา
00:00:22 → 00:00:25 ต้องต้องแยกก่อนว่าไอ้คำว่าหายใจไม่อิ่ม
00:00:25 → 00:00:28 เนี่ยความรู้สึกมันน่ะบางทีมันก็จะพนๆน
00:00:28 → 00:00:30 กับโลกอื่นผมคิดว่าอย่างนึงที่สำคัญที่
00:00:30 → 00:00:33 เราจะต้องแยกเลยคืออาการแน่นหน้าอกบางที
00:00:33 → 00:00:36 เราจะได้ยินคนไข้อ่ะพูดมาปนๆกันนะครับว่า
00:00:36 → 00:00:39 หายใจไม่อกเอ้ยหายใจไม่อิ่มแน่นหน้าอก
00:00:39 → 00:00:41 อย่างเงี้ยฟนๆกันมาซึ่งซึ่งความสำคัญ
00:00:41 → 00:00:44 เนี่ยคือ 2 อันเนี้ยมันมันอาจจะบอกถึงคน
00:00:44 → 00:00:49 ละโลกกันค่ะครับอืทีนี้ไอ้ในเซนส์ของเวลา
00:00:49 → 00:00:51 เราพูดถึงว่าหายใจไม่อิ่มเนี่ยเราน่ามัก
00:00:51 → 00:00:55 จะหมายถึงเอ่อการไหลของลมนะครับที่เข้า
00:00:55 → 00:00:58 จากจมูกเข้าไปสู่ปอของเราเนี่ยทำได้ไม่ดี
00:00:58 → 00:01:02 คือมันมีการขขวางอุดกั้นทำให้ฟวของลมที่
00:01:02 → 00:01:05 วิ่งเข้าก่อนเราอ่ะมันมันมีปัญหาก็ทำให้
00:01:05 → 00:01:08 เรารู้สึกหายใจไม่อิ่มอือครับอแต่ทีนี้
00:01:08 → 00:01:10 อย่างที่ผมบอกไปว่าบางทีเราต้องแยกกับ
00:01:10 → 00:01:12 อาการแน่นหน้าอกด้วยแน่นหน้าอกก็คือรู้
00:01:12 → 00:01:16 สึกแน่นแน่นที่หน้าอกอ่ะครับซึ่งบางทีอ่ะ
00:01:16 → 00:01:19 มันจะรู้สึกความรู้สึกมันจะคล้ายๆกันนั่น
00:01:19 → 00:01:23 แหละค่ะจะถามคุณหมอว่าแยกยังไงเนี่ยโออัน
00:01:23 → 00:01:25 นี้ต้องมันก็ตอบยากเหมือครับว่ามันแยก
00:01:25 → 00:01:27 เพราะว่ามันเป็นความรู้สึกเพราะฉะนั้นมัน
00:01:27 → 00:01:31 ต้องอาศัยอาการอื่นร่วมด้วยทีนี้เวลาอยาก
00:01:31 → 00:01:32 จะอยากจะเล่าให้ฟังก่อนว่าไอ้เรื่องของ
00:01:33 → 00:01:35 อาการแน่นหน้าอกเนี่ยมันมันอาจจะมีความ
00:01:35 → 00:01:38 สำคัญโดยเฉพาะอ่าเพราะว่าอะไรครับเพราะ
00:01:38 → 00:01:41 ว่ามันบอกถึงมันมีโรคร้ายแรงที่เฉียบพลัน
00:01:41 → 00:01:43 ด้วยบางอย่างเนี่ยที่เกิดจากการแน่นหน้า
00:01:43 → 00:01:47 อกนะครับโดยเฉพาะสำคัญเลยก็คือโรคหัวใจ
00:01:47 → 00:01:50 ครับเพราะะนั้นอ่าเพราะฉะนั้นเวลาคนไข้
00:01:50 → 00:01:53 เนี่ยอ่าบอกเราว่ามีอาการแน่นหน้าอกเนี่ย
00:01:53 → 00:01:55 สิ่งที่เราต้องตระหนักอย่างนึงอันแรกเลย
00:01:55 → 00:01:58 ที่ขึ้นมาในหัวเลยก็คือเอ๊ะเป็นโรคหัวใจ
00:01:58 → 00:02:01 หรือเปล่าอืครับค่ะอ่าเพราะฉะนั้นไอ้
00:02:01 → 00:02:04 อาการแน่นหน้าอกเนี่ยเอ่อซึ่งบอกเป็นโรค
00:02:04 → 00:02:07 หัวใจเที่ที่มันค่อนข้างจะเฉียบพลันแล้ว
00:02:07 → 00:02:09 เกิดเอ่ออาการแย่ลงกระทันหันได้เลยก็คือ
00:02:10 → 00:02:12 พวกหล่อดเลือดหัวใจอุดตันอย่างเงี้ยครับ
00:02:12 → 00:02:14 แล้วทำให้เกิดอาการแน่นหน้าอกขึ้นมาเพราะ
00:02:14 → 00:02:16 ฉะนั้นอันเนี้ยต้องพยายามแยกออกไปก่อนว่า
00:02:16 → 00:02:18 ตกลงไอ้ที่เรารู้สึกอ่ะครับมันคือแน่น
00:02:18 → 00:02:22 หน้าอกหรือมันแค่หายใจไม่อิ่มออค่ะทีนี้
00:02:22 → 00:02:24 ไอ้อาการแน่นหน้าอกอ่ะครับนอกจากหัวใจ
00:02:24 → 00:02:26 แล้วมันก็ยังมีอวัยวะอื่นข้างๆเคียงๆที่
00:02:26 → 00:02:29 ทำลักษณะเดียวกันได้ที่อยู่ตรงหน้าอกเรา
00:02:29 → 00:02:31 อ่ะครับเช่นที่เราจะเจอบ่อยๆพวกกดไหลย้อน
00:02:31 → 00:02:34 บางทีก็จะรู้สึกแน่นหน้าอกหายใจไม่อิ่ม
00:02:34 → 00:02:37 อะไรเงี้ยครับออแล้วก็เมื่อกี้ที่บอกไป
00:02:37 → 00:02:39 แล้วว่าโรคหัวใจซึ่งยังมีโรคหัวใจอื่นๆ
00:02:39 → 00:02:41 อีกนะครับหลายอย่างที่ที่ทำให้เกิดแน่น
00:02:41 → 00:02:47 หน้าอกครับแล้วก็เอ่อจนมาถึงโรคปอดนะครับ
00:02:47 → 00:02:51 ค่ะก็ทีนี้ทีนี้ค่ะเชิญค่ะคุณหมอคะครับที
00:02:51 → 00:02:54 นี้เวลาเราเพราะฉะนั้นย้อนย้อนกลับมาคือ
00:02:54 → 00:02:57 อันที่ 1 เนี่ยเราคงต้องแยกก่อนว่าตกลง
00:02:57 → 00:02:59 อาการไอหายใจไม่อิ่มเนี่ยตกลงมันหายใจไม่
00:02:59 → 00:03:01 อิ่มอย่างเดียวหรือมันมีแน่นหน้าอกร่วม
00:03:01 → 00:03:05 ด้วยครับทีนี้ต่อมาเนี่ยพอเราถ้าสมมุติ
00:03:05 → 00:03:07 เราบอกว่าโอเคมันมันไม่น่าจะใช่ไอ้แน่น
00:03:08 → 00:03:10 หน้าอกเนี่ยมันน่าจะเป็นหายใจไม่อิ่ม
00:03:10 → 00:03:12 อย่างเดียวนะครับคงต้องมาดูเพิ่มอีกนิด
00:03:13 → 00:03:15 นึงว่าไอ้ความรู้สึกของเราเนี่ยครับมัน
00:03:15 → 00:03:18 เป็นโรคจริงๆหรือว่ามันเป็นที่เรารู้สึก
00:03:18 → 00:03:22 ไปเองว่าว่าเรารู้สึกหายใจไม่อิ่มครับ
00:03:22 → 00:03:25 เพราะว่าหลายๆครั้งนะครับเอ่อเวลาเรา
00:03:25 → 00:03:28 เหนื่อยๆเพียๆทำงานมาหนักๆอดนอนอย่าง
00:03:28 → 00:03:30 เงี้ยครับเราบางทีเราก็จะรู้สึกใจไม่อิ่ม
00:03:30 → 00:03:33 ได้ซึ่งครับอาจจะวันต่อมาเราพักผ่อนเพียง
00:03:34 → 00:03:37 พออะไรเงี้ยมันก็หายไปได้เองค่ะฉะนั้นอ่า
00:03:37 → 00:03:39 เวลาพูดคำเบหายใจไม่อิ่มเนี่ยก็อาจต้องมา
00:03:39 → 00:03:43 ดูอาการอื่นร่วมด้วย่ะครับว่าเอ่อถ้ามี
00:03:43 → 00:03:45 อาการอื่นร่วมด้วยเนี่ยก็ชวนให้เราสงสัย
00:03:45 → 00:03:48 ว่าเออไอ้โรคปัญหาเนี้ยมันน่าจะมีปัญหา
00:03:48 → 00:03:52 จริงๆครับอืครับค่ะอาการทีนี้ไอครับอาการ
00:03:52 → 00:03:55 อื่นร่วมด้วยเนี่ยลักลักษณะจะเป็นอาการ
00:03:55 → 00:03:57 แบบไหนบ้างคะเมื่อกี้มีแน่นหน้าอกไปแล้ว 1
00:03:58 → 00:04:02 อย่างอ่ะค่ะคุณหมอออทีนี้อ่านอกไอ้นอกจาก
00:04:02 → 00:04:04 ของเรื่องอาการหายใจไม่อิ่มนะครับผมคิด
00:04:04 → 00:04:06 ว่าเราต้องสังเกตด้วยว่าอาการหายใจไม่
00:04:06 → 00:04:10 อิ่มเนี่ยเราเป็นบ่อยมั้ยนะครับเช่นอ่ามา
00:04:10 → 00:04:12 บ่อยขึ้นเรื่อยๆแล้วมันดูรุนแรงขึ้น
00:04:12 → 00:04:16 เรื่อยๆอันเนี้ยน่าจะมีปัญหาค่ะอนะครับ
00:04:16 → 00:04:19 เอ่ออีกอันนึงก็คือเราหายใจอย่างที่ผมบอก
00:04:19 → 00:04:21 ไปตอนแรกมครับว่าอาการหายใจไม่อิ่มเนี่ย
00:04:21 → 00:04:24 เรามักจะหมายถึงเ่อการไหล่ของอากาศเนี่ย
00:04:24 → 00:04:28 เข้าไปสู่ปอดได้ไม่ดีนะครับเพงั้นมันมี
00:04:28 → 00:04:31 อาการมีเสียงวด้วยมั้ยมันมีเสียงวทของลม
00:04:31 → 00:04:34 หายใจด้วยมั้ยนะครับซึ่งอันเนี้ยเสียงด
00:04:34 → 00:04:36 เนี่ยมันเกิดจากการตีของหลอดลมนะครับอัน
00:04:36 → 00:04:39 นี้เป็นสัญญาณสำคัญนะครับถ้ามีหายใจวีด
00:04:39 → 00:04:41 ร่วด้วยอ่าอันเนี้ยหลอดลมน่าจะมีปัญหาและ
00:04:41 → 00:04:44 ทำเลยทำให้มันเกิดเสี่ยงขึ้นนะครับหรือมี
00:04:44 → 00:04:47 อาการเหนื่อยร่วมด้วยมยค่ะนะครับเช่นเอ่อ
00:04:47 → 00:04:50 ออกแรงได้ไม่เท่าเดิมมันเหนื่อยง่ายขึ้น
00:04:50 → 00:04:53 การทำงานทำได้ไม่เท่าเก่าเช่นแต่เดิมเดิน
00:04:53 → 00:04:55 ขึ้นบันได 2 ชั้นคล่องเลยตอนนี้เดินแล้ว
00:04:55 → 00:04:57 ต้องพักระหว่างขั้นและอันเนี้ยน่าจะมี
00:04:57 → 00:05:00 ปัญหาแน่ๆครับอืค่ะ
00:05:00 → 00:05:04 ครับถ้าเป็นลักษณะอาการแบบนี้เนี่ยเอ่อ
00:05:04 → 00:05:07 ความถี่เท่าไหร่ของการหายใจไม่อิ่มที่
00:05:07 → 00:05:10 เอ่อคนที่มีอาการอยู่ตอนเนี้ยต้องแบบตั้ง
00:05:10 → 00:05:13 ข้อสงสัยกับตัวเองแล้วก็คิดว่าต้องได้รับ
00:05:13 → 00:05:16 คำปรึกษาจากเอ่อผู้เชี่ยวชาญหรือว่าทาง
00:05:16 → 00:05:20 แพทย์อะไรต้องไปพบหมออ่ะค่ะคุณหมอคะ
00:05:20 → 00:05:24 อ๋อคือมันคงไม่มีตัวเลขตายตัวครับว่าเป็น
00:05:24 → 00:05:26 ผีเท่าไหร่เพียงแต่ว่าถ้ามันเป็นแล้วมัน
00:05:27 → 00:05:30 ไม่หายอ่ะเป็นซ้ำๆซ้ำๆอ่ะอาจจะซักวัน 2
00:05:30 → 00:05:33 วันแล้วก็ยังไม่ดีขึ้นอย่างเงี้ยครับคงจะ
00:05:33 → 00:05:35 ต้องมาพิจารณาแล้วว่าเอ๊ะมันมีปัญหามยนะ
00:05:36 → 00:05:38 ครับหรือถ้าดูแล้วมันไม่อิ่มมากขึ้น
00:05:38 → 00:05:40 เรื่อยๆรู้สึกว่ามันเหมือนแย่ลงอันนี้ก็
00:05:40 → 00:05:43 คงไม่ต้องรอและก็คงต้องมาดูแล้วว่าอ่า
00:05:43 → 00:05:47 ตกลงปัญหาเนี่ยมันเกิดจากอะไรครับค่ะครับ
00:05:47 → 00:05:49 ครับอย่างงี้เองมันจะมันจะมีอาการบ่งบอก
00:05:49 → 00:05:52 อื่นๆเสริมเติเสริมเติมเข้ามามครับอย่าง
00:05:52 → 00:05:55 เช่นออนเพียหรือว่าดูเรี้ยวแรงน้อยอะไร
00:05:55 → 00:06:00 คุณหมออ๋อใช่ครับก็อ่าอาการอ่าอ่อนเพลีย
00:06:01 → 00:06:03 ก็คือมันจะคล้ายๆกับเหนื่อยที่ผมเล่าให้
00:06:03 → 00:06:06 ฟังเมื่อกี้ครับคือคือผมคิดว่าอย่างนึง
00:06:06 → 00:06:10 ที่ที่เวลาผมผมมักจะคุยกับคนไข้อ่ะครับ
00:06:10 → 00:06:13 คือถ้าเขารู้สึกว่ามันป่วยคือมันก็จะรู้
00:06:13 → 00:06:17 สึกได้จริงๆว่าเค้ากำลังป่วยและนะครับว่า
00:06:18 → 00:06:20 คือคือถ้ามันมันเป็นแบบชัดเจนแล้วอันนี้
00:06:20 → 00:06:22 คงไม่ต้องพูดกันใช่มั้ยครับว่าเขาคก็จะ
00:06:22 → 00:06:24 รู้สึกแล้วว่าเออมันมันมันไม่โอเคอ่ะมัน
00:06:24 → 00:06:27 ไม่ปกตินะครับแต่บางทีมันจะมีที่ที่เรา
00:06:27 → 00:06:31 ก้ำๆกึ่งๆหายใจไม่อิ่มเวันนี้รู้สึกหายใจ
00:06:31 → 00:06:35 ไม่อิ่มเลยบางทีแต่ถ้าเรายังทำงานออกแรง
00:06:35 → 00:06:38 ได้ตามปกติอ่ะอันเนี้ยก็อาจจะรอดูนิดนึง
00:06:38 → 00:06:42 ก็ได้ครับว่าว่าว่าเอ๊ะตกลงมันจะดีขึ้น
00:06:42 → 00:06:45 หรือไม่ดีขึ้นแต่ถ้าอ่ารู้สึกว่าผ่านไป
00:06:45 → 00:06:48 วันนึงแล้ว 2 วันแล้วเออมันยังไม่หายอัน
00:06:48 → 00:06:50 นี้ต้องมาเช็คะว่ามันมีปัญหาอะไรเพิ่ม
00:06:50 → 00:06:53 เติมมั้ยค่ะนะครับแต่อันนี้อย่างที่เน้น
00:06:53 → 00:06:55 ย้ำไปอยากจะให้แยกนิดนึงครับอาการแน่น
00:06:55 → 00:06:58 หน้าอกเพราะว่าอ่าบางทีอาการแน่นหน้าอก
00:06:58 → 00:07:00 เนี่ยมันมันมันเฉียบพลันนะครับครับอค่ะ
00:07:00 → 00:07:03 ถ้าเราพูดถึงโรคหัวใจใช่มั้ยครับมันพวก
00:07:03 → 00:07:04 นี้มันเฉียบพลันปุ๊บปั๊บเนี่ยถ้ามันมี
00:07:04 → 00:07:08 ร่วมด้วยเนี่ยมันมักจะมักจะมีปัญหาครับออ
00:07:08 → 00:07:12 อืมันเฉียบพันคือมันมันจะเกิดขึ้นแบบเอ่อ
00:07:12 → 00:07:15 ไม่ไม่ได้มีสัญญาณมาก่อนหน้าเลยเหรอคะ
00:07:15 → 00:07:17 ลักษณะของหลอดเลือดหัวใจอุดตันอะไรทำนอง
00:07:17 → 00:07:21 เนี้ยค่ะคุณหมอเออใช่ครับใช่ครับคือหลายๆ
00:07:21 → 00:07:24 รายโชคดีที่มีอาการมาก่อนครับแต่หลายราย
00:07:24 → 00:07:26 เนี่ยไม่ไม่ได้โชคดีแบบนั้นคือปุ๊บปั๊บ
00:07:26 → 00:07:30 เนี่ยเหมือนอย่างที่เราอาจจะเคยได้ยินขาว
00:07:30 → 00:07:33 ใช่มั้ยครับกำลังวิ่งๆออกกำลังกายอยู่ดีๆ
00:07:33 → 00:07:35 ก็ล้มลงไปเลยอครับตัวใจหยุดเต้นไปเลย
00:07:35 → 00:07:38 อย่างเงี้ยก็มีครับหรือหลายๆรายบางทีก็
00:07:38 → 00:07:42 เอ่อทำกิจกรรมทั่วๆไปนะครับแล้วก็ปุ๊บ
00:07:42 → 00:07:44 ปั๊บเกิดอาการแน่นหน้าอกแล้วมาโรงบาลไม่
00:07:44 → 00:07:48 ทันก็หัวใจหยุดเต้นหัวใจเต้นจังหวะเสีย
00:07:48 → 00:07:49 ชีวิตเลยก็มีเหมือนกันเพราะฉะนั้น
00:07:50 → 00:07:52 อันเนี้ยอยากอยากจะเน้นเน้นเรื่องของแน่น
00:07:52 → 00:07:54 หน้าอกร่วมด้วยว่าเอ้ยถ้าเรามีอาการแน่น
00:07:55 → 00:07:56 หน้าอกเนี่ยนะครับอันนี้อาจจะต้องระวัง
00:07:57 → 00:07:59 โรคหัวใจเยอะๆโดยเฉพาะถ้ามันแน่นแล้วมัน
00:07:59 → 00:08:02 ไม่หายสักทีเนี่ยอันเนี้ยอันมีปัญหาแหละ
00:08:02 → 00:08:06 ครับออค่ะมีคุณสมจิตรค่ะสอบถามเข้ามาค่ะ
00:08:06 → 00:08:10 คุณหมอคะบอกว่าเคยหายใจแล้วก็เหนื่อยแล้ว
00:08:10 → 00:08:13 ก็มีอาการปวดหัวแบบแป๊บๆที่หัวมีอาการปวด
00:08:13 → 00:08:16 แบบแป๊บๆที่หัวเป็นอยู่ประมาณ 1 เดือน
00:08:16 → 00:08:18 สาเหตุน่าจะเป็นมาจากอะไรได้บ้างตอนนี้
00:08:18 → 00:08:23 เอ่ออายุ 76 ปีแล้วค่ะอืเมื่อกี้บอกว่ามี
00:08:23 → 00:08:28 หายใจเหนื่อยใช่่มั้ยใช่ค่ะอ่าคือหายใจ
00:08:28 → 00:08:31 มันอาจจะต้องคิดแยกกันนิดนึงนะครับว่าไอ้
00:08:31 → 00:08:34 หายใจเหนื่อยกับปวดหัวแป๊บๆเนี่ยมันมัน
00:08:34 → 00:08:37 มันสัมพันธ์กันหรือมันไม่สัมพันธ์กันค่ะ
00:08:37 → 00:08:39 คือถ้ามันเกิดไล่เรียงกันมาเนี่ยมันก็มี
00:08:39 → 00:08:43 แนวโน้มที่จะสัมพันธ์กันนะครับคือแปลว่า
00:08:43 → 00:08:46 อาการปวดหัวเนี่ยอาการเหนื่อยอาจจะนำมา
00:08:46 → 00:08:47 ก่อนซึ่งเหนื่อยจากอะไรเนี่ยมันต้องมาถาม
00:08:47 → 00:08:50 ได้รายละเอียดอีกทีนึงว่าอ่าอาการเหนื่อย
00:08:50 → 00:08:52 เนี่ยลักษณะเป็นยังไงอาจจะต้องตรวจหา
00:08:52 → 00:08:55 อย่างอื่นเพิ่มอีกทีแต่ว่ายิ่งพอเรา
00:08:55 → 00:08:57 เหนื่อยนานๆเนี่ยครับการที่เราทำกิจกรรม
00:08:57 → 00:09:00 ได้อยน้อยลงคือคือพอเราเหนื่อยเหนื่อย
00:09:00 → 00:09:02 เนี่ยเราก็จะไม่ค่อยอยากทำกิจกรรมละนะ
00:09:02 → 00:09:06 ครับการทำให้การให้อ่าชีวิตประจำของวัน
00:09:06 → 00:09:08 ชีวิตประจำวันของเราเนี่ยมันเปลี่ยนไปอาจ
00:09:08 → 00:09:11 จะมีเรื่องของความเครียดความกังวลนะครับ
00:09:11 → 00:09:14 รวมถึงการหลับพักผ่อนเนี่ยถ้ามีความวิตก
00:09:14 → 00:09:16 กังวลก็อาจจะหลับพักผ่อนได้ไม่งพอซึ่งพวก
00:09:16 → 00:09:19 เนี้ยมันจะนำไปสู่อาการปวดหัวอือหรือว่า
00:09:19 → 00:09:21 ปวดหัวจิ๊ดๆหรือปวดหัวลักษณะได้หลายแบบ
00:09:21 → 00:09:24 เลยครับซึ่งซึอันนี้เรียกว่าเป็นผลตาม
00:09:24 → 00:09:27 มาเนาะแต่ถ้าเราคิดว่ามันเป็นอีกอันนึง
00:09:27 → 00:09:29 อันนี้ก็ต้องมาแยกกันแล้วว่าถ้าปวดหัว
00:09:29 → 00:09:31 เป็นอีกเรื่องนึงมันคงต้องมาถามในราย
00:09:31 → 00:09:34 ละเอียดอีกทีครับว่าปวดหัวเนี่ยมีสัญญาณ
00:09:34 → 00:09:38 ที่อ่าต้องสงสัยที่มันอันตรายมยนะครับค
00:09:39 → 00:09:41 เ่อเช่นนะครับมีอาการ
00:09:41 → 00:09:45 อ่าการทำงานของวะผิดปกติเช่นมีการแขนขา
00:09:45 → 00:09:50 อ่อนแรงทาอย่างเงี้ยครับหรืออ่าบางคนปวด
00:09:50 → 00:09:53 มากปวดแบบไม่เคยปวดมาก่อนอันเนี้ยก็ต้อง
00:09:53 → 00:09:57 ต้องระวังแล้วว่ามีปัญหานะครับหรือบางคน
00:09:57 → 00:10:00 ตื่นมาปวดกลางดึกนะครับหมายว่าเราหลับไป
00:10:00 → 00:10:01 แล้วแล้วลุกขึ้นมาปวดกลางคืนอย่างเงี้ย
00:10:01 → 00:10:04 เรียกว่าเป็นการปวดหัวที่มีปัญหาและจะ
00:10:04 → 00:10:07 ต้องหาสาเหตุนะครับแต่ถ้ามันปวดจี๊ดๆทั่ว
00:10:07 → 00:10:13 ๆไปไม่ได้รุนแรงนะครับก็ก็อาจจะยังยังยัง
00:10:13 → 00:10:16 ไม่ต้องกังวลมากอาจจะคิดว่าเป็นผลของของ
00:10:16 → 00:10:18 อาการเหนื่อยอาจจะต้องไปหาสาเหตุเรื่อง
00:10:18 → 00:10:22 ของเหนื่อยก่อนครับค่ะถ้าเป็นแบบนี้นี่ก็
00:10:22 → 00:10:26 เอ่อเฝ้าสังเกตอาการนะคะลักษณะการหายใจ
00:10:26 → 00:10:29 ของคนเรานี่มันมันมีผลกับการหายใจไม่อิ่ม
00:10:29 → 00:10:33 มั้ยคะบางคนแบบหายใจสั้นๆถี่ๆเอ่อแบบ
00:10:33 → 00:10:37 เหมือนหายใจไม่ได้ลึกไปถึงแบบเหมือนเวลา
00:10:37 → 00:10:39 เคสอนให้เรานั่งสมาธิอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:10:39 → 00:10:44 คุณหมออ๋อคือคือจริงๆการหายใจของคนเนี่ย
00:10:44 → 00:10:47 มันคือคือการหายใจเนี่ยครับมันถูกควบคุม
00:10:47 → 00:10:50 โดยสมองอ่ะครับคือเพราะะนั้นโดยโดย
00:10:50 → 00:10:54 ธรรมชาติแล้วอ่ะคนเราอ่ะมันจะหายใจที่ที่
00:10:54 → 00:10:58 ที่รูปแบบปกติของของสมองที่มันสั่งการมา
00:10:58 → 00:11:00 อยู่แล้วแต่ว่า
00:11:00 → 00:11:04 ว่าการหายใจนิดนึงคือเราอ่ะสามาควบคุมการ
00:11:04 → 00:11:08 หายใจซ้ำลงไปจากสมองได้อีกทีนึงค่ะคือคือ
00:11:08 → 00:11:11 การหายใจมันมีระบบอัตโนมัติกับระบบที่เรา
00:11:11 → 00:11:14 ควบคุมได้นะครับเพราะฉะนั้น
00:11:14 → 00:11:18 เ่อเราอาจจะคอนโทรลไอ้ตอนตอนที่เราควบคุม
00:11:18 → 00:11:20 เองอครับเราจะหายใจสั้นหายใจลึกหรือหายใจ
00:11:20 → 00:11:24 ยังไงก็ได้แต่ว่าโดยพื้นฐานแล้วเนี่ยถ้า
00:11:24 → 00:11:27 เ่อกลไกของร่างกายเนี่ยมันปกตินะครับมัน
00:11:27 → 00:11:29 ก็จะหายใจตาม
00:11:30 → 00:11:32 ปริมาตรที่ที่ที่สมองมันสั่งการมาเป็น
00:11:32 → 00:11:35 ธรรมดาอยู่แล้วนะครับเพราะฉะนั้นการที่คน
00:11:35 → 00:11:39 ไข้ถ้านะครับถ้าเขาไม่ได้เกิดจากสิ่งที่
00:11:39 → 00:11:42 เขาสั่งการเองหมายถึงว่าสมองเขาไม่ได้อ่า
00:11:43 → 00:11:45 หมายถึงตัวเขาเองอ่ะไม่ได้เป็นคนคอนโทรล
00:11:45 → 00:11:49 ให้หายใจสั้นนะครับเป็นจากสมองที่สั่งการ
00:11:49 → 00:11:51 มาโดยอัตโนมัติเนี่ยเราก็อาจจะต้องมาดู
00:11:51 → 00:11:56 อีกทีว่าเอ่อกลไกของการหายใจเนี่ยมันผิด
00:11:56 → 00:11:59 ปกติมั้ยคเพราะว่ามันก็จะมีคนไข้บางแบบ
00:11:59 → 00:12:01 แบบอครับที่เขาจะเป็นเรียกว่าเป็นกลุ่ม
00:12:01 → 00:12:06 อ่าหายใจตื้นนะครับค่ะหายใจตื้นอืใช่คือ
00:12:06 → 00:12:11 หายใจปริมาตรปริมาตรของของของอากาศที่
00:12:11 → 00:12:13 เข้าไปใน 1 ครั้งของการสใจเนี่ยมันน้อย
00:12:13 → 00:12:15 กว่าปกติเพราะว่าอะไรเพราะว่ากลุ่มคนพวก
00:12:15 → 00:12:19 เนี้ยปอดเ้าเนี่ยครับขยายไม่ออกซึ่งก็จะ
00:12:19 → 00:12:21 เกิดได้จากหลายโรคนะยกตัวอย่างเช่นปอด
00:12:21 → 00:12:24 เป็นผังผืดอย่างเงี้ยครับค่ะอืก็จะทำให้
00:12:24 → 00:12:27 ปริมาตรของปอดมันเล็กกว่าปกติเพราะฉะนั้น
00:12:27 → 00:12:30 เขาก็จะต้องหายใจตื้นพอหายใจตื้นปริมาตร
00:12:30 → 00:12:32 มันน้อยเค้าก็ต้องหายใจถี่เพื่อให้
00:12:32 → 00:12:35 ปริมาตรโดยรวมเนี่ยมันคงที่ประมาณเนี้ย
00:12:35 → 00:12:39 ครับใชอือถ้าเป็นลักษณะคนที่มีอาการหายใจ
00:12:39 → 00:12:41 ตื้นเนี่ยเาจะเสี่ยงเป็นโรคอะไรที่เพิ่ม
00:12:41 → 00:12:44 เติมจากเอ่อผลกระทบกับปอดไปแล้วบ้างมั้ย
00:12:44 → 00:12:49 คะคุณหมอคะคือลักษณะการหายใจตื้นนะครับ
00:12:49 → 00:12:52 เอ่ออย่างที่ผมบอกเนาะมันเกิดจากปอดเนี่ย
00:12:52 → 00:12:56 มันหายใจอ่ามันมันขยายตัวไม่ออกไอ้การที่
00:12:56 → 00:12:58 มันขยายตัวไม่ออกเนี่ยมันเกิดได้จากหลาย
00:12:58 → 00:13:01 สาเหตุครับไล่ตั้งแต่ตัวเนื้อปอดเลยที่
00:13:01 → 00:13:04 มันแข็งผิดปกติไอ้คำว่าแข็งเนี่ยคืออะไร
00:13:04 → 00:13:07 คือมันเกิดผังผืดขึ้นขั้นใหม่ซึ่งไอ้้การ
00:13:07 → 00:13:09 เกิดผังผืดเนี่ยมันก็เกิดได้จากหลาย
00:13:09 → 00:13:12 สาเหตุเลยครับไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อ
00:13:12 → 00:13:14 หรือว่าเกิดการอักเสบเนื้อรังหรือบางที
00:13:15 → 00:13:18 เราไม่ทราบสาเหตุก็มีเหมือนกันค่ะหรือถ้า
00:13:18 → 00:13:20 ขยับออกมาจากเนื้อปอดนิดนึงมันก็จะมีช่อง
00:13:20 → 00:13:23 เยื่อหุ้มปอดนะครับบางทีถ้ามันมีน้ำใน
00:13:23 → 00:13:26 เย่อหุ้มปอดอย่างเงี้ยครับเยอะๆก็อาจจะทำ
00:13:26 → 00:13:29 ให้คนไข้เนี่ยหายใจตื้นกว่าปกตินะครับ
00:13:29 → 00:13:31 ครับหรือแม้แต่ไล่ออกมาข้างนอกเลยที่
00:13:31 → 00:13:32 บริเวณ
00:13:32 → 00:13:36 อ่าอ่าหน้าอกอ่ะครับบริเวณผิวหนังหรือ
00:13:36 → 00:13:38 อะไรอย่าเงี้ยถ้าเขามีอาการเจ็บปวดนะครับ
00:13:38 → 00:13:42 เช่นเอ่อมีอ่าการอักเสบของกระดูกนะหรือ
00:13:42 → 00:13:44 คอดต่อนะครับหรือบางคนกระดูกหักเงี้ยเขา
00:13:44 → 00:13:47 ก็จะหายใจตื้นเพราะเหายใจลึกแล้วเจะเจบ
00:13:47 → 00:13:49 อย่างเงี้ยเป็นต้นครับเพราะฉะนั้นมันมัน
00:13:49 → 00:13:52 มันต้องมาดูในรายละเอียดเพิ่มอีกทีนึงว่า
00:13:52 → 00:13:57 ว่าเป็นยังไงอ่ะครับอืมมันแสดงว่าการหาย
00:13:57 → 00:14:00 ใจที่ดูบอกว่าว่าเหมือนไม่อิ่มอะไรเนี่ย
00:14:00 → 00:14:02 มันมันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเหมือนกัน
00:14:02 → 00:14:05 ทั้งทั้งเรื่องอาการบาดเจ็บจากเอ่อภายใน
00:14:05 → 00:14:08 รวมถึงความรู้สึกของตัวเองด้วยหรือว่า
00:14:09 → 00:14:11 ความเครียดก็น่าจะมีผลนะคุณหมอเกี่ยวมั้ย
00:14:11 → 00:14:14 มีผลมีผลแน่นอนครับคือส่วนใหญ่อ่ะเวลาพอ
00:14:14 → 00:14:17 เราเครียดเเราก็จะรู้สึกอืมันไม่สบายตัว
00:14:17 → 00:14:21 ใช่มั้ยฮะหายใจไม่เต็มอิ่มอะไรอย่างเงี้ย
00:14:21 → 00:14:23 ครับเพราะฉะนั้นก็เลยมันก็เลยเป็นความยาก
00:14:24 → 00:14:26 นิดนึงไครับเวลาเราจะอธิบายไอ้เรื่อง
00:14:26 → 00:14:29 เรื่องหายใจไม่อิ่มอ่ะเพราะว่ามันมีส่วน
00:14:29 → 00:14:32 ใหญ่ๆส่วนนึงเลยครับที่เกิดจากเอ่อภาวะ
00:14:32 → 00:14:35 จิตใจนี่แหละที่ที่ทำให้เรารู้สึกแในี้
00:14:35 → 00:14:37 เพราะฉะนั้นเราก็ต้องเลยต้องอาศัยดูอย่าง
00:14:37 → 00:14:40 อื่นร่วมด้วยอ่ะครับที่บอกไปว่าอ่ามันมี
00:14:40 → 00:14:43 หายใจเสียงวดด้วย้วยมยมันเหนื่อยขึ้นมั้ย
00:14:43 → 00:14:46 มันเหนื่อยแบบทำกิจกรรมเนี่ยมันทำได้น้อย
00:14:46 → 00:14:49 ลงมันรบกวนดรู้สึกมันรบชีวิตประจำวันเรา
00:14:49 → 00:14:51 มันไม่เหมือนเดิมอันเนี้ยถ้ามันรบกวนแบบ
00:14:51 → 00:14:54 เยมันน่าจะมีปัญหาละอือค่ะอืแต่มันเป็น
00:14:54 → 00:14:57 ศารตั้งต้นนะศารตั้งต้นทำให้เราสังเกตตัว
00:14:57 → 00:15:01 เองเฮ้ยเราเป็นเอ้ยหายใจไม่เต็มอิ่มหรือ
00:15:01 → 00:15:04 ว่าเอ่ออะไรอย่างเงี้ยบ่อยแค่ไหนถ้าบ่อย
00:15:04 → 00:15:08 อาจจะอาจจะเอ้ยสงสัยตัวเองแล้วมันมันเป็น
00:15:08 → 00:15:11 เพราะเพราะว่าเราเราคิดมากหรือเปล่าเรา
00:15:11 → 00:15:13 พักผ่อนน้อยหรือเปล่าหรือจริงๆแล้วมันมี
00:15:13 → 00:15:16 โรคอื่นแฝงเข้ามาหรือเปล่าใช่ครับใชเพราะ
00:15:16 → 00:15:18 ั้นเพราะฉะนั้นมันมีความยากตรงเนี้ยครับ
00:15:18 → 00:15:20 เพราะฉะนั้นถ้ามันเป็นซ้ำๆบ่อยๆอันเนี้ย
00:15:20 → 00:15:23 ถึงแม้มันจะไม่รุนแรงนะแต่ถ้ามันเป็นซ้ำๆ
00:15:23 → 00:15:25 บ่อยๆเนี่ยครับอันนี้ก็น่าจะต้องมาดูแล้ว
00:15:25 → 00:15:28 ว่าเอ๊มันมีปัญหาอะไรหรือเปล่าที่ที่จะ
00:15:28 → 00:15:30 ต้องหาสาเหตุเพิ่มเติมเพราะว่าถ้ามันเป็น
00:15:30 → 00:15:33 แค่ความเครียดอ่ะครับหรือว่าเป็นแค่จิตใจ
00:15:33 → 00:15:36 มันก็ควรจะมาแค่ช่วงสั้นๆนิดหน่อยแล้วก็
00:15:36 → 00:15:39 ควรจะหายไปอะไรอย่างเงี้ยครับค่ะเมื่อสัก
00:15:39 → 00:15:43 ครู่คุณหมอพูดถึงอาการวทไปแล้วก็พอดีสอด
00:15:43 → 00:15:47 คล้องกับที่คุณนรุทัยสงสัยมาค่ะว่าเอ่อ
00:15:47 → 00:15:51 กรณีที่หายใจเหนื่อยแล้วก็มีเสียงเ่อหาย
00:15:51 → 00:15:55 ใจเนี่ยแบบดังวดแล้วก็มีอาการไอมีเสมหะ
00:15:55 → 00:15:57 เนี่ยเขาจะเป็นมีความเสี่ยงเป็นโรคอะไร
00:15:57 → 00:16:01 ได้บ้างอย่างเงี้ยค่ะคุณหมอใช่ครับคือคือ
00:16:01 → 00:16:03 อย่างงี้ครับคืออย่างที่เราเกริ่นกันไว้
00:16:03 → 00:16:06 ตอนแรกอ่ะว่าเวลาเราพูดคำว่าหายใจไม่อิ่ม
00:16:06 → 00:16:08 อ่ะครับผมอยากจะให้เรานึกถึงเรื่องของการ
00:16:08 → 00:16:12 ไหลของลมค่ะที่วิ่งจากจมูกเข้าไปจนถึง
00:16:12 → 00:16:16 เอ่อในเนื้อปอดนะครับค่ะอือเยแปลว่าอ่า
00:16:16 → 00:16:20 การการที่มันไหลแล้วไหลได้ไม่ดีไหลแล้วโฟ
00:16:20 → 00:16:23 ของลมมันไม่ดีนะครับทำให้เรารู้สึกหายใจ
00:16:23 → 00:16:27 ไม่อิ่มนะครับทีเนี้ยถ้ามันตีบมากนะครับ
00:16:27 → 00:16:30 มันก็จะทำให้เกิดเสียงวีขึ้นนะครับซึ่ง
00:16:30 → 00:16:32 อันเนี้ยกำลังบอกแล้วว่าทางเดินหายใจของ
00:16:32 → 00:16:36 เราเนี่ยมันมันมันมันตีบถามว่ามันตีบ
00:16:36 → 00:16:37 เนี่ยมันเกิดจากอะไรครับมันเกิดได้จาก
00:16:37 → 00:16:40 หลายอย่างเลยครับเอาที่เราพูดถึงบ่อยๆที่
00:16:40 → 00:16:42 เราเจอกันบ่อยๆเนี่ยก็ตั้งแต่อันที่ 1 ก็
00:16:42 → 00:16:46 คือเรื่องของหลอดลมอักเสบเฉียบพลันซึ่ง
00:16:46 → 00:16:48 หลอลงเเสบเขียบพลันเนี่ยส่วนมากก็มักจะ
00:16:48 → 00:16:51 เกิดจากการติดเชื้อนะครับแล้วก็เลยทำให้
00:16:51 → 00:16:54 เกิดการอเสบหลอดลมหลอดลมก็เลยตีก็เลยทำ
00:16:54 → 00:16:57 ให้เรารู้สึกเหนื่อยอายมีเสมหะมากขึึ้น
00:16:57 → 00:16:59 คือคือหลอดลมเวลาอักเสบเนี่ยมันก็จะสร้าง
00:16:59 → 00:17:02 เสมหะออกมามากขึ้นนะครับแล้วก็พอเสมหะมัน
00:17:02 → 00:17:04 กรองอยู่ข้างในหลอดลมรวมถึงหลอดลมมันก็
00:17:04 → 00:17:07 เล็กตีกว่าปกติด้วยก็ทำให้เราเนี่ยหายใจ
00:17:07 → 00:17:10 แล้วมันก็จะมีเสียงวีดๆหรือเสียงคืดคาด
00:17:10 → 00:17:13 ข้างในปอดจากเสหะเนี่ยครับอันนี้ก็เป็น
00:17:13 → 00:17:16 อันนึงที่ที่โปัจจุบันเจอบ่อยค่ะแต่ว่า
00:17:16 → 00:17:21 อันเนี้ยมันมักจะเป็นเรียกว่าเป็นเร็ว
00:17:21 → 00:17:23 หมายความว่าระยะเวลาตั้งแต่เริ่มต้นจน
00:17:23 → 00:17:26 กระทั่งถึงมีอาการเนี่ยมันสั้นๆ 2-3 4
00:17:26 → 00:17:29 วันประมาณเนี้ยครับแล้วก็สักไม่กี่
00:17:29 → 00:17:32 สัปดาห์สักไม่กี่วันก็จะหายค่ะครับเพราะ
00:17:32 → 00:17:34 ว่าการติดเชื้อเนี่ยมันพวกนี้ส่วนใหญ่มัน
00:17:34 → 00:17:36 ก็หายเร็วแต่ว่ามันจะมีอีกแบบนึงครับที่
00:17:36 → 00:17:40 เป็นหลอนลมสีบแบบเนื้อรังค่ะนะครับแล้วก็
00:17:41 → 00:17:44 เอ่อซ่อนอยู่ในคนไข้ของเราเนี่ยเยอะเลย
00:17:44 → 00:17:47 ครับคือเรียกว่าโลกหืดนะครับภาษาอังกฤษ
00:17:47 → 00:17:49 เรียกว่าแอสมาคือถ้าเราลองสังเกตตัวเอง
00:17:49 → 00:17:52 นิดนึงนะครับถ้ามันเป็นอย่างอาการที่ผม
00:17:52 → 00:17:55 เล่ามาเนี่ยเป็นซ้ำๆซ้ำๆซ้ๆบ่อยๆเนี่ย
00:17:55 → 00:17:58 ครับเป็นๆหายๆอย่างเงี้ยเยจะต้องสงสัย
00:17:58 → 00:18:00 แล้วว่าว่าเอ๊ะเป็นโรคเรียกว่าโรคหืด
00:18:00 → 00:18:03 หรรือเปล่านะครับซึ่งอันนี้ต้องมาตรวจอ่า
00:18:03 → 00:18:06 สาเหตุเพิ่มเติมอีกทีนึงอืจะมีโรคสำคัญ
00:18:06 → 00:18:09 อีกโรคนึงครับที่เราก็เจอบ่อยเหมือนกันนะ
00:18:09 → 00:18:12 ครับแล้วก็แต่ว่าส่วนใหญ่มักจะเจอในผู้
00:18:12 → 00:18:14 ป่วยที่อายุมากหน่อยคือเกิน 40 ปีขึ้นไป
00:18:14 → 00:18:18 โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีประวัติสูบบุหรี่
00:18:18 → 00:18:21 เยอะอครับเรียกว่าโรคหลอดลมอุดกั้นเหลื
00:18:21 → 00:18:23 หลังเหลือหลังหรือว่าบางทีเราจะเรียกกัน
00:18:23 → 00:18:26 ว่าโรคถุงลมโป่งพองอันนี้ก็เป็นโรคหนึง
00:18:26 → 00:18:29 ที่เกิดจากเ่อหลอดโรมันติกกว่าปกติเหมือน
00:18:29 → 00:18:32 กันครับซึ่งเป็นผลจากการสูบบุหรี่ครับอื
00:18:32 → 00:18:36 ค่ะก็อันนี้มีคุณผู้ฟังจากทางบ้านสอบถาม
00:18:37 → 00:18:39 เข้ามาในรายละเอียดค่ะคุณหมอคะคุณสุดสวาท
00:18:39 → 00:18:43 ถามว่าเอ๊ะเจะไปสามารถค้นเกณฑ์การหายใจ
00:18:43 → 00:18:46 ปกติของคนมาเทียบได้มเพื่อที่จะสังเกตตัว
00:18:46 → 00:18:50 เองมันมีเกณฑ์แบบนี้มยคะคุณหมอหมายถึงหาย
00:18:50 → 00:18:53 ใจแบบเอ่อลักษณะที่ถูกต้องมันเท่าไหร่
00:18:53 → 00:18:54 อะไรเงี้ยค่ะ
00:18:54 → 00:18:58 เอ่อผมคิดว่าเวลาเราหายใจอ่ะครับมันมันมี
00:18:58 → 00:19:02 อยู่ 2 ส่วนที่ต้องพูดถึงเนาะก็คือ 1 เ่า
00:19:02 → 00:19:05 เราเรียกว่าปริมาตรการหายใจก็คือมันจะมี
00:19:05 → 00:19:07 ตัหมอเหมือนกันที่เรียกว่าไ Volume อะไร
00:19:08 → 00:19:11 เงี้ยครับคือปริมาตรของการหายใจใน 1
00:19:11 → 00:19:13 ครั้งแบบหายใจปกติเหมือนเหมือนตอนเรานั่ง
00:19:13 → 00:19:17 พักแบบเนี้ยค่ะแล้วก็อีกอันนึงคืออัตรา
00:19:17 → 00:19:22 การหายใจไอ้ปัญหาอ่าเวลาเราไม่ได้อยู่ใน
00:19:22 → 00:19:24 โรงพยาบาลเนี่ยครับไม่ได้มีอุปกรณ์อะไร
00:19:24 → 00:19:26 พิเศษเนี่ยไอ้การวัดปริมาสเนี่ยมันคงทำ
00:19:26 → 00:19:30 ไม่ได้ครับอืที่เราทำได้ก็คือคงเป็นวัด
00:19:30 → 00:19:34 อัตราการหายใจซึ่งอัตราการหายใจของคนปกติ
00:19:34 → 00:19:37 เนี่ยครับก็จะอยู่ประมาณเย 12-18 ครั้ง
00:19:37 → 00:19:40 ประมาณเนี้ยครับต่อนาทีใช่มั้ยคะอ่ะต่อ
00:19:40 → 00:19:44 นาทีครับขณะนั่งพักนะครับเพราะฉะนั้นผม
00:19:44 → 00:19:47 คิดว่าถ้าอยู่ใน Range ประมาณเนี้ยช่วง
00:19:47 → 00:19:50 เนี้ย 12-18 ไม่เกิน 20 ครั้งเนี่ยก็ถือ
00:19:50 → 00:19:53 ว่าโอเคอยู่ครับค่ะ
00:19:53 → 00:19:59 ครับก็อืถือว่าเป็นเอ่อข้อมูลมูลนะคะที่
00:19:59 → 00:20:02 จะให้คุณผู้ฟังลองไปสังเกตตัวเองดูว่า
00:20:02 → 00:20:06 เอ๊ะถ้าลองสังเกตว่า 10 ไม่เกิน 20 ครั้ง
00:20:06 → 00:20:10 ต่อนาทีเนี่ยใช่อัตราที่ปกติแต่ถ้าเกินไป
00:20:10 → 00:20:13 จากนั้นก็เฝ้าสังเกตอาการอื่นๆที่อยู่ใน
00:20:13 → 00:20:16 อาการแวดล้อมด้วยแล้วก็ลองสังเกตดูว่านอก
00:20:16 → 00:20:19 จากนั้นน่ะมีอาการอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า
00:20:19 → 00:20:23 แล้วก็ในส่วนเนี้ยค่ะคุณหมอเอ่อถ้ามี
00:20:23 → 00:20:27 อาการหายใจแล้วใจสั่นอย่างเงี้ยค่ะมัน
00:20:27 → 00:20:31 เกี่ยวข้องกับการหายใจแบบใจไม่อิ่มมั้ยคะ
00:20:31 → 00:20:35 เอ่อหายใจแล้วใจสั่นเนี่ยอาจจะต้องดูนิด
00:20:35 → 00:20:39 นึงนะครับค่ะว่าอะไรเป็นเหตุอะไรเป็นผลนะ
00:20:39 → 00:20:42 ครับเหมือนกันคือเวลาที่เราป่วยอย่าง
00:20:42 → 00:20:45 เงี้ยครับแล้วเรารู้สึกว่าหายใจไม่อิ่ม
00:20:45 → 00:20:48 เหนื่อยจังเลยอย่างเงี้ยครับเอ่อบางครั้ง
00:20:48 → 00:20:51 เนี่ยมันก็เป็นเหตุแล้วมีผลทำให้หัวใจ
00:20:51 → 00:20:53 เวลาเหมือนเหมือนเราเวลาเราไปวิ่งอ่ะครับ
00:20:53 → 00:20:55 ค่ะๆมันมันมันเหนื่อยใช่มั้ยครับมันก็จะ
00:20:55 → 00:20:58 ต้องหัวใจมันก็เราเต้นเร็วขึ้นเวเรามี
00:20:58 → 00:21:00 ความเครียดอะไรเงี้ยหัวใจเราเล่นเต้นเร็ว
00:21:00 → 00:21:03 ขึ้นอันนี้มันเป็นผลค่ะของของการหายใจไม่
00:21:03 → 00:21:06 อิ่มอ่าของการเนี่ยว่าว่าหายใจเหนื่อยหาย
00:21:07 → 00:21:10 ใจไม่อิ่มนะครับแต่อีกแบบนึงมันก็มี
00:21:10 → 00:21:12 เหมือนกันนะครับคือถ้าใจสั่นแล้วมันอย่าง
00:21:12 → 00:21:15 ที่ผมบอกนะว่าไอหายใจไม่อิ่มอ่ะมันเป็น
00:21:15 → 00:21:18 ความรู้สึกนะครับบางทีพอต้นเหตุมันมาจาก
00:21:18 → 00:21:21 ใจสั่นน่ะมันก็ทำให้เรารู้สึกว่าหายใจไม่
00:21:21 → 00:21:23 โล่งไม่สบายตัวอย่างเงี้ยมันก็มีเหมือน
00:21:23 → 00:21:27 กันอันนี้มันก็เลยตอบยากนิดนึงครับมันมัน
00:21:27 → 00:21:29 มันต้องมาดูว่าอะไรเด่นกว่ากันนะครับค่ะ
00:21:29 → 00:21:31 ซึ่งอันเนี้ยบางทีความรู้สึกมันจะตอบไม่
00:21:31 → 00:21:34 ได้ซะทีเดียวครับมันจะจะต้องใช้อุปกรณ์
00:21:34 → 00:21:36 อย่างอื่นร่วมด้วยเพียงแต่ว่าถ้าเราจะ
00:21:36 → 00:21:40 สังเกตที่บ้านนิดนึงว่าไอ้อาการใจสั่นของ
00:21:40 → 00:21:44 เราเนี่ยมันมันมันลักษณะเป็นยังไงอาจจะ
00:21:44 → 00:21:47 ลองจับที่ที่ข้อมือตัวเองดูก็ได้ครับหรือ
00:21:47 → 00:21:49 ลองจับที่หัวใจตัวเองดูก็ได้ครับแล้วลอง
00:21:49 → 00:21:52 ลองรู้สึกถึงอ่าบีดการหายใจอ่ะเอ้บิดกัน
00:21:53 → 00:21:55 เต้นของหัวใจอ่ะครับว่ามันลักษณะเต้นเป็น
00:21:55 → 00:21:58 ยังไงอันเนี้ยไม่รู้จะยากไปมั้ยแต่ว่าอ
00:21:58 → 00:22:01 โดยธรรมชาติเนี่ยหัวใจของเราเนี่ยปกติมัน
00:22:01 → 00:22:03 จะเต้นอยู่ประมาณ 60 ถึงไม่เกิน 100
00:22:03 → 00:22:05 ครั้งอ่ะครับแล้วมันจะเต้นเป็นจังหวะสม่ำ
00:22:05 → 00:22:09 เสมอนะครับถ้าเรารู้สึกว่าใจสั่นเนี่ยแปล
00:22:09 → 00:22:12 ว่าความหมายเมันอาจจะมีเต้นช้ากว่าปกติ
00:22:12 → 00:22:14 หรือเต้นเร็วกว่าปกติก็ได้หรือเต้นไม่
00:22:14 → 00:22:17 สม่ำเสมอก็ได้เพราะฉะนั้นเราต้องจความรู้
00:22:17 → 00:22:20 สึกตรงเนี้ยเพื่อมาเล่าเล่าให้ฟังเล่าให้
00:22:20 → 00:22:23 คุณหมอเฟังอีกทีบางคนเนี่ยเต้นเป็นจังหวะ
00:22:23 → 00:22:26 ไม่สำเสมอครับเช่นเต้นตึ๊กๆๆๆๆๆตึ๊กๆๆๆๆๆ
00:22:26 → 00:22:30 อย่างเงี้ยอันเนี้ยก็ก็ไม่ปกติแะนะครับ
00:22:30 → 00:22:31 ซึ่งจะเป็นเหตุหรือเป็นผลอันนี้ต้องไปหา
00:22:31 → 00:22:34 ดูกันอีกทีแต่ว่าอย่างเงี้ยเอ่อใจหัวใจ
00:22:34 → 00:22:37 เต้นไม่ถูกจังหวะเงี้ยก็ต้องมาหาหมออยู่ะ
00:22:37 → 00:22:39 เพราะว่าหัวใจของคนปกติอย่างที่ผมบอก 60
00:22:40 → 00:22:41 ถึงไม่เกิน 100 ครั้งแล้วก็เป็นจังหวะ
00:22:41 → 00:22:43 สม่ำเมอ
00:22:43 → 00:22:47 ครับตึ๊กตึ๊กอย่างเงี้ยเป็นจังหวะคงที่
00:22:47 → 00:22:49 อ่ะครับค่ะอือ
00:22:49 → 00:22:53 อืเพราะฉะนั้นไอ้เรื่องพวกนี้จริงๆมันมัน
00:22:53 → 00:22:57 อาจจะเหมือนกับว่ามันต้องต้องสังเกตตัว
00:22:57 → 00:23:01 เองเอ่อเอ่อพอสมควรแล้วก็อย่าชะล่าใจใช่
00:23:01 → 00:23:04 มั้ยอย่าชะล่าใจในการที่แบบเอ้ยเดี๋ยวมัน
00:23:04 → 00:23:07 ก็น่าจะหายพักผ่อนเดี๋ยวก็ดีขึ้นแต่ถ้า
00:23:07 → 00:23:10 เป็นถี่ขึ้นมาเนี่ยอันเนี้ยชะลาดใจไม่ไหว
00:23:10 → 00:23:12 และมันต้องกลับไปดูแล้วว่าต้นเหตุของ
00:23:12 → 00:23:14 อาการของโรคนั้นๆมันมันคืออะไรบ้างโดย
00:23:14 → 00:23:17 เฉพาะถ้าเป็นเกี่ยวกับหัวใจเนี่ยเอ่อมัน
00:23:17 → 00:23:20 ก็ค่อนข้างที่จะน่าเป็นห่วงนะคุณหมอเนาะ
00:23:20 → 00:23:24 ใช่ๆน่าเป็นห่วงนอกจากหัวใจมันจะมีมี
00:23:24 → 00:23:26 อาการอื่นอีกมั้ยครับที่เราจะต้องเราจะ
00:23:26 → 00:23:29 ต้องเป็นห่วงจากอาการที่เราเราเราปรากฏ
00:23:29 → 00:23:32 ออกมาให้เราเห็นนะคุหมออ่าหมายถึงไอ้
00:23:32 → 00:23:36 เรื่องหายใจไม่อิ่มนี่ใช่ๆครับก็จริงๆ
00:23:36 → 00:23:39 จริงๆเอ่อไอเรื่องหายใจไม่อิ่มเนี่ยครับ
00:23:39 → 00:23:43 คือไอ้โรคที่เมื่อกี้พูดมาครับเรื่องหลอน
00:23:43 → 00:23:47 ลมอักเสบเฉียพลันหรือโรคห่ออืดหรือว่าโรค
00:23:47 → 00:23:49 หลอลมอุดกั้นเรื้อรังหรือตงลมโปร่งพอง
00:23:49 → 00:23:53 เนี่ยเป็นโรคสำคัญนะครับที่ที่เราจะต้อง
00:23:53 → 00:23:55 ดูด้วยเพราะว่า
00:23:55 → 00:23:58 เอ่อออย่างเช่นยกตัวอย่างโรคของหอหืด
00:23:58 → 00:24:03 เนี่ยครับเอ่อหลายๆคนเนี่ยรู้สึกว่าอืมัน
00:24:03 → 00:24:06 ไม่สำคัญน่ะเราก็ไปซื้อยาพ่นตามร้านขายยา
00:24:06 → 00:24:09 ทั่วไปอะไรอย่างเงี้ยพ่นทีแล้วก็หายซึ่ง
00:24:09 → 00:24:11 ความจริงมันไม่ใช่แบบนั้นนะครับความจริง
00:24:11 → 00:24:13 เนี่ยก็คือพวกเยมันเกิดจากการอักเสบใน
00:24:13 → 00:24:17 หลอดลมเรื้อรังจนมันทำให้เกิดภาวะหลอดลม
00:24:17 → 00:24:20 ตีกตามมาค่ะนะครับถ้าได้รับการไม่รรักษา
00:24:20 → 00:24:23 ไม่ถูกวิธีเราไปซื้อยาพ่นตามร้านขายยา
00:24:23 → 00:24:27 เงี้ยครับพ่นขยาลมมันก็เหมือนเวลามันตีบ
00:24:27 → 00:24:30 เยอะๆแล้วเราไปแก้ไปเห็นทำให้มันถ่างออก
00:24:30 → 00:24:32 ถ่างออกแต่เราไม่ได้ไปแก้ที่การอักเสบใน
00:24:32 → 00:24:35 หลอดลมอ่ะครับเพราะนั้นในระยะยาวอ่ะหลอด
00:24:35 → 00:24:38 ลมหลังเรามันจะเสียครับเสียรูปทรงคือมัน
00:24:38 → 00:24:41 จะพังไปเรื่อยๆทำให้ในอนาคตนะครับหลอดลม
00:24:41 → 00:24:45 มันจะตีดแบบถาวรนะครับอันนี้ก็ต้องสังเกต
00:24:45 → 00:24:48 นิดนึงคือเพราะฉะนั้นเวลาเรามีอาการอย่าง
00:24:48 → 00:24:52 ที่ผมว่าครับว่าเ่าหายใจไม่อิ่มหายใจวีด
00:24:52 → 00:24:55 เป็นเป็นหายๆมีไอมีเสมหะร่วมด้วยอย่าง
00:24:55 → 00:24:57 เงี้ยครับโออันนี้ต้องมาหาแล้วว่าเอ๊ะมี
00:24:57 → 00:25:00 ลักษณะของโรคหืดมซึ่งถ้าเป็นโรคหืดถรับ
00:25:00 → 00:25:03 การถ้าได้รับการรักษาอย่างถูกต้องค่ะนะ
00:25:03 → 00:25:06 ครับจะใช้ชีวิตเหมือนคนปกติเลยหลอดลมของ
00:25:06 → 00:25:09 เราก็จะอยู่กับเราไปแบบดีๆเนี่ยตามตาม
00:25:09 → 00:25:13 อายุไขยเลยครับครับค่ะอืออือหรือหรือแม้
00:25:13 → 00:25:17 แต่โรคถงโลง่งคองเองนะครับก็เ่าหรือว่า
00:25:17 → 00:25:19 โรคหลอดลมอุก้าเรื้อลังเนี่ยซึ่งซึ่งหมาย
00:25:19 → 00:25:22 ถึงโรคเดียวกันนะครับค่ะก็ก็เป็นโรคสำคัญ
00:25:22 → 00:25:24 เหมือนกันนะครับถ้าเรารักษาอย่างถูกต้อง
00:25:25 → 00:25:27 นะครับเราก็จะไม่มีปัญหาเสียงวดหายใจไม่
00:25:27 → 00:25:30 อิ่มแล้วเราก็จะกลับไปทำงานใช้ชีวิตออก
00:25:30 → 00:25:35 แรงได้ตามปกติค่ะคอืเมื่อสักครู่คุณหมอ
00:25:35 → 00:25:38 พูดถึงโรคถุงลมโป่งพองที่มีปัญหามันเป็น
00:25:38 → 00:25:40 เป็นต้นเหตุมาจากพฤติกรรมก็คือการสูบ
00:25:41 → 00:25:44 บุหรี่แล้วสำหรับกรณีต้นเหตุจากตัวสิ่ง
00:25:44 → 00:25:47 แวดล้อมอย่างตอนสมัยเยมี PM 2.5 เนี่ย
00:25:47 → 00:25:51 มันส่งผลกระทบต่อเอ่ออาการหายใจไม่อิ่มมย
00:25:51 → 00:25:54 แล้วก็เอ่อมันจะนำพาสู่โรคอะไรได้บ้าง
00:25:54 → 00:25:58 หรือเปล่าคะอ๋อแน่แน่นอนครับก็คือจริงๆ
00:25:58 → 00:26:01 แล้วเนี่ยเ่าสภาพอากาศเนี่ยนะครับเป็น
00:26:01 → 00:26:04 สิ่งสำคัญเนาะที่เป็นตัวกระตุ้นนะครับโรค
00:26:04 → 00:26:06 ของระบบทาดหายใจทุกชนิดเลยนะครับไม่ไม่
00:26:06 → 00:26:10 ใช่เพียงแต่แค่โรคถุงลมโป่งพองเนาะเพราะ
00:26:10 → 00:26:12 ว่าอากาศที่ไม่ดีอ่ะมันจะกระตุ้นทำให้
00:26:12 → 00:26:15 หลอดลมของเราเนี่ยนะครับมันมันถูกรบกวนนะ
00:26:15 → 00:26:18 ครับเหมือนพื้นฐานมันอาจจะมีการอักเสบ
00:26:18 → 00:26:22 อยู่แล้วบ้างเป็นทุนเดิมพอเจอสิ่งกระตุ้น
00:26:22 → 00:26:24 มันก็เกินอักเสบมาก็หนักขึ้นนะครับโดย
00:26:24 → 00:26:27 เฉพาะผู้ป่วยที่ที่เป็นโรคืดนะครับโรคถุง
00:26:27 → 00:26:31 ลมโป่งพองเนี่ยมันจะเกิดกอาการหลอดลมหด
00:26:31 → 00:26:33 ตัวนั้นคนไข้เนี่ยถ้าเราไปสังเกตนะครับ
00:26:33 → 00:26:36 ช่วงที่ฝุ่นเยอะๆเนี่ยยครับหรือภาคเหนือ
00:26:36 → 00:26:38 อะไของเราเนี่ยครับที่มีปัญหาฝุ่นเยอะๆ
00:26:38 → 00:26:41 น่ะช่วงหน้าฝุ่นเนี่ยก็จะมาแล้วครับโรง
00:26:41 → 00:26:44 พยาบาลมาโอหอบกำเริบต้องมาพ่นยาที่โรง
00:26:44 → 00:26:46 พยาบาลมานอนโรงพยาบาลอย่างเงี้ยครับก็ก็
00:26:46 → 00:26:51 เป็นปัญหาเยอะมากครับอืออืออือๆก็ถือว่า
00:26:51 → 00:26:54 เป็นอีกเรื่องนึงแต่ว่าหลายๆคนมีคุณผู้
00:26:54 → 00:26:57 ฟังคุณเวนาน่าจะเป็นพี่ที่อยู่ที่สหรัฐ
00:26:57 → 00:27:01 อเมริกการสอบถามมาว่าพอหายใจมันไม่โล่ง
00:27:01 → 00:27:04 อย่างเงี้ยบางคนใช้ยาหม่องยาดมค่ะคุณหมอ
00:27:04 → 00:27:07 ในการแบบทำให้รู้สึกมันหายใจโล่งขึ้นอะไร
00:27:07 → 00:27:09 เงี้ยไอ้สิ่งเหล่าเนี้ยมันจะทำให้เป็นโรค
00:27:09 → 00:27:12 ทางหลอดลมอะไรมยถ้าใช้มันบ่อยๆอย่างเงี้ย
00:27:12 → 00:27:16 ค่ะอ๋อถ้าแค่แค่ยาดมยาหม่องคงไม่เป็นไร
00:27:16 → 00:27:18 ครับเพราะว่าหมอก็ใช้เยอะเหมือนกันค่ะคุณ
00:27:18 → 00:27:21 หมอก็ใช้ใช่มั้ยคะหมอก็ใช้เยอะเหมือนกัน
00:27:21 → 00:27:24 ค่ะคงคงไม่ไม่เป็นไรครับเพราะว่าพวกพวก
00:27:24 → 00:27:28 อ่าพวกเนี้ยอ่าใช้มันก็เหมือนว่ามันช่วย
00:27:28 → 00:27:30 ด้านความรู้สึกอ่ะครับทำให้รู้สึกสดชื่น
00:27:30 → 00:27:34 ขึ้นอครับค่ะอืออือก็มันจะจะหายใจแล้วรู้
00:27:34 → 00:27:37 สึกแบบโล่งจมูกอะไรอย่าเงี้ยหลายคนก็ใช้
00:27:37 → 00:27:40 นะคะก็แต่บางคนก็โอ้โหคุณหมอเดี๋ยวนี้มัน
00:27:40 → 00:27:44 มีเอ่ออัดเข้าไปทั้งจมูกซ้ายจมูกขวาเลยนะ
00:27:44 → 00:27:47 คะอ๋อใช่ครับแต่ก็ต้องระวังครับถ้าเราแบบ
00:27:47 → 00:27:50 แบบเห็นบางคนใครแบบเสียบจมูกอะไรเงี้ยก็
00:27:50 → 00:27:54 ต้องระวังพวกคือที่กังวลก็คือพวกไอ้
00:27:54 → 00:27:57 อุปกรณ์เนี่ยครับจะตกไปในทางเดือนในใจมาก
00:27:57 → 00:28:01 กว่าอือืหลุดต้องระวังใช่ครับที่ที่ต้อง
00:28:01 → 00:28:03 ระวังหลุดเข้าไปมันก็จะยุ่งยากนะครับต้อง
00:28:03 → 00:28:06 ไปคีบเอาออกหรือหรือถ้ามันตกไปลึกก็ยาก
00:28:06 → 00:28:09 เลยครับอันนี้มีมีเคสเกิดขึ้นใช่มั้ยถ้า
00:28:09 → 00:28:12 คุณหมอพูดอย่างเงี้ยเออมันต้องมีสิอ่า
00:28:12 → 00:28:15 ส่วนใหญ่มันก็จะส่วนใหญ่จะจะอาจจะไม่ได้
00:28:15 → 00:28:18 เกิดจากยานมอะไรพวกนี้แหละครับแต่ว่าเรา
00:28:18 → 00:28:21 ก็จะเจอเนาะคนไข้สูงอายุบางทีกินผลไม้กิน
00:28:21 → 00:28:25 นู่นกินนี่หรือฟันบางทีเงี้ยหักหลุดตกลง
00:28:25 → 00:28:27 ไปในหลอดลมอย่างเงี้ยครับก็เจอเรื่อยๆ
00:28:27 → 00:28:29 แล้วบางทีเราไม่รู้ตัวก็ทำให้เกิดปอด
00:28:29 → 00:28:31 อักเสบเป็นเป็นหายๆเพราะว่ามันไปอุดทาง
00:28:31 → 00:28:34 เดินหายใจครับพออุดทางเดินหายใจเชื้อโรค
00:28:34 → 00:28:37 มันลงไปโตข้างในมันก็ทำให้เกิดปอดเสพเป็น
00:28:37 → 00:28:39 เป็นไหายแล้วบางทีเราไม่ได้ประวัติพวก
00:28:39 → 00:28:42 สำลักเนี่ยพอเราไปเเรคอมพิวเตอร์ไปส่อง
00:28:42 → 00:28:45 กล้องก็อ้าเจอดเม็ดเม็ดส้มเม็ดอะไรอยู่
00:28:45 → 00:28:50 ข้างในอะไรอย่าเงี้ยครับคอ๋อเออแฮะนะครับ
00:28:50 → 00:28:53 เอ่อคุณหมอเกี้เอ่อย้อนกลับไปไกลซะหน่อย
00:28:53 → 00:28:57 ที่คุณหมอบอกว่ามันมีลักษณะของการอีกอัน
00:28:57 → 00:28:58 นึงก็คือฮือ
00:28:58 → 00:29:02 เอ่อผมว่าได้ยินมาตลอดอ่ะหอบหืดน่ะคำเมัน
00:29:02 → 00:29:06 คู่กันมาตลอดอ่ะไอ้หอบหืดกับหอบกับหืด
00:29:06 → 00:29:10 แสดงว่ามันเป็นแยกกันใช่มคุณหมอออไม่ไม่
00:29:10 → 00:29:13 ไม่ครับไม่ครับจริงๆจริงๆเราต้องใช้ภาษา
00:29:13 → 00:29:16 อังกฤษเนาไอ้โรคมีคชื่อโรคขืดใช่มั้ยครับ
00:29:16 → 00:29:19 ภาษาอังกฤษเราเรียกว่าแสมแต่ว่าบางทีคน
00:29:19 → 00:29:21 ไทยเราจะติดเรียกว่าโรคหอบขืดแต่ว่าก็จะ
00:29:22 → 00:29:24 มีอาจารยบางท่านเนาะจะบอกว่าโลกหืดต้อง
00:29:24 → 00:29:28 ไม่หอบ
00:29:28 → 00:29:33 เอาะงงะเออโรคขืดต้องไม่หอบอ่ะใช่ถ้าเรา
00:29:33 → 00:29:35 รักษาโรคดีได้ดีนะครับโรคขืดต้องไม่หอบนะ
00:29:35 → 00:29:37 ครับอื
00:29:37 → 00:29:40 อืแต่ถ้าหอบปุ๊บแสดงว่ามันจะรักษายังไม่
00:29:40 → 00:29:44 ดีและถูกต้องครับถ้าถ้าถ้าเป็นโรคหืดแล้ว
00:29:44 → 00:29:47 หอบเนี่ยแปลว่าคือการการรักษาเนี่ยมี
00:29:47 → 00:29:51 ปัญหาและครับอาจจะอใช้ยาไม่เหมาะสมอะไร
00:29:51 → 00:29:53 อย่างเงี้ยครับก็เลยอยอยากจะเน้นย้ำ
00:29:53 → 00:29:54 เหมือนกันเพราะว่าอันนี้ก็เป็นปัญหาครับ
00:29:55 → 00:29:58 เวลาเราเจอคนไข้หลายๆครั้งก็รู้สึกว่าอ่า
00:29:58 → 00:30:01 มาหาหมอทีนึงแล้วบอกว่าหายแล้วแล้วก็หาย
00:30:01 → 00:30:04 ไปเลยแล้วก็หอบกลับมาอย่างเงี้ยครับเพราะ
00:30:04 → 00:30:07 ว่าเหรือว่าบางคนเติดยาขยายลม์อ่ะครับก็
00:30:07 → 00:30:10 ก็รู้สึกว่าใช้แล้วมันดีก็หายไปแต่ว่า
00:30:10 → 00:30:12 อย่างที่ผมบอกว่าในอนาคตอ่ะมันจะไม่ได้ดี
00:30:12 → 00:30:15 อย่างนี้ไปตลอดในอนาคตพอหล่อดลมที่มัน
00:30:15 → 00:30:17 อักเสบเลือดรังแล้วมันเสียหายไปแล้วเนี่ย
00:30:17 → 00:30:21 พอแก่ตัวลงเนี่ยมันมันจะมันจะไม่ดีเหมือน
00:30:21 → 00:30:23 เดิมและครับซึ่งพอถึงตอนนั้นมันจะรักษา
00:30:23 → 00:30:28 ยากะครับอค่ะอเอ่อมีคุณผู้ฟังจากทางบ้าน
00:30:28 → 00:30:32 แนะนำมานี้ต้องขอความรู้จากคุณหมอค่ะว่า
00:30:32 → 00:30:36 มันเอ่อเป็นวิธีที่ใช้ได้มยบอกว่าการร้อง
00:30:36 → 00:30:39 เพลงเนี่ยช่วยให้ระบบการหายใจเนี่ยดีขึ้น
00:30:39 → 00:30:40 เต็มอิ่มมาก
00:30:40 → 00:30:45 ขึ้นอ๋อผมคิดว่าก็ก็อาจจะมีส่วนนะครับค่ะ
00:30:45 → 00:30:48 เพราะว่าการการผมเข้าใจว่าคคือผมก็ไม่เคย
00:30:48 → 00:30:51 เรียนร้องเพลงไม่แน่ใจเหมือนแต่ว่าผมคิด
00:30:51 → 00:30:53 ว่าการการที่เราฝึกร้องเพลงเนี่ยครับมัน
00:30:53 → 00:30:56 ต้องมีการควบคุมเรื่องของกล้ามเนื้อในการ
00:30:56 → 00:31:01 หายใจโดยเฉพาะกับลมอ่ะครับครับถ้าเราร้อง
00:31:01 → 00:31:05 เพลงเก่งร้องเพลงได้ดีเนี่ยการเวลาเวลา
00:31:05 → 00:31:08 เราจะเปล่งเสียงได้ดีนะครับเราต้องสูดลม
00:31:08 → 00:31:11 เข้าไปได้ดีค่ะนึกออกมั้ยฮะเพราะฉะนั้นลม
00:31:11 → 00:31:13 ที่เข้าไปในปอดจะเข้าไปได้ในกล้ามเนื้อใน
00:31:13 → 00:31:15 การหายใจต้องดีเพราะฉะนั้นมันเหมือนเป็น
00:31:15 → 00:31:17 การ Exercise อ่ะการออกกำลังกายกล้าม
00:31:17 → 00:31:19 เนื้อเหมือนเราไปวิ่งเงี้ยครับกล้ามเนื้อ
00:31:19 → 00:31:22 แจกขาแล้วก็เก่งฮะการร้องเพลงการบริหาร
00:31:22 → 00:31:25 กล้ามเนื้อการหายใจอย่างถูกต้องด้วยนะอ่า
00:31:25 → 00:31:27 มันก็จะทำให้กล้ามเนื้อโดยเฉพาะกล้าม
00:31:27 → 00:31:29 เนื้อกระบังลมเพราะว่ากระบังลมเนี่ยมัน
00:31:29 → 00:31:30 เป็นกล้ามเนื้อหลักที่ใช้ในการหายใจนะ
00:31:30 → 00:31:34 ครับค่ะทำงานได้ดีนะครับมันก็จะแข็งแรง
00:31:34 → 00:31:37 ขึ้นครับนั้นเวลาเรามีความฟิตของกล้าม
00:31:37 → 00:31:39 เนื้อเนี่ยมันก็จะมันก็จะเหนื่อยยากกว่า
00:31:39 → 00:31:41 ปกติแต่ว่ามันก็คงไม่ใช่แค่ร้องเพลงอย่าง
00:31:41 → 00:31:43 เดียวนะครับก็ต้องออกกำลังกายอย่างอื่น
00:31:43 → 00:31:45 ร่วมด้วยนะ
00:31:45 → 00:31:54 ค่ะอืก็ก็ถือว่าเอ่อมันมันมีความสามารถ
00:31:54 → 00:31:57 ที่จะบรรเทาอาการต่างๆได้พอสมควรโดยเฉพาะ
00:31:57 → 00:32:00 เอ่อกิจกรรมที่มันเสริมในเรื่องของพลัง
00:32:00 → 00:32:05 ปอดเกี่ยวกันมั้ยคุณหมอใช่ๆคือคือกล้าม
00:32:05 → 00:32:09 เนื้อมันรเพงใช่แล้วมันมันไม่ได้แค่ใน
00:32:09 → 00:32:11 เรื่องของการเนือย่างเดียวนะครับมันยัง
00:32:11 → 00:32:15 เป็นเรื่องของเรื่องจิตใจด้วยนะครับที่พอ
00:32:15 → 00:32:18 จิตใจเราดีเนี่ยนะครับไอ้อย่างที่ผมบอก
00:32:18 → 00:32:21 เนาะไอ้ความรู้สึกหายใจไม่อิ่มหรืออะไร
00:32:21 → 00:32:24 เนี่ยส่วนใหญ่ๆส่วนนึงเลยมันเกิดจากจิตใจ
00:32:24 → 00:32:27 เราที่มันวิตกกังวลพอเราร้องเพลงอารมณ์ดี
00:32:27 → 00:32:30 เบิกบานใจดีมันก็ความความกังวลพวกนี้มัน
00:32:31 → 00:32:34 ก็หายไปอค่ะโอถ้าคุณผู้ฟังฟังอยู่ตอนนี้
00:32:34 → 00:32:38 ค่ะคุณหมอรู้สึกว่าอยากฝึกการออกกำลังกาย
00:32:38 → 00:32:42 ฝึกการหายใจโอ๊ยกดเลยค่ะใกล้ๆะ 1212
00:32:42 → 00:32:45 เครื่องบริหารปอดที่เป็นแบบเหมือนลูกบอล
00:32:45 → 00:32:49 น่ะค่ะเอ่อที่เป็น 3 ลูกไว้เป่าลมอันนั้น
00:32:49 → 00:32:54 น่ะมันช่วยมั้ยหรือว่ามันเอ่อก็ช่วย
00:32:54 → 00:32:56 บริหารได้ได้ได้ดีมากน้อยแค่ไหนถ้าเอ่อ
00:32:56 → 00:32:59 ตอนเนี้ยใช้สำหรับคนที่อยู่ที่บ้านอะไร
00:32:59 → 00:33:02 เงี้ยค่ะคือผมคิดว่าไอ้อุปกรณ์นั้นเนี่ย
00:33:02 → 00:33:06 เราจะใช้เป็นเป็นเฉพาะทางนะครับหมายความ
00:33:06 → 00:33:10 ว่าบางทีคนไข้ที่ปอดมันแฟบนะครับหรือหลัง
00:33:10 → 00:33:12 ผ่าตัดใหม่ๆเนี่ยเราอยากใชให้คนไข้เนี่ย
00:33:12 → 00:33:16 ฝึกหายใจขยายปอดเยอะๆนะครับอนั้นนน่าจะ
00:33:16 → 00:33:18 ได้ประโยชน์มากกว่าออแต่ถ้าปกติไม่ต้อง
00:33:18 → 00:33:22 ใช้คนทั่วไปผมก็คิดว่าเป็นการออกกำลังกาย
00:33:22 → 00:33:25 ทั่วไปนี่แหละครับเพราะว่าเช่นการเดิน
00:33:25 → 00:33:28 หรือการวิ่งอะไรอย่างเงี้ยครับมันก็ใช้
00:33:28 → 00:33:31 กล้ามเนื้อทุกส่วนคือคือเราคงจะบริหารแต่
00:33:31 → 00:33:34 กล้ามเนื้อหายใจไม่ได้เราต้องอบริหารทุก
00:33:34 → 00:33:38 ส่วนนะครับทั้งหัวใจกล้ามเนื้อแขนขาด้วย
00:33:38 → 00:33:42 แล้วมันจะพากันดีไปทั้งหมดครับถ้าเราไอ้
00:33:42 → 00:33:44 สูตรสูตไอ้เค้าเรียกว่าไตรโฟนะครับอันอัน
00:33:44 → 00:33:48 ยิที่ว่ามันมันมันอาจจะไม่ไม่ค่อยเหมาะ
00:33:48 → 00:33:51 กับคนไข้ทั่วไปเอ่อกับกับคนปกติที่อยากจะ
00:33:51 → 00:33:56 ออกกำลังกายมากกว่าค่ะอือืนะครับก็เป็น
00:33:57 → 00:34:01 ข้อนำที่สามารถที่จะส่งต่อกันได้นะบอกต่อ
00:34:01 → 00:34:04 กันได้วิธีการต่างๆอ่าใช่ซึ่งซึการออก
00:34:04 → 00:34:08 กำลังกายเนี่ยก็อยากจะเน้นว่าคือถ้าเรา
00:34:08 → 00:34:11 อยากให้กล้ามเนื้อเอ่อโดยเฉพาะเรื่องของ
00:34:11 → 00:34:13 การทำงานของปอดและหัวใจมันมันโคกันอยู่นะ
00:34:13 → 00:34:16 มันทำงานร่วมกันเนี่ยพวกเนี้ยนะครับก็ออก
00:34:16 → 00:34:19 กำลังกายครับคือเขาคก็จะมีแนะนำว่าออก
00:34:19 → 00:34:22 กำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวันนะครับ
00:34:22 → 00:34:25 แล้วก็อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์นะครับก็
00:34:25 → 00:34:27 จะได้สัปดาห์ละ 150 นาทีแล้วเว้นไม่เกิน 2
00:34:27 → 00:34:31 วันันอย่างเงี้ยครับอือมันก็จะได้ทั้งหัว
00:34:31 → 00:34:35 ใจและปอดเลยครับอืครบเครื่องนะคะเว้นไม่
00:34:35 → 00:34:38 เกิดน 2 วันนี่โอ๊เราเว้นกันกี่วันเราอ่ะ
00:34:38 → 00:34:39
00:34:39 → 00:34:43 อาทิตย์เว้นใจมากเลยค่ะใช่ครับเพราะว่า
00:34:43 → 00:34:46 ถ้าถ้าเราอยู่นิ่งๆอยู่เฉยๆอย่างเงี้ย
00:34:46 → 00:34:49 ครับไม่ค่อยทำอะไรบางคนพอยิ่งยิ่งคนที่มี
00:34:49 → 00:34:51 โรคประจำตัวครับบางทีเขาก็รู้สึกว่าโอออก
00:34:51 → 00:34:53 แรงแล้วก็เหนื่อยจังเลยอะไรเงี้ยไม่อยาก
00:34:53 → 00:34:56 ทำอะไรอย่างเงี้ยครับกล้ามเนื้ออะไรต่างๆ
00:34:56 → 00:34:59 เมันก็จะป่อลงไปเรื่อยๆแล้วก็ยิ่ง
00:34:59 → 00:35:03 เอ่อยิ่งเรานอนเยอะๆเนี่ยปอดก็อาจจะมี
00:35:03 → 00:35:07 โอกาสแฟบได้ด้วยครับอ๋อถ้าเรานอนเยอะๆ
00:35:07 → 00:35:12 เนี่ยมันก็จะคือปอดมีโอกาสแฟบไปเองด้วย
00:35:12 → 00:35:15 เกี่ยวกับเอ่อเกี่ยวกับความอายุมั้ยหรือ
00:35:15 → 00:35:19 ว่ามีปัจจัยอื่นๆที่จะทำให้มันแฟบไปเอง
00:35:19 → 00:35:22 ได้บ้างคะคุณหมอคือคือส่วนใหญ่มักจะเกิด
00:35:22 → 00:35:25 กับผู้สูงอายุอ่ะครับคือเวลาที่เรานอนโดย
00:35:25 → 00:35:28 เฉพาะปกติเรานอนแล้วจะนอนหงายใช่มั้ยครับ
00:35:28 → 00:35:31 ค่ะคือไอ้น้ำำหนักน้ำหนักคือปอดเนี่ยมัน
00:35:31 → 00:35:34 มันเป็นคิดคิดภาพมันเหมือนลูกโป่งก็ได้
00:35:34 → 00:35:37 ครับลูกโป่งอยู่อยู่ด้วยกันหลายๆอันมัด
00:35:37 → 00:35:39 รวมกันนะครับค่ะถ้าเราเอาลูกโป่งอไปวาง
00:35:39 → 00:35:42 อยู่บนโต๊ะก็ได้หรือบนเปียงก็ได้ครับไอ้
00:35:42 → 00:35:44 ลูกโป่งส่วนล่างมันจะโดนน้ำหนักของลูก
00:35:44 → 00:35:47 โป่งส่วนบนน่ะกดลงไปเรื่อยๆนึกพอนึกภาพ
00:35:47 → 00:35:49 ออกใช่มั้ยครับแล้วก็รวมถึงน้ำหนักของ
00:35:50 → 00:35:53 หน้าอกอะไรต่างๆด้วยทีนี้เวลาผู้สูงอายุ
00:35:53 → 00:35:55 อ่ะครับความคงตัวของตัวถุกลมพวกเนี้ยมัน
00:35:55 → 00:36:00 จะแย่ลงทำให้มันเกิดการแฟบได้ง่ายครับดัง
00:36:00 → 00:36:03 นั้นถ้าเรายิ่งให้เอ่อโดยเฉพาะผู้ป่วยที่
00:36:03 → 00:36:07 สูงอายุหรือว่าเอ่อนอนอยู่บนเตียงนานๆ
00:36:07 → 00:36:10 อย่างเงี้ยไม่มีกิจกรรมอะไรไม่ฝึกหายใจ
00:36:10 → 00:36:13 เข้าลึกๆหลอไอ้ตัวเนื้อปอดเนี่ยมันก็จะ
00:36:13 → 00:36:16 แฟบลงไปมีโอกาสที่ปอดที่อยู่สวนล่าครับจะ
00:36:16 → 00:36:20 แฟบกับปกติได้ครับนั้นก็เลยอยากให้มี
00:36:20 → 00:36:22 กิจกรรมครับลุกออกจากเตียงหาไอ้นู่นไอ้
00:36:22 → 00:36:24 นี่ทำอย่างเงี้ยครับก็จะทำให้ปอดเนี่ย
00:36:24 → 00:36:29 ขยายตัวได้ดีค่ะก็ถ้าได้วันละนิดวันละ
00:36:29 → 00:36:32 หน่อยสำหรับผู้สูงอายุในเวลาที่เหมาะสมก็
00:36:32 → 00:36:35 น่าจะช่วยบริหารปอดได้ส่วนนึงแล้วนะคะคุณ
00:36:35 → 00:36:39 หมอใช่ครับคือคืออย่างน้อยออกมาเดินแต่
00:36:39 → 00:36:42 ว่าก็ต้องเอาให้ปลอดภัยด้วยเนาะไม่ล้มไม่
00:36:42 → 00:36:45 อะไรนะครับค่ะก็อย่างน้อยออกมาเดินออกมา
00:36:45 → 00:36:48 ดูอย่างเงี้ยมันออกมาดู
00:36:48 → 00:36:51 ธรรมชาติอะไรเงี้ยมันก็มันก็ได้ทั้งใจ
00:36:51 → 00:36:56 ทั้งสุขภาพใจสุขภาพกายเลยครับดีอยากให้
00:36:56 → 00:36:59 คุณหมอเน้นย้ำกับเอ่อคุณผู้ฟังอีกท่านนึง
00:36:59 → 00:37:03 นะคะถามเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องของอาการหาย
00:37:03 → 00:37:06 ใจเสียงดังหายใจเหนื่อยแล้วก็บอกว่าตัว
00:37:06 → 00:37:10 เองเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดลมหรือเกี่ยวกับ
00:37:10 → 00:37:13 โรคปอดเนี่ยค่ะเ่อกรณีหายใจลำบากเนี่ยถ้า
00:37:13 → 00:37:17 จะไปซื้อยาหรืออุปกรณ์มาพ่นขยายหลอดลม
00:37:17 → 00:37:19 ด้วยตัวเองได้หรือไม่เมื่อกี้คุณหมอตอบไป
00:37:19 → 00:37:22 แล้วแต่อยากให้ย้ำกับคุณผู้ฟังอีกครั้ง
00:37:22 → 00:37:23 นึงเพราะว่าเพิ่งถามมาเมื่อ 1 นาทีที่
00:37:24 → 00:37:26 แล้วอ่ะค่ะอ๋อครับผมผมคิดว่ามันต้องมาดู
00:37:26 → 00:37:30 ก่อนนะครับครับว่าเป็นโรคอะไรค่ะนะครับ
00:37:30 → 00:37:33 ไอ้ไอคำว่าไอ้ที่หายใจเสี่ยงวปหรือว่าหาย
00:37:33 → 00:37:36 ใจไม่หยิ่มอย่างเงี้ยครับเพราะว่าบางที
00:37:36 → 00:37:39 การใช้อุปกรณ์หรือเราไปซื้อยาเองเนี่ยมัน
00:37:39 → 00:37:41 ไม่เพียงพอทนี้มันต้องอันที่ 1 มันต้อง
00:37:41 → 00:37:44 ได้วินิจฉัยก่อนว่าเป็นอะไรค่ะถ้ามันได้
00:37:44 → 00:37:47 วินิจฉัยแล้วเราจะเลือกยาที่เหมาะสมได้นะ
00:37:47 → 00:37:50 ครับซึ่งอย่างเช่นถ้าเป็นโรคคือทอมาต้อง
00:37:50 → 00:37:53 ใช้ยาพ่นอ่าเเรียกว่ายาป้นสเตียรอยด์นะ
00:37:53 → 00:37:56 ครับหรือถ้าเป็นโรคหลอดลมอุดกั้นเรือด
00:37:56 → 00:37:58 ล้างหรือตงลมป่งคองเนี่ยเราต้องใช้ยาไข
00:37:58 → 00:38:00 อลมเป็นหลักอย่างเงี้ยครับก็จะช่วยทำให้
00:38:00 → 00:38:03 อาการน่ะมันดีขึ้นแล้วเราก็ไปเสริมด้วย
00:38:03 → 00:38:06 การรักษาที่ไม่ใช่ยาเช่นการออกกำลังกาย
00:38:06 → 00:38:10 การมีกิจกรรมการบริหารเอ่อปอดต่างๆอย่าง
00:38:10 → 00:38:14 เงี้ก็เป็นตัวเสริมค่ะอืค่ะอีกท่านนึงค่ะ
00:38:14 → 00:38:16 คุณปีเตอร์แพนอันเนี้ยขวัญไม่แน่ใจว่า
00:38:16 → 00:38:19 เกี่ยวข้องหรือสอดคล้องกันหรือเปล่าเ่อ
00:38:19 → 00:38:23 เล่ามาว่านั่งยองๆพอลุกขึ้นแล้วก็จะรู้
00:38:23 → 00:38:26 สึกว่าเอ่อหน้ามืดขาอ่อนแรงแล้วก็เป็นลม
00:38:26 → 00:38:30 ไปเลยอันเนี้ยแสดงว่ามีอาการของโรคอะไร
00:38:30 → 00:38:32 หรือเปล่าหรือว่าเขาต้องเฝ้าสังเกตอาการ
00:38:32 → 00:38:36 ตัวเองยังไงบ้างคะอ๋อคือเวลาเราลุก
00:38:36 → 00:38:39 เปลี่ยนท่าเร็วๆแล้วนะครับมันอาจจะมี
00:38:39 → 00:38:44 อาการหน้ามืดได้เพราะว่าเอ่อปกติคนเรา
00:38:44 → 00:38:47 เนี่ยครับอ่าเลือดเนี่ยมันที่มันวิ่งออก
00:38:47 → 00:38:49 จากหัวใจอครับไปเลี้ยงสมองเนี่ยมันต้อง
00:38:49 → 00:38:52 วิ่งต้านแรงโน้มถ่วงถูกมั้ยครับค่ะเพราะ
00:38:52 → 00:38:54 ฉะนั้นเพราะฉะนั้นหัวใจอ่ะมันจะต้องเ่อ
00:38:54 → 00:38:56 หัวใจและหลอดเลือดเี่มันต้องทำงานหนัก
00:38:56 → 00:38:58 ขึ้นเวลาที่จะต้องต้องส่งเลือดเนี่ยขึ้น
00:38:58 → 00:39:00 ไปเลี้ยงให้ถึงสมองถ้าเลือดมันส่งไป
00:39:00 → 00:39:02 เลี้ยงไม่ทันคนก็จะมีอาการหน้ามืดหรืออาจ
00:39:02 → 00:39:06 จะเป็นลมได้ดังนั้นอ่าคงต้องมาดูก่อนว่า
00:39:06 → 00:39:10 เอ่ออันอันที่ 1 นะครับไอ้ไออย่างที่เ่อ
00:39:10 → 00:39:12 คุณผู้ฟังอธิบายมาเนี่ยเวลาเขาลุกจากท่า
00:39:12 → 00:39:16 นั่งเป็นท่ายืนน่ะเลือดเนี่ยครับมันจะส่ง
00:39:16 → 00:39:18 ไปเลี้ยงสมองไม่ทันนะอันนี้ก็เป็น
00:39:18 → 00:39:21 ธรรมชาติระดับนึงแต่ว่ากลไกเนี่ยร่างกาย
00:39:21 → 00:39:24 ของเราต้องพยายามมีีเ้าเรียกว่ามีรีเฟลก
00:39:24 → 00:39:26 ในการบีบเลือดเนี่ยขึ้นไปเลี้ยงให้ทัน
00:39:26 → 00:39:29 เพราะฉะนั้นคนทั่วไปอ่ะมันก็จะไม่เป็นนะ
00:39:29 → 00:39:32 ครับทีนี้พอบางทีเราสูงอายุมากขึ้นน่ะ
00:39:32 → 00:39:36 กลไกพวกเนี้ยมันอาจจะช้าลงทำให้บางทีเวลา
00:39:36 → 00:39:38 ลุกเปลี่ยนท่าเร็วๆก็อาจจะมีอาการหน้ามืด
00:39:38 → 00:39:41 ได้นะครับแต่ถ้ามันเกิดขึ้นบ่อยๆนะครับ
00:39:41 → 00:39:45 อันนี้ต้องมาดูละว่ามันเกิดจากอะไรเช่น
00:39:45 → 00:39:48 บางคนนะครับมีสารน้ำในร่างกายไม่เพียงพอ
00:39:48 → 00:39:51 อาจจะมีโลหิตจางมั้ยนะครับทำให้การลุก
00:39:51 → 00:39:53 เปลี่ยนท่าเนี่ยทำให้เลือดเนี่ยไปเลี้ยง
00:39:53 → 00:39:57 สมองไม่ทันค่ะอหรือมันมีปัญหาของระบบหลอด
00:39:57 → 00:40:00 เลื่อดเรหัวใจหรือเปล่านะครับที่ทำให้
00:40:00 → 00:40:04 เวลามีกิจกรรมอะไรต่างๆเนี่ยมันมันชดเชย
00:40:04 → 00:40:07 อ่าเลือดที่ไปเลี้ยงสมองให้ไม่ทันเพราะ
00:40:07 → 00:40:10 ฉะนั้นถ้ามันมีถึงขั้นหมดสติเนี่ยนะครับ
00:40:11 → 00:40:13 อันเนี้ยต้องมาดูละอาจจะต้องไปหาคุณหมอ
00:40:13 → 00:40:16 แล้วว่าเอ่อถ้ามัน 1 ขั้นหมดสติเลยเนี่ย
00:40:16 → 00:40:19 มันมีสาเหตุจากอะไรแต่ถ้าเป็นแค่เวียนๆ
00:40:19 → 00:40:22 นิดหน่อยอย่างเงี้ยอย่างงี้อาจจะยังถือ
00:40:22 → 00:40:26 ว่าถือว่าสังเกตอาการได้ค่ะเพราะฉนั้น
00:40:26 → 00:40:28 อย่างของคุณผู้ฟังเนี่ยถ้าบอกว่าโอ้โหลูก
00:40:28 → 00:40:30 เปลี่ยนภาแล้วหมดสติเลยอันนี้ก็แนะนำว่า
00:40:30 → 00:40:33 น่าจะไปตรวจหาสาเหตุเพิ่มนิดนึงครับอืค่ะ
00:40:33 → 00:40:38 อืก็จะอันตรายนะพี่ปีเตอร์แพนนะคะก็ต้อง
00:40:38 → 00:40:42 ไปพบคุณหมอเพื่อวินิจฉัยอาการอย่าง
00:40:42 → 00:40:47 ละเอียดนะคะว่าเป็นอะไรกันแน่นะคะออโอ๊ก
00:40:47 → 00:40:49 มีอะไรสงสัยเกี่ยวกับเรื่องหายใจไม่อิ่ม
00:40:49 → 00:40:53 อีกมั้ยคะมีแต่กินไม่อิ่มครับกินไม่อิ่ม
00:40:53 → 00:40:56 แล้วทำให้หายใจไม่อิ่มมั้ยคะคุณหมอมีมั้
00:40:56 → 00:41:00 มีส่วนมั้ยมีส่วนมั้ยคุณหมอโอเป็นเป็นทาง
00:41:00 → 00:41:02 ใจอ
00:41:02 → 00:41:05 ครับรู้สึกเครียดนะฮกินไม่อิ่มก็เลยรู้
00:41:05 → 00:41:09 สึกหายใจไม่อิ่มแล้วกันครับแต่ว่าสุดท้าย
00:41:09 → 00:41:11 ก็อยากจะเน้นย้ำครับคือผมคิดว่าไอ้เรื่อง
00:41:11 → 00:41:15 หายใจไม่อิ่มนะครับขอสรุปอีกทีนึงว่าว่า
00:41:15 → 00:41:18 เอ่อสิ่งสำคัญเนาะเวลาเราหายใจไม่อิ่มอ่ะ
00:41:18 → 00:41:23 อยากจะให้ดูอาการที่สำคัญที่เราจะต้องพา
00:41:23 → 00:41:26 ตัวเองไปโรงพยาบาลนะฮะถ้ามันดูแล้วมัน
00:41:26 → 00:41:29 เป็นบ่อยๆนะครับหรือว่ามันดูแย่ลงเรื่อยๆ
00:41:29 → 00:41:31 อันเนี้ยแน่นอนว่าคงต้องไปอยู่ละนะครับ
00:41:31 → 00:41:34 หรือถ้ามีอาการอื่นร่วมนะครับโดยเฉพาะเรา
00:41:34 → 00:41:37 ต้องแยกให้ดีเลยกับอาการแน่นหน้าอกนะครับ
00:41:37 → 00:41:40 ถ้าแน่นหน้าอกเนี่ยแล้วมันมันแน่นเยอะ
00:41:40 → 00:41:42 ขึ้นเยะขึ้นเรื่อยๆเนี่ยอาจจะต้องไปโรง
00:41:42 → 00:41:45 พยาบาลทันทีทันทีเลยนะครับค่ะเนาะแล้วก็
00:41:45 → 00:41:49 ถ้าเอ่อมีอาการร่วมเช่นอาการหายใจเสี่ยง
00:41:49 → 00:41:52 วีดนะครับแล้วก็เราเหนื่อยเหนื่อยง่าย
00:41:52 → 00:41:54 ขึ้นนะครับอันเนี้ยก็ควรจะไปพบคุณหมอ
00:41:54 → 00:41:58 เพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติมอีกทีนึงอืค่ะอือ
00:41:58 → 00:42:02 ก็ถือว่าเป็นข้อสรุปแล้วก็ถึงแนวทางการ
00:42:02 → 00:42:05 ปฏิบัติตัวของคุณหมอนะคะเพราะคุณหมอบอก
00:42:05 → 00:42:08 ว่าถ้ามีอาการที่ผิดสังเกตเนี่ยควรจะไปพบ
00:42:08 → 00:42:12 แพทย์ทันทีนะคะคุณผู้ฟังอย่าเอ่อแบบเพิก
00:42:12 → 00:42:15 เฉยหรือว่ารอเวลาไว้เพราะว่าเรื่องของ
00:42:15 → 00:42:17 อาการหายใจไม่อิ่มเนี่ยอาจจะเป็นต้นตอของ
00:42:17 → 00:42:20 โรคหัวใจหรือว่าโรคอื่นๆที่อาจจะมีอาการ
00:42:20 → 00:42:22 เฉียบพลันอันนี้ถ้ามีเฉียบพลันเถึงแก่
00:42:22 → 00:42:26 ชีวิตได้เลยมั้ยคะคุณหมอคะอ่าใช่ครับใช่
00:42:26 → 00:42:30 ครับคือโดยเฉพาะเอ่อคือโรคเนี่ยมันก็มี
00:42:30 → 00:42:33 ความเร็วช้าต่างกันใช่มครับแต่ที่เราจะ
00:42:33 → 00:42:36 ให้ความสำคัญกับโรคหัวใจมากๆเลยเพราะว่า
00:42:36 → 00:42:39 โรคพวกนี้มันเร็วเอว่ามันปุ๊บปั๊บเนี่ย
00:42:39 → 00:42:42 มันมันแย่เลยก็ก็มาบ่อยๆครับเพงั้นอันแ
00:42:42 → 00:42:45 ต้องสังเกตเรื่องของอาการแน่นหน้าอกเน้นๆ
00:42:45 → 00:42:49 ย้ำว่าแน่นหน้าอกครับอืออ่าแต่ส่วนเรื่อง
00:42:49 → 00:42:52 ของอาการหายใจไม่อิ่มหรืออะไรอย่างเงี้ย
00:42:52 → 00:42:55 ครับอันเนี้ยก็ถ้าอย่างอย่างอย่างที่ผม
00:42:55 → 00:42:58 บอกเนาถ้ามันไม่อยู่ก็หายไปเองรู้สึกเป็น
00:42:58 → 00:43:00 ซ้ำๆบ่อยๆหรือมีอย่างอื่นร่วมเนี่ยอันนี้
00:43:00 → 00:43:03 ก็ต้องมาหาสาเหตุเพิ่มเติมว่าเอ่อเราจะ
00:43:03 → 00:43:06 แก้ไขหรือไม่ยังไงได้บ้างเพราะว่ามันอาจ
00:43:06 → 00:43:09 จะไม่ได้เฉียบพลันเหมือนโรคหัวใจอย่างที่
00:43:09 → 00:43:12 เราว่าแต่ว่าในระยะยาวเนี่ยมันจะมีผลเสีย
00:43:12 → 00:43:14 ในระยะยาวทำให้รักษายากขึ้นหรืออาจจะ
00:43:14 → 00:43:18 รักษาได้ผลไม่ดีเท่ากับรักษานแกตอนเริ่ม
00:43:18 → 00:43:22 ต้นน่ะครับค่ะอืและคนรอบข้างอ่ะสอถามทิ้ง
00:43:22 → 00:43:25 ท้ายหน่อยฮคนรอบข้างจะสามารถสังเกตสังเกต
00:43:25 → 00:43:30 หรือว่าอิมเป็นเป็นคนที่คอยแนะนำเตือน
00:43:30 → 00:43:32 อะไรเงี้ยได้มั้ยครับครับสำหรับคนที่มี
00:43:32 → 00:43:36 อาการเหล่านี้คออได้ครับได้ครับก็คือผม
00:43:36 → 00:43:39 คิดว่าคนรอบข้างอ่ะก็คือผมคิดว่าลองดู
00:43:39 → 00:43:42 ไลฟ์สไตล์เค้าอ่ะครับว่ามันดูผิดไปกว่า
00:43:42 → 00:43:46 ปกติมคือถ้าเอ่อมันดูเปลี่ยนไปจากเดิม
00:43:46 → 00:43:49 เช่นแต่เดิมเคยออกไปทำกิจกรรมได้กลายเป็น
00:43:49 → 00:43:53 ว่าไม่ไปละทำไม่ได้ออย่างเงี้ยครับหรือดู
00:43:53 → 00:43:56 อาการน่ะเวลาเราเห็นคนที่อ่าป่วยอ่ะครับ
00:43:56 → 00:44:00 เราก็จะพอดูออกว่าคนเนี้ดูซึมลงนะดูหายใจ
00:44:00 → 00:44:04 ดูดูหายใจดูเหนื่อยขึ้นนะครับคือไออย่าง
00:44:04 → 00:44:07 เงี้ยก็แปลว่าผิดปกติแล้วควรจะแนะนำให้มา
00:44:07 → 00:44:10 พบแพทย์นะครับอันเนี้ยนิดนึงก็คือผมคิด
00:44:11 → 00:44:13 ว่าถ้าเ่าเวลาสังเกตเรื่องเหนื่อยเนี่ย
00:44:13 → 00:44:16 มันอาจะยากนิดหน่อยนะครับว่าคนไข้เมัน
00:44:16 → 00:44:17 เหนื่อยหรือยังผมคิดว่าไม่งั้นเราลองลอง
00:44:18 → 00:44:20 สังเกตตัวเองก็ได้ครับเวลาเราไปวิ่งอ่ะ
00:44:20 → 00:44:23 ว่าอาการเหนื่อยของเราเนี่ยมันมันมันเป็น
00:44:23 → 00:44:25 ยังไงนะครับก็สังเกตตั้งแต่สีหน้าเลยนะ
00:44:25 → 00:44:29 ครับว่าสีหน้าเอ่อดูก็จะดูเพลียนะครับหาย
00:44:29 → 00:44:32 ใจก็ต้องเริ่มหายใจทางปากช่วยนะครับจมูก็
00:44:32 → 00:44:35 จะเริ่มบานอะไรอย่างเงี้ยแล้วก็กล้าม
00:44:35 → 00:44:37 เนื้อที่ใช้ในการหายใจก็จะเยอะขึ้น
00:44:37 → 00:44:40 อันเนี้ยเราอาจจะลองสังเกตดูนิดนึงว่าถ้า
00:44:40 → 00:44:42 เกิดเออดูเหนื่อยขึ้นอันนี้มีปัญหาและเรา
00:44:42 → 00:44:45 ก็ควรจะแนะนำให้เขมาโรงพยาบาลไม่ควรจะ
00:44:45 → 00:44:50 ทิ้งเอาไว้นะครับอืค่ะครับผมค่ะก็ถือว่า
00:44:50 → 00:44:52 วันนี้เกี่ยวกับเรื่องของหายใจไม่เต็ม
00:44:52 → 00:44:55 อิ่มเนี่ยคุณหมอนัทก็ได้มาตอบอย่างรอบ
00:44:55 → 00:44:58 ด้านเลยนะคะแล้วก็ก็ฝากคุณผู้ฟังว่าถ้า
00:44:58 → 00:45:01 ใครมีอาการแบบนี้ก็ให้เฝ้าระวังในกรณีที่
00:45:01 → 00:45:04 เป็นถๆเป็นเรื่อยๆนะคะวันนี้ขอบคุณคุณหมอ
00:45:04 → 00:45:08 มากเลยนะคะขอบคุครับคุณหมอครับค่ะสวัสดี
00:45:08 → 00:45:11 ค่ะครับสวัสดีครับค่ะนายแพทย์นัฐตะพาน
00:45:11 → 00:45:15 วงศ์นะคะนายแพทย์ชำนาญการพิเศษสถาบันโรค
00:45:15 → 00:45:19 ทรวงอกกรมการแพทย์ค่ะ