00:00:07 → 00:00:16 [เพลง]
00:00:16 → 00:00:22 e
00:00:22 → 00:00:32 [เพลง]
00:00:32 → 00:00:37 Come on Come on All K Come on
00:00:37 → 00:00:38 Come
00:00:38 → 00:00:41 on not enough you Won prove
00:00:41 → 00:00:48 Anything at home come
00:00:48 → 00:00:53 Over but not
00:00:53 → 00:00:56 to what gna find what are you
00:00:56 → 00:01:02 wai for I thought you more
00:01:02 → 00:01:16 [เพลง]
00:01:16 → 00:01:22 dany
00:01:22 → 00:01:25 dany You dan
00:01:25 → 00:01:48 [เพลง]
00:01:48 → 00:01:52 it's time Time Let pick it up
00:01:52 → 00:01:56 Come on Come on Never G ST youve
00:01:57 → 00:02:00 Anything danc Alone come
00:02:00 → 00:02:04 Over
00:02:04 → 00:02:11 [เพลง]
00:02:11 → 00:02:15 Over สวัสดีครับขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่
00:02:15 → 00:02:18 อุปการีที่เคารพนะครับผ่านทางเพจมนุษย์
00:02:18 → 00:02:21 ต่างไวยไลฟนะครับวันนี้เราพบกันวันที่ 1
00:02:21 → 00:02:25 พฤษภาคมนะครับวันนี้ตรงกับวันแรงงานนะ
00:02:25 → 00:02:28 ครับอ่าวันนี้เผอิญว่าเป็นวันอาทิตย์ด้วย
00:02:28 → 00:02:30 นะครับเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็จะมีมีโอกาสได้ชด
00:02:30 → 00:02:33 เชยวันหยุดวันแรงงาน 1 วันนะครับแต่เข้า
00:02:33 → 00:02:35 ใจว่าน่าจะเป็นเฉพาะคนที่ทำงานภาคเอกชนนะ
00:02:35 → 00:02:37 ครับที่จะได้หยุดแต่ว่าถ้าเป็นคนที่รับ
00:02:37 → 00:02:40 ราชการนี่ก็น่าจะต้องไปทำงานปกตินะครับ
00:02:40 → 00:02:43 วันนี้เป็นวันแรงงานแต่ว่าฝนฟ้านี่ก็ยัง
00:02:43 → 00:02:45 ขยันขันแข็งนะครับไม่หยุดตามวันแรงงานนะ
00:02:45 → 00:02:47 ครับเพราะว่าที่ออฟฟิศของมนุษย์ต่างวัย
00:02:47 → 00:02:49 นี่ฝนตกตั้งแต่เช้าเลยนะครับอ่าฟ้าครึ้ม
00:02:49 → 00:02:51 กันตั้งแต่เช้าแล้วก็ฝนตกหนักไป 1 รอบนี่
00:02:52 → 00:02:55 ก็เพิ่งจะหยุดไปนะครับอ่าไม่ทราบว่าแต่ละ
00:02:55 → 00:02:57 ที่นี่เป็นยังไงบ้างนะครับถ้าแต่ละท่าน
00:02:57 → 00:03:00 นี่เข้ามาแล้วลองส่งเอ่อคำทักทายมาซักนิด
00:03:00 → 00:03:02 นึงนะครับอย่างน้อยก็เป็นการเช็คเสียง
00:03:02 → 00:03:04 เช็คสัญญาณด้วยนะครับรวมถึงเช็คสภาพอากาศ
00:03:04 → 00:03:06 ด้วยนะครับว่าแต่ละที่วันนี้สภาพอากาศ
00:03:06 → 00:03:08 เป็นยังไงนะครับช่วงนี้หน้าร้อนก็น่าจะ
00:03:08 → 00:03:11 เป็นหน้าไม่แน่ไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับ
00:03:11 → 00:03:13 ว่ากำลังเข้าสู่ช่วงปลายของหน้าร้อนหรือ
00:03:13 → 00:03:15 ยังเพราะว่าเข้าสู่เดือนพฤษภาคมแล้วนะ
00:03:15 → 00:03:18 ครับเอิ่มตอปีนี้เขาบอกว่าอากาศร้อนก็
00:03:18 → 00:03:21 จริงแต่ก็น่าแปลกที่มีฝนมาอย่างสม่ำเสมอ
00:03:21 → 00:03:24 นะครับเมื่อวานผมดูสภาพอากาศประเทศในแถบ
00:03:24 → 00:03:26 อินเดียบอกว่าโอหอุณหภูมิสูงไปตั้งประมาณ
00:03:26 → 00:03:30 60 องศเซซคำถามก็คือว่าอยู่กันได้ยังไง
00:03:30 → 00:03:32 นะครับเพราะว่าสภาพอากาศแล้วก็โลคที่มัน
00:03:32 → 00:03:36 มีอากาศที่มันเปลี่ยนแปลงไปขนาดนี้นะครับ
00:03:36 → 00:03:38 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนะครับก็คือเรื่องของ
00:03:38 → 00:03:43 อากาศก็เป็นเรื่องที่เราคงจะไปคาดคะเน
00:03:43 → 00:03:45 แล้วก็อยากจะให้มันเป็นเหมือนในแบบที่เรา
00:03:45 → 00:03:48 อยากจะเป็นไม่ได้นะครับเรื่องของธรรมชาติ
00:03:48 → 00:03:50 นี่ก็เป็นเรื่องของธรรมชาติเราก็คงจะไม่
00:03:50 → 00:03:53 สามารถที่จะบอกแล้วก็อยากให้มันเป็น
00:03:53 → 00:03:55 เหมือนที่ใจเราอยากให้มันเป็นจริงๆก็เช่น
00:03:55 → 00:03:57 เดียวกับเรื่องที่เราจะคุยกันในวันนี้ล
00:03:57 → 00:03:59 ครับผมคิดว่าเรื่องที่เราจะคุยกันในวัน
00:03:59 → 00:04:02 นี้นี่ก็น่าจะเป็นเรื่องที่บางทีเราไม่
00:04:02 → 00:04:05 สามารถที่จะคาดคะเนหรือว่าตั้งความหวัง
00:04:05 → 00:04:08 แล้วก็อยากจะให้มันเป็นเหมือนที่เราอยาก
00:04:08 → 00:04:11 จะให้มันเป็นนะครับเพราะว่ามันเป็นเรื่อง
00:04:11 → 00:04:14 เป็นเรื่องธรรมชาติก็ว่าได้นะครับนั่นก็
00:04:14 → 00:04:16 คือเรื่องของการสูญเสียครับแต่ว่าวันนี้
00:04:16 → 00:04:19 เราอยากจะชวนคุยเรื่องประเด็นของการสูญ
00:04:19 → 00:04:22 เสียไม่ใช่แค่เรื่องการสูญเสียทั่วๆไปแต่
00:04:22 → 00:04:25 อยากจะชวนคุยว่าเมื่อลูกต้องจากไปก่อนพ่อ
00:04:25 → 00:04:28 แม่หัวอกของคนเป็นพ่อเป็นแม่นั้นจะอยู่
00:04:28 → 00:04:30 อย่างไรนะครับ
00:04:30 → 00:04:32 ที่ผมบอกว่ามันอาจจะเป็นเรื่องที่คาด
00:04:32 → 00:04:35 การณ์ไม่ได้ก็เพราะว่าเราสมมุตินะครับถ้า
00:04:35 → 00:04:37 ในนี้คนที่เป็นพ่อเป็นแม่เนี่ยเข้าใจว่า
00:04:37 → 00:04:40 เวลาเรานึกถึงทีไรเราก็จะไม่ต้องไม่ได้
00:04:40 → 00:04:42 นึกถึงหรอกครับว่าลูกนี่จะจากไปหรือว่า
00:04:42 → 00:04:45 พูดง่ายๆลูกจะตายก่อนเรานะครับผมเชื่อว่า
00:04:45 → 00:04:49 คนส่วนใหญ่ก็มักจะนึกถึงว่าตัวเองเนี่ย
00:04:49 → 00:04:53 จะอยู่จนแก่เฒ่าแล้วก็จากไปจากโลกนี้ก่อน
00:04:53 → 00:04:55 ลูกๆทั้งนั้นนะฮะส่วนใหญ่ก็มักจะคิดกัน
00:04:55 → 00:04:58 แบบนี้แต่ว่าด้วยความที่ชีวิตมันก็มีแต่
00:04:58 → 00:05:00 ความไม่แน่นอนนะครับเราก็ไม่รู้หรอกนะ
00:05:00 → 00:05:03 ครับว่าอะไรมันจะเกิดขึ้นบ้างระหว่างทาง
00:05:03 → 00:05:05 นะครับวันนี้เราก็เลยเป็นประเด็นนึงครับ
00:05:05 → 00:05:09 ที่เราในฐานะของในรายการบุพการีที่เคารพ
00:05:09 → 00:05:12 เนี่ยเราอยากจะชวนทุกท่านมาคุยนะครับ
00:05:12 → 00:05:14 เพราะผมคิดว่าเรื่องแบบนี้นี่มันไม่
00:05:14 → 00:05:16 สามารถเรียนรู้ได้อย่างปุบปับในวันที่
00:05:16 → 00:05:18 เหตุการณ์เกิดขึ้นแต่ว่าเรื่องแบบนี้บาง
00:05:18 → 00:05:21 ทีมันต้องทำความเข้าใจแล้วก็เรียนรู้
00:05:21 → 00:05:23 ระหว่างทางแม้ว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้น
00:05:23 → 00:05:26 หรือว่าไม่เกิดขึ้นก็ตามนะครับบางคนบอก
00:05:26 → 00:05:29 ว่าอะไรกันมาชวนคุยเรื่องเศร้าๆในเช้าวัน
00:05:29 → 00:05:32 หยุดวันอาทิตย์แต่เช้าคือจะมองไปก็ 2 มุม
00:05:32 → 00:05:34 นะครับจะมองว่ามันเศร้าก็เศร้าจะมองว่า
00:05:34 → 00:05:37 มันเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นในการเตรียม
00:05:37 → 00:05:40 ตัวผมก็คิดว่าเรื่องนี้ก็มีมีความจำเป็น
00:05:40 → 00:05:43 มากๆในการที่เราจะหยิบยกขึ้นมาพูดเพื่อ
00:05:43 → 00:05:45 การเตรียมตัวนะครับเพราะฉะนั้นวันนี้ผม
00:05:46 → 00:05:49 เลยอยากจะให้ลองเปิดใจกว้างๆนะครับลองฟัง
00:05:49 → 00:05:51 ดูแม้ว่าบางเรื่องมันอาจจะฟังแล้วเศร้า
00:05:51 → 00:05:54 อาจจะหดหูบ้างแต่อย่างที่บอกนะครับก็คือ
00:05:54 → 00:05:56 ว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องที่เราจะ
00:05:56 → 00:05:59 ต้องเตรียมตัวรับมือกันแต่เนิ่นๆนะครับ
00:05:59 → 00:06:02 เลยอยากจะถามทุกท่านก่อนครับก่อนที่เราจะ
00:06:02 → 00:06:06 เริ่มคุยกันว่าแต่ละท่านหรือว่าคนใกล้ๆ
00:06:06 → 00:06:09 ตัวเนี่ยนะครับมีประสบการณ์ในการสูญเสีย
00:06:09 → 00:06:12 ในแบบที่ว่ามาบ้างหรือเปล่านะครับมีคุณ
00:06:12 → 00:06:14 พ่อคุณแม่หรือว่ามีญาติผู้ใหญ่ที่ต้อง
00:06:14 → 00:06:18 เสียลูกๆหลานๆในที่จากไปก่อนวัยอันควร
00:06:18 → 00:06:21 บ้างหรือเปล่านะครับลองแชร์ประสบการณ์เ
00:06:21 → 00:06:23 กันเข้ามาได้นะครับเดี๋ยววันนี้เราคุยกัน
00:06:23 → 00:06:25 แล้วเราคงจะได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนกันนะ
00:06:25 → 00:06:30 ครับวันนี้เราคุยกับเอ่อวิทยากรทั้ง 2
00:06:30 → 00:06:32 ท่านนะครับท่านหนึ่งก็อาจจะให้ทางหลัก
00:06:32 → 00:06:34 ธรรมอีกท่านหนึ่งก็อาจจะให้ทางหลักคิดทาง
00:06:34 → 00:06:37 ด้านวิชาการนะครับอ่าผมขออนุญาตแนะนำนะ
00:06:37 → 00:06:41 ครับท่านแรกนะครับอ่าพระอาจารย์จิตพระ
00:06:41 → 00:06:44 อาจารย์จิตจิตตสังวโรนะครับหรือผมจะขอ
00:06:44 → 00:06:47 อนุญาตเรียกว่าหลวงพี่โก๋ก็แล้วกันนะครับ
00:06:47 → 00:06:50 อ่าหลวงพี่โก๋นี่ทำงานเผยแพร่ธรรมะด้วย
00:06:50 → 00:06:52 แล้วก็ยังเป็นจิตอาสาดูแลผู้ป่วยแบบ
00:06:52 → 00:06:54 ประคับประคองด้วยนะครับหลวงพี่โก๋จะมาพูด
00:06:54 → 00:06:57 ในมุมของธรรมะในเชิงของการรับมือการสูญ
00:06:57 → 00:06:59 เสียแล้วก็จริงๆหลวงพี่โก๋ก็จะมี
00:06:59 → 00:07:02 ประสบการณ์พอสมควรนะครับเพราะว่าบอกว่า
00:07:03 → 00:07:06 มีเพื่อนๆหรือว่าญาติธรรมต่างๆนานานี่
00:07:06 → 00:07:09 แหละครับเข้ามาปรึกษาปัญหาความทุกข์ในการ
00:07:09 → 00:07:12 สูญเสียคนที่เรารักไปก่อนไว้ยอันควรนะ
00:07:12 → 00:07:14 ครับกราบนมัสการหลวงพี่โก๋นะครับครับ
00:07:14 → 00:07:18 เจริญพรครับพี่ประสาทผู้ฟังครับครับครับ
00:07:18 → 00:07:21 และอีกท่านนึงนะครับอ่าอยู่กับเราเป็น
00:07:21 → 00:07:24 ประจำนะครับอาจารย์กระแตศาสตราจารย์ดร
00:07:24 → 00:07:26 อรัญญาตุ้ยคัมภีร์อาจารย์ประจำคณะ
00:07:26 → 00:07:29 จิตวิทยาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนะครับ
00:07:29 → 00:07:31 อาจารย์เชี่ยวชาญทางด้านการให้คำปรึกษา
00:07:31 → 00:07:34 และดูแลผู้สูงและดูแลผู้สูงวัยครับสวัสดี
00:07:34 → 00:07:37 ครับอาจารย์กระแตครับค่ะกราศการหลวงพี่
00:07:37 → 00:07:40 แล้วก็สวัสดีค่ะคุณประสานสวัสดีครับอตอน
00:07:40 → 00:07:42 นี้คนก็ทยอยยอยกันเข้ามาแล้วนะครับอ่าตอน
00:07:42 → 00:07:46 นี้ก็แต่ละท่านก็เป็นนักพยากรณ์สภาพอากาศ
00:07:46 → 00:07:48 รายงานสภาพอากาศกันไปก่อนนะครับก็รายงาน
00:07:48 → 00:07:50 กันมาแต่ละที่นี่แปดกริ้วมืดครึ้มมาตั้ง
00:07:50 → 00:07:53 แต่นะครับแต่ว่าฝนยังไม่ตกนะครับอคนฝนยัง
00:07:54 → 00:07:56 ไม่ตกก็อยากให้ฝนตกนะฮะเพราะว่าจะได้คลาย
00:07:56 → 00:07:58 ร้อนส่วนคนฝนตกแล้วก็รู้สึกว่าอยากจะให้
00:07:58 → 00:08:01 ฝนหยุดนะนะครับเพราะว่าบางทีตกมาจนน่า
00:08:01 → 00:08:03 กลัวกลัวบ้านจะรั่วกลัวน้ำจะท่วมนะครับ
00:08:03 → 00:08:05 พวกนี้ก็จะเป็นเรื่องที่นานาจิตังคกันไป
00:08:05 → 00:08:08 ใช่มั้ครับบางทีไม่ได้ก็อยากได้พอได้แล้ว
00:08:08 → 00:08:10 ก็อยากอยากจะเลิกอะไรแบบนี้นะครับวันนี้
00:08:10 → 00:08:13 เราจะคุยกันประเด็นนี้ครับอ่าสำหรับเพื่อ
00:08:13 → 00:08:15 หลายๆท่านที่เพิ่งจะเข้ามานะครับก็คือคุย
00:08:15 → 00:08:17 เรื่องการรับมือกับความสูญเสียของบรรดา
00:08:17 → 00:08:20 คุณพ่อคุณแม่นี่แหละครับเมื่อลูกหรือว่า
00:08:20 → 00:08:23 พูดง่ายๆลูกๆหลานๆจะต้องจากไปก่อนวัยอัน
00:08:23 → 00:08:26 ควรนะครับเราเคยคาดหวังว่าเราแก่เท่าเรา
00:08:26 → 00:08:29 น่าจะจากไปก่อนแต่ตรงกันข้ามลูกๆหลานๆ
00:08:29 → 00:08:32 กลับจากเราไปก่อนเพราะฉะนั้นคำถามสำคัญก็
00:08:32 → 00:08:35 คือว่าเราจะรับมือกับสิ่งเหล่านี้อย่างไร
00:08:35 → 00:08:38 จะดูแลจิตใจของเราอย่างไรในวันที่ชีวิตจะ
00:08:38 → 00:08:41 ต้องเดินต่อไปนะครับผมเริ่มที่หลวงพี่โก๋
00:08:41 → 00:08:43 ก่อนดีมั้ครับเมื่อกี้ก่อนเข้ารายการเรา
00:08:43 → 00:08:46 คุยกันว่าหลวงพี่โก๋น่าจะให้คำปรึกษา
00:08:46 → 00:08:48 เรื่องนี้กับหลายๆคนพอสมควรทีเดียวใช่
00:08:48 → 00:08:51 มั้ยครับว่าต้องรับมือกับความสูญเสียใน
00:08:51 → 00:08:54 ลักษณะที่คาดไม่ถึงแบบนี้ครับนิมนต์หลวง
00:08:54 → 00:09:01 พี่ครับครับก็เอ่อเจริญพรครับอืจริงๆ
00:09:01 → 00:09:04 อย่างที่พี่ประสานบอกอ่ะนะครับว่ามันเป็น
00:09:04 → 00:09:06 เรื่องที่ไม่ใช่เรื่องพึงประสงค์แต่มันก็
00:09:06 → 00:09:10 เกิดขึ้นได้นะครับแล้วก็เอ่อพอพี่ประสัน
00:09:10 → 00:09:14 ถามว่าแล้วคนรอบตัวเราประสบหรือเปล่าจริง
00:09:14 → 00:09:18 ๆแล้วก็ไม่น้อยนะครับหลวงพี่มีเพื่อนๆ
00:09:18 → 00:09:21 ซึ่งเสียลูกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ก็มีเสีย
00:09:21 → 00:09:25 ลูกตั้งแต่พึ่งคลอดออกมาอายุน้อยๆก็มีนะ
00:09:25 → 00:09:30 ครับแล้วก็เในช่วงเวลาที่เอ่อพำนักอยู่
00:09:30 → 00:09:33 ที่วัดป่าธรรมอุทยานจังหวัดขอนแก่นนะครับ
00:09:33 → 00:09:37 หลวงพี่ก็มีโอกาสไปร่วมงานเป็นจิตอาสาให้
00:09:37 → 00:09:41 กับเอ่อศูนย์การุณรักนะครับโรงพยาบาล
00:09:41 → 00:09:45 ศรีนครินทร์ซึ่งก็เป็นเอ่อโรงพยาบาลเอิ
00:09:45 → 00:09:48 โรงพยาบาลหลักนะครับของขอนแก่นนะครับ
00:09:48 → 00:09:52 ศูนย์นี้ก็คือเอ่อรักษาเยียวยาจิตใจของ
00:09:52 → 00:09:55 ผู้ที่เ่อเป็นศูนย์เกี่ยวกับดูแลประคับ
00:09:56 → 00:09:58 ประคองด้วยนะครับแล้วก็เยียวยาจิตใจหลัง
00:09:58 → 00:10:02 การสูญเสียด้วยก็นึกนะครับเคสต่างๆที่เรา
00:10:02 → 00:10:06 เคยเจอก็ไม่น้อยนะครับนะครับก็ก็ไม่น้อย
00:10:06 → 00:10:08 ถ้าถาม
00:10:08 → 00:10:12 ว่าตอบก็ตอบไม่ได้ถ้าถ้าพูดถึงปริมาณก็ก็
00:10:12 → 00:10:15 ยังตอบไม่ถูกนะครับแต่เราก็เห็นว่าเกิด
00:10:15 → 00:10:19 ขึ้นได้ทุกวัยอืนะครับแล้วบางทีก็ทำใจได้
00:10:19 → 00:10:23 ได้ง่ายบางทีก็ทำใจได้ยากก็คงจะเหมือนกับ
00:10:23 → 00:10:25 การสูญเสียทั่วไปไม่ว่าจะเป็นลูกเสีย
00:10:25 → 00:10:31 บุพการีหรือบุพการีเสียเอ่อลูกหลานนะครับ
00:10:31 → 00:10:35 ก็มีทั้งที่ใช้เวลายาวนานมากนะครับส่งผล
00:10:35 → 00:10:39 กระทบกระเทือนกับจิตใจรุนแรงนะครับแล้วก็
00:10:39 → 00:10:41 มีที่ที่ปรับตัวได้เร็วด้วยเหมือนกันนะ
00:10:41 → 00:10:44 ครับก็ก็คล้ายๆกันนะครับตามหลักธรรมก็
00:10:44 → 00:10:48 เป็นเรื่องของอย่างนี้นี้ล่ะครับว่าเรา
00:10:48 → 00:10:51 เราวางใจได้เร็วแค่ไหนเราปรับตัวได้เร็ว
00:10:51 → 00:10:54 แค่ไหนนะครับก็ก็ได้มีโอกาสพบอยู่เรื่อย
00:10:54 → 00:10:58 ครับทั้งในฐานะเพื่อนๆคนใกล้ตัวและในฐานะ
00:10:58 → 00:11:02 จิตอาสาครับอืแต่ต้องบอกก่อนครับหลวงพี่
00:11:02 → 00:11:05 โก๋บางทีการสูญเสียของคุณพ่อคุณแม่นี่ผม
00:11:05 → 00:11:07 เห็นว่ามันมีอาจจะบอกเราอาจจะแบ่งเป็น 2
00:11:07 → 00:11:09 รูปแบบก็ได้นะครับก็คือบางทีเราก็อาจจะ
00:11:09 → 00:11:11 เตียมีเวลาให้เราเตรียมตัวสักระยะหนึ่ง
00:11:11 → 00:11:16 เช่นเราอยู่ๆมาวันนึงนะครับเราอายุ 70 80
00:11:16 → 00:11:19 ลูกเราเพิ่งอายุประมาณ 40 50 ปรากฏว่าไป
00:11:19 → 00:11:21 ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งอะไรอย่างเงี้นะฮะ
00:11:21 → 00:11:22 แล้ว
00:11:22 → 00:11:26 ก็พูดง่ายๆนะครับก็จะรอดหรือไม่รอดก็อยู่
00:11:26 → 00:11:28 ในกระบวนการรักษาบางทีเราแทบจะต้องเห็น
00:11:28 → 00:11:30 ลูกเราอยู่กระบวนในกระบวนการรักษาที่แบบ
00:11:30 → 00:11:34 ว่าค่อนข้างยากลำบากทำคีโมฉายแสงอะไรก็
00:11:34 → 00:11:36 ว่ากันไปนะครับจากนั้นก็เริ่มมองเห็นว่า
00:11:36 → 00:11:38 ลูกเราจะอยู่หรือลูกเราจะไปอันนี้ก็เป็น
00:11:38 → 00:11:41 เส้นทางที่ผมคิดว่าหลายๆพ่อแม่หลายๆคนก็
00:11:41 → 00:11:44 เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้แต่ในขณะเดียวกัน
00:11:44 → 00:11:47 มันก็มีการเหตุการณ์ที่แบบจากไปแบบปุกปับ
00:11:47 → 00:11:49 ด้วยเหมือนกันโดยสภาวะสังคมที่มันค่อน
00:11:49 → 00:11:51 ข้างซับซ้อนทุกวันนี้นะครับบางทีลูกเราก็
00:11:51 → 00:11:54 รู้สึกว่ามันยากเกินไปที่จะอยู่แล้วอะไร
00:11:54 → 00:11:58 อย่าเงี้ยฮะล่าสุดก็ก็ขออนุญาตอาจจะพัด
00:11:58 → 00:12:01 พิงนิดนึงนะครับที่เราจะเคยเห็นข่าวนะ
00:12:01 → 00:12:06 ครับอ่าข่าวของอ่าดาราท่านหนึ่งซึ่งลูกก็
00:12:06 → 00:12:09 ก็ดูแลกันมาอย่างดีครับเผอิญว่าลูกชายอาจ
00:12:09 → 00:12:12 จะมีอาการป่วยที่สุดแล้วก็ไม่สามารถที่จะ
00:12:12 → 00:12:14 เมื่อไม่สามารถที่ผ่านตรรงนั้นไปได้ก็ทำ
00:12:14 → 00:12:16 อะไรบางสิ่งบางอย่างที่บางทีแม่ก็คาดไม่
00:12:16 → 00:12:19 ถึงอะไรอย่างงี้นะครับแม้ว่าจะเฝ้าระวัง
00:12:19 → 00:12:22 พยายามอย่างเต็มที่ผมว่าผมว่าเหตุการณ์
00:12:22 → 00:12:24 แบบนี้ครับลุงพี่โกบางทีบางทีมันก็เป็น
00:12:24 → 00:12:26 เรื่องที่พ่อแม่ต้องเผชิญต้องเตรียมตัว
00:12:27 → 00:12:29 เหมือนกันใช่มั้ครับ
00:12:29 → 00:12:33 ใช่ครับอืแบบในลักษณะนี้หลวงพี่ก็ได้ได้
00:12:33 → 00:12:37 พบอยู่นะครับมีคนที่ทั้งก้าวข้ามได้เร็ว
00:12:37 → 00:12:41 แล้วก็ก้าวข้ามได้ช้านะครับแล้วก็เอ่อบาด
00:12:41 → 00:12:44 เจ็บหนักก็มีนะครับก็จริงๆก็เป็นการสูญ
00:12:44 → 00:12:48 เสียที่ค่อนข้างมากนะฮะแล้วก็แบบนี้ก็มี
00:12:48 → 00:12:52 นะครับแล้วก็ไม่ใช่ในลักษณะนั้นก็มีนะ
00:12:52 → 00:12:55 ครับเป็นนักกีฬาที่เคสนึงที่หลวงพี่ได้มี
00:12:55 → 00:12:58 โอกาสไปเยี่ยมนะครับสุขภาพดีมากเลย
00:12:58 → 00:13:02 ระหว่างที่ซ้อมกีฬาอยู่เป็นนักเรียนเอิ่ม
00:13:02 → 00:13:04 เป็นนักเรียนมหาวิทยาลัยนะครับในจังหวัด
00:13:04 → 00:13:07 ที่หลวงพี่อยู่นี่แหละนะครับปี 2 เองครับ
00:13:07 → 00:13:11 แล้วก็ระหว่างซ้อมกีฬาเพื่อนนึกว่าเป็นลม
00:13:11 → 00:13:15 แต่จริงๆคืออาการหัวใจวายนะครับเพื่อนก็อ
00:13:15 → 00:13:18 พาไปเอาเอาประเ่อเค้าเรียกว่าอะไรครับดู
00:13:19 → 00:13:21 แลรักษาเพราะนึกว่าเพื่อนเป็นลมเป็นลมแดด
00:13:22 → 00:13:24 หรือเป็นอะไรอย่างเงี้ยนะครับเอ่อช่วง
00:13:24 → 00:13:27 เวลามันยาวนานเกินไปกว่าจะตัดสินใจเรียก
00:13:27 → 00:13:31 รถทั้งๆที่คณะที่อยู่กับเอ่อโรงพยาบาล
00:13:31 → 00:13:33 เนี่ยเรียกว่าเกือบอยู่ในรั้วเดียวกันเลย
00:13:33 → 00:13:36 อืนะครับมันเกิน 20 นาทีก็เลยมีภาวะสมอง
00:13:36 → 00:13:40 ตายครับนะครับอันนั้นก็อันนั้นก็ก็ก็ก็
00:13:40 → 00:13:43 ระดับหนึ่งเลยเพราะว่าสภาพลูกเนี่ยข้าง
00:13:43 → 00:13:47 นอกเหมือนคนสุขภาพแข็งแรงเหมือนแค่ลูกชาย
00:13:47 → 00:13:50 นอนไปเท่านั้นเองนะครับแต่ว่าในเชิงการ
00:13:50 → 00:13:53 แพทย์เมื่อสมองตายเนี่ยเราก็รู้ละว่าเรา
00:13:53 → 00:13:57 ทำอะไรได้ไม่มากครับอันนี้ก็จะเป็นอีกแบบ
00:13:57 → 00:14:00 นึงครับได้มีโอกาสเคสนี้หลวงพี่ได้มี
00:14:00 → 00:14:02 โอกาสคุยกับคุณพ่อคุณแม่เหรือเปล่าครับ
00:14:02 → 00:14:04 เพราะว่าลูกนี่สุขภาพแข็งแรงกำลังอยู่ใน
00:14:04 → 00:14:06 วัยที่แบบเรียนหนังสือจบจะออกไปทำงานเป็น
00:14:06 → 00:14:11 ความหวังเลยฮะครับอันนั้นคือปี 2 เองนะ
00:14:11 → 00:14:13 ครับแล้วเรียกว่าร่างกายแข็งแรงกว่าคน
00:14:13 → 00:14:17 ทั่วไปด้วยนะเพราะว่าเป็นเป็นเป็นนักกีฬา
00:14:17 → 00:14:21 แล้วก็เอิ่มอก็เรียกว่าอะไรดีครับเราเรา
00:14:21 → 00:14:24 อยู่ตรงนั้นเพื่อบางทีพอเป็นพระครับคำถาม
00:14:24 → 00:14:29 ก็คือเช่นลูกเ้าทำบาปทำกรรมอะไรเนาะอือืๆ
00:14:29 → 00:14:32 ๆบางๆทีก็ไม่ใช่คำปรึกษาแต่เป็นขอระบาย
00:14:32 → 00:14:35 หน่อยได้มั้ยคำว่าลูกทำบาปทำกรรมหรืออะไร
00:14:36 → 00:14:40 แล้วตอนนี้ลูกเป็นยังไงซึ่งก็ซึ่งหลวง
00:14:40 → 00:14:44 หลวงพี่ก็ตอบไม่ได้เนาะอ่าบางทีก็ต้องก็
00:14:44 → 00:14:47 ต้องถามคุณหมอแต่เราอยู่ที่นั่นเพื่อให้
00:14:47 → 00:14:52 เอิ่มเพื่อให้เค้าสบายใจรับฟังมากกว่าอนะ
00:14:52 → 00:14:55 ครับในกรณีนั้นก็จริงๆคุณพ่อคุณแม่ก็รู้
00:14:55 → 00:14:59 ความจริงล่ะครับเพราะว่าพี่ชายของน้อง
00:14:59 → 00:15:03 เอ่อเป็นเป็นบุรุษพยาบาลอีกจังหวัดหนึ่ง
00:15:03 → 00:15:06 ใกล้ๆกันเป็นบุรุษพยาบาลอยู่ที่อุดรธานี
00:15:06 → 00:15:09 แล้วก็เห็นเคสอย่างเงี้มาจำนวนนึงเลยนะ
00:15:09 → 00:15:11 ครับเพราะฉะนั้นเมีบทสนทนาภายในครอบครัว
00:15:11 → 00:15:14 อยู่แล้วแต่บางทีเองก็ต้องการ
00:15:14 → 00:15:17 เอ่อก็ต้องการพระสงฆ์นะครับที่ขอระบาย
00:15:17 → 00:15:20 ความในใจเลยสักหน่อยในบทตรงนั้นจริงๆแล้ว
00:15:20 → 00:15:23 หลวงพี่ก็เป็นผู้รับฟังที่ดีซะมากกว่าอืม
00:15:23 → 00:15:27 ครับครับผมว่าประโยคที่ว่าที่จะถามว่าเออ
00:15:27 → 00:15:29 ตัวเองทำบุญทำกรรมอะไรมาหรือว่าลูกตัวเอง
00:15:29 → 00:15:31 ทำบุญทำกรรมอะไรมาที่ต้องจากไปเร็วๆนี่ผม
00:15:31 → 00:15:34 ว่านะครับผมว่ามันเป็นมันก็เป็นคำถามที่
00:15:34 → 00:15:36 ถ้าสรุปรวมแล้วคือเอ้ยทำไมเรื่แบบนี้
00:15:36 → 00:15:38 เรื่องอะไรรามันต้องเกิดขึ้นกับตัวเอง
00:15:38 → 00:15:40 ด้วยอะไรอย่างเงี้ยนะฮะครับแล้วมีกรณี
00:15:40 → 00:15:41 อื่นมั้ยครับหลวงพี่
00:15:41 → 00:15:44 โก๋ก็เยอะ
00:15:44 → 00:15:50 ๆนะครับเยอะมีทั้งแบบโอ๊ก็ก็ก็ค่อนข้าง
00:15:50 → 00:15:52 เยอะทีเดียวนะครับมีมีบางอันที่หลวงพี่
00:15:52 → 00:15:56 คิดว่าก็สลับซับซ้อนทีเดียวคืออือเอิ่ม
00:15:56 → 00:15:59 สามีภรรยาฝากเราเรียกว่าอะไคุณปู่คุณย่า
00:15:59 → 00:16:02 หรือคุณตาคุณยายเนี่ยหลวงพี่ไม่ไม่แม่นนะ
00:16:02 → 00:16:04 ครับจะไม่ไม่ทราบว่าเป็นคุณพ่อคุณแม่ของ
00:16:04 → 00:16:09 ฝ่ายสามีหรือภรรยาดูลูกลูกก็ประมาณ 3 ขวบ
00:16:09 → 00:16:12 นะครับส่วนสามีภรรยาเนี่ยเอ่อเอ่อทำงาน
00:16:12 → 00:16:17 อยู่ในต่างประเทศนะครับแล้วก็ฝากปู่ย่า
00:16:17 → 00:16:20 หรือตายายนี่แหละเลี้ยงเลี้ยงหลานนะครับ
00:16:20 → 00:16:23 แล้วก็เอ่อคอยส่งเงินมาดูแลทั้งปู่ย่าตา
00:16:23 → 00:16:26 ยายแล้วก็เป็นข้าเลี้ยงหลานปรากฏว่าหลาน
00:16:27 → 00:16:31 มีโรคบางอย่างนะครับไม่ไม่ใชอรอะไเลยแต่
00:16:31 → 00:16:34 แสดงออกเมื่ออายุประมาณ 34 ขวบนี่แหละนะ
00:16:34 → 00:16:38 ครับแล้วเป็นที่รักมากนะครับเป็นที่รัก
00:16:38 → 00:16:43 ของเอ่อคุณตาคุณยายนี่แหละนะครับแล้ววันๆ
00:16:43 → 00:16:46 ก็คืออยู่กับหลานจนกระทั่งหลานนี่เป็น
00:16:46 → 00:16:49 เหตุผลในการดำรงชีวิตนะครับเป็นกิจกรรม
00:16:49 → 00:16:53 หลักๆแหละนะครับกิจกรรมในชีวิตเนี่ยล้อม
00:16:53 → 00:16:57 อยู่รอบๆหลานพอหลานมีสภาพอย่างงนี้ก็ย้าย
00:16:57 → 00:17:00 ทั้งหมดเนี่ยมามาอยู่ในโรงพยาบาลทีนี้
00:17:00 → 00:17:03 ทั้งความรู้สึกผิดต่อลูกตัวเองเอ๊ะเราทำ
00:17:03 → 00:17:07 อะไรผิดแล้วลูกเอยู่ที่นั่นแทนที่จะทำงาน
00:17:07 → 00:17:12 ด้วยความสบายใจต้องคอยกังวลอแล้วก็เอิ่ม
00:17:12 → 00:17:15 ลายนั้นถึงกับรู้สึกว่าถ้าถ้าหลานตาย
00:17:15 → 00:17:19 เนี่ยเขาขอไม่อยู่ด้วยอีกคนโอนะครับคำพูด
00:17:19 → 00:17:22 เหล่านี้ก็คือเขาไม่รู้เจะอยู่ยังไงเไม่
00:17:22 → 00:17:26 รู้จะไปต่อยังไงคำอธิบายของของโดยเฉพาะ
00:17:26 → 00:17:29 คุณยายหรือคุณย่าเนี่ยก็คือเหมือนหัวใจ
00:17:29 → 00:17:32 เ้าอ่ะหลานเคือหัวใจของเขาถ้าหลานเป็น
00:17:32 → 00:17:35 อะไรไปก็เหมือนกับหัวใจเขาสลายไปด้วยคน
00:17:35 → 00:17:38 นึงครับก็คือเราเราเราก็ฟังนะครับเพราะ
00:17:38 → 00:17:41 ว่าการสูญเสียแต่ละอย่างก็มีความหมายกับ
00:17:41 → 00:17:43 แต่ละคนที่แตกต่าง
00:17:43 → 00:17:47 กันนะครับแล้วเ่อคุณตาหรือคุณปู่เนี่ย
00:17:47 → 00:17:50 แหละนะครับก็อาจจะไม่ได้รู้สึกขนาดภรรยา
00:17:50 → 00:17:54 ของตนเองแต่ด้วยความเห็นภรรยาที่กำลัง
00:17:54 → 00:17:57 ห่วงหลานน้อยในลักษณะนั้นก็พอยกินไม่ได้
00:17:57 → 00:18:00 นอยไม่หลับไปด้วยอีกคนนึงอมันเหมือนมัน
00:18:00 → 00:18:03 เหมือนกันเป็นช่วงๆเนาะแล้วก็ห่วงกันเป็น
00:18:03 → 00:18:08 แพเลยโดยที่มีเงื่อนไขคือเอ่อชีวิตของ
00:18:09 → 00:18:12 หลานน้อยเนี่ยนะครับเป็นศูนย์กลางของของ
00:18:12 → 00:18:17 สถานการณ์ออือันนั้นก็มีนะครับเสียชีวิต
00:18:17 → 00:18:20 อย่างที่เ่อคล้ายๆกับที่พี่ประสานเปิดไว้
00:18:20 → 00:18:23 ก็คือพยายามอย่างดีที่สุดละนะครับอยู่
00:18:23 → 00:18:27 ห้องใกล้ๆกันเองนะครับเอ่อประชุมอยู่นะ
00:18:27 → 00:18:30 ครับแล้วประชุมมันเนิ่นช้าไปอีกสักหน่อย
00:18:30 → 00:18:33 เดียวเองนะครับแล้วก็พบว่าช่วยลูกตัวเอง
00:18:33 → 00:18:38 ให้ทันอืมนะครับแล้วก็โอ้มีมีหลายๆกรณีมี
00:18:38 → 00:18:42 มีหลากอายุมากนะครับตั้งแต่ไม่กี่ไม่กี่
00:18:42 → 00:18:46 สัปดาห์ก็มีอ่านะครับบางทีหลวงพี่ก็เห็น
00:18:46 → 00:18:49 ใจจริงๆนะครับเพราะว่าเด็กบางคนเนี่ยเ
00:18:49 → 00:18:53 เป็นโรคบางโรคที่ข้างนอกยังดูน่ารักดูน่า
00:18:53 → 00:18:56 รักเพิ่งพูดได้เพิ่งเรียกคุณคุณปู่คุณย่า
00:18:56 → 00:18:59 คุณตาคุณยายเนี่ยได้ไม่นาน
00:18:59 → 00:19:02 มันมันน่ารักมันเกิดความผูกพันข้างนอกก็
00:19:03 → 00:19:08 ดูดูดูเหมือนเด็กเด็กหลับไปแข็งแรงเองใช่
00:19:08 → 00:19:12 ดูคล้ายๆเด็กหลับนะบางทีในบางสภาวะเด็กก็
00:19:12 → 00:19:15 สภาพภายนอกก็จะเปลี่ยนไปมากบางทีเนี่ย
00:19:15 → 00:19:18 ข้างนอกยิ่งแล้วเนึกไม่ออกว่าเนี่ยลูกเขา
00:19:18 → 00:19:23 ใกล้กับคำว่าเ่อเสียชีวิตยังไงนะครับหรือ
00:19:23 → 00:19:27 เสียไปแล้วนแต่คุณแม่ไม่พร้อมไปดูแลตอน
00:19:27 → 00:19:31 นั้นบางทีก็เป็นบาดแผลในใจคุณยายบางคนถึง
00:19:31 → 00:19:35 กับต้องพบเอ่อคุณหมอทางด้านเพื่อเพื่อดู
00:19:35 → 00:19:38 แลรักษาสุขภาพจิตภายหลังนะครับแม้กระทั่ง
00:19:38 → 00:19:42 สูญเสียไปเป็นปีๆแล้วนะครับอครับใช่เพราะ
00:19:42 → 00:19:44 เรื่องแบบนี้มันเป็นมันเป็นแบบแระยะยาว
00:19:44 → 00:19:47 เหมือนกันนะครับอ้าอันนั้นเป็นเป็นอัน
00:19:47 → 00:19:50 นั้นลูกโตแล้วล่ะครับจบปริญญาเอกแล้วด้วย
00:19:50 → 00:19:53 นะครับแล้วก็เป็นอาจารย์ที่ 1 นะครับเป็น
00:19:53 → 00:19:55 อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งระหว่าง
00:19:55 → 00:19:59 ที่ไปทำงานคนละจังหวัดกันอก็ได้ยินลูกไม่
00:19:59 → 00:20:02 สบายเทียวไปเที่ียวมาไปดูแลกันบ้างไม่นาน
00:20:02 → 00:20:07 ครับนะตรงนี้ก็คุณแม่ก็เลยพบคุณหมอไปเลย
00:20:07 → 00:20:10 นะอาการยิ่งมาระเบิดอีกทีนึงเมื่อพเมื่อ
00:20:10 → 00:20:14 สามีตัวเองเนี่ยกำลังจะจากไปด้วยมันก็
00:20:14 → 00:20:18 เหมือนระเบิดลูกแรกที่ 2 ปีที่แล้วเนี่ย
00:20:18 → 00:20:21 อยู่ดีๆก็ยิ่งทำงานหนักขึ้นมาอีก
00:20:21 → 00:20:25 อืครับก็มันมันเป็นไปได้มันเป็นไปได้ทุก
00:20:25 → 00:20:30 รูปแบบเลยครับคาดเดาอะไรไม่ได้เลยครับ
00:20:30 → 00:20:33 ครับเพราะว่าจะว่าไปแล้วจิตใจมนุษย์มันก็
00:20:33 → 00:20:35 มีความซับซ้อนนะครับเวลาเราต้องเผชิญเหตุ
00:20:35 → 00:20:39 การณ์อะไรแบบนี้นะครับครับครับเดี๋ยวๆ
00:20:39 → 00:20:41 เดี๋ยวคงจะกลับมาที่หลวงพี่โก๋อีกรอบนึง
00:20:42 → 00:20:44 นะครับเพื่อจะฟังว่าแล้วจริงๆมันควรจะมี
00:20:44 → 00:20:47 แนวทางอะไรยังไงในการที่จะช่วยผมอาจจะบอก
00:20:47 → 00:20:49 ว่าทั้งเรื่องรักษารวมถึงเรื่องทั้ง
00:20:49 → 00:20:52 เตรียมตัวด้วยนะครับครับอาจารย์กอ่า
00:20:52 → 00:20:55 อาจารย์กระแตรอครับอาจารย์กระแตมีมี
00:20:55 → 00:21:01 ประสบการณ์คนใกล้ๆตัวเ่อ่อของตัวเองหรือ
00:21:01 → 00:21:03 ว่าบางทีญาติพี่น้องหรืออะไรใครอาจารย์
00:21:03 → 00:21:05 อาจารย์มีประสบการณ์อะไรทางนี้มั้ยครับ
00:21:05 → 00:21:08 ค่ะก็เวลาลงพื้นที่นะคะเราก็มักพบเหมือน
00:21:08 → 00:21:12 กันนะค่ะอ่าคุณประสานว่าแบบบางทีเราเจอ
00:21:12 → 00:21:15 อย่างพี่ๆหรือผู้สุกอายุทั้งหลายบางที
00:21:15 → 00:21:17 ท่านอยู่กันกับลูกสาวอย่างเงี้ยค่ะแล้ว
00:21:18 → 00:21:21 เกิดลูกสาวเสียขึ้นมาแล้วก็ญาติพี่น้อง
00:21:21 → 00:21:23 อื่นก็มีนะคะแต่ว่าไม่ไม่สนิทอ่ะไม่ผูก
00:21:23 → 00:21:27 พันอย่างเงี้ยค่ะพอลูกสาวเสียก็มันไปต่อ
00:21:27 → 00:21:30 ไม่ได้รู้สึกว่าตื่นขึ้นมาเคยมีลูกสาว
00:21:30 → 00:21:34 อยู่คอยดูแลแล้วพอพอวันนึงต้องอยู่คน
00:21:34 → 00:21:38 เดียวเนี่ยท่านก็แบบน้ำตาไหลนั่งน้ำตาไหล
00:21:38 → 00:21:41 อยู่อะไรอย่างเงี้ยตอนหลังก็ก็ฟื้นตัวได้
00:21:41 → 00:21:45 นะคะเนื่องจากพื้นก็คงเป็นพื้นที่อ่าดีมี
00:21:45 → 00:21:48 จิตใจที่ดีมาก่อนแล้วก็รอบข้างลูกๆหลานๆ
00:21:49 → 00:21:52 คนอื่นๆก็เข้ามาอ่าประคับประคองแต่แต่
00:21:52 → 00:21:56 อาการนี้ก็คงอยู่เป็นปีนะคะเป็นปีเนาที
00:21:56 → 00:21:59 นี้อใช่ครับค่ะอาจารย์พูดในเถะในมุมจิต
00:21:59 → 00:22:02 วิทยานิดนึงนะคะว่าความสคันนะว่าความความ
00:22:02 → 00:22:06 โศกอะไรหรือเศร้าเนี่ยแบบอจารแบบเอาเอา
00:22:06 → 00:22:08 แบบที่ยังไม่เป็นบาดแผลนะคะบาดแผลทางใจ
00:22:08 → 00:22:12 เนาะว่าลายที่ไปหาหลวงพี่เองเนี่ยหลวงพี่
00:22:12 → 00:22:15 ก็บอกว่าอืบาดแผลแล้วนะที่ต้องเยียวยาจิต
00:22:15 → 00:22:18 ใจจิตวิญญาณเหลวงพี่ได้ได้ช่วยดูแลตรงนี้
00:22:18 → 00:22:22 เยอะนะถ้าถอยๆมาเป็นการสูญเสียที่ที่เรา
00:22:22 → 00:22:25 อาจจะยังไม่เป็นบาดแผลนะคะเป็นสูญเสียใน
00:22:26 → 00:22:29 ในเป็นธรรมชาติทั้งหลายเนี่ยค่ะคนก็ยัง
00:22:29 → 00:22:31 ต้องมีราคาต้องจ่ายกับการสูญเสียเหมือน
00:22:31 → 00:22:34 กันนะคะคุณประสานท่านผู้ฟังออ่าอาจารย์
00:22:34 → 00:22:37 ย้อนนึกไปถึง 4-5 ปีก่อนมีข่าวใหญ่เลยค่ะ
00:22:37 → 00:22:41 ทาง้านหนังสือพิมพ์ว่าญี่ปุ่นจัดพิธีไม่
00:22:41 → 00:22:43 แน่ใจว่าคุณประสันเคยได้ยินหรือแได้ยิน
00:22:43 → 00:22:47 เนาะว่าจัดพิธีอ่าเรียกว่าพิธีไว้อลหรือ
00:22:47 → 00:22:51 งานศพให้กับหุ่นยนต์หุ่นยนต์ไบโอซึ่งเป็น
00:22:51 → 00:22:54 เป็นหุ่นยนต์หมาค่ะเป็นหุ่นยนต์หมาตัว
00:22:54 → 00:22:57 เล็กๆที่ที่ที่ญี่ปุ่นนะเาจะมีหุ่นยนตต์
00:22:57 → 00:22:59 ที่แบบอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุที่
00:22:59 → 00:23:02 ญี่ปุ่นผู้สูงอายุก็เยอะนะคะแล้วก็หุ่น
00:23:02 → 00:23:05 ยนต์ที่เขาจะน่ารักตรงที่แบบเสามารถที่จะ
00:23:05 → 00:23:09 แบบเซนซิกับกับีคกับอารมณ์ของผู้สูงอายุ
00:23:10 → 00:23:12 ได้ตอบสนองได้คือคือเหมือนมีสัตว์เลี้ยง
00:23:12 → 00:23:15 ในบ้านแต่เป็นสัตว์เลี้ยงแบบหุ่นยนต์
00:23:15 → 00:23:17 อย่างเงี้ยค่ะแล้วทีนี้มันเกิดปัญหาว่าพอ
00:23:18 → 00:23:21 ผลิตผลิตมาเนี่ยแบบมันไม่มีอะไหล่ก็เลย
00:23:21 → 00:23:25 ต้องหยุดผลิตแล้วก็พอหยุดผลิตแล้วมันก็
00:23:25 → 00:23:28 ผู้สูงอายุก็ไม่มีหุ่นยนต์แล้วก็ไม่รู้จะ
00:23:28 → 00:23:29 เอา
00:23:29 → 00:23:32 อือ่าเหมือนเหมือนเราเลี้ยงสุนัขแล้วก็
00:23:32 → 00:23:34 สุนัขก็ตายไปอะไรเงี้นะฮะเอเออแล้วซ่อม
00:23:34 → 00:23:38 ไม่ได้ก็พยายามจะซ่อมแต่ว่าโรงงานเผลิต
00:23:38 → 00:23:42 หยุดผลิตอ่าหุ่นยนต์นี้ค่ะผู้สูงอายุ
00:23:42 → 00:23:45 จำนวนมากเลยอ่ะค่ะที่มีมีเจ้าสัตว์เลี้ยง
00:23:45 → 00:23:49 หุ่นยนต์ตัวเนี้ยก็เสียใจก็คือ process
00:23:49 → 00:23:52 เดียวกับกีฟกับความโศกอาลัยนี่เลยค่ะทาง
00:23:52 → 00:23:56 บริษัทที่ทางโน้นทางญี่ปุ่นทางอ่าหมู่
00:23:56 → 00:23:59 บ้านที่มีผู้สูงอุุที่มีสัตว์เลเลยจัด
00:23:59 → 00:24:03 พิธีค่ะพิธีการไว้อาลัยคือแบบไว้อาลัย
00:24:03 → 00:24:07 แล้วก็มีทางกิประกอบกิจกรรมทางจิตวิญญาณ
00:24:07 → 00:24:10 เพื่อส่งให้เจ้าหุ่นยนต์หมาหมาน้อยตัว
00:24:10 → 00:24:13 เนี้ยแบบเออไปสู่สุคติอย่างเงี้ยค่ะผู้
00:24:13 → 00:24:17 สุขอายุถึงทำใจที่แบบเออตัดขาดได้แล้วก็
00:24:17 → 00:24:20 อาจจะผูกพันกับสิ่งใหม่อย่างเงี้ยค่ะเนาะ
00:24:20 → 00:24:23 ในในธรรมชาติกลไกเหล่าเนี้ยแม้ว่าจะเป็น
00:24:23 → 00:24:26 การสูญเสียโดยปกตินะคะเราก็ต้องการสิ่ง
00:24:26 → 00:24:29 นี้ค่ะสิ่งที่เยียวยาจิตวิญญาณสิ่งที่บอก
00:24:29 → 00:24:32 กับเราว่าอ่ะอ่ะต่อไปเราจะ Mo On แล้วนะ
00:24:32 → 00:24:35 ไปแชปเตอร์ใหม่ของชีวิตอย่างเงี้ยค่ะนะ
00:24:35 → 00:24:38 การสูญเสียนี่มันเหมือนเหมือนสัญญาณที่จะ
00:24:38 → 00:24:39 บอกเราว่า
00:24:39 → 00:24:45 อ่าจะไปทางนึงคือคือจมจมอยู่กับเศร้าเลย
00:24:45 → 00:24:48 นะคะบัดแผลไปเลยหรืออีกทางนึงคือเป็นจุด
00:24:48 → 00:24:51 ทำให้เราแบบเรียกว่าดวงตาเห็นธรรมเนาเข้า
00:24:51 → 00:24:55 ใจชีวิตแล้วก็แล้วก็เข้าใจการเปลี่ยนแปลง
00:24:55 → 00:24:57 แล้วสักวันนึงเราก็ถึงจุดนี้อย่างเงี้ย
00:24:57 → 00:25:00 มันมี 2 ทางจริงจริงค่ะแล้วก็อ่าโดยคน
00:25:00 → 00:25:03 ทั่วๆไปถ้าเกิดว่าเราได้เตรียมตัวกันมา
00:25:03 → 00:25:06 ก่อนนะคะได้บางคนก็เตรียมตัวด้วยการ
00:25:06 → 00:25:08 ปฏิบัติธรรมปฏิบัติตามความเชื่อศาสนาหรือ
00:25:08 → 00:25:11 หรือบางคนก็เตรียมตัวด้วยการแบบมาเป็น
00:25:11 → 00:25:14 อาสาสมัครหรือว่าเข้ากคุ้นชินกับกับ
00:25:14 → 00:25:17 เรื่องราวอย่างเงี้ยกับการเกิดแก่เจ็บตาย
00:25:17 → 00:25:20 อันนี้ก็อก็เรียกว่าพอมีพิธีกรรมเข้ามา
00:25:20 → 00:25:24 ช่วยนะคะทำให้เราครับสามารถก้าวข้ามได้
00:25:24 → 00:25:27 ง่ายได้เร็วอือันเนี้ยค่ะอันนี้ก็ก็เป็น
00:25:27 → 00:25:30 ช่องทางเหตุการณ์นี้ก็ทำให้เรารู้สึกว่า
00:25:30 → 00:25:33 เออนะถึงวัยแล้วล่ะเราอยู่ในวัยที่นต้อง
00:25:33 → 00:25:36 รับมือกับสิ่งเหล่านี้เราอยู่ในวัยที่จะ
00:25:36 → 00:25:39 ต้องเป็นอาจจะเป็นตัวอย่างให้กับรุ่นลูก
00:25:39 → 00:25:41 รุ่นหลานเนาว่าเราจะอยู่กับเรื่องนี้
00:25:41 → 00:25:44 อย่างเข้มแข็งได้อย่างไรหรืออยู่อย่าง
00:25:44 → 00:25:47 เข้าใจนะมันอาจจะจะจะร้องไห้บ้างนะแต่ก็
00:25:47 → 00:25:50 บนความเข้าใจอย่างเงี้ยค่ะมันมีช่องนี้
00:25:50 → 00:25:53 ด้วยนะคะซึ่งซึ่งอาจารย์ว่าท่านผู้ฟัง
00:25:53 → 00:25:56 หลายท่านก็อาจจะมีประสบการณ์นี้เนาะคือ
00:25:56 → 00:25:58 เข้าใจอ่ะเข้าใจว่าเอถึงเวล
00:25:58 → 00:26:02 ถึงเวลาแล้วล่ะเราทำเต็มที่แล้วหรือว่า
00:26:02 → 00:26:06 เรื่องเนี้ยบางคนใช้บางคนพอเกิดเหตุการณ์
00:26:06 → 00:26:10 เนี้ยทำให้เข้าใจคำสอนต่างๆที่ตัวเองชื่อ
00:26:10 → 00:26:13 ชื่อยึดถือตามศาสนาที่ตัวเองยึดมั่นนะว่า
00:26:13 → 00:26:15 โอ้เข้าใจละการกลับไปอยู่กับพระเจ้าเป็น
00:26:16 → 00:26:19 แบบนี้นี่เองเข้าใจละที่ครูบาอาจารย์สอน
00:26:19 → 00:26:22 ออคำนี้มันปวดใจขนาดนี้นี่เองอย่างเงี้ย
00:26:22 → 00:26:25 ค่ะคือเข้าใจเบนความเข้าใจอันนี้คือคือ
00:26:26 → 00:26:29 ช่องทางปกตินะคะช่องทางทางจีว่าเงี้ยคือ
00:26:29 → 00:26:32 การปรับตัวปกติของคนเราค่ะอืเนาะซึ่งซึ่ง
00:26:32 → 00:26:36 มีคนจำนวนนึงนะคะที่ไปช่องนี้แล้วก็เติบ
00:26:36 → 00:26:39 โตค่ะก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่เป็นที่พึ่งให้
00:26:39 → 00:26:43 กับรุ่นหลังให้กับคนแวดล้อมเนาะอแต่บางที
00:26:43 → 00:26:46 เราอาจจะไม่โชคดีอย่างนั้นนะคะก็อย่างที่
00:26:46 → 00:26:48 หลวงพี่โก๋บอกเนาะบางทีเราอาจเราก็อยากจะ
00:26:48 → 00:26:51 เป็นคนคนั้นนะเป็นคนที่แบบเอปรับตัวได้
00:26:51 → 00:26:54 แบบเป็นเป็นคนที่เป็นที่พึ่งให้กับคนอื่น
00:26:54 → 00:26:57 ได้แต่บางทีตัวเราเองก็มีกลไกบางอย่าง
00:26:57 → 00:27:02 เหมือนกันที่อาจจะอาจจะมีบาดแผลมาก่อนที่
00:27:02 → 00:27:05 เราพยายามเข้มแข็งแล้วก็ลืมไปแล้วครับ
00:27:05 → 00:27:09 หรือนะคะหรืออาจจะมีการสูญเสียเล็กๆน้อยๆ
00:27:09 → 00:27:12 ที่สะสมมาเจอสิ่งนี้พอดีแบบเหมือนโดนค้อน
00:27:12 → 00:27:15 ตอกอีกรอบนึงอย่างเงี้ยค่ะอันนี้ก็ก็จะไป
00:27:15 → 00:27:19 ช่องช่องของหลวงพี่เนาะแล้วก็จะมีมีทีม
00:27:19 → 00:27:22 หลวงพี่มีทีมวัดทั่วประเทศที่คอยแบบมีมี
00:27:23 → 00:27:26 ทางจิตวิญญาณที่คอยช่วยช่วยดูแลหรือมีนัก
00:27:26 → 00:27:29 จิตวิทยาหรือมีผู้เชี่ยวชาช่วยดูแลซึ่ง
00:27:29 → 00:27:32 ซึ่งอาจารย์ว่าตรงเนี้ยค่ะที่เราอาจจะ
00:27:32 → 00:27:35 ต้องเราอาจจะไม่อยู่ๆดีๆเราไม่รู้หรอกว่า
00:27:35 → 00:27:38 เราจะมีเป็นคนที่มีบาดแผลหรือเปล่าใช่ๆนะ
00:27:38 → 00:27:41 คะวันนี้วนี้ประเด็นคือเราอาจจะมาดูกัน
00:27:42 → 00:27:44 ว่าเอ๊ะถ้าคนที่มีบาดแผลนี่เราเข้าขาย
00:27:44 → 00:27:47 หรือยังเนี่ยที่ถ้าเกิดเหตุการณ์เนี้ยเรา
00:27:47 → 00:27:51 มีโอกาสจะสะเทือนใจมากกว่าคนอื่นหรือว่า
00:27:51 → 00:27:55 อาจจะสะเทือนใจสัญญาณอย่างเงี้ยมันไปจับ
00:27:55 → 00:27:59 ไม้จับมือกับความเศร้าเลยนะอาจจะซึมเศร้า
00:27:59 → 00:28:02 เลยก็ได้อย่างเงี้ยคะอาจารย์ว่ามันมีมัน
00:28:02 → 00:28:03 มีจุด
00:28:03 → 00:28:07 ที่จุดที่คิดว่าแบบการสูญเสียทั่วๆไปที่
00:28:07 → 00:28:10 เราปรับตัวได้ง่ายได้ตามธรรมชาติอาจจะไม่
00:28:10 → 00:28:13 มีเรื่องง่ายหรอกเรื่องนี้นะคะกับการสูญ
00:28:13 → 00:28:16 เสียที่มันขึ้นจากหลุมดำด้วยตัวเองไม่ได้
00:28:16 → 00:28:20 อ่ะค่ะต้องต้องมีต้องมีมือที่ช่วยต้องมี
00:28:20 → 00:28:23 คนที่ช่วยประคับประคองหรือว่าอย่างน้อยก็
00:28:23 → 00:28:26 เข้าใจครับเข้าใจการดิ้นรนของเราว่าเออ
00:28:26 → 00:28:29 อึ๋มดำเนี่ยมันไม่ง่ายนะอยู่ในนี้ก็ยาก
00:28:29 → 00:28:33 ปีนขึ้นไปก็ยากอย่างเงี้ยค่ะเนาค่ะแล้วใน
00:28:33 → 00:28:35 ทางจิตวิทยานี่ก็แบ่งเหมือนกันค่ะว่า
00:28:35 → 00:28:39 เนี่ยแบบถ้าเป็นเป็นการสูญเสียที่เรา
00:28:39 → 00:28:43 พร้อมที่จะเติบโตได้เรียนรู้นะคะเป็นคน
00:28:43 → 00:28:46 ที่แกร่งขึ้นเป็นคนที่แบบมีจิตใจเข้มแข็ง
00:28:46 → 00:28:49 ขึ้นเนี้ยอันเนี้ยก็เรียกว่า Normal grf
00:28:49 → 00:28:54 นะคะมันใช้เวลาแบบนะโดยทั่วๆไปก็ซักเ่า
00:28:54 → 00:28:56 มันมีคอนเซป 100 วันนะคะ 100 วันที่เวลา
00:28:56 → 00:29:00 คนเสียแล้วทำใจเอ 100 วันเออเก็บไว้ 100
00:29:00 → 00:29:03 วันนะค่ะนะคอนเซปประมาณนะการสูญเสียโดย
00:29:03 → 00:29:06 Normal หรือโดยปกติอจะจะใช้เวลาประมาณ
00:29:06 → 00:29:09 นั้นค่ะ 2 เดือนหรือ 100 วันหรือไม่เกิน 3
00:29:09 → 00:29:12 เดือนอันเนี้ยคนจะค่อยๆแบบประคับประคองใจ
00:29:12 → 00:29:18 ให้ให้อยู่ในระดับที่รับได้ทำใจได้อแต่
00:29:18 → 00:29:21 ไม่หายหรอกนะคะอ่าจากการพูดคุยกับหลายๆ
00:29:21 → 00:29:25 ท่านที่เคยสูญเสียเนี่ยไม่มีใครที่หายขาด
00:29:25 → 00:29:28 อ่ะค่ะพอมีเรื่องราวมากระตุ้นมันก็กลับมา
00:29:28 → 00:29:30 อีกได้อย่างเงี้ยนะคะเนาะอันเนี้ยแต่
00:29:30 → 00:29:34 อันเนี้ยคือคือคือความโศกเศร้าปกติค่ะแต่
00:29:34 → 00:29:38 มันมีอีกช่องนึงอ่ะค่ะที่ที่ความโศกเศร้า
00:29:38 → 00:29:41 ที่แบบที่มันไม่ปกติอ่ะค่ะคือมันอาจจะ
00:29:42 → 00:29:44 เรียกว่ายาวนานเกินไปหรือเรียกว่าลองกีฟ
00:29:44 → 00:29:47 อันเนี้ยนะคะอันนี้มันจะยังไม่ใช่ซึม
00:29:47 → 00:29:51 เศร้านะคะอันนี้คือโศกเศร้าแบบแบบยาวนาน
00:29:51 → 00:29:54 ค่ะโศกเศร้าอะไรคือปวดใจทุกครั้งที่มี
00:29:54 → 00:29:58 อะไรมากระตุ้นเตือนเห็นภาพมีกิจกรรมกรรม
00:29:58 → 00:30:02 ต่างๆที่เราเคยทำร่วมกับท่านหรือร่วมกับ
00:30:02 → 00:30:06 ลูกอะไรอย่างเงี้ยค่ะหรือหรือภาพที่มัน
00:30:06 → 00:30:10 หวนแว๊บนึกไปถึงอย่างเงี้ยส่วนใหญ่ความ
00:30:10 → 00:30:14 สูญเสียที่มันมันมันโกอะไรที่ผิดปกติ
00:30:14 → 00:30:19 เนี่ยค่ะมันมักจะเป็นบาดแผลทางใจอ่ะค่ะอื
00:30:19 → 00:30:22 ๆเนาคือมันมีแผลเกิดขึ้นค่ะที่เรามักจะ
00:30:22 → 00:30:24 ได้ยินบางทีคนแบบว่าสูญเสียคนที่เครัก
00:30:24 → 00:30:26 แล้วเขาบอกว่าเขาไม่สามารถที่จะอยู่อยู่
00:30:26 → 00:30:27 บ้านหลังนั้นได้อีกต่อไปอะไรอย่างเงี้นะ
00:30:27 → 00:30:30 ฮะผมบางทีผมเข้าใจว่าถ้าคนไม่ไม่ไม่เจอ
00:30:30 → 00:30:32 นี่ก็อาจจะไม่เข้าใจโมเมนต์แบบนี้นะครับ
00:30:32 → 00:30:35 อาจารย์อย่างงั้นเลยค่ะบางทีมันมันไม่
00:30:35 → 00:30:38 ผ่านการคิดด้วยนะคะพอสะเทือนใจปุ๊บน้ำตา
00:30:39 → 00:30:41 มันไหลแล้วแบบมันจะเหนื่อยอ่ะค่ะเหนื่อย
00:30:41 → 00:30:44 มากคนที่อยู่ในภาวะอย่างเงี้ยแล้วแล้วมัน
00:30:44 → 00:30:46 จะหงุดหงิดตัวเองด้วยนะคะหลายคนบอกว่า
00:30:46 → 00:30:49 เนี่ยแบบอาจารย์จากที่เคยทำอะไรได้เนี่ย
00:30:49 → 00:30:52 ตอนนี้แค่เดินไปหน้าบ้านก็จะแย่แล้วอย่าง
00:30:52 → 00:30:56 เงี้ยค่ะคือนะแล้วก็มีตามมาด้วยนอนไม่
00:30:56 → 00:30:59 หลับมาฝันถึงคนที่เสียไปอะไรอย่างเงี้ย
00:30:59 → 00:31:03 การออกจากพื้นที่เนี่ยมันช่วยทำให้กลไก
00:31:03 → 00:31:06 ต่างๆนี่มันมันลดการกระตุ้นลงอ่ะค่ะครับ
00:31:06 → 00:31:10 ก็น่าจะช่วยช่วยได้สักพักนึงนะคะช่วยให้
00:31:10 → 00:31:13 ระหว่างที่กำลังทำความเข้าใจอันนี้อันนี้
00:31:13 → 00:31:16 นับว่าเป็นบาดแผลล่ะค่ะต้องการหลวงพี่
00:31:16 → 00:31:18 เป็นอย่างยิ่งแล้วก็ต้องการผู้เชี่ยวชาญ
00:31:18 → 00:31:21 เนาะอันนี้เราพอพอแยกได้เนาะอันที่ 1 ถ้า
00:31:21 → 00:31:24 แบบความรุนแรงความเข้มนี่มันเยอะแล้วก็
00:31:24 → 00:31:27 ยาวนานเกิน 3 เดือนอะไรอย่างเงี้ยก็คิด
00:31:27 → 00:31:30 ว่าเราเราคงต้องเข้ากระบวนการค้นหาแล้ว
00:31:30 → 00:31:33 ว่าแบบเออนะมันศรัทธาหรือความเชื่อหรือ
00:31:33 → 00:31:36 จิตใจที่แกร่งของเรามันหายไปไหนหรือว่า
00:31:36 → 00:31:39 มันมีในทางจิตวิทยาบางทีมันก็จะมีบาดแผล
00:31:39 → 00:31:42 ก่อนหน้านี้หรือมีความสะเทือนใจที่เราเรา
00:31:42 → 00:31:45 เก็บไว้ก่อนหน้านี้ขึ้นมาอย่างเงี้ยค่ะ
00:31:45 → 00:31:49 ตรงนี้ก็อาจจะต้องต้องดูแลกันนะคะอบางที
00:31:49 → 00:31:51 ต้องใช่บางทีต้องการต้องการตัวช่วยบ้าง
00:31:51 → 00:31:54 ใช่มั้ยครับครับถูกค่ะถูกเช่นคำถามที่ว่า
00:31:54 → 00:31:56 ไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้อย่างเงี้ยค่ะบางที
00:31:56 → 00:31:59 มันอาจจะย้อนเว่าเออในวันที่ผ่านมาเเรา
00:31:59 → 00:32:03 อาจจะเคยมีบาดแผลแล้วก็อาจจะเป็นเป็นคน
00:32:03 → 00:32:06 ที่ไม่ใช่เหยื่อค่ะแต่เป็นคนทำอืๆแต่มัน
00:32:06 → 00:32:09 ก็เป็นบาดแผลนะคะในกระบวนการที่แบบแล้วมี
00:32:09 → 00:32:12 การแบบนะคะมีการจากมีการอะไรอย่างนี้มัน
00:32:12 → 00:32:15 ทั้งทั้งคนจากแล้วทั้งคนถูกจากเนาะมันก็
00:32:15 → 00:32:18 อยู่ในกระบวนการอย่างเงี้ยค่ะบางทีการที่
00:32:18 → 00:32:22 ได้ได้พูดคุยกับกับพระที่เราเคารพนับถือ
00:32:22 → 00:32:25 การได้พูดคุยกับนักจิตวิทยาที่เราไว้ใจนะ
00:32:25 → 00:32:29 มันทำให้เราย้อนไปถึงจุดนั้นได้อ่ะค่ะจุด
00:32:29 → 00:32:32 ที่เราเคยแบบเคยคอลแลปส์หรือว่าเคยพังมา
00:32:32 → 00:32:36 ก่อนอครับแล้วไปซ่อมแซมมันน่ะค่ะเรื่อง
00:32:36 → 00:32:38 ของความโศกอะไรนี่มันซ่อมได้นะคะจะต่าง
00:32:38 → 00:32:41 กับความเศร้าเนความเศร้านี่คือร่างกายมัน
00:32:41 → 00:32:45 พังด้วยไม่ใช่กลไกใจพังอย่างเดียวค่ะออ
00:32:45 → 00:32:48 ครับนะคะอันนี้เนาก็เลยคิดว่าอันแรกสุด
00:32:48 → 00:32:51 นี่คืออ่าเราสังเกตตัวเองแล้วแยกให้ออก
00:32:51 → 00:32:54 ว่าตอนนี้เราอยู่ในช่องไหนคะอืนะคะช่อง
00:32:54 → 00:32:58 ทางที่โอ๋อันนี้คือโศกเศร้าที่เป็นงานของ
00:32:58 → 00:33:01 ชีวิตที่ต้องทำแล้วเข้าใจแล้วเรามีแรงพอ
00:33:01 → 00:33:05 เรามีตัวช่วยพอนะคะกับอีกช่องทางนึงคือ
00:33:05 → 00:33:09 เรื่องเนี้ยถึงตัวช่วยจะเยอะแต่บาดแผลมัน
00:33:09 → 00:33:11 มันหนักหนาจริงๆอย่างเงี้ยค่ะอันเนี้ย
00:33:11 → 00:33:15 เรียกว่าต้องต้องประคับประคองตัวช่วยค่ะ
00:33:15 → 00:33:18 อันเนี้ยค่ะเราถ้าเราแยกอันแรกชัดเนี่ย
00:33:18 → 00:33:22 เราก็จะไปต่อได้อ่ะค่ะอือาจารย์มองมองแบบ
00:33:22 → 00:33:25 นี้นะคะเพราะฉะนั้นที่สำคัญเลยคือเราต้อง
00:33:25 → 00:33:27 ต้องต้องกลับมาสังเกตตัวเราเองครับว่าเรา
00:33:27 → 00:33:28 ต้องการตัวช่วยหรือเปล่าหรือว่าเราอยู่
00:33:28 → 00:33:31 พูดง่ายๆเราอยู่ในก้นอยู่ในหลุมของความ
00:33:31 → 00:33:33 ทุกข์นี่มันลึกแค่ไหนนะครับเอาพาตัวเอง
00:33:33 → 00:33:36 ขึ้นมาได้หรือเปล่าครับก็เลยอยากจะชวนทุก
00:33:36 → 00:33:38 ท่านที่กำลังนั่งฟังอยู่ครับผมคิดว่า
00:33:38 → 00:33:40 ประเด็นนี้น่าจะเป็นหัวข้อนึงที่ช่วยกัน
00:33:40 → 00:33:42 แชร์ได้ก็สามารถให้กำลังใจกันได้นะครับก็
00:33:42 → 00:33:44 ลองส่งคอมเมนต์กันเข้ามาดูนะครับลองแลก
00:33:44 → 00:33:45 เปลี่ยนกันก็ได้นะครับเมื่อกี้เมื่อสัก
00:33:45 → 00:33:47 ครู่นี้ท่านนึงก็ก็เขียนขึ้นมาใช่มั้ย
00:33:48 → 00:33:50 ครับบอกว่าเพิ่งสูญเสียคุณพ่อไปนะครับอ่า
00:33:50 → 00:33:53 โดยที่ตัวเองก็อ่าคุณบีนฤมลนะฮะบอกว่า
00:33:53 → 00:33:55 เพิ่งสูญเสียคุณพ่อไปกระทันหันไม่ได้ทัน
00:33:55 → 00:33:58 ได้ร่ำราจะ 1 ปีแล้วตอนนี้ยังคิดถึงคุณ
00:33:58 → 00:34:00 พ่อมากเื่ออยู่คนเดียวเหมือนยังทำใจไม่
00:34:00 → 00:34:02 ได้เศร้ามากไม่ทราบว่าต้องจัดการกับตัว
00:34:02 → 00:34:05 เองอย่างไรอ่าอันนี้เดี๋ยวผมอันนี้ผมจะขอ
00:34:05 → 00:34:07 เก็บเป็นคำถามเพื่อที่จะถามอาจารย์กระแต
00:34:07 → 00:34:09 กับหลวงพี่โก๋ด้วยนะครับว่ากรณีนี้เเราจะ
00:34:09 → 00:34:12 จัดการกับความโศกเศร้าอย่างไรบ้างนะครับ
00:34:12 → 00:34:16 วันก่อนผมได้คุยกับน้องที่ออฟฟิศคนนึง
00:34:16 → 00:34:17 ครับอาจารย์กระแตกับหลวงพี่โก๋ครับผมขอ
00:34:17 → 00:34:20 อนุญาตเอาเรื่องเคมาเล่าแล้วเบอกว่าเมี
00:34:20 → 00:34:22 คุณยายบอกว่าคุณยายของเขาเนี่ยเป็นคนที่
00:34:22 → 00:34:26 สูญเสียลูกไปถึง 3 คนนะครับก็คือบอกว่าคน
00:34:26 → 00:34:28 แรกเนี่ยตั้งแต่ตอนอาจจะยงลูกลูกเอย่าง
00:34:28 → 00:34:31 เด็กๆตอนนั้นก็คุณยายก็ยังสาวๆอยู่ส่วน
00:34:31 → 00:34:34 ลูกคนที่ 2 เนี่ยมันสูญเสียตอนที่เริ่มเเ
00:34:34 → 00:34:36 โตแล้วแล้วคือมีหลานแล้วอะไรอย่าเงี้นะฮะ
00:34:36 → 00:34:39 เป็นเป็นคนที่น่าผมเข้าใจว่าน่าจะทำใจได้
00:34:39 → 00:34:41 ยากที่สุดงเขาเล่าให้ผมฟังแล้วผมแบบ
00:34:41 → 00:34:45 สะเทือนใจมากเลยเบอกว่าบอกว่าคุณยายเ
00:34:45 → 00:34:48 เนี่ยตอนหลังจากที่ลูกสาวเสียไปหรือคุณ
00:34:48 → 00:34:50 แม่ของน้องคนนี้เสียไปเนี่ยคุณยายคนเนี้ย
00:34:50 → 00:34:55 ยังส่งไนไปหาคุณแม่เเนี่ยอยู่นานถึง 3
00:34:55 → 00:34:58 เดือนนะครับเพราะว่าถามว่ารู้ได้ไงรู้
00:34:58 → 00:35:00 เพราะว่าน้องที่น้องที่เล่าให้ผมฟังเนี่ย
00:35:00 → 00:35:02 ก็เป็นคนถือโทรศัพท์ไว้ก็จะเห็นข้อความ
00:35:02 → 00:35:05 จากคุณยายแล้วก็ส่งมาหาแม่เขาเนี่ยว่าคิด
00:35:05 → 00:35:08 ถึงจังเป็นยังไงบ้างโอ้โหผมฟังแล้วแบบว่า
00:35:08 → 00:35:11 คนนั้นนั่งคุยกันอยู่ฟังแล้วแบบว่านิ่ง
00:35:11 → 00:35:13 อึ้งไปนิดนึงนะครับรู้สึกว่าแค่แค่เรื่อง
00:35:13 → 00:35:16 แบบนี้มันฟังแล้วสะเทือนใจนะครับผมก็เข้า
00:35:16 → 00:35:18 ใจว่าเหมือนที่ที่อาจารย์กระแตบอกเลยว่า
00:35:18 → 00:35:21 ระยะเวลา 100 วันนะอะไรอย่างเงี้นะฮะแต่
00:35:21 → 00:35:24 แต่ด้วยความที่อาจจะเป็นคุณยายที่ที่มีมี
00:35:24 → 00:35:26 ประสบการณ์ในการมีชีวิตอยู่ผมก็เข้าใจว่า
00:35:26 → 00:35:29 เวลาก็อาจจะช่วยเยียวยาหรือให้คำตอบอะไร
00:35:29 → 00:35:32 บางอย่างกับกับคุณยายนะครับเนี่ยฮะตรงตรง
00:35:32 → 00:35:34 นี้ก็เลยกลับมาทางหพี่โก๋อีกรอบนึงครับ
00:35:34 → 00:35:36 เหมือนที่เมื่อกี้อาจารย์กระแตเกริ่นไว้
00:35:36 → 00:35:41 ฮะว่ากรณีแบบนี้นี่เราเราควรมีวิธีการมอง
00:35:41 → 00:35:44 สิ่งเหล่านี้อย่างไรหรือมีวิธีการพาตัว
00:35:44 → 00:35:47 เองหลุดมาจากสภาวะแบบนี้อย่างไรบ้างนะ
00:35:47 → 00:35:50 ครับเผื่อยังไงจะตอบคำถามของของผู้ฟังที่
00:35:50 → 00:35:52 เข้ามาด้วยนะครับเชิญนิมนต์เลยครับหลวง
00:35:52 → 00:35:57 พี่โกครับครับก็เป็นอย่างที่อาจารย์บอก
00:35:57 → 00:35:59 ไว้เลยนะครับอย่างที่อาจารย์กระแตบอกไว้
00:35:59 → 00:36:03 เลยว่าเอ่อเราไปอยู่ที่ก้นหลุมดำได้อย่าง
00:36:03 → 00:36:07 ไรนะครับเอ่อทำไมเราถึงอยู่ตรงนี้นะครับ
00:36:07 → 00:36:10 แล้วทำไมเราถึงอยู่ตรงนี้นานจังนะครับ
00:36:10 → 00:36:14 เวลาที่หลวงพี่ได้มีโอกาสเอ่อพูดคุยหรือ
00:36:14 → 00:36:16 รับฟังอ่ะนะครับส่วนใหญ่จะเป็นรับฟังสัก
00:36:16 → 00:36:21 90% เลยด้วยซ้ำนะครับเอิหลวงพี่มักจะมอง
00:36:21 → 00:36:25 หา 2 อย่างนะครับแล้วก็พยายามฟังดูเผื่อ
00:36:25 → 00:36:28 เขาจะได้ยินเสียงตัวเองด้วยโดยที่หลักๆก็
00:36:28 → 00:36:33 เป็นคำถามอะนะฮะว่าเอิถึงจุดนี้ได้ยังไง
00:36:33 → 00:36:37 นะครับหลุมดำเนี่ยเขาอยู่ตรงไหนแล้วทำไม
00:36:37 → 00:36:41 หลุมดำมันถึงตรึงเขไว้ได้นะครับทำไมถึง
00:36:41 → 00:36:46 อยู่จุดนี้นะครับแล้วก็เช่นนะครับบางทีก็
00:36:46 → 00:36:50 คือเหมือนกับเขาสร้างภาพไว้มากครับว่า
00:36:50 → 00:36:54 สมมุติสมมติเอาเอเอาเคสของคุณแม่เลี้ยง
00:36:54 → 00:36:57 เดี่ยวก็แล้วกันนะครับว่าเรามีกันอยู่ 2
00:36:57 → 00:37:00 แม่แม่ลูกเนาะอืเพราะฉะนั้นหลังจากลูก
00:37:00 → 00:37:04 เรียนจบแล้วภาพต่างๆภาพบรรยากาศภายในบ้าน
00:37:04 → 00:37:07 จนกระทั่งเราจะโตไปแม่ก็แก่เฒ่าลูกก็เติบ
00:37:08 → 00:37:13 โตขึ้นมาคือเพะถัดไปทั้งหมดเนี่ยมีลูก
00:37:13 → 00:37:19 อยู่ด้วยเสมอแม่นึกไม่ออกว่าบทบทบทต่อๆไป
00:37:19 → 00:37:22 แบบที่ไม่มีลูกเนี่ยเป็นยังไงเหรอเพราะ
00:37:22 → 00:37:26 ว่าแม่ก็แก่เฒ่าลงไปเรื่อยๆเนาะแล้วก็
00:37:26 → 00:37:28 เหมือนกับเรา
00:37:28 → 00:37:30 ถึงแม้ว่าจะเป็นแม่ลูกแต่ก็มีความเป็น
00:37:30 → 00:37:34 บัดดี้กันที่สุดแม่นึกไม่ออกออืว่าบทต่อ
00:37:34 → 00:37:37 ไปต่อๆไปเนี่ยที่จะไม่มีลูกเนี่ยเป็นยัง
00:37:37 → 00:37:41 ไงอันนี้ก็คือหลุมดำที่เกิดขึ้นนะครับ
00:37:41 → 00:37:46 เกิดจากการที่ว่าทุกๆวันเสร้างพอตที่จะมี
00:37:46 → 00:37:50 แม่และลูกเนี่ยอยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆแล้ว
00:37:50 → 00:37:55 แต่แต่ไม่เคยคิดถึงอาจจะมีช็อตบางช็อต
00:37:55 → 00:37:59 อะไรอย่างนี้เนาะแล้วก็อย่างเงี้ยครับก็
00:37:59 → 00:38:03 จะให้ดูว่าเรามาถึงจุดนี้ได้ยังไงหมายถึง
00:38:03 → 00:38:07 อะไรที่ส่งเรามาที่จุดนี้การคิดฉากความ
00:38:07 → 00:38:11 รู้สึกหรือบางทีภาวะพึ่งพานะครับเช่นโอ
00:38:12 → 00:38:16 แก่เฒ่าละทั้งคู่นะครับมองไปสามีก็อยู่บน
00:38:16 → 00:38:20 เตียงนะครับยังติดเตียงอยู่เลยตอนนี้
00:38:20 → 00:38:23 เหลือแต่แม่ซึ่งกำลังแก่เท่านะครับอ่ะอาจ
00:38:23 → 00:38:27 จะมีลูกสัก 2 คนแต่ลูกคนนึงก็อยู่กับอยู่
00:38:27 → 00:38:30 กับกับครอบครัวใหม่อืเนาะลูกที่อยู่ด้วย
00:38:30 → 00:38:33 เอาเอาสิยังไงจากนี้เป็นต้นไปมีแต่แม่
00:38:33 → 00:38:39 ซึ่งแก่เฒ่าลงทุกวันกับเอ่อพ่อที่อยู่บน
00:38:39 → 00:38:42 เตียงคือภาวะพึ่งพาแบบนี้ก็ก็น่าเห็นใจที
00:38:42 → 00:38:45 เดียวครับสักครู่อย่างที่หลวงพี่เล่าก็
00:38:45 → 00:38:50 คือเป็นฉากที่สร้างขึ้นเนาะแบบแบบอแบบ
00:38:50 → 00:38:54 เค้าเรียกอะไรดีอ่ะครับแบบมันเหมือนมัน
00:38:54 → 00:38:57 เป็นพลอที่สร้างขึ้นเป็นภาพบวกเนาะอันนี้
00:38:57 → 00:39:00 คือไม่ต้องสร้างอะไรมากเลยอ่ะพรุ่งนี้เรา
00:39:00 → 00:39:04 จะไปต่อยังไงอเออแม่ก็อายุเท่านี้แล้วอือ
00:39:05 → 00:39:07 ผมผมว่าประเด็นที่หลวงพี่โก๋พูดตรงนี้น่า
00:39:07 → 00:39:09 สนใจนะครับว่าแต่ละคนจะมีพที่ตัวเองสร้าง
00:39:09 → 00:39:12 ขึ้นนะพที่ตัวเองสร้างขึ้นก็คือว่าแม่การ
00:39:12 → 00:39:15 เติบโตของลูกสาวลูกสาวเข้ามหาวิทยาลัยเรา
00:39:15 → 00:39:17 ก็สร้างไว้ว่าเราจะเป็นยังไงบ้างแก่เท่า
00:39:17 → 00:39:19 ไปเจะดูแลแต่พอมาวันนึงลูกจากไปอย่าง
00:39:19 → 00:39:22 กะทันหันอันเนี้ยฮะถึงแสดงว่านั่นหมายถึง
00:39:22 → 00:39:25 ว่าการที่คนเราจะลุกขึ้นมาสร้างพตให้กับ
00:39:25 → 00:39:27 ชีวิตของเรานี่มันก็เป็นสิ่งที่คนระมัด
00:39:27 → 00:39:30 ระวังใช่มั้ยครับผมหลวงพี่โครับหลวงพี่
00:39:30 → 00:39:33 ว่ามันก็เลี่ยงยากนะครับแต่ละวันคุณแม่
00:39:33 → 00:39:38 เลี้ยงเดี่ยวที่ไปรับไปส่งทำอะไรเพื่อลูก
00:39:38 → 00:39:41 คือมันเป็นเรื่องของทฤษฎีแรงจูงใจธรรมดา
00:39:41 → 00:39:44 ใช่มั้ยฮะถ้าไม่มีความหวังก็ไม่รู้ว่าวัน
00:39:44 → 00:39:48 นี้จะเหนื่อยขนาดนั้นลุกขึ้นมาทำอาหารตาม
00:39:48 → 00:39:53 สั่งสู้ทุกวันเนี่ยแหละอืมเพื่ออะไรครับ
00:39:53 → 00:39:56 แล้วมันเหมือนแล้วมันเหมือนแบบทุกุกวัน
00:39:56 → 00:39:59 ที่เข้าครัวแล้วแม่เหนื่อยๆบางทีก็ตั้งคำ
00:39:59 → 00:40:02 ถามแม่เหนื่อยเพื่อใครอยู่นะอืครับมันมัน
00:40:02 → 00:40:05 มันพร้อมมันมันมันมันเหมือนกับแรงจูงใจก็
00:40:05 → 00:40:10 หายครับครับแล้วจะไปต่อไปยังไงก็หายพลอต
00:40:10 → 00:40:13 มันรวนกันหมดเลยอไปบวกกับในบ้านเนี่ยก็
00:40:13 → 00:40:15 บ้านเราเนาะเป็นบ้านทาวน์เฮ้าสอยู่อย่าง
00:40:15 → 00:40:19 นี้มันก็มีห้องลูกกับห้องแม่แล้วมันยังไง
00:40:19 → 00:40:22 ล่ะจากนี้เป็นต้นไปก็มีในบ้านเนี่ยมีของ
00:40:22 → 00:40:25 ของเราอยู่แค่ 2 คนครับนะตรงนี้ก็ภาพลูก
00:40:25 → 00:40:29 ตรงนี้ก็ภาพแม่ตรงนี้ก็ภาพเราอืตรงนั้นก็
00:40:29 → 00:40:32 ห้องลูกโอโหมันยังไงนี่ใช่มั้ยครับเพราะ
00:40:32 → 00:40:35 ฉะนั้นนอกจากพอตที่กำลังจะต่อไปแล้วเนี่ย
00:40:35 → 00:40:40 ความทรงจำทั้งหมดเนี่ยห้อมล้อมอยู่รอบตัว
00:40:40 → 00:40:44 อือันนี้เป็นเป็นเคสที่เอ่อหลวงพี่ลองลอง
00:40:44 → 00:40:48 ลองเล่าดูก็แล้วกันนะว่าบางทีก็ต้องฟัง
00:40:48 → 00:40:51 ด้วยด้วยความที่ว่าคุณโยมท่านเนี้ยเป็นคน
00:40:51 → 00:40:54 ที่มาตักบาตรที่วัดบ่อยมากอืนะครับแล้วก็
00:40:54 → 00:40:57 เล่าให้ฟังบอกเนี่ยแหละเอ่อหลวงพี่ก็รับ
00:40:57 → 00:41:01 นิมนต์ไปนะครับให้ลูกสาวร่ำลาอะไรต่างๆ
00:41:01 → 00:41:05 แล้วเสร็จไปแล้วก็บอกโอแม่แม่ก็มาถึงจุด
00:41:05 → 00:41:07 นี้แม่ก็แข็งแรงแล้วเนาะแม่เคยมีชีวิต
00:41:08 → 00:41:11 อยู่เพื่อนลูกเนาะแล้วก็ถึงวันนี้แผลนมัน
00:41:11 → 00:41:13 อาจจะเปลี่ยนไปบ้างอาจจะเป็นเวลาที่เรา
00:41:14 → 00:41:16 ต้องมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเองมั้ยอือะไร
00:41:16 → 00:41:18 อย่างเงี้ย
00:41:18 → 00:41:21 อแบบแม่มาถึงจุดนี้แล้วแม่เข้มแข็งเพื่อ
00:41:21 → 00:41:25 คน 2 คนตอนนี้มันอาจจะงงๆหน่อยนะที่เรา
00:41:25 → 00:41:28 ต้องเข้มแข็งเพื่อตัวเองครับคือมันก็ตรง
00:41:28 → 00:41:31 ไปตรงมาด้วยความที่เราเราเราค่อนข้างใกล้
00:41:31 → 00:41:34 ชิดกันอืครับหลวงพี่ครับแล้วถ้าอย่างกรณี
00:41:34 → 00:41:37 ที่ว่าเราอันนี้ผมอาจจะเป็นสถานการณ์ที่
00:41:37 → 00:41:40 ว่ากรณีเดียวกันที่คุณแม่เป็นแม่เลี้ยง
00:41:40 → 00:41:43 เดี่ยวดูแลลูกนะครับแล้วก็ทำงานหนักเพื่อ
00:41:43 → 00:41:45 ลูกส่งลูกเรียนหนังสือแต่มาวันนึงลูกก็
00:41:45 → 00:41:48 จากไปอย่างกะทันหันซึ่งแน่นอนว่ามันก็อาจ
00:41:48 → 00:41:50 จะเป็นพลอตที่หลวงพี่เล่ามาทั้งหมดนี่
00:41:50 → 00:41:52 แหละครับก็คือคนเราก็จะต้องสร้างพอตมี
00:41:52 → 00:41:54 ความหวังทำงานหนักไปเพื่ออะไรใช่มั้ยฮะ
00:41:54 → 00:41:56 แต่ปัญหามันก็คือเมื่อเื่อพอตมันไม่ได้
00:41:56 → 00:41:59 เป็นอย่างหวังนี่แหละครับอยู่ๆมาลูกก็จาก
00:41:59 → 00:42:01 ไปอะไรแบบนี้นะครับลูกก็จากไปอย่าง
00:42:01 → 00:42:04 กะทันหันตรงนี้หลวงพี่จะบอกว่ายังไงครับ
00:42:04 → 00:42:07 คนเรามันต้องมีกวากันเผื่อพื้นที่ไว้
00:42:07 → 00:42:10 เผื่อใจไว้หรือเราควรจะจริงจังกับพลอที่
00:42:10 → 00:42:11 เราสร้างขึ้นนี่ซักขนาดไหนครับหลวงพี่
00:42:11 → 00:42:15 ครับหลวงพี่เป็นคนระวังพลอตมากนะครับ
00:42:15 → 00:42:19 ระวังพอตก็คือจริงๆแล้วถ้าเราให้ความหมาย
00:42:19 → 00:42:23 ว่าลูกคืออนาคตพอลูกจบไปมันก็เหมือนอนาคต
00:42:23 → 00:42:26 เราก็ต้องคิดใหม่ใช่มั้ยฮะมันก็งงอ่ะว่า
00:42:26 → 00:42:30 ลูกคืออนาคตอย่างเงี้ยเพราะฉะนั้นจริงๆ
00:42:30 → 00:42:31 แล้วหลักธรรมเราเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า
00:42:31 → 00:42:37 อุปาทานก็คือการให้ความหมายนะครับลูกคือ
00:42:37 → 00:42:42 เหตุผลที่จะอยู่ลูกคือกำลังใจทีนี้พอลูก
00:42:42 → 00:42:48 หมดไปลูกๆๆลูกๆจบชีวิตก็รู้สึกกำลังใจหาย
00:42:48 → 00:42:50 นะครับเพราะฉะนั้นเราต้องมองไปว่าจริงๆ
00:42:50 → 00:42:53 แล้วกำลังใจอ่าลูกอาจจะเป็นหนึ่งในกำลัง
00:42:53 → 00:42:57 ใจแต่ชีวิตมนุษย์ก็ยังมีกำลังใจได้อีก
00:42:57 → 00:43:00 หลายทิศทางนะฮครับอะไรอย่างนี้เป็นต้น
00:43:00 → 00:43:04 เพราะฉะนั้นเราเราต้องดูว่าความหมายของ
00:43:04 → 00:43:07 ลูกคืออะไรแล้วเราจะถ้าอันนั้นเป็นเหตุผล
00:43:07 → 00:43:11 ในการไปต่อได้เนี่ยจะต้องเอาอะไรมาทดแทน
00:43:11 → 00:43:15 นะครับหรือให้ความหมายใหม่กับการสูญเสีย
00:43:15 → 00:43:18 อย่างเช่นนะครับอย่างที่หลวงพี่เคยได้ได้
00:43:18 → 00:43:20 ได้ได้แลกเปลี่ยนเล่าเรื่องนี้ให้ให้
00:43:20 → 00:43:23 อาจารย์กระแตฟังด้วยครับว่าพอถึงวันนึง
00:43:23 → 00:43:27 ครับหลวงพี่ก็ได้ทำกิจกรรมกับบ้านพักเ่อ
00:43:27 → 00:43:30 สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้านะครับแล้วก็บอกแ
00:43:30 → 00:43:34 แม่แม่ครับแม่ช่วยทำอาหารมาออกโรงทานให้
00:43:34 → 00:43:36 หลวงพี่หน่อยสิอะไรอย่างเงี้ยแล้ววันนั้น
00:43:36 → 00:43:39 แม่ก็มาบอกว่าอ๋อเป็นโรงทานกบสถาน
00:43:39 → 00:43:42 สงเคราะห์เหรองั้นแม่ขอเอากีตาร์ของลูก
00:43:42 → 00:43:46 สาวเนี่ยเอามาทำบุญกับหลวงพี่ได้มั้ยอืเอ
00:43:47 → 00:43:51 หลวงพี่ก็บอกว่าอออยากจะฝากหลวงพี่ให้กับ
00:43:51 → 00:43:53 สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าใช่มั้ยล่ะบอกใช่
00:43:54 → 00:43:56 ก็คือเหมือนเหมือนกับให้เรานี่แหละแล้ว
00:43:56 → 00:44:01 เรามอบต่อเนาะอืหลวงพี่ก็ถามว่าทำไมแบบ
00:44:01 → 00:44:05 เห็นแม่เคยแบบรู้สึกห่วงใยของเหล่านี้
00:44:05 → 00:44:09 ทำไมแม่แม่ถึงแม่ถึงอยากทำสิ่งนี้ล่ะอ
00:44:09 → 00:44:12 ครับเขาก็บอกอยากทำบุญให้ลูกออน่าเห็น
00:44:12 → 00:44:16 มั้ยฮะเราแปลกเราแปรเปลี่ยนความถุนหาความ
00:44:16 → 00:44:19 ห่วงหาอาทรพวกเนี้ยพอพลิกใหม่ว่าเราเ้าเอ
00:44:19 → 00:44:23 เราทำบุญให้เขาเอาของเขาไปทำบุญเก็คลาย
00:44:23 → 00:44:26 ความโศกเศร้าอะไรไปได้บ้างคือเราสามารถ
00:44:26 → 00:44:28 ให้ความหมายใหม่กับสิ่งของข้าวของ
00:44:29 → 00:44:31 ประสบการณ์ทั้งหลายอันนี้ก็เป็นกระบวนการ
00:44:31 → 00:44:34 นึซึ่งส่วนตัวหนึที่ค่อนข้างใช้เยอะนะฮะอ
00:44:34 → 00:44:38 ฮะๆครับหรือบางทีก็จะถามว่าถ้าวันนี้เรา
00:44:38 → 00:44:40 ถ้าลูกเรายังอยู่คิดว่าลูกเราจะบอกเลยกับ
00:44:40 → 00:44:43 เราอืถ้าลูกเราสามารถบอกกับเราได้ 2-3
00:44:43 → 00:44:47 ประโยคเนี่ยคิดว่าลูกจะบอกอะไรกับโยมแม่
00:44:47 → 00:44:50 นะอะไรอย่างเงี้ยอืครับอะไรอย่างเงี้ครับ
00:44:50 → 00:44:55 ก็ก็ก็มักจะก็มักจะให้เหตุผลในการไปต่อ
00:44:55 → 00:44:59 ถ้าเขายินดีไปต่อนะใช่ๆเต้องยินดีไปต่อ
00:44:59 → 00:45:02 ด้วยอยากไปต่อใช่บางคนอยากจะอยู่ตรงนี้
00:45:02 → 00:45:06 สักพักนึงอันนั้นจะยากมากใช่ๆเพราะเหมือน
00:45:06 → 00:45:08 เราเราคุยกันว่าถ้าต้องตกอยู่ในหลุมบางที
00:45:08 → 00:45:09 ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนอยากจะขึ้นมาจาก
00:45:09 → 00:45:12 ตรงนั้นนะครับบางคนอาจจะอาจจะอยากจะอยู่
00:45:12 → 00:45:14 นิ่งๆหรือบางคนอาจจะยังไม่มีแรงที่จะขึ้น
00:45:14 → 00:45:19 มานะครับอืบางคนที่มาเล่าให้ฟังก็คือขอ
00:45:19 → 00:45:21 สิทธิ์ในการอยู่ตรงนี้ต่อก็มีนะครับไม่
00:45:21 → 00:45:25 ได้บอกว่าไม่ได้บอกว่าเขาอยากไปที่อื่นเ
00:45:25 → 00:45:28 อยากจะพูดให้เราฟังโดยที่จริงๆแล้วผู้ฟัง
00:45:29 → 00:45:32 จริงๆคือคนในครอบครัวเคอืครับโดยที่เล่า
00:45:32 → 00:45:35 ให้พระฟังแต่ลูกเข้าใจมั้ยว่าน้องสำคัญ
00:45:36 → 00:45:41 กับแม่ยังไงอือนะอย่างนี้ก็มีคืออธิบาย
00:45:41 → 00:45:44 เพื่อให้เข้าใจว่าทำไมเขาถึงขออยู่ตรงนี้
00:45:44 → 00:45:47 ครับครับอืมครับอาจารย์อาจารย์กระแตล่ะ
00:45:47 → 00:45:49 ครับถ้าอย่างกรณีแบบนี้นะฮะคือหลวงพี่โก๋
00:45:49 → 00:45:51 พูดถึงเรื่องของการเปลี่ยนความหมายใหม่
00:45:51 → 00:45:54 ของการจากไปกับบางคนก็พร้อมที่จะขึ้นมา
00:45:54 → 00:45:57 บางคนก็ยังอยู่ที่เดิมอันนี้เราอธิบายได้
00:45:57 → 00:46:01 ยังไงครับอาจารย์ครับค่ะเพราว่าบางทีคน
00:46:01 → 00:46:04 บางทีคนรอบๆตัวเนี่ยอยากดูแลอยากจะพาเขา
00:46:04 → 00:46:07 ขึ้นจากก้นลุมของความทุกข์นะแต่ว่าเขาไม่
00:46:07 → 00:46:09 ขึ้นมาสักทีบางทีบางคนก็เคืองนะฮะใช่มฮะ
00:46:09 → 00:46:11 อย่างเช่นว่ามีคุณพ่อคุณแม่เนี่ยสูญเสีย
00:46:11 → 00:46:14 ลูกคนนึงไปเราเป็นลูกเราอยากจะพาให้คุณ
00:46:14 → 00:46:16 พ่อคุณแม่ขึ้นมาแต่ไม่ขึ้นมาสักทีบางที
00:46:16 → 00:46:19 ลูกก็มโหนะฮะว่าทำไมิพลสักทีมีเหมือนกัน
00:46:19 → 00:46:22 นะครับอาจารย์คตงมีคำแนะนำหรือว่าอธิบายด
00:46:22 → 00:46:25 นี้ยังไงบ้างครับค่ะตอนที่จันทร์กระตาฟัง
00:46:25 → 00:46:29 หลวงพี่ได้พูดถึงเนาะว่าเออแบบช่วงที่คน
00:46:29 → 00:46:31 สูญเสียแล้วการฟื้นตัวเนี่ยการให้ความ
00:46:31 → 00:46:36 หมายใหม่เนาะหรือว่าการที่การที่แบบจุด
00:46:36 → 00:46:39 คิดนิดนึงแล้วก็อ่ะปรับที่เหลือเนาะการ
00:46:39 → 00:46:42 ที่เราอยู่เพื่อใครที่ตอนนี้ไม่มีแล้ว
00:46:42 → 00:46:45 เนี่ยแล้วต้องปรับอีกบทนึงไปเพื่อความ
00:46:45 → 00:46:48 หมายใหม่ตรงนี้มันใช้พลังงานเหมือนกันค่ะ
00:46:48 → 00:46:52 มันใช้แรงเหมือนกันเนาะเวลาที่เราจะจะ
00:46:52 → 00:46:55 ต้องนึกถึงวันข้างหน้าบนขณะที่เรายังเจ็บ
00:46:55 → 00:46:58 ปวดเยมันอาจอาจจะอาจจะอยากนึกแต่ว่าไปไม่
00:46:58 → 00:47:01 ถึงอย่างเงี้ยค่ะแต่ว่าถ้าเกิดเขามีแรง
00:47:01 → 00:47:03 เนาะการที่ไม่ได้อยู่กับหลวงพี่บนศรัทธา
00:47:03 → 00:47:06 บนความเข้าใจหรือการที่อยู่ในห้องบำบัดบน
00:47:06 → 00:47:09 ความเข้าใจของของนักจิตวิทยาเองหรือว่า
00:47:09 → 00:47:12 ผู้บำบัดเองเนี่ยก็จะทำให้เขาแบบก้าวก้าว
00:47:12 → 00:47:15 มาอยู่ในจุดที่แบบสร้างความหมายได้ได้
00:47:15 → 00:47:18 เร็วขึ้นหรือง่ายขึ้นเนาะอันนี้อันนี้คือ
00:47:18 → 00:47:21 ขั้นที่พร้อมที่จะมาแล้วนะคะแต่ถอยมาที่
00:47:21 → 00:47:25 คุณประสาถามถึงเนาะว่าอาจารย์แล้วถ้าเไม่
00:47:25 → 00:47:27 ขึ้นมาล่ะอื
00:47:27 → 00:47:30 คนะมันมันมันต้องการความเข้าใจอีกเซตนึง
00:47:30 → 00:47:34 อ่ะค่ะว่าบางทีเราคิดว่าอืก็สูญเสียนะมัน
00:47:34 → 00:47:39 ก็เป็นสิ่งที่แบบทุกคนก็เจออยู่มันน่าจะ
00:47:39 → 00:47:43 แบบไม่ไม่ได้ไม่ได้ต่างกันแต่จริงๆแล้ว
00:47:43 → 00:47:47 การสูญเสียเนี่ยแบบอวตารได้เป็นเป็นหลาย
00:47:47 → 00:47:52 ล้านแบบอ่ะค่ะ 1 คน 1 คนเนี่ยมีการตอบ
00:47:52 → 00:47:55 สนองหรือว่าเวลาสูญเสียขึ้นเนี่ยคนแสดง
00:47:55 → 00:47:58 หรือว่ารับมือกับมาด้วยอาการที่แตกต่าง
00:47:58 → 00:48:01 เรียกว่าเป็นจอรเลยอ่ะ 1 คนคือ 1 การตอบ
00:48:01 → 00:48:03 สนองแล้วเพราะฉะนั้นถ้าเราเข้าใจว่าโอ๊ย
00:48:03 → 00:48:07 เี่คุณยายหรือว่าคุณตาหรือคุณย่าหรือคุณ
00:48:07 → 00:48:09 แม่คนอื่นๆเนี่ยเวลาเสียมันก็คงเหมือน
00:48:09 → 00:48:12 ข้างบ้านเราที่แบบมีการสูญเสียเนี่ยเข้า
00:48:12 → 00:48:17 ใจผิดเลยค่ะการสูญเสียมีมีความเฉพาะมากๆ
00:48:17 → 00:48:19 ก็คิดถึงสินเจอร์เนาะการสูญเสียนี่คือ
00:48:19 → 00:48:22 จอร์ของคนเลยค่ะมันคือผลรวมของเขาทั้ง
00:48:22 → 00:48:26 ชีวิตที่ตอบสนองต่อต่อเหตุการณ์นั้นๆหรือ
00:48:26 → 00:48:29 เรื่องนั้นน่ะค่ะอแม้แต่คนคนเดียวกัน
00:48:29 → 00:48:33 เมื่อสูญเสียในครั้งที่ต่างกันด้วยด้วย
00:48:33 → 00:48:36 สิ่งที่สูญเสียต่างกันก็โต้ตอบต่างกัน
00:48:36 → 00:48:39 ด้วยนะคะเพราะฉะนั้นวาไรตี้ตรงเนี้ยมัน
00:48:39 → 00:48:42 เยอะมากค่ะเดี๋ยวมาถ้าเราถ้าเราเข้าใจ
00:48:42 → 00:48:45 เนี่ยเราจะรอเราจะรอท่านน่ะค่ะเราจะรอผู้
00:48:45 → 00:48:48 สูญเสียให้ให้ถึงจังหวะของเคคอ่ะค่ะเขาค
00:48:49 → 00:48:52 จะมีจังหวะของเขาเนาะบางคนบางคนการสูญ
00:48:52 → 00:48:55 เสียเนี่ยแสดงออกด้วยความเดือดด่านหรือ
00:48:55 → 00:48:58 ว่ามากกว่าโมโหมากกว่าโกรธคือมันพลุ่ง
00:48:58 → 00:49:01 พล่านข้างในอ่ะค่ะการที่ทำอะไรขับรดเร็ว
00:49:01 → 00:49:05 การที่แบบได้ทำร้ายตัวเองไม่ใช่คิดน้อยใจ
00:49:05 → 00:49:08 อยากฆ่าตัวตายนะคือมันมันมันอยากดับ
00:49:08 → 00:49:13 อารมณ์พรุ่งพล่านน่ะค่ะอืๆมีงานทำา
00:49:13 → 00:49:15 มนุษยวิทยาอาจารย์อ่านแล้วอาจารย์ก็นึก
00:49:15 → 00:49:18 ภาพตามนะคะว่าเวลาคนเดือดดานจากสูญเสีย
00:49:18 → 00:49:21 เนี่ยต้องไปฆ่าคนอื่นน่ะค่ะต้องไปทำร้าย
00:49:21 → 00:49:24 คนอื่นเพื่ออือเรียกว่าเพื่อ
00:49:24 → 00:49:28 ลดโทสะที่พรุ่่งพล่านนะคะแบบนี้ก็มีนะคะ
00:49:28 → 00:49:30 แต่บ้านเราอาจจะไม่ค่อยเจอนะเพราะเราไม่
00:49:30 → 00:49:33 ได้ไม่ไม่ได้เป็นสังคมที่โหดร้ายอาจารย์
00:49:33 → 00:49:35 เข้าใจแบบนั้นนะคะเพราะฉะนั้นอืการตอบ
00:49:35 → 00:49:38 สนองตรงนี้เราอาจจะพบว่าแบบเออนะมันมี
00:49:38 → 00:49:42 ต่างกันอาจจะตั้งแต่คนสังเกตไม่ค่อยเห็น
00:49:42 → 00:49:45 ว่าอ๋อแบบคิดว่าดีแล้วอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:49:45 → 00:49:49 ไปจนถึงไปจนถึงอ่าร้องไห้ไม่หยุดไม่กิน
00:49:49 → 00:49:55 ข้าวหรือว่าแบบมีอาการต่างๆทางใจบ้างทาง
00:49:55 → 00:49:58 กายบ้างหรือว่าตั้งคำถามซ้ำๆว่าเออแบบ
00:49:58 → 00:50:00 เป็นเวรกรรมอะไรของเรานะทำไมต้องเกิดสิ่ง
00:50:00 → 00:50:04 นี้หรือไปโทษคนรอบข้างว่าถ้าวันนั้นถ้าคน
00:50:04 → 00:50:07 นี้ไม่ทำแบบนั้นเรื่องนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น
00:50:07 → 00:50:09 อย่างเงี้ยค่ะมันมันมีสิ่งนี้เนาะเพราะ
00:50:09 → 00:50:13 ฉะนั้นช่วงเวลาที่ใช้พลังงานแบบนี้เนี้ย
00:50:13 → 00:50:17 คนจะยังหาความหมายไม่ได้ค่ะเพราะว่ามันเน
00:50:17 → 00:50:20 มันยังมันยังกลุ่นมันยังมันยังมีด้านลบ
00:50:20 → 00:50:22 เยอะนะคะเพราะฉะนั้นในช่วงอย่างเงี้ยหลวง
00:50:22 → 00:50:25 พี่แบบเยี่ยมเลยอ่ะค่ะที่หลวงพี่พูดถึง
00:50:25 → 00:50:28 ว่าถ้าคนรอบข้างทำเหมือนหลวงพี่แนะนำนะคะ
00:50:28 → 00:50:33 อ่าเช่นรับฟังคะอืรับฟังอยู่เป็นเพื่อน
00:50:33 → 00:50:38 เนาะเ้าท่านอยากพูดก็ได้พูดได้ได้ทบทวน
00:50:38 → 00:50:41 การพูดเนี่ยมันมันทำให้เราเห็นภาพทำให้
00:50:41 → 00:50:45 ผู้พูดเห็นภาพว่าตอนเเรากำลังถึงจุดไหน
00:50:45 → 00:50:48 มันช่วยมันช่วยจัดลำดับอ่ะค่ะอจัดลำดับ
00:50:48 → 00:50:52 เรื่องราวแล้วก็มันสร้างสติขึ้นมาไอ้ตรง
00:50:52 → 00:50:55 เนี้ยมันจะทำให้คนพร้อมที่จะหาความหมาย
00:50:55 → 00:50:58 พร้อมที่จะเราจะชวนดูอย่างเงี้ยค่ะเพราะ
00:50:58 → 00:51:02 นั้นตรงตรงนี้เลยคิดว่าถ้าเกิดคนอยู่ใน
00:51:02 → 00:51:05 หลุมดำเนี้ยถ้าเรายังไม่มั่นใจเี่อยู่
00:51:05 → 00:51:08 เป็นเพื่อนก่อนนะค่ะอืท่านอยากพูดอะไรฟัง
00:51:08 → 00:51:12 ก่อนอย่างเงี้ยค่ะหรือว่าให้ให้ได้มี
00:51:12 → 00:51:15 โอกาสได้พูดหลายคนใช้คำว่าระบายเนาะ
00:51:15 → 00:51:18 อาจารย์พูดระบายหรือพูดทบทวนก็ได้นะคะ
00:51:18 → 00:51:21 อาจารย์ว่าเวลาพูดเนี่ยคนก็ก็ค่อยๆได้สติ
00:51:21 → 00:51:25 มาอย่างเงี้ยค่ะอันเนี้ยเป็นเป็นขั้นแรกๆ
00:51:25 → 00:51:28 สุดซึ่งไม่ใช่วันเดียวค่ะถ้าเป็นเรื่อง
00:51:28 → 00:51:31 ของความโศกอะไรเนี่ยมันจะกลับไปกลับมาค่ะ
00:51:31 → 00:51:35 พอเราพูดแล้วแคุยแล้วเนาะท่านจะดีขึ้นมา
00:51:35 → 00:51:38 แป๊บนึงอ่ะเดี๋ยวตอนเย็นกลับเป็นเหมือน
00:51:38 → 00:51:41 เดิมใหม่อือเหมือนเหมือนเราไม่เคยพูดกัน
00:51:41 → 00:51:43 เลยอย่างเงี้ยค่ะแล้วก็อาตั้งอ่าก็ลืมไป
00:51:43 → 00:51:46 ว่าก็ให้ลืมไปนะคะว่าตอนเช้าเราพูดอะไร
00:51:46 → 00:51:49 กันนะตอนเย็นแล้วเริ่มใหม่นะคะการทำแบบเ
00:51:49 → 00:51:53 หลายๆรอบอ่ะค่ะมันทำให้สติมันกลับคืนมา
00:51:53 → 00:51:57 ได้ไวขึ้นครับเนาอืซึ่งสิ่งที่น่ากลัวอัน
00:51:57 → 00:52:01 นึงอ่ะค่ะว่าถ้าคนไม่เข้าใจนะในวัยผู้สูง
00:52:01 → 00:52:04 อายุเรายังอาจจะคบไม่เยอะนะคะแต่ในคนสูญ
00:52:04 → 00:52:08 เสียที่เป็นวัยที่ที่ต้องทำงานวัยที่จะ
00:52:08 → 00:52:11 ต้อง productive เนี่ยค่ะบางทีทนภาวะ
00:52:11 → 00:52:14 อย่างนี้ไม่ได้หันไปกินเหล้าย้อนมันเลย
00:52:14 → 00:52:17 แบบเรียกว่าเซล medicate เนาะไปปดข่มไม่
00:52:17 → 00:52:20 ให้มันไม่มันพุ่งพล่านปั่นป่วนอย่าเงี้ย
00:52:20 → 00:52:24 ค่ะไปไปมีกิจกรรมอื่นช้อปปิ้งแหลกลานหรือ
00:52:24 → 00:52:29 ว่าไปนะคะไปกินเหล้าไปทำอะไรก็ได้ให้ลืม
00:52:29 → 00:52:33 ให้ลืมจริงๆมันลืมไม่ได้หรอกนะคะให้ลืม
00:52:33 → 00:52:36 การสูญเสียที่เกิดขึ้นนะคะในผู้สูงอายุ
00:52:36 → 00:52:39 เราจะพบว่าอาการป่วยท่านจะกำเริบอ่ะค่ะ
00:52:39 → 00:52:43 ถ้าท่านเคยเป็นเบาหวานเป็นความดันสิ่งนี้
00:52:43 → 00:52:46 กลับมาหมดเลยกลับมาอาการครบอ่ะค่ะอันนี้
00:52:46 → 00:52:50 ก็เป็นกลไกนึงที่ร่างกายแบบนะถอยตัวเอง
00:52:50 → 00:52:54 อยู่ไปอยู่ในภาวะที่แบบนะมันมันมันเพื่อ
00:52:54 → 00:52:57 ให้มันมันลืมความเจ็บปวดอันเนี้ยไปอไปทุก
00:52:57 → 00:53:00 ไปทุกข์กว่ากายกายก็เริ่มแย่อย่างเงี้ย
00:53:00 → 00:53:04 ค่ะในภาวะอย่างเงี้ยการการพูดคุยบนความ
00:53:04 → 00:53:08 เข้าใจช่วยลดการหนีไปกินเหล้าช่วยลดการ S
00:53:08 → 00:53:12 medicate แล้วก็ช่วยลดลดความป่วยทางกาย
00:53:12 → 00:53:15 ได้ด้วยนะคะอ่ะผลของมันเยอะเกินกว่าที่
00:53:15 → 00:53:18 เราคิดเนาะการที่นั่งฟังแม้ว่าจะฟัง
00:53:18 → 00:53:22 เรื่องเดียวกันซักกี่รอบดีนะคะหลวงพี่บาง
00:53:22 → 00:53:25 ทีหลายรอบเนาะบางทีเราจะพบว่าโอ้โหแบบ
00:53:25 → 00:53:28 ท่านบนพูดบนเหลือเกินนะเพพูดไปวันนี้รอบ
00:53:28 → 00:53:32 ที่ 4 แล้วอะไรอย่างเงี้ยค่ะเนาะถ้าเรา
00:53:32 → 00:53:35 ไม่ไหวนะคะนะทางทางนักบำบัดทั้งหลายเนี่ย
00:53:35 → 00:53:39 ท่านท่านถูกเทรนนะทีมบำบัดเี่ก็จะถูกถูก
00:53:39 → 00:53:43 ฝึกมาให้ผ่านการพูดคุยเรื่องนี้แล้วช่วย
00:53:43 → 00:53:45 ให้ท่านปฏิประต่อเรื่องเหล่านี้ก็ช่วยได้
00:53:46 → 00:53:48 แต่ดีที่สุดอ่ะอาจารย์ว่าลูกหลานหรือคน
00:53:48 → 00:53:52 ที่เข้าใจอ่ะจะจะอยู่ใกล้และรู้ใจที่สุด
00:53:52 → 00:53:55 ถ้าสามารถนะคะช่วยท่านออร์กสิ่งเหล่า
00:53:55 → 00:54:00 เนี้ยมันจะทำให้จังหวะที่ท่านมีแรงขึ้นมา
00:54:00 → 00:54:04 ผู้ที่สูญเสียมีแรงขึ้นมาแล้วก็สามารถที่
00:54:04 → 00:54:07 จะทำความเข้าใจและสร้างความหมายใหม่ได้
00:54:07 → 00:54:11 ค่ะว่าอ๋อไอ้ที่แบบเจ็บขนาดนี้นี่ใช้กรรม
00:54:11 → 00:54:13 อย่างเงี้ยค่ะบางบางท่านเนาะหรือว่าที่
00:54:13 → 00:54:17 มากขนาดนี้เนี่ยเราคงยังทำบุญไม่พอนี่
00:54:17 → 00:54:19 ต้องเอากีต้าไปให้หลวงพี่เพื่อส่งบุญไป
00:54:19 → 00:54:23 ให้ลูกหลานหรือว่าอทำอย่างอื่นเพื่อที่จะ
00:54:23 → 00:54:27 ได้แบบลดหรือเยียวยาใจที่เหลืออย่างเงี้ย
00:54:27 → 00:54:30 ท่านจะเริ่มคิดออกนะค่ะเพราขั้นขั้นนี้
00:54:30 → 00:54:34 ถึงสำคัญนะคะอันนึงนะคือพูดคุยนะค่ะแต่
00:54:34 → 00:54:37 ถ้าเกิดเรามีจุดอ่อนคือเราไม่ช่างพูดนะ
00:54:37 → 00:54:41 แล้วก็ฟังได้ยาวๆไม่ได้นะก็มีช่องทางอีก
00:54:41 → 00:54:44 ช่องนึงที่แบบก็มีรายงานทางวิชาการออกมา
00:54:44 → 00:54:47 บอกว่ามันได้ผลคือทำกิจกรรมที่เป็นกุศล
00:54:47 → 00:54:53 ทั้งหลายอ่ะค่ะอืฮะฮเนาะการได้ไปไปไป
00:54:53 → 00:54:58 เยี่ยมหลวงพี่นะไปไปแบบไปวัดวาไปสถานที่
00:54:58 → 00:55:02 ที่แบบทำให้เราน้อมใจเข้าถึงสิ่งที่แบบดี
00:55:02 → 00:55:05 คิดดีอย่างเงี้ยค่ะ่านี้ก็ช่วยดูดทรัพย์
00:55:05 → 00:55:08 พลังรบเราได้เยอะนะคะตรงนี้ถ้าเกิดว่านะ
00:55:08 → 00:55:10 คะชวนทำกิจกรรมอย่างเงี้ยถ้านึกอะไรไม่
00:55:11 → 00:55:13 ออกก็แมอาจารย์ไม่รู้ว่าอันนี้ถูกต้อง
00:55:13 → 00:55:16 เดี๋ยวต้องถามหลวงพี่นะสังฆทานไปก่อนค่ะ
00:55:16 → 00:55:18 การได้ไปสังฆทานนี่ก็เป็นโอกาสที่ได้
00:55:18 → 00:55:21 กล่าวคำที่แบบตามศาสนาที่เรานับถือเนาะ
00:55:21 → 00:55:24 แล้วก็ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับพระอาจารย์
00:55:24 → 00:55:28 หรือพระสงองค์เจ้าต่างๆเนี่ยมันก็มีโอกาส
00:55:28 → 00:55:32 ที่เราจะได้แบบเอ่อได้เปิดใจให้ลูกหลาน
00:55:32 → 00:55:34 รู้ว่าตอนนี้เราทุกข์อะไรบางทีมันก็ยาก
00:55:34 → 00:55:37 สำหรับหลายคนที่จะเอ่ยปากบอกนะคะว่าตอน
00:55:37 → 00:55:40 นี้ทุกข์อย่างไรนะมีคนกลางสักหน่อยอย่าง
00:55:40 → 00:55:43 เงี้ยค่ะก็ช่วยได้นะคะเหล่าเนี้ยกิจกรรม
00:55:43 → 00:55:47 ที่เป็นกุศลการรับฟังการให้เวลาที่มี
00:55:47 → 00:55:49 คุณภาพไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยทั้งวันนะคะ
00:55:49 → 00:55:52 แต่ช่วงที่อยู่ด้วยเนี่ยขอให้มีมุมของการ
00:55:52 → 00:55:56 ฟังถูกค่ะถูกเนาะแล้วก็ที่สำคัญอคือสม่ำ
00:55:56 → 00:56:01 เสมอค่ะถ้าเราทำสิ่งนี้ไม่ใช่ว่าเฉพาะ 3
00:56:01 → 00:56:03 วันแรกที่เหลือแบบหายตัวเข้ากลีบเมฆไปอัน
00:56:04 → 00:56:06 นี้ก็ไม่ช่วยนะคะแล้วก็ทำให้ท่านมีกำลัง
00:56:06 → 00:56:08 ใจขึ้นมาแป๊บเดียวเดี๋ยวกลับมาอยู่ใน
00:56:08 → 00:56:11 สภาวะวังเวงไม่มีลูกหลานอีกอย่างเงี้ยก็
00:56:12 → 00:56:14 ไม่ได้อย่างเงี้ยนะคะเพราะฉะนั้นเหล่า
00:56:14 → 00:56:17 เนี้ยก็เป็นสิ่งที่คอาจารย์คิดว่าบนความ
00:56:17 → 00:56:20 รักความเข้าใจของคนรอบข้างของลูกหลานที่
00:56:20 → 00:56:22 มีต่อผู้สูงอายุเองหรือว่ามีต่อผู้ที่สูญ
00:56:22 → 00:56:26 เสียเองเนี่ยเป็นสิ่งที่เราทำได้ค่ะครับ
00:56:26 → 00:56:29 ครับได้แต่ว่าอาจจะต้องย้อนนึกถึงนิดนึง
00:56:29 → 00:56:32 เพราะว่าเราคงอาจจะไม่ทำสิ่งนี้ในชีวิต
00:56:32 → 00:56:35 ประจำวันปกติอ่ะค่ะครับเนาะเพราะฉะนั้น
00:56:35 → 00:56:39 อาจารย์ว่านะคะปลายทางก็คือคืออ่าช่วย
00:56:39 → 00:56:44 ท่านแบบสร้างพลอตใหม่ในชีวิตนะคะที่เนาะ
00:56:44 → 00:56:48 ที่มีมีสิ่งแวดล้อมใหม่อ่ะค่ะมีอาจจะเป็น
00:56:48 → 00:56:52 สิ่งแวดล้อมที่อาจจะมีท่านที่สูญเสียไป
00:56:52 → 00:56:56 อยู่ในใจเป็นแรงเป็นเป็นแหล่งพลังงานว่า
00:56:56 → 00:56:59 เอเราทำเพื่อท่านเพื่อท่านอยู่บนสวรรค์
00:56:59 → 00:57:01 ท่านจะได้รับทราบท่านที่อยู่กับพระเจ้า
00:57:02 → 00:57:04 ท่านก็จะได้แบบได้เห็นเราในสิ่งนี้อย่าง
00:57:04 → 00:57:07 เงี้ยคือมันไม่ได้ไม่ได้หายไปหมดอ่ะค่ะ
00:57:07 → 00:57:10 แต่ว่าอยู่ที่ใดที่หนึ่งแต่ตัวยังไม่ไม่
00:57:10 → 00:57:13 ไม่อยู่บนชีวิตประจำวันแล้วสร้างพอตใหม่
00:57:13 → 00:57:16 ซึ่งซึ่ง 2 สิ่งนี้ต้องการพลังงานค่ะเรา
00:57:16 → 00:57:20 ต้องถอยมานะคะคนแวดล้อมนะคะก็สามารถเป็น
00:57:21 → 00:57:23 จุดที่ให้ท่านได้พลังงานด้วยความสม่ำเสมอ
00:57:23 → 00:57:27 ด้วยการรับฟังแล้วก็พาประกอบกิตกุศลค่ะ
00:57:27 → 00:57:31 อาจารย์ว่าเหล่าเนี้ยถ้าทำได้ต่อเนื่องนะ
00:57:31 → 00:57:35 คะโอกาสที่ท่านฟื้นตัวเนี่ยก็จะเร็วขึ้น
00:57:35 → 00:57:38 ค่ะจะเร็วขึ้นอค่ะครับอาจารย์กระแตก็ให้
00:57:38 → 00:57:41 คำแนะนำสำหรับคนที่อยู่รอบๆตัวต้องคอยดู
00:57:41 → 00:57:44 แลยังไงนะครับหลักๆก็คือต้องต้องฟังแล้ว
00:57:44 → 00:57:47 ก็ต้องลองดูว่าผลจากความโศกเศร้านี่มัน
00:57:47 → 00:57:48 อาจจะแปรเปลี่ยนออกมาได้ได้หลากหลายรูป
00:57:48 → 00:57:50 แบบเพราะฉะนั้นคนที่อยู่รอบๆตัวนี้ต้องทำ
00:57:50 → 00:57:53 ความเข้าใจนะครับก็เลยอยากจะชวนให้พี่ัว
00:57:53 → 00:57:55 ตอบคำถามของคนที่ส่งเข้ามาด้วยเหมือนกัน
00:57:55 → 00:58:00 นะครับเป็นคเหมนมีบางท่านบอกว่ามีคำถาม
00:58:00 → 00:58:02 ของอาม่าสุธารัตน์ผมเข้าใจว่าอันนี้น่า
00:58:02 → 00:58:06 น่าสนใจบอกว่าแล้วเนี่ยอยากจะให้แนะนำว่า
00:58:06 → 00:58:08 ผู้สูงอายุเนี่ยจะรับมือกับการจากไปของ
00:58:08 → 00:58:11 ลูกๆหลาดๆได้อย่างไรผมเข้าใจว่าคำถามนี้
00:58:11 → 00:58:14 รวมไปถึงคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะครับไม่จำเป็น
00:58:14 → 00:58:16 ต้องสูงอายุก็ได้นะครับผมเขจะคุณพ่อคุณ
00:58:16 → 00:58:19 แม่เนี่ยต่อให้อายุสัก 30 กว่า 40 50 จะ
00:58:19 → 00:58:23 60 70 ก็เถอะนะครับหรือว่านะแต่วันนึง
00:58:23 → 00:58:26 ลูกหลานจากไปในวัยที่เราไม่คิดว่าจะไป
00:58:26 → 00:58:29 ก่อนเราเนี่ยตรงนี้เรามีคำแนะนำยังไงครับ
00:58:29 → 00:58:31 หลวงพี่โก๋ครับเมื่อสักครู่นี้หลวงพี่โก๋
00:58:31 → 00:58:34 พูดถึงเรื่องของการสร้างพอไว้ใช่ไหมฮะต่อ
00:58:34 → 00:58:35 ตรงนี้นิดนึงครับเผื่อว่าแต่ละท่านนี่จะ
00:58:35 → 00:58:39 ได้เอาไปใช้เป็นคู่มือนิดนึงครับว่าแต่ละ
00:58:39 → 00:58:41 วันในวันที่ชีวิตมันปกติเนี่ยเรายังแข็ง
00:58:41 → 00:58:44 แรงอะไรยังพอคิดได้เนี่ยเราจะเอาวิธีคิด
00:58:44 → 00:58:45 อะไรมาเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองในการ
00:58:45 → 00:58:50 รับมือครับครับชีวิตมนุษย์นะครับการพลัด
00:58:50 → 00:58:53 พรากกันจากกันเเป็นเรื่องปกตินะครับเรา
00:58:53 → 00:58:57 จากเป็นไม่ก็จากตายกันอยู่สมเสมออยู่แล้ว
00:58:57 → 00:58:59 นะครับทีนี้ถ้าเรา
00:58:59 → 00:59:04 เอิ่มไม่ได้ไม่ไม่ได้ฝึกซ้อมกลาจากเนาะ
00:59:04 → 00:59:06 อย่างบางที
00:59:06 → 00:59:10 เอ่ออย่างบางทีลูกต้องไปเรียนจังหวัดอื่น
00:59:10 → 00:59:13 ลูกต้องไปเรียนที่อื่นลูกต้องไปอยู่ในหอ
00:59:13 → 00:59:17 พักอะไรต่างๆนะลูกต้องไปเข้าค่ายทหารหรือ
00:59:18 → 00:59:20 อะไรก็ตามจริงๆแล้วเนี่ยความพลัดพรากเป็น
00:59:20 → 00:59:23 ส่วนหนึ่งในชีวิตของมนุษย์เอ่ออยู่ตาม
00:59:23 → 00:59:27 ปกติอยู่แล้วนะครับแต่แล้วก็เขาก็จะรู้
00:59:27 → 00:59:29 สึกว่าถ้าอย่างอื่นมันก็ยังมีโอกาสได้พบ
00:59:29 → 00:59:32 กันนะครับแต่อย่างนี้เนี่ยไม่มีโอกาสได้
00:59:32 → 00:59:36 พบกันอีกแล้วเราถือว่าการพลัดพรากในชีวิต
00:59:36 → 00:59:39 ประจำวันเนี่ยเรียกว่าเป็นซ้อมเล็กก็แล้ว
00:59:39 → 00:59:42 กันเนาซ้อมเล็กซ้อมย่อยกันไปลูกไปโรง
00:59:42 → 00:59:45 เรียนยังไม่รู้เลยว่าวันนี้จะได้กลับมามย
00:59:45 → 00:59:49 เราไปทำงานวันนี้เราไม่รู้จจะได้กลับมามย
00:59:49 → 00:59:52 นะครับถ้าเราระลึกแบบนี้และทำให้ช่วงเวลา
00:59:52 → 00:59:54 ที่อยู่ด้วยกันเี่เป็นช่วงเวลาที่มี
00:59:54 → 00:59:57 คุณภาพบางทีหลวงพี่คิดว่าก็เป็นเรื่อง
00:59:57 → 01:00:00 แปลกนะครับอยู่กันแล้วก็ทะเลาะกันจากกัน
01:00:00 → 01:00:05 ก็เสียใจเนาะถ้าเราระลึกซะว่าเอาน่ะอยู่
01:00:05 → 01:00:08 กันให้ดีจากกันเมื่อถึงเวลาต้องจากกันจะ
01:00:09 → 01:00:12 ได้ไม่เสียใจเราสลับดีมั้ยให้เวลาพบอยู่
01:00:12 → 01:00:15 ด้วยกันเนี่ยเป็นเวลาคุณภาพนะแล้ววันนึง
01:00:16 → 01:00:19 ถ้าลูกต้องไปโอ้ลูกก็ถือว่าลูกก็ไปเรียน
01:00:19 → 01:00:23 ประเทศอื่นน่ะนะลูกบางทีเราก็เรียกว่าไป
01:00:23 → 01:00:26 ไปดาวสุนัขไปดาวแมวใช่มั้ยครับอครับอ่าก็
01:00:27 → 01:00:30 เาก็ไปสักที่นึงไปไกลหน่อยแล้วก็การาก
01:00:31 → 01:00:33 กันนี่ก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วถ้าเราพึง
01:00:33 → 01:00:36 ระลึกได้ว่าช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน
01:00:36 → 01:00:40 เป็นช่วงเวลาคุณภาพนะครับหลวงพี่คิดว่า
01:00:40 → 01:00:42 บางทีแบบเราให้ความสำคัญกับปริมาณมากเกิน
01:00:42 → 01:00:46 ไปให้ความสำคัญกับสิ่งที่เราขาดน่ะมาก
01:00:46 → 01:00:49 กว่าสิ่งที่เรามีเวลานี้เรายังมีกันและ
01:00:49 → 01:00:50 กัน
01:00:50 → 01:00:55 อยู่ทำให้ดีสิอืใช่มั้ยครับเถึงเวลาจาก
01:00:55 → 01:00:58 กันก็คือเรามีเวลาที่มันแล้วไม่มีอะไรติด
01:00:58 → 01:01:01 ค้างข้องใจกันละทุกคำขอบคุณขอบคุณทุกคำขอ
01:01:01 → 01:01:05 โทษขอโทษนะครับทุกความปรารถนาดีได้พยายาม
01:01:05 → 01:01:08 แสดงออกอย่างเป็นรูปธรรมครับนะครับทุก
01:01:08 → 01:01:12 ความขัดข้องหมองใจได้ขออภัยนะมันเราเรา
01:01:12 → 01:01:16 อยู่กันให้ดีทุกๆวันอันเนี้ยหรพี่คิดว่า
01:01:16 → 01:01:19 เป็นการอยู่ด้วยกันอย่างดีราวกับวันนี้
01:01:19 → 01:01:23 เป็นวันสุดท้ายเนี่ยทุกๆวันนะครับพอถึง
01:01:23 → 01:01:26 วันนั้นแล้วเนี่ยเราจะไม่เสียใจมันเหมือน
01:01:26 → 01:01:30 น่าจะรู้อย่างงี้อะไรอย่างเงี้ยอืมใช่
01:01:30 → 01:01:32 ครับอันนี้ประเด็นอันนี้ที่น่าสนใจครับ
01:01:32 → 01:01:34 หลวงพี่ัวบอกว่าเราต้องซ้อมเล็กใช่มั้ยฮะ
01:01:34 → 01:01:36 ไม่ต้องรอเดี๋ยว่าพอเจอเหตุการณ์ใหญ่ๆที
01:01:36 → 01:01:38 เดียวเดี๋ยวตั้งหลักไวนาให้เราซ้อมเล็ก
01:01:38 → 01:01:41 ใช่มั้ยฮะอย่างเช่นว่าเราไม่รู้ว่าลูกเรา
01:01:41 → 01:01:44 ออกจากบ้านลกลับหรือเราถ้าเราออกไปทำงาน
01:01:44 → 01:01:46 เราจะได้กลับมาเจอหน้าลูกมั้ยให้เราคิด
01:01:46 → 01:01:49 ให้เราหมั่นคิดแต่บางคนถ้าบางแต่บางคนนี่
01:01:49 → 01:01:52 ครับหลวงพี่ถ้าบางคนที่บางทีเขาอาจจะสนใจ
01:01:52 → 01:01:54 ศาสนาหรือไม่สนใจศาสนานี่วิธีคิดแบบนี้ผม
01:01:54 → 01:01:57 คิดว่ามันเป็นเรื่องที่บางคนอาจจะรู้สึก
01:01:57 → 01:01:59 ว่านี่คุณกำลังหาความทุกข์ให้กับตัวเอง
01:01:59 → 01:02:01 หรือเปล่าใช่มั้ยฮะเพราบางคนนี่เขาบอกว่า
01:02:01 → 01:02:03 เชีวิตทุกวันต้องคิดถึงความสุขสิคุณมีวัน
01:02:03 → 01:02:05 ๆคุณมานั่งคิดถึงแต่เรื่องความทุกข์คิด
01:02:05 → 01:02:07 แต่เรื่องอะไรคุณฟุ้งซ่านหรือเปล่าเราเรา
01:02:07 → 01:02:10 เราตอบเรื่องนี้ยังไงฮหลวงพี่ครับเราเรา
01:02:10 → 01:02:12 ไม่ได้คิดว่าการจากเป็นความทุกข์เราคิด
01:02:12 → 01:02:17 ว่าการจากเป็นเหตุการณ์อืนะเพราะฉะนั้น
01:02:17 → 01:02:19 การจากเป็นความทุกข์เนี่ยมันก็หมองเศร้า
01:02:19 → 01:02:21 แล้วเราต้องมานั่งมองเศร้าอย่างนั้นเรา
01:02:21 → 01:02:25 แค่คิดว่าวันนึงคนเราก็ต้องจากกันในขณะ
01:02:25 → 01:02:28 ที่ยังพบกันพบกันให้มีความสุขสิเรื่อง
01:02:28 → 01:02:31 อะไรอยู่กันแบบอยู่กันแบบอยู่กันแบบขุ่น
01:02:31 → 01:02:37 มัวอือนะแล้วก็จากกันแบบโหยหาเราก็สู้เรา
01:02:37 → 01:02:41 ก็สู้อยู่กันด้วยความเข้าอกเข้าใจนะครับ
01:02:41 → 01:02:44 และยิ่งถ้าเราเข้าใจเข้าใจกันเนี่ยเราจะ
01:02:44 → 01:02:47 พบว่าออมันไม่มีอะไรที่ไม่เข้าใจอ่ะหรือ
01:02:47 → 01:02:50 ความไม่เข้าใจมันจะลดน้อยลงไปมากออย่าง
01:02:50 → 01:02:53 เช่นถ้าสมมุติต่อให้เราต่อให้ลูกเราเจ็บ
01:02:53 → 01:02:56 ป่วยอยู่ด้วยเรื่องทางจิตใจเนาะเราก็จะ
01:02:56 → 01:03:00 รู้ว่าโหเขาสู้กันมามากจนเขาขอพักน่ะมัน
01:03:00 → 01:03:03 ก็จะทำมันก็จะเข้าใจด้วยความเข้าใจตั้ง
01:03:03 → 01:03:08 แต่เขาเป็นเลยเข้าใจในเวลาที่เขาจากอื
01:03:08 → 01:03:11 ความความเข้าใจนี่แหละครับจะทำให้เราไม่
01:03:11 → 01:03:16 เข้าข้างตัวเองว่าทำไมถึงไม่อืๆๆนะเพราะ
01:03:16 → 01:03:19 นั้นชีวิตของเขาเป็นศิทธิ์ของเขาเราเข้า
01:03:19 → 01:03:23 ใจเเราเคารพเขาความรักสำหรับหลวงพี่ไม่
01:03:23 → 01:03:26 ใช่รักแบบรักอย่างที่เราอยากจะให้เ้าเป็น
01:03:26 → 01:03:29 แต่เรารักอย่างที่เเป็นเค้าเนาะครับแล้ว
01:03:29 → 01:03:33 วันนี้เเลือกอะไรยังไงหรือแม้กระทั่งอะไร
01:03:33 → 01:03:37 ก็ตามนะครับเราเราเราก็จะยอมรับรักในแบบ
01:03:37 → 01:03:40 ที่เขาเป็นอครับอันนี้ผมว่าเป็นเป็นที่
01:03:40 → 01:03:42 หลวงพี่โก๋พูดนี่ผมคิดว่าเรื่องสำคัญนะ
01:03:43 → 01:03:45 ครับก็คือว่า 1 ก็คือช่วงเวลาอยู่เราก็
01:03:45 → 01:03:48 อยู่กันให้ดีที่สุดใช่มั้ยฮะเพราะว่าเรา
01:03:48 → 01:03:50 ไม่รู้ว่าวันหนึ่งว่าเขาจากไปอย่าง
01:03:50 → 01:03:52 กะทันหันเนี่ยถึงตอนนั้นเนี่ยเราอาจจะมา
01:03:52 → 01:03:55 ต้องเหมือนที่ทั้ง 2 ท่านพูดนะครับก็คือเ
01:03:55 → 01:03:58 เดี๋ยวเราก็ต้องมาพูดว่ารู้งี้อย่างเงี้
01:03:58 → 01:04:00 แล้วฮะพอรู้งี้เสร็จแล้วก็มาทิ่มแทงตัว
01:04:00 → 01:04:02 เองอีกเพราะฉะนั้นแน่นอนเรื่องการจากไป
01:04:02 → 01:04:05 นี่เรากำหนดไม่ได้เราห้ามไม่ได้แต่ไอ้
01:04:05 → 01:04:07 อยู่ในปัจจุบันเนี่ยเราทำได้แน่นอนใช่
01:04:07 → 01:04:10 มั้ยฮะเพราะฉะนั้นทำช่วงเวลาในปัจจุบัน
01:04:10 → 01:04:13 นี้ให้ดีที่สุดอย่างน้อยวันที่เขาจากไป
01:04:13 → 01:04:15 แน่นอนการจากไปนี้ทุกคนเสียใจหมดแต่อย่าง
01:04:15 → 01:04:18 น้อยการทำใจหรือความเข้าใจมันอาจจะทำได้
01:04:18 → 01:04:21 ได้ง่ายขึ้นนะครับอันนี้ผมเลยผมเลยคิดว่า
01:04:21 → 01:04:24 การใช้เวลาคุณภาพตรงนี้ก็เหมือนที่หลวง
01:04:24 → 01:04:25 พี่โก๋แนะนำฮะแล้วเลยเป็นเรื่องเรื่อง
01:04:25 → 01:04:29 สำคัญนะครับนะฮะลืมรวมถึงน่นด้วยฮอาจารย์
01:04:29 → 01:04:31 อาจารย์กแอาจารย์กระแตแนะนำฮะเพอย่างที่
01:04:31 → 01:04:33 เมื่อกี้บางท่านถามมาโดยเฉพาะผู้สูงวัยทำ
01:04:33 → 01:04:36 ใจไม่ได้ลูกหลานจากไปก่อนเนะฮะอาจารย์
01:04:36 → 01:04:40 กระแตมีคำแนะนำตรงนี้มครับค่ะอาจารย์มี
01:04:40 → 01:04:44 สัก 2 ข้อเี่ละค่ะนะคะขข้อแรกที่คิดว่า
01:04:44 → 01:04:47 แบบสำคัญเนาะว่ากระบวนการแบบศพอาลัยมัน
01:04:47 → 01:04:51 ใช้เวลานะคะแล้วมันฉุดทั้งใจถึกทั้งกายนะ
01:04:51 → 01:04:53 ถ้าเราเป็นลูกหลานเนี่ยถ้าใจนี้ระหว่าง
01:04:53 → 01:04:56 ที่ท่านทำใจดูแลร่างกายของท่านค่ะเรื่อง
01:04:56 → 01:04:59 เรื่องเรื่องกินอยู่หลับนอนเดูแลแบบอย่า
01:04:59 → 01:05:01 ให้ขาดนะคะให้ร่างกายเข้มแข็งเข้าไว้เนาะ
01:05:01 → 01:05:04 อันนี้อันดับแรกก่อนนะคะถ้าร่างกายไปไหว
01:05:04 → 01:05:08 เนี่ยกำลังวังชามันกลับมามันก็จะมันก็จะ
01:05:08 → 01:05:12 ช่วยใจได้ระดับหนึ่งนะคะอีกอันนึงอาจารย์
01:05:12 → 01:05:16 ว่าข้อที่ 2 เนี่ยค่ะอ่านอกเหนือจากการ
01:05:16 → 01:05:18 ที่ชวนท่านมีกำลังวังชาต่างๆแล้วเนี่ยอาจ
01:05:18 → 01:05:22 จะต้องแยกให้ออกระหว่างศพอะไรกซึมเศร้า
01:05:22 → 01:05:25 อ่ะค่ะเพราะว่าถ้าเกิดว่าท่านแบบเป็นซึซึ
01:05:25 → 01:05:27 เศร้าแล้วก็เป็นโรคซึมเศร้าที่มันต่อ
01:05:27 → 01:05:30 เนื่องมาซึ่งพบได้สูงเหมือนกันว่าศพอะไร
01:05:30 → 01:05:33 มันจะมากับซึมเศร้าถ้ามันคู่กันแล้วอยู่
01:05:33 → 01:05:36 ในข่ายของซึมเศร้าเนี่ยมันอาจจะต้องการ
01:05:36 → 01:05:40 ตัวช่วยตัวอื่นนะคะไม่ว่าจะเป็นเป็นการ
01:05:40 → 01:05:43 บำบัดที่สม่ำเสมอด้วยการพูดคุยหรือด้วยยา
01:05:43 → 01:05:46 หรือด้วยอื่นๆที่เป็นกลไกการรักษาซึม
01:05:46 → 01:05:49 เศร้าเองเนาเพราะว่าร่างกายมันจะรวนละจุด
01:05:49 → 01:05:54 แยกค่ะระหว่างศพอะไลที่มันมันมันทำใจไม่
01:05:54 → 01:05:57 ได้เรื้อรังกับซึมเศร้าเนี่ยคืออันนี้คือ
01:05:57 → 01:06:00 มันเกินมันเกิน 2 เดือนไปแล้วนะคะแล้วก็
01:06:00 → 01:06:05 เป็นนานๆเลยแล้วอาการก็รุนแรงคือเป็นสม่ำ
01:06:05 → 01:06:09 เสมอนะคะแต่มีจุดที่แย่กันถ้าเป็นโศกอะไล
01:06:09 → 01:06:13 เนี่ยมันจะมีความรู้สึกแย่กับด้านดียังมี
01:06:13 → 01:06:16 อยู่อ่ะค่ะความรู้สึกบวกเมื่อคิดถึงสิ่ง
01:06:16 → 01:06:21 ที่แบบเคยทำกับลูกกับหลานเคยเคยเคยมี
01:06:21 → 01:06:24 กิจกรรมกับคนที่จากไปเนี่ยมันยังมีมันยัง
01:06:24 → 01:06:27 มีอารมณ์บมันยังมีความสุขอยู่หลายคนเลย
01:06:27 → 01:06:30 ถังตัวเองไว้ในหลุมดำนั้นน่ะค่ะอืเพราะ
01:06:31 → 01:06:34 เพะไม่อยากไม่อยากร่ำรู้โลกภายนอกละขอ
01:06:34 → 01:06:37 อยู่กับสิ่งที่มันเคยชินไม่ไม่อยากปีนไป
01:06:38 → 01:06:41 ไหนละโกอะไรจะเป็นแบบนี้ค่ะมันจะยังอยู่
01:06:41 → 01:06:46 ในโลกแบบเหวี่ยงไปมาระหว่างระหว่างอ่ารู้
01:06:46 → 01:06:49 สึกแย่กับรู้สึกดีอันเนี้ยเนาะก็เป็นถ้า
01:06:49 → 01:06:53 มาทางนี้เนี่ยเราก็ชวนทำกิจกุศลมากๆแล้ว
01:06:53 → 01:06:57 เพิ่มพลอตใหม่ในชีวิตได้แต่นะคะแต่ถ้า
01:06:57 → 01:06:59 เป็นอีกฝั่งนึงคือซึมเศร้าเนี้ยมันจะไม่
01:06:59 → 01:07:04 มีด้านบวกเหลือค่ะมันจะมีลบลบและลบอ่ะค่ะ
01:07:04 → 01:07:08 ลบคือแย่หงุดหงิดฉันไร้ค่าฉันไม่ดีอะไร
01:07:08 → 01:07:11 อย่างเงี้ยอืๆเราเป็นภาระกับลูกหลานเรา
01:07:11 → 01:07:15 เป็นภาระกับคนอื่นมันข้างหน้าคงไม่มี
01:07:15 → 01:07:18 ชีวิตที่ดีแบบนี้อีกแล้วเนี่ยครับไม่ควร
01:07:18 → 01:07:20 จะอยู่อีกแล้วเราอยู่มาพอแล้วเนี่ยมันจะ
01:07:20 → 01:07:24 มีลบๆไปตลอดค่ะแต่ถ้ายังมีด้านดียังรู้
01:07:24 → 01:07:26 สึกว่าบางส่วนเราก็ยังมีค่าอยู่แต่ไม่มี
01:07:26 → 01:07:30 แรงหรือเมื่อนึกถึงคนที่จากไปแล้วมันแย่ 2
01:07:30 → 01:07:33 อันนี้ต่างกันเลยค่ะถ้าเรามาฝั่งซึมเศร้า
01:07:33 → 01:07:36 เนี่ยอาจารย์ว่าเราต้องหาตัวช่วยแล้วล่ะ
01:07:36 → 01:07:39 หาตัวช่วยที่เป็นมืออาชีพนะคะอันนี้ก็พอ
01:07:39 → 01:07:42 แยกได้นะคะอีกอันนึงค่ะที่เรามักพบคือ
01:07:42 → 01:07:46 ความรู้สึกไม่อยากอยู่อีกแล้วอืซึ่งในศก
01:07:46 → 01:07:48 อะไรก็มีในเศร้าก็มีแต่มีจุดที่ตัดหรือ
01:07:48 → 01:07:52 จุดที่ต่างกันนะค่ะในศกอะไรถ้าเรารู้สึก
01:07:52 → 01:07:56 ว่าแบบไม่อยากอยู่อีกแล้วหรือหรือมันเจ็บ
01:07:56 → 01:08:00 ปวดมากจนทนไม่ไหวตายดีกว่าอะไรอย่างเงี้ย
01:08:00 → 01:08:03 นะคะความรู้สึกแบบเนี้ยหรือว่าไม่รู้จะ
01:08:03 → 01:08:06 อยู่ไปทำไมไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตารออะไร
01:08:06 → 01:08:10 อย่างเงี้ยค่ะไอ้ตรงนี้เนี่ยในโศกอะไรมัน
01:08:10 → 01:08:14 จะผุกมันจะมีตรงนี้ที่เข้มเมื่อนึกถึง
01:08:14 → 01:08:17 เช่นตอนเช้าตื่นมาแล้วมีลูกมีหลานอย่าง
01:08:17 → 01:08:21 เงี้ยค่ะอย่างยายรายที่คุณย่าที่เสียเสีย
01:08:21 → 01:08:24 แบบลูกสาวที่อยู่ด้วยกัน 2 คนอย่างเงี้ย
01:08:24 → 01:08:27 จะเป็นมากในช่วงที่แบบเนึกถึงกิจกรรมที่
01:08:27 → 01:08:30 ทำร่วมกันแต่คราวที่ไม่นึกจะไม่เป็นอครับ
01:08:30 → 01:08:33 บางคราวที่ไม่นึกไม่เป็นเนาะแต่ในคนที่
01:08:33 → 01:08:37 ซึมเศร้าเนี่ยมันเป็นตลอดเวลาตื่นมาก็
01:08:37 → 01:08:40 เริ่มเลยค่ะเริ่มเริ่มรู้ตัวก็เริ่มแล้ว
01:08:40 → 01:08:42 แบบอย่างเงี้ยทั้งวันเอ้อย่างเงี้ยไม่ใช่
01:08:42 → 01:08:45 โศกอะไรล่ะค่ะอย่างเงี้ยคือซึมเศร้าอาจจะ
01:08:45 → 01:08:48 ต้องพาเนาะพาไปพบแบบนะแบบไปตรวจกันซะ
01:08:48 → 01:08:51 หน่อยว่าร่างกายมันพังจิตใจมันพังไปแค่
01:08:51 → 01:08:55 ไหนแล้วก็อกู้กลับมาให้ร่างกายมันมีกำลัง
01:08:55 → 01:08:58 ที่จะต้านทานความคิดลบเหล่านั้นอย่าง
01:08:58 → 01:09:00 เงี้ยค่ะอันนี้อาจารย์ว่าก็เป็นจุดที่
01:09:00 → 01:09:04 สำคัญเหมือนกันถ้าเรามีคนที่รอบตัวเนาที่
01:09:04 → 01:09:07 สูญเสียเรามีผู้ใหญ่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่สูญ
01:09:07 → 01:09:10 เสียลูกหลานนะอยากให้ให้แบบคอยดูตรงนี้
01:09:10 → 01:09:14 เพิ่มอีกสักนิดนึงนะค่ะอืครับก็จะนก็จะ
01:09:14 → 01:09:17 สบายใจมากขึ้นค่ะครับแล้วกรณีที่อาจารย์
01:09:17 → 01:09:19 กระแตแนะนำอันนี้เป็นกรณีที่สำหรับศูนย์
01:09:19 → 01:09:22 เสียแล้วแล้วเราก็คอยดูเฝ้าดูว่าจริงๆ
01:09:22 → 01:09:24 เป็นเรื่องของแค่โศกอาลัยหรือว่าซุมเศร้า
01:09:24 → 01:09:27 แต่กรณีที่ยังไม่สูญเสียแต่เราอยากจะซ้อม
01:09:27 → 01:09:29 เล็กเหมือนที่เออซ้อมเล็กเหมือนที่หลวง
01:09:29 → 01:09:32 พี่โบอกนี่แหละครับแล้วคนสื่อสารเว่ายัง
01:09:32 → 01:09:34 ไงครับหรือแม้กระทั่งพ่อคุณพ่อคุณแม่เอง
01:09:34 → 01:09:36 ที่กำลังอาจจะกำลังฟังอยู่ด้วยซ้ำไปนะ
01:09:36 → 01:09:39 ครับเราจะบอกกับตัวเองยังไงเราจะฝึกตัว
01:09:39 → 01:09:41 เองยังไงครับในการซ้อมเล็กแบบนี้ว่าเรา
01:09:41 → 01:09:43 อาจจะสูญเสียคนที่เรารักไปก่อนวัยอันควร
01:09:43 → 01:09:47 นี่แหละครับค่ะอันนี้ขอย้อนไปถึงงานของ
01:09:47 → 01:09:49 ลูกศิษย์นะคะงานของกิจกรรมของลูกศิษย์
01:09:49 → 01:09:53 ทั้งหลายนะคะที่ไปไปทำการศึกษาในคนที่สูญ
01:09:53 → 01:09:56 เสียแล้วก็เป็นคนที่ปฏิบัติปฏิบัติตาม
01:09:56 → 01:09:59 ศาสนกิจเช่นปฏิบัติธรรมอย่างเงี้ยนะคะพบ
01:09:59 → 01:10:03 ว่าคนที่คนที่มีการปฏิบัติทางจิตไม่ว่าจะ
01:10:03 → 01:10:07 เป็นทางพุทธศาสนาเองหรือศาสนาอื่นศาสนา
01:10:07 → 01:10:10 อื่นเช่นการนึกถึงคนอื่นการออกไปเยี่ยม
01:10:10 → 01:10:12 บ้านของศาสนาคริสต์อย่างเงี้ยค่ะหรือว่า
01:10:12 → 01:10:16 ทางศาสนาพุทธเองที่มีการปฏิบัติที่ฝึกสติ
01:10:16 → 01:10:22 ฝึกสมาธิสิ่งนี้ช่วยทำให้ทำให้เมื่อสูญ
01:10:22 → 01:10:25 เสียเนี้ยคนสามารถกลับมาอยู่อยู่ที่
01:10:25 → 01:10:29 เซ็นเตอรที่ที่ปัจจุบันขณะที่ลมหายใจ
01:10:29 → 01:10:32 ปัจจุบันได้ดีขึ้นได้เร็วขึ้นนะค่ะอันนี้
01:10:32 → 01:10:35 ถือว่าเป็นการซ้อมที่รับมือได้กับทุกโลก
01:10:35 → 01:10:38 รวมถึงสูญเสียด้วยนะคะอาจารย์ว่าถ้าคนมี
01:10:38 → 01:10:41 พื้นเหล่าเนี้ยช่วยได้ค่ะแต่ว่าถ้าคนที่
01:10:41 → 01:10:44 แบบโอ้โหไม่ชอบเลยไม่ชอบมีสิ่งยึดเดี่ยว
01:10:44 → 01:10:47 นะคะมันไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่ทางของเราอย่าง
01:10:47 → 01:10:50 เงี้ยจุดนึงที่อาจจะต้องเช็คอีกอันนึงคือ
01:10:50 → 01:10:53 เรื่องของ coping สลของเราหรือวิธีการรับ
01:10:53 → 01:10:56 มือกับเรื่องต่างๆของเราพบอย่างงี้ค่ะพบ
01:10:56 → 01:10:59 อย่างงี้ว่าคนเรามีวิธีรับมือกับเรื่อง
01:10:59 → 01:11:02 ต่างๆไม่ว่าจะเป็นความกดดันแบบเล็กนะคะ
01:11:02 → 01:11:05 ชีวิตประจำวันฝนตกรถติดอย่าเงี้ยนะคะหรือ
01:11:05 → 01:11:09 ความกดดันใหญ่ๆนะคะออกจากงานสอบตกอกหัก
01:11:09 → 01:11:14 อะไรทำนองนี้นะคะคนจะใช้อันที่ 1 คือง่าย
01:11:14 → 01:11:16 ที่สุดคือหนีมาเลยค่ะไม่รับรู้รับทราบว่า
01:11:16 → 01:11:20 เกิดอะไรขึ้นนะคะอันที่ 2 คือหาตัวช่วย
01:11:20 → 01:11:25 ค่ะหาเพื่อนไว้คุยหาคนไว้แบบทบทวนว่าเกิด
01:11:25 → 01:11:29 อะไรขึ้นหามืออาชีพนะคะหาพ่อแม่นะคะหาคน
01:11:29 → 01:11:32 ที่เราเคารพนับถือแต่อีกอีกมุมหนึ่งอัน
01:11:32 → 01:11:35 นี้ลูกศิษย์ของอาจารย์กระแตนะคะเป็นเยอะ
01:11:35 → 01:11:39 ค่ะคือชนปัญหาค่ะปัญหาอะไรมาเราชนเราไม่
01:11:39 → 01:11:41 เคยหนีนะคะคือ problem solving หรือ
01:11:41 → 01:11:44 problem โฟกัสค่ะคนส่วนใหญ่ก็เป็นเป็น
01:11:44 → 01:11:47 แบบนี้เหมือนกันนะคะคนมี 3 แบบคนที่ปรับ
01:11:47 → 01:11:50 ตัวรับมือกับศกอะไรดีที่สุดไม่ได้เป็นคน
01:11:50 → 01:11:55 ที่ชนปัญหาค่ะแต่เป็นคนที่มี 3 สิ่งนี้มี
01:11:55 → 01:11:59 มีทักษะทั้ง 3 สิ่งนี้แล้วใช้มันอย่าง
01:11:59 → 01:12:02 อย่างแบบอย่างหลากหลายอ่ะค่ะกับเรื่องนี้
01:12:02 → 01:12:07 เราหถูกค่ะถูกพอเวลาเรื่องนี้เราต้องการ
01:12:07 → 01:12:09 ความช่วยเหลือเราขอเป็นน่ะค่ะเราบอกคน
01:12:09 → 01:12:12 อื่นว่าแบบเออช่วยหน่อยเหอะเป็นไม่รู้สึก
01:12:12 → 01:12:15 เสียหน้าอย่างเงี้ยค่ะอันนี้อันนี้คือคือ
01:12:15 → 01:12:18 ทำเป็นเวลาชนปัญหาเราแก้เป็นค่ะเรารู้ว่า
01:12:18 → 01:12:22 ถอยมานิดนึงดูปัญหาแล้วเราก็ค่อยๆคิดไล่
01:12:22 → 01:12:25 ไปว่าเหตุคืออะไรอย่างเงี้ยทำเป็นนะคะ
01:12:25 → 01:12:29 แล้วก็เวลาถึงจุดต้องหนีนะคะบางเรื่องมัน
01:12:29 → 01:12:32 น้ำเชี่ยวเอาเรือไปขวางเนี่ยแบบพังเลยถอย
01:12:32 → 01:12:35 มานิดนึงอย่างเงี้ยค่ะทำทั้ง 3 แบบเป็น
01:12:35 → 01:12:38 อันเนี้ยโอกาสที่จะรับมือกับสิ่งต่างๆ
01:12:38 → 01:12:42 เงี้ยทำได้ดีค่ะแต่บางคนไม่เป็นแบบนั้น
01:12:42 → 01:12:46 ชีวิตแก้ปัญหาอย่างเดียวอืโอกาสพังสูงค่ะ
01:12:46 → 01:12:48 แล้วพบว่าคนที่ประสบความสำเร็จหรือลูก
01:12:48 → 01:12:51 หลานที่เก่งๆเนี่ยค่ะหรือพ่อแม่เราที่เคย
01:12:51 → 01:12:54 เก่งๆมาก่อนพอสูงเสียะน็อคเลยเพราะท่านชน
01:12:54 → 01:12:57 ปัญหาเก่งอย่างเดียวค่ะอืท่านไม่เคยคิด
01:12:57 → 01:12:59 ว่าเรื่องนี้ใครจะต้องเข้ามาช่วยอย่าง
01:12:59 → 01:13:03 เงี้ยนะคะถ้าเราเป็นคนที่จะต้องเตรียมตัว
01:13:03 → 01:13:06 เนี่ยต้องเช็คตัวเองค่ะว่าเรามีการรับมือ
01:13:07 → 01:13:10 กับเรื่องราวต่างๆได้หลากหลายแค่ไหนอืนะ
01:13:10 → 01:13:14 คะเราถึงคราวที่เรารอจังหวะที่เราขอความ
01:13:14 → 01:13:17 ช่วยเหลือจังหวะที่เราลงไปอยู่กับปัญหา
01:13:17 → 01:13:21 เนี่ยเราทำได้แบบเชี่ยวชาญหรือยังถ้ายัง
01:13:21 → 01:13:24 ไม่เชี่ยวชาญเนี่ยต้องอันที่ 1 ปรับตัว
01:13:24 → 01:13:28 เองเนาให้มันมีทั้ง 3 แบบอันที่ 2 นะคะ
01:13:28 → 01:13:30 ถ้าเรารู้ว่าเราชนปัญหาเก่งอย่างเดียว
01:13:30 → 01:13:34 เนี่ยเราต้องบอกกับคนใกล้ชิดนะคะเออนะถ้า
01:13:34 → 01:13:37 เห็นฉันแบบแย่อย่างเงี้ยเข้ามาช่วยหน่อย
01:13:37 → 01:13:39 เถอะเพราะถึงตอนนั้นเนี่ยไม่มีแรงจะบอก
01:13:39 → 01:13:41 แล้วละว่าต้องการตัวช่วยอย่างเงี้ยค่ะ
01:13:41 → 01:13:45 ต้องต้องหาทางอย่างเงี้ยนะคะอันนี้ก็เป็น
01:13:45 → 01:13:49 วิธีอรับมือแบบนึงซึ่งเราอาจจะไม่คุ้นชิน
01:13:49 → 01:13:50 กับการ
01:13:50 → 01:13:54 ปฏิบัติตามกิจกรรมทางศาสนาหรือสิ่งยึด
01:13:54 → 01:13:57 เหนี่ยวในชีวิตอออีกหลายทางนะคะอีกหลาย
01:13:57 → 01:14:01 ทางทางนึงจยาก็เสนอว่าลองปรับวิธีิของเรา
01:14:01 → 01:14:05 กับเรื่องราวต่างๆลงอืนะคะถ้าเราปรับได้
01:14:05 → 01:14:08 แล้วเนี่ยเราก็จะรับมือกับทุกเรื่องได้
01:14:08 → 01:14:11 อย่างหลากหลายแล้วก็มีศิลปะมากขึ้นค่ะ
01:14:11 → 01:14:15 โอกาสที่เราจะเฟลหรือเราจะอ่าศกอะไรแล้ว
01:14:15 → 01:14:19 กลายไปเป็นซึมเศร้าแล้วก็แย่ไปเลยเนี่ยก็
01:14:19 → 01:14:24 ก็จะลดลงเงี้ยค่ะครับครับนะจริงๆผมก็คิด
01:14:24 → 01:14:26 เหก็คิดว่ามีก็มีคนจำนวนมากนะครับที่บาง
01:14:26 → 01:14:28 ทีไม่ได้อาจจะไม่ได้สนใจในศาสนาเบื้องต้น
01:14:28 → 01:14:30 นะหรือบางทีไม่ได้คิดว่าวิธีการแบบนี้จะ
01:14:30 → 01:14:33 มาใช้ได้ถ้าใครคิดว่าตัวเองถนัดอะไรที่
01:14:33 → 01:14:35 เป็นวิทยาศาสตร์อ่าคำแนะนำของอาจารย์
01:14:35 → 01:14:37 กระแตก็อาจจะเป็นเป็นตัวนึงนะครับที่เอา
01:14:37 → 01:14:40 มาใช้ได้แต่จริงๆผมคิดว่าโดยหลักใหญ่ใจ
01:14:40 → 01:14:43 ความก็ไม่น่าจะต่างจากทางพุทธศาสนาหรือ
01:14:43 → 01:14:45 ต่างจากศาสนามากหรอกครับนะครับในการที่
01:14:45 → 01:14:47 เราจะหาหลากหลายวิธีการในการรับมือนะครับ
01:14:47 → 01:14:50 คงจะเข้าสู่เกือบกับจะช่วงท้ายๆนะครับ
01:14:50 → 01:14:52 เดี๋ยวจะให้ทีมงานลองขึ้นคอมเมนต์แต่ละ
01:14:52 → 01:14:54 ท่านมาเรื่อยๆวันนี้เราชวนคุยกันในเรื่อง
01:14:54 → 01:14:58 ของของผู้สูงวัยที่ต้องสูญเสียลูกหลานคน
01:14:58 → 01:15:01 รักไปก่อนเวลาพูดง่ายๆตายก่อนตัวเรานี่
01:15:01 → 01:15:03 แหละฮะแล้วเราทำใจไม่ได้แต่ว่าผมเห็นนะ
01:15:03 → 01:15:06 ครับว่ามีคำถามของหลายๆคนที่เข้ามาแสดง
01:15:06 → 01:15:09 อ่าความคิดเห็นนะครับโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
01:15:09 → 01:15:13 คอมเมนต์ของคนที่สูญเสียแบบไม่ทันตั้งตัว
01:15:13 → 01:15:15 นะครับบางทีอาจจะไม่ใช่คุณพ่อคุณแม่ก็ได้
01:15:15 → 01:15:17 เนาะบางคนก็ยังเป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่แต่
01:15:17 → 01:15:20 ว่าสูญเสียเพื่อนบ้างอะไรแบบนี้นะครับ
01:15:20 → 01:15:22 หรือบางทีสูญเสียคุณพ่อบ้างแล้วก็ยังรู้
01:15:22 → 01:15:25 สึกว่ายังทำใจไม่ได้ยังจัดการชชีวิตไม่
01:15:25 → 01:15:27 ได้ตรงนี้ครับอยากจะให้พี่โก๋ลองอยากให้
01:15:27 → 01:15:31 หลวงพี่โก๋ครับลองลองอธิบายเรื่องนี้อีก
01:15:31 → 01:15:33 สักนิดเพิ่มเติมอีกสักนิดนึงนะครับเผื่อ
01:15:33 → 01:15:36 ว่าแต่ละท่านจะได้เอามาเป็นเครื่องมือ
01:15:36 → 01:15:38 เป็นวิธีการเพื่อทำให้ชีวิตนี่เดินเดิน
01:15:38 → 01:15:41 ต่อไปข้างหน้าได้นะครับนิมนครับหลวงพี่
01:15:41 → 01:15:45 ครับครับก็คือคำถ้าหลวงพี่ชวนคำถามของพี่
01:15:45 → 01:15:48 ประสานก็คือว่าทำยังไงเราถึงจะรู้สึกไป
01:15:48 → 01:15:51 ต่อใช่มั้ยใช่ครับจะทำใจยังไงได้จะไปต่อ
01:15:51 → 01:15:57 ได้ครับหลวงพี่คิดว่าเราจะใช้เเ่อสตินะ
01:15:57 → 01:16:00 ครับก็คือความตระหนักรู้นี่แหละนะครับก็
01:16:00 → 01:16:02 คือว่า
01:16:02 → 01:16:07 เอ่อตรึกตรองกับตัวเองเลยนะเราพอใจในสิ่ง
01:16:07 → 01:16:11 ที่กำลังเป็นอยู่หรือเรามีความประสงค์ที่
01:16:11 → 01:16:12 จะไป
01:16:12 → 01:16:15 ต่อนะครับถ้าเรารู้สึกเราอยากใช้เวลาตรง
01:16:15 → 01:16:18 นี้อีกสักพักนึงมันมีความหมายที่จะทำให้
01:16:18 → 01:16:21 เรามีความเป็นมนุษย์มากยิ่งขึ้นก็ใช้เวลา
01:16:21 → 01:16:23 ตรงนี้สักพักก็ได้มันเป็นสิทธิ์ของเราใน
01:16:24 → 01:16:25 การเข้าใจชีวิต
01:16:25 → 01:16:27 นะครับอย่าไปรู้สึกว่ามันจะแปลกอะไรมาก
01:16:27 → 01:16:32 มายตราบเท่าที่มันไม่ได้เอ่อเกิดเกิดเอ่อ
01:16:32 → 01:16:35 เ้าเรียกอะไรฮะเอียงไปทางซึมเศร้าหรือ
01:16:35 → 01:16:38 เอียงไปทางอะไรที่มันจะเป็นเ่อบ่อนทำลาย
01:16:38 → 01:16:41 สุขภาพเราแล้วเช่นกินไม่ได้นอนไม่หลับคิด
01:16:41 → 01:16:45 ถึงเรื่องนี้ตลอดเวลาคือมันมีความผิดปกติ
01:16:45 → 01:16:48 ถ้ายังอยู่ในโซนที่เป็นปกติเนี่ยเราถาม
01:16:48 → 01:16:52 ตัวเองเลยว่าเราโอเคกับสิ่งนี้มยอเราอยาก
01:16:52 → 01:16:55 ใช้เวลาตรรงนี้สักพักนึงหรือเราอยากจะขอ
01:16:55 → 01:16:58 ไปต่ออะไรที่เป็นสิ่งที่ชีวิตเราต้องการ
01:16:58 → 01:17:01 กันแน่อืนะครับถ้าเรารู้สึกว่าตรงนี้จะทำ
01:17:01 → 01:17:05 ให้เราเข้าใจชีวิตใช้เวลาตรงนี้ไปขอให้
01:17:05 → 01:17:09 เป็นเวลาคุณภาพถ้าจะไปต่อคำถามก็คือจะไป
01:17:09 → 01:17:12 ต่ออย่างไรแต่ถ้าเรายังไม่มีความประสงค์
01:17:12 → 01:17:15 ที่จะไปต่อเนี่ยไม่มีใครพาเราออกจากตรง
01:17:15 → 01:17:19 นี้ได้จริงอืเพราะต้องเป็นเจตจำนงของเรา
01:17:19 → 01:17:22 เท่านั้นอันนี้เป็นเป็นตบมือข้างเดียวไม่
01:17:22 → 01:17:25 เคยดังเลยที่ี่ภาสาหลงลุงพี่จะแบบค่อน
01:17:25 → 01:17:28 ข้างระวังมากลุงพี่จะประเมินตรงนี้มากๆ
01:17:28 → 01:17:32 เลยว่าอืจะถามจริงๆอ่ะว่าคุณยายอยากใช้
01:17:32 → 01:17:35 เวลาอยู่กับตรงนี้สักพักมยคำว่าตรงนี้ไม่
01:17:35 → 01:17:39 ใช่หมายความว่าพื้นที่นี้นะออ่าแต่กับ
01:17:39 → 01:17:42 ช่วงเวลาอย่างนี้สถานการณ์แบบนี้กับความ
01:17:42 → 01:17:45 รู้สึกแบบนี้คุณยายอยากใช้เวลาอยู่สักพัก
01:17:45 → 01:17:49 หรือคุณยายอยากรู้สึกอยากจะไปต่อคำตอบที่
01:17:49 → 01:17:52 หลวงพี่หลายครั้งก็คือว่าถ้ายายจะไปต่อ
01:17:52 → 01:17:57 ยายจะไปยังไงอืมนะคือเค้าก็จะรู้ว่าตอน
01:17:57 → 01:18:00 นี้มันก็ประมาณนี้แหละแต่แต่ถ้าวันนั้น
01:18:00 → 01:18:02 วันนึงอ่ะเดี๋ยวเขาจะเปลี่ยนใจแล้วเนี่ย
01:18:02 → 01:18:08 เขาจะไปต่อยังไงอืๆอนี่ฮะฮะยายก็มองไป
01:18:08 → 01:18:10 ข้างหน้าสิ
01:18:10 → 01:18:14 นะยายมองไปข้างหน้าชีวิตเรากว่าเราจะมา
01:18:14 → 01:18:17 ถึงวันนี้นะมันเรามีความเข้มแข็งอะไรอีก
01:18:17 → 01:18:20 เยอะแยะแล้วความเข้มแข็งเหลนั้นส่วนใหญ่
01:18:20 → 01:18:23 ก็มักจะเพียงพอให้เราไปต่อมันอาจจะไม่ใช่
01:18:23 → 01:18:28 รูปแบบอย่างที่เราเคยคิดครับนอืแต่ในที่
01:18:28 → 01:18:32 สุดเดี๋ยวเราจะพบวิธีการไปต่อรูปแบบใหม่ๆ
01:18:32 → 01:18:37 อือะไรแบบนี้ก็ใจเย็นๆแต่ส่วนใหญ่แล้วจะ
01:18:37 → 01:18:41 จะคำถามที่สำคัญก็คือว่าเราอยากใช้เวลา
01:18:41 → 01:18:45 อยู่ตรงนี้สักพักนะหรือว่าเราอยากจะไปต่อ
01:18:45 → 01:18:50 เค้ารบกวนสุขภาพและคุณภาพชีวิตเรามั้ยอื
01:18:50 → 01:18:53 นะมีอะไรมั้ยที่เราต้องการความช่วยเหลือ
01:18:53 → 01:18:57 ครับอะไรอย่างเงี้ยครับหลวงพี่มักถามตรงๆ
01:18:57 → 01:19:01 เลยอืๆใช่เพราะผมเคยเห็นบางบางท่านเหมือน
01:19:01 → 01:19:05 กันอย่างเช่นว่าอ่าสูญเสียสามีแต่ว่าเรา
01:19:05 → 01:19:08 ก็จะเก็บรูปสามีไว้ฮะบางทีเอาจะไปไหนเอา
01:19:08 → 01:19:10 รูปสามีขึ้นรถไปด้วยรูปก็ไม่ได้เล็กๆนะ
01:19:10 → 01:19:12 ครับรูปใส่กรอบรูปไปเรยบางทันบางทีพาไป
01:19:12 → 01:19:15 ไหนต่อไหนตลอดเวลาคนข้างนอกมองก็จะรู้สึก
01:19:15 → 01:19:19 ว่าเอ๊ะคนนี้นี่หมานว่าเป็นคนไม่ยกตัว
01:19:19 → 01:19:22 อย่างนะครับสายตาคนข้างนอกมองก็ไม่ยอมรับ
01:19:22 → 01:19:24 ความจริงสักทีไม่ปลงหรือเปล่าไม่ไม่นั่น
01:19:24 → 01:19:27 หรือเปล่ากรณีแบบนี้เหมือนเหมือนที่หลวง
01:19:27 → 01:19:29 พี่บอกใช่มั้ยครับคือเยังรู้สึกว่าเยัง
01:19:29 → 01:19:32 โอเคกับการอยู่ในในในภาวะแบบนี้ซึ่งแน่
01:19:32 → 01:19:35 นอนว่าภาวะแบบนี้มันก็ไม่ได้ไปสร้างความ
01:19:35 → 01:19:38 ขุ่นเคืองอะไรสร้างความทุกข์อะไรให้กับ
01:19:38 → 01:19:40 ตัวเองถ้าอยู่ในสภาวะแบบนี้ถ้าเขารู้สึก
01:19:40 → 01:19:42 ว่าเค้าสบายใจในการอยู่ตรงนี้เก็สามารถเ
01:19:42 → 01:19:44 ก็ควรจะอยู่ตรงนี้ไปใช่มั้ยครับหลวงพี่
01:19:44 → 01:19:47 บางางครั้งเอาง่ายๆเลยข้างหลังข้างหลัง
01:19:47 → 01:19:50 ที่นั่งหลวงพี่ก็คือรูปหลวงพ่อหลวงพี่
01:19:50 → 01:19:53 กล้าพูดว่าไม่มีวันไหนที่หลวงพี่ไม่คิด
01:19:53 → 01:19:56 ถึงออืแต่การคิดถึงของหลวงพี่ไม่เคยนำมา
01:19:56 → 01:20:00 ซึ่งความโศกเศร้าหลวงพี่คิดถึงคุณธรรมไม่
01:20:00 → 01:20:05 ใช่คิดถึงกายเนื้อหลวงพี่คิดถึงคำสอนนะ
01:20:05 → 01:20:07 หลวงพี่คิดถึงแรงบันดาลใจหลวงพี่คิดถึง
01:20:07 → 01:20:10 อะไรหลายๆอย่างเพราะฉะนั้นความระลึกถึง
01:20:10 → 01:20:13 ตรงนี้เป็นแรงให้หลวงพี่ไปต่อหลวงพี่คิด
01:20:13 → 01:20:17 ถึงคนต้นแบบน่าเป็นเป็นแบบอย่างนั้นนะ
01:20:17 → 01:20:21 หลวงพี่คิดถึงประสบการณ์ที่เอ๊ถ้าหลวงพ่อ
01:20:21 → 01:20:25 อยู่ตรงนี้เนี่ยหลวงพ่อเคยก้าวข้ามเหตการ
01:20:25 → 01:20:28 ประมาณนี้อย่างไรอืคือคือหลวงหลวงพี่
01:20:28 → 01:20:31 เหมือนอ่านชีวประวัติบุคคลคนนึงซึ่งเรามี
01:20:31 → 01:20:36 ความอเราเราเคยอยู่อยู่อยู่อยู่ใกล้ๆเนาะ
01:20:36 → 01:20:39 นั่นหลวงพี่หลายหลายครั้งที่กล่าวถึงหลวง
01:20:39 → 01:20:41 พ่อยังใช้คำว่าไม่เคยมีวันไหนที่ไม่คิด
01:20:41 → 01:20:45 ถึงแต่แต่ไม่ใช่แบบฟูมฟายนึกออกมั้ยฮะเรา
01:20:45 → 01:20:48 มีตัวอย่างที่ดีอ่ะเออเหมือนกับเราระลึก
01:20:48 → 01:20:51 ถึงคำสอนพระพุทธเจ้าทุกเช้าเวลาหลวงพี่
01:20:51 → 01:20:53 สวดมนต์อย่างเงี้ยรู้สึกขอบคุณเหลือเกิน
01:20:53 → 01:20:56 เนี่ยแหละครับก็รู้สึกแบบอย่างเงี้ซึ่ง
01:20:57 → 01:21:00 ไม่จำเป็นซึ่งไม่จำเป็นว่าการคิดถึงใคร
01:21:00 → 01:21:02 สักคนนึงที่จากไปแล้วนัคือความอ่อนแอไม่
01:21:02 → 01:21:09 เลยเราใช้เราใช้สิ่งเหล่านี้ยังไงอืๆครับ
01:21:09 → 01:21:12 ครับอืผมว่านี้น่าจะเป็นข้อคิดที่ดีมากๆ
01:21:12 → 01:21:14 นะครับไม่ว่าจะไม่ว่าเราจะสูญเสียคนที่
01:21:14 → 01:21:16 เรารักที่แบบเป็นคุณพ่อคุณแม่หรือแม้
01:21:16 → 01:21:19 กระทั่งว่าคุณพ่อคุณแม่จะเสียสูญเสียลูก
01:21:19 → 01:21:23 นะครับที่เราที่ที่ที่เรารักนะครับบางที
01:21:23 → 01:21:26 สิ่งที่หลงโกใช้นี่ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็น
01:21:26 → 01:21:29 เครื่องมือในการกันในการเยียวยาได้เป็น
01:21:29 → 01:21:31 อย่างดีนะครับครับอาจารย์หลวงพี่เสริมอีก
01:21:31 → 01:21:34 สักนิดนึงได้มั้ยครับหลวงพี่ถึงกับมีข้อ
01:21:34 → 01:21:37 สรุปอยู่ในใจว่าคนที่เรารักตายแต่ความรัก
01:21:37 → 01:21:42 ของเราไม่เคยตายอืครับบอกมั้ยฮะเรายังเรา
01:21:42 → 01:21:46 เรายังมีความศรัทธาเรายังมีความเลื่อมใสส
01:21:46 → 01:21:49 เรายังมีความปรารถนาที่จะเจริญลอยตามอยู่
01:21:49 → 01:21:54 เสมออความระลึกถึงคุณธรรมเพราะฉะนั้นความ
01:21:54 → 01:21:57 รักมันไม่ได้ตายวันที่คนที่เรารักจากไป
01:21:57 → 01:22:02 มันเป็นคนละเรื่องกันเลยอืๆๆครับครับไม่
01:22:02 → 01:22:05 น่าแล้วเเลยมีคำว่าด้วยรักและอะไรนะคือคำ
01:22:05 → 01:22:07 ว่าอะไรยังอยู่แต่ว่าคำว่าคำว่ารักนี่ก็
01:22:07 → 01:22:09 ยังยังอยู่อยู่เหมือนกันนะครับอครับครับ
01:22:09 → 01:22:11 สุดท้ายสุดท้ายแล้วครับอาจารย์กระแตครับ
01:22:11 → 01:22:15 มีคำแนะนำอะไรมั้ยครับค่ะก็โอหนะรู้สึก
01:22:15 → 01:22:18 รู้สึกแบบเห็นภาพเลยเนาะหลวงพี่โก๋พูดนะ
01:22:18 → 01:22:21 คะอาจารย์กระแตแบบยืนยันเลยนะคะว่าหลายๆ
01:22:21 → 01:22:24 เคสที่ดีขึ้นเนี่ยด้วยการที่แบบไม่ได้
01:22:24 → 01:22:27 ทิ้งทิ้งไม่ได้ทิ้งหรือตัดคนที่เสียไปออก
01:22:27 → 01:22:30 ไปจากความคิดความทรงจำเนาะแต่ว่าแบบแปลง
01:22:30 → 01:22:34 ท่านเป็นเป็นสิ่งที่ไว้รำลึกถึงที่จะใช้
01:22:34 → 01:22:36 ชีวิตต่อไปอย่างเงี้ยอันนี้อันนี้คิดว่า
01:22:36 → 01:22:40 สำคัญมากๆทีเดียวค่ะแล้วก็ในช่วงระหว่าง
01:22:40 → 01:22:42 ที่เรากำลังอยู่ใน process นั้นเนี่ย
01:22:42 → 01:22:45 อาจารย์ว่าอีกอันนึงที่อยากชวนเพิ่มคือขอ
01:22:45 → 01:22:48 ให้อ่อนโยนกับตัวเองค่ะเพราะจังหวะที่เรา
01:22:48 → 01:22:50 สูญเสียเนี่ยเราเปราะบางที่สุดเนาะอะไร
01:22:50 → 01:22:54 ที่ที่แบบคิดรบกับตัวเองคิดว่าโอ๊ยแบบมัน
01:22:54 → 01:22:57 ควรจะอย่างงั้นอย่างงี้ลองลองคิดแล้ววาง
01:22:57 → 01:23:00 ทันทีอ่ะค่ะด้านลบเยแล้วก็ลองหาสิ่งที่
01:23:00 → 01:23:03 มันิเราหรือว่าทำให้เรารู้สึกว่าแบบใจมัน
01:23:03 → 01:23:06 ฟูขึ้นมาสักนิดนึงอ่ะค่ะไอ้ตรงนี้สำคัญที
01:23:06 → 01:23:08 เดียวหล่อเลี้ยงด้วยด้วยความอ่อนโยนกับ
01:23:08 → 01:23:12 ตัวเองเนี่ยก็จะอย่างน้อยช่วยให้มันมีแรง
01:23:12 → 01:23:15 ที่จะที่จะไปไปต่อได้นะคะแล้วก็ประโยคที่
01:23:15 → 01:23:19 อาจจะต้องบอกตัวเองว่าคือเราทำดีที่สุด
01:23:19 → 01:23:23 แล้วอ่ะค่ะอดีที่สุดเท่าที่เราทำได้บนบน
01:23:24 → 01:23:27 คามความเรียกว่าเวลาเท่านี้ทรัพยากรเท่า
01:23:27 → 01:23:31 นี้บนสิ่งที่เราสามารถทำได้เทำหมดแล้ว
01:23:31 → 01:23:34 แล้วก็คือดีที่สุดแล้ว่ะคะแล้วก็ที่เหลือ
01:23:34 → 01:23:37 ก็คือเนาะสิ่งที่เราก็เรียนรู้ถือว่า
01:23:38 → 01:23:41 อันเนี้ยเป็นสิ่งที่แบบนะการจากลนี้ทำให้
01:23:41 → 01:23:42 เราเรียนรู้ความเป็นมนุษย์เหมือนที่หลวง
01:23:42 → 01:23:45 พี่บอกเนาะตรงนี้ถ้าเราเตือนตัวเองอยู่
01:23:45 → 01:23:48 เนี่ยเราก็จะทำให้เออเราก้าวข้ามวันนี้ไป
01:23:48 → 01:23:51 ได้ค่ะอาจารย์ก็ทิ้งทายด้วยให้กำลังใจทุก
01:23:51 → 01:23:54 ท่านนะคะที่อยู่ในห้วงของการการสูญเสีย
01:23:54 → 01:23:57 หรือว่าเคยสูญเสียอาจารย์รู้ว่าไม่ง่ายนะ
01:23:57 → 01:24:00 คะแต่ว่าแต่ว่าเราจะก้ามข้าวก้าวข้ามมัน
01:24:00 → 01:24:05 ไปได้นะคะก้าวผ่านมันไปได้เนาะก็ด้วยด้วย
01:24:05 → 01:24:08 ปลายทางมันคือความเป็นคนเรานี่แหละค่ะ
01:24:08 → 01:24:11 หรือความเข้มแข็งเนาะที่เราจะใช้ชีวิต
01:24:11 → 01:24:13 อยู่อย่างเป็นมนุษย์คนนึงค่ะซึ่งต้องผ่าน
01:24:13 → 01:24:16 ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหนค่ะก็ให้กำลังใจ
01:24:16 → 01:24:20 ทุกท่านนะคะค่ะอครับๆโหเช้าวันนี้ผมว่า
01:24:20 → 01:24:22 เป็นช่วงเวลาที่มีค่ามากนะครับวันนี้มีคน
01:24:22 → 01:24:24 ฟังอยู่กับเราประมาณ 80 กว่าท่านนะครับ
01:24:24 → 01:24:28 อ่าขึ้นๆลงๆแต่ว่าโดยเฉลี่ยก็ 70-80 ท่าน
01:24:28 → 01:24:31 ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นประโยชน์มากๆในหัว
01:24:31 → 01:24:34 ข้อที่เราคุยกันเช้าวันอาทิตย์แบบนี้นะ
01:24:34 → 01:24:37 ครับบางคนอ่านแต่หัวข้อหรือว่าบางคนไม่
01:24:37 → 01:24:39 พยายามทำความเข้าใจเรื่องนี้ก็อาจจะรู้
01:24:39 → 01:24:40 สึกว่าเรามาชวนคุยเรื่องเศร้าเรื่อง
01:24:41 → 01:24:43 อัปมงคลอะไรกันแต่เช้านะฮะแต่จริงๆผมรู้
01:24:43 → 01:24:44 สึกว่าเรื่องที่เราคุยกันอยู่นี่น่าจะ
01:24:44 → 01:24:47 เป็นเป็นคู่มือสำคัญในชีวิตนะครับเราอาจ
01:24:47 → 01:24:50 จะสอบผ่านเรื่องอะไรมาสารพัดเรื่องนี่แต่
01:24:50 → 01:24:52 บางคนนี่มาสอบตกกันด้วยเรื่องแบบนี้นะ
01:24:53 → 01:24:55 ครับซึ่งถามจริงๆว่ามันก็เป็นข้อสอบที่
01:24:55 → 01:24:57 ยากจริงๆเพราะฉะนั้นเหมือนที่หลวงพี่โก๋
01:24:57 → 01:25:00 แนะนำมาตลอดนะครับก็คือว่าต้องซ้อมทำบ่อย
01:25:00 → 01:25:03 ๆนะครับซ้อมเล็กซ้อมน้อยนะฮะซ้อมหมั่น
01:25:03 → 01:25:06 ซ้อมเพราะว่าชีวิตมันก็เหมือนอากาศใช่มั้
01:25:06 → 01:25:08 ครับมันแต่ละวันมันก็ไม่แน่นอนมันจะเป็น
01:25:08 → 01:25:12 ยังไงฤดูกาลมันก็ยังไม่ตรงใช่มยฮะเราจะไป
01:25:12 → 01:25:15 เอาอะไรกับว่าเราจะคาดหวังแล้วจะคาดหวัง
01:25:15 → 01:25:17 ว่าชีวิตมันจะเป็นในแบบที่เราอยากให้เป็น
01:25:17 → 01:25:19 วันนี้ทั้งอาจารย์กระแตกับหลวงพี่โก๋ให้
01:25:19 → 01:25:21 คำแนะนำทั้งเรื่องของการเตรียมตัวรับมือ
01:25:22 → 01:25:24 นะครับให้คำแนะนำกันตั้งแต่ว่าว่าเมื่อ
01:25:24 → 01:25:26 เจอแล้วจะเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านี้ได้
01:25:26 → 01:25:31 อย่างไรรวมถึงคนรอบๆตัวที่อาจจะมีญาติพี่
01:25:31 → 01:25:33 น้องมีคุณพ่อคุณแม่คุณปู่คุณย่านี่กำลัง
01:25:33 → 01:25:36 เผชิญกับภาวะแบบนี้อยู่เราในฐานะคนใกล้
01:25:36 → 01:25:39 ตัวเราจะช่วยดูแลยังไงบ้างนะครับผมเข้าใจ
01:25:39 → 01:25:41 ว่า 3-4 ประเด็นตรงนี้น่าจะเป็นเรื่อง
01:25:41 → 01:25:44 สำคัญนะครับถ้าหากว่าแต่ละท่านที่มองว่า
01:25:44 → 01:25:46 คลิปนี้เป็นประโยชน์อาลองแชร์ให้เพื่อนๆ
01:25:47 → 01:25:50 ได้มีโอกาสได้ได้ฟังกันดูนะครับอ่าน่าจะ
01:25:50 → 01:25:53 เป็นประโยชน์มากๆนะครับอยังอาจจะยังไม่
01:25:53 → 01:25:55 ได้ใช้วันนี้ก็เก็บไว้ใช้วันหน้าอาจจะ
01:25:55 → 01:25:58 รักษาไม่ได้วันนี้ก็ก็จะดีขึ้นในวันหน้า
01:25:58 → 01:26:01 นะครับวันนี้ก็กราบนมัสการขอบพระคุณหลวง
01:26:01 → 01:26:04 พี่โก๋นะครับแล้วก็ขอบพระคุณอาจารย์กระแต
01:26:04 → 01:26:08 นะครับขอบพระคุณครับขอบคุณค่ะครับเจริญพร
01:26:08 → 01:26:11 ทุกท่านครับครับอ่าวันนี้บุพการีที่เคารพ
01:26:11 → 01:26:14 ลาคุณผู้ชมไปก่อนนะครับอ่าช่วง 2 สัปดาห์
01:26:14 → 01:26:16 นี้ก็เป็นเฉพาะกิจนิดนึงนะครับที่เรามาพบ
01:26:16 → 01:26:19 กันในช่วงวันเสาร์อาทิตย์เดี๋ยวลองจะดู
01:26:19 → 01:26:20 ครับว่าจะเป็นไปได้เดี๋ยวเดือนหน้านะครับ
01:26:20 → 01:26:23 ในเดือนมิถุนายนถ้าเป็นไปได้เราจะพยายาม
01:26:23 → 01:26:26 จะกลับมาคุยกับทุกท่านอย่างสม่ำเสมอด้วย
01:26:26 → 01:26:27 หัวข้อที่เป็นประโยชน์แบบนี้แหละครับ
01:26:27 → 01:26:30 เพื่อที่จะเป็นคู่มือในการใช้ชีวิตในแต่
01:26:30 → 01:26:33 ละวันได้อย่างมีความสุขนะครับรวมถึงเป็น
01:26:33 → 01:26:35 คู่มือในการดูแลตัวเองดูแลคุณพ่อคุณแม่
01:26:35 → 01:26:38 แล้วก็ดูแลคนที่เรารักด้วยนะครับวันนี้ลา
01:26:38 → 01:26:53 ไปก่อนนะครับขอบคุณมากครับสวัสดี
01:26:53 → 01:26:57 ครับแ