00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:09 Voice โรคลืมใบหน้าหรือภาวะบอดไมด้าไอ้
00:00:09 → 00:00:13 โลกเนี้ยมันพบน้อยจริงๆมันพบแค่ 2% ไม่
00:00:13 → 00:00:16 ใช่ของประชากรไทยนะของประชากรโลกค้นพบมา
00:00:16 → 00:00:20 ตั้ง 150 ปีมาแล้วนะคนที่ป่วยโรคนี้เป็น
00:00:20 → 00:00:23 โรคที่ไม่สามารถจดจำใบหน้าใครได้แม้แต่คน
00:00:23 → 00:00:26 ใกล้ตัวคนในครอบครัวหรือลืมแม้แต่กระทั่ง
00:00:26 → 00:00:29 ใบหน้าตัวเองการวินิจฉัยเนี่ยทำได้ยากนะ
00:00:29 → 00:00:32 เนื่องจากอาจจะสับสนกับการหลงๆลืมๆทั่วๆ
00:00:32 → 00:00:35 ไปเป็นภาวะสูญเสียการจดจำใบหน้าอย่าง
00:00:35 → 00:00:38 สมบูรณ์ดวงตาเนี่ยไม่ได้บอดนะเห็นนะยก
00:00:38 → 00:00:40 เว้นเพียงใบหน้าเท่านั้นที่กลับกลายเป็น
00:00:40 → 00:00:44 ภาพปริศนาจากการมองหน้าเพียงอย่าง
00:00:44 → 00:00:48 เดียวฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัย
00:00:48 → 00:00:52 ฟังรายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพร
00:00:52 → 00:00:54 ค่ะ This Is to
00:00:54 → 00:00:57 pbsc ติดตามกันค่ะสำหรับในวันนี้นะคะ
00:00:57 → 00:01:00 เป็นอีกโรคหนึงเชื่อว่าเราอาจจะจะไม่ได้
00:01:00 → 00:01:04 คุ้นเคยแล้วก็ไม่คิดว่ามันมีโรคนี้อยู่บน
00:01:04 → 00:01:08 โลกใบนี้ด้วยเหรอกับโรคลืมใบหน้าจำคนรู้
00:01:08 → 00:01:11 จักยังไม่ได้เฮ้ยมันคืออะไรมันขนาดนั้น
00:01:11 → 00:01:13 เลยหรอนะคะเดี๋ยวคุยกับแพทย์หญิงกิติยา
00:01:14 → 00:01:16 ศรีเลิศฟ้าแพทย์อายุรกรรมฝ่ายการแพทย์ AIA
00:01:17 → 00:01:19 ค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีอือหือ
00:01:19 → 00:01:25 คือมันเป็นโรคที่แบบะเออถ้าแบบหลงๆลืมๆ
00:01:25 → 00:01:28 หรือว่าอัลไซเมอร์หรืออะไรจำอะไรกันไม่
00:01:28 → 00:01:32 ได้เนี่ยอก็ยงพอเข้าใจแต่ถึงขั้นขนาดว่า
00:01:32 → 00:01:35 ลืมใบหน้าจำไม่ได้หรอะไรเงี้ยทำไมต้องมา
00:01:35 → 00:01:38 คุยเรื่องนี้ล่ะน้องรีจ๋าน้องรีเป็นอะไร
00:01:38 → 00:01:42 มากหรือเปล่าไม่แต่คือแบบมันก็อยากรู้อ่ะ
00:01:42 → 00:01:46 บังเอิญไปเจออยากบังเอิญไปเจอข้อไอ้ตัว
00:01:46 → 00:01:48 โรคเนี้ยแต่ยังไม่ได้อ่านรายละเอียดนะ
00:01:48 → 00:01:51 แล้วมันก็แบบเฮ้ยคืออะไรเอางี้ดีกว่าอย่า
00:01:51 → 00:01:56 เพิ่งอ่านรอคุยกับคุณหมอกว่าเออก็โลกนี้
00:01:57 → 00:02:00 นะเาดังตั้งแต่กรกฎาคม 65 เนี่ยเพราะว่า
00:02:00 → 00:02:03 อะไรเพราะว่าแบดพินะนักแสดงชายผู้โด่งดัง
00:02:03 → 00:02:06 เลยอู้ยได้รางวัลเยอะแยะไปหมดอกงออสก้า
00:02:06 → 00:02:09 หนังก็เยอะแยะนะคะเขาบอกว่าเขาให้
00:02:09 → 00:02:13 สัมภาษณ์ว่าเาเนี่ยเป็นโรคลืมใบหน้าหรือ
00:02:13 → 00:02:18 ว่าโซแคนเซค่ะโรคลืมไมหน้าหรือภาวะบอด
00:02:18 → 00:02:23 ไมด้านะคะตอนนี้แบดพิอายุ 60 ปีละนะคะเเ
00:02:23 → 00:02:27 เกิด 18 ธันวาคมค.ศ 1963 ยังไม่เคยได้รับ
00:02:27 → 00:02:30 การวินิจฉัยอย่างเป็นทางการว่าเป็นโรคพวก
00:02:30 → 00:02:32 นี้แต่เขาให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฉบับนึง
00:02:32 → 00:02:37 ว่าเาเนี่ยนะต้องต่อสู้มาหลายปีในการจดจำ
00:02:37 → 00:02:40 ใบหน้าของผู้คนทำให้ผู้คนเนี่ยมองว่าเา
00:02:40 → 00:02:43 เนี่ยห่างเหินไม่สามารถเข้าถึงได้แล้วก็
00:02:43 → 00:02:47 หมกมุ่นกับตัวเองเฮ้ยแต่ว่ามันแปลกอ่ะก็
00:02:47 → 00:02:52 เนี่ยก็เลยไปตามในเน็ตนะไปดูซิว่ามันก็
00:02:52 → 00:02:54 คือเขายังไม่ได้รับการวินิจฉัยอย่างเป็น
00:02:54 → 00:02:57 ทางการแต่เขามาพูดเองไงแล้วก็หลังจากที่
00:02:57 → 00:03:02 เนี่ยปีกรกฎาคม 65 5 ค่ะเอ้ย 2 2565
00:03:02 → 00:03:06 เนี่ยก็เข้าไปตามดูก็ไม่เห็นมีหลักฐานว่า
00:03:06 → 00:03:08 เค้าพูดอีกนะว่าเค้าคุณหมอวินิจฉัยว่า
00:03:08 → 00:03:11 เค้าเป็นจริงไม่ไม่ได้มีการยืนยันจากทไม่
00:03:11 → 00:03:13 มีการยืนยันแล้วก็มีมีไม่มีการพูดเรื่อง
00:03:13 → 00:03:16 นี้อีกอ่าก็เลยไม่ไม่ไม่ไม่ทราบว่าจริง
00:03:16 → 00:03:20 ไม่จริงอ่ะแต่แต่เป็นไม่เป็นไรเรามารู้
00:03:20 → 00:03:24 จักไอ้โลกลืมใบหน้ามันมีในสารบบจริงมั้ย
00:03:24 → 00:03:26 ที่น้องลีพูดอ่ะอมันมีอยู่ในโลกนี้จริง
00:03:26 → 00:03:30 หรอนั่นน่ะสิคือถ้าแบบอ่าถ้าอย่างจำคนไม่
00:03:30 → 00:03:32 ค่อยได้อย่างที่ตัวเองเป็นน่ะอย่างสมมุติ
00:03:32 → 00:03:33 ถ้า
00:03:33 → 00:03:36 เพึ่งอันนี้คือเป็นข้อที่ทุกคนจะจะเข้าใจ
00:03:36 → 00:03:40 เลยว่าสุรีพรเป็นอันนี้คือพอเห็นหน้า
00:03:40 → 00:03:42 เนี่ยมันต้องใช้เวลาในการที่จะต้องจำคน
00:03:42 → 00:03:45 เนี้ยหรือเจอบ่อยๆจริงๆถึงจะจำได้ถ้าเจอ
00:03:45 → 00:03:47 แป๊บนึงผ่านไปปึ๊บแล้วมาเจออีกทีเราจะจำ
00:03:47 → 00:03:50 เขาไม่ได้และใครหรืออะไรยิ่งโอโหช่วงก่อน
00:03:50 → 00:03:53 หน้านั้นใส่แมสทุกวันนี้ก็ยังมีคนใส่แมส
00:03:53 → 00:03:56 อยู่เงี้ยใช่บางทีเออพอถอนแมสมาแล้วเราก็
00:03:56 → 00:03:59 ใครอ่ะบางทีใส่แมสเราก็ยังจำไม่ได้อยู่ดี
00:03:59 → 00:04:02 ต้องแบบอ๋อซ้ำๆซๆอ่ะไม่รู้ว่าเกี่ยวมย
00:04:02 → 00:04:05 เนี่ยรู้รู้ะน้องนีกลัวว่าเป็นโลก
00:04:05 → 00:04:09 นี้อ่ะเดี๋ยวเรามาคุยกันเป็นหรือเปล่านะ
00:04:09 → 00:04:13 นั่นแต่ว่าโรคนี้นะมันมีอยู่นะค้นพบมา
00:04:13 → 00:04:17 ตั้ง 150 ปีมาแล้วนะอ้าอ่าไม่ใช่ว่าไม่
00:04:17 → 00:04:21 ใช่ว่าไม่มีในโลกนี้นะก็คือมันจะเป็นยัง
00:04:21 → 00:04:24 ไงคนที่ป่วยโรคนี้เป็นโรคที่ไม่สามารถจด
00:04:24 → 00:04:27 จำใบหน้าใครได้แม้แต่คนใกล้ตัวคนใน
00:04:27 → 00:04:30 ครอบครัวหรือหรือคือแม้แต่กระทั่งใบหน้า
00:04:31 → 00:04:33 ตัวเองเฮ้ยใบหน้าตัวเองเป็นยังไงตอนแรก
00:04:33 → 00:04:35 เนี่ยกะว่าจะบอกว่าเอ๊ะอันนี้ไม่น่าใช่
00:04:35 → 00:04:38 โลกแล้วอาจจะเป็นภาวะของของ Brad พิหรือ
00:04:38 → 00:04:41 เปล่าที่เขาเป็นภาวะแบบนี้พอบอกว่าแม้
00:04:41 → 00:04:44 กระทั่งหน้าตัวเองยังแบบอ่ะจำไม่ได้อ่ะ
00:04:44 → 00:04:48 อันนี้โโลกแล้วเหอะใช่อการวินิจฉัยเนี่ย
00:04:48 → 00:04:50 ทำได้ยากนะเนื่องจากอาจจะสับสนกับการหลงๆ
00:04:50 → 00:04:54 ลืมๆทั่วๆไปที่นรีพูดอ่ะค่ะนะมันอืมัน
00:04:54 → 00:04:58 วินิจฉัยยังไงนะอ่ะเราตามกันต่อไปซิออ่ะ
00:04:58 → 00:05:05 จะบอกว่าโรคโซแคนเซียมจากภาษากรีกโบราณนะ
00:05:05 → 00:05:10 มันมาจากโพอแปลว่าใบหน้าหรือเฟนะบวกกับคำ
00:05:10 → 00:05:14 ว่าแนียคือ not knowing หรือไม่รู้ไม่
00:05:14 → 00:05:18 รู้ใบหน้าหรือ Face blindness ก็เป็น
00:05:18 → 00:05:23 ความบกพร่องของสมองในการประมวลผลและแปล
00:05:23 → 00:05:26 ความหมายภาพใบหน้าเฉพาะใบหน้าด้วยนะที่ตา
00:05:26 → 00:05:31 รับรู้เป็นภาวะสูนเสียการจดจำใบหน้าอย่าง
00:05:31 → 00:05:35 สมบูรณ์อุยดวงตาเนี่ยไม่ได้บอดนะเห็นนะ
00:05:35 → 00:05:38 มองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างปกติเหมือนเดิมยก
00:05:38 → 00:05:40 เว้นเพียงใบหน้าเท่านั้นที่กลับกลายเป็น
00:05:40 → 00:05:44 ภาพปริศนาทำให้ไม่สามารถแยกแยะหรือระบุ
00:05:44 → 00:05:47 ตัวตนคนอื่นได้ถูกต้องชัดเจนจากการมอง
00:05:47 → 00:05:49 หน้าเพียงอย่างเดียวโอ้โหมันน่ากังวลนะ
00:05:49 → 00:05:52 คือถ้าอย่างไปเจอคนศัลยกรรมเยอะๆมาน่ะมา
00:05:52 → 00:05:54 เห็นอีกทีมันจำไม่ได้หรอกอะไรอย่าเงี้ย
00:05:54 → 00:05:57 แต่เอ้ยคนละเรื่องกันนะอันนี้คือคนละ
00:05:57 → 00:06:00 เรื่องกันใช่เนี่ยในชีวิตประจำันอเจอหน้า
00:06:00 → 00:06:02 คุณหมอรจำไม่ได้เฉยเลยอย่างเงี้ยซึ่งึมัน
00:06:03 → 00:06:05 ไม่น่าจะเป็นไปได้ๆไม่ได้เป็นอัลไซเมอร์
00:06:05 → 00:06:08 ด้วยใช่เพราะเราเจอกันอย่างน้อยก็ทุก
00:06:08 → 00:06:12 เดือนใช่มั้ยคะเนี้ยอไอ้โลกเนี้ยมันพบ
00:06:12 → 00:06:15 น้อยจริงๆมันพบแค่ 2% ไม่ใช่ของประชากร
00:06:15 → 00:06:19 ไทยนะของประชากรโลกค่ะอ๋อถึงว่าไม่ค่อย
00:06:19 → 00:06:21 ได้มีใครรู้จักใช่ตอนเรียนแพทย์มาก็ไม่
00:06:21 → 00:06:24 เคยอาจารย์ก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้ให้ฟังนะ
00:06:24 → 00:06:27 ไม่ไม่รู้จักเหมือนกันคือที่มันมามันน้อย
00:06:27 → 00:06:30 อ่ะมันมาน่าสนมันเป็นที่สนใจขึ้นมาเพราะ
00:06:30 → 00:06:33 ว่า bad พิใช่เออนักแต่ไม่รู้เป็นจริงไม่
00:06:33 → 00:06:36 จริงนะค่ะครีวนี้ผู้ป่วยเนี่ยจะไม่สามารถ
00:06:36 → 00:06:38 จดจำใบหน้าของใครได้เลยแม้แต่คนใกล้ชิด
00:06:38 → 00:06:42 เช่นพ่อแม่ญาติเพื่อนนะถ้าหากมีอาการ
00:06:42 → 00:06:45 รุนแรงเนี่ยจะไม่สามารถจดจำใบหน้าตัวเอง
00:06:45 → 00:06:47 ในกระจกได้ด้วย
00:06:47 → 00:06:51 นะซึ่งคนที่ประสบภาวะนี้เนี่ยจะไม่รู้เลย
00:06:52 → 00:06:54 ว่าใครเป็นใครนะจะส่งผลต่อการใช้ชีวิต
00:06:54 → 00:06:57 ประจำวันอย่างมากเลยเพราะฉะนั้นคนๆนั้น
00:06:57 → 00:07:00 เนี่ยจะต้องสร้างระบบจดจดจำคนใหม่ทั้งหมด
00:07:00 → 00:07:03 เป็นของตัวเองเช่นจะจำแต่ละคนเนี่ยด้วย
00:07:03 → 00:07:08 น้ำเสียงรูปร่างท่าทางทรงผมแล้วก็การแต่ง
00:07:08 → 00:07:11 ตัวอ๋อเพราะเจำหน้าไม่ได้อก็ไปใช้อย่าง
00:07:11 → 00:07:15 อื่นในการช่วยจำแทนใช่แต่ภาวะที่น้องรี
00:07:15 → 00:07:18 พูดเมื่อตะกี้ก็คือมองเห็นหน้าคนอื่นได้
00:07:18 → 00:07:21 ไม่ผิดเพี้ยนเลยเพียงแต่จำไม่ได้นึกชื่อ
00:07:21 → 00:07:24 ไม่ออกอ่ะสมมุติเพื่อนไม่เจอกันมา 10 ปี
00:07:24 → 00:07:27 อ่ะเพื่อนโรงเรียนอะไรประมาณเนี้ยเคนนี้
00:07:27 → 00:07:31 นะเคยเห็นนะแต่นึกไม่ออกอ่ะว่าเป็นใครอื
00:07:31 → 00:07:35 นะจำชื่อไม่ได้ก็อาจจะเป็นเพียงอาการหลง
00:07:35 → 00:07:39 ลืมสำหรับคนที่ไม่ได้เจอกันนานค่ะนะไม่
00:07:39 → 00:07:43 ไม่ไม่นับว่าเป็นโรคบอดใบหน้าค่ะอืแต่อัน
00:07:43 → 00:07:47 นี้ไม่ใช่ค่ะอันนี้แม้กระทั่งคนใกล้ตัวคน
00:07:47 → 00:07:50 ใกล้ตัวก็จะหน้าตัวเองหน้าตัวเองยังจำไม่
00:07:50 → 00:07:55 ได้เลยำเองโวยค่ะเออแต่มันแค่แบบพบน้อย
00:07:55 → 00:07:59 มากจริงๆเนาะค่ะมันเป็นแต่กำเนิดมยอ่ะ
00:07:59 → 00:08:02 หรือว่าเอ๊ยอย่างของไม่น่าเออไม่น่าใช่
00:08:02 → 00:08:04 สาเหตุนะโลกลืมใบหน้าเนี่ยไม่ได้เกิดจาก
00:08:04 → 00:08:07 ความผิดปกติจากการมองเห็นนะมองเห็นปกติ
00:08:07 → 00:08:10 ความไม่ได้เกิดจากความผิดกติในเรื่องความ
00:08:10 → 00:08:15 จำความบกพร่องในการเรียนรู้ผู้ป่วยโรค
00:08:15 → 00:08:18 เนี้ยนะสามารถมองเห็นจดจำแล้วก็เรียนรู้
00:08:18 → 00:08:21 สิ่งต่างๆได้ปกติเลยอแต่ไม่สามารถบอกหรือ
00:08:21 → 00:08:25 จำแนกความแตกต่างของบุคคลจากใบหน้าได้นะ
00:08:25 → 00:08:29 สันนิษฐานว่าความผิดปกติน่ะเกิดจากความ
00:08:29 → 00:08:32 เสียหายของสมองซิกขวาค่ะอ่าส่วนที่เรียก
00:08:32 → 00:08:35 ว่าฟอร์มจัสซึ่งมีหน้าที่ในการประมวลผล
00:08:35 → 00:08:39 เกี่ยวกับการจดจำใบหน้าอืนะฮะซึ่งโรคลืม
00:08:40 → 00:08:43 ใบหน้าเนี่ยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทนะก็คือ
00:08:43 → 00:08:46 โรคที่เป็นมาแต่กำเนิดภาวะจดจำใบหน้าไม่
00:08:46 → 00:08:51 ได้ที่เป็นแต่กำเนิดค่ะนะคะก็คือเป็นภาวะ
00:08:51 → 00:08:54 บอดใบหน้าแต่กำเนิดโดยเชื่อกันว่าถ่ายทอด
00:08:54 → 00:08:57 ตังงพันธุกรรมมักพบในคนในครอบครัวมีอาการ
00:08:57 → 00:09:01 ภาวะลืมใบหน้าเช่นเดียวกันนะโดยผู้ป่วย
00:09:01 → 00:09:03 เด็กเนี่ยอาจจะไม่ทราบเลยว่าตัวเองเนี่ย
00:09:03 → 00:09:06 มีภาวะนี้จนกว่าโตขึ้นแล้วก็เริ่มเข้า
00:09:06 → 00:09:10 สังคมผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีความผิดปกติใน
00:09:10 → 00:09:14 ช่วงพัฒนาการทำให้จดจำใบหน้าคนได้ล่าช้า
00:09:14 → 00:09:19 แต่พัฒนาการส่วนอื่นเนี่ยปกติอืเอนั่ง
00:09:19 → 00:09:24 คลานยืนพูดของเพัฒนาการของเขาผิดเอ้ยปกติ
00:09:24 → 00:09:28 เด็กคนนี้นะแต่ว่าภาวะลืมใหนเนี่ยอาจจะพบ
00:09:28 → 00:09:31 ร่วมด้วยได้ในเด็กที่เป็นออทิสติกโรค
00:09:31 → 00:09:41 แอสเปอร์จิลลัส
00:09:41 → 00:09:44 มารคในการใช้ชีวิตประจำวันแล้วก็การเข้า
00:09:45 → 00:09:48 สังคมเด็กที่มีภาวะเนี้ยอาจจำหน้าพ่อแม่
00:09:48 → 00:09:50 ญาติและเพื่อนไม่ได้ต้องรอให้พ่อแม่เข้า
00:09:50 → 00:09:55 หาและทักทายก่อนคะหรือทักคนแปลกหน้าโดย
00:09:55 → 00:09:58 เข้าใจว่าเป็นพ่อแม่หรือคนรู้จักก็จะส่ง
00:09:58 → 00:10:03 ผลกระทบนำไปสู่โรคกลัวการเข้าสังคมหรือ
00:10:03 → 00:10:06 Social anxiety เนื่องจากว่าเขาเนี่ย
00:10:06 → 00:10:10 ไม่สามารถจดจำใบหน้าบุคคลรอบตัวได้ค่ะจึง
00:10:10 → 00:10:12 ทำให้ไม่ยอมอยู่ห่างจากพ่อแม่ในที่
00:10:12 → 00:10:15 สาธารณะไม่กล้าที่จะทักทายผู้อื่นส่งผล
00:10:15 → 00:10:18 ต่อการทำความรู้จักเพื่อนใหม่ไม่อยากไป
00:10:18 → 00:10:21 โรงเรียนรวมถึงหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรม
00:10:21 → 00:10:25 ร่วมกับผู้อื่นเป็นทำให้ส่งผลกระทบต่อการ
00:10:25 → 00:10:27 ใช้ชีวิตและความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง
00:10:27 → 00:10:31 โอ้โหนี้ในคุมเป็นมาแต่กำเนิดแล้วแล้วคือ
00:10:31 → 00:10:34 ความที่เค้าเป็นเด็กอ่ะกว่าจะมารู้ว่า
00:10:34 → 00:10:37 เป็นโรคที่แบบจำใบหน้าไม่ได้เนี่ยมันก็
00:10:37 → 00:10:40 ต้องรอตอนโตและแต่พฤติกรรมอย่างว่าแบบเออ
00:10:40 → 00:10:43 ไม่กล้าเข้าสังคมหรืออะไรเด็กทั่วไปก็มี
00:10:43 → 00:10:46 เป็นบ้างนะคะที่แบบอาจจะติดพ่อแถึงบอกไง
00:10:46 → 00:10:49 โอ้โหโลกนี้มันยากมากเลยนะใช่กว่าจะไปรู้
00:10:49 → 00:10:52 ว่าเ้าเป็นโลกนี้อ่ะโอ้โหมันคือมันเรี้
00:10:52 → 00:10:54 กันเข้าสังคมอะไรอย่างเงี้ยเราไม่รู้อ่ะ
00:10:54 → 00:10:57 ว่าเคเจำใบหน้าใครไม่ได้ใช่อืเคพูดบอกไม่
00:10:57 → 00:11:00 ได้คือเก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรด้วเออเค้า
00:11:00 → 00:11:03 ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรอ้าแต่พ่อแม่เองก็
00:11:03 → 00:11:05 ยังไม่รู้เลยว่าลูกเป็นอะไรด้วยซ้ำเนาะ
00:11:05 → 00:11:08 ถูกค่ะอืต่อไปอีกกลุ่มนึงเป็นที่เป็นภาย
00:11:08 → 00:11:12 หลังก็คือ acquire acquire prac noia
00:11:12 → 00:11:15 ก็คือเกิดจากการเสียหายของสมองสมอง 2
00:11:16 → 00:11:18 ส่วนก็คือสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรับ
00:11:18 → 00:11:22 รู้ภาพใบหน้าสมองมันจะมีส่วนที่เกี่ยวกับ
00:11:22 → 00:11:26 การรับรู้ภาพใบหน้าค่ะแล้วมีสมองอีกส่วน
00:11:26 → 00:11:29 นึงที่เป็นคลังความจำภาพใบหน้าที่เคยเห็น
00:11:29 → 00:11:32 โอ้โหสมองนี้มันเก่งมะอืมสามารถเก็บภาพ
00:11:32 → 00:11:35 ได้มันมีมันมีแอเรียของสมองส่วนที่การรับ
00:11:35 → 00:11:39 รู้นะแล้วก็มันมีคลังความจำภาพของคนที่
00:11:39 → 00:11:41 เราเคยเห็นเคยอะไรมันมีคลังความจำอยู่นะ
00:11:41 → 00:11:47 อืเออคราวเนี้ยมันเป็นสมองซิกขวาส่วนใหญ่
00:11:47 → 00:11:49 ก็เลยทำให้แบบการจำไม่ได้เกจากการเกิดจาก
00:11:49 → 00:11:52 สาเหตุอะไรได้มั่งความเสียหายของสมองนะ
00:11:52 → 00:11:56 เช่นได้รับแรงกระแทกจากเอ่อบริเวณศีรษะ
00:11:56 → 00:12:00 จากอุบัติเหตุนะมีอุบัติเหตุทางสมองอใช่
00:12:00 → 00:12:05 มั้ยคะโรคหลอดเลือดสมองตีบหรือแตกการติด
00:12:05 → 00:12:10 เชื้อในสมองการอักเสบจากภาวะภูมิแพ้ตนเอง
00:12:10 → 00:12:12 เนื้องอกในสมองอะไรแบบนี้คือมาเกิดขึ้น
00:12:13 → 00:12:16 ภายหลังไม่เคยเป็นอค่ะก็ก็มาดีๆอ่ะจนวัน
00:12:16 → 00:12:21 ดีคืนดีเนี่ยเกิดอุบัตเหตุเกิดโรคขึ้นมา
00:12:21 → 00:12:25 ก็จะทำให้มีอาการเนี้ยจำหน้าคนไม่ได้ค่ะ
00:12:25 → 00:12:29 แม้แต่เป็นคนที่รู้จักมักคุ้นมาก่อนอืค่ะ
00:12:29 → 00:12:31 อันนี้คือแบบว่าน่าจะงงกันเลยทีเดียวว่า
00:12:31 → 00:12:34 เอ้าทำไมอยู่ๆจำหน้าไม่ได้ถึงว่าสิเวลาดู
00:12:34 → 00:12:37 ละครดูหนังหรือว่าอะไรก็แล้วแต่มามจะแบบ
00:12:37 → 00:12:42 ว่าจำได้มยนี่ค่ะใครนี่พ่อนะนี่แม่นะหรือ
00:12:42 → 00:12:45 หรืออะไรอย่างเงี้ยเนาะเอเกี่ยวมค่ะซึ่ง
00:12:45 → 00:12:49 เ่อโลกนี้เนี่ยนะโแคนเสียเนี่ยก็คือไม่
00:12:49 → 00:12:52 สามารถจดจำใบหน้าของคนได้เท่านั้นแต่เขา
00:12:52 → 00:12:56 มองเห็นสิ่งอื่นๆนะเขาสามารถแยกแยะวัตถุ
00:12:56 → 00:13:00 สิ่งของได้อ่านหนังสือเข้าใจความหมายเออ
00:13:00 → 00:13:03 รวมถึงการตัดสินใจแล้วก็เลือกเหตุผลจาก
00:13:03 → 00:13:06 ความสามารถในการเรียนรู้ได้ตามปกติเลยนะ
00:13:06 → 00:13:09 มันแค่จำหน้าไม่ได้เรื่องหน้าอย่างเดียว
00:13:09 → 00:13:12 เลย Face Bless เลยเออแเพราะสมองส่วน
00:13:12 → 00:13:17 นั้นน่ะความจำอย่างที่บอกการรับรู้ภาพใบ
00:13:17 → 00:13:21 หน้าคลังภาพที่เคยมีมาก่อนเออสมองมันมี
00:13:22 → 00:13:25 คลังภาพด้วยนะแต่มันเฉพาะแค่ใบหน้าไงแต่
00:13:25 → 00:13:27 อย่างอื่นน่ะทุกอย่างวัตถุสิ่งของือทำได้
00:13:28 → 00:13:32 ปกติชีวิตปกติแหละแต่แค่ว่าจำหน้าไม่ได้
00:13:32 → 00:13:33 ใช่แล้วเดี๋ยวเราจะมาดูการจำหน้าไม่ได้
00:13:33 → 00:13:37 มันมีเอฟเฟคอะไรเออแปลกมากจริงๆใช่ค่ะ
00:13:37 → 00:13:40 คราวนี้เราสังเกตง่ายๆโอคุณผู้ฟังบอกอะไร
00:13:40 → 00:13:43 โลกนี้อะไรชักเวียนหัวงงแล้วปิดวิทยุดี
00:13:43 → 00:13:44 กว่าเดี๋ยวอย่าเพิ่งปิดอย่าเพิ่งปิดฟัง
00:13:45 → 00:13:48 ก่อนอาการอาการของผู้ที่เป็นโรคลืมใบหน้า
00:13:48 → 00:13:51 นะลองลองสังเกตดูนะเผื่อคนใกล้ชิดเป็นนะ
00:13:51 → 00:13:54 ไม่สามารถจดจำใบหน้าของคนใกล้ชิดได้ไม่
00:13:54 → 00:13:57 สามารถนึกหน้าของคนที่รู้จักแม้ว่าจะใกล้
00:13:57 → 00:14:00 ชิดสนิทสนมกว่าเาเพียงใดเน้นคำว่าสนิทสนม
00:14:00 → 00:14:02 นะใกล้ชิดเนี่ยออ่าคราวนี้เมื่อกี้น้องรี
00:14:03 → 00:14:06 พูดสับสนตัวละครในหนังมากกว่าคนอื่นผู้
00:14:06 → 00:14:08 ที่เป็นโลกลืมใบหน้าไม่ชอบดูภาพยนตร์หรือ
00:14:08 → 00:14:13 ละครเนื่องจากเค้าเนี่ยจะสับสนกับตัวละคร
00:14:13 → 00:14:17 เจำตัวละครไม่ได้โอ๊ยเออไม่สามารถแยกแยะ
00:14:17 → 00:14:20 ตัวละครออกจากกันได้คือดูอะไรที่เป็นคน
00:14:20 → 00:14:22 ไม่ได้ว่าอย่างงั้นน่าจะเป็นอย่างงั้นนะ
00:14:23 → 00:14:27 คะจำไม่ได้แม้แต่หน้าตัวเองตายวะบางคนนะ
00:14:27 → 00:14:29 อาจไม่สามารถจดจำแม้กระทั่งใบหน้าตัวเอง
00:14:29 → 00:14:33 ได้โดยเฉพาะเวลามองรูปหมู่นะรูปถ่ายนะ
00:14:33 → 00:14:36 เฮ้ยไม่สามารถระบุได้ว่าตัวเองคือคนไหน
00:14:36 → 00:14:40 อ่ะอ๋อขนาดนั้นน่ะอนึกออกป่ะสมมุติรูป
00:14:40 → 00:14:43 หมู่ถ่ายอ้ารูปในครอบครัวก็ได้ไม่ต้อง
00:14:43 → 00:14:47 เยอะเอาสัก 4 คน 5 คนเฮ้ยตัวเราคนไหนจำ
00:14:47 → 00:14:52 ไม่ได้อุ๊ยอ่ะเป็นขนาดนั้นอืต่อไปเ้าจะจำ
00:14:52 → 00:14:56 คุณไม่ได้หากคุณเปลี่ยนทรงผมนะเอ่อคนโลก
00:14:56 → 00:14:59 ลืมใบหน้าเนี่ยใช้วิธีจดจำทรงผมเเจำหน้า
00:14:59 → 00:15:02 ไม่ได้เาจะจำแต่เอคนนี้
00:15:02 → 00:15:08 นะไว้ผมทรงนี้นะตัดผมตรงผมบอบอะไรแบบนี้
00:15:08 → 00:15:10 อือแต่ถ้าคุณเพียนทรงผมเมื่อไหร่เคจำคุณ
00:15:10 → 00:15:13 ไม่ได้ทันทีโอต้องมาสร้างความจำใหม่ใช่
00:15:13 → 00:15:17 เออโสร้างความจำใหม่อย่างคนที่เป็นโรกนี้
00:15:17 → 00:15:21 นะโรกลืมใบหน้าเค้าจดจำได้หมดล่ะจอดรถไว้
00:15:21 → 00:15:24 ที่ไหนเส้นทางที่เก็ขับรถไปทำงานได้เส้น
00:15:24 → 00:15:27 ทางใช้ชีวิตประจำวันของเา้าจำเหตุการณ์
00:15:27 → 00:15:32 ต่างๆได้แม่นยำเลยอืนะแต่กลับลืมใบหน้า
00:15:32 → 00:15:35 ของคนรู้จักได้ง่ายๆค่ะนะเนื่องจากสมอง
00:15:35 → 00:15:38 ส่วนที่จดจำใบหน้าไม่สามารถทำงานได้ตาม
00:15:38 → 00:15:41 ปกติอืซึ่งมันก็อย่างที่บอกว่ามันอาจจะ
00:15:42 → 00:15:44 เกิดจากเป็นตั้งแต่เด็กหรือเราได้รับความ
00:15:44 → 00:15:47 กระทบกระเทือนในตอนที่เราเป็นผู้ใหญ่เป็น
00:15:47 → 00:15:51 ผู้ใหญ่แล้วโตแล้วอ่ะนะคะก็อาจจะแต่คือ
00:15:51 → 00:15:54 ไม่ค่อยเจอนะคะที่คนที่เจออุบัติเหตุหรือ
00:15:54 → 00:15:57 อาจจะมีแต่เราไม่รู้หรือเปล่าที่แบบว่า
00:15:57 → 00:16:00 ฟื้นมาแล้วเคเลอะเลือนไปแล้วอะไรประมาณ
00:16:00 → 00:16:03 นี้อใช่อืเออแต่ว่าเขาก็ยังอุตส่าห์มี
00:16:03 → 00:16:06 ความจำในด้านอื่นที่เยังคือยังดีที่ที่เ
00:16:06 → 00:16:09 ยังสามารถใช้ชีวิตได้ได้ตามปกติเออทำงาน
00:16:09 → 00:16:12 เอ๊ะแล้วอย่างงี้จะทำงานได้มั้ยอ่ะจะจำ
00:16:12 → 00:16:15 ได้นี่คือหัวหน้าเรานี่คือแนี่เดี๋ยวเรา
00:16:15 → 00:16:18 ต้องพูดต่อออคราวนี้พอเค้าพอเค้าเป็นโรค
00:16:18 → 00:16:21 นี้ผลกระทบจากการเป็นโรคเนี้ยผลกระทบจาก
00:16:22 → 00:16:25 การเป็นโลคลืมใบหน้าที่เป็นยังไงอืมันก็
00:16:25 → 00:16:28 กระทบในเรื่องของการสร้างความสัมพันธ์กับ
00:16:28 → 00:16:31 ผู้อื่นนะเพราะว่าเค้าไม่จดจำไม่สามารถจด
00:16:31 → 00:16:34 จำใบหน้าผู้อื่นได้เค้าก็หวังจากการ
00:16:34 → 00:16:38 สมมุติว่าเค้าเเไม่บอกใครนะเค้าก็จำแต่
00:16:38 → 00:16:44 เสื้อผ้านะทรงผมน้ำเสียงท่าทางว่าคนเนี้ย
00:16:44 → 00:16:47 ชื่อท่าทางแบบเนี้ยเสียงแบบเนี้ยชื่อนี้
00:16:47 → 00:16:51 นะก็ไม่สามารถช่วยได้เสมอไปไงในการสร้าง
00:16:51 → 00:16:54 ความสัมพันธ์กับผู้อื่นเกิดแบบอย่างที่
00:16:54 → 00:16:57 บอกเค้าเปลี่ยนเปลี่ยนเสื้อผ้าเปลี่ยน
00:16:57 → 00:16:59 สไตล์การแต่งตัวปุ๊
00:16:59 → 00:17:01 จำไม่ได้ละวันนั้นเป็นหวัพอดีเสียง
00:17:01 → 00:17:04 เปลี่ยนเออใช่โอโหเพราะฉะนั้นปัญหาเรื่อง
00:17:04 → 00:17:08 เนี้ยก็จะปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ก็จะ
00:17:08 → 00:17:11 กระทบไปถึงหน้าที่การงานที่น้องรีถามค่ะ
00:17:11 → 00:17:13 เพราะว่าเขาไม่สามารถจดจำใบหน้าได้เาไป
00:17:14 → 00:17:16 ติดต่อลูกค้าเไม่สามารถจำหน้าลูกค้าได้ก็
00:17:16 → 00:17:21 จะส่งผลให้เกิดปัญหามยใช่มั้ยอ่านี้เป็น
00:17:21 → 00:17:24 ผลกระทบในในเรื่องของคนที่ทำงานด้วยโอหใน
00:17:24 → 00:17:27 เรื่องของลูกค้าอีกอือันนี้คือในเรื่อง
00:17:27 → 00:17:29 การสร้างความส
00:17:29 → 00:17:33 ค่ะต่อไปยังส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการแสดง
00:17:33 → 00:17:35 ออกอีกเพราะฉะนั้นพวกนี้ก็จะหลีกเลี่ยง
00:17:35 → 00:17:38 การมันมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นชอบอยู่ค
00:17:38 → 00:17:41 เดีจเป็นใครไม่ค่อยได้ฉันไม่ค่อยจะอยาก
00:17:41 → 00:17:44 สูงสิงกับใครดีกว่าเพราะเขาก็จะหวาดกลัว
00:17:44 → 00:17:48 การเข้าสังคมค่ะค่ะคราวนี้ถ้าหนักหนักไป
00:17:48 → 00:17:52 เลยก็คือพอเาไม่สามารถปรับตัวเข้ากับ
00:17:52 → 00:17:56 สังคมได้เขาก็จะมีอุปสรรคในการใช้ชีวิต
00:17:56 → 00:17:59 ประจำวันแล้วก็การเข้าสังคมระยะยาวปลีก
00:17:59 → 00:18:02 ตัวออกจากสังคมกระทบหน้าที่การงานก็ขาด
00:18:03 → 00:18:06 ความสัมพันธ์ส่วนบุคคลอเกิดโรคอะไรล่ะ
00:18:06 → 00:18:11 วิตกกังวลซึมเศร้าโอโหเห็นมะมันตามมาหมด
00:18:11 → 00:18:14 คือถ้าแบบเนี้ยถ้าคนมีลักษณะอาการแบบ
00:18:14 → 00:18:18 เนี้ยก็จำเป็นที่จะต้องบอกคนรอบข้างนะคะ
00:18:18 → 00:18:20 หรือคุณหมอที่วินิจฉัยมาแล้วเนี่ยก็
00:18:20 → 00:18:22 จำเป็นที่จะต้องบอกคนในครอบครัวหรือแบบ
00:18:22 → 00:18:24 เพื่อนฝงเพื่องฝูงอะไรอย่างเงี้ยนะไม่
00:18:24 → 00:18:26 งั้นคือคนไม่เข้าใจแล้วก็จะไม่เข้าใจเลย
00:18:26 → 00:18:30 ว่าเฮ้ยทำไมถึงอาจจะไม่ทักทายกันหรือมี
00:18:30 → 00:18:33 ปัญหาหรืออะไรอย่างเงี้ยได้ก็คงจะงงๆกับ
00:18:33 → 00:18:36 ตัวเองเหมือนกันนะเออเออมันก็ยากอยู่นะ
00:18:36 → 00:18:40 โลกเนี้ยใช่ยากยากจริงยากจริงยากจริงอื
00:18:40 → 00:18:43 ครานี้อ่ะครานี้ถ้าการวินิจฉัยการรักษา
00:18:43 → 00:18:48 ใช่มยค่ะถ้าตัวเองเออฟังรายการนี้เอ้ยรู้
00:18:48 → 00:18:52 สึกว่าเอ้ยจะผิดปกติหรือญาติคนใกล้ชิดคิด
00:18:53 → 00:18:57 ว่าจะมีผิดปกติเนี่ยนะลองไปพบคุณหมอดูอื
00:18:57 → 00:19:00 แล้วก็เพื่อเพื่อตรวจและรักษาที่เหมาะสม
00:19:00 → 00:19:04 แต่ว่าคุณหมอเนี่ยจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ
00:19:04 → 00:19:07 ด้านระประสาทวิทยาหน่อยนะอ๋อคือเห็นมัน
00:19:07 → 00:19:10 ยากนะเพราะว่าแบบอยู่ๆให้เดินเข้าไปโรง
00:19:10 → 00:19:11 พยาบาลแล้วบอกว่าจำหน้าคนไม่ค่อยได้ไปหา
00:19:11 → 00:19:15 หมอไหนดีงงกันทั้งโรงพยาบาลใช่ต้องหมอทาง
00:19:15 → 00:19:18 ด้านประสาวิทยาก็คงจะงงเหมือนกันนะคะ
00:19:18 → 00:19:22 เพราะว่าโลกเมันรบกวนเอ่อการใช้ชีวิตทาง
00:19:22 → 00:19:25 สังคมแล้วก็คุณภาพชีวิตใช่มยก็หาคุณหมอ
00:19:25 → 00:19:28 คุณหมอโอ้โหมันจะต้องทำอะไรบั่งล่ะตรวจ
00:19:28 → 00:19:32 ร่างกายซักประวัติก่อนตรวจร่างกายตรวจวัด
00:19:32 → 00:19:37 ระดับสายตาลานสายตาการมองเห็นตรวจ
00:19:37 → 00:19:38 สมรรถภาพ
00:19:38 → 00:19:44 สมองตรวจภาพถ่ายสมอง CT MRI อืคลื่นสมอง
00:19:44 → 00:19:48 เพื่อวิเพื่อวินิจฉัยสาเหตุนะเพื่ออะไร
00:19:48 → 00:19:51 รู้มั้ยเพื่อจะได้ดูว่ามีเนื้องอกมั้ยมี
00:19:51 → 00:19:54 เส้นเลือดสมองอ่าอันนั้นคือสาเหตุที่ถ้า
00:19:54 → 00:19:57 อากำจัดเนื้องอกไปได้อาจจะดีขึ้นบางทีมัน
00:19:57 → 00:20:01 อาจจะเนื้องใช่กดตรงตรงนั้นตรงสมองส่วน
00:20:01 → 00:20:04 นั้นใช่มั้ยเส้นเลือดสมองตีบเส้นเลือด
00:20:04 → 00:20:09 สมองแตกออะไรประมาณนี้นะคะเสร็จแล้วอ่ะ
00:20:09 → 00:20:11 ไม่เจอเนื้องอกไม่เจออะไรก็ทดสอบความ
00:20:11 → 00:20:15 สามารถในการจดจำลักษณะของใบหน้าเช่นให้ดู
00:20:15 → 00:20:19 ภาพคนดังคนดังนี่ใครๆก็ต้องรู้จักค่ะบอก
00:20:19 → 00:20:23 ชื่อบุคคลบอกได้มั้ยอ่ะบอกไม่ได้ใครก็ไม่
00:20:23 → 00:20:26 รู้ค่ะระบุความเหมือนและความต่างของรูป
00:20:26 → 00:20:30 ภาพใบหน้าที่วางไว้ข้างกันหรือทายอายุเพศ
00:20:30 → 00:20:34 หรืออารมณ์คนอื่นโดยดูจากใบหน้าอืพวกนี้
00:20:34 → 00:20:36 ก็จะทำไม่ได้ค่ะฮ่ะมันเพราะฉะนั้นการ
00:20:36 → 00:20:40 รักษาก็คือก็ต้องตามสาเหตุอย่างที่บอกค่ะ
00:20:40 → 00:20:43 ถ้าเกิดจากเอ่อเนื้องอกก็ผ่าตัดถ้าเกิด
00:20:43 → 00:20:48 จากการติดเชื้อในสมองก็ให้ยาแก้อักเสบนะ
00:20:48 → 00:20:51 รักษาเรื่องของการติดเชื้อถ้าไม่เจอ
00:20:51 → 00:20:54 สาเหตุพวกนั้นก็เป็นโรคนี้ละแบบไม่มี
00:20:54 → 00:20:58 สาเหตุก็คือรักษาตามอาการต้องมีการฝึกจด
00:20:58 → 00:21:01 จำใบหน้าโดยนักกิจกรรมบำบัดเดี๋ยวนี้เมี
00:21:01 → 00:21:05 นักกิจกรรมบำบัดออ่าใช่ต้องฝึกแล้วค่ะฝึก
00:21:05 → 00:21:08 ละฝึกฝนวิธีต่างๆที่จะช่วยเสริมความ
00:21:08 → 00:21:12 สามารถในการจดจำใบหน้าคนค่ะอย่างเช่นจดจำ
00:21:12 → 00:21:15 ตำแหน่งที่นั่งของเพื่อนร่วมงานเออนั่ง
00:21:15 → 00:21:18 ตรงนี้ชื่อนี้นะจดจำการแต่งกายหรือว่า
00:21:18 → 00:21:22 เครื่องดับที่เพื่อนหรือคนในครอบครัวชอบ
00:21:22 → 00:21:27 ใส่ค่ะอ่ะฝึกจดจำและจำแนกเสียงของแต่ละคน
00:21:27 → 00:21:30 พัฒนากลยุทจดจำผู้อื่นทางเสื้อผ้าทรงผม
00:21:30 → 00:21:35 การแสดงออกพฤติกรรมน้ำเสียงรูปร่างท่าทาง
00:21:35 → 00:21:39 การเดินซึ่งมันไม่ได้ผลทุกครั้งไงค่ะหาก
00:21:39 → 00:21:42 เป็นการพบเจอโดยบังเอิญเนี่ยหรือต้องพบปะ
00:21:43 → 00:21:47 คนใหม่ๆเนี่ยก็จะไม่สามารถจดจำได้อุยแต่
00:21:47 → 00:21:49 มันนมันเหนื่อยจริงๆนะเนี่ยที่ต้องไม่
00:21:49 → 00:21:51 นั่งจำอ่ะเหนื่อยสิเออก็ต้องฝึกกับนัก
00:21:52 → 00:21:54 กิจกรรมบำบัดแต่ฟังดูแล้วเหมือนเหมือนจะ
00:21:54 → 00:21:56 ได้ทักษะอย่างอื่นมาทดแทนยังไงไม่รู้เลย
00:21:56 → 00:22:00 เนาแบบว่าในเรื่องโอเความจำอาจำหน้ามาก็
00:22:00 → 00:22:03 จริงแต่แบบเอ้ยฟังเสียงปึ๊บรู้เลยว่าใคร
00:22:03 → 00:22:05 อ่าถ้าเป็นเราเราก็อาจจะแบบไม่รู้ว่า
00:22:05 → 00:22:09 เสียงใครก็ก็อาจจะเ้าก็จะมีทักษะอย่าง
00:22:09 → 00:22:12 อื่นมาชดเชยป่ะใช่ๆๆเออประมาณอย่างงั้น
00:22:12 → 00:22:17 ค่ะอืแต่ว่าอย่างที่บอกไงพวกเนี้ยมันจะ
00:22:17 → 00:22:20 ระยะนานๆไปอ่ะไม่สามารถเข้าสังคมได้ใช่มย
00:22:20 → 00:22:23 ก็จะเหงาทำให้เสี่ยงต่อความเครียดภาวะซึม
00:22:23 → 00:22:27 เศร้ารุนแรงซึ่งต้องรักษากับจิตแพทย์แล้ว
00:22:27 → 00:22:32 ก็มีทำจิตบำบัดค่ะฮ่ะอืใช่ไม่ง่ายเลยอ่ะ
00:22:32 → 00:22:36 แล้วอย่างเงี้ยจะคือถ้าได้มีการบำบัดเอ่อ
00:22:36 → 00:22:38 มีการรักษาแล้วหรืออะไรอย่าเงี้ยมัน
00:22:38 → 00:22:41 สามารถที่จะกลับมาเหมือนเดิมได้มั้ยหรือย
00:22:41 → 00:22:44 เออฉันต้องเป็นอย่างงี้ไปตลอดเรียกว่าไม่
00:22:44 → 00:22:47 น่าจะเหมือนเดิมได้ยกเว้นคนที่มีสาเหตุ
00:22:47 → 00:22:49 แล้วกำจัดสาเหตุไได้อย่างที่บเเืงอกอะไร
00:22:50 → 00:22:52 เงี้ยอะไรพวกนั้นที่กำจัดไปได้เลยอะไร
00:22:52 → 00:22:57 ประมาณนี้อืแต่คนที่หาสาเหตุไม่ได้เนี่ย
00:22:57 → 00:23:02 ก็ต้องเข้าโปรแกรมบำบัดไปนะคะแล้วก็คอยดู
00:23:03 → 00:23:07 ญาติก็ต้องคอยดูว่าจะมีกังจะมีซึมเศร้า
00:23:07 → 00:23:11 หรือว่าวิตกกังวลมากมั้ยอะไรแบบนี้ก็ต้อง
00:23:11 → 00:23:16 อาศัยจิตแพทย์ด้วยโอ้หลายๆสาขามารวมกัน
00:23:16 → 00:23:19 คือมันเป็นเรื่องของสมองอ่ะคภาพมันหายไป
00:23:19 → 00:23:23 ใช่เป็นเป็นเรื่องของสมองเฟ Bless มันมัน
00:23:23 → 00:23:25 ก็ยากเหมือนกันนะคะคือมันไม่ได้มีอะไรที่
00:23:25 → 00:23:29 จะมาแบบฉีดเข้าสมองปึ๊บเออเกลับมาเหมือน
00:23:29 → 00:23:32 เดิมไม่ได้อ่ะมันมันต้องอาศัยค่อยๆแบบอ่า
00:23:33 → 00:23:36 จำนะหรืออะไรอย่าเงี้ยใช่เอาภาพมาให้ดู
00:23:36 → 00:23:39 บ่อยๆย้ำๆบ่อยๆแต่อย่าเปลี่ยนทรงผมนะหรือ
00:23:39 → 00:23:41 อย่าเปลี่ยนอะไรนะปึ๊บหรือไม่ได้และไม่
00:23:41 → 00:23:45 ได้เพราะว่าเพราะว่าส่วนคลังคลังรูปใบ
00:23:45 → 00:23:49 หน้าเนี่ยมันมันเสียไปสมองส่วนนั้นน่ะมัน
00:23:49 → 00:23:51 ไม่สามารถจำได้มันเป็นเฟซอย่างเดียวด้วย
00:23:52 → 00:23:56 เออนั่นสิเออแปลกจริงๆโรกนี้แปลกอืมันไม่
00:23:56 → 00:23:59 น่ามีในโลกนี้เลยเอาเอ้าแต่มันมีแล้วกัน
00:23:59 → 00:24:02 มันมีแล้วมันมีเป็น100รกว่าปีเลยมาแล้ว
00:24:02 → 00:24:07 แต่แค่ว่าเ่งน้อยมากกใช่ไม่น่าเชื่อเลย
00:24:07 → 00:24:11 แต่ก็ยังไม่ยังไม่เคยได้ยินหรือว่าเจอเคส
00:24:11 → 00:24:14 หรือหรือหรือเห็นกรณีแบบนี้นะคะคุณพฟัง
00:24:14 → 00:24:18 แต่ว่าเออมันมันอาจจะเป็นที่สนใจแค่นเอง
00:24:18 → 00:24:22 ใช่ๆมันเกิดจากอุบัติเหตุได้ไงอาจจะแต่
00:24:22 → 00:24:25 ว่าบางคนอาจจะฟื้นฟูกลับมาได้แล้วก็จำได้
00:24:25 → 00:24:28 แต่คือตอนช่วงแรกอาจจะแบบลืมตามมาแล้วอาจ
00:24:28 → 00:24:31 จะแบบไม่รู้ใครเป็นใครอาจจะค่ะเออแต่พอ
00:24:31 → 00:24:35 สักพักนึงก็ดีขึ้นได้ใช่อืก็ไม่ถึงขนาด
00:24:35 → 00:24:38 เป็นอันนี้เออได้รู้จักโลกแปลกๆใหม่ๆบน
00:24:38 → 00:24:42 โลกนี้ก็มีนะนะคะอ้าขอบคุณคุณหมอค่ะส
00:24:42 → 00:24:44 สวัสดีค่ะสวดีค่ะหมดเวลาแล้วค่ะคุณผู้ฟัง
00:24:44 → 00:24:47 พบกันใหม่ครั้งหน้ากับรายการโรงหมอทางไทย
00:24:47 → 00:24:49 PBS podcast ค่ะวันนี้ลาไปก่อนสวัสดี
00:24:49 → 00:24:52 ค่ะ This Is Toy PBS podcast กิจกรรม
00:24:52 → 00:24:54 หรือการออกกำลังกายสำหรับหญิงตั้งครภ์ใน 3
00:24:54 → 00:24:57 เดือนแรกมีอะไรบ้างที่ต้องระวังรองศาสรา
00:24:57 → 00:25:01 อารยดรปิยวัฒนเวงาจากสถาบันวิจัยประชากร
00:25:01 → 00:25:04 และสังคมมหาวิทยาลัยมหิดลมาเล่าให้ฟัง
00:25:04 → 00:25:08 ครับจริงๆแล้วการออกกำลังกายหรือการมี
00:25:08 → 00:25:12 กิจกรรมทางกายเคลื่อนไหวร่างกายให้เพียง
00:25:12 → 00:25:15 พอในช่วงที่ตั้งคันเนี่ยเป็นการสนับสนุน
00:25:15 → 00:25:18 หรือส่งเสริมให้ทั้งคุณแม่แล้วก็ตัวลูก
00:25:18 → 00:25:21 เองที่อยู่ในท้องเนี่ยก็มีความแข็งแรง
00:25:21 → 00:25:25 แล้วก็มีประโยชน์มากมายหลายประการเลยครับ
00:25:25 → 00:25:29 คุณแม่ที่ไปฝากคันแรกๆจะได้รับการให้
00:25:29 → 00:25:33 บริการคือการประเมินความเสี่ยงว่าคุณแม่
00:25:33 → 00:25:36 เนี่ยความเหมาะสมกับการออกกำลังกายประเภท
00:25:36 → 00:25:39 ใดได้บ้างการออกกำลังกายประเภทใดควรจะ
00:25:39 → 00:25:42 ห้ามนะหรือแม้กระทั่งคุณแม่บางท่านที่อาจ
00:25:42 → 00:25:45 จะมีน้ำหนักตัวเกินก็จะมีโปรแกรมการออก
00:25:45 → 00:25:48 กำลังกายเพื่อทำให้คุณแม่เนี่ยมีความ
00:25:48 → 00:25:51 พร้อมในตอนที่จะคลอดบุตรมากยิ่งขึ้น 122
00:25:51 → 00:25:54 สัปดาห์แรกของการตั้งครันถ้าคุณแม่เอง
00:25:54 → 00:25:56 เป็นคนที่ออกกำลังกายเคลื่อนไหวร่างกายใน
00:25:56 → 00:25:59 ชีวิตประจำวันอยู่แล้วเนี่ยตรงนี้ก็ไม่
00:25:59 → 00:26:02 ได้มีความผิดปกติอะไรเพียงแต่สิ่งที่คุณ
00:26:02 → 00:26:06 หมอหรือบุคลากรทางการแพทย์จะแนะนำก็คือ
00:26:06 → 00:26:09 ว่าอย่าออกกำลังกายที่เป็นแรงกระแทกเช่น
00:26:09 → 00:26:12 การไปวิ่งเล่นบาสเกตบอลหรือไปทำอะไรที่มี
00:26:12 → 00:26:16 แรงกระแทกมากๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่น
00:26:16 → 00:26:19 กีฬาหรือออกกำลังกายบางประเภทที่มีการ
00:26:19 → 00:26:23 เกร็งบริเวณหน้าท้องแบบเยนะครับก็ไม่ไม่
00:26:23 → 00:26:26 แนะนำแต่ว่าการออกกำลังกายอื่นๆรวมไปถึง
00:26:26 → 00:26:30 การทำงานบ้านการเดินทางปั่นจักรยานอะไรก็
00:26:30 → 00:26:33 ยังทำได้นะครับเพียงแต่ว่าเอ่อระวัง
00:26:33 → 00:26:36 เรื่องของแรงกระแทกเท่านั้นครับในช่วง
00:26:36 → 00:26:39 ไตรมาสแรกหรือ 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์
00:26:39 → 00:26:43 เนี่ยถ้าคุณแม่ออกกำลังกายเพียงพอเนี่ย
00:26:43 → 00:26:46 มันจะเป็นการช่วยเรียกว่าเตรียมความพร้อม
00:26:46 → 00:26:49 ทางด้านร่างกายต่างๆของคุณแม่ให้มีความ
00:26:49 → 00:26:53 พร้อมต่อการที่จะดูแลคนอีกคนหนึ่งขึ้นมา
00:26:53 → 00:26:55 ถ้าคุณแม่ตั้งครรภ์ใหม่ๆช่วงนั้นก็จะแพ้
00:26:55 → 00:26:58 ท้องด้วยแล้วน้ำหนักตัวก็ก็จะเริ่มเพิ่ม
00:26:58 → 00:27:01 ขึ้นค่ะนะครับแล้วถ้าร่างกายของตัวเอง
00:27:01 → 00:27:05 แข็งแรงไม่พอน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นของ
00:27:05 → 00:27:07 คุณแม่ที่บวกกับน้ำหนักตัวของทารกที่
00:27:07 → 00:27:10 เพิ่มขึ้นเนี่ยมันก็จะก่อให้เกิดอาการ
00:27:10 → 00:27:13 หลายๆอย่างที่เอ่อไม่พึงประสงค์โดยเฉพาะ
00:27:13 → 00:27:16 อย่างยิ่งสิ่งที่มันจะเพิ่มขึ้นในตอนนี้
00:27:16 → 00:27:20 คือเรื่องของน้ำหนักตัวและความดันโลหิต
00:27:20 → 00:27:22 อย่างเงี้ยอันนี้ก็จะเป็นความเสี่ยงเพราะ
00:27:22 → 00:27:26 ฉะนั้นการออกกำลังกายในช่วง 3 เดือนแรก
00:27:26 → 00:27:28 ของการตั้งครรภ์เนี่ยเนี่ยเรียกว่าเป็น
00:27:28 → 00:27:31 ประโยชน์ที่สูงที่สุดก็คือช่วยทำให้ร่าง
00:27:31 → 00:27:37 กายของแม่เนี่ยมีความพร้อมสำหรับการดูแล
00:27:37 → 00:27:42 บุต This Is Toy PBS
00:27:42 → 00:27:45 podcast ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:27:45 → 00:27:48 แอปพลิเคชันของ Thai PBS podcast
00:27:48 → 00:27:51 spotify South Cloud Google podcast
00:27:51 → 00:27:53 Apple podcast และ YouTube Channel
00:27:54 → 00:27:58 Thai PBS podcast Thai PBS podcast
00:27:58 → 00:28:00 View the world via The
00:28:00 → 00:28:09 [เพลง]
00:28:09 → 00:28:12 Voice